Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับซูชิไข่ปลวกและหนังสือหนังมนุษย์ [หนอนตัวที่ 23 กระดึ๊บออกมาแล้วค่า]

Last posted

Total of 1000 posts

679 Nameless Fanboi Posted ID:ztIg0n4A.

ต่อจาก https://fanboi.ch/webnovel/4659/12-14/

((ตอนพิเศษ : ถ้าไม่มีใครทะลุมิติ : ฝั่งโลก Kimidolce))

ขอแวะมาลงฟิคที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคริสต์มาส 555 ยังเขียนตอนหลักไม่ออกก็มาปั่นตอนพิเศษก่อนนะคะ ไม่รู้ว่ายังจำกันได้ไหม อันนี้ไม่เกี่ยวกับฟิคหลักนะคะ แค่เอานิสัยตัวละครมาจากฟิคหลัก (ย่อๆตอนที่ผ่านมาคือเป็นโลกฝั่งคิมิดอลตามเวอร์ชั่นปกติ ที่ตระกูลคิโชวอินล้มละลาย เรย์กะกลายเป็นชนชั้นสามัญ พอกลับมาเรียนก็โดนแก้แค้นสารพัด แต่เจ้าตัวกลับชอบกว่าที่คิด)

...............

(ฝั่งโลกคิมิดอล)

วันอันน่าเบื่อของฉันเริ่มต้นอีกครั้งเมื่อพวกคนไม่รู้ที่สูงต่ำทำกร่างใส่ฉัน คำเสียดสีต่อว่าที่พวกนั้นใช้ก็ซ้ำเดิมจนฉันเผลอหาวไปหลายครั้ง

สายตาตอนแกล้งหรือขู่ก็ดูไม่เข้มแข็งพอ อ่อนปวกเปียกจนไม่มีอะไรน่าสนใจ แค่พูดๆนิดหน่อยก็วิ่งหนีไปล่ะ ใจเซาะชะมัด

ไม่มีใครที่จะทำได้แบบเอ็นโจบ้างหรือไงกันนะ

ฉันเห็นเวลาเหลืออีกนานกว่าจะเริ่มเรียน เลยเดินเข้าห้องน้ำ นี่เป็นสถานที่แกล้งอันดับหนึ่งของหลายๆคน เพราะมีอุปกรณ์สะดวก พยานรู้เห็นน้อยกว่าห้องเรียนหรือตามทางเดิน อาจารย์เองก็ไม่ค่อยเข้าห้องน้ำนักเรียนนัก แถมคุมสถานที่ง่าย แค่เอาป้ายกำลังทำความสะอาดไปแขวนไว้หน้าห้อง ก็ไม่มีใครเข้ามาแล้ว

วันนี้จะมีพวกไร้หัวคิดมาแกล้งฉันในห้องน้ำไหมนะ

แต่ข้างในกลับว่างเปล่า น่าจะเพราะอาจจะเช้าเกินไป วันนี้ที่ล็อกเกอร์ก็ไม่มีใครทำอะไรเปื้อนหรือวางเศษมีดคัตเตอร์ไว้ ที่โต๊ะฉันก็ไม่มีใครมาขีดเขียนหรือยัดขยะใต้เก๊ะ ของก็ไม่มีอะไรถูกขโมย สงบสุขขึ้นเรื่อยๆ คนที่แค้นฉันนี่ช่างไร้ความพยายามในการแก้แค้นชะมัด ทำแค่วันแรกๆที่กลับมาเรียนก็ทยอยเลิกกันไปทีละคนสองคน

ฉันนึกถึงเซริกะจังกับคุคิโนะจังที่ช่วงนี้สลับกันมาเช้า คนงี่เง่าพวกนั้นทำไมยังทำเรื่องแบบนี้อีกนะ ทั้งๆที่เราตัดขาดกันแล้วแท้ๆ... ถ้าคนอื่นรู้เข้าจะทำยังไงกัน ไม่คิดอะไรรอบคอบเลยสักนิด

