Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับซูชิไข่ปลวกและหนังสือหนังมนุษย์ [หนอนตัวที่ 23 กระดึ๊บออกมาแล้วค่า]

Last posted

Total of 1000 posts

889 Nameless Fanboi Posted ID:YZgoe2NeL

Ky นะคะ ต่อจาก https://fanboi.ch/webnovel/4903/809-810/

((ตอนพิเศษ : ถ้าไม่มีใครทะลุมิติ : ฝั่งโลก Kimidolce))

ขอโทษนะคะที่มาคั่นบทสนทนา เราไม่รู้ว่าถ้าไม่ลงวันนี้จะมีโอกาสได้ลงอีกเมื่อไหร่ อาจจะหายไปนานไม่ได้เข้าโม่ง orz ไม่น่ามีสัญญาณ หวังว่ากลับมาท่านฮิโยโกะจะลงตอนใหม่ และเรย์กะเริ่มมีโมเม้นต์โดขิๆกับเขาบ้างซะที...

...............

ช่วงนี้ใจฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวยังไงไม่รู้ ร่างมันหวิวๆจนทำอะไรไม่ถูก พยายามอ่านหนังสือสอบแค่ไหนก็ไม่เข้าหัว กินอะไรก็ไม่ลง ไม่รู้สึกอยากทำอะไรเลย

คงต้องค่อยๆตัดใจ...

ตัดใจจากอะไรน่ะ? ฉันเป็นบ้าอะไรกันแน่

ช่วงนี้เริ่มมีคนกลับมาแกล้งฉันหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ฉันไม่มีอารมณ์ไปใส่ใจ แม้กระทั่งโดนทาคามิจิมาพูดอะไรสักอย่างที่ดูจะรุนแรงมากๆ ฉันก็ไม่ได้ตอบสนองไปมากนัก ทำได้แค่ยิ้มฝืนในใจอย่างบอกไม่ถูก

“เธอยังโอเคไหม”

“คะ?”

ฉันกะพริบตาปริบๆ จำไม่ได้เลยว่าอยู่ที่นี่ตั้งเมื่อไหร่ ฉันคงเดินมาเรื่อยๆ จนมาเจอมิซึซากิก็ได้

“ฉันได้ยินว่าช่วงนี้เธอถูกแกล้งอีกแล้วงั้นหรอ”

“ไม่รู้สิคะ”

“ทำไมช่วงนี้ไม่สนุกเวลาถูกแกล้งล่ะ”

“เอ๋???”

ฉันหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของมิซึซากิ ทำไมฉันต้องสนุกด้วยล่ะคะ!?!

เห็นท่าทางอึ้งๆงงๆของฉัน เขาเลยอธิบายเพิ่ม “ตอนฉันเคยคิดที่จะเข้าไปห้าม ก็เห็นแล้วว่าเธอมีความสุขทุกครั้งที่ถูกแกล้ง แต่ตอนนี้เธอดูเศร้าหดหู่ผิดปกติ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”

เดี๋ยวนะคะ เศร้าตอนโดนแกล้งก็ถูกแล้วสิคะ!

“ฉันไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้นซะหน่อยค่ะ... กรุณาช่วยปรับความเข้าใจใหม่ด้วยค่ะ”

มิซึซากิมองฉันเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ขอโทษที่ไม่ได้เข้าไปช่วยนะ ฉันตกตะลึงที่เธอยิ้มสดใสสุดๆตอนถูกแกล้งอยู่น่ะ”

“...ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”

ฉันทำอะไรแบบนั้นจริงงั้นหรอ คงไม่มั้ง... มิซึซากิน่าจะตาฝาดไปเองมากกว่า

“แล้วก็นะ ฉันเห็นเธอท่าทางดูไม่ค่อยดีเลยซื้ออาหารเสริมมาให้”

“อาหารเสริม?”

