สุดท้ายก็หลับในห้องพยาบาลเพลินจนไม่ได้เรียนคาบบ่าย รู้ตัวอีกทีก็เลิกเรียนแล้ว ฉันกลับไปเอากระเป๋าที่ห้องก่อนรีบเดินไปขึ้นรถประจำตระกูลที่โทรให้มาจอดรอไว้ ...ไม่ได้ตั้งใจหลบหน้าใครเลยจริงๆนะคะ
แต่เมื่อเดินถึงประตูโรงเรียนสิ่งที่ไม่คาดฝันและไม่คิดฝันก็เกิดขึ้น
"เฮ้! คิโชวอิน!" เสียงคาบุรากิตะโกนเรียกฉันแว่วมาจากด้านหลัง ...ทำเป็นไม่ได้ยินไปแล้วกัน ทั้งที่คิดอย่างนั้นร่างกายกลับไม่ขยับเขยื้อน พอหันไปก็เจอเอ็นโจกำลังจับไหล่ฉันพร้อมรอยยิ้มดำมืด
อุกรี๊ดดดด ฉันยังไม่พร้อมเจอนายตอนนี้หรอกนะยะ
"สะ สายันสวัสดิ์ค่ะ ท่านเอ็นโจ"
"สวัสดีครับ คุณคิโชวอิน"
"คิโชวอิน ทำไมไม่หยุดรอฉันน่ะหา เรียกตั้งนานแล้วนะ" คาบุรากิที่ตามมาทันพูดขึ้น
"เอ๋ ท่านคาบุรากิเรียกฉันด้วยหรือคะ พอดีไม่ค่อยสบายเลยรับรู้สิ่งรอบตัวไม่ได้มากเท่าไหร่ ต้องขออภัยด้วยค่ะ" เห็นไหมล่ะ ฉันไม่สบายนะ ปล่อยฉันกลับบ้านซะทีสิคะ
"ได้ยินว่าตอนบ่ายคุณคิโชวอินไปห้องพยาบาลด้วยนี่นา เป็นอะไรมากหรือเปล่า" เอ็นโจพูดพลางค่อยๆละมือจากไหล่ฉัน
รู้สึกเบาสบายขึ้นเยอะเลยค่ะ
"แค่รู้สึกอ่อนเพลียเพราะนอนดึกเองค่ะ"
"ถ้าไม่เป็นอะไรมากก็ไปประชุมกันเถอะ เราเสียเวลากับการตามหาเธอมามากแล้วนะ" อะไรกันน่ะ ถึงความจริงฉันจะไม่เป็นอะไรเลยก็ตาม แต่จะลากเด็กผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่าป่วยจนต้องนอนห้องพยาบาลตลอดทั้งบ่ายไปนั่งฟังอภิปรายเรื่องรักๆใคร่ๆของนายมันไม่โหดร้ายไปหน่อยเรอะ ความใส่ใจน่ะรู้จักบ้างเซ่!
ในขณะที่ฉันและคาบุรากิกำลังยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่ เอ็นโจก็พูดขึ้น
"มาซายะ คุณคิโชวอินเขาป่วยอยู่นะ"
"รู้แล้วน่า รีบไป-"
"หืม... มาซายะ"
"....."
"....."
สุดท้ายก็เป็นคาบุรากิที่ยอมรามือจากฉัน แต่ก็ไม่วายทิ้งทำบ่นไว้ให้เจ็บแสบเล่นๆ
"ก็เพราะอย่างนี้ไงล่ะ คิโชวอิน เธอเห็นหรือยังว่าความอ้วนของเธอมันส่งผลเสียต่อสุขภาพยังไง ต่อแต่นี้ไปลดความอ้วนซะ จะไปฟิตเนสหรือจะวอร์กกิ้งอย่างที่เธอทำประจำก็ได้" หา! วอร์กกิ้งที่ไหนล่ะยะ เจ้าบากะรากิเอ๊ย!
พอกลับถึงบ้านก็เจอทานุกิยิ้มหน้าบานออกมาต้อนรับพร้อมกล่องชีสเค้กจากร้านประจำ
"เรย์กะ~ ยินดีต้อนรับกลับบ้านจ้า ไปกินสตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้กกันเถอะ พ่อซื้อมาสองกล่องเลยนะลูก"
แล้วทำท่าจะเดินจูงฉันเข้าบ้าน ฉันปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เข้าห้องตัวเองล็อกประตูโดยไม่แยแสเสียงโหยหวนจากด้านนอก
อย่าคิดว่าไม่รู้นะว่าไปโม้เพ้อเจ้ออะไรให้คนอื่นฟัง 'คุณลูกสาวอ้อนคุณพ่ออยากกินชีสเค้ก' งั้นเรอะ ชดใช้กรรมไปซะเถอะ!
หลังอาบน้ำเสร็จไม่นานท่านพี่ก็มาเคาะประตู กลับมาแล้วหรือคะท่านพี่
"ยินดีต้อนรับกลับค่า ท่านพี่"
"ขอบใจนะ ได้ยินว่าวันนี้เรย์กะไปนอนห้องพยาบาล เป็นอะไรหรือเปล่า" พร้อมมองฉันด้วยสายตาอ่อนโยน
ท่านพี่เป็นห่วงน้องด้วยหรือคะ ซาบซึ้งใจเหลือเกิน
อุก น้ำตามายามัน...
"ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่อ่อนเพลียนิดหน่อย"
"งั้นเหรอ ดีแล้วล่ะ" ท่านพี่วางมือลงบนหัวฉันก่อนตบ ปุปุ เบาๆ
"เอ่อ ท่านพี่คะ..."
"หืม"
"ปกติผู้ชายอยากได้ของขวัญแบบไหนกันหรือคะ" ฟังจบ ท่านพี่ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
"เรย์กะจะให้ของขวัญใครเหรอ"
"คือที่โรงเรียนมีเล่นบัดดี้บัดเดอร์ แล้วบัดดี้ของน้องเป็นผู้ชายน่ะค่ะ"
"อ้อ... เอาของที่ให้แล้วหมดไปดีที่สุดนะ"
แล้วท่านพี่ก็กำชับว่าอย่านอนดึกพร้อมลูบหัวฉันสองสามทีก่อนไป
ฉันกลับมานอนบนเตียง ชูแหวนในมือขึ้นส่องกับแสงหลอดไฟเป็นประกายสวย หมุนไปหมุนมาก็พบชื่อที่สลักอยู่ภายใน...
เอ็นโจ ชูสุเกะ
เอาไงดีน้า ของขวัญอะไรที่พอจะให้เอ็นโจคนนั้นได้อย่างสบายใจ... ก็เป็นของขวัญปีใหม่นี่นา ก็ต้องมอบให้ด้วยความรู้สึกที่ดีใช่ไหมล่า
เอ ความจริงที่เอ็นโจแนะนำตอนซื้อของฝากให้ท่านอิมาริก็ดูดีใช้ได้เหมือนกัน
เรียกว่า กอล์ฟมาร์กเกอร์ รึเปล่าน้า
......................................................................................... (จบตอน 1)...............................................................................................
เป็นฟิคเจ้าแม่เรื่องแรกของกู ภาษาอาจจะแปลกๆเล็กน้อย.....