>>649 มาต่อ ๆ
เปิดมาที่ตอนต่อไป ตัดภาพมาที่ในวัง ไอ้ฮากำลังจะไปประชุมกับพวกขุนนาง มันเดินผ่านสวนแล้วก็เห็นอีเฟลวิ่งเล่นไล่จับกับผีเสื้อ ทีแรกมันไม่กล้าทักเพราะนึกว่าฝัน จนอีเฟลหันมาเห็นมันเลยเดินมาหาจากนั้นก็ตะครุบกบโชว์ โก๊ะได้ใจ พอคุยกันก็เลยได้รู้ว่า อีเฟลมันอยากเป็นจอมเวทประจำราชสำนัก สักพักองค์รักษ์ไคมอสก็เดินเข้ามาไอ้ฮาก็รีบหันไปสั่งว่าห้ามเปิดเผยตัวตนมันเด็ดขาด หันกลับมาอีกทีอีเฟลชิ่งไปแล้ว เพราะนางเอกซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องสาวฝาแฝดของมันเคยสั่งไว้ว่า ห้ามให้ไคมอสเห็นหน้าเด็ดขาด จนกว่าภูตราตรีจะแก้แค้นสำเร็จ มันเลยให้ฝากคนบอกอาจารย์ว่ามันขอตัวกลับก่อน ซึ่งจอมเวทบาดีนก็คงไม่ว่าอะไรเพราะหน้าที่มันไม่ได้สำคัญอยู่แล้ว แค่ตามมาส่งเข้าประชุมแล้วนั่งกินขนมรอ ซึ่งมันค้านกับข้อมูลก่อนหน้าที่ว่า ที่ผ่าน ๆ มาอาจารย์อีเฟลไม่ค่อยปล่อยให้มันไปข้างนอก เพราะมันหน้าเหมือนนางเอก เลยกลัวพวกคนชั่วจะรู้ว่านางเอกยังมีชีวิตอยู่ (แล้วหนีบมันมาด้วยเพื่อ?? เข้าวังนี่โอกาสเจอพวกขุนนางเพียบเลยนะ หน้าที่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลย คนเขียนจะหาเหตุให้มันมาเจอกัน ก็ช่วยอย่าให้มันขัด ๆ งี้ดิวะ)
ตัดกลับมาที่สำนักเวท เด็ก ๆ ที่เป็นนักเวทฝึกหัดกำลังเตรียมลูกโป่งสำหรับงานเทศกาลที่จะมาถึงอยู่ ซึ่งตรงนี้อีเฟลก็ได้โชว์เทพด้วยการบรรยายกระจึ๋งนึงว่า พวกเด็ก ๆ ร่ายมนต์ใส่ลูกโป่งได้ทีละลูก แต่อีเฟลได้ทีเดียวพันลูก ไม่ถึงห้านาทีงานก็เสร็จ (อื้อหือ ค่อยสมเป็นศิษย์เอกจอมเวทบาดีนขึ้นมาหน่อยล่ะ) แล้วภาพก็ตัดมาที่นักบวชเพื่อนอีเฟล ไอ้นี่ก็เป็นตัวละครหลักนะ แต่บทมันยังจืดจางอยู่ ตรงนี้มีการเปิดเผยว่า จริง ๆ แล้วไอ้นักบวชเลฟินนี่มันคือปีศาจ มันจะกลายเป็นปีศาจปีละครั้ง ในคืนจันทร์เต็มตอนช่วงเทศกาล ซึ่งมันก็กังวลมากว่าตัวมันที่ขาดสติจะไปทำร้ายใครเข้า ที่จริงมันตาสีเหลืองซึ่งเป็นสีของปีศาจแต่คนอื่นจะมองสีตาของมันเป็นสีเทา เพราะอาจารย์มันช่วยใช้มนต์พรางตาไว้ ซึ่งอีเฟลมองเห็นสีตาที่แท้จริงของมันได้ แต่ก็ไม่ได้เหี้ยอะไรมากไปกว่านั้นเลย ทั้งที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ในขณะที่นางเอก ซึ่งมาอยู่ที่นี่ด้วยกันแค่5ปีกลับรู้ (กูลืมบอกไปว่านางเอกกับอีเฟลมันเป็นแฝดกันก็จริง แต่มันไม่รู้ตัวมาก่อนว่ามีพี่น้อง นางเอกอยู่กับครอบครัว จนโดนฆ่าตายยกบ้าน ส่วนอีเฟลอยู่กับจอมเวทบาดีนตั้งแต่ทารก มันมาเจอกันเอาก็ตอน8ขวบ เพราะจอมเวทนี่รับนางเอกมาเลี้ยงด้วย แล้วพอ13ขวบนางเอกมันก็แยกออกไปฝึกวิชานักฆ่า เพื่อล้างแค้น)
