Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับซูชิไข่ปลวกและหนังสือหนังมนุษย์ [หนอนตัวที่ 23 กระดึ๊บออกมาแล้วค่า]

Last posted

Total of 1000 posts

274 Nameless Fanboi Posted ID:YX84J2YLY

ต่อจาก https://fanboi.ch/webnovel/4659/618-619/ ฟิคเมื่อท่านเรย์กะเป็นบุตรสาวจอมมาร
ตั้งแต่ตอนนี้กูขอเขียนเป็นมุมมองเรย์กะนะ

-----------------------------

"ท่านเรฟีก้า ข้าหิวเหลือเกิน" เซรีกาเริ่มร้องโอดครวญ

"ข้าก็เช่นกันค่ะท่านเรฟีก้า"

ข้ามองหน้าเซรีก้าและเคียคูราโนอย่างลำบากใจเพราะตัวข้าเองก็หิวไม่แพ้พวกนางเลย...

หลังจากที่เราทั้งสามรีบเดินออกจากโบสต์คริสตจักรนั่น พวกเราก็เดินไม่ได้หยุด รู้สึกตัวอีกทีก็เข้ามาในป่าลึกเสียแล้ว …ข้าไม่เคยต้องเดินทางไกลขนาดนี้เลย

มาคีต้า..คุณหนูตระกูลซูรูฮานน์ช่างเป็นคนไร้มารยาทเสียจริง มีแขกมาเยือนถึงคฤหาสน์ทั้งทีแทนที่จะยกขนมนมเนยมาให้แสดงความเป็นเจ้าบ้าน แต่นี่กระไรสนทนาธุระ(รวมทั้งสาปข้าด้วย!!)เสร็จสรรพ นางก็ผลักข้าลงมาโลกมนุษย์เสียได้ อย่าให้ข้ากลับไปทวงบัลลังก์ได้เชียวนะ...

เอ๊ะ!!!

ข้ารู้สึกถึงความประหลาดที่หน้าท้องขึ้นมาเล็กน้อย

โครกกกก!!

"..."

"..."

บ้าจริง! ตั้งแต่เกิดมาข้าไม่เคยท้องร้องเพราะความหิวมาก่อนเลย นี่สินะที่เขาเรียกๆกันว่าถึงคราวตกอับ

ข้าได้แต่ถอนใจให้กับโชคชะตาของตนเอง

“เซรีก้า เจ้าเสกอาหารออกมาไม่ได้หรือ…มานาของข้าหมดไปตอนเข้าคฤหาสน์ซูรูฮานน์แล้วน่ะ”

“มานาของข้าก็หมดแล้วเหมือนกัน …ท่านเรฟีก้าคะ มานาของท่านยังมีอยู่หรือไม่คะ?”

“ข- ข้ายังเหลือมานาอยู่”
ต-แต่ว่า…
“ท่านเรฟีก้า”

อุ๊ก!!! อย่ามองข้าด้วยสายตาเว้าวอนอย่างนั้นสิ

ข้าสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆก่อนจะนึกถึงเมนูอาหารที่เคยได้กินในวัง …เอาเป็นหมึกยัดไส้ดีไหมนะ?
นึกภาพอาหารที่อยากกินแล้วตั้งจิตก่อนเสก…

ปิ๊ง!!!

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!!”

เอ๋! เกิดอะไรขึ้นหรอ?

“หนีเร็วค่ะท่านเรฟีก้า!”

ตรงหน้าข้านคือหมึกตัวใหญ่ยักษ์ รูปร่างหน้าตาค่อนข้างประหลาด อย่าบอกนะว่า

“ค- คราเคน…”

เซรีก้า เคียคูราโน่พากันกระชากข้อมือข้าวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย
ไม่นะ! ถ้าข้ารู้ว่าชีวิตข้าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นตอนเรียนข้าน่าจะตั้งใจเรียนกว่านี้ จะไม่มัววอกแวกไปคิดสูตรอาหารใหม่ by เรฟีก้าเลย น่าเจ็บใจตัวเองจริงๆ!!

