เพื่อนโม่ง ในpixivเวลาจะหาแฟนอาร์ตท่านเรย์กะใช้คีย์เวิร์ดอะไรกันอะ
Last posted
Total of 1000 posts
เพื่อนโม่ง ในpixivเวลาจะหาแฟนอาร์ตท่านเรย์กะใช้คีย์เวิร์ดอะไรกันอะ
ขอนอกเรื่องนะ คิดว่าเอ็นโจยังซิงอยู่ปะ? ไปเดทกับยุยโกะ ถึงจะชอบหรือไม่ชอบ ก็กลัวเหลือเกินว่าจะโดนสอยแล้ว หรือไปสอยเค้า? เฮ้อออ ถ้าเป็นแบบนี้คงเชียร์มิลง
เจ้าแม่ก็ผมดำนะแต่พอเป็นคุณหนูผมม้วนFAส่วนใหญ่แกล้งลืมลงสีผมกันหมด
เรื่องสายตาเอ็นโจนี่เพื่อนๆคิดว่าเรื่องจริงหรือมโน,เนื้อเน้นๆหรือกาวล้วนๆ,โชโจหรือคอเมดี้
คนที่ไม่ซิงคิดว่าคงเป็นท่านพี่กับอิมารินี่แหละ-------
ขอท่านพี่ยังซิงไม่ได้เหรออออ ส่วนคนที่มั่นใจสุดๆว่าซิง คือ อิตาคาบุ กับ นายตัวสำรอง
ก็คิดว่าคาบุรากิมันซิงแน่ๆชัวๆ
ภาพคาบุในหัวกู อินโนเซ้นส์ยิ่งกว่ายูกิโนะอีกว่ะ 55555555555
ผู้ชายเด่นๆที่น่าจะซิงแน่ๆ
- ไซซายะ
- หัวหน้าห้อง
- อิวามุโระ
- มินามิ
- คาซึรางิ
- อุเมวากะ
- คันตะ
- ยูกิโนะ (แน่สิวะ)
- ยูริ (แน่สิวะ #2)
คนที่ไม่แน่ใจ
- อาคิสะวะ ยังไม่น่าโดนซากุระชำเราหรอกมั้ง...
- ดิเท(?????) เห็นบ้าๆแบบนี้ หรือจริงๆอาจจะไม่ซิงก็ได้ เพราะความบ้าไงล่ะ!!!
- ตัวสำรอง ถึงจะปฏิเสธสาวรัวๆ แต่ก็มีแววว่าจะเคยลิ้มลองมาบ้าง
>>125 เอ็นโจอาจเคยก็ได้นา ดูสไตล์แล้วมีความท่านพี่+ท่านอิมาริอยู่หน่อยๆ จนบางทีกุก็อดจิ้นไม่ได้ว่าถ้าปรับพล็อตเป็นพ่อแม่ลูกเนี่ย ท่านพี่เป็นแม่ อิมาริเป็นพ่อ เอ็นโจเป็นลูกชัดๆ ฟิค...ต้องการฟิคเจ้าค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา *แค่กๆๆ*
อาจจะไม่เคยกับคุณยูโกะ แต่ก็อาจจะเป็นคนอื่น มีแววสูงแหละ
>>126 เออ ก็เป็นไปได้
*ยุยโกะ สิ เมา
อุเมวากะอาจจะโบโบ้ก็ได้นะมึง
>>124 ตัวสำรองน่าจะเป็นคนเนี้ยบอยู่ในกฎ วันๆหมกกับสภานร. ผญที่ดูสนใจก็มีแค่วาคะจัง กูว่าไม่น่านะ...
เอ็นโจกูว่าออกแนวหล่อแบบเยือกเย็น ผญรุมตอมตลอดพอๆกับไซตามะ อยู่ในสังคมคุณหนูรวยๆ วันหยุดก็เล่นกับน้องไม่ก็เดท(?)กับยุยโกะ คงไม่น่ากินใครหรอกนาา ถ้าเคยจริง.. แล้วเข้าแม่กูล่ะT-T
แต่จริงๆ ในหัวกูอุเมวากะเป็นคนน่ารักมากเลยนะ แต่บ้าหมาแบบนี้คงไม่มีแฟน...
ใครเรี่มประเด็นชิงอะไรนี่วะ55555
บัดสี!!!! รับม่ายด้ายย!!! พวกคุณคุยเรื่องอะไรกันในนิยายใสๆอย่างนี้ ซิงๆเซิงๆอะไรกัน!! (0///0)
แต่กุว่าเถรตรง อย่างอาริมะ อาจจะโดนพี่สาวแถวบ้านหลอกสอยไปตั้งแต่เด็ก แล้วก็ได้นะ 555
ไม่ใช่เกินคาด คาบุไม่ซิงแล้ว ส่วนเอ็นโจยังซิงอยู่....
คันตะก็อาจจะไม่ก็ได้นะมึง แค่กๆๆๆ
ถ้ายูกิโนะโตกว่านี้ก็คงไม่ซิงแล้... แค่กๆๆ
บาป! บาปกรรม! *โปรยเกลือสี่มุมห้องกระทู้*
คุกนะคะ~ เด็กๆทั้งหลายล้วนยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซิงเซิงอะไรกันคะะะะ
//ยกเลิกฟิลเตอร์สาวน้อย//
แค่ก ยกเว้นท่านพี่กะอิมาริ pivione ที่เหลือซิงแน่ๆ ดูเป็นคุณหนูหัวconservativeหน่อยๆ อย่างเอ็นโจก็ไม่น่าล้ำเส้นนะ?ก็ยังเป็นแค่ว่าที่คู่หมั้นนี่นา ถ้ามีอะไรกันจริงคงได้เป็นคู่หมั้นสมใจตาไก่โง่แน่ แต่ทำอย่างอื่น…ตามนิสัยฮีก็ไม่แน่อะนะ ถ้าสนใจอาจจะทำ แต่ถ้าไม่สนใจก็คงเป็น proper gentleman ตามชื่อเสียงน่ะแหล่ะน้า~
คิดดีกว่าว่านอกจากท่านเรย์กะ คิดว่าใครยังไม่มีจูบแรกอยู่บ้าง//ออกชื่อท่านเรย์กะมาด้วยความมั่นใจเพียงคนเดียว ที่เหลือ—ไม่กล้าเดาเลยขร่ะ
>>123 เอาจริงๆคือรู้สึกว่าฮีแสดงออกนานแล้ว แต่ไม่ว่าจะทำอะไรในสายตาเจ้าแม่ก็ดูจะผิดไปเสียหมด(ชงกาแฟให้ยังผิด) ยิ่งคนอื่นอวยเจ้าแม่นี่แทบจะใส่เกียหมาหนี เห็นแบบนี้แล้วเอ็นโจยังทนรักมาได้ตั้งนานนี่เก๊งงงเก่ง เอาจริงๆข้ารู้สึกว่าเอ็นโจสนใจเรย์กะมาตั้งแต่เด็กล้ว แบบแอบมองมาเรื่อยๆ ตอนแรกก็คิดว่าดูเหมาะกับคาบุดีคนอื่นอวยก็ช่วยด้วย แต่เห็นนางไม่เล่นแถมยังหนีซะขนาดก็เลยเริ่มสนใจแล้วกลายเป็นรัก(มโนเองล้วนๆ)
มานั่งสังเกตดีๆ เวลาคนอื่นทักว่า “เป็นท่านคาบุรากิเหรอคะ” แล้วเจ้าแม่ปฏิเสธเนี่ย ชาวบ้านก็เชื่อทุกคนนะ
แต่โดนดักต่อทันทีตลอดว่า “เป็นท่านเอ็นโจหรอกเหรอ” ทุกรอบ แถมพอปฏิเสธเคสเอ็นโจเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเชื่ออีกตะหาก
เจ้าแม่น่าจะมีอาการกับเอ็นโจรุนแรงจนคนอื่นสังเกต?
เรื่องนี้มันเป็นมุมมองเรย์กะด้วย เรย์กะเลยระแวงเอ็นโจไปหมด 555
อุเมะกาวะน่าจะไปกับสาวที่ชอบหมาเหมือนกันป้ะ แบบไปเดินเล่นเจอกันแล้วหมาชอบกัน สุดท้ายแลกไลน์กัน รู้ว่าบ้าหมาเหมือนกัน แล้วก็ลงเอยกัน555
>>147 กูว่าวาคาบะก็ด้วยนะ ตามบทนางเป็นนางเอกมังงะก็ต้องเก็บจูบแรกไว้ให้พระเอกอยู่แล้วตามสูตร อีคาบุในมังงะน่าจะเสียจูบแรกไปนานละ เพราะเห็นว่าเย็นชาใส่คนอื่นแต่เร่าร้อนกับวาคาบะ น่าจะทำเป็น.... แต่ตอนนี้คาดว่าน่าจะยัง ขนาดปลายนิ้วแตะกันกับวาคาบะตอนจิ้มซอสยังขวยเขินกันได้ขนาดนั้น มันดูเป็นรักใสๆวัยสะรุ่นจีบกันมากๆ
อาริมะ...พระรองผู้เคร่งครัดกฎ แถมปฏิเสธสาวๆที่เข้าหา คงยังไม่มี แต่ก็ไม่แน่ อาจจะมาแนวสาวเจ้าจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว....
เอ็นโจ...กูว่ายังว่ะ กูเคยคิดว่ายุยโกะอาจจะพยายามจูบ แต่ฮีบ่ายเบี่ยงไรงี้ ไม่ใช่ตอนที่ 300 โผล่มา เรย์กะไปเห็นสองคนนี้จูบกันพอดีนะ ถ้าเป็นงี้ยิ่งกว่าสายฟ้าฟาดเรืออีก 55555
ส่วนพวกที่กูว่าเคยเสียเฟิร์สคิสแล้ว นอกจากท่านพี่กับอิมาริ กูนึกถึงอาคิสะวะกับซาโตมิและรุ่นพี่โทโมเอะเป็นลำดับต้นๆเลย
>>151 กูว่านางต้องไปแสดงอาการอะไรที่เหมือนคนร้อนตัวอะ ถึงได้ไม่มีใครเชื่อ
ไซซายะซิงชัวร์เพราะโดนตอนไปก่อนเป็นหนุ่ม
กูว่าไซซายะน่าจะเสียเฟิร์สคิสแล้ว แบบตอนเด็กๆแอบจุ๊บยูริเอะตอนไม่รู้ตัวแล้วมาดีดดิ้นบ้าบออยู่คนเดียวแน่เลยว่ะถถถถ
พวกมึงว่าเรื่องนี้จะมีฉากจุ๊บแบบอฟช.บ้างมั้ยวะ กูแอบอยากรู้ เอาจุ๊บน่ารักๆพอกุบกิบไม่ต้องถึงขั้นติดเรทไรงี้อ่า
อาจจะมีฉากเจ้าแม่เดินเล่นในเมืองแล้วเจอเอ็นโจในคาเฟ่ระหว่างทาง ข้างๆมียุยโกะนั่งอยู่ แล้วทั้งสองคนก็โน้มตัวจูบกันพอดี จากนั้นเจ้าแม่ก็สาปแช่งหมู่บ้านมีรักต่อ---
ม่ายยยย กูจะไม่ล่มเรือเอ็นโจ๊วววว
อาจมีจุ๊บๆของคาบุกับวาคะรึเปล่า เจ้าแม่กูนึกไม่ออกจริงๆ...
กุว่า เอนโจ ว่าที่หัวหน้าหมู่บ้านคาสโนว่าน่าจะเคยจุ๊บกับคุณยุยโกะ อาจจะตอนเด็กๆ ตอนนี้เลยสลัดคุณยุยโกะลำบาก ส่วนคาบุน่าจะไม่เคยจูบกับใคร เพราะตอนเด็กๆก็ตื้อท่านยูริเอะ แล้วก็มาชอบวาคาบะจังนี่แหละ เป็นผู้หญิงที่รู้จักเว้นระยะห่างแต่พอดีทั้งคู่
เห้ย... เอ็นโจก็ดูจะสุภาพบุรุษออกน่า คงไม่ล่วงเกินสุภาพสตรีง่ายๆ หรอกมั้ง อย่างยุยโกะ ฝ่ายชายคงไม่ได้คิดอะไร แต่ฝ่ายผู้หญิงเองน่าจะเป็นคนเริ่มมากกว่า แต่ก็เชื่อนะว่ายังไม่ได้จูบ อาจจะกอด จับมือ ถือแขน ควงแขนกันแล้ว แต่! สำหรับเรย์กะแล้ว เอ็นโจน่าจะอยากแกล้งกระต่ายน้อยเล่นๆ คงอาจจะรุกคืบแบบถึงเนื้อถึงตัว ฮุฮุ
เดี๋ยวๆ ทำไมเอ็นโจกลายเป็นหัวหน้าหมู่บ้านคาสซาโนว่าล่ะ
จริงๆหมอนี้มันไก่อ่อนเรื่องจีบหญิงไม่ใช่เรอะ
ก็ดันปิดประตูตีตายตัวเองด้วยการไปบอกเจ้าแม่ว่ามีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้วนี่นะ...
ถึงจะงั้น แต่รุกจีบทั้งๆที่มีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้วก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี รู้สึกเหมือนเขามาเล่นๆกับเราไม่ได้คิดอะไรจริงจัง ก็เข้าใจว่าแค่ว่าที่ แต่ก็อดเศร้าไม่ได้
เรื่องแตะเนื้อต้องตัวท่านเรย์กะนี่เอ็นโจเยอะสุดเลยป่าววะ
ไม่นับท่านพี่นะ ส่วนอิมารินี่ถ้าแตะเยอะคงโดนท่านพี่เก็บไปแล้วมั้ง
อยากอ่านมุมมองท่านอิมาริอีกจัง..
อยากรู้ว่าจะรู้สึกยังไงที่แอ๊วไปแค่ไหน ท่านเรย์กะก็ยังเฉยชาใส่
จะว่าไปตอนคาบุให้ของฝาก ทำไมเจ้าแม่ต้องตื่นตูมแบบ ฉันไม่มีของฝากให้ ทำไงดีอะ
ตอนเอ็นโจให้เมเปิ้ลไซรัป ไม่เห็นมีอาการใด
>>184 กูเดาว่าตอนนั้นนางยังไม่นับว่าสองหนุ่มนี่เป็นเพื่อนมั้ง แถมเป็นคนที่อยากหลีกลี้หนีหน้าด้วย ให้อะไรมาก็ด๊อนแคร์นาจา ไม่จำเป็นต้องตอบแทน เราก็ไม่จำเป็นต้องแคร์คนที่เราไม่อยากสนิทด้วยอยู่แล้วใช่มะ แต่ขอบคุณซักหน่อยตามมารยาทก็พอ
แต่พอมารวมกลุ่มกันเป็นทรีโอสามสหาย ใกล้ชิดกันมากขึ้น สนิทกันมากขึ้น แคร์ความรู้สึกกันมากขึ้น(มั้ง) แถมคนที่ดูไม่ค่อยใส่ใจใครแบบคาบุซื้อของมาฝากนางอีก ขนาดคาบุยังซื้อแต่นางดันไม่มีนี่ใจดำจริงๆ ตอนนี้นางนับสองหนุ่มนี่เป็นเพื่อนไปแล้วอะ แบบที่ซื้อของฝากให้พวกอุเมวากะหรือเอาของฝากไปบ้านวาคาบะไรงี้
มองในมุมของผู้หญิิงทั่วไปเนี่ย ถ้ามีคนมาจีบ แล้วเจ้าตัวบอกเองว่ามีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้ว เป็นพวกผู้ใหญ่เค้าคุยกันเองนะ ไม่ได้อยากหมั้นนะ
ถึงจะพูดว่าไม่ได้เต็มใจหมั้น มันก็รู้สึกไม่ดีอยู่ดี อารมณ์แบบ "อ้าว นี่ชั้นกำลังยุ่งกับคนมีเจ้าของเหรอ?" "อ้าว กุมีแววเมียน้อยมาแต่ไกล" "ที่ทำตัวแบบนี้นี่ จริงๆแล้วกำลังหวังอะไรอยู่สินะ?" "มีแผนอะไรรึเปล่า" "เอ๊ะ? คนไม่ดี อย่าไปคบ!"
คือในใจเจ้าแม่ก็มีมโนธรรมเรื่องรักๆ ใคร่ๆ สูงนะ เห็นใครรักกันก็ไม่เคยขัด ไม่เคยแย่ง แถมสนับสนุนให้รักกันดีด้วย ขนาดอาทันกับเบียทันที่เป็นรักต่างเผ่าพันธ์ เจ้าแม่ยังสนับสนุนเลย
ถ้าเอ็นโจจะปักธงเจ้าแม่ได้ ก็ต้องไปเคลียร์ข้อนี้แหละ ไม่งั้นเจ้าแม่ก็จะหลอกตัวเองต่อไป เหมือนตอนที่หลอกตัวเองว่าช่วยเหลือไซซายะนั่นแหละ...
กูเพิ่งอ่าน ไม่รู้ว่าพวกมึงคุยประเด็นนี้กันไปรึยัง
พวกมึงว่าจุดเปลี่ยนชีวิตของเรย์กะมันอยู่ตรงจุดไหนวะ
พ่อนางก็ดูไม่ได้ทำอะไรทุจริตจริงๆ แล้วทำไมในต้นฉบับถึงโดนแฉจนกิจการล้มละลาย
หรือเพราะว่าในต้นฉบับเรย์กะนิสัยแย่มาก ใช้เงินมือเติบ ใช้เงินแก้ปัญหาหมดจนที่บ้านต้องใช้ทางลัดหาเงินเพิ่ม หรือท่านพี่เข้าดาร์คไซด์สมบูรณ์เพราะไม่มีความเอ๋อของเรย์กะมาเบรค
หรือเพราะโลกนี้มันเออเร่อร์อยู่แล้ว ทุกอย่างเลยเพี้ยนๆ คงไม่ใช่ตอนท้ายเฉลยว่าตัวเอกทุกคนมีความทรงจำของอีกโลกตลอดนะ 555
ป.ล. ไอ้นารุคุงนี่กูนึกว่าเจ้าแม่จะเข้าหาเพื่อเป็นสายไปสืบหาเรื่องครอบครัวซะอีก ไปเป็นสตอลเกอร์ซะงั้น
กูว่าท่านเรย์กะนิสัยแย่ยังไงก็คงไม่แย่มากไปจนสุดทางหรอก คือลูกคุณหนูอะมึง เอาแต่ใจ เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่พอวาคาบะมาคาบุก็ไปสนใจทางนั้น ก็จริงก็นิสัยเด็กอะ รังแกคนอื่น(อารมณ์เหมือนซึรุฮานะมั้ง) สำหรับกูคือถ้าเรย์กะร้ายมากจริงๆเรื่องแกล้งวาคาบะน่าจะแบบเอามีดไปใส่ตามหนังสือกระดาษให้มันบาด รุมตบ ทำร้ายร่างกายแบบแรงๆอะไรงี้ด้วย แต่ซุยรันน่าจะแบบเอารองเท้าไปซ่อน เทน้ำราดหัว อันนี้คือการแกล้งแบบคุณหนูในห้องหออยู่ คือทำร้ายที่ชื่อเสียง เพราะถ้าตัวเองโดนทำแบบนี้อับอายวงศ์ตระกูล แต่วาคาบะ/ที่ไม่น่าเห็นเป็นเรื่องใหญ่อะไร/ก็เลยไม่ได้พูดอะไรไป เราว่านางฉลาด ถ้าทำเกินขอบเขตน่าจะจัดการ ดูไม่ใช่คนไม่เอาเรื่องใครนะ ดูจากตอนกรณีขีดเขียนโต๊ะน่ะ
กรณีศึกษานิสัยสมัยนั้นคืออาจจะเป็นอีตาคาบุรากิสมัยประถมที่ไปมีเรื่องกับเพื่อนผู้ชายท่านยูริเอะ เราว่าชาติที่แล้วเป็นไปได้มากว่าเรย์กะนิสัยประมาณนี้แหล่ะ กรี๊ดคาบุแล้วก็ไปตื๊อเขา จะให้ของนู่นนี่นั่นไป แต่คาบุไม่ใช่ท่านยูริเอะ ไม่ได้ใจดีแบบนั้นบวกกับเป็นperfectionistด้วย ท่านเรย์กะให้ของอะไรก็คงจะตำหนิ ของกินทำมือก็ไม่รับ แต่คาบุคงไม่ได้พูดตัดขาดไปเลยแบบยูริเอะ น่าจะแค่เย็นชาละก็รำคาญไล่เป็นครั้งคราว(ที่เหลืออดแล้วจริงๆ) ท่านเรย์กะเลยตื๊อต่อไป ก็น่าจะไทป์ตัวร้ายคุณหนูไม่ค่อยฉลาด(แถมเป็นว่าที่คู่หมั้นคู่หมาย?)แบบเปิดมาปุ๊ปก็เตรียมหัวรอให้พระเอกเชือดตอนจบพิชิตใจนางเอกแบบเท่ๆได้เลย
ไหนท่านเรย์กะจะไม่มีเอ็นโจมาคอยปรามด้วย…มึงลองจินตนาการไซซายะที่ไม่เชือกเอ็นโจมารั้งไว้ คอยตามวาคาบะสิ——
ส่วนเรื่องใช้เงินมือเติบ อันนี้คือแน่นอน(ตอนนี้เจ้าแม่ก็มือเติบกว่าเดิมเยอะ ขนาดมีความทรงจำชาติก่อนนะเนี่ย) แต่จะมือเติบถึงขั้นที่คิโชวอินล้มละลายมั้ย กูว่ามันยากอะมึง ถ้าท่านเรย์กะไม่ใช่ว่าไปกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์แพงๆ อัญมณีแบบโคตรๆแพงเป็นสิบๆชิ้น ยังไงก็ไม่ถึงขั้นนั้นอะมึง กูว่าท่านพ่อท่านแม่นี่ทำตัวเองล้วนๆเป็นหลัก หรือมันอาจจะง่อนแง่นตั้งแต่ท่านพี่ออกแล้วยังจะหรูหราแดกปูอลาสก้าเหมือนเดิมกูว่ายังยากจะล้มเลยมึง มีการโกงแน่นอน
แต่คือโกงจริงรึเปล่า? ท่านพ่อโกงหรือคนอื่นโกง? แต่ถ้าคนอื่นโกงละทำไมท่านพี่ถึงออกไป? แต่จุดนั้นพวกคาบุคงไม่สนอะไรละจะแฉคิโชวอินกรุ๊ปอย่างเดียว แต่คือถ้าคชอ.ล้มจริง เศรษฐกิจไม่พังไปเป็นแถบๆเลยหรอวะ ยกเว้นว่าคาบุกะจะซื้อรอไว้อยู่แล้ว อย่างนี้คงไม่เป็นไร
>>197 กูว่าเพราะต้นฉบับเดิมมันสร้างมาให้เน้นฟินฉากพระเอกนางเอกจีบกัน นางเอกน่ารักน่าสงสารมากๆที่ถูกกลั่นแกล้ง ดังนั้นตัวร้ายที่มากลั่นแกล้งก็จะหาความดีไม่ได้ อารมณ์แบบนางร้ายละครไทยอะ ออกมาทีไรก็เห็นกรี๊ดๆๆ ตาจิก ปากแดง แบ่งขาวแบ่งดำชัดเจน ทีแรกเรย์กะอาจจะระดับตัวร้ายกีกี้กระจอกๆ แล้วก็ค่อยๆไต่ระดับความแรงเพื่อให้พระเอกปกป้องนางเอก คนอ่านจะได้ฟินมากขึ้นพอๆกับที่เกลียดตัวร้ายมากขึ้น จนมาขั้นสุดท้าย เอ้า...ยัดให้ยัยนี่ล้มละลายไปเลยละกัน มาซายะคุงจะได้แฮปปี้กับวาคาบะจังซักที คนอ่านจะได้สะใจด้วยที่ยัยหัวสว่านนี่ล่มจมไปซักที
แต่กูว่าครอบครัวคิโชวอินในมังงะคงไม่ได้ลำบากอะไรหรอก น่าจะอารมณ์โลภ ทะเยอทะยาน ไม่เคยพอมากกว่าเลยทุจริต ประมาณว่ากอบโกยผลประโยชน์เข้าตัว ถึงจะต้องเหยียบย่ำใครก็ไม่แคร์ ประมาณนี้มั้ง
บางทีทานุกิอาจจะรู้สึกเสียศักดิ์ศรีที่ลูกสาวโดนหักหน้ากลางงานจนเปิดหน้าชนกับบ้านคาบุ แต่สู้ไม่ไหวจนต้องเล่นนอกลู่นอกทางแล้วก็เกมส์เลยเพราะโดนแฉ หุ้นตก โดนเทคโอเวอร์ แบบนี้ก็ได้นะ
เรื่องตัวละครในเรื่องเอ๋อๆ เป๋อๆ เห็นคนแต่งหยิบมาพูดหลายครั้งเหมือนกัน คงไม่ใช่โลกของ KimiDolce แบบสมบูรณ์ คงไม่ใช่ปมอะไรมั้ง กูก็คิดไปเรื่อย 55
แต่ตอนนั้น(การ์ตูน)มันก็(ค่อนข้าง)บรรยายจากมุมวาคาบะนะ/โดยทั่วไป/นางเอกโชโจญี่ปุ่นแม่งก็เด๋อๆด๋าๆเป็นปรกติ กูว่าอ.ฮิโยโกะจะแซะตรงนี้หน่อยๆ ส่วนคนอื่นๆคือเล่นว่าพระเอก พระรอง เพื่อนพระเอก ที่บรรยายเท่ๆนั้นคือผ่านฟิลเตอร์แฟนเกิร์ลมาแล้ว เช่น “ ท่านคาบุรากิ จักรพรรดิผู้สูงส่ง เย็นชา บลาๆ” คนที่ปล่อยข่าวลือคือเด็กซุยรันวิทฟิลเตอร์ แต่ที่เราไม่เห็นคาบุสตอล์ก(โดยส่วนใหญ่)เพราะว่าเราจะเชื่อตามที่วาคาบะ(การ์ตูน)ว่าแม่งเป็นเรื่องบังเอิญหรืออไม่เชื่อและมองว่าไซซายะที่ชอบเขาละแอบตามมา+ไม่บอกนางเอกช่างเป็นผู้ชายเย็นชาปากหนัก น่ากรี๊ดจนตึกถล่มไปเลยจริงๆ ที่ไม่เห็นเอ็นโจดำมืดก็เพราะวาคาบะไม่เคยเห็นเอ็นโจข่มขู่คนไง เอ็นโจน่าจะเลือกสถานที่แอบๆไม่ให้เห็นอยู่แล้ว หมอนี่ทำงานเบื้องหลัง แต่พอเจอมุมมองท่านเรย์กะ(นิยาย)ขี้ระแวงและขี้กลัวขนาดหนัก ไหนจะเห็นการประกอบร่างวางแผนฮาวทูจีบวาคาบะของหมอนี่ เราเลยได้รู้เบื้องหลังว่าโฉมหน้าที่แท้จริงของจักรพรรดิเป็นสตอล์กเกอร์ฝึกหัด โดยที่เบื้องหลังสตลอกเกอร์ฝึกหัดคนนั้นมีจอมมารสตอล์กเกอร์คอยกระซิบบอกอยู่ข้างๆ
เออ อาจจะเป็นแบบที่มึงพูดด้วยก็ได้ ส่วนที่วาคาบะเอ๋อ เพราะตัวเองคงไม่คิดว่าตัวเองเอ๋อ เช่นเดียวกับท่านเรย์กะที่ไม่รู้ว่าเพื่อนเห็นตัวเองตอนเอ๋อบ่อยมาก
กูว่าที่ไม่ทุจริตเพราะลูกสาวเป่าหูสะกดจิตมาตั้งแต่เด็กๆก็มีส่วนว่ะ
ทานุกิอาจคิดว่าลูกแม่งไม่ไว้ใจตัวเองแถมยังรังเกียจการโกงมากๆด้วย
หากเป็นในคิมิเรย์กะน่าจะไม่ห้ามไม่ใส่ใจแล้วยังน่าจะใช้เงินเป็นเบี้ยอีกด้วยคิดว่าบริษัทที่โดนผู้บริหารโกงภายในน่าจะง่อนแง่นพอควรบวกรวมกับสองหน่อวางแผนเล่นงานเลยโดนฟ้องล้มละลายกับคดีช่อโกง
วาคาบะก็เคยบอกอยู่นะว่าคาบุดูมีความเป็นผู้ใหญ่
เดาว่าในฟิลเตอร์คนทั่วไปที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับไอ้สามหน่อนี่ก็น่าจะตามมังงะ
ถ้าตามเนื้อเรื่อง จะลงรายละเอียดคาบุมากกว่าเอ็นโจนะ คือ เจอพ่อแม่ ไปงานเลี้ยง ไปเข้าคอร์ส แต่ส่วนของเอ็นโจ จะมาแค่เสริม มีบทเยอะหน่อยเมื่อมีชื่อยูกิโนะเท่านั้นเอง มาดามเอ็นโจเจ้าแม่ก็ไม่ได้พูดถึงอะไรมากนอกจากดูสง่างาม
วาคาบะก็เจอ พ่อแม่ น้องๆ
แล้วก็พี่ชายสุดแปลกของเพื่อนชนชั้นกลาง(กูจำชื่อไม่ได้ละ)
สังเกตว่าตัวละครฝ่ายชายเจ้าแม่จะคิดผ่านๆยกเว้นคาบุ ส่วนตัวละครฝ่ายหญิงเจ้าแม่ก็คิดผ่านๆยกเว้นวาคาบะ
เหมือนจะเน้นที่ตัวเอกฝ่ายชายหญิงเหมือนในมังงะด้วยนะ
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่นะโม่งแปล
อาโออิคาบุรากิเป็นเมียหลวงที่มาทีหลังสินะ สู้เขานะคะเจ้าจอมโรคุโจวท่านเรย์กะ!!!
ขมขู่กันชัดๆ
จากทามะคัตสึระ กลายเป็นเจ้าจอมโรคุโจไปแล้ว 5555
ร้ายกาจ! มาว่าท่านเรย์กะเป็นเจ้าจอมโรคุโจได้ไง!!
....อย่าบอกนะว่าที่ฟุยุโกะติดเรย์กะนี่ก็เพราะรู้อยู่แล้วว่านางถอดจิตหรือไม่ก็ระลึกชาติได้!!?
เจ้าแม่ถอดจิตเรอะ???
ว่าแต่ โม่งแปล ไอศาสตร์บำบัดศิโรธระนี่รูปไม่ขึ้นนะ มีแต่ลิงค์ T_T เพราะลงรูปไม่ได้เหรอ? แต่แปะลิ้งไว้แล้วมันคลิกตามไปไม่ได้นะเหวยยย
>>218 โม่งแปลแปะในคอมเม้นน้อ https://image.space.rakuten.co.jp/.../imge9065311zikezj.jpeg
>>219 https://image.space.rakuten.co.jp/lg01/57/0000508957/32/imge9065311zikezj.jpeg
ลิ้งมันย่ออ่ะ
ลิ้งนี้น่าจะดีกว่า
ท่านเรย์กะกับคาบุรากินี่เป็นเพื่อนสนิทเลเวลที่สามารถส่งเมลไปงอแงบ่นว้องแว้งกลางดึกใส่กันได้แล้วสินะ... ฮรือ เอ็นโจ จนถึงตอนนี้นายมีเมลเขารึยัง!
ทำไม๊ทำไมท่านเรย์กะถึงไม่ไปกอดหมอนเคาะห้องท่านพี่นะ ท่านพี่จะได้ช่วยดูแล ...สองต่อสองยามค่ำคืน มโนแปป..
ดีไม่ดีท่านพี่จะหาทางเอาคืนคาบุรากิที่มารังแกน้องสาวโดยที่ท่านเรย์กะไม่ต้องลงมือเองอีก
>>223 แล้วเรย์กะที่บ่นปวดเนื้อปวดตัว ท่านพี่ก็ใจดี๊ดี นวดคลายกล้ามเนื้อให้แล้วเอ่ยถามเบาๆว่าเจ็บมั้ย แล้วเรย์กะก็จะตอบว่าไม่เป็นไรทนได้ เพราะท่านพี่ที่รักนวดให้ แล้วทีนี้ท่านพี่ก็ติดใจเสียงร้องเพราะเจ็บเบาๆของนางเลย แกล้งนิดหน่อยแล้วนวดสูงขึ้นมาเรื่อยๆ---------//กรี๊ดดดดดด
บัดสี บัดสี ไม่ได้นะ คิดไม่ได้ แต่ไม่ไหวอ่ะ คิดไปแล้ว ขอกาวเอ็นโจมารมทีย์!!
#ลงแดงกาว
เออ เห็นคอมเมนต์ในแมวดุ้นบอกเป็นตะคริวตอนนอนนี่ทรมานมากๆ กูไม่เคยเป็นเลยว่ะ ถ้าเป็นก็คือเหน็บกินเวลานั่งนานๆ ไรงี้ เป็นตะคริวนี่มันเจ็บปวดทรมานขนาดนั้นเลยเหรอวะ
เคยเป็นตะคริวตอนว่ายน้ำ //กำ ไม่เกี่ยว
แต่มันก็ทรมาณมากๆนะ ดีที่เป็นแค่ช่วงน่องจนถึงเท้า แล้วตั้งสติได้ เลยไม่จม 5555
ถ้ามีตอนพิเศษ KGB สึกุมิ vs หูทิพย์ ทาคากิ
ใครจะชนะวะ 555
กราบขอบพระคุณโม่งแปล ว่าแต่ท่านฮิโยโกะมีความรู้หลากหลาย โม่งแปลก็เทพใช่ย่อย ถึงได้แปลไอ้ชื่อเฉพาะพวกนี้ได้ เป็นกูนี่นั่งเอ๋อ ทั้งชื่อของกิน เพลง หนัง บทละคร ไปจนถึงศาสตร์การบำบัด(?)
พูดถึงตอนนี้ เจ้าแม่กะคาบุมุ้งมิ้งกันอีกละ มีการส่งเมล์หากันยามดึก เอ็นโจนี่สกินชิพมาทั้งตอนที่แล้ว ยังไม่ได้เพิ่มพูนความสนิทเท่าเรย วงวาร
>>232 สึกุมิกับทาคากินี่ใช้กันคนละ Strategy นะ สึกุมินี่เจ้ากรมข่าวลือใยงใยทุกเครือข่าย ทางนี้ก็อยู่ซุยรันมาตั้งแต่ประถม น่าจะรู้จักคนเยอะนะ ส่วนทาคากินี่มี Stealth ลับลวงพรางเป็น Passive Skill เข้าหาแหล่งข้อมูลได้แบบเนียนๆ แต่เอาจริงๆ กูยกให้สึกุมิ KGB เหนือกว่าอยู่ว่ะ ทาคากินี่กาวน้อยไป ไม่มีข้อมูลความรักของเจ้าแม่เลย ไม่ไหวๆ
กูขำชาร์ตความสัมพันธ์ตอนล่าสุดชิบหาย
คาบุ = เมียหลวง
เจ้าแม่ = เมียน้อยจอมอาฆาต
วาคาบะ = ผัว
555555555
สึกุมิ = หน่วยข่าวกรอง = รวบรวมข่าวจากหลายแหล่งมาสรุปผล
ทาคากิ = สายลับ(นินจา) = แฝงตัวรวบรวมข่าวจากแหล่งข่าวต่างๆ
สึกุมิประมาณเอาข้อมูลA,B,Cมาสรุปรวมเป็นข้อมูลD
ทาคากิประมาณแอบฟังข้อมูลEที่คู่สนทนาควรจะรู้กันแค่สองคนมาทั้งหมด
ว่าแล้วก็ชิปคู่ทาคากิสึกุมิกันนะทุกคน
มีลูกออกมาน่าจะกลายเป็นFBI/CIAแห่งซุยรัน
อยากเห็นสองคนนี้ตอนร่วมมือกันสืบจัง สึกุมิน่าจะมองเหยียดใส่ทาคากิว่า "ข้อมูลผิวเผินจังนะคะ ไม่คู่ควรกับการเป็นลูกมือให้รุ่นพี่เรย์กะหรอกค่ะ!" จากนั้นก็แข่งกันสืบ (ในสายตาสึกุมิคนเดียว) จนเกิดเป็นความรักและความเข้าใจ...
ท่านเรย์กะยังกอดคานอยู่เลย ไหงจิ้นกันไปถึงลูกแล้ววะเนี่ย!!
KYแป๊บ กูว่าช็อคโกแล็ตข้าวโพดแม่งเป็นของฝากจากฮอกไกโดที่อร่อยอันดับหนึ่งจากสุดท้าย จากใจคนเคยอยู่เกาะ ;-;)
>>252 ช็อกโกแลทแบบที่มีแต่ไขมันช็อคโกแลทกับน้ำตาลขายตามตลาดห้าบาทสิบบาท เคลือบแป้งข้าวโพดอบ รสชาติปลอมมากกกกก
เจ้าอื่นอาจจะอร่อยแต่ที่ขายตามร้านของฝากนี่ก็เห็นแต่ยี่ห้อเดียว ถุงเหลืองๆ /เก็บกดสัส มีแต่คนซื้อไอ้นี่ไปเป็นของฝาก กูเห็นทีไรอยากจะตะโกนใส่หน้าว่าไม่อร่อยโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
มันมีขนมช็อคโกแลทข้าวพองราคาถูกเลเวลเดียวกันชื่อธันเดอร์ อันนั้นอร่อยพอได้ คล้ายๆเบงเบง
ลองกลับไปอ่านตอนใหม่อีกรอบ คาบุสนิทกับเจ้าแม่ถึงขั้นกล้ามาโอดครวญเรื่องความฝันกลับแล้วสินะ... //เหลือบมองสตอล์กเกอร์ในเงามืด
ช๊อกโกแลตข้าวโพดชิมแล้วเฉยๆอ่ะ ไปถูกใจช๊อกโกแลตเมล่อนอันส้มๆแทน ฮา เสียใจไม่ได้ซื้อ เจอร้านเดียว ;_;
ตูมตามคืออะไรอ่ะโม่ง
ตอนเด็กชอบรสนมมากแต่ทำไมเจอแต่ตูมตามรสไก่ก็ไม่รู้ เดี๋ยวนี้ไม่เห็นขายเลยเหอะ พูดละอยากกิน
//จะว่าไปเจ้าแม่น่าจะชอบร้านคิตะคาโระ มันให้ชิมขนมเกือบทุกอย่างที่มีในร้าน ไม่นับร้านข้างๆที่ยื่นให้ชิมฟรีตามถนนอีกมากมายจนต้องบอกว่าพอแล้ว เอ๊ะ หรือไปมาแล้ววะ ซื้อยูบาริเยลลี่มานี่นา
อะไร แค่ตูมตามก็ไม่รู้จักแล้วเหรอ ฮือๆๆ สวัสดีวันเด็ก
กูชอบตูมตามทุกรส โดยเฉพาะรสที่มีผงชูรสเยอะ แดกจนผมจะร่วงหมดหัวละ ว่าแต่ตูมตามนี่มันเก่าแล้วเหรอ ไม่หรอกม้างงงงงง เนอะๆเพื่อนโม่ง.....
//แปลตอนนี้295อีก4ตอนจะทันดิบแล้ว มึงว่าอะไรจะเกิดขึ้นก่อนระหว่างดิบตอนใหม่ออกกับโม่งแปลแปลทันดิบ กุขอเลือกข้างแปลทันดิบอย่างมั่นใจ.....
จะว่ากูคิดลบก็ได้นะ แต่เป็นไปได้มั้ยว่ะที่แกจะมีปัญหาด้านสุขภาพอ่ะ
>>273 ตอนนี้มันก็เดาได้ทุกอย่างอะเนอะ นางไม่ทิ้งร่องรอยอะไรให้ตามตัวด้วย กูเคยไปอ่านเวบบอร์ดญี่ปุ่น เคยมีคนสันนิษฐานว่าท่านฮิโยโกะอาจจะเป็นแม่ลูกอ่อน เพราะช่วงแรกๆ นางมาลงทุกวันแบบโคตรมีวินัย แล้วจู่ๆ ก็หายไปสามเดือนอย่างกับลาคลอด จากนั้นก็มาๆ หายๆ มาตลอด แต่ก็แค่เดากันขำๆ นะ ช่วงแรกๆ เคยมีคนวิจารณ์นางว่าเรื่องแบบนี้น่ะดังได้เพราะเขียนสั้นๆ ลงทุกวันเพื่อให้คนติด ยังไงก็เป็นได้แค่นิยาย web แต่ทุกวันนี้นางก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าถึงดองนานแฟนๆ ก็ยังตามเว่ย 555555 //หัวเราะร่าน้ำตาริน
ถ้าเรื่องนี้ออกมาเป็นเล่มละวางขายเหมือนนิยายทั่วไปกุก็ว่ากุอาจจะไม่ชอบว่ะ เพราะเนื้อหามันไม่ไปไหนไกล และบางตอนก็ไม่ส่งผลอะไรกับเนื้องเรื่อง(ยกเว้นนน.เจ้าแม่) กุคงจะชินกับพล้อตแนว 1 2 3 4 5 โป้ง!! แต่เรื่องนี้มันเป็นแบบ 1 2 1 2 3 1 2 1 2 1 โดยไม่โป้งสักทีนี่ล่ะ แต่กุก็เสือกอ่านมาถึงตอนนี้แล้วเลยอยากรอดูการเล่าเรื่องว่าจะจบในทิศทางไหน แล้วกุก็รักท่านอิมาริกะคาบุด้วย #ประเด็น 55555
ถ้าเรื่องนี้เป็นเล่ม กุว่าสิ้นหวังสัสๆ 300กว่าตอนนี่น่าจะ10-15เล่ม เนื้อเรื่องแทบไม่กระดึ๊บ กระเป๋าเงินสั่นระรัว
>>276 กุก็ว่างั้นว่ะ จริงๆเรื่องนี้มันสนุกนะ สนุกมากๆเลย แต่มันใช้เวลาอินโทรให้เราผูกพันกะตัวละครนานพอควรขนาดอ่านฟรี ตอนช่วงแรกๆกุยังแอบเบื่อกะความอืด แบบเจ้าแม่แม่งหนีคาบุ เอ็นโจจริงจัง คืออยู่กันคนละโลกเลย ถ้าแกไม่ยุ่งกะฉัน ฉันก็ไม่ยุ่งกะแก พอมีเรื่องมาให้ยุ่งกันนิดนึงก็คุยแค่ที่จำเป็น จบงาน แยกย้าย มันเรียลเกิ๊นนนน ไอ้กูนี่ก็ชินกะนิยายรัก แบบพระนางเจอกันมันต้องมีอะไร
แต่เอามาใช้กะเรื่องนี้ไม่ได้ ลุ้นแม่งเมื่อไหร่จะเจอกัน แม่งก็ไม่เจอกันสักที พอเจอกันปุ๊บ แม่งก็ไม่ทักกัน พอทักกันปุ๊บ ยังต้องมาลุ้นโมเม้นโดขิๆ อีก ซึ่ง90%ไปจบที่คอมเมดี้ เจ้าแม่ก็ทำตัวโนบอดี้เกิ๊นนน ไม่สน ไม่ยุ่ง เลี่ยงปัญหาทุกสิ่ง กว่ากุจะติดเรื่องนี้ก็ตอนที่เจ้าแม่ไปลุยซึรุฮานะ แบบโอ้ เยส ในที่สุดก็ได้สำแดงเดชซะที นี่แหละที่รอคอย แล้วก็กลับไปโนบอดี้ต่อ 555 แต่ด้วยความเรื่อยๆของมันนี่แหละ ทำให้เรารักตัวละครโดยไม่รู้ตัว เห็นพัฒนาการ เอ็นดูนาง รักในตัวตนของแต่ละคนไปละ จนหลังๆ กูโอเคละ ถึงไม่มีคาบุ เอ็นโจ ไม่โดขิ กุก็ยังสนุกได้ (แต่ถ้ามีกุจะฟินด้วย555)
พล่ามมายืดยาว สรุปคือ ถ้าออกเป็นเล่มกุก็คงยังชอบ ยังซื้อเหมือนเดิม เพียงแต่กุว่าสำนักพิมพ์จะลอยแพก่อนออกจบนี่ดิ เพราะเรื่องช่วงแรกมันเรื่อยๆเกิ๊น ดึงคนอ่านไม่ได้
เรื่องนี้กูชอบตั้งแต่ช่วงแรกๆ เลยนะ ไม่ได้เบื่ออะไรตรงไหนเลย คือกูไม่ได้หวังอะไรโดขิๆ ตั้งแต่แรกแล้วอะ ก็เริ่มเรื่องมามันก็ยังเป็นแค่เด็กประถมกันนี่หว่า เรย์กะนางจะหนีจะเลี่ยงให้สุดๆ ก็สมควรแล้วล่ะ เรียลดีกูชอบ กูก็เลยสนุกกับการติดตามว่าเด็กน้อยนี่มันจะเติบโตไปยังไง ติดตามไปติดตามมา เผลอแป๊บเดียวนางก็ไปสถิตย์มั่นคงอยู่บนคานตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อีกนิดเดียวจะเข้ามหาลัยละ..ฮือๆๆๆ .
