Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแผนการล้างสมองของจักรพรรดิจอมมาร [วิ่งเข้าไปซะ! เจ้าสัตว์กีบคู่! รอบที่ 24]

Last posted

Total of 1000 posts

887 Nameless Fanboi Posted ID:agbs+0o.7

หายกันไปนานกับฟิคนี้ ขอเชิญพบกับ เอ็นโจเลี้ยงต้อย >>>/webnovel/4296/796-799
-------------------------------------------

คาบุรากิ มาซายะ(1/2)
.
.
.

พอก้าวเข้ามาในโรงแรม เลขาของแม่ที่มารอต้อนรับอยู่แล้วก็เดินเข้ามาหา ก้มหัวและผายมือให้ไปทางลิฟท์สำหรับผู้บริหาร แจ้งว่าแม่กำลังรออยู่

ฉันพยักหน้ารับรู้ ปล่อยให้ลิฟท์เคลื่อนตัวไปข้างบน ไม่ถึงยี่สิบวินาทีก็มาหยุดที่ชั้นที่ต้องการ

พอก้าวออกจากลิฟท์ ฉันก็เดินตรงไปที่ภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสอันเป็นที่นัดหมาย แต่ระหว่างทางก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งก้มตัวลงใกล้ๆกับสวนเล็กๆที่จัดไว้ ผมม้วนๆที่หันหลังให้ดูคุ้นตาชอบกล

เธอคนนั้นหันกลับมา ทำท่าสะดุ้งตกใจเล็กน้อย

“ท่านคาบุรากิ” เธอรีบก้มหัวลงทักทาย “สวัสดีค่ะ”

“คิโชวอิน” ฉันเลิกคิ้วขึ้น “ทำอะไรอยู่น่ะ”

“พอดีสร้อยคอมันตกลงไปในแปลงดอกไม้น่ะค่ะ ก็เลย...” คิโชวอินก้มหน้าลง “ขออภัยนะคะที่ทำให้แปลงดอกไม้ของท่านคาบุรากิต้องเสียหาย”

“เรื่องแค่นั้นเอง” ฉันก้าวฉับๆไปที่พุ่มดอกไม้ที่ว่า แหวกๆกิ่งก้านและใบไม้อยู่ครู่หนึ่งก็เจอวัตถุแวววาวสีทองสะท้อนให้เห็น ฉันหยิบมันขึ้นมา “ใช่อันนี้รึเปล่า”

“ขอบคุณมากเลยนะคะ” เธอก้มหัวลง เห็นแล้วอดนึกถึงทาคามิจิไม่ได้

ผู้หญิงคนนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องขอโทษก่อนทุกที ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดแท้ๆ แต่ก็ยังยอมก้มหัวให้คนอื่นเอาเปรียบอยู่ได้

“งั้น... ฉันไปล่ะนะ” ฉันเอ่ยคำอำลา เห็นว่ามือตัวเองเปื้อนดินจากเรื่องเมื่อครู่ก็คิดว่าสมควรจะไปล้างมือสักหน่อย

ว่าแต่คิโชวอินมาทำอะไรที่นี่นะ ทานข้าวกับครอบครัวอย่างนั้นเหรอ

หรือว่า…..

ฉันส่ายหัวเล็กน้อยตอนที่เป่ามือให้แห้งกับเครื่องทำลมร้อน มันคงไม่บังเอิญถึงขนาดนั้นหรอก
.
.
.
.

ข้อสันนิษฐานของฉันเป็นจริงจนได้ พอเปิดประตูห้อง V.I.P. เข้าไป สิ่งแรกที่ได้ยินคือเสียงหัวเราะต่อกระซิกของผู้หญิง และผมม้วนๆที่ดูคุ้นตาอีกหน

คิโชวอินหันหน้ามองฉันแล้วก็ส่งยิ้มให้

“อ้าว มาพอดีเลยนั่น” พอเห็นฉัน แม่ก็เอามือป้องปากแล้วหัวเราะคิกคัก “กำลังพูดถึงอยู่เลยเชียว”

