Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับงานชมดอกไม้ไฟในฝัน [ขอตอนต่อไปรอบที่ 25]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:.rVXCkc3j

เอาไว้พูดคุยเรื่อง "นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!"

รักใคร อวยใคร ชอบใคร อยากให้ใครเข้าวิน เชิญได้ที่กระทู้นี้

.

謙虚、堅実をモットーに生きております!
นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!
(RAW) http://ncode.syosetu.com/n4029bs/
(TH) http://www.nekopost.net/novel/3015

♕ คลังกระทู้ ♕
>>>/webnovel/3289 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ [เรือลำที่ 1 : องค์ชายเอ็นโจ]
>>>/webnovel/3364 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชายามบ่ายของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]
>>>/webnovel/3451 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3)
>>>/webnovel/3507 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสตูดิโอกาวโปรดักชั่นหมายเลข 4
>>>/webnovel/3543 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการปลูกไร่กัญชาบนดาวเคราะห์ดวงที่ 5
>>>/webnovel/3572 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6
>>>/webnovel/3588 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือกาวฟิคที่ไปไกลกว่าเรืออฟช. ลำที่ 7
>>>/webnovel/3600 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการผนึกกำลังของเหล่าพันธมิตรเรือเพื่อล่มเกาะแห่งคาน ครั้งที่ 8
>>>/webnovel/3628 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับนิทรรศการเรืออับปางใต้ท้องทะเลลึก ครั้งที่ 9
>>>/webnovel/3689 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูใบไม้ผลิอันฟรุ้งฟริ้งของเรย์กะจัง♡ ~โดขิโดขิ หัวใจของเธอเป็นของฉันนะ! ♡♡ กาวยกกำลัง10! ♡♡ (,,,ゝ∀・,,,)ノシ *:・゚✧*:・゚✧
>>>/webnovel/3786 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการหายตัวไปอย่างปริศนาของฟิคกาวในห้องซาลอนปิดตาย [คานที่กำลังก่อตัวชั้นที่11]
>>>/webnovel/3805 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแท็ก love ปริศนา ที่ไม่ตั้งใจจะใส่มาหรอกนะ แค่มันอยู่ใกล้มือเท่านั้นเอง [แท็กที่ 12]
>>>/webnovel/3856 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกองเรือรบสยบคาน ประจัญบาน​พิชิต​ใจ​เธอ! [ศึกรักที่ 13]​
>>>/webnovel/3899 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับคำอธิษฐานรักผ่านเส้นผม (ผมลอนสลวยเก๋เส้นที่ 14)
>>>/webnovel/3953 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้​น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสูตรอาหารคิวปิดสื่อ​รัก​สุดมิราเคิล​ของยอดเชฟสาวเจ้าเสน่ห์​เร​ย์​กะ​ ~"แค่คำเดียว"เป็นจานที่ 15 แล้วนะ!
>>>/webnovel/4018 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้​น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเทพเกศาบันดาลรัก โปรดรับบรรณาการนี้ไปด้วยเถิด!!! (บรรณาการจานที่ 16)
>>>/webnovel/4099 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการซื้อบ้านพร้อมที่ดินในหมู่บ้านมีรักถวายเจ้าแม่ [หลังที่ 17]
>>>/webnovel/4218 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับไอเดียบรรเจิดเพ้อฝันของเจ้าแม่ [ขอปฏิเสธรอบที่ 18]
>>>/webnovel/4296 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการขี่โพนี่พุ่งทะยานข้ามแดนไปหาเจ้าชาย [หน้าตาสมัยศตวรรษที่ 19]
>>>/webnovel/4454 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโอนิวาบังในเงามืด [ชั่วช้าสามานย์ ทุกประการเพื่อฮาเร็มทั้ง 20]
>>>/webnovel/4574 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสังเวียนความรักของจักรพรรดินี โอ้! ทรุดลงไปแล้วครับ! [กรรมการชูมือนับครั้งที่ 21]
>>>/webnovel/4659 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับศึกแย่งชิงพื้นที่การออกอากาศ [ชัยชนะของ tag food ครั้งที่ 22]
>>>/webnovel/4903 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับซูชิไข่ปลวกและหนังสือหนังมนุษย์ [หนอนตัวที่ 23 กระดึ๊บออกมาแล้วค่า]
>>>/webnovel/5102/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแผนการล้างสมองของจักรพรรดิจอมมาร [วิ่งเข้าไปซะ! เจ้าสัตว์กีบคู่! รอบที่ 24]

2 Nameless Fanboi Posted ID:.rVXCkc3j

♕ สนธิสัญญา ♕
1) สปอยล์ได้ แต่รบกวนเตือนและจุดลากยาวทุกครั้ง(อย่างน้อย7-8บรรทัด) ช่วยป้องกันให้คนที่ไม่ต้องการอ่านสปอยล์เนื้อเรื่อง
1.1) ไม่สปอยล์เนื้อหาที่แปลไทยใกล้จะถึงแล้ว
1.2) ไม่สปอยล์เนื้อหามากจนเกินไป คนอยากโดนสปอยล์ก็อดใจรอไว้หน่อย ไว้ไปฟินพร้อมๆกัน

2) อย่าเร่ง อย่ากดดันโม่งแปล !!!!

3) งดเว้นการตั้งชื่อกระทู้ด้วยถ้อยคำที่ไม่เป็น​มงคล (หรือถ้อยความ​ที่เป็นแง่ลบ อาทิ คาน, จมเรือ, เรืออับปาง, หักธง, ซากเรือ เป็นต้น) "ห้ามแก้เคล็ดเด็ดขาด" หากฝ่าฝืนตั้งมา ชื่อนั้นก็จะไม่เอามาโหวตนับคะแนนแต่อย่างใด

4) แจ้งดิบตอนใหม่​​หลังเที่ยง เพื่อ​ไม่ให้​ทับซ้อนกับแปลไทย

.

♕ สารบัญแฟนฟิค-แฟนอาร์ต ♕
https://docs.google.com/document/d/1Jtm_XMsTD_t_6GWtvFfN3qDIm3yxYGeJCX29QUS1vIo/edit?usp=sharing

How to: วิธีการใช้และอัพเดตสารบัญ
https://docs.google.com/document/d/1ET-eMchwMQyJ8awYO1Q5yIcKWuTeJrJ0TVhXXVd8eD4/edit?usp=sharing

รวมไฟล์สารบัญ
https://drive.google.com/drive/folders/0BwR6XEqxsnTAZWdSckFqb182VDQ

3 Nameless Fanboi Posted ID:CD.CWtoW1

ปิดกระทู้ด้ววยเรือวาคาบะแฮะ

4 Nameless Fanboi Posted ID:sqzfvzDne

เห็นมู้ที่แล้วบอกเรื่องนี้ไม่อัพมาสี่เดือนแล้ว แล้วก็คุ้นๆว่าสถิติดองนานที่สุดคือครึ่งปี รอบนี้จะทำลายสถิติเก่าไหมนะ ซักปีนึงไรงี้...

5 Nameless Fanboi Posted ID:RzaEBMRTd

>>4 ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้!!

6 Nameless Fanboi Posted ID:AahSd792g

เรือวาคาบะปิดมาหลายมู้แล้ว จงครองสถิติต่อไป หนุ่มๆนะหรือ เอาผ้าชุบน้ำอุดจมูกไปให้หมด

7 Nameless Fanboi Posted ID:9QJzWtmX3

ฮึ่ยยยย 4 เดือนแค่นี้ศรีทนได้ ยังไงก็มีกาวกับรีรีดไปพลางๆ ละวะ

8 Nameless Fanboi Posted ID:hOtd2zYfH

>>4 บัดศรีบัดเถลิงที่สุดดดดด

9 Nameless Fanboi Posted ID:yUU9yhIT.

เช็คมาล่ะ ช่วงที่หายไปนานที่สุดเหมือนจะเป็นช่วงรอยต่อระหว่างตอน 244-245 หายไปซัก 4 เดือน 15 วันได้ งานนี้กูว่ามีทำลายสถิติใหม่แน่นวล

10 Nameless Fanboi Posted ID:yvsgmOOn/

>>9 ไม่แน่ดิบใหม่อาจจะมาวันนี้ก็ได้นะ 555555

11 Nameless Fanboi Posted ID:1WEaA1ryv

ไปทำโปรเจคแปบเดียว กระทู้เต็มเฉยอดโหวตเบย

12 Nameless Fanboi Posted ID:NdpXxnBS3

นี่ย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าๆ สมัยเรย์กะซามะยังอยู่ประถม ตอนเอ็นโจขาเจ็บแล้วลงแข่งได้แต่ปาบอลลงตะกร้า สาวๆ พากันรุมตอมหึ่งจนไม่เป็นอันปาบอล มีแต่เรย์กะซามะวิ่งเก็บบอลลงตะกร้างกๆ อยู่คนเดียวด้วยความพอใจของนางจนทีมได้ที่ 1 นึกภาพแล้วน่ารักชิบหายเลยว่ะ กูว่าจอมมารต้องแอบมองแล้วขำอยู่ในใจ

13 Nameless Fanboi Posted ID:AVvN5bzPP

>>12 ฉากนั้นน่ารัก 555555 แล้วยิ่งคิดว่านางคุณหนูมากๆด้วยนะ น่ารักเบิ้ลไปอีก

14 Nameless Fanboi Posted ID:Fz3.7sSwq

>>12 กูว่าฮีอาจจะเอาแต่มองจนไม่ได้ปาบอลเลยก็ได้นะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:oHTihVYOe

ฟิคเวียนในตำนาน
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/4296/225-227
----------------

เสียงนกร้องที่ดังแว่วๆมาจากหน้าต่างปลุกให้ฉันตื่นขึ้นมาจากโซฟาที่นอนอยู่ เจ้าพวกนกพิราบมาวนเวียนแถวๆนี้อีกแล้วเหรอ ต้องให้คุณเมดมาไล่ไปซะแล้ว

พอลุกขึ้นมานั่งก็รู้สึกเมื่อยหลังไปหมด สงสัยจะไม่ชินที่ต้องนอนโซฟาแบบนี้

ฉันไม่ได้รอโทรศัพท์ซักหน่อยนะ แค่มานั่งดูทีวีตรงนี้แล้วง่วงก็เลยเผลอหลับไปก่อนเท่านั้นเอง ไม่ได้รอจริงๆนะคะ

มองเห็นโทรศัพท์มือถืออยู่ใกล้ๆหมอนที่ใช้หนุนนอนเมื่อคืน ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองเปิดเช็คดูเวลาหน่อยก็ดี

หน้าจอว่างเปล่าไม่มีทั้งข้อความเข้าหรือโทรศัพท์มาจากใครทั้งนั้น

เอ๋!! อะไรกัน ตัวเองเป็นคนบอกจะโทรมาแท้ๆไม่ใช่เหรอ ชิ!! เพราะนายคนเดียวเลย ฉันถึงต้องมานอนหลังขดหลังแข็งบนโซฟาแคบๆจนปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมดแบบนี้ แล้วที่ไม่โทรมานี่ไม่ใช่ว่าแอบคุยกับใครที่ไหนจนลืมฉันไปใช่มะ หนอย เจ้าคนจากหมู่บ้านคาสโนว่านี่ คงมีสาวๆในลิสต์ให้โทรหาเพียบจนมาไม่ถึงฉันแหงๆ

เชอะ!! จะไปโทรหาใครก็โทรไปเถอะย่ะ

ตอนที่เดินผ่านเตียง พอเห็นตุ๊กตาเจ้าชายกระต่ายที่อยู่บนนั้นก็นึกหงุดหงิดขึ้นมาเลยจับเขย่าๆ หูที่ตั้งขึ้นของตุ๊กตาตกลู่ลงจนดูน่าสงสาร อันที่จริงตุ๊กตาก็ไม่ได้มีความผิดซักหน่อยนี่นา คนที่ผิดน่ะคือเอ็นโจต่างหาก

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพอดี ฉันเชิดหน้าใส่ ตั้งใจว่าจะเมินๆไปไม่ยอมรับโทรศัพท์ โทรมาป่านนี้มันสายไปแล้วย่ะ จงสำนึกผิดไปซะ

แต่พอเห็นชื่อที่ปรากฎก็ต้องแปลกใจ

“ยูกิโนะคุง”

เสียงเรียกเข้าดับไปแล้ว ฉันเลยโทรกลับไปทันที อะไรที่คิดว่าจะทำเมื่อครู่นี้ถูกเตะกระเด็นไปหมดตอนที่เห็นชื่อของยูกิโนะคุงโผล่มา

“ขอโทษนะจ๊ะที่รับช้า”

“ไม่เป็นไรครับ” ยูกิโนะคุงตอบกลับมา

“แล้วโทรมามีอะไรรึเปล่าจ๊ะ”

“เอ่อ คือว่า ท่านพี่น่ะครับ”

ฉันชะงักไปนิดหน่อยที่มีชื่อของเอ็นโจเข้ามาข้องเกี่ยว “มีอะไรงั้นเหรอจ๊ะ”

“ตอนนี้ท่านพี่อยู่โรงพยาบาลครับ”

“เอ๋!!”

ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจ เอ็นโจเข้าโรงพยาบาลอย่างนั้นเหรอ อะไรกัน!!

“เมื่อคืน พอกลับมาที่บ้านตอนดึกๆ อยู่ดีๆท่านพี่ก็วูบไปเลยล่ะครับ ทำเอาทุกคนตกอกตกใจกันใหญ่” อื้อ ฉันก็ตกใจเหมือนกันนั่นล่ะ

สอบถามเรื่องสถานที่และอาการอีกเล็กน้อยและกับยูกิโนะคุงได้ ฉันก็รีบโดดผึงไปที่ตู้เสื้อผ้า คว้าชุดออกมาอย่างเร่งร้อน หยิบๆมาเลือกอยู่สี่ห้าชุดก็รีบไปอาบน้ำ เตรียมตัวไปที่โรงพยาบาล

16 Nameless Fanboi Posted ID:oHTihVYOe

.
.
.
โธ่เอ้ย รถจะติดไปถึงไหนกันยะ คนยิ่งรีบๆอยู่

ฉันเคาะนิ้วลงกับพวงมาลัย รู้สึกไม่สบอารมณ์สุดๆ ลองเปิดวิทยุฟังรายงานข่าวดูก็รู้สึกจะมีอุบัติเหตุบนถนนเส้นนี้ ขอให้หลีกเลี่ยงเพราะการจราจรติดขัดอย่างมาก

ปัดโธ่เอ้ย ทำไมต้องมาเป็นวันนี้ด้วยนะ

ฉันเปิด GPS หาเส้นทางลัดไปโรงพยาบาล หักรถเลี้ยวไปตามทางที่หน้าจอบอก ไม่ช้าก็มาถึงถนนเส้นหลักที่ไปถึงที่หมาย ผ่านรถติดมาได้อย่างฉิวเฉียด

ระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาล ผ่านร้านขายผลิตภัณฑ์และอาหารออร์แกนิคส์พอดี ฉันเลยจอดรถ เดินลงไปเลือกของเยี่ยมให้คนป่วย เมื่อเช้าออกมารีบๆก็เลยไม่ได้เตรียมอะไรให้เลย

ถ้าไม่เอาไปล่ะก็ มาดามเอ็นโจจะไม่มองว่าฉันแล้งน้ำใจแย่เรอะ ยูกิโนะคุงก็คงผิดหวังในตัวฉันแหงๆ ไหนจะคาบุรากิที่มาเยี่ยมเพื่อนแล้วก็มีวาคาบะจังมาอีก กลายเป็นข่าวซุบซิบในวงสังคม ฉันผู้เป็นคนที่แคร์สายตาคนรอบข้าง ทนให้คนอื่นคิดแบบนั้นไม่ไหวหรอก

ฉันหยิบนมที่ทำจากเมล็ดอัลมอนด์ขึ้นมาสองสามขวดใส่ลงในตะกร้า นมอัลมอนด์มีคุณค่าทางสารอาหารสูง เหมาะที่จะใช้เป็นของเยี่ยมคนป่วยที่ต้องการสารอาหารไปบำรุงร่างกายเยอะๆ

น้ำผักและผลไม้ที่เคยเอาไปเยี่ยมยูกิโนะคุงก็มาจากร้านนี้เหมือนกัน รสชาติวางใจได้ เอ็นโจได้ทานน้ำผลไม้วันนั้นก็ออกปากชมว่าอร่อยด้วย เพราะงั้นฉันก็เลยหยิบมาใส่ตะกร้าอีกเหมือนกัน

...ไม่ได้ซื้อเพราะเอ็นโจชอบกินหรอกนะ แต่น้ำผลไม้ก็เป็นของกลางๆที่เหมาะจะเยี่ยมคนป่วยเหมือนกันนี่นา

ผ่านมุมกระจุกกระจิกอย่างพวกแยมและน้ำผึ้งในขวดแก้วเล็กๆมัดริบบิ้นลายทาง มีขนมปังโฮลวีทเอาไว้ทานคู่กัน ฉันก็ซื้อมาด้วยเหมือนกัน ถ้าเอ็นโจไม่ทาน แต่แพ็คเกจน่ารักแบบนี้เอาให้ยูกิโนะคุงหรือมาดามเอ็นโจก็ได้

รู้ตัวอีกทีตะกร้าก็หนักขึ้นจนถือเกือบไม่ไหวแล้ว คิดว่าสมควรจะพอเท่านี้ ก็เลยหิ้วไปจ่ายเงินพร้อมกับบอกให้จัดใส่กระเช้าให้ด้วย รออยู่อีกสิบห้านาที กระเช้าเยี่ยมคนป่วยก็เสร็จสรรพ

ฉันหิ้วตะกร้าออกนอกร้าน เดินตัวเอียงแบบนี้เสียบุคลิกชะมัด ใครผ่านมาเห็นนี่น่าเกลียดแย่

โชคดีที่จอดรถไว้ไม่ไกลจากประตูร้านมากนัก แต่ก็ทำเอาปวดแขนไม่น้อย สงสัยกลับไปต้องแปะกอเอี๊ยะหน่อยแล้ว

ใกล้ๆถึงโรงพยาบาล ฉันโทรหายูกิโนะคุง ฝั่งนั้นก็บอกว่าเดี๋ยวจะลงมารับ พอขับเข้าไปในโรงพยาบาลก็เห็นยูกิโนะคุงยืนรออยู่ที่บันไดขั้นล่างสุด โบกมือให้ฉันที่ก้าวลงจากรถ

“ทางนี้ครับ คุณพี่เรย์กะ”

“ยูกิโนะคุง” ฉันเดินเข้าไปหายูกิโนะคุง หอบหิ้วตะกร้าอย่างระมัดระวังเพราะในนี้มีแต่ขวดแก้วที่เป็นของแตกง่ายทั้งนั้น “ท่านเอ็นโจเป็นยังไงบ้างจ๊ะ”

“ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ หมอบอกว่าแค่ความดันต่ำเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ แล้วก็มีอาการเหนื่อยล้าสะสม ให้นอนพักซักหน่อยก็หายแล้วล่ะ”

“พักผ่อนไม่เพียงพอ”

“เห็นเลขาจากทางเยอรมันรายงานมาว่าท่านพี่โหมทำงานจนได้นอนแค่วันละสามสี่ชั่วโมงเองครับ ท่านแม่ล่ะเป็นห่วงจะแย่”

อุก...งั้นที่บอกว่าทำงานหนักเพื่อกลับมาเจอฉันให้ทันคริสต์มาสนี่ก็เรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ… ความรู้สึกผิดเข้าเกาะกุมในใจฉันจนรู้สึกเหมือนมีหินถ่วงให้หนักอึ้ง

“อ๊ะ จริงสิ ผมช่วยถือนะครับ คุณพี่เรย์กะ”

พอรับตะกร้าไปจากฉัน ยูกิโนะคุงก็ร้องออกมา “หวา หนักจัง”

“ขอโทษนะจ๊ะ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวพี่ถือเองก็ได้นะ”

“สบายมากครับ” ยูกิโนะคุงยิ้มแฉ่ง เดินนำหน้าฉันไปที่ลิฟท์

โรงพยาบาลนี้ดูเหมือนจะเป็นโรงพยาบาลประจำของตระกูลเอ็นโจ เพราะคราวที่มาเยี่ยมยูกิโนะคุงครั้งที่แล้วก็เป็นที่นี่อีกเหมือนกัน

17 Nameless Fanboi Posted ID:oHTihVYOe

ยูกิโนะคุงเคาะประตูเล็กน้อยก่อนจะผลักเข้าไป วางของเยี่ยมลงบนโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ ในห้องว่างเปล่า ไม่มีร่างของคนที่สมควรนอนพักอยู่อย่างที่ควรเป็น

“เดี๋ยวผมขอตัวไปโทรหาท่านแม่ก่อนนะครับ คุณพี่เรย์กะก็นั่งพักตามสบาย เดี๋ยวท่านพี่ก็คงกลับมา”

ฉันนั่งลงที่โซฟา มองไปรอบๆห้องอย่างนึกสงสัย เอ็นโจหายไปไหนกันนะ

เหมือนจะตอบคำถามฉัน เพราะประตูห้องน้ำเปิดออก เอ็นโจเดินเช็ดผมด้วยมือเดียวออกมาจากห้องน้ำ อีกมือลากเสาน้ำเกลือมาด้วย เสื้อคนป่วยก็ไม่ผูกเชือกให้เรียบร้อย ผมเปียกๆแนบกับแก้มออกจะเป็นภาพที่ดูดี ทำให้ฉันใจเต้นขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด

คิดๆแล้วก็น่าแค้นนัก ฉันผู้เป็นสาวน้อยไม่เคยผ่านประสบการณ์ผู้ชายกึ่งเปลือยมาเดินต่อหน้ามาก่อน ทำให้ค่อนข้างจะทำตัวไม่ถูก ส่วนเอ็นโจพอเห็นฉันก็ชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะส่งยิ้มกว้างมาให้

ไปแต่งตัวให้มันเรียบร้อยก่อนสิยะ!!

“เรย์กะ”

นอกจากหมอนี่จะไม่ฟังความคิดในใจฉัน ยังจะเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆอีก แง้!! กลับตอนนี้เลยได้มั้ยนะ

“พอดีเมื่อคืนมันวุ่นๆนิดหน่อย ก็เลยไม่ได้โทรหาตามที่สัญญา” เอ็นโจทำหน้าหงอยๆ “ขอโทษนะครับ...ยกโทษให้ผมได้มั้ย”

“จะโกรธทำไมคะ ก็มันเหตุสุดวิสัยนี่นา”

ตอนที่เห็นสาบเสื้อที่แหวกออก ก็นึกถึงรายการวาไรตี้ที่เคยดู รายการนั้นมีผลโพลถามเกี่ยวกับส่วนไหนของร่างกายเพศตรงข้ามที่คุณคิดว่าเซ็กซี่ ฉันจำได้ว่าคำตอบมีต้นคอและกระดูกไหปลาร้าติดอันดับอยู่ด้วย

เอ๊ะ!! ว่าแต่ฉันจะนึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาทำไมเนี่ย

ฉันพยายามจะไม่มองอะไรที่มันอยู่ตรงหน้า แต่กลิ่นสบู่และแชมพูหลังอาบน้ำก็เป็นอะไรที่ปั่นป่วนสมาธิอยู่พอสมควร รู้สึกว่ารายการนั้นจะมีผลโพลถามว่าชอบอิริยาบทไหนของแฟนมากที่สุด รู้สึกจะมีหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆติดโผกับเขาด้วยเหมือนกัน

แล้วฉันจะนึกถึงอีกทำไมเล่า!!! หยุดเดี๋ยวนี้เลยเรย์กะ ห้ามคิดอะไรทั้งนั้นนะ!!!!

“ไปแต่งตัวให้มันเรียบร้อยก่อนสิคะ ไม่เช็ดผมให้แห้งเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”

“นั่นสินะ” เอ็นโจพยักหน้ายิ้มๆ นั่งลงบนเก้าอี้แล้วยื่นไดร์เป่าผมมาให้ฉัน “เรย์กะช่วยผมหน่อยได้มั้ย มีสายน้ำเกลือเสียบแขนแบบนี้หยิบจับอะไรไม่ค่อยสะดวกเลย”

อีกมือหนึ่งก็ใช้ได้ไม่ใช่รึไงยะ กะอีแค่มือถูกเสียบสายน้ำเกลือ ไม่ได้แขนหักซักหน่อย

สุดท้ายเพราะสงสารคนป่วย แถมยังรู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุให้เอ็นโจต้องเข้าโรงพยาบาล ฉันก็เลยต้องยอมๆแต่โดยดี เอ็นโจนั่งหลับตาพริ้มอยู่บนเก้าอี้ ให้ฉันจับหวีผมเป่าไดร์ได้ตามสบาย

เป็นผู้ชายแท้ๆแต่ผมมีสุขภาพดี พอต้องแสงไฟก็เป็นประกายระยิบระยับ แถมจับไปแล้วก็เรียบลื่นแถมนุ่มอีกต่างหาก จะว่าไปก็นึกถึงตอนลูบหัวยูกิโนะคุงสมัยเด็กๆเหมือนกันน้า ผมของยูกิโนะคุงก็นุ่มๆแบบนี้เหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าจะมีวันได้มาจับผมเอ็นโจคนพี่แบบนี้ด้วยอีกคน ลูบแล้วก็รู้สึกเพลินไปอีกแบบ

ฉันที่ตั้งอกตั้งใจหวีผมให้เอ็นโจแบบเบามือ ไม่ทันรู้ตัวเลยว่าถูกมองอยู่ พอเงยหน้ามองกระจกก็เห็นเอ็นโจมองตอบกลับมาจากในนั้น มองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน….

