ฉันกลับมาที่ห้องอย่างเหนื่อยล้า แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นเงาคนนั่งอยู่ ในห้อง ฉันรีบถอยหลังและเตรียมวิ่งหนีแทบจะในทันที แต่ก็โดนคนนั้นจับตัวเอาไว้ ปิดปากฉันแน่นจนไม่สามารถตะโกนขอความช่วยเหลือได้ แม้พยายามดิ้นหนีแค่ไหนก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้เลย
“นี่พี่เอง เรย์กะ”
ฉันเหลือบมองคนที่รัดตัวฉันไว้ ท่านพี่จริงๆด้วย...
“พี่จะค่อยๆปล่อยมือนะ”
พอฉันเลิกดิ้น แขนที่รัดฉันค่อยๆคลายออก ฉันพูดกึ่งตะโกนอย่างหงุดหงิดทันทีที่ได้รับอิสระ “คุณเข้ามาในนี้ได้ยังไงคะ! แล้วเข้ามาทำอะไรกันแน่คะ!!!”
“ท่านยายให้กุญแจกับพี่มาเผื่อเกิดกรณีฉุกเฉินน่ะ”
ฉันมองพี่ชายแท้ๆร่วมสายเลือดตัวเอง เขาทำท่าทางเป็นห่วงเป็นใยมาให้ หลอกให้หัวใจฉันอบอุ่นไปวูบหนึ่ง แต่ฉันก็มองออกว่ามันไม่ใช่ความจริง ถึงฉันจะเคยบอกเขาแล้วว่าไม่จำเป็นเสแสร้งใส่หน้ากากตอนอยู่กับฉันก็ได้ แต่ดูเหมือนเขาจะชินจนทำแบบนั้นไปอัตโนมัติ รอยยิ้มหลอกลวงนั่นทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนมากขึ้นเมื่อนึกถึงว่าเขาทิ้งครอบครัวตัวเองไป ทิ้งฉันให้แบกรับภาระผู้สืบทอดแทนอยู่เพียงคนเดียว
“แล้วมีเรื่องฉุกเฉินอะไรกันคะ”
ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร และเดินออกห่างจากเขาให้มากที่สุด
“ตอนนี้มันไม่เกิดขึ้นแล้วล่ะ”
ตอนนี้ไม่เกิดขึ้นแล้ว หมายความว่ายังไงน่ะ... แม้ฉันจะส่งสายตาสงสัยไปให้ แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่คิดจะตอบ และทำเพียงส่งยิ้มที่อ่านยากมาให้
“เสื้อไปโดนอะไรมาหรือเปล่า ไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ ก็แค่พวกแมลง”
“ให้พี่จัดการแมลงพวกนั้นให้ไหม”
เขายิ้มน่ากลัวแปลกๆ ฉันดูไม่ออกว่าตอนนี้เขากำลังพูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่
“ช่วงนี้ดูเหมือนมีคนหลายกลุ่มแอบตามน้องอยู่นะ”
“งั้นหรอคะ”
พอดีฉันมีกองทัพศัตรูที่เต็มไปด้วยความแค้นเลยไม่ได้มีความแปลกใจอะไรมากนัก
“ไม่กังวลเลยหรอ”
แค่พวกสโตรกเกอร์ ยังไงก็ไม่น่ากลัวเท่าตอนท่านพี่ทำตัวอย่างกับโจรลักพาตัวเมื่อกี้หรอกนะ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ช่วยกลับไปด้วยค่ะ”
“จากวันนี้ไปพี่จะมาติวหนังสือให้น้องทุกวัน”
“เอ๋?!”
“ตอนนี้ก็ใกล้สอบแล้ว และน้องคงไม่อยากซ้ำชั้นหรอกใช่ไหม”
เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม คำพูดที่เขาพูดตรงกับสิ่งที่ฉันกังวลพอดีจนน่ากลัว นี่เขารู้อะไรถึงไหนกันน่ะ...ทั้งๆที่ไม่ได้เรียนซุยรันแล้วแท้ๆ ทำไมถึงรู้เรื่องนี้ได้ ไม่สิ รู้ถึงขั้นว่ามีคนสโตรกเกอร์ฉันเลยด้วยซ้ำนี่นะ
ดูเหมือนคนที่สโตรกเกอร์ฉันมากที่สุดอาจจะเป็นคนตรงหน้านี้เองก็ได้...
………………(จบตอนพิเศษ Kimidolce ตอนที่ 4)………………