-----------------------------

“เราพ้นเจ้าคราเคนมาได้แล้วล่ะ ให้ตายซิวิ่งหนีตายจนลืมหิวไปเลยนะเนี่ย”
“ข้าขอโทษนะ ข้ามันไม่ได้เรื่อง”
“อย่าโทษตัวเองเลยค่ะท่านเรฟีก้า …เรามาคิดกันดีกว่าว่าจะไปหาอะไรมากินจากไหน”
“ปีนไปเอาผลไม้บนต้นดีไหมเคียคูราโน่”
“ใครจะเป็นคนปีนล่ะ? …ไม่ใช่ข้าแน่ๆ”
“ข้าเองก็ปีนไม่ไหวเหมือนกัน”
“…”

หรือข้าควรจะเสกเงินเอาไปแลกอาหารดีนะหรือไม่ก็ไปขโมยเงินจากคนที่เดินบนถนนดี…

อุ๊ก!!!

รู้สึกแน่นที่หน้าท้องจัง หรือว่าคำสาปจะทำงานแล้ว …ไม่น้าาาาา!!

“เซรีก้า เคียคูราโน เจ้าเห็นหน้าท้องข้าไหม?”

“ลูซิเฟอร์ช่วย! ท่านเรฟีก้าหน้าท้องท่านยืดออกมาจริงๆด้วยค่ะ!!”

“!!!”

จู่ๆข้าก็รู้สึกหน้ามืด

“ท่านเรฟีก้า”

ตึก ตึก ตึก!!
“ท่าน ท่านเป็นอะไรรึเปล่า!?” เสียงผู้หญิงที่ไม่คุ้นหูดังขึ้น
“ช่วยด้วยท่านเรฟีก้าหน้ามืด!!”
“สักครู่นะคะ”

ทันทีที่กลื่นหอมๆมาแตะที่ปลายจมูกของข้า ข้ารู้สึกดีขึ้นมาทันที

“ทำไมถึงเป็นลมได้ล่ะคะ?”

ตรงหน้าข้าคือหญิงสาวผิวขาวผมสีน้ำตาล ดวงตาของนางกลมโตดูบริสุทธิ์และสดใส นางไม่ใช่ผู้หญิงสวยแต่ดูน่ารักน่ามองเสียมากกว่า
“ข้ากับเพื่อนยังไม่ได้กินอะไรมาแต่เช้าแล้วล่ะ”
“ตายจริง อย่างนี้ก็อันตรายแย่สิคะ!!”

…อันตราย?

“ไปกินอาหารที่โบสต์ใกล้ๆที่นี่ดีไหมคะ? บาทหลวงประจำโบสต์ท่านเป็นคนดีมากเลยนะคะ”

“ม- ไม่ไปที่โบสต์นะคะ!!!”เสียงประสานจากมารทั้งสามตัวก็ดังขึ้นราวกับนัดกันไว้

“เอ่อ…”หญิงสาวน่ารักตรงหน้าข้าทำสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย “พอดีว่าที่บ้านข้าเปิดร้านขายขนมปังน่ะคะ …ถ้าไม่รังเกียจไปกินอาหารที่บ้านข้าได้ไหมคะ?”
ตอนนี้ตรงหน้าข้ามีหญิงสาวผมสีน้ำที่บนศีรษะของเธอมีวงแหวนสีทอง ที่หลังของนางมีปีกสีขาว ถึงแม้เสื้อผ้าของนางจะดูเก่าๆก็เถอะ
…นางฟ้าชัดๆ

-----------------------------

275 Nameless Fanboi Posted ID:YX84J2YLY

กริ๊งงงง!
“กลับมาแล้วหรอ?”