สายตาที่มองนั่นทำให้ฉันรู้สึกทำอะไรไม่ถูก มือไม้งุ่มง่ามเกะกะไปหมด

“สะ เสร็จแล้วค่ะ” ฉันวางไดร์และหวีลงบนโต๊ะ เตรียมตัวจะเผ่นหนี แต่เอ็นโจลุกขึ้นยืนแล้วคว้าข้อมือฉันไว้ได้ทัน กรี๊ด!! ขนาดป่วยก็ยังมือไวอีกเหรอยะ

“ขอบคุณนะ” พูดธรรมดาก็ได้ ไหงต้องมากระซิบข้างหูกันด้วย

“มะ ไม่เป็นไรค่ะ” หัวฉันหมุนเร็วจี๋ นึกหาข้ออ้างที่จะออกไปจากสถานการณ์ในตอนนี้ “ฉันว่าฉันอยู่นานเกินไปแล้ว คงรบกวนเวลาพักผ่อนของท่านเอ็นโจ ต้องกลับแล้ว...”

“ถ้าเป็นเรย์กะก็ไม่รบกวนเลยซักนิดครับ” เอ็นโจยิ้มบางๆ “ผมไม่ได้เจอคุณเป็นเดือนๆ พอเจอคุณก็อยากอยู่ใกล้ อยากอยู่ด้วยกันนานๆ…”

เจ้าคนจากหมู่บ้านคาสโนว่านี่มัน...พูดจาเลี่ยนๆออกมาได้หน้าตาเฉย แต่หัวใจไม่รักดีของฉันดันเต้นรัวกับคำพูดนั้น เลือดสูบฉีดแรงมากจนรู้สึกว่าอาจจะหัวใจวายตายเข้าให้ในวินาทีใดวินาทีหนึ่งเข้าให้

ตอนที่ฉันงุ่มง่ามทำตัวไม่ถูกอยู่นั้น มือเอ็นโจที่จับข้อมือฉันไว้ กลายเป็นรวบมากอดตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ กรี๊ด!!! ใครก็ได้ช่วยด้วยค่าาา

เอ็นโจก้มลง เอาหน้าผากแนบกับหน้าผากของฉัน สายตาเราจ้องกันในระยะประชิด จนนึกถึงคืนวันฮาโลวีนขึ้นมา

มะ ไม่ได้นะ ที่นี่คือโรงพยาบาล ถ้าจะให้มาจูบกันในที่แบบนี้มันก็ออกจะ…. แถมหมอกับพยาบาลจะเข้ามาตอนไหนก็ได้

แต่พอจะห้าม เสียงดันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ฉันหลับตาปี๋เมื่อเห็นเอ็นโจเอียงหน้า ริมฝีปากใกล้เข้ามาเรื่อยๆ รู้สึกถึงอะไรอุ่นๆกดลงมาที่หน้าผากและข้างขมับเลยลืมตาขึ้น

จูบหยุดแค่ตรงนี้ไม่มีเกินเลยไปกว่านั้น

18 Nameless Fanboi Posted ID:oHTihVYOe

พอกระพริบตาปริบๆแบบที่เจอเรื่องเหนือความคาดหมาย ฝั่งนั้นก็หัวเราะ

“ผิดหวังงั้นเหรอ...”

“เอ๋!!”

“ตอนนี้ผมไม่สบายอยู่คงไม่ค่อยสะดวกที่จะทำแบบนั้นเท่าไหร่” เอ็นโจยิ้มแล้วดึงฉันเข้ามากอด “เอาไว้หายดีแล้วจะชดเชยให้นะ”

สะดวกที่จะทำแบบนั้นอะไรของนาย ห๊า!! อย่ามาพูดจาสองแง่สองง่ามแบบนี้จะได้มั้ย แล้วก็ไม่ต้องชดเชยอะไรทั้งนั้นนะยะ ไม่อยากได้เลยซักนิด

ยังไม่ทันที่จะตอบโต้อะไรออกไป ประตูห้องเปิดออกเป็นการขัดจังหวะ ยูกิโนะคุงที่บอกจะไปโทรหาคุณแม่ก็ปรากฎตัวขึ้นมาพร้อมกับมาดามเอ็นโจและคุณพ่อบ้าน ในมือถือถุงที่สกรีนโลโก้ภัตตาคารชื่อดัง

ฉากแบบนี้เหมือนเดจาวูอีกแล้ว

“ท่านพี่ หมอบอกว่าอย่าเพิ่งเคลื่อนไหวร่างกายหนักๆไม่ใช่รึไงครับ” ยูกิโนะคุงพูดไปหัวเราะไป “เอาไว้หายดีก่อนค่อยทำก็ยังไม่สายนะ”

ทะ เทวดาน้อย เอาไว้หายดีก่อนค่อยทำนี่มันอะไรกันจ๊ะ อย่าพูดอะไรสองแง่สองง่ามแบบนั้นสิ

หนนี้ฉันสะบัดตัวออกจากเอ็นโจได้ทันก่อนที่สองคนนั้นจะจากไปแบบครั้งก่อน ตรงเข้าไปทักทายมาดามเพื่อหาที่พึ่งพิง มาดามก็ต้อนรับฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ชวนฉันรับประทานอาหารที่เพิ่งซื้อมาด้วยกัน

ระหว่างมื้ออาหาร ฉันคุยกับยูกิโนะคุงและมาดามเอ็นโจเสียเป็นส่วนใหญ่ พยายามไม่มองไปทางเอ็นโจสุดฤทธิ์ แต่ก็มีบ้างบางทีที่เผลอมองแบบไม่ได้ตั้งใจ แล้วก็ได้สบตากันทุกครั้ง สายตาที่มองมานั้นทำเอาหน้าร้อนวาบ ต้องก้มหน้างุดๆมองแต่ถ้วยอาหารที่กำลังทานอยู่

จะมองอะไรกันนักกันหนาล่ะยะ มีคนมาจ้องตอนกินมันฝืดคอนะรู้มั้ย

หรือจะอิจฉาที่ฉันได้ทานของอร่อย แต่คนป่วยอย่างนายกินได้แค่อาหารโรงพยาบาลรสชาติจืดๆ หน้าตาไม่ค่อยน่ารับประทาน….คงไม่ใช่หรอก….

จบมื้ออาหาร มาดามเอ็นโจก็ขอตัวกลับไปดูแลบ้านต่อ พรุ่งนี้ก็วันสิ้นปีแล้ว ต้องกลับไปจัดการความเรียบร้อยและเตรียมการสำหรับงานเลี้ยง มาดามออกปากเชิญฉันไปร่วมงานอย่างเอื้ออารี

“เอ๋ จะดีเหรอคะ คือว่าจะเป็นการรบกวนเวลาของครอบครัว…”

“ไม่รบกวนเลยซักนิดเดียวค่ะ มีคนเยอะๆก็ครึกครื้นสนุกออกนะคะ”

“มาสิครับ คุณพี่เรย์กะ” ยูกิโนะคุงก็ช่วยคะยั้นคะยอ “พวกเราอยากฉลองปีใหม่กับคุณพี่เรย์กะนะครับ”

“โอเซจิที่บ้านเราอร่อยมากเลย” เอ็นโจมองฉันยิ้มๆ “หรือจะโอโซนิ เกาลัดเชื่อม โมจิหรือสาเกหวานก็มีนะ”

อย่าคิดสิว่าเอาของกินมาล่อแล้วฉันจะตกลงง่ายๆ เห็นฉันเป็นคนยังไงกันยะ

สามแม่ลูกมองฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่รู้สึกกดดันอยู่ในที

อยู่ในวงล้อมศัตรูแบบนี้ คนใจเล็กอย่างฉันไม่กล้าปฏิเสธก็เลยยอมตอบตกลงไป ยูกิโนะคุงและมาดามมีสีหน้าพึงพอใจ ส่วนเอ็นโจอมยิ้มตอนที่ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม

พอฉันหันไปมองค้อน อีตาเจ้าเล่ห์ก็ส่งยิ้มด้วยสายตาพราวระยับจนต้องเสมองไปทางอื่น ใจเต้นเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้

แพ้ทางสุดๆเลยอ้ะ

--------------------------------
กูเขียนตั้งแต่ก่อนปีใหม่ กระทั่งปีใหม่ผ่านพ้นแต่เพิ่งจะเขียนจบ ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่แบบเลทๆก็แล้วกัน 555555
ส่งต่อจ้า

19 Nameless Fanboi Posted ID:BKUa.Wk03

>>15-19 ขอบคุณจ้า เฮ้อ อ่านไปก็เขินไป ขอก้างเยอะๆหน่อยยยย

20 Nameless Fanboi Posted ID:xNZjLPwDd

>>15-19 ขอบคุณมากก /สูดกาวนอนหลับตาพริ้มในทุ่งลาเวนเดอร์
กูยิ้มจนปวดแก้มแล้ววววววววว แงT///T

21 Nameless Fanboi Posted ID:Sx9g7+kMW

>>15-19 ขอบคุณที่ทำให้เช้านี้ของกูแช่มชื่นค่ะ อ่านไปยิ้มไป แก้มจะแตกอยู่แล้ว

22 Nameless Fanboi Posted ID:r/YRhy0PS

ขอเทียบประโยคเดียวกันระหว่างจอมมารกับยูกิโนะกับผลตอบรับเจ้าแม่
จอมมาร:
สะดวกที่จะทำแบบนั้นอะไรของนาย ห๊า!! อย่ามาพูดจาสองแง่สองง่ามแบบนี้จะได้มั้ย แล้วก็ไม่ต้องชดเชยอะไรทั้งนั้นนะยะ ไม่อยากได้เลยซักนิด
ยูกิโนะ:
ทะ เทวดาน้อย เอาไว้หายดีก่อนค่อยทำนี่มันอะไรกันจ๊ะ อย่าพูดอะไรสองแง่สองง่ามแบบนั้นสิ
ความลำเอียงนี้555555
ปล.ขอบคุณที่ทำให้เช้าวันนี้กุสดใส>__<

23 Nameless Fanboi Posted ID:.KfTW4AjG

กูรักฟิคเวียน ชอบความหวานที่เหล่าเพื่อนโม่งประทานให้ กูต้องกลั้นยิ้มในที่ทำงาน
อยากเห็นการชดเชยของจอมมารหลังออกจากโรงพยาบาลจังเลยค่ะ จะชดเชยแบบไหนอะไรยังไงคะ//สัมภาษณ์

24 Nameless Fanboi Posted ID:wRFVnNm62

>>15-19 ขอบคุณสำหรับกาวในวันนี้ หวานฉ่ำมดยังอายมากเลย กูอ่านวนไปวนมาม้วนไปม้วนมาไปหลายรอบล่ะ ท่านเอ็นโจในชุดเสื้อคลุมหลังอาบน้ำมาก้มๆ เงยๆ ตรงหน้าเชียวนะคะ วรั๊ยยยยยยยยยยยยยย เขินแทนท่านเรย์กะ ไม่รู้จะเอาตาไปไว้ตรงไหน

กูลองนึกภาพท่านพี่ในชุดเดียวกันบ้าง ราชินีแสรดๆ อิมาริต้องเป็นข้าทาสมาไดร์ผมจัดทรงให้ท่านทาคาเทรุชัวร์ๆ อา เลือดกำเดามายามันจะทะลักละค่า!

25 Nameless Fanboi Posted ID:5N+.Cs266

โอ้ยยย จอมมาร ขนาดป่วยยังเจ้าเล่ห์ได้อีก

26 Nameless Fanboi Posted ID:.KfTW4AjG

>>24 อยากเห็นฟิคในสถานการณ์เดียวกันเหลือเกินค่ะ ท่านพี่ให้อิมาริไดร์ผมให้ ใครใจดีแต่งให้อ่านที

27 Nameless Fanboi Posted ID:i4iCOdBEo

มึง ฟิคเวียนยังไม่บทคันตะคุงเลย รีเควสบทให้น้องหน่อย
พาติซิเยหนุ่มไฟแรงสืบทอดกิจการที่บ้านงี้

28 Nameless Fanboi Posted ID:/dVKYIZZg

>>15-19 ดีต่อใจจุงเบย ขอบคุณ​มากนะโม่งฟิค

29 Nameless Fanboi Posted ID:nAgTRQnAV

>>27 กูว่าน้องที่ใส่ชุดปาติซิเย่ขาวล้วนคือดีงาม เวลาดุโคโรเน่ที่กินไม่หยุดแต่มือเติมขนมให้เรื่อยๆ คือความโมเอ้!

30 Nameless Fanboi Posted ID:81hpT+IVB

>>27 กูนึกถึงสาวที่คาดผมกับหนุ่มพาทิชิเย่เลย​ 5555

31 Nameless Fanboi Posted ID:FsuLoyJS6

ถ้ากูเขียนวายอิมาริ×ท่านพี่ลงในนี้ พวกมึงจะรับกันได้มั้ยวะ จั่วหัวเตือนว่าวาย อาจจะมีแค่จูบนิดๆหน่อยๆพอหอมปากหอมคอ แต่ไม่มีฉากเรท//เอ๊ะ หรือควรมี

32 Nameless Fanboi Posted ID:Nx7nZGZU+

>>31 ได้!!!!!! กูต้องการกาวววว
ปล.ชิลๆมึงจั่วหัวไว้พอ มู้เก่าๆก็เคยมีคนแต่งแล้ว

33 Nameless Fanboi Posted ID:CsCP.TYfb

จะว่าไปลืมแล้ว ว่าตระกูลทางแม่ของเรย์กะนี่นามสกุลอะไรนะ ซันเซงอิง

34 Nameless Fanboi Posted ID:LwXDglCBI

>>31 จัดมาค่ะซิส!

35 Nameless Fanboi Posted ID:Y2bME8H4X

>>33 ไม่มีบอกนะ จริงๆชื่อท่านพ่อ ท่านแม่ยังไม่มีบอกเลย

36 Nameless Fanboi Posted ID:MxUtTj44j

>>35 มึงพูดแล้วกูเพิ่งนึกขึ้นได้ นี่จริงๆ ท่านพ่อท่านแม่เป็นตัวละครไร้ชื่อระดับเดียวกับหัวหน้าห้องเลยเหรอวะเนี่ย...

37 Nameless Fanboi Posted ID:Pn4fnEqPS

>>36 ทานุกิก็ชื่อทานิกุไงล่ะ!!
>>31 จัดมาเลยมึงงง ความจริงกูก็กำลังแต่งอยู่ แต่ฟิคอีก2เรื่องยังดองอยู่เลย T^T

38 Nameless Fanboi Posted ID:8jeVq9J7D

จะว่าไป ริรินะเป็นลูกของน้องชายของทานุกิ ทำไมไม่ใช้นามสกุลคิโชอิน? แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง?

39 Nameless Fanboi Posted ID:9Wnz4GKR.

>>38 แม่ริรินะคงเป็นลูกสาวคนเดียวที่แต่งเขยเข้าบ้านมั้ง
ว่าไปทานุกิกับน้องชายนี่ก็เป็น pivoine ด้วยรึเปล่าวะ ครอบครัวเชื้อสายเก่าแก่แบบคิโชวอินน่าจะเลือกให้ลูกหลานเรียนซุยรันสืบต่อกันมานะ

40 Nameless Fanboi Posted ID:MxUtTj44j

>>39 จำได้ว่าริรินะได้ยินเรื่องราวของ Pivoine จากแม่ที่เป็นศิษย์เก่าซุยรันที่เป็น Pivoine นะ น่าจะเป็นผู้ปกครองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทางพ่อนี่คงไม่ใช่ศิษย์เก่าละมั้ง

41 Nameless Fanboi Posted ID:8jeVq9J7D

ไปเช็กดิบ สรุปในnekopostแปลผิด แม่รินินะ=น้องสาวทานุกิ

ถ้าน้องสาวเป็นPivoine ทานุกิก็น่าจะเป็นด้วยแหละ

42 Nameless Fanboi Posted ID:x2IwJiVzD

>>41 ความจริงแล้วทานุกิอาจจะเป็นจักพรรดิยุคเก่าก็ได้นะมึง แบบเสน่ห์แรงจนคุณแม่ต้องยอมแพ้อ่ะ

43 Nameless Fanboi Posted ID:MxUtTj44j

>>41 งั้นสมัยก่อนท่านพ่อก็เป็น Pivoine มีน้องสาวหนึ่งคน ฟังดูคุ้นๆ เหมือนท่านพี่ทาคาเทรุเลยว่ะ หรือว่าทานุกิก็เคยเป็นหนุ่มหล่อไฮโซมาก่อน....

44 Nameless Fanboi Posted ID:9Wnz4GKR.

>>43 กูว่าสมัยหนุ่มๆทานุกิก็หล่อนั่นล่ะ ไม่งั้นท่านแม่ไม่น่าจะยอมตกลงปลงใจด้วย อาจจะหล่อสไตล์นุ่มนวลอ่อนโยนมาดเนี้ยบแบบท่านพี่
ส่วนท่านพี่พอแก่ตัวไปอาจจะเป็นแบบทานุกิก็เป็นได้..........

45 Nameless Fanboi Posted ID:MxUtTj44j

>>44 กูว่าทานุกิอาจจะเป็นหนุ่มกะล่อนลีลาเยอะแพรวพราวแบบท่านอิมาริก็ได้นะ พอมาเจอท่านแม่แต่งงานกันก็รีบหาทางตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการทำลายหุ่นให้ตุ้มตุ้ย สาวจะได้ไม่มอง 55555

46 Nameless Fanboi Posted ID:9Wnz4GKR.

>>45 ว่าไปกูก็คิดถึงฟิคท่านแม่ว่ะ มาต่อทีเถ้อ 55555555555555

47 Nameless Fanboi Posted ID:X.hYDN374

>>44 ท่านพี่อาจจะคาดการณ์ไว้แล้ว จึงพยายามออกกำลังกาย และไม่กินมากก็ได้นะ

>>45 เคยมีโม่งให้ความเห็นว่า จริงๆ แล้ว ท่านพี่ก็ไม่น่าต่างกับเพื่อนมากนัก ที่มักไปไหนด้วยกันบ่อยๆ น่าจะไปตกหญิงด้วยกันก็ได้

48 Nameless Fanboi Posted ID:vlnnv9deR

>>47 ด้วยความสัตย์จริง ภาพอิมาริเป็นแฟนท่านพี่ มันเด่นชัดในสมองกูเกินไปจนกูนึกภาพท่านพี่จีบผู้หญิงไม่ออกเลย

ถ้าเอ็นโจเป็นโคลนนิ่งท่านพี่ ไม่ใช่ว่าตัวต้นฉบับก็มีลีลาจีบแบบไก่อ่อนเหมือนกันนะ แถมอาจจะเป็นสาวนิสัยคล้ายๆเรย์กะด้วยก็ได้

49 Nameless Fanboi Posted ID:SsN48fJvy

>>47 พอพูดมาแบบนี้ กูก็เผลอจิ้นอะไรไม่ดีไม่งามขึ้นมาทันทีเลยว่ะ 555555

50 Nameless Fanboi Posted ID:ByOC/OV2Z

>>47 ไม่โว้ยยย พวกมึงอย่าใส่ร้ายท่านพี่ของกู ตอนไปทัศนศึกษาท่านพี่ก็จะไม่ให้ท่านอิมาริเข้าห้องอยู่แล้วนะ!! ท่านพี่ไม่ใช่คนแบบนั้นเฟร้ยยย//กุมฟิลเตอร์กระจกตาแน่นมาก ท่านพี่คนดีของกู

51 Nameless Fanboi Posted ID:Ixl2gnDuj

>>50 ไม่ให้เข้าเพราะ​ซ่อนอะไร​ไว้---
อิมาริก็เคยพูดเป็นนัยนี่ว่าท่านพี่ไม่ใช่เล่นๆ.

52 Nameless Fanboi Posted ID:SsN48fJvy

>>50 บ้า ไม่ใช่ไม่ให้เข้าห้องเว้ย แค่ตื่นมารอ "เพื่อน" ที่หนีไปเที่ยวกลางคืนจนกลับเช้าก็เท่านั้นเอ๊ง//เสียงสูง
แถมไล่ออกจากห้องตอนเขาบอกรักคนอื่นทางโทรศัพท์อีกต่างหาก

53 Nameless Fanboi Posted ID:bHElMnHa6

//กลับไปขุดหาฟิคAUท่านแม่

54 Nameless Fanboi Posted ID:PEZ9i2meu

>>51 กูว่าที่ท่านพี่ห้ามเรย์กะไม่ให้ไปงานจบการศึกษาก็เพราะไม่อยากให้น้องสาวไปเห็นสภาพที่โดนสาวๆ รุมทึ้งและลีลาการหลบหลีกอย่างพริ้วของตัวเองนี่แหละ เดี๋ยวน้องสาวเสียศรัทธาในตัวท่านพี่คนดีหมด 55555

55 Nameless Fanboi Posted ID:cQ1dEhTsx

ท่านพี่นี่ถ้าจำไม่ผิดเป็นหนุ่มแว่นด้วยใช่มะ

56 Nameless Fanboi Posted ID:TaqUEqr37

>>55 แว่นเฉพาะกิจ ใส่แค่ตอนอ่านนส.

57 Nameless Fanboi Posted ID:joEeo7F/H

>>49 อะไรที่ไม่ดีไม่งามหรือมึง

>>54 กูเคยคิดนะว่าที่ท่านพี่ไม่ยอมให้น้องเข้าร่วมพิธีจบน่ะ คงเป็นเพราะ
1 มีแฟน ยังไม่อยากแนะนำตัวเพราะบางอย่าง
2 กลัวมีใครมาจีบน้อง
3 กลัวน้องไปปิ๊งใคร
(ข้อ 2,3 น่ะ ลองคิดดู ถ้าท่านพี่ไม่ห้าม น้องคงได้แฟนไปแล้ว สาวมอปลายที่ภาพลักษณ์เป็นผู้ใหญ่ กับหนุ่มมหาลัย ออกจะเข้ากัน)

หลังๆ มาคิดเหตุผลเพิ่ม หรือว่าท่านพี่ไม่อยากให้น้องไปเจอรักแรกวะ ที่เป็นประธานน่ะ เรียนคณะเดียสกันด้วยนี่

58 Nameless Fanboi Posted ID:PEZ9i2meu

>>57 ?? ตอนท่านพี่เรียนจบ รุ่นพี่โทโมเอะยังเรียนซุยรันอยู่เลยป่าวมึง

59 Nameless Fanboi Posted ID:Yps+PoPgN

>>57 ตอนท่านพี่เรียนจบ โทโมเอะยังเรียนม.ปลายอยู่เลยนะมึง ท่านพี่อายุห่างจากเรย์กะเจ็ดปี ส่วนโทโมเอะห่างสองปี ยังไงก็ไม่มีทางเจอท่านพี่ตอนเรียนมหาลัยได้อะ

60 Nameless Fanboi Posted ID:JhMr66T7s

>>58 >>59 เออว่ะ เห็นพูดถึงก็นึกว่าเรียนด้วยกัน ลืมเรื่องอายุเลยว่าห่างกันหลายปี

61 Nameless Fanboi Posted ID:WaQxuB233

ไปอ่านย้อนหลังแล้วสงสัยนิดๆว่ะ ที่เรย์กะจะถ่ายรูปจบการศึกษาแล้วขอนั่งข้างเอ็นโจแต่โดนปฏิเสธ คือสงสัยว่าทำไมต้องปฏิเสธหว่า อยากฟังความเห็นเพื่อนโม่งอะ

62 Nameless Fanboi Posted ID:TaqUEqr37

>>61 position ไม่สวยรึเปล่า แบบ สามผู้ยิ่งใหญ่ไปกองกันข้างเดียวหมด

63 Nameless Fanboi Posted ID:3Y4A2x7PW

กูคิดว่าถ้าเรย์กะนั่งข้างเอ็นโจ จะกลายเป็นว่าฮีอยู่ตรงกลางแทน ซึ่งไม่น่าจะดีเท่าไหร่ที่มาซายะจะต้องไปอยู่ริมๆหรือข้างๆ บทเด่นอะไรฮีก็ให้มาซายะเอาไปก่อนอยู่ตลอด ส่วนตัวเองก็เก็บกวาดอยู่ข้างหลัง จะให้ไปเด่นแข่งหรือแซงหน้ามาซายะ เอ็นโจไม่ยอมทำหรอก คุณสมบัติเพื่อนพระเอกในมังงะโชโจหรือพวกเกมจีบสาวมากๆ

อีกอย่างกูคิดว่าฮีลองเชิงนางเพื่อดูปฎิกริยาเป็นการทดสอบด้วย อยู่ใกล้ๆมาซายะจะเป็นยังไง อะไรประมาณนั้นอ่า

64 Nameless Fanboi Posted ID:BYrFa3Bsg

คิดว่าเอนโจเริ่มชอบเรย์กะตอนไหนกัน?