กูอีกคนที่รู้สึกเฉยๆ แต่ก็เพิ่งอ่านไปยี่สิบกว่าตอนอะนะ เข้าใจว่ายังช่วงต้นเรื่อง อาจยังไม่ค่อยมีอะไร
ซึ่งก็น่าแปลก สำหรับเรื่องที่(ดูเหมือนจะ)ดังและมีคนอ่านเยอะขนาดนี้
เพราะปกติถ้าสองสามตอนยังไม่พีค คนส่วนใหญ่ก็เลิกอ่านกันแล้ว
แต่กูมีปัญหากับการนำเสนอมากกว่า
คือกูก็อ่านนิยายมุมมองบุคคลที่หนึ่งมาเยอะนะ แต่เรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกเหมือนกำลังอ่านไดอารี่ของเด็กอยู่อะ
อาจเป็นความตั้งใจของคนเขียนก็ได้ แต่กูอ่านแล้วรู้สึกทะแม่งๆ
ถึงงั้นก็จะอ่านต่อไปอะนะ เพราะเชื่อว่านิยายมันต้องมีดีแหละ แค่จะถูกจริตกูรึเปล่าเท่านั้นเอง
กุไม่รู้ว่ากุชอบตอนไหนแต่รู้อีกทีกุก็หยุดตามท่านเรย์กะไม่ได้จีจี กุว่านี้คือเสน่ห์อ่ะ 5555555
ตามอ่านเพราะโม่งแปลลงต่อเนื่องอะ หลายๆเรื่องดรอปไปเพราะคนแปลหาย หรือนานๆอัพทีจนลืมเรื่องไปละอ่านไม่อิน
บังเอิญว่ากูเจอเรื่องนี้แบบบังเอิญมากๆ ตอนนั้นว่างจัดค้นอากู๋เล่นเรื่อยๆ แล้วคำสุดท้ายที่ค้นคือนอบน้อม แล้วอากู๋แกก็ขึ้นชื่อเรื่องมาให้กูเลย ตอนแรกที่อ่านก็ตอนเจ้าแม่พาคาบุไปเข้าร้านฟาสต์ฟู้ด กูเลยรู้ว่าเรื่องนี้มีจุดพีคแน่ๆก็เลยเริ่มอ่านตั้งแต่ตอนแรก จนถึงปัจจุบันก่อนนอนทุกคืนต้องกดเว็บ ncode แล้วสะอึกสะอื้นเมื่อฮิโยโกะซามะไม่ยอมเข็นดิบสักที
เรื่องนี้กูอ่านเพราะเพื่อนกูแนะนำมา ช่วงนั้นกูกับเพื่อนเพิ่งอ่านคาตาริน่าจบพอดีเลยหาเรื่องแนวๆเดียวกันอ่าน ตอนแรกๆกูกับเพื่อนอ่านๆไปนิดนึงแล้วดรอปเลยเพราะว่ามันชิวเกินไปนี่แหละ เรื่องดูไม่มีอะไรคืบหน้า คาตาริน่ามันเดินเรื่องเร็วด้วยแหละเจอเรื่องนี้ไปเลยไม่ค่อยชิน
กูกลับมาอ่านใหม่อีกรอบเพราะอะไรไม่รู้ว่ะจำไม่ได้ละ5555 ตอนนั้นกูเรือคาบุ ไม่สนเอ็นโจเลยเพราะไม่ค่อยสังเกตซีนโดขิๆกับเอ็นโจไง555555 แล้วก็ใจสลายเพราะอ่านสปอยล์ว่าคาบุจีบวาคาบะ.... แต่พอไปอ่านเม้นที่ชี้เป้าโมเมนท์เอ็นโจเท่านั้นล่ะ กูลงจากเรือนี้ไม่ได้อีกเลย เอ็นโจแม่งไทป์กูสัสๆ55555 หลังจากนั้นกูก็เลยกลายเป็นว่าติดเรื่องนี้ไปเลย สาเหตุนึงก็เพราะโม่งแปลลงสม่ำเสมอด้วย รักโม่งแปลนะคร๊ะ<3
เสน่ห์เรื่องนี้กูเห็นด้วยกับเม้นบนๆที่เรื่องนี้มันเน้นชิว เน้นเรียล เดินเรื่องดูเหมือนเรียบๆเรื่อยๆ แต่แอบทิ้งจุดเล็กๆไว้ให้คนอ่านจับสังเกตเอาเอง กูชอบท่านเรย์กะที่เป็นแบบนี้นะ ชอบเกร็ดเล็กๆที่ไม่รู้อ.ฮิโยโกะไปสรรหามาจากไหนด้วย อ่านไปแล้วก็สงสัยว่าอ.ฮิโยโกะนางทำอาชีพอะไรกันแน่นะ...
กูอ่านเรื่องนี้เพราะเห็นชื่อเรื่องกระแทกตาในแมวดุ้นดี คิดว่าคงเป็นนิยายตลกอ่านเอาเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ซึ่งก็ไม่ผิดจากที่คิด แต่กลายเป็นตกหล่มองค์ชายจอมมารไปซะงั้น จากนั้นกูก็ลองหาฟิคเล่นๆ อยากได้ฟิคมาเสริมความกาว คือไม่คิดว่าจะมีไง (แต่ก็เสือกมี 555555555) ก็เข้ามาในโม่ง แล้วติดหล่มกาวถอนตัวไม่ขึ้นมาจนปัจจุบันนี้
ทำไมกูนึกถึงงานปัจฉิมนิเทศน์เลยว่ะ มาพูดถึงความประทับใจกันอย่างนี้เนี่ย ...อัปมงคล อัปมงคล!!
....ไม่ใช่ว่าตอนหลัง กลุ่มเด็กผู้ชายพวกนั้นโดน
สตอล์กเกอร์เล่นงานจนหายหัวไปไหนไม่รู้นะ!
เฮ้! นายตัวประกอบไร้ชื่อ! นายเกือบจะสอยเจ้าแม่ลงมาจากคานได้แล้วเชียวนะ! พยายามเข้าตัวประกอบคุง!
ปล.เลิฟโม่งแปล ขอบคุณนะ จุ๊บๆ
ทำไมกูโดขิ ๆ อร๊ายยยยยย กราบโม่งแปล ผ่านการดมกาวกูว่าเจ้าแม่ฮอต แต่นางชอบคิดเองเออเอง เหมือนมีตอนไหนสักตอนที่นางบอกว่าผู้ชายเข้าหานางเพราะผลประโยชน์จีจีเค้าอาจจะมาจีบก็ด้ายยยย สูดดดดด
ปล. ขอบคุณโม่งแปลมาก สดใสสสส
เรย์กะจังล่ะ! เรียกว่าเรย์กะจังทันทีเลยล่ะ!
ออร่าความรัก! หรือแท้จริงแล้วพระเอกจะเป็นสามัญชน? อาจเป็นตำนวนความรักเหมือนคาบุรากิในการ์ตูนก็ได้ ที่ตัวเอกต้องคู่กับสามัญชนยังไงล่า~
กราบโม่งแปลสำหรับความโดขิๆ วันนี้
ไม่มีใครกรี๊ดท่านพี่มั่งเหรอวะ ท่านพี่ออกมาตอนท้ายนี่โคตรขโมยซีน ช็อตเอียงหน้าเข้าไปใกล้ๆ น้องสาวดมหากลิ่นดอกไม้ไฟนี่โดขิๆ ที่สุด เรือค้ำคอร์จงเจริญ!
ตอนนี้ชื่อคนโนะออกมาครั้งแรกเลยนะเนี่ย! มีบทมาเนิ่นนานเพิ่งจะรู้ชื่อก็ตอนนี้ล่ะ
กูรู้สึกท่านเรย์กะตอนนี้น่ารักมากกก แอรรร ดูเป็นคุณหนูตื่นคน เจอคนแปลกหน้าก็ตัวเกร็ง เหมือนลูกแมวเลย เรย์กะจังโดขิโดขิ ท่านพี่สุดยอด!
ปล.จริงๆนะ กูรู้สึกอยู่ตลอดว่าอุเมวากะมันเป็นม้ามืดที่พร้อมจะพลิกโพลได้เสมอเลย...
>>305 พอพูดจากสายตามึงทำไมท่านเรย์กะดูดีจังวะ... แต่ก็ใช่แหละ นางตื่นคนแปลกหน้าจริงๆ พอเขามาทักหน่อยวงจรความคิดก็เตลิดเปิดเปิงยาวเหยียดเลยว่ะ ดูจากคนนอกคงเป็นคุณหนูในห้องหอหวงตัวจริงๆ น่ะแหละ
อุเมวากะคุงแม่งก็ดีนะเว้ย มีความใส่ใจเล็กๆ! ถึงจะใส่ใจเพราะเหมือนหมาตัวโปรดก็เถอะ!
>>306 หนุ่มภายนอกดูดิบเถื่อนแต่ความจริงแล้วอบอุ่นเอาใจใส่ ที่จริงแล้วก็ห่วงท่านเรย์กะนั่นแหละ สนใจเขาแต่แรกๆ ชวนคุย ตีสนิท พูดคุยกระหนุงกระหนิง คอยมองเขาอยู่เสมอ เทคแคร์ดูแลเอาใจใส่ ก็แค่เขินจนไม่รู้จะสื่อความเป็นห่วงยังไงดีก็เลยยกเบียทริสขึ้นมาอ้างไงล่ะ! //ฟืดดด
ท่านพี่จมูกดีไปแระ คราวเนื้อย่างก็ทีหนึ่ง แค่น้องสาวเดินเฉียดผ่านก็รู้เรื่อง คุณน้องกลับบ้านผิดเวลาหน่อยจับผิดทันที ถ้าจะขนาดนั้นก็สิงท่ารเรย์กะไปเลยค่ะ ///ค้ำคอร์ๆๆ
ของกุอ่านตั้งแต่สมัยที่คนแปลคนแรกเขามาวางตอนแรกไว้ที่แมวดุ้น พออ่านแล้วติดเลย
ท่านเรย์กะเป็นเรื่องแรกในแปลไทยเลยมั้งทีกลับชาติมาเกิดเป็นตัวร้าย
แต่หลังจากประมาณตอน20ขึ้นไปแปลอิ้งหายสาบสูญ ของไทยเลยโดนดองไปด้วย เสียจายมากช่วงนั้นอ่านเกิดใหม่ตัวร้ายไหนไม่หนุกเท่าท่านเรย์กะ ช่วงนั้นหายไปนานมากจนกระทั้งมีคนมารับช่วงต่อจนถึงประมาณตอน70แล้วก็หายไปเหมือนกันก่อนที่จะมาโม่งแปลปัจจุบัน
//มองบน ช่างผ่านมายาวนานเหลือเกินเจ้าค่ะท่านเรย์กะ นึกถึงช่วงลุ้นให้ท่านเรย์กะจอมขี้กลัวสมัยประถมรอดพ้นจาก2หนุ่ม ม.ต้นที่กับการคุมนร.ในห้องไม่ให้มีปัญหาจนผมขาว จนถึงปัจจุบันที่กลายเป็นหัวหน้าแก๊งค์ไปแล้ว555
ไม่รู้กูหลอนไปเองรึเปล่าแต่กูว่าท่านพี่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้แน่ๆเลยว่ะ รู้สึกเห็นแววความดำมืดท้ายตอนนั้น....
รู้สึกหลอนกับเสียงหัวเราะ หึหึ กับคำว่า หืม ของท่านพี่ในตอนท้ายจริงๆ ด้วยสิ
เจ้าแม่จะลงจากคานเปล่านะ
กูคิดมาหลายรอบแล้วนะ อุเมกาวะคุงเนี่ย ถ้าไม่ติดว่ามีคนรักอย่างเบียทันอยู่แล้วละก็ม้ามืดสุดๆเลย โมเม้นที่ดูโดขิๆมีเยอะมาก...แต่ดันมีคนรักแล้วเนี่ยแหละ ฮือๆๆ orz
อีกสามตอนจะทันดิบแล้ว ฮ่วย...
ยืดเวลาออกไปลงเดือนละตอนรอดิบ (/_\)
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเอ๊ะหลายจุดเลย
1 ตรงที่แก๊งตัวประกอบบอกว่าบรรยากาศเรย์กะต่างจากคนอื่น คืออ่านแล้วไม่แปลกใจที่ไม่มีใครเข้ามาจีบเลย เพราะขนาดเด็กนอก ร.ร. ยังรู้สึกถึงออร่าเลยนี่
2 ตอนที่ถูกเรียกเรย์กะจัง แล้วนางก็คิดมาก ตอนแรกก็สงสัยนะแค่นี้เองทำไมคิดมากจัง พอเห็น >>305 ก็อ๋อ นางรู้สึกตื่นคนแปลกหน้านี่เอง และน่าจะเฉพาะผู้ชายด้วย ดูเป็นคุณหนูจริงๆ ไม่แปลกใจว่าทำไมพวกเซริกะถึงไม่ยอมให้นางไปนัดบอด
3 โมเม้นกับอุเมวากะ ตอนที่ถามว่าเป็นไรมั้ย เห็นว่าเงียบๆ ไป ไอ้เราก็ลุ้นตามว่าจะมีโดขิโดขิมั้ย แต่ก็นะ // ถอนหายใจ // แต่อาจจะเป็นแบบที่ >>307 ว่าไว้ก็ได้นะ ประมาณว่าเขิน หาเรื่องคุยไม่ได้ เลยเอาหมามาอ้าง เหมือนบางคนที่เอาน้องมาอ้างไง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็น่าลุ้นเรือนี้นะ
4 เรย์กะกลับบ้านแล้วเจอท่านพี่เนี่ย แสดงว่ากลับดึกมากเลยนะ เพราะปกติท่านพี่กลับดึกตลอดนี่
5 ส่วนท่านพี่นั้น อะไรกันค้าาา ปกติเวลาเรย์กะกลับบ้านจะเจอท่านพี่ที่ห้องนั่งเล่นนี่ แต่ครั้งนี้ทำไมมาเจอที่ทางเดินได้ล่ะคะ เป็นเพราะเพิ่งกลับบ้านเหมือนกัน หรือว่ากลับมาแล้วไม่เจอน้อง เลยมานั่งรอที่ห้องนั่งเล่น แล้วพอได้ยินเสียงรถจึงมาดักรอที่ทางเดินล่ะคะ ถ้าเป็นอย่างหลังนึกสภาพท่านพี่ตอนรอน้องกลับบ้านได้เลยนะ
6 แล้วที่ว่าถ้ากลับดึกเดี๋ยวพี่จะไปรับนี่ ยังไงกันคะ ปกติก็แต่โทรบอกก็พอแล้วมั้ง แถมยังมีรถไปรับด้วย ที่ว่าจะไปรับเองนี่มีความหมายอื่นแฝงหรือเปล่าคะ
7 อันนี้สงสัย ประโยคสุดท้ายที่เรย์กะคิดว่าครั้งหน้าจะชวนท่านพี่จุดดอกไม้ไฟที่บ้านน่ะ หมายความว่ายังไงเหรอ
>>325 1. บรรยากาศนางคงต่างจากคนอื่นจริงน่ะแหละ ขนาดตัวเองยังพูดเลยว่าไม่เคยเห็นสาวม.ปลายผมม้วนเลิศหรูเหมือนตัวเองเดินอยู่ในเมืองเลย อาจเหมือนตัวละครลายเส้นแบบแคนดี้จอมแก่นมาเดินอยู่ในโชโจมังกะยุคนี้ว่ะ
3. ถ้าใช่ก็ดีสิ แต่นี่มันบ้าหมาเต็มสตีมขนาดไปขอตุ๊กตาจากสาวมาเลยนะ เอ๊ะ หรือว่านี่คือเนียนขอวะ
6. กูกะว่าท่านพี่อยากไปดูหน้าคนที่น้องอยู่ด้วยว่ะ ไหนๆ ใครมันบังอาจพัวพันให้น้องอยู่ดึกขนาดนี้ //ซู้ดดดดด
7. อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน ปกติคนมีกะตังค์เขาไม่ค่อยกรี๊ดกร๊าดกับดอกไม้ไฟเล็กๆ แบบนี้หรือเปล่านะ ตอนไปเข้าค่ายที่โรงเรียนตอนม.ต้นยังไม่มีใครเล่นกันบ้าระห่ำเหมือนแก๊งตัวประกอบนี่เลย
ท้ายตอนเหมือนเห็นออร่าดำมืดแผ่จากท่านพี่นี่กูไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ย
อ่านตอนนี้แล้วกูโยนแขนโยนขาไปลงเรืออุเมวากะทันไหมอะ ตอนชวนไปกันสองคนกูใจเต้นเลย บางทีที่อ้างเบียทริชขึ้นมาอาจจะเขินอยากเนียนๆคุยด้วยก็ได้ ใครก็ได้แต่งฟิคกาวคู่นี้ให้กูดมทียยยยยยยย //ตะกุยขาโม่งฟิค
>>323 +1 อดทนไว้ก่อนอย่างน้อยก็ทำให้กูรู้สึกว่ายังมีของในสต๊อก5555
อุเมวากะเอาจริงคือเพื่อนชายสนิทคนแรกของเรย์กะเลยนะ คุยเมล์กันมาตั้งแต่ม.ต้น คนอื่นยังทำไมได้เลยนะจ๊ะ
กูว่ามีคนแอบตามเรย์กะแล้วคอยรายงานท่านพี่แน่นอน บ้านนี้หวงลูกสาวจะตายไม่ปล่อยไปคนเดียวแน่ยิ่งเรย์กะรวยขนาดนั้น อย่างท่านพ่อคงอยากให้มีบอดี้การ์ดเดินตามเรย์กะเลยมั้งแต่ท่านพี่คงค้านไว้เพราะกลัวเรย์กะตกใจแล้วอยากให้น้องมีความสุขกับอิสระเลยให้คนแอบตามห่างๆ
แล้ว คาบุ กับ เอ็นโจ ล่ะ ท่านพี่ไม่หวง2คนนี้หรอ
อุเมะวากะนี่ถ้าไม่บ้าหมาก็โคตรเป็นผู้ชายที่ดีเลยนะ พระเอกโชโจสุดๆ ภายนอกกุ๊ย แต่จิตใจอ่อนโยน คอยดูแล เป็นห่วงนางเอก ตั้งแต่สมัยเรย์กะไปเรียนพิเศษแล้วไม่มีเพื่อนแล้ว ไม่เสียแรงที่เคยมอบตำแหน่งกิ๊กนอกร.ร.ให้เมื่อครั้งยังไม่ออกลาย
จริงตอนนี้มีโมเม้นให้หลายๆเรือกำลังพุ่ง ทั้งไร้ชื่อคุงที่น่าจะโผล่มาในอนาคต(อีกสักร้อยตอน55) ให้คนสงสัยว่าเป็นใครทำไมมาตีเนียนเรียกชื่อสนิทสนมกะเจ้าแม่ ทั้งเรืออุเมะวากะ ที่อาจจะเป็นหนุ่มขี้อายอย่าง >>307 ว่า แต่เจอโมเม้นต์ท่านพี่ปิดท้าย กุตายค่ะ!! ขออยู่เรือนี้แหละ แม้จะเป็นเรือเดียวกะคานซังก็ตาม! ผู้ชายที่ดีกะเจ้าแม่ที่สุดก็ท่านพี่นี่แหละ อ่อนโยน อบอุ่น เทคแคร์สม่ำเสอ พึ่งพาได้ ค้ำคอร์ จงเจริญ!!
ดอกไม้ไฟขดงูนี่มันก้อนขี้ชัดๆเลยนี่หว่า
กุว่าโมริยามะกลัวผมเรย์กะติดไฟแน่ๆเลย ดึงให้ห่างขนาดนั้น 555
วันหนึ่งอุเมวากะบอกกับเรย์กะแบบง่ายๆ “สงสัยชั้นคงชอบคุณคิโซวอินเข้าแล้วล่ะ”
“เพราะเหมือนเบียทันเหรอคะ”
“หืม ไม่ใช่แบบนั้นหรอก”
แล้วมันหมายความว่ายังไงกันคะ อุเมวากะคุง
อุเมวากะคุงหลังจากนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อ ฉันก็กลับบ้านไป เตรียมตัวเข้านอน แต่คำพูดนั้นยังคงตอดหัวอยู่ตลอด
“สงสัยชั้นคงชอบคุณคิโซวอินเข้าแล้วล่ะ”
ปกติก็หนวกหูอยู่แล้ว แต่ทำไมวันนี้หนวกหูถึงตอนนอนเลยคะ อุเมวากะคุง
จริงๆ แล้วคนขับรถของเจ้าแม่ก็น่าจะรายงานว่าคุณหนูไปไหนมาไหนนะ เจ้าแม่ไม่คิดว่าที่ไปแต่ละที่ จะไม่มีใครรู้เลยหรอ 55555555
ตอนนี้ยกให้อุเมวากะเป็นพระเอกไปเลย ฮืออออ ทำไมต้องหล่อด้วย เห็นคนอื่นที่เพิ่งรู้จักเรียกเจ้าแม่ว่าเรย์กะจังแล้วแอบหวงหน่อยๆ เลยเรียกไปซื้อของกันสองคนป่ะ?!? ยกเรื่องซื้อของมาอ้าง แล้วเอาเบียทันมาอ้างซ้ำป่ะ?!? ฟฟงหวกวกวฟงฟ
เพิ่งรู้ว่ามีดอกไม้ไฟ(?)ขดงูด้วย น่าเกลียดชมัด
ว่าไปตอนมุมมองเซริกะก็ดันไม่มีฉากข่มขู่เลยแฮะ อุตส่าห์คาดหวังว่าจะได้เห็นฟูจินไรจินออกศึกยังไง ทาคากิถึงผวาขนาดนั้น
กูว่าตอนของเซริกะมีไว้เพื่อขยี้บทก่อนหน้านี้ว่ะ ที่เรย์กะนางคิดว่าเพื่อนสาวจะขึ้นคานกับนางหมด ที่ไหนได้...เหล่าสาวๆไปกินเชอร์เบตกับหนุ่มๆที่ปารีส แถมมีแฟนกันแล้วก็ไม่บอกเจ้าแม่อีก
แต่เจ้าแม่นี่นับใครเป็นเพื่อนด้วยก็ซื้อของให้เขาหมดเลย ไปไหนก็นึกถึง เอาของไปฝาก อย่างพวกอุเมวากะ พวกเด็กๆเปอติต์ที่ได้ของจากปารีสมั่ง ฮอกไกโดมั่ง ทาคากิก็ยังได้ แต่สองหน่อนั่นเจ้าแม่ดันไม่นึกถึงเลยซักแอะ บางทีกูก็นึกนะว่านางแม่งใจร้ายใจดำจริงๆ จะหนีไปถึงไหนแว้
เรื่องเล่าของนักเรียนชาย T
ผมน่ะ เรียนอยู่ในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งล่ะครับ
เพียงแต่ที่โรงเรียนแห่งนี้มีชื่อเสียงในแง่ของ "สถานภาพทางสังคมของนักเรียน" ที่มาตรฐานสูงกว่าที่อื่น
เดิมทีผมก็เพียงคิดว่าเป็นโรงเรียนที่ผู้มีอันจะกินเข้ามามากเป็นพิเศษก็แค่นั้น แต่ดูเหมือนว่าผมจะคิดผิด
ที่โรงเรียนแห่งนี้แค่ได้ยินนามสกุลของนักเรียน ความสัมพันธ์ แล้วก็สมาคมที่มีขึ้นเพื่อสายสัมพันธ์เช่นว่านั้นแล้วไม่ว่าใครที่อยู่ภายนอกก็ต้องคิดในใจว่านี่มันไม่ใช่สถานที่ปกติแล้ว
เพราะแบบนั้นผมเลยแทบจะไม่สามารถทำตัวสบายๆ ได้เลย
อิทธิพลของนักเรียนที่นี่บางคนก็ขนาดที่จะชี้เป็นชี้ตายให้กับครอบครัวชั้นกลางในสังคมที่มีหัวหน้าครอบครัวทำงานในบริษัทใหญ่ได้ เพียงแค่พวกเขาบอกว่า "ไม่ชอบหน้า" ก็อาจจะทำให้ครอบครัวนั้นจบสิ้นเลยก็เป็นได้นั่นแหละครับ
เพราะอย่างนั้นแหละถึงแทบจะทำตัวตามสบายไม่ได้เลย
อะ ไม่ใช่ขนาดว่าต้องตื่นตัวตลอดเวลาหรอกนะครับ ถึงจะเล่ามาแบบนั้นแต่นักเรียนที่มีอิทธิพลระดับที่ว่ามาก็มีไม่กี่คน เพียงแค่ระวังเธอกับพรรคพวกของเธอเอาไว้ก็พอ
อุ๊บ! คนที่ว่าผมไม่ได้หมายถึงแค่ผู้หญิงนะครับ เพียงแต่ว่าผู้ชายที่มีอิทธิพลระดับนั้นดูไม่ใช่ประเภทที่จัดการคนไม่ชอบด้วยวิธีการโหดร้ายอะไรแบบนั้น ไม่ใช่สิ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะครับ ไม่ได้สงสัยอะไรเลยครับ ผะ ผมหมายถึง ไม่ว่าใครก็คงจะไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกครับ เพียงแค่พูดถึงระดับอิทธิพลแค่นั้นเองครับ ขอโทษด้วยครับ
พะ พูดถึงที่โรงเรียน่ต่อนะครับ ความจริงแล้วตัวผมคิดว่าตัวเองโชคร้ายแล้วก็มีนิสัยแย่ๆ อย่างเช่นเผลอพูดสิ่งที่คิดออกมาอย่างไม่อาจยับยั่งชั่งใจได้ในบางเวลา ช่วงนี้กำลังฝึกฝนที่จะตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะไม่ให้มีอะไรหลุดออกมาโดยขาดการไตร่ตรองเสียก่อน เป็นหลักการฝึกตนของศาสนาหนึ่งน่ะครับ แม้ว่าผมจะไม่ได้นับถือศาสนาใดเป็นพิเศษแต่เห็นว่าหลักการเช่นนั้นน่าสนใจก็กลายเริ่มฝึกฝนขึ้นมา
แต่กลายเป็นว่าผมรู้สึกตกใจอะไรง่ายกับเหมือนคนพักผ่อนไม่ค่อยเพียงพอไปเสียอย่างนั้น
หมู่นี้ยิ่งใกล้ช่วงสอบเข้าในระดับอุดมศึกษา เพียงแต่สถานการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ผมเรียนพิเศษอยู่ที่เดียวกับนักเรียนที่มีอิทธิพลระดับที่เคยเล่าไปนั่นแหละครับ เคยคิดอยู่ว่าถ้าอดทนไปจนจบได้แล้วล่ะก็ทุกอย่างก็คงผ่านพ้นไปด้วยดี
นักเรียนที่ว่านั่นตอนอยู่โรงเรียนเธอจะมีกลุ่มที่คอย "เก็บกวาด" เบื้องหลังอยู่เสมอ แถมมีข่าวลือว่านักเรียนที่เด่นดังหลายคนในโรงเรียนไม่กล้าหือกับเธอเพราะถูกแบล็คเมล์ไว้ ที่น่ากลัวสุดๆ เลยก็คือคนที่กล้าแหย่เธอถึงกับถูกพัดตบสั่งสอนจนไม่กล้าหือไปอีกเป็นปีๆ ได้ยินว่าตอนนั้นที่ข่มขู่ไป ก็เป็นอะไรที่คล้ายๆ กับการใช้อิทธิพลอย่างที่ผมเล่าให้ฟังนะครับ อุ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะครับ เพียงแค่คล้ายๆ นะครับ
เร็วๆ นี้ผมโชคดีที่เธอไม่ได้คิดจะทำอะไรกับปลาซิวปลาสร้อยอย่างผม เพียงแต่ใช้ทำธุระเล็กน้อยเท่านั้น บางทีก็อาจถามเรื่องราวที่เธอเคยได้ยินมาบ้าง นะ ในเมื่อจริงๆ เธอก็เคยได้ยินมาก่อนแล้วผมจะเล่าให้ฟังอีกรอบก็ไม่เป็นไรสินะครับ ถ้าสิ่งที่ผมเล่าไม่ตรงกับสายข่าวของเธอล่ะก็ผมก็ถูกจับได้ว่าโกหกน่ะสิ
พูดถึงสายข่าวแล้วก็ต้องบอกว่าอิทธิพลของเธอไม่อาจหยั่งได้เลยครับ ข่าวที่ผมคิดว่าไม่ว่าใครก็ปิดบังไว้เธอเองก็ได้ยินมาไม่น้อย เพียงแต่ไม่มีกระจิตกระใจไปเอาเรื่องกับปลาซิวปลาสร้อย ก็สมเป็นผู้มีอิทธิพลแบบนั้นอยู่หรอกนะครับ แต่ถ้าล้ำเส้นไปล่ะก็...ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเหมือนกัน
ยิ่งตอนนี้ผมรู้สึกว่าขุมกำลังที่ไม่อาจหยั่งของเธอนั้นน่ากลัวขึ้นนะครับ
วันก่อนเธอชวนผมให้ไปเล่นดอกไม้ไฟ แต่ผมก็กลัวว่าถ้าทำอะไรไม่ถูกใจขึ้นมาจะมีปัญหาเสียเปล่าเลยหลีกเลี่ยงไป ความจริงก็คือผมบังเอิญไปเจอเธอครับ
ความจริงแล้วก็ไม่รู้ว่าเหมาะจะเล่าให้คนอื่นฟังหรือเปล่า นอกจากสายข่าว กองกำลังส่วนตัว ผู้สืบทอดอำนาจ บุคคลหนุนหลังของเธอแล้ว
ดูเหมือนว่าเธอจะเลี้ยงพวกุ๊ยไว้ใช้งานด้วยครับ
ถึงจะเป็นสายสัมพันธ์ที่ดูเหมือนนักเรียนรู้จักกัน แต่ถ้าสานสัมพันธ์ไปนานๆ ความสัมพันธ์แบบผู้นำกับผู้ตามก็จะแสดงออกมา
ไม่อยากคิดเลยว่าผู้มีอิทธิพลจะเลี้ยงกุ๊ยไว้ทำไม ไม่สิ ถ้าเป็นเรื่องของความซื่อสัตย์ที่ต้องใช้ระยะเวลาเพาะบ่มล่ะก็
อะ...ผะ ผมไม่ได้สงสัยอะไรนะครับ วันก่อนไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นครับ ขอโทษด้วยครับ ขอโทษด้วยครับ
กูว่ามุมมองทาคากิแบบอฟช.ต้องมีฉากเซริกะ คิคุโนะลากไปปรับทัศนคติในมุมมืดหลายครั้งหลายหนแน่นอน ไม่งั้นไม่ลนลานหวาดกลัวตอนเจ้าแม่เข้ามาคุยด้วยแบบนี้หรอก
แค่นายT ไปกระตุ้นต่อมS ของท่านเรย์กะมากไปหน่อยเท่านั้นเอง
……น่าสงสารเขานะครับ :’)
ตอนใหม่มาแว้วววว ขอบคุณโม่งแปลลล
ตอนนี้กร๊าวใจหลายจุดเลยย
เรยกะจัง 555 หวั่นไหวง่ายๆเลยท่ายเรยกะ
อุเมวากะ นายนี่มันน่าเสียดายจริงจริ๊งงง
และสุดท้าย ท่านพี่คือ the best siscon ever!
-ความเจ็บช้ำของนักเรียนชายนิรนาม (ภาคที่ล้าน)-
ถึงจะบอกว่าอยากตัดใจจากท่านคิโชวอิน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันก็ยากนิดหน่อย
โดยเฉพาะในวันที่บังเอิญพบกับเธอที่สวนสาธารณะในฤดูร้อนเช่นนี้
อาห์...เทพธิดาแห่งโชคชะตาทรงอวยพรผมอยู่ใช่ไหมครับ?!?
ในขณะที่กำลังดีใจ ตั้งใจว่าจะทำใจกล้า วิ่งเข้าไปทักทายแบบบังเอิญๆ ผมก็ต้องขนลุกซู่อีกครั้งเมื่อเห็นกลุ่มคนที่รายล้อมเธอ...
นั่นมันกุ๊ยนี่หว่า! พวกกุ๊ยนี่! ทำไมท่านคิโชวอินถึงไปคลุกคลีกับคนประเภทนั้นได้กัน? หรือกำลังโดนหลอกอยู่?
เอ๊ะ? พวกนั้นเรียก-เรียกชื่อท่านคิโชวอินด้วย?!? ห๊ะ?!? อะไรกันนั่น นั่นชื่อท่านคิโชวอินนะ! ชื่อที่เด็กซุยรันเทิดทูนไว้เหนือหัว พวกนี้เรียกเรย์กะจังง่ายๆเลยงั้นเหรอ?!? เรียกแบบนั้นนะ?!? นั่นความใฝ่ฝันของผู้ชื่นชมเลยนะ!!!!
ผมขยับหลบไปหลังต้นไม้ ก่อนจะเห็นหนึ่งในพวกกุ๊ยชวนท่านคิโชวอินออกไปเดินกันสองต่อสอง
เอ๊ะ?!? 2 ต่อ 2 ?!??
ทั้งคู่เดินเคียงข้างกันไป แม้จะอยู่กับกุ๊ย แต่ท่านคิโชวอินก็ยังคงสง่างาม ยิ้มและหัวเราะน้อยๆ ร...หรือว่า...!!!!
ที่แท้จริงแล้วคนพวกนั้นเป็นบุตรชายของตระกูลผู้มีอิทธิพลเบื้องหลัง?! ท่านคิโชวอินผูกสัมพันธ์กับตระกูลผู้มีอิทธิพลด้วยหรือนี่?
ผมรู้สึกเย็นสันหลังวาบ เหมือนจะได้รับรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้เสียแล้ว หากหลุดปากออกไปแล้วโดนสืบจนเจอละก็...
ภาพตัวเองโดนจับโบกปูนถ่วงน้ำลอยมาในหัว น่ากลัวเกินไปแล้ว!
เทพธิดาแห่งชะตากรรมไม่ได้รักผม ท่านกำลังบอกให้ผมยอมรับความจริงสินะครับ ผู้ที่จะคู่ควรกับท่านคิโชวอินได้ ก็ต้องเป็นผู้ที่เสมอกันสินะ?
คิดได้เช่นนั้น ผมก็รู้สึกนับถือทั้งหัวหน้าห้องและคุณชมรมยูโดอย่างเต็มหัวใจ แม้จะเป็นบุคคลทั่วไปเหมือนกัน แต่พวกนายหาญกล้าเผชิญหน้ากับเหล่าผู้สูงส่ง พวกนายคือผู้กล้า! พวกนายคือวีรบุรุษของเหล่านักเรียนธรรมดา!
ผมว่าเจอกันคราวหน้าคงต้องให้กำลังใจทั้งคู่หน่อยแล้ว ส่วนตัวผม...ยอมแพ้แล้วครับ...
>>352 โอ๊ย ชอบๆ มุมมองนี้มันใช่ของ T คุงอย่างแน่แท้ อ่านๆ ไปนี่ยังไงก็ใช่ของจริงเลยนะเนี่ย โดยเฉพาะตอนสุดท้าย ท่านเรย์กะน่ากลัวโคตร มีการบ่มเพาะเพื่อหวังผลในอนาคตด้วย นี่มันไม่ใช่ระดับเด็กม.ปลายธรรมดาจริงๆ ด้วย
>>360 รายนี้คือระยะประชิดเข้ามาอีกหน่อยใช่ไหมเนี่ย ได้ยินที่เขาเรียกชื่อกันซะด้วย แต่ก็ไม่พ้นเรื่องโหดๆ น่าเย็นสันหลังอยู่ดี โถๆๆๆ ถอดใจไปซะแล้ว นิรนามคุง
คิดสภาพเจ้าแม่กับเอ็นโจและยูกิโนะไปเดินงานดอกไม้ไฟกันสามคน คุยกันอยู่ดีๆ มีไอ้กลุ่มนี้โผล่มา "อ้าวว เรย์กะจังงงง"
เอ็นโจน่าจะมีฮึ่มแฮ่บ้างได้แล้วนะ! อยากเห็น! อยากเห็น! อยากเห็น!
อยากอ่านมุมมองอุเมะวากะ อ่านที่เพื่อนโม่งคุยกันว่าจริงๆ แล้วเอาหมามาบังหน้าโคตรน่ารักเลย กุแอบคิดได้มั้ยนะว่าที่นางตั้งใจเรียนแบบนี้เพื่อที่จะได้มาเข้ามหาลัยซุยรัน ฮือ
นายบ้าหมาน่าจะป๊อบพอควรอ่ะที่โรงเรียน ดูจากที่โมริยามะซังฮึ่มแฮ่ในตอนแรกขนาดนั้น เป็นหนุ่มหล่อยาซาชี่ที่อ่อนด๋อยปสก.ด้านความรัก พอมาปิ๊งเรย์กะก็ไม่รู้จะทำยังไง เหมือนผู้หญิงจะชอบสัตว์ตัวเล็กๆ ใช่ไหม เอาเบียทริชมาคุย(จีบ)บังหน้าดีกว่า...
ต่อจากนี้ไปเป็นกาว
.
.
.
.
.
พวกเราจ่อไฟเข้ากับชนวนดอกไม้ไฟที่เลือกเอาไว้ ดอกไม้ไฟปะทุแสงสีออกมาพร้อมเสียงเปรี๊ยะ เปรี๊ยะ คุณคิโชวอินมองสะเก็ดไฟจากดอกไม้ไฟด้วยดวงตาระยิบระยับ ดูท่าจะถูกใจมาก
ผมจุดดอกไม้ไฟขึ้นพร้อมกันสองอัน สะเก็ดไฟจึงกระจายออกเป็นเท่าตัว
"ดูสิๆ จุดพร้อมกันสองอันเลย เจ๋งไหมล่า"
ดอกไม้ไฟที่ผมจุดขึ้นพร้อมกันสองลูกดูจะเรียกความสนใจจากคุณคิโชวอินได้อยู่หมัด ทว่าแววตาของคุณคิโชวอินที่ใช้มองดอกไม้ไฟออกจะดูต่างจากเมื่อสักครู่อยู่บ้าง ทั้งยังดูจะเจือปนไปด้วยความระอาเล็กน้อย เพราะอะไรกันนะ
ใครบางคนตะโกนห้ามพวกบ้าบอที่คิดจะจุดดอกไม้ไฟพร้อมกันทีเดียวสามลูก ...เพราะแบบนี้ไงถึงได้มีสถานที่ห้ามเล่นดอกไม้ไฟเพิ่มขึ้น ไม่ไหวเอาซะเลย
คุณคิโอวชินหลุบตาลงมองดอกไม้ไฟในมือ รอยยิ้มบางเบาที่แต่งแต้มอยู่บนริมฝีปากกับดวงตาใสกระจ่างทำเอาผมใจเต้นตึกตัก ความคิดในหัวแล่นเร็วรี่ จะทำยังไงให้คุณคิโชวอินหันมามองด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขแบบนี้บ้างนะ
ในหัวสว่างวาบ ผมร้องเรียกทุกคน
"งั้นฉันจะใช้ดอกไม้ไฟเขียนเป็นตัวอักษรดู ลองทายดูนะว่าเขียนว่าอะไร"
ผมวาดไม้วาดมือเป็นตัวอักษรด้วยดอกไม้ไฟกลางอากาศ บางส่วนที่อยู่ตรงหน้าอกข้างซ้ายเรียกร้องให้เขียนออกไปว่าคิโชวอิน เรย์กะ... แต่โชคยังดี สมองของผมยังคงมีสติ มือที่วาดออกไปจึงหักเขียนเป็นคำว่าเบียทริชแทน... เกือบไป
หลังจากเขียนจบ ทุกคนก็มองหน้ากันด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ตัวอักษรที่ผมเขียนแย่จนดูยากขนาดนั้นเชียว? ผมขยับปาก ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยคำเฉลย มือเล็กขาวเนียนก็ยกขึ้นน้อยๆ เป็นเชิงว่ารู้คำตอบแล้ว
คุณคิโชวอินคิดว่าตัวเองกำลังตอบคำถามในชั้นเรียนอยู่เหรอ ผมยกยิ้ม พยายามปิดบังความสุขที่กำลังเอ่อล้นไปทั่วดวงตา ก่อนจะเอ่ยอนุญาตให้คุณคิโชวอินตอบคำถามด้วยน้ำเสียงนุ่มละไม
"เอ้า คุณคิโชวอิน"
"...เบียทริช"
คุณคิโชวอินตอบ ไม่รู้ทำไม น้ำเสียงของคุณคิโชวอินถึงได้ดูอ่อนอกอ่อนใจเล็กน้อย จนผมเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา
"ถูกต้อง"
ผมตอบคนตรงหน้าด้วยท่าทางที่คิดว่าสุขุมที่สุดในชีวิต ก่อนจะเอ่ยชมสำทับ "สมกับเป็นคุณคิโชวอิน" ช่างรู้ใจผมเหลือเกิน
เรียกว่าใจตรงกันจะได้ไหมนะ
ไม่รู้เพราะอะไร หลังจากเห็นรอยยิ้มดีใจที่ตอบถูกของคุณคิโชวอิน ดอกไม้ไฟของผมก็ดูหมองลงไปถนัดตา ไม่สิ ต่อให้เอาดอกไม้ไฟทั่วทั้งลานมากองรวมกัน ก็ยังดูงดงามไม่เท่าคนตรงหน้า
ผมกำก้านดอกไม้ไฟในมือ พยายามระงับอาการหัวใจพองโตที่ยากเกินจะควบคุม...
.
.
.
.
.
กาวจบแล้ว ขอบคุณที่อ่านน้า มาลงเรือกับกูเร้ว 555555555555
>>367 แต่ก็มีบืออกมาเรื่อยๆตลอดเลยนะเว้ย! แถมในความเป็นจริงก็รู้จักกันมาตั้งนาน เจอกัทุกสัปดาห์เป็นปีๆ เคยนัดเจอกันนอกรอบ เคยไปหาเขาที่โรงเรียน เคยได้ของขวัญสำหรับตัวเองคนเดียว สาวไปเที่ยวก็ได้ของฝากตลอด เคยซื้อของกินให้เขาด้วย แถมถ้าไปย้อนดูดีๆ อุเมวากะนี่อยู่ด้วยกันเทคแคร์เจ้าแม่ตลอดเลยนะ เอาใจใส่มาก แถมเป็นคนที่ผูกขาดกล่องเมล์ของท่านเรย์กะมาตลอดเลยด้วย (แต่พักหลังมีเมล์คาบุรากิมาเบียดพื้นที่ไปบ้าง 555)
อุเมะวากะไม่ใช่กลับไปแล้วไปนั่งพูดกับเบียทริชอยู่คนเดียวนะ วันนี้คุณคิโชวอินก็น่ารักอีกแล้ว จะว่าไป ตั้งแต่รู้จักกันมานางส่งเมลล์หาไม่ขาดเลยนะ ฮือ พอนึกแล้วตะมุตะมิมาก
ไปย้อนอ่านมา เฟิร์สอิมเพรสชั่นอุเมวากะของเรย์กะซามะคือกุ๊ย 555555555 แต่กูโดกิตอนที่อุเมวากะฉกซูชิไข่ห่อของเรย์กะซามะไปกินมาก มีการชวนไปกินข้าวไถ่โทษด้วย ฟหกเสดวหาห
อ่านสารบัญอุเมวากะ ทำไมโดขิขนาดนี้ คนสรุปสรุปได้ดีมาก กราบ อ่านแค่สรุปเฉยๆ นึกว่าเป็นนิยายโชโจ เอ๊ะ ตัวนิยายปกติก็โชโจเหรอ 5555555 /หย่อนขาลงเรือไปอีกข้างเรียบร้อย
>>364 >>365 อีเหี้ย ถ้าในตอนที่สามร้อยโผล่มาพีคแบบนี้จริงกูยอมแต่งฟิคสิบเรื่องถวายท่านจอมมารและอ.ฮิโยโกะเลยมึ้งงง (กูมั่นใจมากว่าเป็นไปไม่ได้แน่ๆ 555)
>>366 ฟิคดีงามมม//เอาอีกกก กูชอบคาร์นายบ้าหมา แต่คือกูไม่เข้าใจคนที่บ้าหมา//คิดคำอื่นไม่ออก lol//นั้นจริงๆว่ะ เฮ้ยคือเหมือนจะเป็นคาร์พระเอกเรื่องอื่นได้เลยแหล่ะ แบบ ภายนอกดูกุ๊ยแต่จริงๆเป็นคนอ่อนโยนรักหมา แถมยังส่งไดอารี่มะหมาไปให้นางเอก(ท่านเรย์กะ)บ่อยๆอีก นางเอกก็จะแบบ อุ้ย น่ารักจังเลยน้า ท่านเรย์กะคือเบื่อโว้ยยย เลิกส่งมาซะที
รูปใหม่ในพิก พวกมึงงงง กูชอบรูปท่านเรย์กะในลายเส้นโอรังมากๆ มันดูเข้ากั๊นเข้ากัน https://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=66754938&ref=touch_manga_button_thumbnail
จะมีครั้งที่นายบ้าหมาไปเจอคาบุกับเอนโจไหมวะ แบบสองคนนะมาเห็นเรย์กะยืนคุยกับกุ๊ยก็เข้ามาช่วยไว้จนมีปากเสียงจนโดนเรย์กะตอกกลับว่านายบ้าหมาเป็นเพื่อนผู้ชายที่สนิทที่สุดต่างหาก.. คาบุผู้ไม่มีเพื่อนก็จะเริ่มนอยๆ เพื่อนผู้ชายที่สนิทที่สุดของเธอไม่ใช่ฉันเหรอ-- ซู้ดดดดด
กาวมากนะ กูอยากกลับไปตอนนายบ้าหมายังไม่ออกลายให้ตายเถอะ หนุ่มนอกโรงเรียนลอยตัวเหนืออิทธิพลของกู
แต่ถ้านายบ้าหมาเอาหมาเป็นข้ออ้างจริงกูว่าต้องมีฉากจำลองสารภาพรักนำแสดงโดยเบียทันกับอาทันว่ะ ถถถ//โยนกาวไรไม่รู้
.
