Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับงานชมดอกไม้ไฟในฝัน [ขอตอนต่อไปรอบที่ 25]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:.rVXCkc3j

เอาไว้พูดคุยเรื่อง "นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!"

รักใคร อวยใคร ชอบใคร อยากให้ใครเข้าวิน เชิญได้ที่กระทู้นี้

.

謙虚、堅実をモットーに生きております!
นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!
(RAW) http://ncode.syosetu.com/n4029bs/
(TH) http://www.nekopost.net/novel/3015

♕ คลังกระทู้ ♕
>>>/webnovel/3289 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ [เรือลำที่ 1 : องค์ชายเอ็นโจ]
>>>/webnovel/3364 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชายามบ่ายของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]
>>>/webnovel/3451 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3)
>>>/webnovel/3507 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสตูดิโอกาวโปรดักชั่นหมายเลข 4
>>>/webnovel/3543 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการปลูกไร่กัญชาบนดาวเคราะห์ดวงที่ 5
>>>/webnovel/3572 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6
>>>/webnovel/3588 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือกาวฟิคที่ไปไกลกว่าเรืออฟช. ลำที่ 7
>>>/webnovel/3600 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการผนึกกำลังของเหล่าพันธมิตรเรือเพื่อล่มเกาะแห่งคาน ครั้งที่ 8
>>>/webnovel/3628 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับนิทรรศการเรืออับปางใต้ท้องทะเลลึก ครั้งที่ 9
>>>/webnovel/3689 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูใบไม้ผลิอันฟรุ้งฟริ้งของเรย์กะจัง♡ ~โดขิโดขิ หัวใจของเธอเป็นของฉันนะ! ♡♡ กาวยกกำลัง10! ♡♡ (,,,ゝ∀・,,,)ノシ *:・゚✧*:・゚✧
>>>/webnovel/3786 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการหายตัวไปอย่างปริศนาของฟิคกาวในห้องซาลอนปิดตาย [คานที่กำลังก่อตัวชั้นที่11]
>>>/webnovel/3805 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแท็ก love ปริศนา ที่ไม่ตั้งใจจะใส่มาหรอกนะ แค่มันอยู่ใกล้มือเท่านั้นเอง [แท็กที่ 12]
>>>/webnovel/3856 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกองเรือรบสยบคาน ประจัญบาน​พิชิต​ใจ​เธอ! [ศึกรักที่ 13]​
>>>/webnovel/3899 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับคำอธิษฐานรักผ่านเส้นผม (ผมลอนสลวยเก๋เส้นที่ 14)
>>>/webnovel/3953 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้​น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสูตรอาหารคิวปิดสื่อ​รัก​สุดมิราเคิล​ของยอดเชฟสาวเจ้าเสน่ห์​เร​ย์​กะ​ ~"แค่คำเดียว"เป็นจานที่ 15 แล้วนะ!
>>>/webnovel/4018 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้​น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเทพเกศาบันดาลรัก โปรดรับบรรณาการนี้ไปด้วยเถิด!!! (บรรณาการจานที่ 16)
>>>/webnovel/4099 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการซื้อบ้านพร้อมที่ดินในหมู่บ้านมีรักถวายเจ้าแม่ [หลังที่ 17]
>>>/webnovel/4218 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับไอเดียบรรเจิดเพ้อฝันของเจ้าแม่ [ขอปฏิเสธรอบที่ 18]
>>>/webnovel/4296 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการขี่โพนี่พุ่งทะยานข้ามแดนไปหาเจ้าชาย [หน้าตาสมัยศตวรรษที่ 19]
>>>/webnovel/4454 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโอนิวาบังในเงามืด [ชั่วช้าสามานย์ ทุกประการเพื่อฮาเร็มทั้ง 20]
>>>/webnovel/4574 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสังเวียนความรักของจักรพรรดินี โอ้! ทรุดลงไปแล้วครับ! [กรรมการชูมือนับครั้งที่ 21]
>>>/webnovel/4659 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับศึกแย่งชิงพื้นที่การออกอากาศ [ชัยชนะของ tag food ครั้งที่ 22]
>>>/webnovel/4903 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับซูชิไข่ปลวกและหนังสือหนังมนุษย์ [หนอนตัวที่ 23 กระดึ๊บออกมาแล้วค่า]
>>>/webnovel/5102/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแผนการล้างสมองของจักรพรรดิจอมมาร [วิ่งเข้าไปซะ! เจ้าสัตว์กีบคู่! รอบที่ 24]

2 Nameless Fanboi Posted ID:.rVXCkc3j

♕ สนธิสัญญา ♕
1) สปอยล์ได้ แต่รบกวนเตือนและจุดลากยาวทุกครั้ง(อย่างน้อย7-8บรรทัด) ช่วยป้องกันให้คนที่ไม่ต้องการอ่านสปอยล์เนื้อเรื่อง
1.1) ไม่สปอยล์เนื้อหาที่แปลไทยใกล้จะถึงแล้ว
1.2) ไม่สปอยล์เนื้อหามากจนเกินไป คนอยากโดนสปอยล์ก็อดใจรอไว้หน่อย ไว้ไปฟินพร้อมๆกัน

2) อย่าเร่ง อย่ากดดันโม่งแปล !!!!

3) งดเว้นการตั้งชื่อกระทู้ด้วยถ้อยคำที่ไม่เป็น​มงคล (หรือถ้อยความ​ที่เป็นแง่ลบ อาทิ คาน, จมเรือ, เรืออับปาง, หักธง, ซากเรือ เป็นต้น) "ห้ามแก้เคล็ดเด็ดขาด" หากฝ่าฝืนตั้งมา ชื่อนั้นก็จะไม่เอามาโหวตนับคะแนนแต่อย่างใด

4) แจ้งดิบตอนใหม่​​หลังเที่ยง เพื่อ​ไม่ให้​ทับซ้อนกับแปลไทย

.

♕ สารบัญแฟนฟิค-แฟนอาร์ต ♕
https://docs.google.com/document/d/1Jtm_XMsTD_t_6GWtvFfN3qDIm3yxYGeJCX29QUS1vIo/edit?usp=sharing

How to: วิธีการใช้และอัพเดตสารบัญ
https://docs.google.com/document/d/1ET-eMchwMQyJ8awYO1Q5yIcKWuTeJrJ0TVhXXVd8eD4/edit?usp=sharing

รวมไฟล์สารบัญ
https://drive.google.com/drive/folders/0BwR6XEqxsnTAZWdSckFqb182VDQ

3 Nameless Fanboi Posted ID:CD.CWtoW1

ปิดกระทู้ด้ววยเรือวาคาบะแฮะ

4 Nameless Fanboi Posted ID:sqzfvzDne

เห็นมู้ที่แล้วบอกเรื่องนี้ไม่อัพมาสี่เดือนแล้ว แล้วก็คุ้นๆว่าสถิติดองนานที่สุดคือครึ่งปี รอบนี้จะทำลายสถิติเก่าไหมนะ ซักปีนึงไรงี้...

5 Nameless Fanboi Posted ID:RzaEBMRTd

>>4 ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้!!

6 Nameless Fanboi Posted ID:AahSd792g

เรือวาคาบะปิดมาหลายมู้แล้ว จงครองสถิติต่อไป หนุ่มๆนะหรือ เอาผ้าชุบน้ำอุดจมูกไปให้หมด

7 Nameless Fanboi Posted ID:9QJzWtmX3

ฮึ่ยยยย 4 เดือนแค่นี้ศรีทนได้ ยังไงก็มีกาวกับรีรีดไปพลางๆ ละวะ

8 Nameless Fanboi Posted ID:hOtd2zYfH

>>4 บัดศรีบัดเถลิงที่สุดดดดด

9 Nameless Fanboi Posted ID:yUU9yhIT.

เช็คมาล่ะ ช่วงที่หายไปนานที่สุดเหมือนจะเป็นช่วงรอยต่อระหว่างตอน 244-245 หายไปซัก 4 เดือน 15 วันได้ งานนี้กูว่ามีทำลายสถิติใหม่แน่นวล

10 Nameless Fanboi Posted ID:yvsgmOOn/

>>9 ไม่แน่ดิบใหม่อาจจะมาวันนี้ก็ได้นะ 555555

11 Nameless Fanboi Posted ID:1WEaA1ryv

ไปทำโปรเจคแปบเดียว กระทู้เต็มเฉยอดโหวตเบย

12 Nameless Fanboi Posted ID:NdpXxnBS3

นี่ย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าๆ สมัยเรย์กะซามะยังอยู่ประถม ตอนเอ็นโจขาเจ็บแล้วลงแข่งได้แต่ปาบอลลงตะกร้า สาวๆ พากันรุมตอมหึ่งจนไม่เป็นอันปาบอล มีแต่เรย์กะซามะวิ่งเก็บบอลลงตะกร้างกๆ อยู่คนเดียวด้วยความพอใจของนางจนทีมได้ที่ 1 นึกภาพแล้วน่ารักชิบหายเลยว่ะ กูว่าจอมมารต้องแอบมองแล้วขำอยู่ในใจ

13 Nameless Fanboi Posted ID:AVvN5bzPP

>>12 ฉากนั้นน่ารัก 555555 แล้วยิ่งคิดว่านางคุณหนูมากๆด้วยนะ น่ารักเบิ้ลไปอีก

14 Nameless Fanboi Posted ID:Fz3.7sSwq

>>12 กูว่าฮีอาจจะเอาแต่มองจนไม่ได้ปาบอลเลยก็ได้นะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:oHTihVYOe

ฟิคเวียนในตำนาน
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/4296/225-227
----------------

เสียงนกร้องที่ดังแว่วๆมาจากหน้าต่างปลุกให้ฉันตื่นขึ้นมาจากโซฟาที่นอนอยู่ เจ้าพวกนกพิราบมาวนเวียนแถวๆนี้อีกแล้วเหรอ ต้องให้คุณเมดมาไล่ไปซะแล้ว

พอลุกขึ้นมานั่งก็รู้สึกเมื่อยหลังไปหมด สงสัยจะไม่ชินที่ต้องนอนโซฟาแบบนี้

ฉันไม่ได้รอโทรศัพท์ซักหน่อยนะ แค่มานั่งดูทีวีตรงนี้แล้วง่วงก็เลยเผลอหลับไปก่อนเท่านั้นเอง ไม่ได้รอจริงๆนะคะ

มองเห็นโทรศัพท์มือถืออยู่ใกล้ๆหมอนที่ใช้หนุนนอนเมื่อคืน ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองเปิดเช็คดูเวลาหน่อยก็ดี

หน้าจอว่างเปล่าไม่มีทั้งข้อความเข้าหรือโทรศัพท์มาจากใครทั้งนั้น

เอ๋!! อะไรกัน ตัวเองเป็นคนบอกจะโทรมาแท้ๆไม่ใช่เหรอ ชิ!! เพราะนายคนเดียวเลย ฉันถึงต้องมานอนหลังขดหลังแข็งบนโซฟาแคบๆจนปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมดแบบนี้ แล้วที่ไม่โทรมานี่ไม่ใช่ว่าแอบคุยกับใครที่ไหนจนลืมฉันไปใช่มะ หนอย เจ้าคนจากหมู่บ้านคาสโนว่านี่ คงมีสาวๆในลิสต์ให้โทรหาเพียบจนมาไม่ถึงฉันแหงๆ

เชอะ!! จะไปโทรหาใครก็โทรไปเถอะย่ะ

ตอนที่เดินผ่านเตียง พอเห็นตุ๊กตาเจ้าชายกระต่ายที่อยู่บนนั้นก็นึกหงุดหงิดขึ้นมาเลยจับเขย่าๆ หูที่ตั้งขึ้นของตุ๊กตาตกลู่ลงจนดูน่าสงสาร อันที่จริงตุ๊กตาก็ไม่ได้มีความผิดซักหน่อยนี่นา คนที่ผิดน่ะคือเอ็นโจต่างหาก

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพอดี ฉันเชิดหน้าใส่ ตั้งใจว่าจะเมินๆไปไม่ยอมรับโทรศัพท์ โทรมาป่านนี้มันสายไปแล้วย่ะ จงสำนึกผิดไปซะ

แต่พอเห็นชื่อที่ปรากฎก็ต้องแปลกใจ

“ยูกิโนะคุง”

เสียงเรียกเข้าดับไปแล้ว ฉันเลยโทรกลับไปทันที อะไรที่คิดว่าจะทำเมื่อครู่นี้ถูกเตะกระเด็นไปหมดตอนที่เห็นชื่อของยูกิโนะคุงโผล่มา

“ขอโทษนะจ๊ะที่รับช้า”

“ไม่เป็นไรครับ” ยูกิโนะคุงตอบกลับมา

“แล้วโทรมามีอะไรรึเปล่าจ๊ะ”

“เอ่อ คือว่า ท่านพี่น่ะครับ”

ฉันชะงักไปนิดหน่อยที่มีชื่อของเอ็นโจเข้ามาข้องเกี่ยว “มีอะไรงั้นเหรอจ๊ะ”

“ตอนนี้ท่านพี่อยู่โรงพยาบาลครับ”

“เอ๋!!”

ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจ เอ็นโจเข้าโรงพยาบาลอย่างนั้นเหรอ อะไรกัน!!

“เมื่อคืน พอกลับมาที่บ้านตอนดึกๆ อยู่ดีๆท่านพี่ก็วูบไปเลยล่ะครับ ทำเอาทุกคนตกอกตกใจกันใหญ่” อื้อ ฉันก็ตกใจเหมือนกันนั่นล่ะ

สอบถามเรื่องสถานที่และอาการอีกเล็กน้อยและกับยูกิโนะคุงได้ ฉันก็รีบโดดผึงไปที่ตู้เสื้อผ้า คว้าชุดออกมาอย่างเร่งร้อน หยิบๆมาเลือกอยู่สี่ห้าชุดก็รีบไปอาบน้ำ เตรียมตัวไปที่โรงพยาบาล

16 Nameless Fanboi Posted ID:oHTihVYOe

.
.
.
โธ่เอ้ย รถจะติดไปถึงไหนกันยะ คนยิ่งรีบๆอยู่

ฉันเคาะนิ้วลงกับพวงมาลัย รู้สึกไม่สบอารมณ์สุดๆ ลองเปิดวิทยุฟังรายงานข่าวดูก็รู้สึกจะมีอุบัติเหตุบนถนนเส้นนี้ ขอให้หลีกเลี่ยงเพราะการจราจรติดขัดอย่างมาก

ปัดโธ่เอ้ย ทำไมต้องมาเป็นวันนี้ด้วยนะ

ฉันเปิด GPS หาเส้นทางลัดไปโรงพยาบาล หักรถเลี้ยวไปตามทางที่หน้าจอบอก ไม่ช้าก็มาถึงถนนเส้นหลักที่ไปถึงที่หมาย ผ่านรถติดมาได้อย่างฉิวเฉียด

ระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาล ผ่านร้านขายผลิตภัณฑ์และอาหารออร์แกนิคส์พอดี ฉันเลยจอดรถ เดินลงไปเลือกของเยี่ยมให้คนป่วย เมื่อเช้าออกมารีบๆก็เลยไม่ได้เตรียมอะไรให้เลย

ถ้าไม่เอาไปล่ะก็ มาดามเอ็นโจจะไม่มองว่าฉันแล้งน้ำใจแย่เรอะ ยูกิโนะคุงก็คงผิดหวังในตัวฉันแหงๆ ไหนจะคาบุรากิที่มาเยี่ยมเพื่อนแล้วก็มีวาคาบะจังมาอีก กลายเป็นข่าวซุบซิบในวงสังคม ฉันผู้เป็นคนที่แคร์สายตาคนรอบข้าง ทนให้คนอื่นคิดแบบนั้นไม่ไหวหรอก

ฉันหยิบนมที่ทำจากเมล็ดอัลมอนด์ขึ้นมาสองสามขวดใส่ลงในตะกร้า นมอัลมอนด์มีคุณค่าทางสารอาหารสูง เหมาะที่จะใช้เป็นของเยี่ยมคนป่วยที่ต้องการสารอาหารไปบำรุงร่างกายเยอะๆ

น้ำผักและผลไม้ที่เคยเอาไปเยี่ยมยูกิโนะคุงก็มาจากร้านนี้เหมือนกัน รสชาติวางใจได้ เอ็นโจได้ทานน้ำผลไม้วันนั้นก็ออกปากชมว่าอร่อยด้วย เพราะงั้นฉันก็เลยหยิบมาใส่ตะกร้าอีกเหมือนกัน

...ไม่ได้ซื้อเพราะเอ็นโจชอบกินหรอกนะ แต่น้ำผลไม้ก็เป็นของกลางๆที่เหมาะจะเยี่ยมคนป่วยเหมือนกันนี่นา

ผ่านมุมกระจุกกระจิกอย่างพวกแยมและน้ำผึ้งในขวดแก้วเล็กๆมัดริบบิ้นลายทาง มีขนมปังโฮลวีทเอาไว้ทานคู่กัน ฉันก็ซื้อมาด้วยเหมือนกัน ถ้าเอ็นโจไม่ทาน แต่แพ็คเกจน่ารักแบบนี้เอาให้ยูกิโนะคุงหรือมาดามเอ็นโจก็ได้

รู้ตัวอีกทีตะกร้าก็หนักขึ้นจนถือเกือบไม่ไหวแล้ว คิดว่าสมควรจะพอเท่านี้ ก็เลยหิ้วไปจ่ายเงินพร้อมกับบอกให้จัดใส่กระเช้าให้ด้วย รออยู่อีกสิบห้านาที กระเช้าเยี่ยมคนป่วยก็เสร็จสรรพ

ฉันหิ้วตะกร้าออกนอกร้าน เดินตัวเอียงแบบนี้เสียบุคลิกชะมัด ใครผ่านมาเห็นนี่น่าเกลียดแย่

โชคดีที่จอดรถไว้ไม่ไกลจากประตูร้านมากนัก แต่ก็ทำเอาปวดแขนไม่น้อย สงสัยกลับไปต้องแปะกอเอี๊ยะหน่อยแล้ว

ใกล้ๆถึงโรงพยาบาล ฉันโทรหายูกิโนะคุง ฝั่งนั้นก็บอกว่าเดี๋ยวจะลงมารับ พอขับเข้าไปในโรงพยาบาลก็เห็นยูกิโนะคุงยืนรออยู่ที่บันไดขั้นล่างสุด โบกมือให้ฉันที่ก้าวลงจากรถ

“ทางนี้ครับ คุณพี่เรย์กะ”

“ยูกิโนะคุง” ฉันเดินเข้าไปหายูกิโนะคุง หอบหิ้วตะกร้าอย่างระมัดระวังเพราะในนี้มีแต่ขวดแก้วที่เป็นของแตกง่ายทั้งนั้น “ท่านเอ็นโจเป็นยังไงบ้างจ๊ะ”

“ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ หมอบอกว่าแค่ความดันต่ำเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ แล้วก็มีอาการเหนื่อยล้าสะสม ให้นอนพักซักหน่อยก็หายแล้วล่ะ”

“พักผ่อนไม่เพียงพอ”

“เห็นเลขาจากทางเยอรมันรายงานมาว่าท่านพี่โหมทำงานจนได้นอนแค่วันละสามสี่ชั่วโมงเองครับ ท่านแม่ล่ะเป็นห่วงจะแย่”

อุก...งั้นที่บอกว่าทำงานหนักเพื่อกลับมาเจอฉันให้ทันคริสต์มาสนี่ก็เรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ… ความรู้สึกผิดเข้าเกาะกุมในใจฉันจนรู้สึกเหมือนมีหินถ่วงให้หนักอึ้ง

“อ๊ะ จริงสิ ผมช่วยถือนะครับ คุณพี่เรย์กะ”

พอรับตะกร้าไปจากฉัน ยูกิโนะคุงก็ร้องออกมา “หวา หนักจัง”

“ขอโทษนะจ๊ะ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวพี่ถือเองก็ได้นะ”

“สบายมากครับ” ยูกิโนะคุงยิ้มแฉ่ง เดินนำหน้าฉันไปที่ลิฟท์

โรงพยาบาลนี้ดูเหมือนจะเป็นโรงพยาบาลประจำของตระกูลเอ็นโจ เพราะคราวที่มาเยี่ยมยูกิโนะคุงครั้งที่แล้วก็เป็นที่นี่อีกเหมือนกัน

17 Nameless Fanboi Posted ID:oHTihVYOe

ยูกิโนะคุงเคาะประตูเล็กน้อยก่อนจะผลักเข้าไป วางของเยี่ยมลงบนโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ ในห้องว่างเปล่า ไม่มีร่างของคนที่สมควรนอนพักอยู่อย่างที่ควรเป็น

“เดี๋ยวผมขอตัวไปโทรหาท่านแม่ก่อนนะครับ คุณพี่เรย์กะก็นั่งพักตามสบาย เดี๋ยวท่านพี่ก็คงกลับมา”

ฉันนั่งลงที่โซฟา มองไปรอบๆห้องอย่างนึกสงสัย เอ็นโจหายไปไหนกันนะ

เหมือนจะตอบคำถามฉัน เพราะประตูห้องน้ำเปิดออก เอ็นโจเดินเช็ดผมด้วยมือเดียวออกมาจากห้องน้ำ อีกมือลากเสาน้ำเกลือมาด้วย เสื้อคนป่วยก็ไม่ผูกเชือกให้เรียบร้อย ผมเปียกๆแนบกับแก้มออกจะเป็นภาพที่ดูดี ทำให้ฉันใจเต้นขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด

คิดๆแล้วก็น่าแค้นนัก ฉันผู้เป็นสาวน้อยไม่เคยผ่านประสบการณ์ผู้ชายกึ่งเปลือยมาเดินต่อหน้ามาก่อน ทำให้ค่อนข้างจะทำตัวไม่ถูก ส่วนเอ็นโจพอเห็นฉันก็ชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะส่งยิ้มกว้างมาให้

ไปแต่งตัวให้มันเรียบร้อยก่อนสิยะ!!

“เรย์กะ”

นอกจากหมอนี่จะไม่ฟังความคิดในใจฉัน ยังจะเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆอีก แง้!! กลับตอนนี้เลยได้มั้ยนะ

“พอดีเมื่อคืนมันวุ่นๆนิดหน่อย ก็เลยไม่ได้โทรหาตามที่สัญญา” เอ็นโจทำหน้าหงอยๆ “ขอโทษนะครับ...ยกโทษให้ผมได้มั้ย”

“จะโกรธทำไมคะ ก็มันเหตุสุดวิสัยนี่นา”

ตอนที่เห็นสาบเสื้อที่แหวกออก ก็นึกถึงรายการวาไรตี้ที่เคยดู รายการนั้นมีผลโพลถามเกี่ยวกับส่วนไหนของร่างกายเพศตรงข้ามที่คุณคิดว่าเซ็กซี่ ฉันจำได้ว่าคำตอบมีต้นคอและกระดูกไหปลาร้าติดอันดับอยู่ด้วย

เอ๊ะ!! ว่าแต่ฉันจะนึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาทำไมเนี่ย

ฉันพยายามจะไม่มองอะไรที่มันอยู่ตรงหน้า แต่กลิ่นสบู่และแชมพูหลังอาบน้ำก็เป็นอะไรที่ปั่นป่วนสมาธิอยู่พอสมควร รู้สึกว่ารายการนั้นจะมีผลโพลถามว่าชอบอิริยาบทไหนของแฟนมากที่สุด รู้สึกจะมีหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆติดโผกับเขาด้วยเหมือนกัน

แล้วฉันจะนึกถึงอีกทำไมเล่า!!! หยุดเดี๋ยวนี้เลยเรย์กะ ห้ามคิดอะไรทั้งนั้นนะ!!!!

“ไปแต่งตัวให้มันเรียบร้อยก่อนสิคะ ไม่เช็ดผมให้แห้งเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”

“นั่นสินะ” เอ็นโจพยักหน้ายิ้มๆ นั่งลงบนเก้าอี้แล้วยื่นไดร์เป่าผมมาให้ฉัน “เรย์กะช่วยผมหน่อยได้มั้ย มีสายน้ำเกลือเสียบแขนแบบนี้หยิบจับอะไรไม่ค่อยสะดวกเลย”

อีกมือหนึ่งก็ใช้ได้ไม่ใช่รึไงยะ กะอีแค่มือถูกเสียบสายน้ำเกลือ ไม่ได้แขนหักซักหน่อย

สุดท้ายเพราะสงสารคนป่วย แถมยังรู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุให้เอ็นโจต้องเข้าโรงพยาบาล ฉันก็เลยต้องยอมๆแต่โดยดี เอ็นโจนั่งหลับตาพริ้มอยู่บนเก้าอี้ ให้ฉันจับหวีผมเป่าไดร์ได้ตามสบาย

เป็นผู้ชายแท้ๆแต่ผมมีสุขภาพดี พอต้องแสงไฟก็เป็นประกายระยิบระยับ แถมจับไปแล้วก็เรียบลื่นแถมนุ่มอีกต่างหาก จะว่าไปก็นึกถึงตอนลูบหัวยูกิโนะคุงสมัยเด็กๆเหมือนกันน้า ผมของยูกิโนะคุงก็นุ่มๆแบบนี้เหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าจะมีวันได้มาจับผมเอ็นโจคนพี่แบบนี้ด้วยอีกคน ลูบแล้วก็รู้สึกเพลินไปอีกแบบ

ฉันที่ตั้งอกตั้งใจหวีผมให้เอ็นโจแบบเบามือ ไม่ทันรู้ตัวเลยว่าถูกมองอยู่ พอเงยหน้ามองกระจกก็เห็นเอ็นโจมองตอบกลับมาจากในนั้น มองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน….

สายตาที่มองนั่นทำให้ฉันรู้สึกทำอะไรไม่ถูก มือไม้งุ่มง่ามเกะกะไปหมด

“สะ เสร็จแล้วค่ะ” ฉันวางไดร์และหวีลงบนโต๊ะ เตรียมตัวจะเผ่นหนี แต่เอ็นโจลุกขึ้นยืนแล้วคว้าข้อมือฉันไว้ได้ทัน กรี๊ด!! ขนาดป่วยก็ยังมือไวอีกเหรอยะ

“ขอบคุณนะ” พูดธรรมดาก็ได้ ไหงต้องมากระซิบข้างหูกันด้วย

“มะ ไม่เป็นไรค่ะ” หัวฉันหมุนเร็วจี๋ นึกหาข้ออ้างที่จะออกไปจากสถานการณ์ในตอนนี้ “ฉันว่าฉันอยู่นานเกินไปแล้ว คงรบกวนเวลาพักผ่อนของท่านเอ็นโจ ต้องกลับแล้ว...”

“ถ้าเป็นเรย์กะก็ไม่รบกวนเลยซักนิดครับ” เอ็นโจยิ้มบางๆ “ผมไม่ได้เจอคุณเป็นเดือนๆ พอเจอคุณก็อยากอยู่ใกล้ อยากอยู่ด้วยกันนานๆ…”

เจ้าคนจากหมู่บ้านคาสโนว่านี่มัน...พูดจาเลี่ยนๆออกมาได้หน้าตาเฉย แต่หัวใจไม่รักดีของฉันดันเต้นรัวกับคำพูดนั้น เลือดสูบฉีดแรงมากจนรู้สึกว่าอาจจะหัวใจวายตายเข้าให้ในวินาทีใดวินาทีหนึ่งเข้าให้

ตอนที่ฉันงุ่มง่ามทำตัวไม่ถูกอยู่นั้น มือเอ็นโจที่จับข้อมือฉันไว้ กลายเป็นรวบมากอดตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ กรี๊ด!!! ใครก็ได้ช่วยด้วยค่าาา

เอ็นโจก้มลง เอาหน้าผากแนบกับหน้าผากของฉัน สายตาเราจ้องกันในระยะประชิด จนนึกถึงคืนวันฮาโลวีนขึ้นมา

มะ ไม่ได้นะ ที่นี่คือโรงพยาบาล ถ้าจะให้มาจูบกันในที่แบบนี้มันก็ออกจะ…. แถมหมอกับพยาบาลจะเข้ามาตอนไหนก็ได้

แต่พอจะห้าม เสียงดันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ฉันหลับตาปี๋เมื่อเห็นเอ็นโจเอียงหน้า ริมฝีปากใกล้เข้ามาเรื่อยๆ รู้สึกถึงอะไรอุ่นๆกดลงมาที่หน้าผากและข้างขมับเลยลืมตาขึ้น

จูบหยุดแค่ตรงนี้ไม่มีเกินเลยไปกว่านั้น

18 Nameless Fanboi Posted ID:oHTihVYOe

พอกระพริบตาปริบๆแบบที่เจอเรื่องเหนือความคาดหมาย ฝั่งนั้นก็หัวเราะ

“ผิดหวังงั้นเหรอ...”

“เอ๋!!”

“ตอนนี้ผมไม่สบายอยู่คงไม่ค่อยสะดวกที่จะทำแบบนั้นเท่าไหร่” เอ็นโจยิ้มแล้วดึงฉันเข้ามากอด “เอาไว้หายดีแล้วจะชดเชยให้นะ”

สะดวกที่จะทำแบบนั้นอะไรของนาย ห๊า!! อย่ามาพูดจาสองแง่สองง่ามแบบนี้จะได้มั้ย แล้วก็ไม่ต้องชดเชยอะไรทั้งนั้นนะยะ ไม่อยากได้เลยซักนิด

ยังไม่ทันที่จะตอบโต้อะไรออกไป ประตูห้องเปิดออกเป็นการขัดจังหวะ ยูกิโนะคุงที่บอกจะไปโทรหาคุณแม่ก็ปรากฎตัวขึ้นมาพร้อมกับมาดามเอ็นโจและคุณพ่อบ้าน ในมือถือถุงที่สกรีนโลโก้ภัตตาคารชื่อดัง

ฉากแบบนี้เหมือนเดจาวูอีกแล้ว

“ท่านพี่ หมอบอกว่าอย่าเพิ่งเคลื่อนไหวร่างกายหนักๆไม่ใช่รึไงครับ” ยูกิโนะคุงพูดไปหัวเราะไป “เอาไว้หายดีก่อนค่อยทำก็ยังไม่สายนะ”

ทะ เทวดาน้อย เอาไว้หายดีก่อนค่อยทำนี่มันอะไรกันจ๊ะ อย่าพูดอะไรสองแง่สองง่ามแบบนั้นสิ

หนนี้ฉันสะบัดตัวออกจากเอ็นโจได้ทันก่อนที่สองคนนั้นจะจากไปแบบครั้งก่อน ตรงเข้าไปทักทายมาดามเพื่อหาที่พึ่งพิง มาดามก็ต้อนรับฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ชวนฉันรับประทานอาหารที่เพิ่งซื้อมาด้วยกัน

ระหว่างมื้ออาหาร ฉันคุยกับยูกิโนะคุงและมาดามเอ็นโจเสียเป็นส่วนใหญ่ พยายามไม่มองไปทางเอ็นโจสุดฤทธิ์ แต่ก็มีบ้างบางทีที่เผลอมองแบบไม่ได้ตั้งใจ แล้วก็ได้สบตากันทุกครั้ง สายตาที่มองมานั้นทำเอาหน้าร้อนวาบ ต้องก้มหน้างุดๆมองแต่ถ้วยอาหารที่กำลังทานอยู่

จะมองอะไรกันนักกันหนาล่ะยะ มีคนมาจ้องตอนกินมันฝืดคอนะรู้มั้ย

หรือจะอิจฉาที่ฉันได้ทานของอร่อย แต่คนป่วยอย่างนายกินได้แค่อาหารโรงพยาบาลรสชาติจืดๆ หน้าตาไม่ค่อยน่ารับประทาน….คงไม่ใช่หรอก….

จบมื้ออาหาร มาดามเอ็นโจก็ขอตัวกลับไปดูแลบ้านต่อ พรุ่งนี้ก็วันสิ้นปีแล้ว ต้องกลับไปจัดการความเรียบร้อยและเตรียมการสำหรับงานเลี้ยง มาดามออกปากเชิญฉันไปร่วมงานอย่างเอื้ออารี

“เอ๋ จะดีเหรอคะ คือว่าจะเป็นการรบกวนเวลาของครอบครัว…”

“ไม่รบกวนเลยซักนิดเดียวค่ะ มีคนเยอะๆก็ครึกครื้นสนุกออกนะคะ”

“มาสิครับ คุณพี่เรย์กะ” ยูกิโนะคุงก็ช่วยคะยั้นคะยอ “พวกเราอยากฉลองปีใหม่กับคุณพี่เรย์กะนะครับ”

“โอเซจิที่บ้านเราอร่อยมากเลย” เอ็นโจมองฉันยิ้มๆ “หรือจะโอโซนิ เกาลัดเชื่อม โมจิหรือสาเกหวานก็มีนะ”

อย่าคิดสิว่าเอาของกินมาล่อแล้วฉันจะตกลงง่ายๆ เห็นฉันเป็นคนยังไงกันยะ

สามแม่ลูกมองฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่รู้สึกกดดันอยู่ในที

อยู่ในวงล้อมศัตรูแบบนี้ คนใจเล็กอย่างฉันไม่กล้าปฏิเสธก็เลยยอมตอบตกลงไป ยูกิโนะคุงและมาดามมีสีหน้าพึงพอใจ ส่วนเอ็นโจอมยิ้มตอนที่ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม

พอฉันหันไปมองค้อน อีตาเจ้าเล่ห์ก็ส่งยิ้มด้วยสายตาพราวระยับจนต้องเสมองไปทางอื่น ใจเต้นเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้

แพ้ทางสุดๆเลยอ้ะ

--------------------------------
กูเขียนตั้งแต่ก่อนปีใหม่ กระทั่งปีใหม่ผ่านพ้นแต่เพิ่งจะเขียนจบ ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่แบบเลทๆก็แล้วกัน 555555
ส่งต่อจ้า

19 Nameless Fanboi Posted ID:BKUa.Wk03

>>15-19 ขอบคุณจ้า เฮ้อ อ่านไปก็เขินไป ขอก้างเยอะๆหน่อยยยย

20 Nameless Fanboi Posted ID:xNZjLPwDd

>>15-19 ขอบคุณมากก /สูดกาวนอนหลับตาพริ้มในทุ่งลาเวนเดอร์
กูยิ้มจนปวดแก้มแล้ววววววววว แงT///T

21 Nameless Fanboi Posted ID:Sx9g7+kMW

>>15-19 ขอบคุณที่ทำให้เช้านี้ของกูแช่มชื่นค่ะ อ่านไปยิ้มไป แก้มจะแตกอยู่แล้ว

22 Nameless Fanboi Posted ID:r/YRhy0PS

ขอเทียบประโยคเดียวกันระหว่างจอมมารกับยูกิโนะกับผลตอบรับเจ้าแม่
จอมมาร:
สะดวกที่จะทำแบบนั้นอะไรของนาย ห๊า!! อย่ามาพูดจาสองแง่สองง่ามแบบนี้จะได้มั้ย แล้วก็ไม่ต้องชดเชยอะไรทั้งนั้นนะยะ ไม่อยากได้เลยซักนิด
ยูกิโนะ:
ทะ เทวดาน้อย เอาไว้หายดีก่อนค่อยทำนี่มันอะไรกันจ๊ะ อย่าพูดอะไรสองแง่สองง่ามแบบนั้นสิ
ความลำเอียงนี้555555
ปล.ขอบคุณที่ทำให้เช้าวันนี้กุสดใส>__<

23 Nameless Fanboi Posted ID:.KfTW4AjG

กูรักฟิคเวียน ชอบความหวานที่เหล่าเพื่อนโม่งประทานให้ กูต้องกลั้นยิ้มในที่ทำงาน
อยากเห็นการชดเชยของจอมมารหลังออกจากโรงพยาบาลจังเลยค่ะ จะชดเชยแบบไหนอะไรยังไงคะ//สัมภาษณ์

24 Nameless Fanboi Posted ID:wRFVnNm62

>>15-19 ขอบคุณสำหรับกาวในวันนี้ หวานฉ่ำมดยังอายมากเลย กูอ่านวนไปวนมาม้วนไปม้วนมาไปหลายรอบล่ะ ท่านเอ็นโจในชุดเสื้อคลุมหลังอาบน้ำมาก้มๆ เงยๆ ตรงหน้าเชียวนะคะ วรั๊ยยยยยยยยยยยยยย เขินแทนท่านเรย์กะ ไม่รู้จะเอาตาไปไว้ตรงไหน

กูลองนึกภาพท่านพี่ในชุดเดียวกันบ้าง ราชินีแสรดๆ อิมาริต้องเป็นข้าทาสมาไดร์ผมจัดทรงให้ท่านทาคาเทรุชัวร์ๆ อา เลือดกำเดามายามันจะทะลักละค่า!

25 Nameless Fanboi Posted ID:5N+.Cs266

โอ้ยยย จอมมาร ขนาดป่วยยังเจ้าเล่ห์ได้อีก

26 Nameless Fanboi Posted ID:.KfTW4AjG

>>24 อยากเห็นฟิคในสถานการณ์เดียวกันเหลือเกินค่ะ ท่านพี่ให้อิมาริไดร์ผมให้ ใครใจดีแต่งให้อ่านที

27 Nameless Fanboi Posted ID:i4iCOdBEo

มึง ฟิคเวียนยังไม่บทคันตะคุงเลย รีเควสบทให้น้องหน่อย
พาติซิเยหนุ่มไฟแรงสืบทอดกิจการที่บ้านงี้

28 Nameless Fanboi Posted ID:/dVKYIZZg

>>15-19 ดีต่อใจจุงเบย ขอบคุณ​มากนะโม่งฟิค

29 Nameless Fanboi Posted ID:nAgTRQnAV

>>27 กูว่าน้องที่ใส่ชุดปาติซิเย่ขาวล้วนคือดีงาม เวลาดุโคโรเน่ที่กินไม่หยุดแต่มือเติมขนมให้เรื่อยๆ คือความโมเอ้!

30 Nameless Fanboi Posted ID:81hpT+IVB

>>27 กูนึกถึงสาวที่คาดผมกับหนุ่มพาทิชิเย่เลย​ 5555

31 Nameless Fanboi Posted ID:FsuLoyJS6

ถ้ากูเขียนวายอิมาริ×ท่านพี่ลงในนี้ พวกมึงจะรับกันได้มั้ยวะ จั่วหัวเตือนว่าวาย อาจจะมีแค่จูบนิดๆหน่อยๆพอหอมปากหอมคอ แต่ไม่มีฉากเรท//เอ๊ะ หรือควรมี

32 Nameless Fanboi Posted ID:Nx7nZGZU+

>>31 ได้!!!!!! กูต้องการกาวววว
ปล.ชิลๆมึงจั่วหัวไว้พอ มู้เก่าๆก็เคยมีคนแต่งแล้ว

33 Nameless Fanboi Posted ID:CsCP.TYfb

จะว่าไปลืมแล้ว ว่าตระกูลทางแม่ของเรย์กะนี่นามสกุลอะไรนะ ซันเซงอิง

34 Nameless Fanboi Posted ID:LwXDglCBI

>>31 จัดมาค่ะซิส!

35 Nameless Fanboi Posted ID:Y2bME8H4X

>>33 ไม่มีบอกนะ จริงๆชื่อท่านพ่อ ท่านแม่ยังไม่มีบอกเลย

36 Nameless Fanboi Posted ID:MxUtTj44j

>>35 มึงพูดแล้วกูเพิ่งนึกขึ้นได้ นี่จริงๆ ท่านพ่อท่านแม่เป็นตัวละครไร้ชื่อระดับเดียวกับหัวหน้าห้องเลยเหรอวะเนี่ย...

37 Nameless Fanboi Posted ID:Pn4fnEqPS

>>36 ทานุกิก็ชื่อทานิกุไงล่ะ!!
>>31 จัดมาเลยมึงงง ความจริงกูก็กำลังแต่งอยู่ แต่ฟิคอีก2เรื่องยังดองอยู่เลย T^T

38 Nameless Fanboi Posted ID:8jeVq9J7D

จะว่าไป ริรินะเป็นลูกของน้องชายของทานุกิ ทำไมไม่ใช้นามสกุลคิโชอิน? แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง?

39 Nameless Fanboi Posted ID:9Wnz4GKR.

>>38 แม่ริรินะคงเป็นลูกสาวคนเดียวที่แต่งเขยเข้าบ้านมั้ง
ว่าไปทานุกิกับน้องชายนี่ก็เป็น pivoine ด้วยรึเปล่าวะ ครอบครัวเชื้อสายเก่าแก่แบบคิโชวอินน่าจะเลือกให้ลูกหลานเรียนซุยรันสืบต่อกันมานะ

40 Nameless Fanboi Posted ID:MxUtTj44j

>>39 จำได้ว่าริรินะได้ยินเรื่องราวของ Pivoine จากแม่ที่เป็นศิษย์เก่าซุยรันที่เป็น Pivoine นะ น่าจะเป็นผู้ปกครองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทางพ่อนี่คงไม่ใช่ศิษย์เก่าละมั้ง

41 Nameless Fanboi Posted ID:8jeVq9J7D

ไปเช็กดิบ สรุปในnekopostแปลผิด แม่รินินะ=น้องสาวทานุกิ

ถ้าน้องสาวเป็นPivoine ทานุกิก็น่าจะเป็นด้วยแหละ

42 Nameless Fanboi Posted ID:x2IwJiVzD

>>41 ความจริงแล้วทานุกิอาจจะเป็นจักพรรดิยุคเก่าก็ได้นะมึง แบบเสน่ห์แรงจนคุณแม่ต้องยอมแพ้อ่ะ

43 Nameless Fanboi Posted ID:MxUtTj44j

>>41 งั้นสมัยก่อนท่านพ่อก็เป็น Pivoine มีน้องสาวหนึ่งคน ฟังดูคุ้นๆ เหมือนท่านพี่ทาคาเทรุเลยว่ะ หรือว่าทานุกิก็เคยเป็นหนุ่มหล่อไฮโซมาก่อน....

44 Nameless Fanboi Posted ID:9Wnz4GKR.

>>43 กูว่าสมัยหนุ่มๆทานุกิก็หล่อนั่นล่ะ ไม่งั้นท่านแม่ไม่น่าจะยอมตกลงปลงใจด้วย อาจจะหล่อสไตล์นุ่มนวลอ่อนโยนมาดเนี้ยบแบบท่านพี่
ส่วนท่านพี่พอแก่ตัวไปอาจจะเป็นแบบทานุกิก็เป็นได้..........

45 Nameless Fanboi Posted ID:MxUtTj44j

>>44 กูว่าทานุกิอาจจะเป็นหนุ่มกะล่อนลีลาเยอะแพรวพราวแบบท่านอิมาริก็ได้นะ พอมาเจอท่านแม่แต่งงานกันก็รีบหาทางตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการทำลายหุ่นให้ตุ้มตุ้ย สาวจะได้ไม่มอง 55555

46 Nameless Fanboi Posted ID:9Wnz4GKR.

>>45 ว่าไปกูก็คิดถึงฟิคท่านแม่ว่ะ มาต่อทีเถ้อ 55555555555555

47 Nameless Fanboi Posted ID:X.hYDN374

>>44 ท่านพี่อาจจะคาดการณ์ไว้แล้ว จึงพยายามออกกำลังกาย และไม่กินมากก็ได้นะ

>>45 เคยมีโม่งให้ความเห็นว่า จริงๆ แล้ว ท่านพี่ก็ไม่น่าต่างกับเพื่อนมากนัก ที่มักไปไหนด้วยกันบ่อยๆ น่าจะไปตกหญิงด้วยกันก็ได้

48 Nameless Fanboi Posted ID:vlnnv9deR

>>47 ด้วยความสัตย์จริง ภาพอิมาริเป็นแฟนท่านพี่ มันเด่นชัดในสมองกูเกินไปจนกูนึกภาพท่านพี่จีบผู้หญิงไม่ออกเลย

ถ้าเอ็นโจเป็นโคลนนิ่งท่านพี่ ไม่ใช่ว่าตัวต้นฉบับก็มีลีลาจีบแบบไก่อ่อนเหมือนกันนะ แถมอาจจะเป็นสาวนิสัยคล้ายๆเรย์กะด้วยก็ได้

49 Nameless Fanboi Posted ID:SsN48fJvy

>>47 พอพูดมาแบบนี้ กูก็เผลอจิ้นอะไรไม่ดีไม่งามขึ้นมาทันทีเลยว่ะ 555555

50 Nameless Fanboi Posted ID:ByOC/OV2Z

>>47 ไม่โว้ยยย พวกมึงอย่าใส่ร้ายท่านพี่ของกู ตอนไปทัศนศึกษาท่านพี่ก็จะไม่ให้ท่านอิมาริเข้าห้องอยู่แล้วนะ!! ท่านพี่ไม่ใช่คนแบบนั้นเฟร้ยยย//กุมฟิลเตอร์กระจกตาแน่นมาก ท่านพี่คนดีของกู

51 Nameless Fanboi Posted ID:Ixl2gnDuj

>>50 ไม่ให้เข้าเพราะ​ซ่อนอะไร​ไว้---
อิมาริก็เคยพูดเป็นนัยนี่ว่าท่านพี่ไม่ใช่เล่นๆ.

52 Nameless Fanboi Posted ID:SsN48fJvy

>>50 บ้า ไม่ใช่ไม่ให้เข้าห้องเว้ย แค่ตื่นมารอ "เพื่อน" ที่หนีไปเที่ยวกลางคืนจนกลับเช้าก็เท่านั้นเอ๊ง//เสียงสูง
แถมไล่ออกจากห้องตอนเขาบอกรักคนอื่นทางโทรศัพท์อีกต่างหาก

53 Nameless Fanboi Posted ID:bHElMnHa6

//กลับไปขุดหาฟิคAUท่านแม่

54 Nameless Fanboi Posted ID:PEZ9i2meu

>>51 กูว่าที่ท่านพี่ห้ามเรย์กะไม่ให้ไปงานจบการศึกษาก็เพราะไม่อยากให้น้องสาวไปเห็นสภาพที่โดนสาวๆ รุมทึ้งและลีลาการหลบหลีกอย่างพริ้วของตัวเองนี่แหละ เดี๋ยวน้องสาวเสียศรัทธาในตัวท่านพี่คนดีหมด 55555

55 Nameless Fanboi Posted ID:cQ1dEhTsx

ท่านพี่นี่ถ้าจำไม่ผิดเป็นหนุ่มแว่นด้วยใช่มะ

56 Nameless Fanboi Posted ID:TaqUEqr37

>>55 แว่นเฉพาะกิจ ใส่แค่ตอนอ่านนส.

57 Nameless Fanboi Posted ID:joEeo7F/H

>>49 อะไรที่ไม่ดีไม่งามหรือมึง

>>54 กูเคยคิดนะว่าที่ท่านพี่ไม่ยอมให้น้องเข้าร่วมพิธีจบน่ะ คงเป็นเพราะ
1 มีแฟน ยังไม่อยากแนะนำตัวเพราะบางอย่าง
2 กลัวมีใครมาจีบน้อง
3 กลัวน้องไปปิ๊งใคร
(ข้อ 2,3 น่ะ ลองคิดดู ถ้าท่านพี่ไม่ห้าม น้องคงได้แฟนไปแล้ว สาวมอปลายที่ภาพลักษณ์เป็นผู้ใหญ่ กับหนุ่มมหาลัย ออกจะเข้ากัน)

หลังๆ มาคิดเหตุผลเพิ่ม หรือว่าท่านพี่ไม่อยากให้น้องไปเจอรักแรกวะ ที่เป็นประธานน่ะ เรียนคณะเดียสกันด้วยนี่

58 Nameless Fanboi Posted ID:PEZ9i2meu

>>57 ?? ตอนท่านพี่เรียนจบ รุ่นพี่โทโมเอะยังเรียนซุยรันอยู่เลยป่าวมึง

59 Nameless Fanboi Posted ID:Yps+PoPgN

>>57 ตอนท่านพี่เรียนจบ โทโมเอะยังเรียนม.ปลายอยู่เลยนะมึง ท่านพี่อายุห่างจากเรย์กะเจ็ดปี ส่วนโทโมเอะห่างสองปี ยังไงก็ไม่มีทางเจอท่านพี่ตอนเรียนมหาลัยได้อะ

60 Nameless Fanboi Posted ID:JhMr66T7s

>>58 >>59 เออว่ะ เห็นพูดถึงก็นึกว่าเรียนด้วยกัน ลืมเรื่องอายุเลยว่าห่างกันหลายปี

61 Nameless Fanboi Posted ID:WaQxuB233

ไปอ่านย้อนหลังแล้วสงสัยนิดๆว่ะ ที่เรย์กะจะถ่ายรูปจบการศึกษาแล้วขอนั่งข้างเอ็นโจแต่โดนปฏิเสธ คือสงสัยว่าทำไมต้องปฏิเสธหว่า อยากฟังความเห็นเพื่อนโม่งอะ

62 Nameless Fanboi Posted ID:TaqUEqr37

>>61 position ไม่สวยรึเปล่า แบบ สามผู้ยิ่งใหญ่ไปกองกันข้างเดียวหมด

63 Nameless Fanboi Posted ID:3Y4A2x7PW

กูคิดว่าถ้าเรย์กะนั่งข้างเอ็นโจ จะกลายเป็นว่าฮีอยู่ตรงกลางแทน ซึ่งไม่น่าจะดีเท่าไหร่ที่มาซายะจะต้องไปอยู่ริมๆหรือข้างๆ บทเด่นอะไรฮีก็ให้มาซายะเอาไปก่อนอยู่ตลอด ส่วนตัวเองก็เก็บกวาดอยู่ข้างหลัง จะให้ไปเด่นแข่งหรือแซงหน้ามาซายะ เอ็นโจไม่ยอมทำหรอก คุณสมบัติเพื่อนพระเอกในมังงะโชโจหรือพวกเกมจีบสาวมากๆ

อีกอย่างกูคิดว่าฮีลองเชิงนางเพื่อดูปฎิกริยาเป็นการทดสอบด้วย อยู่ใกล้ๆมาซายะจะเป็นยังไง อะไรประมาณนั้นอ่า

64 Nameless Fanboi Posted ID:BYrFa3Bsg

คิดว่าเอนโจเริ่มชอบเรย์กะตอนไหนกัน?

65 Nameless Fanboi Posted ID:ZWbffWc79

>>64 อาจจะฟังดูมาโซหน่อยๆ แต่กูคิดว่า ตอนโดนต่อยท้อง เซอร์ไพร์สจัด

66 Nameless Fanboi Posted ID:3Y4A2x7PW

>>64 กูว่ารักแรกพบ//อะไรนะ น้ำเน่าไปงั้นเหรอ

67 Nameless Fanboi Posted ID:/RD8xt8cX

>>65 ที่ชอบหักธงจมเรือกวนตีนเขาบ่อย นี่เรียกร้องอยากโดนต่อยอีกสินะ

68 Nameless Fanboi Posted ID:Mes8Q.GKt

>>64 คิดว่านางสนใจตั้งเเต่ งานฤดูร้อนครั้งเเรกอ่ะ แล้วดูๆไปเรื่อยๆจนมาถึงจุดที่ตกหลุมรักจุดเปลี่ยนน่าจะตอนที่นางโดนต่อยท้องนี่แหละ

69 Nameless Fanboi Posted ID:KXNb45eXp

>>64 กูว่าฮีสนใจตั้งแต่ไปทักเรื่องสีผมตอนเจอครั้งแรกแล้วว่ะ อาจจะคิดว่ายัยนี่พิลึกจริง แล้วก็มองมาเรื่อยๆ สั่นกระดิ่งเอย เต้นวอลซ์เอย โดนนกขี้ใส่เอย โดนกวางเตะเอย ถถถถถถถถถ ยิ่งคุณไม่เหมือนใคร ทำอะไรให้ประหลาดใจได้เสมอก็ยิ่งประทับใจ

จุดเปลี่ยนน่าจะอยู่ที่โทโมเอะเข้ามาในชีวิตของนาง บวกกับ...อ้าว รู้ตัวอีกทีก็มองแต่คุณไปซะแล้ว แต่มาแน่ใจว่ารักเขากูว่าช่วงม.4 นั่นล่ะ

70 Nameless Fanboi Posted ID:PamIhDRno

>>64 คิดว่าเริ่มสนใจตั้งแต่เด็กตอนที่บอกว่าได้ทำงานให้มาซายะคนที่คุณคิโชวอินชอบไง แต่เจ้าแม่ปฏิเสธแบบไม่ไยดีก็เลยเริ่มสนใจ จากนั้นก็สงสัยว่าจริงหรือเปล่านะ แล้วก็ค่อยๆ ดูปฏิกิริยาไปเรื่อยๆ ตามดูไปๆ มาๆ สนุกดีก็เลยกลายเป็นสโตกเกอร์แทน กูว่านี่แหละใช่เลย พัฒนาการของเอ็นโจ

71 Nameless Fanboi Posted ID:Y/Il31Sp3

>>64 น่าจะมองตั้งแต่แรกแล้วป่ะ อารมณ์​เด็กผมหลอดสะดุดตา ชอบแอบมองมาซายะบ่อยๆ ดูไปเรื่อยๆก็เห็นแต่พฤติกรรม​แปลกๆ จนรู้ตัวอีกทีก็หยุดมองไม่ได้ แถมพอโดนตุ๊ยท้องเลยแบบ... ใช่เลย 5555

72 Nameless Fanboi Posted ID:9DF.p6GkT

>>61 กูว่าตอนนั้นเอ็นโจชิปคาบุเรย์กะอยู่ เลยอวยให้ใกล้ชิดกัน คือตัวเองอยากใกล้ชิดแต่ให้เพื่อนออกหน้า

73 Nameless Fanboi Posted ID:9DF.p6GkT

>>64 คิดว่าชอบมาเรื่อยๆ สนใจมอง ตอนที่ดุริรินะนี่คงชอบแล้วล่ะ

74 Nameless Fanboi Posted ID:9DF.p6GkT

คิดว่าคาบุชอยเรย์กะไหม

75 Nameless Fanboi Posted ID:vEc5gpcPt

>>74 ยาก ดูจากความทุ่มเวอร์วังให้วาคาบะแล้ว กับเจ้าแม่ กูมองว่าเป็นพี่น้อง ไม่ก็เพื่อนซี้ปึ้กมากกว่า

76 Nameless Fanboi Posted ID:yLPeJ.GPa

กูยังแอบคิดอยู่ว่าเรื่องจะพลิกให้วาคาบะเป็นตัวร้ายแบบร้ายลึกมากกกกกกกกกกกกได้ไหม อย่างวาคาบะก็ฉลาดอยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนก่อนที่มีเสียงริงโทนดังในบ้านจังหวะเดียวกันกับที่คาบุโทรออกนี่วาคาบะอาจจะเดาเรื่องได้หมดก็ได้ ถ้ารู้ว่าจริงๆ แล้วเรย์กะสนิทกับคาบุและเป็นคนคอยช่วยวางแผนจีบอยู่เบื้องหลัง นางอาจจะมีเคืองหรือรู้สึกเหมือนถูกหลอกบ้างก็ได้นา

77 Nameless Fanboi Posted ID:3Y4A2x7PW

>>74 อันนี้ก็มิทราบ แต่ในความคิดกู กูว่าฮีมองนางเหมือนน้องสาวว่ะ
>>76 กูว่าวาคาบะรู้ทุกอย่างแค่ไม่พูด เผลอๆอาจจะเป็นเพื่อนกับเอ็นโจ แลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่ก็ได้

78 Nameless Fanboi Posted ID:g/D2bG.M/

>>76 ถึงขั้นเป็นตัวร้ายนี่ไม่ไหวมั้ง ต้อเคารพแกนหลักของเรื่องนิดนึง ท่านเรย์กะก็แหกไปคนละ--
ถ้ามารู้ทีหลังวาคาบะจังก็คงแค่มากสุดเคืองนิดหน่อยแหละกุว่า ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายขนาดนั้น

79 Nameless Fanboi Posted ID:CmS.0ZdeB

>>78 เคืองที่เจ้าแม่นอกใจ?แค่กๆๆ

80 Nameless Fanboi Posted ID:7bHH0xy0C

>>76 กูว่านางคงได้ข่าวสองคนนี้สนิทกันมาเยอะอยู่นะ น่าจะพอเดาออก อีกอย่างกูว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นประเด็นให้วาคาบะมาเคืองเรย์กะได้ วาคาบะรู้ก็คงแบบคุณคิโชวอินช่วยฉันทุกอย่างเลย น่าจะเพิ่มความนิยมที่มีต่อตัวเรย์กะได้อีก

81 Nameless Fanboi Posted ID:wzbNLSHoI

>>76 กูว่าวาคาบะนางก็มีความร้ายอยู่นะ แต่ก็ไม่ได้ร้ายอะไรมากมาย ออกแนวด้านมืดที่มีอยู่ในตัวทุกคนมากกว่า

82 Nameless Fanboi Posted ID:g0Tbr/b8l

>>81 เรื่องนี้ใสซื่อสุดก็ไซซายะอะ เชื่อกู

83 Nameless Fanboi Posted ID:yLPeJ.GPa

แมวดุ้นล่มยาวจังแฮะ ลากมาแต่เช้าแล้วนะ...