“อืม คานตาริโอ้(คันตะ)ช่วยไปเอาน้ำใส่แก้วมาให้พี่สามใบทีซิ”

“…รับทราบ”

คานตาริโอ้นำแก้วน้ำมาวางไว้บนโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว

“เชิญนั่งก่อนค่ะ”นางฟ้าใจดีผายมือไปที่เก้าอี้เพื่อเชื้อเชิญให้พวกเรานั่ง “เด็กคนนั้นชื่อคานตาริโอ้ เป็นน้องชายของข้าเองค่ะ …อ๊ะ! ขอโทษนะคะ พามาถึงบ้านแล้วแท้ๆแต่ข้ายังไม่แนะนำตัวกับพวกท่านเลย ข้าชื่อวาคาเบลล์(วาคาบะ)ค่ะ”

“ข้ามีนามว่าเรฟีก้าค่ะ”

“ข้าเซรีก้า”

“ส่วนข้าเคียคูราโน”

“ยินดีที่ได้พบนะคะ”วาคาเบลล์ส่งรอยยิ้มสดใสมาให้“กินขนมปังกันก่อนเถอะค่ะ”

“แต่เราไม่มีเงินนะ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถือเสียว่าช่วยเหลือกันนะคะ”

เฮือก! เหมือนข้าได้พบทะเลสาบกลางทะเลทรายเลยทีเดียว น้ำตามายามันจะ…

“แต่ไม่กินอาหารแบบนี้จะไม่เป็นอันตรายกับเด็กในท้องหรือคะ? สามีท่านก็ช่างใจร้ายเสียจริง”

“แค่ก แค่ก แค่ก!!”

หลังจากกัดพีต้า(ขนมปังโบราณมีที่มาจากกรีกโบราณ)พร้อมเครื่องเคียงที่เป็นเนื้อสัตว์ได้เพียงครึ่งนึง วาคาเบลล์ก็เอ่ยคำถามชวนปวดใจขึ้นมา

ข้างตัวข้าทั้งซ้ายขวาราวกับมีไฟลุกโชน
…ไม่ได้นะๆ นางเป็นผู้มีพระคุณ ที่นางพูดเพราะเข้าใจผิดต่างหากล่ะ ใจเย็นๆกันก่อนนะ
ข้าบีบมือภูติน้อยขี้โมโหข้างๆตัวทั้งสองตนเพื่อเป็นสัญญาณว่าอย่าได้ถือสามนุษย์ผู้มีจิตใจดีงามราวกับนางฟ้าตรงหน้าข้า

“คือ…ข้าไม่ได้ท้องนะคะ แล้วข้าก็ไม่มีสามีด้วยค่ะ”

“เอ๋!”วาคาเบลล์กรอกตาล่อกแล่กไปมาก่อนจะหลุบตาลงต่ำ “ข- ข- ขอโทษด้วยนะคะ!”

“ช่างมันเถอะค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นทำไมพวกท่านถึงหลงเข้าไปในป่าได้ล่ะคะ? นี่ถ้าข้าไม่ไปเก็บสมุนไพรในป่าก็คงไม่ได้ช่วยเหลือพวกท่านหรอกนะคะ”

“จริงๆแล้วพวกข้ามาจากต่างแดนน่ะ ก็เลยไม่รู้เส้นทาง”เซรีก้าเอ่ยหน้าตาจริงจัง

“ถ้าอย่างนั้น พวกท่านอาศัยที่ไหนกันหรือคะ?”

“เอ๋!”เราทั้งสามตนมองหน้ากันแทบจะในทันที

ไม่ได้คิดเรื่องนี้ไว้ก่อนเลยนี่นา!!

หลังจากที่เราได้รับการช่วยเหลือจากนางฟ้าใจบุญ เราทั้งสามต่างก็กล่าวคำขอบคุณแก่นางและตั้งท่าจะออกเดินทางใหม่อีกครั้ง

“เดี๋ยวก่อนนะคะ!”

“ทำไมหรือคะ?”

“คือ…เรื่องที่อยู่น่ะค่ะ ข้าพอจะมีที่ๆนึงให้พวกท่านได้อาศัยชั่วคราวได้นะคะ”

“…”

-----------------------------

“ที่นี่หรือคะ?”