ฉันไม่ได้ถูกแกล้งต่อหน้ามากเท่าที่คิดนัก อาจเพราะเอ็นโจเสแสร้งเป็นคนดีพูดให้ตั้งแต่วันแรกที่ฉันกลับมาเรียน หึ ทั้งๆที่เป็นคนพังทุกสิ่งทุกอย่างแท้ๆกลับมาทำเป็นคนดีมีคุณธรรม แต่ระยะหลังก็ไม่ค่อยได้เจอคนจอมปลอมนั่นเท่าไหร่ ทั้งๆที่แต่ก่อนมาพูดแทบทุกวันเพื่อปกป้องสามัญคนนั้นให้คู่กับท่านคาบุรากิ ทั้งๆที่ไม่คู่ควรเลยสักนิด

ตอนนี้ในสายตาของเขา ฉันคงไม่สามารถทำอะไรได้ต่อไปแล้ว หมอนั่นเลยไม่มายุ่งกับฉันอีก

นี่ก็นานพอควรนับตั้งแต่ฉันถูกหักหน้ากลางงานหมั้นตัวเอง ท่านพ่อถูกจับได้ว่าฉ้อโกง ท่านแม่ต้องไปพึ่งท่านยาย ตอนนี้บ้าน ที่ดิน สินทรัพย์ และของทุกชิ้นที่ใช้ได้ถูกยึดและขายตั้งแต่ท่านพ่อกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ใครจะคิดว่าจะมาถึงวันนี้ได้

กระจกในห้องน้ำสะท้อนภาพที่เปลี่ยนแปลงไปของฉัน ผมม้วนที่ได้รับการดูแลอย่างดีค่อยๆคลายออกเพราะไม่มีเวลาและอุปกรณ์มาดูแล เสื้อเต็มไปด้วยรอยที่ซักไม่ออก ทำให้เห็นเด่นชัดว่าเคยผ่านอะไรมาบ้าง แต่แววตาที่อยู่ในนั้นของฉันยังคงเป็นตัวฉันที่สูงส่งเดิม แม้จะรู้ดีว่าจริงๆแล้วที่ครอบครัวฉันกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะความผิดพลาดของฉันเอง

ถ้าฉันจัดการสามัญชนคนนั้นให้ดีกว่านี้ ถ้าฉันทำให้ท่านคาบุรากิมาชอบได้ และถ้าฉันไม่...

ฉันนึกถึงสิ่งผิดพลาดที่สุดที่เคยตัดสินใจไปพลางกำมัดแน่น ถ้าวันนั้นฉันใจแข็งกว่านี้ เรื่องราวคงมาถึงจุดนี้ได้

ฉันตัดสินใจล้างหน้าก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ และชนใครสักคนอย่างแรงจนฉันล้มลงราวกับคนนั้นเจตนาชน ฉันยิ้มเยาะในใจก่อนจะเริ่มพูดกับอีกฝ่าย แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

"ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ"

อีกฝ่ายยื่นมือมาให้

"เอามือของเธอออกไปให้พ้น"

ฉันพูดพร้อมปัดมือสกปรกนั่นออกจากตัวแทบจะในทันที

ไฟแค้นในใจปะทุขึ้นเมื่อได้เห็นคนคนนี้อีกครั้ง

ไม่ว่าจะนานแค่ไหนฉันก็ไม่มีวันให้อภัยผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด

วาคาบะ ทาคามิจิ

สามัญชนน่ารังเกียจคนนั้นได้เชิดหน้าชูตา ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเทียบฉันได้แท้ๆ กลับไปครอบครองหัวใจของท่านคาบุรากิ

"สามัญชนอย่างเธอหัดคิดสำรวมซะบ้าง"

ฉันพูด ค่อยๆลุกขึ้นพร้อมเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดมือที่เกือบจะสัมผัสผู้หญิงคนนั้น แต่สามัญชนคนนั้นยิ้มตอบรับ

"ฉันสำรวมเสมอนะคะ แต่ก่อนฉันยอมให้คุณกดขี่มาโดยตลอด"

แววตาของผู้หญิงคนนั้นดูเยาะเย้ยแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน หัวใจฉันหนาววาบไปชั่วขณะ

"ถึงเวลาที่คุณต้องยอมรับฐานะสามัญชนของตัวเองซะทีนะคะ"

"นี่เธอ..!"

"คุณอาจจะรับความจริงไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้คุณไม่มีอะไรที่คุณสู้ฉันได้อีกแล้ว"

680 Nameless Fanboi Posted ID:ztIg0n4A.

ผู้หญิงคนนั้นหลุดหัวเราะ เอามือจับคางฉันเอาไว้ แต่ฉันกลับไร้เรี่ยวแรงอย่างไร้สาเหตุที่จะปัดมันออกไปเมื่อสบตากับสามัญชนคนนั้น แววตานั้นดูน่ากลัวราวกับมีพลังอะไรบางอย่างที่กดดันฉันเอาไว้

"หวังว่าคุณเองจะสำรวมในฐานะสามัญชนของตัวเองได้นะคะ"

มือที่จับคางผลักตัวฉันเบาๆเหมือนไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับรู้ถึงแรงกดดันจากคนเบื้องหน้าจนฉันขยับไม่ได้ไปชั่วขณะ

ผู้หญิงคนนั้นเพียงยิ้มและก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว มองฉันด้วยสายตาที่เหมือนกำลังมองคนที่ไร้ค่าเกินกว่าจะให้ความสนใจ

ผู้หญิงคนนั้นเดินกระแทกไหล่ฉัน ก่อนจะปัดไหล่ตัวเองราวกับสัมผัสกับสิ่งที่น่ารังเกียจ

"ขอให้สนุกกับชีวิตที่คุณทำลายมันเองนะคะ"

สามัญชนคนนั้นเดินออกจากห้องน้ำไปโดยไม่หันกลับมา ทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ฉันมองแผ่นหลังที่ค่อยๆห่างออกไปแล้วรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก

ทำไมหัวใจมัน...เต้นแรงแปลกๆกันนะ

................

นับแต่เจอกับผู้หญิงคนนั้นที่ห้องน้ำ คำพูดระหว่างเราก็ถูกย้ำเตือนซ้ำๆในหัว ไม่ว่าทำยังไงก็ไม่อาจลบใบหน้า น้ำเสียง หรือท่าทางในความทรงจำออกไปได้เลย

ทำไมต้องคิดถึงผู้หญิงคนนั้นตลอดเวลาด้วยนะ น่ารำคาญชะมัด

แต่ทั้งๆที่รู้จักกันมาหลายปี และฉันมั่นใจแท้ๆว่าไม่เคยมองใครผิด แต่ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงเก็บซ่อนด้านอสรพิษแบบนั้นได้มิดชิดขนาดนั้นกันนะ แววตาที่พร้อมขยี้ทุกคนที่ขวางทาง จะยังไงก็ไม่ใช่แววตาที่ผู้หญิงใสซื่อไร้พิษภัยคนนั้นจะทำได้เลยนี่นา

ไม่ว่าฉันจะแกล้ง จะทำร้ายอะไรแค่ไหนก็ทำตัวเป็นสามัญชนน่าเบื่อหวาดกลัวไปวันๆไม่ใช่หรือไง! ท่าทางแบบนั้นน่ะมาจากไหนกัน

หรือว่าผู้หญิงคนนั้นจะจงใจเสแสร้งแกล้งทำมาโดยตลอด...

ความรู้สึกประหลาดเกิดขึ้นในใจฉัน ไม่เคยมีใครตบตาฉันได้มาก่อน ไม่เคยเลยแม้แต่คนเดียว แม้แต่เอ็นโจที่ไม่มีใครดูออก ฉันยังเป็นคนเดียวที่รู้ธาตุแท้ของจอมมารนั่นได้! แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน

ถ้าท่านคาบุรากิเห็นธาตุแท้ของผู้หญิงคนนั้นล่ะก็ ต้องตาสว่างอย่างแน่นอน ต่อให้ฉันจะต้องล่มจม แต่ไม่ยอมจะตกต่ำเพียงคนเดียวหรอกนะ ฉันต้องลากผู้หญิงคนนั้นมาลงนรกกับฉันเอง

ฉันแอบซุ่มดูผู้หญิงคนนั้นอยู่หลายวัน แต่ทุกการกระทำก็ไม่ต่างจากเดิม ไม่หลุดด้านมืดออกมาเลยสักนิด

แสดงว่ามีฉันคนเดียวที่ได้เห็นด้านนั้นของสามัญชนนั่นสินะ

แม้ไม่ได้ตั้งใจ แต่อดยิ้มออกมาไม่ได้ คงเพราะฉันดีใจที่หาจุดอ่อนของผู้หญิงคนนั้นได้ล่ะนะ!

