Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับงานชมดอกไม้ไฟในฝัน [ขอตอนต่อไปรอบที่ 25]

Last posted

Total of 1000 posts

15 Nameless Fanboi Posted ID:oHTihVYOe

ฟิคเวียนในตำนาน
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/4296/225-227
----------------

เสียงนกร้องที่ดังแว่วๆมาจากหน้าต่างปลุกให้ฉันตื่นขึ้นมาจากโซฟาที่นอนอยู่ เจ้าพวกนกพิราบมาวนเวียนแถวๆนี้อีกแล้วเหรอ ต้องให้คุณเมดมาไล่ไปซะแล้ว

พอลุกขึ้นมานั่งก็รู้สึกเมื่อยหลังไปหมด สงสัยจะไม่ชินที่ต้องนอนโซฟาแบบนี้

ฉันไม่ได้รอโทรศัพท์ซักหน่อยนะ แค่มานั่งดูทีวีตรงนี้แล้วง่วงก็เลยเผลอหลับไปก่อนเท่านั้นเอง ไม่ได้รอจริงๆนะคะ

มองเห็นโทรศัพท์มือถืออยู่ใกล้ๆหมอนที่ใช้หนุนนอนเมื่อคืน ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองเปิดเช็คดูเวลาหน่อยก็ดี

หน้าจอว่างเปล่าไม่มีทั้งข้อความเข้าหรือโทรศัพท์มาจากใครทั้งนั้น

เอ๋!! อะไรกัน ตัวเองเป็นคนบอกจะโทรมาแท้ๆไม่ใช่เหรอ ชิ!! เพราะนายคนเดียวเลย ฉันถึงต้องมานอนหลังขดหลังแข็งบนโซฟาแคบๆจนปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมดแบบนี้ แล้วที่ไม่โทรมานี่ไม่ใช่ว่าแอบคุยกับใครที่ไหนจนลืมฉันไปใช่มะ หนอย เจ้าคนจากหมู่บ้านคาสโนว่านี่ คงมีสาวๆในลิสต์ให้โทรหาเพียบจนมาไม่ถึงฉันแหงๆ

เชอะ!! จะไปโทรหาใครก็โทรไปเถอะย่ะ

ตอนที่เดินผ่านเตียง พอเห็นตุ๊กตาเจ้าชายกระต่ายที่อยู่บนนั้นก็นึกหงุดหงิดขึ้นมาเลยจับเขย่าๆ หูที่ตั้งขึ้นของตุ๊กตาตกลู่ลงจนดูน่าสงสาร อันที่จริงตุ๊กตาก็ไม่ได้มีความผิดซักหน่อยนี่นา คนที่ผิดน่ะคือเอ็นโจต่างหาก

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพอดี ฉันเชิดหน้าใส่ ตั้งใจว่าจะเมินๆไปไม่ยอมรับโทรศัพท์ โทรมาป่านนี้มันสายไปแล้วย่ะ จงสำนึกผิดไปซะ

แต่พอเห็นชื่อที่ปรากฎก็ต้องแปลกใจ

“ยูกิโนะคุง”

เสียงเรียกเข้าดับไปแล้ว ฉันเลยโทรกลับไปทันที อะไรที่คิดว่าจะทำเมื่อครู่นี้ถูกเตะกระเด็นไปหมดตอนที่เห็นชื่อของยูกิโนะคุงโผล่มา

“ขอโทษนะจ๊ะที่รับช้า”

“ไม่เป็นไรครับ” ยูกิโนะคุงตอบกลับมา

“แล้วโทรมามีอะไรรึเปล่าจ๊ะ”

“เอ่อ คือว่า ท่านพี่น่ะครับ”

ฉันชะงักไปนิดหน่อยที่มีชื่อของเอ็นโจเข้ามาข้องเกี่ยว “มีอะไรงั้นเหรอจ๊ะ”

“ตอนนี้ท่านพี่อยู่โรงพยาบาลครับ”

“เอ๋!!”

ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจ เอ็นโจเข้าโรงพยาบาลอย่างนั้นเหรอ อะไรกัน!!