84 Nameless Fanboi Posted ID:5/Wnf7v6O

อยากให้นาโร่ล่มยาวแบบแมวดุ้นบ้าง เผื่อจะเป็นสัญญาณที่ดี ไม่เงียบเป็นเป่าสากอย่างนี้...

85 Nameless Fanboi Posted ID:XfQsqyQG6

>>84 มึงอย่าพูดแบบนี้สิ กูหนิใจคอไม่ดีเลย นี่อยากให้อ.ฮิโยโกะแกไม่ต้องอินดี้มากก็ได้ ถึงไม่เขียนต่อก็แวะมาบอกเล่าความเป็นไปของตัวเองบ้างก็ดี นี่ได้แต่นั่งอกสั่นขวัญแขวน... ฝั่งญี่ปุ่นที่ทนรอมาสี่เดือนกว่าแล้วนี่อึดเอาเรื่องเลยแฮะ

86 Nameless Fanboi Posted ID:0I5Pfd+Fd

น้องแมวตอนใหม่มาเลยล่มน่ะ กำลังรีบอ่านเลย

87 Nameless Fanboi Posted ID:qammVFF1o

เออ ในเรื่องนี่ไม่เคยบอกวันเกิดตัวละครเลยใช่ไหมนะ อีเวนท์ก็มีแต่งานกีฬาสี คริสมาสต์ วาเลนไทน์ ไม่เคยพูดถึงวันเกิดเลยนี่เหงาๆ ไปหน่อยแฮะ อยากทำเค้กให้ท่านเรย์กะบ้าง ซิกๆ

88 Nameless Fanboi Posted ID:4YRXpdgK1

>>87 ไม่เคยนะ ของมาโอะหรือยูกิโนะก็ไม่เคยบอกวันที่ด้วย กูคิดว่าของยูกิโนะเกิดราวๆเดือนมกรา ส่วนมาโอะเกิดเมษา

89 Nameless Fanboi Posted ID:IoXl9vtQi

ไม่แน่ที่หายไปนานๆกลับมาอีกทีอาจจะประกาศว่าเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์เป็นเล่มแล้วก็ด้ายยยยยย //กูนอนดมกาวอยู่อย่าเพิ่งปลุก

90 Nameless Fanboi Posted ID:IRNEtv84U

>>89 ถ้าเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์อาจจะอินดี้ ไม่มีรูปแนะนำตัวละคร มีแต่รูปอาหารขึ้นปกและในเล่มแบบสี่สี

91 Nameless Fanboi Posted ID:AM5v8nKwl

>>90 กูว่าด้านหลังน่าจะมีสูตรให้ไปทดลองทำจริงได้ อย่างช็อกโกแลตไร้รสชาติ ข้าวต้มเค็ม แกงกะหรี่มิราเคิลพุดดิ้ง

92 Nameless Fanboi Posted ID:i4WyfFhRJ

อาจจะไม่มีอัพตอนที่300แล้วก็ได้ โผล่มาก็ตีพิมพ์รวมเล่มไปเล่ย ดูจากเนื้อหาที่ใกล้เรียนจบแล้ว คงใกล้จบเรื่องจริงๆ

93 Nameless Fanboi Posted ID:8nL1R6A+x

>>92 กูว่ามันยังอีกยาวไกลนะ ยังไม่เข้าใกล้ไคลแมกซ์หลายๆเรื่องเลย อีเวนท์ก็อีกเยอะแยะที่มี อย่างน้อยๆก็ต้องงานดอกไม้ไฟ งานซัมเมอร์ งานกีฬาสี งานโรงเรียน ไหนจะงานหมั้นตามต้นฉบับเดิมอีก

94 Nameless Fanboi Posted ID:EvcxrH48o

บางอารมณ์ก็เพ้อๆ อยากอ่านภาคมหาลัยซุยรัน ภาคสาว OL แต่แล้วก็คิดได้ว่าขอตอนต่อไปก่อนเถอะ...

95 Nameless Fanboi Posted ID:d15JcSpsS

สมมตินะ ว่าถ้าลากยาวไปยันแต่งงาน รุ่นลูก คิดว่าเรื่องนี้อีกกี่ปีถึงจะไปถึงจุดนั้นวะ 10ปี+เลยอ๊ะป่าว

96 Nameless Fanboi Posted ID:iNpka9e0K

>>95 ถ้า3-6เดือนอัพทีแบบนี้ตอนนี้กูว่าน่าจะเกิน10ปีนะ

97 Nameless Fanboi Posted ID:sr0CXjuul

>>96 อย่าพูดเป็นลาง!! ตบปากตามอายุตัวเองเดี๋ยวนี้เลย!!

98 Nameless Fanboi Posted ID:8nL1R6A+x

แต่หายไปนานๆทีไร แกมักกลับมาพร้อมความพีคนะ ก็มาดูกันว่าตอนที่จะมาถึงนี่จะพีคมั้ย หรือจะเนิบเนือยลดน้ำหนักไปเรื่อยๆ

99 Nameless Fanboi Posted ID:d15JcSpsS

>>96 ถ้า 10 ปี เรายังจะตามเรื่องนี้กันอยู่มั้ยวะ อย่างตอนแรกๆที่กูติดดีเกรย์แมนมากๆ แต่หลังมันอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องบวกกับคนเขียนแกหยุดเขียนไปนาน ให้กลับมาอ่านอีกทีก็อ่านไม่สนุกเหมือนก่อนแล้ว

100 Nameless Fanboi Posted ID:f6W/zg6cp

>>99 กูเข้าใจฟิลนะ ถ้าเรื่องนี้เป็นเหมือนกันกูก็อาจจะไม่ตามต่อ หรือถ้าอยากอ่านมากจริงๆคงต้องเริ่มแต่ต้นเลยว่ะ

101 Nameless Fanboi Posted ID:PhU6HXVcD

ฮือเมื่อกี้เพิ่งตื่น ฝันดีมากมึง ฝันว่าจารย์แกอัพท่านเรย์กะตอนใหม่ เท่าที่จำได้
เริ่มเรื่องมาที่เจ้าแม่เข้าเรียนมหาลัยซุยรันแล้ว คือตัดตอนตั้งแต่เอ็นโจชวนไปดูดอกไม้ไฟออกเลย ในเรื่องเป็นท่านเรย์กะเข้ามาเยี่ยมเยียนห้อง Pivoine โรงเรียนแล้วก็เจอยูกิโนะคุงที่แผ่ออร่าเจ้าชายมากกว่าเดิม มีเล่าด้วยว่าบักมาซายะคบกับวาคาบะจังแล้ว เอ็นโจก็หมั้นกับยุยโกะเป็นพิธีการเลย ส่วนท่ายเรย์กะก็ยังโสดเหมือนเดิม ฮือ555
แล้วเหมือนระหว่างเดินคุยกับยูกิโนะก่อนเข้าสโมสรก็เจอหัวหน้าชมรมฟุตบอล(ชื่อไรนะ ถั่วแดง?) เจ้าแม่แกก็ไปคุยกับตานั่น จบด้วยการเรียนมอซุยรันเหมือนกัน และชวนไปทำอะไรสักอย่างที่มอ ลืมแล้ว มีการล้อท่านเรย์กะด้วยเรื่องยังไม่มีแฟน ซึ่งตัวเองก็ไม่มีเหมือนกันแหละ แถมเจ้าแม่ยังรู้สึกถึงสายตาอาฆาตของยูกิโนะคุงที่ส่งให้บักถั่วแดงนั่น จากกูก็ตื่นเลย ฮือออมึงง อารมณ์มันแบบจบปลายเปิดมาก ใครก็ได้เขียนฟิคกาวคู่นี้ให้ทีค่ะ ไม่ไหวแล้วววววว T///T

102 Nameless Fanboi Posted ID:f.bKUChbI

>>99 ไม่ต้องอีกสิบปีหรอก แค่ห่างไปเป็นเดือนๆ นี่กูก็กลัวแล้วว่าทุกคนจะลืมท่านเรย์กะกันหรือยัง กลัวละเกินว่ามาสครีมตอนต่อไปแล้วจะไม่มีคนคุยด้วย กูเหงานะฮืออออ

103 Nameless Fanboi Posted ID:sr0CXjuul

ทุกวันนี้กูยังไล่อ่านท่านเรย์กะตั้งแต่ตอนแรกวนไปวนมาอยู่เนี่ย ยิ่งทำให้กูรู้สึกว่าท่านเรย์กะมาไกลจริงๆเนี่ย แต่จะไกลกว่านี้ถ้าตอนใหม่มา ขอให้ท่านฮิโยโกะกลับมาในเร็ววันด้วยเถอะค่ะ สาธุ

104 Nameless Fanboi Posted ID:Tg1/2rDp.

คิดไปคิดมา ถ้าเราอ่านเจ้าแม่ใหม่แบบครั้งละตอนวันเว้นวันเหมือนตอนโม่งแปลลง เราจะมีเจ้าแม่ให้อ่านอีกปีกว่าๆเลยนะเว้ย

105 Nameless Fanboi Posted ID:UzJpvBjL.

>>101 ฝันได้เป็นฟิคแบบโคตรเรียล เป็นเรือที่ยิ่งกว่าเรือผีอีกนะ เพราะมีพลังงานน้อยกว่าเรือผีอีก ถถถถ

106 Nameless Fanboi Posted ID:xs4jEsWKl

>>101 ฝันเป็นขั้นเป็นตอนแถมยังเป็นเรือผีอีก กูเริ่มอยากอ่านต่อตามมึงละ ฮืออ

107 Nameless Fanboi Posted ID:f/+Qx1Ty.

>>101 หัวหน้าชมรมฟุตบอลผู้ซึ่งวันๆเอาแต่เตะบอลกับแอ๊วสาว VS เจ้าแม่กาลีแห่งมหาวิทลัยซุยรัน
นึกภาพออกเลย น่ารักอ่ะะ แต่เรื่อผีไปหน่อย5555555555

108 Nameless Fanboi Posted ID:KU3XHN1j4

>>107 กูว่าก๊าวอยู่นะ ต่างคนต่างตั้งชื่อเล่นน่ารักๆ ให้อีกฝ่ายด้วยนะเว้ย ท่านเรย์กะยังจะแอบเอาของขวัญไปใส่ไว้ในล็อกเกอร์ฝ่ายชายเลย 55555

109 Nameless Fanboi Posted ID:VHx74yAIk

ย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าๆที่เป็นมุมมองนักเรียนชายไร้ชื่อ เห็นบอกว่าอยากไปดูคุณคิโชวอินแต่งพ่อบ้านแกะเหมือนดูสิ่งสยองขวัญ เอาจริงๆนางก็สวยน่ารักไม่ใช่เรอะ ตะไมนักเรียนชายพวกนี้ถึงได้บอกนางเป็นสิ่งสยองขวัญกันฟระ

110 Nameless Fanboi Posted ID:BCPcdInJN

>>109 กูคิดว่ามันคือความกลัวๆ กล้าๆ เหมือนตอนจะดูหนังสยองขวัญว่ะ อยากดูก็อยากดู แต่ดูแล้วก็กลัวจะฝังใจ 55555

111 Nameless Fanboi Posted ID:nKvhS/pED

กูว่าถ้าไม่มีพวกเซริกะคอยกันซีน อาจจะมีคนมาจีบนางเยอะแล้วก็ได้นะ หรือจะมองเป็นดอกฟ้าที่ไม่อาจเอื้อมไปอีก...

112 Nameless Fanboi Posted ID:SYVSyakSG

>>111 แต่ดอกฟ้าที่ไม่อาจเอื้อมก็ยังดีกว่าเจ้ากาลีนะมึง 555

113 Nameless Fanboi Posted ID:EaO/FR/Y1

>>101 คู่นี้มันน่ารักนะมึง แนวคู่รักคู่กัดก๊าวๆ ใจ

ถ้าตามเวอร์ชั่นคิมิดอล ไดนากงก็เหมือนนายตัวสำรอง เอ็นโจคือไซซายะ ส่วนเจ้าแม่คือวาคาบะ TwT!

ชั้นเชียร์นายอยู่นะ! ไดนากง!!!

114 Nameless Fanboi Posted ID:u1IJxs/nQ

KY นิด Illust นุ้งหมาน่ารักชิบหายเลย ท่านเรย์กะ ไซซายะ ชูสุมอย วาคาชิบะ มิซึเซเชี่ยนมากันครบ ดูแล้วคิดถึงฟิคมะหมาจังว่ะ
https://img.etsystatic.com/il/79f636/1438273168/il_570xN.1438273168_9j78.jpg

115 Nameless Fanboi Posted ID:nKvhS/pED

>>114 อรั้ยยย น่ารักกกกก อยากได้กลับบ้านทุกตัวเลย

116 Nameless Fanboi Posted ID:VHx74yAIk

>>114 ซามอยด์แป้นแล้นมากลูก ส่วนฮัสกี้ดูไม่รั่ว...นี่มันหลอกลวง
คอร์กี้กูแอบนึกถึงยูกิโนะเบาๆ 55555555

117 Nameless Fanboi Posted ID:Fdqcrh+W/

>>116 ทางนี้เห็นน้องปอมแล้วคิดถึงอาคิซาสะคุงแฮะ ดูเป็นกระรอกมากๆ ถถถถถ

118 Nameless Fanboi Posted ID:8d.h+TIjQ

>>114 sheltie นึกถึงซาโตมิว่ะ ว่าไปในฟิคมะหมาซาโตมิก็ยังไม่มีบทใช่มะ 5555555

119 Nameless Fanboi Posted ID:uslBWCCXv

มาลงฟิคใหม่จ้า ซีรีย์สาววายซุยรัน เขียนเรื่อยๆไม่มีแก่นสาร ไม่มีสาระ เบาสมองไปวันๆ

-------------------------

“อึก..มาซายะ...”

เสียงหวานครวญครางเรียกชื่อเขา ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความเขินอาย ร่างบางบิดตัวไปมาน้อยๆจากความวาบหวามที่ได้รับจากร่างสูงเบื้องหน้า

“ชอบให้ฉันทำแบบนี้สินะ” ใบหน้าหล่อเหลาแย้มรอยยิ้มที่มีน้อยคนนักที่จะได้เห็น ยิ้มที่มีไว้เพื่อคนพิเศษของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

“มะ ไม่…”

“ปากแข็ง” มาซายะก้มลงไปจูบคนตัวเล็กใต้ร่าง อ้อมแขนกอดรัดจนทั้งสองร่างแนบสนิทไม่มีช่องว่างเหลืออยู่ “ฉันรู้ว่านายอยากให้ฉันทำอีก ชูสุเกะ”

“ยะ อย่า มาซายะ”

“นั่นล่ะ เรียกชื่อฉัน”

“มาซายะ…”
.
.
.
.

นี่มัน...อะไร….

ผมถามตัวเองในใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบ ในขณะที่สายตาก็ไล่อ่านบรรทัดถัดไป แล้วก็ถามตัวเองอีกรอบว่าผมกำลังทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นวัฎจักร

แต่เพราะนึกถึงเธอคนนั้น ผมเลยต้องบังคับตัวเองให้อ่านต่อไปอย่างช่วยไม่ได้

เพราะคุณคนเดียว ผมถึงต้องทำขนาดนี้
.
.
.

เรื่องมันเริ่มมาจากวันหนึ่งที่อากาศสดใส ผมพบกับคุณคิโชวอินที่หน้าโรงเรียน กะว่าจะเข้าไปทักแล้วเดินเข้าโรงเรียนไปด้วยกันแบบเนียนๆสักหน่อย แต่กลับเจอเรื่องผิดคาดที่คุณคิโชวอินปรี่เข้ามาหา ทักทายผมด้วยเสียงอ่อนหวาน

ผิดปกติ ผิดปกติสุดๆ

แม้ในใจอยากจะถามว่ามันเรื่องอะไรกัน แต่ผมก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้ผ่านไป ในเมื่อเธอหยิบยื่นมาให้ ผมก็น้อมรับมันเอาไว้ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง

ปกติในสถานการณ์แบบนี้เราจะคุยกันเรื่องยูกิโนะ แต่วันนี้เธอกลับถามไถ่เรื่องเกี่ยวกับมาซายะอย่างกระตือรือร้นจนผมต้องเลิกคิ้วขึ้น รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา

“เอ แล้วท่านเอ็นโจเคยเล่นเปียโนคู่กับท่านคาบุรากิรึเปล่าคะ”

“ก็มีบ้างนะ แต่ไม่บ่อยหรอก บางทีมาซายะก็ให้เป็นคู่ซ้อม”

“งั้นหรือคะ แหม ทั้งสองท่านบรรเลงเปียโนด้วยกันคงจะเป็นภาพที่งดงามราวกับภาพวาดเลยนะคะ ฮุๆๆๆ”

คุณคิโชวอินพอได้คำตอบก็กระหยิ่มยิ้มย่อง ขอตัวเข้าห้องเรียนไปด้วยท่าทางอารมณ์ดีสุดๆ ทิ้งผมไว้กับความขุ่นมัวที่ได้รับตั้งแต่เช้า

ตอนพักเที่ยง ผมนั่งมองคุณคิโชวอินที่ทานอาหารอยู่กับเพื่อนๆอย่างเคย แต่วันนี้ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ร่วมวงสนทนากับเพื่อน แต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่

แม้เธอจะพยายามทำหน้านิ่งๆ แต่ก็มีหลุดอมยิ้มออกมาบ้าง อ่านอะไรกันนะ

ในห้องสโมสร เธอก็ยังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือที่ดูจะเป็นเล่มเดียวกับเมื่อกลางวัน บางทีก็หัวเราะคิกคัก ท่าทางจะสนุกมาก

เธอเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ พอเห็นผมมองอยู่ก็ส่งยิ้มให้แล้วหลบสายตาไปทางอื่น แต่ปากยังยิ้มอยู่

เห็นเธอยิ้ม ผมก็ควรจะยิ้มตามเหมือนอย่างเคย แต่วันนี้กลับรู้สึกแปลกๆกับรอยยิ้มนั่นอย่างไรชอบกล ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว….ดูเป็นรอยยิ้มไม่น่าไว้ใจและมีอะไรเคลือบแฝงอยู่จนรู้สึกเสียวสันหลัง

เมื่อขนมในจานหมดลง คุณคิโชวอินก็ลุกขึ้นยืน วางข้าวของทิ้งไว้แล้วไปตักขนมมาเพิ่ม ผมถือโอกาสนั้นไปมองสำรวจหนังสือเล่มที่ว่า หยิบมันขึ้นมาดูใกล้ๆ

มันเป็นหนังสือที่มีความหนาไม่มาก หน้าปกเป็นรูปสีน้ำที่ดูแล้วสบายตา เป็นภาพของผู้ชายสองคนในชุดสีขาวนั่งเล่นเปียโนบนเก้าอี้ตัวเดียวกันในฉากหลังที่ดูแล้วคุ้นๆ คล้ายๆว่าจะเป็นที่สโมสรนี่เลย

“กระซิบรักผ่านเสียงเพลง” คือชื่อเรื่องของหนังสือเล่มนี้ เขียนโดย เซ็นโนะ ซาระ

ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน สงสัยจะเป็นผลงานของมือสมัครเล่นที่พิมพ์ขายในอินเตอร์เน็ต

ลองพลิกไปข้างหลังหาเรื่องย่อ มันก็ดูจะเป็นนิยายรักปกติทั่วไป แต่มันไม่ปกติที่ผมเห็นชื่อตัวเองอยู่บนนั้น

“การใช้ชีวิตอยู่ข้างคนที่ไม่ได้รักตอบมันช่างเจ็บปวด ชูสุเกะที่เผชิญหน้ากับความรักที่ไม่สมหวังอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ต้องทุกข์ระทมขมขื่น….”

120 Nameless Fanboi Posted ID:uslBWCCXv

เหลือบมองไปที่ซุ้มตักขนม คุณคิโชวอินวางที่คีบลงแล้วและกำลังจะเดินมาทางนี้ในอีกไม่ช้า ผมเลยต้องรีบวางหนังสือคืนที่เพราะกลัวจะถูกดุเรื่องเสียมารยาทแอบค้นข้าวของส่วนตัวของเธอ เดินกลับไปนั่งที่เดิมกับมาซายะ มองคุณคิโชวอินที่นั่งหัวเราะคิกคักกับหนังสือต่อไป

เมื่อได้เวลาที่ต้องกลับ คุณคิโชวอินก็ลุกขึ้นยืน ปรายตามองมาทางพวกผม อมยิ้มอีกเล็กน้อยแล้วก็เดินออกไปจากห้องสโมสรอย่างเบิกบาน

ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนสาวๆจำนวนหนึ่งในห้องสโมสรจะมีสายตาแปลกๆเวลาที่มองมาทางนี้ ปกติแล้วพวกเธอมักจะมองด้วยสายตาชื่นชมหรืออะไรทำนองนั้น แต่วันนี้กลับมีสายตาที่ดูเหมือนจะรู้ทัน เห็นอกเห็นใจ หรือสายตาอยากรู้อยากเห็น...ถ้าเดาไม่ผิดล่ะนะ

ในหัวผมมีแต่คำถามว่าทำไม เกิดอะไรขึ้น แล้วหนังสือเล่มนั้นมันคืออะไรถึงทำให้เธออารมณ์ดีได้ขนาดนั้น แต่ถ้าจะถามตรงๆ เดี๋ยวจะเหมือนเป็นการแหวกหญ้าให้กระต่ายตื่นซะเปล่าๆ แถมไม่น่าจะได้คำตอบอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันด้วย ลองสืบด้วยตัวเองก่อนดีกว่า

บางที หนังสือเล่มนั้นอาจจะช่วยไขคำตอบเรื่องราวแปลกๆพวกนี้ได้
.
.
.

เมื่อกลับมาบ้าน ผมก็ลองหาชื่อนิยายเรื่องนั้นในอินเตอร์เน็ต ดูเหมือนจะดังพอสมควรเพราะมีหลายบล็อคที่รีวิวนิยายเล่มนี้ ผมเลยคลิกเข้าไปแบบสุ่มๆดูกระแสตอบรับของแต่ละบล็อค

“คราวแรกก็คิดว่า หวายย เป็นรักในรั้วโรงเรียนอีกแล้วเหรอเนี่ย น่าเบื่อจัง แต่พอได้อ่านแล้วกลับวางไม่ลง นิยายเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ความรักของวัยรุ่นทั่วไปเท่านั้น แต่มีเรื่องของการฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อให้ได้ครองรัก ทุกอย่างลงตัว กลมกล่อม ผูกโยงเรื่องด้วยถ้อยคำสวยงาม พล็อตเรื่องกระชับ ไม่มีตรงไหนเยิ่นเย้อน่าเบื่อเลย ฉันชอบมันมากๆ ขึ้นแท่นนิยายเรื่องโปรดอันดับหนึ่งไปแล้วเรียบร้อย”

“งดงาม ซาบซึ้ง ตรึงหัวใจ...ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนบรรยายเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ได้อีกแล้ว อาจารย์เซ็นโนะสร้างสรรค์ผลงานได้ยอดเยี่ยมอีกตามเคย สำนวนงดงาม เหมือนจะได้ยินบทเพลงลอยออกมาจากตัวอักษร ฉากรักก็ทำออกมาได้ดีและยอดเยี่ยม ไม่น่าเชื่อว่าคนเงียบขรึมหน้านิ่งอย่างมาซายะจะอ่อนหวานต่อคนรักได้ขนาดนี้ ทุกอย่างนุ่มนวล เต็มไปด้วยความละมุนละม่อม อ่านแล้วแทบจะละลายคาหนังสือ ดีต่อใจเหลือเกิน”

“ฉันชอบความละมุนของชูสุเกะเวลาที่อยู่กับมาซายะมากๆ ช่างอ่อนโยนเหลือเกิน อ่านแล้วเชื่อว่าพวกเขารักกันจริงๆ และมีตัวตนอยู่จริงบนโลกใบนี้ ฉันอยากจะบอกกับพวกเขาว่าขอให้รักกันนานๆนะคะ”

ชูสุเกะ….มาซายะ…..

ถึงชื่อจะเขียนด้วยคันจิคนละตัว แต่อ่านได้ว่าชูสุเกะกับมาซายะไม่ผิดแน่ มันจะบังเอิญเกินไปรึเปล่า

ผมอ่านรีวิวหลายๆอัน ทุกบล็อคให้คะแนนดีเยี่ยมเกือบหมด จะมีติบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่ก็พอจะมองข้ามได้ ไม่ได้น่าเกลียดอะไร

พออ่านรีวิวจบ ผมก็ต้องมาปรับจูนความคิดตัวเองอยู่นาน

ดูเหมือนว่านิยายเรื่องนี้จะเป็นนิยายชายรักชาย ที่ดันมีชื่อเหมือนผมและมาซายะ มิน่า คุณคิโชวอินถึงได้ยิ้มอะไรแปลกๆแบบนั้น

เธอชอบจับคู่ผมกับมาซายะให้เป็นคู่ขากันอยู่เรื่อย พออ่านเรื่องนี้ถึงได้มีความสุขขนาดนั้นเลยสินะ

เพื่อจะได้เข้าใจเธอมากยิ่งขึ้น ผมเลยคลิกเข้าเว็บเพจที่เป็นศูนย์รวมของการขายหนังสือทำมือ เข้าไปที่หมวดสั่งสินค้าออนไลน์ ดูเหมือนนักเขียนรายนี้จะมีผลงานตีพิมพ์หลายเล่มแล้ว บางเรื่องก็ขึ้นว่า Out of Stock ส่วนเรื่องที่คุณคิโชวอินอ่านมีคำว่า New! เป็นผลงานใหม่ล่าสุด

ผมคลิกสั่งซื้อมาหนึ่งเล่ม ตอนที่คลิกตกลงจ่ายเงินก็มีความรู้สึกเหมือนกำลังจะขายวิญญาณให้ปีศาจอย่างไรชอบกล แต่พอนึกถึงรอยยิ้มของคุณคิโชวอินที่อ่านอย่างมีความสุขแล้ว ผมก็ตัดสินใจแน่วแน่

กะอีแค่อ่านนิยายชายรักชายคงไม่ถึงกับตายหรอกน่า

.
.
.

121 Nameless Fanboi Posted ID:uslBWCCXv

ถึงไม่ตาย ก็เกือบๆแล้ว

ผมนั่งอึนอยู่ตรงหน้าหนังสือที่อ่านค้างไว้ครึ่งเล่ม

เนื้อหาในเรื่องเกี่ยวกับ “เอ็นโจ ชูสุเกะ” ที่แอบหลงรัก “คาบุรากิ มาซายะ” ข้างเดียวมานานเป็นสิบปี รักมาตั้งแต่แรกพบ แม้มาซายะจะเที่ยววิ่งตามใครต่อใครแค่ไหน ชูสุเกะก็จะรออยู่เสมอ คอยปลอบใจ ดูแล แม้ตัวเองจะต้องเจ็บปวดก็ตาม

ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของชูสุเกะคือการได้นั่งเล่นเปียโนเคียงข้างกับมาซายะในห้องสโมสร ช่วงเวลานั้นจะเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขที่สุด เหมือนอยู่ในโลกที่มีแต่เราสองคน คนอื่นไม่สามารถย่างกรายเข้ามาได้

ในนิยายบรรยายฉากนี้ด้วยถ้อยคำสวยหรูเหมือนอ่านบทกวี เสียงเปียโนของมาซายะและชูสุเกะขับกล่อมประสานจนเป็นท่วงทำนองเดียวกัน ฉากมาซายะได้จูบชูสุเกะเป็นครั้งแรกที่เปียโนริมหน้าต่าง อันเป็นที่ประจำที่เขาทั้งสองชอบอยู่ด้วยกัน ไปจนถึงฉากอย่างว่า มันก็เป็นนิยายที่ใช้ภาษาได้งดงามละมุนละไม เสียอยู่อย่างเดียวตรงที่พอจินตนาการเป็นผมและมาซายะ ขนแขนก็จะลุกวาบขึ้นมาทันที

ดูเหมือนผมจะได้เป็นฝ่ายรับ...เอ่อ หมายถึงฝ่ายที่ถูกกระทำ เขาเรียกว่าอุเคะ...ใช่มั้ยนะ

ส่วนมาซายะเป็นฝ่ายกระทำ เรียกว่าเซเมะ….

ร่างบาง…. เสียงหวาน... คนตัวเล็กกว่า... ผมมีอะไรที่สื่อถึงร่างบางและเสียงหวานตรงไหนกันนะ!! ผมกับมาซายะก็ตัวพอๆกันนั่นล่ะ!!

แล้วใครที่แอบรักเขามาข้างเดียวเป็นสิบปีกัน รักน่ะรักแน่ แต่ไม่ใช่มาซายะซักหน่อย...ทำไมนิยายเรื่องนี้ถึงได้เขียนออกมาแบบนี้กันห๊ะ!!

กว่าจะจบไปอีกบทก็เล่นเอาเหนื่อยไม่น้อย ผมโยนหนังสือที่อ่านค้างไว้ครึ่งเล่มไปบนโต๊ะ นวดหว่างคิ้วตัวเองแบบรู้สึกปวดหัวขึ้นมาหน่อยๆ

คุณคิโชวอินชอบแบบนี้งั้นเหรอ...ชอบที่จะเห็นผมเป็นฝ่ายถูกกระทำใช่มั้ย

เพื่อจะทำความเข้าใจในด้านนี้มากขึ้น ผมก็เข้าอินเตอร์เน็ตที่จะช่วยให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ บางบล็อคก็ให้ความเห็นว่า

“ฉันเองก็ชอบจิ้นแฟนของฉันกับเพื่อนของเขาเหมือนกัน แต่ให้แฟนฉันเป็นฝ่ายรับนะคะ ก็แหม...แฟนของฉันเวลาหน้าแดงเขินอายก้มหน้างุดๆมันน่ารักมากเลยนี่น่า ให้ความรู้สึกว่าอีตานี่เคะชะมัด”

“ใช่ๆ บางทีฉันเห็นเขาอยู่กับเพื่อนๆของเขา ทั้งที่แฟนฉันตัวสูงกว่า ล่ำกว่า แต่ฉันกลับคิดว่าถ้าสองคนนี้คู่กัน แฟนของฉันต้องเป็นฝ่ายรับอย่างแน่นอน เคะสูงกว่ามันก็เร้าใจนะคะ ความสูงมันไม่มีผลในแนวราบซักหน่อย”

“ฉันก็ชอบให้แฟนของฉันเป็นอุเคะเหมือนกันน้า แต่ฉันนี่ล่ะที่เป็นเซะเมะ จะว่าหวงแฟนก็ได้นะ แต่ฉันชอบแฟนของฉันเอามากๆเลย อยากเก็บไว้รังแกอยู่คนเดียวไม่แบ่งใคร ถ้าแกล้งให้ร้องไห้ได้น่าจะฟินฝุดๆ”

และอีกมากมายที่เหมือนจะเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าอยากเห็นคนที่ชอบเป็นฝ่ายถูกกระทำ ทำเอาผมต้องนวดขมับ รู้สึกปวดหัวขึ้นมาจริงๆ

รสนิยมบนโลกนี้มันช่างหลากหลาย...

ไม่เห็นจะเข้าใจเลย จะจินตนาการให้แฟนตัวเองตกเป็นของผู้ชายคนอื่นมันดีตรงไหนกันนะ

แต่ถ้าคุณคิโชวอินชอบแบบนี้ ผมก็จะพยายาม เผื่อจะเข้าใจคุณได้มากขึ้นอีกนิดก็ยังดี

---------------------------------------------
เรื่องนี้จะเขียนสลับมุมมองกันไป อาจจะหลุดคาร์ไปบ้างก็ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง

122 Nameless Fanboi Posted ID:JEVTF687X

>>119 -121 วงวารชิบหาย 5555555

123 Nameless Fanboi Posted ID:gP.sQIB5t

ชื่อคนแต่งดูคุ้นเคย55555 ถ้าคาบุอ่านกูว่าต้องมีการเดินไปถามเจ้าแม่ตรงๆแน่อ่ะ//แล้วแก๊งสาววายซุยรันก็จะวงแตกจนต้องไปแอบแต่งต่อใต้ดินถถถถ

124 Nameless Fanboi Posted ID:7EPGVX34+

>>199-121 กาวค่ดดี ดีงามมาก ตอนต้นบทนี่บอกเลยว่ากุกำเดาสายรุ้งทะลักอ่ะ แต่ว่าชื่อคนแต่งก็คุ้นๆยังไงไม่รู้สิ ระวังจะได้เปิดประตูสู่โลกใหม่แล้วกลับมาไม่ได้นะจ้ะ 55555

125 Nameless Fanboi Posted ID:rNLIBLuHU

>>199-121 โอ๊ยยยย มีความละมุน 5555 เล่นเอาอยากอ่านฉบับเต็มของท่านซาราระเลยค่ะ สมาคมสาววายซุยรันตั้งอยู่หนใด จิขอยื่นใบสมัครค่าาาา

126 Nameless Fanboi Posted ID:d1LrWqCSs

>>119-121 โอ้ยยยย ทำเอาอยากอ่านนิยายจริงๆขึ้นมาเลยอะ ท่านซาราระเป็นพวกเดียวกับเราสินะคะ

127 Nameless Fanboi Posted ID:Al+GOjY7q

>>119-121 You made my day

128 Nameless Fanboi Posted ID:Ndl.n/4N0

เห็นคู่คาบุเอ็นโจแล้วก็นึกถึงสมัยท่านพี่กับอิมาริเรียนอยู่ จะมีคนจิ้นสองคนนี้รึเปล่าหว่า หรือไม่ต้องจิ้นเพราะเห็นๆกันอยู่แล้วว่าใครเป็นตัวจริง 5555555555

129 Nameless Fanboi Posted ID:RXuXw/yRB

ขอเอ็นโจคาบุบ้างได้ไหมคะ😚😚💕💕

130 Nameless Fanboi Posted ID:t5t18Ndl+

>>119-121 โว้ยยยยยยยยยยย วงวารจอมมาร 5555555555555555555555555555555555555555555555

131 Nameless Fanboi Posted ID:ZxLNJ4El6

555 ร่างบาง เสียงหวาน แต่ที่จริงผมกับมาซายะก็ตัวพอๆกันนั่นล่ะ!!

กูอ่านฟิกวายทั่วๆ ไปไม่ค่อยรอดเพราะมักจะเจอคีย์เวิร์ด 2 คำนี้นี่หละ ทำไมอีกฝ่ายต้องออกสาวซะขนาดนั้นวะ เคะนี่ร่างบางตลอดๆ เจอทีไรกูก็นึกทุกทีว่า มันจะแมนๆ ด้วยกันไม่ได้เรอะ ฮ่วย

ว่าแต่ท่านเอ็นโจกรูจะต้องยอมขายวิญญาณให้ซาตานเพื่อคุณคิโชวอินเหรอเนี่ย เห็นสาวเค้าชอบแบบนั้นแต่จะเอาใจเค้านี่มันเฉียดๆ พลีชีพเลยนา จะไหวเร้อ แค่อ่านฟิกก็ขนแขนสแตนด์อัพแล้วน่ะ 555

132 Nameless Fanboi Posted ID:ktVDfdVxW

>>131 ทำให้นึกว่าถ้าฮีไปเจอคุณคิโชวอินกำลังอ่านเล่มที่ตัวเองเป็นเมะ มาซายะเป็นเคะแล้วฮีจะทำโชว์เลยป่ะวะ เชยคางมาซายะน้อยงี้ เซอร์วิสเล็กๆ น้อยๆ ผมยินดีบริการเพื่อให้คุณมีความสุข ถถถถถถถถถถ

133 Nameless Fanboi Posted ID:ZxLNJ4El6

>>132 เออเนอะ ถ้าตัวเองเป็นเมะอาจจะพอทำใจได้มากกว่าป่าว 555

134 Nameless Fanboi Posted ID:YadRN23BY

>>132 แล้วไซซายะก็จะนึกว่าเอ็นโจโดนปีศาจเข้าสิง.....
>>128 กูว่าจับคู่จนเบื่ออ่ะมึง วัตถุดิบทุกวัน 108auเอาให้แม่งครอบจักรวาล5555

135 Nameless Fanboi Posted ID:u2E.bZxHE

>>134 ไอระกับยูริเอะอาจจะมีฟิค มีโดคู่นี้จนเต็มห้องก็ได้นะ 55555555555

136 Nameless Fanboi Posted ID:ChuaaCOEQ

บล็อกหมายเลข3นี่ซากุระจังรึเปล่านั่น...

137 Nameless Fanboi Posted ID:u2E.bZxHE

>>136 คนแรกกูเดาว่าน่าจะเป็นมิฮารุ ส่วนคนที่สองน่าจะคุณโนโนเสะ คนที่สามซากุระจัง 55555555

138 Nameless Fanboi Posted ID:ktVDfdVxW

ถ้ายูกิโนะคุงไปหยิบนิยายเล่มนั้นมาอ่านต่อจะเป็นไงวะ จะสนองบุญคุณพี่ชายด้วยการเป็นพ่อสื่อให้กับมาซายะไหม 555555

139 Nameless Fanboi Posted ID:LH9+4QLGq

โอยยยย ฟิคดีงามเว่อออออ แต่ถ้ากุจิ้นนี่ไซซายะต้องเคะเซ่55555ซื่อๆงี้โดนจอมมารหลอกแต๊ะอั๋งบ่อยๆ ฮี่ๆๆๆ

140 Nameless Fanboi Posted ID:kJR6ZZEJa

>>119-121 ฮืออออออ กูรักฟิคนี้ เอาอีกค่ะเอาอีกกกก

141 Nameless Fanboi Posted ID:o/aqFt.YA

มาต่อกันกับซีรีย์สาววายซุยรัน
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/5401/119-121
-------------------------

ช่วงนี้ใกล้สอบเก็บคะแนน ฉันเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีก็เลยชวนทาคามิจิมาอ่านหนังสือด้วยกันตอนสุดสัปดาห์นี้

ฉันเป็นผู้ชายที่เตรียมพร้อม ก่อนไปชวนก็หาข้อมูลจากนิตยสาร ก็เจอคาเฟ่บรรยากาศดีๆที่สามารถใช้ติวหนังสือสอบได้ด้วย พอบอกไปแบบนั้นทาคามิจิก็ตกลงง่ายๆพร้อมกับรอยยิ้มน่ารักที่ทำให้หัวใจพองโต

ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมที่สุด

ฉันอ่านหนังสือทบทวนก่อนที่จะไป เผื่อว่าทาคามิจิทำข้อไหนไม่ได้ ฉันก็จะแสดงตัวเป็นสุภาพบุรุษ “ช่วยไม่ได้นะ เดี๋ยวจะสอนให้ก็แล้วกัน” ทาคามิจิจะต้องประทับใจฉัน ตอนเย็นอาจจะชวนไปทานดินเนอร์เบาๆในร้านสามัญชนแบบบ้านๆ บางทีอาจจะชวนไปเที่ยวที่ไกลๆผ่อนคลายบรรยากาศหลังสอบเสร็จ ที่ไหนดีนะ...ทุ่งดอกไม้ ทะเล ภูเขา แม่น้ำ

ต้องเอาเป็นสถานที่ที่ไม่ไกลจากโตเกียวมาก เดินทางไปเช้าเย็นกลับได้ ทางบ้านทาคามิจิจะได้ไม่เป็นห่วงที่พาลูกสาวเขาไปไหนไกลๆ

ฉันเปิดนิตยสารหารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวอีกหน เจออะไรน่าสนใจก็แปะโพสท์อิททิ้งไว้ก่อนแล้วค่อยมารวบรวมข้อมูลเพื่อการตัดสินใจในทีเดียว อ่านจนหมดกองก็เอามาคัดเลือกอีกทีจนได้มาสองสามที่ที่คิดว่านี่ล่ะ โอเค

โอ๊ะ ตีสองแล้วเหรอ...พรุ่งนี้มีนัดกับทาคามิจิ รีบนอนดีกว่า เดี๋ยวหน้าโทรมขึ้นมาล่ะแย่เลย
.
.
.
.

ฉันนัดเจอกับทาคามิจิที่หน้าสถานีรถไฟใกล้ๆกับคาเฟ่ร้านนั้น พอลงจากรถได้ไม่นานก็เจอทาคามิจิที่วิ่งเหยาะๆข้ามถนนมาหา สองข้างแก้มขึ้นสีชมพูระเรื่อนิดๆ มีเหงื่อซึมไรผมเล็กน้อย

“ขอโทษนะที่มาช้า รอนานมั้ยคาบุรากิคุง”

“ฉันเพิ่งมาถึงเหมือนกัน”

ฉันยิ้มให้ทาคามิจิ ลอบสังเกตรายละเอียดประจำวันไปด้วย วันนี้ทาคามิจิแต่งตัวด้วยชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่ดูหลวมๆกับกางเกงขายาวสีดำ สะพายเป้สีน้ำตาลอ่อนไว้ข้างๆ ในมือถือหนังสือแบบเรียนอยู่สองสามเล่ม

เหมือนทาคามิจิจะสังเกตถึงสายตาของฉันที่มองหนังสือในมือ เพราะพูดขึ้นมาว่า “อ๋อ พอดีตอนนั่งรถไฟมาเกิดนึกวิธีแก้โจทย์ออกก็เลยหยิบหนังสือขึ้นมาทำน่ะ ทำเพลินไปหน่อยจนเกือบเลยสถานีแน่ะ”

ว่าแล้วทาคามิจิก็หัวเราะแหะๆออกมา ส่วนฉันส่ายหน้านิดหน่อย “ไม่ไหวเลยนะ”

เราสองคนเดินคุยกันไปตลอดทางที่จะถึงคาเฟ่ สั่งเครื่องดื่มและขนมกันคนละอย่างสองอย่างแล้วเดินถือถาดเข้าไปนั่งที่โต๊ะที่มันว่างอยู่ ได้โต๊ะมุมในสุดที่ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวพอดี

ทบทวนเนื้อหาจนทะลุปรุโปร่ง ฉันก็ท้าทาคามิจิแข่งกันทำโจทย์คณิตศาสตร์ ยัยนั่นก็ตกลงง่ายๆ ไฟแห่งการแข่งขันโหมกระพือในดวงตา

ภาพที่ทาคามิจิตั้งอกตั้งใจทำโจทย์ บางทีก็ขมวดคิ้วหน่อยๆตอนที่แก้โจทย์ยังไม่ได้ แต่พอแก้ได้ก็ยิ้มออกมาแบบดีอกดีใจ ช่างดูน่ารักอะไรอย่างนี้

ฉันแก้โจทย์เสร็จแล้วก็นั่งจ้องทาคามิจิที่มุ่งมั่นกับการเขียนคำตอบ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าฉันจ้องอยู่

เวลาที่ตกลงกันไว้คือสามสิบนาที ฉันทำโจทย์เสร็จหมดทุกข้อ ส่วนทาคามิจิเหลืออยู่สองข้อ พอรู้ถึงความพ่ายแพ้ ยัยนั่นก็ฟุบลงกับโต๊ะแบบหมดแรงหน่อยๆ

“โธ่ แพ้คาบุรากิคุงอีกแล้วอ้ะ”

“จะเอาชนะฉันมันยังเร็วไปร้อยปี”

“เดี๋ยวขอแก้มือก่อน คราวนี้ต้องทำได้แน่ๆ”

“รับคำท้า” ฉันยิ้มให้ทาคามิจิ หยิบแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม

142 Nameless Fanboi Posted ID:o/aqFt.YA

สถานการณ์ที่ซ้อมมาตอนนั่งแก้โจทย์ได้เป็นจริงขึ้นมาตอนนี้ ฉันอธิบายข้อที่ทาคามิจิเว้นไว้ให้ฟัง พอยัยนั่นเข้าใจแล้วก็ยิ้มขอบคุณออกมา แล้วก็บอกว่าจะเลี้ยงขนมเอง

ฉันมองตามแผ่นหลังของทาคามิจิที่เดินไปสั่งขนมกับเครื่องดื่มชุดใหม่ หน้าเคาน์เตอร์มีคิวยาวเหยียด พอบอกว่าจะไปช่วยรอ ทาคามิจิก็บอกว่าไม่เป็นไรให้ฉันอยู่เฝ้าโต๊ะไว้ดีกว่า ฉันเลยต้องตกลงตามนั้น

สงสัยวันนี้พระเจ้าจะดลบันดาลโชคให้ฉัน ทุกอย่างเพอร์เฟคจนไม่รู้จะเพอร์เฟคไปได้มากกว่านี้ยังไงแล้ว

ก่อนทาคามิจิจะกลับมาที่โต๊ะ ฉันก็เตรียมพร้อมสำหรับโจทย์ของวิชาถัดไป ทาคามิจิบอกว่าขนหนังสืออ้างอิงมาด้วย ถ้าฉันอยากอ่านก็เชิญได้เลยตามสบายไม่ต้องเกรงใจ

เมื่อเจ้าของเขาอนุญาต ฉันเลยหยิบหนังสือขึ้นมาเปิดดู ไล่เรียงเนื้อหาที่คิดว่าน่าจะออกสอบไปด้วย ทาคามิจิแปะโพสต์อิทไว้คร่าวๆบ้างแล้ว แต่ฉันคิดว่าอาจจะมีมากกว่านี้ก็เลยมองหาหนังสือเล่มอื่นๆจากกองหนังสือที่อยู่อีกมุม

ฉันพลิกๆหนังสือไล่เรียงตามสันขอบหนังสือหาเล่มที่ต้องการ ขณะที่กำลังเลือกอยู่นั้นก็เจอสิ่งแปลกปลอมอยู่ข้างในกองหนังสือที่ทาคามิจิถือมาตอนเจอกันที่หน้าสถานีรถไฟเข้าให้

สิ่งแปลกปลอมที่ว่ามันก็คือหนังสือ...แต่ไม่น่าจะใช่หนังสือเรียนหรือหนังสืออ้างอิงที่ฉันกำลังหาอยู่ เพราะหน้าปกหนังสือเล่มนั้นคือผู้ชายสามคนอยู่ในท่าที่ค่อนข้างล่อแหลมอีโรติค

เอ๋!?

นี่คือสิ่งที่เขาเรียกว่า Boy’s Love ใช่มั้ยนะ….

ลองมองแบบพิจารณาดูดีๆ ทั้งสามคนนี้เสื้อผ้าหลุดรุ่ย โดยเฉพาะนายคนผมดำที่อยู่ตรงกลางนั่นดูเหมือนจะไม่ได้ใส่อะไรเลย มีแค่มือกับขาของผู้ชายสองคนที่อยู่ข้างๆปิดบังร่างกายไว้แบบหมิ่นเหม่ แถมยังมีปลอกคอและโซ่ล่ามข้อเท้าไว้ด้วย รอบตัวเกลื่อนกลาดด้วยอุปกรณ์เล่น SM ทั้งสามอยู่บนฉากหลังที่น่าจะเป็นเตียงหรือห้องนอน สีหน้าเจ้าผู้ชายสองคนที่อยู่ข้างๆดูชั่วร้ายอย่างบอกไม่ถูกจนรู้สึกขนลุกเบาๆ

“พิษรัก พันธนาการหัวใจ” ฉันอ่านชื่อหนังสือ ไล่สายตามาเรื่อยๆก็เห็นชื่อคนแต่งพิมพ์นูนออกมาจากหน้าปกเล็กน้อยด้วยตัวอักษรสีม่วงเข้ม “ฮางิ” ชื่อเพราะใช้ได้

ฉันเหลือบมองทาคามิจิที่ยืนต่อแถวรอเครื่องดื่มอยู่ ท่าทางจะยังไม่มาในเร็วๆนี้ ในหัวคิดลังเลตีกันไปหมด ไอ้อยากรู้มันก็อยากรู้ แต่ถ้าทาคามิจิจับได้ล่ะก็ จบเห่แน่ๆ

สุดท้าย ความอยากรู้อยากเห็นก็เป็นฝ่ายมีชัย ฉ้นแง้มๆดูหน่อย อาจจะเสียมารยาทไปสักนิด แต่ฉันอยากรู้จริงๆนี่นาว่าทาคามิจิชอบอะไร

มีที่คั่นหนังสือคั่นไว้ตรงบทที่ยังอ่านไม่จบ ฉันว่าจะเริ่มจากจุดนั้น แต่ยังไม่ทันจะได้สัมผัสหน้ากระดาษ ทาคามิจิก็เรียกมาจากทางด้านหลังทำให้ฉันสะดุ้งเฮือก

ฉันหันหน้าไปหา เอาตัวบังตอนรีบซ่อนหนังสือเล่มนั้นไว้กับกองชีททั้งหลาย พยายามตีหน้านิ่งๆให้ดูมีพิรุธน้อยที่สุด

“ขอโทษนะ คิวยาวมากเลยล่ะ” ทาคามิจิทำหน้าแหยๆ “คาบุรากิคุงรอนานคงรู้สึกไม่ดีสินะ”

“ไม่เลย ไม่ซักนิดเดียว” ฉันส่ายหน้าไปมา ในหัวหมุนติ้วๆคิดเรื่องเบี่ยงเบนความสนใจของทาคามิจิ

“คาบุรากิคุงเป็นอะไรรึเปล่า ดูหน้าซีดๆนะ...ไม่สบายเหรอ”

“เปล่าหรอก ฉันแค่...แค่หิวนิดหน่อยน่ะ”

“เอ๋ อย่างนั้นเหรอ”

“หลังจากเลิกอ่านหนังสือแล้ว ไปหาอะไรทานกันมั้ย” ใช่...เรื่องนี้น่าจะโอเคอยู่ แถมยังชวนไปต่อได้แบบเนียนๆอีกด้วย

ทาคามิจิดูจะไม่สงสัยอะไรและตอบตกลงด้วยคำพูดที่ฟังดูน่ารัก ทำให้โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพูขึ้นมาในทันที

“เอาสิ ฉันก็รู้สึกหิวนิดๆเหมือนกัน”

โอ้ พระเจ้า วันนี้เป็นวันโชคดีของฉันจริงๆ
.
.
.
.

143 Nameless Fanboi Posted ID:o/aqFt.YA

เราไปต่อกันที่ร้านโอโคโนมิยากิ คุยกันเบาๆถึงเรื่องสอบและเรื่องสถานที่เที่ยวหลังสอบเสร็จ ทาคามิจิดูจะสนใจทุ่งดอกเนโมฟีลาเป็นพิเศษ ดอกไม้สีน้ำเงินที่บานพร้อมกันเป็นล้านๆดอกดูงดงามเหมือนความฝัน งั้นตกลงเอาที่เดทที่ต่อไปคือที่นี่ล่ะนะ

ฉันแวะร้านหนังสือเพื่อซื้อนิตยสารกลับไปศึกษาข้อมูลวางแผนเดท แต่พอเปิดกระเป๋าจะหยิบเอาออกมาอ่าน หนังสือเจ้าปัญหาเล่มที่ว่าก็โผล่ออกมาด้วย สงสัยจะติดมาตอนเก็บของใส่กระเป๋าที่คาเฟ่แน่ๆ

แม้หน้าปกจะทำให้รู้สึกตะขิดตะขวงใจแค่ไหน แต่ตอนนี้ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้สำรวจความชอบของทาคามิจิ ฉันเลยเปิดจากหน้าที่ถูกคั่นไว้

‘...มาซายะนั่งอยู่บนพื้น สองมือมัดไพล่ไปด้านหลังจนดูเหมือนจะดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนที่ฝ่าเท้าในรองเท้าหนังชั้นดีวางทาบลงมาตรงกลางร่างกายของเขาแล้วเลื่อนขึ้นลงไปมา เขาก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืน

“ยะ อย่า...ชูสุเกะ” ลมหายใจเขาขาดเป็นห้วงๆ รู้สึกทรมานจนต้องงอตัว แต่ถึงจะบอกว่าทรมานแต่ก็รู้สึกวาบหวามและร้อนในอก แล้วยังเสียงน่าอายที่เปล่งออกไปนี่อีก น่าอดสูเหลือเกิน

“อยากให้หยุดจริงๆเหรอ มาซายะ” ชูสุเกะกระตุกโซ่ที่รั้งปลอกคอให้มาซายะเงยหน้าขึ้น ดูชอบใจที่เห็นเขาบิดตัวไปมา ใบหน้าแดงก่ำ “ร่างกายของนายไม่เห็นจะบอกแบบนั้นเลยนี่”

“มะ ไม่จริง” มันคือคำโกหกคำโต เขารู้อยู่แก่ใจ ร่างกายเขารู้สึกดีอย่างที่ชูสุเกะว่าไว้จริงๆ

ตอนที่กำลังจะไปถึงฝั่งฝัน อยู่ๆ ชูสุเกะก็หยุดทำไปซะดื้อๆ ตีสีหน้ายิ้มแย้มไม่รู้ไม่ชี้ แต่คราวนี้เขาทรมานของจริง สีหน้ามีแต่คำถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้

“ก็มาซายะบอกว่าอย่าตลอดเวลาเลยนี่นา ผมก็เลยทำตามคำพูดของนายน่ะสิ” ชูสุเกะหัวเราะ “เอาใจยากจังเลยนะ”

สายตาของชูสุเกะหรี่ลง มองด้วยแววตาเหมือนนายพรานกำลังล่าเหยื่อ เป็นสายตาที่เหมือนจะกลืนกินเขาเข้าไปทั้งตัวไม่ให้เหลือแม้แต่กระดูก

“ถ้าอยากให้ทำต่อ...ก็ลองพูดขอร้องดูสิ”

เสียงกระซิบนั่นราวกับปีศาจล่อลวงให้ทำตาม ปากเขาเม้มแน่น แต่ร่างกายสั่นตอนที่จะเอ่ยถ้อยคำสั้นๆที่ดูเหมือนจะยากที่สุดในโลก

“.....ได้โปรด”
.
.
.
ได้โปรด…..

ฉันอ้าปากค้าง มองหนังสือในมือแล้วสลัดทิ้งเหมือนกับมันคือของร้อน กระโดดหลบไปอยู่อีกมุมแบบไม่กล้าเข้าใกล้

นี่มันอะไรก๊านนนนนน!!!!

ทำไมชื่อของฉันและชูสุเกะถึงได้ไปอยู่บนนิยายพรรค์นี้ แถมในนิยายฉันยังเป็นฝ่ายถูกกระทำอีกต่างหาก ไม่ตลกนะเฮ้ย ฉันควรจะเป็นฝ่ายกระทำมากกว่า...เอ่อ ไม่ได้หมายความว่าฉันอยากจะทำเรื่องแบบนั้นกับชูสุเกะหรอกนะ ไม่ใช่เด็ดขาด

ผ่านไปหลายชั่วโมง ฉันสงบสติอารมณ์ได้ก็หยิบหนังสือขึ้นมาใหม่ คราวนี้คิดไว้ว่าจะตั้งใจอ่านดู

ถ้าทาคามิจิชอบฉันก็อยากจะเข้าใจความชอบนั้นด้วย แม้จะเหมือนกลืนเลือดลงคอฉันก็ยอม
.
.
.
ตัวนิยายบรรยายด้วยภาษาเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ไม่ค่อยมีถ้อยคำสละสลวยเหมือนบทกวีเท่าไหร่ จัดว่าอ่านได้เพลินๆฆ่าเวลา

เนื้อเรื่องก็ใช้ธีมของโรมิโอกับจูเลียต ว่าด้วย “คาบุรากิ มาซายะ” ผู้นำสมาคมดอกโบตั๋น ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับทางสภานักเรียน และถือเป็นศัตรูของประธานนักเรียนอย่าง “มิซึซากิ อาริมะ” แต่ใครเลยจะรู้ว่าผู้นำทั้งสองนั้นแอบคบกันอยู่ลับๆ และเมื่อ “เอ็นโจ ชูสุเกะ” ที่เป็นเพื่อนรักของมาซายะรู้เข้า ก็ใช้เรื่องนี้ข่มขู่แบล็คเมล์ให้มาซายะมีความสัมพันธ์กับเขา

ชูสุเกะหลงรักมาซายะมาเนิ่นนาน ทนยอมไม่ได้ที่จะให้มาซายะตกไปเป็นของคนอื่น จึงได้ใช้ความสัมพันธ์ทางกายหน่วงเหนี่ยวเอาไว้ มาซายะแม้จะรักกับอาริมะขนาดไหน แต่ร่างกายของมาซายะก็ขาดชูสุเกะไม่ได้เช่นกัน ความรักที่สับสนวุ่นวายของทั้งสามคนเริ่มต้นขึ้นอย่างบิดเบี้ยวท่ามกลางการเมืองและการชิงชัยอำนาจในโรงเรียน ดั่งตระกูลมองตาคิวและคาปุเล็ตในโรมิโอกับจูเลียตก็ไม่ปาน

ม่ายยยยยยยยยยย!!!!!