.
ผมยังคงจำได้ถึงวันแรกที่เจอเธอ คุณหนูผมหลอดที่ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันเรียกว่าอะไร แต่ยังไงก็ตามเธอดูรัศมีเปล่งปลั่งที่ประหลาดไปจากพวกเราและยิ่งพอได้รู้ว่าเธอเรียนอยู่ที่ซุยรันทุกอย่างก็สมเหตุสมผลขึ้นมา คุณคิโชวอิน
ตอนนี้ก็ผ่านมานานแล้วที่พวกผมได้รู้จักกับเธอ จะบอกว่าผมหลงตัวเองก็ได้ที่แอบคิดว่าสนิทกับเธอมากที่สุดในกลุ่มเพื่อน ก็แหม ผมบากหน้าส่งข้อความหาเธอบ่อยๆขนาดนั้น ตอนนี้ก็รู้สึกว่าดีจริงๆที่ยังมีเบียทันอยู่ จริงๆก็รู้สึกว่าดีอยู่แล้วนะแต่พอได้เจอคุณคิโชวอิน พอมีเบียทันแล้วก็มีเรื่องคุยกับเธอได้ตลอด แถมยังเคยนัดเจอกันข้างนอกด้วยนี่นา เบียทันจริงๆแล้วก็เชียร์ผมอยู่ใช่มั้ยล่ะ! มาให้ผมหวีขนให้มามะ! พอหวีเสร็จก็จะถ่ายรูปส่งไปให้คุณคิโชวอินดูไงล่ะ มีเบียทันที่น่ารักส่งไปให้ดูทุกวัน คุณคิโชวอินต้องมีความสุขแบบผมได้แน่เลยเนอะ ว่ามั้ยล่ะเบียทัน!
“เบียทัน วันนี้คุณคิโชวอินจะเหนื่อยรึปล่าวน้า” ผมบรรจงหวีขนของเบียทันให้สวยนุ่มเหมือนกับเรือนผมของเธอคนนั้น! เบียทันไม่ตอบอะไรเพียงแต่หันมาเลียมือผม อ๋า เบียทันเองก็จะบอกให้ผมสู้ๆที่ส่งรูปเบียทันสุดน่ารักไปให้ทุกวันนี่ดีแล้วใช่มั้ยล่ะ
ฉลาดรู้ใจที่สุดเลยเบียทัน!
ผมถ่ายรูปเบียทันสุดน่ารักไปสี่ห้ารูปก่อนจะเลือกรูปที่น่ารักที่สุดรูปเดียวส่งไปให้คุณคิโชวอิน
พอส่งเมลเสร็จผมก็มานอนเล่นกับเบียทัน คุณคิโชวอินจะอ่านรึยังน้า หุหุ
“คุณคิโชวอิน ชอบนะครับ!” ผมกลิ้งหันไปหาเบียทันบ่นเสื่อทาทามิเพื่อจำลองการสารภาพ ผมทำแบบนี้มาตลอด
“โฮ่ง!” เบียทันตอบเสียงดัง
“คุณคิโชวอิน ชอบนะครับ!!” ผมพูดอีกครั้งด้วยเสียงดังกว่าเดิม
“โฮ่ง!” เบียทันตอบเสียงดังและยกมือมาแปะหน้าผมเหมือนให้กำลังใจ
‘สู้ๆนะอาทัน!’ สายตาของเบียทันบอกมาอย่างนั้น
“อ๋า เบียทัน! อาทันไม่ยอมแพ้แน่นอน!”
พอคิดว่าจะกาวเรือนี้ ก็นึกถึง
“ยัยเด็กดื้อ! ฟัดๆๆๆ”
#กาวแห้ง
มีคนวาดแฟนอาร์ทอุเมวากะบ้างมั้ย
จะว่าไป...อุเมวากะเป็นคนแรกที่พาเจ้าแม่ไปบ้านด้วยนิ ก่อนวาคาเบะสะอีก ใช้เบียทันบังหน้าพาสาวเข้าบ้านชัดๆ
ว้ายยยย ม้ามืดมากเลย ตัดเบียทริชออกปุ๊ปแบบเรือแล่นฉิวเลย
คนญี่ปุ่นในนิยายเรื่องนี้ เขาแต่งงานกันเร็วหรอ ทำไมเจ้าแม่ถึงได้แต่บ่นขึ้นคานๆ ตั้งแต่อายุ17 18
>>396 ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ต้องเรียนมหาลัยก็ได้ จบไปแต่งงานเลยก็มี เค้าเลยมีแฟนกันเร็ว คุ้นๆว่าเคยมีสำรวจบอกว่าญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีอะไรกันตั้งแต่อายุน้อยๆเยอะที่สุดของโลกหรือของเอเชียนี่แหละ แบบ 17-18 หาคนซิงได้ยากแล้วไรงี้ เจ้าแม่นี่อย่าว่าแต่ซิงเลย คนมาจีบยังไม่มีสักคนก็กลุ้มใจเป็นธรรมดา
>>401 จริงๆ แอบคิดแบบจริงจัง เรย์กะก็โชคดีมากเลยนะ เกิดมาเป็นน้องสาว มีท่านพี่ผู้เก่งกาจรับสืบทอดกิจการอยู่แล้ว ไม่เหมือนริรินะที่เป็นลูกสาวคนเดียว ยังไงก็ต้องรับลูกเขยแต่งเข้าบ้านเพื่อธุรกิจครอบครัว ต้องดูแล้วว่ามินามิคุงเป็นลูกชายคนโตหรือเปล่า ไม่งั้นคงยากหน่อย...
>>402 แต่เกิดเป็นลูกบ้านคิโชวอินก็กดดันนะ ถึงจะบอกว่าไม่แต่งก็ไม่เดือดร้อน แต่ถ้าเป็นอีสาวทึนทึก 30 แล้วยังเหี่ยวอยู่ในบ้านยังไงในวงสัมคมก็คงโดนซุบซิบอ่ะ เพราะเขามีค่านิยมเรื่องการแต่งงานด้วย ในกลุ่มนี้หน้าตายิ่งสำคัญมากอีก เหมือนที่ท่านเรย์กะกดดันตัวเองอ่ะ จะด้อยกว่าคนอื่นไม่ได้ จะทำอะไรก็ต้องคงท่าทีมีเกียรติมีศักดิ์ศรี จะกินขนมทียังต้องแอบๆเลย... ถึงหลังๆจะแอบหลุดมาเยอะก็เถอะ 555
เออ เพิ่งขึ้นได้ ชื่อเอ็นโจนี่มันไปพ้องเสียงกับคำว่า เอ็นโจ 炎上 ที่แปลว่า ใส่ไฟ พอดีเป๊ะๆ เลยว่ะ พวกมึงว่าท่านฮิโยโกะจงใจป่ะวะ 55555
เอาแล้ววววววว ใครหลวงใครน้อยเดี๋ยวได้รู้กัน555555
คาบุรากี้น่ะ เป็นน้อยแล้วร้องกี้ๆไปซะเถอะนะ!
ปล.ขอบคุณโม่งแปล อีกนิดก็ทันดิบแล้วสิน้า....
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่นะฮะ ให้ตีลังกาดูมุมไหน ท่านเรย์กะก็เป็นหลวงชัดๆ ความรับส่งบทสนทนา ขอช่วยเก็บผ้า ช่วยงานตั่งต่าง ดูยังไง้ยังไงก็เป็นคู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันชัดๆ เจ้าคาบุรากิก็เป็นแค่มารรังควาญที่มาเกาะแกะคอยจะแย่งวาคาบะจังจากท่านเรย์กะไปเท่านั้น!!!! //สูดกาวหนึ่งเฮือก
วรั้ย วาคาบะมารอที่สถานีในชุดเครื่องแบบ เดทในชุดเครื่องแบบที่เรย์กะใฝ่ฝันไม่ใช่รึนั่น.... แต่ฉากสุดท้ายนี่แม่ม.. หมูเขาจะหามเอาคานเข้ามาสอดจริมๆ เอ่อ ไม่ได้หมายความว่าท่านเรย์กะเป็นหมูเลยนะคะ ไม่ใช่จริงจริ๊งง
ตอนหน้า ศึกตบตีระหว่างเมียหลวงและเมียน้อย
ค : เอ๊ะ นี่เธอน้ำหนักยังไม่ลดอีกรึ คำนวณแคลลอรี่ผิดได้ยังไง แสดงว่าแอบกินอย่างอื่นแล้วไม่ถ่ายรูปส่งสินะ
ร : (ทรุดลงไปกอง) ฝากไว้ก่อนเหอะเจ้ากี้กี้ตัวนี้
อ่านแล้วอยากลองกินเยลลี่กับบัตเตอร์แซนวิชอ่ะ ใครเคยลองแล้วรสชาติเป็นยังไง อร่อยปะ
แท็กฟู้ดกลับมาผงาดอีกครั้ง...
ครอบครัวเขากำลังสุขสันต์ สามีภรรยากำลังช่วยกันพับผ้า คุยกันกระหนุงกระหนิงเรื่องของกิน อยู่ๆเมียน้อยมาประกาศศักดาถึงบ้านเลยเว้ยยยยย
นี้ลุ้นให้ความแตกมากก 5555555
ฮืออ กาวพวกมึงหอมอร่อยจัง เรือนายบ้าหมาก็ไม่แล้วนะ //ซู๊ดดดด
มึง กูขอมโนว่าคันตะคุงมารอตอนรับท่านเรย์กะได้ไหม
โฮฮ ความคุ้นชินกับบ้านทาคามิจินี้ ท่านเรย์กะเลือกเลยค่ะ คนพี่รึคนน้องดี
ปล.กุแอบอยากให้ท่านเรย์กะขอใช้ทางเดินไม่ได้เลยต้องแต่งชุดแต่งงานของชมรมงานฝีมือเดินโปรโมตว่ะ กรี๊ด มันต้องน่ารักมากแน่ๆเลยมึงงงงง
ระหว่างเยลลี่เมล่อน บัตเตอร์แซนด์วิชกับคาบุรากิมาขัดจังหวะไม่รู้ควรจะโฟกัสอันไหนมากกว่ากัน ดึงดูดสายตามากๆๆ กูอยากกินเยลลี่อะ โดยเฉพาะอะไรที่เป็นเมล่อนกูชอบมาก ฮืออ
อยากให้ความแตกอะ อยากรู้ปฏิกิริยาคาบุรากิ5555 แต่คงน่ารำคาญและยุ่งยากขึ้นเยอะสำหรับเจ้าแม่
ช่วงนี้แต่ละเรือแข่งกันดาเมจจริงอะไรจริง ตอนก่อนก็เรือนายบ้าหมา ตอนนี้ก็เรือวาคาบะ คันตะ เรืออาหารซังก็เช่นกัน.....
ความจริงกูก็มโนท่านเรย์กะใส่ชุดแต่งงานเดินไปมาในรร.เหมือนกันนะ แต่ที่กูมโนไว้คือสมาชิกชมรมกดดันให้ใส่ว่ะ กูว่าเป็นไปได้มาก ตอนทำตุ๊กตาตอนแรกท่านเรย์กะอิดออดสุดท้ายยังต้องยอม กูว่าเหล่าสมาชิกแม่งจับจุดนางได้แล้วล่ะว่าจะ manipulate นางได้ยังไง
อาจจะแบบ
"ท่านเรย์กะ พวกเราทำชุดนี้โดยใช้อิมเมจท่านเรย์กะทำเลยนะคะ "
ระหว่างที่เรย์กะกำลังปลื้มก็
"ใส่ชุดให้ดูหน่อยค่า" อาจกดดันเพิ่มสร้างความรู้สึกผิดถ้าเรย์กะไม่ยอม
พอใส่ก็ชมเข้าไป "สวยจังเลยค่ะ"
พอจะถอดก็ "อย่าเพิ่งถอดเลยนะคะ ยืนเป็นแบบโชว์ตัว ฯลฯ" (ใส่แล้วนิ ยืนล้อม ๆ ไว้ยังไงเรย์กะไม่กล้าวิ่งหนีหรือถอดออกกลางฝูงคนแน่ ๆ)
สุดท้ายใส่ชุดแต่งงานยืนเป็นหุ่นมีชีวิตไปนั่นแหละ
ตอนจบชุดอาจจะยกให้เจ้าแม่เลยก็ได้
ส่วนออกไปเดินกาวตามที่น่าจะเป็นไปได้ยากหน่อยอะ ยังนึกไม่ออก แต่ที่แน่ ๆ อยากให้เอ็นโจมาเห็น!
>>425 ถึงเจ้าแม่จะไม่ไปเดินโชว์ตัว แต่อีตานี่มันต้องเห็นชัวร์ๆอยู่แล้วล่ะ 5555555
แต่อีกสิ่งที่กูปรารถนาอยากจะเห็นมากคือห้องเอ็นโจเล่นละครเวทีให้ฮีเป็นเจ้าชาย แล้วมีอีเวนท์ย้อมผมทองให้เข้ากับบท กูอยากรู้มากว่าเรย์กะจะทำยังไง เจ้าชายจากคิมิดอลมาหานางเป็นหนที่สอง แค่จิ้นกูก็ลงไปนอนตายอย่างสงบศพสีชมพูแล้วล่ะ 555555555555
กูว่าพวกมึงลืมอะไรไปอย่าง... ถ้าใส่ชุดแต่งงานทั้งที่ยังไม่ได้แต่งเขาบอกว่าจะได้แต่งงานช้า....
คิดว่าโอกาสที่เจ้าแม่จะโดนจับหมั้นยังเหลืออีกเท่าไหร่วะ
ใจลึกๆ กูก็ยังเชียร์ท่านอิมาริอยู่เหมือนกันนะ คือนางน่ารัก
เอ็นโจนี่แกล้งเจ้าแม่เยอะไปนิด สงสาร ท่านอิมาริคอยปลอบโยน อาห์...อบอุ่นหัวจัย
แต่ไอ้บทคนคอยปลอบโยนเนี่ย มันตัวประกอบชัดๆนี่หว่า!
แถมเวลาสามผู้ยิ่งใหญ่นั่นอยู่ด้วยกัน ไหงกลายเป็นเอ็นโจคอยปลอบแทนวะ??? หรือนี่คือการปักธงตัวประกอบ???
ปล. เหงาหงอยเหลือเกิน กูต้องไปนั่งสูบกาวเก่าๆ
ว่าแต่กาวใหม่ๆ นี่มีคนเอาไปอัพเดทในสารบัญบ้างมั้ย ทำบ้างเห๊อะ
>>438 ในญี่ปุ่นนะ นางแบบชุดแต่งงานส่วนใหญ่เค้าว่าจะจ้างหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว ไม่ก็มีแฟน มีคู่หมั้นแบบนี้ ถ้าพวกไอดอลสาวโสดเค้าให้ใส่สีอื่นๆ ที่ไม่ใช่สีขาว ไม่ก็ชุดที่ดีไซด์ที่เป็นแบบมินิเดส แต่มันเป็นข่าวที่เก่าแล้วกูไม่รู้ว่าค่านิยมเปลี่ยนไปยังหรือว่าเค้าไม่ถือแล้ว
วัตถุดิบดีขนาดนี้ช่วยกันแต่งระหว่างรอฮิโยะโกะซามะไปพลางๆ
เอาไปประเดิมก่อน
------------------------------------
ท่านเรย์กะกับงานโรงเรียนปีสุดท้าย 1
------------------------------------
ฉันนั่งทำเฟลอต์ในห้อง Pivoine เนื่องจากไม่กล้าเอาผลงานที่ทำไม่ได้เท่าไหร่ไปในห้องชมรมทั้งๆที่คุยโม้ไว้แท้ๆ
"เจ้านี่มันอะไรกัน แกะกับอัลปาก้า?"
"เสียมารยาทค่ะ นี่คือเวดดิ้งดอลล์ต่างหาก"
"..."
"คิโชวอินเสียเวลาเปล่าน่า ทิ้งมันไปซะเถอะ" พูดจบคาบุรากิก็จากไป
เชือดแม่ง! เชือดแม่ง!
ในฐานะประธานชมรมงานฝีมือที่ไร้ฝีมือแล้ว ฉันจึงทำหน้าที่ติดต่อกับชมรมจัดดอกไม้ถึงแม้ทีแรกที่เข้าไปที่ชมรมจัดดอกไม้เหล่าสมาชิกชมรมจะพากันหน้าซีตก็ตามที แต่หลังจากที่ได้ยินข้อเสนอของฉันแล้วก็ดีที่จะร่วมมือด้วย ทีนี้ก็เหลือแค่สภานักเรียน
"ไม่ได้เด็ดขาด เพราะว่ากินพื้นที่ทางเดินน่ะสิ" นายตัวสำรองปฏิเสธทันที
"แล้วทำไมปีที่แล้ววางป้ายตามริมระเบียงถึงได้ล่ะคะ?"
"นั่นมันต่างกันเพราะว่าถ้าเอาชุดแต่งงานมาวางไหนต้องมีฉากกั้นอีก แล้วจะเอาทางที่ไหนเดิน"
"แต่ถ้าเอาผลงานของพวกเราไว้ในห้องชมรมจะมีซักกี่คนเดินเข้ามา เทียบกับชมรมกีฬาที่จัดอยู่สนามข้างนอกแล้ว"
"อืม... ถ้าจัดเวทีให้ทุกชมรมมาพรีเซ้นชมรมของตัวเองน่าจะดีนะ" ไนซ์ไอเดียวาคาบะจัง
"ก็น่าจะดีนะ จะได้ลดปัญหาชมรมวัฒนธรรมไม่มีปากมีเสียงด้วย ฉันจะลองไปขออนุญาตกับทางโรงเรียนดูก็แล้วกัน" นายตัวสำรองนิ่งไปแป๊ปนึงก่อนที่จะตอบอย่างไม่แน่ใจ
ถึงแม้พวกชมรมการแสดงกับชมรมดนตรีจะได้เปรียบก็เถอะ เมื่อเทียบกันแล้วก็บการที่ปกติชมรมงานฝีมือที่ไม่มีปากมีเสียงได้ขึ้นเวทีแสดงฝีมือเชื่อว่าปีหน้าน่าจะดึงดูดสมาชิกชมรมได้มากขึ้นแน่ๆ
"เรื่องที่วางชุดเราไว้ตามริมระเบียงทางเดินไม่ได้ ดิฉันทำให้ทุกคนผิดหวังแล้วขอโทษด้วยนะคะ" ฉันมองหน้าสมาชิกทุกคนด้วยความผิดหวัง แย่จังอุส่าห์ลงทุนไปคุยกับชมรมจัดดอกไม้แล้วด้วย
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะท่านเรย์กะ แค่ท่านเรย์กะพยายามช่วยพวกเรารู้สึกซาบซิ้งใจแล้วล่ะค่ะ แค่ได้ขึ้นเวทีแสดงต้องมีคนสนใจมากกว่าปีที่แล้วแน่ๆ"
"แล้วเรื่องการแสดงบนเวทีพวกเราจะทำยังไงดีครับ?" มินามิคุงมองมาทางฉันกับประธานอย่างเป็นกังวล แค่ทุ่มเวลาทำชุดแต่งงานก็แย่แล้วถ้าทำชุดใหม่สำหรับแสดงบนเวทีอีกล่ะก็แย่แน่ๆ
"อืม ถ้าหานางแบบใส่ชุดแต่งงานขึ้นไปบนเวทีได้สิน... จริงสิ! ท่านเรย์คะจะเป็นการรบกวนท่านเรย์หรือไม่คะถ้าพวกเราอยากให้ทำเรย์กะใส่ชุดของปีนี้ขึ้นไปบนเวที?" รองหัวหน้ามองฉันด้วยตาเป็นประกาย
"ดิฉันคงไม่เหมาะหรอกค่ะ " ฉันรีบพยายามปฎิเสธทันที
ว่ากันว่าถ้าใส่ชุดแต่งงานทั้งๆที่ยังไม่ได้แต่งงานจะอยู่บนคาน...
"แต่ถ้าท่านเรย์กะเป็นนางแบบล่ะก็ต้องเหมาะอย่างแน่นอนค่ะ"
"อร้าย! ใช่แล้วๆแค่มองก็นึกถึงเจ้าหญิงแล้ว ไม่มีใครเหมาะไปกว่าท่านเรย์กะอีกแล้วล่ะค่ะ!"เหล่าสมาชิกชมรมพากันส่งเสียงเชียร์ทันที
เจ้าสาวในเทพนิยาย...
"ถ้าทุกคนพูดถึงขนาดนี้ก็ได้ค่ะ"
"ขอบพระคุณมากค่ะท่านเรย์กะ!"
"ไม่ได้แล้ว อย่างนี้ต้องทำพร๊อมประดับผมเพิ่มเพื่อให้ท่านเรย์กะงดงามที่สุด แล้วก็ต้องปรับขนาดชุดให้เข้ากับท่านเรย์กะด้วย" รองหัวหน้าใจเย็นๆไว้นะคะ อย่าพึ่งสติแตก
เหล่าสมาชิกในชมรมกะตือรือร้นอย่างที่ไม่เป็นมาก่อน สงสัยต้องเข้าคอร์สไดเอ็ดของคาบุรากิอย่างจริงจังซะแล้ว...
สงสารทาคากิคุงมากเลยทั้งโดนเจ้าแม่ขู่กรรโชคทรัพย์(ของกิน)เพราะไปเดินชน
โดนพวกเซริกะจังเขม่นอีก เผลอหลุดปากเรื่องวาคาบะจังอีก ซื้อขนมชิ้นสุดท้ายตัดหน้าเจ้าแม่อีก โดนใช้เป็นเบ๊อีก ซวยซ้ำซ้อนจริงๆทาคากิคุง
ว่าแต่ดิเทบทหายยาวเลยเฮ้ย
>>433 กูว่าต้องมีนะ เพราะเท่าที่ดู เนื้อเรื่องหลักๆ ในมังงะ โผล่มาในนิยายเกือบหมดแล้ว ตั้งแต่
วาคาบะเข้าเรียน ม ปลาย ที่ซุยรัน โดนนักเรียนคนอื่นเขม่นเนื่องจากเก่งเกินหน้าเกินตา / คาบุอกหักจากยูริเอะ / คาบุได้รู้จักกับวาคาบะ และเริ่มจีบวาคาบะ / วาคาบะถูกแกล้งเนื่องจากอิจฉา
ดังนั้น ยังไงงานหมั้นก็ต้องมา เพราะฉากในงานหมั้นเป็นฉากไคลแมกซ์ของเรื่องทั้งหมดนี้ ตระกูลคิโชวอินจะรอดหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับฉากนี้
เพียงแต่จะทำอย่างไรให้ไปสู่ฉากงานหมั้น เพราะถึงแม้ท่านพ่อท่านแม่จะยังอยากให้ดองกับตระกูลคาบุรากิ แต่ก็ไม่น่าจะบังคับใจลูกสาว โดยเฉพาะท่านพ่อยิ่งแล้วใหญ่
>>453 ตอนนี้ตระกูลคิโชวอินมีท่านพี่มาคอยดูแลด้วย ความมั่นคงก็ยังคงเดิม
กูว่ายังไงงานหมั้นก็ต้องถูกประกาศ แต่ท่านเรย์กะจะไม่ยอมให้ตัวเองได้หมั้น เลยบอกไปว่า มีคนรักอยู่แล้วค่ะ คนนั้นคือชูสุเก------- /พอละ
ท่านเรย์กะไม่ยอม คาบุก็จะไม่ยอม แล้วไม่รู้ว่าวาคาบะกับเอ็นโจจะรับมือยังไง
เอ็นโจคงยิ้มขื่นๆ วาคาบะนี่ถ้าไม่ดีใจไปด้วยก็คงคิดว่าท่านเรย์กะหักหลัง
ที่กูคิดว่าวาคาบะจะคิดว่าท่านเรย์กะหักหลัง เพราะกูรู้สึกว่าวาคาบะไม่ได้เป็นสาวน้อยใสๆ ดูเอ๋อๆ แบบที่ท่านเรย์กะคิด ท่านเรย์กะอะมองโลกในแง่ดีเกินไป
ที่บอกว่าดีใจนี่คือดีใจที่เห็นสองคนที่เหมาะสมกันได้หมั้นหมายนะ เอาเข้าจริงๆใครจะดีใจที่เห็นว่าคนที่ตัวเองชอบแถมคนนั้นยังชอบตัวเองกลับ อยู่ๆก็จะไปหมั้นกับคนอื่น
ตอนแรกกูคิดว่า วาคาบะคิดว่าท่านเรย์กะหักหลังแล้วเริ่มปล่อยข่าวลือร้ายๆ แต่อันนี้ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้เพราะตำแหน่งท่านเรย์กะในรร.มั่นคงมาก ถ้าไม่อคติ(โดนฟูจินไรจินข่มขู่)ก็รู้กันทั้งนั้นว่าท่านเรย์กะใจดี
ท่านแม่นี่คงดีใจและสนับสนุน แต่ถ้าเห็นลูกสาวร้องไห้นี่จะไม่ใจอ่อนเหรอ.. ท่านพ่อกับท่านพี่ยิ่งแล้วใหญ่ แค่ท่านเรย์กะทำหน้าเศร้าๆ ก็คงไปคุยกับตระกูลคาบุรากิเตรียมยกเลิกงานหมั้นละ
>>454 กุลืม ยังไงงานหมั้นนี่มันก็ต้องคุยกันทั้งสองฝ่ายก่อนประกาศปะ คิโชวอินก็ไม่ใช่ตระกูลโนเนมที่ตระกูลคาบุรากิจะทำยังไงด้วยก็ได้
พ่อแม่ท่านเรย์กะ(+พ่อแม่คาบุ)อาจจะคิดว่าที่ท่านเรย์กะกับคาบุไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ เป็นเพราะสองคนนี้ชอบกัน เลยจัดงานหมั้นให้ เซอร์ไพรส์ไรงี้
แต่ถ้ามารู้ว่าลูกสาวไม่ชอบแล้ว อยู่ๆจะไปบอกยกเลิกมันก็น่าลำบากใจนะ.. จะดูเป็นคนกลับกลอกมั้ย
แล้วถ้าแม่คาบุรากิมารู้อีกว่า ที่ลูกชายตัวเองไม่ยอมหมั้นเพราะไปชอบลูกชาวบ้านธรรมดาๆ ที่สู้ลูกสาวตระกูลคิโชวอินไม่ได้สักอย่าง (ยกเว้นฝีมือทำอาหารกับเรื่องเรียน) จะยอมปล่อยให้ถอนหมั้นเหรอ
Ky ว่าถ้ามีช่วงนั้นจริง ซาราระอาจเป็นตัวแปรสักอย่างได้เปล่าวะ พวกตัวละครอื่นดูมีบทบาทเผยธาตุแท้กันหมดละ ซาราระยังไม่ค่อยมีบทอะไร นอกจากรู้แค่ว่าสนิทกะพ่อคาบุ?
ว่าแต่พวกหมั้นนี่ปกติเขาหมั้นกันช่วงอายุเท่าไหร่วะ?
กูว่าทานุกิไม่น่าจะปล่อยให้ลูกสาวสุดรักของตัวเองไปหมั้นกับคนอื่นง่ายๆ ถึงจะเป็นคาบุรากิก็เถอะ ยิ่งมีท่านพี่ที่หวงน้อง แล้วก็โคตรตามใจอีกนะน่ะ คงไม่ปล่อยให้เจ้าแม่นั่งซึม ไม่กินข้าวเย็นหรอก
กรี้ดดดดดด โม่งแปล ขอบคุณน้าาา
คันตะคุง น่ารักเสมอต้นเสมอปลายเลยย ^^
คาบุรากิ. ขนาดอยู่กะวาคาบะยังคิดถึงท่านเรยกะ. นี่จะดีใจดีไหมนะ. ว่าแต่ความจะแตกรึเปล่านะ ลุ้นๆๆๆ. ไม่ได้อ่านสปอยดมา. ต้องรอวันจันทร์สินะ. คาดว่าตามนิสัยดื้อรั้นของคาบุ ต้องไม่ปล่อยให้ เพื่อนผู้ลึกลับของวาคาบะเป็นปริศนาอยู่ได้ ต้องแอบสืบจนรู้สิน่า
โอ้โห ถึงขั้นนั่นเรือครุยเซอร์ไปดูดอกไม้ไฟกันสองคน วาคาบะไม่รู้ว่าจีบก็แย่แล้วเนี่ย
กูว่าวาคาบะก็รู้ว่าจีบแหละ ทำตัวชัดเจนเกิ๊นนน แต่อะไรคือการโทรหาท่านเรย์กะโมเมนต์นั้น ความรถไฟชนกันนี่มันฟีลลิ่งจับชู้โคตรๆ 555555
อยากได้ฟิคถ้าคันตะไปเรียนที่ซุยรันจังเลยค่าาาา
ดิบเหลืออีกตอนเดียวแล้วสินะ เมื่อไหร่ท่านฮิโยโกะจะกลับมา
>>465 >>466 มึงต้องใช้แท็ก au มหัศจรรย์อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ามีกาวเว้ยยย ให้คันตะแดกอาหารท่านเรย์กะ/ด้วยความอ่อนใจ/แล้วตู้มโผล่ในเอยูที่ตัวเองเป็นแฝดกับวาคาบะ ตอนพึ่งเข้าไปเรียนซุยรันด้วยกัน แน่นอนว่าพยายามตีสนิทเรย์กะเพราะอยากกินอาหารจะกลับไปโลกเดิม ท่านเรย์กะก็แบบเอ๊ะอีนี่ใครทำไมมีแฝดวาคาบะ ระแวงๆนิดหน่อย และค่อยๆสนิทกันเรื่อยๆ สุดท้ายพอเริ่มชอบจริงๆก็ปิ๊งกลับไปโลกเดิม เจ็บใจแต่ก็ต้องรอไปจีบเรย์กะตอนโต//ซู้ดดดดด
กูว่าคาบุรากิสงสัยแล้วอะมึง โอ๊ยยยย ลุ้นนนร
นางทำไมต้องกลัวว่าเรื่องวาคาบะเป็นเมียเก็บ...เอ้ย เพื่อนสาวของนางจะความลับแตกขนาดนั้นอะ สมเป็นกระต่ายจริงๆ โครตตื่นตูม ขี้กลัว ตกใจง่าย
เห็นคันตะคุงสนใจเข้าซุยรันแถมยังเป็นห่วงโคโรเน่ตอนอยู่โรงเรียนแล้วเรือคันตะอย่างกูชุ่มชื่นหัวใจดีจังเลย (จริงๆเรือไหนมีโมเม้นกูก็ชุ่มชื่นหมดนั่นแหละ 555555)
>>471 ให้เดานะ
แรกๆ นางก็แค่กลัวว่าถ้าความแตก อาจทำให้วาคาบะโดนแกล้งมากกว่าเดิม ประมาณว่า 'หล่อนถือดียังไงมาตีสนิทกับท่านเรย์กะ' แบบนี้ ยิ่งเฉพาะช่วงนั้นอิทธิพลของประธานสโมสรคนเก่ายังแผ่กว้างอยู่ด้วยนะ เลยยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่
ส่วนที่ไม่อยากให้คาบุรู้ ให้เดาก็คงกลัวถูกใช้เป็นสปายมั้ง ประมาณให้ไปสืบหน่อยว่างาคาบะชอบใคร เหมือนที่โดนใช้เมื่คราวยูริเอะไง แรกๆ เรย์กะมองคาบุแบบทรราชด้วยนี่
สุดท้ายก็คงกลัวคาบุมาแย่งพื้นที่โอเอซิสไปมั้ง ประมาณว่าเข้ามาแทรกกลางระหว่างสาวๆ คุยกัน
ตอนนี้คาบุแม่งหยั่งกะจับชู้ในบ้าน ถามวาคาบะย้ำๆว่าใครตั้งสองหน จะเอาคำตอบให้ได้ วาคาบะก็กลบเกลื่อนไม่เนียนเลย ท่านเรย์กะก็โครตลนลาน จะกลัวอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้
อ่านตอนนี้ทำให้คิดว่าจริงๆแล้วท่านเรย์กะกับคาบุนี่คิดเหมือนกันเลยนะ เรื่องที่อีกฝ่ายเป็นลูกศิษย์ไม่ได้เรื่อง 2 คนนี้มีอะไรเหมือนๆกันเยอะอยู่ ทั้งเรื่องกิน เรื่องฐานะ เรื่องที่ไปบ้านวาคาบะ และมีมุมบ้าๆบอๆเหมือนกัน
นี่เรือคันตะแล่นฉิวแล้ว เขาไปถามอาจารย์ที่ปรึกษาเกี่ยวกับซุยรันด้วยนาเหวย
เป็นห่วงโคโรเน่ตลอดด้วยนาเหวย ฟินตัวแตก
สงสัยคันตะเห็นเจ้าแม่กลัวความแตกลนลาน ต้องคิดว่าเจ้าแม่กลัวคาบุ ซึ่งอยู่ชั้นบนของปิรามิดแกล้งเอาแน่ๆเลย(ซึ่งก็นับว่าถูก)
แต่เรือคาบุก็แล่นเหมือนกัน มีคิดถึงเจ้าแม่ขณะที่อยู่กับวาคาบะด้วยอะ แถมยังเรียกว่าศิษย์ไม่ได้เรื่องด้วยความเอ็นดู(?)
จากเสียงโทรศัพท์ กูว่าไม่ใช่แค่คาบุคนเดียว แม้แต่วาคาบะก็น่าจะเริ่มระแคะระคายความสัมพันธ์ระหว่างคาบุ-เรย์กะขึ้นมาบ้าง ไอ้ทีบ่นลูกศิษย์ไม่ได้เรื่องนี่มันก็บรรยายเรย์กะชัดๆ อ่ะ วาคาบะก็ฉลาด น่าจะพอเดาๆ อะไรออกบ้างล่ะ
มึงงง กูอาจจะคิดมากไปแต่ในนิยายจีนการให้ปิ่นนี่มันคือการหมั้นไม่ใช่เรอะ!! กีกี้แกทำอะไรดูหนักหน่วงอีกแล้วนะเฟ้ยยย
เรื่องเอ็นดูเนี่ย... กูว่าจริงๆคาบุมันก็เอ็นดูเรย์กะมานานแล้วเหมือนกันแหละ อาจจะเป็นตอนที่โดนกวางรุมเตะก็ได้... คือถ้าคาบุมันแอบมีใจให้(หน่อยๆ)ก็คงจะสักพักใหญ่แล้วล่ะ ไม่แน่ตอนอยู่กับยูริเอะมันคงจะพูดถึงเรย์กะแนวๆนี้เหมือนกัน ยูริเอะกับไอระเลยคิดว่าเรย์กะจะมาเป็นคนดามใจให้คาบุล่ะมั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกูขอบอกตรงๆว่ากูเดาใจฮิโยโกะซามะไม่ได้ เดาใจนางทีไรรู้สึกเหมือนงมหาเข็มในมหาสมุทร พอๆกับการรอคอยนางมาต่อดิบให้เลย = =
>>481 กูว่าถึงระแคะระคายแต่ก่อนหน้านี้ถามเรย์กะชัดๆแล้วเจ้าตัวยืนยันปฎิเสธว่าไม่ได้คิดอะไรกับคาบุจริงๆไปแล้วคงไม่มีอะไรมั้ง แค่อาจจะความแตกว่าสนิทกัน แต่ที่โรงเรียนคนส่วนใหญ่ก็คิดอยู่แล้วมั้งว่าสองคนนี้สนิทกัน
หรือวาคาบะจังจะน้อยใจที่เรย์กะสนิทกับคาบุ "คุณคิโชอิน ทั้งที่มีฉันอยู่แล้วแท้ๆ ฉันเป็นได้แค่เมียเก็บสินะ..." กาวไปอีก กูขอโทษแต่อ่านแล้วเผลอจิ้นเลย ถถถถถถถ
>>486 กูว่าทั้งโรงเรียนก็รู้แหล่ะว่าเรย์กะกับคาบุสนิทกัน แม้นางจะปฏิเสธแล้วก็ชอบคิดไปเองว่าไม่สนิทก็เหอะ แต่กูว่าใครๆก็รู้ว่าสนิท ที่วาคาบะถามหนนั้นคงเพราะกังวลว่ะ ประมาณว่าฉันเข้าไปเป็นมือที่สามเหรอ แต่เรย์กะที่เป็นเพื่อนนางยืนยัน คอนเฟิร์มเป็นมั่นเหมาะว่าไม่ได้คิดอะไรในเชิงชู้สาวด้วย วาคาบะเลยเชื่อและโอเคที่จะลองเปิดใจและเปิดโอกาสให้คาบุจีบ ถ้าวาคาบะนางไม่โอเค คาบุคงไม่ได้มาถึงตรงนี้ว่ะ
จะว่าเรือคาบุจมก็คงใจร้ายไปหน่อยมั้ง สงครามยังไม่จบอย่างเพิ่งนับศพทหารสิสหาย บางทีอีเวนท์ดูดอกไม้ไฟนี่อ่านจะมีอะไรพลิกโผก็ได้ หวังว่า...
แต่สำหรับกูถ้าอยู่ดีๆคาบุเปลี่ยนใจมาชอบเรย์กะกะทันหันมันก็ดูแปลกๆอะ ตอนนี้คาบุมองเรย์กะแบบอาจารย์-ลูกศิษย์โซนมาก ฮือ ลูกศิษย์ย่อหย่อนก็ตักเตือนรัวๆ(ด้วยวิธีแบบสปาร์ตัน)
>>492 กูว่าอาริมะชอบวาคาบะว่ะ ถ้าเรื่องมันดำเนินไปในแนวเดียวกับไทม์ไลน์เดิมแบบ >>453 เพียงแต่เราไม่เคยเห็นมุมมองชัดๆจากคนอื่นเกี่ยวกับอาริมะที่มีต่อวาคาบะ เพราะมันไม่ได้โฟกัสเท่าไหร่ เวลาคาบุกับวาคาบะไปนั่นไปนี่ ที่รู้ก็มาจากปากของสองคนนี้เท่านั้นอะ ไม่ได้ไปเห็นด้วยตาตัวเองซักครั้ง เลยไม่รู้ว่าสองคนนี้เวลาอยู่ด้วยกันเป็นยังไง จะเห็นแค่ตอนคาบุมาบ้านวาคาบะแล้วยืนคุยกัน แต่ก็แค่สั้นๆเพราะเรย์กะมา คาบุกลับไปก่อนทุกครั้งเลยดูเหมือนว่าไม่ได้หวานแหววอะไรมาก แต่ฟังจากที่เล่ามันก็เป็นเดทน่ารักๆกุบกิบอยู่นะ อย่างนับปลาด้วยกัน เผลอแตะโดนมือกันแล้วสะดุ้งเขินอายอะไรแบบนี้
อีกอย่างที่คันตะไม่พูดถึงอาริมะเพราะอาริมะไม่เคยมาบ้าน ไม่ได้รู้จักกับครอบครัวของวาคาบะแบบคาบุรากิ เลยเดาทีท่าไม่ออกมั้งว่าฮีชอบวาคาบะรึเปล่า แค่แม่วาคาบะถามถึงเด็กผู้ชายที่ไปไหว้พระด้วยกันเฉยๆแล้ววาคาบะบอกเป็นแค่เพื่อนกัน ก็คงเชื่อตามนั้นนั่นล่ะ
ไม่ได้อะไร แต่แบบเราค่อนข้างเศร้าเวลามีคนฟันธงว่าเรือที่เราเชียร์ล่มแน่นอนอะไรงั้นอ่ะ เราก็เรือคาบุมาเรื่อยๆ เหยียบเรืออื่นไปด้วยบ้างอะไร ตามประสาคนเชียร์ให้เรย์กะพ้นคาน ก็เข้าใจว่ามีสัญญาณว่าวาคาบะจะชอบคาบุมากขึ้นเรื่อยๆ เราก็เป๋เหมือนกัน แต่กำลังดมกาวอ่านฟิคปลอบใจตัวเองอยู่ อนาคตยังไม่แน่อ่ะนะ แต่เวลาเห็นใครบอกเรือคาบุจมแล้ว เราใจไม่ดีอ่ะ ไม่รู้เราอ่อนไหวไปไหม 55555
>>497 กุว่าแก้เขิน แต่ก็ทำให้อยากรู้ขึ้นมาว่าต่อหน้าวาคาบะจังนี่มีเมนชั่นถึงเรย์กะทำนองนี้ไปเท่าไหร่แล้ว คาบุมันอาจจะคิดว่าตัวเองไม่ได้พูด แต่ความจริงแพลมออกมาเรื่อยๆ ก็เป็นได้ ประมาณว่าเป็นเทรนเน่อร์คอยควบคุมอาหารคำนวณแคลอรี่ให้ไรงี้
ที่สำคัญ กูว่าปิ่นนั่นคาบุมันไม่ได้บังเอิญเดินเจอแน่นอน ระดับนี้แล้วต้องลงมือทำเองสิวะถึงจะสมเป็นคาบุ!
>>494 โอ๋นะะ เราอยู่เรือเอ็นโจเป็นหลัก แต่ทิ้งชิ้นส่วนไว้ในเรือคาบุเหมือนกัน เวลามีโมเม้นละเรือคาบุแล่น เคยมาหวีดละโดนเบรกอะ เลยพอละ5555 จริงๆเราก็เชื่อว่ามันยังไม่ล่มอะเอาจริง เวลาใส่ฟิลเต้อเราจะมองว่าคาบุยังไม่เข้าใจความรักดี จริงๆชอบเรย์กะแต่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ตอนจบของเรื่องถ้าลงที่เรือคาบุเรย์กะ วาคาบะจังก็น่าสงสารหน่อยแต่ทำอะไรไม่ได้
ปล.จริงๆนอกจากท่านฮิโยโกะเดาใจยากแล้ว การรักกันสมัยม.ปลายก็ไม่จำเป็นต้องเป็นรักแท้รักเดียวยาวไปแต่งงาน เราว่ามังงะนี้เสียดสีโชโจหลายเรื่องไม่ใช่น้อย ต่อให้รักกันอาจจะมีภาคเสริมตอนโตอีกทีตอนเลิกกันไปแล้วก็เป็นได้//อ.แกคงไม่โหดร้ายถึงขั้นนั้นหรอกนะ…
>>497 ไม่รู้สิ กูมองว่าแก้เขินนะ อย่างตอนไปเรียนพิเศษแล้วเพื่อนวาคาบะเข้ามารุมล้อมแล้วฮีไม่มีโอกาสได้พูด ฮีก็ส่งเมล์หาเรย์กะแก้เก้อเหมือนกัน หรือไม่ก็อาจจะมองได้ว่าจะคุยต่อหน้าเพื่อให้วาคาบะได้ยินไปด้วย จะได้สบายใจว่าไม่ได้มีอะไรนะ แต่ความจริงเป็นอย่างไรก็สุดแต่จะคาดเดา
ใจเย็นๆพวกมึง กูว่าไม่ได้มีใครกะจะโจมตีเรือใครหรอก
เรือทุกเรือมีสิทธิ์หมดเพราะท่านเรย์กะยังออกมาจากดันเจี้ยนของคานซังไม่ได้เลย 555555 ดูเรือนายบ้าหมานั่นสิ พอกาวแล้วก็อยากอวย
ใช่ๆ ใจเย็นๆนะพวกมึง เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า
อย่างเช่น ตอนที่ 300 จะมาเมื่อไหร่...