“เมื่อคืน พอกลับมาที่บ้านตอนดึกๆ อยู่ดีๆท่านพี่ก็วูบไปเลยล่ะครับ ทำเอาทุกคนตกอกตกใจกันใหญ่” อื้อ ฉันก็ตกใจเหมือนกันนั่นล่ะ

สอบถามเรื่องสถานที่และอาการอีกเล็กน้อยและกับยูกิโนะคุงได้ ฉันก็รีบโดดผึงไปที่ตู้เสื้อผ้า คว้าชุดออกมาอย่างเร่งร้อน หยิบๆมาเลือกอยู่สี่ห้าชุดก็รีบไปอาบน้ำ เตรียมตัวไปที่โรงพยาบาล

16 Nameless Fanboi Posted ID:oHTihVYOe

.
.
.
โธ่เอ้ย รถจะติดไปถึงไหนกันยะ คนยิ่งรีบๆอยู่

ฉันเคาะนิ้วลงกับพวงมาลัย รู้สึกไม่สบอารมณ์สุดๆ ลองเปิดวิทยุฟังรายงานข่าวดูก็รู้สึกจะมีอุบัติเหตุบนถนนเส้นนี้ ขอให้หลีกเลี่ยงเพราะการจราจรติดขัดอย่างมาก

ปัดโธ่เอ้ย ทำไมต้องมาเป็นวันนี้ด้วยนะ

ฉันเปิด GPS หาเส้นทางลัดไปโรงพยาบาล หักรถเลี้ยวไปตามทางที่หน้าจอบอก ไม่ช้าก็มาถึงถนนเส้นหลักที่ไปถึงที่หมาย ผ่านรถติดมาได้อย่างฉิวเฉียด

ระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาล ผ่านร้านขายผลิตภัณฑ์และอาหารออร์แกนิคส์พอดี ฉันเลยจอดรถ เดินลงไปเลือกของเยี่ยมให้คนป่วย เมื่อเช้าออกมารีบๆก็เลยไม่ได้เตรียมอะไรให้เลย

ถ้าไม่เอาไปล่ะก็ มาดามเอ็นโจจะไม่มองว่าฉันแล้งน้ำใจแย่เรอะ ยูกิโนะคุงก็คงผิดหวังในตัวฉันแหงๆ ไหนจะคาบุรากิที่มาเยี่ยมเพื่อนแล้วก็มีวาคาบะจังมาอีก กลายเป็นข่าวซุบซิบในวงสังคม ฉันผู้เป็นคนที่แคร์สายตาคนรอบข้าง ทนให้คนอื่นคิดแบบนั้นไม่ไหวหรอก

ฉันหยิบนมที่ทำจากเมล็ดอัลมอนด์ขึ้นมาสองสามขวดใส่ลงในตะกร้า นมอัลมอนด์มีคุณค่าทางสารอาหารสูง เหมาะที่จะใช้เป็นของเยี่ยมคนป่วยที่ต้องการสารอาหารไปบำรุงร่างกายเยอะๆ

น้ำผักและผลไม้ที่เคยเอาไปเยี่ยมยูกิโนะคุงก็มาจากร้านนี้เหมือนกัน รสชาติวางใจได้ เอ็นโจได้ทานน้ำผลไม้วันนั้นก็ออกปากชมว่าอร่อยด้วย เพราะงั้นฉันก็เลยหยิบมาใส่ตะกร้าอีกเหมือนกัน

...ไม่ได้ซื้อเพราะเอ็นโจชอบกินหรอกนะ แต่น้ำผลไม้ก็เป็นของกลางๆที่เหมาะจะเยี่ยมคนป่วยเหมือนกันนี่นา

ผ่านมุมกระจุกกระจิกอย่างพวกแยมและน้ำผึ้งในขวดแก้วเล็กๆมัดริบบิ้นลายทาง มีขนมปังโฮลวีทเอาไว้ทานคู่กัน ฉันก็ซื้อมาด้วยเหมือนกัน ถ้าเอ็นโจไม่ทาน แต่แพ็คเกจน่ารักแบบนี้เอาให้ยูกิโนะคุงหรือมาดามเอ็นโจก็ได้

รู้ตัวอีกทีตะกร้าก็หนักขึ้นจนถือเกือบไม่ไหวแล้ว คิดว่าสมควรจะพอเท่านี้ ก็เลยหิ้วไปจ่ายเงินพร้อมกับบอกให้จัดใส่กระเช้าให้ด้วย รออยู่อีกสิบห้านาที กระเช้าเยี่ยมคนป่วยก็เสร็จสรรพ