“ค่ะ…ที่นี่เป็นบ้านของเพื่อนข้าเอง แต่เขาชอบออกเดินทางไปที่ไหนก็ไม่รู้ครึ่งปีบ้าง ปีนึงบ้าง ข้าก็เลยคิดว่าไหนๆก็ไม่มีใครอยู่ในระยะนี้ ถ้าพวกท่านมาอยู่แล้วคงจะเป็นการดีกว่าปล่อยทิ้งร้างไว้น่ะค่ะ”

บ้านที่วาคาเบลล์พาข้ามา มันดู…สวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย บริเวณโดยรอบเหมือนเคยเป็นสวนดอกไม้ แต่ดอกไม้ค่อนข้างแห้งเหี่ยวและมีพงหญ้าขึ้นหนาเนื่องจากขาดการใส่ใจเป็นเวลานาน ตัวบ้านเองถึงแม้จะดูไม่ใหญ่โตแต่กลับมีรูปทรงที่รับกันกับสวนดอกไม้โดยรอบเป็นอย่างดี ด้านหน้าของบ้านก็มีลำธารไหลผ่าน เจ้าของบ้านมีที่ดินที่สวยจริงๆนะนี่

“ก่อนที่จะเดินทางไปต่างแดน เพื่อนได้ฝากกุญแจไว้น่ะค่ะ แต่ข้ายุ่งๆก็เลยไม่ค่อยได้เข้ามาดูแลที่นี่สักเท่าไหร่ …สนใจที่นี่ไหมคะ?”

“ค่ะ …ที่นี่สวยมากเลยนะ”

“ถ้าสนใจ ข้าจะมาช่วยทำความสะอาดนะคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพวกเราสามคนจะช่วยกันทำความสะอาดเอง แค่นี้ก็เกรงใจคุณวาคาเบลล์จะแย่แล้ว”เคียคูราโนยิ้มหน้าบาน

“แต่ว่า…”

“ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ ขอบคุณนะคะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ …นี่กุญแจบ้าน ถ้ามีเหตุสำคัญก็เดินไปหาข้าที่บ้านได้เลยนะคะ ถึงจะไกลกันเล็กน้อยก็เถอะ …ข้ากลับก่อนนะคะ”

“ค่ะ ขอบคุณมากจริงๆคะ”

พวกเราส่งลาวาคาเบลล์นางฟ้ามาโปรดมารไร้ที่พึ่งอย่างพวกเรา…เป็นคนดีจริงๆเลยนะคะ

“คุณวาคาเบลล์ไปแล้วล่ะค่ะ”

“เธอเป็นคนดีจริงๆเลยนะคะ”

“ข้าขอสาบานไว้ตรงนี้เลยว่าให้ตายยังไงก็จะไม่ล่อลวงคนที่ดีขนาดนี้มาเข้าเส้นทางมืดเด็ดขาดเลยค่ะ”

“ข้าด้วย…ว่าแต่เราจะจัดการทำความสะอาดยังไงดีล่ะ”

“ข้าจะใช้เวทย์มนต์ทำความสะอาดเอง”

“…จะดีหรือคะท่านเรฟีก้า?”

“ข้าแค่ไม่ถนัดศาสตร์การทำอาหารหรอกนะ”

ปิ๊งงง!!

“อย่านะค้าาาาาาาา!!!!”เซรีก้า เคียคูราโนร้องเสียงหลง

“ลืมตาสิ”

“อ๊ะ! ท่านเรฟีก้าใช้เวทย์มนต์ทำความสะอาดได้ดีจริงๆด้วย”

“ข้าว่า…ทำสวนดอกกุหลาบดีกว่าเนอะ”

ปิ๊งงง!!

