กริ๊งงงง!
“กลับมาแล้วหรอ?”
“อืม คานตาริโอ้(คันตะ)ช่วยไปเอาน้ำใส่แก้วมาให้พี่สามใบทีซิ”
“…รับทราบ”
คานตาริโอ้นำแก้วน้ำมาวางไว้บนโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว
“เชิญนั่งก่อนค่ะ”นางฟ้าใจดีผายมือไปที่เก้าอี้เพื่อเชื้อเชิญให้พวกเรานั่ง “เด็กคนนั้นชื่อคานตาริโอ้ เป็นน้องชายของข้าเองค่ะ …อ๊ะ! ขอโทษนะคะ พามาถึงบ้านแล้วแท้ๆแต่ข้ายังไม่แนะนำตัวกับพวกท่านเลย ข้าชื่อวาคาเบลล์(วาคาบะ)ค่ะ”
“ข้ามีนามว่าเรฟีก้าค่ะ”
“ข้าเซรีก้า”
“ส่วนข้าเคียคูราโน”
“ยินดีที่ได้พบนะคะ”วาคาเบลล์ส่งรอยยิ้มสดใสมาให้“กินขนมปังกันก่อนเถอะค่ะ”
“แต่เราไม่มีเงินนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถือเสียว่าช่วยเหลือกันนะคะ”
เฮือก! เหมือนข้าได้พบทะเลสาบกลางทะเลทรายเลยทีเดียว น้ำตามายามันจะ…
“แต่ไม่กินอาหารแบบนี้จะไม่เป็นอันตรายกับเด็กในท้องหรือคะ? สามีท่านก็ช่างใจร้ายเสียจริง”
“แค่ก แค่ก แค่ก!!”
หลังจากกัดพีต้า(ขนมปังโบราณมีที่มาจากกรีกโบราณ)พร้อมเครื่องเคียงที่เป็นเนื้อสัตว์ได้เพียงครึ่งนึง วาคาเบลล์ก็เอ่ยคำถามชวนปวดใจขึ้นมา
ข้างตัวข้าทั้งซ้ายขวาราวกับมีไฟลุกโชน
…ไม่ได้นะๆ นางเป็นผู้มีพระคุณ ที่นางพูดเพราะเข้าใจผิดต่างหากล่ะ ใจเย็นๆกันก่อนนะ
ข้าบีบมือภูติน้อยขี้โมโหข้างๆตัวทั้งสองตนเพื่อเป็นสัญญาณว่าอย่าได้ถือสามนุษย์ผู้มีจิตใจดีงามราวกับนางฟ้าตรงหน้าข้า
“คือ…ข้าไม่ได้ท้องนะคะ แล้วข้าก็ไม่มีสามีด้วยค่ะ”
“เอ๋!”วาคาเบลล์กรอกตาล่อกแล่กไปมาก่อนจะหลุบตาลงต่ำ “ข- ข- ขอโทษด้วยนะคะ!”
“ช่างมันเถอะค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมพวกท่านถึงหลงเข้าไปในป่าได้ล่ะคะ? นี่ถ้าข้าไม่ไปเก็บสมุนไพรในป่าก็คงไม่ได้ช่วยเหลือพวกท่านหรอกนะคะ”
“จริงๆแล้วพวกข้ามาจากต่างแดนน่ะ ก็เลยไม่รู้เส้นทาง”เซรีก้าเอ่ยหน้าตาจริงจัง
“ถ้าอย่างนั้น พวกท่านอาศัยที่ไหนกันหรือคะ?”
“เอ๋!”เราทั้งสามตนมองหน้ากันแทบจะในทันที
ไม่ได้คิดเรื่องนี้ไว้ก่อนเลยนี่นา!!
หลังจากที่เราได้รับการช่วยเหลือจากนางฟ้าใจบุญ เราทั้งสามต่างก็กล่าวคำขอบคุณแก่นางและตั้งท่าจะออกเดินทางใหม่อีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อนนะคะ!”
“ทำไมหรือคะ?”
