Last posted
Total of 1000 posts
โม่งฟิค ได้โปรดอย่าปล่อยให้ค้างคา
Fic ต่อจาก >>857
.
.
.
คุณยุยโกะสวมเสื้อคลุมสีลาเวนเดอร์ทับชุดเดรสยาว เดินมาพร้อมกับ มาดามคาบุรากิ และ สุภาพสตรีผมสีเงินรูปร่างบอบบางในชุดกิโมโน
“อ๊ะ อยู่กันที่นี่หรือจ้ะ” มาดามคาบุรากิส่งเสียงทักทายพวกเรา บุคลิกเจิดจ้าสง่างามของมาดามคาบุรากิ ลบล้างบรรยากาศวังเวงเมื่อครู่ไปเป็นปลิดทิ้ง
“มาซายะบอกว่าวันนี้ชวนเพื่อนมาดูดอกไม้ไฟ ที่แท้เป็นคุณเรย์กะนี่เอง” มาดามคาบุรากิเดินเข้ามาใกล้
เอ๋....
ฉันแอบกวาดสายตามองสถาณการณ์รอบข้าง เห็นเอ็นโจและยูกิโนะคุงกำลังเดินเข้าไปต้อนรับและทักทายสุภาพสตรีในชุดกิโมโน วาคาบะจังยืนสำรวมอยู่ไม่ห่างนัก ส่วนคาบุรากิ เนื่องจากเมื่อครู่สนใจเครื่องประดับผมของฉันเลยเข้ามายืนดูอยู่ใกล้ๆ
เลยกลายเป็นว่ามาดามเห็นฉันยืนคู่กับคาบุรากิ
คาบุรากิละสายตาจากผลงานศิลปินแห่งชาติ ส่งเสียงกึ่งรับคำสั้นๆ ท่าทางไม่ค่อยสบายใจ แหงล่ะ ถูกเข้าใจผิดแบบนี้ไม่ดีแน่
“สวัสดีค่ะ” ฉันรีบทักทายอย่างสุภาพ เดินอ้อมคาบุรากิไปยืนข้างๆวาคาบะจัง “พวกเรามารบกวน เกรงใจจังเลยค่ะ” หันไปสบตาวาคาบะจัง เพื่อเน้นคำว่าพวกเราให้ชัด “ทางนี้เพื่อนจากซุยรัน คุณทาคามิจิ วาคาบะค่ะ” จริงๆแล้ว อยากจะตะโกนบอกว่าคนที่คาบุรากิตั้งใจชวนมาวันนี้คือคุณวาคาบะนี่ต่างหากล่ะคะ อีกอย่างนะ การแนะนำวาคาบะจังกับท่านแม่ของนาย มันต้องเป็นหน้าที่นายไม่ใช่เหรอ คาบุรากิ
มาดามคาบุรากิชวนวาคาบะจังและฉัน พูดคุยอย่างมีอัธยาสัย
เอ็นโจเดินตามมาสมทบ ปรากฏว่าสุภาพสตรีในชุดกิโมโน เป็นท่านยายของเอ็นโจ และ ยูกิโนะคุง และเป็นท่านย่าของคุณยุยโกะค่ะ
“คุณคิโชวอินนี่เอง” คุณยายของเอ็นโจอุทานเบาๆ เดินเข้ามาจับมือฉันอย่างสนิทสนม
“ลูกสาวเล่าให้ฟังว่าเคยมาเยี่ยมที่บ้าน ยังชมอยู่เลยว่าอาหารที่ทำมาให้ทานอร่อยมาก” น่าจะหมายถึงตอนที่ฉันได้รับเชิญไปงานวันเกิดของยูกิโนะคุง แล้วก็เอาอาหารที่ช่วยคุณอาคามิทำ ไปร่วมงานน่ะค่ะ
“นั้นสิคะ มาดามคิโชวอินก็พูดบ่อยๆว่าคุณเรย์กะชอบทำอาหาร คราวที่แล้วเชิญมางานเลี้ยงที่บ้านก็เอาช็อกโกแลทมาฝาก ถูกใจมาซายะมาก วันนี้คุณเรย์กะมาเป็นแขกของมาซายะค่ะ” มาดามคาบุรากิกล่าวกับคุณยายของเอ็นโจพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน
“จริงสิ เดี๋ยว ซูซุเกะคุงก็ชวนคุณยุยโกะไปชมดอกไม้ไฟบนเรือด้วยกันสิคะ เพิ่มอีกคนพอได้เนอะมาซายะ” มาดามพยักหน้าเบาๆให้คาบุรากิด้วยทีท่าสง่างาม
“อย่าดีกว่าค่ะ เป็นการรบกวนเปล่าๆ” คุณยุยโกะรีบพูดด้วยท่าทางเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ จริงไหมคะ มาดามอุริว เราปล่อยให้หนุ่มสาวไปสนุกกันเถอะนะคะ”
โม่งฟิค ช่วยลงในสารบัญด้วย และเวลาลง บอกชื่อเรื่องก่อนหน่อยค่าา กูเพิ่งมา งง ต้องมาไล่หาว่าฟิคเรื่องไหนวะ นึกว่าฟิคเก่าๆ...
14 กุมภานี้จะหวังตอนใหม่ได้มั้ยน้า...
ถามนิด เวลาโมงแต่งฟิกกันแล้วไม่พอใจทำไงกันเหรอ
ถ้าแก้แล้ววงเวอร์ชั่นอิดิทจะโดนโม่งด่าไหม
อ่านแล้วอยากกลับไปแก้ รู้สึก OCC
แทงคิ้วโม่งฟิคทุกคนที่ลงฟิคมาให้กาวกันนะ ไม่ได้เข้าหลายวัน ไล่อ่านรัวๆเลยย
กระทู้นี้จะเต็มตอนไหน?5555
กลับไปอ่านอีกรอบ กรูว่าวาคาบะจังน่าจะชอบคาบุรากินะ ถึงขั้นทำข้าวกล่องให้ทาน คาบุชวนไปไหนก็ไป ไปดูดอกไม้ไฟก็บอกคาบุว่าอยากใส่กิโมโน กูว่านางมีใจให้ชัวร์ ถ้าให้คาบุกลับตัวมาชอบเรย์กะก็ไม่ไหวนะ คือจีบจริงจังขนาดนี้แล้ว ถ้าบอกว่ามาชอบท่านเรย์กะก็สงสารวาคาบะล่ะ
ถ้าตอน 300 มาอัฟวันวาเลน์ไทน์ เป็นเรื่องไปดูดอกไม้ไฟกับเอ็นโจอีก นี่กุจะฟินมาก
เจอทวิตอันนี้แล้วนึกถึงชุดนักเรียนซุยรันเลยถถถถ
https://twitter.com/GratitudeDNA/status/962119023944122368?s=09
แต่ถ้าเด็กหล่อในชุดสูทนะมึ๊งงง//บ้านป้ามีขนมนะลูกกก
เพื่อนโม่ง เมื่อวานกูฝันถึงโมเม้นซัมติงของเอ็นโจกะท่านเรย์กะ แล้วตื่นขึ้นมากลางดึก ทีนี้กูก็พยายามจำมากวนกาวเขียนฟิค แต่ด้วยความง่วงและขี้เกียจลุกมาเขียนใส่กระดาษกูจึงใช้สมองในการจดไว้ว่าโมเม้นเป็นงี้ๆนะสองสามรอบคิดว่าจำได้แล้ว พอกูตื่นมาตอนเช้ากูก็จำไม่ได้แล้วว่าอะไรวะ พึ่งนึกออกเมื่อกี้ด้วยซ้ำว่ากูฝัน;-;
แค่ก กูคนฝันเอง มัน…ไม่เหลืออะไรในสมองกูเลยว่ะ อห เสียดายยยย
หายกันไปนานกับฟิคนี้ ขอเชิญพบกับ เอ็นโจเลี้ยงต้อย >>>/webnovel/4296/796-799
-------------------------------------------
คาบุรากิ มาซายะ(1/2)
.