พวกมึงคิดว่าเรื่องนี้จะจบที่กี่ตอนวะ
ถ้าสมมติแกหายไปหลายปี คนจะยังตามอยู่มั้ยวะ กูเคยตามนิยายเรื่องนึง แต่คนแต่งหายไปหลายปีแล้วกลับมาเขียนต่อ กูกลับไปอ่านแล้วแม่งไม่อินเหมือนเมื่อก่อนว่ะ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นกูติดเป็นบ้าเป็นหลัง เข้าไปอ่านตอนซ้ำๆวันละสามสี่รอบ วาดแฟนอาร์ต แอบแต่งฟิคให้ แต่ฝีมือกูห่วยจนไม่กล้าเอาออกเผยแพร่ 55555 คิดว่าแกจะหายไปนานขนาดนั้นมั้ย
>>508 นักเขียนที่ตามไม่หายแต่บางคนนี้ป่วยหนัก อย่างD gray manเงี้ย หลังหายป่วยเนื้อเรื่องพันกันยุ่งเหยิง ไม่เฉลยสักที เพราะผลกระทบจากการป่วยแบบไม่รู้จะกลับมาเต็มร้อยเมื่อไหร่ ทำให้เนื้อเรื่องเร่งรัดขึ้นแบบรวนกว่าปกติสร้างปมไว้ก่อนไขทีหลัง
แต่ก็อย่างว่าต่อให้หายไป แต่ฐานแฟนคลับยังเหลืออยู่
แต่ใจจริงกูก็อยากอ่านไปเรื่อยๆจนจบมหาลัย แต่งงาน มีลูกเลยนะมึง แบบอยากตามไปเรื่อยๆอะ
300ตอนแล้วยังไม่เปลี่ยนไปเป็น การ์ตูนทำอาหาร/ขนม กูก็ดีใจตายแล้ว //ประเด็นแรกสุด ยังเป็น”จะออกไปซื้อขนมยังไงไม่ให้แม่รู้นะ” เลย
“ชั้นจะเป็นพาทิเช่ อันดับหนึ่งให้ได้เลยย!!”//โดนคันตะ กระโดดตบ 5555
ปลายทางคือเบาหวานแน่นวล
//โทษๆ อย่าตีกูว
คิดว่าคงไม่ทันได้เริ่มก็น่าจะมีคนขัดขวางแล้วแหล่ะ 555555555555
คิดถึงบรรดากลุ่มก้อนที่รวมตัวขึ้นมาเพื่อปกป้องความสงบสุขของกระเพาะขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจังแล้วมันก็555555555555555
//หนึ่งในนั้นต้องเป็นท่านพี่อย่างไม่ต้องสงสัย
อยากอ่านฟิคเรือคันตะบ้างว่ะ มีโม่งฟิคคนไหนอยากแต่งมั่ง รออ่านนะ
ใส่กาวคาบุเรย์กะอยู่ แต่งไปแต่งมาจบลงที่คาบุจับได้ว่าเรย์กะรู้จักวาคาบะ เลยขอความช่วยเหลือให้เรย์กะมาเป็นภรรยาเพื่อพาวาคาบะเป็นอนุฯ
พอเอาไปให้เพื่อนอ่าน เพื่อนแม่งด่ามาเฉย
เรือคาบุรากิก็ดีนะ เคมีเข้ากันกับท่านเรย์กะดี ตบมุขกันรัวๆ อยู่ด้วยกันแล้วแบบปล่อยความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่
ส่วนเรือเอ็นโจนี่ดูเจ้าแม่เกร็งๆ ถ้าให้นางขึ้นเรือนางคงแอบขยาดนิดๆ 555
แต่โดยส่วนตัวแล้วเชียเรือทุกลำ ขอให้เจ้าแม่ขึ้นเรืออย่าล่มเรือก็พอ
เริ่มชอบเรือคาบุนะ แต่ก่อนไม่ชอบคาบุมันดูเกรียนๆเอาแต่ใจแบบเด็ก โตมาดีขึ้นนอกจากปากที่ยังหมาเหมือนเดิม
หลังๆ 2 คนนี้ไม่เกรงใจกันดี เจ้าแม่ตอนแรกเหมือนจะเกรงๆเพราะกลัวเรื่องในตอนจบเกม
แต่ตอนที่เอาผ้าเปียกปิดหน้านี่คาดว่าความเกรงกลัวคงหมดไปแล้ว
ลุ้นให้คาบุมันแห้วอีกรอบ แล้วมีเหตุการณ์เจ้าแม่ปลอบใจ ถ้าได้เป็นช่วงมหาลัยก็ดี จะได้กินเหล้าด้วย พอเมาๆก็ตกร่องปล่องชิ้นกันไปเลย
ยกมือว่าลงเรือคาบุเรย์กะ ถึงตอนล่าสุดคาบุจะไปชมดอกไม้ไฟกับวาคาบะจังก็เหอะ ขอทำพิธีแช่งให้คาบุแห้วอีกรอบ ส่วนเอนโจ ฮีไม่ชัดเจนเรื่องคุณยุยโกะ บอกเรย์กะว่าคุณยุยโกะเป็นว่าที่คู่หมั้นด้วย ไม่ค่อยชอบแนวนี้
ทำเป็นเล่นไปเรย์กะรู้ว่าคาบุชอบช็อกโกแล็ตตั้งแต่ประถมแล้วนา รู้ถึงยี่ห้อที่กินเลยด้วย (อ้างอิงตอนที่ 3) เคมีก็เข้ากันแปลกๆ ถ้าเขียนหักมุมปวดตับช่วงมหาลัยอาจจะสลับคู่ไปมาก็ได้ เริ่มด้วย วาคาบะคบตัวสำรอง เอ็นโจยุยโกะ คาบุโสด เรย์กะโสด จากนั้นวาคาบะเข้าชมรมเดียวกับคาบุแล้วมีเวลาให้ตัวสำรองน้อยลงแล้วเปลี่ยนเป็นคาบุวาคาบะ ตัวสำรองโสด เรย์กะโสด เอ็นโจยุยโกะ จากนั้นตัวสำรองบังเอิญเจอยุยโกะ วาคาบะทะเลาะคาบุแล้วเจอเอ็นโจ
เลยกลายเป็นวาคาบะเอ็นโจ ยุยโกะตัวสำรอง คาบุโสด เรย์กะโสด สุดท้ายหลายคู่กลับมาคืนดีกัน คาบุกลับไปคุยกับยูริเอะ เรย์กะยังคงโสดเหมือนเดิม จบ
>>531 เคยมโนเนื้อเรื่องช่วงมหาลัยเหมือนกัน แบบว่า
- จบ มอหก คาบุเริ่มคบกับวาคาบะ เรย์กัโล่งใจที่ครอบครัวผ่านวิกฤตล้มละลายได้
- เริ่มภาคมหาลัย ทั้งเรย์กะ คาบุ เอ็นโจเข้าคณะเดียวกัน (คณะเดียวกับท่านพี่)
- เอ็นโจกับยุยโกะจบกันด้วยดี แบบว่าต่างฝ่ายต่างไม่ตกลงเรื่องหมั้น
- เอ็นโจเดินหน้าจีบเรย์กะอย่างเป็นทางการ เรย์กะก็ดูๆ ไปก่อน
- ถ้าจะให้ดราม่า ก็แบบวาคาบะเข้ามหาลัยคณะเดียวกับอาริมะ และต้องเป็นคนละที่กับคาบุ
- จากข้อบน ทำให้คาบุกับวาคาบะมีปัญหากัน เพราะความห่างไกลกัน ไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน แถมครอบครัวของฝ่ายชายยังไม่ยอมรับ
- พอทะเลาะกัน คาบุก็มักจะมาหาเรย์กะเพื่อปรับทุกข์
- ไปๆ มาๆ คาบุมักจะเกาะติดกับเรย์กะ ประมาณว่าอยู่แล้วสบายใจ และคิดถึงเร์กะมากกว่า ทำให้เอ็นโจเริ่มไม่ค่อยพอใจนัก
- ถ้าพระเอกเป็นคาบุ ต้องให้เรย์กะชอบคาบุตั้งแต่ตอนมอหกแล้วด้วย แต่ต้องตัดใจ พอคาบุมักมาวอแวบ่อยๆ ก็เริ่มหวั่นไหวอีก
- ถ้าจะให้สนุก ต้องให้ท่านพี่ หรือท่านอิมาริ มาเป็นอาจารย์กิตติมศักดิ์ ในฐานะศิษย์เก่า
// รู้สึกจะเริ่มมั่วแล้ว พอเหอะกู 5555
นอนไม่หลับเลยอ่านฟิคเวียนซ้ำอีกรอบ อยากได้ตอนต่อจังค่าาา ไม่มีใครต่อเลยเหรอ 😂😂
ว้อย 299 มาแล้วววว มันเป็นฟีลลิ่งที่ดีใจที่มันมา เสียใจที่สต็อกหมด และเศร้านิดๆที่ไม่รู้ว่าตอนต่อไปจะมาเมื่อไร
ยังไงก็ขอบคุณโม่งแปล(และขนหน้าแข้งของเขา)ที่ทำให้โม่งซุยรันอย่างกูมีความสุขกับการอ่านท่านเรย์กะแปลไทย
เราจะรอคอยตอนที่300อย่างลุ้นระทึกไปพร้อมๆกันนะ
ถ้าท่านฮิโยโกะหักมุมเป็นเรย์กะปวดกายหยาบจากการฝึกสปาตั้นจนไปดูดอกไม้ไฟกับเด็กๆบ้านเอ็นโจไม่ได้ จะทำไงวะ
กูหวาดระแวงเหลือเกินเพื่อนๆโม่ง /กัดเล็บกุกๆ
ในที่สุดวันนี้มันก็มาถึง วันที่เราไล่ตามดิบทัน วันที่เราจะไม่มีให้อ่านอีกต่อไปจนกว่าดิบจะอัพ ฮรือออ ขอบคุณโม่งแปลมากนะสำหรับความเหนื่อยยาก มาส่งแรงใจแรงเชียร์ให้อ.แกเข็นตอนใหม่ออกมาไวๆด้วยเถิด
ตอนนี้กูฟินกับการที่นางวิ่งไปเปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดไปเดทเหลือเกิน แต่ก็หวั่นใจกับการทิ้งท้ายเกี่ยวกับเอ็นโจไว้ว่ะ ทิ้งท้ายไว้แบบนี้ทีไรมีเรื่องตลอด เป็นความรู้สึกแบบเดียวกับตอนน้องสึกุมิบอกได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเอ็นโจมาแต่จะจริงมั้ยไม่รู้ ซึ่งตอนนี้กูก็ภาวนาขอให้ไม่มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้น ปกติฮีไม่เคยพลาดเวลาจะไปไหนมาไหนกับเรย์กะเลยนะ ยกเว้นแต่ว่าจะมีอะไรมาแทรกกระทันหันจนอดไป แต่วันนี้ไม่มานี่โครตผิดปกติเลย กูใจคอไม่ค่อยดี ยิ่งตอนที่สามร้อยนี่กูเสียวจะมีเรื่องชิบหาย อาจจะเป็นตอนพีคของฮีก็ได้ใครจะรู้.....
ขอบคุณสำหรับวันเวลาที่ผ่านมาด้วยกันนะโม่งแปล เราจะรอดิบอย่างระทึกใจไปด้วยกันนะ!!//บำรุงขนหน้าแข้งโม่งแปล
นี่มันคืออัลไล ความไม่เอาไหนของชายผู้ซึ่งกุมหัวใจสาว ๆ เป็นร้อย แต่จะจีบสาวที่ตัวเองชอบทั้งทีต้องให้น้องชายโทรไปอ้อนสาวให้
แล้วไอ้เซนส์ดีเกินผีนั่นก็อีก สอบ GAT PAT ได้คะแนนความเชื่อมโยงเต็มรึไงฟระบากะรากิ ทำไมถึงได้คิดว่าคิโชวอินกับโคโระจังคือคนเดียวกันได้เนี่ย
ที่สำคัญที่สุดคือ ค้าง !!! ค้างว้อย ดิบตอนต่อไปก็ไม่มี แถมตอนหน้ายังตอนที่ 300 อีก จะหาอะไรทำระหว่างรอดีฟระ อ่านเหมาเหมาแม่นางก็กาวแต่กับยาพิษ
ขอบคุณตอนใหม่นะโม่งแปล!! ถึงแม้ดิบยังไม่มาแต่เราเชื่อว่าบอร์ดจะไม่เงียบเหงา/แบมือขอฟิค
ทำไมกูรู้สึกเหมือนเอ็นโจเป็นคนสะกิดคาบุให้พูด และเปรยเสนอให้(ท่าน)ยูกิโนะ แถมแย่งคุยอีก นี่มันหาข้ออ้างคุยโทรศัพท์ชัดๆ พอมีครั้งที่หนึ่งแล้ว คงมีครั้งต่อๆไป สินะคะ//คาดหวังสุดๆโว้ยยยย
ขอบคุณมากนะโม่งแปล ใจหายมากเลยอะ ในที่สุดก็ทันดิบแล้ว ขอบคุณที่แปลมาตลอดนะมึง รักๆๆๆ
ตอนนี้เรือเอ็นโจมาชัดมาก ๆ อะไรคือน้องคุยอยู่ก็เร่งให้น้องชวนวะ แต่พอรับสายเองดันทำไก๋ว่า เออออ ยูกิโนะอยากชวนไป คนเปิดประเด็น+ย้ำกับน้องว่าให้พูดชวนท่านเรย์กะซักทีคือนายเองป่าว 555
รักนะโม่งแปล!! ขอบคุณมากๆเลยๆ!!
โมเม้นแบบเปลี่ยนกันซิคือฮื้อออออ คือดี! คือดี!!
>>542-544 อย่าพูดเป็นลางสิคะ!! ใจคออิแม่แอนด์สันหลังนี่วาบวาบๆเลยนะเอ้ออ//ต่อจากนี้คงได้จุดธูปดลบันดาลให้รักของเจ้าแม่เรย์กะเรารุ่งโรจน์! อ่าห์ ตอนที่ 300 เอ๋ยยยยย จงเป็นความหวังแด่เราาาาาา
ขอบใจโม่งแปลมากกกก. กุมีความสุขทุกเช้าที่ตื่นมาแล้วได้อ่านเรื่องราวของท่านเรยกะ
ตอนต่อไปกุว่าพีคสุดคือ. โดนแคนเซิ่นนัดเพราะยูคิโนะป่วย. อดไป. หรือถ้ายูคิโนะอาจจะป่วยการเมืองส่งพี่ชายมาคนเดียวว. ฟินไป
พีคต่อมาคือไปเจอคาบุกะ วาคาบะ กลายเป็น double date โว้ว
เอาล่ะมีเวลามโน 555 ว่าแต่หวังว่าไม่ต้องรอถึงหน้าร้อนญปถึงจะได้อ่านนะ เชื่อในพลังมโนของท่านฮิโยโกะเช่นกัน
ไทยตามทันดิบก่อนดิบออกตอนใหม่จริงๆด้วย.... ขอบคุณโม่งแปลสำหรับความเหนื่อยยากตลอดปีที่ผ่านมานะคะ หวังว่าท่านฮิโยโกะจะมาอัพตอนใหม่เร็วๆ ;w;
เห็นปฏิกิริยาหลังวางสายของท่านเรย์กะตอนนี้แล้วกูขอคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่าลึกๆแล้วนางก็มีใจให้เอ็นโจอยู่ เพียงแต่ข่มความรู้สึกเอาไว้เพราะยังหวาดระแวง+ติดเรื่องยุยโกะ ไม่เคยเห็นนางโดดผึงรีบวิ่งไปค้นตู้เสื้อผ้าขนาดนี้ คงอยากให้ตัวเองน่ารักสุดๆเลยสินะ งือออ//////
//คือกูแอบคิดเทียบกับตัวเองง่ะ เวลากูชอบใครกูจะพยายามหลอกตัวเองว่าไม่ได้ชอบเขา เกลียดเขาไรเงี้ยะ แต่ตอนเขามาอยู่ใกล้ๆก็เขินประหม่าจนแทบบ้า กูเห็นเรย์กะเป็นงี้กูก็นึกถึงตัวเองจริงๆนะ55555
ตอน299นี่กุอ่านผิดเรื่องรึเปล่าอ่ะ ทำไมจับออร่าละมุนได้มากกว่าปกติ แห้งแล้งมาตั้งนานพอได้รับโมเม้นถึงกับทนไม่ไหว ตาฝาดรึเปล่านะ เพื่อนโม่งทุกคนเห็นเหมือนกันใช่ไหม /วิ่งไปแก้บน
>>543 ถ้าบอสใหญ่มานี่ นึกภาพออกแค่ท่านเรย์กะโดนตบหรือจอมมารปะทะบอสใหญ่เพื่อปกป้องท่านเรย์กะ นึกภาพท่านเรย์กะตบบอสใหญ่ไม่ออกเลย ของมาแพ้ทางกัน
>>546 หลักฐานหลายๆอย่างก็ชวนให้น่าสงสัยนะ แต่ที่ท่านเรย์กะรอดเพราะคาบุหาความเชื่อมโยงระหว่างชื่อโคโระกับคิโชวอิน เรย์กะไม่เจอ
>>547 รู้สึกเหมือนกันว่าให้ยูกิโนะเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันไปก่อน พอการ์ดท่านเรย์กะตกก็ให้ยูกิโนะบอกว่าท่านพี่ไปด้วย ระหว่างที่ท่านเรย์กะยังไม่ทันตั้งการ์ดใหม่ก็เปลี่ยนตัวกับยูกิโนะมาคุยเองเพื่อรุกต่อ เหมือนเป็นแผนเลย
ตอนล่าสุดนี่ เข้าแท๊กโซโจเต็มๆ เลยนะ
เอ็นโจนี่ นานๆ โผล่มาที ก็มาเหนือเลยนะ อะไรคือการให้น้องเป็นแม่ทัพบุกทะลวงก่อน พอศัตรูอ่อนกำลังก็ให้ผู้บัญชาการปิดท้ายล่ะนี่ อยากรู้จริงว่าใครเกริ่นจะไปดูดอกไม้ไฟก่อน ระหว่าพี่ หรือน้อง
แล้วที่วางสายปุ้บ วิ่งไปตู้เสื้อผ้าปั้บของเรย์กะ คืออะไร? คล้ายๆ กับริรินะที่จะไปกินข้าวกับท่านพี่
และเรย์กะเลย คุณหนูอย่างนางไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องไม่มีเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสถานที่นะ จะกังวลทำไมน้ออออ แถมยังพูดถึงยูกาตะด้วย หรือว่าอยากใส่??
แล้วฉากที่คาบุกับเรย์กะอีก อะไรกัน แค่เรย์กะจี้ถามเรื่องที่โทรมา ก็เขินซะงั้น ทำโมโหกลบเกลื่อนอีก ทำไมกันน้าาาาา นี่หมดหวังกับเรือนี้ตอนก่อนแล้วนะ นึกว่าเรือจะจมด้วยซ้ำ พอมาตอนนี้ ยังมีหวังสินะ??
สุดท้ายที่เอ็นโจไม่มาด้วย แปลกๆ อยู่นะ เดี๋ยวนี้จะไม่ปล่อยให้อยู่ด้วยกันสองต่อสองนี่ มีอะไรหรือเปล่า หายไปพร้อมท่านฮิโยโกะแบบนี้ใจคอไม่ค่อยดีเลย
แหมมมมมม นี่มันกลยุทธ์ใช้น้องเป็นทัพหน้าตีประตูเมืองให้แตกก่อน แล้วตัวแม่ทัพบุกเข้ามายึดเมืองได้สำเร็จนี่คะ อะไรคือการเร่งน้องยิกๆให้เข้าเรื่อง พอน้องชวนได้ปุ๊บ ก็ไล่หนีไม่ให้เป็นก้างเพื่อตัวเองจะได้คุยกับสาวแบบสะดวกๆคะนั่น เข้าตำราเสร็จศึกฆ่าขุนพลชัดๆ อยากจะแหมไปให้รอบจักรวาล รู้สึกจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ เหนื่อยหน่อยนะคะกัปตัน
ที่กูกรี๊ดมากๆคือนางรีบวิ่งไปหาชุดนี่ล่ะ นี่มันสาวน้อยเตรียมตัวไปเดทชัดๆ กังวลนู่นนี่นั่นว่าจะใส่อะไรดี คุณหนูอย่างนางไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องชุดไม่ใช่เหรออออ แม่จ้าววว นี่มันสาวน้อยในห้วงรักชัดๆ เอ้า ท่านจอมมาร เรย์กะนางอยากใส่ยูกาตะน่ะ พาไปอีกซักงานเดินเที่ยวแผงลอยบ้านๆสิ นางจะได้ใส่ยูกาตะตามที่ปรารถนา
ตอนท้ายรู้สึกโหวงๆเหมือนกันที่ตามดิบทันแล้ว จากนี้ก็มารอกันเถอะ ขอบคุณโม่งแปลมากนะที่แปลมาให้อ่าน กูรักมึงมากๆเลยล่ะ
อยากรู้จังว่าถ้าคาบุรากิรู้ว่าเรย์กะคือโคโระจังจะมีปฏิกิริยายังไง
มองจากดาวศุกร์ก็รู้ว่าเอ็นโจ!!! นายนั่นแหละที่เป็นตัวต้นเรื่องชวนเจ้าแม่ไปงานดอกไม้ไฟ!!! ทำมาเป็นใช้น้องชายมาเป็นตัวล่อ พอเห็นยูกิโนะคุยกับเจ้าแม่นานเกิน ก็เร่งรัดให้ยูกิโนะพูดชวน กลัวเขาคุยเพลินจนลืมชวนอะเด้ อีกครั้งนึงก็ทำทีเป็นไล่น้องชายให้ไปนอน แหมมมมม อยากคุยกับสาวมากเลยน้าาาาา หุหุหุ
ขอทำนายไว้เลยว่าพอวันจริง ยูกิโนะจะป่วย แล้วเหลือกันสองคน ฮา อยากเห็นจริงๆ เลยนะ ขอร้องท่านฮิโยโกะช่วย ประทานบทแบบนี้ให้เราด้วย
เป็นตอนที่อ่านแล้วดีใจ ฟินเรือเอ็นโจแล่น แต่พออ่านจบก็เศร้า จะไม่ได้อ่านท่านเรย์กะแล้วเหรอ ฮือออออออ ยังจำได้ว่ายังนับวันที่แปลทันดิบอยู่เลย ไม่คิดว่าจะมาถึงไวขนาดนี้ ขอบคุณโม่งแปลมากๆ ที่ช่วยแปลเจ้าแม่ออกมาให้อ่าน ขอบคุณโม่งซุยรัน ทั้งสายฟิคกาว แฟนอาร์ต แล้วก็สายเมากัญชา ไม่ว่าจะเรืออะไรก็ตาม สนุกมากเลยนะที่อ่านท่านเรย์กะจบ แล้วเราก็มาหวีดต่อในโม่ง ไม่ว่าจะหวีดกันเรื่องขนม อาหาร หรือคุยกันเรื่องต่างๆ อย่างการนอนกัดฟัน ฮาาาาา แล้วเราจะรอท่านฮิโยโกะไปด้วยกันนะ
กรี๊ดดดดดดด ชนดิบได้ค้างมาก โอ้ย พีคทั้งฝั่งคาบุฝั่งเอ็นโจด้วยนะ โคโรเน่ความจะแตกหรือไม่! ฮรือออ แต่นายไก่อ่อน ตอนนี้ทำดีมาก โคตรโชโจ มุ้งมิ้งสัดๆ เผยไต๋ขนาดนี้จนกูนึกว่าผิดเรื่อง นี่มันชวนเองแล้วใช้น้องเป็นเครื่องมือชัดๆ! มึ้งงงงง ย้อนกลับไป ย้อนกลับไปๆๆ ทั้งชวนไปนู่นนี่นั่นก่อนหน้านี้ ทั้งอ้อนขอช็อคโกแลตวาเลนไทน์ การอ้างน้องไม่ใช่เพียงกาวอีกต่อไป แม่งเป็นความจริงเว้ย!!
ทันดิบแล้วอ่ะโม่งแปล ขอบคุณน้า //ทึ้งขนหน้าแข้ง
ไปอ่าน 299 ซ้ำอีกรอบ ตอนที่คาบุจับผิดน่ะ คาบุแค่บอกว่าเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา กับเสียงที่หายไป เป็นจังหวะเดียวกันกับตอนที่โทร กับตอนที่สัญญาณถูกตัดนี่ ไม่ได้บอกว่าเป็นเสียงเดียวกับมือถือเรย์กะสักหน่อย แลัวตอนที่นางแถเรื่องเสียงมือถือซ้ำกันมันยังไงอยู่นะ
อ้าว แปลทันญป แล้วเหรอ เซ็ง
อ่านตอน299จบ ขอบพระคุณโม่งแปลอย่างมาก …
-เรื่องเสื้อผ้าปกตินางก็พิถีพิถันอยู่แล้ว แต่คราวนี้ดูมีความพิเศษผิดปกติ
-กุว่าเอ็นโจวเริ่มร้อนรนละ จะจบม6ละยังไม่ค่อยคืบหน้าเลย(สาวเจ้าพึ่งจะยอมรับว่าเป็นเพื่อนสมัยเด็กเอง) โอกาสที่จะ”คุณคิโชวอิน…”จากข้างหลังก็จะลดลงไปอีก 555
-สรุปว่าที่คาบุโทรหาเรย์กะ นี่คือ ไม่รู้จะทำอะไรตอนรอวาคาบะคุยกับป้าๆสินะ ก็เลยโทรหาเพื่อน?ซึ่งคนแรกที่นึกออกก็คือเรย์กะ? อย่าบอกนะว่าเบอร์ในเครื่องจะมีแค่ พ่อ แม่ เอ็นโจว วาคาบะ ยูริเอะ แล้วก็เรย์กะ T ^ T
-เรย์กะไปได้เบอร์ยูกิโนะมาแต่ตอนไหนอะ(กุนึกไม่ออก)?
มึง 299 ตอนแล้ว เอ็นโจยังไม่ได้แลกเมลล์กะเลกะเลยนะมึง กูว่าเอ็นโจชอบเรกะแน่ แต่ออกตัวมากไม่ได้เพราะปัญหาซับซ้อนที่บ้าน ส่วนเรกะเนี่ยกูว่าก็มีชอบเขาแหละ แต่ในใจคงชอบคิดว่า ไม่มีทางหรอกที่จะเป็นไปได้ ปล.กูเรือคาบุแจ้ ถึงเรกะจะไปจบที่ใครกูเฉยๆ แค่คิดว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักดีแฮะ
คาบุเคยได้ยินริงโทนของท่านเรย์ไหมวะ ปุโระโระโระโระโระโระโระ อันนั้นน่ะ กูว่าเพราะไม่เคยได้ยินเลยไม่สะกิดใจ ถ้าตอนอยู่ด้วยกันแล้วดังขึ้นแบบนี้คงโป๊ะแตก
กูแอบคาใจ ทำไมคาบุมันต้องเก็บงำข้อมูลเด็ดๆไว้ทุกเรื่องเลยวะ ตอนชวนไปเที่ยวงานไดโนเสาร์นี่ก็ทีละ งานดอกไม้ไฟก็อุบเงียบ หรือกลัวล้มเหลวแล้วโดนเรย์กะหัวเราะเยาะ?
นายให้น้องชวนให้ชัดๆเลยนี่นา ยังมีหน้ามาบอกว่า ยูกิโนะอยากจะชวนตอนนี้ ขอโทษนะ
ฮืออออ มึงงง เท่าดิบละเหรอ กุไม่กล้าอ่านนน กี๊ดดดดดด
กูลองแต่งฟิคคันตะดูอะ แต่ว่ามันรีบแต่งภาษาเลยอาจจะแปลกๆนะ
.......................................…………..…….....………………………………………………
ถึงอาจารย์จะเตือนแล้วก็เถอะ
แต่สุดท้ายก็มาที่นี่จนได้...
เราจัดสูทนอกสีขาวที่รีดเตรียมไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วให้เรียบตึง จัดเนกไทที่ยับยู่ยี่นิดหน่อยให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะก้าวเข้าโรงเรียน มีคนเดินผ่านเราไปหลายคนทั้งชายและหญิง ทุกคนล้วนใส่เครื่องแบบสีขาวเช่นเดียวกันบ่งบอกว่าคงเป็นเพื่อนร่วมรุ่นไม่ก็รุ่นพี่ของเรา... ถึงจะบอกอย่างนั้นก็เถอะ แต่เครื่องประดับและของใช้ที่ดูแพงจนแอบคิดว่าให้ตายก็ไม่มีวันเสียเงินไปกับของแบบนั้นแน่ๆทำให้รู้สึกว่าเราอยู่กันคนละจักรวาล
อ้อ! เราชื่อ ทาคามิจิ คันตะ เพิ่งจะเข้าเรียนที่ซุยรันแห่งนี้เป็นวันแรกนี่แหละ บ้านเราเป็นครอบครัวฐานะปานกลางเปิดร้านเค้กที่แม้ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังแต่ก็มีลูกค้าเข้าออกร้านอยู่ไม่ขาด ส่วนโรงเรียนซุยรันเป็นโรงเรียนของพวกคุณหนูมีตระกูล แค่ชุดก็ให้บรรยากาศแตกต่างจากนักเรียนม.ปลายธรรมดาแล้ว แต่ก็มีนักเรียนข้างนอกหลายคนใฝ่ฝันที่จะเข้าเรียนที่นี่เพราะขอแค่มีผลการเรียนดีๆก็สามารถเลื่อนชั้นเข้ามหาวิทยาลัยได้โดยไม่ต้องสอบไงล่ะ
เมื่อเดินเข้าประตูรั้วเราก็ต้องยืนอ้าปากค้าง เฮ้! บอกทีสิว่านี่เป็นโรงเรียนจริงๆ หน้าต่างทำจากกระจกสีหรูหราเหมือนที่อยู่ในคริสตจักรนั่นมันอะไรหา!
เอี๊ยด!
รถเบนซ์สีดำขัดเงาวาววับมาจอดด้านหลังเรา ความจริงเราควรจะขยับหลบเขาใช่ไหมนะ แต่อยู่ดีๆขาก็ไม่มีแรงเสียดื้อๆ
"หลบไปสิยะ" เด็กผู้หญิงคนหนึ่งผลักหลังเรา เธอคงลงจากรถคันเมื่อกี้นี้ ต้องขอบคุณแรงผลักของเธอที่ทำให้ขาเราเดินต่อได้ ได้ยินเสียงแว่วมาว่า ริรินะจัง ด้วยนะ ชื่อของเด็กผู้หญิงคนนั้นล่ะมั้ง
เดินชมนู่นชมนี่มาเรื่อยๆ บรรยากาศในซุยรันร่มรื่นกว่าที่คิดไว้ ห้องเรียนต่างๆค่อนข้างทันสมัย อุปกรณ์การเรียนครบครันสมเป็นโรงเรียนคุณหนู แต่ก็ไม่ยักจะมีใครทำผมหลอดเหมือนโคโรเน่หรือหัวเราะโอะโฮะโฮะเลยแฮะ...
ฮะ? โคโร่เน่ก็คือโคโรเน่น่ะสิ เป็นโคโรเน่โอะโฮะโฮะด้วยนะ ยัยนั่นเป็นเพื่อนของพี่สาวเราเอง รู้สึกว่าชื่อจริงจะชื่อคิโชวอินหรืออะไรทำนองนี้แหละ แต่เราไม่คิดจะเรียกหรอก ก็โคโรเน่น่ะเหมาะจะเป็นโคโรเน่มากกว่านี่นา ยัยนั่นชอบมากินมื้อเย็นด้วยกันที่บ้าน พอถามว่าจะเติมไหมก็ชอบบอกว่า "ขออีกคำเดียวนะคะ" แล้วก็ซัดหมดทุกที แล้วไหนจะชอบคิดเมนูพิสดารที่ไม่มีมนุษย์คนไหนบนโลกสามารถกระเดือกลงคอได้อีก จัดว่าเป็นบุคคลที่ทั้งน่าเหนื่อยหน่ายและน่ากลัวไปพร้อมๆกันเลยล่ะ~
"อ๊ะ!" พอเลี้ยวตรงหัวมุมก็เจอกลุ่มผู้หญิงห้าคนยืนล้อมเด็กสาวคนหนึ่งอยู่
นี่สินะ ชั้นพีระมิดที่อาจารย์เคยพูดถึง
ถึงอาจารย์จะบอกว่าถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ควรไปยุ่งก็เถอะ แต่เด็กคนนั้นกลัวจนร้องไห้แล้วนา
"นี่พวกหล่อน ทำอะไรกันน่ะ!" ระหว่างที่กำลังลังเล เสียงแหลมๆก็ดังขึ้นจากด้านหลัง คนที่ผลักเราตอนหน้าประตูนั่นเอง
"ทะ ท่านโทโคะ" กลุ่มผู้หญิงที่ทำเก่งเมื่อครู่สลายตัวกันไปหมดเลย ดูท่าคนที่ชื่อโทโคะ ริรินะ คงจะอยู่บนๆของพีระมิดแน่ๆ
แล้วคนบนพีระมิดก็ตวัดสายตามาทางเรา "นี่นายน่ะ เป็นผู้ชายซะเปล่าหัดช่วยผู้หญิงอ่อนแอบ้างสิยะ" ก่อนจ้ำอ้าวจากไปในทันที
คนในซุยรันนี่น่ากลัวจริงๆ คิดไม่ออกเลยว่าคนซุ่มซ่ามป้ำๆเป๋อๆอย่างพี่กับโคโรเน่รอดจากที่แบบนี้ไปได้ยังไง เอ๊ะ คงไม่ใช่ว่าพอเข้ามหาวิทยาลัยแล้วลำดับชั้นพวกนี้ยังอยู่หรอกนะ
... ชักน่าเป็นห่วงจริงๆซะแล้วสิ
.......................................…………..…….....………………………………………………
เดี๋ยวว่างๆอาจจะมาต่อ หรือใครอยากต่อก็ได้นะ แต่บอกกันก่อน เดี๋ยวกูแต่งเก้อ 555
เอ่อ ลืมถาม กูไม่ได้ลงฟิคขัดการเมาท์ใครใช่ไหมอ่ะ พอดีมีเวลาว่างน้อยเลยรีบลงไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ ขัดอารมณ์ใครก็ขอโทษด้วยน้า
ตอนสุดท้ายจบด้วยการฟินเพ้อพกกวาดเรียบทุกคู่มากๆ
เอาจริงๆชอบความสัมพันธ์สามสหายอ่ะ สนุกดี
อะหือ ตอนล่าสุดนี่แม่ม....ท่านเอ็นโจคะ คนอยากชวนนั่นมันนายไม่ใช่เหรอ ทำมาเป็นไก๋ บอกว่าน้องงอแงจะไปให้ได้ ใช้น้องเป็นเครื่องมือตลอดเลยนะ แถมพอได้สมประสงค์แล้วดันเขี่ยทิ้งอีกต่างหาก ไม่ใช่ว่าถึงวันงาน ยูกิโนะป่วยมาไม่ได้แบบตอนวาเลนไทน์นะค้า
แต่โอกาสดีขนาดนี้ กูก็ไม่ขออะไรมากมาย ขอให้ได้จูบกันเป็นพอ//นี่ขอมากไปหรอกเหรอ งั้นเปลี่ยนมาเป็นขอให้ได้เรียกชื่อกันและกัน อ้าวนี่ก็ยังมากไปอีกเหรอ งั้นขอให้ได้แลกเบอร์กับอีเมล์แล้วกัน มักน้อยสุดๆแล้วนะกู
เพิ่งอ่าน 299 จบ ขอบคุณโม่งแปลมากๆที่แปลยาวๆมาให้อ่านจนไล่ทัน ชื่นชมการใช้ภาษาของโม่งแปลจริงๆ สามารถมากๆ
อ่านตอนนี้แล้ว กูว่าคาบุชอบท่านเรย์กะแบบไม่รู้ตัวแล้วว่ะ โทรหาสาวอื่นทั้งๆที่อยู่กับวาคาบะเนี่ย มันไม่เหมาะอยู่แล้ว แต่ก็ยังจะโทร คาบุมันก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะ อยู่กับคนที่กำลังตามจีบยังคิดถึงท่านเรย์กะขึ้นมาได้อีก ส่งเมลรายงานผลยาวๆบ่อยๆจนกลายเป็นความเคยชินไปแล้วด้วย ดูยังไงก็น่าจะชอบแล้วว่ะ
>>603 จริงๆกูก็แอบสงสัยนะ ก่อนเรย์กะจะมาให้ฮีรบกวนได้เนี่ย ตกลงคาบุไม่มีเพื่อนคนอื่นนอกจากชูสุเกะเลยใช่มะ แนวๆเพื่อนที่โทรหาได้ตลอดไม่ต้องเกรงใจ กอดคอไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี่ พูดเรื่องตลกหรือเล่นแซวกันแรงๆแบบกลุ่มเพื่อนๆคนอื่นเขา เหมือนที่เรย์กะสนิทกับพวกอุเมวากะ ชวนมางานโรงเรียนหรือไปเล่นพลุอะ
แต่กูดูทรงแล้ว เอ็นโจก็ไม่มีเพื่อนคนอื่นนอกจากมาซายะเหมือนกัน ฮีคุยกับคนได้ทั่ว แต่คนที่นับว่าเพื่อนจริงๆน่าจะมีแค่มาซายะกับเรย์กะนี่ล่ะ สูงส่งกันเกินไปเลยต้องอยู่กันเป็นคณะตลกสามช่าตบมุกกันเองไปวันๆ
อ่านตอนล่าสุดแล้ว กรี๊ดดดด ไม่อยากจะเชื่อ ทันดิบแล้ว น้ำตาจิไหล 555 ก่อนอื่นต้องขอบคุณโม่งแปลมากๆๆๆๆๆ อุตส่าห์เสียสละเวลามาแปลให้ตลอด กุนับถือเมิงมาก ตอนกุเริ่มอ่านเมิงก็แปลไปสองร้อยกว่าตอนแล้ว กุยังตกใจเมิงแปลเข้าไปได้ไง ชาตินี้กุจะอ่านจบมั้ย (ปรากฎว่ากุอ่านจบในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ 555 ) กุเพิ่งเคยเห็นคนแปลที่มีวินัยโคตรๆก็เมิงนี้แหละ มาอัพต่อเนื่องสม่ำเสมอ ไม่ทิ้งให้คนอ่านฟรีอย่างพวกกุลงแดง ต่อแต่นี้ไปกุคงว่างแปลกๆ ไม่มีท่านเรย์กะให้เสพยามเช้า อ้อ.... แล้วก็ กุคุ้นๆว่าเมิงเคยบอกประมาณว่าเมิงรักท่านเรย์กะเพราะรู้สึกได้ถึงความใส่ใจความละเมียดของฮิโยโกะซามะที่มีต่อนางประมาณนี้ กุจะบอกว่ากุก็รู้สึกถึงความรักที่เมิงมีต่อท่านเรย์กะผ่านการแปลเหมือนกันนะ สำหรับกุเรื่องนี้สนุกขึ้นมาอีกเท่าตัวเพราะการใช้ภาษาของเมิง คือเมิงเลือกแต่ละคำมันโดนมากๆ บางอย่างก็ศัพท์เฉพาะแปลยากไปอีก เมิงก็อุตส่าห์แปลมาได้ กุคารวะเลย รักเมิงมากเลยนะ จุ๊บๆๆๆๆ ขอบคุณมากที่สละเวลาและขนหน้าแข้งเพื่อพวกกุมาตลอด
จบการสารภาพรักโม่งแปลมาเม้นตอนนี้บ้างดีกว่า
- เอ็นโจ!!! ถึงเวลานายทำคะแนนแล้วสินะ!! คราวนี้ใช้น้องมาอ้างชัดเจนเลย มีการเร่งให้เข้าเรื่องอีกไม่ยอมปล่อยให้น้องมุ้งมิ้งกะสาวสองคน แต่พออ่านตอนนี้แล้วนึกถึงแฟนฟิคนยูกิโนะคุงเป็นพี่ยังไงไม่รุ 555
- ท่านเรย์กะ ปกติก็เนี๊ยบเรื่องการแต่งตัวอยู่แล้วนะแต่การที่ไปรื้อตู้ทันทีนี่กุจะคิดไปเองได้มั้ยน้า อารมณ์คล้ายสาวน้อยตื่นเต้นตอนไปเดต
- คาบุ เอิ่มมม โทรหาเรย์กะตอนอยู่กะวาคาบะนี่โคตรเสียมารยาทอ่ะ แต่พอเข้าใจความรู้สึกนะ แบบไม่รู้จะร่วมวงยังไง ยืนคนเดียวก็เขิน โทรหาเพื่อนแก้เก้อดีกว่า (แต่จริงๆเมล์หาก็พอม้างงงง) จริงๆกุอยุ่เรือนี้มากกว่าเรือเอ็นโจเล็กน้อย ชอบโมเม้นนางตบมุขกัน แต่กุยังมองไม่เห็นว่านางจะอกหักจากวาคาบะยังไง เพราะวาคาบะดูมีใจให้ ชวนไปไหนก็ไป เผลอๆอิบนเรือนี่อาจมีสารภาพรักอ่ะ แกรนด์แบบที่นางมโนไว้เลย สารภาพรักบนเรือส่วนตัว มีดอกไม้ไฟเป็นแบคกราวน์
- ส่วนเรย์กะกะเอ็นโจนี่คงไม่ได้ไปกินข้าวสามคนพ่อแม่ลูกแล้วนั่งเม้าคาบุหรอกนะ 555 เห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรเม้าเพื่อนตลอด อยากรู้เหมือนกันเวลาอยู่ด้วยกันจะเป็นไง ปกติไม่ค่อยอยู่กันสองต่อสองเท่าไหร่ ถ้ามีก็สั้นๆ เรย์กะหาเรื่องชิ่งเองไม่ก็คาบุมาขัด อันนี้เรย์กะตกลงไปกะเค้าเอง กุจะคาดหวังฉากโดขิๆได้มั้ย
ชอบช็อตเจ้าแม่รื้อตู้มาก กูนึกถึงกาวภาคหลังเรียนจบที่กาวว่าจอมมารจะมาหาที่บ้าน เจ้าแม่เลยรีบสปาหน้าหาชุดเตรียมเจอจอมมาร 55555555
นี่คือกาวที่เป็นจริงสินะ!!!!
ส่วนกิกี้นี่ก็นะ น่าสงสารจริงๆ เจ้าคนไร้เพื่อน!
ขอบคุณโม่งแปลมากที่พายมาไกลถึงตอนนี้
จริงๆ ตอนที่ 300 อาจจะเป็นตอนจบก็ได้นะ แต่ท่านฮิโยโกะทำใจเขียนไม่ได้เลยดองไว้ก่อน (แก้ตัวแทน) อาจจะจบคาบุสารภาพรัก เอ็นโจสารภาพรัก แฮปปี้เอ็นดิ้งกันไปก็เป็นได้
อ่านที่โม่งแปลเขียนแล้วเหงา ฮือฮือ เหมือนเดินทางมาด้วยกัน แล้วถึงที่หมายต้องแยกย้ายแบบงงๆ ไม่รู้ตัว ฮือฮือ ขอบคุณมึงที่แสนจะมีน้ำใจแปลให้พวกกูอ่านมาตลอด จริงจังตั้งใจแบบสุดๆ อีกต่างหาก สำนวนดี เชิงอรรถแน่น แถมยังแปลทั้งบ่อยทั้งถี่ให้ได้อ่านจนหนำใจ อยากจะบอกว่าเวลาที่อ่านจุคพีคกูคือเชิงอรรถและความเห็นคุณมึงนะโม่งแปล แบบว่าตอนนี้จะกัดอะไรใครท้ายตอน โถ อ่านแล้วบางทีขำยิ่งกว่าอ่านตอน เวลาเห็นรูปอาหารก็ทำให้กูหิววว ไม่นับการแทรกเนื้อหาสาระให้เพิ่มเติมอีกต่างหากก ฮือฮือออ กูคิดถึงมึงแล้ววว ต่อไปกูจะไปสิงใคร โม่งแปลลลลลล ....
ปล. รักมึงนะ
แต่ถ้ามึงไม่ได้แปล ก็มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นใช่ไหม? รักษาสุขภาพด้วยนะ นึกถึงคราวก่อนที่มึงป่วยเพราะโหมแปลหนักน่ะ
นี่ถึงเวลาสารภาพรักโม่งแปลกันเหรอเนี่ย แหม่ เข้าสู่ช่วงเขียนเฟรนด์ชิปตอนเรียนจบมัธยมกันแล้วเรอะวะ เอ้อ กูก็รักนะแต่ไม่ค่อยได้แสดงออก อ่านที่พวกมึงๆ เขียนกันมานี่กูละเขินแทนเลย เอาเป็นว่า กูก็เหมือนข้างบนๆ ละกัน (ลอกกันหน้าด้านๆ 555)
ใจหายเหมือนกันนะ ไม่มีท่านเรย์กะตอนใหม่ให้ตั้งตาคอยแบบรู้กำหนดแน่นอนแล้ว มีแต่การคอยแบบเลื่อนลอยหวังไปวันๆ แต่เอาวะ ระหว่างนี้ยังไม่มีอะไรที่ถูกใจกูเท่าท่านเรย์กะ เพราะงั้นเดี๋ยวกูจะเริ่มอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกรอบละกัน นี่ก็รอบที่ 3-4 แล้วมั๊ง แต่ถือว่าทิ้งระยะมานานพอควรแล้ว ของมันดีก็เสพซ้ำๆ ไปได้เรื่อยๆ
เหมือนพวกเรากำลังซ้อมเมื่อเวลาเรื่องนี้จบลงเลยว่ะ 55555555555555
นี่โม่งแปล อยากจะบอกว่าอ่านอยู่แต่ไม่ตอบเพราะเขินโว้ย =////= อ่านซ้ำไปซ้ำมาด้วยนะ กูรู้สึกหลงตัวเองหน่อยๆ แต่ก็หยุดไม่ได้ 55555 ละจะบอกว่านี่แม่งเคว้งสัด คันไม้คันมืออยากหาอะไรทำแต่ก็หาใครมาแทนท่านเรย์กะไม่ได้ (ถุย!) คงไม่รับโปรเจคต์อื่นต่อไปซักระยะล่ะนะ นี่ก็ว่าจะนอนหมดเรี่ยวหมดแรงไปซักพัก ท่านฮิโยโกะเจ้าขาช่วยมาต่อที.... _(:3」∠)_
โม่งแปลคะ ถ้าเขินเรายินดีถอนขนหน้าแข้งให้นะคะ -3-
รักนะตะเอง~
ไม่มีท่านเรย์กะ เหงาจังเลย เหงาจังเลย ;-;
ถ้าโม่งแปลเหงา ก็หาฟิคเจ้าแม่มาแปลเล่นได้นะ
fic 300
"คุณพี่เรย์กะฮะ!!"
"ยูกิโนะคุง"
เทวดาน้อยโบกมือส่งเสียงให้ก่อนจะวิ่งมาหา เอ๋! ไม่เจอกันพักเดียวยูกิโนะคุงตัวสูงขึ้นหรือเปล่านะ
"วันนี้คุณพี่เรย์กะสวยมากเลยฮะ!"
