Ky นะคะ ต่อจาก https://fanboi.ch/webnovel/4903/809-810/
((ตอนพิเศษ : ถ้าไม่มีใครทะลุมิติ : ฝั่งโลก Kimidolce))
ขอโทษนะคะที่มาคั่นบทสนทนา เราไม่รู้ว่าถ้าไม่ลงวันนี้จะมีโอกาสได้ลงอีกเมื่อไหร่ อาจจะหายไปนานไม่ได้เข้าโม่ง orz ไม่น่ามีสัญญาณ หวังว่ากลับมาท่านฮิโยโกะจะลงตอนใหม่ และเรย์กะเริ่มมีโมเม้นต์โดขิๆกับเขาบ้างซะที...
...............
ช่วงนี้ใจฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวยังไงไม่รู้ ร่างมันหวิวๆจนทำอะไรไม่ถูก พยายามอ่านหนังสือสอบแค่ไหนก็ไม่เข้าหัว กินอะไรก็ไม่ลง ไม่รู้สึกอยากทำอะไรเลย
คงต้องค่อยๆตัดใจ...
ตัดใจจากอะไรน่ะ? ฉันเป็นบ้าอะไรกันแน่
ช่วงนี้เริ่มมีคนกลับมาแกล้งฉันหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ฉันไม่มีอารมณ์ไปใส่ใจ แม้กระทั่งโดนทาคามิจิมาพูดอะไรสักอย่างที่ดูจะรุนแรงมากๆ ฉันก็ไม่ได้ตอบสนองไปมากนัก ทำได้แค่ยิ้มฝืนในใจอย่างบอกไม่ถูก
“เธอยังโอเคไหม”
“คะ?”
ฉันกะพริบตาปริบๆ จำไม่ได้เลยว่าอยู่ที่นี่ตั้งเมื่อไหร่ ฉันคงเดินมาเรื่อยๆ จนมาเจอมิซึซากิก็ได้
“ฉันได้ยินว่าช่วงนี้เธอถูกแกล้งอีกแล้วงั้นหรอ”
“ไม่รู้สิคะ”
“ทำไมช่วงนี้ไม่สนุกเวลาถูกแกล้งล่ะ”
“เอ๋???”
ฉันหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของมิซึซากิ ทำไมฉันต้องสนุกด้วยล่ะคะ!?!
เห็นท่าทางอึ้งๆงงๆของฉัน เขาเลยอธิบายเพิ่ม “ตอนฉันเคยคิดที่จะเข้าไปห้าม ก็เห็นแล้วว่าเธอมีความสุขทุกครั้งที่ถูกแกล้ง แต่ตอนนี้เธอดูเศร้าหดหู่ผิดปกติ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”
เดี๋ยวนะคะ เศร้าตอนโดนแกล้งก็ถูกแล้วสิคะ!
“ฉันไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้นซะหน่อยค่ะ... กรุณาช่วยปรับความเข้าใจใหม่ด้วยค่ะ”
มิซึซากิมองฉันเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ขอโทษที่ไม่ได้เข้าไปช่วยนะ ฉันตกตะลึงที่เธอยิ้มสดใสสุดๆตอนถูกแกล้งอยู่น่ะ”
“...ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
ฉันทำอะไรแบบนั้นจริงงั้นหรอ คงไม่มั้ง... มิซึซากิน่าจะตาฝาดไปเองมากกว่า
“แล้วก็นะ ฉันเห็นเธอท่าทางดูไม่ค่อยดีเลยซื้ออาหารเสริมมาให้”
“อาหารเสริม?”