แขกในค่ำคืนนี้คือมาดามคิโชวอินและลูกสาว ฉันเอ่ยทักทายทั้งคู่แล้วนั่งลงข้างๆแม่ แม้จะแอบรู้สึกว่านี่มันชักจะยังไงๆอยู่นะก็ตาม

“ได้ยินว่าเมื่อครู่นี้คุณมาซายะช่วยคุณเรย์กะไว้ ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งเลยนะคะ” มาดามคิโชวอินค้อมหัวน้อยๆ “ลูกสาวคนนี้นี่ซุ่มซ่ามจริงๆ ทำให้คุณมาซายะต้องพลอยลำบากไปด้วย”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ มันไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร”

“โฮะโฮะโฮะ การช่วยเหลือเด็กผู้หญิงที่กำลังลำบากก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษอยู่แล้วล่ะค่ะ”

“ต้องขออภัยอีกครั้งด้วยนะคะ” คิโชวอินค้อมหัวลง

การสนทนาเว้นช่วงไปเล็กน้อยเมื่อบริกรนำอาหารเข้ามาเสิร์ฟ ฉันตักอาหารเข้าปากไปเงียบๆ ไม่พูดไม่จายกเว้นแต่จะถูกถาม คิโชวอินเองก็นั่งอย่างสงบเสงี่ยมอยู่เหมือนกัน

“เด็กคนนี้นี่เหลือเกินจริงๆ เห็นดอกไม้สวยๆเป็นไม่ได้ ต้องเข้าไปดูใกล้ๆตลอด ที่ระเบียงก็เอาดอกกุหลาบมาปลูกให้เต็มไปหมด ดูแลเองไม่ยอมให้ใครแตะต้องเลย”

“ท่านแม่คะ…มันน่าอายออกนะ”

“ไม่เห็นน่าอายเลย เด็กผู้หญิงก็ต้องคู่กับดอกไม้สวยๆงามๆสิคะ” แม่จิบแชมเปญไปหัวเราะไป “แต่คุณเรย์กะชอบดอกไม้แบบนี้ ทราบรึเปล่าคะว่าโรงแรมนี้มีสวนอยู่ที่ชั้น roof ด้วย ทางเราเพิ่งให้บริษัทด้านจัดสวนมาตกแต่งใหม่เตรียมรับเทศกาลทานาบาตะ ดอกอาจิไซกำลังบานสะพรั่งได้ที่เลย ถ้าไม่รังเกียจก็ให้มาซายะพาไปชมได้นะคะ”

“แหม รบกวนท่านมาซายะเปล่าๆ”

“โอ๊ย รบกวนอะไรกันคะ เราน่ะคนกันเองทั้งนั้น ไม่รบกวนหรอกค่ะ”

ทางนี้ยังไม่ได้รับปากเลยนะ อย่าพูดเองเออเองแบบนั้นสิ

888 Nameless Fanboi Posted ID:agbs+0o.7

ทีแรกก็ว่าจะนั่งทานของหวานไปเฉยๆ ไม่รู้ไม่ชี้ แต่พอถูกสายตากดดันของแม่มองจ้องมาเป็นเชิงว่า “มัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบลุกขึ้นแล้วพาคุณเรย์กะไปเดินเล่น” ฉันก็ได้แต่ลุกขึ้นยืน เดินนำหน้าคิโชวอินออกไปจากห้องนี้ กดลิฟท์ขึ้นไปยังชั้นบนสุดที่เอาไว้จัดงานอีเวนท์กลางแจ้งโดยเฉพาะ

“สวยจังเลยนะคะ”

คิโชวอินมองไปรอบๆอย่างตื่นเต้น ทำหน้าตาเหมือนกำลังเคลิ้มฝัน

“ก็ใช้บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านตกแต่งสวนโดยเฉพาะออกแบบน่ะนะ ก็ต้องออกมาดีอยู่แล้ว” ฉันชี้ไปทางพุ่มไม้ที่อยู่อีกฟาก “ตรงนั้นมีดอกกุหลาบดามัสก์ แล้วก็ดอกไอริส”

“อยากเห็นจังเลยค่ะ”