“ฉันโทรไป 10 สายแรกเลยได้แบบ 1 แถม 1 มาด้วย กินวันละเม็ดก็พอแล้วล่ะ”

ฉันตอบขอบคุณไปอย่างมึนๆ ฉันไม่แน่ใจว่าตัวเองควรตอบสนองยังไงกันแน่ ประธานนักเรียนคนนี้ดูท่าทางจะชอบซื้อของจากทีวีมากกว่าที่คิดนะคะ

ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกอบอุ่นในใจอย่างบอกไม่ถูก

ขณะที่ฉันกำลังเดินทางลัดทะลุไปที่ห้องเรียน ก็ได้ยินเสียงร้องไห้มาจากมุมมืดที่ไม่ค่อยมีใครผ่าน

นั่นคนใช่ไหมน่ะ...

แต่เท่าที่เทียบกับเรื่องเล่าตำนานผีในซุยรันไม่มีพูดถึงสถานที่ตรงนี้ คงเป็นคนล่ะมั้ง...

ฉันตัดสินใจเดินต่อไป ก่อนจะชะงักเมื่อสังเกตเห็นว่าคนคนนั้นเป็นใคร

ทาคามิจิ วาคาบะ

ฉันนิ่งอย่างคาดไม่ถึง ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรกันแน่ ตอนนี้สามัญชนคนนั้นได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วไม่ใช่หรือไง

แต่น่ารำคาญชะมัดเลยเสียงสะอึกสะอื้นแบบนี้

ฉันลองเดินเข้าไปใกล้ อีกฝ่ายดูจะไม่รู้ตัวเลยสักนิด เรื่องที่เจอมันหนักขนาดนั้นเลยงั้นหรอ

เห็นแล้วน่าหงุดหงิดจริงๆ

“มาทำตัวน่าสมเพชอะไรอยู่ตรงนี้คะ”

“คะ...คุณคิโชวอิน”

สามัญชนคนนั้นเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ ก่อนจะโผเข้ากอดฉันแล้วร้องไห้เหมือนใจจะขาด ตัวสั่นระริกคล้ายหวาดกลัวอะไรบางอย่างมากจริงๆ

อะ...อะไรน่ะ! ทำไม เกิดอะไรขึ้น?!

“เป็นอย่างที่คุณคิโชวอินพูดจริงๆ... ฉันน่ะไม่เหมาะสมกับคาบุรากิคุงเลยสักนิด”

“...”

“ฉันมีแต่จะทำให้เขาเสื่อมเสียเรื่อยๆ ฉันไม่รู้แล้วค่ะว่าควรทำยังไงต่อไปดี...”

ไปโดนใครทำอะไรมาน่ะ...

“ถ้าคิดแบบนั้นก็เลิกกันสิคะ”

“แต่ฉันก็รักเขา...”

ร่างที่กอดรัดฉันแน่นทิ้งน้ำหนักลงเหมือนเริ่มไร้เรี่ยวแรง

“ได้คำตอบแล้วไม่ใช่หรือไงคะว่าอยากทำอะไรต่อไป”

“แต่แบบนั้นก็ทำให้คาบุรากิคุงเดือดร้อนนะคะ...”

ฉันยิ้มเย็น รู้สึกไม่พอใจท่าทางคนตรงหน้าจนเริ่มรู้สึกอยากระเบิดอารมณ์

ฉันผลักอีกฝ่ายออกไป จนเซและล้มลงไปนั่งกับพื้น ท่าทางของผู้หญิงคนนั้นดูน่าสมเพชพอๆกับวันแรกๆที่ได้เห็นเธอ ท่าทางอ่อนแอนั่นทำให้ฉันนึกถึงวันวานและหงุดหงิดไปพร้อมๆกัน

“ฉันค่อยข้างมั่นใจว่าฉันเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของคุณนะคะ! ผ่านฉันไปได้แล้ว อย่ายอมแพ้กับอะไรง่ายๆให้ฉันรู้สึกเสื่อมเสียได้ไหมคะ”

ทาคามิจิทำทางเหมือนกำลังฝืนยิ้มทั้งน้ำตาอยู่ ทำให้ฉันขัดหูขัดตากับท่าทางน่าอึดอัดนั่น