65 Nameless Fanboi Posted ID:ZWbffWc79

>>64 อาจจะฟังดูมาโซหน่อยๆ แต่กูคิดว่า ตอนโดนต่อยท้อง เซอร์ไพร์สจัด

66 Nameless Fanboi Posted ID:3Y4A2x7PW

>>64 กูว่ารักแรกพบ//อะไรนะ น้ำเน่าไปงั้นเหรอ

67 Nameless Fanboi Posted ID:/RD8xt8cX

>>65 ที่ชอบหักธงจมเรือกวนตีนเขาบ่อย นี่เรียกร้องอยากโดนต่อยอีกสินะ

68 Nameless Fanboi Posted ID:Mes8Q.GKt

>>64 คิดว่านางสนใจตั้งเเต่ งานฤดูร้อนครั้งเเรกอ่ะ แล้วดูๆไปเรื่อยๆจนมาถึงจุดที่ตกหลุมรักจุดเปลี่ยนน่าจะตอนที่นางโดนต่อยท้องนี่แหละ

69 Nameless Fanboi Posted ID:KXNb45eXp

>>64 กูว่าฮีสนใจตั้งแต่ไปทักเรื่องสีผมตอนเจอครั้งแรกแล้วว่ะ อาจจะคิดว่ายัยนี่พิลึกจริง แล้วก็มองมาเรื่อยๆ สั่นกระดิ่งเอย เต้นวอลซ์เอย โดนนกขี้ใส่เอย โดนกวางเตะเอย ถถถถถถถถถ ยิ่งคุณไม่เหมือนใคร ทำอะไรให้ประหลาดใจได้เสมอก็ยิ่งประทับใจ

จุดเปลี่ยนน่าจะอยู่ที่โทโมเอะเข้ามาในชีวิตของนาง บวกกับ...อ้าว รู้ตัวอีกทีก็มองแต่คุณไปซะแล้ว แต่มาแน่ใจว่ารักเขากูว่าช่วงม.4 นั่นล่ะ

70 Nameless Fanboi Posted ID:PamIhDRno

>>64 คิดว่าเริ่มสนใจตั้งแต่เด็กตอนที่บอกว่าได้ทำงานให้มาซายะคนที่คุณคิโชวอินชอบไง แต่เจ้าแม่ปฏิเสธแบบไม่ไยดีก็เลยเริ่มสนใจ จากนั้นก็สงสัยว่าจริงหรือเปล่านะ แล้วก็ค่อยๆ ดูปฏิกิริยาไปเรื่อยๆ ตามดูไปๆ มาๆ สนุกดีก็เลยกลายเป็นสโตกเกอร์แทน กูว่านี่แหละใช่เลย พัฒนาการของเอ็นโจ

71 Nameless Fanboi Posted ID:Y/Il31Sp3

>>64 น่าจะมองตั้งแต่แรกแล้วป่ะ อารมณ์​เด็กผมหลอดสะดุดตา ชอบแอบมองมาซายะบ่อยๆ ดูไปเรื่อยๆก็เห็นแต่พฤติกรรม​แปลกๆ จนรู้ตัวอีกทีก็หยุดมองไม่ได้ แถมพอโดนตุ๊ยท้องเลยแบบ... ใช่เลย 5555

72 Nameless Fanboi Posted ID:9DF.p6GkT

>>61 กูว่าตอนนั้นเอ็นโจชิปคาบุเรย์กะอยู่ เลยอวยให้ใกล้ชิดกัน คือตัวเองอยากใกล้ชิดแต่ให้เพื่อนออกหน้า

73 Nameless Fanboi Posted ID:9DF.p6GkT

>>64 คิดว่าชอบมาเรื่อยๆ สนใจมอง ตอนที่ดุริรินะนี่คงชอบแล้วล่ะ

74 Nameless Fanboi Posted ID:9DF.p6GkT

คิดว่าคาบุชอยเรย์กะไหม

75 Nameless Fanboi Posted ID:vEc5gpcPt

>>74 ยาก ดูจากความทุ่มเวอร์วังให้วาคาบะแล้ว กับเจ้าแม่ กูมองว่าเป็นพี่น้อง ไม่ก็เพื่อนซี้ปึ้กมากกว่า

76 Nameless Fanboi Posted ID:yLPeJ.GPa

กูยังแอบคิดอยู่ว่าเรื่องจะพลิกให้วาคาบะเป็นตัวร้ายแบบร้ายลึกมากกกกกกกกกกกกได้ไหม อย่างวาคาบะก็ฉลาดอยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนก่อนที่มีเสียงริงโทนดังในบ้านจังหวะเดียวกันกับที่คาบุโทรออกนี่วาคาบะอาจจะเดาเรื่องได้หมดก็ได้ ถ้ารู้ว่าจริงๆ แล้วเรย์กะสนิทกับคาบุและเป็นคนคอยช่วยวางแผนจีบอยู่เบื้องหลัง นางอาจจะมีเคืองหรือรู้สึกเหมือนถูกหลอกบ้างก็ได้นา

77 Nameless Fanboi Posted ID:3Y4A2x7PW

>>74 อันนี้ก็มิทราบ แต่ในความคิดกู กูว่าฮีมองนางเหมือนน้องสาวว่ะ
>>76 กูว่าวาคาบะรู้ทุกอย่างแค่ไม่พูด เผลอๆอาจจะเป็นเพื่อนกับเอ็นโจ แลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่ก็ได้

78 Nameless Fanboi Posted ID:g/D2bG.M/

>>76 ถึงขั้นเป็นตัวร้ายนี่ไม่ไหวมั้ง ต้อเคารพแกนหลักของเรื่องนิดนึง ท่านเรย์กะก็แหกไปคนละ--
ถ้ามารู้ทีหลังวาคาบะจังก็คงแค่มากสุดเคืองนิดหน่อยแหละกุว่า ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายขนาดนั้น

79 Nameless Fanboi Posted ID:CmS.0ZdeB

>>78 เคืองที่เจ้าแม่นอกใจ?แค่กๆๆ

80 Nameless Fanboi Posted ID:7bHH0xy0C

>>76 กูว่านางคงได้ข่าวสองคนนี้สนิทกันมาเยอะอยู่นะ น่าจะพอเดาออก อีกอย่างกูว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นประเด็นให้วาคาบะมาเคืองเรย์กะได้ วาคาบะรู้ก็คงแบบคุณคิโชวอินช่วยฉันทุกอย่างเลย น่าจะเพิ่มความนิยมที่มีต่อตัวเรย์กะได้อีก

81 Nameless Fanboi Posted ID:wzbNLSHoI

>>76 กูว่าวาคาบะนางก็มีความร้ายอยู่นะ แต่ก็ไม่ได้ร้ายอะไรมากมาย ออกแนวด้านมืดที่มีอยู่ในตัวทุกคนมากกว่า

82 Nameless Fanboi Posted ID:g0Tbr/b8l

>>81 เรื่องนี้ใสซื่อสุดก็ไซซายะอะ เชื่อกู

83 Nameless Fanboi Posted ID:yLPeJ.GPa

แมวดุ้นล่มยาวจังแฮะ ลากมาแต่เช้าแล้วนะ...

84 Nameless Fanboi Posted ID:5/Wnf7v6O

อยากให้นาโร่ล่มยาวแบบแมวดุ้นบ้าง เผื่อจะเป็นสัญญาณที่ดี ไม่เงียบเป็นเป่าสากอย่างนี้...

85 Nameless Fanboi Posted ID:XfQsqyQG6

>>84 มึงอย่าพูดแบบนี้สิ กูหนิใจคอไม่ดีเลย นี่อยากให้อ.ฮิโยโกะแกไม่ต้องอินดี้มากก็ได้ ถึงไม่เขียนต่อก็แวะมาบอกเล่าความเป็นไปของตัวเองบ้างก็ดี นี่ได้แต่นั่งอกสั่นขวัญแขวน... ฝั่งญี่ปุ่นที่ทนรอมาสี่เดือนกว่าแล้วนี่อึดเอาเรื่องเลยแฮะ

86 Nameless Fanboi Posted ID:0I5Pfd+Fd

น้องแมวตอนใหม่มาเลยล่มน่ะ กำลังรีบอ่านเลย

87 Nameless Fanboi Posted ID:qammVFF1o

เออ ในเรื่องนี่ไม่เคยบอกวันเกิดตัวละครเลยใช่ไหมนะ อีเวนท์ก็มีแต่งานกีฬาสี คริสมาสต์ วาเลนไทน์ ไม่เคยพูดถึงวันเกิดเลยนี่เหงาๆ ไปหน่อยแฮะ อยากทำเค้กให้ท่านเรย์กะบ้าง ซิกๆ

88 Nameless Fanboi Posted ID:4YRXpdgK1

>>87 ไม่เคยนะ ของมาโอะหรือยูกิโนะก็ไม่เคยบอกวันที่ด้วย กูคิดว่าของยูกิโนะเกิดราวๆเดือนมกรา ส่วนมาโอะเกิดเมษา

89 Nameless Fanboi Posted ID:IoXl9vtQi

ไม่แน่ที่หายไปนานๆกลับมาอีกทีอาจจะประกาศว่าเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์เป็นเล่มแล้วก็ด้ายยยยยย //กูนอนดมกาวอยู่อย่าเพิ่งปลุก

90 Nameless Fanboi Posted ID:IRNEtv84U

>>89 ถ้าเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์อาจจะอินดี้ ไม่มีรูปแนะนำตัวละคร มีแต่รูปอาหารขึ้นปกและในเล่มแบบสี่สี

91 Nameless Fanboi Posted ID:AM5v8nKwl

>>90 กูว่าด้านหลังน่าจะมีสูตรให้ไปทดลองทำจริงได้ อย่างช็อกโกแลตไร้รสชาติ ข้าวต้มเค็ม แกงกะหรี่มิราเคิลพุดดิ้ง

92 Nameless Fanboi Posted ID:i4WyfFhRJ

อาจจะไม่มีอัพตอนที่300แล้วก็ได้ โผล่มาก็ตีพิมพ์รวมเล่มไปเล่ย ดูจากเนื้อหาที่ใกล้เรียนจบแล้ว คงใกล้จบเรื่องจริงๆ

93 Nameless Fanboi Posted ID:8nL1R6A+x

>>92 กูว่ามันยังอีกยาวไกลนะ ยังไม่เข้าใกล้ไคลแมกซ์หลายๆเรื่องเลย อีเวนท์ก็อีกเยอะแยะที่มี อย่างน้อยๆก็ต้องงานดอกไม้ไฟ งานซัมเมอร์ งานกีฬาสี งานโรงเรียน ไหนจะงานหมั้นตามต้นฉบับเดิมอีก

94 Nameless Fanboi Posted ID:EvcxrH48o

บางอารมณ์ก็เพ้อๆ อยากอ่านภาคมหาลัยซุยรัน ภาคสาว OL แต่แล้วก็คิดได้ว่าขอตอนต่อไปก่อนเถอะ...

95 Nameless Fanboi Posted ID:d15JcSpsS

สมมตินะ ว่าถ้าลากยาวไปยันแต่งงาน รุ่นลูก คิดว่าเรื่องนี้อีกกี่ปีถึงจะไปถึงจุดนั้นวะ 10ปี+เลยอ๊ะป่าว

96 Nameless Fanboi Posted ID:iNpka9e0K

>>95 ถ้า3-6เดือนอัพทีแบบนี้ตอนนี้กูว่าน่าจะเกิน10ปีนะ

97 Nameless Fanboi Posted ID:sr0CXjuul

>>96 อย่าพูดเป็นลาง!! ตบปากตามอายุตัวเองเดี๋ยวนี้เลย!!

98 Nameless Fanboi Posted ID:8nL1R6A+x

แต่หายไปนานๆทีไร แกมักกลับมาพร้อมความพีคนะ ก็มาดูกันว่าตอนที่จะมาถึงนี่จะพีคมั้ย หรือจะเนิบเนือยลดน้ำหนักไปเรื่อยๆ

99 Nameless Fanboi Posted ID:d15JcSpsS

>>96 ถ้า 10 ปี เรายังจะตามเรื่องนี้กันอยู่มั้ยวะ อย่างตอนแรกๆที่กูติดดีเกรย์แมนมากๆ แต่หลังมันอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องบวกกับคนเขียนแกหยุดเขียนไปนาน ให้กลับมาอ่านอีกทีก็อ่านไม่สนุกเหมือนก่อนแล้ว

100 Nameless Fanboi Posted ID:f6W/zg6cp

>>99 กูเข้าใจฟิลนะ ถ้าเรื่องนี้เป็นเหมือนกันกูก็อาจจะไม่ตามต่อ หรือถ้าอยากอ่านมากจริงๆคงต้องเริ่มแต่ต้นเลยว่ะ

101 Nameless Fanboi Posted ID:PhU6HXVcD

ฮือเมื่อกี้เพิ่งตื่น ฝันดีมากมึง ฝันว่าจารย์แกอัพท่านเรย์กะตอนใหม่ เท่าที่จำได้
เริ่มเรื่องมาที่เจ้าแม่เข้าเรียนมหาลัยซุยรันแล้ว คือตัดตอนตั้งแต่เอ็นโจชวนไปดูดอกไม้ไฟออกเลย ในเรื่องเป็นท่านเรย์กะเข้ามาเยี่ยมเยียนห้อง Pivoine โรงเรียนแล้วก็เจอยูกิโนะคุงที่แผ่ออร่าเจ้าชายมากกว่าเดิม มีเล่าด้วยว่าบักมาซายะคบกับวาคาบะจังแล้ว เอ็นโจก็หมั้นกับยุยโกะเป็นพิธีการเลย ส่วนท่ายเรย์กะก็ยังโสดเหมือนเดิม ฮือ555
แล้วเหมือนระหว่างเดินคุยกับยูกิโนะก่อนเข้าสโมสรก็เจอหัวหน้าชมรมฟุตบอล(ชื่อไรนะ ถั่วแดง?) เจ้าแม่แกก็ไปคุยกับตานั่น จบด้วยการเรียนมอซุยรันเหมือนกัน และชวนไปทำอะไรสักอย่างที่มอ ลืมแล้ว มีการล้อท่านเรย์กะด้วยเรื่องยังไม่มีแฟน ซึ่งตัวเองก็ไม่มีเหมือนกันแหละ แถมเจ้าแม่ยังรู้สึกถึงสายตาอาฆาตของยูกิโนะคุงที่ส่งให้บักถั่วแดงนั่น จากกูก็ตื่นเลย ฮือออมึงง อารมณ์มันแบบจบปลายเปิดมาก ใครก็ได้เขียนฟิคกาวคู่นี้ให้ทีค่ะ ไม่ไหวแล้วววววว T///T

102 Nameless Fanboi Posted ID:f.bKUChbI

>>99 ไม่ต้องอีกสิบปีหรอก แค่ห่างไปเป็นเดือนๆ นี่กูก็กลัวแล้วว่าทุกคนจะลืมท่านเรย์กะกันหรือยัง กลัวละเกินว่ามาสครีมตอนต่อไปแล้วจะไม่มีคนคุยด้วย กูเหงานะฮืออออ

103 Nameless Fanboi Posted ID:sr0CXjuul

ทุกวันนี้กูยังไล่อ่านท่านเรย์กะตั้งแต่ตอนแรกวนไปวนมาอยู่เนี่ย ยิ่งทำให้กูรู้สึกว่าท่านเรย์กะมาไกลจริงๆเนี่ย แต่จะไกลกว่านี้ถ้าตอนใหม่มา ขอให้ท่านฮิโยโกะกลับมาในเร็ววันด้วยเถอะค่ะ สาธุ

104 Nameless Fanboi Posted ID:Tg1/2rDp.

คิดไปคิดมา ถ้าเราอ่านเจ้าแม่ใหม่แบบครั้งละตอนวันเว้นวันเหมือนตอนโม่งแปลลง เราจะมีเจ้าแม่ให้อ่านอีกปีกว่าๆเลยนะเว้ย

105 Nameless Fanboi Posted ID:UzJpvBjL.

>>101 ฝันได้เป็นฟิคแบบโคตรเรียล เป็นเรือที่ยิ่งกว่าเรือผีอีกนะ เพราะมีพลังงานน้อยกว่าเรือผีอีก ถถถถ

106 Nameless Fanboi Posted ID:xs4jEsWKl

>>101 ฝันเป็นขั้นเป็นตอนแถมยังเป็นเรือผีอีก กูเริ่มอยากอ่านต่อตามมึงละ ฮืออ

107 Nameless Fanboi Posted ID:f/+Qx1Ty.

>>101 หัวหน้าชมรมฟุตบอลผู้ซึ่งวันๆเอาแต่เตะบอลกับแอ๊วสาว VS เจ้าแม่กาลีแห่งมหาวิทลัยซุยรัน
นึกภาพออกเลย น่ารักอ่ะะ แต่เรื่อผีไปหน่อย5555555555

108 Nameless Fanboi Posted ID:KU3XHN1j4

>>107 กูว่าก๊าวอยู่นะ ต่างคนต่างตั้งชื่อเล่นน่ารักๆ ให้อีกฝ่ายด้วยนะเว้ย ท่านเรย์กะยังจะแอบเอาของขวัญไปใส่ไว้ในล็อกเกอร์ฝ่ายชายเลย 55555

109 Nameless Fanboi Posted ID:VHx74yAIk

ย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าๆที่เป็นมุมมองนักเรียนชายไร้ชื่อ เห็นบอกว่าอยากไปดูคุณคิโชวอินแต่งพ่อบ้านแกะเหมือนดูสิ่งสยองขวัญ เอาจริงๆนางก็สวยน่ารักไม่ใช่เรอะ ตะไมนักเรียนชายพวกนี้ถึงได้บอกนางเป็นสิ่งสยองขวัญกันฟระ

110 Nameless Fanboi Posted ID:BCPcdInJN

>>109 กูคิดว่ามันคือความกลัวๆ กล้าๆ เหมือนตอนจะดูหนังสยองขวัญว่ะ อยากดูก็อยากดู แต่ดูแล้วก็กลัวจะฝังใจ 55555

111 Nameless Fanboi Posted ID:nKvhS/pED

กูว่าถ้าไม่มีพวกเซริกะคอยกันซีน อาจจะมีคนมาจีบนางเยอะแล้วก็ได้นะ หรือจะมองเป็นดอกฟ้าที่ไม่อาจเอื้อมไปอีก...

112 Nameless Fanboi Posted ID:SYVSyakSG

>>111 แต่ดอกฟ้าที่ไม่อาจเอื้อมก็ยังดีกว่าเจ้ากาลีนะมึง 555

113 Nameless Fanboi Posted ID:EaO/FR/Y1

>>101 คู่นี้มันน่ารักนะมึง แนวคู่รักคู่กัดก๊าวๆ ใจ

ถ้าตามเวอร์ชั่นคิมิดอล ไดนากงก็เหมือนนายตัวสำรอง เอ็นโจคือไซซายะ ส่วนเจ้าแม่คือวาคาบะ TwT!

ชั้นเชียร์นายอยู่นะ! ไดนากง!!!

114 Nameless Fanboi Posted ID:u1IJxs/nQ

KY นิด Illust นุ้งหมาน่ารักชิบหายเลย ท่านเรย์กะ ไซซายะ ชูสุมอย วาคาชิบะ มิซึเซเชี่ยนมากันครบ ดูแล้วคิดถึงฟิคมะหมาจังว่ะ
https://img.etsystatic.com/il/79f636/1438273168/il_570xN.1438273168_9j78.jpg

115 Nameless Fanboi Posted ID:nKvhS/pED

>>114 อรั้ยยย น่ารักกกกก อยากได้กลับบ้านทุกตัวเลย

116 Nameless Fanboi Posted ID:VHx74yAIk

>>114 ซามอยด์แป้นแล้นมากลูก ส่วนฮัสกี้ดูไม่รั่ว...นี่มันหลอกลวง
คอร์กี้กูแอบนึกถึงยูกิโนะเบาๆ 55555555

117 Nameless Fanboi Posted ID:Fdqcrh+W/

>>116 ทางนี้เห็นน้องปอมแล้วคิดถึงอาคิซาสะคุงแฮะ ดูเป็นกระรอกมากๆ ถถถถถ

118 Nameless Fanboi Posted ID:8d.h+TIjQ

>>114 sheltie นึกถึงซาโตมิว่ะ ว่าไปในฟิคมะหมาซาโตมิก็ยังไม่มีบทใช่มะ 5555555

119 Nameless Fanboi Posted ID:uslBWCCXv

มาลงฟิคใหม่จ้า ซีรีย์สาววายซุยรัน เขียนเรื่อยๆไม่มีแก่นสาร ไม่มีสาระ เบาสมองไปวันๆ

-------------------------

“อึก..มาซายะ...”

เสียงหวานครวญครางเรียกชื่อเขา ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความเขินอาย ร่างบางบิดตัวไปมาน้อยๆจากความวาบหวามที่ได้รับจากร่างสูงเบื้องหน้า

“ชอบให้ฉันทำแบบนี้สินะ” ใบหน้าหล่อเหลาแย้มรอยยิ้มที่มีน้อยคนนักที่จะได้เห็น ยิ้มที่มีไว้เพื่อคนพิเศษของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

“มะ ไม่…”

“ปากแข็ง” มาซายะก้มลงไปจูบคนตัวเล็กใต้ร่าง อ้อมแขนกอดรัดจนทั้งสองร่างแนบสนิทไม่มีช่องว่างเหลืออยู่ “ฉันรู้ว่านายอยากให้ฉันทำอีก ชูสุเกะ”

“ยะ อย่า มาซายะ”

“นั่นล่ะ เรียกชื่อฉัน”

“มาซายะ…”
.
.
.
.

นี่มัน...อะไร….

ผมถามตัวเองในใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบ ในขณะที่สายตาก็ไล่อ่านบรรทัดถัดไป แล้วก็ถามตัวเองอีกรอบว่าผมกำลังทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นวัฎจักร

แต่เพราะนึกถึงเธอคนนั้น ผมเลยต้องบังคับตัวเองให้อ่านต่อไปอย่างช่วยไม่ได้

เพราะคุณคนเดียว ผมถึงต้องทำขนาดนี้
.
.
.

เรื่องมันเริ่มมาจากวันหนึ่งที่อากาศสดใส ผมพบกับคุณคิโชวอินที่หน้าโรงเรียน กะว่าจะเข้าไปทักแล้วเดินเข้าโรงเรียนไปด้วยกันแบบเนียนๆสักหน่อย แต่กลับเจอเรื่องผิดคาดที่คุณคิโชวอินปรี่เข้ามาหา ทักทายผมด้วยเสียงอ่อนหวาน

ผิดปกติ ผิดปกติสุดๆ

แม้ในใจอยากจะถามว่ามันเรื่องอะไรกัน แต่ผมก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้ผ่านไป ในเมื่อเธอหยิบยื่นมาให้ ผมก็น้อมรับมันเอาไว้ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง

ปกติในสถานการณ์แบบนี้เราจะคุยกันเรื่องยูกิโนะ แต่วันนี้เธอกลับถามไถ่เรื่องเกี่ยวกับมาซายะอย่างกระตือรือร้นจนผมต้องเลิกคิ้วขึ้น รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา

“เอ แล้วท่านเอ็นโจเคยเล่นเปียโนคู่กับท่านคาบุรากิรึเปล่าคะ”

“ก็มีบ้างนะ แต่ไม่บ่อยหรอก บางทีมาซายะก็ให้เป็นคู่ซ้อม”

“งั้นหรือคะ แหม ทั้งสองท่านบรรเลงเปียโนด้วยกันคงจะเป็นภาพที่งดงามราวกับภาพวาดเลยนะคะ ฮุๆๆๆ”

คุณคิโชวอินพอได้คำตอบก็กระหยิ่มยิ้มย่อง ขอตัวเข้าห้องเรียนไปด้วยท่าทางอารมณ์ดีสุดๆ ทิ้งผมไว้กับความขุ่นมัวที่ได้รับตั้งแต่เช้า

ตอนพักเที่ยง ผมนั่งมองคุณคิโชวอินที่ทานอาหารอยู่กับเพื่อนๆอย่างเคย แต่วันนี้ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ร่วมวงสนทนากับเพื่อน แต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่

แม้เธอจะพยายามทำหน้านิ่งๆ แต่ก็มีหลุดอมยิ้มออกมาบ้าง อ่านอะไรกันนะ

ในห้องสโมสร เธอก็ยังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือที่ดูจะเป็นเล่มเดียวกับเมื่อกลางวัน บางทีก็หัวเราะคิกคัก ท่าทางจะสนุกมาก

เธอเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ พอเห็นผมมองอยู่ก็ส่งยิ้มให้แล้วหลบสายตาไปทางอื่น แต่ปากยังยิ้มอยู่

เห็นเธอยิ้ม ผมก็ควรจะยิ้มตามเหมือนอย่างเคย แต่วันนี้กลับรู้สึกแปลกๆกับรอยยิ้มนั่นอย่างไรชอบกล ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว….ดูเป็นรอยยิ้มไม่น่าไว้ใจและมีอะไรเคลือบแฝงอยู่จนรู้สึกเสียวสันหลัง

เมื่อขนมในจานหมดลง คุณคิโชวอินก็ลุกขึ้นยืน วางข้าวของทิ้งไว้แล้วไปตักขนมมาเพิ่ม ผมถือโอกาสนั้นไปมองสำรวจหนังสือเล่มที่ว่า หยิบมันขึ้นมาดูใกล้ๆ

มันเป็นหนังสือที่มีความหนาไม่มาก หน้าปกเป็นรูปสีน้ำที่ดูแล้วสบายตา เป็นภาพของผู้ชายสองคนในชุดสีขาวนั่งเล่นเปียโนบนเก้าอี้ตัวเดียวกันในฉากหลังที่ดูแล้วคุ้นๆ คล้ายๆว่าจะเป็นที่สโมสรนี่เลย

“กระซิบรักผ่านเสียงเพลง” คือชื่อเรื่องของหนังสือเล่มนี้ เขียนโดย เซ็นโนะ ซาระ

ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน สงสัยจะเป็นผลงานของมือสมัครเล่นที่พิมพ์ขายในอินเตอร์เน็ต

ลองพลิกไปข้างหลังหาเรื่องย่อ มันก็ดูจะเป็นนิยายรักปกติทั่วไป แต่มันไม่ปกติที่ผมเห็นชื่อตัวเองอยู่บนนั้น

“การใช้ชีวิตอยู่ข้างคนที่ไม่ได้รักตอบมันช่างเจ็บปวด ชูสุเกะที่เผชิญหน้ากับความรักที่ไม่สมหวังอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ต้องทุกข์ระทมขมขื่น….”