.
.
พอก้าวเข้ามาในโรงแรม เลขาของแม่ที่มารอต้อนรับอยู่แล้วก็เดินเข้ามาหา ก้มหัวและผายมือให้ไปทางลิฟท์สำหรับผู้บริหาร แจ้งว่าแม่กำลังรออยู่
ฉันพยักหน้ารับรู้ ปล่อยให้ลิฟท์เคลื่อนตัวไปข้างบน ไม่ถึงยี่สิบวินาทีก็มาหยุดที่ชั้นที่ต้องการ
พอก้าวออกจากลิฟท์ ฉันก็เดินตรงไปที่ภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสอันเป็นที่นัดหมาย แต่ระหว่างทางก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งก้มตัวลงใกล้ๆกับสวนเล็กๆที่จัดไว้ ผมม้วนๆที่หันหลังให้ดูคุ้นตาชอบกล
เธอคนนั้นหันกลับมา ทำท่าสะดุ้งตกใจเล็กน้อย
“ท่านคาบุรากิ” เธอรีบก้มหัวลงทักทาย “สวัสดีค่ะ”
“คิโชวอิน” ฉันเลิกคิ้วขึ้น “ทำอะไรอยู่น่ะ”
“พอดีสร้อยคอมันตกลงไปในแปลงดอกไม้น่ะค่ะ ก็เลย...” คิโชวอินก้มหน้าลง “ขออภัยนะคะที่ทำให้แปลงดอกไม้ของท่านคาบุรากิต้องเสียหาย”
“เรื่องแค่นั้นเอง” ฉันก้าวฉับๆไปที่พุ่มดอกไม้ที่ว่า แหวกๆกิ่งก้านและใบไม้อยู่ครู่หนึ่งก็เจอวัตถุแวววาวสีทองสะท้อนให้เห็น ฉันหยิบมันขึ้นมา “ใช่อันนี้รึเปล่า”
“ขอบคุณมากเลยนะคะ” เธอก้มหัวลง เห็นแล้วอดนึกถึงทาคามิจิไม่ได้
ผู้หญิงคนนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องขอโทษก่อนทุกที ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดแท้ๆ แต่ก็ยังยอมก้มหัวให้คนอื่นเอาเปรียบอยู่ได้
“งั้น... ฉันไปล่ะนะ” ฉันเอ่ยคำอำลา เห็นว่ามือตัวเองเปื้อนดินจากเรื่องเมื่อครู่ก็คิดว่าสมควรจะไปล้างมือสักหน่อย
ว่าแต่คิโชวอินมาทำอะไรที่นี่นะ ทานข้าวกับครอบครัวอย่างนั้นเหรอ
หรือว่า…..
ฉันส่ายหัวเล็กน้อยตอนที่เป่ามือให้แห้งกับเครื่องทำลมร้อน มันคงไม่บังเอิญถึงขนาดนั้นหรอก
.
.
.
.
ข้อสันนิษฐานของฉันเป็นจริงจนได้ พอเปิดประตูห้อง V.I.P. เข้าไป สิ่งแรกที่ได้ยินคือเสียงหัวเราะต่อกระซิกของผู้หญิง และผมม้วนๆที่ดูคุ้นตาอีกหน
คิโชวอินหันหน้ามองฉันแล้วก็ส่งยิ้มให้
“อ้าว มาพอดีเลยนั่น” พอเห็นฉัน แม่ก็เอามือป้องปากแล้วหัวเราะคิกคัก “กำลังพูดถึงอยู่เลยเชียว”
แขกในค่ำคืนนี้คือมาดามคิโชวอินและลูกสาว ฉันเอ่ยทักทายทั้งคู่แล้วนั่งลงข้างๆแม่ แม้จะแอบรู้สึกว่านี่มันชักจะยังไงๆอยู่นะก็ตาม
“ได้ยินว่าเมื่อครู่นี้คุณมาซายะช่วยคุณเรย์กะไว้ ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งเลยนะคะ” มาดามคิโชวอินค้อมหัวน้อยๆ “ลูกสาวคนนี้นี่ซุ่มซ่ามจริงๆ ทำให้คุณมาซายะต้องพลอยลำบากไปด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ มันไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร”
“โฮะโฮะโฮะ การช่วยเหลือเด็กผู้หญิงที่กำลังลำบากก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษอยู่แล้วล่ะค่ะ”
“ต้องขออภัยอีกครั้งด้วยนะคะ” คิโชวอินค้อมหัวลง
การสนทนาเว้นช่วงไปเล็กน้อยเมื่อบริกรนำอาหารเข้ามาเสิร์ฟ ฉันตักอาหารเข้าปากไปเงียบๆ ไม่พูดไม่จายกเว้นแต่จะถูกถาม คิโชวอินเองก็นั่งอย่างสงบเสงี่ยมอยู่เหมือนกัน
“เด็กคนนี้นี่เหลือเกินจริงๆ เห็นดอกไม้สวยๆเป็นไม่ได้ ต้องเข้าไปดูใกล้ๆตลอด ที่ระเบียงก็เอาดอกกุหลาบมาปลูกให้เต็มไปหมด ดูแลเองไม่ยอมให้ใครแตะต้องเลย”
“ท่านแม่คะ…มันน่าอายออกนะ”
“ไม่เห็นน่าอายเลย เด็กผู้หญิงก็ต้องคู่กับดอกไม้สวยๆงามๆสิคะ” แม่จิบแชมเปญไปหัวเราะไป “แต่คุณเรย์กะชอบดอกไม้แบบนี้ ทราบรึเปล่าคะว่าโรงแรมนี้มีสวนอยู่ที่ชั้น roof ด้วย ทางเราเพิ่งให้บริษัทด้านจัดสวนมาตกแต่งใหม่เตรียมรับเทศกาลทานาบาตะ ดอกอาจิไซกำลังบานสะพรั่งได้ที่เลย ถ้าไม่รังเกียจก็ให้มาซายะพาไปชมได้นะคะ”
“แหม รบกวนท่านมาซายะเปล่าๆ”
“โอ๊ย รบกวนอะไรกันคะ เราน่ะคนกันเองทั้งนั้น ไม่รบกวนหรอกค่ะ”
ทางนี้ยังไม่ได้รับปากเลยนะ อย่าพูดเองเออเองแบบนั้นสิ
ทีแรกก็ว่าจะนั่งทานของหวานไปเฉยๆ ไม่รู้ไม่ชี้ แต่พอถูกสายตากดดันของแม่มองจ้องมาเป็นเชิงว่า “มัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบลุกขึ้นแล้วพาคุณเรย์กะไปเดินเล่น” ฉันก็ได้แต่ลุกขึ้นยืน เดินนำหน้าคิโชวอินออกไปจากห้องนี้ กดลิฟท์ขึ้นไปยังชั้นบนสุดที่เอาไว้จัดงานอีเวนท์กลางแจ้งโดยเฉพาะ
“สวยจังเลยนะคะ”
คิโชวอินมองไปรอบๆอย่างตื่นเต้น ทำหน้าตาเหมือนกำลังเคลิ้มฝัน
“ก็ใช้บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านตกแต่งสวนโดยเฉพาะออกแบบน่ะนะ ก็ต้องออกมาดีอยู่แล้ว” ฉันชี้ไปทางพุ่มไม้ที่อยู่อีกฟาก “ตรงนั้นมีดอกกุหลาบดามัสก์ แล้วก็ดอกไอริส”
“อยากเห็นจังเลยค่ะ”
ฉันกับคิโชวอินเดินไปตามทางที่จัดไว้ในสวน มาหยุดที่หน้าแปลงดอกไม้ที่มีดอกกุหลาบบานสะพรั่งชูช่อ เงียบกันอยู่พักหนึ่ง คิโชวอินก็เอ่ยขึ้น
“ขอโทษนะคะ ท่านคาบุรากิคงไม่พอใจซักเท่าไหร่ที่ถูกบังคับให้พาฉันมาเดินเล่นแบบนี้”
“ไม่หรอก อย่าคิดมากเลย” ฉันส่ายหน้า “มาถึงนี่แล้วก็ดูความงามของดอกไม้ดีกว่านะ”