890 Nameless Fanboi Posted ID:YZgoe2NeL

“สาเหตุที่สามัญชนต่ำต้อยอย่างคุณคู่กับท่านคาบุรากิได้ เพราะเขาเองรักคุณเหมือนกัน เขารู้ว่าเขาเองจะต้องเดือดร้อน แต่เขาก็พยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับคุณ แล้วคุณล่ะทำอะไร? พยายามผลักไส้เขางั้นหรอคะ? พอเจอปัญหาก็หนีปัญหาไปเรื่อยๆ น่าสมเพชจริงๆ”

ฉันอดไม่ได้ที่จะส่งสายตาเหยียดหยามไปให้

“อย่าทำมาเป็นคิดแทนเขาไปหน่อยเลยค่ะ คุณอาจจะทำให้เขาเดือดร้อนจริง แต่สำหรับเขาอาจจะเจ็บกว่าถ้าคุณเลิกกับเขาเพราะเหตุผลนั้น แค่นี้ก็ไม่เข้าใจหรือไงกันคะ!”

“...”

“หยุดทำตัวงี่เง่าแบบนี้ได้แล้ว ไปทำสิ่งที่สมควรทำเถอะค่ะ”

ฉันปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ที่เดิม ไม่เห็นเข้าใจเลยสักนิดว่าคนแบบนั้นชนะฉันได้ยังไง ทำตัวน่ารำคาญจริงๆ

แต่ฉันยังไม่ทันจะเดินไปไกล ผู้หญิงคนนั้นก็เรียกฉันไว้ “เดี๋ยวก่อนค่ะคุณคิโชวอิน”

มีอะไรอีกน่ะ?

“ฉันรู้ว่าช่วงนี้คุณกำลังเศร้ากับอะไรบางอย่างมากๆ ไม่ว่าคุณมีเรื่องอะไรก็บอกฉันได้ตลอดเลยนะคะ”

“เธอพูดอะไรของเธออยู่นั่นน่ะ?” ยังไม่ตื่นหรือไง

“ฉันชอบคุณคิโชวอินตอนที่ยิ้มจากใจมากที่สุดเลยนะคะ ฉันอยากทำทุกอย่างเพื่อปกป้องรอยยิ้มนั้นไว้”

ทาคามิจิตอบอย่างร่าเริงสดใส ท่าทางร้องไห้จะเป็นจะตายเมื่อกี้คืออะไรน่ะ! ภาพลวงตางั้นหรอ?!

อย่าบอกนะที่ทำเมื่อกี้เป็นแค่การแสดงละคร?! ไม่ได้เศร้าจริง!!!

“คุณน่าจะรู้คำตอบในใจแล้วว่าควรตัดสินใจทำอะไรต่อไป อย่าเศร้ากับมันอีกเลยนะคะ”

ทาคามิจิส่งยิ้มอ่อนโยนที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนมาให้ หัวใจฉันแทบจะหยุดเต้น ศิลปะการแสดงของผู้หญิงคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้วนะ...

ฉันยืนงงอย่างประมวลผลไม่ทันอยู่พักใหญ่...

พอฉันมาถึงห้องก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคาบุรากิยืนอยู่ข้างโต๊ะฉัน ทุกคนรอบข้างต่างหลีกทางให้เขา

“มาแล้วงั้นหรอ เรามีเรื่องที่ต้องคุยกัน"

ท่าทางจริงจังคอขาดบาดตายนั่นมันอะไรกัน...

“พูดตรงนี้เลยหรอคะ”

ท่านคาบุรากิชะงักอย่างสง่างามจนคนรอบข้างที่มองอยู่หน้าแดงไม่กล้ามองรัศมีอันเจิดจ้าของจักรพรรดิ

“ไปคุยที่สโมสรแล้วกัน”

“ฉันเข้าไปที่นั่นไม่ได้ค่ะ...”

