ต่อจาก https://fanboi.ch/webnovel/4659/12-14/
((ตอนพิเศษ : ถ้าไม่มีใครทะลุมิติ : ฝั่งโลก Kimidolce))
ขอแวะมาลงฟิคที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคริสต์มาส 555 ยังเขียนตอนหลักไม่ออกก็มาปั่นตอนพิเศษก่อนนะคะ ไม่รู้ว่ายังจำกันได้ไหม อันนี้ไม่เกี่ยวกับฟิคหลักนะคะ แค่เอานิสัยตัวละครมาจากฟิคหลัก (ย่อๆตอนที่ผ่านมาคือเป็นโลกฝั่งคิมิดอลตามเวอร์ชั่นปกติ ที่ตระกูลคิโชวอินล้มละลาย เรย์กะกลายเป็นชนชั้นสามัญ พอกลับมาเรียนก็โดนแก้แค้นสารพัด แต่เจ้าตัวกลับชอบกว่าที่คิด)
...............
(ฝั่งโลกคิมิดอล)
วันอันน่าเบื่อของฉันเริ่มต้นอีกครั้งเมื่อพวกคนไม่รู้ที่สูงต่ำทำกร่างใส่ฉัน คำเสียดสีต่อว่าที่พวกนั้นใช้ก็ซ้ำเดิมจนฉันเผลอหาวไปหลายครั้ง
สายตาตอนแกล้งหรือขู่ก็ดูไม่เข้มแข็งพอ อ่อนปวกเปียกจนไม่มีอะไรน่าสนใจ แค่พูดๆนิดหน่อยก็วิ่งหนีไปล่ะ ใจเซาะชะมัด
ไม่มีใครที่จะทำได้แบบเอ็นโจบ้างหรือไงกันนะ
ฉันเห็นเวลาเหลืออีกนานกว่าจะเริ่มเรียน เลยเดินเข้าห้องน้ำ นี่เป็นสถานที่แกล้งอันดับหนึ่งของหลายๆคน เพราะมีอุปกรณ์สะดวก พยานรู้เห็นน้อยกว่าห้องเรียนหรือตามทางเดิน อาจารย์เองก็ไม่ค่อยเข้าห้องน้ำนักเรียนนัก แถมคุมสถานที่ง่าย แค่เอาป้ายกำลังทำความสะอาดไปแขวนไว้หน้าห้อง ก็ไม่มีใครเข้ามาแล้ว
วันนี้จะมีพวกไร้หัวคิดมาแกล้งฉันในห้องน้ำไหมนะ
แต่ข้างในกลับว่างเปล่า น่าจะเพราะอาจจะเช้าเกินไป วันนี้ที่ล็อกเกอร์ก็ไม่มีใครทำอะไรเปื้อนหรือวางเศษมีดคัตเตอร์ไว้ ที่โต๊ะฉันก็ไม่มีใครมาขีดเขียนหรือยัดขยะใต้เก๊ะ ของก็ไม่มีอะไรถูกขโมย สงบสุขขึ้นเรื่อยๆ คนที่แค้นฉันนี่ช่างไร้ความพยายามในการแก้แค้นชะมัด ทำแค่วันแรกๆที่กลับมาเรียนก็ทยอยเลิกกันไปทีละคนสองคน
ฉันนึกถึงเซริกะจังกับคุคิโนะจังที่ช่วงนี้สลับกันมาเช้า คนงี่เง่าพวกนั้นทำไมยังทำเรื่องแบบนี้อีกนะ ทั้งๆที่เราตัดขาดกันแล้วแท้ๆ... ถ้าคนอื่นรู้เข้าจะทำยังไงกัน ไม่คิดอะไรรอบคอบเลยสักนิด
ฉันไม่ได้ถูกแกล้งต่อหน้ามากเท่าที่คิดนัก อาจเพราะเอ็นโจเสแสร้งเป็นคนดีพูดให้ตั้งแต่วันแรกที่ฉันกลับมาเรียน หึ ทั้งๆที่เป็นคนพังทุกสิ่งทุกอย่างแท้ๆกลับมาทำเป็นคนดีมีคุณธรรม แต่ระยะหลังก็ไม่ค่อยได้เจอคนจอมปลอมนั่นเท่าไหร่ ทั้งๆที่แต่ก่อนมาพูดแทบทุกวันเพื่อปกป้องสามัญคนนั้นให้คู่กับท่านคาบุรากิ ทั้งๆที่ไม่คู่ควรเลยสักนิด
ตอนนี้ในสายตาของเขา ฉันคงไม่สามารถทำอะไรได้ต่อไปแล้ว หมอนั่นเลยไม่มายุ่งกับฉันอีก