ฉันหิ้วตะกร้าออกนอกร้าน เดินตัวเอียงแบบนี้เสียบุคลิกชะมัด ใครผ่านมาเห็นนี่น่าเกลียดแย่

โชคดีที่จอดรถไว้ไม่ไกลจากประตูร้านมากนัก แต่ก็ทำเอาปวดแขนไม่น้อย สงสัยกลับไปต้องแปะกอเอี๊ยะหน่อยแล้ว

ใกล้ๆถึงโรงพยาบาล ฉันโทรหายูกิโนะคุง ฝั่งนั้นก็บอกว่าเดี๋ยวจะลงมารับ พอขับเข้าไปในโรงพยาบาลก็เห็นยูกิโนะคุงยืนรออยู่ที่บันไดขั้นล่างสุด โบกมือให้ฉันที่ก้าวลงจากรถ

“ทางนี้ครับ คุณพี่เรย์กะ”

“ยูกิโนะคุง” ฉันเดินเข้าไปหายูกิโนะคุง หอบหิ้วตะกร้าอย่างระมัดระวังเพราะในนี้มีแต่ขวดแก้วที่เป็นของแตกง่ายทั้งนั้น “ท่านเอ็นโจเป็นยังไงบ้างจ๊ะ”

“ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ หมอบอกว่าแค่ความดันต่ำเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ แล้วก็มีอาการเหนื่อยล้าสะสม ให้นอนพักซักหน่อยก็หายแล้วล่ะ”

“พักผ่อนไม่เพียงพอ”

“เห็นเลขาจากทางเยอรมันรายงานมาว่าท่านพี่โหมทำงานจนได้นอนแค่วันละสามสี่ชั่วโมงเองครับ ท่านแม่ล่ะเป็นห่วงจะแย่”

อุก...งั้นที่บอกว่าทำงานหนักเพื่อกลับมาเจอฉันให้ทันคริสต์มาสนี่ก็เรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ… ความรู้สึกผิดเข้าเกาะกุมในใจฉันจนรู้สึกเหมือนมีหินถ่วงให้หนักอึ้ง

“อ๊ะ จริงสิ ผมช่วยถือนะครับ คุณพี่เรย์กะ”

พอรับตะกร้าไปจากฉัน ยูกิโนะคุงก็ร้องออกมา “หวา หนักจัง”

“ขอโทษนะจ๊ะ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวพี่ถือเองก็ได้นะ”

“สบายมากครับ” ยูกิโนะคุงยิ้มแฉ่ง เดินนำหน้าฉันไปที่ลิฟท์

โรงพยาบาลนี้ดูเหมือนจะเป็นโรงพยาบาลประจำของตระกูลเอ็นโจ เพราะคราวที่มาเยี่ยมยูกิโนะคุงครั้งที่แล้วก็เป็นที่นี่อีกเหมือนกัน

17 Nameless Fanboi Posted ID:oHTihVYOe

ยูกิโนะคุงเคาะประตูเล็กน้อยก่อนจะผลักเข้าไป วางของเยี่ยมลงบนโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ ในห้องว่างเปล่า ไม่มีร่างของคนที่สมควรนอนพักอยู่อย่างที่ควรเป็น

“เดี๋ยวผมขอตัวไปโทรหาท่านแม่ก่อนนะครับ คุณพี่เรย์กะก็นั่งพักตามสบาย เดี๋ยวท่านพี่ก็คงกลับมา”

ฉันนั่งลงที่โซฟา มองไปรอบๆห้องอย่างนึกสงสัย เอ็นโจหายไปไหนกันนะ

เหมือนจะตอบคำถามฉัน เพราะประตูห้องน้ำเปิดออก เอ็นโจเดินเช็ดผมด้วยมือเดียวออกมาจากห้องน้ำ อีกมือลากเสาน้ำเกลือมาด้วย เสื้อคนป่วยก็ไม่ผูกเชือกให้เรียบร้อย ผมเปียกๆแนบกับแก้มออกจะเป็นภาพที่ดูดี ทำให้ฉันใจเต้นขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด

คิดๆแล้วก็น่าแค้นนัก ฉันผู้เป็นสาวน้อยไม่เคยผ่านประสบการณ์ผู้ชายกึ่งเปลือยมาเดินต่อหน้ามาก่อน ทำให้ค่อนข้างจะทำตัวไม่ถูก ส่วนเอ็นโจพอเห็นฉันก็ชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะส่งยิ้มกว้างมาให้

ไปแต่งตัวให้มันเรียบร้อยก่อนสิยะ!!