“นั่นสินะคะ” คิโชวอินอมยิ้ม มองที่พุ่มดอกไม้แล้วก็ก้มลงไปใกล้ๆ “อืม กลิ่นหอมมากเลยล่ะค่ะ”
“ถ้าชอบก็ดีแล้วล่ะ”
“ท่านคาบุรากิทราบรึเปล่าคะว่าที่บ้านฉันก็ปลูกดอกกุหลาบดามัสก์ไว้อยู่ด้วย แต่ดอกเล็กมาก ไม่สวยเท่าที่บานอยู่ตรงนี้เลยล่ะค่ะ” เธอหัวเราะน้อยๆ “ ก็ทำตามเคล็ดลับที่คุณคนสวนบอกแล้วนะ แต่ก็ไม่ได้ดอกใหญ่ๆซักที สงสัยจะเป็นเพราะความไม่เอาไหนของฉันเองแน่ๆเลยล่ะค่ะ”
“ฉันเพิ่งจะรู้ว่าเธอชอบดอกไม้มากขนาดนี้” ฉันพยักหน้า เออออไปกับข้อมูลที่คิโชวอินเล่า “ไม่เห็นชูสุเกะเล่าให้ฟังเลย”
เมื่อมีชื่อชูสุเกะเข้ามาเกี่ยวข้อง คิโชวอินก็หุบยิ้มทันควัน ก้มหน้าลงเหมือนกำลังซ่อนสีหน้าเอาไว้
“มีอะไรงั้นเหรอ”
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” คิโชวอินส่ายหน้า ส่งยิ้มให้ แต่ดูเป็นยิ้มที่ฝืดเฝื่อนพิกล
“เธอทะเลาะกับชูสุเกะรึเปล่า”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ” เธอโบกมือไปมาอย่างลนลาน “คุณชูสุเกะดีกับฉันทุกอย่างค่ะ เพียงแต่…”
“เพียงแต่อะไร” ฉันขยับตัวเข้าไปใกล้ จ้องหน้าคิโชวอินแบบคาดคั้น
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ลืมมันซะเถอะ” คิโชวอินหลบตาฉัน ก้มลงมองพื้นแถวๆนั้น
“เพียงแต่อะไร” ฉันพูดซ้ำคำเดิมด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
คิโชวอินเม้มปากแน่น ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“เขาทำให้ฉันกลัว” เธอมีสีหน้าหวาดหวั่น สองมือกำชุดกระโปรงแน่น “ตั้งแต่กลับมาจากอังกฤษ เขาก็แปลกไปมาก ก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้เลย แต่ตอนนี้มันเหมือนกับ...เหมือนกับมีใครที่ไม่ใช่เขาอยู่ข้างใน เป็นใครที่ฉันไม่รู้จัก”
“ชูสุเกะทำร้ายเธออย่างนั้นเหรอ”
ใจฉันนึกไปถึงตอนที่ชูสุเกะยื่นหนังสือดร.เจเคิลกับมิสเตอร์ไฮด์มาให้ แม้จะไม่แน่ใจ แต่จะใช่คนคนเดียวกับที่คิโชวอินเจอรึเปล่านะ
“ไม่ค่ะ ไม่” คิโชวอินส่ายหน้า “มันมีบางอย่างแปลกๆ มันเป็นความรู้สึกอึดอัด บอกไม่ถูก แต่เห็นแล้วฉันไม่สบายใจเลยซักนิด แล้วคุณชูสุเกะก็ไม่ยอมบอกอะไรฉันสักอย่าง”
คิโชวอินเดินเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อยๆ วางมือสองข้างลงบนอกฉัน เงยหน้าขึ้นมอง เห็นน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาในดวงตาของคิโชวอินแล้วก็อึ้งไปนิดๆเหมือนกัน
“ได้โปรด...ท่านมาซายะ” น้ำเสียงนั้นสั่นเครือเหมือนคนกำลังอดกลั้น “ช่วยฉันด้วยนะคะ”
ฉันเลิกคิ้วขึ้นตอนที่รู้สึกว่ายัยนี่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ รู้สึกถึงลมหายใจที่กำลังเป่ารดเหนือริมฝีปาก
ก่อนที่อะไรจะเกินเลยมากไปกว่านั้น ฉันก็จับไหล่คิโชวอินทั้งสองข้าง ดันให้ออกห่างจากตัวและปล่อยมืออย่างรวดเร็ว
“เธอคิดมากเกินไปแล้ว” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาหน่อยๆ รู้สึกไม่ชอบใจที่คิโชวอินทำแบบนี้ “ชูสุเกะก็ยังเหมือนเดิมนั่นล่ะ ฉันไม่เห็นจะมีอะไรต่างไปจากเดิมตรงไหน”
ว่าแล้วฉันก็มองนาฬิกาบนข้อมือตัวเอง มันบอกเวลาสี่ทุ่มพอดี เป็นข้ออ้างให้ปลีกตัวได้อย่างเหมาะสม
“นี่ก็ดึกแล้วด้วย ฉันว่าเราควรจะรีบกลับลงไปดีกว่า ป่านนี้มาดามคิโชวอินคงรอแย่แล้ว”
ฉันเดินฉับๆนำหน้าคิโชวอินกลับไปที่ลิฟท์ ไม่มีคำพูดอะไรระหว่างเราสองคน ให้ความเงียบที่น่าอึดอัดปกคลุมแทน
จบมื้ออาหาร แม่และฉันเดินไปส่งสองแม่ลูกคิโชวอินขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าโรงแรม เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ คิโชวอินไม่ได้มีท่าทีอะไรแปลกๆแบบเมื่อครู่นี้ เธอก็ยังสงบเสงี่ยม กริยามารยาทเรียบร้อยตามประสาคุณหนูทั่วไป โค้งหัวขอบคุณฉันที่พาไปชมสวน ฉันได้แต่พยักหน้าให้
เมื่อสบตากัน คิโชวอินกลับมองฉันด้วยสายตาที่ดูประหลาด มันมีอะไรแฝงอยู่ภายในที่ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด เมื่อรวมกับการกระทำตอนที่อยู่ในสวน ฉันก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจคิโชวอินมากขึ้นไปทุกทีๆ
ผู้หญิงแบบนี้ไม่สมควรจะอยู่ใกล้ชูสุเกะ แต่จะห้ามได้ยังไงกันล่ะ
ฉันคิดอยู่ภายในใจอย่างสับสน อันที่จริงถ้าบอกเรื่องในวันนี้ไป ชูสุเกะอาจจะไม่เชื่อก็ได้ หมอนั่นมันรักของมันขนาดนั้น ไม่มีทางจะเชื่อว่าคนรักไปทำเรื่องอะไรไม่ดีไว้แน่
แต่ถ้าไม่บอกก็เหมือนเก็บปัญหาไว้กับตัวเอง แถมเป็นการทรยศความไว้วางใจของชูสุเกะ มันอาจจะลุกลามบานปลายไปกันใหญ่ก็ได้
อย่างไหนถึงจะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องกันนะ
----------------------------
มาซายะคิมิดอลเวลาเขียนนี่รู้สึกแปลกๆแปร่งๆจริงๆ หรือเพราะเป็นคาแรคเตอร์มาซายะ ไม่ใช่ไซซายะกันวะนั่น 555555555
KY อยากมาระบายว่าเมื่อวานฝันว่าดิบตอนที่ 300 อัพแล้วแถมกูยังเข้าไปพยายามดำน้ำอย่างมีความสุข พอตื่นมาเลยรีบเข้าเว็บไปเช็คแต่ก็พบกับความว่างเปล่า... กลับไปนอนต่อแม่ง 5555