120 Nameless Fanboi Posted ID:uslBWCCXv

เหลือบมองไปที่ซุ้มตักขนม คุณคิโชวอินวางที่คีบลงแล้วและกำลังจะเดินมาทางนี้ในอีกไม่ช้า ผมเลยต้องรีบวางหนังสือคืนที่เพราะกลัวจะถูกดุเรื่องเสียมารยาทแอบค้นข้าวของส่วนตัวของเธอ เดินกลับไปนั่งที่เดิมกับมาซายะ มองคุณคิโชวอินที่นั่งหัวเราะคิกคักกับหนังสือต่อไป

เมื่อได้เวลาที่ต้องกลับ คุณคิโชวอินก็ลุกขึ้นยืน ปรายตามองมาทางพวกผม อมยิ้มอีกเล็กน้อยแล้วก็เดินออกไปจากห้องสโมสรอย่างเบิกบาน

ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนสาวๆจำนวนหนึ่งในห้องสโมสรจะมีสายตาแปลกๆเวลาที่มองมาทางนี้ ปกติแล้วพวกเธอมักจะมองด้วยสายตาชื่นชมหรืออะไรทำนองนั้น แต่วันนี้กลับมีสายตาที่ดูเหมือนจะรู้ทัน เห็นอกเห็นใจ หรือสายตาอยากรู้อยากเห็น...ถ้าเดาไม่ผิดล่ะนะ

ในหัวผมมีแต่คำถามว่าทำไม เกิดอะไรขึ้น แล้วหนังสือเล่มนั้นมันคืออะไรถึงทำให้เธออารมณ์ดีได้ขนาดนั้น แต่ถ้าจะถามตรงๆ เดี๋ยวจะเหมือนเป็นการแหวกหญ้าให้กระต่ายตื่นซะเปล่าๆ แถมไม่น่าจะได้คำตอบอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันด้วย ลองสืบด้วยตัวเองก่อนดีกว่า

บางที หนังสือเล่มนั้นอาจจะช่วยไขคำตอบเรื่องราวแปลกๆพวกนี้ได้
.
.
.

เมื่อกลับมาบ้าน ผมก็ลองหาชื่อนิยายเรื่องนั้นในอินเตอร์เน็ต ดูเหมือนจะดังพอสมควรเพราะมีหลายบล็อคที่รีวิวนิยายเล่มนี้ ผมเลยคลิกเข้าไปแบบสุ่มๆดูกระแสตอบรับของแต่ละบล็อค

“คราวแรกก็คิดว่า หวายย เป็นรักในรั้วโรงเรียนอีกแล้วเหรอเนี่ย น่าเบื่อจัง แต่พอได้อ่านแล้วกลับวางไม่ลง นิยายเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ความรักของวัยรุ่นทั่วไปเท่านั้น แต่มีเรื่องของการฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อให้ได้ครองรัก ทุกอย่างลงตัว กลมกล่อม ผูกโยงเรื่องด้วยถ้อยคำสวยงาม พล็อตเรื่องกระชับ ไม่มีตรงไหนเยิ่นเย้อน่าเบื่อเลย ฉันชอบมันมากๆ ขึ้นแท่นนิยายเรื่องโปรดอันดับหนึ่งไปแล้วเรียบร้อย”

“งดงาม ซาบซึ้ง ตรึงหัวใจ...ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนบรรยายเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ได้อีกแล้ว อาจารย์เซ็นโนะสร้างสรรค์ผลงานได้ยอดเยี่ยมอีกตามเคย สำนวนงดงาม เหมือนจะได้ยินบทเพลงลอยออกมาจากตัวอักษร ฉากรักก็ทำออกมาได้ดีและยอดเยี่ยม ไม่น่าเชื่อว่าคนเงียบขรึมหน้านิ่งอย่างมาซายะจะอ่อนหวานต่อคนรักได้ขนาดนี้ ทุกอย่างนุ่มนวล เต็มไปด้วยความละมุนละม่อม อ่านแล้วแทบจะละลายคาหนังสือ ดีต่อใจเหลือเกิน”

“ฉันชอบความละมุนของชูสุเกะเวลาที่อยู่กับมาซายะมากๆ ช่างอ่อนโยนเหลือเกิน อ่านแล้วเชื่อว่าพวกเขารักกันจริงๆ และมีตัวตนอยู่จริงบนโลกใบนี้ ฉันอยากจะบอกกับพวกเขาว่าขอให้รักกันนานๆนะคะ”

ชูสุเกะ….มาซายะ…..

ถึงชื่อจะเขียนด้วยคันจิคนละตัว แต่อ่านได้ว่าชูสุเกะกับมาซายะไม่ผิดแน่ มันจะบังเอิญเกินไปรึเปล่า

ผมอ่านรีวิวหลายๆอัน ทุกบล็อคให้คะแนนดีเยี่ยมเกือบหมด จะมีติบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่ก็พอจะมองข้ามได้ ไม่ได้น่าเกลียดอะไร

พออ่านรีวิวจบ ผมก็ต้องมาปรับจูนความคิดตัวเองอยู่นาน

ดูเหมือนว่านิยายเรื่องนี้จะเป็นนิยายชายรักชาย ที่ดันมีชื่อเหมือนผมและมาซายะ มิน่า คุณคิโชวอินถึงได้ยิ้มอะไรแปลกๆแบบนั้น

เธอชอบจับคู่ผมกับมาซายะให้เป็นคู่ขากันอยู่เรื่อย พออ่านเรื่องนี้ถึงได้มีความสุขขนาดนั้นเลยสินะ

เพื่อจะได้เข้าใจเธอมากยิ่งขึ้น ผมเลยคลิกเข้าเว็บเพจที่เป็นศูนย์รวมของการขายหนังสือทำมือ เข้าไปที่หมวดสั่งสินค้าออนไลน์ ดูเหมือนนักเขียนรายนี้จะมีผลงานตีพิมพ์หลายเล่มแล้ว บางเรื่องก็ขึ้นว่า Out of Stock ส่วนเรื่องที่คุณคิโชวอินอ่านมีคำว่า New! เป็นผลงานใหม่ล่าสุด

ผมคลิกสั่งซื้อมาหนึ่งเล่ม ตอนที่คลิกตกลงจ่ายเงินก็มีความรู้สึกเหมือนกำลังจะขายวิญญาณให้ปีศาจอย่างไรชอบกล แต่พอนึกถึงรอยยิ้มของคุณคิโชวอินที่อ่านอย่างมีความสุขแล้ว ผมก็ตัดสินใจแน่วแน่

กะอีแค่อ่านนิยายชายรักชายคงไม่ถึงกับตายหรอกน่า

.
.
.

121 Nameless Fanboi Posted ID:uslBWCCXv

ถึงไม่ตาย ก็เกือบๆแล้ว

ผมนั่งอึนอยู่ตรงหน้าหนังสือที่อ่านค้างไว้ครึ่งเล่ม

เนื้อหาในเรื่องเกี่ยวกับ “เอ็นโจ ชูสุเกะ” ที่แอบหลงรัก “คาบุรากิ มาซายะ” ข้างเดียวมานานเป็นสิบปี รักมาตั้งแต่แรกพบ แม้มาซายะจะเที่ยววิ่งตามใครต่อใครแค่ไหน ชูสุเกะก็จะรออยู่เสมอ คอยปลอบใจ ดูแล แม้ตัวเองจะต้องเจ็บปวดก็ตาม

ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของชูสุเกะคือการได้นั่งเล่นเปียโนเคียงข้างกับมาซายะในห้องสโมสร ช่วงเวลานั้นจะเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขที่สุด เหมือนอยู่ในโลกที่มีแต่เราสองคน คนอื่นไม่สามารถย่างกรายเข้ามาได้

ในนิยายบรรยายฉากนี้ด้วยถ้อยคำสวยหรูเหมือนอ่านบทกวี เสียงเปียโนของมาซายะและชูสุเกะขับกล่อมประสานจนเป็นท่วงทำนองเดียวกัน ฉากมาซายะได้จูบชูสุเกะเป็นครั้งแรกที่เปียโนริมหน้าต่าง อันเป็นที่ประจำที่เขาทั้งสองชอบอยู่ด้วยกัน ไปจนถึงฉากอย่างว่า มันก็เป็นนิยายที่ใช้ภาษาได้งดงามละมุนละไม เสียอยู่อย่างเดียวตรงที่พอจินตนาการเป็นผมและมาซายะ ขนแขนก็จะลุกวาบขึ้นมาทันที

ดูเหมือนผมจะได้เป็นฝ่ายรับ...เอ่อ หมายถึงฝ่ายที่ถูกกระทำ เขาเรียกว่าอุเคะ...ใช่มั้ยนะ

ส่วนมาซายะเป็นฝ่ายกระทำ เรียกว่าเซเมะ….

ร่างบาง…. เสียงหวาน... คนตัวเล็กกว่า... ผมมีอะไรที่สื่อถึงร่างบางและเสียงหวานตรงไหนกันนะ!! ผมกับมาซายะก็ตัวพอๆกันนั่นล่ะ!!

แล้วใครที่แอบรักเขามาข้างเดียวเป็นสิบปีกัน รักน่ะรักแน่ แต่ไม่ใช่มาซายะซักหน่อย...ทำไมนิยายเรื่องนี้ถึงได้เขียนออกมาแบบนี้กันห๊ะ!!

กว่าจะจบไปอีกบทก็เล่นเอาเหนื่อยไม่น้อย ผมโยนหนังสือที่อ่านค้างไว้ครึ่งเล่มไปบนโต๊ะ นวดหว่างคิ้วตัวเองแบบรู้สึกปวดหัวขึ้นมาหน่อยๆ

คุณคิโชวอินชอบแบบนี้งั้นเหรอ...ชอบที่จะเห็นผมเป็นฝ่ายถูกกระทำใช่มั้ย

เพื่อจะทำความเข้าใจในด้านนี้มากขึ้น ผมก็เข้าอินเตอร์เน็ตที่จะช่วยให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ บางบล็อคก็ให้ความเห็นว่า

“ฉันเองก็ชอบจิ้นแฟนของฉันกับเพื่อนของเขาเหมือนกัน แต่ให้แฟนฉันเป็นฝ่ายรับนะคะ ก็แหม...แฟนของฉันเวลาหน้าแดงเขินอายก้มหน้างุดๆมันน่ารักมากเลยนี่น่า ให้ความรู้สึกว่าอีตานี่เคะชะมัด”

“ใช่ๆ บางทีฉันเห็นเขาอยู่กับเพื่อนๆของเขา ทั้งที่แฟนฉันตัวสูงกว่า ล่ำกว่า แต่ฉันกลับคิดว่าถ้าสองคนนี้คู่กัน แฟนของฉันต้องเป็นฝ่ายรับอย่างแน่นอน เคะสูงกว่ามันก็เร้าใจนะคะ ความสูงมันไม่มีผลในแนวราบซักหน่อย”

“ฉันก็ชอบให้แฟนของฉันเป็นอุเคะเหมือนกันน้า แต่ฉันนี่ล่ะที่เป็นเซะเมะ จะว่าหวงแฟนก็ได้นะ แต่ฉันชอบแฟนของฉันเอามากๆเลย อยากเก็บไว้รังแกอยู่คนเดียวไม่แบ่งใคร ถ้าแกล้งให้ร้องไห้ได้น่าจะฟินฝุดๆ”

และอีกมากมายที่เหมือนจะเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าอยากเห็นคนที่ชอบเป็นฝ่ายถูกกระทำ ทำเอาผมต้องนวดขมับ รู้สึกปวดหัวขึ้นมาจริงๆ

รสนิยมบนโลกนี้มันช่างหลากหลาย...

ไม่เห็นจะเข้าใจเลย จะจินตนาการให้แฟนตัวเองตกเป็นของผู้ชายคนอื่นมันดีตรงไหนกันนะ

แต่ถ้าคุณคิโชวอินชอบแบบนี้ ผมก็จะพยายาม เผื่อจะเข้าใจคุณได้มากขึ้นอีกนิดก็ยังดี

---------------------------------------------
เรื่องนี้จะเขียนสลับมุมมองกันไป อาจจะหลุดคาร์ไปบ้างก็ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง

122 Nameless Fanboi Posted ID:JEVTF687X

>>119 -121 วงวารชิบหาย 5555555

123 Nameless Fanboi Posted ID:gP.sQIB5t

ชื่อคนแต่งดูคุ้นเคย55555 ถ้าคาบุอ่านกูว่าต้องมีการเดินไปถามเจ้าแม่ตรงๆแน่อ่ะ//แล้วแก๊งสาววายซุยรันก็จะวงแตกจนต้องไปแอบแต่งต่อใต้ดินถถถถ

124 Nameless Fanboi Posted ID:7EPGVX34+

>>199-121 กาวค่ดดี ดีงามมาก ตอนต้นบทนี่บอกเลยว่ากุกำเดาสายรุ้งทะลักอ่ะ แต่ว่าชื่อคนแต่งก็คุ้นๆยังไงไม่รู้สิ ระวังจะได้เปิดประตูสู่โลกใหม่แล้วกลับมาไม่ได้นะจ้ะ 55555

125 Nameless Fanboi Posted ID:rNLIBLuHU

>>199-121 โอ๊ยยยย มีความละมุน 5555 เล่นเอาอยากอ่านฉบับเต็มของท่านซาราระเลยค่ะ สมาคมสาววายซุยรันตั้งอยู่หนใด จิขอยื่นใบสมัครค่าาาา

126 Nameless Fanboi Posted ID:d1LrWqCSs

>>119-121 โอ้ยยยย ทำเอาอยากอ่านนิยายจริงๆขึ้นมาเลยอะ ท่านซาราระเป็นพวกเดียวกับเราสินะคะ

127 Nameless Fanboi Posted ID:Al+GOjY7q

>>119-121 You made my day

128 Nameless Fanboi Posted ID:Ndl.n/4N0

เห็นคู่คาบุเอ็นโจแล้วก็นึกถึงสมัยท่านพี่กับอิมาริเรียนอยู่ จะมีคนจิ้นสองคนนี้รึเปล่าหว่า หรือไม่ต้องจิ้นเพราะเห็นๆกันอยู่แล้วว่าใครเป็นตัวจริง 5555555555

129 Nameless Fanboi Posted ID:RXuXw/yRB

ขอเอ็นโจคาบุบ้างได้ไหมคะ😚😚💕💕

130 Nameless Fanboi Posted ID:t5t18Ndl+

>>119-121 โว้ยยยยยยยยยยย วงวารจอมมาร 5555555555555555555555555555555555555555555555

131 Nameless Fanboi Posted ID:ZxLNJ4El6

555 ร่างบาง เสียงหวาน แต่ที่จริงผมกับมาซายะก็ตัวพอๆกันนั่นล่ะ!!

กูอ่านฟิกวายทั่วๆ ไปไม่ค่อยรอดเพราะมักจะเจอคีย์เวิร์ด 2 คำนี้นี่หละ ทำไมอีกฝ่ายต้องออกสาวซะขนาดนั้นวะ เคะนี่ร่างบางตลอดๆ เจอทีไรกูก็นึกทุกทีว่า มันจะแมนๆ ด้วยกันไม่ได้เรอะ ฮ่วย

ว่าแต่ท่านเอ็นโจกรูจะต้องยอมขายวิญญาณให้ซาตานเพื่อคุณคิโชวอินเหรอเนี่ย เห็นสาวเค้าชอบแบบนั้นแต่จะเอาใจเค้านี่มันเฉียดๆ พลีชีพเลยนา จะไหวเร้อ แค่อ่านฟิกก็ขนแขนสแตนด์อัพแล้วน่ะ 555

132 Nameless Fanboi Posted ID:ktVDfdVxW

>>131 ทำให้นึกว่าถ้าฮีไปเจอคุณคิโชวอินกำลังอ่านเล่มที่ตัวเองเป็นเมะ มาซายะเป็นเคะแล้วฮีจะทำโชว์เลยป่ะวะ เชยคางมาซายะน้อยงี้ เซอร์วิสเล็กๆ น้อยๆ ผมยินดีบริการเพื่อให้คุณมีความสุข ถถถถถถถถถถ

133 Nameless Fanboi Posted ID:ZxLNJ4El6

>>132 เออเนอะ ถ้าตัวเองเป็นเมะอาจจะพอทำใจได้มากกว่าป่าว 555

134 Nameless Fanboi Posted ID:YadRN23BY

>>132 แล้วไซซายะก็จะนึกว่าเอ็นโจโดนปีศาจเข้าสิง.....
>>128 กูว่าจับคู่จนเบื่ออ่ะมึง วัตถุดิบทุกวัน 108auเอาให้แม่งครอบจักรวาล5555

135 Nameless Fanboi Posted ID:u2E.bZxHE

>>134 ไอระกับยูริเอะอาจจะมีฟิค มีโดคู่นี้จนเต็มห้องก็ได้นะ 55555555555

136 Nameless Fanboi Posted ID:ChuaaCOEQ

บล็อกหมายเลข3นี่ซากุระจังรึเปล่านั่น...

137 Nameless Fanboi Posted ID:u2E.bZxHE

>>136 คนแรกกูเดาว่าน่าจะเป็นมิฮารุ ส่วนคนที่สองน่าจะคุณโนโนเสะ คนที่สามซากุระจัง 55555555

138 Nameless Fanboi Posted ID:ktVDfdVxW

ถ้ายูกิโนะคุงไปหยิบนิยายเล่มนั้นมาอ่านต่อจะเป็นไงวะ จะสนองบุญคุณพี่ชายด้วยการเป็นพ่อสื่อให้กับมาซายะไหม 555555

139 Nameless Fanboi Posted ID:LH9+4QLGq

โอยยยย ฟิคดีงามเว่อออออ แต่ถ้ากุจิ้นนี่ไซซายะต้องเคะเซ่55555ซื่อๆงี้โดนจอมมารหลอกแต๊ะอั๋งบ่อยๆ ฮี่ๆๆๆ

140 Nameless Fanboi Posted ID:kJR6ZZEJa

>>119-121 ฮืออออออ กูรักฟิคนี้ เอาอีกค่ะเอาอีกกกก

141 Nameless Fanboi Posted ID:o/aqFt.YA

มาต่อกันกับซีรีย์สาววายซุยรัน
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/5401/119-121
-------------------------

ช่วงนี้ใกล้สอบเก็บคะแนน ฉันเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีก็เลยชวนทาคามิจิมาอ่านหนังสือด้วยกันตอนสุดสัปดาห์นี้

ฉันเป็นผู้ชายที่เตรียมพร้อม ก่อนไปชวนก็หาข้อมูลจากนิตยสาร ก็เจอคาเฟ่บรรยากาศดีๆที่สามารถใช้ติวหนังสือสอบได้ด้วย พอบอกไปแบบนั้นทาคามิจิก็ตกลงง่ายๆพร้อมกับรอยยิ้มน่ารักที่ทำให้หัวใจพองโต

ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมที่สุด

ฉันอ่านหนังสือทบทวนก่อนที่จะไป เผื่อว่าทาคามิจิทำข้อไหนไม่ได้ ฉันก็จะแสดงตัวเป็นสุภาพบุรุษ “ช่วยไม่ได้นะ เดี๋ยวจะสอนให้ก็แล้วกัน” ทาคามิจิจะต้องประทับใจฉัน ตอนเย็นอาจจะชวนไปทานดินเนอร์เบาๆในร้านสามัญชนแบบบ้านๆ บางทีอาจจะชวนไปเที่ยวที่ไกลๆผ่อนคลายบรรยากาศหลังสอบเสร็จ ที่ไหนดีนะ...ทุ่งดอกไม้ ทะเล ภูเขา แม่น้ำ

ต้องเอาเป็นสถานที่ที่ไม่ไกลจากโตเกียวมาก เดินทางไปเช้าเย็นกลับได้ ทางบ้านทาคามิจิจะได้ไม่เป็นห่วงที่พาลูกสาวเขาไปไหนไกลๆ

ฉันเปิดนิตยสารหารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวอีกหน เจออะไรน่าสนใจก็แปะโพสท์อิททิ้งไว้ก่อนแล้วค่อยมารวบรวมข้อมูลเพื่อการตัดสินใจในทีเดียว อ่านจนหมดกองก็เอามาคัดเลือกอีกทีจนได้มาสองสามที่ที่คิดว่านี่ล่ะ โอเค

โอ๊ะ ตีสองแล้วเหรอ...พรุ่งนี้มีนัดกับทาคามิจิ รีบนอนดีกว่า เดี๋ยวหน้าโทรมขึ้นมาล่ะแย่เลย
.
.
.
.

ฉันนัดเจอกับทาคามิจิที่หน้าสถานีรถไฟใกล้ๆกับคาเฟ่ร้านนั้น พอลงจากรถได้ไม่นานก็เจอทาคามิจิที่วิ่งเหยาะๆข้ามถนนมาหา สองข้างแก้มขึ้นสีชมพูระเรื่อนิดๆ มีเหงื่อซึมไรผมเล็กน้อย

“ขอโทษนะที่มาช้า รอนานมั้ยคาบุรากิคุง”

“ฉันเพิ่งมาถึงเหมือนกัน”

ฉันยิ้มให้ทาคามิจิ ลอบสังเกตรายละเอียดประจำวันไปด้วย วันนี้ทาคามิจิแต่งตัวด้วยชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่ดูหลวมๆกับกางเกงขายาวสีดำ สะพายเป้สีน้ำตาลอ่อนไว้ข้างๆ ในมือถือหนังสือแบบเรียนอยู่สองสามเล่ม

เหมือนทาคามิจิจะสังเกตถึงสายตาของฉันที่มองหนังสือในมือ เพราะพูดขึ้นมาว่า “อ๋อ พอดีตอนนั่งรถไฟมาเกิดนึกวิธีแก้โจทย์ออกก็เลยหยิบหนังสือขึ้นมาทำน่ะ ทำเพลินไปหน่อยจนเกือบเลยสถานีแน่ะ”

ว่าแล้วทาคามิจิก็หัวเราะแหะๆออกมา ส่วนฉันส่ายหน้านิดหน่อย “ไม่ไหวเลยนะ”

เราสองคนเดินคุยกันไปตลอดทางที่จะถึงคาเฟ่ สั่งเครื่องดื่มและขนมกันคนละอย่างสองอย่างแล้วเดินถือถาดเข้าไปนั่งที่โต๊ะที่มันว่างอยู่ ได้โต๊ะมุมในสุดที่ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวพอดี

ทบทวนเนื้อหาจนทะลุปรุโปร่ง ฉันก็ท้าทาคามิจิแข่งกันทำโจทย์คณิตศาสตร์ ยัยนั่นก็ตกลงง่ายๆ ไฟแห่งการแข่งขันโหมกระพือในดวงตา

ภาพที่ทาคามิจิตั้งอกตั้งใจทำโจทย์ บางทีก็ขมวดคิ้วหน่อยๆตอนที่แก้โจทย์ยังไม่ได้ แต่พอแก้ได้ก็ยิ้มออกมาแบบดีอกดีใจ ช่างดูน่ารักอะไรอย่างนี้

ฉันแก้โจทย์เสร็จแล้วก็นั่งจ้องทาคามิจิที่มุ่งมั่นกับการเขียนคำตอบ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าฉันจ้องอยู่

เวลาที่ตกลงกันไว้คือสามสิบนาที ฉันทำโจทย์เสร็จหมดทุกข้อ ส่วนทาคามิจิเหลืออยู่สองข้อ พอรู้ถึงความพ่ายแพ้ ยัยนั่นก็ฟุบลงกับโต๊ะแบบหมดแรงหน่อยๆ

“โธ่ แพ้คาบุรากิคุงอีกแล้วอ้ะ”

“จะเอาชนะฉันมันยังเร็วไปร้อยปี”

“เดี๋ยวขอแก้มือก่อน คราวนี้ต้องทำได้แน่ๆ”

“รับคำท้า” ฉันยิ้มให้ทาคามิจิ หยิบแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม

142 Nameless Fanboi Posted ID:o/aqFt.YA

สถานการณ์ที่ซ้อมมาตอนนั่งแก้โจทย์ได้เป็นจริงขึ้นมาตอนนี้ ฉันอธิบายข้อที่ทาคามิจิเว้นไว้ให้ฟัง พอยัยนั่นเข้าใจแล้วก็ยิ้มขอบคุณออกมา แล้วก็บอกว่าจะเลี้ยงขนมเอง

ฉันมองตามแผ่นหลังของทาคามิจิที่เดินไปสั่งขนมกับเครื่องดื่มชุดใหม่ หน้าเคาน์เตอร์มีคิวยาวเหยียด พอบอกว่าจะไปช่วยรอ ทาคามิจิก็บอกว่าไม่เป็นไรให้ฉันอยู่เฝ้าโต๊ะไว้ดีกว่า ฉันเลยต้องตกลงตามนั้น

สงสัยวันนี้พระเจ้าจะดลบันดาลโชคให้ฉัน ทุกอย่างเพอร์เฟคจนไม่รู้จะเพอร์เฟคไปได้มากกว่านี้ยังไงแล้ว

ก่อนทาคามิจิจะกลับมาที่โต๊ะ ฉันก็เตรียมพร้อมสำหรับโจทย์ของวิชาถัดไป ทาคามิจิบอกว่าขนหนังสืออ้างอิงมาด้วย ถ้าฉันอยากอ่านก็เชิญได้เลยตามสบายไม่ต้องเกรงใจ

เมื่อเจ้าของเขาอนุญาต ฉันเลยหยิบหนังสือขึ้นมาเปิดดู ไล่เรียงเนื้อหาที่คิดว่าน่าจะออกสอบไปด้วย ทาคามิจิแปะโพสต์อิทไว้คร่าวๆบ้างแล้ว แต่ฉันคิดว่าอาจจะมีมากกว่านี้ก็เลยมองหาหนังสือเล่มอื่นๆจากกองหนังสือที่อยู่อีกมุม

ฉันพลิกๆหนังสือไล่เรียงตามสันขอบหนังสือหาเล่มที่ต้องการ ขณะที่กำลังเลือกอยู่นั้นก็เจอสิ่งแปลกปลอมอยู่ข้างในกองหนังสือที่ทาคามิจิถือมาตอนเจอกันที่หน้าสถานีรถไฟเข้าให้

สิ่งแปลกปลอมที่ว่ามันก็คือหนังสือ...แต่ไม่น่าจะใช่หนังสือเรียนหรือหนังสืออ้างอิงที่ฉันกำลังหาอยู่ เพราะหน้าปกหนังสือเล่มนั้นคือผู้ชายสามคนอยู่ในท่าที่ค่อนข้างล่อแหลมอีโรติค

เอ๋!?

นี่คือสิ่งที่เขาเรียกว่า Boy’s Love ใช่มั้ยนะ….

