Last posted
Total of 1000 posts
ถ้ากัปตันเรือยูกิโนะแตกสาขามาพายเรือตัวเอง เรือจอมมารแม่งไม่ล่มตายเหรอวะ นึกภาพเจ้าชายบนเรือไม้ผุๆพังๆเอาเชือกพ่วงตามเรือน้องชายตัวเองมาเลยอ่ะ
นึกถึงกาวที่เป็นเอ็นโจ(ผมทอง)ในคิมิดอลมาเกิดเป็นยูกิโนะเลยแฮะถ้าเกิดมาลงเอยกับท่านเรย์กะจะนับเป็นเรือใครดี
>>62 ตะ แต่ว่าจอมมารอาจจะยิ้มๆ ยูกิโนะ ถ้าไม่มีพี่แล้วน้องจะเจอคุณคิโชวอินยังไง สโมสรมัธยมปลายน้องเข้าไม่ได้ ส่วนที่ไปสโมสรเปอติตตอนเย็น…เหมือนว่าช่วงนี้คุณคิโชวอินเตรียมสอบเข้ามหาลัยคงจะ…ไม่ว่าง*กดส่งเมสเสจหามาซายะ* //กอบกู้ภาพลักษณ์จอมมารเต็มที่ได้แค่นี้
>>63 เป็นเรือดำน้ำเว้ยย จมตัวเองได้ ผุดขึ้นเองได้555555
บางทีเรือเอ็นโจอาจเป็นบานาน่าโบ้ท พร้อมสลัดลูกเรือตกตลอดเวลา555555555
ถ้ายูกิโนะ vs ท่านพี่ ใครจะชนะวะ
ไอ้แมวดุ้น มึงชักจะล่มบ่อยไปแล้วนะ
อ่ะไอ่ห่า พอกุด่าแม่งเข้าได้เฉย โว้ยยยยยย
ไอ้แมวดุ้น ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! //ปาโทรศัพท์
มันใช่เรื่องที่ต้องมาอาละวาดในกระทู้เหรอวะ
เอ็นโจอ้างน้องอีกแล้วว้อยยยย
ลูกพีชคืออะไรวะ โมโมทาโร่เรอะ ใครก็ได้อธิบายกูหน่อย
เอ็นโจมีความพัฒนา แต่กูกลัวใจท่านฮิ นางจะทำเรือล่มอีกเมื่อไหร่
จอมมารจับจุดเรย์กะได้สนิทเลย ทั้งเรื่องชอบของกิน ทั้งเอายูกิโนะมาล่อ แล้วบากะรากิมันหมั่นไส้เพื่อนรึไงถึงต้องขอไปด้วยน่ะหืม
ปล. Tag food จงเจริญ รองจากคานซังก็หวังได้แค่ฟู๊ดซังนี่แหละ มาประจำ มาเรื่อย ๆ มีโซ่ทองคล้องใจที่เรียกว่าพุงกับเรย์กะแล้วด้วย
เอ...... เชอร์รี่นี่ มันไว้เรียกผู้ชายไก่อ่อนรึเปล่านะ
ไม่พูดถึงชื่อพันธุ์นะ.
เอ็นโจเอ๊ยย. ไม่คืบหน้าเลยซักนิด. หัดดูเพื่อนบ้างงเซ่. เรือคาบุวาคาบะพุ่งไปถึงไหนแร้น
แบ่งผลไม้ที่ตัวเองชอบที่สุดไปให้....
ในฐานะที่กูเป็นคนที่รักการกินมากๆคนหนึ่งกูอยากบอกว่า If anything can prove that I really like you it might be the ‘I even shared my food with you’ นะ ยิ่งของโปรดกูยิ่งไม่อยากแบ่งให้ใครอ่ะ แต่ถ้ากูแบ่งให้นี่คือแบบ(....) ก็ต้องสำคัญ ต้องชอบระดับหนึ่ง ไม่สิ มากๆ ถึงจะแบ่งให้
แต่ก็นั่นแหละ เพราะเป็นท่านเรย์กะไง เลือกพีชไปนี่ไม่ได้มีความหมายแฝงอะไรใช่มั้ยคะ
ถ้าการสนทนาติดขัดละก็ เพียงแค่กล่าวถึง"ยูกิโนะ" แค่นั้นก็สามารถ ต่อบทสนทนาได้อย่างง่ายดายย~
/ท่านจอมมารไม่ได้กล่าวไว้
//ถ้าไม่มียูกิโนะ จะชวนเจ้าแม่ได้มั้ยเนี่ย~
>>85 ชื่อพันธุ์ก็เป็นฉายาคาบุสมัยประถมไง นโปเลียน ส่วนเชอร์รี่นี่มันมีความหมายเป็นแสลงประมาณว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง เวอร์จิ้น เอามาเรียกไอ้หนุ่มไก่อ่อนไม่ประสีประสาเรื่องเพศหรือเรื่องรักๆใคร่ๆก็ได้
เอ็นโจไม่อ้างน้องนี่เขาคงไม่ไปด้วยแหงๆ แต่ได้พีชมานี่เหมือนประชดกันอีกละ อีคาบุมันได้แค่มาร์ชเมโลกลิ่นพีช แต่นายได้ลูกพีชสดๆเลยนะ หมายความถึงรังสีจอมมารมันแรงขนาดต้องใช้ลูกพีชปัดเป่าเลยรึเปล่านั่น 555555
ปูลู ตอนนี้คือตอนที่อ.ฮิโยโกะแกอัพในวันวาเลนไทน์ว่ะ
เชอรี่ = เชอรี่บอย = ไอ้ไก่อ่อน, นโปเลียน => ล้อเลียนฉายาสมัยประถม
พีช = ท้อ = ขับไล่ปีศาจ? ก้น? หัวใจ?
ทั้งพีชทั้งเชอร์รี่ กอฟ์มาคเกอร์มันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญจริงๆป่าวเนี่ย
ตะ-แต่บรรดาผู้ชายในเรื่องไม่มีปฎิกิริยาไรเลยนะ!
>>96 กูว่าไม่บังเอิญ กอล์ฟมาร์กเกอร์กูว่าคนเขียนแกจงใจมากๆเพราะอีเอ็นโจมันพูดดักทางเองเลยแล้วเลือกมาให้เสร็จสรรพ ที่อิมาริไม่มีปฏิกริยาอะไรคงเพราะเรย์กะให้เลยไม่ทันฉุกคิด หรือไม่ในใจอาจจะคิดอยู่ก็ได้ หรืออาจจะมัวแต่ส่งสายตาหวานๆใส่ท่านพี่เลยลืมเรื่องความหมายของขวัญนี้ไปก็เป็นได้ ถถถถถถถถถถถถถถถ
ตะไมกูอ่านเจอแต่พีชของไอ้ไก่อ่อนกับคีชของคาบุรากี้อ่ะ ไม่เจอเชอร์รี่เลย ถถถ หรือทางนี้รีบอ่านเกิน???
ขอบคุณโม่งแปลสำหรับตอนใหม่ค่ะ ภาพคีชท้ายตอนไม่ได้แดกกูหรอก กูแดกชีสไบท์เซเว่นแล้ว ม....ไม่ได้อยากกินของหวานเล้ย......
ตอนนี้นี่อยากจะแหมมมมมมมมใส่เอ็นโจให้รอบจักรวาลจริงๆ ชวนแต่สาวไม่สนเพื่อนเลยน้าาาาาาาาา ชวนไม่ได้ก็อ้างน้องอีก ก็เป็นซะแบบนี้เมื่อไหร่จะจีบติดเล่า5555
กอล์ฟมาร์กเกอร์นี่ เรย์กะเป็นคนให้ น้องสาวมอบให้ คงไม่นึกไปถึงความหมายแฝงว่าอะไร เพราะไม่รู้ว่าจอมมารมาเอี่ยวกับการเลือกด้วย
>>105 ก็อาหารซังเขาเป็นสามีตัวจริงนี่หว่า มีลูกด้วยกันแล้ว แถมยังรักกันดีไม่เปลี่ยนแปลงด้วย
แต่ตอนนี้เป็นตอนแรกที่เรย์กะให้อะไรเอ็นโจด้วยตัวเองนะเว้ย ถึงจะบอกให้แบ่งยูกิโนะก็เหอะ แต่เป็นของที่ตัวเองชอบที่สุดแล้วเอามาให้นี่กูกร๊าวววว โง้ยยยย //มองเมินอาหารซังและคานซัง
แต่พี่แกอ่านใจได้จริงๆใช่มั้ยเนี่ย ถึงรู้ว่าลูกพีชที้ผ่านมามีความหมายแฝงน่ะ
จะว่าไปก็ตอนนี้เองนี่นะที่ทำให้เกิดฟิคมะหมาน่ะ 555555
ลูกพีชนี่โมโมะใช่ไหม โมโมโซโนะ อิมาริไง /กูแกทเชื่อมโยง
ให้cherryกับcherry boy
ให้ท้อปราบมารกับจอมมาร
ท่านเรย์กะเลือกได้ดีจริงๆ
แต่ที่เอ็นโจพูดเรื่องความหมายแฝงนี่พี่แกนับรวมเรื่องที่เรย์กะเอา guimauve ให้คาบุไปรึเปล่าวะ แปลว่าตอนนั้นน่าจะเห็นเหตุการณ์ด้วยใช่มั้ย กูว่าต้องเห็นแน่ๆ
กูเคยอ่านเจอนะมึงว่ามาชเมลโล่นะมีความหมายถึงรักที่ไม่สมหวังเพราะจะละลายหายไป เพาาะงั้นความหมายของมาชเลวโล่พีชในตอนนั้นก็......
พูดถึงลูกท้อกูนึกถึงความทดท้อใจเวลาแม่ยกเห็นเอนโจระเบิดเรือตัวเองว่ะ..
>>113 ลูกท้อมันเหมือนก้น+สะโพกน่ะมึง คนชอบก้นน่ะไม่มีใครเป็นคนไม่ดีหรอกนะ//ผิดเรื่องแล้ว....
เรื่องกลอนกูไม่รู้นะว่ามีรึเปล่า แต่เคยไปหาข้อมูลตอนเขียนฟิคเกอิชา เขาจะมีทรงผมบ่งบอกว่าไมโกะคนนี้อยู่ในขั้นไหน ซึ่งหนึ่งในนั้นจะมีทรงโอฟุคุเรียกอีกชื่อว่าโมโมะวาเระ มีมวยผมด้านหลังลักษณะเหมือนลูกท้อ คนที่ทำทรงนี้จะเป็นการบอกว่าฉันอายุสิบแปดแล้ว ฉันเป็นซีเนียร์ไมโกะ กำลังจะเลื่อนขั้นเป็นเกโกะแล้ว ไม่ใช่ไมโกะฝึกหัดอีกต่อไป แถมในอดีตมันจะมีพิธีประมูลพรหมจรรย์ของไมโกะด้วย เรียกว่ามิทสึอาเกะ ซึ่งสาวนางไหนที่ผ่านพิธีมิทสึอาเกะแล้วก็จะทำผมทรงนี้ได้เหมือนกัน อีกนัยหนึ่งก็คือฉันเป็นสาวเต็มตัวแล้วย่ะ แถมมีหนุ่มมาจองตัวไว้แล้วนะเอ้อ ซึ่งผลท้อมันคงสื่อความหมายออกมาในแง่นั้นนั่นล่ะ
อยากเห็นรูปก็หาคำว่า momoware hairstyle ดูนะ สีแดงๆที่อยู่ตรงมวยผมนั่นล่ะที่เรียกว่าโมโมะวาเระ
>>119 คาบุรากิไม่รู้หรอกว่าของที่เจ้าแม่ให้แต่ละอย่างจิกกัดตัวเองทั้งนั้น อย่าง guimauve รสพีช ก็มโนว่าเป็นของที่เขาให้ในวันไวท์เดย์ ทั้งๆที่เขาให้เพราะสงสาร(ปนประชด)แท้ๆ และกูก็เชื่อว่าครั้งนี้คาบุรากิคนซื่อก็คงไม่เข้าใจความหมายเหมือนเคย//ลูบหัวไซซายะด้วยความเวทนา
กอล์ฟมาคเกอร์มีความหมายแฝงอะไรวะ กูไม่เก็ทอันนี้ อธิบายที
เหมือนกูแปะทุกกระทู้เลย ยัดใส่สารบัญเหอะ 555555
ต้องทำเป็นคอลัมน์สิ
เหตุการณ์ตอนนั้นๆ ประกอบกับคอมเมนท์ของเหล่าโม่งในช่วงเวลานั้น ว่าด่ากันอย่างไรบ้าง เป็นอนุสรณ์ 5555555
อดีตคืออดีต~
อะไรคือเต๊าะสาวผ่านน้องชายเหรอคะท่าน แหม เนียนเชียวนะ นี่ถ้าท่านเรย์กะไม่เอ๋ขึ้นมานี่ก็คงไม่พูดถึงคุณยูกิโนะสินะคะ..
พวกมึงว่าถ้าเจ้าแม่ไม่เอ๋ ยูกิโนะจะได้ไปมั๊ยวะ
>>136 …คิดไปตอนนั้นเหมือนเราจะเด็กอยู่จริงๆ//วางมาดลูบคาง อห ตอนนั้นหลงผิดไปไกลละเกิน
>>143 สามัญสำนึกคนที่แจกหนังสือกลอนปลอบคนอกหักน่ะเรอะ…
ปล อันที่จริงคอมม่อนเซ้นส์เจ้าแม่เราก็…พกเกลือไปสาดในช่วงทัศนศึกษาเพราะกลัวผี…
จริงๆ คอมม่อนเซ้นส์เอ็นโจอาจจะดีสุดก็เป็นได้ แถมยังรู้รอบด้านความหมายแฝงความหมายโดยนัย
สมมตินะครับสมมติ (ทำเสียงน้องพลับ) สมมติว่าถ้าเอ็นโจบอกไซซายะไปตรงๆ ว่าชอบเรย์กะ นางจะเลิกทำตัวเป็นก้างแบบนี้ไหม หรือทำเชี่ยไรที่มันบ้าบอกว่าเดิม
เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วสินะ
หลังจากฟังมาซายะวางแผนลงเรียนพิเศษช่วงปิดเทอมฤดูร้อนกับคุณทาคามิจิในห้องประชุมเล็กแล้วก็อดจะรู้สึกใจหายไม่ได้
เรื่องที่บ้านเองก็ยังค้างคาอยู่อย่างนั้น คงหนีไม่ได้แล้วละมั้งตัวผม
จะว่าไปคุณทาคามิจินี่ยังไงกันนะ เรียกว่าผิดความคาดหมายหรืออะไรดี
เมื่อวานมาซายะส่งเมล์มาเล่าให้ฟังยาวเฟื้อยเลย พออ่านถึงคำตอบคุณทาคามิจิที่เมล์มาว่า มาอ่านหนังสือด้วยกันเถอะ แล้วก็รู้สึกอึ้งอยู่เหมือนกัน
เป็นคำตอบแบบขอไปทีหรือเปล่านะ แบบที่จริงๆ แล้วก็อยากปฏิเสธแต่ก็เกรงใจมาซายะ ถ้าเป็นมุมมองของนักเรียนนอกปกติน่าจะเป็นแบบนั้นนี่นะ
อืม หรือว่าเป็นแบ่งรับแบ่งสู้เพราะไม่มั่นใจความสัมพันธ์ระยะยาวหรืออะไรทำนองนั้น นี่ก็น่าคิดอยู่เหมือนกัน
แย่แล้วสิ ตอนยูริเอะเองก็ไม่เด็ดขาดแบบนี้สุดท้ายก็เลยออกมาไม่ดีเท่าไหร่
เพราะว่าไม่แน่ใจวงจรความคิดของคุณทาคามิจิเท่าไหร่เลยแนะนำมาซายะให้ส่งไปถามคุณคิโชวอิน บางทีถ้าเป็นคุณคิโชวอินล่ะก็อาจจะเข้าใจก็ได้ละมั้ง
"กรุณาอย่าไปรบกวนการอ่านหนังสือของคุณทาคามิจินะคะ"
คุณคิโชวอินพูดขึ้นมาระหว่างแผนการฤดูร้อนของมาซายะแต่คุณทาคามิจิเป็นนักเรียนนอกอีกฝ่ายเองก็คงตั้งใจสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะช่วงนี้ก็ใกล้แล้วด้วยสิ คุณคิโชวอินถึงได้ตักเตือน
จะว่าไปถ้าคุณทาคามิจิไม่ได้เรียนที่ซุยรันต่อจะเป็นยังไงกันนะ บางทีอาจจะไปเข้าโตไดก็ได้ ทางนั้นเองก็ดูไม่ค่อยปลื้มกับซุยรันเท่าไหร่ด้วยสิ
มาซายะจะรู้ตัวหรือเปล่านะ
ถ้ารู้ขึ้นมาแล้วมาซายะจะสอบเข้าที่โตไดตามไปหรือเปล่า หรือว่าจะพยายามรบกวนอีกฝ่ายให้เข้าเรียนต่อที่ซุยรัน
"ใครจะไปขัดกันเล่า"
ข้อหลังนั่นไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ด้วยสิ
"ก็ไม่รู้สินะ" ผมพูดขึ้นมา
"ท่านเอ็นโจจะไปลงเรียนภาคฤดูร้อนของโรงเรียนสอนพิเศษด้วยหรือเปล่าคะ"
"ผมเหรอ? ผมมีตารางเรียนที่อาจารย์สอนพิเศษประจำบ้านจัดไว้ให้อยู่แล้ว คงไม่ไปหรอกความจริงแล้วมาซายะก็เหมือนผมนี่แหละนะ"
ขนาดตารางเรียนกับงานที่อัดแน่นแบบนั้นแล้วมาซายะนี่ก็ยังหาทางไปลงเรียนพิเศษได้นี่ ผมมองไปทางมาซายะแวบหนึ่งก่อนจะหันไปหาคุณคิโชวอินด้วยรอยยิ้มประมาณว่า คงต้องปล่อยมาซายะไปนั่นแหละ
จากนั้นมาซายะก็ปรึกษาเรื่องวิธีการสร้างความสัมพันธ์ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ไม่อยากพูดหรอกนะแต่บางทีอาจจะเป็นเพราะยูริเอะตอนนั้นเหมือนจะทำมาซายะหมดความมั่นใจเรื่องแบบนี้ไปพอดูเลย แต่ก็นะ ถึงจะรับฟังคนอื่นมากขึ้นแต่ความพยายามที่คล้ายกับกันดันทุรังก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่
จากนั้นคุณคิโชวอินก็หันไปหยิบเอานิตยสารมาอ่าน พลิกไปแปบเดียวก็กลายเป็นหน้าของร้านของกินที่กำลังดังแล้วก็หยุดตรงนั้น
เป็นคนที่ดูเข้าใจง่ายกว่าคุณทาคามิจิเยอะเลยแหละ
ใกล้ปิดเทอมฤดูร้อนแล้วเวลาที่จะเห็นคุณคิโชวอินเองก็ใกล้หมดลงเหมือนกันสินะ คุณคิโชวอินเองก็จะเรียนต่อที่ซุยรันนี้หรือเปล่า
ปกติก็คงจะเรียนต่อละมั้ง
แต่ถ้าไม่ล่ะ
ความสัมพันธ์จะจบแค่ห้องประชุมเล็กๆ นี้หรือยังไงกันนะ
มาซายะน่ะถึงจะดันทุรังแต่ก็ยังคงพยายาม ผมเองจะทำได้หรือเปล่า
ถ้าดันทุรังนิดหน่อยแล้วทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหรือเปล่านะ
"มีร้านไหนที่สนใจหรือเปล่า"
ขอบคุณกาวก่อนนอนวันนี้ ช่วยเพิ่มความสดใสให้ชีวิต
พอบอกเป็นเสียงพากย์พระเอกหนังเกาหลีช่องเจ็ด กูก็นึกเสียงนางเอกลอยติดมาด้วยเลยว่ะ บ้าจริง เรย์กะต้องทำเสียงสวยแบบนั้นด้วยมั้ย 5555555
ก็ว่าจะเขียนต่อนิดหน่อยนะ แต่ขี้เกียจสลับหน้าไปลอกบทสนทนาเลยพอเท่านี้ 555 รอแรงบันดาลใจครั้งหน้า
ตั้งแต่เรื่องกอล์ฟมาร์เกอร์ ของทุกชิ้นในวันๆของท่านเรย์กะก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาอีกต่อไป อ่านในแมวปุ๊ป ดูนี่รีบวิ่งเข้าห้องโม่งอย่างเร็วไว
เรย์กะซามะละครหลังข่าวตอน 4 เอ็นโจ Side
---------------------------------------------------------------------------------------
ไหดองแตก! งวดหน้า?...ไม่รู้สิ
รายการซีรีย์เรย์กะซามะละครหลังข่าว
>>>/webnovel/3451/813 ตอน1
>>>/webnovel/3451/829 ตอน 2
>>>/webnovel/3507/505 ตอน 3
มันจะออกอารมณ์แปลกๆหน่อย ดองไว้นานเกินไปหน่อยจนเดี๋ยวนี้องค์ชายกลายเป็นไก่อ่อนไปแล้ววว
---------------------------------------------------------------------------------------
วันนั้นพอผมออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เห็นเธออยู่ในห้องแล้ว อีกทั้งข้าวของของเธอก็ไม่อยู่มีเพียงของขวัญที่มาซายะฝากผมเอาไว้อยู่ที่โต๊ะ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เธอยังนอนละเมอแถมยังกอดผมเสมือนหมอนข้างอยู่เลย… ดูเหมือนจะเป็นพวกชอบแนบชิดโดยไม่รู้ตัวซินะ
กระต่ายน้อยรีบหนีจากกับดักนายพรานไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำหน้าเหมือนคนบ้าแค่ไหน ถึงผมจะเคยว่ามาซายะว่าไอ้บ้าก็เถอะ แต่ผมคงเป็นไอ้บ้าของจริง
เมื่อคืนผมรีบตรงดิ่งมาที่งานปาร์ตี้ทันทีหลังจากที่ได้ยินว่าคุณคิโชวอิน ไม่สิเรย์กะกำลังเมาแอ๋อยู่ในงาน พอมาถึงเธอกำลังเกาะแขนอยู่โวยวายอยู่กับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้
ปกติแล้วเธอการ์ดแข็งเพื่อจะตายเพื่อป้องกันตัวเองภายใต้ลูกแกะห่มหนังหมาป่า เป็นเพราะนายสินะ ผมจ้องไปยังชายคนนั้นซึ่งเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากไป
หึ~ อย่านึกว่าตัวเองจะรอดจากเรื่องนี้ไปง่ายสิ
“คุณคิโชวอิน ลุกไหวไหมครับ”
“อาร่า~ ท่านเอ็นโจหรือคะ ทำไมถึงอยู่ที่นี่ได้คะ น่าแปลกจังเลย” เธอหัวเราะแล้วยิ้มตาหวานแบบที่ไม่เคยยิ้มให้ผมมาก่อนทำเอาผมใจกระตุก หรือจะยิ้มให้หมอนั่น?
ผมหันไปหาหมอนั่นแต่หมอนั่นหนีไปแล้วแย่จริงๆ พอผมหันไปหาเธออีกที เสื้อสูทที่ผมใส่มากลายเป็นผ้าเช็ดปากหลังอ้วกใส่ตัวเองไปแล้ว เธอยิ้มแล้วเอาตัวกอดแขนผม บางทีเธออาจนึกว่าตัวเองกลับเป็นเด็กแล้วกอดแขนพี่ชายตัวเองอยู่ก็ได้ น่าสนุกจริง
บางทีถ้าเธอเห็นสภาพตัวเองตอนนี้อาจจะร้องโวยวายอยู่ในใจก็ได้ ผมเลยกะพาเธอขึ้นไปห้องพักชั้นบนแล้วค่อยติดต่อคนที่บ้านให้มารับ หรือผมควรพาเธอไปส่งดี จะโจ่งแจ้งจนกระต่ายน้อยหนีไปมั้ยนะ ระหว่างนั้นเธอพูดขึ้นมาว่า
“ดิฉันเดินเองได้ค่ะ ดิฉันเป็นถึงหัวหน้าหมู่บ้านคานทองไม่ต้องพึ่งพาผู้ชายหรอกค่ะ” เธอพูดอย่างมั่นใจเดินเหมือนปูได้สองก้าวแล้วพิงกำแพงทำท่าเหมือนจะหลับ
ผมจึงจัดการพยุงเธอไปที่ห้อง ถึงเธอจะบอกว่าไม่ต้องพึ่งพาผู้ชายแต่ก็เกาะผมมาถึงที่ห้องอยู่ดี แล้วหัวหน้าหมู่บ้านคานทองนั่นมันอะไรกัน ไม่รู้ตัวเลยหรือว่าผมเที่ยวไล่ตามคุณอยู่ กะว่าจะอยู่เป็นโสดตลอดไปเลยหรือไง?
“คุณคิโชวอินไม่อยากแต่งงานขนาดนั้นเลยหรือครับ?”
“ดิฉันเป็นคนไร้วาสนาดอกท้อค่ะ เมื่อไหร่ฉันจะถึงฤดูใบไม้ผลิบ้างน้า~ ว่าแต่ท่านเอ็นโจคงไม่ได้หลงเสน่ห์ฉันหรอกนะคะ~?” พูดจบก็หัวเราะคิกคักเหมือนไม่ถือจริงจัง
“ทำไมถึงคิดว่าผมชอบคุณคิโชวอินล่ะ?” ผมค่อยๆขยับเข้าไปหาเธอ นี่คุณไม่รู้ตัวจริงๆหรือ
“กะ-ก็ท่าทางหยอกล้อของท่านเอ็นโจแหละค่ะ”
หืม... ท่าทางที่ได้รับทำเอาผมยิ้มกระหึ่มในใจ คุณก็ไม่ได้ใจร้ายกับผมไปซักทีเดียวนี่
“แล้วคุณคิโชวอินชอบผมหรือป่าวล่ะ?”
“ไม่ค่ะ ถึงจะไร้วาสนามีคู่แต่ดิฉันไม่ใช่แมวขโมย” ดวงตาที่วิ้งวับไปมาก่อนหน้านี้มืดมนลงเมื่อพูดถึงหัวข้อที่ไม่อยากเอ่ย
“ไม่เลยซักนิด?”ผมขยับเข้าไปใกล้อีก
“ไม่ค่ะ” แต่สายตาเยื้องไปทางขวาแล้วนะ
“จริงหรอ?”
“ค่ะ”
ผมเข้าใกล้จนสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมและลมหายใจที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์อยู่จางๆ มองไปยังดวงตาฉ่ำเยิ้มที่เหมือนเชื้อเชิญ แล้วริมฝีปากเราก็สัมผัสกันอย่างแผ่วเบา
ผมจูบเธอแบบที่เคยจินตนาการหลายต่อหลายครั้ง จูบกับที่ความสัมพันธ์ที่ไม่อาจแตะต้องได้ เผชิญหน้ากับความขี้ขลาดตัวเอง
และแล้วกระต่ายก็ถูกหมาป่าขย้ำ…
หลังจากนั้นผมไม่เจอเธออีกเลย ปกติแล้วเธอพยายามหลีกเลี่ยงออกงานให้น้อยที่สุดจึงไม่แปลกที่ผมจะไม่ค่อยเจอเธอ
พอผมเจอเธอในงานปาร์ตี้ของบริษัท เธอก็ทำหน้าผวาไปเลย ยิ่งเห็นเธอทำท่าไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเราถูกเปิดเผยมากแค่ไหน ผมก็ยิ่งอยากแกล้งเธอเข้าไปอีก เธอไม่มีทางหลุดจากผมไปหรอกน่า~
แต่ถูกไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มอมจนเมาแอ๋ต้องลงโทษซะหน่อย...
พอผมจัดการแกล้งเธอสำหรับแผนขั้นถัดไป จะว่าไปเรื่องก่อนหน้านี้ก็ไม่อยู่ในแผน ไม่สิเรื่องราวของเธอไม่เคยอยู่ในแผนได้เลย
ใบหน้าในวันนั้นเป็นสิ่งที่ผมไม่มีวันลืมเลย เธอทำหน้าเหมือนโลกจะล่มสลาย ผมรู้สึกเหมือนพื้นที่ยืนอยู่หล่นวูบได้แต่รอให้เธอปล่อยชายเสื้อที่จับเอาไว้ ผมมันสารเลวทำร้ายเธอจนทนไม่ได้แล้วสินะ แต่ผมไม่มีวันปล่อยเธอไปหรอก...