สวยจังเลย!! ข้ามีหัวทางนี้จริงๆด้วย

-----------------------------

276 Nameless Fanboi Posted ID:YX84J2YLY

“ท่านเรฟีก้าคะ…เราจะเริ่มตามหาท่านทาคาเทเรียน(ทาคาเทรุ)จากที่ไหนดีล่ะคะ?”
“ข้าว่าจะลองนำรูปวาดท่านพี่ไปถามหาคนในเมืองดูน่ะ ถ้าประตูมิติเปิดให้เรามาที่เมืองนี้ก็แสดงว่าเทพีแห่งโชคชะตากำลังหมุนวงล้อให้เราเริ่มต้นจากที่นี่อย่างแน่นอน”
“ท่านเรฟีก้าคะ ข้าว่าเหล่าเทพีมอยเร(เหล่าเทพีแห่งโชคชะตา)กำลังกลั่นแกล้งพวกเราอยู่ก็ได้นะคะ”
“เชื่อข้าเถอะว่ามีเพียงฮาเดส(จ้าวแห่งนรก) เหล่าเทพีมอยเรและโครนอส(เทพแห่งกาลเวลา)เท่านั้นที่จะเที่ยงตรงต่อสิ่งมีชีวิตทุกตน”
“ท่านเรฟีก้า เราจะหาเงินมาจากไหนกันล่ะคะ”
“…ท่านเรฟีก้าคะ แล้วเรื่องคำสาปล่ะคะ?”
“ในตัวเมืองมันคงจะต้องมีอะไรให้ข้าได้กระทำความดีบ้างล่ะ!...นอนเถอะนะ พวกเจ้าจะได้ฟื้นฟูมานากันด้วย”

ท่านพี่ ท่านอยู่ที่ไหนกันนะ? ท่านพี่จะรู้รึเปล่านะว่าน้องคิดถึงท่านพี่แค่ไหน

-----------------------------

วันนี้เป็นวันที่อากาศค่อนข้างแจ่มใส ข้า เซรีก้าและเคียคูราโนจึงได้ออกไปหางานทำในตัวเมือง
คิดแล้วข้าก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยที่สองตนนั้นฝื้นฟูมานาได้ ไม่อย่างนั้นมื้อเช้าวันนี้คงมีสัตว์ประหลาดมาถล่มที่ซุกหัวนอนพังราบคาบด้วยฝีมือข้าเป็นแน่

ทั้งเซรีก้าและเคียคูราโนต่างก็ได้งานทำอย่างง่ายดายเพราะนางสามารถใช้เวทย์มนต์ทำงานได้ ส่วนตัวข้านั้นแค่คิดจะใช้เวทย์มนต์ทำงานอะไรแม้เพียงนิด คำสาปก็ทำงานทันที

“ท่านเรฟีก้าไม่ต้องทำงานหรอกนะคะ พวกข้าจะหาเงินมาเข้าบ้านเอง”
“ไม่ได้หรอกเซรีก้า ข้ามาอยู่ที่นี่สถานะของข้ากับเจ้าก็เท่ากัน จะให้ข้าเอาเปรียบเจ้าได้อย่างไร”

อันที่จริงสมัยที่ข้ายังได้ใช้ชีวิตอยู่ในวัง ข้าเคยมีโอกาสเรียนงานฝีมืออยู่บ่อยครั้ง จริงด้วยสินะ…

“ข้าว่าข้าจะรับตัดเย็บผ้า แล้วใช้เวลาที่เหลือจากการหาเงินตามหาท่านพี่ เมื่อเรามีเงินเก็บพอสมควรแล้วจึงค่อยตามหาท่านพี่ในเมืองอื่นต่อ”

“ท่านเรฟีก้า…”

ข้าเดินเข้าออกร้านเสื้อผ้าเพื่อตกลงกับเจ้าของร้าน ถึงจะถูกกดราคาหน่อย แต่ก็ยังดีกว่างอมืองอเท้ารอให้ผู้ติดตามทำงานหาเลี้ยงล่ะนะ

ในตอนที่ข้ากำลังจะเดินกลับไปยังวิมานกุหลาบหลากสีของข้านั่นเอง

“ช่วยด้วยค่ะๆ!”