ฉันกรีดร้องในใจ น้ำตาไหลพรากๆที่เห็นตัวเองในนิยายโดนกระทำย่ำยีต่างๆนานาด้วยสารพัดวิธีทรมาน และอุปกรณ์ SM แบบจัดเต็ม ชูสุเกะช่างสรรหามาเล่นกับเขาได้ไม่ซ้ำกันในทุกตอน แถมไอ้หมอนี่ยังไปสอนมิซึซากิให้ใช้ของเล่นกับเขาอีกต่างหาก

ถนอมๆร่างกายของฉันหน่อยเซ่เจ้าพวกบ้า!!!

----------------------
ทีแรกกูลังเลว่าจะเอาวาคาบะหรือคุณโนโนเสะมาเขียนฟิคมาซายะเคะดี แต่สุดท้ายหวยไปออกที่ท่านฟุยุโกะแทน 55555555

144 Nameless Fanboi Posted ID:q44B0Y3Xn

>>141-143 กุตายคาที่อ่ะ ยิ่งชอบอะไรแนวๆ3Pอยู่ ถถถถถ มึงทำให้กุจากที่นอนไม่หลับอยู่แล้วนี่ตาสว่างสุดๆไปเลย ถ้านอนก็คงนอนฝันดีอ่ะ วรั้ยยยยย

145 Nameless Fanboi Posted ID:7/cOOYpc.

>>141-143 กูอ่านไปนี่บิดเขินม้วนตัวแปดตลบ 3p bdsmช่างก๊าวหัวจัย ตอนนี้รีแอคชั่นคาบุแล้ว ตอนหน้าคงเป็นนายตัวสำรองใช่มั้ย นางต้องอึนมากแร่ๆ55555

146 Nameless Fanboi Posted ID:zhTO3NK7x

>>141-143 สาววายจงเจริญ! อ่านละกูม้วนนนน เผลอจิ้นไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะในไพรเวทยิมน่ะค่ะ ที่ชายหนุ่มสองคนในชุดออกกำลังสีดำรัดรูปออกกำลังกายกันจนเหงื่อท่วมสองคนตามลำพัง อุปกรณ์ก็เยอะด้วยนะคะ 555555

147 Nameless Fanboi Posted ID:szyUPx6N0

>>141-143 ไม่ใช่ว่าบากะก็อยากเข้าใจวาคาบะจังให้มากขึ้น แล้วเลยมาแข่งเคะกับเอ็นโจหรอกนะ //ถ้าเป็นอย่างนั้นใครจะเป็นเมะล่ะ อิมาริ?
เออพูดถึง อยากอ่านฟิคอิมาริท่านพี่อีกอ่ะ โหยหาความกร๊าวใจจจจ

148 Nameless Fanboi Posted ID:72XNxBklV

>>145 นายตัวสำรองกับรุ่นพี่โทโมเอะก็ดีน้า~

149 Nameless Fanboi Posted ID:.h8p3o6DK

อยากจะเห็นช็อตต่อไปที่คุณๆเขาจะพยายามเซอร์วิสเอาใจสาวที่ตัวเองชอบแล้วล่ะ! ดีไม่ดีพอทำแล้วต่างฝ่ายต่างก็คิดกันไปเองว่า เฮ้ยหรือว่าหมอนี่ชอบเราเหมือนในนิยายกันนะ แล้วก็จะเขินๆม้วนๆหน่อย(อันที่จริงพิจารณาจากนิสัย คนคิดไปเองอย่างนี้น่าจะมีโอกาสแค่คาบุ แต่ไม่เป็นไร ฮื่ออ งานดีอะ เกร้ดดด)//วิ่งเข้าทุ่งดอกเบญจมาศ
ปล.ที่แท้ฟุโจชิในซุยรันก็มีอยู่ไม่น้อยเลยสินะคะเนี่ย/จิบชา

150 Nameless Fanboi Posted ID:CpV3fLK40

>>149 เซอร์วิสทีนี่ต้องแย่งกันเป็นเคะด้วยรึเปล่านะ 5555

151 Nameless Fanboi Posted ID:AgfDJ9sAk

>>149 น่าจะมีอยู่แหละ แต่ส่วนใหญ่อาจจะจิ้นเงียบๆ คนที่กล้าเอามาเขียนเปิดเผยได้ต้องมีแบ๊คหนาพอควรเช่นpiv..แค่กๆ

152 Nameless Fanboi Posted ID:o/aqFt.YA

>>147 อิมาริเขามีตัวจริงของเขาอยู่แล้ว เราปล่อยมาซายะน้อยๆให้ไปเป็นของอาริมะและชูสุเกะเถิด 5555555

153 Nameless Fanboi Posted ID:CWt.Xs6kK

>>142 กรี้ดดดด 3P กับใครค้า....นายตัวสำรอง?

154 Nameless Fanboi Posted ID:MaVBPZGAO

>>141-143 เรย์กะอ่านแนวๆนุ่มนวลชวนฝัน ส่วนวาคาบะล่อแบบฮาร์ดคอร์ bdsm มาเลยวุ้ย ถถถถถถถถถ

155 Nameless Fanboi Posted ID:TtQ3xXnKB

>>154 มึงพูดแบบนี้แล้วกูก็นึกขึ้นได้ อมก วาคาบะจั๊งงง😱😱

156 Nameless Fanboi Posted ID:aavzXWNVj

>>154 เออว่ะ.....
>>149 มึง.. บรรเจิดมาก ถ้ามีต่อตอนที่ต่างคนต่างเอาใจสาวแบบนี้จริงๆ กูคงกรี๊ดสลบ 555

157 Nameless Fanboi Posted ID:1fLbF.jzl

สมกับที่เป็นวาคาบะ(....)

158 Nameless Fanboi Posted ID:JJGgHSQOc

>>119-121 >>141-143 ไม่ได้เข้าโม่งเป็นอาทิตย์มาถึงกูจัดรวดสองตอนเลย โว้ยยย กูชอบบบ555555555
ชอบความขี้เสือกของหนุ่มๆ แบบมองปกก็รู้แล้วว่ามันแนวทางสีม่วงชัดๆแต่พวกฮีก็ยังเปิดอ่านกัน แถมของมาซายะนี่เปิดมาก็โซ่แซ่กุญเจมือเลยจ้าา
วงวารรรรร55555555 ฮือ กูอยากรู้ตอนต่อไปแล้วว่าพวกนางจะจัดการกับกลยุทจีบสาวด้วยของวายยังไง กูรอตอนต่อไปนะโม่งฟิคสาววายซุยรัน

159 Nameless Fanboi Posted ID:tjB/OERHk

มาต่อกันกับซีรีย์สาววายซุยรัน
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/5401/141-143

-----------------------------

“รออยู่ที่ห้องประชุมเล็ก”

เมล์ห้วนๆแบบมะนาวไม่มีน้ำถูกส่งมาจากคาบุรากิเช่นเคยทำให้ฉันต้องเบ้ปาก อารมณ์ดีๆจากตอนที่ได้อ่านงานเขียนของอาจารย์เซ็นโนะก็เหือดหาย ขัดจังหวะการอ่านนิยายของฉันจริงๆวุ้ย

ฉันเก็บหนังสือใส่กระเป๋า กล่าวคำอำลากับสมาชิกท่านอื่นก่อนจะเดินไปยังที่ที่ได้นัดหมาย นึกในใจว่าวันนี้คาบุรากิจะเอาปัญหาอะไรมาให้อีก คงหนีไม่พ้นเรื่องงี่เง่าที่อยากทำกับวาคาบะจังแหงๆ

พอเคาะประตูห้อง คาบุรากิก็เดินมาเปิดประตูให้ ท่าทางเหมือนคนกำลังจะหมดความอดทน...อะไรยะ

“ช้าชะมัด”

“ฉันเองก็มีธุระของฉันเหมือนกันนะคะ จะเอาแต่ธุระท่านคาบุรากิมาก่อนน่ะไม่ได้หรอกค่ะ” ฉันตอบกลับไป รู้สึกยัวะขึ้นมาหน่อยๆ

“นั่งลง” คาบุรากิไม่ได้ใส่ใจคำพูดแดกดันของฉัน แต่ชี้ไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ฉันได้แต่ทำตามนั้น

“แล้ววันนี้ เรื่องที่จะพูดคืออะไรเหรอคะ”

“ฉันไม่เข้าใจทาคามิจิ…” คาบุรากิกอดอก ขมวดคิ้วเหมือนกำลังใช้ความคิด “ไม่สิ ไม่เข้าใจผู้หญิงเลยซักนิด”

ไปเจออะไรมาอีกล่ะ คัลเจอร์ช็อกจากความต่างของสามัญชนรึไง หรือวาคาบะจังไม่ยอมรับอะไรแพงๆจากนายเลยมานั่งคร่ำครวญอยู่ตรงนี้กันนะ

“ยังไงคะ”

“คือ…” มาถึงตรงนี้ คาบุรากิก็ดูอึกๆอักๆเหมือนนึกคำพูดไม่ออก

“คะ”

“เมื่อวันเสาร์...ฉันไปอ่านหนังสือกับทาคามิจิมา” คาบุรากิดูเหมือนจะตัดสินใจได้ในที่สุด “ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทาคามิจิกับฉันแข่งกันทำโจทย์ ยัยนั่นแพ้ก็เลยเลี้ยงขนมฉัน แล้วเราก็ไปต่อกันที่ร้านโอโคโนมิยากิ คุยเรื่องสอบกับเรื่องที่เที่ยว พอได้เวลากลับ ฉันเห็นว่าค่ำแล้วก็เลยขอไปส่งที่บ้าน ยัยนั่นก็ตกลง”

แววตาคาบุรากิเต็มไปด้วยความสุขตอนที่เล่าเรื่องนี้

“ก็ฟังดูดีนี่คะ” ฉันเลิกคิ้ว เดทเป็นไปได้สวยขนาดนี้ยังจะมีอะไรไม่พอใจอีกยะ

“ปัญหามันอยู่หลังจากนั้นน่ะสิ”

“ปัญหา??”

คาบุรากิสูดลมหายใจเข้าลึก ทำเหมือนเป็นเรื่องคอขาดบาดตายถ้าหากพูดออกไป วุ้ย อะไรกันนักกันหนายะ

“หนังสืออ่านเล่นของทาคามิจิติดกระเป๋าฉันมาน่ะ”

“หนังสืออ่านเล่น” ฉันทวนคำ “ก็เอาไปคืนเขาสิคะ แล้วก็ขอโทษ บอกว่ามันติดกระเป๋ามาก็สิ้นเรื่อง”

“นั่นล่ะที่เป็นเรื่องลำบากใจ” คาบุรากิถอนหายใจดังเฮือก

“ขอถามหน่อยได้มั้ยคะว่ามันคือหนังสืออะไร ท่านคาบุรากิถึงได้ดูลำบากใจขนาดนี้”

“มันคือ…..มันคือ...สิ่งที่...ดูเหมือนจะเรียกว่านิยาย Boy’s Love น่ะ”

“เอ๋”

“ฉันก็รู้มาบ้างว่าผู้หญิงเขาชอบอะไรแบบนี้กันใช่มั้ยล่ะ แต่ก็ไม่นึกเลยว่าทาคามิจิจะชอบกับเขาด้วย”

“แล้วยังไงคะ อย่าบอกนะว่าเปิดอ่านข้างในด้วยใช่มั้ยคะ….”

“ใช่...แต่อย่าเพิ่งตำหนิฉัน” คาบุรากิรีบยกมือห้าม ก่อนที่ฉันจะหลุดคำว่าเสียมารยาทออกไป “ฉันก็แค่อยากรู้ว่าทาคามิจิชอบอะไรแล้วก็พยายามจะทำความเข้าใจเท่านั้นเอง ก็เลยว่าจะลองดูนิดๆหน่อยๆ”

“แล้วดีรึเปล่าล่ะคะ”

“ไม่เลย ไม่ซักนิด” คาบุรากิส่ายหน้าหวือๆ “โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิยาย Boy’s Love ที่มีชื่อฉัน ชื่อชูสุเกะ แล้วก็ชื่อของมิซึซากิเป็นตัวเอกอยู่ด้วย”

“เห๊ะ!!”

ฉันเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจที่ได้ยินเรื่องนี้ออกจากปากคาบุรากิ ใจหายวาบลงไปอยู่ตาตุ่ม

คาบุรากิรู้เรื่องนี้แล้วเหรอ

หมอนี่จะโวยวายใช้อำนาจของจักรพรรดิสั่งให้หาตัวคนเขียนออกมาขอโทษแล้วสั่งห้ามเขียนต่อไปรึเปล่าล่ะเนี่ย ไม่นะ อาจารย์เซ็นโนะกำลังตกอยู่ในอันตราย ฉันต้องรีบเตือนทุกคนที่อยู่ในเว็บบอร์ดลับให้ระวังตัวเอาไว้ก่อน

“ในเรื่องนั้นน่ะ...ฉันถูกชูสุเกะกับมิซึซากิ...ทำเรื่องแบบนั้น” คาบุรากิเล่าอย่างกระท่อนกระแท่น สีหน้าดูสะพรึงกลัวยามเมื่อนึกถึง “แถมยังถูกจับมัดล่ามโซ่ ถูกแส้ฟาด แล้วก็ใช้อุปกรณ์….”

ฉันกระพริบตาปริบๆปรับจูนความคิดให้เข้าที่

160 Nameless Fanboi Posted ID:tjB/OERHk

ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ผลงานของอาจารย์เซ็นโนะ เพราะปกติแล้วงานของอาจารย์มักจะนุ่มนวลชวนฝัน เต็มไปด้วยความโรแมนติค สำนวนภาษาก็เหมือนบทกวี ไม่ใช่ความดิบเถื่อน ใช้โซ่แส้กุญแจมือแบบนี้

“พอได้อ่านแล้วก็เลยเข้าหน้าไม่ติดสินะคะ”

“ก็ใช่น่ะสิ” คาบุรากิพิงพนักเก้าอี้ ดูท่าทางหมดแรง “ทีแรกฉันก็ว่าจะโวยวายที่ใครก็ไม่รู้เอาชื่อของฉันกับชูสุเกะมาเขียนแบบนี้ แต่พอนึกได้ว่าทาคามิจิชอบ ฉันก็พูดไม่ออก”

“อืม…”

ประตูห้องประชุมเล็กเปิดออกพร้อมการปรากฎกายของเอ็นโจ โอ้ มาได้จังหวะดีมาก มาช่วยฉันปลอบเพื่อนนายหน่อยสิ

“ทำอะไรอยู่น่ะ”

“คุยเรื่องทาคามิจิ”

“เรื่องนั้นน่ะเหรอ” เอ็นโจถาม คาบุรากิก็พยักหน้าตอบแบบเนือยๆ “คุณคิโชวอินพอจะมีคำแนะนำอะไรดีๆบ้างมั้ย”

ถ้าเอ็นโจรู้เรื่องแล้ว คงไม่จำเป็นต้องเกริ่นนำเท้าความอะไรให้เยิ่นเย้อหรอกมั้ง...เอ้า อธิบายไปเลยก็แล้วกัน

“ถ้าเป็นเรื่องนิยาย Boy’s Love ล่ะก็...ไม่จำเป็นต้องไปซีเรียสหรอกค่ะ” ฉันให้คำแนะนำไปอย่างเอื้ออารี “ความจริงแล้วมันก็เป็นจินตนาการของผู้หญิงเท่านั้นเอง ถ้าจินตนาการนั้นไม่ทำให้ท่านคาบุรากิเดือดร้อนในชีวิตจริงหรือมีคนมาก้าวก่ายคุกคามความเป็นส่วนตัว ก็หลับตาลงซักข้างปล่อยผ่านไปเถอะค่ะ”

“แต่...ทาคามิจิจะไม่เข้าใจฉันผิดเอาเหรอ”

“ฉันคิดว่าคุณทาคามิจิแยกแยะออกนะคะ”

“ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมผู้หญิงถึงได้ชอบอะไรแบบนี้กันนะ” เอ็นโจยิ้มฝืดๆ “มันดีตรงไหนกันเหรอ”

“มันก็….”

ว่าแล้วฉันก็เลคเชอร์เรื่องชายหนุ่มที่มีโมเมนต์ร่วมกันทำให้สาวน้อยรู้สึกตื่นเต้นในหัวใจจนจินตนาการเตลิดเปิดเปิงไปว่าทั้งคู่จะมีความสัมพันธ์แบบไหนกันนะ พอได้คิดแล้วก็จะมีความสุข หัวใจพองโตไปกับความรักของหนุ่มๆเหล่านั้น

คาบุรากิกับเอ็นโจกระพริบตาปริบๆเหมือนกำลังพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่ฉันพูด แล้วก็ลอบมองกันเป็นระยะๆ

“พอจะเข้าใจมากขึ้นมั้ยคะ”

“ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี” คาบุรากิส่ายหน้า “การที่ฉันใช้ผ้าขนหนูแบบเดียวกับชูสุเกะหรือฉันเผชิญหน้ากับมิซึซากิจะเป็นโมเมนต์ให้จินตนาการได้ยังไงกัน”

“ก็นั่นผู้หญิงเขามองว่าเป็นสิ่งที่น่ารักยังไงล่ะคะ แล้วมันก็มีช่องว่างให้คิดต่อยอดได้ด้วยสิ ถ้าเคมีของทั้งสองฝ่ายเข้ากันดี เขาก็เรียกว่าเป็นคู่จิ้นกันน่ะค่ะ”

“อย่างนั้นหรอกเหรอ” เอ็นโจพยักหน้า

“และเดี๋ยวนี้ดารากับไอดอลก็ขายความเป็นคู่จิ้นกันมากขึ้นเรื่อยๆเพื่อเรียกแฟนคลับให้มาติดตาม ทางค่ายก็ส่งเสริมเรื่องนี้ด้วย เขาเรียกว่าแฟนเซอร์วิสยังไงล่ะคะ หยอดโมเมนต์เล็กๆน้อยๆเพื่อแฟนคลับเป็นการซื้อใจอีกฝ่าย”

“แต่ฉันไม่ได้อยากให้ใครมาติดตามทั้งนั้นนะ” คาบุรากิประท้วง

“แหม ก็คุณทาคามิจิชอบนี่คะ ก็ยอมๆเสียสละตัวเองนิดหน่อยเพื่อเอาใจคนที่ชอบสิคะ ไม่สึกหรอหรอก”

“ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ” เอ็นโจทำท่าลำบากใจ

“ก็ไม่ได้จะให้ไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไรหรอกนะคะ และถ้าเป็นการแสดงมันจะดูฝืนๆไม่เป็นธรรมชาติพาลให้คิดว่าเฟคเอาได้ พวกท่านคาบุรากิก็ทำตัวไปตามปกติอย่างที่เป็นแบบทุกวันนี้ก็พอแล้วล่ะค่ะ ที่เหลือก็ปล่อยให้เขาไปคิดต่อเองดีกว่า อาจจะได้เรื่องคุยกับคุณทาคามิจิเพิ่มขึ้นก็ได้นะคะ”

“เข้าใจแล้ว” คาบุรากิพยักหน้าดูเหมือนจำยอม

“คุณคิโชวอินรู้เรื่องนี้ละเอียดดีจัง...ชอบอะไรแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ” เอ็นโจถามยิ้มๆ

“เป็นการศึกษาผู้คนในหลายๆรูปแบบเพื่อจะได้เข้าใจความเป็นไปของโลกอย่างถ่องแท้ค่ะ” ฉันตอบเร็วปรื๋อด้วยคำตอบที่ซ้อมมาไว้ล่วงหน้าแล้วถ้าเผื่อถูกถาม จากนั้นก็แกล้งทำเป็นมองนาฬิกา “ได้เวลาต้องไปที่ชมรมแล้ว ต้องขอตัวก่อนนะคะ”

เอ็นโจกับคาบุรากิคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องประชุมเล็กมาพร้อมกับฉัน พอถึงทางแยกที่จะเดินไปลานจอดรถกับไปที่ชมรม เราสามคนก็แยกย้าย สองคนนั้นไปอีกทาง ฉันก็ไปอีกทาง

161 Nameless Fanboi Posted ID:tjB/OERHk

เมื่ออยู่ในทางเดินที่ว่างเปล่าไม่มีใครผ่านไปผ่านมาแล้ว มุมปากฉันก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

การชงของฉันไม่เสียเปล่าจริงๆ

ในโลกเดิมของฉัน การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยมมาก เพราะฉะนั้นก็เลยมีผลิตภัณฑ์จากแฟนๆให้เสพได้ไม่ขาดสาย ทั้งแฟนอาร์ต แฟนฟิคที่อ่านทีไรก็รู้สึกชุ่มชื้นหัวใจทุกครั้ง แน่นอนว่ารวมทั้งสาย BL ด้วย

ตอนจบของการ์ตูนคือการที่วาคาบะจังได้ครองคู่กับคาบุรากิก็จริง แต่ในเรื่องก็ยังเปิดช่องว่างให้จินตนาการถึงคู่อื่นๆด้วย และคู่ของคาบุรากิกับเอ็นโจได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากความสัมพันธ์ของสองคนนี้ รองมาก็คือคาบุรากิกับมิซึซากิ

ฉากที่เอ็นโจออกมาทำอะไรเพื่อคาบุรากิ ฉันก็มักจะคิดว่าน่ารักจังเลยน้า จินตนาการเตลิดเปิดเปิงไปว่าเอ็นโจทำถึงขนาดนี้ต้องแอบรักคาบุรากิอยู่แหงๆ จะเจ็บปวดขนาดไหนกันนะที่ต้องคอยชงให้เพื่อนไปกับคนอื่น แต่ก็ดูยินดีที่จะทำเพื่อคาบุรากิ ช่างเป็นรักที่บริสุทธิ์อะไรเช่นนี้

แน่นอนว่าแนวร่วมของฉันมีเพียบในอินเตอร์เน็ต มีหลายคนที่คิดตรงกับฉัน เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสนุกสนาน เนื่องจากเป็นเรือใหญ่ก็มีฟิคสำนวนดีๆพล็อตเรื่องเจ๋งๆอยู่เยอะแยะ ฉันเข้าเว็บบอร์ดไล่อ่านฟิคตามคำแนะนำของคนนั้นคนนี้จนตาแฉะแทบไม่ได้หลับได้นอน

และเมื่องานคอมมิคเกะมาถึง ฉันก็ไปยืนต่อแถวซื้อโดจินชิและฟิคชั่นมาเก็บสะสม เซอร์เคิลของคนที่เส้นสวยๆชื่อดังๆนี่หมดไวเชียวล่ะ ต้องวางแผนการซื้อกับเพื่อนให้ดีๆ เตรียมเงินให้พร้อมแล้ววิ่งไปเซอร์เคิลถัดไป บางบูธก็มีของแถมแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นเฉพาะในงานนี้ซะด้วยสิ

จะว่าไป ฉันยังไม่เคยไปคอมมิคเกะของที่โลกนี้เลยนี่นะ เปิดมือถือเช็คดูก็เห็นว่าอาจารย์เซ็นโนะจะออกผลงานใหม่ วางขายครั้งแรกในงานนี้ด้วย

ลองไปดูดีมั้ยน้า เผื่อจะได้ลายเซ็นจากมืออาจารย์เซ็นโนะตัวจริงเสียงจริง

----------------------------------------------------
ตอนหน้าเอามุมมองใครดี 555555555555555555

162 Nameless Fanboi Posted ID:Y6vM0Y7lb

>>159-161 มึงช่วยอย่าเอาความจริงมาเขียน 55555 ตอนหน้าเป็นมุมมองอาริมะหรือริรินะก็ดีนะคะ รับรองนางต้องมีแบ่งโดกับเพื่อนสาว KGB อ่าน 55555

163 Nameless Fanboi Posted ID:4bHZYrCpK

>>159-161 เม้นสุดท้ายนี่เสมือนว่ามึงเอาความจริงมาล้อเล่น ความทรมานของท่านเรย์กะนั้นพวกเรารับรู้ดีนะคะ! แต่ถ้าท่านเรย์กะไปปุ๊บเจอท่านซาราระ ท่านฟุยุโกะ อาเระ ที่แท้คนแต่งฟิคก็อยู่ใกล้ตัวแค่นี้//ตีให้ดรอปฟิคออกมา

164 Nameless Fanboi Posted ID:gW13/jOua

ยอดมาก คาบุเอ๋ย คนจริงจังอย่างนาย... จะยอมเซอร์วิสวาคาบะจังไปถึงไหนนะ 555

165 Nameless Fanboi Posted ID:b8ANTPEVM

ไม่มีใครทำฟิคท่านอิมาริกะท่านพี่ไว้ข้างทางบ้างหรอ ให้มาเบิกเนตรเจ้าแม่หน่อย ของดีอยู่แค่เอื้อม ท่านพี่กลับบ้านมาเจอน้องสาวเอาแต่ถามว่าเมื่อไหร่เพื่อนจะมาเยี่ยมบ้านอีก

166 Nameless Fanboi Posted ID:xGdoz0osd

>>165 รุ่นเรย์กะนี่ไม่น่าทัน อาจจะต้องเป็นท่านไอระกับยูริ

167 Nameless Fanboi Posted ID:tjB/OERHk

>>165 ถามแบบนั้นเดี๋ยวอิมาริก็มาไม่ได้ "ซักพัก" อีกหรอก 555555555

168 Nameless Fanboi Posted ID:4bHZYrCpK

>>165 ต้องมีเหลือทิ้งไว้ในห้องสโมแน่ๆ! กำชับไว้ดิบดีว่านี่น่ะของตกทอดของผู้หญิงในpivoineเรา ห้ามตกถึงมือผู้ชายเด็ดขาด*ยื่นกุญแจ*

เปิดหีบ/ตู้ปุ๊ป มีหนังสือห่อปกสีพื้นเรียบๆจำนวนมากวางอยู่อย่างเป็นระเบียบ มีแค่ตัวอักษรสองตัวและตัวเลขกำกับไว้เหมือนเป็นรหัสอะไรบางอย่าง มีสมุดขาวประทับตราสโมสรอยู่แค่เล่มเดียวเป็นคู่มือการแกะรหัสตัวอักษรและตัวเลขบนหน้าปก
รหัสตัวอักษรกับตัวเลขคือรายละเอียดนิยาย วันชอทหรือลองฟิคหรือโดจิน คู่ชิปอะไร และเป็นเล่มที่เท่าไหร่
บางเล่มเป็นเล่มพิมพ์ก็จริง แต่บางเล่มก็ถึงกับเป็นลายมือของหลายคนเขียนฟิคต่อกันไว้เป็นหน้าๆ
ท่านเรย์กะสุ่มเปิดเล่มที่ดูไม่เก่ามากนัก เจอ อิมาริทาคาเทรุ ชื่อเรื่องถูกตั้งอย่างเรียบง่ายว่า “ฝนตกในวันทัศนศึกษา” ปกนอกเป็นสีน้ำตาลเข้ม แต่ปกในกลับเป็นรูปท่านพี่นั่งพิงท่านอิมาริในชุดยูกาตะที่หลุดรุ่ยไปเกินครึ่ง โดยท่านอิมาริที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง ฝังใบหน้าลงบนหัวไหล่ของท่านพี่ มือข้างหนึ่งวางอย่างหมิ่นเหม่บนต้นขา ส่วนอีกข้าง…//ปิดหนังสือลง ไม่กล้าเปิดมากกว่านั้น
พลิกดูอันเก่าๆที่เขียนด้วยลายมือบ้างชื่อคู่ชิปคือ คาบุรากิ/คิโชวอิน คนหนึ่งเป็นผู้ชายเคร่งขรึมบ้าหนังสือ อีกคนเป็นผู้ชายเจ้าชู้รักการกินขนมหวาน ทั้งสองคนมักจะเถียงกันเป็นประจำในห้องสโมสร มีเครื่องหมายคำถามไว้ตรงกลางตัวโตๆ ตามด้วยลายมือคนเขียน“ไม่รู้ตรงกลางจะเป็นไง แต่ตอนจบคือรักกันแต่ต้องแต่งงานคลุมถุงชนตามประเพณีล่ะนะ”
มีคอมเม้นด้วยดินสอเลือนๆเขียนเอาไว้ว่า ไม่ได้นะ! เธอต้องมาแต่งให้ครบซี่~ แต่พลิกหน้าถัดไป กลับเหลือเพียงแค่รอยกระดาษฉีก ตรงปกหลังเขียนว่า เขาหมั้นไปแล้ว สั้นๆ

แค่ก กูขอโทษ กาวฟุ้งไปหน่อย
แต่ถ้าท่านเรย์กะเปิดไปเจอคู่ประธานปีที่แล้วสายซีกับคุณโทโมเอะจะเป็นยังไงนะ——

169 Nameless Fanboi Posted ID:.Si70n5Ap

>>168 มันจะมีเสียงเล่าลือเสียงเล่าอ้างในหมู่ผู้หญิงถึงมหาขุมทรัพย์ที่มีแต่สาววายใน pivoine เท่านั้นถึงจะได้อ่านรึเปล่าวะ 55555
ส่วนรุ่นพี่โทโมเอะนี่ดูรุก All มากๆ สไตล์ไม่เคยเพลี่ยงพล้ำให้ใคร ถ้าเจอกับท่านพี่ผู้หวงน้องสาวจะเป็นยังไงนะ หุหุ

170 Nameless Fanboi Posted ID:GaxDL8u27

>>169 สลับกันวันละคนสิคะ อิอิ

171 Nameless Fanboi Posted ID:hXVfG9SYW

>>169 เพราะpivoineมีกำลังซื้อ(?)มากยังไงล่ะ ซื้อ1เล่มไว้ที่บ้านอีกเล่มบริจาคไว้ในสโมสร แถมเครือข่ายกว้างไกล จะคู่เรือผีขนาดไหน เก่าแรร์ยังไง ก็สามารถหาได้ในกรุ ส่วนเล่มเขียนก็ใช้กำลั—บารมีเอามาไว้ในสโมสร

172 Nameless Fanboi Posted ID:MLLJiY8jR

>>168 กูว่าในสมัยนั้น มาดามคาบุรากิอาจจะเป็นแกนนำชิพคู่นี้ก็เป็นได้นะ 55555555555

173 Nameless Fanboi Posted ID:m4jjLYcwk

>>168 ทำไมอ่านอันนี้ละชักอยากอ่านคาบุ*เรย์กะสายซีวะ555555 เอ็นโจเรย์กะสายซีด้วย มีโม่งผู้ดีสนใจสงเคราะห์ข้าพเจ้าได้บ้าง กี๊ด

174 Nameless Fanboi Posted ID:Vcg0dLtDQ

>>173 บวกกกก กูด้วย โม่งใจดีท่านใดจะแต่ง กูรออ่านรอเม้น❤️

175 Nameless Fanboi Posted ID:jN+j0k1Gf

พวกเมิ้ง~ สายซีแปลว่าอะไรวะ

176 Nameless Fanboi Posted ID:jN+j0k1Gf

อ่อ กูกูเกิ้ลสายซีเจอละ แท้งกิ้ว

177 Nameless Fanboi Posted ID:guUYh6t.d

>>169 มา!!

"ถ้าคนน้องไม่ได้" โทโมเอะเชยคางผู้เป็นรุ่นพี่ด้วยปลายนิ้ว "แล้วคนพี่ล่ะได้มั้ย"

ทาคาเทรุยังคงยิ้มแบบไม่ยี่หระ แม้จะถูกแตะเนื้อต้องตัวในระยะล่อแหลม แต่ยังไม่ทันทีจะได้พูดอะไรออกไปก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านข้างเสียก่อน

"คนพี่ยิ่งไม่ได้เข้าไปใหญ่"

โมโมโซโนะ อิมาริ คนดังของซุยรันและในแวดวงสังคมชั้นสูงโผล่มายืนข้างๆ โอบเอวเพื่อนสนิทเอาไว้ ดึงเข้าหาตัวให้พ้นระยะที่มือของโทโมเอะเอื้อมถึง ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มประดับ แต่แผ่รังสีมืดทะมึนเสียยิ่งกว่าคิโชวอิน ทาคาเทรุตอนหวงน้องสาวเสียอีก

"เห" โทโมเอะเลิกคิ้ว แต่ปากยังคงยิ้ม

"มีธุระอะไรกับทาคาเทรุ ก็มาคุยกับฉันได้นะ คุณโทโมเอะ ฉันจะรับฟังเอง"

---------------
ตัดจบแค่นี้ ถถถถถถถ

178 Nameless Fanboi Posted ID:krhImAZND

>>177 บาป บาปมากๆ แก้กรรมโดยการมาแต่งต่อ ฟฟฟฟฟฟฟฟ

179 Nameless Fanboi Posted ID:gh7Ph9bE/

>>168 เอ่อ คู่ท่านพ่อน่ะ เป็นไปได้เหรอ เพราะถ้าดูจากอายุลูกคนแรกแล้ว (ท่านพี่ , มาซายะ) รุ่นพ่อก็น่าจะห่างกันอยู่นะ ใกล้สุดก็มอปลาย มอต้น สาวๆ ไม่น่าจะจับจิ้นกันได้นะ

180 Nameless Fanboi Posted ID:9ly1edsDc

>>179 อาจจะมาแนวกินเด็กหรือโดนเด็กกินก็ได้นะ 555555555555

181 Nameless Fanboi Posted ID:BMVUR8fEK

>>179 จักพรรดิกรูเม่ต์ม.ปลาย ปะทะเจ้าชายหนังสือม.ต้นก็ได้อยู่นะมึง

182 Nameless Fanboi Posted ID:icZlBKDW6

พบกันอีกครั้งกับซีรีย์สาววายซุยรัน
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/5401/159-161
--------------------------

ระยะนี้ ฉันติดนิยายมากเลยล่ะค่ะ

ฉันพบนิยายเรื่องนี้ในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะมีแต่เด็กซุยรันทั้งนั้น มันเป็นเว็บบอร์ดปิดที่มีการคัดเลือกสมาชิกอย่างเข้มงวดและมีแอดมินคอยควบคุมดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด ทางเข้าบอร์ดก็ลึกลับ ไม่มีทางหาเจอในเว็บ Serch Engine เด็ดขาด หากอยากจะเข้าเป็นสมาชิกต้องให้เพื่อนที่เป็นสมาชิกอยู่ก่อนหน้านี้แนะนำมา และต้องตอบคำถามแอดมินให้ได้เสียก่อน

ฉันเคยได้ยินเรื่องร้านเก่าแก่ที่หากอยากจะเป็นสมาชิกต้องให้สมาชิกที่อยู่มาก่อนหน้านั้นรับรองตัวตนเสียก่อน ไม่งั้นล่ะก็...ต่อให้รวยล้นฟ้าแค่ไหนก็ไม่มีสิทธิ์เข้า ไม่นึกเลยว่าระบบนี้จะถูกนำมาใช้กับเว็บบอร์ดด้วย สมกับเป็นโรงเรียนของเหล่าคุณหนูและคุณชายจริงๆ

เนื่องจากเว็บบอร์ดแห่งนี้หาทางเข้ายาก สมัครก็ยาก สมาชิกทุกคนจึงทำตัวดีเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ล็อกอินของตัวเองโดนแบนและบล็อก IP Address ทุกวันในบอร์ดจึงผ่านไปด้วยความสงบสุขและเอื้ออารีต่อกัน คู่ชิพแต่ละฝ่ายต่างก็หลีกเลี่ยงที่จะเปิดสงครามกัน หลบมุมอยู่ในที่ของตัวเองกันไปตามประสา

กฎเหล็กอีกอย่างของบอร์ดนี้คือ ห้ามสร้างความรบกวนหรือคุกคามชีวิตให้กับบุคคลที่ถูกจับมาจิ้นเด็ดขาด ถ้ากรี๊ดกร๊าดเรื่องนี้แบบเปิดเผยออกนอกหน้ามากไป เว็บบอร์ดนี้ก็อาจจะเป็นอันตรายจนต้องถูกปิดได้ ทุกคนก็ดูจะปฏิบัติตามกฎข้อนี้กันดี เรื่องการมีอยู่ของเว็บบอร์ดเลยไปไม่ถึงหูพวกคาบุรากิคุงและเอ็นโจคุงที่ทรงอำนาจในซุยรันเลย

ข้ามเรื่องยิบย่อยพวกนั้นไปก่อน กลับมาที่นิยายกันต่อ...คราวแรกที่ฉันเข้าเว็บบอร์ดนี้มาก็พบกับความตื่นตาตื่นใจหลากหลายอย่าง มีฟิคและแฟนอาร์ตมากมายให้เลือกเสพ ฉันคลิกสุ่มๆเข้าแต่ละกระทู้ แล้วก็พบกับของดีเข้าให้

กระทู้ที่ลงนิยายเรื่องนี้ขึ้นคำว่า Hot! อันเป็นกระทู้ที่มีคนเข้าไปตอบข้อความเยอะมาก คู่มากับกระทู้ของล็อกอินที่ชื่อเซ็นโนะ มันเป็นกระทู้นิยายที่จบไปแล้วและได้รับการตีพิมพ์เป็นเล่มแต่ยังได้รับความนิยมอยู่ บางคอมเมนต์ก็ขอภาคสองด้วยซ้ำ

อ่านไปไม่ถึงครึ่ง ฉันก็รีบหลังไมค์หานักเขียนเพื่อจะติดต่อขอสั่งซื้อหนังสือ อดใจที่จะไม่อ่านในเว็บบอร์ดให้จบ ไปลุ้นในเล่มแทน

ไม่กี่วันหลังจากนั้นมันก็มาส่งที่บ้าน วันแรกที่ได้รับมาฉันก็เอาติดตัวออกไปอ่านข้างนอกด้วย แต่อ่านเพลินไปหน่อยจนเกือบลงสถานีรถไฟที่นัดกับคาบุรากิคุงไว้แทบไม่ทัน แถมรีบวิ่งมาจนลืมเก็บนิยายลงกระเป๋าอีกต่างหาก เห็นคาบุรากิคุงจ้องเป๋งมาที่นิยายในมือฉัน ต้องเอาหนังสือเคมีมาบังไว้เบี่ยงเบนความสนใจไปก่อน

พอกลับมาถึงบ้านฉันก็บอกกับแม่และน้องว่าทานข้าวเย็นมาแล้ว แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนน้องชายก็มีแซวๆเรื่องผู้ชายมาส่งที่บ้าน ฉันเลยตบหัวไปหนึ่งทีด้วยความรัก แล้ววิ่งขึ้นบันไดกลับเข้าห้องนอน อยากอ่านนิยายตอนต่อจะแย่อยู่แล้ว

อ้าว ไม่มี

ฉันหยิบของในกระเป๋าออกมาเรียงทุกชิ้น แต่ไม่พบนิยายเรื่องนั้นอยู่ที่ไหนเลย ลืมไว้ที่ร้านติวหนังสือวันนี้รึเปล่านะ

หรือว่า…

ฉันเม้มปากแน่นตอนที่จ้องโทรศัพท์ในมือ หน้าจอค้างไว้ที่รายชื่อของคาบุรากิคุง

ปกติเราก็โทรคุยกันหรือเมล์หากันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่คราวนี้จะให้เมล์ไปถามว่า “ขอโทษนะ คาบุรากิคุงเก็บหนังสือของฉันไว้รึเปล่า” มันคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะมันคือหนังสือนิยาย Boy’s Love

ยิ่งไปกว่านั้น หนังสือเรื่องนั้นมีตัวเอกฝ่ายเคะคือคาบุรากิคุง ส่วนเซเมะมีสองคนคือเอ็นโจคุงและมิซึซากิคุง ถ้าเมล์ไปถามมันจะเป็นการกระโตกกระตากเกินไปรึเปล่านะ คาบุรากิคุงอาจจะไม่รู้ถึงการมีตัวตนของนิยายเล่มนั้นอยู่ก็ได้ เกิดไปจุดประเด็นให้สงสัยเดี๋ยวจะยุ่งไปกันใหญ่ ถ้าเกิดคาบุรากิคุงเอาชื่อเรื่องไปหาล่ะก็..งานเข้าแหงๆ

เอาไว้วันจันทร์ค่อยแย็บๆถามดูก็แล้วกัน

183 Nameless Fanboi Posted ID:icZlBKDW6

วันจันทร์มาถึง ฉันกะว่าจะไปหาคาบุรากิคุงซักหน่อย แต่น่าแปลกที่หาที่ไหนก็ไม่พบ ทั้งๆที่คาบุรากิคุงออกจะโดดเด่นแท้ๆ รู้สึกเหมือนหยั่งกะโดนหลบหน้ายังไงยังงั้นล่ะ

กำลังคิดว่าถ้าเจอหน้าจะเกริ่นๆเรื่องนิยายอย่างไรดี อยู่ๆคาบุรากิคุงก็เป็นฝ่ายมาหาเองในเช้าวันอังคาร เอาถุงกระดาษห่อด้วยริบบิ้นมาให้ ลองเปิดดูก็พบว่ามันคือนิยายของฉันเล่มนั้นเอง

“มันติดกระเป๋าไปวันนั้นน่ะ” คาบุรากิคุงก้มหัวให้เล็กน้อย “ขอโทษด้วยนะที่ไม่รีบเอามาคืน”

“ไม่เป็นไรหรอก แค่เอามาให้ก็ดีใจมากแล้วล่ะ” ฉันส่งยิ้มให้ “ขอบคุณนะคะ”

คาบุรากิคุงยิ้ม แต่ดูอึกอักอย่างไรชอบกล ฉันเอียงคอเล็กน้อยแบบสงสัย

“มีอะไรรึเปล่า”

“ไม่มีอะไรหรอก” คาบุรากิคุงส่ายหน้า “แค่สงสัยว่านิยายพวกนี้มันสนุกตรงไหนน่ะ”

“คาบุรากิคุงจะลองอ่านดูมั้ยล่ะ จะได้รู้ไง” พอฉันแกล้งแซว คาบุรากิคุงก็สะดุ้ง

“ไม่เอาดีกว่า แค่เห็นหน้าปกฉันก็เกรงใจแล้วล่ะ”

เห็นท่าทางหวาดๆแบบนั้น ฉันก็พอจะเดาอะไรได้รางๆ….อ่านไปแล้วสินะ

คงเจอว่าตัวเองถูกกระทำอะไรบ้างในนิยายคงจะผวาไม่น้อย ถ้าไม่เป็นแผลใจไปก็ดีน่ะสิ

ฉันทำเป็นไม่รู้เรื่องนั้น กล่าวคำอำลาขอตัวเข้าห้องเรียนคาบถัดไป คาบุรากิคุงทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูด เดินกลับเข้าห้องเรียนของตัวเองไปเหมือนกัน

คุณซึรุฮานะกระแนะกระแหนฉันเรื่องนี้ในช่วงพักกลางวัน แต่ฉันทำเมินๆไม่สนใจ นึกถึงแต่นิยายเล่มนั้นที่จะได้อ่านต่อซักที อุตส่าห์อดใจรอไม่อ่านในเว็บบอร์ด ลงแดงจะแย่อยู่แล้ว
.
.
.

184 Nameless Fanboi Posted ID:icZlBKDW6

ช่วงนี้งานแข่งกีฬาใกล้เข้ามา ฉันเองก็ลงวิ่งแข่งกับเขาเหมือนกันก็เลยต้องอยู่ซ้อมหลังเลิกเรียนด้วย มองหาคุณคิโชวอินก็ดูจะลงแข่งปาบอลอย่างเคย และกำลังซ้อมโยนบอลลงตะกร้าอย่างแข็งขัน ดีล่ะ ฉันก็ต้องตั้งใจด้วยเหมือนกัน

ขณะกำลังวอร์มร่างกายอยู่ก็ได้ยินเสียงกรี๊ดดังมาจากอีกฟาก เป็นคาบุรากิคุงกับเอ็นโจคุงตามคาด สองคนนั้นกำลังซ้อมวิ่งแข่งกันอยู่อย่างเคย วิ่งเร็วกันจังเลยน้า

คาบุรากิคุงกับเอ็นโจคุงซ้อมวิ่งเสร็จก็กลับมาที่กระเป๋าข้าวของของตัวเองที่อยู่ใกล้ๆกับจุดที่ฉันวอร์มร่างกายอยู่พอดี เอ็นโจคุงหยิบเครื่องดื่มเกลือแร่ให้คาบุรากิคุงที่เดินตามมาจากด้านหลัง

“เปิดยากชะมัด” คาบุรากิคุงนิ่วหน้าหน่อยๆตอนที่พยายามจะงัดห่วงเปิดกระป๋องแต่ทำไม่ได้ซักที เอ็นโจคุงยิ้มน้อยๆก่อนจะฉวยเอากระป๋องไปเปิดให้

“ต้องให้ดูแลตลอดเลยนะ มาซายะ”

“หนวกหูน่า” คาบุรากิคุงทำหน้ามุ่ย แต่ก็ยอมรับกระป๋องที่เอ็นโจคุงเปิดให้แต่โดยดี ยกขึ้นมาดื่มแล้วก็คุยกับเอ็นโจคุงต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนสองคนนั้นทำอะไรแบบนี้กันอยู่ทุกวันจนเป็นเรื่องธรรมดา

อุ๊ยตาย…

ฉันเกือบจะกรี๊ดออกไปแล้ว แต่ปิดปากตัวเองไว้ได้ทัน

ฉากนี้มัน...เหมือนในฟิคที่อ่านเมื่อคืนเลยนี่นา

เอ็นโจคุงที่คอยดูแลเทคแคร์คาบุรากิคุงตลอดก็ใช่ คาบุรากิคุงที่ทำหน้ามุ่ยเพราะเขิน แต่ก็ยอมให้เอ็นโจคุงดูแล มันช่างเรียลอะไรเช่นนี้

ฉันมองไปรอบๆเพื่อจะดูว่ามีใครสังเกตเห็นโมเมนต์นั้นเหมือนฉันมั้ย ก็เห็นคุณคิโชวอินจ้องเขม็งไปที่สองคนนั้น ริมฝีปากเหมือนอยากจะยิ้มแต่ก็ไม่กล้ายิ้มเต็มที่ หน้าของคุณคิโชวอินในตอนนี้ก็ดูเลยพิลึกนิดหน่อย

อื้อๆ ฉันเข้าใจอาการแบบนั้นนะ เห็นเหมือนที่ฉันเห็นใช่มั้ยคะ

ตอนซ้อมกีฬาวันนั้น ฉันไม่เป็นอันซ้อมเพราะสายตาคอยแต่จะมองหาโมเมนต์ของคาบุรากิคุงและเอ็นโจคุงอยู่เรื่อย คาบุรากิคุงที่ยิ้มกับหัวเราะตอนที่คุยกับเอ็นโจคุงให้ความรู้สึกว่าช่างน่ารักอะไรอย่างนี้

เท่านั้นยังไม่พอ ตอนเลิกซ้อมกีฬาฉันก็เจอสองคนนั้นอีกครั้งในโรงอาหารกำลังซื้อเครื่องดื่มอยู่ ดูเหมือนว่าคาบุรากิคุงอยากจะลองชิมเครื่องดื่มที่เอ็นโจคุงดื่มอยู่ก็เลยขอ เอ็นโจคุงก็ส่งให้ง่ายๆ

คาบุรากิคุงดื่มลงไปหนึ่งอึกก็เบ้ปากแล้วส่งแก้วคืนเจ้าของ

“ขมชะมัด กินเข้าไปได้ไงเนี่ย”

“มาซายะกินหวานเกินไปต่างหากล่ะ” เอ็นโจคุงหัวเราะแล้วก็ยกแก้วดื่มต่อ

..เอ๋ นี่จูบทางอ้อมใช่มั้ยคะ ตายแล้ว!!

ความตื่นเต้นฉันพุ่งสูงเกินระงับ เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างจนรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ส่วนสองคนนั้นไม่ได้สนใจคนอื่น พอกินเสร็จก็ทิ้งแก้วลงถังขยะ เดินออกจากโรงอาหารไปด้วยกัน

เหลือบมองคุณคิโชวอินที่ก้มหน้าลงมองพื้น คราวนี้เห็นว่ากำลังอมยิ้ม

นั่นแน่...กำลังคิดในเรื่องเดียวกันอยู่ใช่มั้ยคะ

ฉันที่กำลังฟุ้งซ่านสุดๆ พอขึ้นรถไฟกลับบ้านก็เปิดมือถือเช็คเว็บบอร์ด เจอกระทู้ที่เพิ่งตั้งแชร์โมเมนต์ของคาบุรากิคุงและเอ็นโจคุงในวันนี้ แม้จะตั้งมาไม่กี่ชั่วโมงแต่ก็ขึ้นแท่นกระทู้ฮอตเป็นที่เรียบร้อย มีรูปถ่ายจากที่ไกลๆแนบมาด้วย ถึงจะไม่ชัดนักแต่ก็พอดูออกว่าสองคนนั้นทำอะไรอยู่

“อ่อนโยนเหลือเกินค่ะ ท่านเอ็นโจ”

“เขายิ้มให้กันอ้ะ เขายิ้มให้กันอ้ะ แม่ขา หนูไม่ไหวแล้วค่าาาา”

“คอยดูแลตลอดไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลยนะคะ แหม ทำขนาดนี้ก็แต่งๆกันไปเหอะค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระกองอวย”

“น้ำแก้วนั้นไม่ต้องใส่น้ำตาลหรอกค่ะ เพราะมันหวานจากการกระทำของท่านทั้งสองยังไงล่ะคะ”

คอมเมนต์รันไวมาก ดูเหมือนทุกคนจะพร้อมใจกันหวีดร้อง แปะ Meme กันอย่างบ้าคลั่ง ฉันเองก็เข้าไปร่วมหวีดกับเขาด้วยเหมือนกัน ดีต่อหัวใจไม่ไหวแล้ว

ฟิคจำนวนมากมายก็ผุดขึ้นมาราวกับตาน้ำ ทั้งเรื่องสั้นและเรื่องยาวมีให้เลือกเต็มไปหมด คาบุรากิคุงกับเอ็นโจคุงช่างมีอิทธิพลต่อซุยรันเหลือเกิน

ไล่อ่านฟิคแต่ละฟิคที่ลง คืนนี้จะได้นอนมั้ยคะเนี่ย

----------------------------
ยังนึกบทอาริมะไม่ออกเลยเขียนวาคาบะก่อน

185 Nameless Fanboi Posted ID:McxiqkBFj

>>182-184 ถล่ำลึกเกินไปแล้ว วาคาบะ เมื่อก่อนเขาขรึมหล่อมาแค่ไหนก็เฉยๆ นี่เกือบหลุดกรี๊ดกร๊าดตามแฟนๆไปแล้วนะ ไม่สิการเข้าไปอ่านแล้วรีบตามซื้อทันทีแบบนี้ วาคาบะหรือความจริงแล้วเป็นสายนี้มานานแล้วกันน่ะ คิดแล้วเชียวสาวขยันหัวดีหน้าตาใช้ได้ หลุดม.ต้นมาโดยไม่มีแฟนมันต้องมีเหตุผล!!!!!!

186 Nameless Fanboi Posted ID:/lSJslATE

>>182-184 นี่มันเวบบอร์ดลับในตำนาน!
ถ้าเป็นท้องเรื่องนี้ที่วาคาบะถูกรังแกคงไม่ใช่เพราะนางเรียนเก่งเกิน แต่เพราะทำความลับรั่วไหลไปถึงคู่หูคู่จิ้นตะหาก 5555

187 Nameless Fanboi Posted ID:Mov5cEJKw

ลงทุนเซอร์วิสสาวจริงๆ ด้วยสินะไซซายะ.... นับถือหัวใจนายจริงๆ ช่างแข็งแกร่ง

เอ็นโจก็ดันเอากะเค้าด้วย เพราะเพื่อท่านเรย์กะที่แอบมองอยู่ใช่ไหม หืม หืมมม

188 Nameless Fanboi Posted ID:+SxHWtuqq

วาคาบะคงจะอยากให้พวกนายได้กันเองมากกว่าที่จะให้นายมาตามจีบอยู่แบบนี้ล่ะมั้ง มาซายะคลุงงง ถถถถถถ

189 Nameless Fanboi Posted ID:c/CmxcNFY

>>182-184 วาคาบะจัง ดิฉันเข้าใจเธอ/ทาบอก คนที่สามารถอ่านนิยายsmฉากแรงๆได้หน้าตายแถมยังเบนไปหาหนังสือเคมีกลบเกลื่อนได้ แต่สำหรับฉากกุ๊กกิ๊กเล็กๆน้อยๆอย่างการเปิดขวดน้ำ ดูแลกันละกัน กลับควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้าไม่ให้ไม่ยิ้มได้เนี่ย ฮรื่ออ เราเข้าใจมันดีย์ ทรมานสุดๆโดยเฉพาะเวลาไม่ได้อยู่กับเพื่อน ยิ้มกับนิยายกับโทรศัพท์เป็นคนบ้าเลย พอรู้ตัวก็ต้องดึงหน้า ออกมาแปลก(แบบท่านเรย์กะ)จริงหรอวะ ชห เข้าใจว่าตัวเองทำได้เนียนสุดในชีวิตแล้วนะ…

190 Nameless Fanboi Posted ID:arvStTwml

>>189 กูเคยเจอหนุ่มสองคนมีโมเมนต์น่ารักๆด้วยกัน เขาคงเป็นเพื่อนกันนั่นล่ะ แต่กูมันคนใจบาปเองที่จับพวกเขาจิ้น 5555555

มันฟีลเดียวกันเลยเว้ย รู้สึกโฮกกกก น่ารักกันจังเลยน้าพวกคุณ ดีต่อใจจริงๆ กูต้องห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มออกนอกหน้า ทำได้แค่เหล่แล้วเก็บมาอมยิ้มคนเดียว แถมมีสาวคนนึงที่อยู่ตรงข้าม เขาก็แอบเหล่คู่นั้นเหมือนกัน พอเงยหน้ามาสบตากับกูปุ๊บก็ยิ้มให้กันแบบรู้ทันทีว่า เธอคิดแบบเดียวกับที่ฉันคิดอยู่สินะ B1 ใช่ ฉันกำลังคิดอยู่เลย B2 สาววายซุยรันคงมีฟีลประมาณนี้มั้ง 5555555555555

191 Nameless Fanboi Posted ID:lyxVieEyG

>>190 กูเคยจิ้นเพื่อนในห้องตัวเอง แล้วเพื่อนกูคนนั้นมันยังมีน้ำใจเซอร์วิสพวกกูด้วยนะ ...แต่ไม่ได้เซอร์วิสกับคู่มันที่พวกกูจับให้ แถมยังไม่ยอมเป็นเคะตามมโนของพวกกูอีก!!