ดูเหมือนระยะเป็นสิบปีที่ฉันเป็น Pivioine จะซึมซับในความทรงจำของท่านคาบุรากิอยู่บ้าง แต่เขาลืมไปแล้วหรือไงว่าฉันโดนเด้งจากตำแหน่งนั้นด้วยน้ำมือของเขาเอง ฉันที่ถูกกดดันจำเป็นต้องตอบสิ่งที่ไม่อยากพูดถึงเท่าไหร่

“งั้นตามฉันมาแล้วกัน”

เขาพูดอย่างทรงอำนาจ ซึ่งฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากตามเขาไป เขาเป็นคนที่ฉันเคยตามจีบและฆ่าฉันตายทั้งเป็นโดยการหักหน้ากลางงานหมั้น ทำให้ฉันไม่แน่ใจว่าแสดงปฏิกิริยาอะไรกันแน่ จะโกรธก็ไม่ได้ จะรักก็ไม่ลง สุดท้ายก็อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และหลีกเลี่ยงเขามาโดยตลอดนับแต่วันนั้น

ในที่สุดเราก็มาหยุดลงในมุมหนึ่งที่ไร้ผู้คน เป็นจุดเดียวกับที่ฉันเจอทาคามิจิวันนี้

“วันนี้ทาคามิจิร้องไห้ แล้วเธอก็อยู่ที่นั่นด้วย คิดจะทำอะไรกันแน่น่ะ”

เอ๋?! เขาเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นงั้นหรอคะ! แต่คงไม่ใกล้พอที่จะได้ยินเสียงสินะ

“ถ้าเธอยังคิดที่จะทำร้ายทาคามิจิ ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่”

“คนที่จนตรอกจริงๆ จะทำอะไรก็ได้ล่ะค่ะ ตอนนี้ฉันเองก็ไม่เหลืออะไรจะเสียแล้วเหมือนกัน”

ฉันยิ้มให้คนตรงหน้า ท่านคาบุรากิมองฉันด้วยท่าทางคล้ายระแวง แววตาของเขาแข็งกร้าวขึ้นมา

“ต่อให้เธอคิดว่าตอนนี้เธอแย่แล้ว แต่เชื่อเถอะ ฉันสามารถทำให้เธอตกต่ำกว่านี้ได้ เพราะงั้นตอนที่ฉันยังเห็นแก่ความใจดีของทาคามิจิ หยุดทำเรื่องแย่ๆแบบนั้นซะที เพราะนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะเตือนเธอแล้ว”

ท่าทางเกรี้ยวกราดนั่นทำให้ใจฉันหยุดเต้น และหน้าฉันร้อนผ่าว มีไม่กี่ครั้งที่ฉันได้เห็นภาพจักรพรรดิระเบิดอารมณ์ด้วยความโกรธลึกซึ้ง คำพูดที่ดูเสียดแทงหัวใจดูเข้ากันได้ดีกับท่าทางทรงอำนาจนั่นจริงๆ แม้ช่วงท้ายอาจพูดไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่ แต่อาจเพราะไม่เคยชินกับเรื่องแบบนี้เท่าเอ็นโจก็ได้

“เธอ...เป็นมาโซอย่างที่ข่าวบอกมาจริงๆด้วยสินะ”

“ห๊า??? พูดถึงอะไรคะ ฉันไม่ได้ชอบการถูกทำร้ายซะหน่อยค่ะ!”

อะไรทำให้บทสนทนามาถึงจุดนี้ได้น่ะ ทำไมอยู่ๆก็พูดเรื่องพรรค์นี้ออกมา

“และเธอก็เป็นซึนเดเระด้วยสินะ”

“ยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลยค่ะ! พูดถึงเรื่องอะไรอยู่คะ!!!”

ท่านคาบุรากิหลุดหัวเราะหึออกมา ท่าทางในตอนนี้ดูดีจนคนจิตอ่อนต้องตกหลุมรักคนตรงหน้าแน่ๆ

“ฉันได้ยินทุกอย่างที่เธอพูดกับทาคามิจิ”

เอ๋...

“ขอบคุณนะที่พูดกับทาคามิจิอย่างนั้น”

“ฉันไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษซะหน่อยค่ะ! ท่านคาบุรากิคิดไปเองทั้งนั้น!!! ละ...และก็กรุณาช่วยหยุดยิ้มทีเถอะค่ะ”

“หะ???”

“ถ้ายิ้มต่อไปแบบนั้น ฉันต้องตกหลุมรักแน่ๆค่ะ เอามือปิดไว้เร็วเข้าค่ะ!”

“อย่าพูดอะไรที่ฉันไปต่อไม่ถูกได้ไหม...”