ลองมองแบบพิจารณาดูดีๆ ทั้งสามคนนี้เสื้อผ้าหลุดรุ่ย โดยเฉพาะนายคนผมดำที่อยู่ตรงกลางนั่นดูเหมือนจะไม่ได้ใส่อะไรเลย มีแค่มือกับขาของผู้ชายสองคนที่อยู่ข้างๆปิดบังร่างกายไว้แบบหมิ่นเหม่ แถมยังมีปลอกคอและโซ่ล่ามข้อเท้าไว้ด้วย รอบตัวเกลื่อนกลาดด้วยอุปกรณ์เล่น SM ทั้งสามอยู่บนฉากหลังที่น่าจะเป็นเตียงหรือห้องนอน สีหน้าเจ้าผู้ชายสองคนที่อยู่ข้างๆดูชั่วร้ายอย่างบอกไม่ถูกจนรู้สึกขนลุกเบาๆ

“พิษรัก พันธนาการหัวใจ” ฉันอ่านชื่อหนังสือ ไล่สายตามาเรื่อยๆก็เห็นชื่อคนแต่งพิมพ์นูนออกมาจากหน้าปกเล็กน้อยด้วยตัวอักษรสีม่วงเข้ม “ฮางิ” ชื่อเพราะใช้ได้

ฉันเหลือบมองทาคามิจิที่ยืนต่อแถวรอเครื่องดื่มอยู่ ท่าทางจะยังไม่มาในเร็วๆนี้ ในหัวคิดลังเลตีกันไปหมด ไอ้อยากรู้มันก็อยากรู้ แต่ถ้าทาคามิจิจับได้ล่ะก็ จบเห่แน่ๆ

สุดท้าย ความอยากรู้อยากเห็นก็เป็นฝ่ายมีชัย ฉ้นแง้มๆดูหน่อย อาจจะเสียมารยาทไปสักนิด แต่ฉันอยากรู้จริงๆนี่นาว่าทาคามิจิชอบอะไร

มีที่คั่นหนังสือคั่นไว้ตรงบทที่ยังอ่านไม่จบ ฉันว่าจะเริ่มจากจุดนั้น แต่ยังไม่ทันจะได้สัมผัสหน้ากระดาษ ทาคามิจิก็เรียกมาจากทางด้านหลังทำให้ฉันสะดุ้งเฮือก

ฉันหันหน้าไปหา เอาตัวบังตอนรีบซ่อนหนังสือเล่มนั้นไว้กับกองชีททั้งหลาย พยายามตีหน้านิ่งๆให้ดูมีพิรุธน้อยที่สุด

“ขอโทษนะ คิวยาวมากเลยล่ะ” ทาคามิจิทำหน้าแหยๆ “คาบุรากิคุงรอนานคงรู้สึกไม่ดีสินะ”

“ไม่เลย ไม่ซักนิดเดียว” ฉันส่ายหน้าไปมา ในหัวหมุนติ้วๆคิดเรื่องเบี่ยงเบนความสนใจของทาคามิจิ

“คาบุรากิคุงเป็นอะไรรึเปล่า ดูหน้าซีดๆนะ...ไม่สบายเหรอ”

“เปล่าหรอก ฉันแค่...แค่หิวนิดหน่อยน่ะ”

“เอ๋ อย่างนั้นเหรอ”

“หลังจากเลิกอ่านหนังสือแล้ว ไปหาอะไรทานกันมั้ย” ใช่...เรื่องนี้น่าจะโอเคอยู่ แถมยังชวนไปต่อได้แบบเนียนๆอีกด้วย

ทาคามิจิดูจะไม่สงสัยอะไรและตอบตกลงด้วยคำพูดที่ฟังดูน่ารัก ทำให้โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพูขึ้นมาในทันที

“เอาสิ ฉันก็รู้สึกหิวนิดๆเหมือนกัน”

โอ้ พระเจ้า วันนี้เป็นวันโชคดีของฉันจริงๆ
.
.
.
.

143 Nameless Fanboi Posted ID:o/aqFt.YA

เราไปต่อกันที่ร้านโอโคโนมิยากิ คุยกันเบาๆถึงเรื่องสอบและเรื่องสถานที่เที่ยวหลังสอบเสร็จ ทาคามิจิดูจะสนใจทุ่งดอกเนโมฟีลาเป็นพิเศษ ดอกไม้สีน้ำเงินที่บานพร้อมกันเป็นล้านๆดอกดูงดงามเหมือนความฝัน งั้นตกลงเอาที่เดทที่ต่อไปคือที่นี่ล่ะนะ

ฉันแวะร้านหนังสือเพื่อซื้อนิตยสารกลับไปศึกษาข้อมูลวางแผนเดท แต่พอเปิดกระเป๋าจะหยิบเอาออกมาอ่าน หนังสือเจ้าปัญหาเล่มที่ว่าก็โผล่ออกมาด้วย สงสัยจะติดมาตอนเก็บของใส่กระเป๋าที่คาเฟ่แน่ๆ

แม้หน้าปกจะทำให้รู้สึกตะขิดตะขวงใจแค่ไหน แต่ตอนนี้ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้สำรวจความชอบของทาคามิจิ ฉันเลยเปิดจากหน้าที่ถูกคั่นไว้

‘...มาซายะนั่งอยู่บนพื้น สองมือมัดไพล่ไปด้านหลังจนดูเหมือนจะดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนที่ฝ่าเท้าในรองเท้าหนังชั้นดีวางทาบลงมาตรงกลางร่างกายของเขาแล้วเลื่อนขึ้นลงไปมา เขาก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืน

“ยะ อย่า...ชูสุเกะ” ลมหายใจเขาขาดเป็นห้วงๆ รู้สึกทรมานจนต้องงอตัว แต่ถึงจะบอกว่าทรมานแต่ก็รู้สึกวาบหวามและร้อนในอก แล้วยังเสียงน่าอายที่เปล่งออกไปนี่อีก น่าอดสูเหลือเกิน

“อยากให้หยุดจริงๆเหรอ มาซายะ” ชูสุเกะกระตุกโซ่ที่รั้งปลอกคอให้มาซายะเงยหน้าขึ้น ดูชอบใจที่เห็นเขาบิดตัวไปมา ใบหน้าแดงก่ำ “ร่างกายของนายไม่เห็นจะบอกแบบนั้นเลยนี่”

“มะ ไม่จริง” มันคือคำโกหกคำโต เขารู้อยู่แก่ใจ ร่างกายเขารู้สึกดีอย่างที่ชูสุเกะว่าไว้จริงๆ

ตอนที่กำลังจะไปถึงฝั่งฝัน อยู่ๆ ชูสุเกะก็หยุดทำไปซะดื้อๆ ตีสีหน้ายิ้มแย้มไม่รู้ไม่ชี้ แต่คราวนี้เขาทรมานของจริง สีหน้ามีแต่คำถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้

“ก็มาซายะบอกว่าอย่าตลอดเวลาเลยนี่นา ผมก็เลยทำตามคำพูดของนายน่ะสิ” ชูสุเกะหัวเราะ “เอาใจยากจังเลยนะ”

สายตาของชูสุเกะหรี่ลง มองด้วยแววตาเหมือนนายพรานกำลังล่าเหยื่อ เป็นสายตาที่เหมือนจะกลืนกินเขาเข้าไปทั้งตัวไม่ให้เหลือแม้แต่กระดูก

“ถ้าอยากให้ทำต่อ...ก็ลองพูดขอร้องดูสิ”

เสียงกระซิบนั่นราวกับปีศาจล่อลวงให้ทำตาม ปากเขาเม้มแน่น แต่ร่างกายสั่นตอนที่จะเอ่ยถ้อยคำสั้นๆที่ดูเหมือนจะยากที่สุดในโลก

“.....ได้โปรด”
.
.
.
ได้โปรด…..

ฉันอ้าปากค้าง มองหนังสือในมือแล้วสลัดทิ้งเหมือนกับมันคือของร้อน กระโดดหลบไปอยู่อีกมุมแบบไม่กล้าเข้าใกล้

นี่มันอะไรก๊านนนนนน!!!!

ทำไมชื่อของฉันและชูสุเกะถึงได้ไปอยู่บนนิยายพรรค์นี้ แถมในนิยายฉันยังเป็นฝ่ายถูกกระทำอีกต่างหาก ไม่ตลกนะเฮ้ย ฉันควรจะเป็นฝ่ายกระทำมากกว่า...เอ่อ ไม่ได้หมายความว่าฉันอยากจะทำเรื่องแบบนั้นกับชูสุเกะหรอกนะ ไม่ใช่เด็ดขาด

ผ่านไปหลายชั่วโมง ฉันสงบสติอารมณ์ได้ก็หยิบหนังสือขึ้นมาใหม่ คราวนี้คิดไว้ว่าจะตั้งใจอ่านดู

ถ้าทาคามิจิชอบฉันก็อยากจะเข้าใจความชอบนั้นด้วย แม้จะเหมือนกลืนเลือดลงคอฉันก็ยอม
.
.
.
ตัวนิยายบรรยายด้วยภาษาเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ไม่ค่อยมีถ้อยคำสละสลวยเหมือนบทกวีเท่าไหร่ จัดว่าอ่านได้เพลินๆฆ่าเวลา

เนื้อเรื่องก็ใช้ธีมของโรมิโอกับจูเลียต ว่าด้วย “คาบุรากิ มาซายะ” ผู้นำสมาคมดอกโบตั๋น ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับทางสภานักเรียน และถือเป็นศัตรูของประธานนักเรียนอย่าง “มิซึซากิ อาริมะ” แต่ใครเลยจะรู้ว่าผู้นำทั้งสองนั้นแอบคบกันอยู่ลับๆ และเมื่อ “เอ็นโจ ชูสุเกะ” ที่เป็นเพื่อนรักของมาซายะรู้เข้า ก็ใช้เรื่องนี้ข่มขู่แบล็คเมล์ให้มาซายะมีความสัมพันธ์กับเขา

ชูสุเกะหลงรักมาซายะมาเนิ่นนาน ทนยอมไม่ได้ที่จะให้มาซายะตกไปเป็นของคนอื่น จึงได้ใช้ความสัมพันธ์ทางกายหน่วงเหนี่ยวเอาไว้ มาซายะแม้จะรักกับอาริมะขนาดไหน แต่ร่างกายของมาซายะก็ขาดชูสุเกะไม่ได้เช่นกัน ความรักที่สับสนวุ่นวายของทั้งสามคนเริ่มต้นขึ้นอย่างบิดเบี้ยวท่ามกลางการเมืองและการชิงชัยอำนาจในโรงเรียน ดั่งตระกูลมองตาคิวและคาปุเล็ตในโรมิโอกับจูเลียตก็ไม่ปาน

ม่ายยยยยยยยยยย!!!!!

ฉันกรีดร้องในใจ น้ำตาไหลพรากๆที่เห็นตัวเองในนิยายโดนกระทำย่ำยีต่างๆนานาด้วยสารพัดวิธีทรมาน และอุปกรณ์ SM แบบจัดเต็ม ชูสุเกะช่างสรรหามาเล่นกับเขาได้ไม่ซ้ำกันในทุกตอน แถมไอ้หมอนี่ยังไปสอนมิซึซากิให้ใช้ของเล่นกับเขาอีกต่างหาก

ถนอมๆร่างกายของฉันหน่อยเซ่เจ้าพวกบ้า!!!

----------------------
ทีแรกกูลังเลว่าจะเอาวาคาบะหรือคุณโนโนเสะมาเขียนฟิคมาซายะเคะดี แต่สุดท้ายหวยไปออกที่ท่านฟุยุโกะแทน 55555555

144 Nameless Fanboi Posted ID:q44B0Y3Xn

>>141-143 กุตายคาที่อ่ะ ยิ่งชอบอะไรแนวๆ3Pอยู่ ถถถถถ มึงทำให้กุจากที่นอนไม่หลับอยู่แล้วนี่ตาสว่างสุดๆไปเลย ถ้านอนก็คงนอนฝันดีอ่ะ วรั้ยยยยย

145 Nameless Fanboi Posted ID:7/cOOYpc.

>>141-143 กูอ่านไปนี่บิดเขินม้วนตัวแปดตลบ 3p bdsmช่างก๊าวหัวจัย ตอนนี้รีแอคชั่นคาบุแล้ว ตอนหน้าคงเป็นนายตัวสำรองใช่มั้ย นางต้องอึนมากแร่ๆ55555

146 Nameless Fanboi Posted ID:zhTO3NK7x

>>141-143 สาววายจงเจริญ! อ่านละกูม้วนนนน เผลอจิ้นไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะในไพรเวทยิมน่ะค่ะ ที่ชายหนุ่มสองคนในชุดออกกำลังสีดำรัดรูปออกกำลังกายกันจนเหงื่อท่วมสองคนตามลำพัง อุปกรณ์ก็เยอะด้วยนะคะ 555555

147 Nameless Fanboi Posted ID:szyUPx6N0

>>141-143 ไม่ใช่ว่าบากะก็อยากเข้าใจวาคาบะจังให้มากขึ้น แล้วเลยมาแข่งเคะกับเอ็นโจหรอกนะ //ถ้าเป็นอย่างนั้นใครจะเป็นเมะล่ะ อิมาริ?
เออพูดถึง อยากอ่านฟิคอิมาริท่านพี่อีกอ่ะ โหยหาความกร๊าวใจจจจ

148 Nameless Fanboi Posted ID:72XNxBklV

>>145 นายตัวสำรองกับรุ่นพี่โทโมเอะก็ดีน้า~

149 Nameless Fanboi Posted ID:.h8p3o6DK

อยากจะเห็นช็อตต่อไปที่คุณๆเขาจะพยายามเซอร์วิสเอาใจสาวที่ตัวเองชอบแล้วล่ะ! ดีไม่ดีพอทำแล้วต่างฝ่ายต่างก็คิดกันไปเองว่า เฮ้ยหรือว่าหมอนี่ชอบเราเหมือนในนิยายกันนะ แล้วก็จะเขินๆม้วนๆหน่อย(อันที่จริงพิจารณาจากนิสัย คนคิดไปเองอย่างนี้น่าจะมีโอกาสแค่คาบุ แต่ไม่เป็นไร ฮื่ออ งานดีอะ เกร้ดดด)//วิ่งเข้าทุ่งดอกเบญจมาศ
ปล.ที่แท้ฟุโจชิในซุยรันก็มีอยู่ไม่น้อยเลยสินะคะเนี่ย/จิบชา

150 Nameless Fanboi Posted ID:CpV3fLK40

>>149 เซอร์วิสทีนี่ต้องแย่งกันเป็นเคะด้วยรึเปล่านะ 5555

151 Nameless Fanboi Posted ID:AgfDJ9sAk

>>149 น่าจะมีอยู่แหละ แต่ส่วนใหญ่อาจจะจิ้นเงียบๆ คนที่กล้าเอามาเขียนเปิดเผยได้ต้องมีแบ๊คหนาพอควรเช่นpiv..แค่กๆ

152 Nameless Fanboi Posted ID:o/aqFt.YA

>>147 อิมาริเขามีตัวจริงของเขาอยู่แล้ว เราปล่อยมาซายะน้อยๆให้ไปเป็นของอาริมะและชูสุเกะเถิด 5555555

153 Nameless Fanboi Posted ID:CWt.Xs6kK

>>142 กรี้ดดดด 3P กับใครค้า....นายตัวสำรอง?

154 Nameless Fanboi Posted ID:MaVBPZGAO

>>141-143 เรย์กะอ่านแนวๆนุ่มนวลชวนฝัน ส่วนวาคาบะล่อแบบฮาร์ดคอร์ bdsm มาเลยวุ้ย ถถถถถถถถถ

155 Nameless Fanboi Posted ID:TtQ3xXnKB

>>154 มึงพูดแบบนี้แล้วกูก็นึกขึ้นได้ อมก วาคาบะจั๊งงง😱😱

156 Nameless Fanboi Posted ID:aavzXWNVj

>>154 เออว่ะ.....
>>149 มึง.. บรรเจิดมาก ถ้ามีต่อตอนที่ต่างคนต่างเอาใจสาวแบบนี้จริงๆ กูคงกรี๊ดสลบ 555

157 Nameless Fanboi Posted ID:1fLbF.jzl

สมกับที่เป็นวาคาบะ(....)

158 Nameless Fanboi Posted ID:JJGgHSQOc

>>119-121 >>141-143 ไม่ได้เข้าโม่งเป็นอาทิตย์มาถึงกูจัดรวดสองตอนเลย โว้ยยย กูชอบบบ555555555
ชอบความขี้เสือกของหนุ่มๆ แบบมองปกก็รู้แล้วว่ามันแนวทางสีม่วงชัดๆแต่พวกฮีก็ยังเปิดอ่านกัน แถมของมาซายะนี่เปิดมาก็โซ่แซ่กุญเจมือเลยจ้าา
วงวารรรรร55555555 ฮือ กูอยากรู้ตอนต่อไปแล้วว่าพวกนางจะจัดการกับกลยุทจีบสาวด้วยของวายยังไง กูรอตอนต่อไปนะโม่งฟิคสาววายซุยรัน

159 Nameless Fanboi Posted ID:tjB/OERHk

มาต่อกันกับซีรีย์สาววายซุยรัน
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/5401/141-143

-----------------------------

“รออยู่ที่ห้องประชุมเล็ก”

เมล์ห้วนๆแบบมะนาวไม่มีน้ำถูกส่งมาจากคาบุรากิเช่นเคยทำให้ฉันต้องเบ้ปาก อารมณ์ดีๆจากตอนที่ได้อ่านงานเขียนของอาจารย์เซ็นโนะก็เหือดหาย ขัดจังหวะการอ่านนิยายของฉันจริงๆวุ้ย

ฉันเก็บหนังสือใส่กระเป๋า กล่าวคำอำลากับสมาชิกท่านอื่นก่อนจะเดินไปยังที่ที่ได้นัดหมาย นึกในใจว่าวันนี้คาบุรากิจะเอาปัญหาอะไรมาให้อีก คงหนีไม่พ้นเรื่องงี่เง่าที่อยากทำกับวาคาบะจังแหงๆ

พอเคาะประตูห้อง คาบุรากิก็เดินมาเปิดประตูให้ ท่าทางเหมือนคนกำลังจะหมดความอดทน...อะไรยะ

“ช้าชะมัด”

“ฉันเองก็มีธุระของฉันเหมือนกันนะคะ จะเอาแต่ธุระท่านคาบุรากิมาก่อนน่ะไม่ได้หรอกค่ะ” ฉันตอบกลับไป รู้สึกยัวะขึ้นมาหน่อยๆ

“นั่งลง” คาบุรากิไม่ได้ใส่ใจคำพูดแดกดันของฉัน แต่ชี้ไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ฉันได้แต่ทำตามนั้น

“แล้ววันนี้ เรื่องที่จะพูดคืออะไรเหรอคะ”

“ฉันไม่เข้าใจทาคามิจิ…” คาบุรากิกอดอก ขมวดคิ้วเหมือนกำลังใช้ความคิด “ไม่สิ ไม่เข้าใจผู้หญิงเลยซักนิด”

ไปเจออะไรมาอีกล่ะ คัลเจอร์ช็อกจากความต่างของสามัญชนรึไง หรือวาคาบะจังไม่ยอมรับอะไรแพงๆจากนายเลยมานั่งคร่ำครวญอยู่ตรงนี้กันนะ

“ยังไงคะ”

“คือ…” มาถึงตรงนี้ คาบุรากิก็ดูอึกๆอักๆเหมือนนึกคำพูดไม่ออก

“คะ”

“เมื่อวันเสาร์...ฉันไปอ่านหนังสือกับทาคามิจิมา” คาบุรากิดูเหมือนจะตัดสินใจได้ในที่สุด “ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทาคามิจิกับฉันแข่งกันทำโจทย์ ยัยนั่นแพ้ก็เลยเลี้ยงขนมฉัน แล้วเราก็ไปต่อกันที่ร้านโอโคโนมิยากิ คุยเรื่องสอบกับเรื่องที่เที่ยว พอได้เวลากลับ ฉันเห็นว่าค่ำแล้วก็เลยขอไปส่งที่บ้าน ยัยนั่นก็ตกลง”

แววตาคาบุรากิเต็มไปด้วยความสุขตอนที่เล่าเรื่องนี้

“ก็ฟังดูดีนี่คะ” ฉันเลิกคิ้ว เดทเป็นไปได้สวยขนาดนี้ยังจะมีอะไรไม่พอใจอีกยะ

“ปัญหามันอยู่หลังจากนั้นน่ะสิ”

“ปัญหา??”

คาบุรากิสูดลมหายใจเข้าลึก ทำเหมือนเป็นเรื่องคอขาดบาดตายถ้าหากพูดออกไป วุ้ย อะไรกันนักกันหนายะ

“หนังสืออ่านเล่นของทาคามิจิติดกระเป๋าฉันมาน่ะ”

“หนังสืออ่านเล่น” ฉันทวนคำ “ก็เอาไปคืนเขาสิคะ แล้วก็ขอโทษ บอกว่ามันติดกระเป๋ามาก็สิ้นเรื่อง”

“นั่นล่ะที่เป็นเรื่องลำบากใจ” คาบุรากิถอนหายใจดังเฮือก

“ขอถามหน่อยได้มั้ยคะว่ามันคือหนังสืออะไร ท่านคาบุรากิถึงได้ดูลำบากใจขนาดนี้”

“มันคือ…..มันคือ...สิ่งที่...ดูเหมือนจะเรียกว่านิยาย Boy’s Love น่ะ”

“เอ๋”

“ฉันก็รู้มาบ้างว่าผู้หญิงเขาชอบอะไรแบบนี้กันใช่มั้ยล่ะ แต่ก็ไม่นึกเลยว่าทาคามิจิจะชอบกับเขาด้วย”

“แล้วยังไงคะ อย่าบอกนะว่าเปิดอ่านข้างในด้วยใช่มั้ยคะ….”

“ใช่...แต่อย่าเพิ่งตำหนิฉัน” คาบุรากิรีบยกมือห้าม ก่อนที่ฉันจะหลุดคำว่าเสียมารยาทออกไป “ฉันก็แค่อยากรู้ว่าทาคามิจิชอบอะไรแล้วก็พยายามจะทำความเข้าใจเท่านั้นเอง ก็เลยว่าจะลองดูนิดๆหน่อยๆ”

“แล้วดีรึเปล่าล่ะคะ”

“ไม่เลย ไม่ซักนิด” คาบุรากิส่ายหน้าหวือๆ “โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิยาย Boy’s Love ที่มีชื่อฉัน ชื่อชูสุเกะ แล้วก็ชื่อของมิซึซากิเป็นตัวเอกอยู่ด้วย”

“เห๊ะ!!”

ฉันเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจที่ได้ยินเรื่องนี้ออกจากปากคาบุรากิ ใจหายวาบลงไปอยู่ตาตุ่ม

คาบุรากิรู้เรื่องนี้แล้วเหรอ

หมอนี่จะโวยวายใช้อำนาจของจักรพรรดิสั่งให้หาตัวคนเขียนออกมาขอโทษแล้วสั่งห้ามเขียนต่อไปรึเปล่าล่ะเนี่ย ไม่นะ อาจารย์เซ็นโนะกำลังตกอยู่ในอันตราย ฉันต้องรีบเตือนทุกคนที่อยู่ในเว็บบอร์ดลับให้ระวังตัวเอาไว้ก่อน

“ในเรื่องนั้นน่ะ...ฉันถูกชูสุเกะกับมิซึซากิ...ทำเรื่องแบบนั้น” คาบุรากิเล่าอย่างกระท่อนกระแท่น สีหน้าดูสะพรึงกลัวยามเมื่อนึกถึง “แถมยังถูกจับมัดล่ามโซ่ ถูกแส้ฟาด แล้วก็ใช้อุปกรณ์….”

ฉันกระพริบตาปริบๆปรับจูนความคิดให้เข้าที่

160 Nameless Fanboi Posted ID:tjB/OERHk

ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ผลงานของอาจารย์เซ็นโนะ เพราะปกติแล้วงานของอาจารย์มักจะนุ่มนวลชวนฝัน เต็มไปด้วยความโรแมนติค สำนวนภาษาก็เหมือนบทกวี ไม่ใช่ความดิบเถื่อน ใช้โซ่แส้กุญแจมือแบบนี้

“พอได้อ่านแล้วก็เลยเข้าหน้าไม่ติดสินะคะ”

“ก็ใช่น่ะสิ” คาบุรากิพิงพนักเก้าอี้ ดูท่าทางหมดแรง “ทีแรกฉันก็ว่าจะโวยวายที่ใครก็ไม่รู้เอาชื่อของฉันกับชูสุเกะมาเขียนแบบนี้ แต่พอนึกได้ว่าทาคามิจิชอบ ฉันก็พูดไม่ออก”

“อืม…”

ประตูห้องประชุมเล็กเปิดออกพร้อมการปรากฎกายของเอ็นโจ โอ้ มาได้จังหวะดีมาก มาช่วยฉันปลอบเพื่อนนายหน่อยสิ

“ทำอะไรอยู่น่ะ”

“คุยเรื่องทาคามิจิ”

“เรื่องนั้นน่ะเหรอ” เอ็นโจถาม คาบุรากิก็พยักหน้าตอบแบบเนือยๆ “คุณคิโชวอินพอจะมีคำแนะนำอะไรดีๆบ้างมั้ย”

ถ้าเอ็นโจรู้เรื่องแล้ว คงไม่จำเป็นต้องเกริ่นนำเท้าความอะไรให้เยิ่นเย้อหรอกมั้ง...เอ้า อธิบายไปเลยก็แล้วกัน

“ถ้าเป็นเรื่องนิยาย Boy’s Love ล่ะก็...ไม่จำเป็นต้องไปซีเรียสหรอกค่ะ” ฉันให้คำแนะนำไปอย่างเอื้ออารี “ความจริงแล้วมันก็เป็นจินตนาการของผู้หญิงเท่านั้นเอง ถ้าจินตนาการนั้นไม่ทำให้ท่านคาบุรากิเดือดร้อนในชีวิตจริงหรือมีคนมาก้าวก่ายคุกคามความเป็นส่วนตัว ก็หลับตาลงซักข้างปล่อยผ่านไปเถอะค่ะ”

“แต่...ทาคามิจิจะไม่เข้าใจฉันผิดเอาเหรอ”

“ฉันคิดว่าคุณทาคามิจิแยกแยะออกนะคะ”

“ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมผู้หญิงถึงได้ชอบอะไรแบบนี้กันนะ” เอ็นโจยิ้มฝืดๆ “มันดีตรงไหนกันเหรอ”

“มันก็….”

