ขับผ่านสถานที่เดทยอดนิยมก็หลายแห่ง ตามเส้นทางผู้คนเริ่มเบาบาง ไฟประดับคริสต์มาสเริ่มลดน้อย เมื่อรถเริ่มเคลื่อนออกชานเมืองโตเกียว ทุกอย่างก็คล้ายจะหลุดออกจากมนตร์วันคริสต์มาส
สู่สถานที่กาลครั้งหนึ่งในฝันของผม
ผมจูงมือคุณคิโชวอินเดินบนฟุตบาทที่เงียบสงบไร้ผู้คน ช่างแตกต่างกับตลอดทางที่เห็นในโตเกียว ความมืดที่ครอบคลุม มีเพียงแสงจากเสาไฟสาธารณะเป็นระยะ ต้นแปะก๊วยที่เรียงรายทั้งสองข้างทางคล้ายจะเป็นอุโมงค์ต้นไม้โดยธรรมชาติ พื้นเกลื่อนกลาดไปด้วยใบแปะก๊วยสีเหลืองทองประหนึ่งพรม ย่ำเดินทีก็มีเสียงกร็อบแกร็บของใบไม้ตลอดเส้นทาง
บรรยากาศที่ปลีกวิเวกแบบนี้ หากชายหนุ่มหญิงสาวได้มาเดินจับมือด้วยกันคงคิดได้สองอย่าง หนึ่งคือความโรแมนติกแบบโลกนี้มีเพียงสองเรา สองคือเป็นฉากต้นของนิยายฆาตกรรมอำพรางศพสักเรื่อง
ดูจากท่าทีล่อกแล่กของคุณคิโชวอินเห็นจะคิดเป็นแบบที่สอง
นี่เห็นผมเป็นคนยังไงกันเนี่ย เฮ้อ
เพราะคงจะต้องเดินอีกสักระยะหนึ่งก่อนจะถึงที่หมาย ผมจึงประสานมือคุณคิโชวอินไว้และเดินอย่างช้าๆกลัวว่าเท้าที่แพลงจะอักเสบขึ้นมาเสียก่อน
บนโลกนี้หากจะมีอะไรที่ผมจะสามารถเชื่อได้ สิ่งนั้นก็ต้องมีหลักฐาน มีความเป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่อะไรที่จับต้องไม่ได้สักนิดอย่างความฝัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ในฝันนั่นยิ่งละเมอเพ้อพกเสียจริง แต่ถึงอย่างนั้นด้วยภาพความฝันที่ชัดเจนเสียเหลือเกิน ก็อดไม่ได้ที่จะให้คนช่วยสืบหา
ใครจะไปคาดคิด ว่าจะมีอยู่จริง
โบสถ์คริสต์สีขาวเด่นคุ้นตาตั้งตระหง่านที่ปลายอุโมงค์ต้นไม้ เสียงระฆังลั่นดังเหง่งหง่างบอกเวลาที่บรรจบไปอีกชั่วยาม เสียงเดียวกับที่ได้ยินในความฝัน คล้ายจะได้ยินเสียงออร์แกนบรรเลง "Here Comes The Bride" ที่มาซายะเล่นดังแว่วในโสตประสาท
ยิ่งเดินเข้าใกล้ตัวโบสถ์ ภาพความฝันนั่นก็ยิ่งทับซ้อนชัดเจนในความคิดราวกับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ชุดซานต้าริน่าพลันกลายเป็นชุดแต่งงานสีขาวลายลูกไม้ชั่วพริบตาหนึ่ง น่าเสียดายที่ประตูโบสถ์ปิดแล้วไม่อย่างนั้นถ้าได้เข้าไปผมอาจแยกความจริงหรือความฝันไม่ออกไปแล้วก็ได้
คุณคิโชวอินจ้องมองโบสถ์ด้วยความพิศวงไม่วางตาไม่แตกต่าง จนเมื่อพวกเราเดินขึ้นมาจนถึงบันไดหินขั้นแรกของโบสถ์ ระฆังก็เงียบเสียงลง ออร์แกนที่บรรเลงแว่วในหัวก็แผ่วหาย ทุกอย่างกลายเป็นความเงียบงันอีกครั้ง ผมบีบมือคุณคิโชวอินเบาๆ สูดลมหายใจลึก นึกถึงคำพูดที่ได้เตรียมการไว้ พยายามขับไล่ผีเสื้อในมวลท้องให้ออกไปเสียที
"คุณคิโชวอิน" ผมหันหน้าสบสายตากลมโตคู่นั้น ทั้งที่ตลอดมาเป็นผู้ชนะในเกมแข่งจ้องตามาตลอด แต่คราวนี้กลับรู้สึกใบหน้าเริ่มจะเห่อร้อนขึ้นมาแล้ว รู้สึกคอชักจะแห้งผากขึ้นทุกที
"ผมอยากจะพูดอะไรกับคนคนหนึ่งน่ะครับ แต่ว่าบางคำมันก็ค่อนข้างจะติดขัด ถ้าพูดตะกุกตะกักคงไม่ดี ก็เลยอยากลองดูก่อน"
"คุณคิโชวอินช่วยรับฟังหน่อยได้รึเปล่าครับ"
---------------------
ไม่ได้แต่งฟิคนาน แปลกๆขออภัย
กูมาต่อเพื่อทวงตอนต่อค่ะโม่งฟิค อยากอ่านตอนต่ออออออ 5555