โฮะโฮะโฮะ ทาคามิจิ ไม่ว่ายังไงฉันจะทำให้เธอแสดงธาตุแท้ต่อหน้าทุกคนให้ได้ แล้วเมื่อถึงจุดนั้นทุกคนก็จะได้รู้ว่าเธอหลอกลวงแค่ไหน

"คุณคิดจะทำอะไรน่ะ"

"มีอะไรงั้นหรอคะท่านเอ็นโจ"

ฉันเพียงยิ้มให้คนที่ไม่ได้เจอมานาน

"ผมเห็นคุณแอบตามทาคามิจิมาหลายวันแล้ว" เอ็นโจพูดด้วยสายตาเย็นชา "วันนี้คิดจะลงมือทำอะไรกัน"

"ทุกครั้งที่ฉันยุ่งกับทาคามิจิ ท่านเอ็นโจจะเข้ามาปกป้องอยู่เสมอเลยสินะคะ"

ฉันมองคนเบื้องหน้าด้วยสายตาเรียบเฉยแล้วยิ้มอย่างไร้อารมณ์

ผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไรกันนักนะ

"คุณทาคามิจิดีกว่าคนอย่างคุณหลายเท่าล่ะนะครับ"

แม้เอ็นโจพูดด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามมา แต่ก็ทำให้ฉันหลุดหัวเราะ

ดีกว่างั้นหรอ หึ

"คุณคิดว่าคุณกับท่านคาบุรากิรู้จักตัวตนของผู้หญิงคนนั้นจริงๆงั้นหรอคะ"

ฉันยิ้มหวานกลับไป

"ผมไม่เชื่อคำพูดของคนขี้อิจฉาอย่างคุณหรอกนะครับ"

"จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่นะคะ แต่สามัญชนน่ะไม่มีใครไว้ใจได้สักคนหรอกนะคะ"

"รวมถึงคุณที่เป็นสามัญชนในตอนนี้ด้วยน่ะหรอครับ"

"ไม่ว่าฉันจะอยู่ฐานะไหนคุณก็ไม่เคยเชื่อใจฉันอยู่แล้วนี่คะ" ฉันยิ้มขณะมองแววตาสับสนที่เอ็นโจพยายามซ่อน "น่าสนุกเหมือนกันนะคะว่าเรื่องนี้จะเป็นยังไงต่อไป"

ฉันเดินต่อไปอย่างไม่คิดสนใจเขาอีก แต่อย่างที่คิดเลย เขาจะมาหาฉันทุกครั้งที่ฉันยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นสินะ น่ารำคาญจริงๆ

681 Nameless Fanboi Posted ID:ztIg0n4A.

ขณะที่ฉันกำลังคิดว่าจะกลับไปเอาของที่ล็อกเกอร์ ก็เจอกับคนที่ไม่คาดคิดอีกคน

“ประธานนักเรียนอย่างคุณมาทำอะไรตรงนี้คะ”

ฉันถามขณะพิจารณาถามมิซึซากิ อาริมะ ประธานนักเรียนแห่งซุยรัน หนึ่งในคนที่ถูกสามัญชนคนนั้นหลอก เขาเป็นคนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง พยายามจะเอาชนะ Pivioine ทั้งๆที่ฐานะไม่สามารถเทียบได้ รวมๆแล้ว เป็นคนที่เที่ยงตรงยุติธรรมอย่างไร้สาระ

“ขอเวลาหน่อยซิ ช่วยมาด้วยกันได้หรือเปล่า”

“หืม???”

