มาลงฟิคใหม่จ้า ซีรีย์สาววายซุยรัน เขียนเรื่อยๆไม่มีแก่นสาร ไม่มีสาระ เบาสมองไปวันๆ
-------------------------
“อึก..มาซายะ...”
เสียงหวานครวญครางเรียกชื่อเขา ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความเขินอาย ร่างบางบิดตัวไปมาน้อยๆจากความวาบหวามที่ได้รับจากร่างสูงเบื้องหน้า
“ชอบให้ฉันทำแบบนี้สินะ” ใบหน้าหล่อเหลาแย้มรอยยิ้มที่มีน้อยคนนักที่จะได้เห็น ยิ้มที่มีไว้เพื่อคนพิเศษของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
“มะ ไม่…”
“ปากแข็ง” มาซายะก้มลงไปจูบคนตัวเล็กใต้ร่าง อ้อมแขนกอดรัดจนทั้งสองร่างแนบสนิทไม่มีช่องว่างเหลืออยู่ “ฉันรู้ว่านายอยากให้ฉันทำอีก ชูสุเกะ”
“ยะ อย่า มาซายะ”
“นั่นล่ะ เรียกชื่อฉัน”
“มาซายะ…”
.
.
.
.
นี่มัน...อะไร….
ผมถามตัวเองในใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบ ในขณะที่สายตาก็ไล่อ่านบรรทัดถัดไป แล้วก็ถามตัวเองอีกรอบว่าผมกำลังทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นวัฎจักร
แต่เพราะนึกถึงเธอคนนั้น ผมเลยต้องบังคับตัวเองให้อ่านต่อไปอย่างช่วยไม่ได้
เพราะคุณคนเดียว ผมถึงต้องทำขนาดนี้
.
.
.
เรื่องมันเริ่มมาจากวันหนึ่งที่อากาศสดใส ผมพบกับคุณคิโชวอินที่หน้าโรงเรียน กะว่าจะเข้าไปทักแล้วเดินเข้าโรงเรียนไปด้วยกันแบบเนียนๆสักหน่อย แต่กลับเจอเรื่องผิดคาดที่คุณคิโชวอินปรี่เข้ามาหา ทักทายผมด้วยเสียงอ่อนหวาน
ผิดปกติ ผิดปกติสุดๆ
แม้ในใจอยากจะถามว่ามันเรื่องอะไรกัน แต่ผมก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้ผ่านไป ในเมื่อเธอหยิบยื่นมาให้ ผมก็น้อมรับมันเอาไว้ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง
ปกติในสถานการณ์แบบนี้เราจะคุยกันเรื่องยูกิโนะ แต่วันนี้เธอกลับถามไถ่เรื่องเกี่ยวกับมาซายะอย่างกระตือรือร้นจนผมต้องเลิกคิ้วขึ้น รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา
“เอ แล้วท่านเอ็นโจเคยเล่นเปียโนคู่กับท่านคาบุรากิรึเปล่าคะ”
“ก็มีบ้างนะ แต่ไม่บ่อยหรอก บางทีมาซายะก็ให้เป็นคู่ซ้อม”
“งั้นหรือคะ แหม ทั้งสองท่านบรรเลงเปียโนด้วยกันคงจะเป็นภาพที่งดงามราวกับภาพวาดเลยนะคะ ฮุๆๆๆ”
คุณคิโชวอินพอได้คำตอบก็กระหยิ่มยิ้มย่อง ขอตัวเข้าห้องเรียนไปด้วยท่าทางอารมณ์ดีสุดๆ ทิ้งผมไว้กับความขุ่นมัวที่ได้รับตั้งแต่เช้า
ตอนพักเที่ยง ผมนั่งมองคุณคิโชวอินที่ทานอาหารอยู่กับเพื่อนๆอย่างเคย แต่วันนี้ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ร่วมวงสนทนากับเพื่อน แต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่
แม้เธอจะพยายามทำหน้านิ่งๆ แต่ก็มีหลุดอมยิ้มออกมาบ้าง อ่านอะไรกันนะ
ในห้องสโมสร เธอก็ยังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือที่ดูจะเป็นเล่มเดียวกับเมื่อกลางวัน บางทีก็หัวเราะคิกคัก ท่าทางจะสนุกมาก
เธอเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ พอเห็นผมมองอยู่ก็ส่งยิ้มให้แล้วหลบสายตาไปทางอื่น แต่ปากยังยิ้มอยู่
เห็นเธอยิ้ม ผมก็ควรจะยิ้มตามเหมือนอย่างเคย แต่วันนี้กลับรู้สึกแปลกๆกับรอยยิ้มนั่นอย่างไรชอบกล ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว….ดูเป็นรอยยิ้มไม่น่าไว้ใจและมีอะไรเคลือบแฝงอยู่จนรู้สึกเสียวสันหลัง
เมื่อขนมในจานหมดลง คุณคิโชวอินก็ลุกขึ้นยืน วางข้าวของทิ้งไว้แล้วไปตักขนมมาเพิ่ม ผมถือโอกาสนั้นไปมองสำรวจหนังสือเล่มที่ว่า หยิบมันขึ้นมาดูใกล้ๆ
มันเป็นหนังสือที่มีความหนาไม่มาก หน้าปกเป็นรูปสีน้ำที่ดูแล้วสบายตา เป็นภาพของผู้ชายสองคนในชุดสีขาวนั่งเล่นเปียโนบนเก้าอี้ตัวเดียวกันในฉากหลังที่ดูแล้วคุ้นๆ คล้ายๆว่าจะเป็นที่สโมสรนี่เลย
“กระซิบรักผ่านเสียงเพลง” คือชื่อเรื่องของหนังสือเล่มนี้ เขียนโดย เซ็นโนะ ซาระ
ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน สงสัยจะเป็นผลงานของมือสมัครเล่นที่พิมพ์ขายในอินเตอร์เน็ต
ลองพลิกไปข้างหลังหาเรื่องย่อ มันก็ดูจะเป็นนิยายรักปกติทั่วไป แต่มันไม่ปกติที่ผมเห็นชื่อตัวเองอยู่บนนั้น
“การใช้ชีวิตอยู่ข้างคนที่ไม่ได้รักตอบมันช่างเจ็บปวด ชูสุเกะที่เผชิญหน้ากับความรักที่ไม่สมหวังอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ต้องทุกข์ระทมขมขื่น….”