192 Nameless Fanboi Posted ID:C6i18obHF

>>191 ระวังโดนมองว่าคุกคามเกินไปนะมึง เพื่อนกูโดนมาแล้ว กูที่ไม่เคยไปกรี๊ดให้เห็น(แอบเล็งเงียบๆคนเดียว)ยังหน้าชาเลย

193 Nameless Fanboi Posted ID:UtDGh/gpE

>>192 กูไม่เคยกรี๊ดนะมึง พอเห็นแล้วกูก็จะทำหน้าแบบกลั้นยิ้มอ่ะ คือพวกมันเป็นเพื่อนสมัยม.ปลาย คงเป็นโมเม้นต์เอาฮามากกว่า เพื่อนกูซะอีกที่เอาลูกอมไปติดสินบนคู่จิ้นมันให้เซอร์วิสให้ดู ส่วนกู...ก็รับอานิสงค์ผลบุญจากเพื่อน
จริงๆเพื่อนกูคนนั้นก็ใส่ร้ายกูว่าเป็นคนเอาเรื่องมันไปเขียนนิยายวายด้วย กูมองทีไรมันก็จะบอกเพื่อนให้ระวังกูเอาไปแต่งเรื่อง แต่พวกมันอ่ะกลับมาเซอร์วิสกูเองโดยไม่ได้ขอ 5555

194 Nameless Fanboi Posted ID:cuXyL98dt

ขยะฟุโปรดกลับคอกนะครับ ขอความกรุณาด้วย

195 Nameless Fanboi Posted ID:cjISKrmBL

>>194 ขอฟิคทีค่ะ อาหารล่ะ อาหาร เราต้องการกาววววววววლ(◉◞౪◟◉ )ლ

196 Nameless Fanboi Posted ID:vT.4W/Wbn

>>194 แรงไปไหมคุณ

197 Nameless Fanboi Posted ID:8g+pDwsEH

>>196 อย่าไปสนใจมัน

198 Nameless Fanboi Posted ID:a+VUTkr0S

>>196 ตบบ่า/ ไม่รู้ตัวเดียวกับในห้องฟุช่วงนี้มั้ยแต่ช่างเถอะ จะว่าไปก็หายไปนานเลยนะ 555

199 Nameless Fanboi Posted ID:47G5p/5Yr

>>198 เพิ่งปิดเทอมไงมึงถถถถ กำลังว่าง

200 Nameless Fanboi Posted ID:cuXyL98dt

พวกฟุนี่ใส่ไฟเก่งจริง กูคือคาซาม่าโว้ย ไม่ใช่โทรล ไม่ใช่เด็กมัธยมเห่อหมอย คอกฟุเขาก็กั้นไว้แล้ว ทำไมไม่อยู่ให้เป็นที่ทางวะ

201 Nameless Fanboi Posted ID:HgrQf0l1R

>>200 ค....คาซาม่า

202 Nameless Fanboi Posted ID:cjISKrmBL

>>200 คาซาม่าก็ต้องทำตามสถานที่ ตรงนี้มันแดนกาว เอากาวมาแลกเปลี่ยนสิ ขอฟิคคคห้องนี้ต้องการกาววว จะคาซาม่าใส่ก็ขอกาวววว
เอาฟิคมาาาาาาヽ(`Д´)ノ

203 Nameless Fanboi Posted ID:FBd23Jjbe

>>200 อ้าว หลงทางเข้ามาในโรงงานกาวและไร่กัญชาเหรอจ๊ะ มาๆ กินน้ำชาจิบกาวให้ชื่นใจก่อนแล้วค่อยออกเดินทางนะ

204 Nameless Fanboi Posted ID:cwcOe05Wb

คาซาม่าคืออะไร

205 Nameless Fanboi Posted ID:a+VUTkr0S

>>200 กูก็บอกอยู่ว่าไม่แน่ใจ แม่งโมโหโกรธาง่ายจัง ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ดิ 555

206 Nameless Fanboi Posted ID:8g+pDwsEH

>>204 ตัวละครในชินจังจอมแก่น คุณชายบ้านรวย หัวดี เพอร์เฟค ชอบอวดรวย ชอบการ์ตูนผู้หญิง เคยแต่งครอสเดรส ถูกชินจังเล่นมุกวายๆใส่บ่อยๆแถมเจ้าตัวก็หน้าแดงขวยเขินด้วย

207 Nameless Fanboi Posted ID:cwcOe05Wb

>>206 ขอบคุณมาก แต่เอาตามนั้นตรงๆเลยสินะ ฮา

208 Nameless Fanboi Posted ID:cjISKrmBL

>>207 ไม่ๆ ถ้าความหมายตามโม่งคือ พวกบ้าจัดระเบียบ/ขี้ฟ้องอ่ะ เอะอะก็บอกผิดห้องเอะอะก็ไปฟ้องแอดมินไรงี้

209 Nameless Fanboi Posted ID:cwcOe05Wb

>>208 ......วันนี้ถือว่าได้ศัพท์ใหม่แล้ว

210 Nameless Fanboi Posted ID:on7pM9+h6

รู้แล้วก็ไม่ต้องไปสนใจนะเพื่อนโม่งนะ ลงฟิคกาวต่อเถอะ ข้าจาลงแดงแร้ววววว

211 Nameless Fanboi Posted ID:tCF9Y8n5l

โอ๊ยตายยยยกูตาย เจอฟิคสายวายไป55555 เออน่ากูก็ไม่ใช่สายวายแต่ฟิคมันน่ารักดีเป็นแค่ความจิ้นในจิ้นอีกที5555 ชอบเวลาพวกหนุ่มเจอแล้วแบบอะไรว่ะ5555

กูเคยเปิดอ่านการ์ตูนวายผ่านๆเลยแล้วพี่ชายกูมาเจอตอนฉากกำลัง.... มันบอกน้องกูเป็นคนแบบนี้หรอ แล้วก็ขำๆมันเป็นแค่ความชอบในจินตนาการไม่ได้ไปทำร้ายใคร แฟนกูก็ไม่ว่าอะไรนะมองขำด้วย พวกผู้ชายยังชอบสายยูริเยอะเลย บางคนแอบจิ้นด้วยซ้ำ

212 Nameless Fanboi Posted ID:mknhPEun3

>>211 พอมึงพูดละนึกได้ ถ้าท่านพี่มาเห็นเจ้าแม่กำลังอ่านนิยายงายจะเป็นยังไงวะ ตีเนียนว่าไม่รู้หรือมายิ้มอบอุ่นใส่แล้วไปบ่นให้อิมาริฟังทีหลัง

213 Nameless Fanboi Posted ID:Kg8WF7TkE

>>212 ท่านพี่รู้ว่าน้องชอบแบบนี้ เลยเซอร์วิสวายกับอิมาริเป็นการเอาใจเจ้าแม่ตามไปอีกคน//อะไรนะ ไม่ใช่เซอร์วิสแต่มันคือเรื่องปกติธรรมดาที่ทำอยู่ทุกวันเหรอ

214 Nameless Fanboi Posted ID:YO/l1hOS.

จริงๆฟิกมันก็ไม่วายนะ แค่ฟิกสาววานเฉยๆ. คาซาม่าใจเย็นๆ

215 Nameless Fanboi Posted ID:28Kbh+efV

>>214 จริงด้วยนาจา ในฟิคเอ็นโจก็ยังชอบเจ้าแม่ คาบุก็ยังชอบวาคาบะจังอยู่นะ

216 Nameless Fanboi Posted ID:yejp3RtQi

เปิดมาเกาะประตูสโมสรรอกาวทุกวันเลยนะคะโม่งฟิคขา/ทำตาปิ๊งๆ

217 Nameless Fanboi Posted ID:SI9cPqPTU

กูอยากแต่งฟิคถวายฮิโยโกะซามะว่ะ แต่คิดพล็อตไม่ออกเสนอมาที

218 Nameless Fanboi Posted ID:KsmbIJHto

>>217 ต้องการคู่ไหนไอเดียไหนละเพื่อนโม่ง กูละอยากส่งออกกาวไทยให้ท่านฮิโยโกะอ่านบ้าง เพื่อแกจะมีกำลังใจลุกขึ้นมาเขียนต่อ นี่แว้บไปดูนาโร่ตรงแอคเคาท์แกแล้วมีตะคนทวงงาน สงสารละเกิน

219 Nameless Fanboi Posted ID:SI9cPqPTU

>>218 อยากส่งออกกาวไทยสู่ญี่ปุ่นเหมือนกัน ติดอยู่สองอย่าง รู้แต่ภาษาไทย กับ ขี้เกียจ

220 Nameless Fanboi Posted ID:QoIccISPR

ถ้าเป็นกาวอิ้งค์หย่อนลงไปคนจะแตกตื่นกันปะวะ..

221 Nameless Fanboi Posted ID:KsmbIJHto

>>220 ถ้าเป็นใน pixiv คนก็เฉยๆ อยู่นะ กูเคยเห็นฟิคจีนที่โน่น (ไม่ใช่ท่านเรย์กะนะ เรื่องอื่น) แต่เกรงจะไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายนี่แหละ

222 Nameless Fanboi Posted ID:fCYSbxI1B

>>220 คนญี่ปุ่นเขาไม่ค่อยอ่านภาษาอังกฤษกันด้วยรึเปล่าวะ แต่กูเคยเห็นฟิคภาษาอังกฤษใน fanfiction.net อยู่นะ ลองไปลงที่นี่ดิ

223 Nameless Fanboi Posted ID:Tw+KJP81O

นี่เพื่อนชวนไปดูไพ่ยิปซี ตอนหมอบอกให้ถามปัญหาอะไรก็ได้นี่กูควรถามว่าท่านเรย์กะจะออกตอนต่อไปเมื่อไหร่ จะเขียนต่อมั้ยได้รึเปล่าวะ หมอจะตอบกูได้มั้ย

224 Nameless Fanboi Posted ID:uNF+YGLyi

>>223 ลองเลย!! ให้ไสยศาสตร์ทำนายกัน

225 Nameless Fanboi Posted ID:YCP7MvIy8

>>223 หมอดูตอบ "นี่ก็ลุ้นๆอยู่เหมือนกัน ว่าแต่เธอชิปคู่ไหน ฉันชิปคาบุเรย์กะ

#จบเห่

226 Nameless Fanboi Posted ID:eJAquZBlG

>>225 "ชิปคู่ออฟฟิเชี่ยล ท่านเรย์กะกับเรือคานค่ะ"
#หมอหยิบไพ่ The Tower หอคอยแตกล่มสลายวายวอดให้แน่ๆ

227 Nameless Fanboi Posted ID:yhQsX/tpL

>>226 ดิฉันชิพอาหารซังกับท่านเรย์กะค่ะ เขามีลูกด้วยกันแล้วนะคะคุลลลลล

228 Nameless Fanboi Posted ID:6CY+ufeEW

พวกมึงว่าอาหารซังกับคานซัง ท่านเรย์กะรักใครมากกว่ากัน

229 Nameless Fanboi Posted ID:Y4fXUiCJ0

>>228 อาหารซังสิวะ มีพรรณนาความคิดถึงอยู่ทุกตอน ให้ความสำคัญกับเวลาที่อยู่รวมกันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นอาหารซังที่สามัญหรืออาหารซังที่ไฮโซ ท่านเรย์กะก็ให้ความสำคัญเท่าๆ กัน

230 Nameless Fanboi Posted ID:yhQsX/tpL

>>229 แบบนี้คานซังก็เป็นพระรองอะดิ ถึงเธอไม่รักก็จะอยู่ข้างๆเธอเพื่อคอยดูแลเสมอ

231 Nameless Fanboi Posted ID:h9eD8nJgc

>>229 >>230 อาหารซังเป็นร่างแยกของคานซังโว้ยยย คานซังเขาวางแผนให้ท่านเรย์กะตกหลุมไว้ดี//ทำหน้าขรึม ค่อยๆเข้าไปใกล้ให้ตายใจไงล่ะ

232 Nameless Fanboi Posted ID:Eh4vyinYd

>>231 บ้า คานซังเขาไม่ได้วางแผนอะไรเลย มีแต่เจ้าแม่ทำตัวเองล้วนๆ

233 Nameless Fanboi Posted ID:vVpmDLAGe

คานซังชอบเจ้าแม่ แต่เจ้าแม่อยากหนีคานซัง อาหารซังเลยสละตัวเองเป็นพ่อสื่อแม่ชักให้เจ้าแม่ได้กับคานซัง

เอนโจคูงง~ ถ้าไม่หาพ่อสื่อดีๆเดี๋ยวเจ้าแม่จะโดนล่อลวงไปหาคานซังเอานา

234 Nameless Fanboi Posted ID:LS6Na/Xu5

>>233 คานซังไม่ต้องล่อลวง นางเต็มใจไปหาเองตลอด แต่ทำซึนว่าไม่อยากอยู่กับคานซังไปงั้นอะ 555555

235 Nameless Fanboi Posted ID:pRBfSn.xp

กูเพิ่งลองดูบุพเพสันนิวาส ไม่รู้ทำไมนึกถึงท่านเรย์กะขึ้นมา

236 Nameless Fanboi Posted ID:vY+0egtsD

>>235 นางเอกสายแดกอะเหรอ 555555555555

237 Nameless Fanboi Posted ID:pRBfSn.xp

>>236 ไม่รู้สิ กูดูแค่ตรงที่เป็นฉาก highlight อ่ะ แต่รู้สึกเหมือนท่านเรย์กะนะ อ่จจะเพราะเกิดใหม่ล่ะมั้ง

238 Nameless Fanboi Posted ID:04kOvD0Gg

>>237 หรือว่าเพราะป้ำเป๋อๆเหมือนกัน แต่ความจริงเจ้าแม่จะดูเก็บอาการมากกว่าการะเกศหน่อยๆ(ถึงจะเก็บไม่ค่อยอยู่ก็เถอะ)

239 Nameless Fanboi Posted ID:vY+0egtsD

>>237 ก็คล้ายๆหลายอย่างนะ นางเอกชาติก่อนไม่สวย ไปเข้าร่างนางร้ายที่ตามกรี๊ดๆพระเอกจนเขาเกลียด ใช้วิธีเลวๆกำจัดผู้หญิงที่มาใกล้ชิดพระเอก แล้วก็เจอจุดจบแย่ๆ พอเข้าร่างนางร้ายมาก็เปลี่ยนไป เป็นคนน่ารักขึ้น ตลกเฮฮาขึ้น แล้วก็ทัวร์ชวนชิมในอโยธยาเช่นกุ้งเผา มะม่วงน้ำปลาหวาน หรือหมูกระทะ.....

240 Nameless Fanboi Posted ID:mK0GuhFeG

>>233 เหมือนรักสามเส้าเลยเนอะ ทั้งสามโตมาด้วยกัน คนนึงคอยเอาใจเจ้าแม่ แต่ก็มักพาปัญหาหนักอกหนักใจมาให้เสมอ ส่วนอีกคนเจ้าแม่ไม่ค่อยถูกชะตา ไม่อยากอยู่ใกล้ แต่โชคชะตาก็มักทำให้อยู่ใกล้ชิดกัน นานๆ ไปพอห่างกัน เจ้าแม่ก็มักคิดถึงเสมอมา

241 Nameless Fanboi Posted ID:Xnb5bq1DJ

เจ้าแม่โมเดล...

242 Nameless Fanboi Posted ID:vvw6cVidp

>>241 ตะ...แต่บุพเพฯ เขียนก่อนนะมึง

243 Nameless Fanboi Posted ID:vY+0egtsD

>>241 บุพเพฯลงครั้งแรกปี 52 ส่วนเจ้าแม่ลงครั้งแรกปี 56 ห่างกันสี่ปีเลยนะ

244 Nameless Fanboi Posted ID:1+L2gtTxH

>>240 อื้อหืออ พล็อตนี้ทำใจเต้น แต่จะดีกว่านี้ถ้าไม่ได้หมายถึงอาหารซังกับคานซัง

245 Nameless Fanboi Posted ID:vbbzmga+p

>>240 เอ๊ะ.... เหมือนเอ็นโจกับไซซายะเลย

246 Nameless Fanboi Posted ID:FE.J7uguW

>>244 อ๋อ ที่บอกพาเรื่องหนักอกหนักใจมาให้นี่หมายถึง หนักตัว สินะ 555

247 Nameless Fanboi Posted ID:YwAP7exTf

กูคิดถึงเจ้าแม่ เอ็นโจ วาคาบะ ยูกิโนะ ท่านพี่ เข้าโม่งมาด้วยความหวังเสมอว่าจะเจอข่าวสารว่าดิบอัพแล้ว แต่ก็ไม่... ฮือออออออ

248 Nameless Fanboi Posted ID:UmHUYJBb1

>>247 กูก็ไม่อยากจะมองโลกในแง่ร้ายนะ แต่สมมติอ.แกป่วย ไม่สบาย หรือเพิ่งเริ่มทำงานแล้วงานหนักมากจนหมดแรงพลังที่จะมาเขียน นิยายเรื่องนี้อาจจะโดนปล่อยลอยแพก็เป็นได้ //ตบปากเพี้ยะๆ ไม่เป็นมงคลเลยกู

249 Nameless Fanboi Posted ID:S.TI.PCMX

มาต่อ >>>/webnovel/4296/5-9
กาลครั้งหนึ่งในฝัน เอ็นโจ's side story 5
*************

ท้ายที่สุดหนังในค่ำคืนวันคริสต์มาสอีฟที่คิดว่าเป็นหนังรักคอมเมดี้ก็กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรม

ถ้าเพียงเรย์นะฉุกคิดให้เร็วกว่านี้หรือเปิดใจยอมรับชูจิเสียบ้างแต่แรก เรื่องก็คงไม่ลงเอยแบบนี้หรอก

แต่ก็นั่นแหละ ชูจิน่ะมัวแต่ทีเล่นทีจริงจนน่าขัดใจ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายใส่ ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าเรย์นะน่ะใจแข็งซื่อบื้อขี้หวาดระแวงแค่ไหน ซ้ำยังมีตัวร้ายที่คอยยุยงปั่นหัวอีก มาสารภาพรักก็ตอนที่สายไปแล้วทั้งหมด... เพราะปากหนักมาตลอดแท้ๆ

.....ถ้าพูดว่าสมน้ำหน้าจะเข้าตัวมั้ยนะ?

ไม่หรอกน่ะ ...ผมไม่รอให้สายไปแบบนั้นหรอกน่ะ
.
.
.

เวลาจวนเจียนจะค่ำ ร้านรวงที่ข้างทางประดับประดาไฟคริสต์มาสเริ่มเปิดไฟระยิบระยับสีสดใส คึกคักไปด้วยเหล่าคู่รักที่เดินควงคู่กันขวักไขว่ แม้จะไม่มีหิมะเสริมบรรยากาศ แต่ก็ยังคงให้ความรู้สึกที่โรแมนติกประหนึ่งต้องมนต์ความฝัน

ภายในรถเงียบสนิท นอกไปจากเสียงเครื่องยนต์ดังเบาๆแล้วก็ไร้ซึ่งเสียงใดอีก

ผมเหลือบมองคุณคิโชวอินที่นั่งอยู่ข้างๆ เหม่อมองข้างทางที่ค่อยเคลื่อนผ่านไป ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ แต่สีหน้าที่สะท้อนจากกระจกรถนั้นเห็นจะปรับเปลี่ยนอารมณ์ไปเรื่อย บ้างก็ยิ้มให้กับต้นคริสต์มาสยักษ์ที่ประดับไฟสวยงาม บ้างก็เหมือนจะอิจฉาคู่รักบางคู่ข้างนอกนั่น บ้างก็เหมือนจะนึกสงสัยหรือคิดอะไรสักอย่าง

เหมือนกับตอนเช้าเลยแฮะ ทั้งที่ร้องไห้เพราะหนังเศร้า แต่พอได้เห็นแพนเค้กก็ยิ้มแป้นทันที

ช่างเป็นคนที่เปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็วจริงๆ มองได้ไม่มีเบื่อเชียวล่ะ

ผมบีบมือของคุณคิโชวอินที่กุมไว้เบาๆ ไม่รู้ว่าเพราะมัวแต่คิดอะไรอยู่หรือว่าคุณคิโชวอินเหนื่อยที่จะมาดุว่าเนียนจับมืออีกแล้วกันแน่สิน่ะ แต่จะอย่างไหนก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดปล่อยมืออยู่ดีนั่นแหละ

วันนี้สนุกมากจริงๆ ไม่ว่าจะดูหนัง ดูท้องฟ้าจำลอง นั่งชิงช้าสวรรค์ หรือกินนู่นกินนี่ด้วยกัน อย่างกับเอาโชคทั้งชีวิตของตัวเองมาใช้ในวันเดียวอย่างนั้นแหละ ทว่าทั้งหมดนั้นไม่ใช่แผนการหลักของวันนี้หรอก

ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ คอยกระตุ้นตัวเองถึงแผนการหลักที่วางไว้ ทุกอย่างดูจะไร้ปัญหาใดๆ จะมีก็แค่สภาพจิตใจของตัวเองนั่นแหละที่ประหม่าเสียเหลือเกิน

ไม่เอาน่า ชูสุเกะ นี่หน้าด้านจูบหน้าผากเขาก็แล้ว ลากเขามาเดทวันคริสต์มาสด้วยก็แล้ว เนียนเรียกชื่อเขาจับมือเขาก็แล้ว กะแค่นี้จะมาประหม่าอะไรกันเล่า!

ทั้งที่พร่ำบอกตัวเองแบบนั้นแต่ความประหม่าก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย โดยเฉพาะยิ่งตอนที่เห็นป้ายบอกทางที่บ่งบอกว่าเข้าใกล้สถานที่เข้าไปเรื่อยๆทุกที

โชคดีที่ไม่ได้นั่งประจันหน้ากันอยู่ แถมในรถก็เริ่มมืด ไม่งั้นไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองจะทำสีหน้าแบบไหนอยู่น่ะสิ

มือของคุณคิโชวอินจู่ๆก็คล้ายจะกระตุกเบาๆ เหมือนสะดุ้งอะไรบางอย่าง แต่พอไถ่ถามก็ทำท่าทางบ่ายเบี่ยงไม่อยากจะตอบเสียเท่าไหร่ จนรถเริ่มเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางที่ได้ตั้งไว้ คุณคิโชวอินก็ทำสีหน้าฉงน

"มีที่หนึ่งที่อยากพาไปน่ะ" ผมตอบ

คุณคิโชวอินทำหน้าตางุนงงยิ่งกว่าเดิม แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรมากไปกว่านี้ ด้วยความประหม่าที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

****

250 Nameless Fanboi Posted ID:S.TI.PCMX

ขับผ่านสถานที่เดทยอดนิยมก็หลายแห่ง ตามเส้นทางผู้คนเริ่มเบาบาง ไฟประดับคริสต์มาสเริ่มลดน้อย เมื่อรถเริ่มเคลื่อนออกชานเมืองโตเกียว ทุกอย่างก็คล้ายจะหลุดออกจากมนตร์วันคริสต์มาส

สู่สถานที่กาลครั้งหนึ่งในฝันของผม

ผมจูงมือคุณคิโชวอินเดินบนฟุตบาทที่เงียบสงบไร้ผู้คน ช่างแตกต่างกับตลอดทางที่เห็นในโตเกียว ความมืดที่ครอบคลุม มีเพียงแสงจากเสาไฟสาธารณะเป็นระยะ ต้นแปะก๊วยที่เรียงรายทั้งสองข้างทางคล้ายจะเป็นอุโมงค์ต้นไม้โดยธรรมชาติ พื้นเกลื่อนกลาดไปด้วยใบแปะก๊วยสีเหลืองทองประหนึ่งพรม ย่ำเดินทีก็มีเสียงกร็อบแกร็บของใบไม้ตลอดเส้นทาง

บรรยากาศที่ปลีกวิเวกแบบนี้ หากชายหนุ่มหญิงสาวได้มาเดินจับมือด้วยกันคงคิดได้สองอย่าง หนึ่งคือความโรแมนติกแบบโลกนี้มีเพียงสองเรา สองคือเป็นฉากต้นของนิยายฆาตกรรมอำพรางศพสักเรื่อง

ดูจากท่าทีล่อกแล่กของคุณคิโชวอินเห็นจะคิดเป็นแบบที่สอง

นี่เห็นผมเป็นคนยังไงกันเนี่ย เฮ้อ

เพราะคงจะต้องเดินอีกสักระยะหนึ่งก่อนจะถึงที่หมาย ผมจึงประสานมือคุณคิโชวอินไว้และเดินอย่างช้าๆกลัวว่าเท้าที่แพลงจะอักเสบขึ้นมาเสียก่อน

บนโลกนี้หากจะมีอะไรที่ผมจะสามารถเชื่อได้ สิ่งนั้นก็ต้องมีหลักฐาน มีความเป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่อะไรที่จับต้องไม่ได้สักนิดอย่างความฝัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ในฝันนั่นยิ่งละเมอเพ้อพกเสียจริง แต่ถึงอย่างนั้นด้วยภาพความฝันที่ชัดเจนเสียเหลือเกิน ก็อดไม่ได้ที่จะให้คนช่วยสืบหา

ใครจะไปคาดคิด ว่าจะมีอยู่จริง

โบสถ์คริสต์สีขาวเด่นคุ้นตาตั้งตระหง่านที่ปลายอุโมงค์ต้นไม้ เสียงระฆังลั่นดังเหง่งหง่างบอกเวลาที่บรรจบไปอีกชั่วยาม เสียงเดียวกับที่ได้ยินในความฝัน คล้ายจะได้ยินเสียงออร์แกนบรรเลง "Here Comes The Bride" ที่มาซายะเล่นดังแว่วในโสตประสาท

ยิ่งเดินเข้าใกล้ตัวโบสถ์ ภาพความฝันนั่นก็ยิ่งทับซ้อนชัดเจนในความคิดราวกับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ชุดซานต้าริน่าพลันกลายเป็นชุดแต่งงานสีขาวลายลูกไม้ชั่วพริบตาหนึ่ง น่าเสียดายที่ประตูโบสถ์ปิดแล้วไม่อย่างนั้นถ้าได้เข้าไปผมอาจแยกความจริงหรือความฝันไม่ออกไปแล้วก็ได้

คุณคิโชวอินจ้องมองโบสถ์ด้วยความพิศวงไม่วางตาไม่แตกต่าง จนเมื่อพวกเราเดินขึ้นมาจนถึงบันไดหินขั้นแรกของโบสถ์ ระฆังก็เงียบเสียงลง ออร์แกนที่บรรเลงแว่วในหัวก็แผ่วหาย ทุกอย่างกลายเป็นความเงียบงันอีกครั้ง ผมบีบมือคุณคิโชวอินเบาๆ สูดลมหายใจลึก นึกถึงคำพูดที่ได้เตรียมการไว้ พยายามขับไล่ผีเสื้อในมวลท้องให้ออกไปเสียที

"คุณคิโชวอิน" ผมหันหน้าสบสายตากลมโตคู่นั้น ทั้งที่ตลอดมาเป็นผู้ชนะในเกมแข่งจ้องตามาตลอด แต่คราวนี้กลับรู้สึกใบหน้าเริ่มจะเห่อร้อนขึ้นมาแล้ว รู้สึกคอชักจะแห้งผากขึ้นทุกที

"ผมอยากจะพูดอะไรกับคนคนหนึ่งน่ะครับ แต่ว่าบางคำมันก็ค่อนข้างจะติดขัด ถ้าพูดตะกุกตะกักคงไม่ดี ก็เลยอยากลองดูก่อน"

"คุณคิโชวอินช่วยรับฟังหน่อยได้รึเปล่าครับ"

---------------------
ไม่ได้แต่งฟิคนาน แปลกๆขออภัย
กูมาต่อเพื่อทวงตอนต่อค่ะโม่งฟิค อยากอ่านตอนต่ออออออ 5555

251 Nameless Fanboi Posted ID:57KP0u94h

>>249-250 กรี๊ดดดดดดดด กูรักมึงงงงงงงงง ฟิคนี้มาทีไรเยียวยาหัวใจอันเหี่ยวแห้งของกูได้ดีมาก บรรยากาศกิ๊วก๊าวชวนฝันสัสๆ ฮือๆๆๆ รัก

252 Nameless Fanboi Posted ID:Y6g16D+pQ

>>249-250 ขอบคุณที่ทำให้วันฝนตกแต่เช้าเป็นวันดีๆ ฮือออออ คิดถึงฟิคนี้จังคร่ะ อยากอ่านตอนต่อไปด้วย ขอแต่งงานต่อหน้าโบสถ์ตามที่นางใฝ่ฝันเลยค่า T^T

253 Nameless Fanboi Posted ID:/aqwc.lbR

>>249-250 ละมุนมาก ดีต่อใจมาก เหมาะกับการอ่านในวันฝนตกแบบนี้จริงๆ ขอตอนต่อด้วยค่ะ//มองโม่งฟิคตาปริบๆ

254 Nameless Fanboi Posted ID:8otN7+CE8

ตอนแรกเซ็งๆวาาฝนจะห่าอะไรตอนเช้า แต่ฟิคนี้ช่วยเยียวยาจิตใจกูวววว รักมึงมากเลยโม่งฟิค

255 Nameless Fanboi Posted ID:QCnHZ1nl5

>>249-250 ฮือออ กูชอบอ่ะ!!!

256 Nameless Fanboi Posted ID:zn+Hu+1Vw

>>249-250 ขอบคุณสำหรับฟิคงามๆค่ะ ฮืออออออ

257 Nameless Fanboi Posted ID:DyDuY55Hz

กูก็อยากได้ตอนต่อเหมือนกัน จริงๆแอบอยากอ่านเรื่องของเรย์นะกับชูจิด้วย กูชอบอะไรแบบนี้โครตๆ 5555

258 Nameless Fanboi Posted ID:s2uI93041

>>257 มัน Bad Ending นะมึง กูกลัวจะน้ำตาไหลท่วมบ้าน แต่คุณชายที่ยึกยักๆ ทีเล่นทีจริงอยู่นั่นแล้วนี่มันก็น่าจะโดนอะไรหนักๆ ซักทีเหมือนกันจะได้หลาบจำ เหอะๆ

259 Nameless Fanboi Posted ID:n1M4.GnUu

จะลงแดงแล้วเมื่อไหร่ตอนต่อไปจะมา

260 Nameless Fanboi Posted ID:7kXQ8r/5L

กูมีคำถามทะลึ่งนิดๆมาถามว่ะ คือพอดีย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าๆ เห็นประโยคคาบุรากิเย็นชาแต่เร่าร้อนกับวาคาบะ ไอ้คำว่าเร่าร้อนพวกมึงคิดว่ามันอยู่ในเลเวลไหนวะ เลเวลที่เหมาะกับเด็กดีและเยาวชนหรือเลเวลเด็กไม่ดี... แล้วคิมิดอลเนี่ยเป็นโชโจในแนวไหนวะ รักใสๆวัยสะรุ่นหรือแนวฟินจิกหมอน พระเอกนางเอกจุ๊บกันทุกตอนไรงี้

261 Nameless Fanboi Posted ID:9gYJ.WVV2

>>260 เร่าร้อนที่กูคิดคือ กับคนอื่นไซซายะมันจะเย็นชา ไม่คุยด้วย เงียบใส่ ใช้หางตามองแรง แต่กับวาคะจังนี่แทบจะปล่อยสวนอ้อยใส่ เร่าร้อนในมังกะกูว่าน่าจะอารมณ์ ยิ้มให้วาคะจัง พูดจาคมคาย คะเบะด้ง จูจุ๊บ ไรงี้นะ ในความคิดกูคิมิดอลมันน่าจะเป็นมังกะชีวิตสาวน้อยธรรมดาในโรงเรียนลูกคุณหนู มีคุณชายฟินๆให้คนอ่านกรี๊ดกร๊าด ไม่น่าจะเป็นโชโจ 15+ หรือ 18+ อ่ะนะ...

262 Nameless Fanboi Posted ID:DUtx3X2JG

>>260 พอพูดว่าเร่าร้อนกูนึกถึงความเป็นโชเน็นในตัวไซซายะว่ะ ภาพตอนงานกีฬาแม่งลอยมาเลยถถถถ

263 Nameless Fanboi Posted ID:3A+CWU7Sd

>>262 หรือไอ้เร่าร้อนที่ว่านั่นคือไซซายะลากวาคาบะไปฝึกนรกแตกเพื่อลงแข่งขี่ม้าชิงเมืองวะ 55555555

264 Nameless Fanboi Posted ID:bdvqhQoDm

>>263 กูเห็นภาพเป็นไซซายะขี่หลังวาคาบะที่เป็นม้า แล้วตะโกน วิ่งเข้าไป ทาคามิจิ! อะไรแบบนั้นเบย...

265 Nameless Fanboi Posted ID:YCp8aJuyS

>>264 หมดกัน... ความโชโจไม่มีอยู่จริง

266 Nameless Fanboi Posted ID:rlXM9inXO

>>264 พูดซะกูเห็นภาพเลย /-0-\

267 Nameless Fanboi Posted ID:PP6lWigNw

>>261-264 สรุปมีกูคิดอกุศลอยู่คนเดียวสินะ

268 Nameless Fanboi Posted ID:rlXM9inXO

>>267 ไม่ใช่มึงคนเดียว //ตบบ่า

269 Nameless Fanboi Posted ID:21KKFE+cB

>>267 ถ้าเป็นปกติกูก็คงคิดอกุศลเหมือนกัน แต่พอเจอความรั่วของทุก คนในเรื่องนี้เข้าไป กูทำใจคิดไปในทางอกุศลไม่ออกจริงๆ

270 Nameless Fanboi Posted ID:7kXQ8r/5L

>>267 กูก็คิดน่า ถถถถถถถถถถถ
กูคิดว่าคิมิดอลมันสไตล์ประมาณเรื่องสาวแกร่งแรงเกินร้อย นางเอกสาวรากหญ้าพบรักกับหนุ่มหล่อไฮโซของโรงเรียนแต่ถูกขัดขวางโดยคนทั้งโรงเรียนและครอบครัวหนุ่มไฮโซคนนั้น โดยที่ครอบครัวเขาเตรียมหาคู่หมั้นที่เหมาะสมเอาไว้แล้วด้วย อาจจะยังไม่ถึงขั้นติดเรท แต่พวกฉากจูบแบบเอโร่ยๆหน่อยกูว่าก็คงมีอะ เอาไว้ให้คนอ่านฟินว่าพระเอกนางเอกเขาแสดงความรักกัน

271 Nameless Fanboi Posted ID:62uArcl5p

แนวชินโจมายุอะหรอ......

272 Nameless Fanboi Posted ID:HlfYDGYW5

>>271 ชินโจ มายูมันสไตล์มุดฟูกไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องนี่นา กูว่าคิมิดอลคงไม่ถึงขนาดชินโจหรอก อยู่ประมาณโชโจเรททั่วไปนี่ล่ะ

273 Nameless Fanboi Posted ID:+AAx9530p

กูคิดว่าไม่คิดเรทนะ เร่าร้อนนี่คือแสดงความรักปกป้องออกนอกหน้าไรงี้มั้ง คือในคิมิดอลวาคาบะจังเป็นแนว damsel in distress ไม่ค่อยสู้คนหรือเปล่า โดนรักแก พระเอกในมังงะเลยปกป้องอย่างเร่าร้อน ปะฉะดะกับคนอื่นไรงี้ ท่านเรย์กะวาร์ปมาเจอวาคาบะจังเป็นแบบชิลเก็บผักไปต้มกันยังมึนเล็กๆ

274 Nameless Fanboi Posted ID:KrEqJcO9Q

>>271 ชินโจ มายู นี่กูแอบคิดไปเลยว่านางร้ายอย่างท่านเรย์กะต้องจ้างคนมาข่มขืนวาคาบะ แล้วคาบุมาช่วยไว้ได้ แนวว่าเวอร์จิ้นของเธอเป็นของชั้น อะไรประมาณนั้น

275 Nameless Fanboi Posted ID:bdvqhQoDm

>>271 ให้คาบุมาทำท่าฉากรำไทเก็กน่าจะพอได้​อยู่​นะ ฉากแก็กซีเรียส​เลย

276 Nameless Fanboi Posted ID:HlfYDGYW5

>>275 ต้องมีคนมาลอบสังหารจากระยะไกลด้วยปืน m16 ไม่ใช่สไนเปอร์ไรเฟิล ด้วยป่ะวะ 55555555

277 Nameless Fanboi Posted ID:vULAz8XIL

>>275 น่าจะกลายเป็นการ์ตูนตลกไปเลย 555555555555
สมมติว่าคาบุสนิทกับบ้านวาคาบะเหมือนเรย์กะ

คันตะ : นี่ๆ คุณคาบุรากิต้องเรียนพวกศิลปะการป้องกันตัวด้วยมั้ย แบบลูกเศรษฐีที่เห็นในละครน่ะ
คาบุ : ก็เรียนบ้างนะ แต่ก็ไม่ได้เก่งกาจนักหรอก
นัตสึมิ : แล้วเรียนอะไรบ้างเหรอคะ
คาบุ : หลักๆก็พวกยูโด คาราเต้ ยิวยิตสู แล้วก็กังฟู
น้องแฝดสองคนประสานเสียง : หวา เท่จังเลย กังฟูล่ะกังฟู
นัตสึมิ : ทำให้ดูหน่อยได้มั้ยคะ หนูอยากเห็นกังฟู
วาคาบะ : นี่ เดี๋ยวเถอะ ห้ามไปรบกวนคาบุรากิคุงนะ คาบุรากิคุง ขอโทษด้วยนะ ไม่ต้องไปสนใจที่เด็กพวกนี้พูดหรอก
คาบุ : ถ้าแค่นิดหน่อยล่ะก็...
วาคาบะ : เอ๋ จะดีเหรอ
คาบุ : อื้อ ไม่เป็นไรหรอก//ลุุกขึ้นยืนแล้วออกท่ากังฟูโชะๆ แบบมายู ชินโจ
บ้านทาคามิจิพากันประทับใจ เท่มากเลยล่ะ

278 Nameless Fanboi Posted ID:4SuJ6yX6N

>>275 ไอ้ท่ารำไทเก๊กมันเป็นแบบไหนง่ะ กูไม่เคยอ่านมายูชินโจ

279 Nameless Fanboi Posted ID:aUWi.P+kM

>>278 ตามนี้ http://anitime.in.th/scoop/shinjo-mayu-the-mangaka-who-turned-internet-meme/
กูก็​ไม่ได้​อ่านหรอก แต่มีมกันจนรู้จัก​ 5555

280 Nameless Fanboi Posted ID:4SuJ6yX6N

>>279 ก็ตลกจริงๆนั่นแหละ 555555555555

ถ้าคาบุทำให้วาคาบะดูแบบ >>277 เขาจะประทับใจหรือนั่งฮากันยกบ้านกันแน่

281 Nameless Fanboi Posted ID:DA.R42yOv

>>279 ถ้ากูอ่านมังงะเรื่องนี้ตอนยิงปืนนี้คงพีค5555555

282 Nameless Fanboi Posted ID:6Ecr0WiIZ

>>279 กูฮา 555555555555555555

>>274 จะว่าไปในเรื่อง hana yori dango มันจะมีฉากคล้ายๆที่มึงยกมา มันเป็นตอนนางเอกไปหางานพิเศษได้เงินเยอะๆทำ กลายเป็นว่าโดนหลอกไปถ่ายหนังโป๊ แต่คนที่มาช่วยคือพระรอง

เรื่องนี้มันคล้าย kimi dolce จริงๆนะ ไอ้แนวความรักในรั้วโรงเรียน พระเอกรวยมหาศาล นางเอกจน เพื่อนพระเอกรูปงามคอยช่วยเหลือพระเอกนางเอก ตัวร้ายคุณหนูๆทำผมม้วน มีลูกน้องติดสอยห้อยตามสองคน มันเป็นสูตรสำเร็จของคุณหนูที่ต้องทำผมม้วนเหรอวะ

283 Nameless Fanboi Posted ID:mYPWtf6Ym

>>282 ผมม้วนนี่น่าจะเป็นสัญลักษณ์แทนความไฮโซ คุณหนูๆ นะ แบบว่าสามัญชนดูแลไม่ไหว ค่าบำรุงรักษาสูง เบียดคนขึ้นรถไฟหรือปั่นจักรยานมาก็ผมเสียทรงล่ะ ต้องคุณหนูลุคเชิ่ดๆ เริ่ดๆ ขึ้นรถส่วนตัวของทางบ้านมางี้

284 Nameless Fanboi Posted ID:Z34VtNu8T

>>283 จริงๆแล้วแค่โดนทางล้านกดดันให้ไว้ทรงนี้ จนตอนนี้จะเปลี่ยนก็ไม่ชินสายตาซะแล้วเท่านั้นเอง

285 Nameless Fanboi Posted ID:Z34VtNu8T

*ทางบ้านสิ ทางล้านอะไร 55555

286 Nameless Fanboi Posted ID:4SuJ6yX6N

>>284 ในซีรีย์ญี่ปุ่น ถ้ามีตัวละครคุณหนูๆออกมา ส่วนใหญ่จะทำผมม้วนกันนะ

287 Nameless Fanboi Posted ID:HQzIk9KDk

>>282 ดูเมะตอนเด็ก:
-ผมม้วน(นางร้าย)
-ผมสีอ่อน(นางเอก) โดยเฉพาะสีชมพูนี้ใช่เลย

288 Nameless Fanboi Posted ID:odk03FmhM

>>287 ผมม้วนแนวคุณหนูต้องผมสีทองด้วยนะ

289 Nameless Fanboi Posted ID:g6BUV4NWh

>>288 พูดถึงผมม้วนนี่ยังไงก็ต้องผมสีอ่อนเนอะจะได้เห็นลอนผมชัดๆ นี่เล่นไม่ยอมผิดระเบียบซุยรัน ดำสนิทมาเลย แต่ FA ผมสีอ่อนตลอด ชูสุเกะคุงก็ผมสีน้ำผึ้งมาเลยเหมือนกัน

290 Nameless Fanboi Posted ID:zrN3sjdRt

>>273 กูไม่รู้คำว่า damsel in distress คืออะไรเลยลองไปค้นความหมายดู วิกิเขาตอบกูว่ามันคือคำว่า "สาวเอ๊าะเดือดร้อน" กูนี่น้ำพุ่งเลย ทำไมต้องสาวเอ๊าะวะ ถ้าไม่ใช่สาวเอ๊าะๆจะไม่ช่วยรึไง ถถถถถถถถถถถถถถ

291 Nameless Fanboi Posted ID:zDMzx8RZC

>>290 กร้ากกก วิกิแมร่งแปลได้ใจมาก
ตามธรรมเนียมฮีโร่ก็ต้องช่วยสาวน้อยบอบบางก่อนน่ะสิ ป้าบึกบึนก็ต้องหาทางเอาต้วรอดกันเอง

292 Nameless Fanboi Posted ID:R8wKN6ErA

>>289 ผมม้วน มันติดสกรีนโทนถมดำยากด้วยมั้ง

293 Nameless Fanboi Posted ID:JKzNVN..8

>>286 ตัวไหนเป็นตัวละครคุณหนูทำผมม้วนๆหน่อยในซีรีย์พวกนี้ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเป็นตัวร้ายแหงๆ ท่านเรย์กะในคิมิดอลเช่ก็มาตามขนบเดิมเป๊ะเลยนะ แต่พอมีวิญญาณสาวสามัญชนมาสิงร่าง มันก็กลายเป็นออกอวกาศไปแบบกู่ไม่กลับแล้ว.....
>>290 กูลั่นสาวเอ๊าะมาก 55555555555

พวกมึงว่าวาคาบะนี่หน้าตายังไงวะ มีคนบอกเรย์กะสวยเหมือนเจ้าหญิง น่ารักเหมือนตุ๊กตา อันนี้เรารู้กันอยู่แล้ว แต่วาคาบะส่วนใหญ่เวลาบรรยายถึงหน้าตาชอบมีสาวๆกระแนะกระแหนว่าขี้เหร่ ดูเอ๋อๆ หน้าตาธรรมดา แต่ระดับนางเอกมังงะจะหน้าตาธรรมดาจริงเรอะ อย่างน้อยมันก็ต้องดูดีเพื่อความฝันของนักอ่านกันมั่งล่ะน้า

294 Nameless Fanboi Posted ID:IOd4i6z69

>>293 ตะ แต่เวลาเปิดเรื่องนางเอกโชโจวชอบบอกว่าตัวเองธรรมด๊าธรรมดา พื้นๆ ไปจนถึงขี้เหร่เลยนะะะะะ

295 Nameless Fanboi Posted ID:JKzNVN..8

>>294 มังงะพวกนี้มันจะชอบมีฉากนางเอกโดนจับไปแปลงโฉมออกมาสวยจนทุกคนตะลึง พระเอกมองตาค้างเลยนะ 5555555555
เอาจริงๆกูว่านางเอกโชโจส่วนใหญ่ก็สวยหรือน่ารักนั่นล่ะ แค่ไม่ใช่พวกแต่งตัวแต่งหน้ามาก แต่พอแต่งก็เป็นคนสวยคนนึงเลย ที่บอกว่าขี้เหร่หรือหน้าตาธรรมดาก็แค่ถ่อมตัวอ่ะ

296 Nameless Fanboi Posted ID:vBeeDKO9J

>>293 แค่ไม่แต่งหน้ารึเปล่า ก็วาคาบะจังเป็นอารมณ์แบบเด็กทุนจนๆ เนิร์ดๆ (จริงๆเหมือนจะไม่เนิร์ดเท่าไหร่ แต่ภาพลักษณ์นางไปทางนั้นนนนอะไรงี้) พวกคุณหนูสาวแกลแอนด์คุณหนูหัวม้วนจะมองว่าหน้าจืดบวกดูโทรมเพราะอ่านหนังสือดึกก็ไม่แปลกหรอกมั้ง ไม่ได้ขี้เหร่แค่ไม่ได้ดูแลเท่าไหร่

297 Nameless Fanboi Posted ID:g1yCjBUN5

กูว่าวาคาบะก็หน้าตาน่ารักนั่นล่ะ มีตอนนึงที่เรย์กะนางก็ชมว่าวาคาบะหน้าตาน่ารักด้วย แต่ในสายตาพวกไฮโซไฮซ้ออย่างพวกเด็กซุยรันก็จะเห็นว่าโทรมๆ ไม่โดดเด้งเท่าพวกนาง แถมยังมีพฤติกรรมทำให้รู้สึกติดลบ จะถูกมองว่าขี้เหร่ก็ไม่แปลก

298 Nameless Fanboi Posted ID:.VUlRMO9v

กูว่าจำเป็นที่วาคาบะจะต้องน่ารัก เพื่อน้องเคนตะจะได้หล่อแบบเฮี้ยวๆ หน่อย หนุ่มเกๆ ที่มีความเอาใจใส่เป็นพ่อบ้านพ่อเรือนนี่มันโมเอะแก๊ปสำหรับกูมากมาย อุฮิ

299 Nameless Fanboi Posted ID:75CTg9gUi

พึ่งซื้อแฟนผมเป็นสาวอวบของบงกชมาอ่าน ทำไมกูนึกถึงท่านเรย์กะวะ ถ้ามีพระเอกแบบนี้อีกคนใน kimi dolce ก็ดี

300 Nameless Fanboi Posted ID:t1eZuT+PG

ไม่ได้เข้าหลายวัน คุยกันน้อยกว่าที่คิดแฮะ

301 Nameless Fanboi Posted ID:.dkJ5J5m5

>>300 ขาดแคลนกาวเบาๆ ใครมีอะไรมาลองแบ่งกันบ้างมะถถถ

302 Nameless Fanboi Posted ID:g1yCjBUN5

เห็นไอ้นี่ทีไร กูนึกถึงฟิคสาววายซุยรันขึ้นมาทันทีเลยว่ะ 555555555555555
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1305175099584775&id=792217704213853

จะมีใครในเรื่องมีโมเมนต์แบบนี้บ้างมั้ย ประมาณว่าสองหนุ่มคาบุเอ็นโจพยายามฮึด ทำตัวหล่อๆแมนๆใส่สาวๆเพื่อดึงนางกลับมาทางโชโจ แต่ดันกลายเป็นไปกระตุ้นให้นางจิ้นเตลิดเปิดเปิงกว่าเดิมอีก อยากเห็นแบบนี้จัง

303 Nameless Fanboi Posted ID:WDHUoMW3o

>>302 สายรับที่พยายามจะรุกนี่เห็นแล้วคิดถึงคาบุว่ะ ต่อให้คู่กับวาคาบะนายก็ยังเป็นฝ่ายรับอยู่ดีน่ะแหละ ถถถถถ

304 Nameless Fanboi Posted ID:Z4960STK.

>>303 ฝ่ายรุกก็ผมสีอ่อนซะด้วย....

305 Nameless Fanboi Posted ID:.TmjKaHmA

ไม่ได้เข้าไปอ่านท่านเรย์กะซะนาน เพิ่งรู้จากเพื่อนว่าทันดิบแล้วเลยอ่านรวดเดียวหลังหยุดไปราวๆตอนที่ 190 กว่าๆมั้ง พออ่านจบเลยวิ่งเข้ากระทู้นี้ทันที พวกมึงยังคงคุยกันเยอะเหมือนเดิมเลยนะ กูต้องมาตามอ่านอีกแล้ว 5555555

เข้าเรื่องดีกว่า อ่านจบแล้วคันปากอยากเม้า คือตามความเห็นกู คิดว่าวาคาบะชอบคาบุแล้วว่ะ ดูมีความลงทุนทำข้าวกล่องมาให้ทุกวัน ตกลงไปดูดอกไม้ไฟกันสองต่อสองในสถานที่ปิดและเป็นส่วนตัว นางก็ไม่ใช่คนโง่หรือคนเอ๋อๆที่จะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ผู้ชายมาจีบโต้งๆแบบนี้ถ้าไม่เล่นด้วยคงปฏิเสธไปนานละ แต่นี่ดูยอมไปไหนมาไหนด้วยตลอด ก็คงชอบเขาแล้วล่ะ แต่ทางอาริมะจะคิดยังไงกับวาคาบะกูก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้อมูลน้อยไปไม่พอให้วิเคราะห์ แต่ถ้าเอาตามเส้นเรื่องเดิม อาริมะก็คงชอบวาคาบะเหมือนกัน

ส่วนเรย์กะกูมั่นใจมากว่านางชอบเอ็นโจ ดูจากพฤติกรรมทั้งหลายทั้งแหล่เวลามีผู้หญิงมาเข้าใกล้ โดยเฉพาะยุยโกะที่นางเหม่อมองตาม หมดอาลัยตายอยาก อารมณ์ขุ่นมัวตอนรู้ โกรธเวลาเขาอยู่ด้วยกัน หรือชอบเปรียบเทียบตัวเองกับเขาแล้วมาน้อยเนื้อต่ำใจเอง อย่างตอนทานาบาตะชัดมาก ยกย่องยุยโกะว่าใส่ชุดสีขาวแล้วสวยและดีกว่านาง ล่าสุดนางดูรีบและตื่นเต้นมากในการเลือกชุดใส่ไปเที่ยวกับเขา แต่กูจะเผื่อใจไว้นิดๆละกันว่านางแค่อยากไปดูดอกไม้ไฟ คนชวนจะใครก็ได้ตามประสาผู้ใหญ่บ้านคานทองที่ไม่มีหนุ่มมาชวนเที่ยว นอกนั้นกูคิดว่านางอยากไปกับเขาเองจ้า 5555555555555

306 Nameless Fanboi Posted ID:.TmjKaHmA

อีกเรื่องนึงที่กูอ่านแล้วคิดได้คือ ตอนที่คาบุไปดึงแขนเรย์กะเข้าหาตัวที่ตอน 274 กูคิดว่านางเห็นฉากนั้นว่ะ เป็นเซนส์เฉยๆนะไม่มีเหตุผลหรอก แต่คิดว่าจังหวะมันเป๊ะเกินไป พอเรื่องจบวาคาบะเดินออกมาคุยหงุงหงิงกับอาริมะ เมินทั้งคาบุและเรย์กะไปเลย ทั้งที่อยู่ในระยะมองเห็นแท้ๆ ปกตินางเจอนางจะทักหรือไม่ก็ส่งสัญญาณภาษากายอะไรออกมาบางอย่างเป็นการทักทายน่ะ แต่กูอาจจะคิดมากไปเองถึงเรื่องนี้มั้ง วาคาบะอาจจะไม่เห็นอะไรเลย มาโรงเรียนตามปกติ ทักทายอาริมะ ไม่ทักคาบุกับเรย์กะเพราะกลัวโดนหาว่าไม่เจียมตัวอีกก็ได้

307 Nameless Fanboi Posted ID:EAARSQppN

พวกมึงมีนิยายอะไรในแมวดุ้นแนะนำบ้างวะ ไม่มีท่านเรย์กะแล้วกูรู้สึกไม่มีไรอ่านเลยว่ะ

308 Nameless Fanboi Posted ID:jChgdR0p/

>>307 มีท่านเอลิซ่ามู้ข้างๆไงมึง มีความลุ้นลงคานก่อนลงโลงพอๆกันถถถ

309 Nameless Fanboi Posted ID:7xsk/RmIk

>>306 กูก็ว่าบางทีวาคาบะอาจจะเห็นก็ได้ แล้วฉากนั้นแบบใครๆมาเห็นก็ต้องคิดอะ ท่านคาบุรากิห่วงใยท่านเรย์กะจังเลยไรงี้
>>307 กูก็อยากแนะนำนะ แต่อันทีกูเคยติดๆอยู่ก็ไม่ได้อัพไปนานแล้วว่ะ

310 Nameless Fanboi Posted ID:h+gfab7+i

>>309 กูก็คิดว่าเห็นนะ ถ้าวาคาบะชอบคาบุแล้ว กูคิดว่าฉากนั้นวาคาบะหึงว่ะ ถึงได้เมินและคุยกับอาริมะอย่างเดียวไม่หันมาสนใจเลย

311 Nameless Fanboi Posted ID:8M+DuuNfn

>>306 อาจจะเห็นก็ได้ กุว่าหลังจากคาบุกะวาคาบะลงเอยกัน คงมีฉากเคลียร์กันเรื่องนี้ เรย์กะอาจจะมาเป็นปมหัวใจวาคาบะแทน ไม่งั้นความรักของทางนั้นจะราบเรียบไปหน่อย

312 Nameless Fanboi Posted ID:7ZZR0tiXE

ความจริงคือหึงเรย์กะแล้วคิดว่าคาบุจะมาแย่งกันถถถถถ

313 Nameless Fanboi Posted ID:rIKHjDHqc

>>312 อ้ายยยย เรือพุ่งไม่ต้องพายแล้ววว

314 Nameless Fanboi Posted ID:zGSKDhUNH

>>311 คาบุต่างหากที่จะมาเป็นปมหัวใจวาคาบะ คุณคิโชวอินมีฉันแล้วแท้ๆแต่ยังไปสนิทสนมกับไอ้หมอนั่นอยู่ได้ อ๊ะ..จริงสิ หมอนั่นมาชวนฉันไปล่องเรือกันสองต่อสองนี่นา เป็นโอกาสดีที่จะฆ่าอำพรางศพบอกว่าตกน้ำไปเองก็ได้ ได้กำจัดศัตรูหัวใจซักที//ผิดๆๆ

315 Nameless Fanboi Posted ID:78fvzKP.n

>>314 พอเอ็นโจเห็นก็คิดว่าไซซายะรักคุดเลยกระโดดแม่น้ำ ลำบากต้องไปงมขึ้นมาอีกถถถ

316 Nameless Fanboi Posted ID:Ou6+nvcjT

>>315 จากนั้นคาบุก็พบว่าจริงๆแล้วเอ็นโจคือรักที่แท้ทรู ทั้งสองคนจึงได้ครองคู่กันเป็นตำนานเจ้าชายจักรพรรดิ์
ส่วนวาคาบะก็ได้ไปครองคู่กับเรย์กะเป็นตำนานจักรพรรดิณีกับหญิงสามัญชน

317 Nameless Fanboi Posted ID:2xIi72.e9

>>316 นี่ฟิคของอาจารย์เซ็นโนะกับอาจารย์ฮางิในฟิคสาววายข้างบนใช่มั้ย 555555555

318 Nameless Fanboi Posted ID:78fvzKP.n

>>316 วันจบการศึกษา วาคาบะก็ประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่า เธอคือmy dolceเหมือนชื่อเรื่อง แล้วเพลงจบก็เริ่มขึ้น

319 Nameless Fanboi Posted ID:cFz+++3Jg

เมื่อคืนกูมาพล่ามอะไรซะยืดยาว แต่ลืมหวีดท่านพี่กับอิมาริไปซะได้ ขออภัยเจ้าค่ะท่านพี่ หนูผิดไปแล้ว //หมอบกราบ
ตอนอิมาริเล่าเรื่องความหลังครั้งไปทัศนศึกษา แม่งโครตได้ฟีลผัวแอบหนีเที่ยวกลางคืนแล้วเมียถ่างตามารอยันสว่าง แถมมีไล่ออกจากห้องอีก กูล่ะแอบคิดว่าอิมาริคุยโทรศัพท์บอกรักสาวหงุงหงิงให้ท่านพี่ฟัง แถมชอบป้อเรย์กะต่อหน้าท่านพี่ รู้ว่าจะโดนท่านพี่ซ้อมแต่ก็ยังทำ จุดประสงค์คือจะยั่วให้เขาหึงใช่มั้ย เพื่อนกันใครจะมายั่วให้อีกฝ่ายมีน้ำโหบ่อยๆกันน้า

320 Nameless Fanboi Posted ID:YvJjZGOzF

>>319 ฉายาผัวเมียละเหี่ยใจไม่ได้มาเล่นๆ นาจา

321 Nameless Fanboi Posted ID:AL6UjwxTi

กูเคยจิ้นท่านพี่เมะ แต่เจอฉากท่านพี่ตื่นมารออิมาริที่หนีเที่ยวแล้วกลับสว่างแล้วก็เกิดการรีบะในทันใด ถถถถถถ

322 Nameless Fanboi Posted ID:gz1pfiVyB

พวกมึงคิดว่า 20 เดือนนี้ท่านฮิโยโกะจะอัพมั้ยวะ
ส่วนตัวกูแล้วกูว่า... ให้คุกกี้ทำนายกัน//ร่ำไห้

323 Nameless Fanboi Posted ID:CcjTDSa/+

>>322 หมายถึงวันที่ 20 เดือนนี้ หรือในอึก 20 เดือนข้างหน้า???