ย้อนไปอ่านตอนเก่าๆ แล้วใจหายยังไงไม่รู้ว่ะ นี่อยู่ด้วยกันมาตั้ง 270 กว่าตอน อีกสองเดือนกระทู้ก็จะครบปีแล้ว อีกเดือนสองเดือนก็คงไล่ทันดิบ จากนั้นเราจะอยู่กันยังไง รู้สึกโหวงเหวงเว้ย ฮืออออออ
กูเพิ่มลงไปในสารบัญให้แล้วนะ เรื่องคนเลว 2017 เผื่อใครอยากจะไปเปิดดูการอ้างอิงถึง 55555555555555
แปปๆก็จะถึงตอนที่ 300 แล้ว เฝ้าภาวนาให้พระเอกที่แท้จริงและความรักตามหาเจ้าแม่ให้พบกันเถอะ//มอบอาวุธให้ tag love
กูรอว่าตอนที่ 300 จะพีคมั้ย หรือเป็นตอนดักควายอีกรอบ
เปิดสารบัญแฟนฟิคไม่ได้อ่ะ มีใครเข้าได้มั้ย
ลองเปลี่ยน browser แล้วก็ยังเข้าไม่ได้ มันขึ้นว่า We're sorry. You can't access this item because it is in violation of our Terms of Service. แต่ How to กับ รวมไฟล์สารบัญนี่เข้าได้อยู่ ถ้าคนอื่นเข้าได้แสดงว่าอาจจะเป็นที่เครื่องเรามั้ง
เข้าไม่ได้เหมือนกัน
อ้าว สารบัญฟิคเรย์กะหายไปจากลิสต์ในโฟลเดอร์ว่ะ
มันหายไปจริงๆนะ ตอนค่ำกูยังเข้าไปเขียนสารบัญคนเลวให้อยู่เลย มีใครเผลอลบไปป่ะวะ โม่งเจ้าของโฟลเดอร์กู้ไฟล์คืนมาได้มั้ย
เย้ สารบัญฟิคกลับมาแล้วว้อยนยน
พวกมึง มีแฟนอาตใหม่มาลง ระวังด้วยนะมันจะสปอยล่วงหน้า แต่มันสวยดีเลยอยากแบ่งปัน
ทำไมพวกมึงพูดจากันแบบนี้ ให้เกียรติแท็กlove ในเรื่องด้วยค่ะ //สารภาพว่าตอนเปิดเข้าไปกูก็คิดว่าผิดเรื่องเหมือนกันจนเห็นผมหลอด 😂
สปอยตอน 299 ให้กูที ฮืออออ
ไม่ได้ตามอ่านนาน สรุปทั่นเรกะเขามีคู่หรือยังอ่ะ
https://touch.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=62514437&ref=touch_manga_button
อันนี้คือ ตอนไหนวะมึ้งงงงงงงงงง
มึงๆ กุอยากรู้ว่าถ้าไม่ได้อ่านในเ็บแมวดุ้นนี่ จะหาอ่านได้ที่เว็บไหนอีกบ้าง
เช้านี้เวบแมวงงๆ อ่ะ เหมือนอัพแล้วไม่ขึ้น แต่ดูคอมเมนต์แล้วเหมือนมีคนได้อ่านแล้วนะ พวกตัวเองหาเจอกันไหมอ่ะ
กรี๊ดดดดดดด. โม่งแปล สุดยอดเบยยยย มว้วบบ
โชโจ! นี่มันโชโจแต่เช้าเบยยย
คาบุแกร้! เรือแล่นอีกแล้วว้อยยยยย. อิเรือเจ้าชายพายต้วมเตี้ยมอยู่ได้ ทำคะแนนเร๊วว
ใครจะบอกว่าคาบุไม่มีใจให้เรยกะซักนิ้ด? เจอฉากนี้กุโดกิๆรัวๆ. แต่ท่านเรยกะไม่มีใจเต้นบ้างเรยเรอะ
ทะ ทำไมมันโชโจงี้ล่ะ
เดินตามทางเดินแล้วมีนักเรียนยืนเรียงแถวกล่าวทักทายนี่มัน.... ยากุซ่า??
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ท่านคาบุคะ จะแสดงความหึงออกมาแบบนี้ไม่ได้นะคะ
ตอนใหม่!! Tag โชโจได้ทำงานแล้ว! วู้วววว กูวิ่งไปร่าเริงบนเรือคาบุเลย ทำไมงานดีแบบนี้ ที่ลับตายังอุตส่าห์มองเห็นเรย์กะถูกข่มขู่(?)อีก คาบุนี่ดูเป็นประเภทเขินแล้วโมโหกลบเกลื่อนนะ ปกป้องคนในสังกัดตัวเองจริงๆนั่นแหละ สมกับเป็นพระเอกการ์ตูนโชโจ //me ขีดย้ำว่าพระเอกการ์ตูนอีกสิบครั้งก่อนจะโดนTag foodกลืนหายในตอนถัดๆไป เอ็นโจเอ้ย...ขยันหน่อย ขยันหน่อย
จะว่าไป ฉากในตำนานการ์ตูนโชโจโผล่มาหลายตอนแล้ว แต่ผลที่ได้รับจากเรื่องนี้คือ ไม่มีค่าอะไรเลย นี่ตัวหลักในเรื่องนี้ซื่อหรือทื่อฮะ!?
>>215 …รับเสด็จจักรพรรดิกับจักรพรรดินีต่างหากเฟ้ย!?!
แต่คาบุขายาวคร่าวๆกว่าท่านเรย์กะตั้งยี่สิบเซนเลยเรอะ แต่เจ้าแม่ตัวยาวนี่เนอะ แต่จริงๆเวลากูจินตนาการสามสหายกูคิดเป็นตัวจิบิกลมๆอ้วนๆตัวเท่าๆกันหมดเลยน่ะ…เวลาใครโกรธอะไรยังไงก็รู้สึกแบบแมวพองขนไรแบบนี้ ในขณะที่ตัวร้ายแบบซึรุฮานะ หรือคุณซากุระโกะ(ที่ไม่ใช่ตัวร้าย)จะเป็นสาวสวยหุ่นนางแบบ
อยากอ่านมุมมองอาคิซาวะตอนนี้ขึ้นมาเลยถ้ามองจากคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าแม่นี่ดูยังไงก็หึงหวง55
ว่าแต่วาคาบะจังคุยทักทายแต่กับนายตัวสำรอง มองไม่เห็นคาบุเลยเหรอเนี่ย ก็ยืนอยู่แถวๆ นั้นแท้ๆ ไม่น่าจะไกลกันเท่าไหร่นะ จะว่าบังเอิญองศาการมองมันไม่เห็นพอดี / เห็นแต่ไม่อยากทักเพราะดึงความสนใจเดี๋ยวจะซวย / หรือที่จริงคาบุรากิเป็นแค่อากาศกันแน่เนี่ย... น่าสงสารชะมัด หะๆๆๆ
นึกว่าอ่านผิดเรื่องอีกแล้ว
นี่ก็เรือเอ็นโจนะ แต่หลังๆ มานี่รู้สึกว่าคาบุมันชักจะยังไงๆ ขึ้นทุกที ชอบโผล่มาเป็นกขค.ในทุกสถานการณ์ โอเค ครั้งนี้จะแก้ตัวว่าออกหน้าปกป้องคนของ Pivoine ก็ยังพอได้ เกาะไปร้านคีชกับเอ็นโจเพราะอยากดูร้านไปเดทก็หยวนๆ แล้วที่มาแทรกตอนรุ่นน้องรุมคุยกับท่านเรย์กะคือไร แอบชอบแม่สื่อไม่รู้ตัวป่ะเหอะ เอ็นโจนี่ก็มัวแต่เกาะน้องเอื่อยเฉื่อยอยู่ได้ ขัดใจแม่ยกว้อยยยยยยยยย
อ่านตอนนี้แล้วอยากกระโดดไปนอนกลิ้งบนเรือคาบุชั่วราวเลย (ปกติกูทิ้งชิ้นส่วนตัวเองไว้ทุกเรือรวมทั้งเรือคานซัง) หลังๆมานี้เหมือนจะมีโมเมนท์บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ถึงบางทีจะมีคิลมู้ดกันตบท้ายก็เถอะ
คาบุ!!!ที่เดินอาดๆไปนี่เขินใช่มั้ยล่ะ!!เขินใช่มั้ยล่าาา //ชี้นิ้วแซว
วาคาบะนี่คิดยังไงกับคาบุเนี่ย จะรู้มั้ยนะ ว่าเค้าตามสตอลคอยู่อะ
ท่านฮิโยโกะทำกรุเจ็บมาเยอะ กรุตั้งการ์ดไว้ก่อนเลยว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ นางแค่เป็นห่วงเพื่อน ฮือออออออ จงหึงซะสิ ท่านเรย์กะผู้เข้ากับคนได้ทุกเพศทุกวัยเลยนะ ไม่ใช่ของของนายคนเดียว ตอนก่อนก็เล่นกับรุ่นน้องนะ เรียกชื่อจริงด้วยนะ ตอนนี้ก็สุมหัวตบมุกกับมิสึซากิคุงเลยนะ แถมเพื่อนสนิทนายยังชวนไปเด---ไปเป็นเพื่อนน้องที่ร้านทาร์ตอีก
เห็นมังงะบากะริน่าแล้วน้ำตาจะไหล จะมีวันที่ท่านเรย์กะได้เป็นมังงะบ้างไหมว่ะ
เอาแค่รวมเล่มนิยายให้กูได้เห็นตัวละครแบบออฟฟิเชียลก็ได้
>>236 กูเห็นมังกะน้องแมวแล้วน้ำตาไหล อยากให้ท่านเรย์กะเฉิดฉายได้แบบนั้นมั่ง
แต่พอกลับไปดูประวัติการอัพอาจารย์ฮิโยโกะ ตั้งแต่เข้าปี 2017 มา อัพไปได้ทั้งหมด 33 ตอน...
เลยคิดว่าอาจารย์แกคงอยากเขียนแบบเรื่อยๆ ไม่รีบ ให้สมกับเป็นท่านเรย์กะสโลว์ไลฟ์ เลยไม่อยากขาย LC ให้ใครมั้ง แม่งโคตรอินดี้
เรือคาบุแล่นฉิวอีกแล้วโว้ย หรือนี่นางจะรู้ตัวแบบ ทำไมไม่ว่าจะเป็นใครก็สนิทกับมิซึซากิไปหมด ทั้งทาคามาจิทั้งคิโชวอิน นายตัวสำรองหรือนายจะเป็นเคมีมาเร่งทุกคลลล //ท่านเอ็นโจรีบหน่อยค่า หวานเย็นเกินไปจะโดนแซงนะค้าา
ก็ถ้าขาย lc ให้สนพ.กูว่าคงมีเรื่องระยะเวลาหรือข้อบังคับโน่นนี่นั่นมั้ง แล้วกว่าแกจะมาอัพก็ยาวนานเหลือเกิน
แต่คิดเล่นๆว่าถ้าแกขาย lc แกจะให้สนพ.ไหนวะ ในนาโร่เขานิยมพิมพ์กันที่ไหนบ้างอะ
ถ้าอาจานตั้งใจให้เอ็นโจเป็นพระเอก. (เรยกะชอบหน้ามากกว่า. ใส่ตัวละครน้อง แอบมองแอบช่วยมาตลอด) แล้วจานจะสร้างโมเม้นคาบุเรยกะมาทำมายยยยย. จานต้องการอะราย แถมโมเม้นแรงๆตลอด ถึงจะไม่มีผล 555
กูนี่นึกภาพอาจารย์ฮิโยโกะที่ยิ้มชั่วร้ายมองดูคนอ่านที่น้ำตาตกกับความแห้งแล้งของเรื่อง โหยหวนด้วยความหิวของอาหาร อึ้งทึ่งด้วยความรู้แปลกๆ ก่อนจะส่งโมเม้นโชโจแบบสับขาหลอกมาให้พวกเรากรีดร้องดีดดิ้นทุรนทุราย ลงโมเม้นหลายๆเรือให้เดาทางไม่ถูกจนตีกันตายไปเองว่ะ
ณ จุดนี้กูเริ่มรู้สึกว่าใครจะคู่ใครก็ได้ล่ะ เคมีแม่งดีไปหมด แต่ขอให้ตัวละครมีความสุขกันพร้อมหน้าได้ไหมวะ ถ้าให้องค์ชายกูไปยิ้มขื่นๆ เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่งคาบุเรย์กะ มียุยโกะตามพัวพันนี่กูจิตใจแหลกสลายแน่นอน แต่จะให้คาบุไปกับวาคาบะกูก็ยังรู้สึกว่าคู่นี้มันเกร็งๆ เหมือนคาบุยังไม่เป็นตัวของตัวเองร้อยเปอร์เซนต์แบบนี้เป็นอยู่กับท่านเรย์กะ เฮ้อออออออออ ฮาเร็มเอนด์เถอะ ว่าแต่ฮาเร็มเอนด์กับคานเอนด์นี่มันอันเดียวกันหรือเปล่าวะ...
ทำไมพูดถึงคานซังกันได้แบบหน้าชื่นตาบานยังงี้ ชักจะโผล่มาบ่อยเกินไปแล้วโว้ย พวกมึงอย่ายอมแพ้ดิเฮ้ย! กำลังใจฮึกเหิมที่จะวิ่งสู้ฟัดพิชิตคานมันหายไปไหนกันหมดแล้ว แง๊~
คานซังคือเรือท่านพี่กับวาคาบะไง แค่นี้ก็ยกธงขาวแล้ว รอสัก 5 ปีให้คันตะกับยูกิโนะโตก่อนนะค่อยว่ากันใหม่
อาริมะพาวาคาบะไปทาง บากะรากิเลยพาเรย์กะไปอีกทาง ถ้าอนาคตจบลงแบบนี้คงสนุกน่าดู ฮุ ฮุ ฮุ
ปล. แล้วจอมมาร สตอลเกอร์ องค์ชาย ใครน่ะ ??? มีตัวละครนั้นด้วยเหรอ
ไปๆมาๆรู้สึกว่ามีสตอลเกอร์หลายคนเหมือนกันนะเนี่ย ซากุระ บากะรากิ เอ็นโจ ท่านพี่(?)
ในดิบงานโรงเรียนผ่านไปยังอ่ะ
จะมีแบบท่านเรย์กะใส่ชุดเจ้าสาว แล้วเอ็นโจใส่ชุดเจ้าบ่าวแล้วคุณยุยโกะโผล่มามั่งไหม
มันจะมีตอน Gossip ของเด็กซุยรันมั้ยว่ะ อยากอ่านโคตร ถ้ากูเป็นโม่งในวงนั้น เรื่องนี้มันต้องขยายอ่ะ 5555555 //หรือมีใครใจดีแต่งฟิคมั้ยคะ จะกราบขอบพระคุณงามๆ
>>246 อยู่ๆกูก็มโนพล็อตแบบ5ปีต่อมา คันตะ กับ ยูกิโนะ แข่งกันจีบเจ้าแม่
สองคนนี้มีของที่เจ้าแม่แพ้ทั้งคู่ คนนึงก็เด็กน่ารัก อีกคนก็คอยเซ่นอาหารคาวหวานให้เจ้าแม่
แบคหนาทั้งคู่ด้วยนะ คนนึงก็มีเอ็นโจ(ที่หลังๆเริ่มดูสนิทกับเรย์กะขึ้น) อีกคนก็มีวาคาบะ(ที่เกือบๆจะเป็นเมียลับๆ)
คันตะกับยูกิโนะ ถ้าทะเลาะกันต้องเป็นโมเม้นที่ดีย์แน่ๆ แบบคนนึงก็ซาตานหุ้มหนังเทวดา อีกคนก็เท่ๆตรงๆอบอุ่นๆ(?)
//อุ้ยกาวหมด
ปล. ถ้าสุดท้ายยังจบคานซังสองหน่อนี้คงได้กันเอง5555555
ตอนใหม่ คาบุรากิ๊ บันซายยยยยย แท็ปโชโจมาวินนะฮะตอนนี้ แล้วฉะกันตรงทางเดิน ป่านนี้เป็นขี้ปากไปแล้วทั้งโรงเรียนแน่ๆ โฮะ โฮะ โฮะ
เหมือนชื่อมู้จะแก้เคล็ดนะ55
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
มรึงงงงง กูเพิ่งมีเวลาไปดำน้ำอ่านดิบจนถึงตอนล่าสุด
โอยยย คือดีย์ นึกว่าฟิคกาววว
เค้าแตะเนื้อต้องตัวกันแล่วค่ะ
กูจะเปนลมมมม~
เหยียบเรือแม่มทุกลำ หลังจากนี้โมเมนต์ทุกเรือคือดีย์~
ปล.ยังไงก็จะรอโม่งแปลด้วยใจจดจ่อนะ จุ้บุ
นอกจากอยากจะให้ท่านเรยกะมีแฟน
กุอยากเจอท่านฮิโยโกะตัวจริงนี่แหล่ะ
ที่พีคอาจจะเป็นน้ำหนักของเจ้าแม่.........
' นอนหรือยัง'
เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเด็กของผมส่งข้อความมาทางโทรศัพท์ก่อนที่ผมจะหันไปมองนาฬิกาในห้องนอนที่กำลังชี้ไปที่เวลาหนึ่งทุ่ม
'คงอีกสักพักใหญ่เลยล่ะ'
หลังจากตอบข้อความกลับไปจู่ๆ ก็นึกถึงเหตุการณ์ที่โรงเรียนวันนี้ขึ้นมาได้แล้วนึกสงสัยอะไรขึ้นมาบางอย่าง
'จักรพรรดิซุยรันกำลังคบหากับคุณคิโชวอินอยู่หรือเปล่านะ'
แทบจะทันทีที่ผมส่งข้อความกลับไป โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาแทน
"รบกวนหรือเปล่าทาคุมิ"
ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ เป็นการพูดตามมารยาทนั่นแหละ เพื่อนสมัยเด็กของผมสนิทกับคุณคิโชวอินมากพอดูแต่ยังไม่เข้าเรื่องในทันที
"ไม่หรอก ตอนนี้ว่างอยู่น่ะ"
"อื้อ แล้วที่ส่งข้อความมาน่ะ จริงหรือเปล่า"
"อา...ผมก็แค่รู้สึกสงสัยนิดหน่อยน่ะ นึกว่าซากุระจะรู้เสียอีก"
"หมู่นี้ไม่ค่อยได้คุยกับเรย์กะบ่อยน่ะ ล่าสุดก็ไปทานลันซ์ด้วยกันกับเพื่อนอีกคน ดูเหมือนหลงจากนั้นจะยุ่งอยู่กับการดูหนังสือเลยไม่ค่อยอยากรบกวนเท่าไหร่"
"นั่นสินะ จะว่าไปคุณคิโชวอินก็สอบได้คะแนนดีเสียด้วยสิ อืม นั่นก็ด้วย"
"หมายถึงอะไรหรือทาคุมิ"
"ก็ได้ยินมาว่าได้รับการติวเป็นพิเศษจากจักรพรรดิกับองค์ชายล่ะมั้ง"
"เอ๋ หรือที่ว่ายุ่งอยู่กับการดูหนังสือนี่ที่แท้ก็แบบนี้เองเหรอ"
"อืม น่าจะติวเป็นกลุ่มละมั้ง เห็นว่ากลุ่ม Pivoine คะแนนสูงขึ้นทั้งกลุ่มเลยน่ะ"
"อืม งั้นก็ไม่มีอะไรละมั้ง"
"แต่ว่านะ รู้สึกว่าหมูู่นี้คุณคิโชวอินแสดงความสนิทสนมกับจักรพรรดิเป็นพิเศษมาระยะหนึ่งน่ะ"
"แสดงความสนิทสนมงั้นเหรอ คุยกันล่าสุดเรย์กะก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลยนะ เห็นบ่นตลอดว่าขายไม่ออกบ้างละ ที่โรงเรียนเรย์กะไม่เป็นนิยมเลยเหรอ อันที่จริงเรย์กะถึงจะแปลกๆ แต่ก็ถือว่าหน้าตาดีอยู่นะ"
"ก็ถ้าไม่รู้จักแล้วละก็คุณคิโชวอินก็มีอิมเมจแบบที่ทำให้เกรงกลัวนี่นะ" แต่พอมานึกดูแล้วเรื่องความนิยมนี่ก็
"แต่จะว่าไม่เป็นที่นิยมนี่น่าจะเรียกว่าเป็นที่นิยมในแบบลัทธิมากกว่า แบบเฉพาะทางน่ะ"
จากนั้นก็ได้ยินเสียงซากุระที่ปลายสายหัวเราะเบาๆ
"แล้วทำไมทาคุมิจู่ๆ ก็สงสัยขึ้นมาล่ะ"
"หมู่นี้เห็นคุณคิโชวอินอยู่กับจักรพรรดิสองคนบ่อยๆ น่ะ ถึงบางครั้งจะมีองค์ชายอยู่ด้วยก็เถอะ แต่เห็นเดินอยู่กับจักรพรรดิมากกว่านะ"
"อืม ไม่ใช่ว่าเพราะเป็น Pivoine ที่ว่านี่ด้วยกันเหรอ จำได้ว่าทาคุมิเคยเล่าให้ฟังนี่ว่าเรย์กะเป็นผู้ทรงอิทธิพลของผู้หญิง อาจจะคุยกันเรื่องนี้ก็ได้นะ"
"อื้อ ก็อาจจะด้วยตำแหน่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่านั่นด้วยแหละนะ แต่ที่เพิ่งมาสงสัยก็คือคุณคิโชวอินพูดนินทาลับหลังจักรพรรดิแบบสนิทสนมได้ด้วยน่ะ"
"เอ๋ ยังไงน่ะ"
ผมก็เลยเล่าเรื่องที่คุณคิโชวอินคุยกับตัวเองแล้วก็มิซีซากิคุงให้ฟัง ก่อนหน้านี้ก็เหมือนเคยบ่นๆ ในเชิงล้อเล่นแบบนี้มาเหมือนกัน ในซุยรันถึงคุณคิโชวอินเนื้อแท้แล้วจะเป็นคนตลกๆ หน่อยก็เถอะ แต่จักรพรรดิคนนั้นน่าจะเป็นคนจริงจังนะ นอกจากคุณคิโชวอินแล้วคงไม่มีใครกล้าล้อเล่นแบบนี้แล้วละมั้ง
ต่อ
"ดะ ดึงเข้าหาเลยเหรอ" ผมเล่าถึงตอนที่เห็นจักรพรรดิคว้าแขนคุณคิโชวอิน
"อื้อ ตกใจหมดเลยล่ะ ตอนนั้นมิซึซากิคุงถูกมองด้วยสายตาที่เตรียมจะบดขยี้เลยด้วย อ๊ะ แต่คุณคิโชวอินก็แก้ความเข้าใจผิดให้นะ" พอมานึกดูแล้ว "จะว่าไปคุณคิโชวอินก็ไม่ได้แสดงทีท่าเขินอายเท่าไหร่ด้วย ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นอาจจะเป็นลมไปเลยก็ได้นะ"
"แล้วต่อจากนั้นล่ะ"
"ก็เป็นขบวนเสด็จกลับของจักรพรรดิกับจักรพรรดินีน่ะ ตอนนั้นเหมือนกับโมเสสแหวกทะเลเลย ทั้งที่ไม่ได้ตั้งขบวนแท้ๆ ว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นเพราะตัวบุคคล"
พูดถึงตรงนี้ก็นึกขึ้นได้
"อะ ซากุระไปเล่าให้คุณคิโชวอินฟังเหรอเรื่องขบวนไดเมียวน่ะ"
"เอ๋ อะ ก็สถานการณ์พาไปน่ะ ตอนนั้นที่ไปกินลันซ์เรย์กะปรึกษาเรื่องอิมเมจอยู่ก็เลยวิเคราะห์สาเหตุกัน ที่ซื้อมาฝากทาคุมิวันนั้นน่ะ"
"งั้นเหรอ ช่วยไม่ได้นะ คุณคิโชวอินเองถึงจะทำท่าข่มขู่นิดหน่อยว่าอย่าไปทำให้คนอื่นเข้าใจผิด แต่จริงๆ คงเขินที่ซากุระรู้ละมั้ง แต่ตอนทะเลแหวกแล้วยิ้มแย้มตอบโต้กับรุ่นน้องนี่เป็นธรรมชาติมากเลยนะ"
"อื้อ เอ๋ แบบนี้ไม่ใช่ว่าเรย์กะไม่รู้ตัวหรอกเหรอ"
พอซากุระทักขึ้นมาผมก็นึกตาม
"...มีความเป็นไปได้นะ"
ได้ยินเสียงบ่นของซากุระว่าไม่นึกว่าเรย์กะก้าวหน้าไปขนาดนี้แล้ว จากนั้นอีกฝ่ายก็เงียบไปพักหนึ่ง
"เป็นอะไรไปหรือเปล่า ซากุระ"
"อื้อ เปล่าหรอกแค่รู้สึกว่าบางครั้งเป็นตัวเองที่เอื่อยเฉื่อยไปหรือเปล่านะ"
"เรื่องอะไรงั้นเหรอ"
"ไม่มีอะไรหรอก"
ซากุระที่จู่ๆ ก็เงียบไปทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา จากนั้นก็เลยนึกถึงลันซ์ที่อีกฝ่ายเอามาฝากเมื่อตอนนั้นได้
"จริงสิ ลันซ์วันนั้นอร่อยดีนะ วันหยุดคราวหน้าไปทานด้วยกันเป็นไง"
อันที่จริงผมก็ไม่เคยบอกซากุระหรอกนะว่าจริงๆ เธอคล้ายกับคุณคิโชวอินในบางเรื่อง เช่นเวลาทำท่าไม่สบายใจ ถ้าผมพาไปเลี้ยงอาหารหรือทานไอศครีมแล้วอีกฝ่ายก็เหมือนจะสดชื่นขึ้นมายังไงอย่างงั้น หรือว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นแบบนั้นกันนะ
"อื้อ! เอาสิ แล้วจะรอนะ"
แล้วน้ำเสียงของซากุระก็สดใสขึ้นมา ว่าแล้วเชียว ต้องเป็นเพราะของกินแน่ๆ เลย
.
.
.
ลองแต่งดู พอไหวไหมอันนี้
>>280 พ้อยของจุดนี้คืออาคิสะวะเป็นพวกชอบปฏิเสธความจริงเรื่องความสัมพันธ์กับซากุระเวลาอยู่กับคนอื่นบ่อยๆ เช่น ตอน 226 ของซาโตมิ อาคิสะวะก็อ้างว่าเป็นเพื่อนสมัยเด็ก กูเลยตั้งให้ความคิดของอาคิสะวะปฏิเสธความจริงเรื่องของตัวเองหน่อยๆ ดูจากตอนประถม(หรือมัธยมต้นนี่แหละ จำตอนไม่ได้) ก็ถูกเรย์กะซักมารอบหนึ่งแล้วยังไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบเปิดเผยอยู่ดี ตอนท้ายเลยให้คิดแบบหนีความจริงเรื่องนี้นิดๆ
ส่วนจุดของซากุระ จริงๆ แล้วซากุระวางแผนในหัวตั้งแต่เข้าใจ(ไปเองตามฟิคนี้ว่า)เรย์กะก้าวหน้าก็เลยร้อนรน จากนั้นเลยวางกับดักเพราะรู้อยู่แล้วว่าถ้าแสดงท่าทีแบบนี้อาคิสะวะต้องติดกับแน่ พูดง่ายๆ ก็คืออ่านอาคิสะวะออกเข้าใจได้ยิ่งกว่าลายมือตัวเอง เลยบ่นแฝงการรุกเข้าไปในประโยคสนทนาไม่ให้ไก่ตื่น ที่นางดีใจก็อาคิสะวะชวนนั่นแหละ แต่ก็ดีใจที่แผนสำเร็จด้วย จะดูถูกผู้หญิงที่ถูกเปรียบกับยามาโตะ นาเดชิโกะไม่ได้นะ!
>>292 กูว่าท่านเรย์กะนี่ก็โดขิๆ ง่ายล่ะนะ แต่ง่ายกับคนที่ไม่ควร เช่น อิมาริ, อิชิโนะคุระ พวกนี้ป้อนคำหวานนิดๆ หน่อยๆ นางก็เคลิ้มล่ะ แต่กับคนใกล้ตัวนี่ตายด้านชิบ คาบุนี่โคตรมีโมเมนต์ แต่นางนิ่งสนิท เอ็นโจมีโดขิๆ บ้างแล้วก็ทำตลกกลบเกลื่อนหมด เฮ้ออออ แล้วยังจะมาบ่นว่าอยากย้ายออกจากหมู่บ้านคานทอง
ก็จริงนะ อยู่ด้วยกันจนลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามันหล่อ ถ้าไม่มีคนมากรี้ดๆให้ฟัง
แล้ววีรกรรมคาบุน้อยเสียเมื่อไหร่ แต่ละอย่าง 5555
สงสัยว่าทำไมอิมาริจะพูดเรื่องโทโมเอะแล้วท่านพี่ชัดขึ้นมาอะ หรือจะมีอะไร
ตอนล่าสุดที่นางบ่นๆ รถไฟแน่นๆ ในชาติก่อนแล้วตบท้ายว่าคงกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้นไม่ได้แล้วละน้า~ นี่กูอ่านแล้วใจคอไม่ดียังไงไม่รู้ว่ะ มันจะเป็นลางบอกเหตุมั้ย...
>>304 กูว่านางก็บ่นถึงชาติที่แล้วอะไรไปเรื่อยเปื่อยว่ะ คนเราพอใช้ชีวิตสุขสบายจนชิน ใครจะอยากกลับไปลำบากอีกรอบล่ะ เป็นกูก็ไม่เอาด้วยหรอก ถถถถถถถถ
เอาตอนนี้บ้านนางคงไม่ล้มละลายตามไทม์ไลน์เดิมแน่ๆ ท่านพี่ก็อยู่บริหาร ราคาหุ้นบ้านนางก็สูงลิบลิ่วจนซื้อไม่ไหว แถมใครๆก็รักนางกันทั้งนั้น ต้องยื่นมือมาช่วยไม่ให้ชีวิตตกต่ำแบบในคิมิดอลหรอก
ขนาดหัวหน้าห้องมีบทตั้งเยอะยังไม่มีชื่อเลย
บอกตอนไหนเหรอว่าหัวหน้าห้องใส่แว่น จำไม่ได้
ท่านเรย์กะตอนใหม่แม่ง... กูอยากแดกเอแคลร์~~~~~~~ โม่งแปลก็ช่างหารูปมาได้น่ากินเหลือเกิน
อาาา. ตอนล่าสุดนี่มันบทเริ่มต้นของ
.