"แหม! ไปหัดพูดแบบนี้มาจากใครกันจ๊ะ"
วันนี้เอ๊าเตอร์เลเยอร์เป็นโบเลโร ความจริงถ้าเอาเข้ากับลุคตัวเองแล้วก็คงเป็นปอนโชแหละนะ แต่ถ้าใส่ปอนโชในหน้าร้อนนี่คงไม่ไหวหรอกเนอะ มีหวังได้ละลายไปพร้อมกับชนวนดอกไม้ไฟพอดี
ส่วนยูกิโนะคุงวันนี้ใส่สแตนด์คอลล่าสีฟ้าสดใสกับชิโนสีกาแฟเรียบเก๋ทำให้ไม่ดูเป็นทางการจนเกินไป หลังจากพูดคุยกันอีกเล็กน้อยยูกิโนะคุงค่อยทำท่านึกขึ้นได้
"อ๊ะ ท่านพี่กำลังรออยู่ด้วยฮะ"
ความจริงก็เหลือบไปเห็นตั้งแต่แรกแล้วอะนะแต่ยังไม่ได้ทักทายอีกฝ่าย ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ฉันเลยส่งยิ้มอย่างเป็นทางการให้ไปอีกฝ่ายเองก็ส่งรอยยิ้มดูราวกับปีศาจที่คอยล่อลวงกลับมาซะงั้น
"สวัสดีค่ะท่านเอ็นโจ"
"ต้องรบกวนคุณคิโชวอินอยู่เรื่อยเลย ขอโทษด้วยนะ"
"ไม่หรอกค่ะ ดีใจที่ได้มานะคะ"
หลังจากตอบแล้วฉันเลยส่งยิ้มให้กับยูกิโนะคุงที่ยืนนำอยู่ข้างหน้า
"ไปกันเถอะฮะ!" ยูกิโนะเรียกพวกเราด้วยน้ำเสียงร่าเริงก่อนพวกเราจะเดินอยู่คนละข้างกับยูกิโนะคุงไปยังร้านอาหารชั้นบนสุด
"อ๊ะ! ผมลืมของไว้ที่รถนิดหน่อย ท่านพี่กับท่านพี่เรย์กะขึ้นไปกันก่อนก็ได้นะฮะ ผมจำร้านได้แล้ว"
"ลืมของหรือจ๊ะ ให้พี่ไปเอาเป็นเพื่อนดีกว่าไหม"
"ไม่เป็นไรฮะ"
"ไม่เป็นไรหรอกคุณคิโชวอิน ยูกิโนะโตแล้วต้องให้ทำอะไรตัวคนเดียวเองบ้าง"
"ถ้าท่านเอ็นโจว่าอย่างนั้นแล้วละก็"
หลังจากยูกิโนะเดินไปฉันค่อยรู้สึกตัวว่าเหลือแค่ตัวเองกับเอ็นโจเดินคู่กันสองคน รู้สึกแปลกๆ อย่างไรไม่รู้ ยูกิโนะคุงกลับมาเร็วๆ นะ
....
พอก่อน
>>624 เดทหน้าห้องพยาบาลสิค่ะรออะไร... แต่พูดก็พูดเหอะเมื่อก่อนกูไปถอนฟันคุดแล้วเจอเด็กจีบกันหน้าห้องทกตองเข้าไปผ่า นอกจากจะปวดฟันทุรนทุรายแล้ว ตากูเองก็แห้งไปด้วยไฟโทสะและริษยาปนๆกันเลยมึง!! เจ้าพวกหมู่บ้านมีรักพวกนี้มันน่าสาปนัก ขอสาปแช่ง ขอสาปแช่ง ขอสาปแช่ง ขอสาปแช่ง ขอสาปแช่ง ขอสาปแช่ง!!!
รู้สึกเหมือนทันดิบแล้ว กาวจะแรงกว่าเดิมแฮะ
ตอนที่ 300 เอาเป็นว่าพอขึ้นไปที่ restsurant แล้วเจอคุณพี่มาเดทกับอิมาริ. ซักพักคุณยุยโกะตามมากับญาติๆ ยูกิโนะเลยโมโห โทรไปอ้อนคาบุขอขึ้นเรือเพื่อหนีคุณยุยโกะ. ชวนคุณเรย์กะไปด้วย ทำลายจังหวะสารภาพรักของคาบุวาคาบะโดยมิได้ตั้งใจ. lol
เดาว่าที่ตอนล่าสุดเอ็นโจไม่มาฝึกสปาตันพร้อมท่านเรย์กะ อาจจะกำลังหาทางสลัดยัยโกะวันที่จะไปดูดอกไม้ไฟกับท่านเรย์กะก็ได้
ตาไก่บ้าต้องมาแว้ดๆใส่แน่เลย แล้วพอเอ็นโจวไล่ชิ่วๆไป บอสยุยโกะก็ออกมา ตู้ม!!! จบตอน300 และรอต่ออีกครึ่งปี 555
fic 300/2
ไม่นานเราก็มาถึงภัตตาคารที่จองเอาไว้เป็นสไตล์โอเพ่นแอร์ในแบบโมเดิร์นเรียบหรู จุดเด่นอยู่ที่ทิวทัศน์ยามกลางคืนที่มองเห็นความสว่างไสวของแสงไฟของตัวเมืองด้านล่าง ถึงแม้ว่าจะไม่มีดอกไม้ไฟก็ยังคงเป็นร้านที่เหมาะกับการนั่งรับบรรยากาศอยู่ดี
หลังจากดูเมนูและสั่งอาหารไปสองสามอย่างกับเครื่องดื่มแล้ว พอหันไปดูนาฬิกาข้อมือที่ท่านพ่อซื้อให้เป็นของขวัญก็รู้สึกว่ายูกิโนะคุงไปนานเกินไปหรือเปล่านะ
"ยูกิโนะคุงมาช้าจังเลยนะคะ จะเป็นอะไรหรือเปล่า"
"นั่นสินะ เดี๋ยวผมจะลองโทรหาสักหน่อย"
ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นกะทันหันก่อนจะขึ้นเบอร์ของยูกิโนะคุง
"ยูกิโนะคุง เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ"
"ท่านพี่เรย์กะฮะ บังเอิญผมเจอเพื่อนพอดีก็เลยจะขึ้นไปช้าสักหน่อยนะฮะเลยโทรมาบอกก่อน ท่านพี่เรย์กะไม่ต้องห่วงนะฮะ"
"อ้อ งั้นหรือจ๊ะ" ฉันเหลือบมองไปทางเอ็นโจแวบหนึ่งก่อนจะถามต่อ "ยูกิโนะคุง คุยกับท่านเอ็นโจสักหน่อยไหมจ๊ะ"
"ไม่เป็นไรฮะ ฝากบอกท่านพี่ให้ด้วยนะฮะว่าไม่ต้องเป็นห่วง"
พอวางโทรศัพท์ไปก็เลยบอกกับเอ็นโจ
"ยูกิโนะนี่ไม่ไหวเลยนะ เจอเพื่อนก็ทิ้งพวกเราแล้วสิ" เอ็นโจทำท่าบ่นแล้วก็หัวเราะก่อนจะเรียกบริกรมาเติมน้ำในแก้วของฉันที่พร่องไป
"แต่ก็เข้าใจอยู่นะคะ เด็กวัยนี้ถ้าได้บังเอิญเจอกับใครสักคนนอกบ้านล่ะก็คงรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ แต่ก็อดห่วงไม่ได้ว่าจะคลาดเวลาที่จะชมดอกไม้ไฟไปหรือเปล่า"
"นั่นสินะ เวลาที่ดอกไม้ไฟเริ่มเป็นช่วงเวลาที่พิเศษถ้าคลาดไปคงเสียดายแย่เลยคุณคิโชวอินก็อย่าเพิ่งไปไหนล่ะ"
...
พักก่อน แต่งสดไม่มีพล็อต ถถถ
ขอถามนอกเรื่อง ปัจจุบันแถวบ้านเพื่อนโม่ง ยังมีพวกชอบเปิดเพลงเสียงดังรบกวนคนอื่นอยู่ไหม? ทำไมแถวบ้านเรามีทุกวันทั้งกลางวัน-ดึก รำคาญจนอยากย้ายบ้านหนีแล้ว
กุขอมโนว่ายูกิโนะเต๊าะเรย์กะไว้กินตอนโต
เรือโชตะจงเจริญ ไหนๆคันตะคุงด้วยไหม เป็นฮาเร็มไปเลยยยยย
กุชอบคันจะมากกว่ายูคิโนะนิดนึงอ่ะ. ดูเป็นผู้ชายพึ่งพาได้ไม่มีลับลมคมใน
ถ้าเกิดคันตะเข้าซุยรันคงงงน่าดูอะ โคโรเน่ ทำไมถึงมีกองทัพห้อยหลังมาด้วย ทำไมเวลาฉันคุยกับโคโรเน่คนถึงมองงี้ล่ะ
งานโรงเรียนปีนี้อยากให้คันตะมาจังจะได้เห็นโคโรเน่ไบรด์
อีเวนท์ใหญ่ๆที่เหลืออยู่นี่มีอะไรบ้างหว่า
-งานดอกไม้ไฟ (กำลังมา)
-งานซัมเมอร์ปาร์ตี้
-งานกีฬาสี
-งานโรงเรียน
-คริสต์มาส
-สอบมหาลัย
-จบการศึกษา
งานหมั้นนี่มันจะไปแทรกๆอยู่ตรงไหนได้นี่
กูว่าด้วยความหักมุมที่เห็นๆกันมาแล้วเนี่ย บทที่ 300 มันต้องไม่พีคแน่นวล เป็นการหักหลักบรรดาเหล่าโม่งแหงๆ กูไม่กล้าคาดหวังว่ะ คิดว่าคงจะถูกดึงความพีคต่อไปอีกซักตอนสองตอนให้คร่ำครวญกันก่อนแล้วค่อยพีคอีกที ช้อยส์ที่กูว่าเป็นไปได้นะ
- แฮปปี้ดี๊ด๊าและสวีทหวานกับของกินซัง
- ชีวิตประจำวันอันแสนเรื่อยเปื่อยไปวันๆของท่านเรย์กะ
- ฝึกพิเศษสไตล์สปาร์ตันต่อเนื่อง หรือนั่งอ่านเมลล์จากคาบุ
ปล. คำเตือน ต่อไปนี้เป็นโหมดติดฟิลเตอร์เรือเอ็นโจ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด โชโจชัดมากกกกกกกก กอไก่ล้านตัว เป็นอันว่ากูดีดตัวเองขึ้นเรือชูสุมอยด์ได้เต็มตัวละ อะไรคือการบอกบทน้องชายอยู่ข้างๆคะลูกกกกกกกกกก พอน้องชายเข้าเรื่องไม่ทันใจมีสะกิดสะเกาอีก โอ๊ย!!!!! พอเข้าประเด็นปุ๊บ แย่งโทรศัพท์มารวบรัดไม่ให้ปฏิเสธด้วย อร๊ายยยยยย รุกหนักขนาดนี้ ไม่รอดแน่นวลค่ะท่านเรย์กะ
เกือบดีมาทั้งตอนละ เจอประโยคสุดท้าย เจ้าแม่ไม่อยากเจอเอ็นโจ.......... ฮือออออ /คว่ำโต๊ะ กูควรทำใจแล้วหันไปซบคานซังต่อดีมั๊ยวะ
>>664 ใจเย็นมึงงงงงง กูตีความว่าไม่ใช่ไม่อยากเจอ แต่เป็นเพราะกลัวว่าถ้าเขาอยู่จะโดนมองทะลุถึงหัวใจอย่างทุกทีมากกว่าน่ะสิ ถ้าไม่อยากเจอต้องไม่ไปรื้อตู้เสื้อผ้าแบบนั้นแน่นอน กูเชื่อมั่นในฟิลเตอร์สีชมพูกูเองเว้ย 55555
>>662 ดูแล้วอีเวนต์เยอะชห. กูว่าพวกการสอบนี่น่าจะตัดฉับไปดื้อๆ ละมั้ง โผล่มาอีกทีก็อ่อนระโหยโรยแรงออกมาจากห้องล่ะ หรือไม่ก็ไปซาบซึ้งหน้าบอร์ดประกาศผล แล้วก็มีเอ็นโจกับคาบุเดินมาประกบข้างๆ อ้าว เราอยู่คณะเดียวกันเลยนี่ เจ้าแม่เข่าอ่อน ตัดฉับขึ้น OP ภาคมหาลัย 555
>>664 บร้า มึง ถ้าไม่อยากเจอจะรีบวิ่งไปเลือกเสื้อผ้ารึ กูว่าที่นางดีใจที่เอ็นโจไม่มาวันนี้เพราะนางกลัวความแตกโดนจับได้มากกว่า แต่กูคิดนะว่าเอ็นโจน่ะรู้นานแล้วว่าสองสาวนี่เป็นเพื่อนกัน
>>665 กูว่าเรื่องสอบน่ะมี เอาไว้ดักควายคนใฝ่หาความโดขิโดขิ ก็ตัดภาพมาที่เจ้าแม่อ่านหนังสือสอบไร้ความโดขิๆสิ้นดี 55555555
เอนโจยืนบอกบทน้องชายนัดท่านเรย์กะไปดูดอกไม้ไฟ นี่ก็สมเป็นเอนโจ ทำอะไรไม่ลงมือเอง ต้องชักใยเบื้องหลัง /แอบมองบนเล็กๆ /ไม่ค่อยชอบผู้ชายท่ามากแบบนี้ ชอบแบบคาบุชอบใครก็แสดงออกมาชัดเจนมากกว่า ส่วนเจ้าแม่หลอกตัวเองว่าไม่อยากเจออะดี้ วางหูเสร็จรีบเปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดเลยนะเว้ยเฮ้ย โมโหเอนโจ ยังเคลียคุณยุยโกะไม่ได้แล้วมาชมดอกไม้ไฟกับท่านเรย์กะทามมายยยย
ซุยรันสตาแกรมกลับมาแล้วจ้าาาาา สูดกาวไปเยอะมาก เขียนเล่นแล้วรู้สึกอยากเขียนจอย------
-------------------------------------
#คุณลบอดีตไม่ได้เพราะเพื่อนแคปไว้หมดแล้ว
masaya1311
*อัพรูปดอกไม้ไฟ ถ่ายติดเรือ*
ไม่มีแคปชั่น
กรุ๊ปลับซุยรัน
A : ทุกท่านคะ ดูเหมือนท่านคาบุรากิจะไปชมดอกไม้ไฟบนเรือยอร์ชส่วนตัวนะคะ
B : แหม ช่างเป็นท่านที่มีไลฟ์สไตล์แสนวิเศษ
C : สมกับเป็นท่านคาบุรากิเลยนะคะ!
shuusuke.en
*อัพรูปดอกไม้ไฟ ถ่ายผ่านจากห้องกระจก*
แคปชั่น :)
B : ท่านเอ็นโจก็อัพรูปด้วยค่ะ
D : เอ๊ะ ตรงด้านข้างเหมือนเงาใครติดมาด้วย
C : จริงด้วยค่ะ ท่านเอ็นโจไปชมดอกไม้ไฟกับใครหรือคะ!?
A : ชุดนั่นคุ้นๆนะคะ
B : เอ๊ะ นั่นชุดที่ท่านเรย์กะใส่ไม่ใช่หรือคะ ท่านเรย์กะอัพลงไอจีสตอรี่ไม่กี่ชั่วโมงก่อน
C : *ส่งรูปไอจีสตอรี่เรย์กะ*
reika_k 3 hours ago
*รูปถ่ายตอนนั่งอยู่โต๊ะ กำลังยกจานอาหาร*
*มีข้อความเขียนแปะว่า อาหารอร่อยทำให้วันนี้เป็นวันที่ดียิ่งขึ้นไปอีก~★*
A : ถ้าอย่างนั้นท่านเรย์กะก็ไม่ได้ไปกับคุณพี่ชายสินะคะ
C : อาจจะไปชมดอกไม้ไฟกับคุณพี่ชายที่เดียวกับท่านเอ็นโจก็ได้นะคะ
D : ท่านเรย์กะอัพรูปอะไรบ้างหรือยังคะ
B : ท่านเรย์กะอัพแล้วค่ะทุกท่าน!!
reika_k
*อัพรูปดอกไม้ไฟที่ถ่ายผ่านจากห้องกระจก มุมคล้ายๆเอ็นโจ*
แคปชั่น ช่วงเวลาที่แสนวิเศษ วันนี้สนุกมากเลยค่ะ
C : มุมแทบจะเหมือนกับรูปท่านเอ็นโจเลยนะคะ
B : ท่านทั้งสองไปดูด้วยกันแน่ๆเลยค่ะ
E : ใจเย็นๆนะคะทุกท่าน ทั้งสองครอบครัวอาจจะบังเอิญไปชมดอกไม้ไฟที่เดียวกันก็ได้ค่ะ
A : กรี๊ดดด ทุกท่านคะ ท่านเอ็นโจเม้นท์ไอจีท่านเรย์กะว่า 'วันนี้สนุกมาก! ไว้คราวหน้าไปด้วยกันอีกนะครับ' ค่ะ
D : เอ๊ะ ไม่มีนะคะ
C : ดิฉันก็ไม่เห็นค่ะ รีเฟรชไอจีท่านเรย์กะหลายรอบแล้วด้วย
5 minutes ago
Direct Message
reika_k : ท่านเอ็นโจ! คอมเม้นท์อะไรลงไปคะ!?
shuusuke.en : เม้นท์ไม่ได้หรือฮะ คุณพี่เรย์กะ
reika_k : ......ยูกิโนะคุงหรือจ๊ะ?
shuusuke.en : ฮะ
reika_k : เอ่อ.. แล้วท่านเอ็นโจทำอะไรอยู่จ๊ะ?
shuusuke.en : ท่านพี่อาบน้ำอยู่ฮะ
reika_k : เรื่องคอมเม้นท์พี่ว่าลบก่อนดีกว่าไหมจ๊ะ ยังไงก็เม้นท์ในนามท่านเอ็นโจ ท่านเอ็นโจอาจจะเสียหายก็ได้นะจ๊ะ
shuusuke.en : เอ๋~ งั้นหรือฮะ ก็ได้ฮะ
E : ไม่เห็นมีเลยค่ะ
D : อย่ากล่าวอะไรลอยๆสิคะ
A : แต่ดิฉันเห็นจริงๆนะคะ
C : มีหลักฐานไหมคะ
A : ไม่ได้แคปไว้ค่ะ........
B : *ส่งรูป*
* shuusuke.en commented on reika_k's photo :
วันนี้สนุกมาก! ไว้คราวหน้าไปด้วยกันอีกนะครับ *
>>668 ซัมเมอร์ปาร์ตี้นี่กูว่าคาบุชวนไปแหงๆ วาคาบะจังอาจจะรู้แค่เป็นงานของพวกชนชั้นสูงแต่ไม่คิดอะไร คงคิดว่าเหมือนตอนนางตกลงไปดูบนเรือแหล่ะ—— สนใจผีเสื้อไปต่างเมือง ถ้าคบกันกับคาบุแล้ว/หรือเริ่มชอบๆสนใจจะศึกษาก็ไม่แปลกนะ
แต่ถ้าวาคาบะยังไม่ชอบคาบุแล้วตกลงไปดูด้วยกันบนเรือขนาดนี้แล้วมันก็แปลกนะ เหมือนเรื่องดูดอกไม้ไฟสองต่อสองดูเป็นโมเม้นต้องทำให้ได้กะคนที่ชอบในมังงะโชโจมากๆ ละถ้าตอบตกลงไปก็รู้อยู่แล้ววว่าน่าจะไม่มีคนอื่นเหมือนตอนไปเที่ยว/เดตด้วยกันครั้งก่อนๆ ก็ควรจะรู้ได้แล้วว่าคาบุชอบ และอีตานี่ก็ควรสารภาพรักได้แล้วเช่นกัน
ปล.คิดว่าทำไมคาบุรากิยังไม่สารภาพรักซะทีวะ คือใช่พวก”การกระทำสำคัญกว่าคำพูด”อย่างงี้มั้ย เหมือนตอนคนรู้ทั้งโลกซุยรันแล้วว่าตอนนั้นชอบท่านยูริเอะแต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เพราะยังไม่พูดออกมาอย่างนี้ปะ
>>673 ขอต่อเล่นนะแจ๊ะ 😚
c: ว้ายยย มีจริงด้วย!
a: แหม ฉันบอกแล้วว่ามีจริงๆน่ะ ขอบคุณนะคะbซัง!
d: กรี๊ดดด แสดงว่าทั้งสองท่านไปด้วยกันจริงๆสินะคะ
e: ช่วงเวลาที่แสนวิเศษ ที่ท่านเรย์กะว่าคือการชมดอกไม้ไฟกับท่านเอ็นโจสินะคะ~
a: แหม~ โรแมนติกมากเลยค่ะ
c: แต่ว่าทำไมคอมเมนท์ถึงหายไปกันล่ะคะ ลบงั้นเหรอทำไมกันล่ะ!?
b: ดิฉันคิดถึงความเป็นไปได้เพียงแค่ข้อเดียวค่ะ...
e: ยังไงหรือคะ bซัง?
b: การที่ท่านเอ็นโจลบคอมเมนท์ของตัวเองออกไปนั้น...
d: ยังไงคะๆ
e: //ลุ้นค่ะ//
c: อย่าพิมพ์นานสิคะ bซัง!
b: ดิฉันคิดว่าท่านเรย์กะเป็นคนขอให้ลบค่ะ
e: เอ๋!!!?
c: ทำไมกันล่ะคะ!?
b: เพื่อไม่ให้มีใครเห็นและแพร่งพราย(อย่างเช่นในแชทนี้ยังไงล่ะคะ) (ดีจังที่แคปทัน)
a: เห~ แบบนี้ก็หมายความว่า...!?
d: ตายจริง~ แบบนี้เองสิน้า
e: แหม ดีจังเลยนะคะ~
c:เอ๋? หมายความว่าไงเหรอคะ? ทำไมเข้าใจกันหมดเลยล่ะ
a: โธ่ cซังล่ะก็~ ก็หมายความว่าเรื่องวันนี้เป็นความลับไงล่ะคะ
e: ความลับของสองเรา ❤ ว้ายยยย
c: อุ เหะ? หรือว่า... ทั้งสองท่าน...
b: เป็นความสัมพันธ์ที่ยังไม่เปิดเผยค่ะ
d: กรี๊ดดดดดด
c: ว้ายยยยย จริงๆเหรอเนี่ย น่าอิจฉาเหลือเกินค่ะ!
a: เพื่อทำตามปณิธานของทั้งสอง เราต้องไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปเชียวนะคะ
b: แน่นอนค่ะ
e: ได้เลยค่ะ
d: รับทราบค่ะ
c: ได้ค่ะ รูดซิปปากแน่นเลยค่ะ!
<<แล้วหลังจากนั้นก็มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั้งโรงเรียน(?)>>
คันตะก่อนเข้าซุยรัน
- ทาคามิจิ คันตะ -
ช่วงพี่จะเรียนจบจากซุยรันก็เป็นช่วงที่เราจะต้องเปลี่ยนชั้นเรียนเหมือนกัน ถึงตอนแรกจะเฉยๆแต่พอโดนคนรอบข้างเซ้าซี้ว่าให้ลองยื่นสอบดูก็เลยลองดูบ้าง แต่เรื่องนี้ก็ต้องบอกพ่อกับแม่ด้วย ตอนเย็นที่กลับมาที่บ้านก็เจอโคโรเน่อยู่ ยังไงก็มาที่นี่เหมือนเป็นบ้านหลังที่สองอยู่แล้วไม่คิดว่าเป็นคนนอกอะไร ดังนั้นถึงได้พูดเรื่องนี้ออกไปให้ได้ยินไปด้วยเลย อีกอย่างโคโรเน่ก็เป็นเด็กซุยรันด้วยนี่?
"ครูที่โรงเรียนบอกว่าคะแนนไม่มีปัญหา ระดับนี้น่าจะได้ทุนอยู่แล้ว เลยคิดว่าจะลองสอบดูน่ะ" แถมอีกไม่กี่ปีก็ต้องมีเรื่องค่าใช้จ่ายของน้องๆเพิ่มขึ้นมาด้วย ถ้าให้เลือกโรงเรียนที่ได้ทุนก็เอาเป็นโรงเรียนที่พี่จบมาก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี ขนาดโคโรเน่ยังจบออกมาได้ ดังนั้นคงไม่มีอะไรที่ต้องห่วงหรอก
แต่ตอนที่บอกจะเข้าซุยรัน พี่น่ะ ตกใจจนทำตาโตแถมยังล้อเรื่องอยากใส่เครื่องแบบซุยรันบ้างใช่ไหมล่าด้วย น่ารำคาญจนเราต้องตอบ 'ง้านเรอะ' ไม่ก็ 'หืม' ออกไป พี่ถึงยอมเงียบล่ะส่วนโคโรเน่ก็ดูอึ้งๆไปเล็กน้อยแต่ก็เปลี่ยนมาเสนอตัวช่วยติวหนังสือให้ซะงั้น เรื่องนั้นขอรับไว้แค่น้ำใจก็พอ ค่าตอบแทนของน้ำใจเอาเป็นปริมาณข้าวมื้อเย็นที่เพิ่มขึ้นละกันนะ
พอบอกแล้วไม่มีคำปฏิเสธจากพ่อกับแม่มา ดังนั้นที่เหลือก็แค่อ่านหนังสือกับไปสอบให้ผ่านแค่นั้นล่ะ
"...คือว่านะ คันตะคุง"
"อะไร จะเติมเหรอ ส่งจานมาสิ" เสียงอ้อมแอ้มฟังดูขี้เกรงใจแต่ก็ดูเสนอตัวบนโต๊ะอาหารยังไงก็รู้อยู่แล้วล่ะน่า คราวหลังส่งจานมาอย่างเดียวก็พอ
"ไม่หรอก พอแล้ว แต่ถ้าพูดถึงขนาดนั้นเติมอีกแค่นิดเดียวนะ" เราพยักหน้าแล้วก็เติมให้จนเต็มจาน
"..." อะไร ยังไงก็กินหมดอยู่ดีไม่ใช่เรอะ
อืมก็กินหมดจริงๆด้วยล่ะนะ เราคิดขณะที่เก็บจานโดยมีโคโรเน่ช่วยยื่นให้
"เดี๋ยวฉันช่วยนะ"
"ไม่ต้องหรอก" ค่าสินน้ำใจเอาขนมไปกินแทนก็แล้วกันนะ
"...จริงๆแล้วก็น่าเสียดายแฮะ" เราที่เดินมาล้างจานคนเดียวคิดไปคิดมาในใจแต่ก็เผลอหลุดพูดออกมาจนปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน หันไปมองข้างหลังอย่างตกใจ ไม่มีใครได้ยินใช่ไหมนะ พอเห็นได้ยินเสียงโคโรเน่ขอบคุณเรื่องเค้กดังออกมาเบาๆก็เผลอถอนหายใจและหันกลับมาล้างจานเงียบๆ แต่ใจยังเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่สิ...
"..." ถ้าเกิดไวกว่านี้อีกปี คงได้เจอกับพี่แล้วก็โคโรเน่ในซุยรันแท้ๆ
เราปิดก๊อกน้ำแล้วเช็ดมือให้แห้ง ...ทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้นะ?
---------------------------------------------------------------
//อื้อออออออออออออ(?)
ทะ ทำไมเรือคันตะถึงแล่นเอ๊าแล่นเอาในช่วงนี้นะ!/ตบเข่าฉาด ฟิคคิวท์ซะไม่มี>~< รักโม่งฟิคทุกคนนะคะ
ขอ ky นิดนึง
โทษทีนะคะหลังเขาไปหน่อย เผอิญวันนี้เพิ่งได้มาอ่านไล่จนถึงตอนล่าสุดแหะๆ
อยากจะระบายความทรมานของคนที่ไปดำน้ำตอน299 มาตั้งแต่ 3 เดือนที่แล้ว orz ดีใจมากที่ในที่สุดก็มีพวกมาคอยดิบตอน300ไปด้วยกันแล้ว!!! ความรู้สึกในการรอดิบโดยที่ไม่รู้เลยว่ามันจะมาเมื่อไหร่ นั่งเปิดเช็คเกือบทุกวันมันช่างทรมานนนนนน555555 ตอนนั้นก็ไม่กล้าคุยกลัวสปอยเกินงามเลยอยู่เงียบๆ
คืออ่านดิบตอน299 ครั้งแรกเองจำได้ว่าฟินมากกก อ่านไปยิ้มไป แทบจะดิ้นกับเตียง แหม่ๆๆๆเอ็นโจ เห็นยูกิโนะคุงคุยนานแล้วรีบเร่งให้ชวนสาวไปเดทเหรอ คิดไปต่างๆนาๆเหมือนอย่างที่หลายเม้นบอก แล้วก็คาดหวังกับตอน300 มาก มันต้องมีอีเว้นพีคมากไม่ก็ฟินมากแน่
แต่พอผ่านไป3เดือน.... มันเริ่มเหี่ยวแห้งขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเวลารออนิเมหลายเรื่องออกนานเป็นปีๆๆจนเริ่มเฉยชา และเริ่มเกิดอาการระแวงเล็กน้อย ไม่อยากตั้งความหวังสูงไปเหมือนเวลาดูหนังพอคาดหวังมากไปแล้วดูไม่สนุก พอมาอ่านแบบแปลอีกรอบแบบปิดฟิลเตอร์สนิทมันไม่ฟินเท่าเที่ยวแรกแล้ว T T กลายเป็นว่า เออ... เอ็นโจอาจจะแค่เร่งยูกิโนะเพราะไม่อยากให้คุยดึกเพลินมาก เดี๋ยวต้องไปนอนแล้วเพิ่งกลับจากเดินทางรึเปล่าหว่า.... (ไม่อยากหวังมาก กลัวโดนหลอกแล้วโดนจมเรือไม่ทันตั้งตัวอย่างหลายๆอีเว้น5555)
>>695 ไม่นะ กูว่านางเร่งยูกิโนะเพราะอยากไปกับเจ้าแม่จริงๆเว้ย! อันที่จริงกูก็เหยียบทุกเรือนะ แต่กูชอบโมเม้นท์กับคาบุมากกว่า
ตอน299เนี่ย กูอ่านกี่รอบๆกูก็ยังมั่นใจว่าเจ้าไก่อ่อนอยากไปกับเจ้าแม่มากๆ จากที่เทวดาน้อยยูกิโนะต้องยอมทิ้งเรื่องจ้อของตัวเองมาคุยเรื่องชวนไปดูดอกไม้ไฟเนี่ย... คือกูคิดว่ายูกิโนะอยากดูดอกไม้ไฟนั่นแหละแต่ก็ไม่ได้อยากจะดูอะไรมากเท่าคนที่คอยคุมข้างๆ ถ้าอยากให้น้องรีบนอนจริงก็เร่งให้น้องชวนเสร็จแล้ววางสายก็ได้ แต่นี่แย่งมือถือน้องมาขอสาวไปเด...ดูดอกไม้ไฟเองแบบเนียนๆว่า 'ยูกิโนะอยากไปดู ผมไม่อยากขัดใจน้อง ผมไม่ได้เป็นคนอยากจะชวนจริงๆนะครับคุณคิโชวอินจะไปเพื่อ(พี่ชาย)ยูกิโนะได้หรือเปล่าครับ?!' (หารู้ไม่ อย่างจอมมารน่ะแค่อ้าปากโม่งๆก็จับได้หมดแล้ววว~)... กูว่ามันเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ว่ะ
โอ๊ย.......เจ้าแม่กาลีเวอร์ชั่นนี้อ่านแล้วนึกถึงเอ็นโจโดนเจ้าแม่เหยียบจริงๆ
เริ่มจากแดกก้างอย่างยุยโกะ
https://imgur.com/KZDpdJA
แล้วก็เต้น........
https://imgur.com/SPsIbve
และเต้น................
https://imgur.com/NRD58nq
>>696 กูก็คิดแบบมึงว่ะ น้องจ้อเรื่องเข้าค่ายยังไม่ทันจบ สะกิดๆให้เข้าเรื่องได้แล้ว พี่อยากคุยกับนุ้งต่าย พอยูกิโนะเกริ่นอารัมภบทจบ ขอเปลี่ยนตัวทันที มือถือน้องก็ยึดไว้คุยไม่ยอมส่งคืนแถมไล่เจ้าของหนีอีกต่างหาก ดูยังไงก็อยากไปกับเขาเองชัดๆ แค่เอายูกิโนะมาอ้างเท่านั้นแหล่ะ ถถถถถถถถถถ
หึๆ. เค้าว่า ช่วงเวลารอคอยที่จะได้ไปเที่ยวกับคนรักมันจะยาวนานกว่าที่เป็นจริง 1วันเหมือน 1 เดือน
ท่านฮิโยโกะอยากให้ผู้อ่านซาบซึ้งข้อนี้สินะ 555
ย้อนไปอ่านตอน32ทำไมเอ็นโจ เรียกเรย์กะว่าเรย์กะซังอ่ะ คนแปล แปลผิด หรือ ตั้งใจเรียกอย่างงั้น ? แต่ทำไมโตขึ้นกลับเรียกคุณคิโชวอินวะ
เพิ่งอ่านตอน 299 จบ เห็นปฏิกริยานางตอนเขามาชวนเที่ยวแล้วแบบ... กูว่านางชอบเอ็นโจนะ แต่ทำซึนไปงั้น แต่พอเขาชวนไปก็ดี๊ด๊าดีจะตาย พวกมึงคิดว่ายังไงบ้างอะ หรือกูคิดเข้าข้างชิพตัวเองมากเกินไป
อาการเจ้าแม่ก็ออกมาเรื่อยๆอยู่แล้วนะมึง อย่างเวลาโดนแซวว่าชอบใครแล้วปฎิเสธ พอเป็นคาบุ ทุกคนจะเชื่อว่านางไม่ได้ชอบ แต่ถ้าเป็นเอ็นโจ จะไม่มีใครเชื่อเลย มันต้องมีซัมติงที่ทำให้คนอื่นคิดแบบนั้นสิน่า
เวลาเจอเอ็นโจกับยุยโกะ นางจะUpsetตลอด แต่จะเนียนๆไปบ่นเรื่องดินฟ้าอาหาร(?)คะแนนสอบ และอื่นๆแทน
พอบทบอกว่าใจเต้นปุ๊บ ก็จะรีบตัดฉับเข้าฉากอื่น คิดเรื่องอื่นแทนตลอด
สรุป เจ้าแม่คือเทพเซียนในการหลอกตัวเอง ดูเลเวลในการหลอกตัวเองจากตอนที่ทรมาณคาบุเป็นตัวอย่าง(...)
กูว่านางชอบเอ็นโจแต่ทำเฉไฉไปงั้น แต่ถ้าชวนไปดูดอกไม้ไฟนี่กูหวังผลไปถึงอีเวนท์งานเต้นรำว่ะ ให้ฮีขอนางเต้นรำจะเป็นไปได้มั้ย ไหนๆก็ปีสุดท้ายแล้ว
กูเหงา ไม่ชินเลยตื่นเช้ามาไม่ต้องแวะมานั่งอ่านเจ้าแม่ จบด้วยเข้ามานั่งนินทาเจ้าแม่กับเพื่อนๆโม่งในนี้
กูกลัวเหลือเกินว่านักเขียนจะทิ้งกูไปกลางคัน หรือทิ้งห่างไปอีก 8 เดือน พอกลับมาอีกทีมันก็ต่อไม่ติดแล้ว ฮือออออ
คิดถึงฟิคจัง กลับไปย้อนอ่านฟิคในตำนานมา กำลังถึงช่วงหวานได้ที่ ใครจะใจดีก็มาต่อกาวหน่อยนะ รักโม่งฟิคทุกคน // นั่งรออย่างมีความหวัง •..•
"ไหนๆก็ไหนๆแล้ว งานซัมเมอร์คราวนี้ คุณคิโชว์อินไปกับผมเลยดีไหมล่ะ?"
"ค๊าาาาาาาาาาาาา"
เอ็นโจหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย "ต้องตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ น่าๆ ไปกับผมนี่แหละ ขาไปผมจะได้ไปรับที่บ้านคุณคิโชวอินนะ ยูกิโนะน่าจะอยากเข้างานพร้อมคุณอยู่แล้วนี่นา"
เอ๊ะ ยังงั้นเองสินะคะ จะให้ยูกิโนะคุงชวนสาวม.ปลายไปร่วมงานก็คงแปลกๆ แต่ถ้าไปกับเอ็นโจ ยูกิโนะคุงจะได้ไม่อายที่ควงพี่สาวไปสินะคะ รักน้องจริงๆ แต่แบบนี้ฉันจะซวยแทนไหมนะ?
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดอย่างหนักจนสมองร้อนจี๋ไปหมด ยูกิโนะคุงที่อยู่ข้างๆ ก็จับมือฉันแล้วเขย่าๆ "นะฮะคุณพี่เรย์กะ จะได้เข้างานพร้อมกันไงฮะ"
"อุ!" เทวดา!!! เทวดาน้อยกำลังขอร้อง! น่ารักเกินไปแล้วค่าาาา ถ้าเพื่อเทวดาน้อยแล้ว ต่อให้ต้องต่อสู้กับผู้หญิงทั้งโลก คุณพี่เรย์กะก็จะทำเพื่อยูกิโนะคุงนะจ๊ะ "ถ้ายูกิโนะคุงว่ายังงั้น...ก็ได้จ้ะ"
โอ๊ย ตัวฉัน! โดนเทวดาน้อยล่อลวงไปแล้วค่าาา ว่าแต่งานซัมเมอร์คราวนี้จะใส่ชุดไหนดีนะ? หรือจะไปช็อปปิ้งชุดใหม่เพิ่มเติม แต่จะว่าไป ช่วงนี้เหมือนจะอ้วนขึ้นเล็กน้อย ต้องไปเทรนสปาร์ตั้นอย่างจริงจังแล้วสินะ!
กูหิวกระหายฟิคBad end มากอะ
จริงๆตอนนี้มีในหัวอีกอันที่อยากอ่าน (บอกเปรยๆ เผื่อมีโม่งใจดีเขียนให้)
What if ถ้าจริงๆแล้วเอ็นโจเป็นคนใสซื่อพอๆกับไซซายะ
คือไอ้ที่ดูชั่วๆ ดูเหมือนวางแผนอะไรไว้ จริงๆแลเวฮีไม่ได้คิดอะไรเลย แค่พูดไปตามที่คิดนั่นแหละ แต่คนอื่น(เจ้าแม่) คิดไปเองว่าฮีเจ้าแผนการ
แบบ
“ติดหนี้ผมครั้งนึงแล้วนะ”
สีหน้าคุณคิโชวอินดูหวาดกลัวสุดๆ เอ๋? กลัวอะไรกัน ก็คนเค้าอุตส่าห์ช่วยจริงๆอะ! พูดแบบนี้ไม่เท่หรอกเหรอ?!? เห็นสาวๆชอบพระเอกแบบนี้นี่?!? ทำไมเธอไม่ประทับใจผมหน่อยล่ะ? ถึงจริงๆจะทำดีไม่หวังผลก็เหอะ อยากให้เธอรู้สึกว่าผมเท่บ้างนี่นา!!!
ไรเงี้ย
>>723 ฉากที่ถามหนังที่ชอบนี่มันคงจะประมาณนี้สินะ
เอ๋ พอบอกชื่อหนังออกไป ทำไมทั้งมาซายะกับคุณคิโชวอินถึงทำหน้าตาแบบนั้นล่ะ?
มันเป็นหนังที่ผมเพิ่งจะดูไม่นานมานี้เองน่ะ พอถามเรื่องหนังก็เลยนึกถึงเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาได้อย่างแรก ถึงจะดูไม่ค่อยรู้เรื่องก็เถอะ ผมทำอะไรพลาดไปรึเปล่าเนี่ย ถึงเนื้อเรื่องกับภาพมันจะดูน่ากลัว แต่ว่ายูกิโนะที่นั่งดูด้วยกันก็ยังดูไปขำไปสนุกสนานดีนี่นา ก็มันหนังตลกไม่ใช่เหรอ....
พวกมึง กูมีเรื่องจะปรึกษา กูเหงา กูเคว้ง กูไม่มีอะไรอ่านแล้วหลังจากเรื่องนี้ทันดิบ
กูดำอิ้งได้ ใสๆน่ารักได้ ผจญภัย แฟนตาซี ติดในเกมได้ เกิดใหม่ได้ ดาร์คสงครามได้ จีนได้ วายได้ ดำอิ้งได้
ฝากพวกมึงแนะนำอะไรสนุกๆหน่อย กูไม่เรื่องมากส่วนใหญ่อ่านอะไรกูก็สนุกไปหมด ถ้ามีออกมาหลายๆตอนหน่อยก็จะดี
>>729 พักนี้กุเบื่อแนวแปล เลยไปอ่านต้นฉบับอังกฤษ เปลี่ยนบรรยากาศ
Taint ตัวเอกไม่ใช่คนและอยู่ๆก็ไปอยู่ในดันเจี้ยนเขาวงกต พยายามหาทางออก, Wondering Inn ตัวเอกแรกอยู่ๆก็วาร์ปมาต่างโลก และได้อาชีพผู้จัดการโรงแรมร้าง, Mother of Learning ตัวเอกติดไทม์ลูป, Worm แนวซูเปอร์ฮีโร่ดาร์กๆ
คิดถึงฟิคสลับร่างทั้งหลายด้วย
คิดถึงสมัยรุ่งเรืองมีฟิคอ่านวันละหล่ยเรื่องจัง 55555
ตั้งแต่แปลทันรู้สึกว่าคว้างว่ะ จากเดิมที่ทุกวันจะเปิดเว็บแมวดุ้นขึ้นมาเพื่อรออ่านท่านเรย์กะกลายมาเป็นเปิดเว็บแล้ว อ่า ท่านเรย์กะยังไม่มา...
เป็นอย่างนี้หลายมาหลายวันแล้วเนี่ย
>>729
[แบบจบแล้ว] มีให้อ่านหนำใจเลยก็
-mushoku tensei (web novel) > แนะนำมากๆๆๆอันนี้ เนื้อเรื่องทั้งเรื่องดีมากคืออ่านไปเหมือนคนเขียนเค้าวางเรื่องมาแล้วทั้งหมดอะ Complete จบในตัวอารมณ์ตอนอ่านfullmetal (แต่ไม่ได้แนวเรื่องเดียวกันนะ) อธิบายไม่ถูกอยากให้ลองไปอ่านเองมาก ถ้าเล่าแค่เนื้อเรื่องย่อ ตอนเริ่มมันก็ดูเหมือนนิยายเกิดใหม่ต่างโลกโหลๆแต่อ่านจบแล้วสนุกจริงๆเรื่องนี้
-tate no yuusha (web novel)>อันนี้ก็จบแล้วเช่นกัน สนุกดี ตอนปลายๆเร่งๆแอบมั่วๆบ้างนิดหน่อย(คงเพราะแต่งในเว็บไม่มีคนคอยคุมด้วย) แต่โดยรวมก็ยังสนุกนะ แนวพระเอกโดนวาร์ปมาต่างโลกแล้วชีวิตตอนแรกย่ำแย่ โดนใส่ร้าย แต่ตอนหลังก็จะดีขึ้นๆเรื่อยๆ ถ้าสงสัยลองอ่านแบบการ์ตูนดูก่อนก็ได้ แต่แบบการ์ตูนมันทำจากนิยายรวมเล่มที่เนื้อเรื่องไม่เหมือนแบบweb novelพอถึงกลางๆเรื่อง
[แบบยังไม่จบ] ตอนนี้นึกออกแต่แนวโชโจ
-I Reincarnated into an Otome Game as a Villainess With Only Destruction Flags… ที่คนไทยเค้าชอบเรียกกันว่า บากะรีน่า5555 แบบเว็บจบไปแล้วสั้นๆ แต่มีออกมาเป็นเล่มเขียนต่อยาวกว่าแบบเว็บ เรื่องนี้อ่านเอาคลายเครียด เนื้อเรื่องไม่ค่อยมี555นางเอกบ๊องๆมีสกิลปังธงทั้งชายหญิง
-common sense of duke daughter อันนี้นางเอกเกิดใหม่เป็นตัวร้ายเช่นกัน แต่ไปเกิดกลางคันตอนฉากจบเกมตอนนางร้ายกำลังโดนประจานทั้งโรงเรียน ตอนหลังไปเป็นคนปกครองเขตนึงของตระกูลตัวเอง แล้วก็พัฒนาเขตตัวเองล้ำหน้าโดยใช้ความรู้เศรษฐศาสตร์ นำเสนอระบบการทำบัญชี คิดสินค้าช็อกโกแลต ฯลฯ อ่านนางพัฒนาเขตตัวเองเพลินดีมาก เนื้อเรื่องหลักก็มีของมันนะ ความรักก็มีแบบค่อยเป็นค่อยไป ภาพประกอบเรื่องนี้สวยมาก
-kusuriya no hitorigoto อาจจะเคยได้ยินเรื่องนี้ นางเอกเข้าไปอยู่ในวังแต่ไม่ได้ไปมีความรักกุ๊กกิ๊กกับพระราชาหรือเจ้าชายนะ555 ออกมิสเตอรี่หน่อยๆ นางเอกเฉยชาดี แถมนิสัยแปลกๆชอบลองพิษ ทดลองกับร่างกายตัวเองนู่นนี่ เรื่องนี้เคยเห็นแบบการ์ตูนแปลไทยอยู่ลองไปอ่านได้ ไม่แน่ใจนิยายมีแปลไทยมั้ยนะ
-It Seems Like I Got Reincarnated Into The World of a Yandere Otome Game อันนี้แบบเว็บจบ3เล่มแปลครบแล้ว แบบรวม4เล่มแปลยังไม่จบ เนื้อเรื่องมันไม่ยันไม่ดาร์คซักเท่าไหร่เลยนะเอาจริงๆ555 อ่านแบบน่ารักๆสบายๆ ไม่ยาวมาก
มึง กูซื้อเซ็ตนิดเดิ้ลเฟลอันจิ๋วจากไดโซะมาลองด้วย รู้สึกผิดที่เคยแอบคิดว่าเจ้าแม่กากจัง ไอ้เหี้ย
กว่าจะได้ขนาดเท่าเบียทันจริงคงลำบากมากซินะ กูผิดไปแล้วววว
กูอ่านcommon sense of duke's daugher แล้วเหมือนกัน หนุกมาก แต่แปลEngยังไม่จบ น้ำตาจะไหล คิดถึงทั่นไอริส ทั่นดีน ทั่นไรล์ ทั่นดิด้า ไหนๆพวกมึงก็เคว้งทั่นเรกะแล้วก็มาเคว้งกับกูอีกเรื่องกันเถอะ
>>743 อ่านภาคท่านแม่ด้วย Common Sense of a Warrior House จะรู้ว่าท่านแม่ก่อนแต่งนี่โคตรโหด
>>729 World of cultivation นิยายจีน แปล eng เหลือ 40 กว่าตอนจะจบละ ไม่ใช่แนวเกิดใหม่หรือมีระบบโกงๆช่วย พระเอกเรื่องนี้ถ้าเทียบกับศัตรูที่เจอส่วนใหญ่จะแพ้ด้านพลังหมด แต่พี่แกคิดนอกกรอบสุด มีที่ไหน โดน อ. ส่งไปประลองกระบี่ แต่เจ้าตัวใช้กระบี่ไม่เป็น ใช้เป็นแต่วงเวท พระเอกเลยสร้างป้อมวงเวทกลางสนามประลอง แล้วการประลองกระบี่แบบ battle royal ก็กลายเป็นการแข่งขันทะลวงค่ายเวทแบบ 1 vs ทั้งสนามแทน
>>732 thx มากที่ทำให้จำ worm ได้ แล้วไปค้นต่อ เจอคนเขียนอัพภาค 2 แล้วขอแว่บไปอ่านต่อก่อนละ
กำ เผลอโพสไปว่าจะพิมต่อ
>>742 มึงพลาดแล้ว ทำงานฝีมือพวกนี้ต้องล้างมือก่อนทำทุกครั้ง
กุเคยเย็บไอ้ผ้าที่เย็บเป็นพิกเซลเล็กๆ(จำชื่อไม่ได้) กับถักนิตติ้งแล้วไม่ได้ล้างมือก่อนทำประกอบกับแกะเข้าแกะออก ด้ายมันออกเทาๆเป็นบางจุด555 ตอนหลังก่อนทำทุกครั้งกุจะจัดการฟอกมือก่อนทุกครั้ง
ถ้าแนะนำได้กูอยากแนะนำ Copcraft ว่ะ สนุกเหี้ยๆ แม่งอ่านไปอย่างกับดูหนังซีรีย์อเมริกา เรื่องเกี่ยวกับตำรวจสืบสวนผู้รักแมว (แต่แพ้ขนแมว) ที่ต้องมาทำงานร่วมกับคู่หู ที่เป็นอัศวิน (โลลิ) จากต่างโลก
แต่น่าเสียดายของไทยดองอยู่ที่เล่ม 4 เห็นทางสนพ. บอกว่าต้องรอที่ญี่ปุ่นออกเล่ม 7 ก่อน ถึงจะสามารถออกเล่ม 5 ได้
My Fiance is in Love with My Little Sister
นางเอกติดลูป และทุกๆลูป คู่หมั้นของนางเอกก็จะแอบรักกับน้องสาวนางเอกทุกครั้ง ทุกครั้ง ทุกครั้ง....