กุว่าอันหลังเป็นไปได้มากกว่า

324 Nameless Fanboi Posted ID:U.dWgY8LJ

>>323 บวกค่ะ ภายใน 20 มีนานี่ริบหรี่ละเกินมึงเอ๊ย 20 เดือนหน้านี่ยังพอหวังอยู่

325 Nameless Fanboi Posted ID:46G4f4cW3

>>323 อีกยี่สิบปีข้างหน้า//อย่าตีกู

326 Nameless Fanboi Posted ID:U.dWgY8LJ

>>325 กูจะยังอยู่อ่านมั้ย ฝากเผาส่งมาให้ด้วยนะ

327 Nameless Fanboi Posted ID:w3dpnrTUo

>>326 กูนี่นึกสภาพเป็นแบบ
อ๊ะ เรื่องที่คุณยายบอกว่าชอบอ่านสมัยตอนสาวๆออกตอนใหม่แล้วนี่นา เดี๋ยวเย็นนี้เผากงเต็กไปฝากดีกว่า

328 Nameless Fanboi Posted ID:n.nLgj5CN

>>327 แต่รอบนี้คงต้องเปลี่ยนจากกงเต็กเป็นเผาสมาร์ทโฟนไปให้แทนล่ะนะ

329 Nameless Fanboi Posted ID:UycBUD8X4

ที่แกหายไปนานๆอาจจะไปตกลงเรื่อง lc กับสนพ.อยู่ก็ได้นะ บับแวร่โผล่มาก็มีรูปเล่มวางจำหน่ายเลยน่ะ

330 Nameless Fanboi Posted ID:aW./D3Nhi

ลองมโนดูว่าท่านฮิโยโกะเป็นคนไข้นอนติดเตียงที่โรงพยาบาล ชอบดูหนัง ดูทุกเรื่องทุกแนว ช่วงที่หายไปนาน ๆ เพราะอาการทรุด ไม่มีแรงเขียน

331 Nameless Fanboi Posted ID:GHwu053vX

>>330 แล้วมึงจะคิดแช่งเค้าทำไมวะ

332 Nameless Fanboi Posted ID:aW./D3Nhi

>>331 อยากลองคิดแบบอื่นดู ขอโทษค่ะ

333 Nameless Fanboi Posted ID:NdqEDhSdv

เห็นกระทู้นี้แล้วนึกถึงคิมิดอลว่ะ https://pantip.com/topic/37466941

334 Nameless Fanboi Posted ID:y2RcXEbyq

>>333 อ่านแล้วก็คิดนะว่า จะซื้อหุ้นของคิโชวอินได้ ฝั่งคาบุต้องทุ่มเงินขนาดไหน ต่อให้ฝั่งคิโชวอินย่ำแย่ใกล้เจ๊งแล้วก็เหอะ แต่ก็ต้องใช้เงินมากอยู่ดี แล้วพ่อคาบุจะยอมให้ลูกชายเอาเงินมาผลาญเพื่อซื้อกิจการช่วยคนรักขนาดนั้นเลยเรอะ แล้วฝั่งพ่อเรย์กะไม่มีอะไรรับมือเลยรึไงหว่า ตรงนี้อดสงสัยไม่ไดัจริงๆ

335 Nameless Fanboi Posted ID:LEp6+Fi9R

>>334 จะทำอย่างนั้นได้ในเวลาสั้นๆ ทางคิโชวอินต้องหุ้นดิ่งเหวมากๆอ่ะ สาเหตุที่ทำให้หุ้นตกได้ขนาดนั้นก็คงเป็นเรื่องคดีความหรือทุจริต ผู้ถือหุ้นรายใหญ่คนอื่นก็ต้องหักหลังด้วย

336 Nameless Fanboi Posted ID:JVUnRVVK2

>>335 กูว่าอาจจะเอาผู้ถือหุ้นใหญ่คนอื่นมาเป็นพวกอ่ะ ไม่ได้ถือในนามตัวเอง ไม่งั้นวุ่นวายต่ออีกยาวอ่ะมึง

337 Nameless Fanboi Posted ID:NdqEDhSdv

จริงๆคิโชวอินก็ใหญ่นะ ถ้าล้มละลายแล้วเศรษฐกิจไม่สะเทือนเรอะ ไหนจะเส้นสายหรือแบ็คอัพที่คิโชวอินมีอีก ทำเหมือนบ้านคาบุใหญ่โครตๆ บารมีคับฟ้า จะเอาเงินมาโปรยเล่นก็ยังได้ ส่วนคิโชวอินกระจอกงอกง่อยให้เขาเล่นงานได้ง่ายๆเลย

338 Nameless Fanboi Posted ID:hdlMEAZ+Z

>>337 อาจเป็นท่านพี่วางแผนแล้วสืบทอดกลุ่มอำนาจเดิม แล้วเฉดหัวท่านพ่อให้ล้มละลายไป

339 Nameless Fanboi Posted ID:ikvnwqniN

ถ้าไม่ได้ค่อยๆเก็บหุ้นบ.คิโชวอิน หุ้นก็คงติดฟลอร์ทุกวันอ่ะ เเต่อย่างบะกะระกี้ที่มีท่านจอมมารเอ็นโจช่วยคงใช้วิธีค่อยๆซื้อหุ้นเก็บแบบกระจายๆ ให้เนียนๆ คนจะไม่สงสัย

340 Nameless Fanboi Posted ID:y2RcXEbyq

>>339 แต่ถ้าคิโชวอินหุ้นติดฟลอร์ทุกวัน แม่คาบุยังจะอยากได้เรย์กะเป็นสะใภ้อีกเหรอ แต่งมาแทนที่จะรุ่งเรือง แต่ต้องมาแบกหนี้จากลูกสะใภ้ไม่รู้กี่พันล้านหมื่นล้าน ถึงมาดามจะเอา โดยที่มาดามอาจจะไม่รู้เรื่องตลาดหุ้น แต่กูว่าพ่อคาบุไม่น่าจะยอมด้วยว่ะ

341 Nameless Fanboi Posted ID:Ay6p5+Mdq

พอพวกมึงพูดถึงโลกความเป็นจริง กูก็คิดสงสัยว่าคาบุทำไมสนใจวาคาบะวะ คือแบบ เป็นทายาทก็ควรจะเล็งๆคนที่เหมาะสมไม่ใช่งั้นเหรอ เข้าใจนะว่าเรย์กะภาคคิมิแย่สุดๆ แต่ภาคนี้ไม่เลวร้ายเท่าไหร่ คาบุมันจะไม่เคยคิดเลยเหรอวะ ว่าแบบ เมียในอนาคตจะต้องเป็นคนแบบไหนถึงจะอุ้มชูกิจการได้ คิดภาพวาคาบะต้องดีลกับพวกคุณหญิงตอนเข้าคอร์สแล้วกูเครียดแทนวาคาบะเลย สมมติเค้าพูดถึงบัลเล่ต์กัน วาคาบะคงอึดอัด อพราะถึงจะหัวดี แต่คนไม่ชอบ พื้นฐานไม่ใช่ มันจะทนได้กี่น้ำเชียว อีกอย่างพื้นฐานนางก็ไม่ใช่คนคลั่งรัก จะปรับตัวเองสุดขั้วเพื่อผู้ชายนี่น่าจะยาก

342 Nameless Fanboi Posted ID:EtuAa4rbI

>>341 คาบุมันเป็นพวกคลั่งรักต่างชนชั้น(ความรักที่มีอุปสรรคขัดขวาง)อ่ะมึง คนระดับเดียวกันถ้าไม่ใช่เอ็นโจ พวกยูริเอะ เรย์กะและผองเพื่อนหรือคนที่มันคิดว่าพอคุยกันได้ มันก็ไม่ค่อยสนใจนักหรอก ... อย่างวาคาบะนี่ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจแต่พอเห็นนางฉลาด มีความประหลาด แถมอยู่กันคนละระดับก็เลยพอดีกับสเปคที่ใฝ่ฝันหา
กูว่าคาบุมันคงยังไม่ได้คิดถึงว่าวาคาบะจะปรับตัวให้เข้ากับสังคมไฮโซยังไงทีล่ะมั้ง อีกอย่างกูว่าวาคาบะนางเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆนะ(ตามประสานางเอกมังงะแนวนี้แหละ) ยิ่งอดีตตัว(ที่ควรจะ)ขัดขวางอยู่ฝั่งนางกูว่าอะไรๆน่าจะง่ายขึ้นว่ะ

343 Nameless Fanboi Posted ID:NdqEDhSdv

>>341 กูว่าคาบุมันโรแมนติคว่ะ ออกแนวตั้งเป้าไว้ว่าฉันจะแต่งงานกับคนที่ฉันรักเท่านั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นใครหรือฐานะแบบไหน แบบหนังรักต้องฟันฝ่าอุปสรรคแบบที่ฮีชอบ พวกคู่หมั้นตามความเหมาะสมกับฐานะและชาติตระกูล คาบุคงต่อต้านเพราะไม่ได้เลือกมาเองแต่ต้องมาอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต มันคงทรมานมากสำหรับคนที่ซื่อตรงต่อตัวเองแบบฮี อีกอย่างถึงได้เมียฐานะต้อยต่ำกว่าคาบุมันคงไม่แคร์หรอก เพราะดูมีความหยิ่งทระนงประมาณว่ากูหาเลี้ยงเมียกูได้ กูบริหารจัดการด้วยตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินหรืออิทธิพลฝั่งเมียเข้าช่วยอุ้มชูกิจการหรอก คนในวงสังคมซุบซิบแล้วไง ไม่สนซะอย่าง

กูเคยอ่านกระทู้ประมาณว่าผู้ชายรวยผู้หญิงจนจะเป็นไปได้มั้ย มันมีคอมเมนต์นึงเป็นผู้ชายบ้านรวยมาตอบ เนื้อหาก็ประมาณว่าเขารักและเลือกผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาโดยไม่สนฐานะ แต่คนรอบตัวนั่นล่ะที่ไม่พอใจ เอาแต่ตำหนิติเตียนว่าเมียเขาไม่เหมาะสม ไม่เชิดหน้าชูตา ทั้งที่เขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้เลย แต่เสือกไปหนักหัวชาวบ้าน ทุกวันนี้ก็ได้แต่บอกเมียว่าอย่าไปคิดมากตามขี้ปากคนนั้นคนนี้เลย สรุป...ตัวผู้ชายไม่แคร์ แต่คนรอบข้างเสือกมาแคร์แทนซะงั้น

ส่วนเรื่องปรับตัวเนี่ย....วาคาบะนางก็ดูชอบอะไรแบบนี้อยู่นะ โลกคนรวยที่นางอยากรู้อยากไปเห็นกับตา พวกพิธีการอย่างจัดดอกไม้ ชงชา ก็ดูกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้กับพยายามทำให้สำเร็จ กูว่าคาบุคงชอบนางที่จุดนี้ด้วยล่ะ ดูท่าทางฮีไม่ชอบคนขี้เกียจหรือผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ตอนเรย์กะไปต่อรองบอกจะทำการบ้านพรุ่งนี้ละกันถึงได้จ้องเขม็งขนาดนั้น ถ้าเรย์กะเถียงแบบแถๆต่ออีกซักหน่อยฮีคงว้ากใส่แล้วน่ะ

344 Nameless Fanboi Posted ID:Ay6p5+Mdq

อ่านจากข้างบน เจ้าแม่กูหมดสิทธิ์อจวเรือคาบุ ขึ้นคานต่อไปจ้า

345 Nameless Fanboi Posted ID:y2RcXEbyq

>>341 กูว่าวาคาบะไม่ใช่พวกยอมแพ้ง่ายๆว่ะ ดูจากทุกวันนี้ที่นางใช้ชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียนที่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบนาง เป็นคนอื่นอาจจะไม่มาโรงเรียนหรือย้ายหนีแล้วก็ได้ ถ้ารักกันจริงกูเชื่อว่านางจะพยายามปรับตัวเข้าหาคาบุด้วยว่ะ ดูพยายามจะเข้าใจโลกคนรวยและก้าวเข้าหาด้วยความตั้งใจของตัวเองอยู่นะ ตอนมุมมองคันตะนี่บับแวร่...วาคาบะคือนางเอกมังงะโชโจโครตๆ อยากรู้อยากเห็น พยายามตามหาคำตอบ มีความตั้งใจมุ่งมั่นกระตือรือร้นไม่ยอมแพ้ แถมแปลกประหลาดแบบที่ฮีไม่เคยเจอและดึงดูดความสนใจ ไม่แปลกที่คาบุจะชอบนางเข้าให้นะ

346 Nameless Fanboi Posted ID:z6Re5oHOf

>>341 ให้เดาก็นะ
ทำไมคาบุถึงชอบวาคาบะ? จริงๆ แล้วนางก็น่ารักนะ เรย์กะยังอยากอยู่ใกล้ๆ เลย แล้วเดิมคาบุก็สนใจตั้งแต่เห็นผลการเรียนแล้ว พอมีโอกาสใกล้ชิด เห็นความน่ารักของนาง ก็ไม่แปลกที่จะชอบ

เรื่องความเหมาะสม? อันนี้กูคิดเองนะ ว่าคาบุคงยังไม่คิดไปไกลถึงเรื่องแต่งงานหรอกมั้ง เลยยังไม่คิดไปไกลขนาดนั้น

ทำไมไม่สนใจคนที่เหมาะสมอย่างเรย์กะหรือคนอื่น? อย่างที่บอกวรรคก่อน ว่าคาบุยังไม่ไม่คิดไปไกลถึงขั้นแต่งงาน อีกอย่าง นอกจากยูริเอะ ไอระ แล้ว คาบุเองก็ไม่ได้สนิทกับหญิงคนไหนเลยนะ กับเรย์กะเอง ตั้งแต่ประถม ยันขึ้น ม.ปลาย ก็ไม่ได้สนิทอะไรมากมาย เจอหน้าก็ทักทายกันก็เท่านั้น (ซึ่งสาเหตุก็มาจากเรย์กะเองที่คอยหลบหน้า) มาเริ่มสนิทพูดคุยกันบ่อยก็ตอนที่เรย์กะรู้จักกับยูกิโนะ ก็อยู่ ม.5 แล้วมั้ง

347 Nameless Fanboi Posted ID:rSu/2TBrS

>>341 กูคิดว่าคาบุมันเป็นพวกเทิดทูนความรักอยู่นะ อารมณ์มาก่อนเหตุผล คงไม่ได้คิดอะไรมากมายว่าเขาจะเหมาะสมกับเรามั้ย รู้แค่ว่าตัวเองชอบเขาเลยจะจีบเขาก็เท่านั้น คิดแบบตรงๆเลยไม่ซับซ้อน หรือต่อให้คิดแต่ก็คงไปจุดไฟอะไรในตัวได้ว่านี่มันรักต่างชนชั้นแบบที่เคยประทับใจในหนังเลยนี่นา เข้าสูตรความเพ้อฝันของนางพอดี มีคนตรงสเป็คมาอยู่ต่อหน้าแถมนิสัยดี ไม่กรี๊ดกร๊าดวี้ดว้าย ตลก อยู่ด้วยแล้วอารมณ์ดีและวาคาบะก็หน้าตาน่ารัก ไม่จีบได้ไง

348 Nameless Fanboi Posted ID:CFVBTL3Ol

>>346 ดูจากความจริงจังและนิสัยใจคอหนักแน่นแล้ว กูรู้สึกว่าคาบุมันเป็นพวกรักแล้วรักจริงหวังแต่งน่ะ เลยไม่เผื่อใจและไม่มองใคร โอเคว่าถ้าจีบไม่ติดอาจจะยังไม่คิดเรื่องแต่งงาน แต่ถ้าจีบติดกูว่าคิดแน่ๆ ยิ่งเป็นพวกชอบวางแผนอนาคตแต่เนิ่นๆอยู่ ขนาดจะไปเดทยังเอาคู่มือมาวางแผนละเอียดยิบเลย คงวางชีวิตตัวเองไว้เสร็จสรรพรับมือกับปัญหาแล้วล่ะ

349 Nameless Fanboi Posted ID:7SMhSjXCP

>>348 มึงต้องดูด้วยนะว่าคาบุมันมีมาตรฐานการจีบติดอยู่ตรงไหน…//ชี้ไปที่ท่านยูริเอะ อลังการคนรู้ทั้งโรงเรียนเว่อร์ แต่พอเป็นวาคาบะจังไม่รู้ทำไมฮีเพียงแค่แสดงออกทางการกระทำลับหลัง รึเพราะอดีตมันยังย้ำฮีอยู่ก็ไม่รู้ เลยไม่กล้าสารภาพรักซักที (นี่ฮีคิดว่าวาคาบะชอบตัวเองบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ เหมือนไม่ค่อยคิดถึงเรื่องนั้นด้วย คือเวลาเล่าเรย์กะก็เข้าข้างตัวเองได้ดีนะ แต่พออยู่กับตัวจริงปุ๊บดูไมม่มีแพลนข้างหน้าเลยอะนายยยย

350 Nameless Fanboi Posted ID:CFVBTL3Ol

>>349 กูว่าก็ไม่ได้แสดงออกลับหลังนะ ออกจะลุยหาเขาโจ่งแจ้งต่อหน้าคนทั้งโรงเรียน ชวนเขาเดทหลายรอบ ใครไม่รู้ว่าจีบกูก็ไม่รู้จะพูดยังไงละ ถถถถถถถถถถ
กูคิดนะว่าวาคาบะก็ชอบคาบุอยู่เหมือนกัน แค่รอฝ่ายชายไปพูดให้มันชัดเจน มาตามตื๊อตามจีบแบบนี้ แต่เสือกไม่พูดซักที เป็นสาวเป็นนางก็คงไม่อยากออกตัวแรง ส่วนคาบุไม่พูดบอกรักไปเลยสงสัยกลัวแป้กกลับมาแหงๆ

351 Nameless Fanboi Posted ID:vKUhlaJmy

>>348 นึกภาพตามแล้วย้อนไปมองคิมิดอล บางที่คาบุคิมิดอลก็อาจจะเล็งเห็นอุปสรรคที่ขวางเส้นทางรัก(เรย์กะและคิโชวอินกรุ๊ป)เลยวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนเซาะฐานให้ง่อนแง่นมาเรื่อยๆเพื่อถล่มให้ยับทีเดียวไม่มีโอกาสฟื้นก็ได้นะ

352 Nameless Fanboi Posted ID:V2uaF1V7L

>>351 กูว่าฮีหาโอกาสเล่นงานมานานละ เรย์กะคิมิคงเป็นไทป์แบบที่ฮีเกลียดคือผู้หญิงหยิ่งจองหอง ใช้อำนาจทางบ้านเล่นงานคนอื่น แล้วชอบมากระแซะใกล้ๆสร้างความรำคาญ แต่ยังจัดการไม่ได้เพราะแม่อยากให้เป็นสะใภ้ บวกกับฐานะพอๆกัน ความเครียดสะสมมาเรื่อยๆ พอมีเรื่องวาคาบะเข้ามาเกี่ยวข้อง นางทำร้ายวาคาบะอยู่เรื่อยเลยทนไม่ไหว พอได้โอกาสก็วางแผนเตะขัดขาแม่ง

353 Nameless Fanboi Posted ID:7o4XnqhTp

>>349 ไม่ลับหลังนะมึง ก็อลังการพอๆกับยูริเอะนั่นล่ะ กินขนมฝีมือเขาต่อหน้าคนเยอะๆ เอาดอกไม้ช่อโตไปให้ ทำเครื่องประดับ แวะไปหาที่บ้านบ่อยๆ ถ้าเรย์กะหรือเอ็นโจไม่เบรกๆไว้บ้างคงจัดหนักยิ่งกว่านี้ คนทั้งโรงเรียนก็รู้นั่นล่ะว่าจีบอยู่ แต่แค่ไม่ยอมรับความจริง ไม่อยากได้ยิน หรือไม่ก็คิดว่าคาบุมันแค่เล่นๆ เดี๋ยวเบื่อก็เลิกทำไปเอง

แต่ที่เราเห็นว่าคาบุอยู่กับวาคาบะแล้วดูทื่อๆไม่มีแพลนอะไรเลยเป็นเพราะฮีประหม่ารึเปล่า ไปอยู่ต่อหน้าก็ตื่นเต้นขาสั่น ต้องกลับมาวางแผนให้รัดกุมจะได้ไม่ไปบ้อท่าต่อหน้าเขา ฮีอยากดูดีและเท่ในสายตาคนที่ชอบนั่นล่ะ

354 Nameless Fanboi Posted ID:vdMejtyLT

ขอ kyนิดๆ มีใครแอบคิดว่าละครบุพเพสันนิวาสแอบคล้ายท่านเรย์กะมะ นางเอกสายกินที่ย้อนเวลา/เข้ามาโลกเกมส์ และเอ็นโจก็เหมือนหมื่นเรือง โดยเฉพาะคนที่เป็นเพื่อนนางเอกโลกก่อน=เอ็นโจผมทอง และเอ็นโจลูกบ้านคาสโนว่า=หมื่นเรืองอดีต

รึเราคิดถึงท่ายเรย์กะมากเกิน

355 Nameless Fanboi Posted ID:Q4pznBnQf

>>354 ท่านเรย์กะเข้าไปโลกมังงะจ้ามึง ทำไมมีแต่คนชอบคิดว่านางทะลุเข้าไปในโลกเกมก็ไม่รู้

356 Nameless Fanboi Posted ID:yjbqwwFQ2

>>354 วิญญาณเจ้าแม่เดิมมีเพื่อนเป็นผู้ชายด้วยอ่อวะ ทำไมกูไม่คุ้น กูจำได้ว่ามีแต่นารุคุงที่นางนก แต่เอาจริงเจ้าแม่กับนางเอกนิสัยต่างกันเยอะนะ เจ้าแม่อย่างน้อยก็เข้าหาผู้ใหญ่เป็น มีมาดต่อคนอื่นอยู่ ทำอาหารก็ไม่เป็น แถมความบัดซบชีวิตที่ไม่ควรโผล่ในเรื่องอื่นอีกถถถ

แต่เอาจริงจะบอกว่าคล้ายก็ไม่แปลก นิสัยนางเอกละครเรื่องนี้มันพิมพ์นิยมของสายโรแมนติคคอเมดี้อยู่ละ
>>355 เรื่องอื่นแนวๆนี้มันชอบเข้าเกมส์อ่ะนะมึง จะเหมารวมเลยก็ไม่แปลก

357 Nameless Fanboi Posted ID:BXp/ZS+YR

>>356 ไม่นี่ สมัยก่อนเหมือนนางไม่ค่อยมีเพื่อนด้วยซ้ำนะ เพราะไม่เห็นจะนึกถึงคนที่เป็นเพื่อนสนิทหรือเพื่อนกลุ่มเดียวกันเลย มีแต่น้องสาว แถมตอนนึกถึงเพื่อนร่วมชั้นในชาติที่แล้วก็มีแต่ความทรงจำโดนแกล้ง โดนเมิน โดนหักหลังเลยต้องอยู่คนเดียว ชาติก่อนเรื่องเพื่อนสำหรับนางน่าจะเลวร้ายพอดู

358 Nameless Fanboi Posted ID:5SkPPjyDc

>>354 นิสัยคงจะคล้ายๆกันบ้างในบางเรื่อง แต่ที่ไม่เหมือนกันเลยคือฝีมือการทำอาหาร...//เจ้าแม่อย่าตีข้าาา

359 Nameless Fanboi Posted ID:VOS3yq0Nk

>>356 เพื่อนนางเอกในโลกก่อนนี่ >>354 น่าจะหมายถึงในบุพเพฯนะ

360 Nameless Fanboi Posted ID:o1FBbGb7i

>>359 เช่นนั้นแหล่ะ ที่ต้องการจะสื่อ ╰(*´︶`*)╯♡

ขอบคุณมากเลย ตอนแรกนึกว่าหลุดเข้าเกมส์ตั้งนาน

361 Nameless Fanboi Posted ID:dysIVsLuB

>>354 กุว่าเหมือนตรงเซริกะจังกับคิคุโนะจังขนาบซ้ายขวา เหมือนอิผินอิแย้มในบุพเพ

362 Nameless Fanboi Posted ID:BXp/ZS+YR

>>361 มันก็เซ็ตติ้งพิมพ์นิยมในนิยายที่ตัวร้ายจะมีลูกสมุนซ้ายขวาสองคนไว้รับคำสั่งน่ะ

363 Nameless Fanboi Posted ID:2kEg0iQ1Y

>>357 กูเคยแปลกใจเหมือนกันที่ท่านเรย์กะชาติก่อนดูไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่เห็นพูดเรื่องกิจกรรมสังคมแบบไปคาราโอเกะ ไปเที่ยวหมู่ในชาติก่อนมาเปรียบเทียบเลย แต่พอมาในโลกคิมินางสามารถเป็นเพื่อนได้กับคนทุกประเภทเลยวะ(ไม่นับรวมยุยโกะ) กูว่าอย่างน้อยนางน่าจะเป็นพวกเข้าสังคมเก่งมาก่อนนะ แต่มันขัดแย้งกับชาติก่อนยังไงไม่รู้

364 Nameless Fanboi Posted ID:BXp/ZS+YR

>>363 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชาตินี้นางสวยและรวยป่ะวะ เลยมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เวลากูนึกถึงชาติก่อนของท่านเรย์กะทีไร ภาพสาวอ้วน หน้าจืดๆ ไม่แต่งเนื้อแต่งตัว นิสัยค่อนข้างมืดมนเก็บเนื้อเก็บตัวไม่มีใครอยากคบลอยมาทุกที

365 Nameless Fanboi Posted ID:JAMAZp4Ml

>>363 กูคิดว่าเพราะนางอยู่ในตำแหน่งที่ใครๆก็อยากเข้าหาว่ะ สาวสวยและร่ำรวยก็ดึงดูดผู้คนแล้ว จะอยู่เงียบๆไม่สะดุดตาใครไม่มีทางเป็นไปได้ อย่างอุเมวากะตอนแรกนางก็ไม่ได้อยากจะรู้จักด้วยซ้ำ แต่ฝั่งนั้นมาทักเอง แล้วพอคุยดูก็ไม่ใช่กุ๊ยหรือคนเลวร้าย อาคิสะวะตอนแรกๆก็เป็นฝ่ายมาทักเอง พวกเอ็นโจกับคาบุ เซริกะ ไอระ อิมาริก็เข้าหานางเองเหมือนกัน มีแต่อาโออิ ซากุระ วาคาบะที่นางเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน อีกอย่างนางเป็นคนใจดีและเอาใจใส่ แถมซื่อตรงไม่หน้าไหว้หลังหลอก กูว่าคนเลยชอบและสบายใจที่จะอยู่กับนางเลยเข้าหาเรื่อยๆจนกลายมาเป็นเพื่อนว่ะ

366 Nameless Fanboi Posted ID:TMM8gwDuX

ความจริงถ้าชาตินี้ถ้านางไม่ได้รวย+หน้าตาดีก็ลักษณะของพวกที่เป็นเป้าหมายให้คนแกล้งอยู่นะ
ไม่เด่นอะไรเป็นพิเศษ+ไม่กล้าสู้คน+เป็นคนที่สามารถเรียกโชคร้ายเข้าหาตัวเอง+รสนิยมแปลก+รู้ในสิ่งที่คนอื่นเค้าไม่คิดจะรู้กัน

367 Nameless Fanboi Posted ID:iWKvGHmel

เพราะชาติที่แล้วนางโดน bullying บ่อย แถมไม่มีเพื่อนรึเปล่าวะ เลยเข้าหาไสยศาสตร์เอาไว้สาปแช่งคนที่มาแกล้งนาง กลายเป็นเชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้ไปแต่ไม่ยอมรับตัวเอง พอท่านฟุยุโกะพูดอะไรมานางรู้จักหมดเลย

368 Nameless Fanboi Posted ID:uZ+tmZA1i

>>363 นั่นสิ พอนางนึกถึงเรื่องชาติก่อนทีไรมีแต่ความทรงจำแย่ๆในโรงเรียนทุกที ไม่เห็นนางจะรู้สึกมีความสุขหรือพูดถึงเพื่อนที่สนิทๆกันเลย พูดถึงแค่น้องสาวคนเดียวที่ดูจะสนิทด้วยที่สุดแล้ว พอมาชาตินี้เลยได้เพื่อนตรึมเหมือนชดเชยสิ่งที่นางไม่เคยมียังไงก็ไม่รู้

369 Nameless Fanboi Posted ID:cyBUiRV9i

อยู่ดีๆ เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า ถ้าเจ้าแม่อยู่ที่นี่ แล้วเรย์กะตัวจริงไปอยู่ร่างเดิม แม่งจะเป็นไงวะ

370 Nameless Fanboi Posted ID:176YE+FLk

>>369 ไปอยู่​ในฟิคคู่​หูทะลุมิติ (ใช่มั้ย​หว่า ลืม โม่งฟิคยังอยู่​มั้ย 😂)

371 Nameless Fanboi Posted ID:uZ+tmZA1i

>>369 กูว่าคงมีล้างบางคนที่เคยแกล้งแน่นวล ถึงจะไม่มีอำนาจบ้านรวย แต่ออร่าราชินีนางร้ายน่าจะยังอยู่ จากนั้นกูว่านางคงพยายามไดเอทสุดความสามารถว่ะ

372 Nameless Fanboi Posted ID:AQTnrBJBb

>>371 ดูจากนิสัยของเรย์กะตัวจริงแล้ว คงไดเอ็ทแล้วกลับไปตอกหน้าพวกที่เคยรังแกอ่ะ
ถ้าหน้าจืดๆนางน่าจะมีสกิลแต่งให้สวยได้ แต่ถ้าลดแล้วสวยขึ้นมาคงไปเป็นพวกนางแบบแหง
นิสัยอย่างเรย์กะโลกนั้น ต่อให้ไม่สวยไม่รวย นางก็คงตะกายกลับไปให้ได้อ่ะ คงไม่ยอมทนลำบากหรอก แล้วคงไม่เป็นปลิงดูดเงินครอบครัวด้วย

373 Nameless Fanboi Posted ID:lrJJmfbHK

>>372 น่าเขียนฟิคอยู่นะ
จะว่าไปกูเคยนึกเล่นๆว่าชาติที่แล้วของเรย์กะจะชื่ออะไร กูว่าน่าจะชื่อเรย์กะเหมือนกันนี่ล่ะ เพราะเดาจากน้องสาวที่ชื่อยูกะ แล้วนางก็ยอมรับชื่อเรย์กะได้เร็วมาก ไม่มีทักท้วงเลยว่าจริงๆแล้วฉันชื่อ....ต่างหากนะ นี่จะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่โดนรังแกด้วยรึเปล่าหว่า มีชื่อไพเราะหรูหราไม่สมกับตัวเองเลยโดนหมั่นไส้ไรเงี้ย แถมเด็กผู้ชายชาติที่แล้วของนางก็ชอบมาแขวะเรื่องรูปร่างความสวยความงามบ่อยๆ งามเหมือนบุปผา แต่เจ้าตัวจริงๆดันเป็นสาวอ้วนเตี้ยขัดลูกตาพวกนั้น

374 Nameless Fanboi Posted ID:QZy+5yG7r

>>373 ส่วนพระเอก นารุ...ญาติลูกพี่ลูกน้อง

375 Nameless Fanboi Posted ID:eE1QlTnht

>>374 พระเอกก็คานซังเช่นกัน//โดนตบ

376 Nameless Fanboi Posted ID:ZzXCD8JNz

>>373 มึงอย่าลืมสิเรย์กะน่ะนางใช้ชีวิตในชื่อนั้นมาก่อนจะเข้ารร.อีกนะ เพิ่งมานึกขึ้นได้ว่าโลกนี้คือคิมิดอลเนี่ย จะให้มาทักเรื่องชื่อกูว่าคงไม่ทันแล้วว่ะ

377 Nameless Fanboi Posted ID:iKw096pF1

>>372 >>373 พล็อตนี้น่าสนใจดี เดี๋ยวกูลองเขียนฟิคดู

378 Nameless Fanboi Posted ID:Mv4ywBkzy

>>249-250 เพิ่งได้อ่าน มาต่อสิคะมึงงงงง กูอยากอ่านต่อ มันดีต่อใจกูมาก
พออ่านฟิคนี้ทีไรเพลง Once Upon a Dream ดังขึ้นในหัวกูทุกทีเลย แถมยังเป็นเจ้าหญิงผมม้วนกับเจ้าชายผมสีน้ำผึ้งเหมือนกันอีกต่างหาก
https://www.youtube.com/watch?v=TXbHShUnwxY

379 Nameless Fanboi Posted ID:jTPJjQRum

>>378 ถ้าเอ็นโจรุกหนักได้เหมือนเจ้าชานฟิลิปก็ดีสิ

380 Nameless Fanboi Posted ID:DmH/a6Qu7

>>378 ถ้าเป็นเจ้าแม่ น่าจะโดนบรรดานกที่บินอยู่ขี้ใส่ ไม่มาเต้นรำด้วยแบบนี้แน่ๆ 5555555555555555

381 Nameless Fanboi Posted ID:U0EIr0HN6

>>380 กุเห็นด้วย

382 Nameless Fanboi Posted ID:mJWWYywoW

แว้บไปดูอัพเดทที่นาโร่ตามปกติ วันนี้มันบอกว่านิยายเรื่องนี้ไม่อัพเดทมา 5 เดือนแล้วว่ะ ทำลายสถิติใหม่การดองเลยนะมึง

383 Nameless Fanboi Posted ID:hnP21cqfQ

นานแล้วนะ คิดถึงเรย์กะจังเลย โดเนทเงินให้นักเขียนทางไหนได้บ้าง กลับมาเถอะ

384 Nameless Fanboi Posted ID:wDjDd.cAN

>>382 แค่ก มึงเม้นตอนกูกำลังจะเข้ามาพิมพอดี คือกูนึกถึงเดือนหน้าที่เป็นเอพริลฟูลส์เดย์ใช่ปะ กูกำลังจะเม้นมา วันเอพริลฯนั้นอย่ามีใครมาเม้นหลอกกูว่าดิบอัพนะ ฮื่ออ อันที่จริงก็ทุกเรื่อง หลอกว่านิยายที่รอจะอัพ/ปล่อย/มีแอลซีคือโกรธมาก เจ็บใจเหมือนโดนถีบลงมาจากคานท่านเรย์กะ

ปล.อยากเห็นฟิคเอพริลฟูลส์ของท่านเรย์กะจังเลยขร่ะ//รีบมาก55555เหลืออีกตั้งสิบกว่าวัน เช่น ท่านพี่จะหลอกขุ่นน้องตอนหกขวบว่า วันนี้พี่ซื้อช็อคโกล่ารสxxxของวิลลี่วxงก้า มาให้เดี๋ยวมาส่งที่บ้าน ปรากฎท่านเรย์กะเชื่อสนิทใจ นั่งรอเฝ้าประตูตั้งแต่เช้า จนสุดท้ายท่านพ่อทนไม่ได้ ยกหูไปสั่งทำช็อคโกล่าเดี๋ยวนั้นเลย จนแล้วจนรอดท่านเรย์กะก็ยังไม่เคยรู้ว่าโดนท่านพี่หลอกเลยซักกะปี

385 Nameless Fanboi Posted ID:mJWWYywoW

>>383 ถ้าเปย์ได้นะกูกดโอนเงินข้ามประเทศไปแล้วค่ะมึง //ถวายสมุดบัญชีให้ประหนึ่งโดนหลอกเข้าคลับ Kisshouin

386 Nameless Fanboi Posted ID:hnP21cqfQ

>>385 ไม่มีหรอ เฮ้อ ไม่น่าเริ่มอ่านเลย ไม่ทันสังเกตว่าดอง น้ำตาจะไหล

387 Nameless Fanboi Posted ID:OCNEE1W1T

>>386 เอาน่ามึง อย่างน้อยก็มีเพื่อนรออีกเพียบเลยนะ ถึงครั้งนี้จะทำลายสถิติการดองก็เถอะ...

388 Nameless Fanboi Posted ID:tZXemMoGr

>>386 อ่านตอนละอาทิตย์เอามึง ตอนนี้กุก็เริ่มอ่านใหม่รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้อยู่ /ตบบ่า

389 Nameless Fanboi Posted ID:DuhXU7M69

>>387 >>388 มีเรื่องอื่นแนะนำไหมที่ฟีลประมาณนี้ ลองไปอ่านเอลิซ่ากระทู้ข้างๆมาแล้วดาร์กไป ชีวิตต้องการฮีลลิ่ง รบกวนที

390 Nameless Fanboi Posted ID:kf9N1f3A7v

กรี้ดดดดด เม้นได้แล้วโว้ยยญยย

391 Nameless Fanboi Posted ID:kf9N1f3A7v

/กอดเหล่าโม่งนะ

392 Nameless Fanboi Posted ID:.Kx+QaYPg/

ตั้งแต่ปีที่แล้ว ยันเว็บปิด ยันเว็บเปิดอีกรอบ ตอนใหม่ก็ยังไม่มาเลยว่ะ //ซับน้ำตาด้วยผ้าเช็ดหน้าปักดิ้นทอง

393 Nameless Fanboi Posted ID:kf9N1f3A7v

มึงอย่าพูดสิ คิดแล้วยังช้ำใจอยู่เลย ฮรึก

394 Nameless Fanboi Posted ID:QVlQvudY7/

ต....แต่โม่งแปลอัพเดทนะ

395 Nameless Fanboi Posted ID:OD3xbohL.e

อุตส่าห์รอโม่งมาตั้งแต่เช้า มาใช่ได้เอาตินจะนอนTT

396 Nameless Fanboi Posted ID:OD3xbohL.e

>>395 โทษๆ ตื่นเต้นจัด พิมพ์ผิดบาน

397 Nameless Fanboi Posted ID:MqPoimqyBJ

ซุยรันยังไม่เปิดเทอมอีกเหรอ

398 Nameless Fanboi Posted ID:VVC8UwxF4p

>>389 ดันคำถามอีกรอบได้มั้ย

399 Nameless Fanboi Posted ID:IXgN6WEA4U

คิดถึงบรรยากาศเก่าๆว่ะ

400 Nameless Fanboi Posted ID:MZI4NAUn5q

คิดถึงเพื่อนโม่งซุยรันทุกคนเบย ขอกอดหน่อย

401 Nameless Fanboi Posted ID:cGwO7t3KSI

>>400 //กอดดดดดดด
กุคุ้นๆมีคนเคยบอกว่าอ.อาจจะรอช่วงหน้าร้อนจะได้เข้าบรรยากาศ ตอนนี้ที่ญป.มันเข้าช่วงซัมเมอร์ยังวะ

402 Nameless Fanboi Posted ID:lcIG6E0WvB

>>401 ใกล้ละ

403 Nameless Fanboi Posted ID:uJZqvcwuNU

โม่งมาแล้ว ตอนใหม่มารึยัง

404 Nameless Fanboi Posted ID:6w62ngBnay

ดีจัยยยยบยยย คิดถึงแก๊งเด็กซุยรันทุกคนเลยค่ะ นี่ก็กลัวจะรอเก้ออย่างเหงาๆ กลับมากอดเข่ารอท่านเรย์กะด้วยกันนะทุกโคนนนน

405 Nameless Fanboi Posted ID:UiGO0CUSvm

>>403 ยัง ToT

406 Nameless Fanboi Posted ID:bop1x1IJ6G

เมื่อไหร่ตอนที่ 300 จะมา~

407 Nameless Fanboi Posted ID:X4qz2jdrvK

ถึงไม่มีนิยาย แต่ถ้ามีกาวเราก็โอนะ(✪ω✪)(✪ω✪)

408 Nameless Fanboi Posted ID:ocMxQMYQAY

โอยยยย กูคิดถึงทุกคนนนน ไม่มีใครให้หวีดด้วยตั้งนานแน่ะ กอดๆ เพื่อนโม่งงง

409 Nameless Fanboi Posted ID:10dTDJFW4L

อื้อหืออออ ยาวนานเหลือเกิน ในที่สุดก็ได้มานั่งเกาะกลุ่มรอท่านเรย์กะด้วยกันอีกนะมิตรสหาย สบายใจกว่านั่งกอดเข่ารออยู่เงียบๆ คนเดียวเยอะเลย 555

410 Nameless Fanboi Posted ID:N1QHBLif4x

โคตรเหงา บ่องตง 555555555

411 Nameless Fanboi Posted ID:AUUECWqW49

เหงาาา

412 Nameless Fanboi Posted ID:em5k/OdQAs

บางทีก็หวั่นไหวลึกๆ ว่าฮิโยโกะซามะจะไม่กลับมาอัพอีก...

413 Nameless Fanboi Posted ID:x+ytM6MinM

>>412 พูดจาไม่เป็นมงคล ตบปากตัวเองสิบทีเดี๋ยวนีี้ ปฏิบัติ!!
ปล.คิดถึงทุกคนนะเว้ย ตั้งแต่ปิดปรับปรุงไปกูโครตเหงาเลย T^T

414 Nameless Fanboi Posted ID:em5k/OdQAs

>>413 กอดมึงงงงง นี่คือสิ่งที่กูต้องการจากโม่ง ตอนรออยู่คนเดียวพอกูหวั่นไหวก็ไม่มีใครตบเรียกสติกูเลย ฮือออออ TwT

415 Nameless Fanboi Posted ID:Ls6msC3UH4

อยากได้กาว//เขียนไดอิ้งแมสเสจ

416 Nameless Fanboi Posted ID:T25KY84lgG

>>415 +1 เฉามากตอนนี้ ต้องรอถึงหน้าร้อนจริงๆหรอ

417 Nameless Fanboi Posted ID:3+DGKhvB5W

>>416 มองในแง่ดี เดือน 7 ก็ถือว่าเข้าหน้าร้อนอย่างเป็นทางการละนะ อาจารย์อาจจะหวังดีอยากให้คนอ่านฟินๆ อ่านไปดูดอกไม้ไฟไปแบบ real time ก็เป็นได้

418 Nameless Fanboi Posted ID:UALkuP9s.U

>>416 ฮิโยโกะซามะไม่มา เราต้องเอากาวเราไปสู้เว้ยยย

419 Nameless Fanboi Posted ID:U.kolWB0cW

อุกรี๊ดดดดดด อันบล็อกแล้ว คิดถึงทุกคนมากๆเลย

420 Nameless Fanboi Posted ID:N5NnU9nMkC

กรี๊ดดด พึ่งเข้ามา เม้นได้แล้วเรอะ คือดีงามมม ฮื่อ คิดถึงกาวและเพื่อนๆซุยรันทุกๆคน เดือนที่ผ่านมาเหงาปากมาก55555

421 Nameless Fanboi Posted ID:nq9y+b6qdo

ช่วงโม่งปิดก็ไปเจอกาวนอกพอดี
https://forum.novelupdates.com/threads/kenkyo-kenjitsu-enjou-pov-fanfiction.51311/

422 Nameless Fanboi Posted ID:N5NnU9nMkC

>>421 โอ้ กาวว เดี๋ยวกูตามไปอ่านนะมึง แต้งมาก*กระโดดกอด* กูเหงาเหลือเกิน แห้งแล้งมาก

423 Nameless Fanboi Posted ID:LLn6L5WOfa

>>412 มโนไปถึงขนาดถ้ามีนักเขียนแฟนฟิคคนไหนเลียนภาษาได้เหมือนอาจารย์ก็ช่วยเขียนต่อให้จบทีนะ ริบหรี่เหลือเกิน

424 Nameless Fanboi Posted ID:cl3b+ekCxk

เรือคาบุไม่มีหวังจริงๆ หรอวะ

425 Nameless Fanboi Posted ID:L1AXo/Xl8Q

>>423 กูอ่านวนมา 5 รอบแล้ว คิดว่าภาษาพอได้ แต่จินตนาการเรื่องต่อไม่ออกจริงๆ
โดยเฉพาะความบ้าของคาบุ เป็นอะไรที่กูเดาทางไม่ออกมากๆ

426 Nameless Fanboi Posted ID:N5NnU9nMkC

ทุกคน กูคือ 422 ที่ตามลิ้งฟิค 421 ไป มันดีย์ยยยย กูบอกเรย
ดีงามมมมมม กูอวย ถึงมันจะเป็นอิ้ง แต่ดีเว้ยย คือถ้าใครเคยอ่านท่านเรย์กะเวอร์อิ้ง เราจะบอกว่ามันอ่านง่ายพอๆกันติดจะง่ายกว่าด้วยซ้ำ เรือเอ็นโจ
อารมณ์แบบเดียวกับฟิค มุมมองเอ็นโจ กาวๆในตำนานของลิ้งโม่งของพวกเรานี่แหล่ะ แต่อันนี้จะมีเหตุการณ์ที่มีแค่มาซายะกับเอ็นโจด้วยงี้ แต่คือดีจริงๆ นั่ลลั่ก ท่านเอ็นโจโชตะเอาใจเราไปเรยย

427 Nameless Fanboi Posted ID:qGkmfFQEhC

>>421 ฮึก รู้งี้กูน่าจะตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษ......

428 Nameless Fanboi Posted ID:iOohhaHZyw

ในที่สุดก็เข้าโม่งได้ คิดถึงเพื่อนโม่งมาก
มีใครมีกาวอะไรอื่นอีกจะแบ่งปันบ้างมั้ย

429 Nameless Fanboi Posted ID:cmIdHUPdl7

>>421 อะฮ้า เริ่มมาก็น่าสนที่เป็นมุมมองเอ็นโจนี่แหละ ดีจังมีกาวนอกมาประทังชีวิตไปอีกนิดนึง ขอบใจมากเพื่อนโม่ง

430 Nameless Fanboi Posted ID:NXkxapCLt.

>>421 เอ็นโจในฟิคนี้เรียกเรย์กะในใจว่าเรย์กะทุกคำเลยนี่หว่า แต่กับเจ้าตัวก็เรียกคุณคิโชวอิน
กูล่ะอยากให้อฟช.ฮีคิดเรียกชื่อนางตลอดแล้วมีโมเมนต์หลุดเผลอเรียกชื่อเขาออกมาจังว่ะ ถถถถถถถ

431 Nameless Fanboi Posted ID:yjhxOCaQwK

>>430 +1 เรียกคุณเรย์กะแล้วจะเป็นยังไงนะ

432 Nameless Fanboi Posted ID:oay3rNJqRS

>>421 มีใครใจดีแปลบ้างงอังกฤษกุไม่แข็งแรง

433 Nameless Fanboi Posted ID:NXkxapCLt.

>>432 ลองเปิดดิคอ่านเรื่อยๆดิ กูก็ใช้วิธีนี้ล่ะ แต่ฟิคนี้ก็ใช้คำไม่ยากเท่าไหร่นะ
กูชอบบทแรกที่ฮีเจอเรย์กะในงานแล้วมองตาม คิดว่าชื่อน่ารักมาก เจ้าของชื่อก็น่ารักมาก ไปเดินตามหาที่มุมอาหาร ดูเป็นหนุ่มน้อยมีรักแรกพบฝุดๆ ถถถถถถถถถถ

434 Nameless Fanboi Posted ID:/7vMk+.tZU

กูว่ากูรู้ละว่าแบรนด์กาแฟที่เป็นร้านเชนจากอเมริกาที่เอ็นโจชอบนี่ร้านอะไร น่าจะเป็นร้าน tully's coffee นี่ล่ะ เพราะเห็นมีกาแฟดริปอยู่ด้วย สตาร์บัคก็มีนะ แต่คำว่าเพิ่งเปิดกูเลยนึกถึงร้านนี้มากกว่าเพราะน้องเงือกเขาเปิดมานานแล้ว

435 Nameless Fanboi Posted ID:2gLzS2+sb8

>>432 อยากแปลนะแต่ภาษากูไม่ดีเท่าไหร่ กลัวจะทำเสียอ่ะดิ อีกอย่างคือกูขี้เกียจ5555555

436 Nameless Fanboi Posted ID:0.qT5lP9rm

น่าจะลองเอาฟิคของโม่งๆไปแปลเป็นอังกฤษบ้างเนอะ โครงการแบ่งปันกาวข้ามชาติไรงี้

437 Nameless Fanboi Posted ID:deOSJ2WT0H

กรี๊ดๆๆๆๆๆ กูอยากพุ่งตัวไปกอดโม่งที่เอาฟิคมาแปะ แงงงง รักนะคะมาจุ๊บที กูอยากลองแปลอ่าาแต่กูไม่มั่นใจสกิลภาษาไทยของตัวเองเลย ฮือออ แต่ถ้าแปลเดี๋ยวมาแปะนะ;ww;

438 Nameless Fanboi Posted ID:NpFBEbp6xC

เหมือนทุกคนอยากแปล55555 อันที่จริงเราด้วย แต่ขกบวกการแปลเรามีปัญหา😂😂 รอนะจ้ะ >>437 ฮื่ออ

439 Nameless Fanboi Posted ID:etxyj5ojzd

>>426 ถ้าสะดวกช่วยตั้งชื่อไทยให้หน่อยได้มั้ย แบบชื่อมันทำให้รู้แนวก่อนอ่านบ้างว่าจะได้เจออะไร
กลัวจะจับใจความไม่ได้

440 Nameless Fanboi Posted ID:2gLzS2+sb8

>>435 มันคล้าบฟิคมุมมองเอ็นโจที่โม่งกาวกันนี่แหละ แต่อย่างที่ >>426 บอกคือมันมีฉากเวลาคาบุมาปรึกษาเอ็นโจอ่ะ ให้เห็นว่าเอ็นโจมองคาบุเป็นไอ้งั่งมาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว
นอกนั้นก็เดินเรื่องตามต้นฉบับเลย เริ่มเรื่องที่ตอนประถม ไล่มาเรื่อยๆตามเหตุการณ์ต่างๆ

441 Nameless Fanboi Posted ID:UfaY01sjB5

รู้สึก​มีสักเม้นท์ที่เคยถามหาเรื่องแนะนำ
ในแมวดุ้นมีเรื่องใหม่อัพ
[นิยายแปล] お前みたいなヒロインがいてたまるか!จะยอมให้มีนางเอกแบบเธออยู่ได้ไง!
เรื่องนี้ดี กูชอบนางเอก พระเอกก็ดีงาม(ถึงจะจืดจางไปหน่อยก็เถอะ​ ถถถ)​

442 Nameless Fanboi Posted ID:qaUf4rGfTp

>>441 เข้าไปดูละ ลายเส้นภาพประกอบสวยดี เนื้อเรื่องยังต้องรอดูกันไป แต่อยากเห็นเรย์กะซามะในลายเส้นแบบนี้มั่งจัง...

443 Nameless Fanboi Posted ID:mhjhk0JJx9

>>441 เข้าไปอ่านแล้ว ทำไมอีนางเอกเกมมันดูน่าตบจังวะ ถถถถถถถถถ

444 Nameless Fanboi Posted ID:W.ZzcGQSJT

>>441 ลายเส้นสวยดี กูชอบ แต่แอบคิดว่าหัวโตผิดสัดส่วนกับร่างกายไปหน่อย ส่วนนางเอกเกมเรื่องนี้ดูมีความร้ายตั้งแต่เด็ก คงต้องรอดูกันไป

445 Nameless Fanboi Posted ID:S5xmX0jo3f

>>441 อย่าว่าเลออนกูจืดจางนะ พระเอกค่าตัวแพง ต่อให้20ตอนมีบทสักครั้ง​ก็ยังเป็นพระเอกเว้ย ;_;

446 Nameless Fanboi Posted ID:2gLzS2+sb8

>>445 ฟังดูคุ้นๆเหมือนใครบางคนที่หลังๆมานี้เพิ่งจะมีบทเยอะและกำลังจะมีเดทในตอนหน้าเลยว่ะ

447 Nameless Fanboi Posted ID:NpFBEbp6xC

>>439 ชื่อเรื่องมันน่าจะประมาณว่า บันทึกพัฒนาการของมาซายะโดยเอ็นโจ ชูสุเกะ //โดนตรบบ คือจะเห็นว่าเอ็นโจเลี้ยงดูลูก(?)คาบุรากิมายังไง ส่วนท่านเรย์กะ…ตอนแรกๆจะโผล่มาแบบแวบไปแวบมา หลังๆมาซายะโตก็จะมีการหาคุณแม่ใหม่(?)มาช่วยเลี้ยงด้วยกัล

448 Nameless Fanboi Posted ID:UfaY01sjB5

>>445 โทษๆ 5555555
>>446 เรื่อง​นี้​น้อยยิ่งกว่าว่ะ อยู่คนละประเทศ​ เจอกันปีละครั้งสองครั้ง มาหยอดคำหวานให้สึบากิทำหน้าตายใส่แล้วก็บินกลับ​บ้านงี้ ถถถ

449 Nameless Fanboi Posted ID:mhjhk0JJx9

>>445 อ้าว หัวทองเป็นพระเอกเหรอ กูนึกว่าแนวๆตัวละครสมทบซะงั้น แต่หน้าเหมือนนัง aloisในพ่อบ้านดำภาคสองมากๆ จะแฮ่ดแบบนี้ด้วยมั้ยคะ

450 Nameless Fanboi Posted ID:upEzPfYac6

แอบเอาอัลบั้มภาพมาแปะ กูว่าใบที่ 3 ให้ฟีลโชตะแบบยูกิโนะมาก ขอจิ้นนิด และเลื่อนๆ ไปจะเจอสาวผมม้วนแต่งแฟนซีคุณชุดกระต่าย
ขอท่านเรย์กะชุดนี้ในงานโรงเรียนหน่อยค่ะ!
https://www.facebook.com/HoiNhungNguoiThayHinhDepLaDownload2/posts/2071005866497827

451 Nameless Fanboi Posted ID:M7I/0lXL4r

>>441 เห็นคอมเม้นในแมวดุ้นแล้วเศร้าๆ หลังจากท่านเรย์กะหายไปก็ต้องไปตามเรื่องอื่นรอ ;_;

452 Nameless Fanboi Posted ID:6tO0ya3cI+

>>451 เศร้าด้วยเล็กๆ ไม่เห็นต้องพูดเหมือนม่านเรย์กะตกยุคแบบนั้นก็ได้นี่นา...
ที่ล้าสมัยน่ะแค่ใบหน้าก็พอแล้ว! //โดนพัดตบ

453 Nameless Fanboi Posted ID:YVc3OyXT8j

>>452 ท่านฮิโยโกะอัพตอนใหม่เมื่อไหร่ ท่านเรย์กะจะเป็นดาว(ตลก)ค้างฟ้าร่วมกับผองเพื่อนเมื่อนั้น!!!
แต่ปัญหาคือการหายตัวไปของคนแต่งนี่สิ...
ขอให้พรุ่งนี้ มะรืนนี้ท่านฮิโยโกะมาอัพด้วยเถิดสาธุ//ปาดน้ำตา

454 Nameless Fanboi Posted ID:TTFi2+zPnn

>>453 ถ้าท่านฮิโยโกะกลับมา เราขอบนว่าเราจะวาดแฟนฟิคแก้บนเลยเอา

455 Nameless Fanboi Posted ID:j9mFDz44v1

>>453 ถ้าอ.กลับมา หนูสัญญาว่าจะอัพฟิคที่ดองไว้ค่ะ//ชูสองนิ้วสาบาน

456 Nameless Fanboi Posted ID:nJWxGUW9ze

>>421 ฟิคนี้ดีงามมากกกูมาช่วยยืนยันนนน แต่กูรู้สึกสงสารท่านเอ็นโจเหลือเกิน 555555555555

457 Nameless Fanboi Posted ID:zUcZZpcZ7H

>>421 กูรู้สึกฟิคนี้ท่านเรย์กะคือเป็นสาวเพอร์เฟ็คนุ่มนิ่มมาก55555 ไหนวะนกขี้ใส่หัว กระโปรงคับ เอนโจแม่มโคตรหลอกตัวเอง หรือฟามรักบังตาวะถถถถถถ
ฟิลเตอร์หนามากกก แต่ตอนทำหน้าที่คุณพ่อไปตามหาลูกที่หนีออกจากบ้านนี่ก็แอบดาร์คนะ

458 Nameless Fanboi Posted ID:8fNJ9d0WDT

>>457 น่าจะความรักบังตา เหมือนที่เรย์กะเห็นท่านพี่ทุบหัวแล้วบีบคออิมาริยังคิดว่าสนิทกันดี 5555555555

459 Nameless Fanboi Posted ID:g6VKGcIlmP

>>458 อันนั้นน่าจะบ๊องเกินไปมากกว่า 555555

460 Nameless Fanboi Posted ID:OJWlPJuDQE

>>457 เอาจริงๆกูคิดว่าฮีรู้นะ เรื่องนกขี้ใส่หัว ถถถถถถถ

461 Nameless Fanboi Posted ID:IH2HAARJE7

>>460 อาจติดฟิลเตอต่อว่าเป็นสาวติดดินรักธรรมชาติ5555

462 Nameless Fanboi Posted ID:6do2OYkCY7

จริงๆ อยากเห็นมวยคู่เอ็นโจ vs ซากุระจังเล็กๆ แฮะ สองคนนี้เรื่องปกปิดตัวตนนี่ไม่น้อยหน้ากันอยู่แล้ว จะเป็นยังไงน้า~

463 Nameless Fanboi Posted ID:zUcZZpcZ7H

>>462 กูว่าผีเห็นผี ทำอะไรกันไม่ได้ เลยทำสนธิสัญญาสันติกัน เพราะรู้ทั้งคู่ว่าใครชอบใคร
ซากุระมีแต้มต่อนิดๆที่มีฐานะเพื่อนเรย์กะเป่าหูได้ แต่เอ็นโจถ้าเอาจริงๆก็เล่นงานอาคิซาวะได้เหมือนกัน

464 Nameless Fanboi Posted ID:N1/YZP3X6P

อ่านฟิคภาษาอังกฤษที่เอามาแปะ กาวดี กาวดี กูชอบ
เอ็นโจแม่งเหมือนพ่อมาซายะจริงๆอะ ถึงคิดบ่นในใจนั่นนี่นู่น แล้วก็ด่ามาซายะบ้าง แต่ก็ตามประคบประหงมดูแลตลอด จริงๆจบแบบชูสุเกะxมาซายะกูว่าก็ไม่เลวสำหรับเรื่องนี้นะ ตามรอยอิมาริxท่านพี่ไป เป็นร่างแยกของสองคนนี้ทั้งทีก็ควรเอาอย่างร่างต้นที่เขารักกันหวานแหววนะ 5555555555

465 Nameless Fanboi Posted ID:UBQHZrfh4o

>>462 อาจจะเคยเจอกันในงานเลี้ยงเลยเข้าไปคุยและทำสนธิสัญญาก้นเรียบร้อย 5555555
ว่าไปก็แอบสงสัยนะ นักเรียนคนอื่นๆแบบพวกเซริกะ อาคิสะวะ อาริมะ ซากุระไปงานเลี้ยงพวกไฮโซกับเขามั่งมั้ย หรือไฮโซจะมีแค่ pivoine ส่วนนักเรียนคนอื่นก็แค่มีฐานะแต่ไม่ถึงขั้นไฮโซเลยไม่นิยมออกงานกัน ไม่เคยเห็นเรย์กะบรรยายเลยว่าเจอคนพวกนี้ในงานเลี้ยงมั่งเลย เจอแต่พวก pivoine แบบคาบุ เอ็นโจ ซาราระ แล้วก็พวกรุ่นน้องน่ะ

466 Nameless Fanboi Posted ID:+bcMcYdLJd

>>465 กูว่าน่าจะไปกันบ้างนะ ดูจากที่หัวหน้าห้องให้ถุงมือสีขาวกับมิฮารุจัง คือโอกาสที่คนเราจะได้ใส่ถุงมือสีขาวไปงานนี่มันจะมีซักกี่ครั้งในชีวิตกันวะ ที่ไม่เข้าใจคือหัวหน้าห้องก็ซื้อถุงมือเข้าคู่กันมาด้วยนี่แหละ ผู้ชายเขาใส่ถุงมือออกงานกันด้วยเหรอ

467 Nameless Fanboi Posted ID:SdtZyQB4X3

>>466 อาจจะเป็นความมุ้งมิ้งแบบหัวหน้าห้อง

468 Nameless Fanboi Posted ID:kLA87aQZ5f

>>466 กูว่านั่นมันถุงมือกันหนาวปรกตินะ ไม่ใช่ถุงมือออกงาน ถุงมือนี่มันไอเทมยอมฮิตการ์ตูนโชโจที่สาวน้อยถักให้พระเอกในคืนคริสต์มาสเลยนะมึง!