ว่าแล้วฉันก็เลคเชอร์เรื่องชายหนุ่มที่มีโมเมนต์ร่วมกันทำให้สาวน้อยรู้สึกตื่นเต้นในหัวใจจนจินตนาการเตลิดเปิดเปิงไปว่าทั้งคู่จะมีความสัมพันธ์แบบไหนกันนะ พอได้คิดแล้วก็จะมีความสุข หัวใจพองโตไปกับความรักของหนุ่มๆเหล่านั้น

คาบุรากิกับเอ็นโจกระพริบตาปริบๆเหมือนกำลังพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่ฉันพูด แล้วก็ลอบมองกันเป็นระยะๆ

“พอจะเข้าใจมากขึ้นมั้ยคะ”

“ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี” คาบุรากิส่ายหน้า “การที่ฉันใช้ผ้าขนหนูแบบเดียวกับชูสุเกะหรือฉันเผชิญหน้ากับมิซึซากิจะเป็นโมเมนต์ให้จินตนาการได้ยังไงกัน”

“ก็นั่นผู้หญิงเขามองว่าเป็นสิ่งที่น่ารักยังไงล่ะคะ แล้วมันก็มีช่องว่างให้คิดต่อยอดได้ด้วยสิ ถ้าเคมีของทั้งสองฝ่ายเข้ากันดี เขาก็เรียกว่าเป็นคู่จิ้นกันน่ะค่ะ”

“อย่างนั้นหรอกเหรอ” เอ็นโจพยักหน้า

“และเดี๋ยวนี้ดารากับไอดอลก็ขายความเป็นคู่จิ้นกันมากขึ้นเรื่อยๆเพื่อเรียกแฟนคลับให้มาติดตาม ทางค่ายก็ส่งเสริมเรื่องนี้ด้วย เขาเรียกว่าแฟนเซอร์วิสยังไงล่ะคะ หยอดโมเมนต์เล็กๆน้อยๆเพื่อแฟนคลับเป็นการซื้อใจอีกฝ่าย”

“แต่ฉันไม่ได้อยากให้ใครมาติดตามทั้งนั้นนะ” คาบุรากิประท้วง

“แหม ก็คุณทาคามิจิชอบนี่คะ ก็ยอมๆเสียสละตัวเองนิดหน่อยเพื่อเอาใจคนที่ชอบสิคะ ไม่สึกหรอหรอก”

“ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ” เอ็นโจทำท่าลำบากใจ

“ก็ไม่ได้จะให้ไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไรหรอกนะคะ และถ้าเป็นการแสดงมันจะดูฝืนๆไม่เป็นธรรมชาติพาลให้คิดว่าเฟคเอาได้ พวกท่านคาบุรากิก็ทำตัวไปตามปกติอย่างที่เป็นแบบทุกวันนี้ก็พอแล้วล่ะค่ะ ที่เหลือก็ปล่อยให้เขาไปคิดต่อเองดีกว่า อาจจะได้เรื่องคุยกับคุณทาคามิจิเพิ่มขึ้นก็ได้นะคะ”

“เข้าใจแล้ว” คาบุรากิพยักหน้าดูเหมือนจำยอม

“คุณคิโชวอินรู้เรื่องนี้ละเอียดดีจัง...ชอบอะไรแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ” เอ็นโจถามยิ้มๆ

“เป็นการศึกษาผู้คนในหลายๆรูปแบบเพื่อจะได้เข้าใจความเป็นไปของโลกอย่างถ่องแท้ค่ะ” ฉันตอบเร็วปรื๋อด้วยคำตอบที่ซ้อมมาไว้ล่วงหน้าแล้วถ้าเผื่อถูกถาม จากนั้นก็แกล้งทำเป็นมองนาฬิกา “ได้เวลาต้องไปที่ชมรมแล้ว ต้องขอตัวก่อนนะคะ”

เอ็นโจกับคาบุรากิคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องประชุมเล็กมาพร้อมกับฉัน พอถึงทางแยกที่จะเดินไปลานจอดรถกับไปที่ชมรม เราสามคนก็แยกย้าย สองคนนั้นไปอีกทาง ฉันก็ไปอีกทาง

161 Nameless Fanboi Posted ID:tjB/OERHk

เมื่ออยู่ในทางเดินที่ว่างเปล่าไม่มีใครผ่านไปผ่านมาแล้ว มุมปากฉันก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

การชงของฉันไม่เสียเปล่าจริงๆ

ในโลกเดิมของฉัน การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยมมาก เพราะฉะนั้นก็เลยมีผลิตภัณฑ์จากแฟนๆให้เสพได้ไม่ขาดสาย ทั้งแฟนอาร์ต แฟนฟิคที่อ่านทีไรก็รู้สึกชุ่มชื้นหัวใจทุกครั้ง แน่นอนว่ารวมทั้งสาย BL ด้วย

ตอนจบของการ์ตูนคือการที่วาคาบะจังได้ครองคู่กับคาบุรากิก็จริง แต่ในเรื่องก็ยังเปิดช่องว่างให้จินตนาการถึงคู่อื่นๆด้วย และคู่ของคาบุรากิกับเอ็นโจได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากความสัมพันธ์ของสองคนนี้ รองมาก็คือคาบุรากิกับมิซึซากิ

ฉากที่เอ็นโจออกมาทำอะไรเพื่อคาบุรากิ ฉันก็มักจะคิดว่าน่ารักจังเลยน้า จินตนาการเตลิดเปิดเปิงไปว่าเอ็นโจทำถึงขนาดนี้ต้องแอบรักคาบุรากิอยู่แหงๆ จะเจ็บปวดขนาดไหนกันนะที่ต้องคอยชงให้เพื่อนไปกับคนอื่น แต่ก็ดูยินดีที่จะทำเพื่อคาบุรากิ ช่างเป็นรักที่บริสุทธิ์อะไรเช่นนี้

แน่นอนว่าแนวร่วมของฉันมีเพียบในอินเตอร์เน็ต มีหลายคนที่คิดตรงกับฉัน เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสนุกสนาน เนื่องจากเป็นเรือใหญ่ก็มีฟิคสำนวนดีๆพล็อตเรื่องเจ๋งๆอยู่เยอะแยะ ฉันเข้าเว็บบอร์ดไล่อ่านฟิคตามคำแนะนำของคนนั้นคนนี้จนตาแฉะแทบไม่ได้หลับได้นอน

และเมื่องานคอมมิคเกะมาถึง ฉันก็ไปยืนต่อแถวซื้อโดจินชิและฟิคชั่นมาเก็บสะสม เซอร์เคิลของคนที่เส้นสวยๆชื่อดังๆนี่หมดไวเชียวล่ะ ต้องวางแผนการซื้อกับเพื่อนให้ดีๆ เตรียมเงินให้พร้อมแล้ววิ่งไปเซอร์เคิลถัดไป บางบูธก็มีของแถมแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นเฉพาะในงานนี้ซะด้วยสิ

จะว่าไป ฉันยังไม่เคยไปคอมมิคเกะของที่โลกนี้เลยนี่นะ เปิดมือถือเช็คดูก็เห็นว่าอาจารย์เซ็นโนะจะออกผลงานใหม่ วางขายครั้งแรกในงานนี้ด้วย

ลองไปดูดีมั้ยน้า เผื่อจะได้ลายเซ็นจากมืออาจารย์เซ็นโนะตัวจริงเสียงจริง

----------------------------------------------------
ตอนหน้าเอามุมมองใครดี 555555555555555555

162 Nameless Fanboi Posted ID:Y6vM0Y7lb

>>159-161 มึงช่วยอย่าเอาความจริงมาเขียน 55555 ตอนหน้าเป็นมุมมองอาริมะหรือริรินะก็ดีนะคะ รับรองนางต้องมีแบ่งโดกับเพื่อนสาว KGB อ่าน 55555

163 Nameless Fanboi Posted ID:4bHZYrCpK

>>159-161 เม้นสุดท้ายนี่เสมือนว่ามึงเอาความจริงมาล้อเล่น ความทรมานของท่านเรย์กะนั้นพวกเรารับรู้ดีนะคะ! แต่ถ้าท่านเรย์กะไปปุ๊บเจอท่านซาราระ ท่านฟุยุโกะ อาเระ ที่แท้คนแต่งฟิคก็อยู่ใกล้ตัวแค่นี้//ตีให้ดรอปฟิคออกมา

164 Nameless Fanboi Posted ID:gW13/jOua

ยอดมาก คาบุเอ๋ย คนจริงจังอย่างนาย... จะยอมเซอร์วิสวาคาบะจังไปถึงไหนนะ 555

165 Nameless Fanboi Posted ID:b8ANTPEVM

ไม่มีใครทำฟิคท่านอิมาริกะท่านพี่ไว้ข้างทางบ้างหรอ ให้มาเบิกเนตรเจ้าแม่หน่อย ของดีอยู่แค่เอื้อม ท่านพี่กลับบ้านมาเจอน้องสาวเอาแต่ถามว่าเมื่อไหร่เพื่อนจะมาเยี่ยมบ้านอีก

166 Nameless Fanboi Posted ID:xGdoz0osd

>>165 รุ่นเรย์กะนี่ไม่น่าทัน อาจจะต้องเป็นท่านไอระกับยูริ

167 Nameless Fanboi Posted ID:tjB/OERHk

>>165 ถามแบบนั้นเดี๋ยวอิมาริก็มาไม่ได้ "ซักพัก" อีกหรอก 555555555

168 Nameless Fanboi Posted ID:4bHZYrCpK

>>165 ต้องมีเหลือทิ้งไว้ในห้องสโมแน่ๆ! กำชับไว้ดิบดีว่านี่น่ะของตกทอดของผู้หญิงในpivoineเรา ห้ามตกถึงมือผู้ชายเด็ดขาด*ยื่นกุญแจ*

เปิดหีบ/ตู้ปุ๊ป มีหนังสือห่อปกสีพื้นเรียบๆจำนวนมากวางอยู่อย่างเป็นระเบียบ มีแค่ตัวอักษรสองตัวและตัวเลขกำกับไว้เหมือนเป็นรหัสอะไรบางอย่าง มีสมุดขาวประทับตราสโมสรอยู่แค่เล่มเดียวเป็นคู่มือการแกะรหัสตัวอักษรและตัวเลขบนหน้าปก
รหัสตัวอักษรกับตัวเลขคือรายละเอียดนิยาย วันชอทหรือลองฟิคหรือโดจิน คู่ชิปอะไร และเป็นเล่มที่เท่าไหร่
บางเล่มเป็นเล่มพิมพ์ก็จริง แต่บางเล่มก็ถึงกับเป็นลายมือของหลายคนเขียนฟิคต่อกันไว้เป็นหน้าๆ
ท่านเรย์กะสุ่มเปิดเล่มที่ดูไม่เก่ามากนัก เจอ อิมาริทาคาเทรุ ชื่อเรื่องถูกตั้งอย่างเรียบง่ายว่า “ฝนตกในวันทัศนศึกษา” ปกนอกเป็นสีน้ำตาลเข้ม แต่ปกในกลับเป็นรูปท่านพี่นั่งพิงท่านอิมาริในชุดยูกาตะที่หลุดรุ่ยไปเกินครึ่ง โดยท่านอิมาริที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง ฝังใบหน้าลงบนหัวไหล่ของท่านพี่ มือข้างหนึ่งวางอย่างหมิ่นเหม่บนต้นขา ส่วนอีกข้าง…//ปิดหนังสือลง ไม่กล้าเปิดมากกว่านั้น
พลิกดูอันเก่าๆที่เขียนด้วยลายมือบ้างชื่อคู่ชิปคือ คาบุรากิ/คิโชวอิน คนหนึ่งเป็นผู้ชายเคร่งขรึมบ้าหนังสือ อีกคนเป็นผู้ชายเจ้าชู้รักการกินขนมหวาน ทั้งสองคนมักจะเถียงกันเป็นประจำในห้องสโมสร มีเครื่องหมายคำถามไว้ตรงกลางตัวโตๆ ตามด้วยลายมือคนเขียน“ไม่รู้ตรงกลางจะเป็นไง แต่ตอนจบคือรักกันแต่ต้องแต่งงานคลุมถุงชนตามประเพณีล่ะนะ”
มีคอมเม้นด้วยดินสอเลือนๆเขียนเอาไว้ว่า ไม่ได้นะ! เธอต้องมาแต่งให้ครบซี่~ แต่พลิกหน้าถัดไป กลับเหลือเพียงแค่รอยกระดาษฉีก ตรงปกหลังเขียนว่า เขาหมั้นไปแล้ว สั้นๆ

แค่ก กูขอโทษ กาวฟุ้งไปหน่อย
แต่ถ้าท่านเรย์กะเปิดไปเจอคู่ประธานปีที่แล้วสายซีกับคุณโทโมเอะจะเป็นยังไงนะ——

169 Nameless Fanboi Posted ID:.Si70n5Ap

>>168 มันจะมีเสียงเล่าลือเสียงเล่าอ้างในหมู่ผู้หญิงถึงมหาขุมทรัพย์ที่มีแต่สาววายใน pivoine เท่านั้นถึงจะได้อ่านรึเปล่าวะ 55555
ส่วนรุ่นพี่โทโมเอะนี่ดูรุก All มากๆ สไตล์ไม่เคยเพลี่ยงพล้ำให้ใคร ถ้าเจอกับท่านพี่ผู้หวงน้องสาวจะเป็นยังไงนะ หุหุ

170 Nameless Fanboi Posted ID:GaxDL8u27

>>169 สลับกันวันละคนสิคะ อิอิ

171 Nameless Fanboi Posted ID:hXVfG9SYW

>>169 เพราะpivoineมีกำลังซื้อ(?)มากยังไงล่ะ ซื้อ1เล่มไว้ที่บ้านอีกเล่มบริจาคไว้ในสโมสร แถมเครือข่ายกว้างไกล จะคู่เรือผีขนาดไหน เก่าแรร์ยังไง ก็สามารถหาได้ในกรุ ส่วนเล่มเขียนก็ใช้กำลั—บารมีเอามาไว้ในสโมสร

172 Nameless Fanboi Posted ID:MLLJiY8jR

>>168 กูว่าในสมัยนั้น มาดามคาบุรากิอาจจะเป็นแกนนำชิพคู่นี้ก็เป็นได้นะ 55555555555

173 Nameless Fanboi Posted ID:m4jjLYcwk

>>168 ทำไมอ่านอันนี้ละชักอยากอ่านคาบุ*เรย์กะสายซีวะ555555 เอ็นโจเรย์กะสายซีด้วย มีโม่งผู้ดีสนใจสงเคราะห์ข้าพเจ้าได้บ้าง กี๊ด

174 Nameless Fanboi Posted ID:Vcg0dLtDQ

>>173 บวกกกก กูด้วย โม่งใจดีท่านใดจะแต่ง กูรออ่านรอเม้น❤️

175 Nameless Fanboi Posted ID:jN+j0k1Gf

พวกเมิ้ง~ สายซีแปลว่าอะไรวะ

176 Nameless Fanboi Posted ID:jN+j0k1Gf

อ่อ กูกูเกิ้ลสายซีเจอละ แท้งกิ้ว

177 Nameless Fanboi Posted ID:guUYh6t.d

>>169 มา!!

"ถ้าคนน้องไม่ได้" โทโมเอะเชยคางผู้เป็นรุ่นพี่ด้วยปลายนิ้ว "แล้วคนพี่ล่ะได้มั้ย"

ทาคาเทรุยังคงยิ้มแบบไม่ยี่หระ แม้จะถูกแตะเนื้อต้องตัวในระยะล่อแหลม แต่ยังไม่ทันทีจะได้พูดอะไรออกไปก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านข้างเสียก่อน

"คนพี่ยิ่งไม่ได้เข้าไปใหญ่"

โมโมโซโนะ อิมาริ คนดังของซุยรันและในแวดวงสังคมชั้นสูงโผล่มายืนข้างๆ โอบเอวเพื่อนสนิทเอาไว้ ดึงเข้าหาตัวให้พ้นระยะที่มือของโทโมเอะเอื้อมถึง ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มประดับ แต่แผ่รังสีมืดทะมึนเสียยิ่งกว่าคิโชวอิน ทาคาเทรุตอนหวงน้องสาวเสียอีก

"เห" โทโมเอะเลิกคิ้ว แต่ปากยังคงยิ้ม

"มีธุระอะไรกับทาคาเทรุ ก็มาคุยกับฉันได้นะ คุณโทโมเอะ ฉันจะรับฟังเอง"

---------------
ตัดจบแค่นี้ ถถถถถถถ

178 Nameless Fanboi Posted ID:krhImAZND

>>177 บาป บาปมากๆ แก้กรรมโดยการมาแต่งต่อ ฟฟฟฟฟฟฟฟ

179 Nameless Fanboi Posted ID:gh7Ph9bE/

>>168 เอ่อ คู่ท่านพ่อน่ะ เป็นไปได้เหรอ เพราะถ้าดูจากอายุลูกคนแรกแล้ว (ท่านพี่ , มาซายะ) รุ่นพ่อก็น่าจะห่างกันอยู่นะ ใกล้สุดก็มอปลาย มอต้น สาวๆ ไม่น่าจะจับจิ้นกันได้นะ

180 Nameless Fanboi Posted ID:9ly1edsDc

>>179 อาจจะมาแนวกินเด็กหรือโดนเด็กกินก็ได้นะ 555555555555

181 Nameless Fanboi Posted ID:BMVUR8fEK

>>179 จักพรรดิกรูเม่ต์ม.ปลาย ปะทะเจ้าชายหนังสือม.ต้นก็ได้อยู่นะมึง

182 Nameless Fanboi Posted ID:icZlBKDW6

พบกันอีกครั้งกับซีรีย์สาววายซุยรัน
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/5401/159-161
--------------------------

ระยะนี้ ฉันติดนิยายมากเลยล่ะค่ะ

ฉันพบนิยายเรื่องนี้ในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะมีแต่เด็กซุยรันทั้งนั้น มันเป็นเว็บบอร์ดปิดที่มีการคัดเลือกสมาชิกอย่างเข้มงวดและมีแอดมินคอยควบคุมดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด ทางเข้าบอร์ดก็ลึกลับ ไม่มีทางหาเจอในเว็บ Serch Engine เด็ดขาด หากอยากจะเข้าเป็นสมาชิกต้องให้เพื่อนที่เป็นสมาชิกอยู่ก่อนหน้านี้แนะนำมา และต้องตอบคำถามแอดมินให้ได้เสียก่อน

ฉันเคยได้ยินเรื่องร้านเก่าแก่ที่หากอยากจะเป็นสมาชิกต้องให้สมาชิกที่อยู่มาก่อนหน้านั้นรับรองตัวตนเสียก่อน ไม่งั้นล่ะก็...ต่อให้รวยล้นฟ้าแค่ไหนก็ไม่มีสิทธิ์เข้า ไม่นึกเลยว่าระบบนี้จะถูกนำมาใช้กับเว็บบอร์ดด้วย สมกับเป็นโรงเรียนของเหล่าคุณหนูและคุณชายจริงๆ

เนื่องจากเว็บบอร์ดแห่งนี้หาทางเข้ายาก สมัครก็ยาก สมาชิกทุกคนจึงทำตัวดีเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ล็อกอินของตัวเองโดนแบนและบล็อก IP Address ทุกวันในบอร์ดจึงผ่านไปด้วยความสงบสุขและเอื้ออารีต่อกัน คู่ชิพแต่ละฝ่ายต่างก็หลีกเลี่ยงที่จะเปิดสงครามกัน หลบมุมอยู่ในที่ของตัวเองกันไปตามประสา

กฎเหล็กอีกอย่างของบอร์ดนี้คือ ห้ามสร้างความรบกวนหรือคุกคามชีวิตให้กับบุคคลที่ถูกจับมาจิ้นเด็ดขาด ถ้ากรี๊ดกร๊าดเรื่องนี้แบบเปิดเผยออกนอกหน้ามากไป เว็บบอร์ดนี้ก็อาจจะเป็นอันตรายจนต้องถูกปิดได้ ทุกคนก็ดูจะปฏิบัติตามกฎข้อนี้กันดี เรื่องการมีอยู่ของเว็บบอร์ดเลยไปไม่ถึงหูพวกคาบุรากิคุงและเอ็นโจคุงที่ทรงอำนาจในซุยรันเลย

ข้ามเรื่องยิบย่อยพวกนั้นไปก่อน กลับมาที่นิยายกันต่อ...คราวแรกที่ฉันเข้าเว็บบอร์ดนี้มาก็พบกับความตื่นตาตื่นใจหลากหลายอย่าง มีฟิคและแฟนอาร์ตมากมายให้เลือกเสพ ฉันคลิกสุ่มๆเข้าแต่ละกระทู้ แล้วก็พบกับของดีเข้าให้

กระทู้ที่ลงนิยายเรื่องนี้ขึ้นคำว่า Hot! อันเป็นกระทู้ที่มีคนเข้าไปตอบข้อความเยอะมาก คู่มากับกระทู้ของล็อกอินที่ชื่อเซ็นโนะ มันเป็นกระทู้นิยายที่จบไปแล้วและได้รับการตีพิมพ์เป็นเล่มแต่ยังได้รับความนิยมอยู่ บางคอมเมนต์ก็ขอภาคสองด้วยซ้ำ

อ่านไปไม่ถึงครึ่ง ฉันก็รีบหลังไมค์หานักเขียนเพื่อจะติดต่อขอสั่งซื้อหนังสือ อดใจที่จะไม่อ่านในเว็บบอร์ดให้จบ ไปลุ้นในเล่มแทน

ไม่กี่วันหลังจากนั้นมันก็มาส่งที่บ้าน วันแรกที่ได้รับมาฉันก็เอาติดตัวออกไปอ่านข้างนอกด้วย แต่อ่านเพลินไปหน่อยจนเกือบลงสถานีรถไฟที่นัดกับคาบุรากิคุงไว้แทบไม่ทัน แถมรีบวิ่งมาจนลืมเก็บนิยายลงกระเป๋าอีกต่างหาก เห็นคาบุรากิคุงจ้องเป๋งมาที่นิยายในมือฉัน ต้องเอาหนังสือเคมีมาบังไว้เบี่ยงเบนความสนใจไปก่อน

พอกลับมาถึงบ้านฉันก็บอกกับแม่และน้องว่าทานข้าวเย็นมาแล้ว แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนน้องชายก็มีแซวๆเรื่องผู้ชายมาส่งที่บ้าน ฉันเลยตบหัวไปหนึ่งทีด้วยความรัก แล้ววิ่งขึ้นบันไดกลับเข้าห้องนอน อยากอ่านนิยายตอนต่อจะแย่อยู่แล้ว

อ้าว ไม่มี

ฉันหยิบของในกระเป๋าออกมาเรียงทุกชิ้น แต่ไม่พบนิยายเรื่องนั้นอยู่ที่ไหนเลย ลืมไว้ที่ร้านติวหนังสือวันนี้รึเปล่านะ

หรือว่า…

ฉันเม้มปากแน่นตอนที่จ้องโทรศัพท์ในมือ หน้าจอค้างไว้ที่รายชื่อของคาบุรากิคุง

ปกติเราก็โทรคุยกันหรือเมล์หากันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่คราวนี้จะให้เมล์ไปถามว่า “ขอโทษนะ คาบุรากิคุงเก็บหนังสือของฉันไว้รึเปล่า” มันคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะมันคือหนังสือนิยาย Boy’s Love

ยิ่งไปกว่านั้น หนังสือเรื่องนั้นมีตัวเอกฝ่ายเคะคือคาบุรากิคุง ส่วนเซเมะมีสองคนคือเอ็นโจคุงและมิซึซากิคุง ถ้าเมล์ไปถามมันจะเป็นการกระโตกกระตากเกินไปรึเปล่านะ คาบุรากิคุงอาจจะไม่รู้ถึงการมีตัวตนของนิยายเล่มนั้นอยู่ก็ได้ เกิดไปจุดประเด็นให้สงสัยเดี๋ยวจะยุ่งไปกันใหญ่ ถ้าเกิดคาบุรากิคุงเอาชื่อเรื่องไปหาล่ะก็..งานเข้าแหงๆ

เอาไว้วันจันทร์ค่อยแย็บๆถามดูก็แล้วกัน

183 Nameless Fanboi Posted ID:icZlBKDW6

วันจันทร์มาถึง ฉันกะว่าจะไปหาคาบุรากิคุงซักหน่อย แต่น่าแปลกที่หาที่ไหนก็ไม่พบ ทั้งๆที่คาบุรากิคุงออกจะโดดเด่นแท้ๆ รู้สึกเหมือนหยั่งกะโดนหลบหน้ายังไงยังงั้นล่ะ

กำลังคิดว่าถ้าเจอหน้าจะเกริ่นๆเรื่องนิยายอย่างไรดี อยู่ๆคาบุรากิคุงก็เป็นฝ่ายมาหาเองในเช้าวันอังคาร เอาถุงกระดาษห่อด้วยริบบิ้นมาให้ ลองเปิดดูก็พบว่ามันคือนิยายของฉันเล่มนั้นเอง

“มันติดกระเป๋าไปวันนั้นน่ะ” คาบุรากิคุงก้มหัวให้เล็กน้อย “ขอโทษด้วยนะที่ไม่รีบเอามาคืน”

“ไม่เป็นไรหรอก แค่เอามาให้ก็ดีใจมากแล้วล่ะ” ฉันส่งยิ้มให้ “ขอบคุณนะคะ”

คาบุรากิคุงยิ้ม แต่ดูอึกอักอย่างไรชอบกล ฉันเอียงคอเล็กน้อยแบบสงสัย

“มีอะไรรึเปล่า”

“ไม่มีอะไรหรอก” คาบุรากิคุงส่ายหน้า “แค่สงสัยว่านิยายพวกนี้มันสนุกตรงไหนน่ะ”

“คาบุรากิคุงจะลองอ่านดูมั้ยล่ะ จะได้รู้ไง” พอฉันแกล้งแซว คาบุรากิคุงก็สะดุ้ง

“ไม่เอาดีกว่า แค่เห็นหน้าปกฉันก็เกรงใจแล้วล่ะ”

เห็นท่าทางหวาดๆแบบนั้น ฉันก็พอจะเดาอะไรได้รางๆ….อ่านไปแล้วสินะ

คงเจอว่าตัวเองถูกกระทำอะไรบ้างในนิยายคงจะผวาไม่น้อย ถ้าไม่เป็นแผลใจไปก็ดีน่ะสิ

ฉันทำเป็นไม่รู้เรื่องนั้น กล่าวคำอำลาขอตัวเข้าห้องเรียนคาบถัดไป คาบุรากิคุงทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูด เดินกลับเข้าห้องเรียนของตัวเองไปเหมือนกัน

คุณซึรุฮานะกระแนะกระแหนฉันเรื่องนี้ในช่วงพักกลางวัน แต่ฉันทำเมินๆไม่สนใจ นึกถึงแต่นิยายเล่มนั้นที่จะได้อ่านต่อซักที อุตส่าห์อดใจรอไม่อ่านในเว็บบอร์ด ลงแดงจะแย่อยู่แล้ว
.
.
.