มีผู้หญิงตะโกนขอความช่วยเหลือนี่นา
เพียงได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือเท้าข้าก็แทบจะหมุนเป็นล้อ
ข้าขอโทษนะคะท่านลูซิเฟอร์ที่ข้าประพฤติตัวไม่สมกับเป็นลูกหลานในวงศ์ตระกูลของท่านแม้แต่น้อย แต่ข้าอยากให้ท่านได้รับรู้ไว้ตรงนี้ว่าเรฟีก้าคนนี้เป็นคนดี ข้าเป็นคนดีนะคะท่านบรรพบุรุษ!! ท่านควรจะภูมิใจในตัวข้าสิ …หรือข้าคิดผิด?

“เกิดอะไรขึ้นคะ?”

“ช่วยด้วยค่ะ ลูกของเผลอกินอาหารผสมยาเบื่อหนูเข้าไป!! ช่วยลูกข้าด้วย”นางผู้เป็นแม่สะอึกสะอื้นร้องไห้แทบขาดใจ

“ตายแล้ว หน้าเด็กซีดมากเลย ปากก็เริ่มเป็นสีม่วงแล้วด้วย” เคียคูราโนตะโกนอย่างตกใจ

เคียคูราโนเจ้าจะพูดเสียงดังให้แม่เด็กหัวใจวายรึยังไงกันนะ!
ฟุ๊บบบ!!!

“กรี๊ดดดดดด!! ท่านเรฟีก้า แม่เด็กเป็นลมไปแล้วค่ะ”

จะทำไงดีล่ะ! เป็นลมน่ะเดี๋ยวก็ฟื้น แต่เด็ก 5-6 ขวบ โดนพิษนี่สิเรื่องใหญ่ นี่ข้าก็อยู่ที่ถนนกลางกรุงเสียด้วยจะให้ใช้เวทย์รักษา ข้าคงโดนนักล่าปิศาจตามหาจนเจอแน่ๆ แต่ยังไงก็…

“เซรีก้า เคียคูราโน ข้าฝากพวกเจ้าดูแลแม่เด็กด้วยนะ!”

“ท่านเรฟีก้าจะไปไหนคะ?”

“โบสต์”

“ไม่ได้นะคะ ท่านจะไปที่นั่นไม่ได้!!”

“ตอนนี้ชีวิตเด็กสำคัญที่สุด พวกเจ้าทำตามที่ข้าสั่งก็พอ!!”

“ท่านเรฟีก้า!!”

ข้าอุ้มเด็กชายขึ้นมาพร้อมออกมานาดูดพิษออกจากตัวเขาเพื่อเยียวยาก่อนที่จะไปถึงโบสต์ โบสต์หลังนั้นที่ประตูมิติเคยเปิดให้ข้าตกลงมา
ทำไมเด็กห้าขวบถึงได้หนักขนาดนี้นะ!!
ถึงยังไงก็เถอะข้าจะต้องรีบไปให้ถึงโดยเร็วที่สุด

-----------------------------

277 Nameless Fanboi Posted ID:YX84J2YLY

ระหว่างที่ข้ากำลังแบกเด็กวิ่งอย่างสุดฝีเท้านั้น เสียงม้าเร็วข้างหลังข้าก็ดังสนั่น แต่ถึงยังไงก็เถอะ!!

ก็อก ก็อก ก็อก!!

“ฮี่ยยยยยยยย์!!!!!!!!”

“บังอาจ! กล้าดียังไงถึงมาขวางทางอาร์คดยุก” หัวหน้าองครักษ์แผดเสียงดังลั่น

“ต้องขออภัยด้วยค่ะ เด็กคนนี้โดนพิษยาเบื่อหนูมาค่ะ ข้าต้องพาเด็กไปรักษาที่โบสต์ ต้องขออภัยด้วยจริงๆ!!”

“นี่! เจ้าบอกว่าเด็กโดนพิษมาหรือ?”เสียงผู้ชายที่ฟังดูมีอำนาจดังมาจากรถ้าหลังขบวนม้าเร็ว

“ค่ะ!”