.
.
.
.
.
นกในตำนานนี่นา. คนอ่านถูกโทรลลเรียบ. 555
.
.
.
.
.
.
ขอบใจโม่งแปลน้าาา. หาเอแคลกินดีก่า
คร้ายยยยย ใครทักเจ้าแม่ตอนจบบบบ ค้างว้อยยบบบยยยย
ขะ ขะ แข็งแกร่ง! แท็กฟู้ดจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ววว!!?! ชวนท่านฟุยุโกะออกจากแท็กไสย์ แล้วไปทัวร์อาหารกันดีกว่า~
//กุนี่หิวข้าเลย เอแคลน่ากินจัง
ตอนล่าสุดนี่กูได้แต่ร้องห้ะ! นั่นมันเอแคลร์เรอะะะ ชั่วชีวิตนี้กูเคยเห็นแต่ไอ้ลูกกลมๆ ที่มีขายในเซเว่นนั่นล่ะ ของตอนอื่นๆ ที่เป็นชื่อหรูๆ ไม่เคยได้ยิน พอดูรูปที่โม่งแปลแปะละเปิดหูเปิดตาดี แต่พอเห็นเอแคลร์ที่คิดว่าคงจะเป็นเอเคลร์แต่ดันออกมาเป็นเอแคลร์ที่ไม่คุ้นเคยนี่ กูก็ได้แต่คิดว่าความรู้เรื่องของหวานของกูช่างอ่อนด้อยยิ่งนัก อยากเกิดเป็นท่านเรย์กะจังว้อยย ได้กินดีๆ ทั้งนั้นเลย 5555555
>>326 ช่าย เรียกชูครีม คนไทยเรียกผิดกันเป็นส่วนใหญ่ (รู้สึกแม้แต่ชื่อสินค้าในเซเว่นก็ยังใช้ว่าเอแคลร์เลยป่ะ?)
....
"ย้อนไปเมื่อประมาณ พ.ศ. 2443 ได้มีชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาเมืองไทย และได้นำขนม 2 ชนิดซึ่งก็คือ เอแคลร์ (Éclair) และ ชู อา ลา เครม์ (Choux à la crème) มารับประทาน แล้วก็ได้ทดลองทำในเมืองไทย แต่ขณะที่ทำขนมทั้งสองชนิดอยู่นั้นมีสาวชาวไทย เข้าไปช่วยทำและถามชื่อขนมว่าคืออะไร ก็ได้รับคำตอบว่านี่คือ ชู อา ลา เครม์ กับ เอแคลร์ ซึ่งชื่อ ชู อา ลา เครม์ เรียกยากมาก จึงไม่นิยม คนไทยจึงเรียกชื่อขนมทั้ง 2 ชนิดรวมเป็นชื่อเดียวกันคือ ‘เอแคลร์’ จนมาถึงปัจจุบัน"
>> https://www.wongnai.com/news/macaron-eclair-belgianwaffle?ref=ct
(เตือนว่าในลิงก์มีแต่รูปขนมน่ากิน ถถถ)
>>328 เพิ่มเติม มีคนเขียนอธิบายเรื่องเอแคลร์กับชูครีมไว้ด้วยนะ มีแต่ขนมหน้าตาไฮโซเหมือนกัน กูว่าถ้าท่านเรย์กะจะเปิด Blog ของกินก็คงออกมาหน้าตาประมาณนี้แหละ 5555
http://www.adrenalinerushdiaries.com/my-tiny-kitchen/ชูครีมต่างจากเอแคลร์อย/
บุคคลที่มาในท้ายตอน.... อืมมมม อีตานั่นสินะ คนคนนั้นแน่ๆอะ จะใครกันล่ะ
หวา....โม่งแปลบอกว่าจะอัพในช่วงนั้นใช่ไหม แล้วเราติดค่ายอ่านหนังสือยาวๆไปเกือบเดือนพอดีอีก กว่าจะได้กลับมาอ่านนี่ท่าจะลงแดงแย่ละ เราจะรอความโดขิๆจากอาหารต่อไปนะ ถถถ
โม่งแปลไปต่างแดนบ่อยจัง สู้ๆน้า รักษาสุขภาพด้วยค่ะ เห็นด้วยว่าพอใกล้ดิบแล้วรู้สึกโหวงๆเหวงๆไงไม่รู้อ่าาา ทั้งดีใจทั้งเศร้าใจ
สรุปเป็นดิเท..........
แวะมากราบโม่งแปลที่ทำให้กูเข้าถึงงานดีๆอย่างเพลิดเพลินค่ะ ปกติกูสายจีน หลังจากมีคนแปะเหมาๆในโม่งจีน กูเข้าเลยคิดถึงงานญี่ปุ่นบ้าง เลยเข้ามาหาLNอ่านให้หัวใจโดคิโดคิ เห็นบอร์ดท่านเรกะดูไหลยาวๆ กูว่ามันต้องเด็ดแน่ พอกูอ่านเท่านั้นแหละ เด็ดจริงแต่!! อะไรคือความโดคิโดคิ นี่มันcomedy&food เรือแต่ละลำก็เป๋ไปเป๋มาไม่เห็นวี่แววเข้าเส้นชัยจนกูจะหลงย้ายเรือไปหลายรอบ แต่สุดท้ายกูก็มาลำท่านเอ็นโจเหมือนเดิมละ(หลังจากกับปิตันยูคิโนะมารับช่วงคุมเรือ) แต่กูก็แอบเอ็นดูพ่อคนซื่อคาบุนะ มีงานอดิเรกใกล้เคียงท่านเรกะมากกว่า แต่ท่านเอ็นโจรู้ใจสุด(กรุณาอย่าอ่านใจท่านเรกะสิคะ ท่านอุตส่าห์สร้างภาพ) ยังไงกูก็เป็นกำลังใจให้เพื่อนโม่งแปลต่อไปนะ กูรอโดคิโดคิอยู่ กูรอท่านพี่มาเยียวยาหัวใจกูด้วย ٩(♡ε♡ )۶
เนื่องจากโม่งแปลติดธุระหลายวัน โม่งซุยรันเลือกโมเม้นต์ที่ต้องการมาตอนใดก็ได้ กูจะลองแต่งฟิคดูหรือใครอยากอ่านเรื่องราวของตรอกอูอีต่อก็แจ้งมาได้นะ
กูโม่งที่ทำสารบัญนะ ช่วงนี้กูไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ แถมถูกส่งไปทำงานในที่ที่ไม่ค่อยมีสัญญาณเน็ตอีก 4g มือถือกูก็จำกัดจำเขี่ยเหลือเกิน ถ้าใครอยากทำก็ทำไปได้เลยนะ ทั้งสารบัญเนื้อเรื่อง ตัวละคร หรืออาหาร สารบัญเป็นของทุกคน แก้ไขกันได้ตามใจชอบเลย
กูว่ากูพอเข้าใจละว่าเด็กที่หล่อจนสาวกรี๊ดตั้งแต่เด็กๆเป็นยังไง
https://twitter.com/ea_eran/status/925322901351309312
กูเห็นอายุแล้วกูรู้สึกหน้ามืด 13กับ12 เด็ก13จำเป็นต้องหล่อขนาดนี้มั้ยยย
ทำไมตอนกูเด็กๆไม่มีแบบนี้มั้งวะ ไม่ต้องถึงขนาดเป็นเพื่อนร่วมห้องแค่รร.เดียวกันก็ยังดี นี่ไม่มีเลย 555
กูชอบคนพี่ <3
ส่วนกูเพิ่งรู้ว่ากูรักเด็ก<3
คนไหนคือคนพี่คนไหนคือคนน้องวะ.. แต่กูชอบคนที่ดูนิ่งๆสวยๆอะ คนที่ดูปากบางกว่า
*ขอแก้ไขตำแหน่งจากตอนที่แล้วให้คาบุรากิ มาซายะ เป็นไท่จื่อ(รัชทายาท)แทนจักรพรรดิ ไทเฮา(ท่านแม่คาบุรากิ) เป็นฮองเฮา ลดลำดับรุ่นลงคนละหนึ่งรุ่น
จะไม่ค่อยใช้คำราชาศัพท์นะ
ปัง
เสียงพัดตบไปยังโต๊ะซวนจือมู่ดังสะท้านขึ้นคราวหนึ่ง เรียกสายตาบุรุษผู้นั่งรออยู่ก่อนบนชั้นสามของเหลากรงไม้สานริมแม่น้ำไหวชิง ไม้ซวนจือมู่เป็นไม้ราคาสูงมักถูกใช้ทำเครื่องเรือนเพื่อแสดงออกถึงฐานะทำให้ผู้คนมีหน้ามีตา
เหลากรงไม้สานริมแม่น้ำไหวชิงเป็นเหลามีชื่อ ชั้นสามเป็นเขตหวงห้ามเฉพาะเจ้าของร้านผู้ลึกลับกับแขกสูงส่งเท่านั้นจึงสามารถขึ้นมาได้แม้มีคนยิมยอมจ่ายพันตำลึงทองผู้ดูแลยังสามารถปฏิเสธโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า เมื่อกระทั่งโต๊ะของเหลายังทำจากไม้ซวนจือมู่แล้วย่อมแสดงให้เห็นว่าเหลาแห่งนี้มีหน้ามีตาเพียงใดเพียงใด
"จี้ลี่ฮวา(ชื่อเจ้าแม่) เจ้าคิดกบฎหรือ" มู่หย่าไจ(คาบุรากิ) เลิกคิ้วถาม
บุรุษสูงส่งที่นั่งรออยู่ย่อมเป็นไท่จื่อของจักรพรรดิองค์ปัจจุบันมู่หย่าไจ(คาบุรากิ)
ผู้ถูกเรียกกลับคิ้วกระตุกขึ้นมาก่อนจะยกพัดกระซิบวิญญาณขึ้นแล้วชี้ไปยังหน้าไท่จื่อโดยไม่ยี่หระพร้อมทั้งกล่าว
"ไท่จื่อเจ้าคะ หรือท่านลืมไปแล้วว่าข้าเป็นสตรี"
มู่หย่าไจ(คาบุรากิ)มองไปยังจี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่)ครู่หนึ่งค่อยกล่าว
"ไม่ต้องห่วง เจ้ายังคงดูเหมือนสตรีทุกประการ"
ปัง
เสียงพัดกระซิบวิญญาณสะท้านเหลากรงไม้สานอีกครั้ง พร้อมกับน้ำเสียงปนโมโหจากคุณหนูจี้ "ท่านทราบดีแล้วไยต้องนัดพบข้าที่เหลาสุรา หากมีผู้ใดพบเห็นแล้วไปเล่าลือกันว่าคุณหนูบ้านสกุลจี้แอบพบปะบุรุษที่เหลาสุรา ข้าจักเอาหน้าไว้ที่ไหนได้อีก"
ระบายโทสะเสร็จสิ้น จี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่)ค่อยนั่งลงอีกฟากของโต๊ะ จากนั้นมู่หย่าไจ(คาบุรากิ) ค่อยมองไปยังบุรุษอีกผู้หนึ่งที่ยืนพิงกำแพงข้างหน้าต่างก่อนจะตอบกลับมา
"เฉิงซิ่วเจี้ย(เอ็นโจ) สั่งปิดร้านแล้วไม่ใช่หรือไร ไม่มีใครเห็นเจ้าเข้ามาหรอก"
เฉิงซิ่วเจี้ย(เอ็นโจ) ย่อมเป็นบุตรชายผู้สืบทอดของสกุลเฉิง บิดาเป็นอัครเสนาบดีของประเทศตัวเขาเองก็เป็นเพื่อนเล่นกับไท่จื่อมู่หย่าไจมาตั้งแต่เด็ก เจ้าของเหลากรงไม้สานกลับเป็นคนผู้นี้เอง
จี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่)ยังคงมีสีหน้าเคร่งเครียด เห็นดังนั้นมู่หย่าไจ(คาบุรากิ) ค่อยเอ่ยด้วยน้ำเสียงปนรำคาญ
"ร้านของซิ่วเจี๋ย(เอ็นโจ) ต้องปิดชั่วคราวเพื่อให้เจ้ามาต้องสูญเสียรายได้ไปเท่าไหร่แล้ว"
"ยังไม่ใช่เพราะท่านหรอกหรือเจ้าคะ ถึงจะเป็นไท่จื่อแต่ท่านอย่าสร้างความลำบากใจผู้อื่นให้มากนัก คราวหน้าก็เชิญข้าเข้าวังยังจะสะดวกเสียกว่า"
"ไม่ได้หรอก ในวังหูตาเยอะแยะเรื่องที่เราจะคุยกับเจ้าให้พวกนั้นรู้ไม่ได้" มู่หย่าไจ(คาบุรากิ)กล่าว
จี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่)หันไปยังเฉิงซิ่วเจี๋ย(เอ็นโจ) ก่อนจะถามความคิดเห็น
"คุณชายเฉิงหากลำบากใจก็ควรบอกล่าวให้ไท่จื่อทราบนะเจ้าคะ ท่านไม่พูดเช่นนี้ไท่จื่อจะคอยรบกวนอยู่เรื่อย"
ยามนั้นเฉิงซิ่วเจี๋ย(เอ็นโจ) ที่กำลังชมแม่น้ำไหวชิงอยู่หันกลับมาก่อนจะยิ้มแล้วกล่าว "คุณหนูจี้ให้เกียรติมาทั้งที ให้ปิดร้านรวงทั้งหมดบนถนนแห่งนี้ข้าก็ยินดี"
ที่แท้ไม่เฉพาะเหลากรงไม้สานเท่านั้น แต่เฉิงซิ่วเจี๋ย(เอ็นโจ)ยังเป็นเจ้าของโดยไม่ออกหน้าของร้านรวงบริเวณใกล้เคียงบนถนนริมแม่น้ำไหวชิงแทบทั้งหมด
คุณหนูจี้ทำหน้ายู่ก่อนจะคิดในใจว่าเพียงปิดเหลากรงไม้สานก็ดึงความสนใจผู้คนพอแล้ว หากปิดทั้งถนนมิใช่จะเรียกความสงสัยต่อสายตาคนทั้งเมืองแทนหรอกหรือ
"เอาเถอะเจ้าค่ะ ว่าแต่ไท่จื่อท่านมีธุระอะไร" ทำใจได้แล้วคุณหนูจี้ค่อยยกถ้วยชาขึ้นก่อนกลิ่นชาชั้นเลิศจะแตะจมูกสร้างความพึงพอใจให้ก่อนจะจิบเข้าไปคำหนึ่ง
"เมื่อวานเราไปหาเการั่วเย่(วาคาบะ)มา"
เสียงตึงดังขึ้นคราวหนึ่ง เป็นถ้วยชาในมือคุณหนูจี้กระแทกโต๊ะไม้ซวนจือมู่ดังขึ้นแทนเสียงตบของพัดกระซิบวิญญาณ
จบครึ่งตอน มีเวลาจะมาต่อ
กูโม่งชื่อจีนเองนะ กลับไปอ่านชื่อแล้วตงิดๆ นิดนึง ขอแก้ชื่อยุยโกะจาก 唯衣子 เหวยอีจึ เป็น 唯衣 เหวยอี ไม่ก็ 唯衣儿 เหวยอีเอ๋อร์
ชื่อร.ร.ซุยรัน 瑞鸞 --> 瑞鸾 รุ่ยหลวน
ต่อจาก >>382
จี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่) หงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม
"แล้วจากนั้นก็เลยเรียกนางขึ้นรถม้าด้วยกันสินะเจ้าคะ"
มู่หย่าไจ(คาบุรากิ) เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจก่อนจะถามขึ้นมา
"ไยเจ้าถึงได้..." จากนั้นมู่หย่าไจ(คาบุรากิ) ทำท่าคิดอันใดได้ก่อนจะเปลี่ยนสายตาเป็นหวาดหวั่นพลางทำท่ากอดตัวเองไว้หลวมๆ แล้วพูดต่อ "หรือว่าเจ้าติดตามเรามาตลอด เช่นนี้ไม่ดีกระมัง อย่าให้เราไปร้องทุกข์กับเจ้าเมืองเลย"
คิ้วคุณหนูจี้กระตุกระรัว ก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงอันดัง
"ไท่จื่อ! ที่นั่นคือตรอกอูอีนะเจ้าคะ ตรอกอูอีเป็นสถานที่อันใดหรือท่านไม่ทราบ บ้านขุนนางคุณูปการแรกตั้งประเทศผู้ใดไม่ตั้งอยู่ถนนแห่งนั้น เรือนรับรองผู้ทรงเกียรติสูงศักดิ์จากต่างแคว้นยังมีไม่น้อย ขุนนางใหญ่ในเมืองหลวงกว่าครึ่งแทบจะไปรวมตัวที่ตรอกแห่งนั้นทั้งหมด ไท่จื่อท่านไปปรากฏตัวที่นั่นมีผู้ใดไม่ทราบ"
"อ่อ นั่นก็จริง แต่เราคิดว่าเการั่วเย่(วาคาบะ) ไม่ทราบว่าเราเป็นไท่จื่อกระมัง"
"ปัญหาไม่ใช่เรื่องนั้นนะเจ้าคะ ท่านเรียกสตรีสามัญชนผู้หนึ่งนั่งรถม้าด้วยกัน ผู้อื่นจะมองเช่นไร"
มู่หย่าไจ(คาบุรากิ) เมินเฉยต่อคำตักเตือนทั้งสีหน้ายังแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังก่อนจะตอบกลับ
"รถม้าเราชนรถเข็นของนางเสียหาย นางบาดเจ็บสาเหตุล้วนเป็นเราทั้งสิ้น วันนั้นอากาศหนาวเย็นข้างนอกนั่นหิมะตกลงมาเล็กน้อยหากปล่อยคนเจ็บเช่นนางไว้หากนางฝืนร่างกายเข็นรถกลับแล้วล้มป่วยขึ้นมาจะทำเช่นไร หากว่าเราไม่ชนรถเข็นนางยังพอทำเนา แต่นางบาดเจ็บเป็นเพราะเรา เราย่อมปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ไม่ได้"
มู่หย่าไจ(คาบุรากิ)กล่าวเหตุผลยืดยาวจบแล้วค่อยจิบชาให้ชุ่มชื่นรอบหนึ่งแล้วสำทับ
"เราไม่สนใจว่าผู้อื่นจะมองเช่นไร เรากระทำการไม่ละอายต่อฟ้าดินก็เพียงพอแล้ว อ่อ รถเข็นนั้นเราให้คนเข็นไปส่งที่บ้านนางแล้วเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง"
จี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่) ใช้สายตาจ้องมองคล้ายมองต่อคนกระทำความผิดผู้หนึ่งจนมู่หย่าไจ(คาบุรากิ) เริ่มออกอาการลุกลี้ลุกลนก่อนจะกล่าว
"ที่แท้ไท่จื่อต้องการสืบทราบที่อยู่ของนางแล้วกระมัง"
มู่หย่าไจ(คาบุรากิ) พอได้ฟังเช่นนั้นแล้วสายตาแน่วแน่ที่จ้องตอบเมื่อครู่พลันเลื่อนไปยังแม่น้ำไหวชิงโดยไม่ตอบอะไร
"ไท่จื่อเจ้าคะท่านลองตรองดู หากว่าสตรีผู้หนึ่งจู่ๆ ถูกบุรุษบีบบังคับให้ขึ้นรถม้าต่อสายตาผู้คนที่ผ่านไปมา จากนั้นบุรุษผู้นั้นยังติดตามนางจนกระทั่งสืบทราบที่อยู่ของนาง หากว่าต่อจากนั้นแล้วบุรุษผู้นั้นพัวพันไม่เลิกรา เหตุการณ์เช่นนี้สมควรทำเช่นไร"
มู่หย่าไจแม้สายตายังมองอยู่แม่น้ำไหวชิงแต่ลำคอกับใบหูขยับเล็กน้อย จี้ลี่ฮวาจึงสำทับต่อ
"หากเป็นข้า ข้าคงต้องไปลั่นกลองร้องทุกข์ต่อเจ้าเมืองเป็นแน่"
จบตอนแรก
ขอบคุณสำหรับคำชม ความสามารถเพียงเล็กน้อยไม่กล้าอวดอ้าง
>>388 ฟิคเรท 13- ก็อ่านได้ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีต่อเยาวชนเรื่องนี้จะไม่เขียนถึงหอนางโลม
>>389 >>395 ขอบคุณมาก หากถึงบทแล้วจะใช้ชื่อใหม่นะ // บางทีถ้าจะเขียนถึงตัวละครอื่นที่ยังไม่มีชื่อจีนจะมาถามนะ!
>>396 ตอนแรกว่าจะใช้ตรอกอูอีเป็นพื้นหลัง แต่เมื่อสถานศึกษารุ่ยหลวนปรากฏ อนาคตก็จะปรับเนื้อเรื่องอีกที แต่ไว้มีแรงบันดาลใจก่อนนะ!
ขอบคุณสำหรับกลิ่นที่คุ้นเคยจักคอยเฝ้ารอการมาอีกคราของฟิคตอนต่อไป
ถ้าไปร้องทุกข์ต่อเจ้าเมืองจริง จะกล้าประกาศไหมว่า"ไท่จื่อกระทำผิด โทษเท่าสามัญชน"
แต่ยังไงก็มีป้ายทองอภัยโทษฯลฯให้ใช้ได้อีกยู่ดี
>>403 ได้
สถานศึกษารุ่ยหลวน
ยามอรุณท้องนภาเป็นสีเทา ลมหนาวหอบเอาเกล็ดน้ำแข็งปกคลุมเหนือเมืองหลวงจนกลายเป็นสีขาวแต่บุรุษสตรีเจริญวัยในเมืองหลวงที่มีฐานะหรือคาดหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีหน้ามีตากลับมีหน้าที่ต้องเข้าไปยังสถานศึกษาเนื่องเพราะจักรพรรดิองค์ปัจจุบันให้ความสำคัญกับการศึกษายิ่ง กล่าวกันว่าห้องหนังสือของพระองค์มีหนังสือหายากทั่วทั้งแผ่นดินวางอยู่ภายใน
สถานศึกษารุ่ยหลวนเป็นสถานศึกษาที่ชื่อเสียงโด่งดังขึ้นชื่อเนื่องจากองค์จักรพรรดิในอดีตเคยผ่านการศึกษาในที่แห่งนี้ ปัจจุบันพระองค์ยังเป็นผู้ให้การสนับสนุนอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้บรรดาตระกูลใหญ่รวมไปถึงขุนนางตำแหน่งสูงยังเคยร่ำเรียนที่สถานศึกษารุ่ยหลวนแห่งนี้
สถานศึกษารุ่ยหลวนที่โด่งดังนั้นไม่ใช่การบ่มเพาะปัญญาชนออกมา แต่เป็นเพราะเส้นสายเบื้องหลังของบุคคลที่เข้าร่วมยิ่งใหญ่จนมีผู้กล่าวว่า หากต้องการเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานให้เลือกมายังสถานศึกษารุ่ยหลวน
แน่นอนว่าเมื่อผู้ให้การสนับสนุนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ผู้เข้าเล่าเรียนจึงไม่ต่ำทราม อันที่จริงแล้วเพราะลูกหลานล้างผลาญของตระกูลใหญ่ทั้งหลายที่ถูกตามใจตั้งแต่เด็กแห่กันเข้ามาเรียนเป็นจำนวนมาก ทั้งค่าเล่าเรียนที่ใช้คัดกรองชนชั้นที่เข้าร่วมยังสูงจนน่าตระหนก เช่นนั้นไหนเลยคาดหวังว่าจะเกินปัญญาชนอันใดออกมาได้
แต่สถานศึกษาที่จักรพรรดิหนุนหลังไหนเลยเป็นที่เสื่อมเสียได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ภายหลังสถานศึกษารุ่ยหลานจึงดำเนินแผนการเพื่อดึงเอาบุคคลที่มีความสามารถยอดเยี่ยมแท้จริงเข้ามาเพื่อให้เป็นที่เชิดหน้าชูตายามเมื่อคนเหล่านั้นจบออกไป แผนการดังกล่าวย่อมเป็นการยกเอาข้อดีที่ผู้เล่าเรียนเมื่อจบออกไปจะมีเส้นสายเป็นลูกหลานตระกูลใหญ่ผนวกกับการยกเว้นค่าเล่าเรียนอันสูงลิ่ว เปิดโอกาสให้ผู้มีความสามารถได้เข้าร่วม
อย่างไรก็ตามแผนการเช่นว่านี้ยากกล่าวออกจากปาก ดังนั้นผู้เข้าศึกษากลับแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็นการภายใน มีทั้งคุณหนูคุณชายที่ถือดีในชาติตระกูลดูแคลนสามัญชนที่ตามเข้ามาภายหลังเกิดเป็นรอยร้าวยากสมานฉันท์
ดังนั้นวันที่หิมะตกเช่นนี้หน้าปากทางเข้าสถานศึกษาจึงมีทั้งรถม้าที่ทางบ้านของคุณหนูุคุณชายทั้งหลายขับมาส่งเป็นจำนวนมาก แต่ฐานะของสถานศึกษารุ่ยหลวนยิ่งใหญ่ปานใด ปัญหาเรื่องสถานที่แวะส่งผู้คนอันเป็นอนาคตของแว่นแคว้นนี้ถูกแก้ไขด้วยเนื้อที่ขนาดใหญ่อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามยังคงมีผู้เล่าเรียนที่ไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่หรือทางบ้านไม่ได้มั่งมีเงินทองใช้สองเท้าฝ่าลมหนาวมายังสถานศึกษานี้อยู่บ้าง
คนเช่นว่านั้นคือเการั่วเย่(วาคาบะ)
ต่อจาก >>404
เการั่วเย่(วาคาบะ)ใช้รองเท้าสานจากเชือกฟางสวมใส่สองชั้นเพื่อหุ้มฝ่าเท้ามิให้หนาวเย็นจนเกินไป ตระกูลนางกล่าวไปแม้ไม่ถึงกับยากไร้แต่หากนำไปเทียบฐานะกับผู้อื่นในสถานศึกษารุ่ยหลวนยังห่างไกลอยู่มาก
รถม้าหลากหลายสีสันแล่นผ่านเการั่วเย่(วาคาบะ)ตรงไปยังอาคารภายในสถานศึกษา บ้างมีคุณหนูคุณชายนึกสนุกเปิดหน้าต่างฝ่าลมหนาวภายนอกเพื่อตั้งใจยิ้มเยาะให้นางโดยเฉพาะ แต่เการั่วเย่(วาคาบะ)หาได้สนใจไม่ นางยังคงตั้งหน้าตั้งตาเดินไปยังสถานศึกษาต่อไป
อย่างไรก็ตาม รถที่เทียมด้วยม้าพ่วงพีสีขาวถึงสี่ตัวกลับหยุดลงที่หน้าของนางตรงปากทางเข้าสถานศึกษาพอดี ตราประจำราชวงศ์ประทับอยู่แสดงออกถึงฐานะผู้อยู่ด้านใน ทันใดนั้นบุตรหลานล้างผลาญจำนวนมากที่อยู่ใกล้ต่างหันมามองเป็นทางเดียวกัน
เป็นบุรุษหล่อเหลารัศมีเรืองรองของผู้มีอำนาจ เปิดประตูเดินลงจากรถม้าอย่างสง่างาม
คนผู้นั้นย่อมเป็นไท่จื่อมู่หย่าไจ(คาบุรากิ)
บุรุษยังพอทำเนาแต่สตรีที่อยู่โดยรอบกลับส่งสายตาริษยาระคนเคียดขึงส่งไปยังสามัญชนนามเการั่วเย่(วาคาบะ) จนอากาศในฤดูเหมันต์เปลี่ยนเป็นอบอ้าวขึ้นบ้างแล้ว
ยามนั้นเห็นไท่จื่อ(คาบุรากิ)ถอดชุดคลุมเชือกฟางของเการั่วเย่(วาคาบะ)ออก ก่อนจะปลดเสื้อคลุมหนังเตียวที่ล้ำค่าของตัวคลุมตัวนางแทน
แม้ว่าเการั่วเย่(วาคาบะ)จะมีทีท่าตกอกตกใจแต่ไท่จื่อไม่ต้องการให้นางปฏิเสธ แม้เหลือระยะทางอีกเล็กน้อยยังคงชักชวนให้นางโดยสารรถม้าประจำตัวไท่จื่อตรงเข้าสู่สถานศึกษารุ่ยหลวนต่อไป
"นังจิ้กจอก!"