จะฆาตกรรมหมกศพย้อนหลังแก้แค้นให้คนที่รักหรือไงกัน

การที่ชวน Pivioine ไปห้องกรรมการนักเรียนถือเป็นการหยามเกียรติที่หากเป็นฉันที่ยังมีอำนาจคงหาทางแก้แค้นแบบถอนรากถอนโคน

หึ ทาคามิจินี่เป็นจอมมารร้ายที่ทำให้คนแบบมิซึซากิทำเรื่องอย่างนี้สินะ

“ก็ได้ค่ะ”

ฉันยิ้ม อยากรู้จริงๆว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่

เมื่อเข้าไปในห้องกรรมการนักเรียน น่าแปลกที่ไม่มีใครอยู่เลย นึกว่าจะให้พรรคพวกมารุมด่าอดีต Pivioine อย่างฉันซะอีก หรือมิซึซากิกะทำอะไรรุนแรงผิดกฎระเบียบเลยกันคนอื่นออกไป

มิซึซากิค้นของอยู่พักหนึ่งก่อนจะยื่นให้ฉัน

“นี่มันอะไรคะ?”

“น้ำยาขจัดคราบบนเสื้อ”

“ห๊าาาา???”

“แล้วนี่ก็ที่เป็นผ้ากำจัดคาบสกปรก ส่วนอันนี้เป็นอุปกรณ์เย็บผ้า กับนี่เป็นชุดใส่ในอาคาร และก็มีซุปเปอร์น้ำยาทำความสะอาด...”

ฉันยืนอึ้งขณะรับของที่มากขึ้นเรื่อยๆจากมิซึซากิอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก

“ดูจะเยอะเกินไปนะ... เอากระเป๋าของฉันไปใส่ก่อนแล้วกัน” เขาพูดขณะเคลียร์ของตัวเองในกระเป๋า ก่อนช่วยเอาของที่เคยยื่นให้มาใส่กระเป๋า แล้วยกกระเป๋านั่นให้

อะไรน่ะ จะให้ฉันทำสะอาดหรอ ขณะที่ฉันกำลังงงจนพูดไม่ออก อยู่ๆมิซึซากิก็ก้มหัวลง

“ขอโทษแทนกรรมการนักเรียนที่เคยไปแกล้งคุณ ทั้งๆที่ผมเป็นประธานนักเรียนแท้ๆ แต่กลับควบคุมไม่อยู่ และเพิ่งรู้เรื่องที่เกิดขึ้น”

“เอ๋?”

ฉันใช้เวลาประมวลผลอยู่นาน ก่อนจะค่อยๆตระหนักได้ว่าหนึ่งในคนที่แกล้งฉันเป็นกรรมการนักเรียน และมิซึซากิในฐานะประธานนักเรียนก็คิดว่าตัวเองต้องรับผิดชอบที่ดูแลคนไม่ดี

“ถ้าเอโกะจังออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ ฉันจะให้มาขอโทษเธออีกทีแล้วกันนะ”

“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ...”

ฉันไม่อยากช็อกกับสถานการณ์แปลกๆแบบนี้รอบสองหรอกนะ แล้วเอโกะจังนี่ใครน่ะ ใช่คนที่พยายามเผาชุดของฉันตอนฉันเผลอหรือเปล่าน่ะ ทำไมถึงอยู่ๆต้องเข้าโรงพยาบาลกันนะ...

“ขอโทษจริงๆที่เธอถูกแกล้งตั้งหลายครั้ง แต่ฉันกลับช่วยอะไรแทบไม่ได้เลย”

“ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอกนะคะ”

“ถึงอย่างนั้นฉันก็มีหน้าที่ต้องปกป้องนักเรียนซุยรันอยู่ดี”

มิซึซากิพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังหนักแน่น เปล่งประกายความยุติธรรมเจิดจ้าจนแสบตา เป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ชะมัด ตอบแทนคนที่ทำร้ายด้วยความดีนี่นะ

“ถึงจะเป็นฉันน่ะหรือคะ...”

เสียงของฉันเบาลงอย่างไม่ตั้งใจ ไม่ได้เพราะซาบซึ้งหรือรู้สึกผิดอะไรหรอกนะ

“แน่นอนอยู่แล้ว”

มิซึซากิพูดด้วยดวงตาปราศจากความลังเล

จะมีคนงี่เง่าขนาดนี้จริงๆงั้นหรอ ฉันเคยทำร้ายทุกคน ทำร้ายกรรมการนักเรียน ทำร้ายคนที่เขารักมาไม่รู้กี่ครั้ง ตอบแทนคนที่เกลียดด้วยความดีให้ได้อะไรขึ้นมา อนาคตหมอนี่น่าจะอยู่บนโลกนี้ได้อย่างยากลำบากน่าดู