“ถ้าอย่างนั้นก็รีบขึ้นมาบนรถ!”

“ทหาร เปิดประตูรถม้าให้หญิงท้องคนนี้ด้วย” หัวหน้าองครักษ์ออกคำสั่ง

จึ๊ก!!!!

…เจ็บปวดเหลือเกิน

“เจ้าน่ะ ท้องอยู่หรือ?”

ทันทีที่ข้าก้าวขึ้นไปนั่งบนรถม้า อาร์คดยุกของประเทศก็ถามเสียงเนือยๆ

“เปล่านะเพคะ! หม่อมฉันไม่ได้ท้อง”

“ถ้าอย่างนั้นก็รู้จักออกกำลังกายซะบ้างสิ”

กรี๊ดดดดดดดดด! พอไม่ใช่คนท้องก็หาว่าอ้วน ยัยดุณหนูมาคีต้าหล่อนมันโหดร้ายที่สุด!!
อาร์คดยุกค่อยๆผินหน้าออกจากหน้าต่างมามองข้าและเด็กชายผู้โดนพิษ
ใบหน้าของเขาช่างดูคมคาย ทั้งสีตาและสีตาก็ดำขลับส่งเสริมให้แววตาของเขาที่ดูราวกลับมีพลังอยู่ตลอดเวลาดูโดดเด่นยิ่งขึ้น …อิจฉาผู้ชายหน้าตาดีจริงๆ

“มองอะไร?”

“เปล่านี่เพคะ”

-----------------------------

เพียงอึดใจเดียวรถม้าก็มาถึงหน้าโบสต์ มีพาหนะนี่ก็ดีอย่างนี้ล่ะนะ

“พวกเจ้ารออยู่หน้าโบสต์นั่นแหละ ข้าขอดูอาการเด็กก่อนแล้วค่อยกลับ”

“ขอรับท่านอาร์คดยุก!”

“ส่งเด็กมาให้ข้า”

“ไม่ได้นะคะ!”
ถ้าข้าส่งเด็กให้เขา พิษก็จะกลับมาไหลเวียนในกระแสเลือดน่ะสิ

“ขอโทษข้าลืมไปว่าไม่ควรแยกแม่ลูก”

“เขาไม่ใช่ลูกของหม่อมฉันนะเพคะ!”

“ถ้าไม่ใช่แล้วทำไมเจ้าต้องดูร้อนรนขนาดนี้ล่ะ?”

“การเมตตาใครสักคนจำเป็นจะต้องมีเหตุผลด้วยหรือเพคะ?”
“…”

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”

“ท่านบาทหลวงคะ เด็กคนนี้เผลอกินอาหารผสมยาเบื่อหนูเข้าไปค่ะ ช่วยเขาด้วยนะคะ!”
ข้าส่งเด็กไปถึงมือบาทหลวง

ทันทีที่บาทหลวงมองหน้าข้า แววตาสีน้ำตาลคู่สวยของเขาก็ส่งความรู้สึกประหลาดใจเพียงชั่ววูบ ก่อนจะหันมาสนใจเด็กในอ้อมแขนแทน

“มาซาย่า(คาบุรากิ) แล้วก็เจ้าด้วย มาเป็นผู้ช่วยให้ข้าหน่อย”

บาทหลวงพาเด็กเข้ามาในห้องพักที่ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นห้องพยาบาลโดยเฉพาะเสียมากกว่า

“เด็กหลับงั้นหรือ? คงแย่แล้วล่ะการรักษาเบื้องต้นเด็กควรจะรู้สึกตัว… มาซาย่าเจ้าเข้าไปในห้องครัวแล้วหยิบไข่มาให้ข้าแล้วก็เอากระโถนมาด้วย”

“เข้าใจแล้ว”
บาทหลวงเป็นใครมาจากไหนกัน? ทำไมถึงสั่งอาร์คดยุกให้ทำโน่นนี่ได้กันล่ะ!