469 Nameless Fanboi Posted ID:+bcMcYdLJd

>>468 อ๋อ มิน่าล่ะ กูก็นึกภาพเป็นถุงมือขาวๆ ยาวถึงศอก พอพวกขุนนางมีเรื่องก็ถอดมาตบหน้ากันไรงี้ ยังคิดว่าหัวหน้าห้องกับมิฮารุจังนี่คุณหนูคุณชายเกินคาด 55555

470 Nameless Fanboi Posted ID:llgqiqHALr

>>465 ก็น่าจะมีนะ บางอย่างเรย์กะไม่เล่าอะ อย่างเรื่องที่พวกเซริกะมาเยี่ยมบ้าน เปรยแค่ประโยคเดียว แต่ไม่เคยเล่าเหตุการณ์อะไรเลย

471 Nameless Fanboi Posted ID:kLA87aQZ5f

>>465 กูว่างานเลี้ยงพวกนี้มันก็มีหลายระดับนะ พวกนักเรียนคนอื่นๆอาจมีงานให้ออกแค่ปีละสองสามครั้ง แต่ระดับ Pevoine ก็อาจจะมีหลายงาน แต่ท่านเรย์กะไม่ชอบออกงาน ยอมไปแค่งานที่เลี่ยงไม่ได้ ซึ่งก็มักเป็นแค่งานระดับ Pevoine ไรงี้ป่ะ เอาจริงๆเหมือนมีแต่พวกงานค่อนข้างส่วนตัวอ่ะที่มาดามคาบุรากิจัด กับงานสำคัญของบ้านตัวเอง และงานสโมสรในหน้าร้อน นอกนั้นไม่เห็นไปเลย กูว่าอย่างพวกงานชมดอกไม้นักเรียนทั่วไปไม่น่ามา งานปาร์ตี้ฤดูร้อนนั่นยิ่งจำกัดสมาชิก งานครบรอบคิโชวอินอ่ะฟังดูน่าจะมีคนอื่นมาอยู่ ประเด็นคืองานใหญ่คนใหญ่คนโตก็เยอะ บ้านท่านเรย์กะโคตรยุ่งทักทายแขก อาจไม่ว่างมาทักทายนักเรียนทั่วไปมั้ง

472 Nameless Fanboi Posted ID:waAw0b1hoI

แต่กูก็สงสัยเหมือนกันว่านางเคยเชิญพวกเซริกะ คิคุโนะมางานปาร์ตี้บ้านนางมั้ยอะ แบบงานวันเกิดหรืองานบริษัทคิโชวอิน แต่สนิทกันถึงขนาดรู้เรื่องรั่วๆของนางเยอะขนาดนั้นกูว่าคงเชิญมา แต่ไม่กล่าวถึงก็เท่านั้นเอง

473 Nameless Fanboi Posted ID:+bcMcYdLJd

>>472 กูว่าพวกเซริกะ คิคุโนะนี่น่าจะได้รับเชิญให้มาพวกงานปาร์ตี้ีที่บ้าน แต่อาจจะไม่ได้ให้ขึ้นห้องส่วนตัวหรือเปล่านะ ไม่งั้นตาแหลมอย่างเซริกะต้องมองไปเห็นพวกขนมอุปกรณ์ไดเอ็ทในห้องนางแน่นอน

474 Nameless Fanboi Posted ID:ZUrmTHxS5U

>>473 กูว่าขึ้นไปในห้องว่ะ แต่อาจจะไม่พูดถึง คนสนิทๆกันนางพาเข้าห้องหมดล่ะ ทั้งซากุระ ยูกิโนะ เซริกะที่อยู่ด้วยมานานคงได้เข้า

475 Nameless Fanboi Posted ID:GkHUVK2CbC

>>473 กูว่าก่อนจะชวนมาคงไม่ลืมที่จะเก็บของพวกนั้นเข้ห้องเก็บของรวมกับท่านฮินะหรอกก

476 Nameless Fanboi Posted ID:MfAFNonLe8

ฟิคภาษาอังกฤษแม่งดีงามจริงๆว่ะ กูชอบตอนที่เอ็นโจร้องไห้แล้วยูกิโนะปลอบ กับตอนที่คิดว่ามาซายะเป็นลูกชาย ดูมีความภาคภูมิใจแรงมาก 555555555

477 Nameless Fanboi Posted ID:d0HdEyaj.O

>>476 เรย์กะก็เคยยเรียกคาบุว่าเป็นลูกชายไม่เอาไหนตอนไปช้อปที่ซุปเปอร์ด้วยกัน ครบวงเป็นพ่อแม่ลูกได้แล้วสิ

478 Nameless Fanboi Posted ID:8B0V1mL6fH

อยากได้​กาวไทยบ้างอะ โม่งฟิคไปไหนหมดดดด

479 Nameless Fanboi Posted ID:Fqyv1N++NP

ยังเบลอๆ ต่อไม่ติดกันอยู่ป่าวมึง ช่วงเวลาเดือนกว่าที่ปิดเทอมไปดูยาวไกลยิ่งนัก

480 Nameless Fanboi Posted ID:vD41424F/W

>>421 ภาษาอังกฤษกูกากจริมๆ ใช้กูเกิลแปลภาษาก็อปวาง สรุปใจความเอง บางบรรทัดก็พออ่านได้ กว่าจะได้อ่านแต่ละพาร์ทน้ำตาจิไหล
(┛ಠДಠ)┛彡┻━┻

481 Nameless Fanboi Posted ID:haWukZVloa

>>480 เวลาอ่านฟิคภาษาอังกฤษ กูเจอคำไหนที่ไม่เข้าใจก็โยนเข้าดิคออนไลน์แล้วเลือกคำแปลที่คิดว่ามันเหมาะกับบริบทของประโยคนั้นๆมากที่สุดว่ะ แรกๆก็ติดขัด หลังๆอ่านได้คล่องละ ถ้าไม่เจอศัพท์ยากเกินไป บางคำก็โผล่มาบ่อยในฟิคจนกูจำได้ไปเองว่ามันแปลว่าแบบนี้

482 Nameless Fanboi Posted ID:24HVHjzwc6

>>480 ไม่เกินสองอาทิตย์กูสอบไฟนอลเสร็จ ถ้ายังไม่มีคนแปลเดี๋ยวกูมาแปลให้ก็ได้ แต่แบบต้องกลับไปรื้อสำนวนท่านเรย์กะมาอ่านใหม่/ไม่ก็การบรรยายกูน่าจะพังๆไปเลยนะ

483 Nameless Fanboi Posted ID:E3MJUNql/Q

>>482 รอเกาะ ดีเลย ตอนแรกกูว่าจะแปล แต่สำนวนกูไม่ได้ มึงมานี่ได้จังหวะพอดีเลย

484 Nameless Fanboi Posted ID:JQyip1gipu

>>483 มึงแปลเลยก็ได้นะ สำนวนกูก็ไม่น่าดีอะไรมากหรอก ฟฟฟฟ แค่ก อีกอย่างคือถ้ามีคนทำกูจะได้รอเสพแบบขี้เกียจต่อไปป

485 Nameless Fanboi Posted ID:mShYT3k0n4

>>482-483 แปลด้วยกันๆ>__<//เกาะข่าาา

486 Nameless Fanboi Posted ID:MTqcprzK/f

>>485 เชียร์ด้วย ทำเป็นฟิคเวียนแปลก็ดีนะคะ >w</

487 Nameless Fanboi Posted ID:A9E7yK6FGM

เมื่อผมเดินเข้าไปในห้องโถงที่สว่างไสวจากโคมไฟระย้า ผมก็เบื่อขึ้นมาทันทีทันใด

ผมยืนอยู่ที่ริมขอบห้องกับเพื่อนสนิทของผม ผู้ที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการคุยกับคนที่เขาชอบ เรากลับมาจากทริปที่เมดิเตอร์เรเนียนไวกว่าปกติเพื่อเข้าร่วมงานวันเกิดยูริเอะ ทั้งหมดนี้ แน่นอนว่าเป็นการบงการของมาซายะ

ผมนั้นใส่ใจยูริเอะก็จริงอยู่ ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นเพื่อนสมัยเด็กของเรา แต่ผมก็คิดว่ามันออกจะน่ารำคาญหน่อยๆ ที่ล้มเลิกแผนการวันหยุดที่ครอบครัวเราวางแผนเอาไว้แค่เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิด ก็ไม่ใช่ว่ายูริเอะจะโกรธพวกเราเสียหน่อยถ้าไม่ไป แล้วทำไมมาซายะต้องย่นทุกอย่างให้สั้นลงด้วย

สองคำสั้นๆ แรกรัก

ในความคิดผมนะ เขาชัดเจน ชัดมากไปเสียด้วยซ้ำสำหรับความรักที่เขามีต่อยูริเอะ ช่างเป็นความชัดเจนที่แสนเจ็บปวด ผมแปลกใจจริงๆ ที่เธอไม่แม้แต่จะพยายามหยุดความรักของเขาไว้ก่อน

เห็นได้ชัดเลยว่าตัดปัญหาไปตั้งแต่แรกเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว

ผมได้ยินเสียงเพลงเปลี่ยนจึงมองไปยังฟลอร์เต้นรำ มองเห็นเด็กผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมที่น่ารักและสดใสมากๆ เต้นวอลซ์กับเด็กผู้ชายที่อายุเยอะกว่า ผมชะงักไปชั่วอึดใจ

หืมม… เธอหน้าตาคุ้นๆ อยู่หน่อยนะ…? “นี่ มาซายะ จำเด็กผู้หญิงคนนั้นได้มั้ย?” ผมกำลังจะสะกิดให้เขาดูแต่เขาก็มองเธออยู่เหมือนกัน เขาเหล่มองผมจากข้างๆ พร้อมเอ่ยถามว่า “ยัยคนนั้นทำไมเหรอ?”

“ฉันคุ้นหน้าเธอยังไงไม่รู้ นายรู้จักเธอมั้ย?”

“ไม่รู้หรอก” ในขณะที่มอง เขาทำหน้ามุ่ย พึมพำเบาๆ ว่า “เต้นกับยูริเอะ…”

ผมส่ายหัวและถอนหายใจ ถ้าอยากเต้นกับยูริเอะก็ไปขอสิ ไม่เห็นจะต้องเล่นบทสาวน้อยผู้เขินอายเลยเนอะ? มาซายะเอ๊ย

เด็กผู้หญิงคนนั้นหมุนตัว หัวเราะคิกคักไปพลาง เมื่อการเต้นรำจบ เธอหันมองไปรอบๆ และตัวแข็งทื่ออย่างสมบูรณ์ในตอนที่สายตาเธอปะกับของมาซายะ ใบหน้าของเธอกระตุกทั้งยังหันหน้าหนีทันทีพร้อมเดินออกไป เธอมีสีหน้าที่ราวกับว่าถ้ามองเขาต่อไปนานกว่านี้อีกแม้แต่นิดเดียว มันจะทำให้เธอเปรอะเปื้อน มาซายะที่อยู่ข้างผมบ่นอย่างสับสนและไม่พอใจ “สีหน้าแบบนั้นคืออะไรวะเนี่ย?”

เธอรีบเร่งเดินออกไปไวท่ามกลางฝูงชนจนผมตามไม่ทัน คนที่เธอเต้นด้วยรีบตามเธอไปในขณะที่ร้องตะโกนชื่อที่ผมเหมาเอาว่าเป็นชื่อเธอ

“เรย์กะ” หือ เป็นชื่อที่น่ารักดีนะ

ผมยิ้มระหว่างที่เดินตรงไปยังโซนเครื่องดื่ม นั่นเป็นเรื่องที่แปลกดี ไม่เคยมีเด็กผู้หญิงคนไหนแสดงอาการแบบนั้นต่อมาซายะมาก่อนเลย ผมสงสัยจังว่าทำไมเธอถึงทำแบบนั้น

เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ขึ้นก็สังเกตเห็นเด็กผู้หญิงคนก่อนหน้านั้นอยู่ตรงนั้นด้วย ดื่มน้ำผลไม้อะไรสักอย่าง ในขณะที่คุณพี่ชายที่เธอเต้นด้วยกำลังคุยกับคนอื่นอยู่ พอผมมองดูดีๆ แล้วก็บอกได้เลยว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน

ผมมองสองคนนั้นสลับไปมาและมองเธออย่างจดจ่อ พวกเด็กจากเปอติต์ทุกคนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงไม่มีใครกล้าเต้นแต่เธอกล้า แถมยังเต้นอย่างไร้กังวลใดๆ เสียด้วย ฮืม… เธอมีภาพลักษณ์ที่เด่นเอาการ ตอนที่โรงเรียนเปิดแล้วการถามหาตัวเธอคงไม่ยากอะไร

ผมเดินกลับไปเมื่อได้ยินมาซายะเรียกผม

เด็กผู้หญิงคนนั้น… ช่างเป็นเด็กที่แปลกเสียจริง

-

เมื่อเรากลับมาโรงเรียน เราก็ทำกิจวัตรของเราไปตามเดิม ในระหว่างคาบเรียนก็เรียน หลังจากนั้นก็ไปทานของว่างที่เปอติต์กับยูริเอะและไอระเมื่อถึงตอนพักและหลังจบคาบ

ไอระเป็นเพื่อนสนิทของยูริเอะ กำลังสนใจรุ่นน้องจากชั้นเดียวกับผมอยู่
บังเอิญที่เด็กคนนั้นก็เป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวกันกับคนที่เต้นวอลซ์อยู่กลางฟลอร์เต้นรำ

เมื่อผมหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูด มาซายะก็มองไปที่เธอแล้วเอ่ยต่อว่า “อ๋อ… จากตอนนั้นนี่เอง” นายยังอิจฉาอยู่หรือไง? ถ้านายอยากเต้นกับยูริเอะนายก็ทำได้น่า ถึงแม้ผมจะสงสัยว่ายูริเอะจะเต้นรำกับคู่เต้นนำที่เตี้ยกว่าได้สบายหรือเปล่าเถอะ ไม่ต้องเศร้าเสียใจไปหรอกนะมาซายะ

เด็กผู้หญิงคนนั้นที่ยังไม่ได้แนะนำตัวเอง จ้องมองผมด้วยสายตาดำมืดทันทีเมื่อมาซายะถอนสายตาออกไป หือ? มีเรื่องอะไรให้คุณไม่พอใจขนาดนั้นหรือครับ?

หลังจากนั้น ผมมองเธอต่ออีกหน่อยจนกระทั่งเวลาพักหมด ผมสังเกตเห็นบางอย่างที่แปลกมาก…

เธอจะมองมาซายะอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่ใช่ในแบบที่แฟนคลับมองเขา
กลับกัน สายตาเธอดูไม่แน่ใจและหวาดหวั่น เหมือนกับเธอคาดว่าอะไรบางอย่างที่แย่มากๆ จะเกิดขึ้น และเขาเป็นผู้กระทำ นั่นคือทั้งหมดที่ผมสังเกตได้ในขณะที่เธอนั่งส่งยิ้มสดใสอยู่กับที่

ผมถามมาซายะอีกครั้งว่าเขารู้จักเธอมั้ย

มาซายะตอบกลับว่าเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อเธอ

งั้นแล้วทำไมเธอถึงมองมาซายะแบบนั้นกันนะ?

488 Nameless Fanboi Posted ID:A9E7yK6FGM

เราผ่านปีการศึกษาของเราไปเช่นนี้จนกระทั่งยูริเอะและไอระจบการศึกษาและเลื่อนชั้นไปอยู่ม.ต้น มาซายะไม่พอใจกับเรื่องนี้แต่เขาก็ยังหอบช่อดอกไม้มากมายและของขวัญหลายอย่างมาให้ยูริเอะจนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

มาซายะ เราแค่แสดงความยินดีกับพวกเขาที่ได้เลื่อนไปอยู่ม.ต้น ไม่ได้ส่งไปรบสักหน่อย เพราะงั้นเลิกทำตัวเหมือนกับว่าจะกรีดร้องต่อสรวงสวรรค์ถึงการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมสักทีเถอะ

ที่ห้องสโมสร มาซายะทำตัวเงียบขรึมกว่าปกติ เขาแผ่รังสีหดหู่ออกมาและนั่นยิ่งทำให้เขามีสายตาโหดร้ายมากกว่าเดิมอีก เพราะเช่นนั้นความน่ารำคาญทั้งหลายเลยไม่เข้ามาใกล้ แต่ในฐานะเพื่อนสนิทแล้วผมก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้ละนะ

ยูริเอะยิ่งโตก็ยิ่งสวย และมาซายะก็คงรู้สึกถึงช่องหว่างระหว่างวัยและรู้ด้วยว่ายูริเอะอาจจะถูกพรากจากเขาไปอย่างง่ายดายด้วยผู้ชายอายุใกล้เคียงกับเธอ ทุกครั้งที่ผมได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับชายผู้กล้าขอควงยูริเอะ ผมก็เห็นอารมณ์ของมาซายะดิ่งลงและความเลือดร้อนพุ่งสูงขึ้น ผู้ชายคนไหนที่กล้าเข้าใกล้ยูริเอะก็กลายเป็นเหยื่อแก่ความบ้าเลือดของมาซายะทันทีจนเขาคนนั้นวิ่งหางจุกตูดหนีไป

มาซายะช่างโชคร้ายเหลือแสน ยูริเอะคงจะคิดแค่ว่าน้องชายตัวเล็กของเธอหวงเฉยๆ เมื่อมองจากมุมเขาแล้วนั่นคือโศกนาฏกรรมโดยแท้

-

เวลาผ่านไปไม่กี่ดือนหลังจากยูริเอะจบการศึกษา แต่มาซายะก็เริ่มทุกข์ทรมานจากการไม่ได้เจอหน้า

ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับโรคไข้ใจแต่ที่มาซายะเป็นตอนนี้ท่าทางจะเป็นระดับความโง่เขลาที่แสนน่าขัน ถ้าเขาทำอะไรพลาดไป เขาคงโดนยูริเอะโกรธไปทั้งปี

เฮ้อ ผมควรจะทำยังไงกับเพื่อนตัวปัญหาคนนี้ดีนะ?

ผมโบกมือลามาซายะที่วิ่งไปยังสโมสร Pivoine เพื่อรอยูริเอะ ในฐานะลูกชายตระกูลคาบุริกิ ไม่มีใครกล้าประณามหรือบอกเขาหรอกว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป เอาจริงๆ นะ เขาถูกเลี้ยงมาแบบไหนถึงมั่นใจในตัวเองขนาดนี้… หรือจะเรียกว่า ไม่สนใจคนอื่นเลยดี ถูกเลี้ยงมาอย่างพระราชา? ถ้าผมถูกเลี้ยงมาแบบนั้น ผมจะเป็นเหมือนเขามั้ยนะ

ผมเดินไปยังรถของผมและมองไปรอบๆ เมื่อคนขับรถสตาร์ทเครื่องยนต์ ผมเห็นนักเรียนซุยรันเดินมาที่รถสองคนคุยกันอย่างรื่นเริงจากไกลๆ

“โอ้ นั่นคุณเรย์กะนี่” ผมพึมพำออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอแกว่งกระเป๋าไปมาอย่างสดใสระหว่างที่คุยกับคุณพี่ชาย รถของผมเคลื่อนออกไปจากถนนพร้อมๆ กับที่ผมเห็นทั้งคู่เข้าไปในรถของพวกเขา

หือ ดูเหมือนว่าผม… จะสังเกตเห็นเธอบ่อยนะช่วงนี้

—————————————
[[กรี๊ดดดดด ลืมจั่วหัวว่าฟิคแปลตอนที่ 1 ]] สวัสดีจ้า ที่เคยบอกว่าจะลองแปลดู มาละเน้อ ขอโทษด้วยที่มาช้า ติดสอบ ;____; /เพิ่งเคยลองแปลครั้งแรกแบบครั้งแรกจริงๆ (พลังกาว— รัก) ถ้ามีจุดผิดตรงไหนบอกได้นะ แล้วก็ถ้าแปลผิดก็ขอโทษด้วยเน้อ *กราบ*

489 Nameless Fanboi Posted ID:uGgIJXEBn+

>>487 >>488 ดีงามมาก ในที่สุดกลิ่นกาวที่หายไปนานก็เริ่มมาสักที ขอบคุณจริงๆนะ

490 Nameless Fanboi Posted ID:J48T3+QqRk

>>487 มันละมุนนนนมันดีมากมึง รักกกกมากกกกก มึงแปลละลื่นเลยอ่ะ ชอบบบบ//ไม่รู้จะพูดอะไรดีแต่กูชอบ;__;
ปล.กุก็ยังสอบไม่เสร็จถถถ

491 Nameless Fanboi Posted ID:91AFGUiDj4

>>487 ดีงาม ดีงามค่ะ กูเป็นกำลังใจให้มึงนะ//นวดไหล่ให้เพื่อนโม่ง กูอ่านได้ไหลลื่นมาก ไม่ติดขัดเลย ขอบคุณที่สละเวลามาแปลนะ

492 Nameless Fanboi Posted ID:CUA9a.aGlH

>>487-488 ขอบคุณที่แปลมาให้อ่านนะ จริงๆกูอ่านแบบภาษาอังกฤษจบไปรอบนึงละ แต่กูชอบสำนวนการแปลมึง อ่านได้ไหลลื่นไม่มีสะดุดเลย มึงแปลมาอีกกูก็อ่านอีก กอดๆให้กำลังใจมึง รักกกกกกกก

493 Nameless Fanboi Posted ID:INikZmJSdt

>>487-488 มึงทำดีแล้วคร่า ขอบคุณที่แปลมา มันช่างมีความละมุน ฮืออออ กูคิดถึงทุกคนมากๆ เลย

494 Nameless Fanboi Posted ID:IHXwmTF2VP

>>488 ขอบคุณเพื่อนโม่งมาก มีกาวให้ดมมันสดชื่นแบบนี้นี่เอง

495 Nameless Fanboi Posted ID:S3ynepAvYz

>>487>>488 _(┐「ε:)_♡ คือดีงามมากกก ขอบคุณเพื่อนโม่งที่แปลให้นะ!

496 Nameless Fanboi Posted ID:fDHyEffxd6

ละมุนดีงามมากกกก วี้ดดดกสำนวนมึงแม่งโคตรสวยเลย กูชอบ

497 Nameless Fanboi Posted ID:9.b16TQEbW

กาว กาวมาแล้วว กรี๊สสส

498 Nameless Fanboi Posted ID:CGOD7dFObE

>>487 ชอบความละมุนละไมนี้ ชอบสำนวนการแปลของมึงด้วย ขอบคุณที่แปลนะ

499 Nameless Fanboi Posted ID:.cQHEVE6O6

หืม คนมาจากไหนเยอะแยะ กูนึกว่าคนยังไม่ค่อยกลับมาเห็นกระทู้เงียบๆ ที่แท้รอกาวกันอยู่เรอะ555555

500 Nameless Fanboi Posted ID:ZhCnglnHag

555 จริงๆจะเม้นตั้งนานแระ แต่ไปเสพกาวนอกอยู่หลายวัน เพิ่งมีโอกาส​กลับมาเม้น

ขอบคุณ​โม่งที่มาแปะลิงค์​มากนะมึง กาวมึงดีงามจริงๆ

501 Nameless Fanboi Posted ID:lExon9NKum

แปลตอนสองเร้ววววววว เดี๋ยวกุอาสาช่วยตอน 3 ให้ก็ได้ถ้ามึงเหนื่อย

แต่ภาษากุกากนะ

502 Nameless Fanboi Posted ID:GEk0FwFiax

ยัดใส่สารบัญ​ด้วยย

503 Nameless Fanboi Posted ID:INikZmJSdt

โม่งซุยรันที่เหี่ยวเฉาจากการขาดกาว พอมีนางฟ้าใจดีโปรยสายฝนกาวลงมาให้ก็ค่อยเริงร่าโบกฟ้าโบยบินร่าเริงแจ่มใส~

504 Nameless Fanboi Posted ID:Q+K2LF5fT4

ตอน 3 มีคนจองแล้วช้ะ กูจองตอน 4

505 Nameless Fanboi Posted ID:lExon9NKum

โชคดีของกูจริงๆ เปิดเข้ามาวันนี้กะว่าอยากบ่นๆ ว่าเมื่อไหร่ฮิโยโกะซามะจะอัพนิยาย ก็มาเจอฟิคให้กระชุ่มกระชวนพอดี

506 Nameless Fanboi Posted ID:75W+3gUjVo

ถามนิดจิ ตกลงนี่เป็นโปรเจคต์แปลแบบต่อๆ กันป่ะ พอดีวันนี้กูอู้งานแปลตอน 2 เล่นๆ เสร็จไปครึ่งตอน จะลงได้ไหมอ้ะ ให้เกียรติโม่งผู้ริเริ่มก่อนนะฮ้า

507 Nameless Fanboi Posted ID:tah/cUgISe

>>506 ลงเลย!! ลงเลย!!ヾ(*´∀ ˋ*)ノヾ(*´∀ ˋ*)ノ

508 Nameless Fanboi Posted ID:+MqlPd7fBJ

กู >>487 เอง ขอบคุณทุกคนมาก ตอนแรกกลัวว่าที่แปลมาจะไม่โอเค กลัวแปลได้สับสน+ไม่ลื่น เห็นที่ทุกคนบอกละก็ดีใจนะ มาจุ๊บทียยยย์ ;w;
แต่กูไม่ว่างยาวๆไปจนอาทิตย์หน้าเลย...

เรื่องที่ทำเป็นฟิคแปลเวียนกูเห็นด้วยนะ กูขอดูอีกทีว่าตอนกูว่าง แปลกันไปถึงตอนไหนแล้วจะแปลต่อ

>>506 ลงเลยจ้า

509 Nameless Fanboi Posted ID:CGOD7dFObE

>>506 ลงโลดมึง กูอยากสูดกาว

510 Nameless Fanboi Posted ID:+MqlPd7fBJ

>>490 มึง กุแบ่งชาแบ่งกาแฟให้... เราต้องมีชีวิตรอดรอวันที่อ.ฮิโยโกะอัพตอนใหม่

511 Nameless Fanboi Posted ID:lExon9NKum

>>506 กูแปลตอน 3 เสร็จแล้ว รอมึงลงเนี่ย

512 Nameless Fanboi Posted ID:75W+3gUjVo

ขอบคุณ >>508 และทุกๆ คนเค่อะ งั้นเดี๋ยวกูลงตอน 2 ครึ่งแรกก่อน เดี๋ยวครึ่งหลังมาต่อดึกๆ >>511 มึงอดใจนี้ดดดด 5555

513 Nameless Fanboi Posted ID:Rjem5gTEpT

นั่งรอกาวอย่างสงบเรียบร้อย ขอบคุณเพื่อนโม่งทุกคนที่ช่วยแปล

514 Nameless Fanboi Posted ID:75W+3gUjVo

<<Fan Fic : เอ็นโจ ชูสุเกะ PoV Chapter 2 ครึ่งแรก>>

วันนี้เป็นวันแข่งกีฬา

ผมต้องออกจากการแข่งวิ่งผลัดแล้วให้คนอื่นลงแทนเพราะขาเจ็บ น่าเสียดาย แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเลยซักนิดที่มาซายะฉุดทีมห้องตัวเองที่อยู่บ๊วยสุดขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง เล่นเอาความอุตสาหะที่ห้องผมสร้างไว้พังครืน
แม้แต่ผมที่ไม่ค่อยสนอกสนใจในชัยชนะนักก็อดจะขมขื่นนิดๆ กับผลงานนี้ไม่ได้

ฉันรู้นะว่านายมีพรสวรรค์ แต่ก็น่าจะมีขีดจำกัดไม่ใช่เหรอว่าคนๆ หนึ่งควรจะมีพรสวรรค์อะไรบ้างน่ะ

เพราะขาผมเป็นซะอย่างนี้ ผมก็เลยต้องหากีฬาอื่นที่ตัวเองพอจะลงได้โดยไม่ต้องเคลื่อนไหวมากนัก ผมก็เลยลงแข่งปาบอลลงตะกร้า
โชคร้ายที่พวกเด็กผู้หญิงที่ลงแข่งพากันมารุมล้อม ผมเริ่มสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแห่งความชิงดีชิงเด่นในทางอื่นจากบรรดาเด็กผู้หญิง ผมต้องขอให้พวกเธอขยับไปห่างๆ ผมอยู่หลายครั้ง จนผมชักจะหงุดหงิดขึ้นมาหน่อยๆ

ผมละเบื่อพวกคนที่คอยตามแจโดยไม่รู้จักไว้ระยะห่างซักนิด!

ขณะที่กำลังปาบอล ผมก็สังเกตเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่พยายามเข้าหาผม แต่ตั้งหน้าตั้งตาเก็บบอลอย่างเอาเป็นเอาตาย

คุณเรย์กะนี่!

ผมกัดริมฝีปาก นึกสงสัยว่าจะขอให้เธอช่วยปรามพวกสาวๆ ให้หยุดโดยที่ผมไม่ต้องตะโกนเรียกดังๆ ได้ไหม ต่อให้เป็นผมก็น่าอายอยู่ดีที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากเธอต่อหน้าผู้คนเยอะแยะแบบนี้ ผมรู้อยู่แล้วล่ะว่าเธอเป็นลีดเดอร์ของพวกผู้หญิง ถ้าเธอเป็นคนออกปาก พวกผู้หญิงต้องเชื่อฟังแน่นอน

น่าเสียดาย ไม่มีทางอื่นจะเรียกร้องความสนใจจากเธอโดยไม่ต้องตะโกน ผมจึงต้องอดทนโดนฝูงสาวๆ รุมล้อม ตึงเครียดกับบรรยากาศอยู่เงียบๆ

น่าหงุดหงิดจริงๆ...

**************

หลังงานกีฬาสี ผมเพลิดเพลินกับการได้เห็นมาซายะต้องทนทุกข์กับการสรรเสริญเยินยอจากสาวๆ สำหรับผลงานของเขาในการแข่งวิ่งผลัด ผมเห็นโทสะของมาซายะพุ่งขึ้นมาเป็นริ้ว และผมเองก็เพลิดเพลินเกินกว่าจะหยุดพวกผู้หญิง ก็ใช่ว่าพวกนั้นจะฟังอยู่แล้วนี่นะ

เอ้า เอาแล้วไง ผมอยู่เงียบๆ มองดูมาซายะปึงปังไล่พวกสาวๆ ออกไปจนเหนื่อย พวกสาวๆ พากันหวาดผวา เฮ้อ พวกเธอทำแบบนี้กับมาซายะอยู่ทุกปี อย่างน้อยพวกเธอซักคนหนึ่งก็น่าจะหัดชินได้แล้วนะ

ผมขำเบาๆ ขณะดึงมาซายะออกไป กล่าวอำลาพวกผู้หญิง แล้วเดินไปห้องเปอติต์ ระหว่างทาง ผมสังเกตเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไว้ผมม้วนทรงเจ้าหญิงพูดคุยอยู่กับนักเรียนอีกคน

"ชูสุเกะ นายมองอะไรอยู่น่ะ" มาซายะเหลียวไปมอง พยายามไล่ตามสายตาผม แต่ผมเดินตรงต่อไป

คุณเรย์กะเป็นเพื่อนกับอาคิซาวะสินะ น่าสงสัยจริงๆ ว่าพวกเขาคุยอะไรกันอยู่ คุณเรย์กะดูกระตือรือร้นเชียว...

พอพวกเรานั่งลงในห้องสโมสร มาซายก็สั่งเค้กช็อกโกแลตกับน้ำชา ส่วนผมสั่งน้ำชาเหมือนกัน ขณะที่พวกเรารอ มาซายะก็ออกปากบ่นว่าพวกสาวๆ น่ารำคาญแค่ไหน

"นายเกิดช้าไปหน่อยนะ มาซายะ" ผมขำขณะที่หมอนั่นร้องอย่างขุ่นเคือง "จริงนะ ถ้าเกิดเร็วกว่านี้หน่อย นายคงได้อยู่กับยูริเอะ แล้วป่านนี้ก็อาจจะไปเดทกันแล้วก็ได้" เรื่องของเพื่อนสมัยเด็กกลายเป็นคู่รักกันนี่มันสุดคลาสสิคเลยนี่นะ น่าเสียดายที่มาซายะพลาดเพราะเกิดช้าเกินไป

"ดะ เดทเรอะ!?" มาซายะหน้าแดง ผมหัวเราะ "นายนี่มองออกง่ายจริงๆ"

"นายว่าใครมองออกง่ายนะ!? แล้วเดทคืออะไร!? ชูสุเกะ อย่าเอาแต่ขำซี่ ตอบฉันมาซะดีๆ!"

ผมยังหัวเราะเยาะมาซายะและเย้าแหย่หมอนั่นต่อไปจนของที่เราสั่งมา ดูเหมือนจะอารมณ์เสีย มาซายะจึงรับเค้กมากินอย่างรวดเร็ว

"อย่ากินเร็วนักซี่ เดี๋ยวก็สำลักหรอก"
"รู้แล้วน่า!"

515 Nameless Fanboi Posted ID:75W+3gUjVo

พอขึ้นชั้นป.4 ผมก็ได้เป็นประจักษ์พยานพบเห็นมนุษย์เปลี่ยนแปลงเป็นปีศาจ

วันที่อบอุ่นหลังเลิกเรียน ขณะที่ผมอยู่กับมาซายะในห้องเปอติต์ ตอนนั้นเองที่ข่าวมาถึงเรา

เห็นชัดว่าเด็กผู้ชายจากโรงเรียนอื่นมาที่ซุยรันเพื่อขอออกเดทกับยูริเอะ เพื่อนของผมที่ป่วยด้วยโรครักโดดพรวดพราดจากเก้าอี้แล้วพรวดพราดออกไปด้วยอาการเลือดขึ้นหน้าอย่างแรงกว่าที่ผ่านมา ผมรีบไล่ตามเขาไป เกิดกลัวขึ้นมาจริงๆ ว่ามาซายะจะพลั้งมือฆ่าใครจากความหึงหวง

เมื่อเราไปถึงประตูโรงเรียน ผมเห็นหมอนั่นส่งรอยยิ้มเปี่ยมความมั่นใจให้ยูริเอะ ผู้ดูจะเขินอายและพึงพอใจ พอเห็นเธอทำสีหน้าแบบนั้นแล้ว มาซายะก็ยัวะขาดแล้วพุ่งไปหาหมอนั่นทันที พอส่งลูกเตะจังๆ เข้าที่หัว หนอนั่นก็ร่วงผล็อยลงกับพื้นอย่างหมดท่า ผมมองเพื่อนสนิทดึงดันยูริเอะเข้ารถและขับออกจากโรงเรียนไปอย่างไร้คำพูด

นะ... นี่ผมเพิ่งเห็นเพื่อนสนิทตัวเองทำร้ายร่างกาย (หมอนั่น) และลักพาตัว (ยูริเอะ) เหรอเนี่ย ผมมองมึนๆ ไปที่กองบนพื้นแล้วถอนหายใจ ผมน่าจะเตือนมาซายะไม่ให้ทำอะไรเกิดเลยก่อนจะสายเกินไป

ผมเดินกลับเข้าโรงเรียน เพิกเฉยกองบนพื้นแล้วดึงโทรศัพท์ออกมา มาซายะ คราวนี้ห้ามเมินเมล์จากฉันเชียวนะ!

(ครึ่งหลังมาลงต่อดึกๆ)

516 Nameless Fanboi Posted ID:lExon9NKum

วี๊ดดดดดดด♥♥♥

โม่งแปลมาเองรึเปล่าเนี่ย?????

517 Nameless Fanboi Posted ID:GEk0FwFiax

>>514-515 ขอบคุณค่ะ ♥

518 Nameless Fanboi Posted ID:CGOD7dFObE

>>514 มาซายะคุงง นายนี่มันเด็กน้อยจริงๆ เดทก็ไม่รู้ว่าคืออะไรเหรอ แถมชูสุเกะก็ดูแลจริงๆ ตักเค้กป้อนมาซายะที่กำลังอารมณ์บ่จอยด้วยสิคะจะได้อารมณ์ดี //แค่กๆๆๆ

519 Nameless Fanboi Posted ID:4qPRJYz8y3

>>511 มึงใจเย็นนนน กูคนจองตอน 4 เอง กูยังไม่ได้เปิดคอมเลยยยยย ว้อยยย
>>514 ดีงามมากจริงๆ ว้อยยย เจ้าไซซายะ!!

520 Nameless Fanboi Posted ID:PKbKhMsPh/

>>519 ความกระหายกาวกูมันรุนแรงเหลือเกิน สหายโม่งเอ๋ย กุรีบ!!!!

/นี่โม่งตอนสามเอง

521 Nameless Fanboi Posted ID:5+ooJI8iWW

>>514 ทำไมเอ็นโจถึงแก่แดดได้ขนาดนี้วะ//ครุ่นคีสสสส

522 Nameless Fanboi Posted ID:A8r1oIxKPg

<<Fan Fic : เอ็นโจ ชูสุเกะ PoV Chapter 2 ครึ่งหลัง>>

ในช่วงสัปดาห์ที่ตามมา ผมเป็นประจักษ์พยานเห็นเพื่อนกลายเป็นพวกยึดติดและเจ้ากี้เจ้าการกับยูริเอะแบบสุดๆ ถึงขั้นที่รู้สึกว่าถ้ามาซายะไม่หยุดเร็วๆ นี้ เขาจะต้องมีปัญหาร้ายแรงกับยูริเอะแน่ๆ

เอาเข้าจนได้

ผมผงะหน่อยๆ ขณะมองดูยูริเอะระเบิดตูมใส่มาซายะ เธอสั่งห้ามเขาไม่ให้มาปรากฎตัวต่อหน้าเธอ ผมไม่รู้สึกสงสารมาซายะซักนิด จะยังไงซะหมอนั่นก็สมควรชดใช้สิ่งที่ตัวเองทำลงไปยูริเอะก็อยู่ชั้นม.2 แล้ว ก็คงต้องอยากไปเที่ยวกับเพื่อน มีเวลาส่วนตัวบ้างล่ะนะ

มาซายะ นายนี่มันงี่เง่าจริงๆ...

ผมถอนใจหนักๆ ขณะมองดูเพื่อน หมอนั่นเหี่ยวเฉาเหมือนศพตายซาก ออร่าน่าเกรงขามหายวับ ท่าทางไร้ชีวิตชีวา บัดนี้เหลือแต่ออร่าผู้พ่ายแพ้

ผมเงยหน้าขึ้นขณะได้สินเสียงประตูห้องสโมสรเปิดออก นักเรียนสองสามคนเดินเข้ามา ผมเห็นคุณเรย์กะอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นทันที กลุ่มพวกนั้นนั่งเงียบๆ ในมุมห้อง ดื่มชาและทานขนม

เฮ้ มาซายะ ดูซิว่าออร่านายส่งผลแค่ไหน ห้องเปอติต์กลายเป็นทะเลทรายไปแล้วนะ เห็นไหมเล่า

ผมถอนใจหนักๆ ขณะจิบชา มาซายะเริ่มงึมงำบ่นโน่นนี่ขณะกุมหัว เฮ้ มาซายะ จะปล่อยออร่าผู้แพ้ยังไงก็เรื่องนาย แต่ช่วยอย่าคร่ำครวญให้มันน่าสมเพชนักได้ไหม ที่ยูริเอะโกรธขนาดนั้นก็เป็นเพราะนายนี่แหละ

ผมสังเกตเห็นจังหวะเดียวกับมาซายะพอดี มีใครบางคนกำลังมองพวกเราอยู่ เราเหลียวมองไปยังเจ้าของสายตา ซึ่งก็คือคุณเรย์กะนั่นเอง

ก่อนที่ผมจะทันได้พูดอะไร มาซายะก็คำรามขึ้น "เฮ้ เธอน่ะ ถ้ามีอะไรจะพูดก็พูดออกมาซะ"

มาซายะ ความทื่อมะลื่อนี่แหละเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ยูริเอะโมโหนาย...

" พะ...พูดเรื่องอะไรหรือคะ" คุณเรย์กะละล่ำละลัก ท่าทางหวาดๆ โทษเธอไม่ได้หรอก เวลาทำตัวน่ากลัว มาซายะก็น่ากลัวจริงๆ น่ะแหละ

"ทะ ท่านยูริเอะคิดว่าจะปล่อยให้สำนึกผิดไปซักระยะน่ะค่ะ!"

ความเห็นนี้เรียกความสนใจจากมาซายะได้ในทันที หมอนั่นยิ่งทำหน้าตาถมึงทึงหนักเข้าไปใหญ่ คุณเรย์กะตัวสั่นและดูจะสติแตกสุดๆ ขณะตอบคำถามของมาซายะ ผมได้แต่มองกระต่ายโดนสิงโตไล่ต้อนอย่างหมดหนทางช่วย

มาซายะพึมพำอะไรกับตัวเอง ผมชักเป็นกังวลเพราะเดาไว้ว่าหมอนั่นจะพูดอะไรต่อไป

"เอาล่ะ เธอน่ะ ไปหาไอระแล้วสืบมาซะ"

มาซายะะะะะะ!! ทำไมนายนี่มันเจ้าปัญหานักนะ!!!

523 Nameless Fanboi Posted ID:A8r1oIxKPg

สุดท้ายมาซายะก็ไล่คนอื่นๆ ที่อยู่ในสโมสรออกไปเหลือแต่พวกเราสามคน คุณเรย์กะดูใกล้จะบ่อน้ำตาแตกอยู่รอมร่อ ผมได้แต่ถอนหายใจ มาซายะ ทำตัวเหลือขอขนาดนี้จะเป็นสาเหตุให้นายโดนทิ้งเอานะ

คุณเรย์กะยืนอยู่ต่อหน้าเราอย่างขลาดๆ ขณะมาซายะตั้งต้นซักถามรัวๆ แม้ผมจะพยายามขัดจังหวะเข้าไปช่วยเธอ มาซายะก็จะตวาดอย่างโมโหๆ แล้วยิงคำถามต่อไป

ผมฝืนยิ้มแล้วว่า "มาซายะเองก็อยากรู้เรื่องของยูริเอะใช่ไหมล่ะ งั้นก็อย่าไปข่มขู่สิ ควรจะถามเธออย่างอ่อนโยนต่างหาก เอาเถอะ ถ้าเป็นไอระล่ะก็ผมไปถามให้เองก็ได้นะ"

ผมพูดเพื่อจะช่วยคุณเรย์กะนะ นี่ดูกลัวจนจะพูดต่อไม่ไหวล่ะ

"ไม่ได้หรอก ต่อให้เป็นนายไอระก็คงไม่บอก ฉันจะใช้ผู้หญิงคนนี้แทน"

"อา ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละนะ งั้นคุณคิโชวอินช่วยหน่อยนะ พูดชัดๆ คืออยากให้ไปถามเธอน่ะว่า ยูริเอะโกรธถึงขนาดไหน แล้วเมื่อไหร่ถึงจะยกโทษให้น่ะ มาซายะนายมีอะไรอย่างอื่นอยากถามอีกไหม"
"....ยูริเอะจะยกโทษให้ฉันหรือเปล่า"
ผมร้องอืมเบาๆ "ในเมื่อยูริเอะบอกว่าอยากให้นายสำนึกผิดอีกระยะ เธอก็คงไม่ถึงขั้นตัดความสัมพันธ์กับนายหรอกนะ ถ้าเธอรู้ว่านายสำนึกผิดถึงขนาดนี้แล้วล่ะก็ ยูริเอะต้องอภัยให้นายอย่างแน่นอน"

มาซายะพยายามโอนอ่อน ผมใช้ชื่อยูริเอะเป็นตัวล่อให้เขาเชื่องทันที พอยูริเอะโผล่มาทีไรหมอนี่ก็ใจอ่อนทุกที..

คุณเรย์กะแนะนำตัวอย่างขลาดๆ ผมยิ้มอย่างสุภาพเป็นการตอบรับ

"พยายามเข้านะ คุณคิโชวอิน ถ้าทำได้ดีจะได้รับคำขอบคุณจากมาซายะที่ปลาบปลื้มเชียวนะ"
"ก็ไม่ได้ปลื้มอะไรนี่คะ.."

....ก็ว่างั้นแหละ ตอนมาซายะตั้งต้นสอบสวน คุณดูทำท่าจะประสาทเสียอยู่รอมร่อนี่นา ความหวาดระแวงในสายตาเวลามองมาซายะก็ไม่เปลี่ยนเลยด้วย

"อ้าว จริงเหรอ เห็นคุณมองมาทางมาซายะอยู่บ่อยๆ เลยนึกว่าคุณคิโชวอินก็ชอบมาซายะเสียอีก รู้ไหมว่าเพื่อนๆ คุณคิโชวอินเองก็ชอบมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ พวกเราน่ะ"

ไม่บอกก็ต้องรู้ชัวร์ๆ

"ก็พวกคุณสองคนเด่นกันซะขนาดนั้นนี่คะ ช่วยไม่ได้หรอกค่ะที่ฉันจะหันไปมอง ขอโทษด้วยนะคะถ้าสร้างความรบกวนให้ ตั้งแต่นี้ไปจะระมัดระวังให้มากขึ้นค่ะ"

เธอพูดอย่างขอโทษขอโพย จากนั้นคุณคิโชวอินก็กล่าวอำลาก่อนออกจากโรงเรียนไป

ผมมองมาซายะนิ่งๆ ชั่วครู่ก่อนจะโคลงหัวไปมา "นายต้องมีปัญหาใหญ่แน่ๆ ถ้ายูริเอะรู้ว่านายไปขู่เด็กผู้หญิงจนเกือบร้องไห้น่ะ"

"...ไม่ใช่ความผิดของฉันนะ"
"ความผิดของนายนี่แหละ" ผมกลอกตาขณะโบกมืออำลา ขอให้โชคดีนะ คุณคิโชวอิน

คุณจำเป็นต้องใช้โชคแน่ๆ ล่ะ

(จบบทที่ 2 ส่งไม้ต่อจ้า)

524 Nameless Fanboi Posted ID:hwt0Y7zobb

>>514
>>522
ดีงามๆ พลังสามัคคีร่วมกันเสพกาวนอกนี่มันอะไรกัน มิตรภาพฟิกเวียนแปลมันช่างดีงามจริงๆ เหมือนเพื่อนโม่งข้างบนแหละ คือกูอ่าน eng ไปแล้วแต่มึงแปลมากูก็อ่านอีกอยู่ดี ชอบความสามัคคีรวมกาวของพวกเรามาก ขอบคุณคนแปลทุกคนเลยน้าาาา

525 Nameless Fanboi Posted ID:psh.X9HoTT

ขอบคุณสำหรับกาวค่ะ ให้กำลังใจเพื่อนโม่งที่แพ็คกาวใส่กล่องพร้อมเสพ เลิฟยูว

526 Nameless Fanboi Posted ID:/dzB8HQeDl

ไม้สองแปลดีจนกุละอายใจ ยังกะโม่งแปลตัวจริงมาเอง ;_;

ขอรับช่วงต่อไม้สามนะเจ้าคะ ติดขัดยังไงขออภัยล่วงหน้า

<<Fan Fic : เอ็นโจ ชูสุเกะ PoV Chapter 3 >>

หลังจากที่ผมเรียนพิเศษเสร็จ มาซายะก็โทรมาหา

"ฮัลโหล?"

"ชูสุเกะ! นายต้องไม่เชื่อแน่ว่ายัยนั่นพูดกับฉันว่ายังไง!" มาซายะตะโกนลั่นจนผมต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู ทำบ้าอะไรน่ะ ตะโกนใส่โทรศัพท์เนี่ยนะ

"แล้วเธอว่าไงล่ะ?" ผมถามกลับอย่างใจเย็นพร้อมๆ กับที่ลดเสี่ยงโทรศัพท์ลง เป็นการคุยที่มีชีวิตชีวาดีนะ

"ยัยนั่นบอกว่าไม่อยากช่วยฉัน! ทั้งที่เข้ามายุ่งกับเรื่องฉันเองแท้ๆ ยังกล้าบอกว่าข่มขู่อีกนะ เชื่อมั้ยล่ะ!" ฟังแล้ว เสียงหมอนั่นกำลังโกรธสุดๆ

"นายขู่ให้เธอมาช่วยนะ..." ผมเริ่ม ตั้งท่าจะดุมาซายะ แล้วก็ได้ยินเสียงฮึ่มฮั่มมาจากปลายสาย ทำให้ผมต้องหยุดตัวเองไว้ก่อน ผมกรอกตาอย่างสงสัยว่าผมควรจะแก้ไขนิสัยของเขาดีมั้ยนะ

ในมุมนึง มาซายะเป็นคนที่หยาบคายไร้มารยาทเอามากๆ แต่อีกมุมนึงก็เป็นคนที่บันเทิงดี...ขอโทษทีนะ คุณคิโชวอิน แต่ผมว่าจะปล่อยให้หมอนี่เป็นแบบนี้ต่อไปนี่แหละ

"แล้ว มีอะไรคืบหน้าบ้างมั้ย"

น้ำเสียงของมาซายะเปลี่ยนไปทันที และเริ่มรายงานทุกสิ่งอย่างที่ได้รับรู้มา

"ยัยนั่นไม่มีมือถือ ไม่แปลกไปหน่อยรึไง? เราอยู่ตั้งประถมสี่แล้วนะ พ่อแม่ยัยนั่นคิดอะไรอยู่?"

"บางทีอาจจะไม่อยากให้เธอเสียเวลาเล่นเน็ตล่ะมั้ง?" ผมตอบด้วยเหตุผลขณะที่ดื่มชาไปด้วย "เมื่อไหร่นายจะอัพเดทเรื่องยูริเอะ?"

"วันจันทร์เช้า"

ผมกรอกตาเมื่อได้ยินเรื่องนี้ "...ตอนเช้า? นั่นไม่ใช่วันเดียวกับที่คุณคิโชวอินจะไปถามไอระเรื่องยูริเอะหรอกเหรอ?"

"ก็ใช่น่ะสิ ฉันจะได้รู้เรื่องให้เร็วที่สุด ยูริเอะจะได้รีบยกโทษให้ฉันซะที"

...ฉันว่าไม่น่าจะเป็นงั้นนะ มาซายะ

ผมถอนหายใจ ยอมแพ้ที่จะมีเหตุผลกับหมอนี่แล้ว "เข้าใจล่ะ เอาเถอะ ตอนรับรายงานวันพรุ่งนี้ ฟังให้ดีๆ แล้วก็สำนึกผิดซะล่ะ ว่ายูริเอะโกรธนายเรื่องอะไร"

"ฉันคิดแล้วไงว่าต้องใจเย็นลง แล้วก็โทรไปขอโทษตั้งหลายครั้ง แต่ยูริเอะไม่ยอมยกโทษให้ฉันซะที"

ก็แหงอยู่แล้ว ตราบใดที่นายยังตอบได้แบบนี้แถมน้ำเสียงยังไม่สำนึกผิดเลยด้วย!

เฮ้อ "บาย มาซายะ"

"บาย" หมอนั่นวางสายไป

ผมมองเพดานห้องแล้วถอนหายใจออกมา ทำไมถึงรู้สึกเหมือนเป็นผู้ปกครองที่ต้องดูแลเด็กมีปัญหาล่ะ? ผมอายุแค่เก้าขวบเองนะ ผมไม่ควรมีลูกชายเร็วขนาดนี้!

-

527 Nameless Fanboi Posted ID:/dzB8HQeDl

เช้าวันจันทร์ ผมเดินอยู่บนทางเดิน แล้วก็เห็นว่ามาซายะกำลังต้อนใครบางคนเข้ามุม นั่นคุณคิโชวอินไม่ใช่เหรอน่ะ?

"มาซายะ" ผมร้องทักขณะที่เดินไปหา หมอนั่นหันมา ผมเห็นเขาถือกระดาษแผ่นเล็กๆ ในมือ

ไม่มีทางอะ หมอนี่ให้เธอเขียนรายงานจริงเหรอ? มาซายะ เธอเป็นนักเรียนประถม เป็นเพื่อนร่วมโรงเรียน ไม่ใช่เบ๊ของนายนะ

"มาทำอะไรกันตรงนี้ กับคุณคิโชวอินด้วย" จริงๆ ก็เดาได้รางๆ ล่ะนะว่าทำอะไรอยู่ แต่ก็อยากได้ยินมาซายะอธิบายด้วยว่าทำอะไรลงไปบ้าง คงไม่ได้ลากเธอออกมารายงานผลตอนกำลังเรียนอยู่หรอกนะ ใช่มั้ย? แค่บังเอิญเจอกันบนทางเดิน ถูกมะ?

ความรู้สึกลึกๆ บอกผมว่าน่าจะผิด แต่ถึงยังงั้นผมก็ยังพอหวังอยู่นิดๆ ว่าหมอนี่จะไม่ได้สร้างปัญหาอะไรนัก

ถึงอย่างนั้นมาซายะก็โชว์รายงานให้ผมดูด้วยสายตาพออกพอใจ หืม? "เอ๋ คุณคิโชวอินไปถามไอระมาเรียบร้อยแล้วหรือครับ? ทำงานเร็วดีจังน้า~" ผมส่งยิ้มให้เธอและมองกระดาษ มันเขียนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและตรงประเด็น และเข้าใจง่ายด้วย ดีใจซะนะมาซายะ นั่นเขียนไว้ชัดๆเลยว่านายต้องแก้อะไรบ้าง

"หืม อย่างนี้นี่เอง เอาเถอะ รู้สึกจะไม่ต่างจากที่คิดไว้นะ?"