“เรย์กะ”

นอกจากหมอนี่จะไม่ฟังความคิดในใจฉัน ยังจะเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆอีก แง้!! กลับตอนนี้เลยได้มั้ยนะ

“พอดีเมื่อคืนมันวุ่นๆนิดหน่อย ก็เลยไม่ได้โทรหาตามที่สัญญา” เอ็นโจทำหน้าหงอยๆ “ขอโทษนะครับ...ยกโทษให้ผมได้มั้ย”

“จะโกรธทำไมคะ ก็มันเหตุสุดวิสัยนี่นา”

ตอนที่เห็นสาบเสื้อที่แหวกออก ก็นึกถึงรายการวาไรตี้ที่เคยดู รายการนั้นมีผลโพลถามเกี่ยวกับส่วนไหนของร่างกายเพศตรงข้ามที่คุณคิดว่าเซ็กซี่ ฉันจำได้ว่าคำตอบมีต้นคอและกระดูกไหปลาร้าติดอันดับอยู่ด้วย

เอ๊ะ!! ว่าแต่ฉันจะนึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาทำไมเนี่ย

ฉันพยายามจะไม่มองอะไรที่มันอยู่ตรงหน้า แต่กลิ่นสบู่และแชมพูหลังอาบน้ำก็เป็นอะไรที่ปั่นป่วนสมาธิอยู่พอสมควร รู้สึกว่ารายการนั้นจะมีผลโพลถามว่าชอบอิริยาบทไหนของแฟนมากที่สุด รู้สึกจะมีหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆติดโผกับเขาด้วยเหมือนกัน

แล้วฉันจะนึกถึงอีกทำไมเล่า!!! หยุดเดี๋ยวนี้เลยเรย์กะ ห้ามคิดอะไรทั้งนั้นนะ!!!!

“ไปแต่งตัวให้มันเรียบร้อยก่อนสิคะ ไม่เช็ดผมให้แห้งเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”

“นั่นสินะ” เอ็นโจพยักหน้ายิ้มๆ นั่งลงบนเก้าอี้แล้วยื่นไดร์เป่าผมมาให้ฉัน “เรย์กะช่วยผมหน่อยได้มั้ย มีสายน้ำเกลือเสียบแขนแบบนี้หยิบจับอะไรไม่ค่อยสะดวกเลย”

อีกมือหนึ่งก็ใช้ได้ไม่ใช่รึไงยะ กะอีแค่มือถูกเสียบสายน้ำเกลือ ไม่ได้แขนหักซักหน่อย

สุดท้ายเพราะสงสารคนป่วย แถมยังรู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุให้เอ็นโจต้องเข้าโรงพยาบาล ฉันก็เลยต้องยอมๆแต่โดยดี เอ็นโจนั่งหลับตาพริ้มอยู่บนเก้าอี้ ให้ฉันจับหวีผมเป่าไดร์ได้ตามสบาย

เป็นผู้ชายแท้ๆแต่ผมมีสุขภาพดี พอต้องแสงไฟก็เป็นประกายระยิบระยับ แถมจับไปแล้วก็เรียบลื่นแถมนุ่มอีกต่างหาก จะว่าไปก็นึกถึงตอนลูบหัวยูกิโนะคุงสมัยเด็กๆเหมือนกันน้า ผมของยูกิโนะคุงก็นุ่มๆแบบนี้เหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าจะมีวันได้มาจับผมเอ็นโจคนพี่แบบนี้ด้วยอีกคน ลูบแล้วก็รู้สึกเพลินไปอีกแบบ

ฉันที่ตั้งอกตั้งใจหวีผมให้เอ็นโจแบบเบามือ ไม่ทันรู้ตัวเลยว่าถูกมองอยู่ พอเงยหน้ามองกระจกก็เห็นเอ็นโจมองตอบกลับมาจากในนั้น มองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน….