“เจ้าน่ะ ช่วยทำให้เด็กฟื้นทีสิ”

“เอ๋! ข้าหรอ”

“ข้ารู้ว่าเจ้าทำได้ เร็วๆเข้าเถอะ!”

เดี๋ยวนะ! บทสนทนามันแปลกๆยังไงชอบกล

“เร็วเข้าสิ!”
“ค่ะ!!”

ข้าอังมือไว้กับศีรษะของเด็กก่อนจะส่งพลังชีวิตให้ …ลืมตาขึ้นมาเถอะนะ

“แงงงงงงงงงงง!!”

“มาซาย่า ส่งไข่กับกระโถนมาให้ข้า”

บาทหลวงตอกไข่แล้วเอาเฉพาะไข่ขาวมาป้อนใส่ปากเด็ก

สักพักเด็กคนนั้นก็อาเจียนออกมา มือของบาทหลวงก็ลูบเพื่อให้เด็กชายอาเจียนออกมาอีก

เด็กขายอาเจียนเป็นเวลานานประมาณเกือบ 20 นาทีได้ แล้วจึงสลบไป

“ชูสุคาเอล(เอ็นโจ ชูสุเกะ)ไม่สิ…บาทหลวง เด็กปลอดภัยแล้วใช่ไหม?”

“คงจะอย่างนั้นล่ะนะ แต่ข้าต้องขอดูอาการต่อสักวันถึงสองวัน อย่างไรก็ต้องขอบใจพวกเจ้ามาก ถ้าเด็กคนนี้เจอแม่นางข้างๆเจ้าช้าไป เห็นทีคงจะไม่รอด”

“งั้นหรือ…”อาร์คดยุกมองข้าด้วยสายตาฉงน

“มีอะไรหรือคะ?”

“ตอนอยู่ในรถม้าข้ารู้สึกว่าเจ้าอ้วนกว่านี้นี่”

อ๊ะ! จริงด้วย หน้าท้องข้ายุบแล้ว

“เป็นไปได้ยังไงกัน?”
ข้ายิ้มตอบอาร์คดยุกเล็กน้อย แต่ในใจมันกลับลิงโลดจนเนื้อเต้น …นี่สินะผลของการทำความดี~~

“ว่าแต่ทำไมวันนี้โบสต์ถึงได้เงียบขนาดนี้ล่ะ?”

“ก็…ตอนเช้าน่ะมีคนรายงานว่าชาวบ้านโดนคราเคนทำร้ายบาดเจ็บไปหลายราย ทั้งภราดรและภคินีจึงต้องออกไปรักษาผู้บาดเจ็บรวมถึงเยียวยาจิตใจด้วยน่ะ”

อึ๊กกกก!!

“เจ้าจะสะดุ้งทำไม? หญิงอ้วน”

กรี๊ดดดดดดดดดดด!!! หยาบคายที่สุด คนปากเสียขนาดนี้ทำไม่ถึงได้มีหน้าตาดีเป็นเลิศได้ …พระเจ้าท่านคิดอะไรอยู่กันนะ!

“ถ้าเด็กปลอดภัยแล้วข้าขอตัวกลับก่อนนะคะ! ลาล่ะค่ะท่านทั้งสอง”
ข้าโค้งตัวลงแล้วเดินออกจากโบสต์

“เดี๋ยวสิ! เจ้ามากับข้า เจ้าก็ควรกลับกับข้าสิ”

“ไม่รบกวนดีกว่าเพคะ! หม่อมฉันขอทูลลา”

“ไม่ได้!”อาร์คดยุกแผดเสียงทรงอำนาจ

แค่ทำตาดุๆธรรมดาข้ายังรู้สึกใจแป้วเลย เล่นแผดเสียงดังขนาดนี้ตั้งใจให้ข้าหัวใจวายตายรึยังไงกัน!

“ไปรอข้าบนรถม้า”

ข้าไม่อยากเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้เป็นที่สุด!!!

000000000000000000000

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.