เสียงเคียดขึงไม่ธรรมดาถูกส่งออกมาจากกลุ่มสตรีกลุ่มใหญ่ที่มองเหตุการณ์อยู่ไม่ไกล ผู้กล่าวอย่างเจ็บแค้นกลับเป็นเฟิงฉินเซียง(เซริกะ)ที่มีทีท่าเหลืออด
"ยอมไม่ได้แล้วนะเจ้าคะ! ท่านหญิงจี้" คนถัดมาเป็นชุนจวี๋ไหน่(คิคุโนะ)ที่อดทนไม่ได้
ท่านหญิงจี้ที่ถูกพูดถึงย่อมเป็นจี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่) ตัวตนอันอยู่จุดสูงสุดของสตรีแห่งสถานศึกษารุ่ยหลวนในยามนี้ถัดจากยุคของท่านหญิงเหลียงโยวหลี่(ยูริเอะ)และท่านหญิงสุ่ยอ้ายหลัว(ไอระ)
จี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่)เพียงปรายตามองไปทิศทางนั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า
"ไปกันเถอะค่ะ อย่าได้ให้อาจารย์ท่านรอนาน"
"ตะ แต่ว่า" เฟิงฉินเซียง(เซริกะ)พยายามดึงดันเล็กน้อยแต่พอเหลือบมองไปเห็นแววตาเยียบเย็นจากจี่ลี่ฮวา(เจ้าแม่)ที่ปรากฏออกมาไม่บ่อยครั้ง คำพูดทั้งหลายกลับกลืนลงท้องไปก่อนจะเดินตามจี่ลี่ฮวาไปแต่โดยดี
จบตอนสอง สถานศึกษารุ่ยหลวน
>>416 คุณหนูจี้ได้รับฟังพลันชะงัก ขนมเปี๊ยะที่นางลิ้มรสใช้น้ำค้างกุหลาบที่เก็บก่อนตะวันฉายเป็นส่วนผสม แป้งก็เป็นแป้งข้าวเจ้าใหม่บดอย่างละเอียด รสชาตินับว่าเลิศเลอยิ่งนัก หากเมื่อคำนึงว่าทั้งหมดนี้ผ่านการปรุงจากคุณชายเฉินแล้ว นางก็ให้แค้นยิ่งนัก คราก่อนนางฝึกปรือฝีมือทำขนม บิดาและท่านพี่นางกลับรับทานด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนยิ่ง นางไม่สบอารมณ์ยิ่ง!
>>417 'ขนมเปี๊ยะของข้าคงไม่ถูกปากท่านกระมัง..' เฉิงซิ่วเจี๋ยพลันมีสีหน้าเศร้าหมอง
'ไม่ใช่อย่างนั้นนะเจ้าคะ' สิ้นคำพูด จากใบหน้าโศกเศร้าก็เปี่ยมไปด้วยความยินดี
'ถ้าอย่างนั้นท่านก็ชอบขนมฝีมือข้า?'
'...' น่าแค้นใจยิ่งนัก! ไหนเลยจะรู้ว่าคุณชายแห่งตระกูลเฉิงจะอุตส่าห์ลงมือทำขนมด้วยตัวเอง หาไม่แล้วนางคงไม่แม้แต่จะรับประทาน
'แค่พูดว่าชอบออกมาจะยากอะไรกัน' องค์รัชทายาทพูดขึ้นมาอย่างเหนื่อยหน่าย
'ชอบ! ชอบอะไรกันเจ้าคะ ข้าหาได้ชอบคุณชายเฉิงไม่' จี้ลี่ฮวาพูดอย่างลุกลี้ลุกลน
'ข้าหมายถึงชอบขนม..' มู่หย่าไจ่มองอากัปกิริยาของจี้ลี่ฮวาอย่างงุนงง 'ข้าเห็นเจ้าบอก 'แค่คำเดียวนะเจ้าคะ' แต่ก็หยิบเอาๆ'
เพียงพริบตาเดียวกระแสเวลาก็ไหลผ่านจนกลายเป็นยามเย็นแล้ว
สถานศึกษาส่วนใหญ่ให้ความสำคัญคุณธรรมจริยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีทั้งหลายยิ่งต้องเข้าฝึกอบรบเกี่ยวกับการเย็บปักถักร้อยเพื่อแสดงออกถึงความขยันขันแข็งเอาใจใส่อันจะเป็นการประเมินความดีของสตรีผู้นั้น ตำหนักศึกษาซือซิ่วจึงเปิดให้ผู้คนเข้าออกอยู่ตลอดเวลา
"ท่านหญิงจี้พอแล้วหรือเจ้าคะ" สตรีผู้มีอายุไล่เลี่ยกับจี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่)เอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ภายในตำหนักศึกษาซือซิ่วยังแบ่งออกเป็นหลายเรือนแต่ท่านหญิงจี้กลับเลือกเรือนที่อยู่ห่างไกลผู้คนที่สุด ในเรือนแห่งนี้ส่วนใหญ่ประกอบด้วสตรีอ่อนแอเกรงกลัวการมีเรื่องราวและรักการปักผ้าอย่างแท้จริงรวมตัวกันอยู่ ดังนั้นเมื่อครั้นท่านหญิงจี้เปิดประตูเรือนออกมาสตรีภายในได้แต่ตกตะลึงกระทั่งหวาดกลัวไปเลยก็มี
อย่างไรก็ตามท่านหญิงจี้กลับไม่ก่อเรื่องวุ่นวายอันใด นางเพียงแต่นั่งลงปักผ้าอย่างเงียบงัน แรกเริ่มบรรยากาศในห้องยังกระอักกระอ่วนอยู่บ้างแต่นานไปยังปราศจากเค้าความวุ่นวายผู้อื่นค่อยกล้าเปิดปากสนทนากับท่านหญิงจี้
"มีนัดหมายที่เรือนโบตั๋นน่ะ" ท่านหญิงจี้(เจ้าแม่)ยิ้มตอบ "คงต้องขอตัวก่อน"
คล้อยหลังท่านหญิงจี้กลับออกไปแล้วสตรีทั้งหลายในเรือนเร้นลับแห่งนี้ค่อยกลับมาจับกลุ่มสนทนากันถึงเรือนโบตั๋น
ในบรรดาคุณหนูคุณชายที่เข้ามายังสถานศึกษาทั้งหลายที่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียนสูงลิ่วนั้น ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ถือว่าเป็นบุตรหลานคนสำคัญของกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อแว่นแคว้นขนาดชี้เป็นชี้ตายได้
เรือนดอกโบตั๋นย่อมเป็นเรือนรับรองสำหรับลูกหลานคนสำคัญของกลุ่มเช่นว่านั้นทั้งยังต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนเบื้องหลังสถานศึกษา กล่าวได้ว่ากลุ่มดอกโบตั๋นนี้เป็นจุดสูงสุดของผู้เข้ามาเล่าเรียนในสถานศึกษารุ่ยหลวนนี้เอง
สตรีทั้งหลายต่างกล่าวถึงด้วยความอิจฉาเลื่อมใส ฟังว่าครั้งหนึ่งในเรือนดอกโบตั๋นเพราะท่านหญิงจี้ต้องการ ไท่จื่อมู่หย่าไจ(คาบุรากิ)จึงได้บรรเลงเพลงพิณที่มีน้อยครั้งจะแตะต้อง ผู้คนในเหตุการณ์กล่าวขานว่าเป็นบทเพลงที่งดงามราวกับบทเพลงที่เล่นอยู่บนสรวงสวรรค์ นับเป็นวาสนาที่ชั่วชีวิตไม่แน่ว่าจะได้ยินอีก
ฟังว่าก่อนหน้านั้นคุณชายใหญ่สกุลเฉิง(เอ็นโจ)ของจวนอัครเสนาบดียังเคยนำขนมจากต่างแคว้นเมื่อยามออกท่องเที่ยวร่วมกับไท่จื่อมาฝากตั้งแต่วันแรกที่มาถึง
เรือนดอกโบตั๋นเป็นสถานที่ราวกับเทพนิยายที่ก่อเกิดตำนานให้สตรีแรกรุ่นวาดฝันเช่นนั้น
ขณะเดียวกันจี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่)ที่เดินชดช้อยจวบกระทั่งเข้าสู่เรือนดอกโบตั๋นจากนั้นเป็นใบหน้าหล่อเหลาของไท่จื่อมู่หย่าไจ(คาบุรากิ)กับคุณชายใหญ่จวนอัครเสนาบดีเฉิงซิ่วเจี้ย(เอ็นโจ)ประจำอยู่ที่โต๊ะในมุมอันเป็นส่วนตัว
จี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่)เลือกเก้าอี้มุมข้างหน้าต่างอันเป็นที่ประจำของตนบ้างจากนั้นหยิบเอาฝูลู่โซ่วสี่ปิ่งอันเป็นขนมที่ถูกจัดทำขึ้นมาอย่างปราณีตที่คนรับใช้ประจำเรือนดอกโบตั๋นจัดวางไว้รับรองยามคุณหนูคุณชายทั้งหลายสนทนาจากนั้นชาลัวเจียอันเป็นชาบรรณาธิการที่รองเพียงชาหูเชียกับชาเทียนชิที่มีเพียงยามจักรพรรดิสนทนากับแขกบ้านเมืองจึงนำออกมารับรองเท่านั้น ยามนี้กลับถูกวางลงต่อหน้าของท่านหญิงจี้แล้ว
นับหญิงจี้กัดฝูลู่โซ่วสี่ปิ่งคำหนึ่งจากนั้นจิบชาอีกอึกโดยไม่สนใจทักทายบุรุษทั้งสอง เป็นมู่หย่าไจ(คาบุรากิ)เอ่ยขึ้นมาก่อน
"เสด็จแม่บอกให้เจ้าเข้าร่วมงานเลี้ยงในวัง"
แค่ก...วันนี้ของปีหน้าเกือบเป็นวันครบรอบวันสิ้นชื่อของคุณหนูจี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่)เสียแล้ว คุณหนูจี้หันขวับกลับไปมองไท่จื่อก่อนจะบอก
"เหตุใดไท่จื่อท่านไม่ปฏิเสธให้ัเสียหน่อยเจ้าคะ"
มู่หย่าไจ(คาบุรากิ)ทราบดีอยู่แล้วว่าจี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่)ไม่ชอบงานพบปะผู้คนเช่นเดียวกับตน แต่เมื่อตนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เหตุใดยังต้องช่วยส่งเสริมผู้อื่น
คนโบราณเคยกล่าวไว้มีเพื่อนร่วมทุกข์ทุกข์จึงเบาบาง มู่หย่าไจ(คาบุรากิ)เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้
"เจ้าปฏิเสธมารดาเจ้าได้หรือ" มู่หย่าไจเลิกคิ้วถามกลับจากนั้นกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะก้มหน้ากระซิบ
"เหลากรงไม้สาน มีเรื่องจะคุยด้วย"
"ขอปฏิเสธเจ้าค่ะ"
พักก่อน มื้อดึกย่อยแล้ว ถถถ
มีคำว่าสภาแบบคันจิมะ เดียวถอดเสียงให้
ต่อไปจะมีคุณหนูจี้ vs น้องเหมาเหมามั้ยวะ กูแอบอยากเห็นน้องเหมามาเป็นนางกำนัลประจำตัวคุณหนูจี้คอยชิมทดสอบพิษอาหารนางจังว่ะ คงกินจนอ้วนทั้งนายบ่าว
เจ้าแม่อาจถูกเหมาเหมามองอย่างเหยียดหยาม
ที่นี่ที่ไหนกันนะ
เสียงนกขับขานยามเช้าทำให้เหมาเหมาตื่นจากนิทราอันยาวนาน ก่อนจะรู้ตัวอีกทีว่าห้องที่นางอยู่กลายเป็นห้องที่ไม่คุ้นเคย
แรกเริ่มเหมาเหมาคิดถึงใบหน้าหล่อเหลาของคนผู้หนึ่งว่าใช่คนผู้นั้นหรือไม่ที่ลักพาตัวนางมาไว้ในสถานที่ไม่คุ้นเคยเช่นนี้ แต่ตรองดูแล้วกลับไม่พบเหตุผลอันใด หากอีกฝ่ายจงใจสร้างความลำบากแก่นางสมควรกระทำต่อหน้าเสียมากกว่า
แม้ว่าจะไม่ตัดความเป็นไปได้ในทันทีแต่เหมาเหมายังคงลุกขึ้นมาสำรวจโดยรอบ แต่พอเปิดประตูเพื่อมองทิศทัศน์ภายนอกค่อยรู้สึกว่าเรื่องราวไม่เข้าทีนัก
"เหมาเหมา"
เสียงสตรีที่ไม่เคยผู้หนึ่งดังขึ้นมาจากด้านข้าง เหมเหมาหันหน้าไปยังอีกฝ่ายแล้วจะเรียกเอาความทรงจำส่วนลึกเพื่อค้นดูว่าคนผู้นี้เป็นใครกันแน่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจจดจำได้
"เหมาเหมา อย่าลืมนะว่าวันนีในวังมีงานเลี้ยง เจ้าเตรียมตัวไว้ยกอาหารไว้ด้วย"
"อะ เอ๋" เหมาเหมายังคงงุนงงกับเรื่องราวข้างหน้า ก่อนจะถามออกไป "ทำไมเป็นข้า"
"ใบหน้าเจ้าไม่เลวนี่ ไม่ใช่เจ้าจึงแปลก" สตรีผู้นันหัวเราะคิกก่อนจะทำท่าแอบกระซิบที่ข้างหูของเหมาเหมา "อันที่จริงเพราะว่าส่วนบนของเจ้ามีไม่มากด้วย ผู้จัดงานเห็นว่าใบหน้าเจ้ามองดูแล้วสบายตาแต่ว่าร่างกายยังไม่เติบโตเต็มสาวยากที่จะโดดเด่นเกินหน้าเกินตาท่านหญิงทั้งหลายที่เข้าร่วม"
หลังอธิบายเหตุผลเสร็จสตรีผู้นั้นทำท่าจะจากไป เหมาเหมาค่อยกล่าวขึ้นมาว่า "พี่สาวท่านเห็นท่านจินชิหรือไม่"
สตรีผู้นั้นกลับมีใบหน้างุนงงโดยไม่เสแสร้งก่อนจะตอบกลับ "ท่านจินชิ? ผู้ใดกันหรือ"
ตอนส่วนที่ 1/3 โดยประมาณ ตอนพิเศษ เหมาเหมากับท่านหญิงแห่งรุ่ยหลวน
เหมาเหมาไม่ได้ทำยาแก้พิษแต่ทำยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ
บางทีนางอาจจะกำลังฝันอยู่
เหมาเหมาทบทวนความทรงจำครั้งแล้วครั้งเล่าว่าก่อนที่ตัวเองจะหลับไปได้ลองใช้สมุนไพรตัวใดที่มีผลให้หลับลึกหรือไม่ หรือว่าอาหารเครื่องดื่มมื้อไหนมีปัญหา หรือจะเป็นตอนที่ทดสอบพิษแทนพระสนมเกียคุโยเจอปัญหาอันใด
ไม่แน่ว่ายามนี้แท้จริงนางอาจจะตายไปแล้วครั้งหนึ่งก็ได้
เหมาเหมาพบว่าพระราชวังยามนี้แตกต่างจากเดิมไปมาก ไม่มีผู้ใดรู้จักท่านจินชิ ไม่มีผู้ใดรู้จักพระสนมเกียคุโย จิตใจเบื้องลึกกลายเป็นเบาโหวง
แต่อย่างไรชีวิตก่อนหน้าไม่ถือว่าดีเท่าไหร่ ชีวิตยามนี้ก็ไม่ได้ต่างกันมาก ออกจะดีกว่าด้วยซ้ำติดก็แต่นางไม่ได้มีโอกาสกลับไปทดลองสมุนไพรอย่างที่ชื่นชอบ
งานเลี้ยงเริ่มช่วงใกล้ยามเย็น เหมาเหมาถูกนำมาไว้ที่ใกล้โรงครัวเป็นการชั่วคราวก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มพอมีเวลา นางกำนัลหลายคนจึงเดินเล่นอยู่รอบๆ เหมาเหมาจึงเลียนแบบตาม
ยามนั้นสายตาอันเฉียบคมที่มีต่อสมุนไพรของนางนำทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่งก่อนจะพบว่าเป็นมันขึ้นอยู่ใกล้ต้นไม้ที่ไม่โดดเด่นนัก แต่สภาพโดยลอบเหมาะกับการเจริญเติบโต เหมาเหมาตาลุกวาวขึ้นมาก่อนจะลองเหลือบไปดูอีกทาง
เจออีกแล้ว เจออีกแล้ว
เหมาเหมาเดินตามร่องรอยสมุนไพรอย่างสนุกสนาน เด็ดดมลิ้มรสบ้างเป็นระยะก่อนจะคลอเพลงออกมาไม่รู้ตัว
บทเพลงจบแล้วเหมาเหมาเงยหน้าขึ้นค่อยพบว่ายามนี้อยู่ในสถานที่ที่ไม่รู้จัก
เหมาเหมาย่อมไม่รู้จักเส้นทางในพระราชวังแห่งนี้ พื้นที่กว้างขวางใหญ่โตจึงทำให้หลงทางโดยง่าย หลังสงบจิตใจสักพักกลิ่นหอมบางอย่างลอยแตะจมูก เหมาเหมาค่อยลองสูดดมกลิ่นนั้นเพื่อตามหาเส้นทางกลับ
"พอใช้ได้แล้วกระมัง"
หลังจากเดินมาระยะทางหนึ่งเหมาเหมาค่อยได้ยินเสียงเด็กสาวดังขึ้นมา สองเท้าค่อยเร่งขึ้นอีกนิดก่อนจะพบสตรีที่มีรอยยิ้มสดใสกำลังดูไฟในซึ้งที่ใช้นึ่งซาลาเปาอยู่
"เอ่อ คือว่า" เหมาเหมาบังเกิดความลังเลอันเนื่องมาจากชุดของอีกฝ่ายดูไม่คล้ายนางกำนัลภายในนัก เนื้อผ้าก็ด้อยเกินกว่าจะเป็นชุดของท่านหญิงผู้มาจากสกุลสูงส่ง นอกเสียจากว่าเป็นสามัญชนแล้วไม่น่าเป็นผู้อื่นได้อีก
สตรีตรงหน้าใบหน้างดงามไม่น้อย พอนางหันขวับมากลับกลายเป็นสตรีผู้นั้นทำท่าตกใจก่อนจะชิงกล่าวแทน
"ขะ ข้าไม่ใช่คนน่าสงสัยนะ"
เหมาเหมามึนงงยิ่งกว่าเดิม แต่พอได้ฟังแล้วกลับเริ่มระวังตัวมากขึ้น
"ข้าเป็นแม่ครัวภายนอก พอดีมีคนเรียกให้มาทำของว่างในวังวันนี้ก็เลยมีโอกาสเข้ามา แต่ว่าโรงครัวไม่มีพื้นที่เพียงพอข้าเลยต้องออกมานึ่งซาลาเปาที่นี่น่ะ" สตรีผู้นั้นรีบกล่าว เหมาเหมาค่อยคลายใจขึ้นมาก่อนกล่าวกับอีกฝ่าย
"ท่านสวยเกินกว่าแม่ครัวที่ข้าเคยเห็นไม่น้อย ท่านมีนามว่าอันใดหรือ"
สตรีผู้นั้นทำท่าเกาแก้มด้วยความขัดเขินก่อนจะตอบ "ข้าชื่อเการั่วเย่(วาคาบะ) เจ้าเล่า"
"เหมาเหมา"
ตอนที่ 2/3 ตอนพิเศษ เหมาเหมากับท่านหญิงแห่งรุ่ยหลวน
กี้ดดดด ขอบคุณสำหรับกาวน้า /สูดฟืดฟาด แต่ต้องอาบกาวให้ออสโมซิสเข้าผิวหนังขนาดไหนถึงแต่งให้เข้ากันแบบนี้ได้ ผู้น้อยขอคารวะหนึ่งจอก
"เการั่วเย่(วาคาบะ) หน้าเจ้า" เหมาเหมาสังเกตเห็นเมือครู่ที่เการั่วเย่(วาคาบะ)เกาแก้มคราบเขม่าที่ติดอยู่มือกลายเป็นติดที่ใบหน้าไปด้วย
"หน้าข้าทำไมหรือ" เการั่วเย่(วาคาบะ)พลางใช้ฝ่ามือลูบไปทั่วใบหน้าเพื่อค้นหาความผิดปกตินั่น แต่พอรู้ตัวว่าเกิดรอยสากจากคราบเขม่าควันจนนางถอนมือออกมามองดูค่อยร้องด้วยความตกใจขึ้น
"แย่แล้วสิ แบบนี้ยิ่งดูน่าสงสัยเข้าไปใหญ่" เการั่วเย่(วาคาบะ)อุทานก่อนจะเป็นใบหน้ามึนตึงของเหมาเหมาที่กำลังคิดว่านั่นใช่เรื่องที่ต้องกังวลหรือไร เจ้ายังเป็นสตรีอยู่หรือแต่คิดอีกทีก็คล้ายจะเข้าตัวเอง
"เหมาเหมา เจ้าดูไฟให้ข้าสักครู่ได้หรือไม่ข้าขอตัวไปล้างหน้าก่อน"
"ได้สิ" เหมาเหมาตอบกลับโดยไม่คิดอะไร
คล้อยหลังเการั่วเย่จากไปไม่นาน พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าเหมาเหมาสนทนากับเปลวไฟอยู่ครู่หนึ่งค่อยได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากด้านหลัง
พอหันกลับไปกลับเป็นสตรีที่เพียงมองดูก็รู้ว่าฐานะสูงส่ง เหมาเหมาไม่เคยพบท่านหญิงท่านใดที่มีรัศมีสูงศักดิ์เช่นนี้จากบุตรีขุนนางทั่วไปมาก่อนนอกเสียจากบรรดาท่านหญิงลำดับต้นๆ หรือองค์หญิงเชื้อพระวงศ์
ใบหน้างดงามอย่างสตรีในภาพวาดโบราณปรากฏคล้ายความฝัน เหมาเหมาเหม่อมองจนซึมเซาอยู่ครู่หนึ่งค่อยทราบว่าตัวเสียมารยาทแล้ว
"นี่...ซาลาเปางั้นหรือ" ท่านหญิงผู้นั้นกล่าวขึ้นเป็นคำแรกโดยไม่ตำหนิในความไร้มารยาทของตน เหมาเหมาค่อยรีบร้อนตอบกลับ
"ใช่แล้วเจ้าค่ะ"
"กลิ่นหอมนัก คล้ายกลิ่นที่ข้าเคยพบมาก่อน" ท่านหญิงผู้นั้นพิจารณาซึ้งนึ่งซาลาเปาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมาถามว่า "ข้าลองกินก่อนได้หรือไม่"
เหมาเหมารู้สึกว่าตัวเองไม่อาจปฏิเสธท่านหญิงตรงหน้า จากนั้นค่อยจัดหาถาดรองยกซาลาเปาขึ้นมาให้
กิริยาของท่านหญิงงดงามรัดตึงจนเหมาเหมารู้สึกว่าเวลาผ่านไปเพียงชั่วพริบตาเดียว ซาลาเปาก้อนใหญ่เมื่อครู่ก็หายไปสิ้น เหมาเหมาค่อยตกใจว่าตนกลับเหม่อลอยได้ถึงเพียงนี้หรือ
เห็นท่านหญิงยังมองที่ซึ้งซาลาเปาไม่วางตา ในนั้นยังมีอีกจำนวนหนึ่งเหมาเหมาคิดว่าอย่างไรอาหารทำมาเพื่อรับรองอยู่แล้วจึงกล่าว
"ท่านหญิงรับอีกสักชิ้นไหมเจ้าคะ"
อีกฝ่ายไม่มีทีท่าปฏิเสธที่ถูกเรียกว่าท่านหญิง เหมาเหมาค่อยคลายใจว่าตัวเองเข้าใจถูกแล้ว หากเมื่อครู่เผลอนึกไปว่าหากอีกฝ่ายเป็นกงจู้แล้วตนเรียกผิดขึ้นมาเรื่องราวอาจจะบานปลายได้
"ไม่ดีกระมัง แต่เมื่อพูดถึงขนาดนั้นแล้วก็ขออีกสักคำแล้วกันนะ" ท่านหญิงยิ้มตอบก่อนจะหยิบซาลาเปาขึ้นมากัดอีกคำ
เหมาเหมาเห็นท่าทางของท่านหญิงดูมีความสุขกับอาหารที่ดูสามัญชนเช่นนี้จึงเริ่มรู้สึกดีกับอีกฝ่าย จากนั้นท่านหญิงค่อยถามขึ้นมา
"เจ้ามีจิ๊กโฉ่ว(ซอสเปรี้ยว)สักนิดหรือไม่ ข้าว่ามันน่าจะเข้ากันดีนะ" ท่านหญิงผู้นั้นถามพลางกัดอีกคำ
เมื่อครู่เหมาเหมารู้สึกว่าเห็นขวดคล้ายเช่นว่านั้นมาก่อนค่อยเดินออกไปสำรวจก่อนจะกลับมา ซาลาเปาในมือท่านหญิงกลับคล้ายมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเมื่อครู่เล็กน้อย
"จิ๊กโฉ่วเจ้าค่ะท่านหญิง"
"ขอบใจเจ้ามาก" ท่านหญิงผู้นั้นยิ้มตอบก่อนจะเอาซาลาเปาจิ้มกับจิ๊กโฉ่ว
อาจเพราะจิ้มหนาเกินไปเหมาเหมาสังเกตว่ายามยกซาลาเปาขึ้นจิ๊กโฉ่วกลับกระฉอกใส่เสื้อผ้าอันงดงามของท่านหญิงจนอดจะกล่าวไม่ได้
"ท่านหญิงจี้!"