“ลืมไปแล้วหรอคะว่าฉันเคยทำอะไรคนในซุยรันบ้าง”

“จะเป็นใครก็ไม่เกี่ยวหรอก ถ้านักเรียนซุยรันลำบาก ประธานก็ต้องช่วยเหลือ อาจจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ยังไงก็รับของไว้เถอะ ฉันขอโทษจริงๆ”

ฉันมองเขาสักพัก

เพราะแบบนี้ถึงได้แพ้ท่านคาบุรากิ

“ฉันไม่คิดจะขอบคุณสำหรับของนี่หรอกนะคะ”

ฉันพูด ขณะมองท่าทางน่าเบื่อของมิซึซากิ น่าหงุดหงิดจริงๆ คิดว่าการทำสิ่งที่ถูกต้องเที่ยงธรรมแล้วจะมีคนมาชื่นชมหรือไงกัน เป็นการกระทำของคนโง่ชัดๆ ทำไมถึงคิดว่าตำแหน่งเป็นภาระหน้าที่กัน ไม่มีใครทำแบบนั้นกันหรอก ตำแหน่งน่ะเป็นอำนาจให้เราได้สิ่งที่ต้องการต่างหาก ขนาดทาคามิจิยังไม่โง่พอมาทำดีกับคนแบบฉันเลย ทำไมมิซึซากิถึงต้องทำแบบนี้กันนะ

ฉันรีบเดินออกมาเมื่อมิซึซากิย้ำว่าถ้ามีเรื่องอะไรให้ช่วย มาบอกเขาได้ น่าขนลุกเกินไปแล้ว แววตานั่นไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำด้วยแหะ...

682 Nameless Fanboi Posted ID:ztIg0n4A.

“...ทำไมถึงออกมาจากห้องกรรมการนักเรียนได้”

“ท่านคาบุรากิ?”

วันนี้ชักจะเจอคนที่คาดไม่ถึงเยอะเกินไปแล้วนะ! เอาล่ะ นิ่งไว้ๆ

“เธอคิดจะทำอะไรอีกน่ะ” แววตาคมกริบจับจ้องมาที่ฉัน ช่างเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและไม่ไว้ใจ ท่าทางพร้อมจะขยี้ฉันให้จมดินได้ทุกเมื่อ เป็นสายตาที่เขามีให้ฉันทุกครั้งที่ฉันทำร้ายทาคามิจิ

แม้จะแอบมองจากที่ไกลๆมาหลายวัน แต่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจำเป็นต้องพูดกับเขาอีกครั้งแบบนี้ ฉันไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจะรู้สึกยังไงกับท่านคาบุรากิดี เขายังเป็นคนดูแข็งแกร่งสง่างามใบหน้าคมคายหมดจดน่าหลงใหลจนยากที่จะละสายตาไปจากเขาได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นคนที่ประกาศเรื่องฉ้อโกงของตระกูลคิโชวอินกลางงานหมั้น และทำลายทุกอย่างที่ฉันมี

ฉันไม่แน่ใจว่าตอนนี้ฉันยังรักเขาอยู่หรือเปล่า แต่พอได้เผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง แม้จะทำตัวไม่ถูก แต่ในใจยังคงสงบมากกว่าที่คิด อาจเพราะก่อนหน้านั้นฉันอยู่ในจุดที่ตกต่ำกว่านี้มาแล้ว

“ตอนนี้ฉันทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ ไม่ต้องห่วง”

ฉันพูดพลางประเมิน ทำไมท่านคาบุรากิถึงมาที่นี่คนเดียวกันนะ เอ็นโจกับสามัญชนคนนั้นหายไปไหนกัน และปกติท่านคาบุรากิน่าจะเมินฉัน ทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนแล้วเดินผ่านไปเฉยๆ เพราะเขาก็ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว

ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรอีก เสียงประตูข้างหลังก็เปิดตามมา มิซึซากิเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและถามทันที “นายมาทำอะไรที่นี่?”