900 เมนท์ละ เสนอชื่อกระทู้หน้ากันมั้ยพวกมึง
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับบั๊กนกพิราบ [ชีวิตติดลูป 299 ครั้งที่ 25]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปริศนาตอน300ที่หายไป [ตามหาท่านฮิโยโกะครั้งที่ 25]
เห็นโม่งพูดถึงฝันชงท่านเรย์กะกับจอมมาร กุก็นึกขึ้นมาได้ว่ากุฝันเช่นกัน แต่ในฝันดันไม่ใช่เรือที่พาย (จอมมาร เจ้าแม่) กลับเป็นบากะ เจ้าแม่ ซะงั้น orz
ทั้ง ๆ ที่นึกว่าครั้งแรกที่ดื่มไวน์ จะได้ดื่มกับท่านพี่ระหว่างดินเนอร์สุดโรแมนติก แต่กลับเป็นตอนที่ทุกคนนัดเที่ยวบนเรือสำราญ ใครซักคนเปิดไวน์ที่ท่านพี่เคยบอกว่าชอบมาก ฉันเลยรับมาแก้วหนึ่งด้วยเช่นกัน
ผ่านไปเกือบปีแล้วตั้งแต่ตอนจบการศึกษา พอหวนนึกก็ทำให้รู้สึกคิดถึงไม่ได้ คิมิดอลที่คิดว่าจะลงเอยด้วยงานหมั้นของคาบุรากิกับวาคาบะจังกลับไม่เป็นไปตามคาด ไม่ใช่เพราะคาบุรากิถูกที่บ้านกีดกัน หรือมีนางร้ายตัวใหม่โผล่ออกมา แต่ตอนที่คาบุรากิสารภาพรัก วาคาบะจังกลับปฏิเสธ
“ฉันดีใจและเป็นเกียรติมากที่ท่านคาบุรากิมอบความรู้สึกดี ๆ ให้ แต่ฉันคงไม่สะดวกใจที่จะใช้ชีวิตในโลกของท่านคาบุรากิ ในขณะเดียวกัน ท่านคาบุรากิเองก็ไม่สามารถทิ้งโลกของท่านมาอยู่กับฉันได้เช่นกัน เพราะอย่างนั้น...เป็นเพื่อนกันเถอะนะคะ”
เหตุผลที่ดูเป็นผู้ใหญ่นั้นหลุดออกมาจากปากของวาคาบะจัง ทำเอาท่านคาบุรากิไปต่อไม่ถูก ฉันนึกว่าคนร้อนแรงอย่างคาบุรากิจะตามตื้อต่อจนถึงที่สุด ทิ้งสมบัติของตระกูลคาบุรากิหนีตามวาคาบะที่ได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ แต่ผลกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด คาบุรากิยอมรับการตัดสินใจของวาคาบะแต่โดยดี แม้จะไม่ได้หนีไปสถานที่ฆ่าตัวตายเหมือนอย่างตอนอกหักจากท่านยูริเอะ แต่ก็ซึมไปมาก ในตอนวิกฤตนั้นเพื่อนคนเดียวของคาบุรากิกลับไม่ได้คอยปลอบ เพราะกำลังวุ่นวายกับงานหมั้นของตัวเอง ดังนั้นฉันที่เป็นเพื่อนตัวสำรองเลยต้องทำหน้าที่แทนอย่างการไปดูแสงเหนือที่ฟินแลนด์หรือค้นหาตัวเองที่มองโกเลีย รวมถึงหลาย ๆ ประเทศ เรียกได้ว่าปิดเทอมก่อนขึ้นมหาวิทยาลัยนั้นพวกเราไม่ได้เหยียบญี่ปุ่นเลยแม้แต่วันเดียว ในตอนนั้นฉันเองก็เหลวไหลมากเหมือนกันที่ไปต่างประเทศกับคาบุรากิสองคน น่าตกใจที่บ้านของพวกเราไม่มีใครเอ่ยปากอะไร ท่านพี่ก็ไม่ได้ห้ามเลยแม้แต่ครั้งเดียว เว้นแต่ทุก ๆ คืนจะส่งข้อความมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง ซึ่งส่วนมากฉันจะตอบกลับไปว่าในวันนั้นทำอะไร ไปที่ไหน กินอะไร บางครั้งก็บ่นคาบุรากิที่พาลุยหิมะบนเขา พาไปอยู่ในกระโจมท่ามกลางทะเลทรายที่ตอนกลางคืนหนาวจนนอนไม่หลับ ทริปสุดท้ายในประเทศรัสเซียพวกเราทำทุกอย่างหาย หลงทางในป่าจนนึกว่าจะไม่รอดจนกระทั่งหน่วยกู้ภัยช่วยออกมาได้ โชคดีที่ทางบ้านของพวกเราไม่ได้รับการติดต่อนานผิดปกติจนไปแจ้งความให้สถานทูตช่วยเหลือและมารับกลับประเทศด้วยตัวเอง ตอนนั้นคาบุรากิถูกดุเสียจนฉันที่ขี้ขลาดต้องออกหน้าให้ ท่านพ่อสุดเท่ห์ของคาบุรากิถึงจะเย็นลง ด้วยเหตุนั้น กว่าจะกลับประเทศได้ก็เปิดภาคเรียนใหม่ก็เริ่มไปแล้วเกือบครึ่งเดือนแล้ว
คาบุรากิเรียนคณะเดียวกับเอ็นโจ แต่เป็นคนละคณะกับฉัน ช่วงแรก ๆ ที่ขาดเรียนไปทำให้ค่อนข้างยุ่ง ไหนจะต้องทบทวนบทเรียนที่คนอื่นเรียนไปแล้ว ไหนจะต้องเข้าร่วมกิจกรรม คาบุรากิเองก็วุ่นวายอยู่กับการเรียนและการสืบต่อกิจการที่บ้าน เทอมต่อ ๆ แม้จะได้เจอหน้ากันบ้าง แต่ไม่ได้ไปไหนมาไหนเหมือนอย่างตอนมัธยม ได้แต่คุยกันทางอีเมล์และพบหน้าในงานสังคม
หลังจากสอบเสร็จ ฉันก็ได้รับคำเชิญจากคาบุรากิซึ่งที่บ้านกำลังเปิดเส้นทางเดินเรือสำราญเส้นทางใหม่ว่าจะจัดทริปเดินทาง แน่นอนว่าในทริปนั้นไม่ได้มีแต่ฉันที่เป็นแขก แต่ยังมีหนุ่มสาวทั้งเพื่อนที่มหาวิทยาลัย และบรรดาลูกหลานของแวดวงสังคมชั้นสูงอีกค่อนข้างมาก
เรือออกเดินทางในตอนเย็น พอทุกคนพักผ่อนในห้องพักของตัวเองได้ครู่หนึ่งก็ออกมาร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ฉันมองคาบุรากิที่ทำหน้าที่เจ้าบ้านได้อย่างดีเยี่ยม เดินคุยกับคนโน้นคนนี้ จนกระทั่งเดินมาหาฉันซึ่งกำลังคุยกับคนรู้จัก ถามเรื่องความสะดวกสบายว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องหรือไม่ได้ไม่กี่คำ ก็ขอตัวไปคุยกับคนอื่นต่อ
เพลิดเพลินกับงานเลี้ยงได้ไม่เท่าไหร่ เสียงคุ้นเคยที่ขาดหายไปก็ทักขึ้น พอหันไป ก็พบว่าเป็นเอ็นใจที่เดินควงคู่หมั้นของตัวเองมา
ทั้ง ๆ ที่ตอนมัธยม ฉัน คาบุรากิ และเอ็นโจสนิทกันมากจนไปเที่ยวหลังเลิกเรียนทุกสัปดาห์ แต่หลังจากคาบุรากิอกหัก และหลังจากงานหมั้นของเอ็นโจ พวกเราคุยกันแทบนับคำได้ ฉันไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไงดี บางครั้งก็แอบคิดว่าพวกหมู่บ้านมีรักนี่ช่างไร้น้ำใจ ในขณะที่เพื่อนเจ็บช้ำ ตัวเองกลับหวานชื่นกับผู้หญิง แล้วถ้าเอ็นโจเหลียวแลคาบุรากิซักนิด ฉันก็คงไม่ต้องไปทัวร์รอบโลกกับคาบุรากิจนขาดเรียนไปครึ่งเดือน