"แล้วฉันก็กำลังบอกอยู่ว่าฉันสำนึกผิดแล้วและจะยอมรับเงื่อนไขของยูริเอะด้วย เพราะงั้นตอนนี้ยูริเอะจะยกโทษให้ฉันแล้วรึยัง?"

ผมอยากจะหวดหลังมือใส่เจ้างั่งนี่สุดแรงสักที นี่นายสำนึกผิดจริงจังแล้วใช่มั้ยเนี่ย?!

"โง่จังน้า มาซายะ" ผมยิ้มให้มาซายะ หมอนั่นทำหน้าบึ้งใส่ผม

"ชูสุเกะแก หาเรื่องกันใช่ไหม?"

"พูดแต่สำนึกผิด สำนึกผิด นายไม่รู้หรือยังไงว่ายูริเอะก็โกรธเพราะเรื่องที่นายมีนิสัยใจร้อนด้วยน่ะ?"

เขาย้อนทันที "ไม่เห็นมีเรื่องแบบนั้นเขียนไว้ซักหน่อย!"

"ตอนเรียนไวยากรณ์นายโดนบอกให้อ่านสถานการณ์รอบๆด้วยไม่ใช่รึไง? ดูตรงนี้สิ ที่นายโดดเตะนักเรียนม.ต้นโรงเรียนอื่นน่ะ ยูริเอะโกรธพฤติกรรมอารมณ์ร้ายของนายใช่ไหมล่ะ?"

มาซายะเงียบไปอย่างหงุดหงิด

ผมยิ้ม โคลงหัวไปมา "ยังไงก็ตาม เธอไม่มีทางเชื่อนายหรอกถ้าแค่บอกเธอไปว่านายสำนึกผิดแล้ว นายต้องแสดงออกทางการกระทำด้วย"

"ถ้างั้นชั้นจะทำไงดี"

"นั่นสิน้า คุณคิโชวอินครับ มีความคิดอะไรบ้างไหมครับ" ผมหันไปหาคิโชวอินซังที่ดูตกใจ อาการตกใจกับสีหน้าว่าไม่อยากจะช่วยอะไรอีกแล้วแสดงออกให้เห็นชัดๆ เลยล่ะ

ก่อนที่จะได้ตอบอะไร เสียงกระดิ่งก็ดังขึ้นก่อน พวกเราทุกคนก็ควรกลับเข้าห้องเรียน มาซายะบอกว่าเป็นการบ้านของคุณคิโชวอินที่ต้องหาวิธีง้อยูริเอะ และให้รายงานเขาหลังมื้อเที่ยง

ตอนที่เราเดินกลับไปที่ห้องเรียน ผมสืบสวนมาซายะ "นายบังเอิญเจอคุณคิโชวอินตรงทางเดิน หลังจากที่เธอคุยกับไอระเสร็จพอดีใช่ไหม? เที่ยงนี้นายน่าจะขอบคุณที่เธอช่วยนายนะ"

"ไม่ได้เจอกันตรงทางเดินซะหน่อย ฉันไปเอารายงานจากยัยนั่นที่ห้องเรียนตะหาก"

...อาห์...ผมยิ้มว่างเปล่าให้มาซายะพร้อมกับพยักหน้าไปด้วย เข้าใจล่ะ ผมต้องค่อยๆ ไปไกล่เกลี่ยสถานการณ์ตอนเที่ยงอีกทีใช่มั้ย นี่นายไม่ได้คิดถึงปัญหาที่ฉันต้องตามแก้เลยใช่มั้ยเนี่ย? จะหุนหันพลันแล่นยังไงก็ต้องมีขอบเขตบ้างนะรู้มั้ย?

"เจอกันที่เปอร์ติต์ นายอย่าลืมบอกยัยนั่นด้วยล่ะ!" มาซายะเดินไปเข้าห้องเรียนไป

นี่ฉันเป็นเบ๊นายตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ?

528 Nameless Fanboi Posted ID:/dzB8HQeDl

หลังจากเลิกเรียน ผมเดินไปยังห้องเรียนของคุณคิโชวอิน พร้อมๆ กับคิดไปด้วยว่าจะไกล่เกลี่ยเรื่องพวกนี้ยังไงดี แค่อ้างชื่อหมอนั่นให้ทุกคนหุบปากก็น่าจะพอแล้วใช่มั้ยนะ?

"มีเรื่องไหว้วานหรือคะ? ไม่ทราบว่าเรื่องอะไรหรือคะ?"

"เรื่องนั้นจะให้ดิฉันพูดออกมาเองมันก็..."

ผมได้ยินเสียงคนคุยกันทันทีที่เข้าใกล้ โอ๊ะโอ คุณคิโชวอินโดนรุมแล้วสินะ ผมควรจะเข้าไปช่วยตอนนี้เลย

"คุณคิโชวอิน อยู่รึเปล่าคร้าบ?" ผมเปิดประตูเข้าไปและก็ต้องพบกับเสียงวี้ดว้ายของสาวๆ ที่ตะโกนเรียนชื่อผมทันที ทำไมเด็กผู้หญิงทุกคนถึงไม่ทำตัวเหมือนเรย์กะ ไม่ตะโกนชื่อผมทันทีที่เจอไม่ได้นะ?

"ท่านเอ็นโจ!"

ผมไม่สนใจเสียงวี้ดว้ายเหล่านั้นและเดินไปหาคุณคิโชวอิน "อ๊ะ คุณคิโชวอิน อยู่ตรงนั้นเองหรือครับ เกี่ยวกับเรื่องที่คุณคุยกับมาซายะไว้ ช่วยมาที่สโมสร Pivoine หลังทางอาหารกลางวันด้วยนะครับ"

"อา คือว่าท่านเอ็นโจคะ? ที่ท่านเรย์กะได้รับการไหว้วานจากท่านคาบุรากินี่จริงหรือเปล่าคะ?" ผมเหลือบมองคนถาม ตอบไปด้วยรอยยิ้ม "อา อืม ก็ตามนั้นแหละครับ"

เสียงฮือฮาของสาวๆ ยิ่งหนักกว่าเดิมอีก เห็นเลยว่าพวกเธออิจฉาคุณคิโชวอินน่ะ

"บอกพวกเราได้หรือเปล่าคะว่าไหว้วานเรื่องอะไร"

"แย่จังเลยน้า ผมบอกไม่ได้หรอกครับ ถ้าพวกเธอเข้ามายุ่มย่ามมากไป เดี๋ยวมาซายะจะโกรธเอารู้ไหมครับ? ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แย่เลยจริงไหมครับ? คุณคิโชวอินก็กรุณาอย่าพูดออกไปนะครับ" ผมส่งสัญญาณให้คุณคิโชว์อินอย่างเงียบๆ และยิ้มให้ เยี่ยม เธอเล่นตามผมด้วย

"ได้ค่ะ"

"เข้าใจแล้วค่ะ" สาวๆพึมพำตกลง มาซายะ ชื่อนายนี่มีน้ำหนักจริงๆ นะ

"แล้วเจอกันครับ" ผมยิ้มก่อนจะเดินออกจากห้องเรียน หวังว่าพวกนั้นจะเลิกขุดคุ้ยเรื่องที่เธอคุยกับมาซายะนะ

ผมกลับไปยังห้องเรียน และรอมื้อกลางวัน

-

529 Nameless Fanboi Posted ID:/dzB8HQeDl

เพียงครู่เดียวหลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ ผมก็ถูกมาซายะที่แสนกระตือรือล้นลากไปเปอร์ติต์ อดรู้สึกสงสารตัวเองไม่ได้ ทีแรกผมยังคิดว่าตัวเองเป็นผู้ปกครอง แต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนกำลังกลายเป็นเบ๊ของหมอนี่ไปซะแล้ว

คุณคิโชวอินกับผมลงเรือลำเดียวกันซะแล้วล่ะครับ

ขณะที่รอคุณคิโชวอินอยู่นั้น ผมก็ให้มาซายะอ่านรายงานแล้วอธิบายให้เขาฟังไปทีละส่วน ว่าแต่ละส่วนหมายความว่าอะไร ผมรู้สึกจริงๆ นะว่าตัวเองเป็นคุณพ่อที่กำลังพยายามสอนลูกน้อยผู้ตั้งอกตั้งใจให้อ่านหนังสือ

หืม? ถ้าผมเป็นพ่อ งั้นคุณคิโชวอินจะเป็นแม่มั้ยนะ?...แต่ไม่ใช่ว่าคุณแม่จะต้องเป็นคนคอยดูแลลูก ส่วนพ่อก็เป็นคนพาลูกไปเที่ยวหรอกเหรอ?

ระหว่างที่คิดเรื่องเปื่อยเรื่องใครจะเป็นพ่อและแม่ของมาซายะในครอบครัวสมมติอยู่นั้น คุณคิโชวอินก็ก้าวเข้ามาในห้องเปอร์ติต์

สีหน้าเธอดีกว่าก่อนหน้านี้มาก และดูเหมือนจะใจเย็นลงมากแล้วเช่นกัน มาซายะร้องทักเธอด้วยการบ่นเรื่องที่เธอช้า

"คุณคิโชวอิน นั่งก่อนไหมครับ?"

"ท่านเอ็นโจ ที่มาช่วยตอนก่อนหน้านี้ต้องขอบคุณมากนะคะ" โอ้ สังเกตด้วยสินะ ผมยิ้มให้คำขอบคุณของเธอ

"เฮ้ พูดเรื่องอะไรกัน"

"ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอก แล้วนายคิดไว้บ้างหรือยังว่าต่อจากนี้คิดจะทำยังไงต่อ"

"จริงด้วย! ถ้าจะให้ยูริเอะเห็นว่าชั้นสำนึกผิดแล้วเนี่ย ต้องทำยังไงบ้างล่ะ?" มาซายะเข้าเรื่องทันที แล้วมองมาที่พวกเราอย่างอยากรู้อยากเห็น หืม ผมอยากให้เขาคิดเองมากกว่านะ แต่...ไม่ล่ะ ลองดูก่อนว่าหมอนี่จะมีไอเดียดีๆ บ้างมั้ย "ลองถามความเห็นของมาซายะดูก่อนเป็นไง?"

"ชั้นคิดว่าจะไปขอโทษยูริเอะทุกวันจนกว่าเธอจะเข้าใจความรู้สึกของชั้นน่ะ" เขาประกาศความคิดของตัวเองอย่างภาคภูมิ

มาซายะ นั่น...ผมนิ่วหน้าและพยายามห้ามตัวเองไม่ให้แบ็คแฮนด์ใส่หมอนี่เข้าจริงๆ นั่นมันความคิดของคนที่ไม่ได้สำนึกผิดเลยนี่หว่า!!!

"มาซายะ ทำแบบนั้นเธอจะยิ่งโกรธนะ" ผมต้องหยุดเอาไว้ก่อนที่หมอนี่จะลงมือทำจริงๆ ใครจะรู้ว่าเจ้าโง่นี่จะทำอะไรอีกถ้าผมไม่ห้ามไว้

"ทำไมล่ะ?!" มาซายะร้องอย่างสับสน เขาดูโกรธมากทีเดียว "ชูสิเกะ แล้วนายคิดว่าต้องทำยังไงล่ะ?"

"ก็อะไรแบบไม่ติดต่อไปหาเธอเลย แล้วก็รออยู่เงียบๆจนกว่าเธอจะยกโทษให้ไง"

"ไม่เอา!"

ไอ้เวรนี่

มาซายะเปลี่ยนเป้าหมายและมองไปที่คุณคิโชวอินแทน "เฮ้ สปาย! ขอเสนอแนะของเธอล่ะ?"

คุณคิโชวอินแสดงสีหงุดหงิดตอบ "ท่านคาบุรากิคะ ชื่อของดิฉันคือคิโชวอิน เรย์กะค่ะ กรุณาเลิกเรียกว่าสปายได้ไหมคะ?"

"ใช่แล้วล่ะ มาซายะ เธอช่วยเหลือนายนะ อย่างน้อยๆ ก็เรียกเธอด้วยชื่อเถอะ"

"เหอะ"

"ไง? แล้วเธอมีความคิดอะไรดีๆ บ้างมั้ย" มาซายะเชิดคางขึ้น บังคับเอาคำตอบจากเธอทันที

คุณคิโชวอินกลับตอบอย่างที่ผมคาดไม่ถึง "ดิฉันคิดว่าใช้วิธีส่งจดหมายให้เธอทุกวันก็ดีนะคะ"

"จดหมาย?"

คุณคิโชวอินพยักหน้าและพูดต่อ "อธิบายไปว่าสำนึกผิดขนาดไหน แล้วก็บอกว่าคิดยังไงกับเรื่องนี้ แล้วก็ขอโทษไปตรงๆ ค่ะ ถ้าใช้เมลมันดูจับต้องไม่ได้แล้วก็ยากที่จะสื่อความรู้สึกออกไป เพราะอย่างนั้นถึงควรจะส่งจดหมายด้วยลายมือตัวเองไงคะ แล้วก็เขียนความรู้สึกของคุณที่มีต่อท่านยูริเอะลไปด้วยค่ะ ตั้งแต่อดีต ในญี่ปุ่นเองก็เป็นเรื่องปกติที่จะเริ่มความสัมพันธ์ด้วยจดหมายรักนะคะ"

"อย่างนี้นี่เอง!?" น้ำเสียงมาซายะดูตื่นเต้นมาก แม้กระทั่งผมเองก็ด้วย ที่พูดมาฟังดูโรแมนติกจริงๆ หรือพูดให้ถูก วิธีนี้เหมาะกับมาซายะมากทีเดียว

จากนั้น มาซายะและคุณคิโชวอินเริ่มลงถึงรายละเอียดต่างๆ รวมไปถึงยังห้ามไม่ให้มาซายะทำอะไรอลังการเกินเหตุ ดีเหลือเกิน คำแนะนำของคุณคิโชวอินดีมากๆ น่าจะทำให้มาซายะยุ่งจนไปก่อปัญหาอะไรไม่ได้อีก ผมจะได้พักจากออร่าดำมืดของหมอนี่ซะที

"เอาล่ะ! ความเห็นนี้ผ่าน! หลังจากเลิกเรียนพวกเราไปซื้อชุดเขียนจดหมายกัน! ทั้งสองคนเข้าใจแล้วนะ?!"

"ดิฉันไม่ไปหรอกนะคะ" คุณคิโชวอินตอบ

"หะ? ทำไมล่ะ?"

"หลังเลิกเรียนดิฉันมีบทเรียนส่งเสริมมารยาทและวัฒนธรรมค่ะ แล้วก็มีเขียนไว้ในรายงานด้วยนี่คะว่า 'อย่ารบกวนคนอื่น' ถ้าคุณไปกับฉัน ท่านยูริเอะอาจจะโกรธก็ได้ไม่ใช่หรือคะ?"

พอได้ยินว่ายูริเอะอาจจะโกรธอีก มาซายะเลยหงอยลง

"...เข้าใจแล้ว ลำบากแย่เลยนะ"

"ค่า ถ้าอย่างนั้นก็ ดิฉันขอตัวค่ะ ลาล่ะนะคะ" คุณคิโชวอินยิ้มอย่างสดใสก่อนจะจากไป โชคดีจังน้าที่หนีไปได้

"ชูสุเกะ นายไปกับฉัน"

ผมปฎิเสธได้มั้ยนะ?

-

530 Nameless Fanboi Posted ID:/dzB8HQeDl

หลังจากที่ซื้อการ์ดกับกระดาษเขียนจดหมายมาเยอะแยะ และตามหาชุดเขียนจดหมายที่หมอนี่ถูกใจแล้ว มาซายะก็นำผมไปที่บ้านเขา พวกเราพยายามกันอย่างหนักหน่วงเพื่อเขียนจดหมายที่จะทำให้ยูริเอะยอมยกโทษให้ ผมกล่อมให้มาซายะเขียนไปว่าเขาเหงาขนาดไหน ลำบากแค่ไหนกับการอยู่คนเดียว และอื่นๆ อีกนิดหน่อยเพื่อให้ยูริเอะยอมใจอ่อนเร็วขึ้น ผมไม่ได้บอกเขาเรื่องนี้ แต่ก็ใช้ยุทธการเกลี้ยกล่อมด้วย เรื่อง-เศร้า-เคล้า-น้ำ-ตา กระตุ้นสัญชาติญาณความเป็นแม่ และความรักของพี่สาวของยูริเอะ

ผมไม่รู้กับมาซายะหรอกนะ แต่เหมือนเขาจะวาดรูปดอกไม้กับสัตว์ตัวเล็กๆ ลงไปบนขอบกระดาษด้วย สงสัยอยู่ว่าหมอนี่จะรู้ตัวมั้ย ว่านั่นมันเหมือนจดหมายสารภาพรักจากสาวน้อยเข้าไปทุกทีแล้วนา? ไม่บอกจะดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวหมอนี่จะเลิกทำอะไรเหมาะๆ แบบนี้ไป

ผมเตือนมาซายะให้เขียนบอกไปด้วยว่าเขาอยากจะเต้นรำกับยูริเอะในงานปาร์ตี้ฤดูร้อนปีนี้ และแน่นอนว่าหมอนี่ก็เขียนลงไปอย่างยินดี

ใช้เวลาไม่ถึงสองอาทิตย์ยูริเอะก็ใจอ่อน เธอตกลงเต้นรับกับมาซายะ ทำให้เขาดีใจเป็นบ้า ก็เป็นสาวน้อยผู้ตกหลุมรักนี่นะ

เมื่อปาร์ตี้ฤดูร้อนมาถึง มาซายะพยายามจะทำตัวเท่ๆ แต่ก็ยังกระวนกระวายและเอาแต่หน้าแดงอย่างดีอกดีใจตอนที่เต้นรำกับยูริเอะอยู่ดี ผมถอนหายใจและหันไปอีกทาง ก่อนจะเห็นใครบางคนกำลังมองพวกเขาอย่างเยาะเย้ย

คุณคิโชวอินนี่นา? หืม ทำไมเธอมองพวกนั้นแบบนั้นล่ะ?... หรือว่ากำลังมองมาซายะอยู่?

เมื่อคู่เต้นรำแยกออกจากกัน คุณคิโชวอินก็มองตามมาซายะด้วยสายตาดูถูก โอ้ววว ในที่สุดก็รู้ตัวแล้วสินะว่าไอ้งั่งนี่เป็นแค่เจ้าโง่ไร้พิษภัยน่ะ เยี่ยมมาก คุณคิโชวอิน!

-

ดูเหมือนว่าการเขียนจดหมายและการสำนึกผิดจะมีผลกับมาซายะจริงๆ ความหุนหันพลันแล่นกับนิสัยสตอล์คเกอร์เบาลงไปเยอะ แล้วตอนนี้เขายังตั้งใจเรียนอย่างหนักเพื่อที่จะได้เหมาะสมกับยูริเอะที่อายุมากกว่าและมีวุฒิภาวะมากกว่าด้วย

โชคร้ายหน่อยที่ภายในของหมอนี่ก็ยังไปไอ้โง่ที่เอาแต่กวนยูริเอะไม่หยุดด้วยการติดหนึบ แต่ก็ยังดูมีหัวคิดมากขึ้นนิดหน่อยนะ

ดีมากจริงๆ บางทีผมอาจจะไม่จำเป็นต้องคอยแนะนำหมอนี่จนปากเปียกปากแฉะอีกแล้วก็ได้...ผมควรจะหาทางตอบแทนคุณคิโชวอินเรื่องนี้เสียหน่อยแล้ว
——-

จบไม้4ค่า มีหลายที่ที่กุดำน้ำเอาดื้อๆ ต้องขออภัย

531 Nameless Fanboi Posted ID:/dzB8HQeDl

ไม้4เหี้ยไรล่ะ ไม้3สิ อิเวง /กุเอง ด่าตัวเอง

532 Nameless Fanboi Posted ID:h4eF0Vr4Kc

ไม้สี่แปลอยู่นะ ฮือออ ทำไมสปีดกูเต่าคลานขนาดเน้

533 Nameless Fanboi Posted ID:GEk0FwFiax

ฟิคมารัวๆเลย ขอบคุณทุกไม้เลยค่าาาาา
มันมีทั้งหมดกี่พาร์ทน่ะ

534 Nameless Fanboi Posted ID:9PhRLfMnV.

ยอดเยี่ยมมากเลยเจ้าค่ะ

535 Nameless Fanboi Posted ID:/dzB8HQeDl

>>532 สู้ๆมึง กุไวอยู่แล้ว

เพราะกุอู้งานไงล่ะ!

536 Nameless Fanboi Posted ID:syHEvSZh7z

วันฟิคที่รอคอย ขอบคุณทุกคนเลยค่ะ

537 Nameless Fanboi Posted ID:vX6I3yvCby

อื้อหือ....ไม่ได้เข้ามาในโม่งนานมาก ครั้งสุดท้ายก็ตอนที่เว็บเปิดให้อ่านแต่เม้นไม่ได้นี่แหละ สมแล้วที่เป็นเหล่าโม่ง เข้ามาปุ๊บก็มีกาวคุณภาพชั้นเลิศให้ชื่นใจได้ดีมากเลย ติดตามๆ
ปล.Seijo no Maryoku wa Bannou desu นี่ใครอ่านมั่ง เนื้อเรื่องสนุกมากๆเลย ฉบับมังงะก็ดีมากด้วย ลายเส้นสวยมาก เจอเรื่องนี้ครั้งแรกในpixiv เลยตามเรื่อยๆคนมีคนแปลไทยมาตอนหนึ่ง นี่หวีดตัวละครมาก ถ้าจะให้ใครวาดมังงะจองท่านเรย์กะก็อยากให้เป็นอ.ที่วาดมังงะเรื่องนี้นะ เพราะวาดสวยมาก ความโชโจฟุ้งกระจาย

538 Nameless Fanboi Posted ID:OEMwl1EJ73

>>537 รอสอบเสร็จละกูไปตำนะ อ้ากก

539 Nameless Fanboi Posted ID:lsaB4Xzn4p

โอ๊ย หอมทุ่งกาว ฟืดดดดด ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยแปล เลิฟฟฟฟฟฟ

540 Nameless Fanboi Posted ID:UvCVaYTJny

>>529 อยู่ป.4 ก็เริ่มมีความคิดเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกแล้วเหรอคะ มีลูกชายเอาแต่ใจก็เหนื่อยหน่อยนะคะคุณพ่อ ไปอ้อนคุณแม่ให้ช่วยเลี้ยงสิคะ
ขอบคุณสำหรับการแปลจ้า รักพวกมึงทุกคนเลย

541 Nameless Fanboi Posted ID:xZJkqCXgYC

>>526-530 ขอบคุณสำหรับการแปล รักนะจ๊ะ//ทำมินิฮาร์ทให้
กาวไทยเราขาดแคลนจนต้องไปอิมพอร์ตกาวนอกแล้วสินะ 555555555555

542 Nameless Fanboi Posted ID:4t3S/xKHR0

>>518 อยู่จักรวาลเดียวกัสาววายซุยรันมั้ย

543 Nameless Fanboi Posted ID:Y4ZtPQSD/O

มันมีเรื่องนึงที่เป็นลูกสาวแกรนด์ดยุค จำได้ว่าโม่งห้องนี้เคยแนะนำ เรื่องอะไรวะ ลืมชื่อแต่อยากอ่านต่อ

ที่ตัวเอกไปเกิดใหม่ตอนกำลังโดนกลุ่มพระเอกไล่ออกจากโรงเรียนพอดี นางเลยถูกพ่อส่ฃไปปกครองเมืองอะ

544 Nameless Fanboi Posted ID:4t3S/xKHR0

http://www.nekopost.net/manga/3830 นิยายยังไม่มีใครแปลอีกเลย

545 Nameless Fanboi Posted ID:Y4ZtPQSD/O

>>544 มึงคือนางฟ้านางสวรรค์ของกุจริงๆ //กราบนมแบนๆทีนึง

546 Nameless Fanboi Posted ID:UrRBkwHuGN

>>544 ภาษาอังกฤษช่วงนี้มาอัพรัวๆถึงตอนที่22แล้ว (ในที่สุดพระเอกก็ออกมาซีกที5555)
แนะนำให้อ่านนิยายนะ ไปไกลกว่ามังงะเยอะ ชื่อเรื่อง Commonsense of a Duke's Daughter มั้งถ้าจำไม่ผิด

547 Nameless Fanboi Posted ID:4t3S/xKHR0

>>545 มึงรู้ได้ไง!!!!

548 Nameless Fanboi Posted ID:f6fYhOLbpQ

ทีนิยายไม่มีคนแปลไทยเพระาะเจ้าของlcคือk

549 Nameless Fanboi Posted ID:4t3S/xKHR0

>>546 นิยายในนายท่านเขาลบไปแล้วอะ

550 Nameless Fanboi Posted ID:UrRBkwHuGN

>>549 กูหมายถึงภาษาอังกฤษ novelupdatesเลย
กูเบื่อนกย่างอย่างนึง นิยายตัวเองเต็มมือแต่ไม่เอามาพิมพ์ แต่ไปเอาภาคต่อนิยายชาวบ้านมาออกเพียบ

551 Nameless Fanboi Posted ID:KBA/Lu8Zvx

มีใครจองไม้หกยัง เดี๋ยวกูแปลให้นะ//เผื่อไม้ห้าปลิวไปแล้ว5555

552 Nameless Fanboi Posted ID:Ei/+QzNTPW

>>551 กูยังไม่เห็นไม้ห้ามีคนจองนะ เชิญมึงรับไปเลยค่ะ 5555

553 Nameless Fanboi Posted ID:96qb./Vq/E

>>552 โอเค5555

554 Nameless Fanboi Posted ID:ybdOXIEkbv

ไม้สี่มาแจ้งความคืบหน้า ดูจากสปีด น่าจะได้พน.นะ

555 Nameless Fanboi Posted ID:Ei/+QzNTPW

>>554 ตามสบายค่ะ ไม่ต้องรีบ แค่ให้รู้ว่ามีคนรออยู่ 5555

556 Nameless Fanboi Posted ID:O9Ms5m4BbK

เหมือนซุยรันกลับมาเปิดภาคเรียนอีกครั้ง กูปริ่มว่ะพวกมึง//ซับหางตาแปป

557 Nameless Fanboi Posted ID:IVRdRKrp0B

>>556 อย่าว่าแต่มึง กุก็ปริ่ม รู้สึกเหมือนมีแหล่งรวมพลสุมหัวอีกครั้ง //ซับ

ว่าแต่มีใครจองไม้หกยัง?

558 Nameless Fanboi Posted ID:T5sTA9/Zv/

>>557 ยัง กูยัดเยียดให้มึงเลยละกัน 5555

559 Nameless Fanboi Posted ID:PVnyfrj0zb

จองกันแบบนี้มีหวังได้ออกพรวดๆ แน่เลย พลังกาวนอกนี่มันยอดจริงๆ

560 Nameless Fanboi Posted ID:UrRBkwHuGN

>>537 โอ้ สนุกดีนะ ไม่ใช่แบบสนุกแบบโคตรตื่นเต้น แต่เป็นสนุกแบบเรื่อยๆชิวๆ คล้ายๆแนวท่านเรย์กะเหมือนกัน
อ่านมังงะถึงตอนที่5.3แล้ว น่าจะล่าสุดที่มีแปลแล้วมั้ง? กำลังจะเริ่มอ่านแบบนิยายจ้า

561 Nameless Fanboi Posted ID:PR/9uzUdBU

>>560 ผมหาเจอแค่ตอน1.1

562 Nameless Fanboi Posted ID:UrRBkwHuGN

>>561 เราอ่านภาษาอังกฤษอ่ะ เว็บนี้เค้าห้ามแปะลิ้งละเมิดลิขสิทธิ์ ลองโยนชื่อเรื่องลงกูเกิ้ลนะ

563 Nameless Fanboi Posted ID:IpV43RHiSK

>>544 เข้าไปอ่านแล้วสนุกดี อยากหากระทู้เม้ามอย ใครพอจะชี้ทางได้บ้างคะ

564 Nameless Fanboi Posted ID:Aj6aHvkwE7

>>563 ในโม่งไม่มีกระทู้​ของเรื่องนี้ ใกล้เคียง​สุดก็คงเป็นมู้โชโจมังงะที่ห้องอนิเมมังงะมั้ง น่าจะคุยได้

565 Nameless Fanboi Posted ID:x6J7TD2s7L

>>563 https://fanboi.ch/webnovel/2400/ มู้นี้ก็ได้มั้ง เรื่องที่คนอ่านไม่เยอะอัพไม่บ่อยไม่ค่อยอยากให้ตั้งทู้ เพราะเดี๋ยวก็ร้าง
เรื่องนี้กูอ่านถึงตอนล่าสุดที่แปลอิ้งแล้ว มึงลองไปเปิดประเด็นดู เดี๋ยวไปต่อให้

566 Nameless Fanboi Posted ID:x6J7TD2s7L

กู>>565 โทษที นึกว่านิยาย
ถ้าเป็นการ์ตูนก็ไปห้องอนิมังงะดีกว่า แต่ถ้าจะคุยยาวๆก็ต้องสปอยนิยายอีก ยุ่งยากจัง คือมังงะตอนล่าสุดนี่ยังไม่ถึงครึ่งนิยายเล่มแรกด้วยซ้ำมั้ง

567 Nameless Fanboi Posted ID:IpV43RHiSK

>>565 >>566 ไม่เป็นไร นิยายก็ได้จ้า ขอบใจมากนะ

568 Nameless Fanboi Posted ID:cP5SarVEQd

เจอกาวนอก​อีกสอง

1) https://m.fanfiction.net/s/12852677/1/Second-Year-Valentine-s-Day
2) https://m.fanfiction.net/s/12850634/1/Sakurako-POV

569 Nameless Fanboi Posted ID:5.a91ROKiR

>>568 ฟืดดดด สูดกาว

570 Nameless Fanboi Posted ID:KHFssP4WBZ

>>568 กูว๊อนท์คนแปลมาก orz ฮืออ กูน่าจะตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษ

571 Nameless Fanboi Posted ID:a/Oy4Ph/g3

ฟิคเวียนแปลตอนสี่มาแล้วเด้อออออ // ส่งต่อให้ไม้ 5

หลักเลิกเรียนผมถูกเรียกให้ไปพบที่ห้องพักอาจารย์

พอไปถึงที่นั่น เรย์กะกำลังคุยกับอาจารย์ในเรื่องของคณะกรรมการด้านนำเสนอสื่อการเรียนรู้ ผมหรี่ตามองเมื่อได้ยินว่าอาจารย์กำลังขอร้องเรย์กะอยู่ แต่เธอก็ปฏิเสธและเดินออกไป ผมหลบหลังประตูเพื่อไม่ให้เธอเห็นตัว

“โอ้ คุณเอ็นโจ มาแล้วเหรอครับ” อาจารย์กล่าวต้อนรับเมื่อผมปรากฎตัว

อย่างที่คาด ผมเองก็ถูกขอร้องเรื่องคณะกรรมการเช่นกัน

ผมส่งยิ้มสดใสไปหาอาจารย์ “ถ้าคุณคิโชวอินไม่เข้าร่วม ผมก็ไม่ด้วยละกันครับ!” เมื่อเรย์กะอยู่ด้วย ทุกอย่างก็สามารถดำเนินการไปได้อย่างราบรื่นเพราะว่าเธอจะทุ่มสุดตัว ผมไม่สนใจที่จะทำถ้าไม่มีเธออยู่ด้วยหรอกนะ

572 Nameless Fanboi Posted ID:a/Oy4Ph/g3

เชี่ยยยย กดผิด แป๊บๆ

573 Nameless Fanboi Posted ID:a/Oy4Ph/g3

ทุกเดือนพฤษภาคม ทางซุยรันจะจัดการทัศนศึกษา ปีนี้พวกเราจะได้ไปฟาร์มสัตว์กัน มาซายะพูดถึงเรื่องแข่งม้า ล่องแพ และการที่จะได้ไปเจอพวกสัตว์อย่างมีความสุข เขาดูสนอกสนใจที่จะได้แข่งม้ากับผมเป็นพิเศษ

สปิริตนักสู้นี่ก็ส่งผลมาถึงผมด้วยเช่นกัน เพราะงั้นในทันทีที่รถบัสมาถึงฟาร์ม พวกเราก็รีบไปยังโรงม้าและข่มขู่คนเฝ้าโรงม้าให้เราเลือกม้ากัน พวกอาจารย์ๆ ก็ได้แต่ส่งสายตาสิ้นหวังมาให้ แต่ก็ยอมอนุญาตอยู่ดี ไม่ช้านักเรียนสองสามคนก็เข้ามาเลือกม้าและขี่ออกไปวิ่งรอบๆ ฟาร์มด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นไม่กี่นาที มาซายะก็สั่งให้คนดูแลฟาร์มเคลียร์ทุ่งหญ้าส่วนนึงเพื่อใช้เป็นลู่แข่งชั่วคราว

เมื่อขึ้นบนหลังม้า พวกเราก็แข่งกันโดยมีเสียงเชียร์ดังมาจากทางด้านข้าง มีเด็กอีกสองสามคนที่ขี่ม้าได้เหมือนกัน แต่ก็ไม่มีใครมาเชียรร์เลย น่าสงสารจังเลยนะ…

พอพักการแข่งผมก็มองไปรอบๆ ฟาร์มทั้งๆ ที่ยังอยู่บนหลังม้า จากที่ไกลๆ นั่น ผมมองเห็นกลุ่มเด็กผู้หญิงเล่นอยู่กับพวกสัตว์เล็กๆ และได้เห็นเรย์กะอยู่ท่ามกลางหมู่มวลกระต่าย มีตัวสีขาวเล็กๆ ตัวหนึ่งเกาะอยู่ที่ใบหน้า

เข้ากันดีเหลือเกิน!

ผมยิ้มออกมาเมื่อเห็นเจ้ากระต่ายจามออกมาในเวลาเดียวกันกับเรย์กะ คล้ายกันอะไรอย่างนี้! เรย์กะมองไปรอบๆ ทันที เราสบตากันแวบหนึ่งก่อนที่จะหันกลับไปหากระต่าย หืม? รู้ตัวแล้วเหรอว่าผมมองเธออยู่น่ะ

“ชูสุเกะ! มาแข่งกันอีกรอบก่อนกลับเถอะ!” มาซายะเรียกผมจากบนหลังม้าของเขาอีกครั้ง ผมพยักหน้าแล้วบังคับม้าให้ไปหยุดตรงจุดเริ่มต้นของลู่แข่ง

แน่นอน การแข่งขันจบลงที่การเสมอ มาซายะบอกผมอย่างมีความสุขเกี่ยวกับแผนขี่ม้าที่เขาจะทำเมื่อถึงตอนปิดเทอมหน้าร้อน ผมตกลงที่จะแข่งกับเข้าเมื่อถึงตอนนั้น

“ว่าไงล่ะคะ คุณเอ็นโจ”

“ผมไม่ค่อยจะ…” ผมกำลังจะพูดปฏิเสธ แต่อาจารย์ก็ดูน่าสงสารมากเหลือเกิน ผมเองก็เป็น Pivoine เหมือนกันไม่ใช่รึไงครับ แล้วทำไมผมต้องมารับหน้าที่เป็นคณะกรรมการด้วยล่ะ

“ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเป็นสมาชิก Pivoine หรอกค่ะ! คุณคิโชวอินเองก็มาช่วยเหมือนกัน!” อาจารย์บอก

เอ๋ เรย์กะเองก็ช่วยด้วยเหรอ? อืม ถ้าเธออยู่ด้วยก็คงไม่แย่เท่าไหร่หรอกมั้ง

“ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวผมช่วยเองครับ” ผมแย้มยิ้มออกมาขณะที่ตอบรับคำขอร้องจากอาจารย์

การจัดการเรื่องของชั้นป.5 และป.6 เริ่มต้นขึ้นก่อนที่จะต้องจัดงานกีฬาสีจริงๆ พวกเราเริ่มแนะนำตัวเอง

ท่ามกลางผู้คนมากมาย ผมมุ่งความสนใจไปที่เรย์กะผู้กำลังสอดส่องไปรอบๆ ด้วยรอยยิ้มแสนสุภาพทว่าว่างเปล่า

หืม… นี่เรย์กะ คุณควรรู้ไว้นะว่ารอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาน่ะมันออกจะน่ากลัวไปหน่อยนะ

อย่างที่คาดไว้ พวกผู้หญิงส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ชักอยากจะให้ตัวเองพกที่อุดหูมาจากบ้านซะแล้วสิ ผมมองจ้องไปยังเรย์กะเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เธอก็เมินเฉยไปทันที เฮ้ คุณเป็นหัวหน้าของพวกผู้หญิงไม่ใช่รึไง ช่วยห้ามไม่ให้พวกนั้นมาวุ่นวายกับผมได้แล้ว!

ผมถอนหายใจแล้วปลีกตัวออกมาทำงาน พวกผู้หญิงยังคงตามมาแล้วพูดคุยกันเสียงดังอยู่ข้างหลัง น่ารำคาญชะมัด ไปทำงานกันได้แล้วน่า

พวกผู้ชายในกลุ่มคณะกรรมการเข้ามาเตือน บอกให้พวกเขาไปทำงานของตัวเอง เพราะอย่างนั้น พวกเธอก็เลยมีท่าทีฟึดฟัดแล้วแสร้งว่าช่วยงานผมอยู่ จากนั้นก็พูดจาดูถูกพวกผู้ชายว่าพวกเขาแค่อิจฉาเท่านั้น

ไม่เลย พวกเขาพูดถูกแล้วล่ะ พวกคุณน่ะมันไร้ประโยชน์แถมสร้างแต่ปัญหา ถึงแม้ผมจะต่อว่าและบอกให้พวกเขาไปทำงาน ถ้าผมปล่อยทิ้งไว้ด้านหนึ่งแล้วหันไปสนใจอีกด้านล่ะก็ พวกนั้นคงจะเลิกทำงานแล้วทำตัววุ่นวายไม่เลิกแน่ๆ

เด็กผู้ชายที่เดินผ่านเรย์กะส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นอะไรบางอย่าง ผมเลิกคิ้วขึ้นแล้วขอให้เด็กผู้หญิงคนนึงให้ช่วยไปดู เมื่อกลับมาก็เล่าว่าเรย์กะใช้หนังยางพันรอบนิ้วไว้เพื่อให้หยิบกระดาษได้สะดวก

ผมหยิบหนังยางขึ้นมาเส้นนึงแล้วนำมาพันรอบนิ้ว โอ๊ะะะ~ ง่ายขึ้นเยอะเลยนี่นา

ขณะที่ทำงานอยู่ก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวและจามออกมา มีใครสาปแช่งผมอยู่เหรอ

574 Nameless Fanboi Posted ID:a/Oy4Ph/g3

ตอนที่ตรวจเช็คเอกสาร ผมก็สังเกตเห็นว่ามีรุ่นน้องลงหน้าที่ซ้ำซ้อนกัน พอบอกคนอื่นๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาก็ตัดสินใจส่งผมกับเรย์กะไปเจรจา อ๊ะ ถึงเวลาเล่นบท Pivoine แล้วสินะ

อย่าวไรก็ตาม ผมกลับถูกเรย์กะปฏิเสธและบอกให้อยู่ที่นี่ ได้ยินเธอพึมพำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับ ‘ฮาเร็ม’ แล้วเดินออกไปอย่างหัวเสีย ...คุณเรย์กะ พาผมไปด้วยสิครับ อย่าปล่อยผมไว้กับคนพวกนี้เพียงลำพังสิ!

ผมที่ค่อนข้างจะชักช้าก็พาตัวเองไปถึงชั้นป.3 จนได้ โชคไม่ดีเอาเสียเลย ดูเหมือนจะทะเลาะกันและเรย์กะเองก็ดูจะคุมสถานการณ์เอาไว้ไม่อยู่แล้ว

ผมปรบมือแล้วเดินเข้าไปในห้อง ทุกคนเงียบกริบเมื่อผมพูดว่า

“คาซึรางิ คิดจะสร้างปัญหาเล็กๆ น้อยๆ พรรค์นี้ให้คุณคิโชวอินอีกนานเท่าไหร่กัน แค่รีบไปแก้รายงานลงแข่งกีฬาของนายให้เสร็จตอนนี้ก็น่าจะได้แล้วนะ”

ผมมองไปที่เขาด้วยสีหน้าเข้มงวด เจ้าโง่นี่มัวทำอะไรอยู่ ทั้งๆ ที่เรย์กะก็ขอให้แก้ปัญหาแต่แรกแล้วน่ะ

หลังจากที่ผมทำให้ทุกอย่างสงบลง ผมก็เดินกลับไปยังห้องคณะกรรมการกับเรย์กะ เธอดูไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย ผมก็ได้แต่สงสัยว่าทำไม เร่ก็แก้ปัญหาได้แล้วนี่นา มีอะไรให้หงุดหงิดอีกล่ะ

“คุณคิโชวอิน ถ้าคุณจะออกมาแบบนี้ คุณควรบอกผมด้วยสิ” ทำไมถึงแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียวล่ะ เป็นพวกบ้างานรึไง

“รอบตัวท่านเหมือนจะยุ่งๆ น่ะค่ะ ดังนั้นดิฉันเชื่อว่าท่านกำลังยุ่งๆ อยู่แน่ๆ”

ผมยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ โอ้ เข้าใจแล้ว เธอคงไม่อยากให้ผมตามมาเพราะจะมีตัวแถมไร้ประโยชน์ตามมาสินะ “อา พวกนั้นสินะ ผมก็มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นด้วยเหมือนกัน และเหมือนว่าจะทิ้งงานให้คุณจัดการไม่น้อย ผมก็จะช่วยจัดการด้วยนะ”

ถึงแม้ว่าผมจะเสนอออกไปอย่างดี แต่เธอกลับบอกปัดเสียง่ายๆ ด้วยสีหน้าแบบ ‘เอาตัวนายกับฮาเร็มนายออกไปก็พอ’ อืมมม ขอโทษด้วยนะที่สร้างปัญหา

เมื่อกลับไปถึง ผมก็ถูกพวกผู้หญิงเข้ารุมล้อมอีกครั้ง

“ท่านเอ็นโจ พวกเราก็อยากไปด้วยนะคะ”

“พวกเราทำงานที่ท่านเอ็นโจมอบหมายเรียบร้อยแล้วค่ะ!”

ผมหันกลับไปมองทางเรย์กะ เห็นเธอพึมพำอะไรสักอย่าง หืมมม...เอ๋? ที่พูดถึง ‘ท่านลอร์ด’ นี่หมายถึงอะไรน่ะ ฝันกลางวันหรืออะไรทำนองนั้นเหรอ ผมยังคงมองในขณะที่เรย์กะไปรายงานกับรุ่นพี่เกี่ยวกับความสำเร็จของภารกิจที่เราไปทำมา

ในวันประชุมงานกีฬา ผมกับเรย์กะต้องกลายมาเป็นมาสคอตเพื่อต้อนรับแขกเหรื่อ ถึงจะหงุดหงิดยังไง แต่ในฐานะของทายาทตระกูลเอ็นโจ ผมจำต้องยิ้มแย้มและต้อนรับแขกต่อไป เรย์กะทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว ทักทายต้อนรับด้วยรอยยิ้มน่ารักและเสียงอ่อนโยน เลยพอจะเห็นพวกผู้ชายบางคนเอะอะอยู่แถวนี้ โอ้… คิโชวอินเอฟเฟคต์นี่สุดยอดจริงๆ! ผมมองเรย์กะที่ดึงดูดแขกเหรื่อด้วยความขบขัน หืม ทั้งที่ดูเป็นคนไม่มีแรงใจและนุ่มนิ่ม แต่กลับทำเรื่องการติดต่อสื่อสารและการจัดการได้ดีจนน่าตกใจ หือ

เพราะผมลงแข่งไว้ก็เลยไม่ต้องมาทำงานประกาศอะไรเหมือนเรย์กะ ตอนที่เธอประกาศครั้งแรก ผมได้ยินเสียงเธอสั่นไปบ้างในบางช่วง แต่ก็ดูเหมือนจะจัดการงานได้เป็นอย่างดี ได้ยินใครสักคนบอกว่าเสียงเธอน่ารักดี ผมก็เลยหันไปหาคนคนนั้น โอ๊ะ มองไปทางอื่นแล้ว? ทำไมล่ะครับ

พอตกบ่าย ผมได้ยินมาจากอาจารย์ว่าเรย์กะกำลังพักผ่อนและเตรียมตัวลงแข่ง จำได้ว่าเธอลงแข่งแข่งยืมของ ผมเลยแยกตัวออกมาหามาซายะ เขานั่งอยู่คนเดียวตรงมุมห้อง ไม่พูดคุยกับใคร แถมยังมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง

เลิกแบนตัวเองออกมาได้แล้ว! ในฐานะพ่อ (ปลอมๆ) แล้วนั้น พ่อกังวลจังเลยลูก!

ผมนั่งลงข้างๆ มาซายะแล้วชวนคุยจนกระทั่งการแข่งยืมของเริ่มต้นขึ้น เราเดินไปยังส่วนพื้นที่ของผู้ชม มองดูผู้เข้าแข่งขันวิ่งไปถึงกล่องแล้วหยิบสุ่มการ์ดออกมา

ผมเอียงคอมองเรย์กะอ่านการ์ดของตน เธอเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปทางห้องอื่น จากนั้นก็รีบวิ่งไปในทิศทางนั้น สงสัยจังว่าจับได้อะไร

เธอกลับมาพร้อมกับลากคุณอาคิสะวะมาด้วย หืม เธอจับได้คนวิ่งเร็วงั้นเหรอ เขาลงวิ่งผลัดเมื่อปีที่แล้วด้วยนี่ ถึงจะมีคนที่วิ่งเร็วพอกันหรือมากกว่าอยู่ใกล้ๆ ก็เถอะ… ได้ยินผู้ประกาศอ่านการ์ดว่า ‘เพื่อนที่วิ่งได้เร็วที่สุด’ อ๋อ เป็นเพื่อนกันสินะ เรื่องนี้ค่อนข้างน่าตกใจอยู่เหมือนกัน ดูจากสภาพสังคมแล้วก็ไม่ได้ใกล้เคียงกันเลยนะ ไปเจอกันได้ไงล่ะเนี่ย…?

มีการ์ดอยู่มากที่ให้หานเป็นๆ มา เห็นมีคนมาพาตัวเรย์กะไปด้วยเช่นกัน เพราะการ์ดที่เขาจับได้สั่งให้หา ‘เด็กผู้หญิงที่มีริบบิ้นบนผม’

หลังจากนั้นไม่นานก็มีสาวใจกล้าวิ่งมาสารภาพรักกับมาซายะและถูกปฏิเสธอย่างสวยงาม ฮ่า ทำเกิดตัวไปหน่อยล่ะนะ

575 Nameless Fanboi Posted ID:a/Oy4Ph/g3

นอกจากการแข่งวิ่งผลัดแล้ว การแข่งขันหลักอีกอย่างของงานกีฬาคือการแข่งขี่ม้าส่งเมืองของเด็กผู้ชายป.5 และป.6

แต่ละห้องถูกแบ่งออกเป็นสองทีม และต้องคอยฉกผ้าคาดหัวจากทีมอื่น

มาซายะลงแข่งในฐานะแม่ทัพและได้ฝึกม้าของเขาขึ้นมาอย่างลับๆ เขาชวนผมไปช่วยซ้อมด้วยเหมือนกัน แต่ผมก็ปฏิเสธไปเพราะมันน่าเบื่อที่ต้องมานั่งดูหมอนั่นตะโกนสั่งพวกนั้นแล้วคอยทำตัวจู้จี้จุกจิกบ้าความสมบูรณ์แบบ

การแข่งขันมันโหดร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ มาซายะโค่นทีมอื่นลงอย่างไร้ความปราณี ผู้ที่เผชิญหน้าถูกเหยียบย่ำอย่างไร้เมตตา ผู้ที่วิ่งหนีก็ถูกล่าอย่างบ้าบิ่น อันที่จริง แค่มองดูผมก็รู้สึกได้แล้วว่าความสามารถในการฝึกฝนผู้คนมันโดดเด่นมากๆ

แน่นอน ผมรู้ว่าพวกม้าต้องทำทุกอย่างให้มั่นใจว่ามาซายะจะไม่หล่นลงมา เพราะถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นจริง พวกเขาจะต้องเผชิญกับศัตรูมหาศาลเชียวล่ะ

“อา~ ฮะ มาซายะไม่ปราณีกันเลยน้า” ผมแสยะยิ้มออกมา เรย์กะพยักหน้าอย่างว่างเปล่าเป็นเชิงเห็นด้วย หืมมม ดูเหมือนหมอนั่นจะเสพติดชัยชนะไปแล้วล่ะ

ในที่สุดก็เหลือเพียงทีมของมาซายะเท่านั้น พวกเขาได้รับชัยชนะไปอย่างสมบูรณ์แบบ

หลังจากนั้นก็มีใครสักคนเปรียบเปรยพลังของเขากับจักรพรรดินโปเลียนในตำนาน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของฉายาอันโด่งดังที่จะติดตัวเขาไปตลอดชีวิต “จักรพรรดิ”

ตั้งแต่ได้รับฉายาจักรพรรดิมา ความนิยมของมาซายะก็พุ่งสูงขึ้น เขาเริ่มมีแฟนๆ จากกลุ่มรุ่นน้อง ชื่อเสียงของฉายานี้ดังไปถึงแผนกมัธยมต้น ได้ยินมาว่ายูริเอะเองก็ชอบล้อมาซายะด้วยฉายานี้่เช่นกัน ผลคือหมอนั่นงอนไปสองวันเลยทีเดียวเชียว

เมื่่อมีเด็กๆ เรียกเขาว่า “จักรพรรดิ” ต่อหน้าหมอนั่น เขาก็จะจ้องด้วยสายตาเย็นชาจนกว่าจะได้รับคำขอโทษและวิ่งหนีไป
ผมแอบบอกคนอื่นๆ ให้เลิกเรียกเขาแบบนี้ต่อหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาโมโหขึ้นมาในอนาคต

หลักเลิกเรียนผมถูกเรียกให้ไปพบที่ห้องพักอาจารย์

พอไปถึงที่นั่น เรย์กะกำลังคุยกับอาจารย์ในเรื่องของคณะกรรมการด้านนำเสนอสื่อการเรียนรู้ ผมหรี่ตามองเมื่อได้ยินว่าอาจารย์กำลังขอร้องเรย์กะอยู่ แต่เธอก็ปฏิเสธและเดินออกไป ผมหลบหลังประตูเพื่อไม่ให้เธอเห็นตัว

“โอ้ คุณเอ็นโจ มาแล้วเหรอครับ” อาจารย์กล่าวต้อนรับเมื่อผมปรากฎตัว

อย่างที่คาด ผมเองก็ถูกขอร้องเรื่องคณะกรรมการเช่นกัน

ผมส่งยิ้มสดใสไปหาอาจารย์ “ถ้าคุณคิโชวอินไม่เข้าร่วม ผมก็ไม่ด้วยละกันครับ!” เมื่อเรย์กะอยู่ด้วย ทุกอย่างก็สามารถดำเนินการไปได้อย่างราบรื่นเพราะว่าเธอจะทุ่มสุดตัว ผมไม่สนใจที่จะทำถ้าไม่มีเธออยู่ด้วยหรอกนะ

//เรียบร้อย ส่งต่อไม้ 5

576 Nameless Fanboi Posted ID:FgFoXoZ8Um

ขอบคุณสำหรับกาวมึง ฟินมากกกก

577 Nameless Fanboi Posted ID:IGqzVxipMD

>>575 ขอบคุณโม่งผู้ใจดี แปลกาวให้สูดดม

578 Nameless Fanboi Posted ID:edPOdhCGnl

กาวนอหช่างรวดเร็วทันใจเหลือเกินนนนน

579 Nameless Fanboi Posted ID:5STWAj0vuF

>>573 เป็นการปูเรื่องที่มองเรย์กะเหมือนกระต่ายที่โครตยาวนาน ภาพที่เรย์กะไปนั่งเล่นกับกระต่ายนี่มันต้องน่ารักมากแน่ๆอะ

580 Nameless Fanboi Posted ID:Ecp4BO3jzw

>>579 + มิน่าลลาเต้อาร์ตถึงเป็นรูปนั้น ถ้าไม่กลับมาอ่านใครจะจำใส่ใจทุกรายละเอียดขนาดนั้นวะ เอ็นโจจจจจ

581 Nameless Fanboi Posted ID:V5QJhJfUBt

จะว่าไป ฉากเล่นกระต่ายในเนื้อเรื่องจริงนี่มันตแนที่เท่าไหร่วะ

582 Nameless Fanboi Posted ID:5STWAj0vuF

>>581 ตอนที่ 27
กูว่าที่ฮีมองเรย์กะเหมือนกระต่าย เหตุผลหลักๆเลยน่าจะ...น่ารัก ตากลมโต ขาว ขี้กลัวขี้ตกใจง่าย แถมสัญชาตญาณระวังภัยสูงเพราะเป็นสัตว์ที่ถูกล่า เป็นอุปนิสัยของกระต่ายฝุดๆ

583 Nameless Fanboi Posted ID:9IVnjCDYPd

อ.ฮิโยโกะที่วางแผนมานานมากเลยอะ หยอดเรื่องกระต่ายมาตั้งแต่ประถม แล้วก็ให้เอ็นโจหลุดชมท่านเรย์กะว่าเป็นกระต่ายน้อยน่ารักออกมาเรื่อยๆ กุว่ามันเป็นอะไรที่ก๊าวมากๆ

584 Nameless Fanboi Posted ID:Mj+IZSWfD9

>>583 หยอดเรื่องของคาซึรางิมาตั้งแต่ชั้นประถมด้วยนะ จริงๆ พอมาย้อนกลับไปก็นึกเหมือนกันว่าทำไมเอ็นโจถึงรู้ชื่อรุ่นน้องได้ กับคุณยุยโกะนี่ก็น่าจะอยู่ด้วยกันมาแต่เด็กเหมือนกันนะ

585 Nameless Fanboi Posted ID:kVQJnYNvcs

>>584 หา ตอนไหนนะ ที่หลุดชื่อคาซึรางิมา

อาจารย์คือสุดยอดจริงอะ มึงคิดดูว่าใจเรารู้อยู่แท้ๆว่ามีคำใบ้ในอนาคตอยู่เต็มตอน การที่แบบต้องค่อยๆดรอปฮิ้นท์ให้คนอ่านแต่ว่าคนอ่านไม่เห็นแต่ยังต้องอดทนจนกว่าจะเจอ อาจารย์ฮิโยโกะก็ต้องอดทนไม่รีบ ไม่สปอย กราบเลย กูเคยพยายามเขียนนิยาย พยายามฮิ้นท์ เป็นคำใบ้ที่ออกมาดูเสนอหน้ามาก

586 Nameless Fanboi Posted ID:j6UUBJA6t6

>>585 ตอนที่ 32 ที่ห้องคาซึรางิมีปัญหาเรื่องลงแข่งกีฬาแล้วเรย์กะไปจัดการ ส่วนเอ็นโจตามมาช่วยไง
จะว่าไปอีไก่โง่นี่มันมีความสัมพันธ์กับบ้านเอ็นโจยังไงหว่า เรียนซุยรันมาตั้งแต่ประถมก็ถือว่ารวย แล้วก็รู้จักกับยุยโกะถึงขั้นเรียกชื่อเล่นได้น่าจะสนิทสนมกันมาก บ้านอีไก่โง่อาจจะเป็นคู่ค้าที่สำคัญเลยทำให้เอ็นโจพูดอะไรมากไม่ได้ด้วยรึเปล่า

587 Nameless Fanboi Posted ID:KykZ/dSdUx

กรีีดดดๆๆๆๆๆ กุเพิ่งอ่านที่วิเคราะห์ว่าเอ็นโจเห็นเรย์กะเล่นกับกระต่าย->ชมเรย์กะเหมือนกระต่ายบ่อยๆ,ทำลาเต้อาร์ตรูปกระต่ายให้ กุแบบ กร๊ดากสหงแสหว เขินนนนน
ตอน5มีคนจองไปแล้วใช่มั้ย ตอน6มีคนแปลยัง ถ้ายังกุจะแปลต่อเลย (ถ้ามีใครจองแล้วบอกหน่อยนะจ๊ะ) ถึงกายหยาบกูยังจะไม่ว่างแต่กายละเอียดกูพร้อมตื่นมาดมกาววว

588 Nameless Fanboi Posted ID:Mj+IZSWfD9

>>586 เท่าที่ฟังจากยูกิโนะ เหมือนตาไก่โง่ก็เคยไปบ้านเอ็นโจบ่อยๆ นะ ถึงเจอยูกิโนะได้ ส่าแล้วก็อยากรู้ความสัมพันธ์ของ 3 คนนั้นค่ะ อาจารย์ขาาาา

589 Nameless Fanboi Posted ID:Mj+IZSWfD9

ต่อจากข้างบนนิด ลงว่าอาจารย์แกเก็บทุกเม็ดขนาดนี้ ที่เอ็นโจขาเจ็บลงแข่งวิ่งไม่ได้ตอนประถมก็น่าจะมีสาเหตุเหมือนกันนะ จะรอวันที่ปริศนาคลี่คลายนะคะ อาจารย์

590 Nameless Fanboi Posted ID:XL4uRyqfNq

้ห็นแฟนไซต์​คุยเรื่องว่าเรื่องถูกไปแปลเป็นภาษาอื่นๆ คอมเม้นท์​กันยาวเชียว ใครเผือกญี่ปุ่น​ออกมาเหลาให้หน่อย น่าจะเรื่องลิขสิทธิ์​กันปะ
https://kenkyokenjitsu.com/notice/trans/

591 Nameless Fanboi Posted ID:Rkb/O7Rdsp

>>590 มีใครเข้าไปอ่านแล้วเข้าใจบ้าง นี่เท่าที่ไปดำน้ำคร่าวๆเข้าใจได้ส่วนที่เขากังวลเรื่องมุขหลายๆอย่างมันเฉพาะคนญี่ปุ่นเข้าใจ คนประเทศอื่นอาจจะสื่อความได้ไม่เท่ารึไงเนี่ยล่ะ แต่ของพวกเรานี่กูว่าโม่งแปลกับในบอร์ดนี้อธิบายได้ดีจนกูไมม่ติดขัดอะไรกับมุขนะ

592 Nameless Fanboi Posted ID:GPFIiGZ+dM

>>590 ที่อ่านๆมากูว่าเค้าไม่ได้คิดมากกับพวกลิขสิทธิ์กันสักเท่าไหร่ คงเพราะยังไม่ได้ตีพิมพ์เป็นรูปเล่มล่ะมั้ง เพราะถ้าเป็นรูปเล่มแล้วไปละเมิดลิขสิทธิ์คงจะเป็นเรื่องใหญ่น่าดู
แล้วก็เห็นว่าเค้ากลัวแปลผิดหรือแปลกพลาดจากเนื้อหาที่มีความนัยซ่อนอยู่ ซึ่งกูคิดว่าโม่งเราไม่พลาดว่ะ ขนาดกอล์ฟมาร์คเกอร์ยังแปลความนัยเปลี่ยนองค์ชายเอ็นโจวเป็นจอมมารได้นี่... นั่นแหละกูล่ะยอมใจ

593 Nameless Fanboi Posted ID:i0FjNvCQGH

ปริ่มกะกาวนอกมาก นิกุขำก๊ากเลยที่เอนโจตั้งตัวเป็นพ่อคาบุ แล้วให้เรย์กะเป็นแม่. คือมุ้งมิ้งน่ารักมาก. ตอนโยนภาระให้ท่านเรย์กะก็ประมาณว่า อะ แม่ไปดูแลลูกที พ่อเหนื่อย 555 คือมันใช่มาก. แบบว่าตอนอ่านนิยายกุก็สงสัยว่าทำไมเอนโจต้องคอยดึงท่านเรย์กะมาหาคาบุด้วยเหตุผลอะไร. พอเป็นพ่อแม่ลูกนี่ใช่เลย 555

594 Nameless Fanboi Posted ID:KjJLlYaIF2

ฟิคแปลเวียน ตอนที่ 5

วันหนึ่งที่ผมไปเล่นหมากรุกแข่งกับมาซายะอยู่ที่บ้านของเขา แม่ของเขาก็กลับเข้าบ้านมาด้วยสีหน้าที่เหมือนกำลังวางแผนอะไรอยู่ในใจ

พอผมมองตามร่างของมาซายะที่วิ่งไปต้อนรับ สีหน้านั่นเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอบอุ่นแบบคุณแม่ ผมก็รู้สึกระแวงขึ้นมา

แต่ถึงจะมีความสงสัยจะติดในใจ ผมก็ยังยิ้มขณะที่เดินตามเขาไปทักทายเธอ

“สวัสดีตอนบ่ายครับ คุณน้า กลับมาเร็วแบบนี้มีอะไรไหมครับ?”

