Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับงานชมดอกไม้ไฟในฝัน [ขอตอนต่อไปรอบที่ 25]

Last posted

Total of 1000 posts

249 Nameless Fanboi Posted ID:S.TI.PCMX

มาต่อ >>>/webnovel/4296/5-9
กาลครั้งหนึ่งในฝัน เอ็นโจ's side story 5
*************

ท้ายที่สุดหนังในค่ำคืนวันคริสต์มาสอีฟที่คิดว่าเป็นหนังรักคอมเมดี้ก็กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรม

ถ้าเพียงเรย์นะฉุกคิดให้เร็วกว่านี้หรือเปิดใจยอมรับชูจิเสียบ้างแต่แรก เรื่องก็คงไม่ลงเอยแบบนี้หรอก

แต่ก็นั่นแหละ ชูจิน่ะมัวแต่ทีเล่นทีจริงจนน่าขัดใจ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายใส่ ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าเรย์นะน่ะใจแข็งซื่อบื้อขี้หวาดระแวงแค่ไหน ซ้ำยังมีตัวร้ายที่คอยยุยงปั่นหัวอีก มาสารภาพรักก็ตอนที่สายไปแล้วทั้งหมด... เพราะปากหนักมาตลอดแท้ๆ

.....ถ้าพูดว่าสมน้ำหน้าจะเข้าตัวมั้ยนะ?

ไม่หรอกน่ะ ...ผมไม่รอให้สายไปแบบนั้นหรอกน่ะ
.
.
.

เวลาจวนเจียนจะค่ำ ร้านรวงที่ข้างทางประดับประดาไฟคริสต์มาสเริ่มเปิดไฟระยิบระยับสีสดใส คึกคักไปด้วยเหล่าคู่รักที่เดินควงคู่กันขวักไขว่ แม้จะไม่มีหิมะเสริมบรรยากาศ แต่ก็ยังคงให้ความรู้สึกที่โรแมนติกประหนึ่งต้องมนต์ความฝัน

ภายในรถเงียบสนิท นอกไปจากเสียงเครื่องยนต์ดังเบาๆแล้วก็ไร้ซึ่งเสียงใดอีก

ผมเหลือบมองคุณคิโชวอินที่นั่งอยู่ข้างๆ เหม่อมองข้างทางที่ค่อยเคลื่อนผ่านไป ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ แต่สีหน้าที่สะท้อนจากกระจกรถนั้นเห็นจะปรับเปลี่ยนอารมณ์ไปเรื่อย บ้างก็ยิ้มให้กับต้นคริสต์มาสยักษ์ที่ประดับไฟสวยงาม บ้างก็เหมือนจะอิจฉาคู่รักบางคู่ข้างนอกนั่น บ้างก็เหมือนจะนึกสงสัยหรือคิดอะไรสักอย่าง

เหมือนกับตอนเช้าเลยแฮะ ทั้งที่ร้องไห้เพราะหนังเศร้า แต่พอได้เห็นแพนเค้กก็ยิ้มแป้นทันที

ช่างเป็นคนที่เปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็วจริงๆ มองได้ไม่มีเบื่อเชียวล่ะ

ผมบีบมือของคุณคิโชวอินที่กุมไว้เบาๆ ไม่รู้ว่าเพราะมัวแต่คิดอะไรอยู่หรือว่าคุณคิโชวอินเหนื่อยที่จะมาดุว่าเนียนจับมืออีกแล้วกันแน่สิน่ะ แต่จะอย่างไหนก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดปล่อยมืออยู่ดีนั่นแหละ

วันนี้สนุกมากจริงๆ ไม่ว่าจะดูหนัง ดูท้องฟ้าจำลอง นั่งชิงช้าสวรรค์ หรือกินนู่นกินนี่ด้วยกัน อย่างกับเอาโชคทั้งชีวิตของตัวเองมาใช้ในวันเดียวอย่างนั้นแหละ ทว่าทั้งหมดนั้นไม่ใช่แผนการหลักของวันนี้หรอก

ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ คอยกระตุ้นตัวเองถึงแผนการหลักที่วางไว้ ทุกอย่างดูจะไร้ปัญหาใดๆ จะมีก็แค่สภาพจิตใจของตัวเองนั่นแหละที่ประหม่าเสียเหลือเกิน

ไม่เอาน่า ชูสุเกะ นี่หน้าด้านจูบหน้าผากเขาก็แล้ว ลากเขามาเดทวันคริสต์มาสด้วยก็แล้ว เนียนเรียกชื่อเขาจับมือเขาก็แล้ว กะแค่นี้จะมาประหม่าอะไรกันเล่า!

ทั้งที่พร่ำบอกตัวเองแบบนั้นแต่ความประหม่าก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย โดยเฉพาะยิ่งตอนที่เห็นป้ายบอกทางที่บ่งบอกว่าเข้าใกล้สถานที่เข้าไปเรื่อยๆทุกที

โชคดีที่ไม่ได้นั่งประจันหน้ากันอยู่ แถมในรถก็เริ่มมืด ไม่งั้นไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองจะทำสีหน้าแบบไหนอยู่น่ะสิ

มือของคุณคิโชวอินจู่ๆก็คล้ายจะกระตุกเบาๆ เหมือนสะดุ้งอะไรบางอย่าง แต่พอไถ่ถามก็ทำท่าทางบ่ายเบี่ยงไม่อยากจะตอบเสียเท่าไหร่ จนรถเริ่มเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางที่ได้ตั้งไว้ คุณคิโชวอินก็ทำสีหน้าฉงน