สายตาที่มองนั่นทำให้ฉันรู้สึกทำอะไรไม่ถูก มือไม้งุ่มง่ามเกะกะไปหมด

“สะ เสร็จแล้วค่ะ” ฉันวางไดร์และหวีลงบนโต๊ะ เตรียมตัวจะเผ่นหนี แต่เอ็นโจลุกขึ้นยืนแล้วคว้าข้อมือฉันไว้ได้ทัน กรี๊ด!! ขนาดป่วยก็ยังมือไวอีกเหรอยะ

“ขอบคุณนะ” พูดธรรมดาก็ได้ ไหงต้องมากระซิบข้างหูกันด้วย

“มะ ไม่เป็นไรค่ะ” หัวฉันหมุนเร็วจี๋ นึกหาข้ออ้างที่จะออกไปจากสถานการณ์ในตอนนี้ “ฉันว่าฉันอยู่นานเกินไปแล้ว คงรบกวนเวลาพักผ่อนของท่านเอ็นโจ ต้องกลับแล้ว...”

“ถ้าเป็นเรย์กะก็ไม่รบกวนเลยซักนิดครับ” เอ็นโจยิ้มบางๆ “ผมไม่ได้เจอคุณเป็นเดือนๆ พอเจอคุณก็อยากอยู่ใกล้ อยากอยู่ด้วยกันนานๆ…”

เจ้าคนจากหมู่บ้านคาสโนว่านี่มัน...พูดจาเลี่ยนๆออกมาได้หน้าตาเฉย แต่หัวใจไม่รักดีของฉันดันเต้นรัวกับคำพูดนั้น เลือดสูบฉีดแรงมากจนรู้สึกว่าอาจจะหัวใจวายตายเข้าให้ในวินาทีใดวินาทีหนึ่งเข้าให้

ตอนที่ฉันงุ่มง่ามทำตัวไม่ถูกอยู่นั้น มือเอ็นโจที่จับข้อมือฉันไว้ กลายเป็นรวบมากอดตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ กรี๊ด!!! ใครก็ได้ช่วยด้วยค่าาา

เอ็นโจก้มลง เอาหน้าผากแนบกับหน้าผากของฉัน สายตาเราจ้องกันในระยะประชิด จนนึกถึงคืนวันฮาโลวีนขึ้นมา

มะ ไม่ได้นะ ที่นี่คือโรงพยาบาล ถ้าจะให้มาจูบกันในที่แบบนี้มันก็ออกจะ…. แถมหมอกับพยาบาลจะเข้ามาตอนไหนก็ได้

แต่พอจะห้าม เสียงดันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ฉันหลับตาปี๋เมื่อเห็นเอ็นโจเอียงหน้า ริมฝีปากใกล้เข้ามาเรื่อยๆ รู้สึกถึงอะไรอุ่นๆกดลงมาที่หน้าผากและข้างขมับเลยลืมตาขึ้น

จูบหยุดแค่ตรงนี้ไม่มีเกินเลยไปกว่านั้น

18 Nameless Fanboi Posted ID:oHTihVYOe

พอกระพริบตาปริบๆแบบที่เจอเรื่องเหนือความคาดหมาย ฝั่งนั้นก็หัวเราะ

“ผิดหวังงั้นเหรอ...”

“เอ๋!!”

“ตอนนี้ผมไม่สบายอยู่คงไม่ค่อยสะดวกที่จะทำแบบนั้นเท่าไหร่” เอ็นโจยิ้มแล้วดึงฉันเข้ามากอด “เอาไว้หายดีแล้วจะชดเชยให้นะ”

สะดวกที่จะทำแบบนั้นอะไรของนาย ห๊า!! อย่ามาพูดจาสองแง่สองง่ามแบบนี้จะได้มั้ย แล้วก็ไม่ต้องชดเชยอะไรทั้งนั้นนะยะ ไม่อยากได้เลยซักนิด

ยังไม่ทันที่จะตอบโต้อะไรออกไป ประตูห้องเปิดออกเป็นการขัดจังหวะ ยูกิโนะคุงที่บอกจะไปโทรหาคุณแม่ก็ปรากฎตัวขึ้นมาพร้อมกับมาดามเอ็นโจและคุณพ่อบ้าน ในมือถือถุงที่สกรีนโลโก้ภัตตาคารชื่อดัง

