ต่อจาก >>812
.
.
.
.
.
คาบุรากิหันมาสบตาฉัน แล้วรีบเมินหน้าหนี นั่นแหนะ กลัวถูกจับได้ว่านัดวาคาบะจังไปชมดอกไม้ไฟสินะ คิดรึว่าจะแอบหนีออกจากหมู่บ้านคานทองได้โดยหัวหน้าหมู่บ้านอย่างฉันไม่รู้
“พวกนายชวนคิโชวอินไปดูดอกไม้ไฟกันตั้งแต่เมื่อไหร่...แล้วจะไปดูที่ไหนหรือ” คาบุรากิถามเอ็นโจด้วยสีหน้าหงุดหงิด หึ ทำเป็นกลบเกลื่อนสินะคะ แหม พวกเราไม่ตามไปขัดจังหวะเดทของนายกับวาคาบะจังหรอกน่า
“วันนั้นพอยูกิโนะได้ยินว่านายวางแผนจะล่องเรือดูดอกไม้ไฟ ก็เลยอยากดูบ้าง พอนายกลับไปก็โทรไปรบเร้าคุณคิโชวอินน่ะสิ พวกเราจองโต๊ะที่ภัตตาคารไว้น่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก” เอ็นโจบอกชื่อภัตตาคารออกไป คาบุรากิก็พยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้
“พรุ่งนี้แล้วสินะฮะที่จะได้เห็นคุณพี่เรย์กะในชุดกิโมโนฤดูร้อน ตื่นเต้นจังเลย” ยูกิโนะคุงหันมายิ้มกว้างให้ฉัน ทำเอาฉันเคลิบเคลิ้มแต่ว่า...เดี๋ยวนะคะ ภัตตาคารนั่นไม่ค่อยเหมาะกับชุดกิโมโนฤดูร้อนนะคะ แย่ล่ะ ทำไงดี ขณะที่ฉันกำลังอึกอักอยู่นั้น เอ็นโจ้ก็ดุยูกิโนะคุงเบาๆ “นี่นายอย่าเอาแต่ใจตัวเองนักสิ ภัตตาคารที่จองไว้บนยอดตึกมีเดรสโค้ด ต้องฟอร์มอล ไม่เหมาะกับกิโมโนฤดูร้อนหรอก อย่าทำให้คุณคิโชวอินต้องลำบากใจสิ” แล้วก็หันมาพูดกับฉัน “ไม่ต้องตามใจหรอกเขาหรอกนะ คุณคิโชวอิน”
จริงๆชุดกิโมโนฤดูร้อนก็มีอยู่แหละค่ะ ท่านแม่เองมาจากเกียวโต ทุกปีก็จะสั่งกิโมโนจากร้านกิโมโนเก่าแก่ที่นั่นมาเสมอ นัยว่าเป็นการสนับสนุนร้านค้าประจำที่ทุ่มเทออกแบบผลงานใหม่ๆมาให้ แต่ว่า ใส่ไปภัตตาคารยอดตึกคงไม่เหมาะจริงๆนั่นแหละ กำลังตัดสินใจจะบอกยูกิโนะคุงไปตรงๆ ยูกิโนะคุงก็ทำหน้าเศร้า
“ไม่ได้เหรอครับ ทั้งที่เป็นงานชมดอกไม้ที่เหมาะกับการใส่ชุดกิโมโนฤดูร้อนแท้ๆ ขอโทษด้วยนะครับ” ยูกิโนะคุงก้มหน้าพูดเบาๆ เฮ้อ...เห็นแบบนี้แล้วก็ปฏิเสธไม่ลงแล้วล่ะค่ะ หรือว่าเลือกกิโมโนที่ดูฟอร์มอล ทนร้อนเอาหน่อยดีนะ ขณะกำลังคิดว่าจะแก้ปัญหายังไง ก็ได้ยินคาบุรากิพูดขึ้นมา
“พวกนายมาดูดอกไม้ไฟบนเรือกับฉันก็ได้นะ” คาบุรากิบอกเอ็นโจ
หา...
“จริงหรือครับท่านพี่มาซายะ” ยูกิโนะคุงเงยหน้า ตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง
“ไม่เหมาะมั้งคะ ท่านคาบุรากิ” ไม่ดีนะจ้ะยูกิโนะคุง คาบุรากิกำลังจัดใหญ่เดทสาวนะ เดี๋ยวเดทล่มพวกเราอาจจะซวยกันหมดนะจ้ะ
“นั่นสิ มาซายะ นายวางแผนไว้แล้ว เปลี่ยนกระทันหันอย่างนี้จะดีเหรอ” เอ็นโจติงเรียบๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ทางนี้ก็ไม่ได้ วางแผนอะไรมาก ไปกันหลายๆคนก็ได้” คาบุรากิยืนยัน ดูอารมณ์ดีขึ้นบ้างแล้ว
แต่อย่างนายมีรึจะไม่วางแผนจัดเต็ม ทำไมจู่ๆเปลี่ยนใจกระทันหันล่ะ หรือว่าคาบุรากิคิดได้เองว่าการสารภาพรักตอนอยู่บนเรือสองคนน่ะ ไม่เวิร์ค
ก็แหม การถูกจู่โจมบอกรักบนเรือครุยเซอร์กลางทะเลนี่ก็เป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดมากเลยนะคะ คิดดูสิ อยู่กลางทะเลกันสองคน ถ้าเกิดปฏิเสธไปแล้วอีกฝ่ายโมโหจับเราโยนทะเลหรือเสียใจจนโดดจากเรือฆ่าตัวตายแล้วจะทำไงคะ
คาบุรากิฉุกคิดถึงข้อนี้เองได้ก็นับว่ามีสามัญสำนึกอยู่พอควร คงอยากให้เพื่อนๆช่วยไปคลายบรรยากาศสินะ อีกอย่างแต่ถ้านักเรียนซุยรันรู้เข้าว่าคาบุรากิชวนวาคาบะจังขึ้นเรือครุยเซอร์กันสองคนคงเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้ามีเอ็นโจและฉันไปด้วยก็เหมือนว่าวาคาบะจังได้รับการยอมรับจากพวกเราแล้ว หนทางรักของนายในซุยรันคงจะราบรื่นขึ้นสินะคะ
แล้วถึงแม้ว่า คาบุรากิเกิดบ้าจี้สารภาพรักกับวาคาบะจังแล้วโดนวาคาบะจังปฏิเสธ มีเอ็นโจอยู่ด้วย คงพอฉุดตาบ้านี่ไม่ให้โดดน้ำฆ่าตัวตายได้แหละ
พอคิดถึงความพยายามและพัฒนาการของคาบุรากิก็ทำให้ซาบซึ้งจนอยากเอาใจช่วยนะคะ วาคาบะจัง ท่านเอ็นโจ ฝากด้วยนะคะ