ก็อย่าทำอะไรแบบนั้นก่อนสิ พลังทำร้ายล้างน่ากลัวเกินไปแล้ว

891 Nameless Fanboi Posted ID:YZgoe2NeL

ว่าแต่เขาไม่ได้คิดจะมาแก้แค้นให้แฟนตัวเองจริงๆใช่ไหม ฉันแนะนำให้ทาคามิจิบอกเลิกกับเขาไปนะ ไม่ได้ยินที่ฉันพูดตอนนั้นหรือไง ฉันด่าทาคามิจิด้วยนะ! แถมยังผลักเธออย่างแรง นั่นเรียกว่าทำร้ายร่างกายนะ! อย่ามาขอบคุณกันสิ ฉันน่ะแค้นผู้หญิงคนนั้นจะตาย ทำไมดูไม่ออกกันนะ

“ขอโทษนะ...”

อะไรน่ะ ต่อจากขอบคุณก็ขอโทษงั้นหรอ ท่านคาบุรากิโดนมอมเหล้ามาหรือเปล่า...

“ขอโทษที่ประกาศเรื่องนั้นกลางงานหมั้น มันแรงเกินไปจริงๆนั่นแหละ และเรื่องนั้นเธอไม่ได้ผิดอะไรด้วย...”

อย่าทำหน้าแบบนั้นได้ไหมคะ นั่นทำให้ฉันเริ่มใจอ่อนคล้อยตาม... ฉันกะจะเก็บความแค้นไว้ตลอดชีวิตซะหน่อย

ฉันได้แต่เตือนสติตัวเองว่ายังไงก็ต้องแค้นให้ถึงที่สุด

“แต่ว่าถึงยังไงสิ่งที่เธอเคยทำกับทาคามิจิก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าให้อภัยหรอกนะ”

“ผู้หญิงคนนั้นควรโดนแล้วค่ะ สมกับฐานะสามัญชนนั่นดี”

“ห้ามพูดถึงทาคามิจิแบบนั้น ถ้าฉันได้ยินคำพูดทำนองนั้นจากปากของเธออีกแค่ครั้งเดียว ต่อให้ทาคามิจิมาห้าม ฉันก็จะทำให้เธอตายทั้งเป็น”

“แหม งั้นหรอคะ”

“...”

ท่านคาบุรากินิ่งไปพักหนึ่ง

“มาโซจริงๆด้วย! เธอชอบให้พูดทำร้ายจิตใจจริงๆด้วย!”

“เอ๋?! เปล่าซะหน่อยค่ะ!”

“เธอยิ้มตลอดเลย! ยิ่งว่าแรงหรือขู่น่ากลัวมากขึ้น ยิ่งยิ้มสดใสขึ้นอยู่ชัดๆ!!!”

ท่านคาบุรากิทำหน้าตื่นตกใจ

“นั่นคือยิ้มการค้าค่ะ! ยิ้มรับเวลารับมือไม่ถูกไงคะ อย่าตีความผิดๆสิคะ”

“ฉันเห็นเธอยิ้มจอมปลอมนั่นมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว! เธอไม่ได้เห็นตอนตัวเองยิ้มนี่ ตอนถูกว่าเธอยิ้มสดใสจนออร่าแห่งความสุขเปล่งออกมาขนาดนั้น รอยยิ้มการค้าอะไรล่ะ”

“เป็นความผิดท่านคาบุรากิต่างหากค่ะที่หน้าตาดีเกินไปจนฉันเผลอยิ้ม” นั่นสินะ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ!

“ฉันลองหาข่าวมาแล้ว ตอนเธอถูกทำร้าย ใครที่เห็นเหตุการณ์ก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอมีความสุขอยู่ชัดๆ ตอนที่เธอโดนมีดบาดจนเลือดออกยังยิ้มแย้มแจ่มใส แถมยังเอาเกลือไปทาด้วย! น่ากลัวชะมัด”

สตรอกเกอร์! นี่มันสตรอกเกอร์ตัวจริงเสียงจริงเลยนี่คะ!!! รู้กระทั่งตอนเอาเกลือทาได้ยังไงเฮ้ย!

