ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ผลงานของอาจารย์เซ็นโนะ เพราะปกติแล้วงานของอาจารย์มักจะนุ่มนวลชวนฝัน เต็มไปด้วยความโรแมนติค สำนวนภาษาก็เหมือนบทกวี ไม่ใช่ความดิบเถื่อน ใช้โซ่แส้กุญแจมือแบบนี้
“พอได้อ่านแล้วก็เลยเข้าหน้าไม่ติดสินะคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ” คาบุรากิพิงพนักเก้าอี้ ดูท่าทางหมดแรง “ทีแรกฉันก็ว่าจะโวยวายที่ใครก็ไม่รู้เอาชื่อของฉันกับชูสุเกะมาเขียนแบบนี้ แต่พอนึกได้ว่าทาคามิจิชอบ ฉันก็พูดไม่ออก”
“อืม…”
ประตูห้องประชุมเล็กเปิดออกพร้อมการปรากฎกายของเอ็นโจ โอ้ มาได้จังหวะดีมาก มาช่วยฉันปลอบเพื่อนนายหน่อยสิ
“ทำอะไรอยู่น่ะ”
“คุยเรื่องทาคามิจิ”
“เรื่องนั้นน่ะเหรอ” เอ็นโจถาม คาบุรากิก็พยักหน้าตอบแบบเนือยๆ “คุณคิโชวอินพอจะมีคำแนะนำอะไรดีๆบ้างมั้ย”
ถ้าเอ็นโจรู้เรื่องแล้ว คงไม่จำเป็นต้องเกริ่นนำเท้าความอะไรให้เยิ่นเย้อหรอกมั้ง...เอ้า อธิบายไปเลยก็แล้วกัน
“ถ้าเป็นเรื่องนิยาย Boy’s Love ล่ะก็...ไม่จำเป็นต้องไปซีเรียสหรอกค่ะ” ฉันให้คำแนะนำไปอย่างเอื้ออารี “ความจริงแล้วมันก็เป็นจินตนาการของผู้หญิงเท่านั้นเอง ถ้าจินตนาการนั้นไม่ทำให้ท่านคาบุรากิเดือดร้อนในชีวิตจริงหรือมีคนมาก้าวก่ายคุกคามความเป็นส่วนตัว ก็หลับตาลงซักข้างปล่อยผ่านไปเถอะค่ะ”
“แต่...ทาคามิจิจะไม่เข้าใจฉันผิดเอาเหรอ”
“ฉันคิดว่าคุณทาคามิจิแยกแยะออกนะคะ”
“ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมผู้หญิงถึงได้ชอบอะไรแบบนี้กันนะ” เอ็นโจยิ้มฝืดๆ “มันดีตรงไหนกันเหรอ”
“มันก็….”
ว่าแล้วฉันก็เลคเชอร์เรื่องชายหนุ่มที่มีโมเมนต์ร่วมกันทำให้สาวน้อยรู้สึกตื่นเต้นในหัวใจจนจินตนาการเตลิดเปิดเปิงไปว่าทั้งคู่จะมีความสัมพันธ์แบบไหนกันนะ พอได้คิดแล้วก็จะมีความสุข หัวใจพองโตไปกับความรักของหนุ่มๆเหล่านั้น
คาบุรากิกับเอ็นโจกระพริบตาปริบๆเหมือนกำลังพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่ฉันพูด แล้วก็ลอบมองกันเป็นระยะๆ
“พอจะเข้าใจมากขึ้นมั้ยคะ”
“ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี” คาบุรากิส่ายหน้า “การที่ฉันใช้ผ้าขนหนูแบบเดียวกับชูสุเกะหรือฉันเผชิญหน้ากับมิซึซากิจะเป็นโมเมนต์ให้จินตนาการได้ยังไงกัน”
“ก็นั่นผู้หญิงเขามองว่าเป็นสิ่งที่น่ารักยังไงล่ะคะ แล้วมันก็มีช่องว่างให้คิดต่อยอดได้ด้วยสิ ถ้าเคมีของทั้งสองฝ่ายเข้ากันดี เขาก็เรียกว่าเป็นคู่จิ้นกันน่ะค่ะ”
“อย่างนั้นหรอกเหรอ” เอ็นโจพยักหน้า
“และเดี๋ยวนี้ดารากับไอดอลก็ขายความเป็นคู่จิ้นกันมากขึ้นเรื่อยๆเพื่อเรียกแฟนคลับให้มาติดตาม ทางค่ายก็ส่งเสริมเรื่องนี้ด้วย เขาเรียกว่าแฟนเซอร์วิสยังไงล่ะคะ หยอดโมเมนต์เล็กๆน้อยๆเพื่อแฟนคลับเป็นการซื้อใจอีกฝ่าย”
“แต่ฉันไม่ได้อยากให้ใครมาติดตามทั้งนั้นนะ” คาบุรากิประท้วง
“แหม ก็คุณทาคามิจิชอบนี่คะ ก็ยอมๆเสียสละตัวเองนิดหน่อยเพื่อเอาใจคนที่ชอบสิคะ ไม่สึกหรอหรอก”
“ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ” เอ็นโจทำท่าลำบากใจ
“ก็ไม่ได้จะให้ไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไรหรอกนะคะ และถ้าเป็นการแสดงมันจะดูฝืนๆไม่เป็นธรรมชาติพาลให้คิดว่าเฟคเอาได้ พวกท่านคาบุรากิก็ทำตัวไปตามปกติอย่างที่เป็นแบบทุกวันนี้ก็พอแล้วล่ะค่ะ ที่เหลือก็ปล่อยให้เขาไปคิดต่อเองดีกว่า อาจจะได้เรื่องคุยกับคุณทาคามิจิเพิ่มขึ้นก็ได้นะคะ”
“เข้าใจแล้ว” คาบุรากิพยักหน้าดูเหมือนจำยอม
“คุณคิโชวอินรู้เรื่องนี้ละเอียดดีจัง...ชอบอะไรแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ” เอ็นโจถามยิ้มๆ
“เป็นการศึกษาผู้คนในหลายๆรูปแบบเพื่อจะได้เข้าใจความเป็นไปของโลกอย่างถ่องแท้ค่ะ” ฉันตอบเร็วปรื๋อด้วยคำตอบที่ซ้อมมาไว้ล่วงหน้าแล้วถ้าเผื่อถูกถาม จากนั้นก็แกล้งทำเป็นมองนาฬิกา “ได้เวลาต้องไปที่ชมรมแล้ว ต้องขอตัวก่อนนะคะ”
เอ็นโจกับคาบุรากิคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องประชุมเล็กมาพร้อมกับฉัน พอถึงทางแยกที่จะเดินไปลานจอดรถกับไปที่ชมรม เราสามคนก็แยกย้าย สองคนนั้นไปอีกทาง ฉันก็ไปอีกทาง