ไม่ทันจะได้คุยอะไร เอ็นโจก็ต้องพาคุณยุยโกะที่เมาเรือไปพัก ฉันมองภาพคู่รักแล้วรู้สึกกร่อย พอใครซักคนเปิดไวน์แล้วชวนดื่ม เลยตกลงทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่บรรลุนิติภาวะ
พอได้ทดลองไวน์ที่ท่านพี่ชอบกลับยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ ก็พอรู้อยู่หรอกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์น่ะขม แต่พอเห็นท่านพี่กับทานูกิดื่มด้วยสีหน้าชื่นชอบแล้วก็อดตั้งความหวังไม่ได้ พอคนชวนเห็นฉันจิบแค่จิบเดียวก็ถามว่าไม่ชอบงั้นหรือ ฉันได้แต่สวมหน้ากากแล้วบอกว่าชอบมาก เลยฝืนใจดื่มลงไป แต่พอดื่มไปได้ซักพัก รสที่แย่จนอยากจะบ้วนทิ้งก็ไม่ได้แย่มากนัก ฉันยังได้ลองชิมไวน์อีกหลายขวดที่คนอื่น ๆ เปิด รู้สึกหวิว ๆ เหมือนเท้าจะไม่ติดพื้น ผิวแก้มร้อนผ่าวจนเหมือนจะเป็นไข้
ใครซักคนบอกกับฉันว่าจะพากลับห้อง ตอนแรกฉันบอกว่ากลับเองได้ แต่พอจะก้าวเท้ากลับเซซะงั้น ฉันหัวเราะให้กับความซุ่มซ่ามของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่เกิดใหม่ในร่างของคิโชวอิน เรย์กะ แท้ ๆ แต่กลับยังคงนิสัยเปิ่น ๆ เหมือนตอนชาติก่อนซะได้ ฉันเองก็ไม่ใช่เด็กแล้ว นับรวมอายุชาติก่อนกับชาตินี้ก็เรียกได้ว่าเป็นป้าคนหนึ่ง
พอนับอายุของตัวเองแล้วก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่อายุป่านนี้แล้วแต่กลับยังโสด หรือว่าชาตินี้ไม่มีวันหลุดพ้นจากคำสาปหมู่บ้านคานทองแล้วจริง ๆ
“ดื่มไปกี่แก้วน่ะ” จู่ ๆ คนที่เดินร่อนไปทั่วงานวุ่นวายกับการเอ็นเตอร์เทรนแขกก็มาหยุดอยู่ตรงหน้า ฉันมองคาบุรากิที่เคร่งขรึทขึ้นมากแล้วอยากจะหัวเราะทั้งน้ำตา ขนาดพระเอกคิมิดอลอย่างคาบุรากิยังอกหัก แล้วนางร้ายอย่างฉันจะหวังอะไร
ฉันพยายามจะนับ พอดึงมือที่เกาะแขนของใครซักคนที่อยู่ข้างตัวออกจะมานับนิ้ว ร่างก็ทรุดลงไป คนข้างฉันรวบเอวแน่น คาบุรากิพูดอะไรกับเขาอยู่นาน คน ๆ นั้นก็ปล่อยฉันให้คาบุรากิประคองแทน
“ยัยบ้า ไม่เคยดื่มทำไมถึงได้ปล่อยให้ตัวเองดื่มจนเมาแอ๋ขนาดนี้”
ฉันหัวเราะ ก่อนจะเอื้อมมือไปหาคาบุรากิ ข้างหนึ่งคล้องคอเขาเป็นลูกลิงยึดตัวเองไม่ให้ตก อีกข้างบีบจมูกโด่ง ๆ นั่นอย่างหยอกเล่น
“เป็นห่วงรึไง”
คาบุรากิถอนหายใจ ในตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเขาเหมือนท่านพี่มาก ทั้ง ๆ ที่คาบุรากิไม่มีอะไรเหมือนกับท่านพี่ที่แสนอ่อนโยนของฉันแม้แต่น้อย
คาบุรากิพูดอะไรบางอย่าง...
แล้วกุก็ตื่นค่ะ!!!!
จบ พยายามนอนให้ฝันต่อแล้วแต่ไม่ฝันต่อค่ะ ฮืออออ
>>908 กุโกรธตัวเองว่าทำไมถึงต้องตั้งนาฬิกาปลุกตอนสำคัญ อีกอย่างเสียใจตรงกุฝันจาก pov เจ้าแม่ คือ จำไม่ค่อยได้ด้วยว่าหลัง ๆ เอ็นโจทำอะไรใช่คนที่พาเจ้าแม่ไปนอนป่าว
ตอนตื่นกุยังงงเลยว่าที่บ้านสองคนนี้ยอมปล่อยไปทัวร์สองต่อสองได้ยังไง ตกลงเจ้าแม่ชอบจอมมาร จอมมารหนีไปหมั้นเลยเสียใจป่าว ขนาดในฝันกุยังฮิโยโกะซามะ ไม่เคลียร์ให้ชัดเจนเลย ฮือออ
กูเพิ่งตามเรื่องนี้และเพิ่งอ่านจบ คันปากอยากหาคนเม้าด้วยแล้วก็มาเจอกระทู้นี้เข้า กูมีคำถามอยากจะถามนิดหน่อย
1.เรื่องนี้มี lc ในไทยรึยัง กูอยากได้เป็นเล่มมาเก็บมาก
2.ต้นฉบับมีความคืบหน้าบ้างมั้ย คนแต่งมีบล็อกหรือเพจบ้างรึเปล่า ถึงกูอ่านญี่ปุ่นไม่ออกแต่อยากเข้าไปส่อง
3.มีฟิคหรือโดที่มันแจ่มๆแนะนำกูมั้ย ไม่เกี่ยงสัญชาติและภาษา กูอยากได้มาเติมเต็มจินตนาการ
4.อยากรู้ว่าตอนที่ 299 ที่เรย์กะวิ่งไปหาชุดใส่ทันทีนี่คือกระตือรือร้นที่จะไปเที่ยวกับเอ็นโจงั้นเหรอ กูไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงเท่าไหร่ ทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไง ชอบเขา อยากไปกับเขา อยากอยู่กับเขา?? แต่ส่วนตัวกูคิดว่าเอ็นโจชอบนางถึงขั้นรักแล้วล่ะ
5.วาคาบะนี่คือชอบคาบุรากิเหมือนกันใช่มั้ย เห็นยอมไปเที่ยวด้วย ทำอาหารมาให้กิน ปกติแล้วผู้หญิงจะตื่นมาทำกับข้าวให้เพื่อนผู้ชายทุกวันมั้ย อันนี้อยากรู้เฉยๆ
>>912 ขอตอบข้อ4 ด้วยฟิลเตอร์สีชมพูเข้าตีมวาเลนไทน์ ก็อาจจะใช่แหล่ะ ดูดอกไม้ไฟเป็นเทศกาลที่สำคัญในญี่ปุ่นอยู่นะ แถมเจ้าแม่น่าจะไม่ค่อยมีเพื่อนชวนไปงานแบบนี้เท่าไหร่(…) แบบว่าดูเทศกาลคริสต์มาสที่นางนอนกลิ้งอยู่คนเดียวสิ//กลุ่มท่านเรย์กะดูไม่นิยมพาท่านเรย์กะไปงานแบบนี้เท่าไหร่?เพราะว่าต้องคอยกันเจ้าแม่หน่อยๆ(ตามมุมมองเซริกะ) แล้วปีนี้เตรียมสอบด้วย ได้ไปคลายเครียด และมีโบนัสพ้อยท์เป็นน้องยูกิโนะ
ส่วนข้อ5 ญี่ปุ่นไม่แน่ใจว่ะ แต่วาคาบะจังน่าจะทำให้น้องๆอยู่แล้ว ไม่ลงทุนตื่นเช้าทำให้คาบุคนเดียวหรอก มองในมุมก็อาจจะแค่เพิ่มมาคนเดียวไม่มีอะไร แต่ตามโชโจมังงะทั่วไป ทำอาหารกลางวันนี่เป็นมิชชั่นอย่างหนึ่งของแฟนสาวเลยนะ!