“ท่านแม่ ท่านแม่ได้ซื้อช็อคโกล่ามาฝากผมรึเปล่า?”

มาซายะ ไม่ใช่ว่านายพึ่งจะกินของหวานไปเมื่อกี้นี้เองเรอะ? ระวังฟันผุล่ะ

คุณน้าหลุดหัวเราะออกมาแล้วส่ายหน้า มาซายะเลยเบะปากไม่พอใจแล้วอมลมพองแก้ม ซึ่งทำให้เธอหัวเราะหนักขึ้นและหยิกแก้มของเขา และในขณะที่ผมกำลังรอให้การสปอยมาซายะของเธอจบลง ผมก็เหลือบมองกลับไปที่กระดานหมากรุก

ชนะไปสี่ตาแล้ว ตาต่อไปจะยอมให้มาซายะดีไหมนะ?

เมื่อผมได้ยินเสียงคุณน้าปล่อยมาซายะก็เลยหันกลับไป แต่อยู่ดี ๆ เธอก็ถามพวกเราเกี่ยวกับเรย์กะขึ้นมา

อะไรกันน่ะ?

“เมื่อครู่นี้แม่เจอเธอกับพี่ชายหลังจากรับประทานมื้อเย็นน่ะ เป็นเด็กที่น่ารักคนหนึ่งเลยนะจ๊ะ แม่ยังได้ยินจากยูริเอะว่าพวกลูกเป็นเพื่อนกัน ก็เลยสงสัยว่าทำไมลูกไม่ยอมชวนเธอมาเล่นที่บ้านบ้าง ไม่ใช่ว่าเกมน่ะจะสนุกขึ้น ถ้ามีคนมากขึ้นเหรอจ๊ะ มาซายะ” รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฎขึ้นมาบนหน้าของเธอ

มาซายะที่นั่งข้าง ๆ ผมทำหน้าบึ้งออกมาและปฏิเสธหัวชนฝาว่าเขาไม่ได้เป็นเพื่อนกับเธอ

มาซายะ ท่าทีต่อคุณแม่ (ปลอมๆ) ของนายนั่นมันอะไรน่ะ!

“ยัยนั่นไม่ใช่เพื่อนของผม อยู่กับเธอก็ไม่เห็นจะสนุกตรงไหนเลยด้วย!”เขาทำหน้าเย็นชาไปขณะที่พูด

นายกล้าพูดอย่างนั้นทั้งที่นายไม่อยู่กับเธอมากพอด้วยซ้ำเนี่ยนะ นี่คงไม่ใช่เพราะว่าเธอดุนายไปสองสามครั้งตอนที่นายใช้ให้เธอเป็นเบ๊หรอกใช่ไหม?

นายควรถือว่านายโชคดีด้วยซ้ำที่เธอหยุดนายก่อนจะทำทุกอย่างจะพังน่ะ

“เอาล่ะ มาซายะ ลูกไม่คิดว่าลูกหยาบคายกับเรย์กะจังเกินไปหน่อยหรือจ๊ะ”

/เรย์กะจัง?/

“เล่นเกมแล้วได้เพื่อนเพิ่มด้วย ลูกไม่อยากทำอย่างนั้นหรอจ๊ะ”

“ผมไม่อยากทำ!”

ผมรู้สึกเหนื่อยนิดๆจากการฟังมาซายะเถียงเหมือนเด็ก ๆ

มาซายะ มาด “เย็นชาสูงส่ง” ของนายที่พวกสาว ๆ กรี๊ดกันหายไปไหนหมดแล้ว? นี่นายหลอกผู้หญิงเกือบทั้งซุยรันสำเร็จจริง ๆ นะเนี่ย…

“แล้วเธอล่ะจ๊ะ ชูสุเกะคุง? เธอไม่คิดว่ามันจะดีหรือถ้าจะมีเพื่อนมาเพิ่มขึ้นน่ะ”

/นี่คุณน้ากำลังทำอะไร เล่นจับคู่ให้เด็กเกรดหกเนี่ยนะ?”

ผมยิ้มก่อนจะไหวไหล่ “คุณคิโชวอินเป็นคนที่ดีนะครับ แต่พวกเราไม่ได้มีโอกาสคุยกันมากขนาดนั้น มันคงจะกระอักกระอ่วนถ้าอยู่ ๆ ก็ไปชวนเธอมาเล่นที่บ้าน อีกอย่างเธอเองก็มีกลุ่มเพื่อนของเธออยู่แล้ว และคุณคิโชวอินก็ไม่ค่อยยุ่งกับเด็กผู้ชายเท่าไหร่ ผมว่ามันอาจจะเป็นการรบกวนถ้าพวกเราไปชวนเธอมาเล่นที่บ้าน…”

ผมทำให้มันฟังดูเหมือนว่ามันจะเป็นการรบกวนเรย์กะถ้าพวกเราพาเธอมาที่นี้ อีกเหตุผลคือเธอไม่ถูกกับมาซายะและหมอนั่นก็ไม่ใช่ว่าจะมีเจตนาอยากอยู่ร่วมกับเธอซักเท่าไหร่ เพราะงั้นการเชิญเธอมาคงจะจบลงที่บรรยากาศแย่ ๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

“อย่างนี้นี่เอง” คุณน้ายิ้มเป็นเชิงช่วยไม่ได้ขณะส่ายหน้า ใช่ครับ เรย์กะก็จะเดือดร้อนไปด้วยนะ เพราะฉะนั้นแล้ว…

/ชู่ว~/

“งั้นแม่ไปดูท่านพ่อก่อนนะจ้ะ มาซายะ ชูสุเกะคุงก็อย่าลืมโทรบอกท่านพ่อท่านแม่นะจ้ะถ้าอยากจะอยู่ค้าง” เธอเดินไปและมาซายะก็มองตามเธอไปก่อนจะวิ่งไปที่ตู้เย็นอย่างรวดเร็วพูดว่าเขาจะรีบกลับมา

ผมเดินกลับไปที่กระดานหมากรุกที่พวกเราเล่นค้างไว้และมองตัวหมากเงียบ ๆ

ขณะที่กำลังวิเคราะห์หมากของมาซายะอยู่ ผมก็ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วเอื้อมมือไปหยิบตัวควีนออกมาจากด้านข้างคิง

“จับคู่เรย์กะให้กับมาซายะอย่างนั้นสินะ…”

595 Nameless Fanboi Posted ID:KjJLlYaIF2

ในเดือนมิถุนายน ซุยรันก็จัดงานทัศนศึกษาอีกครั้ง และแม้ว่าโรงเรียนของเราจะรวยขนาดไหน พวกเราก็ได้ไปเที่ยวแค่จังหวัดเกียวโตและจังหวัดนารา ผมอุตส่าห์หวังว่าปีนี้จะได้ไปฝรั่งเศสแท้ ๆ เลยน้า…

แต่ถึงปลายทางของเราจะธรรมดาจนไม่รู้จะธรรมดายังไง เรียวกังและโรงแรมที่โรงเรียนเลือกก็แน่นอนว่าต้องหรูที่สุดในย่านนั้น เรียวกังที่พวกเราไปเป็นเรียวกังที่โปรดของคุณน้า - แม่ของมาซายะ เพราะฉะนั้นมาซายะก็เลยคุ้นเคยกับการมาที่นี่อยู่และเริ่มสั่งโน่นนี่กับพนักงาน

แต่โชคร้าย เพราะว่ามีผมเป็นสมาชิกอยู่ในห้องด้วย คลาสของผมก็เลยค่อนข้างจะเสียงดังทำให้โดนพวกคุณครูตำหนิบ่อยครั้งว่าให้ทำตัวดี ๆ และอยู่เงียบ ๆ

ผมสามารถรู้สึกถึงความเกลียดชังที่แผ่ออกมาจากตาของหัวหน้าและหัวหน้าห้องจากทางด้านหลังเวลาที่พวกเด็กผู้หญิงไม่ได้อยู่รอบผมได้เลยล่ะ

พวกเขาควรจะดีใจมากกว่านะที่ไม่ได้ต้องดูแลห้องของมาซายะ

ก็ห้องนั้นเป็นห้องที่เสียงดังที่สุดและก็วุ่นวายในการทัศนศึกษาครั้งนี้นี่นา

นอกจากนี้ เพราะว่าห้องที่เรย์กะอยู่เป็นระเบียบและสามารถจัดการได้ง่าย คุณครูเลยมักจะเปรียบเทียบห้องของเธอกับห้องของเราอยู่เสมอ บอกว่าพวกเราควรจะเอาอย่างเธอบ้างแต่ผมว่าพวกเขาแค่อยากจะให้เด็กผู้หญิงบางคนรู้จักประพฤติตัวเหมือนเรย์กะซะมากกว่า

เธอคนที่มักจะนั่งเงียบ ๆ อยู่มุมห้อง ใบหน้ามีรอยยิ้ม ในขณะเดียวกันก็สามารถทำให้ทั้งห้องเรียบร้อยได้ไงล่ะ

-

ในตอนที่พักทานอาหารกลางวัน ไม่ว่ามาซายะจะไปนั่งตรงไหน ที่ตรงนั้นก็จะกลายเป็นแดนไร้กฎหมายไปในทันที

มันเต็มไปด้วยเสียงของพวกเด็กผู้หญิงที่เถียงและพูดคุยกันเสียงดัง ผมมั่นใจว่ามีอยู่คนหนึ่งที่ตั้งใจทำอาหารหกใส่อีกคนด้วยซ้ำ นี่ทำให้ผมอยากจะถามพวกเธอจริง ๆ ว่าพวกเธอนับเป็นเด็กผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงโดยตระกูลที่ดีจริง ๆ เหรอ

ในบางครั้งผมก็ยังบอกพวกเด็กผู้หญิงในห้องผมนะว่าให้นิ่ง ๆ กันหน่อย แต่มาซายะน่ะปล่อยให้พวกเธอทำอะไรก็ได้ตามใจชอบและทำให้เกิดเหตุการณ์ยุ่งวุ่นวายเต็มไปหมด

/บรรยากาศตึงเครียดจริงๆ…/

การที่พวกเขาเป็นแบบนี้ในตอนนี้ มันก็ยังสามารถอ้างได้นะว่าเป็นแค่การกระทำอย่างกระตือรือร้นของเด็ก ๆ แต่พอโตขึ้น สิ่งที่พวกเธอทำน่ะจะค่อย ๆ กลายเป็นว่าไม่มีมารยาทและน่ารำคาญ

มีเด็กผู้หญิงบางคนที่ดูเหมือนว่าเธอจะกลายเป็นคุณหนูที่จะเฉิดฉายในอนาคตด้วยซ้ำ และมันเหมือนกับว่าระหว่างกลุ่มของพวกเธอจะมีความเป็นศัตรูที่บรรยายไม่ถูกอยู่ด้วยนิด ๆ

แต่เพราะเรย์กะดูจะไม่เป็นอะไรมาก ดังนั้นผมว่ามันก็คงไม่สำคัญอะไร

-

ไม่นานก็ถึงเวลาปิดไฟ แต่เด็กผู้หญิงพวกนั้นก็ยังไม่ไปไหนและส่งเสียงดังอยู่รอบ ๆ มาซายะ ผมมองเลยไปเจอพวกหัวหน้าห้องกับเรย์กะมองสบตากัน ก่อนที่เรย์กะจะทำสีหน้าพ่ายแพ้ออกมาและลุกขึ้นยืน

เธอเดินตรงไปที่กลุ่มแฟนคลับของมาซายะและดึงเด็กผู้หญิงออกมาคนหนึ่ง

เพียงแค่พูดคุยกันไม่กี่นาทีสั้น ๆ กับเด็กผู้หญิงคนเดียว เด็กผู้หญิงทั้งหมดก็ค่อย ๆ เงียบลงทีละคน ๆ และทำตัวสงบเสงี่ยม

และเนื่องด้วยบรรยากาศที่เปลี่ยนเป็นไร้เสียงโดยสิ้นเชิง ผมจึงได้ยินเรย์กะพูดอย่างชัดเจนทุกคำ

เธอพูดถึงว่ามันเป็นเวลาที่ต้องปิดไฟและกล่าวราตรีสวัสดิ์กับทุก ๆ คน เด็กคนอื่นเองก็ตอบกลับมาอย่างเชื่อฟังว่า”ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ท่านเรย์กะ” และกลับไปที่ห้องของตัวเอง

/เหมือนว่าฉายาผู้นำของพวกผู้หญิงจะไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ สินะ เรย์กะ?/

596 Nameless Fanboi Posted ID:KjJLlYaIF2

-

ต่อมาผมได้คุยกับมาซายะในตอนเช้า ปรากฎว่าเขาได้รับข้อความจากยูริเอะที่ส่งมาดุเรื่องที่เขาปล่อยให้พวกเด็กผู้หญิงก่อเรื่องได้ตามใจชอบ เขาดูกลุ้มอกกลุ้มใจจนผมต้องยื่นช็อคโกล่าให้ปลอบใจเขา

ไม่เป็นไรหรอกน่า มาซายะ ยูริเอะไม่ได้โมโหซะหน่อย ไม่เห็นต้องซึมขนาดนั้นเลยนี่นา

-

ระหว่างวัน พวกเรายังได้เดินไปเยี่ยมชมศาลเจ้าและวิหารต่าง ๆ และต่อด้วยการไปช้อปปิ้ง

มาซายะไปซื้อของฝากให้ยูริเอะ ในขณะที่ผมมองผ่านพิธีอวยพรในศาลเจ้าไป ผมก็เห็นมีผู้ชายบางคนรีบไปขอคำอวยพรในด้านความรัก พอคนน้อยลงหน่อยผมก็ค่อยเดินไปบ้าง

ผมดึงเซียมซีออกมาหนึ่งแผ่น “โชคร้าย“

อะไรเนี่ย? [1]

-

เมื่อพวกเราถึงจังหวัดนารา ก็พบว่ามีเด็กผู้หญิงคนนึงกำลังท่องบทกลอนมังโยชู ดังนั้นพวกเราหลาย ๆ คนก็เลยหยุดเพื่อที่จะชื่นชมในความประณีตละเอียดอ่อนของเธอ มีเด็กบางคนถึงกับลองท่องเลียนแบบออกมาด้วยซ้ำ แต่กลับลงเอยด้วยอะไรที่ฟังดูงี่เง่าแทน

ผมมองเรย์กะที่ทำสีหน้าไปด้วยในขณะที่ฟัง เธอดูเหมือนจะจำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็แค่อยู่เงียบ ๆ และนำพวกเราทั้งหมดไปที่สถานที่ต่อไป

อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเราเข้าไปในหอยูเมโดโนะ เรย์กะก็ไม่ได้อยู่เงียบ ๆ อีกต่อไป เธอพูดขึ้นมาด้วยเสียงค่อนข้างดังว่า “จักรพรรดิแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย” ไกด์ที่มีสีหน้าพอใจก็กล่าวชมเธอยกใหญ่ ทำให้เด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ เองก็เอ่ยชื่นชมเธอไปตาม ๆ กัน

แก้มทั้งสองข้างของเรย์กะกระตุกและยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้รับคำชม

นี่การทำให้เธอดีใจมันง่ายขนาดนี้เลยใช่ไหม?

-

ที่สวนสาธารณะนารา[2] มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

ผมไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง แต่ก็ได้ฟังมาจากมาซายะที่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา แม้ว่าในส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างจะเป็นห่วงว่าเธอได้รับบาดเจ็บรึเปล่าเพราะผมเห็นเธอเดินสะโหลสะเหลไปตลอดทางกลับโรงแรม แต่มาซายะก็ยังย้ำกับผมอยู่นั่นล่ะว่าที่เธอเดินแปลก ๆ เป็นเพราะเธอเหยียบมูลของกวางเข้าต่างหาก

ผมตัดสินใจอย่างเงียบ ๆ ว่าอีกเดี๋ยวจะไปดูเรย์กะ และพบว่าเธอก็เดินได้ปกติดี แสดงว่าเธอคงจะเหยียบมูลกวางอย่างที่มาซายะบอกจริง ๆ นั่นละ

-

ต่อมาพวกเราก็ไปมหาศาลเจ้าคาสุกะหลังจากนั้น ผมก็ตั้งใจภาวนาให้เพื่อน ๆ ทุกคนและครอบครัวมีสุขภาพที่ดี

ที่นี่ก็ยังมีเซียมซีกวางน้อย[3] แต่ผมบังเอิญหันไปเจอเรย์กะที่มองพวกมันด้วยสายตาพิฆาตเหมือนอยากจะเอาพวกมันทั้งหมดไปเผาทีละตัว ๆ ผมก็เลยไม่ค่อยอยากซื้อ รู้สึกเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีซะเท่าไหร่ และก็ตัดสินใจซื้ออันอื่นให้ครอบครัวของผมแทน

มาซายะชวนผมไปเสี่ยงเซียมซีกับเขา แต่พอผมนึกถึงอันที่แล้วที่ผมได้มาผมเลยปฏิเสธเขาไป แต่ก็นั่นละมาซายะยอมให้ผมทำแบบนั้นที่ไหนและลากผมไปด้วยอยู่ดี

นี่นายไม่ได้คิดจะไปเองตั้งแต่แรกอยู่แล้วสินะ?

สุดท้ายพวกเราก็ได้รับเซียมซีว่าโชคร้ายกันมาทั้งคู่ มาซายะโมโหถึงขั้นโยนคำทำนายของเขาทิ้งลงถังขยะ บอกว่ายังไงเขาก็ไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติพวกนี้อยู่แล้ว

แหม แต่เมื่อกี้นายยังมีความสุขที่ได้มาเสี่ยงเซียมซี /ขนาดนั้น/ เลยนะ…

แต่พอผมคิดถึงโชคร้ายของผมบ้าง ผมก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

ไม่รู้ว่าผมควรจะรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ดีนะ…

597 Nameless Fanboi Posted ID:KjJLlYaIF2

-

วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมากจริง ๆ ตลอดทั้งวันผมกับมาซายะต้องเขียนลงในสมุดเฟรนด์ชิปเล่มแล้วเล่มเล่า ความจริงผมก็ไม่อยากจะเหนื่อยเขียนอะไรแบบนี้หรอกนะ แต่พอผมเห็นหน้าตามีความหวังของพวกเธอ ก็ต้องยอมแพ้และเขียน “ยินดีกับการจบการศึกษา” ลงบนสมุดต่อไป

มาซายะนั้นขี้เกียจกว่าผมซะอีก เขาเขียนแค่ชื่อของเขาลงไปเท่านั้น แม้ว่าในบางครั้งถ้าคนที่มาเป็นคนที่เขาคิดว่าไม่เลว เขาก็จะยอมเขียนชื่ออีกคนให้ด้วย

อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ที่มาต่อแถวให้เขียนสมุดเฟรนด์ชิปให้ก็คือบรรดาแฟนคลับของพวกเราเอง ดังนั้นพวกเราก็เลยแค่เขียนที่สิ่งง่ายที่สุดลงไปซ้ำ ๆ

ผมต้องมองลายเซ็นต์ของคนจำนวนมากจนผมเริ่มที่จะจำได้แล้ว ไม่นานผมก็เริ่มรู้สึกปวดหัวกับบางอันที่มีสีฉูดฉาดบาดตา และขอให้คนอื่นเปิดหน้าว่าง ๆ ให้ผมเซ็นต์แทน

ไม่นาน มาซายะก็เลียนแบบผมเช่นกัน

และในเวลาต่อมา พวกเราพบว่ายังมีบางคนที่เคลือบลายเซ็นต์ของพวกเราเก็บไว้ด้วย ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายุ่งยากอย่างการปลอมลายเซ็นต์ในอนาคต เราก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการเซ็นต์

-

แต่ถ้าถามว่าอะไรคือหนึ่งในสิ่งที่ผมเสียใจที่สุดแล้วละก็ มันก็คงจะเป็นการที่ไม่แกล้งป่วยและโดดเรียนในวันนั้น

ถึงแม้ผมจะเขียนสมุดเฟรนด์ชิปไปมากมาย แต่นาน ๆ ทีผมถึงจะขอให้คนอื่นเขียนของผม แม้ว่าผมจะเห็นว่าหลายคนน่ะอยากจะเขียนมันก็ตาม ผมเกือบจะต้องแย่งสมุดของผมกลับมาจากมือของคนพวกนั้นด้วย เพราะงั้นผมก็เลยเปลี่ยนไปขออย่างลับ ๆ แทน

มาซายะกับผมเขียนลงบนสมุดของอีกฝ่ายพอเป็นพิธี พวกเราถึงขั้นเขียนกลอนแข่งกันด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นมาซายะที่อ่านหนังสือและโตกับคุณพ่อที่สะสมหนังสือมาจากทั่วโลกที่เอาชนะผมไป

เขายิ้มอย่างกระหยิ่มใจไม่หยุดจนถึงเวลากลับบ้านเลยละ

-

ในขณะที่ผมนั่งอยู่ในสโมสรหลังเลิกเรียน ผมพลิกดูสมุดลายเซ็นต์ของผมไปตลอดทั้งเล่ม แต่ก็ไม่เจอลายเซ็นต์ “คิโชวอิน เรย์กะ” แม้แต่ที่เดียว นั่นทำให้ผมพบว่าเธอเป็นสมาชิก pivoine คนเดียวที่ยังไม่ได้เขียนลงบนสมุดของผม

ผมจึงลุกขึ้นมาจากที่นั่งและเดินออกไปจากสโมสร

หลังจากถามเด็กนักเรียนไปสองสามคนว่าเรย์กะกลับบ้านไปหรือยัง ก็ได้รู้ว่าเธอยังอยู่กับพวกตัวแทนชั้นเรียนในห้องประชุม ผมเลยเดินตรงไปที่นั่น

แต่พอผมไปถึงและถามหาเรย์กะ พวกเขากลับบอกว่าเธอเดินไปกับคุณหัวหน้าห้อง

ผมเลิกคิ้วขึ้น เดินไปตามเส้นทางที่พวกเขาบอกว่าคุณหัวหน้าห้องกับเรย์กะน่าจะอยู่และก็เจอทั้งสองคนยืนอยู่ด้านหลังอาคารเรียน คุณหัวหน้าห้องที่หน้าขึ้นสีกำลังมองเรย์กะด้วยสีหน้าที่ดูเครียดนิด ๆ

ผมไม่สามารถที่จะได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกันจริง ๆ ได้เพราะงั้นก็ได้แต่เดาจากสีหน้าท่าทางของพวกเขา

…/มีอะไรกันนะ/

ผมกะพริบตาไปพร้อม ๆ กับที่พยายามนึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า แต่สมองของผมมันก็ว่างเปล่าไปหมดในขณะที่ผมพยายามจะคิดเหตุผลดี ๆ ที่เขาจะมีใบหน้าสีแดงหลังจากที่ชวนให้เรย์กะมาอยู่ในที่ปลอดคน

/นี่ผมคงไม่ได้มาขัดจังหวะอะไรหรอกนะ ใช่ไหม?/

และถึงแม้ว่าผมจะคิดแบบนั้นก็ตาม ผมก็เริ่มรู้สึกรำคาญใจ

ต่อมาตอนที่ผมเห็นเขามีสีหน้าดีอกดีใจและเอาของบางอย่างให้เรย์กะดู (มันดูเหมือนแผ่นกระดาษอะไรซักอย่าง…หรือว่ามันคือจดหมายรัก?) เรย์กะก็ยิ้มให้เขาอย่างรวดเร็วและรับมันไป

ผมรู้สึกรำคาญใจมากขึ้นไปอีกหลังจากที่เห็นแบบนั้น และก็หมุนตัวเดินจากไปทันที

-

พอเดินมาถึงรถ คนขับก็มีสีหน้าเครียดราวกับว่าเขาไปเห็นอะไรบางอย่างที่ /แย่/ มาก ๆ อย่างนั้นละ พอผมเข้าไปในรถแล้วก็โยนพวกของต่าง ๆ ไปไว้อีกฝั่ง

พวกเรากลับไปถึงบ้านอย่างรวดเร็ว และเมื่อเข้าไปในบ้าน ผมเมินเสียงเรียกของท่านพ่อขณะที่เดินขึ้นไปที่ห้อง

ตอนที่นั่งลงบนเตียง ผมได้รับข้อความจากมาซายะบอกว่ายูริเอะเซ็นต์สมุดของเขาแล้ว

ผมปิดมือถือและนั่งมองเพดานห้องในขณะที่ใจยังรู้สึกหงุดหงิด

รู้สึกเหมือนโดนสวมหมวกเขียว[4]ยังไงก็ไม่รู้…

-

598 Nameless Fanboi Posted ID:KjJLlYaIF2

จบตอนแล้ววววว
__________
[1]ความจริงแล้วตรงนี้เอ็นโจสบถว่า what the heck เพราะว่าได้ใบ future curse แต่ขออภัยที่ฟิลเตอร์ท่านเอ็นโจในหัวคือเป็นคนไม่พูดคำหยาบ เลยไม่ได้แปลว่า อะไรวะเนี่ย
[2] นิยายบนเว็บแปลไปว่าสวนสัตว์นารา แต่ไปกูเกิ้ล Nara park ก็เจอเป็นสวนสาธารณะที่มีแต่กวาง…บวกกับดูเว็บอื่น ๆ ก็เลยแปลตามว่าสวนสาธารณะแล้วกัน หรือไม่ก็สวนกวาง
[3] Deer Fortunes; ก็น่าจะเป็นเซรามิกที่เป็นรูปกวางน้อยคาบเซียมซี ลองใช้คีย์เวิร์ดไปเปิดดูได้ น่ารักจริงๆ นะ ท่านเรย์กะจะไปเผามันทำไมเนี่ย แต่เพิ่ม japanese shrine ทำนองนี้ไปด้วยก็ดี ไม่งั้นอาจจะเจอ skyrim ได้55555
[4] หมวกเขียว ความจริงเป็นสำนวนจีน แปลประมาณโดนสวมเขาในสำนวนไทยนั่นแหล่ะ ขออนุญาตเก็บอันเดิมไว้เพราะว่า…เพราะว่าลองแทนโดนสวมเขาลงไปดูก็ได้ มันดูทำให้นายแก่แดดไปนิดนะเอ็นโจ

ปอลอ ประโยค แม่ไม่แท้ที่เอ็นโจพูดหมายถึงเรย์กะนะเผื่อไม่เคลียร์
ปอลอสอง ความจริงแล้วในนิยายแปลมีงานเลี้ยงที่คาบุรากิพูดถึงแค่ว่าพ่อแม่ฉัน อันนี้เดาว่าความจริงตอนโตแล้วคาบุไม่น่าเรียกท่านแม่ แต่อันนี้ยังดูเป็นเด็กขี้อ้อนอยู่ก็เลยใส่ท่านแม่ลงไป…
ปอลอสาม อันนี้ไม่รู้แปลถูกไหม คือ ที่บอกว่าเอ็นโจมองผ่านพิธีอวยพรไปน่ะ อังกฤษคือ look through blesssings in the shrine นะ ไม่รู้จริงว่าคืออะไร… เพื่อนโม่งคนไหนจะแก้ข้อสงสัยให้จะขอบพระคุณมาก

อื้อละก็ ความจริงสิ่งที่เอ็นโจเขียนในสมุดเฟรนด์ชิปน่ะ นิยายแปลบนเว็บเขียนว่า”ยินดีกับการจบศึกษา” แต่ภาษาอังกฤษคือ “ยินดีกับการจบการศึกษาไปสู่ชั้นมัธยมต้นนะ”

สุดท้ายนี้ขอบ่น นั่งเปิดวนหาอยู่นานมากว่าท่านเอ็นโจเรียกแม่มาซายะว่าคุณน้ารึคุณป้า( auntie ) กว่าจะเจอออออออ /นี่พิมพ์มาซายะอย่างนู้นอย่างนี้จนชินมาซายะกว่าคาบุรากิของท่านเรย์กะแล้วเนี่ย

599 Nameless Fanboi Posted ID:GhtpEUxK1S

>>594-598 ขอบคุณสำหรับกาวในวันเน้~ กาวนอกนี่ใช้ได้เลยว่ะ 3 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งซุยรันอับโชคเรื่องเสี่ยงเซียมซีกันหมดเลยเรอะ ถถถถถถ
แอบฮาตรงที่เอาลายเซ็นไปเคลือบแล้วระแวงจนต้องเปลี่ยนลายเซ็นใหม่นี่แหละ คิดมากจังชูสุเกะคุง

600 Nameless Fanboi Posted ID:j6UUBJA6t6

แหม ตัวแค่นี้ก็คิดว่าโดนนอกใจแล้วเหรอ ยังไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย แค่ครอบครัวสมมติในมโน ทำมารู้สึกเหมือนเมียหนีไปมีชู้ได้ยังไง แก่แดดจริงๆนะคะท่านเอ็นโจ 5555555
สงสัยสีหน้าตอนที่เห็นหัวหน้าห้องยื่นจดหมายรัก(?)ให้เรย์กะคงน่ากลัวมากแหงๆ คนขับรถเลยเครียดตามเลยเห็นมะ

>>598 กูว่าเอ็นโจก็น่าจะพูดคำหยาบบ้างนะ นิสัยผู้ชายน่ะ เวลาบ่นโน่นนี่หรือน็อตหลุด อย่างท่านพี่เวลาโมโหอิมาริยังหลุดคำหยาบออกมาเป็นครั้งคราวเลย

601 Nameless Fanboi Posted ID:dbremp9ZFX

โอ๊ยยยยยย ดีต่อใจแม่ยกท่านเอ็นโจเหลือเกิน ขอบคุณทุกคนที่แปลมาก

602 Nameless Fanboi Posted ID:yzLMBPWMV7

การมโนเล่นพ่อแม่ลูกในหัวได้ฉันใดก็คล้ายกับตัวร้ายละครไทยที่ชอบมโนว่าคบกับพระเอกฉันนั้น 555 ท่านเอ็นโจระวังท่านพี่นะเจ้าคะ

603 Nameless Fanboi Posted ID:hgkj6YKF41

>>587 กุจองตอนหกไว้ที่เม้นบนๆ แต่ถ้ามึงเริ่มแปลไปแล้วก็ทำให้เสร็จเลย เดี๋ยวกุทำตอนเจ็ดเอง

604 Nameless Fanboi Posted ID:KJSHXrxQxD

>>603 กูยังไม่ทำๆๆ มีงแปลตอน6เลย เดี๋ยวกุทำตอน7เอง

605 Nameless Fanboi Posted ID:bHjgeWgNM1

>>604 รับทราบ ขอพลังแห่งกาวจงสถิตย์กับเจ้า

606 Nameless Fanboi Posted ID:xNDRb9t1Jf

>>586 กูเดานะว่าบ้านของคาซึรางิคงเป็นคู่ค้าที่สำคัญคนนึงของบ้านเอ็นโจ พ่อแม่คงพามาเล่นที่บ้านเป็นเพื่อนบวกกับให้เป็นลูกน้องกลายๆของชูสุเกะ คาซึรางิเลยเข้านอกออกในบ้านเอ็นโจได้ และดูมีความเคารพนับถือเอ็นโจ แล้วก็เจอยุยโกะด้วยเลยชอบและอาสาเป็นสายข่าวให้แบบเต็มใจ แต่เอ็นโจดูรำคาญคาซึรางิ เพราะเรื่องคอยตามประกบรายงานยุยโกะแต่ทำอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่ เพราะเดี๋ยวจะมีความยุ่งยากตามมาภายหลังทั้งเรื่องครอบครัว เรื่องยุยโกะ แต่บทจะไม่แคร์ฮีก็ไม่แคร์เลย ใครก็บังคับไม่ได้ด้วย

607 Nameless Fanboi Posted ID:zgar0oRmI1

จากลิงค์ >>590 แอบมาสรุปให้

คือเขาก็แบบว่า เหย ไม่คิดเลยว่านอบน้อมและหนักแน่นฯ ได้แปลเป็นภาษาต่างประเทศหลายภาษาแล้วฮิตมากๆ ด้วย ตอนแรกที่เกิดสงสัยเรื่องนี้เพราะเห็นแฟนอาร์ตของเรื่องนี้ที่ pixiv เป็นภาษาไทยภาษาอังกฤษ พอไปค้นดูก็เลยเห็นว่ามีแปลเป็นภาษาอังกฤษ, จีน, เกาหลี, สเปน, ไทยด้วย แถมในไซต์แปลภาษาอังกฤษยังมีรูปถ่ายของกินแปะไว้ด้วยนะ คนอ่านก็เยอะแยะเลย เห็นตอนนึงมีคอมเมนต์เป็นร้อยๆ แน่ะ แถมยังมี fandom wikia ด้วยนะ (กูว่าถ้าเขามาเจอโม่งคงอึ้ง...)
ดูในคอมเมนต์ก็มีความเป็นห่วงเรื่องลิขสิทธิ์กันอยู่แหละ (ขอโทษค่ะ...)
แล้วเขาก็เป็นห่วงเรื่องบทแปลมั้ง เพราะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมเยอะ จริงๆ ก็มีส่วนนะ อย่างชื่อรัชทายาทอาริมะนี่ก็มีที่มาของตัวจริงในประวัติศาสตร์แหละ แต่มันยาวมาก กูสรุปไม่ไหว... orz

608 Nameless Fanboi Posted ID:ELpLSHYOf4

>>607 รัชทายาทอาริมะนี่เหมือนโม่งแปลเคยเอามาแปะท้ายตอนไว้แล้วนะ...
ไม่ต้องก่วงหรอกค่ะ ส่วนไหนที่ขาดๆเราก็เอากาวเติมลงไป

609 Nameless Fanboi Posted ID:FLRiZ81ckd

>>607 อยากให้ลองมาเจอสารบัญอาหารเราจริงๆ

610 Nameless Fanboi Posted ID:jNnRXL13+G

<<Fan Fic : เอ็นโจ ชูสุเกะ PoV Chapter 6 >>

เพราะว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ใส่เครื่องแบบสีกรมท่า คุณแม่ก็เลยจับผมถ่ายรูปเสียเยอะแยะ มาซายะเลยหัวเราะผมยกใหญ่ที่ต้องกลายมาเป็นนายแบบให้แม่ และเพื่อเป็นการเอาคืน ผมเลยจัดการให้คุณน้ารู้ว่าผมโดนจับถ่ายรูป และเนื่องจากวันพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการใส่เครื่องแบบนักเรียนประถมสีกรมท่าของพวกเรา ก็แค่บอกไปว่านี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายอะนะ คุณน้าก็เลยจัดการกักตัวมาซายะไว้แล้วจ้างตากล้องชั้นนำ แถมด้วยการจัดแจงทำเป็นอัลบั้มรูปที่เต็มไปด้วยภาพมาซายะโพสท่าเป็นนายแบบยิ่งกว่าที่ผมทำซะอีก เมื่อทุกอย่างจบลง เขาก็จ้องผมเขม็ง ถึงตาผมหัวเราะสะใจใส่หมอนี่บ้างแล้ว

จะสู้กับฉันน่ะ ยังเร็วไปพันปี!

.

ในวันสำเร็จการศึกษา ทุกคนก็ไฟลุกโชน ถ่ายรูป คุยกัน แสดงความยินดีกับคนอื่นๆ เสียยกใหญ่ แต่ไม่มีใครร้องไห้ เพราะทุกคนก็ยังจะเจอกันในชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนซุยรันนี่อยู่ดี

ในตอนที่ผมกำลังยุ่งอยู่กับการนำทางคุณแม่ในโรงเรียน ก็รู้สึกถึงสายตาของคนสองคนที่จ้องมองขึ้นมา พอผมหันไปดู ก็เห็นมาซายะกับแม่ของเขา และเรย์กะ กับคนที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ แล้วก็พี่ชายของเธอ

เรย์กะถือดอกไม้อยู่ไม่ใช่รึไงน่ะ? สงสัยจังว่าไปได้มาจากใคร...ไม่น่าจะใช่มาซายะแน่ๆ

ในขณะที่ผมจับมือคุณแม่เอาไว้ มาซายะก็มาและทักทายพวกเรา เพื่อเลี่ยงแฟนๆ และตากล้องของเราทั้งคู่ เราเลยตัดสินใจกลับไปที่บ้านผมกัน

-

"มาดาม ที่คุยด้วยตรงนั้นคือครอบครัวคิโชวอินหรือคะ?" ได้ยินเสียงแม่ถามตอนที่เดินลงมาชั้นล่าง ผมเลยประชิดกำแพงฟัง ดวงตาหรี่ลง เบิกหูให้กว้าง คุณแม่ทำอะไรอยู่น่ะ?

"ดิฉันได้ยินมาว่าคุณคิโชวอิน เรย์กะเป็นสุภาพสตรีที่เชื่อถือได้ สุภาพ มีความเป็นผู้นำ และน่ารักมาก เธอเป็นอย่างที่ร่ำลือกันไหมคะ?" การสอบถามครั้งนี้ของคุณแม่ทำให้ผมรู้สึกอึดอัด แต่คุณน้าก็ตอบ "อย่างมากเลยล่ะค่ะ เธอน่ารักราวกับตุ๊กตากระเบื้องชั้นสูง การวางตัวก็ช่างนุ่มนวลและมีความอดทนเสียด้วย ราวกับไม่ใช่เด็กๆ เลยค่ะ"

"อุ๊ยต๊าย ช่างเป็นเด็กสาวที่น่ารักจริงๆ เลยนะคะ ดิฉันเองได้ยินว่าเธอมักจะช่วยคุณครูอยู่เสมอ และช่วยเหลือชั้นเรียนเมื่อมีคนต้องการ ชูสุเกะของดิฉันเคยเล่าว่า เธอช่วยเหลือเอาไว้มากทีเดียวเมื่อตอนที่เป็นกรรมการงานกีฬาด้วยกันค่ะ"

"ดิฉันก็ได้ยินมาเช่นเดียวกันค่ะ คุณคิดว่าเธอจะเหมาะกับมาซายะของดิฉันรึไม่คะ?" ผมเกือบจะกระอักเลือกกับประโยคนั้น สองคนนั้นอะนะ? คู่กันน่ะนะ? คุณน้าอยากให้มาซายะหนีออกจากบ้านรึไง?

"ชูสุเกะ!!! อยู่ไหนน่ะ?!" เสียงมาซายะตะโกนลั่น เสียงของเด็กน้อยร่ำไห้ตามมา ผมจ้องมองบันไดอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะรีบหาตัวเมดที่อยู่ใกล้ๆ และลากตัวหล่อนกลับไปที่ชั้นบนอย่างรวดเร็ว

ผมเห็นคุณแม่มองมาขณะที่วิ่งขึ้นไป ผมข่มกลั้นอาการสั่นระริก พร้อมกันนั้นก็สงสัยว่าคุณแม่กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

-

611 Nameless Fanboi Posted ID:jNnRXL13+G

หลังจากที่ใส่ชุดนักเรียนชายสีขาวชุดใหม่ ก็ต้องจบลงด้วยการกลายเป็นโมเดลให้แม่ถ่ายรูปอีกครั้งหนึ่ง ในเมื่อคุณแม่ดูจะดีใจมากๆ ผมจึงปล่อยให้เธอถ่ายไป แต่ก็ต้องปฏิเสธอย่างทันทีทันใด เมื่อคุณแม่ขอร้องให้ผมกลับไปใส่ชุดนักเรีรยนประถมบ้างเป็นบางครั้งคราว คุณแม่ครับ ผมไม่ใช่เด็กๆ นะ

เมื่อมาถึงโรงเรียน ผมก็ตรวจสอบห้องเรียนทันที และพบว่าอยู่กันคนละห้องกับมาซายะ มาซายะตัวคนเดียวไม่เป็นไรหรอก แต่ปัญหาน่าจะตกไปอยู่กับหัวหน้าห้องของหมอนี่มากกว่านะ

-

ในเดือนพฤษภาคม พวกเราก็มีเดินทางไกลกัน คราวนี้เป็นการปีนเขาล่ะ มาซายะกับผมเคยปีนเขากันบ่อยๆ อยู่แล้วในช่วงที่ไปเข้าค่าย ดังนั้นเลยไม่มีปัญหา อันที่จริง เราเป็นกลุ่มแรกที่ไปถึงยอดเขาล่ะนะ ขนาดคุณครูก็ยังมาไม่ถึงเลยทั้งที่ออกตัวมาพร้อมกับเราแท้ๆ...

ดังนั้น ผมกับมาซายะเลยเริ่มมองหาจุดสงบๆ เพื่อทานอาหารกลางวันกัน พวกเราสวาปามอาหารเที่ยงกันด้วยความเร็วสูง เลยมีเวลาสบายๆชั่วโมงนึงก่อนที่ถูกคนจะมาถึง แต่ยังไงก็ถูกสาวๆ ที่มีออร่าวิบวับรุมล้อยอยู่ดี ผมจำผมเธอไม่ได้แฮะ ต้องเป็นคนนอกแน่ๆ แฟนๆ ขาประจำอยู่ที่ไหนน่ะ? พวกนั้นน่าจะเข้ามาป้องกันไม่ให้มีสาวๆ หน้าใหม่เข้ามาถึงตัวพวกเราสิ

เมื่อผมมองไปรอบๆ ก็สังเกตว่าหลายๆ คนดูเหนื่อยจนหมดสภาพ บางคนก็ดูเหมือนจะเพิ่งเริ่มทานข้าวเที่ยง ท่าทางแฟนๆ ขาประจำจะอยู่ในกลุ่มนั้นนะ

ไม่เป็นไร กลุ่มคนนอกนี้ดูจะไม่ทำอะไรที่เกินเหตุ เราเลยสามารถรับมือได้ด้วยตัวเอง ผมลุกขึ้นตามมาซายะ ที่ตามกลุ่มเด็กผู้ชายไปเล่นเกมอีกที

เมื่อหันไปมองด้านข้าง ก็เห็นเรย์กะถูกเพื่อนสองคนที่ดูตกอกตกใจอย่างแรงประคองมา นี่เธอเป็นลมเพราะความเหนื่อยเหรอเนี่ย?

เมื่อหนึ่งในบรรดาเด็กผู้หญิงรอบตัวมองไปตามทิศทางที่ผมมอง เธอก็รีบรุดเข้าไปช่วยทันที และเมื่อผมมองเหล่าเด็กผู้หญิงรอบๆ พวกเธอก็รีบเข้าไปช่วยด้วยเช่นกัน โอ ทุกคนเป็นเด็กดีมีน้ำใจกันทั้งนั้นเลยนี่นา? การช่วยเหลือกันเป็นเรื่องที่ดีนะ

-

612 Nameless Fanboi Posted ID:jNnRXL13+G

พวกเด็กผู้หญิงส่งเสียงเอะอะล้อมหน้าล้อมหลังผมทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นในชั่วโมงเรียน, ช่วงพัก และมื้อกลางวัน สาวๆ พวกนั้นก็จะเข้ามาห้อมล้อมโต๊ะเรียนและไม่เปิดทางให้ผมออกไปสักนิด มาซายะก็โดนแบบเดียวกัน

เราเลยไปที่ห้อง Pivoine เพื่อเลี่ยงพวกเด็กผู้หญิงกัน และเพราะปีนี้ได้อยู่กับยูริเอะอีกครั้ง สาวน้อยมาซายะเลยกลับมามีสปิริตแรงกล้าทันทีที่เหยียบย่างเข้าไป เขาแสกนหายูริเอะรอบห้อง ก่อนจะพบเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกับไอระและเรย์กะ

ทันทีที่เราปรากฏตัว ร่องรอยสำนึกเสียใจก็ผุดขึ้นมาในดวงตาของเรย์กะพร้อมๆ กับที่เธอหยุดการสนทนากับยูริเอะลงและมองไปทางมาซายะ เมื่อเห็นดังนั้น ไอระก็มองไปทางเรย์กะที่นิ่งเงียบอย่างกังวล ก่อนจะส่ายหน้าคล้ายจะบอกว่า "ไม่เป็นไรนะ" นี่เราเพิ่งมาถึงเองนะ ทำไมเธอต้องทำเหมือนเราไปทำอะไรไม่ดีใส่เธอด้วยเล่า?

"จริงด้วย นึกออกแล้ว คุณเรย์กะ ตอนไปทัศนศึกษาโดนกวางจู่โจมจนแย่ไปเลยใช่ไหม เห็นรูปแล้วตกใจเลยล่ะ กลัวมากไหม?" ยูริเอะเอ่ยขัดบรรยากาศอันแสนกดดันด้วยการแสดงความเป็นห่วงเรื่องอุบัติเหตุที่นารา โอ้ ผมจำได้นะ

มาซายะ หยุดหัวเราะสิ ถึงจะตลก แต่ถ้าเรย์กะเกิดบาดเจ็บขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไงน่ะ? เป็นบ้าอะไรของนาย?

เรย์กะตอบว่าเธอไม่เป็นไร แต่ผมเห็นว่าสายตาคมกริบของเธอจ้องไปทางมาซายะอย่างไม่เป็นมิตร ทันใดนั้น รอยยิ้มอ่อนหวานอันแสนมีเมตตาก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเรย์กะ

"จะว่าไป เพิ่งได้ฟังจากเพื่อนมา เห็นว่าชื่อของจักรพรรดิระบือไกลไปถึงยูริมิยะแล้วนะคะ"

นั่นทำให้มาซายะที่กำลังหัวเราะแทบเป็นแทบตายหุบปากฉับทันที แววตาสยดสยองนั่นเข้ากับสีหน้าตกตะลึงของเขามากทีเดียว โอ้ เรย์กะเอาชนะได้อย่างสวยงาม

"อ้าว คงดับไฟไม่ทันแล้วล่ะนะ มาซายะ" ยูริเอะหัวเราะอย่างรื่นเริง

"...ไม่ต้องแล้ว พอที ยอมแพ้แล้ว" มาซายะถอนหายใจ

"ฉันไม่ได้พูดเองเสียหน่อย ยังไงก็ยังพอกลบเกลื่อนไปได้ ดีกว่านโปเลียนล่ะน่า..."

หมอนี่ดูเซ็งสุดๆ อันที่จริงมาซายะบ่นเรื่องนี้มาตั้งแต่งานกีฬาสีแล้ว ผมเลยรู้ว่าเขาไม่พอใจกับเรื่องนี้เอามากๆ ถ้าเจอคนที่ตั้งฉายานี่ให้ หมอนี่จะไล่ล่าจับคนพวกนั้นมาถลกหนังทั้งเป็นไหมนะ?

"นั่นสิเนอะ ถ้าโดนร้องทักว่า 'อ๊ะ นโปเลียนล่ะ!' ที่กลางเมืองล่ะคงอายขายขี้หน้าสุดๆ แต่โดนทักว่า 'จักรพรรดิ' กลางเมืองก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ สงสัยฉันต้องเผลอเดินห่างๆ มาซายะ ทำตัวเป็นคนอื่นด้วยแน่ๆ"

"ชูสุเกะ นี่นาย..."

ผมหัวเราะเยาะเมื่อแกล้งเจ้าคนอีโก้สูงนี่ได้ สายตากินเลือดกินเนื้อนั่นดุดันจังน้า ราวกับอยากจะเผาทุกอย่างให้ราบเชียวล่ะ แต่เพราะมาซายะก็คือมาซายะ...ไอ้การทำเรื่องอะไรแบบนั้นมันยากเกินไปอยู่แล้วล่ะ

"มาซายะจะโดนเรียกว่าจักรพรรดิไปถึงเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่คุณคิโชวอินไม่ถูกเรียกว่า 'แม่สาวกวาง' ซักหน่อย ยังดีกว่าเยอะนะ"

สีหน้าและสายตาของเธอเหมือนจะร้องไห้แบบคนสิ้นไร้ไม้ตอก ผมตัดสินใจหยุดแกล้งทันทีก่อนที่เธอจะเริ่มร้องไห้ขึ้นมาจริงๆ

"ซักวันฉันจะตั้งชื่อเล่นแปลกๆ ให้นายบ้าง" มาซายะคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ผมหัวเราะหนักกว่าเดิม เอาเลย ลองดูเซ่! แต่นายต้องจำฉายาของนายไปตลอดกาล!

ในตอนที่ผมกำลังสนุกสนานกับการแสดงออกของมาซายะอยู่นั้น ผมก็เห็นเขาส่ายหน้าอย่างผิดหวังให้เรย์กะ หืม? เธอก็อยากตั้งฉายาให้ผมเหมือนกันหรอกเหรอ? อ๋า~ เรย์กะ ผมไม่ได้ตั้งฉายาแย่ๆ ให้เธอเลยนะ ใช่มั้ย ทำไมต้องโกรธผมขนาดนั้นด้วยล่ะ?

หลังจากที่ผมใจเย็นลงได้ พวกนั้นก็เริ่มคุยกันเรื่องปัญหาระหว่างสภานักเรียนกับ Pivoine กันแล้ว จริงๆ นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญสักนิด...ไม่ว่าสภานักเรียนจะแข็งแกร่งขนาดไหน แต่ซุยรันก็อยู่ได้ด้วยธนาคารเคลื่อนที่ได้อย่างครอบครัวของเหล่าสมาชิก Pivoine อยู่ดี ดังนั้นถ้าต้องเลือกระหว่างนักเรียนธรรมดาร้อยคนกับ Pivoine คนเดียว ยังไงซุยรันก็เลือก Pivoine อยู่แล้ว ซุยรันไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยอย่างการแข็งข้อของสมาชิกสภาปัจจุบันอะไรแบบนั้นหรอกน่า

ผมส่ายหน้า ยิ้มอย่างขบขัน

ในขณะเดียวกัน มาซายะก็เริ่มเกิดอาหารหึงหวงจากเรื่องราวที่ยูริเอะเล่าให้ฟัง หวังว่าจะปลอดภัยน้า ทั้งรุ่นพี่โอคิชิมะและประธานนักเรียน

-----

ไม้หกนี่สั้นๆ มั้ยนะ แต่เอาเป็นว่าจบแล้วจ้า ส่งต่อให้ไม้7 สู้ๆนะ โม่งทั้งหลาย!

613 Nameless Fanboi Posted ID:r4GsYOMW+g

>>611 ฟิคนี้เรย์กะดูนุ่มนิ่มบอบบางโครต ฟิลเตอร์ท่านเอ็นโจหนาชิบ เดี๋ยวก็เป็นลมเพราะเหนื่อยมั่งล่ะ เดี๋ยวก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เพราะถูกแหย่มั่งล่ะ แตกต่างจากความถึกและความเป็นเจ้าแม่ที่ได้อ่านในนิยายสุดๆ

614 Nameless Fanboi Posted ID:hkvKcBxO0P

>>613 อาจเพราะยังอยู่ชั้นประถม มองไกลๆ ห่างๆ ฟิลเตอร์เลยหนาหน่อย มาเข้าบทเบิกเนตรก็ตอนโดนตุ๊ยท้องละป่ะวะ 5555

615 Nameless Fanboi Posted ID:H+RXbZ0BVU

เอ็นโจนาย...สกิลแอบฟังมาทุกตอนเลยนะ นี่มันสกิลสายลับยิ่งกว่าท่านเรย์กะซะอีก

616 Nameless Fanboi Posted ID:cwe1titYmW

>>614 บทเบิกเนตร 5555555 ช่างตั้งชื่อ

617 Nameless Fanboi Posted ID:1S53OO.Pn1

>>614 พอโดนตุ๊ยท้องก็รู้ตัวทันทีว่าตกหลุมรักคุณเข้าให้เลยครับ 555555555555

618 Nameless Fanboi Posted ID:3KgHN6w6rt

>>614 รสชาติหมัดของคุณ ทำให้ผมตกหลุมรักไปเลยล่ะครับ 555555

619 Nameless Fanboi Posted ID:UyqMADRXOI

>>614 น่าจะไม่ได้เบิกเนตรหรอก ฟิลเตอร์ท่านเรย์กะผู้น่ารักน่าเอ็นดูดุจกระต่ายน้อยของหมอนี่สูงเกินไป ต่อยท้องเหรอก็เลเวลเดียวกับกระต่ายกระทืบเท้าตบๆจะออกจากกรงหรอกน่า น่ารักจะตายยย//แค่กความจริงคือกาต่ายมันเถื่อ-แค่กๆ

620 Nameless Fanboi Posted ID:Hc6rg/McNt

>>619 ใช่ กระต่ายมันป่าเถื่อนมาก กูเคยไปจับเล่นบ้านเพื่อนกู อุ้มอยู่ดีๆเสือกกัดมือกูเข้าให้ ;w; โหดร้ายที่สุด

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.