“ไม่มีอะไรหรอก แค่กำลังตามหาทาคามิจิอยู่น่ะ สงสัยว่ามาแถวนี้หรือเปล่า”

ชื่อทาคามิจิทำฉันชะงักเล็กน้อย

“ฉันไม่เห็นทาคามิจิตั้งแต่เช้าแล้วเหมือนกัน อาจจะอยู่ห้องสมุดก็ได้”

มิซึซากิตอบกลับไปแบบไม่สะทกสะท้าน ทำใจเรื่องทาคามิจิได้แล้วงั้นหรอ? ฉันแอบมองเขา ดูเขาฝืนๆตอนตอบอยู่เหมือนกัน

“ฉันติดต่อเธอไม่ได้เลยตั้งแต่เช้า หวังว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

“บางทีอาจจะกำลังเจออะไรน่าสนใจแล้วเพลินจนเลยเวลาก็ได้”

มิซึซากิออกความเห็น

“ก็เป็นไปได้”

สองคนนี้เห็นฉันเป็นรูปปั้นประกอบฉากที่วางอยู่แถวนั้นสินะ ถึงฉันอาจจะไม่ได้สูงมาก แต่อย่าคุยข้ามหัวฉันไปมาได้ไหม

“เวลานี้ทาคามิจิมักจะอยู่ที่ห้องเรียนกับกลุ่มเพื่อน ไม่ก็เข้าห้องน้ำที่ใกล้กับห้องเรียนทางขวามือ”

ฉันลองพูดบ้าง ทั้งสองคนหันขวับมาหาฉัน

อะไรน่ะ สองคนนี้รู้พฤติกรรมคนที่รักน้อยกว่าที่เคยตามแกล้งอย่างฉันอีกหรอ

ไม่นานนักเสียงเรียกเข้าจากมือถือของท่านคาบุรากิดังขึ้น บทสนทนาหวานชื่นราวกับโลกนี้มีเพียงเราสองคน ทำให้ฉันรู้สึกแปลกตาอย่างบอกไม่ถูก ท่านคาบุรากิผู้สุขุมเคร่งครึมมีอำนาจ กลับยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนโลกทั้งใบสว่างไสวขึ้นมา

ทันทีที่เขาวางสายก็พูดอะไรสองสามคำกับมิซึซากิและรีบจากไปอย่างนั้น

ฉันแอบเหลือบมองมิซึซากิเป็นระยะไม่ได้ แววตาเขาดูเศร้า แม้กำลังพยายามทำเป็นเข้มแข็งก็ตาม ถึงยังไงรักใครสักคนก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะลืมจริงๆด้วยสินะ ยิ่งคนงี่เง่าแบบมิซึซากิคงเจ็บทีเดียว

มีอย่างที่ไหนที่รักใครสักคน แล้วปล่อยให้คนนั้นไปรักกับอีกคน ยอมเสียสละเป็นตัวสำรองจนน่ารำคาญจริงๆ

เห็นท่าทางน่าเบื่อนั่นแล้วรู้สึกหงุดหงิดชะมัด

“นี่ค่ะ”

“นี่คือ...?”

“ช็อกโกแลตไงคะ”

“ช็อกโกแลต?”

“จะยังไงก็ช่วยกินแล้วหายจากหน้าตารำคาญแบบนั้นซะทีนะคะ”

ยังไงช็อกโกแลตก็ทำให้มีความสุขได้นี่นะ มันเหลือๆขี้เกียจเอากลับหรอกนะ หน้าตามิซึซากิตอนนี้ดูเศร้าจนขวางหูขวางตาสุดๆเลยให้

ฉันรีบออกจากห้องกรรมการนักเรียน ไม่ใช่ว่ากลัวจะทำตัวไม่ถูกตอนมิซึซากิตอบกลับมาอะไรงั้นหรอกนะ แค่มันใกล้เวลาเรียนแล้วเฉยๆเลยต้องรีบไปต่างหาก

………………(จบตอนพิเศษ Kimidolce ตอนที่ 3 )………………

ป.ล. พยายามสร้างเรือมิซึซากิหลังหายไปหลายตอนแล้วเหลือเกิน

ป.ล.2 ไปนั่งเหงาๆปั่นงานในวันคริสต์มาสต่อก่อนนะคะ Merry Christmas เพื่อนโม่งทุกคน

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.