ดราม่า เรื่องหม่นโคตรๆจนอยากรู้ว่าจิตใจคนแต่งทำด้วยอะไร
ลูกสาวดยุค เจอสปอยตอนจบแล้ว happy ending
>>741 ใช่ๆ ผู้กล้าโล่
>>742 ตายแล้วเจอสหายอ่านแนวใกล้ๆกันด้วย555 ที่จริงมีในกรุอีกหลายเรื่องแนวโชโจที่สนุกๆ แต่มันออกช้ามาก/โดนดองเค็มหายไปแล้ว/ตอนน้อยมากอ่านไม่หนำใจเลยไม่ได้เอามาแนะนำ mushokuไม่ใช่แนวโชโจแต่แนะนำมากจริงๆ ขนาดกูที่แอนตี้ฮาเร็มเอ็นยังรู้สึกว่ามันลงเรื่องได้โอเคมาก
>>743 กูเข้าใจความรู้สึกเคว้งนั้นนะะะ กูนี่แหละเคว้งรอท่านเรย์กะมาสามเดือนละ เปิดเว็บนาโร่มันจะทุกวัน55555 ลูกสาวดยุคเคว้งมากทนไม่ไหวเปิดสปอยเนื้อเรื่องเลยเฉยๆละ รออ่านแบบเต็มอีกที
>>744 ใช่ๆในไทยมีlcแบบนิยายรวมเล่ม แต่กูอ่านแบบweb novelที่มันเขียนจบไปนานแล้ว ตอนนั้นออกไวมากอ่านแบบจุใจสุดๆ (о´∀`о)
อ่านที่แนะนำกันมา ไมมันแนวตรงกันข้ามกะแนวเอื่อยๆอย่างท่านเรย์กะเลยวะ 555555 แนวจริงจังทั้งนั้น(ยกเว้นบากะรีน่า)
ไม่ได้เข้ามาอ่านนานนคกว่าเข้าผิดมู้
>>767 เรื่องนี้กูอ่านต่อไม่ไหวละ ขนาดอ่านแต่สปอยยังปวดร้าวเลย ไม่ได้ตามนานละไม่รู้ว่าแปลอังกฤษถึงตอนไหน แต่อ่านสปอยบทคู่หมั้น กูก็เกลียดมันได้ไม่เท่าตอนแรกๆอะ T_T
>>768 https://www.novelupdates.com/series/my-fiance-is-in-love-with-my-little-sister/
>>>webnovel/4903/274-277/ ปิศาจตกอับ
" บ้านเจ้าอยู่ที่ไหน? "
" ไม่ต้องไปส่งข้าที่บ้านหรอกเพคะ... กรุณาพาข้าไปส่งที่ๆนึงแทนจะได้หรือไม่คะ? "
" ...เรื่องมาก "
ให้ตายซิผู้ชายคนนี้นี่น่าตบปากแล้วลากให้ครูดไปกับพื้นเสียจริง!
" ท่านเรฟีก้า! "
" แม่นาง! ล-ลูกข้าล่ะ ลูกข้าอยู่ที่ไหน?! "
" ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ลูกของท่านปลอดภัยแล้วค่ะ ตอนนี้เขากำลังรักษาตัวอยู่ที่โบสถ์ในตัวเมือง "
" ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ ท่านช่างเป็นหญิงงามที่มีจิตใจประเสริฐยิ่งนัก "
อุหวา~ นางน้ำตาไหลไม่หยุดเลย ทำไมข้ารู้สึกเหมือนตัวจะลอยเลยล่ะ ไม่ได้นะๆ! แก้มข้ามันตึงไปหมดแล้ว!!
" ...บ้ายอ "
หลังยิงปืนใหญ่ลงมาที่หัวใจอันบอบบางของข้าแล้ว เจ้าอาร์ชดยุกผู้ไร้ความละเอียดอ่อนก็สะบัดก้นขึ้นรถม้ากลับไปทันที
ทิ้งให้ข้าวาดมือสาปแช่งเจ้าบ้านั่นในใจวนไปวนมาจนรถม้าลับสายตา...
จงอกหักตลอดชีวิตให้สมกับคำพูดที่ใช้บาดหัวใจสาวน้อยผู้มีจิตใจอ่อนไหวและอ่อนหวานอย่างข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปเถอะ!!!
วันนี้ข้าก็ยังไม่ได้เบาะแสอะไรที่เกี่ยวกับท่านพี่เลยแม้แต่น้อย...
ท่านบรรพบุรุษได้โปรดประทานเบาะแสที่จะสามารถทำให้ข้าพบกับท่านพี่ทีเถอะค่ะ
แล้วในคืนวันนี้ท่านลูซิเฟอร์ก็ประทานสิ่งที่ข้าร้องขอ...
ที่นี่คือความฝัน
ข้ามั่นใจว่ามันเป็นความฝัน เพราะตรงหน้าข้าคือแผ่นหลังของท่านพี่ที่กำลังเดินฝ่าหิมะผ่านเส้นทางที่ข้าไม่คุ้นเคย เอ๋~ ตรงนั้นมีวังด้วย ทาสีทองทั้งวังเลย ช่างดูโอ่อ่าสง่างามเหลือเกิน
ท่านพี่ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ข้างหน้านั่นอะไรน่ะ...
' ทาคาเทเรียน~ '
เสียงผู้ชายดังขึ้น ทันทีที่พี่หลังกลับมาภาพความฝันของข้าก็พลันสลายไป
" ท่านพี่! "
" ท่านเรฟีก้า! มีอะไรเกิดขึ้นหรือคะ? " เซรีก้าถามเสียงงัวเงียพลางขยี้ตาไปด้วย
" จริงหรือคะ?! จำได้หรือไม่คะว่าเห็นท่านทาคาเทเรียนทีไหน? " เคียคูราโนถามอย่างตื่นเต้น
" ข้าเห็นท่านพี่เดินผ่านหน้าวังไปที่ๆหนึ่งแต่ไม่ทันเห็นปลายทาง ความฝันก็สลายไปเสียก่อน "
" ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้เราลองสอบถามชาวบ้านเรื่องวังในเมืองนี้ดูดีหรือไม่คะ? "
" นั่นสินะ พรุ่งนี้ข้าจะลองดู "
เช้าวันนี้อากาศเย็นสบาย ดวงตะวันทอแสงอบอุ่น มีสายลมพัดเบาๆสมกับเป็นฤดูใบไม้ร่วง กุหลาบหลากสีที่เบ่งบานสดใสเสมอของข้า วันนี้กลับยิ่งสดใสมากกว่าเดิม เมื่อมีนางฟ้าเดินดินผ่านเข้ามาเยี่ยมเยียนเจ้าของพวกมัน
" อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเรฟีก้า คุณเคียคูราโน คุณเซรีก้า ข้าเพิ่งอบขนมปังสูตรใหม่เสร็จก็เลยเอามาให้ชิมน่ะค่ะ ยังร้อนๆอยู่เลยนะคะ "
ถึงจะบอกว่าเอามาให้ชิมก็เถอะ แต่ขนมปังเต็มตะกร้าเลยนี่นา สีสวยด้วยน่าอร่อยจังเลย~~
" ขอบคุณมากนะคะคุณวาคาเบลล์ นั่งทานด้วยกันสิคะ "
" ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ ขอบคุณมากนะคะ... จริงๆวันนี้ข้าตั้งใจจะมาชวนพวกคุณไปนมัสการพระผู้เป็นเจ้าที่โบสถ์น่ะค่ะ สนใจจะไปด้วยกันมั้ยคะ? "
" ขอผ่านค่ะ "
" ข้าก็ด้วยค่ะ "
" สามผ่านค่ะ "
" ...เสียดายจังเลยนะคะ วันนี้ที่โบสถ์เขาแจกเสบียงอาหารไว้ให้ตุนสำหรับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงด้วยสิคะ "
...เอ๋? แจกเสบียงงั้นหรือ?!
ข้าสะบัดศีรษะไล่ความเสียดายออกไป เสบียงน่ะก็อยากได้อยู่หรอกนะ แต่ให้ไปที่โบสถ์น่ะนะ ...ยังไงก็ขอผ่านดีกว่า!
" คุณวาคาเบลล์พอจะรู้จักวังที่นี่บ้างหรือไม่คะ? "
" วังหรือคะ? ที่นี่มีวังอยู่แห่งนึงน่ะค่ะ แต่จะคล้ายปราสาทที่เป็นป้อมปราการสำหรับสอดส่องพวกแซ็กซอนมากกว่าเป็นที่ประทับของพวกราชวงศ์น่ะค่ะ ชื่อปราสาทลินซ์ "
" เอ่อ... ถ้าเป็นวังสีทองล่ะคะพอจะเคยเห็นบ้างหรือไม่? "
" ต้องขอโทษด้วยนะคะวังสีทองที่ว่าคงจะเป็นพระราชวังน่ะค่ะ สถานที่ทั่วไปนอกจากพระราชวังจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทาเป็นสีทองหรือสีเหลืองหรอกนะคะแม้แต่ปราสาทลินซ์ก็เป็นสีขาวมุกน่ะค่ะ ...ที่ใกล้เคียงก็คงเป็นเฮลล์บรุนน์ที่ซาลส์บูร์ก แต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่พระราชวังที่คุณเรฟีก้าถามหาหรือเปล่าเพราะเฮลลบรุนน์เป็นแค่พระราชวังที่สร้างไว้สำหรับพักผ่อนช่วงฤดูร้อนเท่านั้นน่ะค่ะ "
อ๋า~... เสียดายจัง
"พระราชวังที่ราชวงศ์ทรงประทับกันจะอยู่ที่เมืองหลวงเสียเป็นส่วนใหญ่น่ะค่ะ ข้าเองก็ไม่ค่อยเข้าเมืองหลวงเสียด้วย อันที่จริงข้าไม่เคยเหยียบเวียนนาเลยเสียด้วยซ้ำ "
" ... "
" แต่ข้ารู้จักคนที่เข้าออกเวียนนาบ่อยๆนะคะ! "
" จริงหรือค่ะ?! "
" อ้าว มาแล้วหรือวาคาเบลล์? "
" นมัสการค่ะคุณพ่อ "
ข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องกลับมาที่โบสถ์นี้อีกแล้ว ทั้งๆที่ยืนกรานเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วเชียวว่าไม่อยากมาน่ะ แต่ก็นะในเมื่อบาทหลวงประจำโบสถ์คุ้นเคยกับเมืองหลวงแถมยังสนิทสนมกับอาร์ชดยุค ข้าก็คงเลี่ยงไม่ได้นั่นแหละ...
" ไปนั่งเสียสิ... ทั้งสี่คนนั่นแหละ"
วาคาเบลล์พาพวกเรามานั่งต่อหน้ารูปปั้นจีซัส
หืม...? อย่าบอกนะว่า
เห็นทีว่าลางสังหรณ์ของข้าจะดีไปหน่อย เพราะหลังจากหย่อนก้นลงไปนั่งบาทหลวงก็เริ่มพิธีนมัสการทันที...
อุหวา! ข้าจะทำยังไงดีล่ะ? จะให้พุ่งพรวดออกจากโบสถ์ไปก็คงจะโดนผู้คนสงสัยแน่ๆ แต่ถ้านั่งต่อไปพวกเราจะกลับสู่ร่างที่แท้จริงรึเปล่านะ?
ระหว่างที่ปิศาจสาวทั้งสามตนอย่างเรากำลังร้อนรน ข้าก็จ้องเขม็งไปที่บาทหลวงซึ่งมองตรงมาทางข้า และข้ามั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาด... เมื่อกี้นี้ข้าเห็นบาทหลวงอมยิ้มที่มุมปาก!!
หลังจากนั่งฟังไปเรื่อยๆ ข้าก็พบว่าบทสวดไม่สามารถทำอะไรพวกเราได้เลยแม้แต่น้อย ถึงจะฟังแล้วรู้สึกรำคาญหน่อยๆก็เถอะ
ในที่สุดช่วงเวลาที่ข้ารอคอยก็มาถึง...
ขนมปังมาแล้ว~ เอ๊ะ! แก้วที่ใส่น้ำสีแดงๆนี่คืออะไรน่ะ?
จะเอ่ยปากถามวาคาเบลล์ ข้าก็กลัวว่านางจะเริ่มมองข้าประหลาดไปเสีย ข้าก็เลยต่อแถวตามนางแล้วพยามยามจำว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
" แผ่นปังเปรียบเสมือนพระวรกาย ไวน์แดงดุจดั่งพระโลหิต เมื่อเจ้ารับมันเจ้าจะเป็นหนึ่งเดียวกับพระผู้เป็นเจ้า "
บาทหลวงเอ่ยเสียงเบาๆพร้อมส่งรอยยิ้มหวานและยื่นแผ่นปังจุ่มไวน์แดงมาให้
...นี่เขาอ่านใจข้าได้หรืออย่างไรกัน น-น่ากลัวเกินไปแล้ว!!
แต่คงจะมีแต่ข้าที่รู้สึกหวาดกลัวบาทหลวงรูปนี้ เพราะข้าได้ยินเสียงหายใจดังเฮือกมาจากรอบโบสถ์
ที่จริงข้าก็สังเกตมาสักพักแล้วล่ะว่าทำไมในโบสถ์ถึงมีแต่สตรี... เอาเป็นว่าข้าแจ้งแก่ใจแล้วล่ะ
จากรูปร่างหน้าแล้วข้าคาดว่าเขาคงจะอายุไล่เลี่ยกับข้านั่นแหละ อายุพอๆกับข้าแต่ได้เป็นบาทหลวงเนี่ยนะ! น่าประหลาดเสียจริง...
ในขณะที่หญิงส่วนางอื่น รวมถึงเซรีก้าและเคียคูราโนต่างก็เคลิบเคลิ้มไปกับริยยิ้มของบาทหลวงที่ข้ารู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด วาคาเบลล์ก็ดูตั้งอกตั้งใจทานแผ่นปังอย่างมุ่งมั่น... สมกับเป็นนางฟ้าเดินดินจริงๆ
ส่วนตัวข้านั้นก็กัดแผ่นปังจุ่มไวน์แดงอย่างหงุดหงิด!
...ไม่เห็นจะอร่อยตรงไหนเลย...
ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะไม่กินสุราก่อนอายุครบ 20 ปีแล้วแท้ๆ แต่ดันมาเสียรู้ให้กับพิธีนมัสการเสียได้ เจ็บใจนัก!
แต่ที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่านั้น คือรอยยิ้มของเขาที่ติดอยู่ในหัวต่างหาก คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าเคยเห็นรอยยิ้มแบบนี้มาจากที่ไหนสักแห่งหรือจากใครสักคน
...แต่ก็เอาเถอะ จุดมุ่งหมายของข้าคือการตามหาท่านพี่และพากลับไปช่วยสะสางหนี้ที่คั่งค้างในเมืองปิศาจต่างหาก ไม่ใช่ตามหาปริศนารอยยิ้มของบาทหลวงเสียหน่อย!!
++++++++++++++++
>>772 เกรงใจโม่งซุยรัน กูไปสปอยล์ที่ห้องนาโร่ละ
>>>/webnovel/2413/348
อยากเล่นกับชูสุมอยแบบนี้ว่ะ ว่าไปก็คิดถึงฟิคมะหมาจริงๆ
https://twitter.com/zboah/status/959166987615326208
ไซซายะ ชูสุมอย เรย์ทันจะอายุครบขวบนึงกันแล้วนี่หว่า 5555555
ทำไมฟิคหมาไม่มีท่านพี่มาปกป้องเรย์ทัน ปล่อยให้โดนไซซายะรังแก ถถถถ
มึงงง กูเพิ่งอ่านฟิคเอ็นโจเลี้ยงต้อยที่มาเกิดใหม่ในโลกคิมิดอล เผ็ดสัส ถ้าโม่งฟิคคนนั้นยังอยู่ กูอยากแสดงความเคารพ สนุกสัสๆค่ะ กูจะร้อง รักๆๆๆๆๆ
อยากได้กาวอ่ะโม่งงงง จะกวนกาวเองก็ไม่เจ๋งพอ เศร้า
แอบรอเธออยู่นะจ้ะ แต่เธอไม่อัพบ้างเลย~ //กดปิดกระทู้ไปแบบเหงาๆ อฟช.ไม่อัพ กาวมาก็ยังดีนะจ้ะ*_*
ต่อจาก >>770-771 ฟิคปีศาจตกอับ
----------------------------------
การจะเข้าไปถามเรื่องวังในความฝันกับบาทหลวงนั้นยากเสียยิ่งกว่าเดนทางดั้นด้นไปตามหาวังเองเสียแล้วกระมัง? ในเมื่อตั้งแต่เสร็จพิธีนมัสการบาทหลวงก็ยังไม่ได้ก้าวออกจากห้องสารภาพบาปเสียที แถมยังมีหญิงสาวอีกนับสิบต่อแถวรอพบอีก สงสัยจริงๆว่าพวกนางไปทำบาปอะไรมากันแน่...
วาคาเบลล์เองก็รับเสบียงอาหารมาจากภคินีแล้ว ถึงใจจะอยากให้อยู่ด้วยกันต่อ แต่ทุกคนก็มีธุระเหมือนกัน สุดท้ายข้าก็เลยต้องมานั่งรอบาทหลวงต่อไปคนเดียว
ให้ตายสิมานั่งรอผู้หญิงเมืองนี้ไปสารภาพบาปนี้มันสูบพลังชีวิตข้าไปเยอะจริงๆ
จะว่าไปแล้วข้าเองก็มีอะไรให้ทำในโบสถ์นี้เหมือนกันนี่นา~
" สวัสดี อาการเจ้าเป็นยังไงบ้าง? "
" พี่สาว... พี่สาวที่อุ้มข้ามาที่โบสถ์ใช่มั้ยฮะ? "
" ใช่จ๊ะ "
เด็กน้อยยิ้มรับอย่างตื่นเต้น เด็กๆนี่น่ารักจริงๆเลยน้า~
" ท่านดูสวยเหมือนที่แม่กับท่านบ-- "
" อ้าว! มาอยู่ที่นี่เองรึ? ข้าก็หาอยู่น่ะว่าเจ้าอยู่ที่ไหน "
เด็กชายยังพูดไม่ทันจบ บาทหลวงก็เข้ามาขัดเสียก่อน ...เอ๋~ ทำไมเสร็จเร็วนักล่ะ เมื่อกี้ข้ายังเห็นผู้หญิงออกันแน่นหน้าห้องอยู่เลยนี่
" ข้าเห็นว่าท่านยังติดธุระน่ะค่ะก็เลยมาเยี่ยมเด็กคนนี้ก่อน "
" งั้นหรือ? เช่นนั้นข้าวานให้เจ้าอยู่เป็นเพื่อนเด็กคนนี้สักครู่ก่อนแล้วกันนะ "
อุหวา~ เด็กน้อยอย่ามองข้าด้วยสายตาอ้อนวอนอย่างนั้นสิ
" ได้ค่ะ " รับคำเพราะเห็นแก่เด็กหรอกนะคะ
ข้านั่งคุยเล่นกับเด็กน้อยเพียงครู่หนึ่ง บาทหลวงก็เข้ามาพร้อมตะกร้าแอปเปิ้ล หืม? จะให้ช่วยปอกหรือคะ? ถึงข้าจะมีความสามารถทางด้านการทำอาหารที่ไม่เอาไหนแต่แค่ปอกแอปเปิ้ลน่ะเรื่องง่ายๆหรอกนะ!
จะว่าไปแล้วข้ามาที่นี่เพื่อถามเรื่องวังที่ฝันเห็นนี่นา จะเริ่มหัวข้อสนทนายังไงดีล่ะ... ตายจริง! ถ้าไม่กล้าแม้แต่จะถามขนาดนี้ข้าจะได้พบกับท่านพี่เมื่อไหร่กันเล่า!!
" อ๊ะ! "
" มีดบาดหรือ? "
ให้ตายสิ! มัวแต่คิดอะไรจนเพลิน เผลอทำมีดบาดนิ้วเฉยเลย
" แค่นิดหน่อยเองค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก "
" แค่นิดหน่อยก็ไม่ได้ อย่าย่ามใจนักสิ... มาเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปล้างแผล "
" ไม่เป็นไรจริงๆนะคะ! "
สุดท้ายข้าก็แพ้แรงลากของผู้รับใช้พระเจ้ามายืนตรงหน้าอ่างล้างจานจนได้ น่าอัปยศเสียจริง...
เอ๋~ จะทำอะไรน่ะ?!
" จ- จับไม่ได้นะคะ! "
เสียงโวยวายของข้าทำให้บาทหลวงตกใจเล็กน้อยก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ
จะให้จับได้ยังไงล่ะ เลือดปีศาจน่ะเป็นพิษสำหรับมนุษย์ธรรมดานะ!
ไม่ต้องกังวลไปหรอก ทำราวกับว่าเลือดเจ้ามีพิษเสียอย่างนั้นแหละ "
เฮือก!... นี่ข้าทำตัวให้น่าสงสัยขนาดนั้นเลยหรือ!
ในขณะที่ข้ากำลังตกใจ บาทหลวงก็ฉวยมือข้าไปล้างน้ำ
ก็บอกว่าอย่าจับไงเล่า!!
" เจ้าน่ะ... เป็นปีศาจใช่หรือไม่? "
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นจ้องมองมาที่ข้า แม้นิ้วของเขาจะยังลูบล้างแผลที่นิ้วของข้าอยู่ก็ตาม
" จ- เจ็บ "
ถึงจะรู้สึกแสบนิดหน่อยแต่ก็ไม่ถึงขั้นให้ร้องโอดโอยหรอก เพียงว่าหากข้าไม่เบี่ยงประเด็นเห็นทีข้าคงจะโดนสังหารเสียที่นี่กอนพบท่านพี่เป็นแน่!
" ขอโทษนะ... ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้น ทำไมถึงต้องทำหน้าซีดขนาดนั้นด้วยล่ะ? "
" ท่านเป็นถึงบาทหลวงนะคะ มาพูดเรื่องแบบนี้เล่นๆได้อย่างไรกัน! ขืนมีใครมาได้ยินเข้าแล้วจับข้าไปเผาขึ้นมาจะชดใช้ยังไงล่ะคะ! "
" ขอโทษๆ " เขายกมือยอมแพ้หากแต่ใบหน้าอมยิ้ม... นี่รู้สึกผิดจริงๆหรือคะ?
ข้าไม่ให้อภัยหรอกนะ! ทำหัวใจสาวน้อยอกสั่นขวัญแขวนไปด้วยความกลัวอย่างนี้น่ะ!
" ว่าแต่เจ้าเถอะ เห็นวาคาเบลล์บอกว่ามีธุระกับข้านี่ "
" ...คือข้ากำลังจะเดินทางเข้าเวียนนาน่ะค่ะ แต่ข้าไม่รู้จักเส้นทางในเมืองเลย วาคาเบลลบอกว่าท่านเข้าออกเมืองหลวงบ่อย ข้าก็เลยอยากจะถามถึงสถานที่ในเมืองหน่อยน่ะค่ะ "
" แล้วจุดหมายของเจ้าอยู่ที่ไหนล่ะ? "
" บริเวณพระราชวังน่ะค่ะ "
" ...จะไปที่นั่นทำไมกันนะ? "
อ๊ะ! นั่นสิ ข้าจะไปที่นั่นทำไม เรฟีก้าหาเหตุผลมาเร็วๆเข้า!
" ญ- ญาติของข้าอยู่ใกล้ๆที่นั่นน่ะค่ะ ข- ข้าจะไปเยี่ยมญาติ "
" งั้นหรือ?... เวียนนาน่ะมีพระราชวังอยู่สองที่นะ มีเชินน์บรุนน์กับฮับส์บูร์ก ...ญาติเจ้าอยู่ที่ไหนกันแน่? ไม่สิ ทำไมญาติเจ้าถึงไม่มารับเจ้าด้วยตัวเองกันล่ะ? "
" อ่า... ญาติข้ากำลังป่วยหนัก มารับข้าด้วยตัวเองไม่ไหวหรอกค่ะ "
อ๊า... ท้องมันใหญ่ขึ้นแล้ว!!
" ที่จริง อีกไม่กี่วันข้างหน้าจักรพรรดินีจะจัดงานเต้นรำที่เชินน์บรุนน์ เจ้าไม่ลองขอติดรถม้าของใครสักคนในลินซ์ดูล่ะ "
" ...ติดรถม้างั้นหรือคะ? "
" หรือเจ้าจะรอเข้าเวียนนาพร้อมข้าล่ะ แต่ข้าเองก็ยังไม่มีเวลาว่างในเร็วๆนี้เลยสิ "
" ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ "
" ...แน่ใจนะว่าเจ้าไม่ใช่พวกเติร์ก "
" ไม่ใช่แน่นอนค่ะ! "
บาทหลวงตัวสั่นโยน ...จะขำอะไรนักหนาล่ะย่ะ
"ถ้าเจ้ามีปัญหาอะไรก็มาปรึกษาข้าได้นะ หน้าที่ของข้าคือการชี้ทางให้'ลูกแกะ'หลงทางอยู่แล้ว "
อะไรน่ะ! ลูกแกะอย่างงั้นหรือ? อุหวา~ เกิดมาจนอายุ 17 นอกจากท่านพี่แล้วก็ไม่เคยมีชายใดมาเปรียบเทียบข้ากับสัตว์ขนขาวน่าเอ็นดูเลยสักคน! หนอยแน่! เจ้าบาทหลวงใช้คำพูกแบบนี้กับผู้หญิงได้ยังไง หรือแอสโมเดียสกำลังสิ่งสู่บาทหลวงอยู่กันนะ!!
จะว่าไปแล้ว... จริงๆในไบเบิ้ลก็เปรียบเทียบมนุษย์กับฝูงแกะอยู่แล้วนี่นา เปรียบเทียบข้ากับแกะก็ถูกต้องแล้วนี่... บ้าจริงเชียว! เพราะว่าข้าเติบโตมาราวกับหญิงสาวในอารามชีทั้งที่ไม่มีอยู่จริงในโลกปีศาจสินะถึงได้ตื่นเต้นกับคำพูดแบบนี้น่ะ! ที่สำคัญคนพูดก็เป็นคนที่ละทางโลกแล้วด้วย เจ็บใจความไร้เดียงสาของตัวเองจริงๆ!!
" เรฟีก้า พรุ่งนี้เจ้าจะมาที่นี่อีกหรือไม่? "
" ท่านรู้จักนามข้า... "
" ข้าได้ยินวาคาเบลล์เรียกเจ้าน่ะ ว่ายังไงพรุ่งนี้จะมาที่นี่รึเปล่าล่ะ? "
" ...มาที่นี่? "
ทำไมต้องมาโบสถ์อีกด้วยล่ะ ถ้าเลือกได้ก็ไม่ได้อยากมาบ่อยๆหรอกนะ!
" ก็เด็กคนนั้นอยากให้เจ้ามาเยี่ยมบ่อยๆน่ะ แม่ของเขาเป็นหญิงรับใช้ในคฤหาสน์เศรษฐี นางเลยไม่ค่อยมรเวลามาดูแลลูกสักเท่าไหร่ "
ตายจริง... ยังเล็กอยู่แท้ๆ น่าสงสารจัง
" ถ้าท่านอนุญาต ข้าก็จะมาดูแลเขาจนกว่าจะรักษาตัวจนหายก็แล้วกันนะคะ "
" ข้าอนุญาต ขอบใจเจ้ามากนะ "
นี่ข้ากำลังหาเหาใส่หัวอยู่รึเปล่านะ... แต่คงจะไม่ใช่หรอก มาอยู่กับเด็กน่ะจะเป็นการทำร้ายตัวเองได้ยังไงกัน เิาเป็นว่าพรุ่งนี้ข้าจะมาดูแลเด็กน้อยที่น่าสงสารแล้วเอาผ้ามาเย็บไปพลางๆดีกว่า
จะว่าไปแล้วข้าต้องส่งผ้าที่เย็บเสร็จแล้วให้ที่ร้านในสัปดาห์หน้านี่นา... ตายจริงยังเย็บไม่ถึงตัวเลย!
------------------------------------------
Fic
เหมาเหมาเงยหน้ามองท้องฟ้าพลางคิดในใจว่า
'มันเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรกันนะ'
เมื่ออรุณมาเยือนยามตื่นขึ้นมาเหมาเหมารู้สึกคุ้นเคยกับห้องของตัวเองอยู่บ้าง
ที่ว่าคุ้นเคยอยู่บ้างนั้นเป็นเพราะห้องที่เหมาเหมาตื่นขึ้นมาหาใช่ห้องปกติของนางไม่ แต่กลับเป็นห้องที่นางเคยตื่นขึ้นมาเมื่อครั้งพบกับเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ในครั้งก่อน
เหมาเหมายังจดจำคุณหนู่จี้(เจ้าแม่) เการั่วเย่(วาคาบะ) คุณชายเฉิง(เอ็นโจ) ได้เป็นอย่างดี บางครั้งกระทั่งยังนึกถึงเรื่องราวถัดจากตอนที่คุณชายเฉิงฝากหิ่งห้อยกรงไม้สานให้กับท่านหญิงจี้อยู่บ้าง
เรื่องราวต่อจากนั้นย่อมเป็นฉากฝันอันงดงามรอบหนึ่ง
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ยามนี้เหมาเหมากลับคิดไม่ตกว่า
'เรื่องราวแปรเปลี่ยนมาเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกันนะ'
เมื่อตื่นขึ้นมาในห้องเดิมเป็นครั้งที่สอง เหมาเหมาไม่ตื่นเต้นตกใจอย่างครั้งแรก
อย่างไรนางเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาย่อมสามารถกลับไปยังพระราชวังที่ตนเคยอยู่ได้ ดังนั้นเหมาเหมาเพียงทำใจรอบหนึ่งก่อนจะออกไปทักทายผู้คนที่คุ้นเคยเมื่อครั้งก่อน
กระทั่งยามสายเหมาเหมาเห็นท่านหญิงจี้(เจ้าแม่)กำลังทำท่าทางลับๆ ล่อๆ อยู่บริเวณสวนอุทยานที่พบกันเมื่อคราวก่อน
"เหมาเหมา!" ท่านหญิงจี้ตะโกนขึ้นมาอย่างดีใจก่อนจะตรงเข้าหานางอย่างรวดเร็วแล้วกล่าว "รีบด่วน พาข้าไปซ่อนตัวเร็วเข้า"
เหมาเหมามึนงงกับเหตุการณ์เล็กน้อย ขณะจะพาท่านหญิงจี้(เจ้าแม่) ไปหลบที่ห้องของตนก่อนนั้นกลับมีเสียงบุรุษดังขึ้นมา
"จี้ลี่ฮวา(ชื่อเต็มเจ้าแม่) เจ้าจะไปไหน"
ผู้กล่าวกลับเป็นไท่จื่อมู่หย่าไจ(คาบุรากิ)
จากนั้นเหมาเหมาถูกท่านหญิงจี้ลากตัวมาเป็นเพื่อนในขณะที่ไท่จื่อมู่หย่าไจพานางไปยังลานฝึกยุทธ์
"ไท่จื่อเจ้าคะ ข้าเป็นเพียงสตรีอ่อนแอ"
"เพียงออกกำลังรอบลานกว้างเท่านั้น เราไม่ได้ให้เจ้าไปต่อยตีผู้คนเสียหน่อย"
"ลานฝึกยุทธ์กว้างออกเช่นนี้ ไท่จื่อท่านไม่คิดว่าข้าจะสิ้นสติไปก่อนหรือ"
"หากเจ้ารู้สึกวิงเวียนก็พักครู่หนึ่งค่อยกระทำต่อ"
"โหดร้ายนัก! ไท่จื่อกล่าวมาตามตรงที่แท้ท่านเห็นข้าเป็นสตรีหรือไม่"
"ถ้าเจ้าไม่ออกกำลังเสียบ้าง ต่อไปเจ้ากลายเป็นตัวที่เป็นไส้ซาลาเปาของเการั่วเย่(วาคาบะ)ก็ได้"
"ท่าน! ท่าน! หากไม่ใช่ท่านรบเร้าพัวพันอยากรู้เรื่องราวสามัญชนอยู่ร่ำไปข้าไหนเลยรับประทานไปถึงเพียงนั้น ล้วนเป็นเพราะไท่จื่อท่านทั้งสิ้น!"
เหมาเหมาเห็นไท่จื่อมู่หย่าไจ(คาบุรากิ)กับท่านหญิงจี้(เจ้าแม่)พูดคุยกันสนิทสนม แต่ครั้งล่าสุดยังจำได้ว่าตนส่งหิ่งห้อยกรงไม้สานของคุณชายเฉิง(เอ็นโจ)ไปให้ท่านหญิงจี้(เจ้าแม่)
เหมาเหมาเลื่อนสายตาไปยังท้องฟ้าอีกครั้งพลางคิดในใจว่าเรื่องราวเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรกันนะ
Fic เหมาเหมากับเหลากรงไม้สาน 1/?
แปะ fic
ต่อจากตอนที 299
.
.
.
.
หลังการเทรนนิ่งของคาบุรากิ ฉันลากสังขารกลับถึงบ้านด้วยความเหนื่อยล้า ปวดเมื่อยไปทั้งตัวเชียวค่ะ ยังไม่ทันจะได้ทานอาหารค่ำก็มีแมสเสจจากคาบุรากิให้รายงานเมนูอาหารและย้ำเรื่องการควบคุมแคลลอรี่มาอีกแล้ว เห็นแล้วก็พาลให้อารมณ์เสีย นี่เพิ่งกลับถึงบ้านยังไม่มีอะไรตกถึงท้องก็โดนตามจิกซะแล้ว แว๊บนึกฉันเองก็คิดจะต่อต้าน หาขนมทานจุบจิบมาทานแก้โมโห แต่ก็นะสุดสัปดาห์นี้มีนัดกับยูกิโนะคุง คงต้องต้องตัดใจเรื่องขนมไปซักพัก ไดเอทอย่างจริงจังจนถึงวันที่นัดไปดูดอกไม้ไฟล่ะค่ะ ก็เดรสที่เลือกไว้วันก่อนถ้าขืนพุงป่องก็จะเห็นชัดเลยนะคะ อีกแค่4วันเอง จะทันไหมนะ กลุ้มใจจัง
หลังจากฉุกคิดว่าต้องรีบรีดไขมันก่อนเจอยูกิโนะคุงให้ได้ ฉันก็แวะไปเทรนนิ่งกับคาบุรากิทุกวันหลังคลาสกวดวิชาไม่ได้บิดพลิ้วอีก คาบุรากิก็มีทีท่าพอใจ ชมเชยความมีวินัยของฉัน “คิโชวอิน ทำได้ดีมากนะ พยายามต่อไปแบบนี้อีกไม่นาน รับรองว่าไม่มีใครเปรียบขาเธอกับกีบหมูอีกแล้ว”
เดี๋ยวนะ ไม่มีใครเรียกฉันแบบนั้นนอกจากนายนั่นแหละ กำลังจะพูดต่อว่าออกไปก็ได้ยินเสียงทักทายขัดซะก่อน
“หวัดดีฮะ พี่เรย์กะ” หันไปก็เจอรอยิ้มของเทวดาน้อยในชุดกีฬาน่ารัก เดินมากับเอ็นโจ
“ยุกิโนะคุง...ท่านเอ็นโจ สวัสดีค่ะ” ยูคิโนะคุงในชุดกางเกงขาสั้นและเสื้อแบบมีฮู้ดสีฟ้าอ่อนดูสดใส เห็นแล้วก็ลืมเรื่องขุ่นใจไปหมดเลยค่ะ
“สวัสดีครับคุณคิโชอิน วันก่อนมาซายะเล่าให้ฟังเรื่องเทรนนิ่ง ยูกิโนะเลยอยากมาลองเล่นบ้างน่ะ กำลังจะให้เทรนเนอร์วางโปรแกรมออกกำลังกายที่เหมาะสมให้” เอ็นโจยิ้มกับฉันแล้วก็หันไปพยักหน้าทักทายคาบุรากิ
“ฮะ ท่านพี่มาซายะบอกว่าคุณพี่เรย์กะก็มาเทรนด้วย” ยูกิโนะคุงพูดด้วยเสียงร่าเริง
คาบุรากิ นายคงไม่ได้เที่ยวไปบอกใครต่อใครว่าฉันมารีดน้ำหนักนะยะ
“งั้นหรอจ้ะ...พี่เองก็มารบกวนท่านคาบุรากิให้แนะนำเรื่องการออกกำลังเบาๆแค่เพื่อรักษาสุขภาพน่ะ” ไม่นะ จะให้ยูกิโนะคุงเข้าใจผิดว่าฉันเป็นพวกบ้าพลังแบบนายคาบุรากิไม่ได้เป็นอันขาด
“อ้อ วันก่อนพี่มาซายะเล่าเรื่องไปดูดอกไม้ไฟบนเรือครุยเซอร์ ผมกับพี่ชายเลยชวนคุณพี่เรย์กะไปดูดอกไม้ไฟด้วยกันพรุ่งนี้ล่ะฮะ” ยูกิโนะคุงหันไปพูดกับคาบุรากิ
ต่อจาก >>812
.
.
.
.
.
คาบุรากิหันมาสบตาฉัน แล้วรีบเมินหน้าหนี นั่นแหนะ กลัวถูกจับได้ว่านัดวาคาบะจังไปชมดอกไม้ไฟสินะ คิดรึว่าจะแอบหนีออกจากหมู่บ้านคานทองได้โดยหัวหน้าหมู่บ้านอย่างฉันไม่รู้
“พวกนายชวนคิโชวอินไปดูดอกไม้ไฟกันตั้งแต่เมื่อไหร่...แล้วจะไปดูที่ไหนหรือ” คาบุรากิถามเอ็นโจด้วยสีหน้าหงุดหงิด หึ ทำเป็นกลบเกลื่อนสินะคะ แหม พวกเราไม่ตามไปขัดจังหวะเดทของนายกับวาคาบะจังหรอกน่า
“วันนั้นพอยูกิโนะได้ยินว่านายวางแผนจะล่องเรือดูดอกไม้ไฟ ก็เลยอยากดูบ้าง พอนายกลับไปก็โทรไปรบเร้าคุณคิโชวอินน่ะสิ พวกเราจองโต๊ะที่ภัตตาคารไว้น่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก” เอ็นโจบอกชื่อภัตตาคารออกไป คาบุรากิก็พยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้
“พรุ่งนี้แล้วสินะฮะที่จะได้เห็นคุณพี่เรย์กะในชุดกิโมโนฤดูร้อน ตื่นเต้นจังเลย” ยูกิโนะคุงหันมายิ้มกว้างให้ฉัน ทำเอาฉันเคลิบเคลิ้มแต่ว่า...เดี๋ยวนะคะ ภัตตาคารนั่นไม่ค่อยเหมาะกับชุดกิโมโนฤดูร้อนนะคะ แย่ล่ะ ทำไงดี ขณะที่ฉันกำลังอึกอักอยู่นั้น เอ็นโจ้ก็ดุยูกิโนะคุงเบาๆ “นี่นายอย่าเอาแต่ใจตัวเองนักสิ ภัตตาคารที่จองไว้บนยอดตึกมีเดรสโค้ด ต้องฟอร์มอล ไม่เหมาะกับกิโมโนฤดูร้อนหรอก อย่าทำให้คุณคิโชวอินต้องลำบากใจสิ” แล้วก็หันมาพูดกับฉัน “ไม่ต้องตามใจหรอกเขาหรอกนะ คุณคิโชวอิน”
จริงๆชุดกิโมโนฤดูร้อนก็มีอยู่แหละค่ะ ท่านแม่เองมาจากเกียวโต ทุกปีก็จะสั่งกิโมโนจากร้านกิโมโนเก่าแก่ที่นั่นมาเสมอ นัยว่าเป็นการสนับสนุนร้านค้าประจำที่ทุ่มเทออกแบบผลงานใหม่ๆมาให้ แต่ว่า ใส่ไปภัตตาคารยอดตึกคงไม่เหมาะจริงๆนั่นแหละ กำลังตัดสินใจจะบอกยูกิโนะคุงไปตรงๆ ยูกิโนะคุงก็ทำหน้าเศร้า
“ไม่ได้เหรอครับ ทั้งที่เป็นงานชมดอกไม้ที่เหมาะกับการใส่ชุดกิโมโนฤดูร้อนแท้ๆ ขอโทษด้วยนะครับ” ยูกิโนะคุงก้มหน้าพูดเบาๆ เฮ้อ...เห็นแบบนี้แล้วก็ปฏิเสธไม่ลงแล้วล่ะค่ะ หรือว่าเลือกกิโมโนที่ดูฟอร์มอล ทนร้อนเอาหน่อยดีนะ ขณะกำลังคิดว่าจะแก้ปัญหายังไง ก็ได้ยินคาบุรากิพูดขึ้นมา
“พวกนายมาดูดอกไม้ไฟบนเรือกับฉันก็ได้นะ” คาบุรากิบอกเอ็นโจ
หา...