ผู้ชิงกล่าวกลับไม่ใช่เหมาเหมา
เการั่วเย่(วาคาบะ)ที่ไปล้างหน้าเมื่อครู่เดินกลับมาพอดีกับจิ๊กโฉ่วนั้นกระเซ็นใส่ชุดของท่านหญิง ใบหน้าตกอกตกใจปรากฏขึ้นมาจากท่านหญิงผู้นั้นก่อนนางจะหันไปหาแม่ครัวสามัญชนที่กำลังมีสีหน้าตกตะลึง
"เอ่อ...บังเอิญจังเลยนะ" ท่านหญิงผู้นั้นกล่าว
ตอนที่ 2.9/3 ตอนพิเศษ เหมาเหมากับท่านหญิงแห่งรุ่ยหลวน
แวบนึงกูก็คิดขึ้นมาว่า ท่านอิมาริจะอาชีพไรวะ องค์ชายต่างชนเผ่าที่มีอาชีพเสริมเป็นโจรปล้นสวาทงี้อ่อ55555
>>448 กูว่าต้องเป็นบุตรขุนนางชั้นผู้ใหญ่ (แต่ก็เป็นคุณชายเจ้าสำราญ)ร่ำเรียนศาสตร์ศิลป์ทุกแขนงอย่างแตกฉาน แต่ไม่สอบจอหงวนกลับมาเปิดหอศิลป์เลื่องชื่อในตรอกอูอี ชั้นหนึ่งจัดแสดงต่างๆเช่น บรรเลงพิณ ร่ายรำ แสดงละคร ชั้นสองเปิดให้บัณฑิตกับคุณหนูได้ประชันฝีมือตามหัวข้อรายวัน ชั้นสามจัดแสดงภาพวาด กาพย์กลอนของศิลปินมีชื่อไรงี้
>>448 เป็นลูกหลานล้างผลาญของตระกูลใหญ่ คำร่ำลือว่าเป็นคุณชายมากรัก โจรเด็ดบุปผา เพียงแต่สตรีที่เป็นผู้เสียหายทั้งหลายไม่มีผู้ใดยอมรับว่าตนถูกหลอกลวง อย่างไรก็ตามครั้งหนึ่งมีสามีของสตรีผู้หนึ่งไม่พอใจทั้งไม่ทราบฉากหลังของคุณชายท่านนี้จึงได้ลงไม้ลงมือไปจนคุณชายแทบเสียชีวิตไปรอบหนึ่ง แต่คุณชายยังคงยึดมั่นใจอุดมการณ์ต่อไป
เมื่อครั้งความนิยมของคุณชายหยวนว่านหลี่(อิมาริ)พุ่งไปสูงสุด เหล่าคุณหนูชาติตระกูลดีทั้งหลายถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเพียงเพื่อให้คุณชายหยวนปรายตามองพวกนางแม้สักเล็กน้อยก็ยังดี เดือดร้อนถึงขุนนางประจำศาลยุติธรรมต้องไปขอความช่วยเหลือจากคุณชายจี้ บุรุษหนุ่มอนาคตไกล ทายาทขุนนางใหญ่ ผู้สอบเป็นจอหงวนรับราชการได้ตั้งแต่ยังไม่เข้าพิธีสวมหมวก
เมื่อคุณชายจี้ไปพบกับคุณชายหยวนก็ไม่เสียเวลาเจรจาพาทีให้มากความ กำปั้นขวาพุ่งเข้าปะทะร่างของคุณชายหยวนในพริบตา ทั้งความเร็วและน้ำหนักของกำปั้นนั้นมิชวนให้เชื่อเลยว่าจะมาจากจอหงวนฝ่ายบุ๋นผู้สุภาพนุ่มนวล คุณชายหยวนที่บัดนี้ไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ขัดขืนก็ถูกคุณชายจี้พาขึ้นรถม้าหายไป "สักพัก"
เหมาเหมาเห็นท่าทางกระอักกระอ่วนของท่านหญิงที่ถูกเรียกว่าท่านหญิงจี้ดูไปแล้วทั้งสองคล้ายรู้จักกันมาก่อน
เรื่องราวบางอย่างสมควรให้คนบางคนรับฟัง เหมาเหมาคิดว่าคนผู้นั้นไม่ใช่ตนทั้งไม่ต้องการชักนำความยุ่งยากค่อยหลบออกไป
สถานที่นึ่งซาลาเปาของเการั่วเย่(วาคาบะ) แม้ลับหูลับตาแต่ไม่ถือว่าไกลจากโรงครัวนัก เดินออกมาได้เพียงเล็กน้อยเหมาเหมาก็ได้ยินเสียงคนดังขึ้นมาเป็นระยะก่อนจะตามต้นเสียงนั้นไป
ต่อจากนั้นกลับเป็นเรื่องราวที่คุ้นเคย เหมาเหมาเป็นนางกำนัลที่มาจากระดับล่างบางโอกาสยังคงได้ช่วยเหลืองานเช่นนี้ อย่างไรการเมื่อก่อนเพียงยุ่งอยู่ในโรงครัวแต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนยกถาดอาหารเข้าสู่งานเลี้ยงภายในวัง
งานเลี้ยงแห่งนี้หลายอย่างเจริญหูเจริญตา โดยเฉพาะองค์จักรพรรดิที่มีสิริโฉมสง่างามสมวัย ฮองเฮาที่งดงามสูงส่ง เหมาเหมายังเจอคุณหนูจี้เดินชดช้อยมากับสตรีที่ดูอายุมากกว่าเล็กน้อยไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเป็นพี่สาวของคุณหนูจี้ท่านนั้นหรือไม่เพราะใบหน้าคล้ายคลึงกัน
ภายในงานคล้ายดั่งภาพฝัน บุรุษล้วนหล่อเหลา สตรีล้วนงดงาม เหมาเหมาเริ่มกลับไปคิดว่าตนอาจจะฝันอยู่อีกครั้งหนึ่งเพราะสถานที่แห่งนี้ช่างเกินจริงจนเกินไป
โดยเฉพาะคุณชายผู้สง่างามสองท่านที่ยืนอยู่ท่ามกลางสาวแรกรุ่นที่ห้อมล้อมมากมาย คุณชายผู้หนึ่งมีใบหน้าเย็นชาไม่สนใจรอบข้างในขณะอีกท่านกลับยิ้มแย้มตอบคำถามด้วยความสุภาพเรียบร้อย
เห็นรอยยิ้มของคุณชายผู้นั้นแล้วเหมาเหมาอดที่จะนึกถึงท่านจินชิไม่ได้ บุรุษผู้นั้นยามที่ยิ้มแย้มเช่นนี้มักซ่อนแผนการไม่ดีเอาไว้ภายใน
ไม่แน่ใจว่าเพราะเป็นเช่นนี้เหมาเหมาเลยเริ่มไม่ค่อยถูกชะตากับบุรุษผู้ยิ้มแย้มท่านนั้น แต่นางไหนเลยมีโอกาสแม้แต่เศษเสี้ยวที่อีกฝ่ายจะชายตามอง
"เหมาเหมา"
ผู้ถูกเรียกสะดุ้งตื่นจนแทบจะทำถาดอาหารที่ยกมาตกกระจาย ยังดีว่าสตินางนับว่าแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่ตอนที่ตัวเองถูกก่อนกวนหลังจากเป็นนางกำนัลให้ท่านหญิงเกียคุโยจากบุรุษผู้ว่างงานคนหนึ่ง
หันหน้ากลับไปกลายเป็นใบหน้างดงามเฉิดฉายของท่านหญิงจี้ผู้นั้นเอง
"ท่านหญิง"
"เการั่วเย่(วาคาบะ)บอกชื่อเจ้าให้ข้าฟัง วันนี้ข้าขอบใจเจ้ามาก" ท่านหญิงผู้นั้นกล่าว
"มิเป็นไรเจ้าค่ะ เป็นหน้าที่ของข้าน้อยอยู่แล้ว"
"จริงสิ เรื่องราวในวันนี้เก็บเป็นความลับให้ข้าด้วยนะ"
"เรื่องอันใดหรือเจ้าคะ"
"ทุกเรื่อง"
ท่านหญิงผู้นั้นยิ้มกล่าว แต่จู่ๆ เหมาเหมาก็เริ่มรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา สมแล้วที่เป็นท่านหญิงรัศมีบางอย่างแตกต่างจากสามัญชนจริงเสียด้วย
ยามท่านหญิงจากไปเหมาเหมายังเห็นสตรีในกลุ่มคนที่ห้อมล้อมคุณชายทั้งสองหันมาทักทาย แต่สัญชาตญาณบางอย่างของนางกลับรู้สึกคล้ายกำลังก่อสงครามเสียมากกว่า
ได้ยินชื่อท่านหญิงอู่ฮุ่ยหมา(ไมฮามะ) ท่านหญิงจี้ลี่ฮวา(เจ้าแม่)ดูท่าจะเป็นชื่อของท่านหญิงจี้และอีกหลายท่าน จากนั้นสตรีทั้งหลายค่อยเรียกชื่อคุณชายทั้งสอง ผู้ที่ยิ้มแย้มคือคุณชายเฉิงซิ่วเจี้ยทว่าอีกท่านกลับเป็นไท่จื่อ เหมาเหมาแม้ตกใจอยู่บ้างแต่รัศมีบางอย่างในตัวของไท่จื่อผู้นั้นกลับทำให้นางเชื่อจนหมดใจ
งานเลี้ยงดำเนินไปอย่างราบรื่นกระทั่งเลิกรา เหมาเหมาที่เริ่มปวดไหล่เริ่มยอมรับความจริงได้ว่ายามนี้สมควรเป็นเรื่องแท้จริง จากนั้นได้แต่ทำใจเดินกลับห้องนอนของตน
แต่นางหลงทางอีกแล้ว
เหมาเหมาหลงทางเป็นครั้งที่สองในรอบวันเกิดหวั่นวิตกไม่ได้ ยามนั้นคิดหาเหตุผลยามเจอเวรยามว่าสมควรกล่าวเช่นไร บุรุษที่นางไม่คิดว่ามีโอกาสได้พบเจอในเวลานี้กลับยืนอยู่ต่อหน้านาง
"คะ คุณชายเฉิง"
เหมาเหมาในใจร้องว่าแย่แล้ว
หากอีกฝ่ายสอบถามทางขึ้นมาตนเองสมควรบอกเช่นไรดี
คุณชายเฉิงผู้นั้นเลิกคิ้วขึ้นก่อนใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มแล้วค่อยกล่าว
"ที่แท้เจ้าก็รู้จักข้า"
"พะ พอทราบมาบ้างเจ้าค่ะ คุณชายเฉิงชื่อเสียงโด่งดังนางกำนัลในวังล้วนรู้จักทั้งสิ้น" เหมาเหมาพิจารณาคุณชายตรงหน้าจากความสนิทสนมกับไท่จื่อแล้วคิดว่าอีกฝ่ายสมควรเป็นที่รู้จักดี
"งั้นหรือ แล้วเจ้ารู้จักคุณหนูจี้หรือไม่" คุณชายเฉิงผู้นั้นถามขึ้นมาแต่กลับไม่เปิดโอกาสให้เหมาเหมาปฏิเสธก็ชิงกล่าวต่อ "ข้าเห็นนางสนทนากับเจ้าในงานเลี้ยง"
เหมาเหมาไม่กล้าตอบ แต่คุณชายเฉิงผู้นั้นคล้ายเข้าใจอันใดได้จึงยกมือข้างหนึ่งขึ้นมา
"วานเจ้านำไปมอบให้คุณหนูจี้ได้หรือไม่"
เหมาเหมามองดูค่อยพบเห็นกรงไม้สานกรงหนึ่ง ภายในเป็นประกายสีเหลืองนวลลอยไปมา
เป็นกรงไม้สานที่มีหิ่งห้อยอยู่ภายใน
"บอกว่าจากข้าก็พอ"
ต่อจาก >>455
คล้อยหลังจากนั้นเหมาเหมาจำไม่ได้ว่าตัวเองเดินมายังประตูตำหนักถูกได้อย่างไร บางทีอาจมีผู้ใดนำทางเพราะกลัวนางไม่ทราบรถม้าของคุณหนูจี้เป็นคันไหนก็ได้กระมัง ผู้คนผลัดเปลี่ยนมากหน้าหลายตาต่างบอกกล่าวนางคำหนึ่งจนนางหยุดยืนที่รถม้าที่มีเพียงสารถีคนหนึ่ง
สารถีผู้นั้นเพียงมองนางด้วยความสนใจก่อนเหมาเหมาจะเอ่ยปากถาม "ใช่รถม้าคุณหนูจี้หรือไม่เจ้าคะ"
สารถีคนนั้นพยักหน้าตอบก่อนเหมาเหมาจะยกกรงไม้ขึ้นมาแล้วกล่าวว่า "คุณชายเฉิงซิ่วเจี้ยฝากมาให้คุณหนูจี้เจ้าค่ะ"
กล่าวจบสารถีผู้นั้นทำตาโตครู่หนึ่งก่อนจะรีบเปิดประตูรถม้าออกแล้วบอกให้เหมาเหมานำกรงไม้สานนั้นวางไว้ภายในได้เลย
ธุระเสร็จสิ้นเด็กสาวค่อยเตรียมตัวกลับไปนอน สุดท้ายพบคุณหนูจี้ผู้นั้นกำลังเดินมาทางนี้พอดี
"เจอกันอีกแล้วนะ" คุณหนูจี้ยิ้มทักทาย
"โปรดรักษาตัวด้วยเจ้าค่ะ" เหมาเหมาคารวะตอบ
คล้อยหลังคุณหนูจี้เหมาเหมาเห็นชายเสื้อสีเหลืองนวลปลิวไสวแข่งกับแสงจันทร์ยามมืดมิด
แสงจันทร์จุดหนึ่งนั่นใช่หิ่งห้อยหรือไม่กันนะ
เหมาเหมายิ้มให้กับความงดงามของความสัมพันธ์ผู้คน หิ่งห้อยในกรงไม้สานกรงนั้นที่แท้คุณชายเฉินมอบให้คุณหนูจี้มีหมายความเช่นไร
เหมาเหมาหลับตาวาดฝันชั่วขณะก่อนจะหันหลังก้าวผ่านประตูตำหนัก
"วิกาลถึงยามนี้เจ้ายังคิดเดินเล่นอยู่งั้นหรือ"
น้ำเสียงบุรุษที่ขึ้นเคยดังขึ้นต่อหน้า เหมาเหมารีบเงยหน้าขึ้นก่อนจะพบว่า
"ท่านจินชิ" จากนั้นรีบหันหลังกลับไป
รถม้าหายไปแล้ว งานเลี้ยงเมื่อครู่กลับกลายเป็นวังที่เงียบสงบทั้งคุ้นเคย เสียงของบุรุษสตรีที่งดงามทั้งหลายพลันสลายไป
"หายไปทั้งวันเลยนะ"
"อย่างงั้นหรือคะ"
เหมาเหมาเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ที่สุกสว่าง ดูท่ายามนี้ดึกมากแล้วจริงๆ
"ท่านจินชิเองก็มาเดินเล่นเช่นกันหรือเจ้าคะ"
อีกฝ่ายยิ้มก่อนจะตอบ "ก็คงอย่างงั้น แต่เดินจนพอแล้ว"
เงียบงันครู่หนึ่งบุรุษผู้นั้นค่อยกล่าวว่า "กลับกันเถอะ ข้าจะเดินไปส่ง"
เหมาเหมาที่เหม่อลอยถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ค่อยได้สติก่อนจะตอบรับคำหนึ่ง
ที่แท้เมื่อครู่เป็นความฝันงั้นหรือ
ยามค่ำคืนลมหนาวเย็น เหมาเหมาเอามือซุกเข้าด้านในเสื้อ
มือสัมผัสกับวัตถุบางอย่าง ทั้งนุ่มทั้งอุ่นก่อนเหมาเหมาจะหยิบออกมาค่อยพบว่าเป็นซาลาเปาไส้หมูป่าลูกหนึ่ง
"ที่แท้เจ้าแอบมาหาอะไรกินหรอกหรือ" บุรุษด้านข้างแย่งซาลาเปานางแบ่งออกมาครึ่งหนึ่งก่อนจะนำเข้าปากก่อนจะกล่าว "อร่อยดีนี่"
ซาลาเปาครึ่งลูกถูกส่งกลับมาให้เหมาเหมา นางเหม่อมองอย่างเลื่อนลอยก่อนจะหันกลับไปที่ประตูอีกครั้ง ก่อนจะคิดในใจ
เรื่องราวเมื่อครู่ทั้งลึกลับทั้งพิศดารนัก
ตอนที่ 3/3 ตอนพิเศษ เหมาเหมากับท่านหญิงแห่งรุ่ยหลวน
โอ๊ยยยยย ดีงามมากมึง กราบร่องอก ขออีกหลายๆตอนเถอะ จ๊วบบบบบ
ไหนๆก็โคลาโบ(?)กันแล้ว กรุเผลอคิดไม่ได้ทุกทีว่าถ้ายูกิโนะโตมาน้องต้องเหมือนจินชิ
กูชักมึนนึกว่าเข้าผิดกระทู้ละ 555
สั้นๆเลยนะ....."กาวอร่อยมาก"!!!
กาวดี กาวดี ซู๊ดดดดดดดด //ทำหน้าขรึม
โคลาโบประเสริฐยิ่งแล้ว มึงแต่งได้ดีมาก ขอคารวะด้วยนารีแดงสามจอก อ่านแล้วคิดถึงฉากหิ่งห้อยในตำนานมากๆ
สักวันเการั่วเย่จะหลุดไปบ้างมั้ยนะ
อ่านตอนเก่าๆรักเพื่อนสาวของท่านเรย์กะจังเลย ตอนทัศนศึกษาที่ยอมเป็นแฟนธ่อมก็ดี ตอน270ที่ท่านเรย์กะสนนัดบอร์ดก็ประสานพลังว่างานนัดบอร์ด น่ารักกันจริงๆ
จะว่าไป ตอนเรย์กะมาปล่อยหิ่งห้อยที่โรงเรียนตอนปิดเทอมงี้ เป็นไปได้มั้ยนะว่าเอ็นโจจะเห็นด้วย แบบหนีออกจากบ้านมานั่งในสโมแล้วเจอะภาพบาดตา ถถถถ
คนที่อ่านดิบมาช่วยสปอยล์หน่อยสิ เราชอบฟีลตอนที่คาบุกับเจ้าแม่อยู่ด้วยกันมาก เราเลยอยากรู้ว่าดิบตอนหลังมีโมเม้นต์ของคู่นี้ให้รู้สึกกร๊าวใจบ้างมั้ย เอาแบบที่ไม่ใช่ตบมุกกันน่ะนะ
กูแวะไปดูว่าตอนที่ 300 อัพยัง ก็ยังไม่อัพแฮะ.... งึยย อยากรู้ตอนต่อจะแย่อยู่ละ จะมีอะไรพีคๆเกิดขึ้นมั้ย หรือจะเป็นตอนดักควายแบบที่ผ่านๆมาอีก
เหี้ยมากไปอ่านฟิค badend แล้วหาตอนสี่ต่อไม่ได้โคตรค้างงงงงงงงงงงงงงงงงง
ky แป๊ปนะ กูกลัวโม่งแปลป่วย หายไปหลายวันแล้วเนี่ย
มีใครมีข่าวอะไรบ้างวะ
>> โม่งแปล เราคิดถึงนาย
>> โม่งกาว เราก็คิดถึงพวกนายเช่นกัน
คิดไปคิดมาก็สงสัยว่าเคยมีใครคิดแนวHogwarts มั้ยอะ
เหลือAUไหนยังไม่ได้เล่นบ้างวะเนี่ย5555 ไซไฟ?ความจริงเกลียวเจ้าแม่เป็นปืนกลถอดมายิงได้?
ที่กูคิดได้นะ
-แนวญี่ปุ่นโบราณ แม่ทัพคาบุรากิ รองแม่ทัพเอ็นโจ คุณหญิงคิโชวอิน คนขายขนมวาคาบะ (AU นี้เล่นยากแหะ) ซามูไรนายตัวสำรอง
-แนวไทยเลย ชื่อไทยๆคงขำดี วาคาบะไปขายปาท่องโก๋ ขนมกล้วย ในตลาดยามเช้าตรู่ ส่งตัวเองเรียน
-อุจิวะ มาซายะ, นารา ชูสุเกะ , ยามานากะ เรย์กะ ไอ้เหี้ยพล็อตเรื่องมันแปลกๆ แต่คาบุรากิแม่งเหมาะสมกับอุจิวะ เหมือนมาดาระเวอร์ชั่นเด็ก
กูคิดพล็อตเรื่องอุจิวะ มาซายะได้ลางๆแหะ ไม่กล้าแต่ง..กลัวมันไม่เหมาะกะเจ้าแม่
>>493 คุณหลวงขี่ม้าชนหาบหม้อแกงแม่วาด เลยอุ้มขึ้นม้าพาไปส่งโรงหมอใช่มะ แล้วก็ชดใช้ด้วยการซื้อหม้อดินเผาใบใหม่มาให้หลายๆใบ เป็นฝีมือช่างสิบหมู่ในพระราชวัง ตัวหม้อปั้นลายกนกบ้าง ลงรักปิดทองบ้าง ทำจากวัสดุที่เลิศหรูเป็นของชาววัง แม้แม่วาดจะขอแค่หม้อดินเผาธรรมดาๆซื้อเอาข้างทางก็พอเลยโดนคุณหลวงขมวดคิ้วใส่แล้วยืนยันว่าต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น ได้ของดีมาแม่วาดก็ไม่กล้าใช้ เอาไปเก็บใส่ตู้แล้วเอาหม้อดินเผาใบอื่นๆมาใช้แทน.... กูจำได้ว่าเนื้อเรื่องมันราวๆนี้ว่ะ ถถถถถ
au โอเมก้า
กูว่าเรย์กะต้องเป็นอัลฟ่า ตระกูลคิโชวอินนี่คงมีแต่อัลฟ่า
เอาจริงๆคาบุ เอ็นโจ ก็คงอัลฟ่าหมดแหละ
วาคาบะคงเป็นเบต้า
สรุปเรื่องนี้กูยังนึกใครเป็นโอเมก้าไม่ออก55555555
พูดถึงฮอกวอร์ตแล้วกูเพิ่งนึกได้ กูเคยแต่งเล่นๆไว้อยู่แต่มีตัวละครที่ไม่แน่ใจว่าจะให้ไปอยู่บ้านไหนดี กูอยากให้ได้ไปบ้านที่เหมาะกับนิสัยจริงๆอ่ะ 55 แบบบางทีมันมีบางคนที่ถ้ายึดตามซุยรันเป็นหลักคงได้อยู่สลิธแต่ถ้ายึดตามแฮร์รี่จะได้ไปอยู่บ้านอื่นงี้ แล้วก็กูไม่แน่ใจนิสัยองค์ชายเอ็นโจด้วย นิสัยโคตรคลุุมเครือ ถ้าจะบอกว่าเอ็นโจเจ้าเล่ห์เหมาะกับสลิธ กูก็รู้สีกแปลกๆ เพราะเด็กบ้านนี้นิสัยหลักๆคือตัวเองก่อนคนอื่น, ทะเยอทะยาน, ถ้าอยากได้ไรก็จะทำให้ได้
ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีแบบไหนก็ตาม ไรงี้ แต่เอ็นโจนี่ถ้าจะบอกว่าเอาตัวเองก่อนคนอื่นนี่ก็ไม่ใช่
ไหนๆก็ไหนๆละ กูขอเล่าที่กูคิดเกี่ยวกับตัวละครเลยละกัน
ท่านเรย์กะ - ตอนแรกกูว่านางเหมาะกับฮัฟ, แต่เวลาผ่านไป กูว่าท่านเรย์กะนี่โคตรเด็กสลิธ อยากได้ไร(ของกิน)ก็ต้องได้ถึงแม้จะต้องข่มขู่ 55 เอาตัวรอดเป็นยอดดี เงี้ย
คาบุ - ตอนแรกก็คิดว่าเหมาะกับกริฟแต่คนนี้ก็เป็นพวกถ้ามีเป้าหมายก็จะพุ่งไปแบบไม่สนคนไหนเลย ทะเยอทะยานด้วย ก็ดูเหมาะกับสลิธดี
ถึงจากมุมมองท่านเรย์กะและคนอื่นคาบุจะดูเป็นพวกรักความยุติธรรมแต่ถ้าเรื่องที่เกิดไม่กระทบตัวเองคาบุ/คนที่แคร์คาบุก็แทบจะไม่สนใจ ซึ้งตรงนี้กูว่าต่างกับพวกกริฟฟินดอร์ เด็กบ้านนี้เหมือนแบบถ้าเห็นไรไม่แฟร์ก็รับไม่ได้ละ ประมาณนี้ 55
ky แปป AU นี่คืออะไรเหรอ? Another Universe เหรอ
>>500 >>501 กุคิดว่าท่านเรย์กะ คาบุ เอ็นโจเป็นสลิธ คือ เป็นพวกมี leaderdhip ฉลาดแบบที่สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งต่างๆรอบตัว เพื่อให้ได้ตามที่ต้องการ นายตัวสำรอง กับ วาคาบะจัง เป็นกริฟ ใจกล้า กล้าพูดกล้าทำถ้าเห็นอะไรไม่ถูกต้อง แต่ถ้าตัวเองได้รับความไม่ยุติธรรมบางทีก็อดทนเฉยๆ หรือ วาคาบะอาจจะเป็นเรเวนคลอ ก็ได้ แต่นางทำงานกรรมการ/สภานักเรียน กรูเลยคิดว่านางน่าจะอยูกริฟ เรเวนคชอนี่ให้อิมเมจเด็กเรียนที่ไม่ค่อยทำกิจกรรม หรือทำกิจกรรมเฉพาะที่เกี่ยวกับวิชาการ
วาคาบะกูว่าเรเวนคลอว่ะ ฉลาด แต่ดูเอ๋อด้านอื่น โคตรเหมือนลูน่า
คาบุ กริฟ รักความยุติธรรม เถรตรง
ส่วนคนอื่น ๆ ไม่ค่อยแน่ใจ
เอ็นโจถ้าเล่นสกิลเพื่อนพระเอกก็น่าจะอยู่กริฟ แต่ตามนิสัยแล้ว...ดูเจ้าเล่ห์ น่าจะสลิมั้ง
ท่านเรย์กะ ฮัพเลยจ๊ะ กินอย่างเดียว ขี้กลัวด้วย (ถ้าจำไม่ผิดบ้านฮัพอยู่ติดครัวด้วยนะ...)
นายตัวสำรอง อยากให้อยู่ฮัพ อิมเมจซ้อนกับประธานนักเรียนที่ตายยังไงไม่รู้ แต่นิสัยน่าจะกริฟหรือเรเวนคลอได้นะ
เพิื่อนเรย์กะ สลิ
>>500 กูว่าเอ็นโจออกแนวใช้ทุกสิ่งรอบตัวเพื่อประโยชน์ที่ตัวเองต้องการว่ะ ไม่ค่อยเลือกวิธีการด้วย แต่ทำให้ดูนุ่มนวลที่สุดเพราะลักษณะนิสัยพี่แกก็ประนีประนอมทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว ทั้งฝ่ายตัวเองและฝ่ายคู่เจรจาให้ได้ผลประโยชน์วินวินทั้งสองฝ่ายอะ แต่ถ้าเอาเปรียบได้พี่แกก็ทำนะ ไม่ค่อยแคร์ฝ่ายโดนเอาเปรียบด้วยสิ
>>505 กูก็ว่าวาคาบะเหมาะกับเรเวนคลอ ยิ่งตอนที่วิ่งตามผีเสื้อจนโผล่ไปเมืองข้างๆนี่ยิ่งชัด
บ้านแต่ละบ้านมีคนมากมายหลายแบบแต่การที่หมวกตัดสินว่าเด็กคนไหนเหมาะกับบ้านไหนคือการที่เด็กคนนั้นให้คุณค่ากับอะไรมากกว่า อย่างกริฟจะเป็นความกล้าหาญ(เฮอร์ไมนี่ก็ฉลาด หมวกลังเลระหว่างเรเวนกับกริฟแต่สุดท้ายส่งไปกริฟเพราะเฮอร์ให้ความกล้า>ความรู้) ฮัฟนี่กูเข้าใจว่าเป็นบ้านที่เด็กมีความพยายามอดทนซื่อสัตย์(เด็กบ้านนี้เลยไปทางศาสตร์มืดน้อยสุด) เรเวนก็ความรู้ การกระหายต่อการเรียนรู้เป็นคุณสมบัติหลักของบ้านนี้ สลิธีรินก็คงเป็นการที่เป็นคนที่ทำยังไงก็ได้ให้เป้าหมายสำเร็จโดยไม่สนวิธีการ ฉลาด(ในทางเจ้าเล่ห์)
พวก pivoine น่าจะอยู่ สลิธกันนะ
ถ้าเอานิสัยทั่นเรย์กะอาจจะอยู่ฮัฟนะ 555
ท่านเรย์กะสลิธแน่นอน ดูวีรกรรมแต่ละอย่าง เอาชื่อตระกูลตัวเองมาข่มคนอื่น เอาเรื่องซุบซิบมาแบล็กเมล์ชาวบ้าน แถมสะบัดพัดหัวเราะโฮะๆ ยังไงก็สลิธแน่นวลล ความจริงคือที่บ้านตั้งความหวังว่ายังไงก็ต้องสลิธ ท่านเรย์กะเลยบอกหมวกว่าไม่เอาฮัฟรัวๆ จนได้มาอยู่สลิธดังใจเลยต้องสร้างเป็นเจ้าแม่ ถถถถถถถถถ
แกงกะหรี่แมนแดรก?
อะ แต่ท่านเรย์กะอาจะประสบความสำเร็จแบบพวกลูกอมขี้มูก
ลูกอมอ้วก ไรพวกนั้นก็ได้นะ ถถถถ
ก็อกๆ แจ้งข่าวเล็กๆ โม่งแปลกลับมาแล้ว แต่ยังเมาหมัดอยู่ วันนี้ลงไม่ทัน ขอเป็นวันพรุ่งนะ คิดถึงท่านเรย์กะอิ๊บอ๋ายเลย ฮือออออออออออ
โม่งแปลล กอดดดดดด คิดถึงเมิงค่า
กลับมาแล้วเนอะโม่งแปล ขวัญเอยขวัญมา
ฮิโยโกะซามะอาจจะรอให้ไทยแปลทันดิบก่อน ถถถถถ
ใครก็ได้แนะนำพิกัดร้านเอแคลร์ให้กูหน่อยสิ(ไม่เอาชูครีมนะ) กูเสิร์ชหาร้านน่าสนใจก็เจอ fauchon อ่ะ หาแทบตายสุดท้ายเค้าปิดตัวในไทยไปแล้ว กูก็เลยไม่รู้ว่าร้านอื่นที่มีหลายรสอยู่ที่ไหนอีก
เอแคลร์กูชอบของกัลปพฤกษ์ว่ะ วานิลา กาแฟ ชอคโก รสเรียบ ๆ เบสิค ๆ
โม่งแปลกลับมาก็กลายเป็นแท็กฟู้ดเลยเหรอ 555555
ตอนใหม่มาแต่เช้าเชียว...... อร๊ายยย
อร๊าย มีขอให้ปัดเป่ากันด้วย อุเฮะๆ
ปล.รักโมง่แปลที่ซู้ดดดด ขอบคุณสำหรับตอนใหม่น้าาา
ขอบคุณโม่งแปล เยิฟๆ มามะเดี๋ยวกูบีบนวดแขนขาที่ปวดเมื่อยให้
ไอ้ช่วงต้นๆ เดี๋ยวอยากรู้อยากเห็น เดี๋ยวรู้เรื่องที่คนอื่นไม่รู้ พูดได้ไม่อายปากเลยนะจอมมารเอ๋ย ไม่สะดุ้งในใจบ้างเรอะ!!
ความช่วงตบหลังปัดเป่า ถ้ามองผ่านควันนี่มันเป็นการลูบหลังหรือโอบกอดเลยนะ!!!//แดดิ้น//
ไอ้การรุกแบบกัดไม่ปล่อยนี่มันอะไรกัน!!?!
แถม คาบุยังตามน้ำช่วยเพื่อนหาเรื่องคุยอีก!! //ซุสุเกะ ครั้งนี้ชั้นช่วยนายหนนึงละนะ
ครั้งหน้า นายต้องมาช่วยชั้นด้วย หึหึหึ
ยินดีกับมือข้างนั้นที่ได้ปัดเป่าหลังเรย์กะนะเอ็นโจ..... จะล้างมือมั้ย?