184 Nameless Fanboi Posted ID:icZlBKDW6

ช่วงนี้งานแข่งกีฬาใกล้เข้ามา ฉันเองก็ลงวิ่งแข่งกับเขาเหมือนกันก็เลยต้องอยู่ซ้อมหลังเลิกเรียนด้วย มองหาคุณคิโชวอินก็ดูจะลงแข่งปาบอลอย่างเคย และกำลังซ้อมโยนบอลลงตะกร้าอย่างแข็งขัน ดีล่ะ ฉันก็ต้องตั้งใจด้วยเหมือนกัน

ขณะกำลังวอร์มร่างกายอยู่ก็ได้ยินเสียงกรี๊ดดังมาจากอีกฟาก เป็นคาบุรากิคุงกับเอ็นโจคุงตามคาด สองคนนั้นกำลังซ้อมวิ่งแข่งกันอยู่อย่างเคย วิ่งเร็วกันจังเลยน้า

คาบุรากิคุงกับเอ็นโจคุงซ้อมวิ่งเสร็จก็กลับมาที่กระเป๋าข้าวของของตัวเองที่อยู่ใกล้ๆกับจุดที่ฉันวอร์มร่างกายอยู่พอดี เอ็นโจคุงหยิบเครื่องดื่มเกลือแร่ให้คาบุรากิคุงที่เดินตามมาจากด้านหลัง

“เปิดยากชะมัด” คาบุรากิคุงนิ่วหน้าหน่อยๆตอนที่พยายามจะงัดห่วงเปิดกระป๋องแต่ทำไม่ได้ซักที เอ็นโจคุงยิ้มน้อยๆก่อนจะฉวยเอากระป๋องไปเปิดให้

“ต้องให้ดูแลตลอดเลยนะ มาซายะ”

“หนวกหูน่า” คาบุรากิคุงทำหน้ามุ่ย แต่ก็ยอมรับกระป๋องที่เอ็นโจคุงเปิดให้แต่โดยดี ยกขึ้นมาดื่มแล้วก็คุยกับเอ็นโจคุงต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนสองคนนั้นทำอะไรแบบนี้กันอยู่ทุกวันจนเป็นเรื่องธรรมดา

อุ๊ยตาย…

ฉันเกือบจะกรี๊ดออกไปแล้ว แต่ปิดปากตัวเองไว้ได้ทัน

ฉากนี้มัน...เหมือนในฟิคที่อ่านเมื่อคืนเลยนี่นา

เอ็นโจคุงที่คอยดูแลเทคแคร์คาบุรากิคุงตลอดก็ใช่ คาบุรากิคุงที่ทำหน้ามุ่ยเพราะเขิน แต่ก็ยอมให้เอ็นโจคุงดูแล มันช่างเรียลอะไรเช่นนี้

ฉันมองไปรอบๆเพื่อจะดูว่ามีใครสังเกตเห็นโมเมนต์นั้นเหมือนฉันมั้ย ก็เห็นคุณคิโชวอินจ้องเขม็งไปที่สองคนนั้น ริมฝีปากเหมือนอยากจะยิ้มแต่ก็ไม่กล้ายิ้มเต็มที่ หน้าของคุณคิโชวอินในตอนนี้ก็ดูเลยพิลึกนิดหน่อย

อื้อๆ ฉันเข้าใจอาการแบบนั้นนะ เห็นเหมือนที่ฉันเห็นใช่มั้ยคะ

ตอนซ้อมกีฬาวันนั้น ฉันไม่เป็นอันซ้อมเพราะสายตาคอยแต่จะมองหาโมเมนต์ของคาบุรากิคุงและเอ็นโจคุงอยู่เรื่อย คาบุรากิคุงที่ยิ้มกับหัวเราะตอนที่คุยกับเอ็นโจคุงให้ความรู้สึกว่าช่างน่ารักอะไรอย่างนี้

เท่านั้นยังไม่พอ ตอนเลิกซ้อมกีฬาฉันก็เจอสองคนนั้นอีกครั้งในโรงอาหารกำลังซื้อเครื่องดื่มอยู่ ดูเหมือนว่าคาบุรากิคุงอยากจะลองชิมเครื่องดื่มที่เอ็นโจคุงดื่มอยู่ก็เลยขอ เอ็นโจคุงก็ส่งให้ง่ายๆ

คาบุรากิคุงดื่มลงไปหนึ่งอึกก็เบ้ปากแล้วส่งแก้วคืนเจ้าของ

“ขมชะมัด กินเข้าไปได้ไงเนี่ย”

“มาซายะกินหวานเกินไปต่างหากล่ะ” เอ็นโจคุงหัวเราะแล้วก็ยกแก้วดื่มต่อ

..เอ๋ นี่จูบทางอ้อมใช่มั้ยคะ ตายแล้ว!!

ความตื่นเต้นฉันพุ่งสูงเกินระงับ เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างจนรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ส่วนสองคนนั้นไม่ได้สนใจคนอื่น พอกินเสร็จก็ทิ้งแก้วลงถังขยะ เดินออกจากโรงอาหารไปด้วยกัน

เหลือบมองคุณคิโชวอินที่ก้มหน้าลงมองพื้น คราวนี้เห็นว่ากำลังอมยิ้ม

นั่นแน่...กำลังคิดในเรื่องเดียวกันอยู่ใช่มั้ยคะ

ฉันที่กำลังฟุ้งซ่านสุดๆ พอขึ้นรถไฟกลับบ้านก็เปิดมือถือเช็คเว็บบอร์ด เจอกระทู้ที่เพิ่งตั้งแชร์โมเมนต์ของคาบุรากิคุงและเอ็นโจคุงในวันนี้ แม้จะตั้งมาไม่กี่ชั่วโมงแต่ก็ขึ้นแท่นกระทู้ฮอตเป็นที่เรียบร้อย มีรูปถ่ายจากที่ไกลๆแนบมาด้วย ถึงจะไม่ชัดนักแต่ก็พอดูออกว่าสองคนนั้นทำอะไรอยู่

“อ่อนโยนเหลือเกินค่ะ ท่านเอ็นโจ”

“เขายิ้มให้กันอ้ะ เขายิ้มให้กันอ้ะ แม่ขา หนูไม่ไหวแล้วค่าาาา”

“คอยดูแลตลอดไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลยนะคะ แหม ทำขนาดนี้ก็แต่งๆกันไปเหอะค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระกองอวย”

“น้ำแก้วนั้นไม่ต้องใส่น้ำตาลหรอกค่ะ เพราะมันหวานจากการกระทำของท่านทั้งสองยังไงล่ะคะ”

คอมเมนต์รันไวมาก ดูเหมือนทุกคนจะพร้อมใจกันหวีดร้อง แปะ Meme กันอย่างบ้าคลั่ง ฉันเองก็เข้าไปร่วมหวีดกับเขาด้วยเหมือนกัน ดีต่อหัวใจไม่ไหวแล้ว

ฟิคจำนวนมากมายก็ผุดขึ้นมาราวกับตาน้ำ ทั้งเรื่องสั้นและเรื่องยาวมีให้เลือกเต็มไปหมด คาบุรากิคุงกับเอ็นโจคุงช่างมีอิทธิพลต่อซุยรันเหลือเกิน

ไล่อ่านฟิคแต่ละฟิคที่ลง คืนนี้จะได้นอนมั้ยคะเนี่ย

----------------------------
ยังนึกบทอาริมะไม่ออกเลยเขียนวาคาบะก่อน

185 Nameless Fanboi Posted ID:McxiqkBFj

>>182-184 ถล่ำลึกเกินไปแล้ว วาคาบะ เมื่อก่อนเขาขรึมหล่อมาแค่ไหนก็เฉยๆ นี่เกือบหลุดกรี๊ดกร๊าดตามแฟนๆไปแล้วนะ ไม่สิการเข้าไปอ่านแล้วรีบตามซื้อทันทีแบบนี้ วาคาบะหรือความจริงแล้วเป็นสายนี้มานานแล้วกันน่ะ คิดแล้วเชียวสาวขยันหัวดีหน้าตาใช้ได้ หลุดม.ต้นมาโดยไม่มีแฟนมันต้องมีเหตุผล!!!!!!

186 Nameless Fanboi Posted ID:/lSJslATE

>>182-184 นี่มันเวบบอร์ดลับในตำนาน!
ถ้าเป็นท้องเรื่องนี้ที่วาคาบะถูกรังแกคงไม่ใช่เพราะนางเรียนเก่งเกิน แต่เพราะทำความลับรั่วไหลไปถึงคู่หูคู่จิ้นตะหาก 5555

187 Nameless Fanboi Posted ID:Mov5cEJKw

ลงทุนเซอร์วิสสาวจริงๆ ด้วยสินะไซซายะ.... นับถือหัวใจนายจริงๆ ช่างแข็งแกร่ง

เอ็นโจก็ดันเอากะเค้าด้วย เพราะเพื่อท่านเรย์กะที่แอบมองอยู่ใช่ไหม หืม หืมมม

188 Nameless Fanboi Posted ID:+SxHWtuqq

วาคาบะคงจะอยากให้พวกนายได้กันเองมากกว่าที่จะให้นายมาตามจีบอยู่แบบนี้ล่ะมั้ง มาซายะคลุงงง ถถถถถถ

189 Nameless Fanboi Posted ID:c/CmxcNFY

>>182-184 วาคาบะจัง ดิฉันเข้าใจเธอ/ทาบอก คนที่สามารถอ่านนิยายsmฉากแรงๆได้หน้าตายแถมยังเบนไปหาหนังสือเคมีกลบเกลื่อนได้ แต่สำหรับฉากกุ๊กกิ๊กเล็กๆน้อยๆอย่างการเปิดขวดน้ำ ดูแลกันละกัน กลับควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้าไม่ให้ไม่ยิ้มได้เนี่ย ฮรื่ออ เราเข้าใจมันดีย์ ทรมานสุดๆโดยเฉพาะเวลาไม่ได้อยู่กับเพื่อน ยิ้มกับนิยายกับโทรศัพท์เป็นคนบ้าเลย พอรู้ตัวก็ต้องดึงหน้า ออกมาแปลก(แบบท่านเรย์กะ)จริงหรอวะ ชห เข้าใจว่าตัวเองทำได้เนียนสุดในชีวิตแล้วนะ…

190 Nameless Fanboi Posted ID:arvStTwml

>>189 กูเคยเจอหนุ่มสองคนมีโมเมนต์น่ารักๆด้วยกัน เขาคงเป็นเพื่อนกันนั่นล่ะ แต่กูมันคนใจบาปเองที่จับพวกเขาจิ้น 5555555

มันฟีลเดียวกันเลยเว้ย รู้สึกโฮกกกก น่ารักกันจังเลยน้าพวกคุณ ดีต่อใจจริงๆ กูต้องห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มออกนอกหน้า ทำได้แค่เหล่แล้วเก็บมาอมยิ้มคนเดียว แถมมีสาวคนนึงที่อยู่ตรงข้าม เขาก็แอบเหล่คู่นั้นเหมือนกัน พอเงยหน้ามาสบตากับกูปุ๊บก็ยิ้มให้กันแบบรู้ทันทีว่า เธอคิดแบบเดียวกับที่ฉันคิดอยู่สินะ B1 ใช่ ฉันกำลังคิดอยู่เลย B2 สาววายซุยรันคงมีฟีลประมาณนี้มั้ง 5555555555555

191 Nameless Fanboi Posted ID:lyxVieEyG

>>190 กูเคยจิ้นเพื่อนในห้องตัวเอง แล้วเพื่อนกูคนนั้นมันยังมีน้ำใจเซอร์วิสพวกกูด้วยนะ ...แต่ไม่ได้เซอร์วิสกับคู่มันที่พวกกูจับให้ แถมยังไม่ยอมเป็นเคะตามมโนของพวกกูอีก!!

192 Nameless Fanboi Posted ID:C6i18obHF

>>191 ระวังโดนมองว่าคุกคามเกินไปนะมึง เพื่อนกูโดนมาแล้ว กูที่ไม่เคยไปกรี๊ดให้เห็น(แอบเล็งเงียบๆคนเดียว)ยังหน้าชาเลย

193 Nameless Fanboi Posted ID:UtDGh/gpE

>>192 กูไม่เคยกรี๊ดนะมึง พอเห็นแล้วกูก็จะทำหน้าแบบกลั้นยิ้มอ่ะ คือพวกมันเป็นเพื่อนสมัยม.ปลาย คงเป็นโมเม้นต์เอาฮามากกว่า เพื่อนกูซะอีกที่เอาลูกอมไปติดสินบนคู่จิ้นมันให้เซอร์วิสให้ดู ส่วนกู...ก็รับอานิสงค์ผลบุญจากเพื่อน
จริงๆเพื่อนกูคนนั้นก็ใส่ร้ายกูว่าเป็นคนเอาเรื่องมันไปเขียนนิยายวายด้วย กูมองทีไรมันก็จะบอกเพื่อนให้ระวังกูเอาไปแต่งเรื่อง แต่พวกมันอ่ะกลับมาเซอร์วิสกูเองโดยไม่ได้ขอ 5555

194 Nameless Fanboi Posted ID:cuXyL98dt

ขยะฟุโปรดกลับคอกนะครับ ขอความกรุณาด้วย

195 Nameless Fanboi Posted ID:cjISKrmBL

>>194 ขอฟิคทีค่ะ อาหารล่ะ อาหาร เราต้องการกาววววววววლ(◉◞౪◟◉ )ლ

196 Nameless Fanboi Posted ID:vT.4W/Wbn

>>194 แรงไปไหมคุณ

197 Nameless Fanboi Posted ID:8g+pDwsEH

>>196 อย่าไปสนใจมัน

198 Nameless Fanboi Posted ID:a+VUTkr0S

>>196 ตบบ่า/ ไม่รู้ตัวเดียวกับในห้องฟุช่วงนี้มั้ยแต่ช่างเถอะ จะว่าไปก็หายไปนานเลยนะ 555

199 Nameless Fanboi Posted ID:47G5p/5Yr

>>198 เพิ่งปิดเทอมไงมึงถถถถ กำลังว่าง

200 Nameless Fanboi Posted ID:cuXyL98dt

พวกฟุนี่ใส่ไฟเก่งจริง กูคือคาซาม่าโว้ย ไม่ใช่โทรล ไม่ใช่เด็กมัธยมเห่อหมอย คอกฟุเขาก็กั้นไว้แล้ว ทำไมไม่อยู่ให้เป็นที่ทางวะ

201 Nameless Fanboi Posted ID:HgrQf0l1R

>>200 ค....คาซาม่า

202 Nameless Fanboi Posted ID:cjISKrmBL

>>200 คาซาม่าก็ต้องทำตามสถานที่ ตรงนี้มันแดนกาว เอากาวมาแลกเปลี่ยนสิ ขอฟิคคคห้องนี้ต้องการกาววว จะคาซาม่าใส่ก็ขอกาวววว
เอาฟิคมาาาาาาヽ(`Д´)ノ

203 Nameless Fanboi Posted ID:FBd23Jjbe

>>200 อ้าว หลงทางเข้ามาในโรงงานกาวและไร่กัญชาเหรอจ๊ะ มาๆ กินน้ำชาจิบกาวให้ชื่นใจก่อนแล้วค่อยออกเดินทางนะ

204 Nameless Fanboi Posted ID:cwcOe05Wb

คาซาม่าคืออะไร

205 Nameless Fanboi Posted ID:a+VUTkr0S

>>200 กูก็บอกอยู่ว่าไม่แน่ใจ แม่งโมโหโกรธาง่ายจัง ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ดิ 555

206 Nameless Fanboi Posted ID:8g+pDwsEH

>>204 ตัวละครในชินจังจอมแก่น คุณชายบ้านรวย หัวดี เพอร์เฟค ชอบอวดรวย ชอบการ์ตูนผู้หญิง เคยแต่งครอสเดรส ถูกชินจังเล่นมุกวายๆใส่บ่อยๆแถมเจ้าตัวก็หน้าแดงขวยเขินด้วย

207 Nameless Fanboi Posted ID:cwcOe05Wb

>>206 ขอบคุณมาก แต่เอาตามนั้นตรงๆเลยสินะ ฮา

208 Nameless Fanboi Posted ID:cjISKrmBL

>>207 ไม่ๆ ถ้าความหมายตามโม่งคือ พวกบ้าจัดระเบียบ/ขี้ฟ้องอ่ะ เอะอะก็บอกผิดห้องเอะอะก็ไปฟ้องแอดมินไรงี้

209 Nameless Fanboi Posted ID:cwcOe05Wb

>>208 ......วันนี้ถือว่าได้ศัพท์ใหม่แล้ว

210 Nameless Fanboi Posted ID:on7pM9+h6

รู้แล้วก็ไม่ต้องไปสนใจนะเพื่อนโม่งนะ ลงฟิคกาวต่อเถอะ ข้าจาลงแดงแร้ววววว

211 Nameless Fanboi Posted ID:tCF9Y8n5l

โอ๊ยตายยยยกูตาย เจอฟิคสายวายไป55555 เออน่ากูก็ไม่ใช่สายวายแต่ฟิคมันน่ารักดีเป็นแค่ความจิ้นในจิ้นอีกที5555 ชอบเวลาพวกหนุ่มเจอแล้วแบบอะไรว่ะ5555

กูเคยเปิดอ่านการ์ตูนวายผ่านๆเลยแล้วพี่ชายกูมาเจอตอนฉากกำลัง.... มันบอกน้องกูเป็นคนแบบนี้หรอ แล้วก็ขำๆมันเป็นแค่ความชอบในจินตนาการไม่ได้ไปทำร้ายใคร แฟนกูก็ไม่ว่าอะไรนะมองขำด้วย พวกผู้ชายยังชอบสายยูริเยอะเลย บางคนแอบจิ้นด้วยซ้ำ

212 Nameless Fanboi Posted ID:mknhPEun3

>>211 พอมึงพูดละนึกได้ ถ้าท่านพี่มาเห็นเจ้าแม่กำลังอ่านนิยายงายจะเป็นยังไงวะ ตีเนียนว่าไม่รู้หรือมายิ้มอบอุ่นใส่แล้วไปบ่นให้อิมาริฟังทีหลัง

213 Nameless Fanboi Posted ID:Kg8WF7TkE

>>212 ท่านพี่รู้ว่าน้องชอบแบบนี้ เลยเซอร์วิสวายกับอิมาริเป็นการเอาใจเจ้าแม่ตามไปอีกคน//อะไรนะ ไม่ใช่เซอร์วิสแต่มันคือเรื่องปกติธรรมดาที่ทำอยู่ทุกวันเหรอ

214 Nameless Fanboi Posted ID:YO/l1hOS.

จริงๆฟิกมันก็ไม่วายนะ แค่ฟิกสาววานเฉยๆ. คาซาม่าใจเย็นๆ

215 Nameless Fanboi Posted ID:28Kbh+efV

>>214 จริงด้วยนาจา ในฟิคเอ็นโจก็ยังชอบเจ้าแม่ คาบุก็ยังชอบวาคาบะจังอยู่นะ

216 Nameless Fanboi Posted ID:yejp3RtQi

เปิดมาเกาะประตูสโมสรรอกาวทุกวันเลยนะคะโม่งฟิคขา/ทำตาปิ๊งๆ

217 Nameless Fanboi Posted ID:SI9cPqPTU

กูอยากแต่งฟิคถวายฮิโยโกะซามะว่ะ แต่คิดพล็อตไม่ออกเสนอมาที

218 Nameless Fanboi Posted ID:KsmbIJHto

>>217 ต้องการคู่ไหนไอเดียไหนละเพื่อนโม่ง กูละอยากส่งออกกาวไทยให้ท่านฮิโยโกะอ่านบ้าง เพื่อแกจะมีกำลังใจลุกขึ้นมาเขียนต่อ นี่แว้บไปดูนาโร่ตรงแอคเคาท์แกแล้วมีตะคนทวงงาน สงสารละเกิน

219 Nameless Fanboi Posted ID:SI9cPqPTU

>>218 อยากส่งออกกาวไทยสู่ญี่ปุ่นเหมือนกัน ติดอยู่สองอย่าง รู้แต่ภาษาไทย กับ ขี้เกียจ

220 Nameless Fanboi Posted ID:QoIccISPR

ถ้าเป็นกาวอิ้งค์หย่อนลงไปคนจะแตกตื่นกันปะวะ..

221 Nameless Fanboi Posted ID:KsmbIJHto

>>220 ถ้าเป็นใน pixiv คนก็เฉยๆ อยู่นะ กูเคยเห็นฟิคจีนที่โน่น (ไม่ใช่ท่านเรย์กะนะ เรื่องอื่น) แต่เกรงจะไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายนี่แหละ

222 Nameless Fanboi Posted ID:fCYSbxI1B

>>220 คนญี่ปุ่นเขาไม่ค่อยอ่านภาษาอังกฤษกันด้วยรึเปล่าวะ แต่กูเคยเห็นฟิคภาษาอังกฤษใน fanfiction.net อยู่นะ ลองไปลงที่นี่ดิ

223 Nameless Fanboi Posted ID:Tw+KJP81O

นี่เพื่อนชวนไปดูไพ่ยิปซี ตอนหมอบอกให้ถามปัญหาอะไรก็ได้นี่กูควรถามว่าท่านเรย์กะจะออกตอนต่อไปเมื่อไหร่ จะเขียนต่อมั้ยได้รึเปล่าวะ หมอจะตอบกูได้มั้ย

224 Nameless Fanboi Posted ID:uNF+YGLyi

>>223 ลองเลย!! ให้ไสยศาสตร์ทำนายกัน

225 Nameless Fanboi Posted ID:YCP7MvIy8

>>223 หมอดูตอบ "นี่ก็ลุ้นๆอยู่เหมือนกัน ว่าแต่เธอชิปคู่ไหน ฉันชิปคาบุเรย์กะ

#จบเห่

226 Nameless Fanboi Posted ID:eJAquZBlG

>>225 "ชิปคู่ออฟฟิเชี่ยล ท่านเรย์กะกับเรือคานค่ะ"
#หมอหยิบไพ่ The Tower หอคอยแตกล่มสลายวายวอดให้แน่ๆ

227 Nameless Fanboi Posted ID:yhQsX/tpL

>>226 ดิฉันชิพอาหารซังกับท่านเรย์กะค่ะ เขามีลูกด้วยกันแล้วนะคะคุลลลลล

228 Nameless Fanboi Posted ID:6CY+ufeEW

พวกมึงว่าอาหารซังกับคานซัง ท่านเรย์กะรักใครมากกว่ากัน

229 Nameless Fanboi Posted ID:Y4fXUiCJ0

>>228 อาหารซังสิวะ มีพรรณนาความคิดถึงอยู่ทุกตอน ให้ความสำคัญกับเวลาที่อยู่รวมกันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นอาหารซังที่สามัญหรืออาหารซังที่ไฮโซ ท่านเรย์กะก็ให้ความสำคัญเท่าๆ กัน

230 Nameless Fanboi Posted ID:yhQsX/tpL

>>229 แบบนี้คานซังก็เป็นพระรองอะดิ ถึงเธอไม่รักก็จะอยู่ข้างๆเธอเพื่อคอยดูแลเสมอ

231 Nameless Fanboi Posted ID:h9eD8nJgc

>>229 >>230 อาหารซังเป็นร่างแยกของคานซังโว้ยยย คานซังเขาวางแผนให้ท่านเรย์กะตกหลุมไว้ดี//ทำหน้าขรึม ค่อยๆเข้าไปใกล้ให้ตายใจไงล่ะ

232 Nameless Fanboi Posted ID:Eh4vyinYd

>>231 บ้า คานซังเขาไม่ได้วางแผนอะไรเลย มีแต่เจ้าแม่ทำตัวเองล้วนๆ

233 Nameless Fanboi Posted ID:vVpmDLAGe

คานซังชอบเจ้าแม่ แต่เจ้าแม่อยากหนีคานซัง อาหารซังเลยสละตัวเองเป็นพ่อสื่อแม่ชักให้เจ้าแม่ได้กับคานซัง

เอนโจคูงง~ ถ้าไม่หาพ่อสื่อดีๆเดี๋ยวเจ้าแม่จะโดนล่อลวงไปหาคานซังเอานา

234 Nameless Fanboi Posted ID:LS6Na/Xu5

>>233 คานซังไม่ต้องล่อลวง นางเต็มใจไปหาเองตลอด แต่ทำซึนว่าไม่อยากอยู่กับคานซังไปงั้นอะ 555555

235 Nameless Fanboi Posted ID:pRBfSn.xp

กูเพิ่งลองดูบุพเพสันนิวาส ไม่รู้ทำไมนึกถึงท่านเรย์กะขึ้นมา

236 Nameless Fanboi Posted ID:vY+0egtsD

>>235 นางเอกสายแดกอะเหรอ 555555555555

237 Nameless Fanboi Posted ID:pRBfSn.xp

>>236 ไม่รู้สิ กูดูแค่ตรงที่เป็นฉาก highlight อ่ะ แต่รู้สึกเหมือนท่านเรย์กะนะ อ่จจะเพราะเกิดใหม่ล่ะมั้ง

238 Nameless Fanboi Posted ID:04kOvD0Gg

>>237 หรือว่าเพราะป้ำเป๋อๆเหมือนกัน แต่ความจริงเจ้าแม่จะดูเก็บอาการมากกว่าการะเกศหน่อยๆ(ถึงจะเก็บไม่ค่อยอยู่ก็เถอะ)

239 Nameless Fanboi Posted ID:vY+0egtsD

>>237 ก็คล้ายๆหลายอย่างนะ นางเอกชาติก่อนไม่สวย ไปเข้าร่างนางร้ายที่ตามกรี๊ดๆพระเอกจนเขาเกลียด ใช้วิธีเลวๆกำจัดผู้หญิงที่มาใกล้ชิดพระเอก แล้วก็เจอจุดจบแย่ๆ พอเข้าร่างนางร้ายมาก็เปลี่ยนไป เป็นคนน่ารักขึ้น ตลกเฮฮาขึ้น แล้วก็ทัวร์ชวนชิมในอโยธยาเช่นกุ้งเผา มะม่วงน้ำปลาหวาน หรือหมูกระทะ.....