“จริงหรือครับท่านพี่มาซายะ” ยูกิโนะคุงเงยหน้า ตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง
“ไม่เหมาะมั้งคะ ท่านคาบุรากิ” ไม่ดีนะจ้ะยูกิโนะคุง คาบุรากิกำลังจัดใหญ่เดทสาวนะ เดี๋ยวเดทล่มพวกเราอาจจะซวยกันหมดนะจ้ะ
“นั่นสิ มาซายะ นายวางแผนไว้แล้ว เปลี่ยนกระทันหันอย่างนี้จะดีเหรอ” เอ็นโจติงเรียบๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ทางนี้ก็ไม่ได้ วางแผนอะไรมาก ไปกันหลายๆคนก็ได้” คาบุรากิยืนยัน ดูอารมณ์ดีขึ้นบ้างแล้ว
แต่อย่างนายมีรึจะไม่วางแผนจัดเต็ม ทำไมจู่ๆเปลี่ยนใจกระทันหันล่ะ หรือว่าคาบุรากิคิดได้เองว่าการสารภาพรักตอนอยู่บนเรือสองคนน่ะ ไม่เวิร์ค
ก็แหม การถูกจู่โจมบอกรักบนเรือครุยเซอร์กลางทะเลนี่ก็เป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดมากเลยนะคะ คิดดูสิ อยู่กลางทะเลกันสองคน ถ้าเกิดปฏิเสธไปแล้วอีกฝ่ายโมโหจับเราโยนทะเลหรือเสียใจจนโดดจากเรือฆ่าตัวตายแล้วจะทำไงคะ
คาบุรากิฉุกคิดถึงข้อนี้เองได้ก็นับว่ามีสามัญสำนึกอยู่พอควร คงอยากให้เพื่อนๆช่วยไปคลายบรรยากาศสินะ อีกอย่างแต่ถ้านักเรียนซุยรันรู้เข้าว่าคาบุรากิชวนวาคาบะจังขึ้นเรือครุยเซอร์กันสองคนคงเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้ามีเอ็นโจและฉันไปด้วยก็เหมือนว่าวาคาบะจังได้รับการยอมรับจากพวกเราแล้ว หนทางรักของนายในซุยรันคงจะราบรื่นขึ้นสินะคะ
แล้วถึงแม้ว่า คาบุรากิเกิดบ้าจี้สารภาพรักกับวาคาบะจังแล้วโดนวาคาบะจังปฏิเสธ มีเอ็นโจอยู่ด้วย คงพอฉุดตาบ้านี่ไม่ให้โดดน้ำฆ่าตัวตายได้แหละ
พอคิดถึงความพยายามและพัฒนาการของคาบุรากิก็ทำให้ซาบซึ้งจนอยากเอาใจช่วยนะคะ วาคาบะจัง ท่านเอ็นโจ ฝากด้วยนะคะ
มีพิมพ์ผิดบ้าง ขออภัยเพื่อนโม่งด้วย
แต่ง fic ต่อได้ป่าว ถ้าไม่ได้ก็บอกเน้อ
>>819 "คิโชวอิน"
"คะ..."
"ฉันนี่มันโง่จริงๆเลยนะว่ามั้ย มีของดีอยู่ใกล้ตัวแต่ดันไม่เห็นค่า เอาแต่ไปไล่ตามคนอื่นอยู่ได้"
"ค่ะ"
"ฉันน่าจะรู้ตัวนานแล้ว ว่าที่จริงแล้วฉันน่ะ รักใครมาตลอด..." คาบุรากิมองฉันด้วยสายตาลึกซึ้ง อะ...อะไรกัน หมายความว่ายังไงน่ะยะ อย่าบอกนะว่า...
"ดะ เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนค่ะ ฉันว่ามัน..."
"คนที่ฉันรักน่ะ..." คาบุรากิพูดต่อไปไม่ได้ฟังเสียงห้ามของฉันเลย แย้มรอยยิ้มแถมสายตายังเป็นประกายราวกับกำลังนึกถึงเรื่องที่ทำให้มีความสุขอย่างไรอย่างนั้น
"ท่านคาบุรากิคะ"
"ก็คือชูสุเกะยังไงล่ะ"
สายตาของคาบุรากิไปหยุดอยู่ที่คนข้างๆตัวฉัน เอ็นโจเงยหน้าขึ้น สีหน้าท่าทางดูสับสน
"มาซายะ"
คาบุรากิประกาศเสียงดังฟังชัดแล้วก็ก้มหัวลง "ขอโทษนะที่เอาแต่มองข้ามความรู้สึกของนายมาโดยตลอด ฉันมัวแต่ไปยึดติดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่จากนี้ฉันมั่นใจแล้วว่าคนที่ฉันรักจะเป็นใครไม่ได้อีกนอกจากนาย"
"มาซายะ"
"ขอบคุณที่รอกันมาจนถึงป่านนี้ ให้ฉันได้แน่ใจความรู้สึกของตัวเองซักที" คาบุรากิมาหยุดยืนตรงหน้าเอ็นโจ ส่งยิ้มให้ "ฉันรักนาย"
เอ็นโจยิ้มตอบ
"ฉันรู้"
--------------
เราลืมใครไปรึเปล่าน้อ
กรี๊ดดดด ถ้าเป็นแบบนี้จะหักมาก แบบแตกละเอียดเลยอ่าาา
จะฟินก็ไม่ใช่จะเจ็บใจก็ไม่เชิง อารมณ์กูแบบกูอธิบายไม่ถูก 55555
fic ต่อจาก >>813 นะ
.
.
.
.
.
พอฝากฝังคาบุรากิไว้กับวาคาบะจังและเอ็นโจไว้ในใจได้ ฉันเองก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น คิดอีกทีนี่ก็เป็นโอกาสอันดีที่ฉันสามาถใช้เป็นข้ออ้างเรื่องมิตรภาพระหว่างฉันกับวาคาบะจังได้เหมือนกัน หลังจากงานนี้ก็สามารถบอกกับใครๆได้ว่ามีโอกาสสนิดสนมกับวาคาบะก็เพราะยูกิโนะคุงชวนไปล่องเรือชมดอกไม้ไฟพร้อมท่านคาบุรากิและท่านเอ็นโจ โฮะ..โฮะ..โฮะ.. ต่อไปเจอกันที่ไหนก็สามารถแสดงความเป็นกันเองกับวาคาบะจังได้บ้างโดยไม่ต้องกลัวคาบุรากิจะจับได้แล้วสินะ เรื่องโคโระอะไรนั่น ลืมๆมันไปซะเถอะค่ะ
ถึงคาบุรากิจะบอกว่าตั้งใจให้เป็นแต่การล่องเรือชมดอกไม้ไฟง่ายๆ ไม่ได้จัดหรูหราอะไร แต่ฉันก็ไม่อยากทำลายความคาดหวังของยูกิโนะคุง เย็นนั้นกลับบ้านก็วุ่นวายหยิบเอากิโมโนฤดูร้อนมาเลือกพร้อมขอคำปรึกษาจากท่านแม่ การแต่งกิโมโนฤดูร้อนที่มีอิมเมจสบายๆ จริงๆก็มีรายละเอียดเยอะอยู่นะคะ พอท่านแม่ทราบว่าไปกับคาบุรากิและเอนโจก็ยิ่งพิถีพิถัน นอกจากจะเลือกชุดกิโมโนจากสีและลวดลายให้เข้ากันแล้ว ยังช่วยเลือกครื่องประดับผมและของแต่งตัวจุกจิกและความหมายไปในทิศทางเดียวกัน ให้อีกด้วยค่ะ กว่าจะเสร็จก็ลองแล้วลองอีกจนดึกดื่น ต้องขอบคุณทานแม่มากๆเลยค่ะ
วันรุ่งขึ้นหลังจากทบทวนบทเรียนช่วงเช้าเสร็จ ก็ไปทานกลางวันนอกบ้าน เดินช๊อปปิ้งเลือกซื้อของและแวะดื่มชาเป็นเพื่อนท่านแม่ รอเวลานัดไปทำผมที่ซาลอน สำหรับเรื่องทรงผม ทีแรกฉันเองก็อยากจะอาศัยโอกาสนี่เปลี่ยนจากทรงผมเกลียวหลอดเป็นทรงอื่นบ้าง ก็กะว่าจะเรียบๆเคียงๆถามท่านแม่ดูว่าลองยืดผมดีไหม จะได้มีอิมเมจเป็นสาวญี่ปุ่นผมเรียบตรงดำขลับ แต่พอคิดภาพตัวเองในชุดกิโมโนพร้อมผมเรียบตรง ก็ดันนึกถึงบาดแผลที่เคยถูกเรียกว่าตุ๊กตาฮินะ เจ็บใจจี๊ด ไม่เอาดีกว่า ยูกิโนะคุงก็เคยบอกว่าชอบผมหลอดของฉันนี่เนอะ
ท่านแม่กำกับให้ช่างผมก็รวบผมเกลียวหลอดของฉันไว้ด้านข้าง แล้วก็หยิบเครื่องประดับผมรูปดอดไม้มาเล็งตำแหน่งติดให้ฉัน เครื่องประดับผมที่เป็นงานระดับช่างฝีมือ แต่ละกลีบทำจากผ้าเย็บละเอียดไล่สีสวย ท่านแม่เคยสั่งทำไว้นานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสใด้ใส่ ระหว่างที่ติดเครื่องประดับผมอย่างใจเย็น ช่างก็ชมแล้วชมอีกว่าฉันมีลำคอที่ยาวระหง เหมาะกับชุดกิโมโนมากๆ ฟังแล้วถึงจะพอทราบว่าเป็นคำชมตามมารยาท ฉันก็อดรู้สึกดีใจไม่ได้ เห็นไหม ฉันมีคอยาวระหง ไม่ใช่ว่าลำตัวยาวซะหน่อยนะคะ ฮึ
ต่อจาก >>824
.
.
.
มัวแต่วุ่นวายกับชุดกิโมโนและทรงผม นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกวาคาบะจังเรื่องที่จะได้เจอกันเย็นนี้เลยค่ะ
แต่วาคาบะจัง น่าจะพอทราบจากคาบุรากิแล้วละมั้ง
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมจะส่งเมล์ให้วาคาบะจัง อยากจะร่ายยาวบ่นให้ฟังว่าแผนถูกเปลี่ยนจากชมวิวภัตตาคารยอดตึก ไปเป็นบนเรือกระทันหันได้อย่างไร แต่เอ๊ะ ฉันเองก็ไม่เคยเกริ่นให้วาคาบะจังฟังเรื่องเทรนนิ่งกับคาบุรากิเลย จะถูกวาคาบะจังเข้าใจผิดคิดว่าฉันว่าสนิดสนมกับคาบุรากิหรือเปล่านะ พอคิดได้แบบนี้ก็พิมพ์ไปสั้นๆแค่ว่าฉันได้รับเชิญในฐานะผู้ติดตามยูกิโนะคุงไปขึ้นเรือของคาบุรากิโดยไม่ได้ตั้งใจ เย็นนี้คงได้เจอกันนะคะ
กำลังกังวลว่าถ้าวาคาบะจังมีใจให้คาบุรากิ ฉันจะถูกมองว่าไปขัดจังหวะเดทของพวกเขาหรือเปล่า ซักพักก็ได้มีเมล์ตอบจากวาคาบะจัง
'โล่งใจจังที่เย็นนี้จะได้เจอคุณคิโชวอิน ตอนที่คุณคาบุรากิชวนก็มัวแต่คิดว่าโอกาสที่จะได้ชมดอกไม้ไฟบนเรือริมอ่าวน่าจะหาได้ยาก น่าจะเก็บประสพการณ์มาเล่าให้น้องๆฟัง มัวแต่ตื่นเต้น รู้ตัวอีกทีก็รับปากไปซะแล้ว ไม่ทันได้ถามว่า ไม่รู้ว่าทางคุณคาบุรากิชวนใครไว้บ้าง พอทราบว่าคุณคิโชวอินมาด้วยก็ดีใจมากเลย มีเรื่องปรึกษานิดนึงค่ะ คุณคิโชวอินคิดว่างานบนเรือแบบนี้ ลมจะแรงหรือเปล่าใส่ชุดยูกาตะไปจะเหมาะสมไหม ควรใส่อะไรที่รัดกุมซักหน่อยจะดีกว่าไหมคะ'
อ๊ากกกก นี่คาบุรากิชวนวาคาบะจังไปโดยไม่บอกว่าไปล่องเรือแค่สองคนงั้นเหรอ
ตายแล้ว ตาบ้านนั่นคิดอะไรอยู่กันแน่ วางแผนขู่กันโชกความรักกันกลางทพเลหรือไง
ก็ยังดีนะยังสำนึกทัน นับว่าคาบุรากิโชคดีที่มีเอ็นโจไปเป็นเพื่อน ยอมเปลี่ยนแผนโทรไปยกเลิกการจองโต๊ะกับทางภัตตาตาร
เฮ้อ คาบุรากิ นายนี่มันมีดีที่หน้าตา พฤติกรรมแต่ละอย่าง นี่สร้างความเดือดร้อนวุ่นวายให้คนรอบข้างจริงๆ
คิดถึงความหายนะที่อาจจะเกิดขึ้นก็ทำฉันเอาเครียดไปหมดเลยล่ะค่ะ
ว่าแต่ เรื่องลมแรงกับกิโมโนฤดูร้อนนี่ก็ไม่เคยฉุกคิดมาก่อนเลยนะคะ
ฉันเองก็เคยคิดตามท่านพ่อท่านแม่ไปงานปาร์ตี้บนเรือครุยเซอร์ก็หลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยสวมชุดกิโมโนไปงานบนเรือด้วยสิคะ ปกติงานบนเรือทั่วไป ถ้าลมแรงก็พอจะหลบในส่วนนั่งเล่นที่มีแอร์ได้ แต่เวลาดูดอกไม้ไฟนี่ยังไงก็ต้องออกไปยืนที่ดาดฟ้าเรือเพื่อดูดอกไม่ไฟให้เต็มฟ้านะคะ จะหลบมัวใหนห้องแอร์ที่มีหลังคาคลุมก็คงไม่ได้
วาคาบะจังเองวันนี้คงจะใส่ชุดยูกาตะแล้วก็เสียบปิ่นปักผมที่ได้รับจากคาบุรากิสินะ ฉันเอามือแตะทรงผมที่รวบไว้เรียบร้อยแน่นหนาด้วยฝีมือช่าง อืม..น่าจะโอเคละมั้ง ท่านแม่ทำผมเสร็จเดินออกมาพอดี ฉันเลยถือได้โอกาสขอเคล็ดลับการสวมชุดกิโมโนสู้กับลมแรงจากท่านแม่
ท่านแม่ให้ความมั่นใจกับฉัน พลางบอกว่าช่วงหน้าร้อนที่จุดพลุได้นี่คนจัดงานต้องเช็คสภาพอากาศเลือกช่วงเวลาที่ลมไม่แรงอยู่แล้ว
แทนที่ฉันจะกังวลเรื่องลม น่าจะกังวลเรื่องความร้อนจะดีกว่า ยืนบนดาดฟ้าเรือตอนลมสงบในหน้าร้อนน่ะ อบอ้าวไม่ใช่เล่น ฉันนึกภาพตัวเองยืนเหงื่อซกในชุดกิโมโนต่อหน้ายูกิโนะคุงก็รู้สึกพรั่นพนึงในใจ โอ้ว... ไม่นะคะ
ท่านแม่เห็นฉันทำหน้าเสีย เลยปลอบว่า กิโมโนหน้าร้อนของฉันที่ท่สนแม่เลือกให้ทำจากผ้าใยธรรมชาติ มีการถ่ายเทอากาศ ใส่แล้วไม่ร้อน ถ้าเป็นชุดกิโมโนหน้าร้อนทั่วไปที่ราคาไม่แพงอาจจะทำจากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ แบบนั้นน่ะ ใส่แล้วร้อนอบเชียวล่ะ ว่าแล้วท่านแม่ก็เตือนฉันว่าเย็นนี้อย่าลืมหยิบพัดเล็กๆติดมือไปด้วย
ฉันเมล์ไปบอกวาคาบะจังตามที่ได้รับคำอธิบายจากท่านแม่ แล้วก็รอคอยเช่วงเวลานัดที่จะได้เจอ วาคาบะจัง และ ยูคิโนะคุง ด้วยใจจดจ่อค่ะ
ขออภัยเรื่องตำผิดน้าาา
ต่อจาก >>825
.
.
.
ฉันให้คนรถที่บ้านไปส่งที่โรงแรมของทางครอบครัวคาบุรากิ กะให้ไปถึงก่อนเวลาที่นัดไวนิดนึง สถานที่นัดพบเป็นโรงแรมหรูหราติดริมน้ำ เรือครุซเซอร์ของโรงแรมจอดอยู่ที่ท่าเรือ เดินเข้าไปที่ล๊อบบี้ก็มีพนักงานออกมาต้อนรับ คงจะพอทราบจากคาบุรากิไว้แล้ว เดินนำฉันมายังบริเวณพักคอยที่จัดเตรียมไว้เป็นสัดส่วนไม่ไกลจากท่าเรือ
อ้า...อากาศสดชื่นดีจัง ลมเบาๆกำลังสบาย ได้กลิ่นทะเลสดชื่นจากริ่มอ่าวผสมกับกลิ่นดอกอาจิไซที่ชูช่อบานสะพรั่งอยู่ริมทางเดิน
ฉันสวมชุดกิโมโนหน้าร้อนสีฟ้า มีลวดลายช่อดอกโชวบุไล่สีม่วงอ่อนเข้มและก้านสีเขียวสดเป็นลายต่อเนื่องกันทั้งตัว ใช่ค่ะ ถึงจะเป็นกิโมโนหน้าร้อนแต่ก็เป็นแบบที่มีการตัดเย็บก่อนนำไปออกแบบลายและย้อมสี เรียกได้ว่าใช้เทคนิคเดียวกับการออกแบบกิโมโนโฮมงงิเชียวนะคะ ผ้าโอบิด้านหนึ่งเป็นสีม่วง มีแถบสีเขียวและเหลืองปักเป็นลายใบไม้ดอกไม้เล็กๆเรียงเป็นแถวอยู่ตรงกลาง อีกด้านเป็นสีเหลืองอ่อน เวลาคาดโอบิ ท่านแม่มีวิธีการให้แถบเหลืองแลบออกมาด้านบนตัดกันกับสีม่วง ด้านหลังผูกเป็นโบว์แบบเรียบง่าย แน่นอนว่าสวมถุงเท้ารองเท้า และกระเป๋าถือเข้าชุดกันตามที่ท่านแม่เลือกไว้ให้ค่ะ
พอเห็นฉัน ยุกิโนคุงก็รีบวิ่งเข้ามาจับมือ ท่าทางร้อนรนปนดีใจ แหม อยากเจอฉันขนาดนั้นเลยหรือคะ ยังไม่ทันจะส่งเสียงทักทายกันเสร็จ สายตาฉันก็เหลือบไปเห็นเอ็นโจเดินควงคู่มากับคุณยุยโกะ
ขออภัย ย้อมสีหลังวาด pattern ตัด ไม่ใช่หลังตัดเย็บจ้า
ต่อจาก >>828
.
.
.
อันที่จริงคู่นี้ดูไปแล้วก็เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ยิ่งเดินควงแขนกันมาช้าๆตามทางเดินดอกอะจิไซ ก็เหมือนคู่รักเลิฟเบิร์ดในนิยายยังไงยังงั้น
คุณยุยโกะสวมชุดเดรสคอวีแขนกุดไล่สีสีขาวอมม่วงอ่อน ขับให้ช่วงแขนที่เรียวขาวที่คล้องเกี่ยวอยู่กับแขนของเอ็นโจ ดูสดสวยและบอบบางเหมือนดอกฟูจิ กระโปรงยามคร่อมเท้ามีรอยผ่าข้างถึงเหนือเข่า จังหวะก้าวเดินเห็นช่วงขายาวผอมเพรียว เปรียบเทียบกันแล้ว คนที่ช่วงน่องสั้นกว่าต้นขาอย่างฉันเห็นแล้วได้แต่หดหู่ในใจ
" สวัสดีคุณคิโชวอิน รอแป็บนึงนะ มาซายะไปรับคุณวาคาบะ กำลังเดินทางมา " เอ็นโจส่งยิ้มจ้าบาดใจ ที่ใช้เข้าสังคมมาทักทายฉัน นายเป็นโฮสเรอะ เห็นแล้วก็หงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล
"สวัสดีค่ะท่านเอ็นโจ....คุณ..อุริว" ฉันพยายามนึกชื่อสกุลคุณยุยโกะ ทักอย่างไม่ค่อยมั่นใจ หันไปสบตาเอ็นโจ ใช่หรือเปล่า นามสกุลว่าที่คู่หมั้นนายนะ เพิ่งเจอกันไม่กี่หนเอง จริงๆควรเป็นหน้าที่นายที่แนะนำให้ฉันรู้จักอีกทีไม่ใช่เรอะ
คุณยุยโกะผงกศีรษะรับคำทักทายจากฉัน แต่ก็ไม่ได้ทักทายอะไรกลับมา เอ๋...แบบนี้ก็ได้เหรอ ขณะที่ฉันกำลังมึนงง ไม่รู้ว่าจะไปต่อยังไง ยูกิโนะคุงดึงมือมือฉันเบาๆ "คุณพี่เรย์กะฮะ เราไปดูปลาคารร์ฟที่สะพานไม้ตรงนั้นกันไหมฮะ" พี่กำลังหาทางชิ่งจากตรงนี้พอดี แท้งกิ้วจ้ะยูคิโนะคุง ฉันก้มลงไปสบตาเทวดาน้อย อยากก้มลงไปจุ๊บแก้มใสนั่นให้ชื่นใจ ความหงุดหงิดหายวับไปทันที "ได้สิจ้ะ" แล้วก็หันไปขอตัวจากคู่รักเลิฟเบิร์ดอย่างมีมารยาท
เอ็นโจเดินตามมาพร้อมกับกำชับยูกิโนะเบาๆ "อย่ารบกวนคุณคิโชวอินมากนักล่ะ พี่เดินไปส่งพี่ยุยโกะที่เรสเตอรองค์ริมน้ำ ไม่นานจะรีบกลับมานะ" ยูกิโนะไม่ฟังเสียงฉุดฉันเดินมุ่งหน้าไปที่สะพายไม้ ชี้ชวนให้ฉันไปดูปลาคาร์ฟอย่างร่าเริง
ต่อจาก >>832
.
.
สนุกอยู่กับยูคิโนะคุงได้ไม่นาน คาบุรากิกับวาคาบะจังก็เดินผ่านทางเดินอะจิไซมาด้วยกัน ยูกิโนะคุงทักทายวาคาบะจังอย่างมีมารยาท ฉันก็ทักทายทั้งคู่เช่นกัน พยายามกดเสียงไม่ให้ฟังดูร่าเริงเกินไปนัก กำลังคิดว่าชวนวาคาบะจังมาดูปลาคารฟ์ด้วยกันจะดีไหม เอ็นโจวก็ตามมาสมทบ มาถึงก็ทักทายวาคาบะจังและอธิบายให้คาบุรากิฟัง " เดินไปส่งยุยโกะ ที่เรสเตอรองค์ริมน้ำมาน่ะ เจอกันโดยบังเอิญ วันนี้ครอบครัวคุณน้าจองโต๊ะที่ริมน้ำรอดูพลุที่นั่น" แหม อธิบายซะละเอียด ใครจะสนกันคะ
วาคาบะจังดูสดใสน่ารักในชุดยูคาตะสีชมพูลายดอกสึบากิ ผมสีน้ำตาลเข้มละเอียดที่ที่ปกติจะปลอยให้เคลียบ่าวันนี้ถูกรวบไปด้านหลัง มุ่นเป็นมวยหลวมๆ ด้วยปิ่นรูปผีเสื้อ คงเป็นปิ่นที่คาบุรากิให้มาวันก่อนสินะคะ
คาบุรากิเองก็สวมชุดยูกาตะผ้าฝ้ายสีน้ำเงินเข้ม ยืนอยู่ข้างวาคาบะจัง ดูเผินๆเหมือนนิ่งขรึม แต่สำหรับฉันที่รู้จักตัวตนของหมอนี่มานาน เห็นได้ชัดว่าคาบุรากิกำลังประหม่าอยู่ สังเกตุได้ว่าหมอนี่พยายามหลบตาฉัน เอาล่ะ เอาล่ะ ลูกบ้านคานทองการพยายามออกจากหมู่บ้าน ไม่ใช่เรื่องต้องละอาย ถ้าทำสำเร็จฉันในฐานะผู้ใหญ่บ้าน ก็ต้องแสดงความยินดีด้วยอยู่แล้วล่ะค่ะ ถึงอาจจะว้าเหว่อยู่ซักนิดก็เถอะนะ
ต้องยอมรับว่าวันนี้คาบุรากิดูดีมาก แต่ความทุ่มเทถึงกับลงทุนใส่ยูกาตะเพื่องานนี้ต่างหากที่ทำให้ฉันต้องนับถือในใจ เอาน่า ดูดีแล้ว ไม่ต้องเขิลไปหรอกค่ะ ฉันส่งยิ้มให้กำลังใจคาบุรากิ
จังหวะนั้นคาบุรากิหันมาสบตากับฉันพอดี จู่ๆก็หน้าแดง มีสีหน้ากระอักกระอ่วน นายเป็นอะไรไปอีกล่ะ รักษามาดเท่เคร่งขรึมสมเป็นพระเอกมังงะไว้สิ ฉันหันไปมองวาคาบะจังก็เห็นว่ากำลังตาแป๋วตั้งอกตั้งใจฟังยูกิโนะคุงพูด ไม่ได้เห็นท่าทางพิลึกของคาบุรากิ โล่งอกไปที
"วันนี้คุณคิโชวอินน่ารักมากเลยเนอะ มาซายะ" จู่ๆเอ็นโดก็พูดขึ้นมา ทีแรกฉันก็วูบไหวไปบ้าง แหม ฉันน่ะไม่ค่อยได้รับคำชมจากเพศตรงข้ามมากนักหรอกค่ะ แต่พอคิดได้ว่าหมอนี่เป็นมือวางตำแหน่งผู้สืบทอดกิจการหมู่บ้านคาสโนว่า กับคำชมนั่นก็เห็นได้ชัดว่าเป็นการชมเชยตามมารยาท กับคุณยุยโกะที่เดินควงแขนกัน ไม่รู้ว่าจะมีวาจาหวานหูมากขนาดไหน
"ฮื่อ" คาบุรากิรับคำเบาๆอย่างเสียไม่ได้ นี่คงไม่ใช่ว่าคิดคัดค้านในใจ แต่ไม่กล้าเหน็บแนมฉันเพราะวาคาบะจังยืนอยู่ข้างๆหรอกนะ
"ช่วยอย่าพูดกันเหมือนฉันไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ได้ไหมคะ" ฉันดุเอ็นโจและคาบุรากิ แล้วหันไปพูดกับวาคาบะจัง "คุณทาคามิจิในชุดยูคาตะได้ดูสดใสเปล่งประกายมากเลยนะคะ " นี่ การชมที่จริงใจมันต้องแบบนี้ "ปิ่นรูปฝีเสื้อนั่นก็ดูแปลกตา น่ารัก เลือกมาได้เหมาะชุดที่สวมในวันนี้มากเลยค่ะ" ต้องมีรายละเอียด ชี้ให้เห็นจุดดีที่ตรงเป้า
"เอ่อ ปิ่นนั้นได้รับมาเป็นของขวัญน่ะค่ะ" วาคาบะจังพูดและหันไปมองกับคาบุรากิ เอ๊ะ สังเกตุดูดีๆ ปิ่นรูปผีเสื้อนั่นดูแปลกตาจริงๆ ไม่เคยเห็นวางขายที่ไหนนะ อย่าบอกนะว่าเป็นของขวัญทำมือแทนใจจากคาบุรากิ
"เอ่อ ก็เป็นของขวัญขอบคุณที่ทาคามิจิมาดูดอกไม้ไฟด้วยกันวันนี้ไงล่ะ ถ้าคิโชวอินชอบ วันหลังฉัน...." คาบุรากิพูดอ้ำอึ้ง
"แต่ผมชอบดอกไม้ประดับผมของคุณพี่เรย์กะมากเลยนะครับ ดูเรียบๆแต่ฝีมือปราณีตมากเลยครับ " แหม ยูกิโนะคุงช่างตาถึง ที่ติดผมอันนี้ท่านแม่ของฉันสั่งทำมาเป็นพิเสษ...
"นั่นน่ะ เป็นผลงานของปรมาจารย์ระดับศิลปินแห่งชาตินะ ยูคิโนะ" คาบุรากิ พูดชื่อศิลปินท่านนั้นอย่างเรียบๆ เอ๋ ช่างสมเป็นคาบุรากิ รู้เรื่องทั่วไปที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ เพราะนายทำเครื่องประดับให้วาคาบะจัง เลยทุ่มเทศึกษาอยู่สินะ
"มิน่า เลยเหมาะกับคุณพี่เรย์กะเป็นที่สุดเลยครับ" คำชมของยูกิโนะคุงทำเอาฉันตัวลอย
ขอให้พรุ่งนี้ท่านฮิโยโกะออกตอนใหม่แล้วเหมือนฟิกที่แต่งมาเสมือนหนึ่งนั่งอ่านอยู่ในโม่ง
พวกมึงคิดว่าระหว่างท่านฮิโยโกะมาอัพกับฟิคในโม่งจบ เหตุการณ์ไหนจะเกิดก่อนกัน... กูว่าอย่างหลังว่ะ//ร่ำไห้
ฟิคเกอิช๊าาาาาา(เอคโค่) กูยังรออยู่เด้อออ
รอฟิคบ้านพักคนชราค่--- //แค่กๆๆ
Bad endddddd
เกอิช๊าาา ด้วยคนจิ
กำลังคิดว่าไหลมาแปดร้อยกว่าแล้ว ควรเริ่มโหวตชื่อกระทู้ใหม่ดีไหม 555555
แฟนอาร์ตใหม่ละมุนจังเลยข่าาาาาา
https://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=medium&illust_id=67148847
ฟิกเกอิชาอยู่ไหน หาในสารบัญไม่เจอ
fic ต่อจาก >>833
.
.
.
.
" เป็นผลงานที่ถูกขอให้ทำขึ้นมาโดยเฉพาะเลยสินะ " เอ็นโจมีท่าทีสนใจ เดินเข้าใกล้ ก้มลงมองเครื่องประดับผมรูปดอกไม้ที่ติดอยู่บนผมของฉัน รู้สึกได้ถึงลมหายใจแผ่วๆที่หลังใบหูและท้ายทอย
" จะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ " ถึงฉันอุบอิบตอบออกไป กว่าจะได้มา ท่านแม่ถึงกับต้องไปเยี่ยมเยียนที่เกียวโตเชียวล่ะค่ะ ว่าแต่ว่า เอ็นโจ นายยืนไปอีกสักนิดก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ
" คงเป็นเพราะจิตวิญญาณของศิลปิน คุณคิโชวอินวันนี้เลยงดงามเป็นพิเศษ " เอ็นโจส่งยิ้มระดับลูกบ้านคาสโนว่าให้ฉัน
" เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง... " คาบุรากิกระตือรือร้นขึ้นมาทันที พยักหน้าให้ฉันเบาๆ "นี่ คิโชวอิน ที่ติดผมของเธอมีคุณค่ามากนะ ดูแลให้ดีล่ะ ท่านผู้นั้นเพิ่งจะเสียชีวิตไปไม่นานมานี้เอง"
หือออ.....จู่ๆท้องฟ้าก็มืดครึ้ม ทันที่ที่คาบุรากิพูดจบ แสงสนธยาก็ลับขอบฟ้า ฉันได้ยินเสียงหญิงสาวครางแผ่วๆ
.
.
"ซู..........."
โม่งฟิค ได้โปรดอย่าปล่อยให้ค้างคา
Fic ต่อจาก >>857
.
.
.
คุณยุยโกะสวมเสื้อคลุมสีลาเวนเดอร์ทับชุดเดรสยาว เดินมาพร้อมกับ มาดามคาบุรากิ และ สุภาพสตรีผมสีเงินรูปร่างบอบบางในชุดกิโมโน
“อ๊ะ อยู่กันที่นี่หรือจ้ะ” มาดามคาบุรากิส่งเสียงทักทายพวกเรา บุคลิกเจิดจ้าสง่างามของมาดามคาบุรากิ ลบล้างบรรยากาศวังเวงเมื่อครู่ไปเป็นปลิดทิ้ง
“มาซายะบอกว่าวันนี้ชวนเพื่อนมาดูดอกไม้ไฟ ที่แท้เป็นคุณเรย์กะนี่เอง” มาดามคาบุรากิเดินเข้ามาใกล้
เอ๋....
ฉันแอบกวาดสายตามองสถาณการณ์รอบข้าง เห็นเอ็นโจและยูกิโนะคุงกำลังเดินเข้าไปต้อนรับและทักทายสุภาพสตรีในชุดกิโมโน วาคาบะจังยืนสำรวมอยู่ไม่ห่างนัก ส่วนคาบุรากิ เนื่องจากเมื่อครู่สนใจเครื่องประดับผมของฉันเลยเข้ามายืนดูอยู่ใกล้ๆ
เลยกลายเป็นว่ามาดามเห็นฉันยืนคู่กับคาบุรากิ
คาบุรากิละสายตาจากผลงานศิลปินแห่งชาติ ส่งเสียงกึ่งรับคำสั้นๆ ท่าทางไม่ค่อยสบายใจ แหงล่ะ ถูกเข้าใจผิดแบบนี้ไม่ดีแน่
“สวัสดีค่ะ” ฉันรีบทักทายอย่างสุภาพ เดินอ้อมคาบุรากิไปยืนข้างๆวาคาบะจัง “พวกเรามารบกวน เกรงใจจังเลยค่ะ” หันไปสบตาวาคาบะจัง เพื่อเน้นคำว่าพวกเราให้ชัด “ทางนี้เพื่อนจากซุยรัน คุณทาคามิจิ วาคาบะค่ะ” จริงๆแล้ว อยากจะตะโกนบอกว่าคนที่คาบุรากิตั้งใจชวนมาวันนี้คือคุณวาคาบะนี่ต่างหากล่ะคะ อีกอย่างนะ การแนะนำวาคาบะจังกับท่านแม่ของนาย มันต้องเป็นหน้าที่นายไม่ใช่เหรอ คาบุรากิ
มาดามคาบุรากิชวนวาคาบะจังและฉัน พูดคุยอย่างมีอัธยาสัย
เอ็นโจเดินตามมาสมทบ ปรากฏว่าสุภาพสตรีในชุดกิโมโน เป็นท่านยายของเอ็นโจ และ ยูกิโนะคุง และเป็นท่านย่าของคุณยุยโกะค่ะ
“คุณคิโชวอินนี่เอง” คุณยายของเอ็นโจอุทานเบาๆ เดินเข้ามาจับมือฉันอย่างสนิทสนม
“ลูกสาวเล่าให้ฟังว่าเคยมาเยี่ยมที่บ้าน ยังชมอยู่เลยว่าอาหารที่ทำมาให้ทานอร่อยมาก” น่าจะหมายถึงตอนที่ฉันได้รับเชิญไปงานวันเกิดของยูกิโนะคุง แล้วก็เอาอาหารที่ช่วยคุณอาคามิทำ ไปร่วมงานน่ะค่ะ
“นั้นสิคะ มาดามคิโชวอินก็พูดบ่อยๆว่าคุณเรย์กะชอบทำอาหาร คราวที่แล้วเชิญมางานเลี้ยงที่บ้านก็เอาช็อกโกแลทมาฝาก ถูกใจมาซายะมาก วันนี้คุณเรย์กะมาเป็นแขกของมาซายะค่ะ” มาดามคาบุรากิกล่าวกับคุณยายของเอ็นโจพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน
“จริงสิ เดี๋ยว ซูซุเกะคุงก็ชวนคุณยุยโกะไปชมดอกไม้ไฟบนเรือด้วยกันสิคะ เพิ่มอีกคนพอได้เนอะมาซายะ” มาดามพยักหน้าเบาๆให้คาบุรากิด้วยทีท่าสง่างาม
“อย่าดีกว่าค่ะ เป็นการรบกวนเปล่าๆ” คุณยุยโกะรีบพูดด้วยท่าทางเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ จริงไหมคะ มาดามอุริว เราปล่อยให้หนุ่มสาวไปสนุกกันเถอะนะคะ”
โม่งฟิค ช่วยลงในสารบัญด้วย และเวลาลง บอกชื่อเรื่องก่อนหน่อยค่าา กูเพิ่งมา งง ต้องมาไล่หาว่าฟิคเรื่องไหนวะ นึกว่าฟิคเก่าๆ...
14 กุมภานี้จะหวังตอนใหม่ได้มั้ยน้า...
ถามนิด เวลาโมงแต่งฟิกกันแล้วไม่พอใจทำไงกันเหรอ
ถ้าแก้แล้ววงเวอร์ชั่นอิดิทจะโดนโม่งด่าไหม
อ่านแล้วอยากกลับไปแก้ รู้สึก OCC
แทงคิ้วโม่งฟิคทุกคนที่ลงฟิคมาให้กาวกันนะ ไม่ได้เข้าหลายวัน ไล่อ่านรัวๆเลยย
กระทู้นี้จะเต็มตอนไหน?5555
กลับไปอ่านอีกรอบ กรูว่าวาคาบะจังน่าจะชอบคาบุรากินะ ถึงขั้นทำข้าวกล่องให้ทาน คาบุชวนไปไหนก็ไป ไปดูดอกไม้ไฟก็บอกคาบุว่าอยากใส่กิโมโน กูว่านางมีใจให้ชัวร์ ถ้าให้คาบุกลับตัวมาชอบเรย์กะก็ไม่ไหวนะ คือจีบจริงจังขนาดนี้แล้ว ถ้าบอกว่ามาชอบท่านเรย์กะก็สงสารวาคาบะล่ะ
ถ้าตอน 300 มาอัฟวันวาเลน์ไทน์ เป็นเรื่องไปดูดอกไม้ไฟกับเอ็นโจอีก นี่กุจะฟินมาก
เจอทวิตอันนี้แล้วนึกถึงชุดนักเรียนซุยรันเลยถถถถ
https://twitter.com/GratitudeDNA/status/962119023944122368?s=09
แต่ถ้าเด็กหล่อในชุดสูทนะมึ๊งงง//บ้านป้ามีขนมนะลูกกก
เพื่อนโม่ง เมื่อวานกูฝันถึงโมเม้นซัมติงของเอ็นโจกะท่านเรย์กะ แล้วตื่นขึ้นมากลางดึก ทีนี้กูก็พยายามจำมากวนกาวเขียนฟิค แต่ด้วยความง่วงและขี้เกียจลุกมาเขียนใส่กระดาษกูจึงใช้สมองในการจดไว้ว่าโมเม้นเป็นงี้ๆนะสองสามรอบคิดว่าจำได้แล้ว พอกูตื่นมาตอนเช้ากูก็จำไม่ได้แล้วว่าอะไรวะ พึ่งนึกออกเมื่อกี้ด้วยซ้ำว่ากูฝัน;-;
แค่ก กูคนฝันเอง มัน…ไม่เหลืออะไรในสมองกูเลยว่ะ อห เสียดายยยย
หายกันไปนานกับฟิคนี้ ขอเชิญพบกับ เอ็นโจเลี้ยงต้อย >>>/webnovel/4296/796-799
-------------------------------------------
คาบุรากิ มาซายะ(1/2)
.
.
.
พอก้าวเข้ามาในโรงแรม เลขาของแม่ที่มารอต้อนรับอยู่แล้วก็เดินเข้ามาหา ก้มหัวและผายมือให้ไปทางลิฟท์สำหรับผู้บริหาร แจ้งว่าแม่กำลังรออยู่
ฉันพยักหน้ารับรู้ ปล่อยให้ลิฟท์เคลื่อนตัวไปข้างบน ไม่ถึงยี่สิบวินาทีก็มาหยุดที่ชั้นที่ต้องการ
พอก้าวออกจากลิฟท์ ฉันก็เดินตรงไปที่ภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสอันเป็นที่นัดหมาย แต่ระหว่างทางก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งก้มตัวลงใกล้ๆกับสวนเล็กๆที่จัดไว้ ผมม้วนๆที่หันหลังให้ดูคุ้นตาชอบกล
เธอคนนั้นหันกลับมา ทำท่าสะดุ้งตกใจเล็กน้อย
“ท่านคาบุรากิ” เธอรีบก้มหัวลงทักทาย “สวัสดีค่ะ”
“คิโชวอิน” ฉันเลิกคิ้วขึ้น “ทำอะไรอยู่น่ะ”
“พอดีสร้อยคอมันตกลงไปในแปลงดอกไม้น่ะค่ะ ก็เลย...” คิโชวอินก้มหน้าลง “ขออภัยนะคะที่ทำให้แปลงดอกไม้ของท่านคาบุรากิต้องเสียหาย”
“เรื่องแค่นั้นเอง” ฉันก้าวฉับๆไปที่พุ่มดอกไม้ที่ว่า แหวกๆกิ่งก้านและใบไม้อยู่ครู่หนึ่งก็เจอวัตถุแวววาวสีทองสะท้อนให้เห็น ฉันหยิบมันขึ้นมา “ใช่อันนี้รึเปล่า”
“ขอบคุณมากเลยนะคะ” เธอก้มหัวลง เห็นแล้วอดนึกถึงทาคามิจิไม่ได้
ผู้หญิงคนนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องขอโทษก่อนทุกที ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดแท้ๆ แต่ก็ยังยอมก้มหัวให้คนอื่นเอาเปรียบอยู่ได้
“งั้น... ฉันไปล่ะนะ” ฉันเอ่ยคำอำลา เห็นว่ามือตัวเองเปื้อนดินจากเรื่องเมื่อครู่ก็คิดว่าสมควรจะไปล้างมือสักหน่อย
ว่าแต่คิโชวอินมาทำอะไรที่นี่นะ ทานข้าวกับครอบครัวอย่างนั้นเหรอ
หรือว่า…..
ฉันส่ายหัวเล็กน้อยตอนที่เป่ามือให้แห้งกับเครื่องทำลมร้อน มันคงไม่บังเอิญถึงขนาดนั้นหรอก
.
.
.
.