“ฉันโทรไป 10 สายแรกเลยได้แบบ 1 แถม 1 มาด้วย กินวันละเม็ดก็พอแล้วล่ะ”
ฉันตอบขอบคุณไปอย่างมึนๆ ฉันไม่แน่ใจว่าตัวเองควรตอบสนองยังไงกันแน่ ประธานนักเรียนคนนี้ดูท่าทางจะชอบซื้อของจากทีวีมากกว่าที่คิดนะคะ
ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกอบอุ่นในใจอย่างบอกไม่ถูก
ขณะที่ฉันกำลังเดินทางลัดทะลุไปที่ห้องเรียน ก็ได้ยินเสียงร้องไห้มาจากมุมมืดที่ไม่ค่อยมีใครผ่าน
นั่นคนใช่ไหมน่ะ...
แต่เท่าที่เทียบกับเรื่องเล่าตำนานผีในซุยรันไม่มีพูดถึงสถานที่ตรงนี้ คงเป็นคนล่ะมั้ง...
ฉันตัดสินใจเดินต่อไป ก่อนจะชะงักเมื่อสังเกตเห็นว่าคนคนนั้นเป็นใคร
ทาคามิจิ วาคาบะ
ฉันนิ่งอย่างคาดไม่ถึง ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรกันแน่ ตอนนี้สามัญชนคนนั้นได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วไม่ใช่หรือไง
แต่น่ารำคาญชะมัดเลยเสียงสะอึกสะอื้นแบบนี้
ฉันลองเดินเข้าไปใกล้ อีกฝ่ายดูจะไม่รู้ตัวเลยสักนิด เรื่องที่เจอมันหนักขนาดนั้นเลยงั้นหรอ
เห็นแล้วน่าหงุดหงิดจริงๆ
“มาทำตัวน่าสมเพชอะไรอยู่ตรงนี้คะ”
“คะ...คุณคิโชวอิน”
สามัญชนคนนั้นเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ ก่อนจะโผเข้ากอดฉันแล้วร้องไห้เหมือนใจจะขาด ตัวสั่นระริกคล้ายหวาดกลัวอะไรบางอย่างมากจริงๆ
อะ...อะไรน่ะ! ทำไม เกิดอะไรขึ้น?!
“เป็นอย่างที่คุณคิโชวอินพูดจริงๆ... ฉันน่ะไม่เหมาะสมกับคาบุรากิคุงเลยสักนิด”
“...”
“ฉันมีแต่จะทำให้เขาเสื่อมเสียเรื่อยๆ ฉันไม่รู้แล้วค่ะว่าควรทำยังไงต่อไปดี...”
ไปโดนใครทำอะไรมาน่ะ...
“ถ้าคิดแบบนั้นก็เลิกกันสิคะ”
“แต่ฉันก็รักเขา...”
ร่างที่กอดรัดฉันแน่นทิ้งน้ำหนักลงเหมือนเริ่มไร้เรี่ยวแรง
“ได้คำตอบแล้วไม่ใช่หรือไงคะว่าอยากทำอะไรต่อไป”
“แต่แบบนั้นก็ทำให้คาบุรากิคุงเดือดร้อนนะคะ...”
ฉันยิ้มเย็น รู้สึกไม่พอใจท่าทางคนตรงหน้าจนเริ่มรู้สึกอยากระเบิดอารมณ์
ฉันผลักอีกฝ่ายออกไป จนเซและล้มลงไปนั่งกับพื้น ท่าทางของผู้หญิงคนนั้นดูน่าสมเพชพอๆกับวันแรกๆที่ได้เห็นเธอ ท่าทางอ่อนแอนั่นทำให้ฉันนึกถึงวันวานและหงุดหงิดไปพร้อมๆกัน
“ฉันค่อยข้างมั่นใจว่าฉันเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของคุณนะคะ! ผ่านฉันไปได้แล้ว อย่ายอมแพ้กับอะไรง่ายๆให้ฉันรู้สึกเสื่อมเสียได้ไหมคะ”
ทาคามิจิทำทางเหมือนกำลังฝืนยิ้มทั้งน้ำตาอยู่ ทำให้ฉันขัดหูขัดตากับท่าทางน่าอึดอัดนั่น