ฮึ้ยยย ท่านเอ็นโจ รุกแรงเหลือหลาย ไปยืนซ้อนด้านหลัง พอเขาบอกไม่ชอบก็เนียนมายืนข้างๆ มีอ้อนก่อนจะโดนโกรธ เอียงหน้าเข้าหาเขาอีก อีตาเทวดาตกสวรรค์นี่น้า เขาไปคุยกับเพื่อนสาวก็ตามเขาไปไม่ยอมปล่อย เนียนคุยด้วยในวงไม่ยอมให้โดนไล่ มองเขาตลอดถึงรู้ว่าดูแปลกๆ แถมมีลูบหลังอะไรอีก แต่ถ้าลูบหลังก็อาจจะได้สัมผัสแถบๆตะขอบรา....ไม่นะคะ ฉันไม่ได้คิดอะไรไม่ดีไม่งามเลยซักนิดเลยนะคะ ไม่คิดเลยจริงๆนะค๊า//เสียงสู๊งสูง
เดี๋ยวนี้เรียกคาบุในใจว่ามันแล้วเรอะท่านเรย์กะ
ทั่นเรย์กะสยองซะขนาดนั้นยังจะกินลงอีกถึงจะบอกว่ากินแบบกร่อยๆก็เถอะ
แปลตอนล่าสุดนี่ ประโยคเด็ดอยู่ตอนท้ายสำหรับเรือเอ็นโจเลยเฟ้ย!! ได้เอ็นโจปัดเป่าตบหลังแล้วรู้สึกสบายใจ เรย์กะสบายใจ!!! แสดงว่ามีความไว้ใจระดับหนึ่งนะ!! หรือต้องขอบคุณพลังจอมมารที่ปัดเป่าความสยองขวัญดี?
>>548 ทำหน้าที่พระศิวะไงมึง พระศิวะเป็นเทพปัดเป่าความชั่วร้ายออกไป
แต่เทวดาตกสวรรค์นี่...กูล่ะนึกพล็อตประมาณว่าเมื่อก่อนเอ็นโจก็เป็นเทวดาผมทองอยู่ดีๆ แต่เห็นนางมารเรย์กะอยู่ในโลกของมารเลยยอมตกสวรรค์ลงมาหา ผมทองก็ค่อยๆกลายเป็นสีดำ แม่งเอ้ยยย กูรู้สึกก๊าว จั๊กจี้ในหัวใจชิบหาย
เพื่อนผู้หญิงก็นั่งด้วยนะคะท่านเรย์กะ ทำไมขอให้เอ็นโจช่วยปัดหลังให้น้าาาาาา
-สายตาคนอื่น
ท่านเรย์กะเป็นอะไรกัน สีหน้าพะอืดพะอม ไม่อยากอาหาร แถมให้ท่านเอ็นโจลูบหลัง
หรือว่า……!!!?!
ท่านเรย์กะนี่เคยสัมผัสเนื้อต้องตัวกับหนุ่มๆคนไหนไหมนอกจากท่านพี่
WAT พอเน็ตบ้านปลดแบนเน็ตมือถือกุโดนแบนแทนซะงั้น
ทำไมอ่านตอนนี้แล้วเห็นคู่เรือผี คาบุ×ซาราระ ขึ้นมาได้~ ส่วนเอ็นโจ นายทำได้ดีมากในที่สุดระยะห่างก็ร่นมาอีกนิดแล้ว
ปล.ขอบคุณสำหรับตอนใหม่มากจ้า โม่งแปล
โอ๊ยพึ่งตื่นมาอ่าน เรือเอ็นโจแล่นฟื่ดฟื่ดฟื่ดเลยว้อยย
แท็กฟู้ดก็พ่ายแพ้แท็กสยองขวัญ... ฮือออ กูอ่านตอนกินข้าวเที่ยงพอดี
เรียกท่านคาบุในใจว่ามันแล้วจริงด้วย นอกจากจะไล่ไป๊ แล้วยังนินทาดุเดือดขึ้นเรื่อย ระวังจะเผลอหลุดออกมานะท่านเรย์กะ 5555
สัมผัสชายหนุ่มตอนไหนๆ ก็ไม่เหมือนตอนนี้ เพราะครั้งนี้ท่านเรย์กะเป็นคนขอให้สัมผัสเองเว้ย!!
>>565 กูนึกถึงตอนกูเข้าค่าย รร.พาไปเข้าที่ค่ายทหาร
.คำเตือน เนื้อหาหลังจากนี้อาจจะทำให้ความอยากอาหารลดลง
.
.
ละพี่ทหารแกเล่าว่า เคยลงไปในบ่ออุจจาระ แล้วมันจะมีแบบพวกเศษอาหารที่ไม่ย่อยเป็นเม็ดเล็กๆ เหมือนอาหารในจานน้องเลย ซึ่งอาหารวันนั้นเป็นแกงเผ็ด อิเม็ดที่พี่แกว่าคือเม็ดมะเขือ
.
.
เพื่อนกูพะอืดพะอม(เขียนงี้มั้ย?)ไปหลายคน กูนึกภาพตามก็หยะแหยงแทนพี่แกนะ กูรู้สึกถ้ากูต้องลงไปในอะไรแบบนั้นกูน่าจะช็อคตายก่อนได้ลงหรือถ้ารอดมากูต้องแช่แอลกอฮอลแทนอาบน้ำแน่ๆ แต่ก็กินได้แบบชิลๆเพราะอาหารอร่อย... อีกอย่างกูไม่เก็ตด้วยว่าทำไมคนเห็นอะไรที่ไม่จรรโลงใจแล้วถึงกินอาหารไม่ลง กูว่ามันก็คนละอย่าง
หรือตอนเด็กๆที่วิ่งเล่นกับเพื่อนแล้วไปเจอหมานอนในพุ่มไม้ พอเข้าไปดูใกล้ถึงเห็นตัวหนอนเจาะเพียบ เพื่อนกูถึงกินข้าวผัดไม่ลง กูรู้สึกว่าก็กำลังกินข้าวไม่ได้กินซากหมาเลยไม่เข้าใจนิดหน่อย
แต่ที่กูสงสัยมาตลอดคือพี่แกแต่งเรื่องมั้ยวะ กูอาจจะโดนหลอกก็ได้
ช่วงเรียนอนาโตมี่ผ่าสัตว์ กุแอบแดกทุกอย่างระหว่างผ่าซากเพราะถ้าไม่แดก อดตาย
ซากแห้งคลุ้งกลิ่นฟอร์มาลีนยังดีนะ แต่ถ้าดองมาไม่ดี มีหนอนขึ้นซากแล้วกุต้องผ่า ผ่าไปหนอนก็ไต่มือไป อันนี้เหี้ยจริงๆ
อาจารย์แกจินตนาการบรรเจิดจริงๆนะ
สมุดปกหนังมนุษย์กับเนื้อปลาโอโทโระ คิดได้ไงเนี่ย
อยากเนื้อเรื่องที่มีท่านฟุยุโกะเป็นตัวเอกบ้างจัง ท่าจะแฟนตาซียิ่งกว่าท่านเรย์กะ 5555
>>576 ตอนนี้กูอยากอ่านเรื่องในมุมท่านฟุยุโกะสุดล่ะ เดาไม่ออกเลยว่าคิดอะไรอยู่ในใจ นี่เลยจิ้นว่าถ้าท่านเรย์กะขาย LC ไปทำเป็นมังกะนะ ดีไม่ดีอาจมี spin off ท่านฟุยุโกะ ท่านฟุยุโกะกับคดีหลอนปริศนา บลาๆ มีคาบุโผล่มาเป็นแขกรับเชิญเป็นครั้งคราว ถ้ามีผลโหวตคะแนนนิยมตัวละครหลังๆ มานี่มีสิทธิลุ้น Top 5 ด้วยซ้ำไป 5555
Pivion รุ่นนี้คุยอะไรระหว่างกินข้าวเนี่ย อยากให้คนอื่น ๆ ได้ฟังจัง แต่ดันคุยในสโมสร คนนอกอดฟัง
>>578 อันดับ 2 3 4 นี่มันบอสทั้งสาม เอ็นโจ(จอมมารสามบรรทัด) ท่านพี่(ซาตาน) ยูกิโนะ(เทวซาตาน) สามบุคคลที่จะผลุบๆโผล่ๆ แต่ก็คว้าอันดับไปได้
ท่านพี่คนดีต้องสืบหาจุดอ่อนเอ็นโจจนแทบปรุแหงๆ ส่วนพี่น้องตระกูลเอ็นโจก็คงพยายามเก็บข้อมูลรุกท่านเรย์กะ คาบุ อืม นายกำลังพยายามหาร้านอาหารเกรดบี(ตื้อวาคาบะ)สินะ...
ส่วนโหวตครั้งที่ 2 ล่าสุดนี่... top 5 ก็ตามที่บอกไป ที่ไล่ๆลงมาก็ อาริมะ อิมาริ ริรินะ วาคาบะ ซาโตมิ คันตะ ซากุระ
kyนิด เห็นตอนนี้พูดถึงเทวดาตกสวรรค์แล้วกูนึกถึงAUเมากาวที่กูเคยคิดเล่นๆเมื่อนานมาแล้วเลยว่ะ แต่เปลี่ยนฝ่ายตกสวรรค์เป็นท่านเรย์กะอะนะ
ส่วนเอ็นโจเป็นบาทหลวง คาบุเป็นทหารหรือราชวงศ์ซัมติง? วาคาบะเป็นสาวชาวบ้านยาจก เสียดายมันนานแล้วกูเลยจำพล็อตแม่นๆไม่ได้555555 ใครก็ได้เอาไปต่อยอดที กูจะรอเสพ---
>>590 จัดไป
เรฟิก้า(เจ้าแม่)เป็นบุตรสาวของจอมมารคนปัจจุบัน แท้จริงแล้วบรรพบุรุษคือทูตสวรรค์ลูซิเฟอร์ที่ร่วงหล่นสู่โลกมนุษย์เพราะไปล่วงเกินพระเจ้าและกลายเป็นจอมมาร แม้จะเป็นสายเลือดของจอมมารแต่เรฟิก้า(เจ้าแม่)ก็ถือว่ามีสายเลือดของทูตสวรรค์ไหลเวียนอยู่
อย่างไรก็ตามการบริหารกองทัพปีศาจของจอมมารคนปัจจุบันผิดพลาดและจอมมารถูกจับได้ว่าทุจริตจึงถูกลูกน้องในกองทัพปีศาจร่วมกันยึดอำนาจและตระกูลของจอมมารเข้าสู่ภาวะล้มละลาย
เรฟิก้า(เจ้าแม่)ที่หนีจากปีศาจทวงหนี้มาได้จึงได้ออกตามหาพี่ชายของตนที่ยังไม่ทราบเรื่องมาก่อนเพราะกำลังออกไปศึกษาที่เมืองมนุษย์เพื่อกลับมาช่วยจัดการหนี้สินของตระกูล
เรื่องราวของบุตรสาวจอมมารที่มีสายเลือดของทูตสวรรค์ หญิงสาวชาวบ้านผู้ยากจนที่ช่วยนางไว้ระหว่างทาง ผู้กล้าที่เป็นองค์ชายแห่งจักรวรรดิ และบาทหลวงผู้รอบรู้ดั่งนักปราชญ์
กงล้อแห่งโชคชะตาได้ผูกมัดพวกเขาเอาไว้แล้ว
ถ้าเรย์กะเป็นอลิส คนอื่นจะเป็นใครบ้าง
>>590 >>592 เอาพล็อตมาจากอันนี้
“ข้าขอขับไล่จอมมาร! ท่านทำร้ายกดขี่พวกเราเหล่าปิศาจมากเกินไปแล้ว!” เสียงตะโกนกู่ร้องของหัวหน้าคณะประท้วงดังขึ้นจากทางด้านหน้าของราชวังแห่งเจ้าจอมมาร ก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นภายในราชวังเป็นการใหญ่
“นี่มันอะไรกันคะ ท่านพ่อ!?” องค์หญิงเรฟีกา (เรย์กะ) หวีดร้องลั่นท้องพระโรง
ราชาปิศาจได้แต่นั่งนิ่งเงียบคอตกอยู่บนบัลลังก์ทมิฬ ทำสัญญาณมือเป็นเชิงปฏิเสธว่าจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
เรฟีกาอ้าปากจะเอ่ยซักผู้เป็นบิดาต่อ แต่ก็พลันมีค้างคาวส่งสารตัวหนึ่งบินผ่านหน้าต่างเข้ามาหาราชาปิศาจ เรฟีกาไม่รอช้า รีบคว้าคอมันไว้แล้วแย่งสาสน์มาอ่านเองโดยไม่สนซึ่งมารยาทใดๆ
‘ท้องพระคลังของท่านถูกกลุ่มกบฏยึดไว้หมดแล้ว สำหรับหนี้ที่ท่านติดข้าพระองค์อยู่ โปรดรีบหามาชำระให้ได้โดยเร็วที่สุด’
เมื่ออ่านจบ สาสน์ในมือก็ถูกกำแน่นจนยับย่น “อธิบายมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
“เรฟีกา เรื่องนี้พ่อ---“
แต่ก่อนที่ราชาจะได้เอ่ยสิ่งใดขึ้น เสียงดังสนั่นก็ดังมาจากทางประตูท้องพระโรงเป็นจังหวะหนักแน่น... ประตูกำลังจะถูกพังในไม่ช้านี้
“ไปซะเรฟีกา จงไปตามหาพี่ชายของเจ้า เขาอาจจะช่วยกอบกู้ราชวงศ์ของเราอีกครั้งก็เป็นได้”
“แล้วท่านพ่อกับท่านแม่ล่ะคะ”
“ไม่ต้องห่วง เรฟีกา” ราชินีปิศาจผู้นิ่งเงียบมาได้พักใหญ่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังเรียบนิ่ง “จงไปตามทางของเจ้าซะ ทางนี้พวกแม่จะจัดการเอง”
เมื่อสิ้นเสียงราชินี พื้นใต้เท้า พื้นใต้เท้าของเรฟีกาก็พลันเปิดออก องค์หญิงตกลงไปในช่องนั้นทันที
เสียงสุดท้ายที่ได้ยินมีเพียง
“จงตามหาพี่ชายของเจ้าให้เจอ เขาอยู่ที่โลกมนุษย์”
--------------------------------
ตุ้บ
“โอ๊ย”
เรฟีกามองไปรอบตัว นอกจากขยะกลิ่นเหม็นที่กองอยู่รอบตัวเธอแล้ว ก็มีเพียงต้นไม้และต้นไม้เท่านั้น ท่อขยะนี้พาเธอมายังป่ารกชัฏนั่นเอง
แม้ร่างกายจะสกปรกและมีกลิ่นขยะโชยออกมาจนชวนนิ่วหน้า แต่อดีตองค์หญิงก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องมุ่งหน้าต่อไปเท่านั้น
เธอหันกลับไปมองปราสาททมิฬเป็นครั้งสุดท้าย ธงประจำราชวงศ์ถูกเปลี่ยนแล้ว ชายธงสีเขียวครึ้มที่ปลิวสไวอย่างภาคภูมิยิ่งตอกย้ำให้เรฟีการู้ว่าราชวงศ์คีโธอีน (คิโชวอิน) จบสิ้นลงในที่สุด เรฟีกาหลับตาเบือนหน้าไปทางอื่น ในใจภาวนาให้ท่านพ่อและท่านแม่ปลอดภัยดี แม้ความหวังจะริบหรี่ก็ตาม
เท้าเล็กบอบบางที่ไม่เคยเหยียบสิ่งใดนอกจากพรมแดงปักดิ้นทองหรูหราก้าวหนักแน่นเข้าไปยังป่าลึก พลันความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมา
“เดี๋ยวนะ แล้วโลกมนุษย์นี่มันไปทางไหนกันล่ะเนี่ย”
(ใครก็ได้ต่อที)
ขอเปิดไว้เป็นฟิคเวียนอันที่สองละกัน กูตัน 555555
ต่อจาก >>612
"ท่านเรฟีกา ท่านเรฟีกา ทำไมไม่รอพวกเราเลย" เสียงแหลมๆซึ่งดังขึ้นข้างหูเรฟีกาทั้งสองข้างนั้นมาจากภูติจิ๋วสองตัวและไม่ใช่เสียงของใครนอกจาก...
"เซรีกา(เซริกะ) เคียคูราโน(คิคุโนะ) เจ้าตามข้ามาทำไม? ...กลับไปซะ!!" เรฟีกาออกคำสั่งด้วยสีหน้าจริงจัง
"ไม่ค่ะ!! พวกเราจะไม่ยอมไปไหน ขอให้เราได้อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับท่านเรฟีกาในฐานะสหายตลอดไปเถอะค่ะ!!"
'นี่สินะ พลังแห่งมิตรภาพ ช่างน่าซึ้งใจเหลือเกิน ...อุ๊! น้ำตามายามันจะไหล'
"ถ้าอย่างนั้นก็ไปด้วยกันเถอะนะ เซรีกา เคียคูราโน!!"
"ค่ะ ท่านเรฟีกา!!"
"แต่ก่อนอื่น... พวกเจ้าช่วยแนะนำทางไปโลกมนุษย์ให้ข้าก่อนสิ? ตอนนี้ข้ามืดแปดด้านแล้ว"
"...จะว่าไปแล้วเหมือนเราจะรู้จักตระกูลที่ทำธุรกิจขนส่งแต่เบื้องหลังแอบลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายจากต่างมิติมาขายในโลกปิศาจอยู่นี่นา" เซรีกากล่าวกับเคียคูราโนราวกับจะให้ช่วยกันคิด
'เอ๋! มีคนทำเรื่องผิดกฎหมายอย่างนั้นด้วยหรือ? ยอมไม่ได้แล้ว! ถ้าลักลอบเอาของต่างมิติเข้ามาล่ะก็ต้องมีอาหารที่น่าลิ้มลองจากมิติอื่นอยู่ด้วยสินะ! ตระกูลนี้ช่างร้ายกาจจริงๆ'
"อ๋อ! เจ้าคงหมายถึงตระกูลซูรูฮานน์(ซึรุฮานะ)สินะ"
'ซูรูฮานน์งั้นหรือ?'
เซรีกากับเคียคูราโนหันหน้ามองเรฟีกาชั่วครู่จึงตกลงใจว่า...
"พับความคิดนี้ทิ้งไปเถอะ!"
"ไม่! เราไปหาบุตรสาวตระกูลซูรูฮานน์กันเถอะ"
"แต่ว่า... ตระกูลซูรูฮานน์อาจจะเป็นหนึ่งในกบฏก็ได้นะคะ"
"ไม่มีทาง! เพราะข้าเคย(บีบบังคับ)ให้บุตรสาวตระกูลนั้นลงนามสัญญาเลือดกับราชวงศ์คีโธอีนตอนที่นางรวบรวมสมัครพรรคพวกมาพยายามล้มล้างอำนาจของข้าเมื่อครั้งฤดูใบไม้ผลิมาก่อน" เรฟีกายิ้มอย่างมั่นใจ
'คิดไม่ผิดเลยจริงๆที่ทำสัญญาเลือดเอาไว้'
ว่ากันว่าเลือดมีความสำคัญต่อเหล่าอมนุษย์ทั้งหลาย(ยกเว้นเหล่าอันเดด) หากได้กระทำสัญญาเลือดไว้แต่เกิดการตระบัดสัตย์ ผู้ที่ลงนามในสัญญาจะต้องมีอันเป็นไป...
"เอาล่ะ เซรีกา เคียคูราโน เราไปหาคุณหนูตระกูลซูรูฮานน์กันเถอะ!!"
เรฟีกายืดตัวตรงแล้วเนรมิตพัดสีแดงสดรูปโบตั๋น ก่อนจะสาวเท้าเดินไปอย่างมาดมั่น เพียงแต่ว่า...
"ท่านเรฟีกา! ท่านจะไปหาพวกเขาด้วยร่างที่แท้จริงแบบนี้ไม่ได้นะคะ!"
'...จริงด้วยสินะ'
เรฟีกาเนรมิตตนให้ดูราวกับชาวบ้านทั่วไปและปกปิดผมทรงเกลียวสว่านอันเด่นสง่าด้วยทรงผมธรรมดาๆแบบบ็อบยาวประบ่าและหน้าม้าตรงสีดำ
'เรฟีกา เธอคิดเหมือนฉันรึเปล่า?'
'ฉันก็คิดเหมือนเธอนะเคียคูราโน'
'ดูแปลกตาไปจริงๆด้วย ...อย่าหลุดขำออกมานะเซรีกา!'
'เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ!'
"ไปกันเถอะ!!" เรฟีกากล่าวอย่างมุ่งมั่นโดยไม่ทันได้สังเกตเห็นเพื่อนภูติทั้งสองที่ไหล่สั่นระรัวอย่างห้ามตัวเองไม่ได้...
(ขอคนต่อด้วย ...กูตันแล้ว)
ky มีใครอ่านหอพัก 95 ในwebtoon ไหมมึง พอดีกูอ่านตอนล่าสุดแล้วนึกถึงเอ็นโจ พระเอกทำเรือแตกด้วยคำพูดเหมือนกัน หน้ายิ้มๆเหมือนกัน เหมือนห่วงนางเอกแต่ยังสับสนในตัวเองงี้ แถมนางเอกมีพี่(ที่ดูเป็นซิสค่อน)ด้วย555
ต่อๆ >>615
ถนนที่เคยสัญจรไปมาจากเมื่อก่อนที่เงียบสงบอยู่เสมอ บัดนี้กลับเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน ผนังบ้านทุกหลังล้วนมีกระดาษที่เขียนถ้อยคำปลุกใจแปะเอาไว้ ถ้อยคำที่ปลุกแรงฮึกเหิมของประชาชน แต่กลับทำให้แรงสู้ของเรฟีกาหดเล็กลง...
'เราคงต้องรีบตามหาท่านพี่ให้เจอเร็วๆก่อนที่ท่านพ่อท่านแม่จะเป็นอันตรายแล้วล่ะ!'
ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่เรฟีกาก็เป็นเพียงเจ้าหญิงหัวใจเล็กที่ขลาดกลัวยิ่งนัก ก็ในเมื่อตอนนี้เธอกำลังจะบุกเข้าไปเจรจากับอดีตศัตรูเบอร์หนึ่งอย่างคุณหนูตระกูลซูรูฮานน์นี่นา ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะต้องเห็นสายตาแบบไหนจากคุณหนูผู้อวดดีคนนั้น
"ถึงคฤหาสน์ซูรูฮานน์แล้วค่ะ"
ถึงจะไม่พูดออกมาทุกคนก็รู้ว่าบรรยากาศที่คฤหาสน์ซูรูฮานน์มันช่างเงียบสงัดราวกับเทวสถานที่ราชวงศ์คีโธอีนเคยยึดคืนมาจากเหล่าเทวดาเมื่อราว 200 ปีก่อน ราวกับว่าคนในตระกูลนี้พากันหนีวิกฤตทางการเมืองไปหมดแล้ว
แค่คิดเรฟีกาก็รู้สึกปวดกระเพาะขึ้นมา ราชวงศ์คีโธอีนอันเคยรุ่งเรืองจะมาจบลงในยุคของนางอย่างนั้นหรือ...
มือเรียวบางเอื้อมมือคว้าสายที่โยงกับลูกกระดิ่งหน้าประตูทางเข้า...
"ท่านเรฟีกาจะทำอะไรค่ะ!!!" เสียงสหายตัวจิ๋วดังกรีดแหลม
'นอกจากจะรู้สึกปวดกระเพาะแล้วเราต้องมาปวดแก้วหูอีกงั้นเหรอ ชีวิตเราช่างอาภัพจริง'
"ก็สั่นกระดิ่งเรียกคนในบ้านไง"
"ไม่ได้นะคะ ถ้ามีเสียงมาจากทางนี้ชาวบ้านจะสงสัยแล้วกรูกันเข้ามาดูได้นะคะ!"
"ถ้าอย่างนั้นจะให้ทำยังไงล่ะ?"
"ล่องหนเข้าไปไงคะ"
"แต่วิธีนั้นมันเสียมารยาทนะ"
"ปิศาจอย่างเราไม่เคร่งครัดเรื่องมารยาทกันหรอกนะคะท่านเรฟีกา" เซรีกามองเรฟีกาด้วยสายตาแน่วแน่
ประตูคฤหาสน์ของซูรูฮานน์ถูกล็อคทั่วทุกสารทิศ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกภูติเลยสักนิด เพราะพวกนางสามารถแปลงตนให้เล็กลงและลอดผ่านช่องเสียบกุญแจเข้าไปได้
'เป็นภูตินี่ดีจังเลยน้า' เรฟีกาคิด
------------------------------
ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงหน้าห้องของบุตรสาวตระกูลซูรูฮานน์
"เจ้าคิดว่านางจะอยู่ไหม?" เคียคูราโนถาม
"ส่วนตัวแล้ว ข้าว่า...ไม่" เซรีกาตอบหน้าเจื่อน
"ลองเข้ากันไปดูก่อนเถอะเผื่อจะมีเบาะแสมาบ้าง"
เซรีกามุดตัวเข้าไปในช่องเสียบรูกุญแจแล้วออกแรงบิดลูกบิด
ทันทีที่เรฟีกาเข้ามาถึง...
"กรี๊ดดดดด!!!"
"กรี๊ดดดดด!!!"
0000000000000000000
ต่อจาก>>618
ตรงหน้าเรฟีกาคือหัวของบุตรสาวตระกูลซูรูฮานน์ที่ลอยอยู่กลางอากาศ
คนที่มองผิวเผินอาจจะนึกว่านางได้เสียชีวิตไปแล้วถ้าส่วนอื่นของร่างกายนางไม่ตามศีรษะของนางมาด้วยในภายหลัง
"พวกเจ้าเป็นใคร บุกรุกเข้ามาในบ้านข้าได้อย่างไร?!" เจ้าของบ้านตะโกนลั่น
"ใจเย็นๆก่อนซูรูฮานน์ นี่ข้าเอง'เรฟีกา'"
"หะ!... แล้วท่านมาทำอะไรที่นี่?"
"ข้าต้องการจะเดินทางไปยังโลกมนุษย์ เลยจะมาขอความช่วยเหลือจากเจ้า"
"...'ช่วยเหลือ'" คุณหนูตระกูลซูรูฮานน์ยิ้มเยาะอย่างอวดดี
ถึงแม้จะทำให้คิ้วของเรฟีกากระตุกขึ้นพร้อมความรู้สึกเดือดพล่านภายในจิตใจ แต่นางก็ต้องข่มไว้
'ท่องเอาไว้ เพื่อราชวงศ์ๆๆๆๆ'
"ได้สิข้ายินดีช่วยเจ้าหญิงเรฟีกาเป็นอย่างยิ่ง ไหนๆก็ตกอับมาแล้วขอร้องข้าอย่างนอบน้อมเช่นนี้ มีหรือที่คนใจบุญอย่างข้าจะไม่ช่วยเหลือได้"
"มากเกินไปแล้วนะซูรูฮานน์!!!"
"อย่านะ... เซรีกา เคียคูราโน"
"ท่านเรฟีกา!!"
เรฟีกาข่มน้ำตาไม่ให้เพราะคำดูถูกก่อนจะเอ่ยเข้าเรื่อง
"มีวิธีใดบ้างที่ข้าจะข้ามไปยังโลกมนุษย์ได้?"
"จริงๆก็มีหลายวิธีอยู่นะ แต่ถ้าท่านมาเอ่ยปากขอ'ความช่วยเหลือ'จากข้า ข้าก็จะแนะนำทางที่ดีที่สุดให้"
ไม่พูดเปล่าคุณหนูตระกูลซูรูฮานน์ลุกขึ้นไปเปิดกล่องไม้สลักลายสวยงามแล้วหยิบกุญแจสีทองดอกนึง
"กุญแจดอกนี้คือกุญแจไขประตูมิติที่ข้าแอบไปทำมาอย่างลับๆเพื่อเอาไว้สำรองกุญแจตัวจริงที่ครอบครัวของข้าจะมีติดตัวทุกคน"
"ถ้าอย่างนั้นที่เจ้าโผล่มาจากอากาศเมื่อครู่นี้ ก็เพราะกุญแจมิติสินะ"
"ใช่แล้ว แต่กุญแจมิตินี่เป็นกรรมสิทธิ์ของบ้านซูรูฮานน์เท่านั้น หากคนนอกตระกูลจะถือครองมันได้ก็จำเป็นจะต้องมอบสิ่งแลกเปลี่ยนกับพลังของมันก่อน"
"ถ้าอย่างนั้นข้าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดกัน?"
"สิ่งแลกเปลี่ยนจะต้องอยู่ในดุลพินิจของเจ้าของกุญแจอย่างข้า"
"...."
"จะให้ข้ายึดดวงความรักของท่าน ก็เห็นทีว่าจะเสียเปล่า"
"หมายความว่าอย่างไร?!"
เจ้าหญิงเกิดอาการปวดกระเพาะขึ้นมาอีกครั้ง ช่างเป็นคำพูดที่เสียดแทงใจนางเหลือเกิน
'อัปมงคลๆๆๆๆ'
ซูรูฮานน์ใช้หางตามองเซรีกาและเคียคูราโนอย่างรู้ทัน
"ก่อนข้าจะมอบกุญแจดอกนี้ให้กับท่าน ข้าขอให้ท่านรับรู้ข้อตกลงในการใช้กุญแจและการใช้ชีวิตในโลกมนุษย์เสียก่อน
สำหรับบุคคลนอกตระกูลแล้วกุญแจดอกนี้จะใช้ได้เฉพาะในวันที่มีอุปราคา ท่านจะทำวิธีไหนเพื่อสร้างอุปราคาก็เป็นเรื่องของท่าน แต่เมื่อใดที่เกิดแสงสว่างขึ้นที่มณีบนหัวกุญแจท่านจะสามารถเปิดมิติได้ แต่หากมณีหายไปกุญแจดอกนี้จะเป็นเพียงกุญแจธรรมดาๆดอกนึงเท่านั้น"
"..."
