ระหว่างที่ข้ากำลังแบกเด็กวิ่งอย่างสุดฝีเท้านั้น เสียงม้าเร็วข้างหลังข้าก็ดังสนั่น แต่ถึงยังไงก็เถอะ!!
ก็อก ก็อก ก็อก!!
“ฮี่ยยยยยยยย์!!!!!!!!”
“บังอาจ! กล้าดียังไงถึงมาขวางทางอาร์คดยุก” หัวหน้าองครักษ์แผดเสียงดังลั่น
“ต้องขออภัยด้วยค่ะ เด็กคนนี้โดนพิษยาเบื่อหนูมาค่ะ ข้าต้องพาเด็กไปรักษาที่โบสต์ ต้องขออภัยด้วยจริงๆ!!”
“นี่! เจ้าบอกว่าเด็กโดนพิษมาหรือ?”เสียงผู้ชายที่ฟังดูมีอำนาจดังมาจากรถ้าหลังขบวนม้าเร็ว
“ค่ะ!”
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบขึ้นมาบนรถ!”
“ทหาร เปิดประตูรถม้าให้หญิงท้องคนนี้ด้วย” หัวหน้าองครักษ์ออกคำสั่ง
จึ๊ก!!!!
…เจ็บปวดเหลือเกิน
“เจ้าน่ะ ท้องอยู่หรือ?”
ทันทีที่ข้าก้าวขึ้นไปนั่งบนรถม้า อาร์คดยุกของประเทศก็ถามเสียงเนือยๆ
“เปล่านะเพคะ! หม่อมฉันไม่ได้ท้อง”
“ถ้าอย่างนั้นก็รู้จักออกกำลังกายซะบ้างสิ”
กรี๊ดดดดดดดดด! พอไม่ใช่คนท้องก็หาว่าอ้วน ยัยดุณหนูมาคีต้าหล่อนมันโหดร้ายที่สุด!!
อาร์คดยุกค่อยๆผินหน้าออกจากหน้าต่างมามองข้าและเด็กชายผู้โดนพิษ
ใบหน้าของเขาช่างดูคมคาย ทั้งสีตาและสีตาก็ดำขลับส่งเสริมให้แววตาของเขาที่ดูราวกลับมีพลังอยู่ตลอดเวลาดูโดดเด่นยิ่งขึ้น …อิจฉาผู้ชายหน้าตาดีจริงๆ
“มองอะไร?”
“เปล่านี่เพคะ”
-----------------------------
เพียงอึดใจเดียวรถม้าก็มาถึงหน้าโบสต์ มีพาหนะนี่ก็ดีอย่างนี้ล่ะนะ
“พวกเจ้ารออยู่หน้าโบสต์นั่นแหละ ข้าขอดูอาการเด็กก่อนแล้วค่อยกลับ”
“ขอรับท่านอาร์คดยุก!”
“ส่งเด็กมาให้ข้า”
“ไม่ได้นะคะ!”
ถ้าข้าส่งเด็กให้เขา พิษก็จะกลับมาไหลเวียนในกระแสเลือดน่ะสิ
“ขอโทษข้าลืมไปว่าไม่ควรแยกแม่ลูก”
“เขาไม่ใช่ลูกของหม่อมฉันนะเพคะ!”
“ถ้าไม่ใช่แล้วทำไมเจ้าต้องดูร้อนรนขนาดนี้ล่ะ?”
“การเมตตาใครสักคนจำเป็นจะต้องมีเหตุผลด้วยหรือเพคะ?”
“…”
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”
“ท่านบาทหลวงคะ เด็กคนนี้เผลอกินอาหารผสมยาเบื่อหนูเข้าไปค่ะ ช่วยเขาด้วยนะคะ!”
ข้าส่งเด็กไปถึงมือบาทหลวง
ทันทีที่บาทหลวงมองหน้าข้า แววตาสีน้ำตาลคู่สวยของเขาก็ส่งความรู้สึกประหลาดใจเพียงชั่ววูบ ก่อนจะหันมาสนใจเด็กในอ้อมแขนแทน
“มาซาย่า(คาบุรากิ) แล้วก็เจ้าด้วย มาเป็นผู้ช่วยให้ข้าหน่อย”
บาทหลวงพาเด็กเข้ามาในห้องพักที่ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นห้องพยาบาลโดยเฉพาะเสียมากกว่า
“เด็กหลับงั้นหรือ? คงแย่แล้วล่ะการรักษาเบื้องต้นเด็กควรจะรู้สึกตัว… มาซาย่าเจ้าเข้าไปในห้องครัวแล้วหยิบไข่มาให้ข้าแล้วก็เอากระโถนมาด้วย”
“เข้าใจแล้ว”
บาทหลวงเป็นใครมาจากไหนกัน? ทำไมถึงสั่งอาร์คดยุกให้ทำโน่นนี่ได้กันล่ะ!