นี่ก็นานพอควรนับตั้งแต่ฉันถูกหักหน้ากลางงานหมั้นตัวเอง ท่านพ่อถูกจับได้ว่าฉ้อโกง ท่านแม่ต้องไปพึ่งท่านยาย ตอนนี้บ้าน ที่ดิน สินทรัพย์ และของทุกชิ้นที่ใช้ได้ถูกยึดและขายตั้งแต่ท่านพ่อกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ใครจะคิดว่าจะมาถึงวันนี้ได้
กระจกในห้องน้ำสะท้อนภาพที่เปลี่ยนแปลงไปของฉัน ผมม้วนที่ได้รับการดูแลอย่างดีค่อยๆคลายออกเพราะไม่มีเวลาและอุปกรณ์มาดูแล เสื้อเต็มไปด้วยรอยที่ซักไม่ออก ทำให้เห็นเด่นชัดว่าเคยผ่านอะไรมาบ้าง แต่แววตาที่อยู่ในนั้นของฉันยังคงเป็นตัวฉันที่สูงส่งเดิม แม้จะรู้ดีว่าจริงๆแล้วที่ครอบครัวฉันกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะความผิดพลาดของฉันเอง
ถ้าฉันจัดการสามัญชนคนนั้นให้ดีกว่านี้ ถ้าฉันทำให้ท่านคาบุรากิมาชอบได้ และถ้าฉันไม่...
ฉันนึกถึงสิ่งผิดพลาดที่สุดที่เคยตัดสินใจไปพลางกำมัดแน่น ถ้าวันนั้นฉันใจแข็งกว่านี้ เรื่องราวคงมาถึงจุดนี้ได้
ฉันตัดสินใจล้างหน้าก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ และชนใครสักคนอย่างแรงจนฉันล้มลงราวกับคนนั้นเจตนาชน ฉันยิ้มเยาะในใจก่อนจะเริ่มพูดกับอีกฝ่าย แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
"ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ"
อีกฝ่ายยื่นมือมาให้
"เอามือของเธอออกไปให้พ้น"
ฉันพูดพร้อมปัดมือสกปรกนั่นออกจากตัวแทบจะในทันที
ไฟแค้นในใจปะทุขึ้นเมื่อได้เห็นคนคนนี้อีกครั้ง
ไม่ว่าจะนานแค่ไหนฉันก็ไม่มีวันให้อภัยผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด
วาคาบะ ทาคามิจิ
สามัญชนน่ารังเกียจคนนั้นได้เชิดหน้าชูตา ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเทียบฉันได้แท้ๆ กลับไปครอบครองหัวใจของท่านคาบุรากิ
"สามัญชนอย่างเธอหัดคิดสำรวมซะบ้าง"
ฉันพูด ค่อยๆลุกขึ้นพร้อมเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดมือที่เกือบจะสัมผัสผู้หญิงคนนั้น แต่สามัญชนคนนั้นยิ้มตอบรับ
"ฉันสำรวมเสมอนะคะ แต่ก่อนฉันยอมให้คุณกดขี่มาโดยตลอด"
แววตาของผู้หญิงคนนั้นดูเยาะเย้ยแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน หัวใจฉันหนาววาบไปชั่วขณะ
"ถึงเวลาที่คุณต้องยอมรับฐานะสามัญชนของตัวเองซะทีนะคะ"
"นี่เธอ..!"
"คุณอาจจะรับความจริงไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้คุณไม่มีอะไรที่คุณสู้ฉันได้อีกแล้ว"