"ท่านห้ามใช้พลังวิเศษบนโลกมนุษย์หรือหากจำเป็นจะต้องใช้ก็จงใช้ในที่ลับตาคน ประตูมิติก็เช่นกัน ไม่เช่นนั้นเทวดาและนักล่าปิศาจจะร่วมมือกันมาจัดการท่าน!!"
เรฟีกาลอบกลินน้ำลายอย่างช้าๆ ชีวิตนอกอาณาจักรของนางน่ากลัวจริงๆ ท่านพี่ของนางใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนั้นได้อย่างไรตั้งนานสองนานกันนะ
"ได้ฟังแล้วท่านคิดอย่างไร จะรับกุญแจดอกนี้ไปอีกหรือไม่?"
"ข้ายินดีจะรับมัน!"
"ดี! ...กุญแจเอ๋ยจงฟังคำข้า ในนามของตระกูลซูรูฮานน์ผู้ครอบครอง ข้าขอมอบเจ้าให้แก่เจ้าหญิงเรฟีกา โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือ..."
"..."
"เมื่อนางโป้ปดหรือคิดอกุศลครั้งใด หน้าท้องนางจะยื่นครั้งละ 1 เซนติเมตร! ทางแก้คือการทำความดีลบล้างความผิดเท่านั้น!!!"
'พุงยื่น พุงยื่น พุงยื่น'
"...ซูรูฮานน์ กล้าดียังไงมายื่นข้อแลกเปลี้ยนเช่นนี้กับท่านเรฟีกา!!!"
"ก็ถือว่าเป็นค่าตอบแทนเล็กน้อยจากสัญญาเลือดอันไม่เป็นธรรมของนายเจ้าแล้วกันนะ... ประตูมิติเปิดแล้ว จงรับไปซะ"
คุณหนูซูรูฮานน์ยัดกุญแจใส่มือเรฟีกาที่กำลังช็อคกับข้อแลกเปลี่ยน แล้วออกแรงผลักนางให้ผ่านช่องว่างของมิติ
"โชคดีนะเจ้าหญิง"
'พุงยื่น พุงยื่น พุงยื่น'
------------------------------
วาบ!
ตุ๊บบ!!
"ท่านเรฟีกา เป็นอะไรรึเปล่าคะ?"
'พุงยื่น พุงยื่น พุงยื่น'
"ท่านเรฟีกา!!"
"อ๊ะ! เราอยู่ที่ไหนกัน?"
"โลกมนุษย์ค่ะ แต่ดูเหมือนที่นี่จะเป็น...โบสถ์คริสตจักร"
"เอ๋!"
"รีบออกจากที่นี่ก่อนที่เราจะสูญเสียพลังกันเถอะค่ะ!!"
"...นั่นสินะ"
เรฟีกากำกุญแจมิติแน่น
'ท่านพี่ น้องจะตามหาท่านพี่ให้เจอให้ได้!!'
------------------------------
'เสียงดังอะไรกันนะ'
เจ้าของดวงหน้าหล่อเหลาที่มีดวงตาอ่อนโยนคู่นั้นสะบัดศีรษะคลายความึน และเดินออกมาดูหน้าโบสถ์ของตน
จากการรับใช้พระเจ้ามานานแรมปีของเขาทำให้ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่หญิงสาวในเมืองล้วนสยบให้สามารถมองเห็นในสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็นได้ บัดนี้หญิงสาวที่กำลังเดินออกจากโบสถ์ตรงหน้าเขาล้วนไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาทั้งสิ้น
'น่าสนุกดีแฮะ' เจ้าของเรือนผมสีดำที่ส่องประกายสีทองเมื่อโดนแดดยิ้มอย่างหรรษา
เห็นทีบาทหลวงรูปนี้จะรับใช้พระเจ้านานเกินไปเสียแล้วกระมัง?
(ขอคนต่อด้วย)
เกลียดคำสาปปปปป มึงทำร้ายเจ้าแม่ไปแล้วววว 1เซนไม่ใช่น้อยๆนะมึงฮือออ
ปล.บาทหลวงโบสถ์นี้ได้ตกสู่ด้านมืดไปแล้วสินะ....
อ่านตอนล่าสุดแล้วคิดว่าท่านเรย์กะคงคิดว่าท่านพ่อพุงกลมของตัวเองดีกว่าท่านพ่อสุดเท่คาบุรากิแล้วใช่ไหมนะ
ขอบคุณโม่งแปลสำหรับตอนใหม่!!!
จอมมารรุกอย่างจริงจังแฮะ แบบนี้เดี๋ยวสาวเขาก็เกลียดเอาหรอก ไอ้การใช้เพื่อนเป็นเครื่องมือนี่ใครสอนท่านคะ หุๆๆ ตัวเองไม่มีปัญหาขอไปกับเขาสินะเนี่ย~
ฉากหน้าเว็ดดิ้งดอลล์ฝีมือท่านเรย์กะ ฉากเบื้องหลังคุณาซาจิมะนั่งจิ้มหลังขดหลังแข็ง
สู้เขานะคุณเลขา
แหม่ๆ เผยรอยยิ้มน่ายำเกรงไม่แพ้เอ็นโจอีกละ เวลานางจะขู่ใครหรือทำให้ใครเชื่อถือนี่นางชอบเลียนแบบเอ็นโจตลอดเลยอะ แสดงว่าเอ็นโจนี่น่าเชื่อถือในสายตานางสินะ ส่วนเวดดิ้งดอลปีนี้ทานุกิอาจจะไปแอบซุ่มฝึกฝีมือแบบลับๆมาแล้วก็ได้นา จะได้มาช่วยลูกสาวได้ เพิ่มค่าความรักที่ลูกสาวมีให้แล้วเอาไปเยาะเย้ยลูกชายตัวเอง 555555
>>628 กูว่าเรย์กะน่าจะห้ามแตะไปเรียบร้อยละว่ะ//มองลูกชายอย่างอิจฉาไปนะคะคุณพ่อ
ว่าแต่ไม่มีใครคิดอย่างกูหน่อยเหรอว่า ที่เอ็นโจพูดเหมือนพยายามชวนเจ้าแม่แล้วบอกว่ามันเป็นสถานที่เดทที่ดีคือการขอเจ้าแม่เดทอยู่//ถึงอ้อมแต่ก็ได้อยู่นะเว้ย ดับเบิ้ลเดทเลยด้วยกรี๊ซซซซ
ปล.เจ้าแม่ไม่เหมาะกับเผาไฟหรอก ทรงผมอย่างนั้นมันต้องกิโยตินชัดๆถถถถ
มุมมองท่านฟุยุโกะ
หลังจากคุยกันเรื่องหนังสือ ท่านเรย์กะก็จ้องฉันอย่างเดียวเลย มีอะไรอยากคุยกับฉันรึปล่าวคะ? ต้องเป็นเรื่องหนังสือหนังมนุษย์นั่นแน่ๆเลย!! แต่ตอนนี้คนเยอะเกินไป เลยไม่กล้าพูดสินะ แหม~ท่านเรย์กะ ไม่เห็นต้องอายเลย หุหุ
เอ๊ะ มีรุ่นน้องชวนออกไปคุย เอ๋~คุยอะไรกันน้า~ หัวเราะคิกคักเลย
"นะ น่ากลัวเหลือเกิน!"
"ถูกถลกหนังทั้งเป็น!"
"ถูกสูบเลือดสดๆ!"
อ๊ะ ท่านเรย์กะคุยกันเรื่องนั้นเอง แหมท่านเรย์กะละก็~ น่าจะชวนฉันร่วมวงด้วยนะคะ
เออสรุปรุ่นน้องขวัญผวาจริงหรอแง เจ้าแม่ทำอะไรลงไป๊
>>636 กูเผลอนึกภาพตามเป็นแบบนี้เลย 555555555
วาคาบะ : คุณคิโชอิน จะลองชิมน้ำแข็งไสของฉันก็ได้นะ
เรย์กะ : เอ๋ จะดีหรอคะ งั้นก็...ขอคำนึงนะคะ อ้าม~
คาบุรากิ : ดีล่ะ ชูสุเกะ ช่วงที่คิโชอินกำลังดึงดูดความสนใจทาคามิจิอยู่ มาช่วยฉันเลือกดอกไม้ให้ทาคามิจิเร็วเข้า /ลาก
เอ็นโจ : ........
อะไรกัน หรือว่านี่คือดับเบิ้ลเดทในตำนาน
อยู่ๆกูก็คิดว่าถ้าเรย์กะกับคาบุทะลุมิติไปคุโรมาตี้น่าจะอยู่กันได้สบาย555555
>>647 ชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนชี้ชวนกันดูดอกไม้ว่าต้นไหนสวย จะซื้อต้นไหนดี เหมือนคู่รักเพิ่งแต่งงานพากันมาเลือกซื้อของเข้าบ้าน ด้านหลังเป็นสาวน้อยสองคนผลัดกันป้อนอาหารเข้าปากกันและกัน ชี้ชวนกันให้ดูว่าร้านไหนน่ากิน ร้านนี้น่าอร่อย ใครกินเลอะก็เช็ดปากให้แบบกระหนุงกระหนิงน่ารัก นี่มันดับเบิ้ลเดทในฝันเชียวนะมึง 555555
>>650 หัวหน้าห้องด้วย น่าจะเป็นพวกเดียวกับลูกกระจ๊อกของโฮคุโตะได้ เวลาจะบอกชื่อทีไรต้องมีอะไรมาขัดขวางตลอด
วันนี้มีเวลาว่างนิดหน่อยเลยกะจะเข้าไปอัพสารบัญ แต่สารบัญเอ็นโจหายไปว่ะ ฮ่วย หายไปไหนละนั่น
เล่นของใส่เหล่าโม่งให้เว็บล่มกันบ่อยๆ โดนเล่นของกลับซะแล้วพ่อองค์ชาย
มีใครเผลอกดผิดรึเปล่า เหมือนจำได้ว่าเคยมีแบบนี้มาก่อนคนกดต้องไปกดย้อนกลับให้มั้ง ใครเข้าไปเผลอกดอะไรลองเข้าไปเช็คๆที
"ผมเฝ้ามองเธอมาตั้งแต่ยังเล็กยังน้อย คอยดูแลปกป้องมาตลอด และผมก็จะยังคงคอยปกป้องเธอตลอดไป" /คานซังเซ่ด (?)
5555555555555555555555555555
แท็กเลิฟของกรู Activated เพราะจอมมารไม่ทันไร พวกมึงก็ลากไปแท็กฟู้ดอีกละ ถถถถ แหล่งกาวกรูยังไม่เป็นใจ เจ้าแม่กรูมีหวังคู่กับคานซังแหง
นึ่พวกมึงโกรธแค้นอะไรเจ้าแม่กัน ทำไมต้องทำร้ายกันขนาดเน้ ;_; //สาดเกลือรัวๆ
ถ้าสมมุติว่า.. ท่านฮิโยโกะป่วยหนัก. หรือกำลังไปเรียนต่อเมืองนอก หรือคลอดลูกล่ะ
พวกโม่งไทยและญป จะมีใครรู้มั้ย
ได้แต่เฝ้าคอยด้วยความหวังลิบหรี่
คราวนี้หายไปนาน กูว่าต้องกลับมาพร้อมความพีคในตอนที่ 300 แน่ๆ
ทำไมกูเปิดอ่านตอนล่าสุดไม่ได้...//ร้องไห้แปป
วันนี้สมัครสอบแกทแพท โม่งแปลก็อัพตอนเตรียมสอบ ตอกย้ำเข้าป๊ายยยย อีกไม่ถึงร้อยวันแล้ว ฮือออ
"อีนี่เลวเหลือรับ" ประโยคนี้พีคสัส โอ๊ยยยยยยย
ปล. ดูจากการถอยของทาคากิคิดว่าพวกอุเมะฯ คงคิดว่าท่านเรย์กะเป็นแบบข้างบนแน่ๆ
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่
พูดถึงเรื่องสอบเข้าแล้วนึกถึงสมัยม.ปลายเลยนะเนี่ย ตอนนั้นก็คิดว่าขยันที่สุดของกูแล้วนะ แต่พอมามหาลัยกูต้องขยันมากกว่าอีก.. ไม่งั้นเกรดร่วงแน่นอน
...กูทำงานแล้ว วันๆ เลยได้แต่นั่งเล่นเน็ตอยู่ออฟฟิศไป ไอ้ที่เคยโดนกรอกหูมาว่าชีวิตทำงานมันลำบากงั้นงี้ไม่เห็นจะจริงเลยวะ
ยังไงก็สู้ๆ นะนักเรียนเตรียมสอบทั้งหลาย อาห์~ คิดถึงวันวานตอนไปจุดเทียนส่องผลเอ็นสะท้านฉิบหาย
พวก 30+ สินะ
นี่มันการระลึกความหลังของเหล่าโม่งวัยเยาว์? ถถถถ
คารวะท่านผู้อาวุโสทั้งหลายค่ะ m(_ _)m
เดี๋ยวนะ!? กุ 30 ยังเข้าผ่านเน็ตเช็คผล แต่ถึงกับส่องเทียนนี่กุว่าน่าจะ 50+ แล้วนะ!
/คลานเข่าเข้ากระทู้
กราบสวัสดีเหล่าโม่งซุยรันอาวุโสทุกท่านเจ้าค่ะ
นะ..นี่มันรวมรุ่นเหล่าโม่ง (อายุรวมกัน) พันปีนี่นา!!
ท่านฮิโยโกะนี่เก่งนะ แต่งนิยายแล้วช่วงอายุกลุ่มคนอ่านกว้างมากๆ แบบเด็กอ่านได้ผู้ใหญ่อ่านดี
ไอ้ชายอ่านดีนี่กูยังสงสัย ยังไงก็คงไม่เยอะมากเท่าไหร่ปะวะ น่าจะซัก 20% .... หรือว่าจริงๆ เยอะกว่านั้น
>>717 ล่มดิ คะแนนเอ็นออก ทุกคนแห่เข้าห้องคอม (อยู่หอ) ทุ่มนึงมั้ง อีก 10 นาทีเว็บล่ม กูโชคดีได้ดูก่อนเว็บล่ม (เพราะเป็นพวกสิงเล่นเกมห้องคอม เลยรู้คนแรก ๆ ตอนที่มีคนหวีดขึ้นมาว่าคะแนนออกแล้ว)
>>719 หยาบคาย! เน็ตมีกว่า 20 ปีแล้วนะยะ อีเมล์แรกเรา 20 ปีที่แล้ว ยุค netscape ก่อนมาเป็น IE แล้วถึงจะมี chrome มี firefox
>>720 คอมแมคอินทอชปะ แบบคอมในหลวง เปิดออกมาเป็น dos แล้วนั่งพิมพ์ command เอา ได้ยินว่าคอมแรก ๆ จริง ๆ ขนาดเท่าห้องราคาเป็นล้าน
ที่อื่นไม่รู้นะ แต่ที่ไทยที่เริ่มอ่านเริ่มแปลไทยมาจากกลุ่มผู้ชายนะ
ไม่เคยผ่านระบบเอ็นเลยไม่เข้าใจเท่าไหร่
สอบเอ็นนี่มันต้องเลือกมหาลัยใช่มะ?
สอบเสร็จแล้วเขาจะแจ้งว่าเข้าที่เลือกไว้ได้รึเปล่างี้เหรอ?
รุ่นแรก ๆ เลยตอนสมัครสอบเขาจะให้เลือกคณะ 4 อัน แล้วสอบ ทุกคนสอบเหมือนกัน แล้วประกาศคณะที่ได้ติดบอร์ด นึกภาพเปิดบอร์ดใหญ่ ๆ เรียงตามมหาลัย/คณะ คนก็ไปส่องคณะที่ตัวเองเลือก ส่องกัน 4 อัน ถ้าไม่เจอชื่อตัวสักทีจะใจหวิวแค่ไหนถามใจเธอดู
สมัยท้าย ๆ จะเป็นสอบตามวิชา มี 5 วิชาหลัก (มั้ง) วิชารองมีเยอะมาก แต่ละคณะใช้คะแนนคนละวิชา เช่นหมอใช้ หลัก 5 วิชา ภาษาก็มีวิชารองภาษาจีนงี้ สายศิลป์มีวิชารองวาดรูปงี้ วิศวะมีความถนัดทางวิศวะงี้ คนก็เลือกสอบกันไปตามคณะที่เล็งไว้ (เราสอบจีนดูด้วยขำ ๆ ตอนอยู่ม.ปลายเรียนจีนเป็นวิชาเลือกนิดหน่อย เรียนตัวย่อ ไปเจอข้อสอบตัวเต็มใบ้แดกไปเลย แต่ก็ทำได้คะแนนเยอะอยู่นะ) มีสอบ 2 รอบ ตุลา/มีนา เอาคะแนนที่ดีที่สุดไปยื่นได้ 4 คณะ ดีตรงที่ถ้าคะแนนดีหรือกากกว่าที่คิดก็จะได้เลือกคณะได้ถูก
ที่พีคสำหรับเราคือตอนทำข้อสอบเลขซ้อมไม่เคยได้ต่ำกว่า 85 แต่สอบจริงได้ 50+เอง แต่พอรอบสองที่สอบขำ ๆ (เนื่องจากตอนนั้นสอบได้ทุนเรียนแล้ว) ก่อนสอบเล่นเกมทั้งวันหนังสือไม่อ่านสักตัวดันได้เกือบ 90 งงมาก (สอบเลขได้ 50 เป็นจุดด่างพร้อยในชีวิตเลย)
อ้อมีคะแนนสมทบจากเกรดม.ปลายมารวมด้วย นัยว่าต้องการให้เด็กตั้งใจเรียนในโรงเรียน แต่ผลคือครูปล่อยเกรดกระจายเพราะกลัวลูกศิษย์เอ็นไม่ติด (และมีผลต่อภาพลักษณ์โรงเรียน)
อา พูดถึงคอมรุ่นเก่า กูพอจำได้ลางๆว่าเวลาจะทำอะไรไม่ว่าเปิดโปรแกรมหรือแค่เล่นเกม ต้องใส่รหัสอะไรซักอย่างหลังไดรฟ์ซีอ่ะ แต่เรื่องเอนท์นี่ไม่แน่ใจ คือกูสอบตรงได้แต่ช่วงนั้นน่าจะเริ่ม onet gatpatใหม่ๆเลยมั้ง /กูยังไม่แก่ที่สุดสินะ 555
ไม่เข้าใจความรู้สึกของการสอบเอนท์ว่ะ...........กูโควต้า แถมเป็นมหาลัยที่ต้องการด้วยเลยไม่ดิ้นรนอะไรเลย
นี่วันแซยิดเหล่าโม่งกันสินะถถถถ//เอ็นเอินอะไรไม่รู้จัก แต่โดนแย่งเปิดจม.ก่อนได้เปิดเองนี่โคตรเฟล
ยังไม่อยากคิดเรื่องสอบเข้ามหาลัยเล๊ยยย T_T ทุนหาไม่ยากก็จริง แต่ติดยากจังค่ะ
ใช่ละ คอมต้องคีย์ command อะไรเองหมดเลย หน้าจอดำ ๆ เขียว ๆ อะ เน็ตก็เหมือนเป็นอินทราเนตมั้งใช้ในองค์กร หรือมันคนละยุคกัน เริ่มนานละ
ขอ ky แปป สารบัญเอ็นโจที่หายไปโม่งเจ้าของไฟล์กู้กลับคืนมาให้ได้มั้ยนั่น มีใครไปเผลอลบรึเปล่าอะ
ก็อกๆ นี๋โม่งแปลนะ เอาตอนใหม่มาหย่อนไว้ให้ก่อน วันเสาร์ขี้เกียจตื่นเช้าอ่า
กู้สารบัญจอมมารกันได้ไวๆ นะ ฮือๆ
คนไม่อยากคุยล่ะ~ มือมันไปโดนปุ่มรับสาย เองล่ะ~ ไม่อยากคุยด้วยเลยจริงๆนะ!!
แต่จบตอนแล้วยังไม่วางสายเลย นี่มันคืออะไร!!?!
กรี๊ดดดด โม่งแปลลล ดีใจฝุดๆ มาจุ๊บทีนึง
สงสารท่านเรย์กะ ขนาดปิดเทอมคาบุยังตามมาป่วน
สงสัยตอนหน้าได้ไปทัวร์กันอีกแน่เลย
รอตอนหน้าใจจดใจจ่อ มีคาบุกะเรย์กะ ความฮาบังเกิด
>>735 อยู่ยุค disk A floppy ใช้ถึงม.ปลาย ยังจำได้ สีม่วง ๆ เอามาใช้ลงข้อมูลโครงงาน จนที่ไม่พอ ตอนนั้น thumb drive อันเป็นพัน เก็บได้ 100 Mb มั้ง เลยไม่มีใครซื้อ เอาข้อมูลไปลง yahoo briefcase ยังจำ login password ได้อยู่เลย
แต่ disk B เกิดไม่ทันเหมือนกัน มีใครทันอันนั้นมั่ง
ว้าว ตอนใหม่มาแบบเซอร์ไพรส์! อาหาร ความรัก และมิตรภาพ ยังคงเส้นคงวาเหมือนเดิมนะ จะสรุปว่าไม่มีอะไรคืบหน้า หรือว่ามีดีล่ะ... จะโดนคาบุบุกมาหาระหว่างปิดเทอมฤดูร้อนแล้วเนี่ย
คาบุนี่ไร้เพื่อนจนดูน่าสงสารเลยว่ะ สมัยเด็กๆยังพอดูเหมือนว่าจะมีเพื่อนเป็นกลถ่มเด็กผู้ชายอยู่บ้าง(หรือลูกน้องวะ) พอโตขึ้นเหลือแต่เอ็นโอคนเดียว เวลาอยากเล่าอยากเมาท์อะไรไม่มีคนคุยด้วยจนต้องมาลงที่เรย์กะเนี่ย
ไอส่งเมลมาแล้วคาดหวังให้ตอบทันทีนี่น่ากลัวชะมัด 😂
จากคุยเรื่องอวดแฟนทำไมกลายมาเป็นคุยเรื่องอาหารได้วะ กูไม่เข้าใจ...
เหยยย. คาบุเอ๊ยย. คืบหน้าไม่เลว! ต่างจากบางคนลิบลับ. ท่านเรยกะคงรำคาญมากสินะ. หัวหน้าหมู่บ้านคานทองกับหมู่บ้านไร้เพื่อนจะมาเจอกันแล้วชิมิ ตอนหน้า
ถึงกุจะชอบเอ็นโจ แต่เคมีคาบุเรยกะนี่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ กุเม้นทซ้ำๆมาหลายทีแระ
ขอบใจโม่งแปลน้า าาา าาาา
นี่ถ้าไม่ติดว่าเจ้าตัวบอกจะจีบวาคาบะ ดูยังไงความสัมพันก็ไม่ธรรมดานะ แต่จีบเมียเก็บชาวบ้านนี่ยังไงนะ
โม่งแปลบอกว่า 279 มาแล้ว
มีพายุตั้งเค้ารึเปล่าว้า~
ฮาคาบุ โดนเจ้าแม่โยนเข้าหมู่บ้านขาดมิตรซะงั้น
สมมุตินะคะสมมุติ ถ้าท่านอิมาริคาบท่านเรย์กะไปกินได้ ท่านพี่จะเป็นยังไงคะ
นึกว่าท่านพี่จะจับท่านอิมาริไปขังบนเกาะสองต่อสองซะอีก //หยิบกาว ขึ้นมาสูด
เปิดสารบัญเอ็นโจใหม่แล้ว มีคนเปลี่ยนตั้งค่าการแชร์เป็นไม่แชร์
โอ๊ยคาบุเรย์กะตอนใหม่นี่มาแรงนะมึง ถึงขนาดท่านเรย์กะกล้าออกปากถามอาหารตั่งต่างในร้านสะดวกซื้อด้วยได้แล้วอ่ะ ปกติปิดเรื่องแบบนี้จะเป็นจะตาย นี่ธรรมชาติมากเว่อ เคยกินข้าวปั้นไส้ปลาทูน่ามั้ยค้าาาาาาา
ถ้าตัดอิมาริออก ท่านพี่น่าจะเหมาะกับผู้หญิงคนไหนในเรื่องบ้าง
กูเชียร์ท่านไอระ ตอนเด็กๆ มีโมเม้นต์กันเล็กๆ
แปะไฟล์ไว้ละกัน เผื่อก็อปแปะใหม่กันถ้าไม่ขึ้นจริงๆ พักนี้ยุ่งๆคงไม่ได้เข้าบอร์ดบ่อยนัก
สารบัญเอ็นโจ
https://docs.google.com/document/d/159ZKsOVyPisU2EKAQkNgd5PWNe4hI4WbMzVHpOU5rW0/edit?usp=drivesdk
กูมีความรู้สึกว่าท่านพี่กำลังแอบกิ๊กกับสามัญชน
กูตามมากรี๊ดด้วย อ่านรวดเดียวจนแปลไทยล่าสุด นี่มันดีงาม เสนอตัวลงทุกเรือที่ให้เจ้าแม่ลงคานได้ วงวารหนักมาก และหิวมากเช่นกัน
>>781 ส่วนใหญ่กูได้ลองแต่ขนมอันที่นอมอลๆ หาง่ายๆร้านไหนก็มีอ่ะมึง ราคาไม่เกิน200
ล่าสุดไปโดนฟองดองช็อกโกล่า(ตอนที่65และตอนอื่นๆอีกหลายตอน) ที่ไทยชอบเรียกประมาณ ช็อกโกแลตลาวา อะไรไรงี้ กูจำชื่อเมนูแน่ๆไม่ค่อยได้ว่ะ
ไปเจอในร้านฟาร์มดีไซน์มา ราคาค่อนข้างมิตรภาพเทียบกับเมนูข้างเคียง รสชาติค่อนข้างอร่อยเกินราคา วิปครีมให้เยอะดี
อีกอันไปเจอ บุรามันเจะ (ตอนที่ 175) ในเมนูของหวานร้านโอโตยะเลยลองดู ส่วนตัวกูว่าอร่อยนะ มันจะรสละมุนๆกลมๆ เต้าหู้ๆแบบที่ไม่คาว ไม่หวานมาก กูบรรยายไม่ถูกว่ะ แต่พี่สาวกูกินแล้วไม่เวิร์คนางว่ามันแหยะไป แล้วแต่คนแหละเนาะ
พุดดิ้งเดือนก่อนนู้นไปโดนของสตาบัคมา อันละประมาณ50 ถ้าจำไม่ผิด ค่อยข้างนุ่มเด้งละมุนกลมกล่อม กว่าของพวกยามาซากิ
มีรสชาเขียวอร่อยดี ส่วนตัวชอบแบบธรรมดามากกว่า
แยมกุหลาบ กูได้กินตอนญาติซื้อมาฝากจากไหนไม่รู้แต่ในไทยนี่แหละ ส่วนตัวกูไม่ค่อยชอบ แบบกลิ่นกุหลาบเป็นสบู่น้ำหอมชามันพอได้ แต่กินเป็นอาหาร(ทาขนมปัง) กูว่าประหลาด ถ้าชอบกลิ่นกุหลาบอาจจะชอบก็ได้ อันที่กูกินมันจะรสหวานอมเปรี้ยวหน่อยๆ อร่อยนะ แต่ไม่ชอบกลิ่น
พวกชีสเค้ก บราวนี่ นามะช็อกโกลา ทีรามิสุ กูไม่รีวิวละกัน
/ไปฮูล่าฮูปแป้บ กูชวนรูมเมทเปย์ฮูล่าฮูปเพราะเจ้าแม่เนี่ยแหละ
>>784 เรื่องที่ท่านเรย์กะโดนบอกว่าหน้าตาล้าสมัยบางทีกูแอบมโนว่านางอาจจะหน้าตาเป็นลายเส้นแบบกุหลาบแวซายคนเดียวในเรื่อง แล้วคนอื่นๆหน้าตาแบบลายเส้นการ์ตูนโชโจสมัยใหม่ๆหน่อย
>>790 ไม่แน่นะมึ้งงงง ความรักก็ทำให้ใครหลายคนทำอะไรโง่ๆได้หลายอย่างเหมือนกัน
แต่กูก็นึกไม่ออกอยู่ดีว่าคนแบบท่านพี่จะสนใจใครในแง่นี้ได้ กูว่าสาวนางนั้นคงเหมือนเรย์กะมั้ง ถึงทำให้ท่านพี่ชอบได้
หรือจะเอาแบบเหมือนคาบุ เพราะเอ็นโจก็ชอบคาบุเหมือนกันนี่หว่า ท่านพี่อาจจะชอบคนนิสัยแบบคาบุเหมือนเอ็นโจด้วยก็ได้ 5555555555555
ขอบคุณโม่งแปล ตอนใหม่นี้คาบุก้าวหน้าสุดๆเลย เขาทำข้าวกล่องให้กันแล้วค่ะ! ตอนที่ทั่นเรย์กะบอกทำอาหารได้อิตาเอ็นโจก็ดูสนอกสนใจ แต่ไร้ความสามารถนะ 555
ตอนนี้ก็ขอชิมสักคำอีกครั้ง
ความสนิทสนมนี่มัน อะไรกัน!!?!