>>912 1. ยังไม่มี รออยู่เหมือนกัน แต่คนเขียนยังไม่ขายลิขสิทธิ์ให้สนพ.ไหนในญี่ปุ่นเลย ร้องเพลงรอกันไป
2. ท่านฮิโยโกะ (คนแต่ง) แม่งอินดี้สัด ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรให้ติดตามทั้งนั้น มีแต่กล่องข้อความในเวบนาโร่ให้ติดต่อได้ แต่จะตอบหรือเปล่าไม่รู้นะ คนเขียนไม่เคยตอบคอมเมนต์ ไม่เคยทิ้งร่องรอยใดๆ เรื่องตัวเองเลย
3.ตามหาได้ใน pixiv tag 謙虚、堅実をモットーに生きておりますไม่ก็กาวชั้นดีโม่งกวนเองในนี้แหละ
4. กูว่านางตื่นเต้นดีใจ อยากสวยที่สุดในวันนั้นแหละ //ผ่านฟิลเตอร์และสูดกาวลึกๆ
5.วาคาบะนี่ดูตามปฎิกริยาก็น่าจะชอบแล้วล่ะ นั่งเรียนพิเศษด้วยกัน ไปเที่ยวกันสองต่อสอง ทำขนาดนี้แล้วบอกไม่คิดอะไรเลยนี่ก็เกินไปหน่อย
>>912 ยินดีต้อนรับโม่งใหม่แห่งมู้นี้ มาร่วมด้วยช่วยกันกวนกาวจนกว่าดิบจะออกกันเถอะ กาวในนี้รับรองคุณภาพชั้นเลิศ หลุดลอยแน่นอน
1.ลิขสิทธิ์? ท่านฮิโยโกะไม่ปล่อยง่ายๆหรอกเรื่องนี้ เพราะกว่าจะหาตัวเจอนี่ยากส์ ถ้ามีแบบdoulou dalu 3 ที่เพิ่งประกาศลิขสิทธิ์ไปนี่จะกรี้ดตายเลย
2.อย่างที่โม่งบนๆบอกไว้ ร่องรอยไม่มี ไล่ไม่ทันจับไม่ได้จ้า ติดต่อยาก
3.มีเป็นภาพฟินๆอยู่ในpixivนะ
4.มองด้วยฟิลเตอร์แล้วบอกเลยว่าโคตรหลุมไร้ก้น5555
5.ชอบแล้วล่ะ ไม่งั้นคงไม่ตกลงไปหรอก อย่างน้อยๆก็เกิดประกายเล็กๆล่ะ
กู 912 เองนะ ตื่นมาตกใจนิดหน่อยที่ได้คำตอบล้นหลามเลย ขอบคุณทุกคนมากๆที่มาช่วยกันตอบ
เมื่อคืนคุยกับเพื่อนผู้หญิงที่ไม่ได้อ่านเรื่องนี้ แล้วเล่าสตอรี่คร่าวๆให้ฟังเพื่อถามพฤติกรรมผู้หญิง มันบอกมาว่าผู้หญิงเวลาไปกับคนที่ตัวเองชอบนี่คืออยากทำให้ตัวเองดูดีต่อหน้าเขาให้ได้มากที่สุดน่ะ มันจะคนละฟีลกับเวลาไปงานเลี้ยง ถ้าไปงานเลี้ยงคือเจอคนเยอะๆมันก็ต้องดูดีไว้ก่อนจะได้ไม่ขายหน้า แต่ถ้าคนที่ชอบชวนคืออยากสวยเพื่อเขาคนเดียวอะไรทำนองนั้น แล้วถ้าเพื่อนแบบกูมาชวนมันตอนวันจันทร์ไปเที่ยวในคืนวันเสาร์ มันคงไม่รีบวิ่งไปหาชุดหรอก ใกล้ๆวันนัดซักวันสองวันค่อยคิดก็ได้ว่าจะใส่อะไร มีเวลาตั้งเยอะตั้งแยะ แถมไม่เลือกอะไรมากมายขนาดนั้นด้วย
ส่วนเรื่องทำกับข้าวให้กินเนี่ย เพื่อนกูคนเดิมก็บอกว่าถ้าไม่ได้รู้สึกกับเขาเป็นพิเศษจริงๆคงไม่อาสาทำมาให้ด้วยตัวเอง กับเพื่อนเราก็จะมีโมเมนต์กันคนละแบบ สมมติถ้ากูไม่ได้เอาข้าวมากินตอนกลางวัน อย่างดีมันก็เดินไปเซเว่นเป็นเพื่อนเท่านั้นล่ะ ไม่ออกปากบอกต่อไปนี้เดี๋ยวกูจะทำกับข้าวให้แดกเองหรอก มึงไม่มีบุญขนาดนั้น 555555555555555555555
อันนี้คือความเห็นจากกลุ่มเพื่อนผู้หญิงที่กูคบมาเป็นสิบปีแล้วนะ แต่กับผู้หญิงคนอื่นคิดยังไงกูก็ไม่รู้เหมือนกัน กูเป็นชายควายเผือกตัวหนึ่งที่ไม่ค่อยจะเข้าใจอารมณ์หรือพฤติกรรมผู้หญิงซักเท่าไหร่
>>920 ในฐานะชะนีน้อยวัยใส(?)คนนึง กูมีคห.คล้ายๆเพื่อนมึงแหละ ยิ่งคุยเสร็จก็รีบวิ่งไปค้นตู้เลยแสดงว่าตื่นเต้นมาก
มีอีกอย่างคือพอมองในฟิลเตอร์เรือเอ็นโจ กุว่ามันเหมือนจะมีhintหลายจุดที่บอกว่าท่านเรย์กะจริงๆก็ชอบเอ็นโจแต่พยายามหลอกตัวเองอะ ซึ่งอะไรแบบนี้กูก็เป็น555 อ่านๆไปก็นึกถึงตัวเองหลายอย่างเลย
ส่วนเรื่องวาคาบะกุว่าถ้าไม่มีใจให้ซักนิดเลยก็คงไม่ลงทุนทำกับข้าวมาให้หรอก ยุ่งยากจะตาย
กูว่ามันแสดงออกชัดมากตรงที่คุยจบปุ๊บวิ่งหาชุดปั๊บนี่ล่ะว่ะ เวลานัดก็ไม่ใช่พรุ่งนี้มะรืนนี้ซักหน่อย จะรีบเตรียมตัวอะไรขนาดนั้น มีใครบ้างที่นัดกับเพื่อนล่วงหน้านานเป็นอาทิตย์แล้วหาเสื้อผ้าใส่เตรียมไปทันทีที่พูดการนัดหมายจบบ้างล่ะ ถ้าไม่ใช่นัดไปงานสำคัญที่เป็นหน้าเป็นตาจริงๆ กูก็เห็นเขาไปเลือกชุดวันที่ใกล้ๆวันนัดทั้งนั้นอ่ะ
ส่วนประเด็นทำกับข้าวมาให้ กูว่ามันพ้นช่วงเปิดโอกาสให้จีบแล้วล่ะ กูคิดว่าตอนนี้เข้าช่วงคนโดนจีบชอบคนมาจีบตอบแล้ว เพราะทำกับข้าวมามันก็ดูทุ่มเทให้เขาเหมือนกัน แบบที่ซากุระกับอาโออิคุยกันว่าทำข้าวกล่องให้แฟนน่ะ ไม่รักไม่ชอบกูว่าไม่มีทางที่เราจะทุ่มเทลุกขึ้นมาทำอาหารหรือหอบข้าวไปให้เขากินทุกวันแน่ๆ
กูเห็นด้วยกับคห.บนๆนะ เวลามีเพื่อนผู้ชายชวนไปเที่ยวอย่างมากก็เตรียมชุดคืนก่อนนัดเท่านั้นอ่ะ แล้วถ้ามันลืมเอาข้าวมา ถ้ามีน้ำใจหน่อยก็แบ่งให้ไม่ก็ไปซื้อเป็นเพื่อน ไม่ทำกับข้าวให้หรอก เปลือง 555