“เจ้าน่ะ ช่วยทำให้เด็กฟื้นทีสิ”
“เอ๋! ข้าหรอ”
“ข้ารู้ว่าเจ้าทำได้ เร็วๆเข้าเถอะ!”
เดี๋ยวนะ! บทสนทนามันแปลกๆยังไงชอบกล
“เร็วเข้าสิ!”
“ค่ะ!!”
ข้าอังมือไว้กับศีรษะของเด็กก่อนจะส่งพลังชีวิตให้ …ลืมตาขึ้นมาเถอะนะ
“แงงงงงงงงงงง!!”
“มาซาย่า ส่งไข่กับกระโถนมาให้ข้า”
บาทหลวงตอกไข่แล้วเอาเฉพาะไข่ขาวมาป้อนใส่ปากเด็ก
สักพักเด็กคนนั้นก็อาเจียนออกมา มือของบาทหลวงก็ลูบเพื่อให้เด็กชายอาเจียนออกมาอีก
เด็กขายอาเจียนเป็นเวลานานประมาณเกือบ 20 นาทีได้ แล้วจึงสลบไป
“ชูสุคาเอล(เอ็นโจ ชูสุเกะ)ไม่สิ…บาทหลวง เด็กปลอดภัยแล้วใช่ไหม?”
“คงจะอย่างนั้นล่ะนะ แต่ข้าต้องขอดูอาการต่อสักวันถึงสองวัน อย่างไรก็ต้องขอบใจพวกเจ้ามาก ถ้าเด็กคนนี้เจอแม่นางข้างๆเจ้าช้าไป เห็นทีคงจะไม่รอด”
“งั้นหรือ…”อาร์คดยุกมองข้าด้วยสายตาฉงน
“มีอะไรหรือคะ?”
“ตอนอยู่ในรถม้าข้ารู้สึกว่าเจ้าอ้วนกว่านี้นี่”
อ๊ะ! จริงด้วย หน้าท้องข้ายุบแล้ว
“เป็นไปได้ยังไงกัน?”
ข้ายิ้มตอบอาร์คดยุกเล็กน้อย แต่ในใจมันกลับลิงโลดจนเนื้อเต้น …นี่สินะผลของการทำความดี~~
“ว่าแต่ทำไมวันนี้โบสต์ถึงได้เงียบขนาดนี้ล่ะ?”
“ก็…ตอนเช้าน่ะมีคนรายงานว่าชาวบ้านโดนคราเคนทำร้ายบาดเจ็บไปหลายราย ทั้งภราดรและภคินีจึงต้องออกไปรักษาผู้บาดเจ็บรวมถึงเยียวยาจิตใจด้วยน่ะ”
อึ๊กกกก!!
“เจ้าจะสะดุ้งทำไม? หญิงอ้วน”
กรี๊ดดดดดดดดดดด!!! หยาบคายที่สุด คนปากเสียขนาดนี้ทำไม่ถึงได้มีหน้าตาดีเป็นเลิศได้ …พระเจ้าท่านคิดอะไรอยู่กันนะ!
“ถ้าเด็กปลอดภัยแล้วข้าขอตัวกลับก่อนนะคะ! ลาล่ะค่ะท่านทั้งสอง”
ข้าโค้งตัวลงแล้วเดินออกจากโบสต์
“เดี๋ยวสิ! เจ้ามากับข้า เจ้าก็ควรกลับกับข้าสิ”
“ไม่รบกวนดีกว่าเพคะ! หม่อมฉันขอทูลลา”
“ไม่ได้!”อาร์คดยุกแผดเสียงทรงอำนาจ
แค่ทำตาดุๆธรรมดาข้ายังรู้สึกใจแป้วเลย เล่นแผดเสียงดังขนาดนี้ตั้งใจให้ข้าหัวใจวายตายรึยังไงกัน!
“ไปรอข้าบนรถม้า”
ข้าไม่อยากเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้เป็นที่สุด!!!
000000000000000000000