ข้อสันนิษฐานของฉันเป็นจริงจนได้ พอเปิดประตูห้อง V.I.P. เข้าไป สิ่งแรกที่ได้ยินคือเสียงหัวเราะต่อกระซิกของผู้หญิง และผมม้วนๆที่ดูคุ้นตาอีกหน
คิโชวอินหันหน้ามองฉันแล้วก็ส่งยิ้มให้
“อ้าว มาพอดีเลยนั่น” พอเห็นฉัน แม่ก็เอามือป้องปากแล้วหัวเราะคิกคัก “กำลังพูดถึงอยู่เลยเชียว”
แขกในค่ำคืนนี้คือมาดามคิโชวอินและลูกสาว ฉันเอ่ยทักทายทั้งคู่แล้วนั่งลงข้างๆแม่ แม้จะแอบรู้สึกว่านี่มันชักจะยังไงๆอยู่นะก็ตาม
“ได้ยินว่าเมื่อครู่นี้คุณมาซายะช่วยคุณเรย์กะไว้ ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งเลยนะคะ” มาดามคิโชวอินค้อมหัวน้อยๆ “ลูกสาวคนนี้นี่ซุ่มซ่ามจริงๆ ทำให้คุณมาซายะต้องพลอยลำบากไปด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ มันไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร”
“โฮะโฮะโฮะ การช่วยเหลือเด็กผู้หญิงที่กำลังลำบากก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษอยู่แล้วล่ะค่ะ”
“ต้องขออภัยอีกครั้งด้วยนะคะ” คิโชวอินค้อมหัวลง
การสนทนาเว้นช่วงไปเล็กน้อยเมื่อบริกรนำอาหารเข้ามาเสิร์ฟ ฉันตักอาหารเข้าปากไปเงียบๆ ไม่พูดไม่จายกเว้นแต่จะถูกถาม คิโชวอินเองก็นั่งอย่างสงบเสงี่ยมอยู่เหมือนกัน
“เด็กคนนี้นี่เหลือเกินจริงๆ เห็นดอกไม้สวยๆเป็นไม่ได้ ต้องเข้าไปดูใกล้ๆตลอด ที่ระเบียงก็เอาดอกกุหลาบมาปลูกให้เต็มไปหมด ดูแลเองไม่ยอมให้ใครแตะต้องเลย”
“ท่านแม่คะ…มันน่าอายออกนะ”
“ไม่เห็นน่าอายเลย เด็กผู้หญิงก็ต้องคู่กับดอกไม้สวยๆงามๆสิคะ” แม่จิบแชมเปญไปหัวเราะไป “แต่คุณเรย์กะชอบดอกไม้แบบนี้ ทราบรึเปล่าคะว่าโรงแรมนี้มีสวนอยู่ที่ชั้น roof ด้วย ทางเราเพิ่งให้บริษัทด้านจัดสวนมาตกแต่งใหม่เตรียมรับเทศกาลทานาบาตะ ดอกอาจิไซกำลังบานสะพรั่งได้ที่เลย ถ้าไม่รังเกียจก็ให้มาซายะพาไปชมได้นะคะ”
“แหม รบกวนท่านมาซายะเปล่าๆ”
“โอ๊ย รบกวนอะไรกันคะ เราน่ะคนกันเองทั้งนั้น ไม่รบกวนหรอกค่ะ”
ทางนี้ยังไม่ได้รับปากเลยนะ อย่าพูดเองเออเองแบบนั้นสิ
ทีแรกก็ว่าจะนั่งทานของหวานไปเฉยๆ ไม่รู้ไม่ชี้ แต่พอถูกสายตากดดันของแม่มองจ้องมาเป็นเชิงว่า “มัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบลุกขึ้นแล้วพาคุณเรย์กะไปเดินเล่น” ฉันก็ได้แต่ลุกขึ้นยืน เดินนำหน้าคิโชวอินออกไปจากห้องนี้ กดลิฟท์ขึ้นไปยังชั้นบนสุดที่เอาไว้จัดงานอีเวนท์กลางแจ้งโดยเฉพาะ
“สวยจังเลยนะคะ”
คิโชวอินมองไปรอบๆอย่างตื่นเต้น ทำหน้าตาเหมือนกำลังเคลิ้มฝัน
“ก็ใช้บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านตกแต่งสวนโดยเฉพาะออกแบบน่ะนะ ก็ต้องออกมาดีอยู่แล้ว” ฉันชี้ไปทางพุ่มไม้ที่อยู่อีกฟาก “ตรงนั้นมีดอกกุหลาบดามัสก์ แล้วก็ดอกไอริส”
“อยากเห็นจังเลยค่ะ”
ฉันกับคิโชวอินเดินไปตามทางที่จัดไว้ในสวน มาหยุดที่หน้าแปลงดอกไม้ที่มีดอกกุหลาบบานสะพรั่งชูช่อ เงียบกันอยู่พักหนึ่ง คิโชวอินก็เอ่ยขึ้น
“ขอโทษนะคะ ท่านคาบุรากิคงไม่พอใจซักเท่าไหร่ที่ถูกบังคับให้พาฉันมาเดินเล่นแบบนี้”
“ไม่หรอก อย่าคิดมากเลย” ฉันส่ายหน้า “มาถึงนี่แล้วก็ดูความงามของดอกไม้ดีกว่านะ”
“นั่นสินะคะ” คิโชวอินอมยิ้ม มองที่พุ่มดอกไม้แล้วก็ก้มลงไปใกล้ๆ “อืม กลิ่นหอมมากเลยล่ะค่ะ”
“ถ้าชอบก็ดีแล้วล่ะ”
“ท่านคาบุรากิทราบรึเปล่าคะว่าที่บ้านฉันก็ปลูกดอกกุหลาบดามัสก์ไว้อยู่ด้วย แต่ดอกเล็กมาก ไม่สวยเท่าที่บานอยู่ตรงนี้เลยล่ะค่ะ” เธอหัวเราะน้อยๆ “ ก็ทำตามเคล็ดลับที่คุณคนสวนบอกแล้วนะ แต่ก็ไม่ได้ดอกใหญ่ๆซักที สงสัยจะเป็นเพราะความไม่เอาไหนของฉันเองแน่ๆเลยล่ะค่ะ”
“ฉันเพิ่งจะรู้ว่าเธอชอบดอกไม้มากขนาดนี้” ฉันพยักหน้า เออออไปกับข้อมูลที่คิโชวอินเล่า “ไม่เห็นชูสุเกะเล่าให้ฟังเลย”
เมื่อมีชื่อชูสุเกะเข้ามาเกี่ยวข้อง คิโชวอินก็หุบยิ้มทันควัน ก้มหน้าลงเหมือนกำลังซ่อนสีหน้าเอาไว้
“มีอะไรงั้นเหรอ”
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” คิโชวอินส่ายหน้า ส่งยิ้มให้ แต่ดูเป็นยิ้มที่ฝืดเฝื่อนพิกล
“เธอทะเลาะกับชูสุเกะรึเปล่า”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ” เธอโบกมือไปมาอย่างลนลาน “คุณชูสุเกะดีกับฉันทุกอย่างค่ะ เพียงแต่…”
“เพียงแต่อะไร” ฉันขยับตัวเข้าไปใกล้ จ้องหน้าคิโชวอินแบบคาดคั้น
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ลืมมันซะเถอะ” คิโชวอินหลบตาฉัน ก้มลงมองพื้นแถวๆนั้น
“เพียงแต่อะไร” ฉันพูดซ้ำคำเดิมด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
คิโชวอินเม้มปากแน่น ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“เขาทำให้ฉันกลัว” เธอมีสีหน้าหวาดหวั่น สองมือกำชุดกระโปรงแน่น “ตั้งแต่กลับมาจากอังกฤษ เขาก็แปลกไปมาก ก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้เลย แต่ตอนนี้มันเหมือนกับ...เหมือนกับมีใครที่ไม่ใช่เขาอยู่ข้างใน เป็นใครที่ฉันไม่รู้จัก”
“ชูสุเกะทำร้ายเธออย่างนั้นเหรอ”
ใจฉันนึกไปถึงตอนที่ชูสุเกะยื่นหนังสือดร.เจเคิลกับมิสเตอร์ไฮด์มาให้ แม้จะไม่แน่ใจ แต่จะใช่คนคนเดียวกับที่คิโชวอินเจอรึเปล่านะ
“ไม่ค่ะ ไม่” คิโชวอินส่ายหน้า “มันมีบางอย่างแปลกๆ มันเป็นความรู้สึกอึดอัด บอกไม่ถูก แต่เห็นแล้วฉันไม่สบายใจเลยซักนิด แล้วคุณชูสุเกะก็ไม่ยอมบอกอะไรฉันสักอย่าง”
คิโชวอินเดินเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อยๆ วางมือสองข้างลงบนอกฉัน เงยหน้าขึ้นมอง เห็นน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาในดวงตาของคิโชวอินแล้วก็อึ้งไปนิดๆเหมือนกัน
“ได้โปรด...ท่านมาซายะ” น้ำเสียงนั้นสั่นเครือเหมือนคนกำลังอดกลั้น “ช่วยฉันด้วยนะคะ”
ฉันเลิกคิ้วขึ้นตอนที่รู้สึกว่ายัยนี่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ รู้สึกถึงลมหายใจที่กำลังเป่ารดเหนือริมฝีปาก
ก่อนที่อะไรจะเกินเลยมากไปกว่านั้น ฉันก็จับไหล่คิโชวอินทั้งสองข้าง ดันให้ออกห่างจากตัวและปล่อยมืออย่างรวดเร็ว
“เธอคิดมากเกินไปแล้ว” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาหน่อยๆ รู้สึกไม่ชอบใจที่คิโชวอินทำแบบนี้ “ชูสุเกะก็ยังเหมือนเดิมนั่นล่ะ ฉันไม่เห็นจะมีอะไรต่างไปจากเดิมตรงไหน”
ว่าแล้วฉันก็มองนาฬิกาบนข้อมือตัวเอง มันบอกเวลาสี่ทุ่มพอดี เป็นข้ออ้างให้ปลีกตัวได้อย่างเหมาะสม
“นี่ก็ดึกแล้วด้วย ฉันว่าเราควรจะรีบกลับลงไปดีกว่า ป่านนี้มาดามคิโชวอินคงรอแย่แล้ว”
ฉันเดินฉับๆนำหน้าคิโชวอินกลับไปที่ลิฟท์ ไม่มีคำพูดอะไรระหว่างเราสองคน ให้ความเงียบที่น่าอึดอัดปกคลุมแทน
จบมื้ออาหาร แม่และฉันเดินไปส่งสองแม่ลูกคิโชวอินขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าโรงแรม เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ คิโชวอินไม่ได้มีท่าทีอะไรแปลกๆแบบเมื่อครู่นี้ เธอก็ยังสงบเสงี่ยม กริยามารยาทเรียบร้อยตามประสาคุณหนูทั่วไป โค้งหัวขอบคุณฉันที่พาไปชมสวน ฉันได้แต่พยักหน้าให้
เมื่อสบตากัน คิโชวอินกลับมองฉันด้วยสายตาที่ดูประหลาด มันมีอะไรแฝงอยู่ภายในที่ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด เมื่อรวมกับการกระทำตอนที่อยู่ในสวน ฉันก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจคิโชวอินมากขึ้นไปทุกทีๆ
ผู้หญิงแบบนี้ไม่สมควรจะอยู่ใกล้ชูสุเกะ แต่จะห้ามได้ยังไงกันล่ะ
ฉันคิดอยู่ภายในใจอย่างสับสน อันที่จริงถ้าบอกเรื่องในวันนี้ไป ชูสุเกะอาจจะไม่เชื่อก็ได้ หมอนั่นมันรักของมันขนาดนั้น ไม่มีทางจะเชื่อว่าคนรักไปทำเรื่องอะไรไม่ดีไว้แน่
แต่ถ้าไม่บอกก็เหมือนเก็บปัญหาไว้กับตัวเอง แถมเป็นการทรยศความไว้วางใจของชูสุเกะ มันอาจจะลุกลามบานปลายไปกันใหญ่ก็ได้
อย่างไหนถึงจะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องกันนะ
----------------------------
มาซายะคิมิดอลเวลาเขียนนี่รู้สึกแปลกๆแปร่งๆจริงๆ หรือเพราะเป็นคาแรคเตอร์มาซายะ ไม่ใช่ไซซายะกันวะนั่น 555555555
KY อยากมาระบายว่าเมื่อวานฝันว่าดิบตอนที่ 300 อัพแล้วแถมกูยังเข้าไปพยายามดำน้ำอย่างมีความสุข พอตื่นมาเลยรีบเข้าเว็บไปเช็คแต่ก็พบกับความว่างเปล่า... กลับไปนอนต่อแม่ง 5555
900 เมนท์ละ เสนอชื่อกระทู้หน้ากันมั้ยพวกมึง
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับบั๊กนกพิราบ [ชีวิตติดลูป 299 ครั้งที่ 25]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปริศนาตอน300ที่หายไป [ตามหาท่านฮิโยโกะครั้งที่ 25]
เห็นโม่งพูดถึงฝันชงท่านเรย์กะกับจอมมาร กุก็นึกขึ้นมาได้ว่ากุฝันเช่นกัน แต่ในฝันดันไม่ใช่เรือที่พาย (จอมมาร เจ้าแม่) กลับเป็นบากะ เจ้าแม่ ซะงั้น orz
ทั้ง ๆ ที่นึกว่าครั้งแรกที่ดื่มไวน์ จะได้ดื่มกับท่านพี่ระหว่างดินเนอร์สุดโรแมนติก แต่กลับเป็นตอนที่ทุกคนนัดเที่ยวบนเรือสำราญ ใครซักคนเปิดไวน์ที่ท่านพี่เคยบอกว่าชอบมาก ฉันเลยรับมาแก้วหนึ่งด้วยเช่นกัน
ผ่านไปเกือบปีแล้วตั้งแต่ตอนจบการศึกษา พอหวนนึกก็ทำให้รู้สึกคิดถึงไม่ได้ คิมิดอลที่คิดว่าจะลงเอยด้วยงานหมั้นของคาบุรากิกับวาคาบะจังกลับไม่เป็นไปตามคาด ไม่ใช่เพราะคาบุรากิถูกที่บ้านกีดกัน หรือมีนางร้ายตัวใหม่โผล่ออกมา แต่ตอนที่คาบุรากิสารภาพรัก วาคาบะจังกลับปฏิเสธ
“ฉันดีใจและเป็นเกียรติมากที่ท่านคาบุรากิมอบความรู้สึกดี ๆ ให้ แต่ฉันคงไม่สะดวกใจที่จะใช้ชีวิตในโลกของท่านคาบุรากิ ในขณะเดียวกัน ท่านคาบุรากิเองก็ไม่สามารถทิ้งโลกของท่านมาอยู่กับฉันได้เช่นกัน เพราะอย่างนั้น...เป็นเพื่อนกันเถอะนะคะ”
เหตุผลที่ดูเป็นผู้ใหญ่นั้นหลุดออกมาจากปากของวาคาบะจัง ทำเอาท่านคาบุรากิไปต่อไม่ถูก ฉันนึกว่าคนร้อนแรงอย่างคาบุรากิจะตามตื้อต่อจนถึงที่สุด ทิ้งสมบัติของตระกูลคาบุรากิหนีตามวาคาบะที่ได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ แต่ผลกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด คาบุรากิยอมรับการตัดสินใจของวาคาบะแต่โดยดี แม้จะไม่ได้หนีไปสถานที่ฆ่าตัวตายเหมือนอย่างตอนอกหักจากท่านยูริเอะ แต่ก็ซึมไปมาก ในตอนวิกฤตนั้นเพื่อนคนเดียวของคาบุรากิกลับไม่ได้คอยปลอบ เพราะกำลังวุ่นวายกับงานหมั้นของตัวเอง ดังนั้นฉันที่เป็นเพื่อนตัวสำรองเลยต้องทำหน้าที่แทนอย่างการไปดูแสงเหนือที่ฟินแลนด์หรือค้นหาตัวเองที่มองโกเลีย รวมถึงหลาย ๆ ประเทศ เรียกได้ว่าปิดเทอมก่อนขึ้นมหาวิทยาลัยนั้นพวกเราไม่ได้เหยียบญี่ปุ่นเลยแม้แต่วันเดียว ในตอนนั้นฉันเองก็เหลวไหลมากเหมือนกันที่ไปต่างประเทศกับคาบุรากิสองคน น่าตกใจที่บ้านของพวกเราไม่มีใครเอ่ยปากอะไร ท่านพี่ก็ไม่ได้ห้ามเลยแม้แต่ครั้งเดียว เว้นแต่ทุก ๆ คืนจะส่งข้อความมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง ซึ่งส่วนมากฉันจะตอบกลับไปว่าในวันนั้นทำอะไร ไปที่ไหน กินอะไร บางครั้งก็บ่นคาบุรากิที่พาลุยหิมะบนเขา พาไปอยู่ในกระโจมท่ามกลางทะเลทรายที่ตอนกลางคืนหนาวจนนอนไม่หลับ ทริปสุดท้ายในประเทศรัสเซียพวกเราทำทุกอย่างหาย หลงทางในป่าจนนึกว่าจะไม่รอดจนกระทั่งหน่วยกู้ภัยช่วยออกมาได้ โชคดีที่ทางบ้านของพวกเราไม่ได้รับการติดต่อนานผิดปกติจนไปแจ้งความให้สถานทูตช่วยเหลือและมารับกลับประเทศด้วยตัวเอง ตอนนั้นคาบุรากิถูกดุเสียจนฉันที่ขี้ขลาดต้องออกหน้าให้ ท่านพ่อสุดเท่ห์ของคาบุรากิถึงจะเย็นลง ด้วยเหตุนั้น กว่าจะกลับประเทศได้ก็เปิดภาคเรียนใหม่ก็เริ่มไปแล้วเกือบครึ่งเดือนแล้ว
คาบุรากิเรียนคณะเดียวกับเอ็นโจ แต่เป็นคนละคณะกับฉัน ช่วงแรก ๆ ที่ขาดเรียนไปทำให้ค่อนข้างยุ่ง ไหนจะต้องทบทวนบทเรียนที่คนอื่นเรียนไปแล้ว ไหนจะต้องเข้าร่วมกิจกรรม คาบุรากิเองก็วุ่นวายอยู่กับการเรียนและการสืบต่อกิจการที่บ้าน เทอมต่อ ๆ แม้จะได้เจอหน้ากันบ้าง แต่ไม่ได้ไปไหนมาไหนเหมือนอย่างตอนมัธยม ได้แต่คุยกันทางอีเมล์และพบหน้าในงานสังคม
หลังจากสอบเสร็จ ฉันก็ได้รับคำเชิญจากคาบุรากิซึ่งที่บ้านกำลังเปิดเส้นทางเดินเรือสำราญเส้นทางใหม่ว่าจะจัดทริปเดินทาง แน่นอนว่าในทริปนั้นไม่ได้มีแต่ฉันที่เป็นแขก แต่ยังมีหนุ่มสาวทั้งเพื่อนที่มหาวิทยาลัย และบรรดาลูกหลานของแวดวงสังคมชั้นสูงอีกค่อนข้างมาก
เรือออกเดินทางในตอนเย็น พอทุกคนพักผ่อนในห้องพักของตัวเองได้ครู่หนึ่งก็ออกมาร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ฉันมองคาบุรากิที่ทำหน้าที่เจ้าบ้านได้อย่างดีเยี่ยม เดินคุยกับคนโน้นคนนี้ จนกระทั่งเดินมาหาฉันซึ่งกำลังคุยกับคนรู้จัก ถามเรื่องความสะดวกสบายว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องหรือไม่ได้ไม่กี่คำ ก็ขอตัวไปคุยกับคนอื่นต่อ
เพลิดเพลินกับงานเลี้ยงได้ไม่เท่าไหร่ เสียงคุ้นเคยที่ขาดหายไปก็ทักขึ้น พอหันไป ก็พบว่าเป็นเอ็นใจที่เดินควงคู่หมั้นของตัวเองมา
ทั้ง ๆ ที่ตอนมัธยม ฉัน คาบุรากิ และเอ็นโจสนิทกันมากจนไปเที่ยวหลังเลิกเรียนทุกสัปดาห์ แต่หลังจากคาบุรากิอกหัก และหลังจากงานหมั้นของเอ็นโจ พวกเราคุยกันแทบนับคำได้ ฉันไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไงดี บางครั้งก็แอบคิดว่าพวกหมู่บ้านมีรักนี่ช่างไร้น้ำใจ ในขณะที่เพื่อนเจ็บช้ำ ตัวเองกลับหวานชื่นกับผู้หญิง แล้วถ้าเอ็นโจเหลียวแลคาบุรากิซักนิด ฉันก็คงไม่ต้องไปทัวร์รอบโลกกับคาบุรากิจนขาดเรียนไปครึ่งเดือน
ไม่ทันจะได้คุยอะไร เอ็นโจก็ต้องพาคุณยุยโกะที่เมาเรือไปพัก ฉันมองภาพคู่รักแล้วรู้สึกกร่อย พอใครซักคนเปิดไวน์แล้วชวนดื่ม เลยตกลงทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่บรรลุนิติภาวะ
พอได้ทดลองไวน์ที่ท่านพี่ชอบกลับยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ ก็พอรู้อยู่หรอกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์น่ะขม แต่พอเห็นท่านพี่กับทานูกิดื่มด้วยสีหน้าชื่นชอบแล้วก็อดตั้งความหวังไม่ได้ พอคนชวนเห็นฉันจิบแค่จิบเดียวก็ถามว่าไม่ชอบงั้นหรือ ฉันได้แต่สวมหน้ากากแล้วบอกว่าชอบมาก เลยฝืนใจดื่มลงไป แต่พอดื่มไปได้ซักพัก รสที่แย่จนอยากจะบ้วนทิ้งก็ไม่ได้แย่มากนัก ฉันยังได้ลองชิมไวน์อีกหลายขวดที่คนอื่น ๆ เปิด รู้สึกหวิว ๆ เหมือนเท้าจะไม่ติดพื้น ผิวแก้มร้อนผ่าวจนเหมือนจะเป็นไข้
ใครซักคนบอกกับฉันว่าจะพากลับห้อง ตอนแรกฉันบอกว่ากลับเองได้ แต่พอจะก้าวเท้ากลับเซซะงั้น ฉันหัวเราะให้กับความซุ่มซ่ามของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่เกิดใหม่ในร่างของคิโชวอิน เรย์กะ แท้ ๆ แต่กลับยังคงนิสัยเปิ่น ๆ เหมือนตอนชาติก่อนซะได้ ฉันเองก็ไม่ใช่เด็กแล้ว นับรวมอายุชาติก่อนกับชาตินี้ก็เรียกได้ว่าเป็นป้าคนหนึ่ง
พอนับอายุของตัวเองแล้วก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่อายุป่านนี้แล้วแต่กลับยังโสด หรือว่าชาตินี้ไม่มีวันหลุดพ้นจากคำสาปหมู่บ้านคานทองแล้วจริง ๆ
“ดื่มไปกี่แก้วน่ะ” จู่ ๆ คนที่เดินร่อนไปทั่วงานวุ่นวายกับการเอ็นเตอร์เทรนแขกก็มาหยุดอยู่ตรงหน้า ฉันมองคาบุรากิที่เคร่งขรึทขึ้นมากแล้วอยากจะหัวเราะทั้งน้ำตา ขนาดพระเอกคิมิดอลอย่างคาบุรากิยังอกหัก แล้วนางร้ายอย่างฉันจะหวังอะไร
ฉันพยายามจะนับ พอดึงมือที่เกาะแขนของใครซักคนที่อยู่ข้างตัวออกจะมานับนิ้ว ร่างก็ทรุดลงไป คนข้างฉันรวบเอวแน่น คาบุรากิพูดอะไรกับเขาอยู่นาน คน ๆ นั้นก็ปล่อยฉันให้คาบุรากิประคองแทน
“ยัยบ้า ไม่เคยดื่มทำไมถึงได้ปล่อยให้ตัวเองดื่มจนเมาแอ๋ขนาดนี้”
ฉันหัวเราะ ก่อนจะเอื้อมมือไปหาคาบุรากิ ข้างหนึ่งคล้องคอเขาเป็นลูกลิงยึดตัวเองไม่ให้ตก อีกข้างบีบจมูกโด่ง ๆ นั่นอย่างหยอกเล่น
“เป็นห่วงรึไง”
คาบุรากิถอนหายใจ ในตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเขาเหมือนท่านพี่มาก ทั้ง ๆ ที่คาบุรากิไม่มีอะไรเหมือนกับท่านพี่ที่แสนอ่อนโยนของฉันแม้แต่น้อย
คาบุรากิพูดอะไรบางอย่าง...
แล้วกุก็ตื่นค่ะ!!!!
จบ พยายามนอนให้ฝันต่อแล้วแต่ไม่ฝันต่อค่ะ ฮืออออ
>>908 กุโกรธตัวเองว่าทำไมถึงต้องตั้งนาฬิกาปลุกตอนสำคัญ อีกอย่างเสียใจตรงกุฝันจาก pov เจ้าแม่ คือ จำไม่ค่อยได้ด้วยว่าหลัง ๆ เอ็นโจทำอะไรใช่คนที่พาเจ้าแม่ไปนอนป่าว
ตอนตื่นกุยังงงเลยว่าที่บ้านสองคนนี้ยอมปล่อยไปทัวร์สองต่อสองได้ยังไง ตกลงเจ้าแม่ชอบจอมมาร จอมมารหนีไปหมั้นเลยเสียใจป่าว ขนาดในฝันกุยังฮิโยโกะซามะ ไม่เคลียร์ให้ชัดเจนเลย ฮือออ
กูเพิ่งตามเรื่องนี้และเพิ่งอ่านจบ คันปากอยากหาคนเม้าด้วยแล้วก็มาเจอกระทู้นี้เข้า กูมีคำถามอยากจะถามนิดหน่อย
1.เรื่องนี้มี lc ในไทยรึยัง กูอยากได้เป็นเล่มมาเก็บมาก
2.ต้นฉบับมีความคืบหน้าบ้างมั้ย คนแต่งมีบล็อกหรือเพจบ้างรึเปล่า ถึงกูอ่านญี่ปุ่นไม่ออกแต่อยากเข้าไปส่อง
3.มีฟิคหรือโดที่มันแจ่มๆแนะนำกูมั้ย ไม่เกี่ยงสัญชาติและภาษา กูอยากได้มาเติมเต็มจินตนาการ
4.อยากรู้ว่าตอนที่ 299 ที่เรย์กะวิ่งไปหาชุดใส่ทันทีนี่คือกระตือรือร้นที่จะไปเที่ยวกับเอ็นโจงั้นเหรอ กูไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงเท่าไหร่ ทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไง ชอบเขา อยากไปกับเขา อยากอยู่กับเขา?? แต่ส่วนตัวกูคิดว่าเอ็นโจชอบนางถึงขั้นรักแล้วล่ะ
5.วาคาบะนี่คือชอบคาบุรากิเหมือนกันใช่มั้ย เห็นยอมไปเที่ยวด้วย ทำอาหารมาให้กิน ปกติแล้วผู้หญิงจะตื่นมาทำกับข้าวให้เพื่อนผู้ชายทุกวันมั้ย อันนี้อยากรู้เฉยๆ
>>912 ขอตอบข้อ4 ด้วยฟิลเตอร์สีชมพูเข้าตีมวาเลนไทน์ ก็อาจจะใช่แหล่ะ ดูดอกไม้ไฟเป็นเทศกาลที่สำคัญในญี่ปุ่นอยู่นะ แถมเจ้าแม่น่าจะไม่ค่อยมีเพื่อนชวนไปงานแบบนี้เท่าไหร่(…) แบบว่าดูเทศกาลคริสต์มาสที่นางนอนกลิ้งอยู่คนเดียวสิ//กลุ่มท่านเรย์กะดูไม่นิยมพาท่านเรย์กะไปงานแบบนี้เท่าไหร่?เพราะว่าต้องคอยกันเจ้าแม่หน่อยๆ(ตามมุมมองเซริกะ) แล้วปีนี้เตรียมสอบด้วย ได้ไปคลายเครียด และมีโบนัสพ้อยท์เป็นน้องยูกิโนะ
ส่วนข้อ5 ญี่ปุ่นไม่แน่ใจว่ะ แต่วาคาบะจังน่าจะทำให้น้องๆอยู่แล้ว ไม่ลงทุนตื่นเช้าทำให้คาบุคนเดียวหรอก มองในมุมก็อาจจะแค่เพิ่มมาคนเดียวไม่มีอะไร แต่ตามโชโจมังงะทั่วไป ทำอาหารกลางวันนี่เป็นมิชชั่นอย่างหนึ่งของแฟนสาวเลยนะ!
>>912 1. ยังไม่มี รออยู่เหมือนกัน แต่คนเขียนยังไม่ขายลิขสิทธิ์ให้สนพ.ไหนในญี่ปุ่นเลย ร้องเพลงรอกันไป
2. ท่านฮิโยโกะ (คนแต่ง) แม่งอินดี้สัด ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรให้ติดตามทั้งนั้น มีแต่กล่องข้อความในเวบนาโร่ให้ติดต่อได้ แต่จะตอบหรือเปล่าไม่รู้นะ คนเขียนไม่เคยตอบคอมเมนต์ ไม่เคยทิ้งร่องรอยใดๆ เรื่องตัวเองเลย
3.ตามหาได้ใน pixiv tag 謙虚、堅実をモットーに生きておりますไม่ก็กาวชั้นดีโม่งกวนเองในนี้แหละ
4. กูว่านางตื่นเต้นดีใจ อยากสวยที่สุดในวันนั้นแหละ //ผ่านฟิลเตอร์และสูดกาวลึกๆ
5.วาคาบะนี่ดูตามปฎิกริยาก็น่าจะชอบแล้วล่ะ นั่งเรียนพิเศษด้วยกัน ไปเที่ยวกันสองต่อสอง ทำขนาดนี้แล้วบอกไม่คิดอะไรเลยนี่ก็เกินไปหน่อย
>>912 ยินดีต้อนรับโม่งใหม่แห่งมู้นี้ มาร่วมด้วยช่วยกันกวนกาวจนกว่าดิบจะออกกันเถอะ กาวในนี้รับรองคุณภาพชั้นเลิศ หลุดลอยแน่นอน
1.ลิขสิทธิ์? ท่านฮิโยโกะไม่ปล่อยง่ายๆหรอกเรื่องนี้ เพราะกว่าจะหาตัวเจอนี่ยากส์ ถ้ามีแบบdoulou dalu 3 ที่เพิ่งประกาศลิขสิทธิ์ไปนี่จะกรี้ดตายเลย
2.อย่างที่โม่งบนๆบอกไว้ ร่องรอยไม่มี ไล่ไม่ทันจับไม่ได้จ้า ติดต่อยาก
3.มีเป็นภาพฟินๆอยู่ในpixivนะ
4.มองด้วยฟิลเตอร์แล้วบอกเลยว่าโคตรหลุมไร้ก้น5555
5.ชอบแล้วล่ะ ไม่งั้นคงไม่ตกลงไปหรอก อย่างน้อยๆก็เกิดประกายเล็กๆล่ะ
กู 912 เองนะ ตื่นมาตกใจนิดหน่อยที่ได้คำตอบล้นหลามเลย ขอบคุณทุกคนมากๆที่มาช่วยกันตอบ
เมื่อคืนคุยกับเพื่อนผู้หญิงที่ไม่ได้อ่านเรื่องนี้ แล้วเล่าสตอรี่คร่าวๆให้ฟังเพื่อถามพฤติกรรมผู้หญิง มันบอกมาว่าผู้หญิงเวลาไปกับคนที่ตัวเองชอบนี่คืออยากทำให้ตัวเองดูดีต่อหน้าเขาให้ได้มากที่สุดน่ะ มันจะคนละฟีลกับเวลาไปงานเลี้ยง ถ้าไปงานเลี้ยงคือเจอคนเยอะๆมันก็ต้องดูดีไว้ก่อนจะได้ไม่ขายหน้า แต่ถ้าคนที่ชอบชวนคืออยากสวยเพื่อเขาคนเดียวอะไรทำนองนั้น แล้วถ้าเพื่อนแบบกูมาชวนมันตอนวันจันทร์ไปเที่ยวในคืนวันเสาร์ มันคงไม่รีบวิ่งไปหาชุดหรอก ใกล้ๆวันนัดซักวันสองวันค่อยคิดก็ได้ว่าจะใส่อะไร มีเวลาตั้งเยอะตั้งแยะ แถมไม่เลือกอะไรมากมายขนาดนั้นด้วย
ส่วนเรื่องทำกับข้าวให้กินเนี่ย เพื่อนกูคนเดิมก็บอกว่าถ้าไม่ได้รู้สึกกับเขาเป็นพิเศษจริงๆคงไม่อาสาทำมาให้ด้วยตัวเอง กับเพื่อนเราก็จะมีโมเมนต์กันคนละแบบ สมมติถ้ากูไม่ได้เอาข้าวมากินตอนกลางวัน อย่างดีมันก็เดินไปเซเว่นเป็นเพื่อนเท่านั้นล่ะ ไม่ออกปากบอกต่อไปนี้เดี๋ยวกูจะทำกับข้าวให้แดกเองหรอก มึงไม่มีบุญขนาดนั้น 555555555555555555555
อันนี้คือความเห็นจากกลุ่มเพื่อนผู้หญิงที่กูคบมาเป็นสิบปีแล้วนะ แต่กับผู้หญิงคนอื่นคิดยังไงกูก็ไม่รู้เหมือนกัน กูเป็นชายควายเผือกตัวหนึ่งที่ไม่ค่อยจะเข้าใจอารมณ์หรือพฤติกรรมผู้หญิงซักเท่าไหร่
>>920 ในฐานะชะนีน้อยวัยใส(?)คนนึง กูมีคห.คล้ายๆเพื่อนมึงแหละ ยิ่งคุยเสร็จก็รีบวิ่งไปค้นตู้เลยแสดงว่าตื่นเต้นมาก
มีอีกอย่างคือพอมองในฟิลเตอร์เรือเอ็นโจ กุว่ามันเหมือนจะมีhintหลายจุดที่บอกว่าท่านเรย์กะจริงๆก็ชอบเอ็นโจแต่พยายามหลอกตัวเองอะ ซึ่งอะไรแบบนี้กูก็เป็น555 อ่านๆไปก็นึกถึงตัวเองหลายอย่างเลย
ส่วนเรื่องวาคาบะกุว่าถ้าไม่มีใจให้ซักนิดเลยก็คงไม่ลงทุนทำกับข้าวมาให้หรอก ยุ่งยากจะตาย
กูว่ามันแสดงออกชัดมากตรงที่คุยจบปุ๊บวิ่งหาชุดปั๊บนี่ล่ะว่ะ เวลานัดก็ไม่ใช่พรุ่งนี้มะรืนนี้ซักหน่อย จะรีบเตรียมตัวอะไรขนาดนั้น มีใครบ้างที่นัดกับเพื่อนล่วงหน้านานเป็นอาทิตย์แล้วหาเสื้อผ้าใส่เตรียมไปทันทีที่พูดการนัดหมายจบบ้างล่ะ ถ้าไม่ใช่นัดไปงานสำคัญที่เป็นหน้าเป็นตาจริงๆ กูก็เห็นเขาไปเลือกชุดวันที่ใกล้ๆวันนัดทั้งนั้นอ่ะ
ส่วนประเด็นทำกับข้าวมาให้ กูว่ามันพ้นช่วงเปิดโอกาสให้จีบแล้วล่ะ กูคิดว่าตอนนี้เข้าช่วงคนโดนจีบชอบคนมาจีบตอบแล้ว เพราะทำกับข้าวมามันก็ดูทุ่มเทให้เขาเหมือนกัน แบบที่ซากุระกับอาโออิคุยกันว่าทำข้าวกล่องให้แฟนน่ะ ไม่รักไม่ชอบกูว่าไม่มีทางที่เราจะทุ่มเทลุกขึ้นมาทำอาหารหรือหอบข้าวไปให้เขากินทุกวันแน่ๆ
กูเห็นด้วยกับคห.บนๆนะ เวลามีเพื่อนผู้ชายชวนไปเที่ยวอย่างมากก็เตรียมชุดคืนก่อนนัดเท่านั้นอ่ะ แล้วถ้ามันลืมเอาข้าวมา ถ้ามีน้ำใจหน่อยก็แบ่งให้ไม่ก็ไปซื้อเป็นเพื่อน ไม่ทำกับข้าวให้หรอก เปลือง 555
เรื่องเรย์กะกูคิดทั้งสองอย่างนะ อย่างแรกก็เหมือนกันกับด้านบนๆ น่ะ
อย่างสองก็แบบตื่นเต้นไง คือกูมานึกย้อนอดีตตอนที่ต้องใส่ชุดราตรีไปงานครั้งแรก ก็ตื่นเต้นแบบนี้แหล่ะ คุยกับเพื่อนๆ เรื่องเสื้อผ้า หน้า ผม ว่าจะใส่แบบไหน ทำแบบไหน เป็นอาทิตย์ๆ เลยนะ ถึงขนาดไปซื้อชุดเตรียมไว้ล่วงหน้าตั้งหลายวัน ลองคิดกลับกัน เรย์กะน่ะฝันอยากไปงานดูดอกไม้ไฟมาตลอด พอมีใครมาชวนก็อาจตื่นเต้นบ้าง เพราะถือว่าไปครั้งแรกก็ได้
แต่เอาเข้าจริงใจในดันเอนเอียงไปอย่างแรกว่ะ
ส่วนเรื่องทำกับข้าว เท่าที่เคยอ่านโชโจมังงะมา นอกจากญาติแล้ว ก็ไม่เคยเห็นตัวละครหญิงทำกับข้าวให้ตัวละครชายด้วยเหตุผลอื่นนอกจากชอบเลยนะ
>>924 นอกจากจะเสียเวลาทำกับข้าวให้ยังต้องแบกไปให้มันกินแล้วแบกกล่องกลับมาล้างที่บ้านอีก ทั้งเหนื่อยทั้งหนัก อีกอย่างนะ ถ้าไม่กินข้าวกล่องร้านสะดวกซื้อ คาบุมันก็สั่งพ่อครัวที่บ้านเตรียมข้าวกล่องมาให้ในวันหลังก็ได้ ถ้าวาคาบะไม่ได้รักหรือชอบก็ไม่มีความจำเป็นอันใดที่ต้องเสนอตัวว่าจะทำกับข้าวให้เลยซักนิด ถ้าใจดีมันก็เกินขอบเขตของคำว่าเพื่อนไปหน่อย
แถมข้าวกล่องที่บ้านคาบุเตรียมคงหรูหราไฮโซอลังการอร่อยปานร้านสามดาวมิชลินมาเอง เราจะเอาอะไรไปสู้ นางเสนอตัวมาแบบนี้ก็คงอยากให้เขากินฝีมือตัวเองแน่ๆว่ะ ลองถามเพื่อนผู้หญิงที่สนิทๆกัน(ไม่ใช่แนวเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อนะเว้ย)ดูก็ได้ว่ามึงจะทำกับข้าวมาให้กูแดกทุกวันได้มั้ย กูว่าร้อยทั้งร้อยคงตอบฝันไปเหอะมึง
>>926 เขาคงมีแพนทรีเล็กๆให้ไปอุ่นกับข้าวมั้ง แบบบริษัทกูอะ ถ้าใครห่อข้าวมากินก็ไปอุ่นข้าวในไมโครเวฟห้องแพนทรีก่อนแล้วค่อยกลับมานั่งกินที่โต๊ะตัวเอง กลิ่นกับข้าวหึ่งไปหมดในแพนทรี จะมีกลิ่นแกงกระหรี่เพิ่มมาคงไม่แปลกอะไร
>>927 กูว่าระดับวาคาบะคงไม่ต้องหาหนูทดลองกินกับข้าวฝีมือตัวเองหรอก ถ้าเป็นเจ้าแม่ก็ว่าไปอย่างนะ เสี่ยงทุกครั้งที่เคี้ยว 555555555555
>>925 แค่กูทำกินเองล้างเองคนเดียวกูยังขี้เกียจเลย เรื่องจะทำให้เพื่อนด้วยนี่ฝันไปได้เลย
คนระดับคาบุรากิถ้าคิดจะเอาข้าวกล่องมาก็ทำได้สบายมาก วาคาบะไม่จำเป็นต้องลำบากทำมาให้เลย ดูท่านเรย์กะสิ ทำอาหารไม่เป็นแต่มีคนทักว่าที่บ้านเปิดร้านอาหารเหรอตอนเห็นข้าวกล่องนะ ถถถถ
กูว่าวาคาบะชอบคาบุกลับแล้วนะ แต่กูก็ไม่แน่ใจ นางอาจจะเป็นคนใจดีแล้วก็ไม่คิดอะไรก็ได้ (หมายถึง ไม่ทันคิดว่าคาบุสามาถห่อข้าวกล่องมาได้สบายๆ อาจจะคิดแค่ว่า พวกPivoineไม่รู้จักข้าวกล่อง/ไม่ค่อยทานข้าวกล่อง เลยเสนอตัวทำมาให้เลยเพราะยังไงปกติก็ทำอยู่แล้ว ไรงี้)
>>929 กูดูทรงแล้วคิดว่าวาคาบะไม่น่าจะใจดีมีเมตตาขนาดนั้นว่ะ ดูจากด้านมืดของนางที่แผลงฤทธิ์ใส่คนที่มาแกล้งแล้ว นางก็คนปกติทั่วไปนี่ล่ะ ถึงจะทำกับข้าวเป็นประจำอยู่แล้ว แต่พอทำเสร็จก็ต้องหอบหิ้วขึ้นรถไฟ ฝ่าฟันการจราจร เพิ่มภาระให้ตัวเองทุกวันๆ ถึงจะมีความอดทนแค่ไหนแต่ก็ต้องมีหงุดหงิดกันบ้างล่ะวะ ว่าแค่เพื่อนกูต้องทำขนาดนี้มั้ย ดวกซ์ แต่นี่นางออกปากเองก็คงเตรียมใจมาแล้วที่จะรับภาระนี้ไว้เองด้วยความเต็มใจน่ะ
วาเลนไทน์มาแล้วจ้า ปีนี้จะมีดิบออกหรือไม่
KY นิด เห็นแท็ก #พบกันที่ชุมนุมแม่มดที่ฮิตๆ กันอยู่ช่วงนี้แล้วกูคิดถึงท่านเรย์กะกับยูกิโนะคุงจังว่ะ แม่มดผมม้วนที่เก็บเด็กน้อยโชตะมาเลี้ยงแล้วโตขึ้นกลายเป็นชูสุเกะคุงคนพี่นี่คงกร๊าวใจมิใช่น้อย
กุสงสัยว่าทำไมท่านเรย์กะข้ามมิติมาแล้วยังทำอาหารห่วยแตกวะ
คือชาวบ้านคนธรรมดา ปกติก็ต้องช่วยแม่ทำอาหารปะ คือถึงขนาดทำอาหารบ้านๆไม่เป็นเลยนี่ก็เกินไป
อย่างขนมนี่ทำไม่เป็นพอเป็นไปได้
>>938 กูว่าที่มันห่วยเพราะจินตนาการของนางที่จะใส่อะไรมั่วซั่วเข้าไปแล้วทำให้อาหารออกมารสชาติย่ำแย่ว่ะ แต่พอทำดีๆไม่ออกนอกลู่นอกทางนางก็ทำได้ดีนะ อย่างช็อกโกแลตลาวาที่ทำให้ท่านพี่ ทานุกิ อิมาริในวันวาเลนไทน์น่ะ
จะต้องบรรเจิดแค่ไหนถึงคิดจะเอาลูกมิราเคิลกับพุดดิ้งใส่ลงแกงกระหรี่ได้
เสนอชื่อ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการ "ฉันมารอตอนที่สามร้อยที่ท่าน้ำทุกวันเลย" /กระโจนไปงมก็ไม่พบ [ จึงสูดฟิคกาวอีก 25 ตอน]
เสนอมั่ง
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ: ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรัน : โอม tag love จงบังเกิดในตอนที่ 300
เรามาคอยดูกันนะฮะ ก่อน23:59ของวันนี้ตามเวลาญป. ชาวเราเหล่าโม่งซุยรันจะไฝแห้งกันหรือไม่ไม่ไม่ไม่ไม่
เอาใหม่ๆ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ: ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรัน : โอม tag love จงบังเกิดในตอนที่ 300 [ดูพลุ ฉลอง 25 กระทู้]
วันนี้ว่างนิดหน่อยเลยไปเช็ควันที่ดิบอัพในช่วงวาเลนไทน์
ครั้งแรกปี 2015 คือตอนที่ 237 เป็นตอนที่อิมาริเล่าความหลังให้เรย์กะฟังเรื่องหนีไปเที่ยวกลางคืนที่ปารีส แล้วเปิดประตูเข้าไปเจอท่านพี่นั่งรออยู่
ต่อมาปี 2016 อัพช่วงวันที่ 11/02 คือตอนที่ 247 สามหน่อประชุมหาตัวคนร้ายรังแกวาคาบะ แล้วเอ็นโจเล่าถึงหนังสายลับสองหน้า
ครั้งต่อมาปี 2017 คือตอนที่ 273 เอ็นโจชวนเรย์กะไปกินคีช
ปีนี้อ.แกจะอัพฉลองวาเลนไทน์มั้ยน้า
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ: ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรัน : อาถรรพ์เสียงโหยหาตอน 300 [ โอ้! ฮิโยโกะซามะเปิดการ์ดล่องหนแล้วครับ ! การ์ดใบที่ 25]
วันนี้เปิดเช็คสี่รอบละยังไม่เห็นวี่แววตอน300 (´༎ຶོρ༎ຶོ`)
ปล.จะว่าไปถ้าสมมติว่าวันนี้อ.เค้าอัพตอนใหม่ให้จริงๆนี่เรายังจะตั้งชื่อมู้แก้เคล็ดอยู่ปะ5555 เห็นมีแต่ชื่อมู้เกี่ยวกับตอน300
หมดวาเลนไทน์แล้วตอนใหม่ก็ยังไม่มา ร้องไห้
ญี่ปุ่นตอนนี้กี่โมง มึงงงง
มารอลุ้นอั่งเปาแทนช็อกโกแลตละกัน ถถถ
โอย คิดถึงฤดูร้อนที่ซุยรัน อยากดูดอกไม้ไฟแล้วค่ะท่าสฮิโยโกะ...
สหายโม่ง ช่วงนี้ก็รีรีดท่านเรกะใหม่ ท่านเรกะเคยแสดงความเห็นว่าผญชอบผช.ที่ดูอันตรายหน่อยๆ ดังนั้นกาวไปว่าเรือเอ็นโจจะลอยไปถึงใั่งได้ใช่มั้ยวะ //แต่อันตรายสุดก็ท่านพี่ป่ะวะ หึหึหึหึ
>>938 ขอคัดค้าน กูต้องแต่เกิดมาเรื่องช่วยแม่ทำกับข้าวนี่เป็นอะไรที่ไม่เคยแตะ จนกระทั่งไปเรียนต่อนี่แหละ ถึงได้ลองทำกับข้าวเอง... สรุปแดกไม่ลงจ้า... ขนาดไข่ดาวยังไม่เป็นไข่ดาวอ่ะมึง... ต่อมาต้องทำไปวีดีโอคอลหาแม่ไป ให้แม่บอกทีละขั้นๆ ถึงแดกได้ น้ำตาจะไหล ดังนั้นเป็นคนธรรมดาไม่จำเป็นต้องทำอาหารเป็นนะมึง
กูอยากเห็นท่านพี่สายซีบ้าง…
กูว่าตอนนี้คู่ที่ดูเรียลที่สุดก็อิมาริท่านพี่แล้วว่ะ ถถถถ
จะสรุปยอดโหวตชื่อเลยป่ะ ใกล้เต็มละนะ
นับคะแนนโหวตชื่อ ไล่ตั้งแต่ >>903 เป็นต้นมา
>>903 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับงานชมดอกไม้ไฟในฝัน [ขอตอนต่อไปรอบที่ 25]
IIIIII
>>904 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับบั๊กนกพิราบ [ชีวิตติดลูป 299 ครั้งที่ 25]
>>905 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปริศนาตอน300ที่หายไป [ตามหาท่านฮิโยโกะครั้งที่ 25]
I
>>941
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการ "ฉันมารอตอนที่สามร้อยที่ท่าน้ำทุกวันเลย" /กระโจนไปงมก็ไม่พบ [ จึงสูดฟิคกาวอีก 25 ตอน]
IIII
>>945
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ: ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรัน : โอม tag love จงบังเกิดในตอนที่ 300 [ดูพลุ ฉลอง 25 กระทู้]
I
>>948
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ: ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรัน : อาถรรพ์เสียงโหยหาตอน 300 [ โอ้! ฮิโยโกะซามะเปิดการ์ดล่องหนแล้วครับ ! การ์ดใบที่ 25]
I
สรุปกระทู้ที่ 25 ที่รอคอยเป็น "ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับงานชมดอกไม้ไฟในฝัน [ขอตอนต่อไปรอบที่ 25]" เตรียมตั้งกระทู้ใหม่กันได้เลยนะเคอะ
เผลืออีกเก้าอัน ปั่นกันเลยมั้ยยย
ใครตั้งก็อย่าลืมเอาลิงค์มาแปะในกระทู้ด้วยน้าา
ตั้งกระทู้ใหม่ล่ะ เชิญวิ่งควายกันได้เลย!
https://fanboi.ch/webnovel/5401
แด่ตอน 300 !!!
ตรุษจีนยังไม่หมด อย่าเพิ่งนับศพเรือกาว!!!
ท่านฮิโยโกะและเหล่าโม่งฟิคได้โปรดเมตตา!
เข้าไปดูที่นาโร่เผื่อดิบอัพตอนใหม่ มีแต่ประกาศบอกว่าเรื่องนี้ไม่อัพมาสี่เดือนละจร้าาาา กูโคตรชอกช้ำใจ
เรือวาคาบะจงเจริญ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.