เรื่องเรย์กะกูคิดทั้งสองอย่างนะ อย่างแรกก็เหมือนกันกับด้านบนๆ น่ะ
อย่างสองก็แบบตื่นเต้นไง คือกูมานึกย้อนอดีตตอนที่ต้องใส่ชุดราตรีไปงานครั้งแรก ก็ตื่นเต้นแบบนี้แหล่ะ คุยกับเพื่อนๆ เรื่องเสื้อผ้า หน้า ผม ว่าจะใส่แบบไหน ทำแบบไหน เป็นอาทิตย์ๆ เลยนะ ถึงขนาดไปซื้อชุดเตรียมไว้ล่วงหน้าตั้งหลายวัน ลองคิดกลับกัน เรย์กะน่ะฝันอยากไปงานดูดอกไม้ไฟมาตลอด พอมีใครมาชวนก็อาจตื่นเต้นบ้าง เพราะถือว่าไปครั้งแรกก็ได้
แต่เอาเข้าจริงใจในดันเอนเอียงไปอย่างแรกว่ะ
ส่วนเรื่องทำกับข้าว เท่าที่เคยอ่านโชโจมังงะมา นอกจากญาติแล้ว ก็ไม่เคยเห็นตัวละครหญิงทำกับข้าวให้ตัวละครชายด้วยเหตุผลอื่นนอกจากชอบเลยนะ
>>924 นอกจากจะเสียเวลาทำกับข้าวให้ยังต้องแบกไปให้มันกินแล้วแบกกล่องกลับมาล้างที่บ้านอีก ทั้งเหนื่อยทั้งหนัก อีกอย่างนะ ถ้าไม่กินข้าวกล่องร้านสะดวกซื้อ คาบุมันก็สั่งพ่อครัวที่บ้านเตรียมข้าวกล่องมาให้ในวันหลังก็ได้ ถ้าวาคาบะไม่ได้รักหรือชอบก็ไม่มีความจำเป็นอันใดที่ต้องเสนอตัวว่าจะทำกับข้าวให้เลยซักนิด ถ้าใจดีมันก็เกินขอบเขตของคำว่าเพื่อนไปหน่อย
แถมข้าวกล่องที่บ้านคาบุเตรียมคงหรูหราไฮโซอลังการอร่อยปานร้านสามดาวมิชลินมาเอง เราจะเอาอะไรไปสู้ นางเสนอตัวมาแบบนี้ก็คงอยากให้เขากินฝีมือตัวเองแน่ๆว่ะ ลองถามเพื่อนผู้หญิงที่สนิทๆกัน(ไม่ใช่แนวเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อนะเว้ย)ดูก็ได้ว่ามึงจะทำกับข้าวมาให้กูแดกทุกวันได้มั้ย กูว่าร้อยทั้งร้อยคงตอบฝันไปเหอะมึง
>>926 เขาคงมีแพนทรีเล็กๆให้ไปอุ่นกับข้าวมั้ง แบบบริษัทกูอะ ถ้าใครห่อข้าวมากินก็ไปอุ่นข้าวในไมโครเวฟห้องแพนทรีก่อนแล้วค่อยกลับมานั่งกินที่โต๊ะตัวเอง กลิ่นกับข้าวหึ่งไปหมดในแพนทรี จะมีกลิ่นแกงกระหรี่เพิ่มมาคงไม่แปลกอะไร
>>927 กูว่าระดับวาคาบะคงไม่ต้องหาหนูทดลองกินกับข้าวฝีมือตัวเองหรอก ถ้าเป็นเจ้าแม่ก็ว่าไปอย่างนะ เสี่ยงทุกครั้งที่เคี้ยว 555555555555
>>925 แค่กูทำกินเองล้างเองคนเดียวกูยังขี้เกียจเลย เรื่องจะทำให้เพื่อนด้วยนี่ฝันไปได้เลย
คนระดับคาบุรากิถ้าคิดจะเอาข้าวกล่องมาก็ทำได้สบายมาก วาคาบะไม่จำเป็นต้องลำบากทำมาให้เลย ดูท่านเรย์กะสิ ทำอาหารไม่เป็นแต่มีคนทักว่าที่บ้านเปิดร้านอาหารเหรอตอนเห็นข้าวกล่องนะ ถถถถ
กูว่าวาคาบะชอบคาบุกลับแล้วนะ แต่กูก็ไม่แน่ใจ นางอาจจะเป็นคนใจดีแล้วก็ไม่คิดอะไรก็ได้ (หมายถึง ไม่ทันคิดว่าคาบุสามาถห่อข้าวกล่องมาได้สบายๆ อาจจะคิดแค่ว่า พวกPivoineไม่รู้จักข้าวกล่อง/ไม่ค่อยทานข้าวกล่อง เลยเสนอตัวทำมาให้เลยเพราะยังไงปกติก็ทำอยู่แล้ว ไรงี้)
>>929 กูดูทรงแล้วคิดว่าวาคาบะไม่น่าจะใจดีมีเมตตาขนาดนั้นว่ะ ดูจากด้านมืดของนางที่แผลงฤทธิ์ใส่คนที่มาแกล้งแล้ว นางก็คนปกติทั่วไปนี่ล่ะ ถึงจะทำกับข้าวเป็นประจำอยู่แล้ว แต่พอทำเสร็จก็ต้องหอบหิ้วขึ้นรถไฟ ฝ่าฟันการจราจร เพิ่มภาระให้ตัวเองทุกวันๆ ถึงจะมีความอดทนแค่ไหนแต่ก็ต้องมีหงุดหงิดกันบ้างล่ะวะ ว่าแค่เพื่อนกูต้องทำขนาดนี้มั้ย ดวกซ์ แต่นี่นางออกปากเองก็คงเตรียมใจมาแล้วที่จะรับภาระนี้ไว้เองด้วยความเต็มใจน่ะ
วาเลนไทน์มาแล้วจ้า ปีนี้จะมีดิบออกหรือไม่
KY นิด เห็นแท็ก #พบกันที่ชุมนุมแม่มดที่ฮิตๆ กันอยู่ช่วงนี้แล้วกูคิดถึงท่านเรย์กะกับยูกิโนะคุงจังว่ะ แม่มดผมม้วนที่เก็บเด็กน้อยโชตะมาเลี้ยงแล้วโตขึ้นกลายเป็นชูสุเกะคุงคนพี่นี่คงกร๊าวใจมิใช่น้อย
กุสงสัยว่าทำไมท่านเรย์กะข้ามมิติมาแล้วยังทำอาหารห่วยแตกวะ
คือชาวบ้านคนธรรมดา ปกติก็ต้องช่วยแม่ทำอาหารปะ คือถึงขนาดทำอาหารบ้านๆไม่เป็นเลยนี่ก็เกินไป
อย่างขนมนี่ทำไม่เป็นพอเป็นไปได้
>>938 กูว่าที่มันห่วยเพราะจินตนาการของนางที่จะใส่อะไรมั่วซั่วเข้าไปแล้วทำให้อาหารออกมารสชาติย่ำแย่ว่ะ แต่พอทำดีๆไม่ออกนอกลู่นอกทางนางก็ทำได้ดีนะ อย่างช็อกโกแลตลาวาที่ทำให้ท่านพี่ ทานุกิ อิมาริในวันวาเลนไทน์น่ะ
จะต้องบรรเจิดแค่ไหนถึงคิดจะเอาลูกมิราเคิลกับพุดดิ้งใส่ลงแกงกระหรี่ได้
เสนอชื่อ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการ "ฉันมารอตอนที่สามร้อยที่ท่าน้ำทุกวันเลย" /กระโจนไปงมก็ไม่พบ [ จึงสูดฟิคกาวอีก 25 ตอน]
เสนอมั่ง