ตอนต่อไป
มหาอำมาตย์ฟิกมอสมาเข้าเฝ้าไอ้ฮากลางดึก มาขอร้องไอ้ฮาว่าให้ช่วยอภัยโทษให้ภูตราตรี ไอ้ฮามันก็งงดิ ก็เลยถามว่าทำไม ไอ้อำมาตย์นี่ก็เลยเล่าให้ฟังว่า ภูตราตรีมีศักดิ์เป็นหลานสาวของมัน แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่หลานสาวแท้ ๆ เป็นเด็กที่น้องสาวมันเอามาเลี้ยง (ตรงนี้ก็เป็นปมให้คิดต่อไปว่า ที่จริงพ่อแม่นางเอกมันเป็นใคร แล้วทำไมมันกับอีเฟลที่เป็นแฝดถึงแยกกันอยู่) แล้วอำมาตย์นี่มันก็บอกไอ้ฮาว่า พ่อนางเอกคือคนดี แต่ถูกใส่ร้ายโดยพวกขุนนางชั่ว โดยอาศัยช่องโหว่ของกฎที่ว่า หากมีขุนนางระดับสูงลงนามร่วมกันสิบห้าคน จะทำการตัดสินโทษได้เลย ก่อนกราบทูลราชา (กฎเหี้ยอะไรวะ?) สรุปว่าภูตราตรีไล่ฆ่าขุนนางตามลำดับรายชื่อ หนึ่งถึงสิบห้า ซึ่งตอนนี้โดนไปแปดแล้ว ไอ้ฮามันก็นึกขอบใจภูตราตรีที่ช่วยเก็บกวาดขุนนางชั่วให้ เพราะถ้าจะอาศัยกระบวนการทางกฎหมายเล่นงานคนพวกนี้ก็ยากเนื่องจากมีเส้นสาย กว่าจะฟ้องร้องหาหลักฐานได้ก็กินเวลานาน เพราะเหตุงี้สินะกรมเมืองจึงไม่จริงจังกับการตามจับภูตราตรีนัก (ซะงั้น) แล้วอำมาตย์ก็ขอร้องไอ้ฮาว่า นอกจากอภัยโทษแล้ว ช่วยคุ้มครองภูตราตรีที ช่วยหยุดอย่าให้ไปทำร้ายผู้บริสุทธิ์ เพราะตั้งแต่รายชื่อที่10ลงไปยกเว้น11กับ13 คือขุนนางดีที่ถูกบังคับ แต่ไอ้ฮาปฏิเสธบอกเรื่องอะไรต้องออกหน้าช่วยภูตราตรีขนาดนั้น (ซึ่งตรงนี้กูค่อยใจชื้นหน่อย คิดอยู่เหมือนกันว่าถ้ามันยอมตอบรับง่าย ๆ กูเลิกอ่านแม่มล่ะ555) แล้วอำมาตย์นี่ก็บอกว่าไอ้ฮาไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ มันก็เลยกระซิบบางอย่างให้ไอ้ฮาฟัง ไอ้ฮาฟังแล้วก็เลยยอมตอบตกลงช่วย แต่ออกหน้ามากก็ไม่ได้ เลยจะให้ไคมอส(องค์รักษ์)ไปจัดการเรื่องนี้แทน ซึ่งไคมอสก็เป็นลูกไอ้อำมาตย์นี่แหละ เลยเท่ากับว่า ไคมอสกับภูตราตรีเป็นญาติกัน (แต่ไม่แท้นะ) โดยก่อนจบตอน สติปัญญาที่เฉียบคมของไอ้ฮา ก็ถามอำมาตย์ทีเล่นทีจริงว่า ไม่ใช่เสด็จพ่อของมันจับมันหมั้นหมายไว้กับภูตราตรีรึ ซึ่งไอ้อำมาตย์นี่แม่งก็ตอบว่าใช่ (ตรงนี้กูก็เลยเดาว่า ชาติกำเนิดที่แท้จริงของภูตราตรีกับอีเฟลคงไม่แคล้วเจ้าหญิงเมืองใดเมืองหนึ่ง และแม่งต้องเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มากด้วย)
จบไปก่อนกับตอนนี้ แต่สังเกตอะไรกันไหมพวกมึง? คนที่บทจืดจางยิ่งกว่านักบวชเลฟินซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวละครหลัก คือภูตราตรีนางเอกของเรื่อง แม่งเพิ่งออกมาแค่ไม่กี่ฉากเอง
มีต่อ