240 Nameless Fanboi Posted ID:mK0GuhFeG

>>233 เหมือนรักสามเส้าเลยเนอะ ทั้งสามโตมาด้วยกัน คนนึงคอยเอาใจเจ้าแม่ แต่ก็มักพาปัญหาหนักอกหนักใจมาให้เสมอ ส่วนอีกคนเจ้าแม่ไม่ค่อยถูกชะตา ไม่อยากอยู่ใกล้ แต่โชคชะตาก็มักทำให้อยู่ใกล้ชิดกัน นานๆ ไปพอห่างกัน เจ้าแม่ก็มักคิดถึงเสมอมา

241 Nameless Fanboi Posted ID:Xnb5bq1DJ

เจ้าแม่โมเดล...

242 Nameless Fanboi Posted ID:vvw6cVidp

>>241 ตะ...แต่บุพเพฯ เขียนก่อนนะมึง

243 Nameless Fanboi Posted ID:vY+0egtsD

>>241 บุพเพฯลงครั้งแรกปี 52 ส่วนเจ้าแม่ลงครั้งแรกปี 56 ห่างกันสี่ปีเลยนะ

244 Nameless Fanboi Posted ID:1+L2gtTxH

>>240 อื้อหืออ พล็อตนี้ทำใจเต้น แต่จะดีกว่านี้ถ้าไม่ได้หมายถึงอาหารซังกับคานซัง

245 Nameless Fanboi Posted ID:vbbzmga+p

>>240 เอ๊ะ.... เหมือนเอ็นโจกับไซซายะเลย

246 Nameless Fanboi Posted ID:FE.J7uguW

>>244 อ๋อ ที่บอกพาเรื่องหนักอกหนักใจมาให้นี่หมายถึง หนักตัว สินะ 555

247 Nameless Fanboi Posted ID:YwAP7exTf

กูคิดถึงเจ้าแม่ เอ็นโจ วาคาบะ ยูกิโนะ ท่านพี่ เข้าโม่งมาด้วยความหวังเสมอว่าจะเจอข่าวสารว่าดิบอัพแล้ว แต่ก็ไม่... ฮือออออออ

248 Nameless Fanboi Posted ID:UmHUYJBb1

>>247 กูก็ไม่อยากจะมองโลกในแง่ร้ายนะ แต่สมมติอ.แกป่วย ไม่สบาย หรือเพิ่งเริ่มทำงานแล้วงานหนักมากจนหมดแรงพลังที่จะมาเขียน นิยายเรื่องนี้อาจจะโดนปล่อยลอยแพก็เป็นได้ //ตบปากเพี้ยะๆ ไม่เป็นมงคลเลยกู

249 Nameless Fanboi Posted ID:S.TI.PCMX

มาต่อ >>>/webnovel/4296/5-9
กาลครั้งหนึ่งในฝัน เอ็นโจ's side story 5
*************

ท้ายที่สุดหนังในค่ำคืนวันคริสต์มาสอีฟที่คิดว่าเป็นหนังรักคอมเมดี้ก็กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรม

ถ้าเพียงเรย์นะฉุกคิดให้เร็วกว่านี้หรือเปิดใจยอมรับชูจิเสียบ้างแต่แรก เรื่องก็คงไม่ลงเอยแบบนี้หรอก

แต่ก็นั่นแหละ ชูจิน่ะมัวแต่ทีเล่นทีจริงจนน่าขัดใจ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายใส่ ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าเรย์นะน่ะใจแข็งซื่อบื้อขี้หวาดระแวงแค่ไหน ซ้ำยังมีตัวร้ายที่คอยยุยงปั่นหัวอีก มาสารภาพรักก็ตอนที่สายไปแล้วทั้งหมด... เพราะปากหนักมาตลอดแท้ๆ

.....ถ้าพูดว่าสมน้ำหน้าจะเข้าตัวมั้ยนะ?

ไม่หรอกน่ะ ...ผมไม่รอให้สายไปแบบนั้นหรอกน่ะ
.
.
.

เวลาจวนเจียนจะค่ำ ร้านรวงที่ข้างทางประดับประดาไฟคริสต์มาสเริ่มเปิดไฟระยิบระยับสีสดใส คึกคักไปด้วยเหล่าคู่รักที่เดินควงคู่กันขวักไขว่ แม้จะไม่มีหิมะเสริมบรรยากาศ แต่ก็ยังคงให้ความรู้สึกที่โรแมนติกประหนึ่งต้องมนต์ความฝัน

ภายในรถเงียบสนิท นอกไปจากเสียงเครื่องยนต์ดังเบาๆแล้วก็ไร้ซึ่งเสียงใดอีก

ผมเหลือบมองคุณคิโชวอินที่นั่งอยู่ข้างๆ เหม่อมองข้างทางที่ค่อยเคลื่อนผ่านไป ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ แต่สีหน้าที่สะท้อนจากกระจกรถนั้นเห็นจะปรับเปลี่ยนอารมณ์ไปเรื่อย บ้างก็ยิ้มให้กับต้นคริสต์มาสยักษ์ที่ประดับไฟสวยงาม บ้างก็เหมือนจะอิจฉาคู่รักบางคู่ข้างนอกนั่น บ้างก็เหมือนจะนึกสงสัยหรือคิดอะไรสักอย่าง

เหมือนกับตอนเช้าเลยแฮะ ทั้งที่ร้องไห้เพราะหนังเศร้า แต่พอได้เห็นแพนเค้กก็ยิ้มแป้นทันที

ช่างเป็นคนที่เปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็วจริงๆ มองได้ไม่มีเบื่อเชียวล่ะ

ผมบีบมือของคุณคิโชวอินที่กุมไว้เบาๆ ไม่รู้ว่าเพราะมัวแต่คิดอะไรอยู่หรือว่าคุณคิโชวอินเหนื่อยที่จะมาดุว่าเนียนจับมืออีกแล้วกันแน่สิน่ะ แต่จะอย่างไหนก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดปล่อยมืออยู่ดีนั่นแหละ

วันนี้สนุกมากจริงๆ ไม่ว่าจะดูหนัง ดูท้องฟ้าจำลอง นั่งชิงช้าสวรรค์ หรือกินนู่นกินนี่ด้วยกัน อย่างกับเอาโชคทั้งชีวิตของตัวเองมาใช้ในวันเดียวอย่างนั้นแหละ ทว่าทั้งหมดนั้นไม่ใช่แผนการหลักของวันนี้หรอก

ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ คอยกระตุ้นตัวเองถึงแผนการหลักที่วางไว้ ทุกอย่างดูจะไร้ปัญหาใดๆ จะมีก็แค่สภาพจิตใจของตัวเองนั่นแหละที่ประหม่าเสียเหลือเกิน

ไม่เอาน่า ชูสุเกะ นี่หน้าด้านจูบหน้าผากเขาก็แล้ว ลากเขามาเดทวันคริสต์มาสด้วยก็แล้ว เนียนเรียกชื่อเขาจับมือเขาก็แล้ว กะแค่นี้จะมาประหม่าอะไรกันเล่า!

ทั้งที่พร่ำบอกตัวเองแบบนั้นแต่ความประหม่าก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย โดยเฉพาะยิ่งตอนที่เห็นป้ายบอกทางที่บ่งบอกว่าเข้าใกล้สถานที่เข้าไปเรื่อยๆทุกที

โชคดีที่ไม่ได้นั่งประจันหน้ากันอยู่ แถมในรถก็เริ่มมืด ไม่งั้นไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองจะทำสีหน้าแบบไหนอยู่น่ะสิ

มือของคุณคิโชวอินจู่ๆก็คล้ายจะกระตุกเบาๆ เหมือนสะดุ้งอะไรบางอย่าง แต่พอไถ่ถามก็ทำท่าทางบ่ายเบี่ยงไม่อยากจะตอบเสียเท่าไหร่ จนรถเริ่มเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางที่ได้ตั้งไว้ คุณคิโชวอินก็ทำสีหน้าฉงน

"มีที่หนึ่งที่อยากพาไปน่ะ" ผมตอบ

คุณคิโชวอินทำหน้าตางุนงงยิ่งกว่าเดิม แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรมากไปกว่านี้ ด้วยความประหม่าที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

****

250 Nameless Fanboi Posted ID:S.TI.PCMX

ขับผ่านสถานที่เดทยอดนิยมก็หลายแห่ง ตามเส้นทางผู้คนเริ่มเบาบาง ไฟประดับคริสต์มาสเริ่มลดน้อย เมื่อรถเริ่มเคลื่อนออกชานเมืองโตเกียว ทุกอย่างก็คล้ายจะหลุดออกจากมนตร์วันคริสต์มาส

สู่สถานที่กาลครั้งหนึ่งในฝันของผม

ผมจูงมือคุณคิโชวอินเดินบนฟุตบาทที่เงียบสงบไร้ผู้คน ช่างแตกต่างกับตลอดทางที่เห็นในโตเกียว ความมืดที่ครอบคลุม มีเพียงแสงจากเสาไฟสาธารณะเป็นระยะ ต้นแปะก๊วยที่เรียงรายทั้งสองข้างทางคล้ายจะเป็นอุโมงค์ต้นไม้โดยธรรมชาติ พื้นเกลื่อนกลาดไปด้วยใบแปะก๊วยสีเหลืองทองประหนึ่งพรม ย่ำเดินทีก็มีเสียงกร็อบแกร็บของใบไม้ตลอดเส้นทาง

บรรยากาศที่ปลีกวิเวกแบบนี้ หากชายหนุ่มหญิงสาวได้มาเดินจับมือด้วยกันคงคิดได้สองอย่าง หนึ่งคือความโรแมนติกแบบโลกนี้มีเพียงสองเรา สองคือเป็นฉากต้นของนิยายฆาตกรรมอำพรางศพสักเรื่อง

ดูจากท่าทีล่อกแล่กของคุณคิโชวอินเห็นจะคิดเป็นแบบที่สอง

นี่เห็นผมเป็นคนยังไงกันเนี่ย เฮ้อ

เพราะคงจะต้องเดินอีกสักระยะหนึ่งก่อนจะถึงที่หมาย ผมจึงประสานมือคุณคิโชวอินไว้และเดินอย่างช้าๆกลัวว่าเท้าที่แพลงจะอักเสบขึ้นมาเสียก่อน

บนโลกนี้หากจะมีอะไรที่ผมจะสามารถเชื่อได้ สิ่งนั้นก็ต้องมีหลักฐาน มีความเป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่อะไรที่จับต้องไม่ได้สักนิดอย่างความฝัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ในฝันนั่นยิ่งละเมอเพ้อพกเสียจริง แต่ถึงอย่างนั้นด้วยภาพความฝันที่ชัดเจนเสียเหลือเกิน ก็อดไม่ได้ที่จะให้คนช่วยสืบหา

ใครจะไปคาดคิด ว่าจะมีอยู่จริง

โบสถ์คริสต์สีขาวเด่นคุ้นตาตั้งตระหง่านที่ปลายอุโมงค์ต้นไม้ เสียงระฆังลั่นดังเหง่งหง่างบอกเวลาที่บรรจบไปอีกชั่วยาม เสียงเดียวกับที่ได้ยินในความฝัน คล้ายจะได้ยินเสียงออร์แกนบรรเลง "Here Comes The Bride" ที่มาซายะเล่นดังแว่วในโสตประสาท

ยิ่งเดินเข้าใกล้ตัวโบสถ์ ภาพความฝันนั่นก็ยิ่งทับซ้อนชัดเจนในความคิดราวกับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ชุดซานต้าริน่าพลันกลายเป็นชุดแต่งงานสีขาวลายลูกไม้ชั่วพริบตาหนึ่ง น่าเสียดายที่ประตูโบสถ์ปิดแล้วไม่อย่างนั้นถ้าได้เข้าไปผมอาจแยกความจริงหรือความฝันไม่ออกไปแล้วก็ได้

คุณคิโชวอินจ้องมองโบสถ์ด้วยความพิศวงไม่วางตาไม่แตกต่าง จนเมื่อพวกเราเดินขึ้นมาจนถึงบันไดหินขั้นแรกของโบสถ์ ระฆังก็เงียบเสียงลง ออร์แกนที่บรรเลงแว่วในหัวก็แผ่วหาย ทุกอย่างกลายเป็นความเงียบงันอีกครั้ง ผมบีบมือคุณคิโชวอินเบาๆ สูดลมหายใจลึก นึกถึงคำพูดที่ได้เตรียมการไว้ พยายามขับไล่ผีเสื้อในมวลท้องให้ออกไปเสียที

"คุณคิโชวอิน" ผมหันหน้าสบสายตากลมโตคู่นั้น ทั้งที่ตลอดมาเป็นผู้ชนะในเกมแข่งจ้องตามาตลอด แต่คราวนี้กลับรู้สึกใบหน้าเริ่มจะเห่อร้อนขึ้นมาแล้ว รู้สึกคอชักจะแห้งผากขึ้นทุกที

"ผมอยากจะพูดอะไรกับคนคนหนึ่งน่ะครับ แต่ว่าบางคำมันก็ค่อนข้างจะติดขัด ถ้าพูดตะกุกตะกักคงไม่ดี ก็เลยอยากลองดูก่อน"

"คุณคิโชวอินช่วยรับฟังหน่อยได้รึเปล่าครับ"

---------------------
ไม่ได้แต่งฟิคนาน แปลกๆขออภัย
กูมาต่อเพื่อทวงตอนต่อค่ะโม่งฟิค อยากอ่านตอนต่ออออออ 5555

251 Nameless Fanboi Posted ID:57KP0u94h

>>249-250 กรี๊ดดดดดดดด กูรักมึงงงงงงงงง ฟิคนี้มาทีไรเยียวยาหัวใจอันเหี่ยวแห้งของกูได้ดีมาก บรรยากาศกิ๊วก๊าวชวนฝันสัสๆ ฮือๆๆๆ รัก

252 Nameless Fanboi Posted ID:Y6g16D+pQ

>>249-250 ขอบคุณที่ทำให้วันฝนตกแต่เช้าเป็นวันดีๆ ฮือออออ คิดถึงฟิคนี้จังคร่ะ อยากอ่านตอนต่อไปด้วย ขอแต่งงานต่อหน้าโบสถ์ตามที่นางใฝ่ฝันเลยค่า T^T

253 Nameless Fanboi Posted ID:/aqwc.lbR

>>249-250 ละมุนมาก ดีต่อใจมาก เหมาะกับการอ่านในวันฝนตกแบบนี้จริงๆ ขอตอนต่อด้วยค่ะ//มองโม่งฟิคตาปริบๆ

254 Nameless Fanboi Posted ID:8otN7+CE8

ตอนแรกเซ็งๆวาาฝนจะห่าอะไรตอนเช้า แต่ฟิคนี้ช่วยเยียวยาจิตใจกูวววว รักมึงมากเลยโม่งฟิค

255 Nameless Fanboi Posted ID:QCnHZ1nl5

>>249-250 ฮือออ กูชอบอ่ะ!!!

256 Nameless Fanboi Posted ID:zn+Hu+1Vw

>>249-250 ขอบคุณสำหรับฟิคงามๆค่ะ ฮืออออออ

257 Nameless Fanboi Posted ID:DyDuY55Hz

กูก็อยากได้ตอนต่อเหมือนกัน จริงๆแอบอยากอ่านเรื่องของเรย์นะกับชูจิด้วย กูชอบอะไรแบบนี้โครตๆ 5555

258 Nameless Fanboi Posted ID:s2uI93041

>>257 มัน Bad Ending นะมึง กูกลัวจะน้ำตาไหลท่วมบ้าน แต่คุณชายที่ยึกยักๆ ทีเล่นทีจริงอยู่นั่นแล้วนี่มันก็น่าจะโดนอะไรหนักๆ ซักทีเหมือนกันจะได้หลาบจำ เหอะๆ

259 Nameless Fanboi Posted ID:n1M4.GnUu

จะลงแดงแล้วเมื่อไหร่ตอนต่อไปจะมา

260 Nameless Fanboi Posted ID:7kXQ8r/5L

กูมีคำถามทะลึ่งนิดๆมาถามว่ะ คือพอดีย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าๆ เห็นประโยคคาบุรากิเย็นชาแต่เร่าร้อนกับวาคาบะ ไอ้คำว่าเร่าร้อนพวกมึงคิดว่ามันอยู่ในเลเวลไหนวะ เลเวลที่เหมาะกับเด็กดีและเยาวชนหรือเลเวลเด็กไม่ดี... แล้วคิมิดอลเนี่ยเป็นโชโจในแนวไหนวะ รักใสๆวัยสะรุ่นหรือแนวฟินจิกหมอน พระเอกนางเอกจุ๊บกันทุกตอนไรงี้

261 Nameless Fanboi Posted ID:9gYJ.WVV2

>>260 เร่าร้อนที่กูคิดคือ กับคนอื่นไซซายะมันจะเย็นชา ไม่คุยด้วย เงียบใส่ ใช้หางตามองแรง แต่กับวาคะจังนี่แทบจะปล่อยสวนอ้อยใส่ เร่าร้อนในมังกะกูว่าน่าจะอารมณ์ ยิ้มให้วาคะจัง พูดจาคมคาย คะเบะด้ง จูจุ๊บ ไรงี้นะ ในความคิดกูคิมิดอลมันน่าจะเป็นมังกะชีวิตสาวน้อยธรรมดาในโรงเรียนลูกคุณหนู มีคุณชายฟินๆให้คนอ่านกรี๊ดกร๊าด ไม่น่าจะเป็นโชโจ 15+ หรือ 18+ อ่ะนะ...

262 Nameless Fanboi Posted ID:DUtx3X2JG

>>260 พอพูดว่าเร่าร้อนกูนึกถึงความเป็นโชเน็นในตัวไซซายะว่ะ ภาพตอนงานกีฬาแม่งลอยมาเลยถถถถ

263 Nameless Fanboi Posted ID:3A+CWU7Sd

>>262 หรือไอ้เร่าร้อนที่ว่านั่นคือไซซายะลากวาคาบะไปฝึกนรกแตกเพื่อลงแข่งขี่ม้าชิงเมืองวะ 55555555

264 Nameless Fanboi Posted ID:bdvqhQoDm

>>263 กูเห็นภาพเป็นไซซายะขี่หลังวาคาบะที่เป็นม้า แล้วตะโกน วิ่งเข้าไป ทาคามิจิ! อะไรแบบนั้นเบย...

265 Nameless Fanboi Posted ID:YCp8aJuyS

>>264 หมดกัน... ความโชโจไม่มีอยู่จริง

266 Nameless Fanboi Posted ID:rlXM9inXO

>>264 พูดซะกูเห็นภาพเลย /-0-\

267 Nameless Fanboi Posted ID:PP6lWigNw

>>261-264 สรุปมีกูคิดอกุศลอยู่คนเดียวสินะ

268 Nameless Fanboi Posted ID:rlXM9inXO

>>267 ไม่ใช่มึงคนเดียว //ตบบ่า

269 Nameless Fanboi Posted ID:21KKFE+cB

>>267 ถ้าเป็นปกติกูก็คงคิดอกุศลเหมือนกัน แต่พอเจอความรั่วของทุก คนในเรื่องนี้เข้าไป กูทำใจคิดไปในทางอกุศลไม่ออกจริงๆ

270 Nameless Fanboi Posted ID:7kXQ8r/5L

>>267 กูก็คิดน่า ถถถถถถถถถถถ
กูคิดว่าคิมิดอลมันสไตล์ประมาณเรื่องสาวแกร่งแรงเกินร้อย นางเอกสาวรากหญ้าพบรักกับหนุ่มหล่อไฮโซของโรงเรียนแต่ถูกขัดขวางโดยคนทั้งโรงเรียนและครอบครัวหนุ่มไฮโซคนนั้น โดยที่ครอบครัวเขาเตรียมหาคู่หมั้นที่เหมาะสมเอาไว้แล้วด้วย อาจจะยังไม่ถึงขั้นติดเรท แต่พวกฉากจูบแบบเอโร่ยๆหน่อยกูว่าก็คงมีอะ เอาไว้ให้คนอ่านฟินว่าพระเอกนางเอกเขาแสดงความรักกัน

271 Nameless Fanboi Posted ID:62uArcl5p

แนวชินโจมายุอะหรอ......

272 Nameless Fanboi Posted ID:HlfYDGYW5

>>271 ชินโจ มายูมันสไตล์มุดฟูกไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องนี่นา กูว่าคิมิดอลคงไม่ถึงขนาดชินโจหรอก อยู่ประมาณโชโจเรททั่วไปนี่ล่ะ

273 Nameless Fanboi Posted ID:+AAx9530p

กูคิดว่าไม่คิดเรทนะ เร่าร้อนนี่คือแสดงความรักปกป้องออกนอกหน้าไรงี้มั้ง คือในคิมิดอลวาคาบะจังเป็นแนว damsel in distress ไม่ค่อยสู้คนหรือเปล่า โดนรักแก พระเอกในมังงะเลยปกป้องอย่างเร่าร้อน ปะฉะดะกับคนอื่นไรงี้ ท่านเรย์กะวาร์ปมาเจอวาคาบะจังเป็นแบบชิลเก็บผักไปต้มกันยังมึนเล็กๆ

274 Nameless Fanboi Posted ID:KrEqJcO9Q

>>271 ชินโจ มายู นี่กูแอบคิดไปเลยว่านางร้ายอย่างท่านเรย์กะต้องจ้างคนมาข่มขืนวาคาบะ แล้วคาบุมาช่วยไว้ได้ แนวว่าเวอร์จิ้นของเธอเป็นของชั้น อะไรประมาณนั้น

275 Nameless Fanboi Posted ID:bdvqhQoDm

>>271 ให้คาบุมาทำท่าฉากรำไทเก็กน่าจะพอได้​อยู่​นะ ฉากแก็กซีเรียส​เลย

276 Nameless Fanboi Posted ID:HlfYDGYW5

>>275 ต้องมีคนมาลอบสังหารจากระยะไกลด้วยปืน m16 ไม่ใช่สไนเปอร์ไรเฟิล ด้วยป่ะวะ 55555555

277 Nameless Fanboi Posted ID:vULAz8XIL

>>275 น่าจะกลายเป็นการ์ตูนตลกไปเลย 555555555555
สมมติว่าคาบุสนิทกับบ้านวาคาบะเหมือนเรย์กะ

คันตะ : นี่ๆ คุณคาบุรากิต้องเรียนพวกศิลปะการป้องกันตัวด้วยมั้ย แบบลูกเศรษฐีที่เห็นในละครน่ะ
คาบุ : ก็เรียนบ้างนะ แต่ก็ไม่ได้เก่งกาจนักหรอก
นัตสึมิ : แล้วเรียนอะไรบ้างเหรอคะ
คาบุ : หลักๆก็พวกยูโด คาราเต้ ยิวยิตสู แล้วก็กังฟู
น้องแฝดสองคนประสานเสียง : หวา เท่จังเลย กังฟูล่ะกังฟู
นัตสึมิ : ทำให้ดูหน่อยได้มั้ยคะ หนูอยากเห็นกังฟู
วาคาบะ : นี่ เดี๋ยวเถอะ ห้ามไปรบกวนคาบุรากิคุงนะ คาบุรากิคุง ขอโทษด้วยนะ ไม่ต้องไปสนใจที่เด็กพวกนี้พูดหรอก
คาบุ : ถ้าแค่นิดหน่อยล่ะก็...
วาคาบะ : เอ๋ จะดีเหรอ
คาบุ : อื้อ ไม่เป็นไรหรอก//ลุุกขึ้นยืนแล้วออกท่ากังฟูโชะๆ แบบมายู ชินโจ
บ้านทาคามิจิพากันประทับใจ เท่มากเลยล่ะ

278 Nameless Fanboi Posted ID:4SuJ6yX6N

>>275 ไอ้ท่ารำไทเก๊กมันเป็นแบบไหนง่ะ กูไม่เคยอ่านมายูชินโจ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.