“คือ…เรื่องที่อยู่น่ะค่ะ ข้าพอจะมีที่ๆนึงให้พวกท่านได้อาศัยชั่วคราวได้นะคะ”
“…”
-----------------------------
“ที่นี่หรือคะ?”
“ค่ะ…ที่นี่เป็นบ้านของเพื่อนข้าเอง แต่เขาชอบออกเดินทางไปที่ไหนก็ไม่รู้ครึ่งปีบ้าง ปีนึงบ้าง ข้าก็เลยคิดว่าไหนๆก็ไม่มีใครอยู่ในระยะนี้ ถ้าพวกท่านมาอยู่แล้วคงจะเป็นการดีกว่าปล่อยทิ้งร้างไว้น่ะค่ะ”
บ้านที่วาคาเบลล์พาข้ามา มันดู…สวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย บริเวณโดยรอบเหมือนเคยเป็นสวนดอกไม้ แต่ดอกไม้ค่อนข้างแห้งเหี่ยวและมีพงหญ้าขึ้นหนาเนื่องจากขาดการใส่ใจเป็นเวลานาน ตัวบ้านเองถึงแม้จะดูไม่ใหญ่โตแต่กลับมีรูปทรงที่รับกันกับสวนดอกไม้โดยรอบเป็นอย่างดี ด้านหน้าของบ้านก็มีลำธารไหลผ่าน เจ้าของบ้านมีที่ดินที่สวยจริงๆนะนี่
“ก่อนที่จะเดินทางไปต่างแดน เพื่อนได้ฝากกุญแจไว้น่ะค่ะ แต่ข้ายุ่งๆก็เลยไม่ค่อยได้เข้ามาดูแลที่นี่สักเท่าไหร่ …สนใจที่นี่ไหมคะ?”
“ค่ะ …ที่นี่สวยมากเลยนะ”
“ถ้าสนใจ ข้าจะมาช่วยทำความสะอาดนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพวกเราสามคนจะช่วยกันทำความสะอาดเอง แค่นี้ก็เกรงใจคุณวาคาเบลล์จะแย่แล้ว”เคียคูราโนยิ้มหน้าบาน
“แต่ว่า…”
“ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ …นี่กุญแจบ้าน ถ้ามีเหตุสำคัญก็เดินไปหาข้าที่บ้านได้เลยนะคะ ถึงจะไกลกันเล็กน้อยก็เถอะ …ข้ากลับก่อนนะคะ”
“ค่ะ ขอบคุณมากจริงๆคะ”
พวกเราส่งลาวาคาเบลล์นางฟ้ามาโปรดมารไร้ที่พึ่งอย่างพวกเรา…เป็นคนดีจริงๆเลยนะคะ
“คุณวาคาเบลล์ไปแล้วล่ะค่ะ”
“เธอเป็นคนดีจริงๆเลยนะคะ”
“ข้าขอสาบานไว้ตรงนี้เลยว่าให้ตายยังไงก็จะไม่ล่อลวงคนที่ดีขนาดนี้มาเข้าเส้นทางมืดเด็ดขาดเลยค่ะ”
“ข้าด้วย…ว่าแต่เราจะจัดการทำความสะอาดยังไงดีล่ะ”
“ข้าจะใช้เวทย์มนต์ทำความสะอาดเอง”
“…จะดีหรือคะท่านเรฟีก้า?”
“ข้าแค่ไม่ถนัดศาสตร์การทำอาหารหรอกนะ”
ปิ๊งงง!!
“อย่านะค้าาาาาาาา!!!!”เซรีก้า เคียคูราโนร้องเสียงหลง
“ลืมตาสิ”
“อ๊ะ! ท่านเรฟีก้าใช้เวทย์มนต์ทำความสะอาดได้ดีจริงๆด้วย”
“ข้าว่า…ทำสวนดอกกุหลาบดีกว่าเนอะ”
ปิ๊งงง!!
สวยจังเลย!! ข้ามีหัวทางนี้จริงๆด้วย
-----------------------------