ฉันกับคิโชวอินเดินไปตามทางที่จัดไว้ในสวน มาหยุดที่หน้าแปลงดอกไม้ที่มีดอกกุหลาบบานสะพรั่งชูช่อ เงียบกันอยู่พักหนึ่ง คิโชวอินก็เอ่ยขึ้น

“ขอโทษนะคะ ท่านคาบุรากิคงไม่พอใจซักเท่าไหร่ที่ถูกบังคับให้พาฉันมาเดินเล่นแบบนี้”

“ไม่หรอก อย่าคิดมากเลย” ฉันส่ายหน้า “มาถึงนี่แล้วก็ดูความงามของดอกไม้ดีกว่านะ”

“นั่นสินะคะ” คิโชวอินอมยิ้ม มองที่พุ่มดอกไม้แล้วก็ก้มลงไปใกล้ๆ “อืม กลิ่นหอมมากเลยล่ะค่ะ”

“ถ้าชอบก็ดีแล้วล่ะ”

“ท่านคาบุรากิทราบรึเปล่าคะว่าที่บ้านฉันก็ปลูกดอกกุหลาบดามัสก์ไว้อยู่ด้วย แต่ดอกเล็กมาก ไม่สวยเท่าที่บานอยู่ตรงนี้เลยล่ะค่ะ” เธอหัวเราะน้อยๆ “ ก็ทำตามเคล็ดลับที่คุณคนสวนบอกแล้วนะ แต่ก็ไม่ได้ดอกใหญ่ๆซักที สงสัยจะเป็นเพราะความไม่เอาไหนของฉันเองแน่ๆเลยล่ะค่ะ”

“ฉันเพิ่งจะรู้ว่าเธอชอบดอกไม้มากขนาดนี้” ฉันพยักหน้า เออออไปกับข้อมูลที่คิโชวอินเล่า “ไม่เห็นชูสุเกะเล่าให้ฟังเลย”

เมื่อมีชื่อชูสุเกะเข้ามาเกี่ยวข้อง คิโชวอินก็หุบยิ้มทันควัน ก้มหน้าลงเหมือนกำลังซ่อนสีหน้าเอาไว้

“มีอะไรงั้นเหรอ”

“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” คิโชวอินส่ายหน้า ส่งยิ้มให้ แต่ดูเป็นยิ้มที่ฝืดเฝื่อนพิกล

“เธอทะเลาะกับชูสุเกะรึเปล่า”

“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ” เธอโบกมือไปมาอย่างลนลาน “คุณชูสุเกะดีกับฉันทุกอย่างค่ะ เพียงแต่…”

“เพียงแต่อะไร” ฉันขยับตัวเข้าไปใกล้ จ้องหน้าคิโชวอินแบบคาดคั้น

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ลืมมันซะเถอะ” คิโชวอินหลบตาฉัน ก้มลงมองพื้นแถวๆนั้น

“เพียงแต่อะไร” ฉันพูดซ้ำคำเดิมด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

คิโชวอินเม้มปากแน่น ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“เขาทำให้ฉันกลัว” เธอมีสีหน้าหวาดหวั่น สองมือกำชุดกระโปรงแน่น “ตั้งแต่กลับมาจากอังกฤษ เขาก็แปลกไปมาก ก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้เลย แต่ตอนนี้มันเหมือนกับ...เหมือนกับมีใครที่ไม่ใช่เขาอยู่ข้างใน เป็นใครที่ฉันไม่รู้จัก”

“ชูสุเกะทำร้ายเธออย่างนั้นเหรอ”

ใจฉันนึกไปถึงตอนที่ชูสุเกะยื่นหนังสือดร.เจเคิลกับมิสเตอร์ไฮด์มาให้ แม้จะไม่แน่ใจ แต่จะใช่คนคนเดียวกับที่คิโชวอินเจอรึเปล่านะ

“ไม่ค่ะ ไม่” คิโชวอินส่ายหน้า “มันมีบางอย่างแปลกๆ มันเป็นความรู้สึกอึดอัด บอกไม่ถูก แต่เห็นแล้วฉันไม่สบายใจเลยซักนิด แล้วคุณชูสุเกะก็ไม่ยอมบอกอะไรฉันสักอย่าง”

คิโชวอินเดินเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อยๆ วางมือสองข้างลงบนอกฉัน เงยหน้าขึ้นมอง เห็นน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาในดวงตาของคิโชวอินแล้วก็อึ้งไปนิดๆเหมือนกัน

“ได้โปรด...ท่านมาซายะ” น้ำเสียงนั้นสั่นเครือเหมือนคนกำลังอดกลั้น “ช่วยฉันด้วยนะคะ”

889 Nameless Fanboi Posted ID:agbs+0o.7

ฉันเลิกคิ้วขึ้นตอนที่รู้สึกว่ายัยนี่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ รู้สึกถึงลมหายใจที่กำลังเป่ารดเหนือริมฝีปาก

ก่อนที่อะไรจะเกินเลยมากไปกว่านั้น ฉันก็จับไหล่คิโชวอินทั้งสองข้าง ดันให้ออกห่างจากตัวและปล่อยมืออย่างรวดเร็ว

“เธอคิดมากเกินไปแล้ว” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาหน่อยๆ รู้สึกไม่ชอบใจที่คิโชวอินทำแบบนี้ “ชูสุเกะก็ยังเหมือนเดิมนั่นล่ะ ฉันไม่เห็นจะมีอะไรต่างไปจากเดิมตรงไหน”

ว่าแล้วฉันก็มองนาฬิกาบนข้อมือตัวเอง มันบอกเวลาสี่ทุ่มพอดี เป็นข้ออ้างให้ปลีกตัวได้อย่างเหมาะสม

“นี่ก็ดึกแล้วด้วย ฉันว่าเราควรจะรีบกลับลงไปดีกว่า ป่านนี้มาดามคิโชวอินคงรอแย่แล้ว”

ฉันเดินฉับๆนำหน้าคิโชวอินกลับไปที่ลิฟท์ ไม่มีคำพูดอะไรระหว่างเราสองคน ให้ความเงียบที่น่าอึดอัดปกคลุมแทน

จบมื้ออาหาร แม่และฉันเดินไปส่งสองแม่ลูกคิโชวอินขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าโรงแรม เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ คิโชวอินไม่ได้มีท่าทีอะไรแปลกๆแบบเมื่อครู่นี้ เธอก็ยังสงบเสงี่ยม กริยามารยาทเรียบร้อยตามประสาคุณหนูทั่วไป โค้งหัวขอบคุณฉันที่พาไปชมสวน ฉันได้แต่พยักหน้าให้

เมื่อสบตากัน คิโชวอินกลับมองฉันด้วยสายตาที่ดูประหลาด มันมีอะไรแฝงอยู่ภายในที่ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด เมื่อรวมกับการกระทำตอนที่อยู่ในสวน ฉันก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจคิโชวอินมากขึ้นไปทุกทีๆ

ผู้หญิงแบบนี้ไม่สมควรจะอยู่ใกล้ชูสุเกะ แต่จะห้ามได้ยังไงกันล่ะ

ฉันคิดอยู่ภายในใจอย่างสับสน อันที่จริงถ้าบอกเรื่องในวันนี้ไป ชูสุเกะอาจจะไม่เชื่อก็ได้ หมอนั่นมันรักของมันขนาดนั้น ไม่มีทางจะเชื่อว่าคนรักไปทำเรื่องอะไรไม่ดีไว้แน่

แต่ถ้าไม่บอกก็เหมือนเก็บปัญหาไว้กับตัวเอง แถมเป็นการทรยศความไว้วางใจของชูสุเกะ มันอาจจะลุกลามบานปลายไปกันใหญ่ก็ได้

อย่างไหนถึงจะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องกันนะ

----------------------------
มาซายะคิมิดอลเวลาเขียนนี่รู้สึกแปลกๆแปร่งๆจริงๆ หรือเพราะเป็นคาแรคเตอร์มาซายะ ไม่ใช่ไซซายะกันวะนั่น 555555555

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.