เหมือนที่ท่านพี่พูดเอาไว้ไม่มีผิดจริงๆ แต่ไม่นึกว่าแม้กระทั่งท่านคาบุรากิก็สโตรกเกอร์ไปกับเขาด้วย มีคนคอยตามฉันเยอะกว่าที่คิดเกินไปแล้วนะ...

คงแค่ดูความเคลื่อนไหวของฉันเพราะกลัวฉันจะไปทำอะไรคนรักเขาล่ะมั้งนะคะ

“ทาเกลือฆ่าเชื้อเฉยๆค่ะ...”

สายตาท่านคาบุรากิบ่งบอกชัดว่าไม่เชื่อถือเลยสักนิด เก็บอาการบ้างก็ได้นะคะ

“จะยังไง เอานี่ไปแทนคำขอโทษสำหรับสิ่งที่ฉันเคยทำแล้วกัน”

“นี่มันอะไรคะ...”

ฉันมองขวดในมือด้วยความรู้สึกแปลกๆ

“เกลือที่ทาแล้วไม่เป็นอันตรายต่อเยื่อบุผิว มันกะปริมาณส่วนผสมและอัตราส่วนที่แน่นอนไว้แล้ว ถึงเธอจะชอบเวลาเจ็บแค่ไหนก็ยอมลดหน่อยดีกว่านะ มันคงไม่แสบเหมือนเกลือทั่วไป”

“ฉันบอกแล้วไงคะว่าไม่ใช่มาโซ...”

“อย่ากินเกลือนี้ล่ะ เอาไว้ทาแผลอย่างเดียว จริงๆเอาไปขัดผิวก็ได้ มันแสบหน่อยๆ เธอน่าจะชอบ และก็ห้ามทำร้ายตัวเองเล่นๆเพื่อให้เลือดออกแล้วทาเกลือนะ”

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น...”

ทำไมมีแต่คนเข้าใจผิดแบบนั้นกันนะ ไม่เข้าใจจริงๆ

ฉันเก็บของขวัญชิ้นแรกที่ท่านคาบุรากิให้ลงกระเป๋า ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ฉันไม่เคยคาดคิดว่าจะได้อะไรแบบนี้จากเขาเลย ขนาดตอนนี้ฉันยังไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังฝันอยู่หรือเปล่า แล้วถ้าฝัน นี่มันฝันบ้าอะไรกัน...

ท่านคาบุรากิเดินจากไป ฉันมองแผ่นหลังของเขา นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีโอกาสได้คุยดีๆกับเขา มันคงดีกว่านี้ถ้าฉันไม่ได้อยู่ในฐานะนี้ ไม่ได้มีชนักติดหลัง ทำอะไรไม่ถูกว่าควรดีใจหรือเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นดี ตอนนี้ฉันเองควรจะมองเขาเป็นศัตรูใช่ไหม

ถ้าเป็นแต่ก่อน ฉันคงดีใจมากจนทำอะไรไม่ถูก แต่ตอนนี้... ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากยุ่งกับเขาอีกแล้ว เป็นเพราะทาคามิจิคนเดียวแท้ๆ! ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ...

ช่วงนี้ฉันก็ไม่เจอเอ็นโจอีกเลย นับตั้งแต่ฉันเจอ “คู่หมั้น” ของเขา ทั้งๆที่ตอนฉันตกต่ำก็โผล่มาเยาะเย้ยสม่ำเสมอแท้ๆ พอสืบๆไป ดูเหมือนจะไม่มาเรียนด้วยเหมือนกันนะ

ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรหมอนั่นเป็นพิเศษหรอกนะ คงไปเตรียมการหมั้นล่ะมั้ง ดีแล้วล่ะ อยู่ใกล้ๆแล้วน่าขนลุก

วันหนึ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้น มันรวดเร็วและรุนแรงจนฉันตกตะลึง

ฉันไม่เคยคาดคิดว่าวันนี้จะเกิดขึ้น และไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไงดี

ตอนนี้ตระกูลเอ็นโจล้มละลายแล้ว

………………(จบตอนพิเศษ Kimidolce ตอนที่ 6)………………

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.