"มีที่หนึ่งที่อยากพาไปน่ะ" ผมตอบ

คุณคิโชวอินทำหน้าตางุนงงยิ่งกว่าเดิม แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรมากไปกว่านี้ ด้วยความประหม่าที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

****

250 Nameless Fanboi Posted ID:S.TI.PCMX

ขับผ่านสถานที่เดทยอดนิยมก็หลายแห่ง ตามเส้นทางผู้คนเริ่มเบาบาง ไฟประดับคริสต์มาสเริ่มลดน้อย เมื่อรถเริ่มเคลื่อนออกชานเมืองโตเกียว ทุกอย่างก็คล้ายจะหลุดออกจากมนตร์วันคริสต์มาส

สู่สถานที่กาลครั้งหนึ่งในฝันของผม

ผมจูงมือคุณคิโชวอินเดินบนฟุตบาทที่เงียบสงบไร้ผู้คน ช่างแตกต่างกับตลอดทางที่เห็นในโตเกียว ความมืดที่ครอบคลุม มีเพียงแสงจากเสาไฟสาธารณะเป็นระยะ ต้นแปะก๊วยที่เรียงรายทั้งสองข้างทางคล้ายจะเป็นอุโมงค์ต้นไม้โดยธรรมชาติ พื้นเกลื่อนกลาดไปด้วยใบแปะก๊วยสีเหลืองทองประหนึ่งพรม ย่ำเดินทีก็มีเสียงกร็อบแกร็บของใบไม้ตลอดเส้นทาง

บรรยากาศที่ปลีกวิเวกแบบนี้ หากชายหนุ่มหญิงสาวได้มาเดินจับมือด้วยกันคงคิดได้สองอย่าง หนึ่งคือความโรแมนติกแบบโลกนี้มีเพียงสองเรา สองคือเป็นฉากต้นของนิยายฆาตกรรมอำพรางศพสักเรื่อง

ดูจากท่าทีล่อกแล่กของคุณคิโชวอินเห็นจะคิดเป็นแบบที่สอง

นี่เห็นผมเป็นคนยังไงกันเนี่ย เฮ้อ

เพราะคงจะต้องเดินอีกสักระยะหนึ่งก่อนจะถึงที่หมาย ผมจึงประสานมือคุณคิโชวอินไว้และเดินอย่างช้าๆกลัวว่าเท้าที่แพลงจะอักเสบขึ้นมาเสียก่อน

บนโลกนี้หากจะมีอะไรที่ผมจะสามารถเชื่อได้ สิ่งนั้นก็ต้องมีหลักฐาน มีความเป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่อะไรที่จับต้องไม่ได้สักนิดอย่างความฝัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ในฝันนั่นยิ่งละเมอเพ้อพกเสียจริง แต่ถึงอย่างนั้นด้วยภาพความฝันที่ชัดเจนเสียเหลือเกิน ก็อดไม่ได้ที่จะให้คนช่วยสืบหา

ใครจะไปคาดคิด ว่าจะมีอยู่จริง

โบสถ์คริสต์สีขาวเด่นคุ้นตาตั้งตระหง่านที่ปลายอุโมงค์ต้นไม้ เสียงระฆังลั่นดังเหง่งหง่างบอกเวลาที่บรรจบไปอีกชั่วยาม เสียงเดียวกับที่ได้ยินในความฝัน คล้ายจะได้ยินเสียงออร์แกนบรรเลง "Here Comes The Bride" ที่มาซายะเล่นดังแว่วในโสตประสาท

ยิ่งเดินเข้าใกล้ตัวโบสถ์ ภาพความฝันนั่นก็ยิ่งทับซ้อนชัดเจนในความคิดราวกับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ชุดซานต้าริน่าพลันกลายเป็นชุดแต่งงานสีขาวลายลูกไม้ชั่วพริบตาหนึ่ง น่าเสียดายที่ประตูโบสถ์ปิดแล้วไม่อย่างนั้นถ้าได้เข้าไปผมอาจแยกความจริงหรือความฝันไม่ออกไปแล้วก็ได้

คุณคิโชวอินจ้องมองโบสถ์ด้วยความพิศวงไม่วางตาไม่แตกต่าง จนเมื่อพวกเราเดินขึ้นมาจนถึงบันไดหินขั้นแรกของโบสถ์ ระฆังก็เงียบเสียงลง ออร์แกนที่บรรเลงแว่วในหัวก็แผ่วหาย ทุกอย่างกลายเป็นความเงียบงันอีกครั้ง ผมบีบมือคุณคิโชวอินเบาๆ สูดลมหายใจลึก นึกถึงคำพูดที่ได้เตรียมการไว้ พยายามขับไล่ผีเสื้อในมวลท้องให้ออกไปเสียที

"คุณคิโชวอิน" ผมหันหน้าสบสายตากลมโตคู่นั้น ทั้งที่ตลอดมาเป็นผู้ชนะในเกมแข่งจ้องตามาตลอด แต่คราวนี้กลับรู้สึกใบหน้าเริ่มจะเห่อร้อนขึ้นมาแล้ว รู้สึกคอชักจะแห้งผากขึ้นทุกที

"ผมอยากจะพูดอะไรกับคนคนหนึ่งน่ะครับ แต่ว่าบางคำมันก็ค่อนข้างจะติดขัด ถ้าพูดตะกุกตะกักคงไม่ดี ก็เลยอยากลองดูก่อน"

"คุณคิโชวอินช่วยรับฟังหน่อยได้รึเปล่าครับ"

---------------------
ไม่ได้แต่งฟิคนาน แปลกๆขออภัย
กูมาต่อเพื่อทวงตอนต่อค่ะโม่งฟิค อยากอ่านตอนต่ออออออ 5555

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.