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ: ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรัน : โอม tag love จงบังเกิดในตอนที่ 300
เรามาคอยดูกันนะฮะ ก่อน23:59ของวันนี้ตามเวลาญป. ชาวเราเหล่าโม่งซุยรันจะไฝแห้งกันหรือไม่ไม่ไม่ไม่ไม่
เอาใหม่ๆ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ: ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรัน : โอม tag love จงบังเกิดในตอนที่ 300 [ดูพลุ ฉลอง 25 กระทู้]
วันนี้ว่างนิดหน่อยเลยไปเช็ควันที่ดิบอัพในช่วงวาเลนไทน์
ครั้งแรกปี 2015 คือตอนที่ 237 เป็นตอนที่อิมาริเล่าความหลังให้เรย์กะฟังเรื่องหนีไปเที่ยวกลางคืนที่ปารีส แล้วเปิดประตูเข้าไปเจอท่านพี่นั่งรออยู่
ต่อมาปี 2016 อัพช่วงวันที่ 11/02 คือตอนที่ 247 สามหน่อประชุมหาตัวคนร้ายรังแกวาคาบะ แล้วเอ็นโจเล่าถึงหนังสายลับสองหน้า
ครั้งต่อมาปี 2017 คือตอนที่ 273 เอ็นโจชวนเรย์กะไปกินคีช
ปีนี้อ.แกจะอัพฉลองวาเลนไทน์มั้ยน้า
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ: ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรัน : อาถรรพ์เสียงโหยหาตอน 300 [ โอ้! ฮิโยโกะซามะเปิดการ์ดล่องหนแล้วครับ ! การ์ดใบที่ 25]
วันนี้เปิดเช็คสี่รอบละยังไม่เห็นวี่แววตอน300 (´༎ຶོρ༎ຶོ`)
ปล.จะว่าไปถ้าสมมติว่าวันนี้อ.เค้าอัพตอนใหม่ให้จริงๆนี่เรายังจะตั้งชื่อมู้แก้เคล็ดอยู่ปะ5555 เห็นมีแต่ชื่อมู้เกี่ยวกับตอน300
หมดวาเลนไทน์แล้วตอนใหม่ก็ยังไม่มา ร้องไห้
ญี่ปุ่นตอนนี้กี่โมง มึงงงง
มารอลุ้นอั่งเปาแทนช็อกโกแลตละกัน ถถถ
โอย คิดถึงฤดูร้อนที่ซุยรัน อยากดูดอกไม้ไฟแล้วค่ะท่าสฮิโยโกะ...
สหายโม่ง ช่วงนี้ก็รีรีดท่านเรกะใหม่ ท่านเรกะเคยแสดงความเห็นว่าผญชอบผช.ที่ดูอันตรายหน่อยๆ ดังนั้นกาวไปว่าเรือเอ็นโจจะลอยไปถึงใั่งได้ใช่มั้ยวะ //แต่อันตรายสุดก็ท่านพี่ป่ะวะ หึหึหึหึ
>>938 ขอคัดค้าน กูต้องแต่เกิดมาเรื่องช่วยแม่ทำกับข้าวนี่เป็นอะไรที่ไม่เคยแตะ จนกระทั่งไปเรียนต่อนี่แหละ ถึงได้ลองทำกับข้าวเอง... สรุปแดกไม่ลงจ้า... ขนาดไข่ดาวยังไม่เป็นไข่ดาวอ่ะมึง... ต่อมาต้องทำไปวีดีโอคอลหาแม่ไป ให้แม่บอกทีละขั้นๆ ถึงแดกได้ น้ำตาจะไหล ดังนั้นเป็นคนธรรมดาไม่จำเป็นต้องทำอาหารเป็นนะมึง
กูอยากเห็นท่านพี่สายซีบ้าง…
กูว่าตอนนี้คู่ที่ดูเรียลที่สุดก็อิมาริท่านพี่แล้วว่ะ ถถถถ
จะสรุปยอดโหวตชื่อเลยป่ะ ใกล้เต็มละนะ
นับคะแนนโหวตชื่อ ไล่ตั้งแต่ >>903 เป็นต้นมา
>>903 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับงานชมดอกไม้ไฟในฝัน [ขอตอนต่อไปรอบที่ 25]
IIIIII
>>904 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับบั๊กนกพิราบ [ชีวิตติดลูป 299 ครั้งที่ 25]
>>905 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปริศนาตอน300ที่หายไป [ตามหาท่านฮิโยโกะครั้งที่ 25]
I
>>941
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการ "ฉันมารอตอนที่สามร้อยที่ท่าน้ำทุกวันเลย" /กระโจนไปงมก็ไม่พบ [ จึงสูดฟิคกาวอีก 25 ตอน]
IIII
>>945
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ: ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรัน : โอม tag love จงบังเกิดในตอนที่ 300 [ดูพลุ ฉลอง 25 กระทู้]
I
>>948
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ: ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรัน : อาถรรพ์เสียงโหยหาตอน 300 [ โอ้! ฮิโยโกะซามะเปิดการ์ดล่องหนแล้วครับ ! การ์ดใบที่ 25]
I
สรุปกระทู้ที่ 25 ที่รอคอยเป็น "ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับงานชมดอกไม้ไฟในฝัน [ขอตอนต่อไปรอบที่ 25]" เตรียมตั้งกระทู้ใหม่กันได้เลยนะเคอะ
เผลืออีกเก้าอัน ปั่นกันเลยมั้ยยย
ใครตั้งก็อย่าลืมเอาลิงค์มาแปะในกระทู้ด้วยน้าา
ตั้งกระทู้ใหม่ล่ะ เชิญวิ่งควายกันได้เลย!
https://fanboi.ch/webnovel/5401
แด่ตอน 300 !!!
ตรุษจีนยังไม่หมด อย่าเพิ่งนับศพเรือกาว!!!
ท่านฮิโยโกะและเหล่าโม่งฟิคได้โปรดเมตตา!
เข้าไปดูที่นาโร่เผื่อดิบอัพตอนใหม่ มีแต่ประกาศบอกว่าเรื่องนี้ไม่อัพมาสี่เดือนละจร้าาาา กูโคตรชอกช้ำใจ
เรือวาคาบะจงเจริญ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.