ฉากแบบนี้เหมือนเดจาวูอีกแล้ว

“ท่านพี่ หมอบอกว่าอย่าเพิ่งเคลื่อนไหวร่างกายหนักๆไม่ใช่รึไงครับ” ยูกิโนะคุงพูดไปหัวเราะไป “เอาไว้หายดีก่อนค่อยทำก็ยังไม่สายนะ”

ทะ เทวดาน้อย เอาไว้หายดีก่อนค่อยทำนี่มันอะไรกันจ๊ะ อย่าพูดอะไรสองแง่สองง่ามแบบนั้นสิ

หนนี้ฉันสะบัดตัวออกจากเอ็นโจได้ทันก่อนที่สองคนนั้นจะจากไปแบบครั้งก่อน ตรงเข้าไปทักทายมาดามเพื่อหาที่พึ่งพิง มาดามก็ต้อนรับฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ชวนฉันรับประทานอาหารที่เพิ่งซื้อมาด้วยกัน

ระหว่างมื้ออาหาร ฉันคุยกับยูกิโนะคุงและมาดามเอ็นโจเสียเป็นส่วนใหญ่ พยายามไม่มองไปทางเอ็นโจสุดฤทธิ์ แต่ก็มีบ้างบางทีที่เผลอมองแบบไม่ได้ตั้งใจ แล้วก็ได้สบตากันทุกครั้ง สายตาที่มองมานั้นทำเอาหน้าร้อนวาบ ต้องก้มหน้างุดๆมองแต่ถ้วยอาหารที่กำลังทานอยู่

จะมองอะไรกันนักกันหนาล่ะยะ มีคนมาจ้องตอนกินมันฝืดคอนะรู้มั้ย

หรือจะอิจฉาที่ฉันได้ทานของอร่อย แต่คนป่วยอย่างนายกินได้แค่อาหารโรงพยาบาลรสชาติจืดๆ หน้าตาไม่ค่อยน่ารับประทาน….คงไม่ใช่หรอก….

จบมื้ออาหาร มาดามเอ็นโจก็ขอตัวกลับไปดูแลบ้านต่อ พรุ่งนี้ก็วันสิ้นปีแล้ว ต้องกลับไปจัดการความเรียบร้อยและเตรียมการสำหรับงานเลี้ยง มาดามออกปากเชิญฉันไปร่วมงานอย่างเอื้ออารี

“เอ๋ จะดีเหรอคะ คือว่าจะเป็นการรบกวนเวลาของครอบครัว…”

“ไม่รบกวนเลยซักนิดเดียวค่ะ มีคนเยอะๆก็ครึกครื้นสนุกออกนะคะ”

“มาสิครับ คุณพี่เรย์กะ” ยูกิโนะคุงก็ช่วยคะยั้นคะยอ “พวกเราอยากฉลองปีใหม่กับคุณพี่เรย์กะนะครับ”

“โอเซจิที่บ้านเราอร่อยมากเลย” เอ็นโจมองฉันยิ้มๆ “หรือจะโอโซนิ เกาลัดเชื่อม โมจิหรือสาเกหวานก็มีนะ”

อย่าคิดสิว่าเอาของกินมาล่อแล้วฉันจะตกลงง่ายๆ เห็นฉันเป็นคนยังไงกันยะ

สามแม่ลูกมองฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่รู้สึกกดดันอยู่ในที

อยู่ในวงล้อมศัตรูแบบนี้ คนใจเล็กอย่างฉันไม่กล้าปฏิเสธก็เลยยอมตอบตกลงไป ยูกิโนะคุงและมาดามมีสีหน้าพึงพอใจ ส่วนเอ็นโจอมยิ้มตอนที่ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม

พอฉันหันไปมองค้อน อีตาเจ้าเล่ห์ก็ส่งยิ้มด้วยสายตาพราวระยับจนต้องเสมองไปทางอื่น ใจเต้นเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้

แพ้ทางสุดๆเลยอ้ะ

--------------------------------
กูเขียนตั้งแต่ก่อนปีใหม่ กระทั่งปีใหม่ผ่านพ้นแต่เพิ่งจะเขียนจบ ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่แบบเลทๆก็แล้วกัน 555555
ส่งต่อจ้า

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.