//สัญชาตญาณ ช่วยชีวิตเอาไว้นะคาบุรากิ
///ถ้าเป็นจอมมารคงรับไว้ด้วยความยินดี ถถถ
พ่อหนุ่มคาบุ ทำไมพ่อช่างน่ารักอะไรเยี่ยงนี้ จะว่าไปนี่พ่อก็เปิดอกคุยกะท่านเรย์กะเรื่องอาหารการกินแบบตรงไปตรงมาเลยนี่นา ไม่ก็คือไม่ เหตุผลเพราะอะไรก็บอกซะชัดแจ่ม แต่ว่าทำไมพอท่านเรย์กะสมติว่าจะทำอาหารมาให้เนี่ย ทำไมเกิดจะแถแถ่ดๆๆ หนีไปล่ะงั้น คือกล้าปะฉะดะไม่ไว้หน้ากะทุกคน แต่กับคนนี้กลับไม่กล้าปฏิเสธตรงๆ งั้นเร้อ กลัวอะไรอยู่กันนะ สรุปว่าท่านเรย์กะคือผู้ที่ยืนอยู่บนยอดปิรามิดจริงๆ สินะ
รู้สึกคาบุชักจะเม้ามอยเรื่องอาหารของวาคาบะมากกว่าเรื่องของวาคาบะซะแล้ว55555555
อะโด่ แค่เขาจะทำข้าวกล่องมาให้ทำเป็นคุย ท่านเรย์กะกินข้าวบ้านเขาประหนึ่งเป็นลูกอีกคนยังไม่เห็นคุยข่มเลย
ขอบคุณโม่งแปล รวดเร็วทันใจ ตอนนี้มันดีต่อใจจริงๆ พ่อหนุ่มคาบุถึงกับต้องแถไปเรื่องอื่น กลัวในพลังของเจ้าแม่สินะ สินะ
คาบุกับเรย์กะเนี่ย เฟรนด์โซนมากๆเลยว่ะ แต่ก็แอบมีกร๊าวใจตรงที่เรย์กะบอกว่าถ้าทำอาหารให้ล่ะ เหมือนกันนะ ขอบคุณโม่งแปลมากสำหรับตอนใหม่นะจ๊ะ รักเสมอ
พุดดิ้งส่วนตัวชอบ custard no.4 นะ เอ้ะหรือมันคือคัสตาร์ดหว่า แต่กูชอบ มึงลองไปกินละมุนเว่อ ส่วนตัวไม่ชอบแบบที่มันดูเป็นวุ้นอ่ะ
ขอ KY สอบถามโม่งแปลหน่อย~ คือแปล 1 ตอนนี้จะตกเฉลี่ยประมาณตอนละกี่คำเหรอ?
พอดีตอนนี้กำลังหัดปรับสำนวนมาเขียนให้เข้ากับ Web novel แต่ยังกะความยาวแต่ละตอนไม่ถูกน่ะ
จะในนิยายก็ดี ในโม่งก็ดี เห็นพูดอะไรที่มันกุ๊กิ๊กหัวใจได้ไม่เท่าไหร่ก็วนกลับของกินตลอดเลยว่ะ แต่กูก็ชอบมู้นี้เพราะแบบนี้นะ
คาบุนี่พอๆกับเรย์กะเลยอะ สมแล้วที่ได้ฉายาเป็นจักรพรรดิ์คู่กับจักรพรรดินี
แบบเมื่อตอนที่แล้วยังว่าเรย์กะอยู่เลยว่าได้ยินเสียงรถอยู่อย่าโกหกซึ่งหน้าพอมาตอนนี้มาโกหกซึ่งหน้าซะเองว่าเป็นวีแกน
>>807 ที่ผ่านมาในแปลใน notepad มาตลอด ก็เลยไม่เคยนับจำนวนคำเลยอ่ะ พอเอามาแปะลง word ให้นับจำนวนคำแล้วได้หลายหน้าเยอะเกินคาดเหมือนกันแฮะ นี่ถ้ารวมเล่มคงได้หลายเล่มแล้ว เวลาทำงานจริงขยันขนาดนี้ไหม ก็ไม่... //ปาดเหงื่อ
อันนี้เท่าที่นับจำนวนคำใน word สำหรับ 3 ตอนล่าสุดนะ มันก็จะกระจายๆ หน่อย แต่คาดว่าปกติน่าจะอยู่ราวๆ 2500-3000 คำนี่แหละ
280: 2105 คำ
279 : 2808 คำ
278 : 3077 คำ
ตอนนี้เนี่ย สรุปสิ่งที่น่าเกรงขามทรงอิทธิพลที่สุดไม่ใช่คาบุหรือเรย์กะ
แต่เป็นอาหารจังสินะ (คลอดออกมาด้วยฝีมือและไอเดียสุดบรรเจิดของเรย์กะ)สินะ
อ่านท่านเรย์กะคู่ไปกับท่านเอลิซ่าแล้วก็สะเทือนใจเฮือกๆ
ฝั่งนึงก็โลกสดใส(ถึงแม้การที่ท่านเรย์กะหักธงตัวเองทิ้งรัวๆ จะน่าเศร้าเล็กๆก็เถอะ)
อีกฝั่งนึงก็มืดมนจังโว้ยยย ฮือๆ
ถึงโมเม้นท์คาบุเรย์กะจะมากมาย แต่ก็ไม่โดขิๆใดๆ ที่แน่ๆสองคนนี้น่าจะสนิทกันมากเลยแหละ รู้ใจอีกฝ่ายกันพอดู ตาคาบุนี่จะก้าวหน้าไปไกลแล้วนะ จะสมหวังกับวาคาบะจังแล้วเหรอ เจ้าแม่ ไปทวงวาคาบะจังคืน!!
อยากจะขึ้นเรือบากะรากินะ แต่สงสารเจ้าแม่5555
เอาจริงๆที่หลีกเลี่ยงเพราะจำตอนองค์เจ้าแม่กาลีลงตอนม.3ได้หรือเปล่าน้า
Ky หน่อย ถ้าทั่นเรย์กะกลายเป็นผู้ชายนี่ นิยายเรื่องนี้คงจะกลายเป็นนิยายสายฮาเร็มจริงๆสินะ ทั้งชายทั้งหญิงเลย lol มีโม่งฟิคคนไหนสนใจมั้ยกูอยากอ่านนนนน 555
ท่านเรย์กะเจอคุณโมชิดะ ตอนไหนนะกูจำไม่ได้ ตอนนี้กูเหมือนงมตอนในมหาสมุทร
KYนะ ไปไล่อ่านทวนเพลินๆ คิดว่าได้เบาะแสนายอันดับสองตอน270(หรือเปล่า?)
ตอน107 เอนโจที่1 วาคาบะที่2 ตัวสำรองที่3 บากะที่5
กำลังไล่ดูอยู่ว่ามีประกาศสอบตอนไหนอีกมั่ง
>>829 รวมอันดับสอบจากแฟนไซต์ญี่ปุ่น http://kenkyokenjitsu.com/grade/
อันนี้เเพิ่งเจอ wikia อังกฤษของเรื่องนี้ (แต่กูว่าที่ทำสารบัญกันนั่นละเอียดกว่าเยอะ ถถถ) http://kenkyokenjitsu.wikia.com/wiki/Kenkyo,_Kenijtsu_Wiki
KY ใครพอแนะนำนิยายคล้ายๆท่านเรย์กะได้บ้างจะแปลไม่แปลก็ได้ กูอยากหาอะไรอ่านรอท่านฮิโยโกะอัพตอนใหม่;W; เนื้อเรื่องดาร์คๆก็ได้
วิเกียนี่มันอัพเป็นภาษาไทยได้ไหม?
เราลองอัพภาษาไทยไป เผื่อทางที่ญี่ปุ่น ฮิโยโกะซามะจะได้รู้ว่ามีแฟนๆคอยติดตาม (แต่เราตามแบบไม่ถูกลิขสิทธิ์นี่สิ....)
โม่งแปล หลังจากที่อ่านตอนใหม่กูถึงกับต้องขี่เตี้ยนต้งออกไปซื้อชีสเค้กตอนสองทุ่มทั้งๆที่อากาศลบสาม หนาวก็หนาว แถมลมก็แรงเหมือนโดนตบหน้า แต่เพื่อชีสเค้กแล้วกูทำได้ สุดท้ายได้ชีสเค้กมาสองชิ้น เค้กเนยโปะสตอเบอรี่อีกชิ้นนึง กลับมาถึงห้องฟาดเรียบหมดภายในไม่กี่นาที ชีสเค้กมึงกับอ.ฮิโยโกะช่างทำร้ายพุงกูจริงๆ
ไม่ได้ส่อง pixiv นาน ตอนนี้มีฟิคเรย์กะหลายเรื่องเลยแฮะ
มาแปดร้อยกว่าแล้ว เริ่มตั้งชื่อมู้ใหม่กันได้แล้วมั้ง
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับซูชิไข่ปลวกและหนังสือหนังมนุษย์ (หนอนตัวที่ 23 กระดึ๊บออกมาแล้วค่า)
เออ สำหรับโม่งที่ต้องการตามรอยชีสเค้กท่านเรย์กะ ขอแนะนำ cheese cup ของ Milch ว่ะ อุ่นๆ ละมุนมาก
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับอาหารว่างยามบ่าย แหม ถ้าพูดขนาดนั้นแล้ว ขอซักคำก็แล้วกันค่ะ [คำที่ 23]
ขอบคุณโม่งแปลมาก! ตอนนี้ก็ฮามากเช่นเคย สองหน่อนี่สนิทกันจริงๆนะ การพูดสุภาพแบบท่านเรย์กะนี่ไม่รู้ว่าเพิ่มหรือลดความกวนกันแน่นะเนี้ย55555
vote >>850
จู่ๆ กูก็คิดขึ้นมาว่าบ้านคิโชวอินนี่ใครมีโอกาสทำทุจริตมากที่สุดชื่อเจ้าแม่ก็เด้งขึ้นมาล่ะ
ตอนแรกอ่านๆ ไปก็คิดอยู่นะว่าคาบุรากินิสัยแบบนี้จะทำงานกับคนหมู่มากไหวเร้อ แต่พอกลายเป็นวีแกนแล้วก็เลยมั่นใจว่าถ้าถึงจุดที่มันน่าจะแย่จริงๆ คาบุรากิก็ปรับตัวได้นะ!
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูร้อนครั้งสุดท้ายในชีวิตม.ปลายอันงดงาม [วาดฝันถึงการเดทในชุดเครื่องแบบครั้งที่ 23]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสัญชาตญาณอันเชียบคมของจักรพรรดิ[การหลีกเลี่ยงครั้งที่ 23]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับไพโรไลอิน[ปัสสาวะเป็นเลือดครั้งที่ 23]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการชวนชิมอาหารที่แสนอร่อยของเจ้าแม่ (ล้มเหลว ครั้งที่ 23)
ดูแต่ละชื่อแล้วเห็นความแปรผันจากความหวานแหววกาวๆ มาสู่อาหารซังจริงๆ ว่ะ...
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจุดสูงสุดแห่งยอดปิรามิดที่รู้ๆกันอยู่ว่าคือใคร (อ้อ โทษที ฉันเป็นวีแกนครั้งที่ 23 น่ะ)
พูดถึงโดนัทที่ท่านเรย์กะอดทานตอนทอดใหม่ๆ กูเห็นโฆษณาโดนัท Kinu ที่ทอดใหมาใช้เนยฝรั่งเศสโรยไอซิ่ง หวานน้อยนุ่มฟูแล้วอยากทานจังโว้ยยยยยย
พวกมึง............คิดดูนะ
เขาไปแดกข้าวกันสองคน
พูดคุยเปิดอกกัน
โทรหากันแบบไม่ขัดเขิน
มีการแซวว่าจะทำอาหารมาให้ด้วย
................................ขั้นนี้แล้วพวกมึงยังไม่โดขิๆ มาเม๊าท์มอยกันแต่เรื่องอาหารอีกเหรอ?
ไอ้พวกซุยรันนอกรีต!!!
พูดถึงสกีนโทนละขอเสนอ
ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสกีนโทนหน้ากากแก้ว [แปะผิดช่องครั้งที่23]
>>877 พวกขนมหลายอย่างมันก็ไม่ได้พิศดารหากินยากอะไรเท่าไหร่ ออกจะเป็นอะไรที่พื้นๆด้วย อย่างพุดดิ้ง เค้กช็อกโกแลต ราเมง บลาๆ ยกเว้นพวกที่เฉพาะทางจริงๆแบบชาร์ล็อตเค้ก คารุคัง หรือซูชิไข่ห่ออะไรทำนองนั้นอะ สาบานเลยว่ากูเพิ่งเคยได้ยินชื่อซูชิไข่ห่อครั้งแรกจากเรื่องนี้นี่ล่ะ แต่คงเป็นของหากินได้ทั่วไปของคนญี่ปุ่นมั้งนะ
ขอบคุณโม่งแปลสำหรับตอนใหม่ค่า
หัวหน้าห้องนี่คือหัวหน้าห้องจริงๆ
โม่งแปลคะ คาซึรากิกับคาบุรากิสลับกันแล้วค่ะโม่งแปล
ปล. นิยามท่านเรย์กะในสายตาไก่โง่คงไม่พ้นที่เจ้าตัวเคยรำพันใว้ "อีนี่มันเลวเหลือรับ"
ตัวไม่อยู่แต่ก็อุตส่าห์โดนเจาะเรือจนได้สิน่า 55555
มีคิดถึงวาคาบะด้วย นี่สินะตัวจริง
อ่านตอนนี้แล้วก็คิดว่าท่านฮิโยโกะตั้งใจเก็บคำเรียกเรย์กะจังไว้เป็นพ้อยต์ให้พระเอกตัวจริงรึเปล่านะ ในเรื่องมีแต่เรย์กะ คุณเรย์กะ ท่านเรย์กะ รุ่นพี่เรย์กะ คิโชวอิน คุณคิโชวอิน
จะว่าไป คนที่ท่านเรย์กะเรียกชื่อห้วนๆ ตรงๆ ก็มีแค่ริรินะนี่นา....
ท่านอิมาริไม่ได้เรียกท่านเรย์กะว่าเรย์กะจังเหรอ?
ชอบเห็นนายไก่โง่ถูกแกล้งอะ ตลก55555
เรือวาคาบะจังแล่นฉิว มีความอยากให้เรียกชื่อต้น ส่วนเอ็นโจถูกล่มเรือ55555
และแล้วหัวหน้าห้องก็ยังคงไม่มีชื่อและนามสกุลโผล่มาเช่นเคย
ก่อนจะให้เรียกชื่อสงสัยต้องให้เรียกนามสกุลให้ได้ก่อนมั้ยวะ
กูว่าไก่โง่นี่จริงๆ แล้วชอบยุยโกะ ชอบระดับใกล้เคียงคาบุรากิชอบยูริเอะเลยมั้งแต่การแสดงออกต่างกัน ยุยโกะเลยขอให้เอ็นโจช่วย เอ็นโจเองก็คงสนิททั้งสองคนแล้วก็เห็นบทเรียนของคาบุรากิแล้วก็เลยยอมแสดงละครให้เพราะไม่อยากให้ไก่โง่เจริญรอยตามคาบุรากิ(ไปหาที่ฆ่าตัวตาย)กับไม่อยากให้ยุยโกะลำบากใจ(กูว่าไก่นี่น่าจะตามยุยโกะแบบต่างจากคาบุรากิหน่อย คือตามแบบทำตัวน่ารำคาญแบบที่เจ้าแม่เห็น ชอบอวยยุยโกะออกนอกหน้าจนคนอื่นหมั่นไส้อะไรงี้) ไก่โง่คงจะนับถือเอ็นโจมากอยู่พอเห็นทั้งสองคบกันเลยยอมตัดใจจากยุยโกะได้ ตอนแรกเอ็นโจอาจจะคิดว่าไก่โง่จะเลิกพร่ำเพ้อได้สักที แต่ก็ไม่ ยังทำตัวน่ารำคาญเหมือนเดิมจนเอ็นโจปรามๆ เป็นบางครั้ง (จากเนื้อเรื่องนะ คุ้นๆ ว่าเคยปรามไม่ให้ไก่สร้างความน่ารำคาญให้เจ้าแม่เกินไป) กูว่าตอนนี้ไก่โง่กำลังพยายามสะกดจิตตัวเองอยู่ว่ายุยโกะเจอสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแล้วกำลังพยายามตัดใจ แต่ยังไม่ได้
จากนั้นเจ้าแม่ก็จะเข้ามาแทนที่จากเนื้อเรื่องตอนล่าสุด ไก่โง่ก็จะพบว่าตัวเองเป็นตัวของตัวเองได้เวลาอยู่กับเจ้าแม่ สุดท้ายไก่โง่ก็จะกลายเป็นกองอวยเจ้าแม่แทนยุยโกะ
เอ็นโจก็จะ "ช่วยหน่อยนะ คุณคิโชวอิน"
มโนจบแล้ว
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปริศนานามของหัวหน้าห้อง [เรื่องลี้ลับที่23]
>>910 ไก่โง่คงหลงยุยโกะมากจริงๆ น่ะแหละ เป็นแบ็คอัพให้ทุกอย่าง แต่ก็ยังคิดอยู่ว่าอย่างเอ็นโจไม่น่ายอมให้ใครมากขนาดนั้นถ้าไม่มีชนักติดหลัง นี่ยอมทุกอย่างจนตัวเองต้องลี้ภัยมาถึงห้อง Pivoine ในโรงเรียนที่ไม่มีใครตามถึง แต่ด้วยพฤติกรรมไก่โง่ที่คอยตามระรานเรย์กะนี่แหละที่เป็นตัวเจาะรูเรือฮีเองด้วย เหมือนไม่รู้จักปรามคนของตัวเอง ว่าแล้วก็เฮ้ออออออยาวๆ
>>916 >>917 "รู้แล้วเหยียบไว้ล่ะ จริงๆแล้วเป็นคำสาปตำแหน่งหัวหน้าห้องต่างหาก... ใครก็ตามที่ได้เป็นหัวหน้าห้องห้องXตั้งแต่ประถมปีแรก จะติดคำสาปเป็นหัวหน้าห้องทุกปีๆไปยันเรียนจบ ใครๆก็จะเรียกว่าหัวหน้าห้อง และพอถึงวันจบการศึกษา ตำแหน่งซึ่งไม่จำเป็นอีกแล้ว อดีตหัวหน้าห้องคนนั้นก็จะหายสาปสูญไปตลอดกาล..."
- คุณลุงภารโรง
>>919 เอาซึ้งๆหน่อยก็ได้
วันจบการศึกษา
"ตลอดเวลาที่ผ่านมาในซุยรัน ผมมีความสุขมากเลยล่ะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างเลยนะ...
คุณคิโชวอิน ขอบคุณที่ช่วยเป็นที่ปรึกษาหัวใจให้ผมนะ...
ทาเคชิคุง โนโนเสะจัง ขอบคุณที่เป็นเพื่อนกันและคอยช่วยเหลือผมหลายๆเรื่องเลย...
มิฮารุจัง... ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้จักความรักนะ.. ถึงจะจบลงแบบนี้ก็เถอะ แต่ว่า การมีความรักเนี่ย วิเศษไปเลยเนอะ"
"หัวหน้าห้อง..."
"ขอบคุณมากๆเลยนะ ทุกคน... ผมน่ะพึงพอใจแล้วล่ะ"
" เดี๋ยวสิ!..."
"ถึงเวลาที่ผมต้องไปแล้วล่ะ"
"ไม่นะ..."
"ถ้าเป็นไปได้... ชาติหน้าช่วยเป็นเพื่อนกับผมอีกทีนะ... "
"หัวหน้าห้อง!"
"ลาก่อน..."
" หัวหน้าห้อง!!!!!!"
แล้วร่างของหัวหน้าห้องก็จางหายไป
เออ คนที่สอบได้ที่สอง ที่ไม่มีการบอกชื่อคนนั้นอะ ใช่หัวหน้าห้องป่าว?
ชูสึเกะคือน้องชายอิมาริที่โดนตระกูลเอนโจขอไปเป็นลูกบุญธรรมเพราะมีลูกยาก ซตพ.
>>929 กูว่าน้องชายอิมาริคงโดนมุกหยอดสาวจนเอือมไม่อยากเจอหน้าพี่ชาย พอเจอทีก็แง่งๆใส่ไว้ก่อนเป็นการป้องกันตัว(?)
ว่าไปคุณน้องชายก็คงน่าสงสารอยู่ เกิดมาก็เจอพี่ชายที่ป้อสาวไม่หยุดแบบนี้ สาวที่ตัวเองจะจีบก็คงไปโดนพี่ชายปักธงกันหมด
บางทีที่หนีไปเรียนเมืองนอกก็คงหลบพี่ชายนี่แหละ ถ้าเคยเจอท่านพี่(ทาคาเทรุ)คงนับถือแหงๆ สงสารน้องเขานะครับ โถ่ถัง
เพื่อนโม่งช่วยกูหน่อย กูอยากอ่านฟิคยุยโกะอีกรอบแต่กูหาไม่เจออ่ะ ที่มันเป็นยุยโกะมาหาเอ็นโจในงานโรงเรียน
ลองหาในสารบัญแล้วไม่มีว่ะ
จะมีชายใดที่ฝ่าด่านท่านพี่ได้บ้างวะ
>>945 กูเดาว่าวาคาบะกับเอ็นโจน่ะเป็นเพื่อนกันว่ะ เพราะเดิมทีในคิมิดอลสองคนนี้ก็สนิทกันอยู่ละ ในนิยายความสัมพันธ์ก็คงเป็นแบบคิมิดอลเหมือนกัน ถ้าเอ็นโจถามเรื่องเรย์กะจากวาคาบะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันนี่ก็เท่ากับว่าเรื่องของเจ้าแม่ไม่รอดพ้นสายตาเอ็นโจเลยนะ 5555555555555
KY อยากอ่านฟิคที่มีอิมาริซามะเป็นพระเอกของท่านเรย์กะจังค่าาา
แม่มเอ๊ย เรือเอ็นโจก็เย้ายวน แต่ฟิคมีเยอะแล้ว อยากได้ฟิคท่านอิมาริบ้างเจ้าค่าเอ๊ยยย
แปลตอนใหม่นี่กูอ่านไปก็น้ำตาไหลไป ถ้าเป็นนางเอกนิยายทะลุมิติเรื่องอื่นคงสอยพระเอกเข้าสังกัดแล้ว ทำไมท่านเรย์กะกูต้องเดินทางเที่ยวคนเดียว กินขนมคนเดียวแถมฟังชีวิตรักชาวบ้านวะเนี้ย น้ำตาจะไหล ถึงกูจะไม่เชียร์คาบุวาคาบะก็ตาม แต่ดูทรงต้องฝากความหวังไว้ที่คนอื่นแล้วสินะT q T กูเชียร์เอ็นโจแทนก็ได้
สู้เขา! เอ็นโจ ยูกิโกะคุง!
950แล้วสรุปได้ชื่อมู้ใหม่กันยัง
อ่านตอนล่าสุด สาเหตุที่เจ้าตัวไปเที่ยวคนเดียว เพราะ ปฏิเสธชายหนุ่มทุกคนเองนั้นล่ะ! ถ้าแค่เปรยๆนิดหน่อยคงมีคนรีบรับพาไปเที่ยวเลย โดยเฉพาะเจ้าคนที่นั่งมอง GPS ทั้งวันนั้น...555
โอ๊ยยยย ตอนล่าสุดนี่เหม็นความรักจริมๆ ไปเที่ยวกันหวานแหวว แบ่งของกินกันกระหนุงกระหนิง ชี้ชวนกันดูดอกไม้แถมซื้อกลับไปด้วยกันเป็นที่ระลึก กูว่าวาคาบะชอบคาบุแหงๆ ถ้าไม่ได้คิดอะไรในทางนั้นด้วยคงไม่มีผู้หญิงที่ไหนยอมไปเดทด้วยกันหลายหนหรอก ทำข้าวกล่องให้ แถมให้ของนั่นนี่โน่นอีก ส่วนเจ้าแม่ก็ยังหวานแหววกับคานซังเหมือนเดิม เฮ้ออออ มีแต่คนมีความรัก น่าอิจฉาจริงๆ
>>847 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับซูชิไข่ปลวกและหนังสือหนังมนุษย์ (หนอนตัวที่ 23 กระดึ๊บออกมาแล้วค่า)
/////
>>850 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับอาการ "จู่ๆก็เป็นวีแกนขึ้นมาล่ะ!" เมื่อเจอกับข้าวฝีมือเจ้าแม่ [โกหกพกลมครั้งที่ 23]
///// ///
>>853 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับอาหารว่างยามบ่าย แหม ถ้าพูดขนาดนั้นแล้ว ขอซักคำก็แล้วกันค่ะ [คำที่ 23]
>>856 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูร้อนครั้งสุดท้ายในชีวิตม.ปลายอันงดงาม [วาดฝันถึงการเดทในชุดเครื่องแบบครั้งที่ 23]
>>857 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสัญชาตญาณอันเฉียบคมของจักรพรรดิ[การหลีกเลี่ยงครั้งที่ 23]
//
>>859 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับไพโรไลอิน[ปัสสาวะเป็นเลือดครั้งที่ 23]
>>861 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการชวนชิมอาหารที่แสนอร่อยของเจ้าแม่ (ล้มเหลว ครั้งที่ 23)
>>863 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจุดสูงสุดแห่งยอดปิรามิดที่รู้ๆกันอยู่ว่าคือใคร (อ้อ โทษที ฉันเป็นวีแกนครั้งที่ 23 น่ะ)
///
>>870 ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับอาหารว่างยามบ่าย แหม ถ้าพูดขนาดนั้นแล้ว ขอซักคำก็แล้วกันค่ะ (อ้อ โทษที ฉันเป็นวีแกนครั้งที่ 23 น่ะ)
>>872 ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสกีนโทนหน้ากากแก้ว [แปะผิดช่องครั้งที่23]
>>911 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปริศนานามของหัวหน้าห้อง [เรื่องลี้ลับที่23]
//
----------------
รวมมาให้แล้วจ้า รอดูผลไปสัก 980 แล้วกันน้อ อีกอย่าง กรุตั้งกระทู้ไม่เป็นใครตั้งเป็นเดี๋ยวสรุปล่ะช่วยตั้งหน่อยน้อ
อาา เพื่อนสาวอย่างนั้นสินะ เรือลำนี้ พังแล้วจริงๆสินะ เอาวะ โดดขึ้นเรือลำอื่นก็ได้ ไม่ใช่เรือคานเป็นโอเค อย่าลงกับเรือคานและอาหารซังก็พอ ชอกช้ำๆ เมื่อไหร่ฤดูใบไม้ผลิเจ้าแม่จะมา...
เอ้ออ เฟรนโซนแข็งปั๊ก. บ๊ายบายย เรือคาบุเรยกะจมอยู่ในหนองน้ำเฟรนโซนอย่างสงบ
เอ้า พระเอกตัวจริง แสดงตัวได้แระ นางเอกเฉาอนาจขนาดหนักแล้ว
คิดว่าระหว่างริรินะกับซากุระถ้าบุกเดี่ยวไปสู่ขอเรย์กะจากท่านพี่ ท่านพี่จะให้ใคร คนนึงก็สาวมั่น คนนึงก็กุลสตรีร้ายลึก
ถึงท่านพี่คงให้คนที่เรย์กะเลือกแต่กูอยากรู้ว่าพวกมึงคิดว่าท่านพี่ให้คะแนนใครสูงกว่า
คุณแม่เรย์กะที่ได้เห็นลูกชายคาบุเติบโตและมีความรัก ท้ายตอนท่านเรย์กะไปเที่ยวคนเดียวเหงาๆอะ ฮื้อ ขอเรือซักลำเถอะ อยากให้เจ้าแม่แฮปปี้
จริงๆถ้าเจ้าแม่ได้ไปเที่ยวกับยูกิโนะคุงก็น่าจะแฮปปี้แล้วแหละ เรืออื่นไม่หวังแล้ว555
>>847 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับซูชิไข่ปลวกและหนังสือหนังมนุษย์ (หนอนตัวที่ 23 กระดึ๊บออกมาแล้วค่า)
///// ///// /
>>850 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับอาการ "จู่ๆก็เป็นวีแกนขึ้นมาล่ะ!" เมื่อเจอกับข้าวฝีมือเจ้าแม่ [โกหกพกลมครั้งที่ 23]
///// /////
>>853 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับอาหารว่างยามบ่าย แหม ถ้าพูดขนาดนั้นแล้ว ขอซักคำก็แล้วกันค่ะ [คำที่ 23]
>>856 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูร้อนครั้งสุดท้ายในชีวิตม.ปลายอันงดงาม [วาดฝันถึงการเดทในชุดเครื่องแบบครั้งที่ 23]
/
>>857 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสัญชาตญาณอันเฉียบคมของจักรพรรดิ[การหลีกเลี่ยงครั้งที่ 23]
//
>>859 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับไพโรไลอิน[ปัสสาวะเป็นเลือดครั้งที่ 23]
>>861 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการชวนชิมอาหารที่แสนอร่อยของเจ้าแม่ (ล้มเหลว ครั้งที่ 23)
>>863 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจุดสูงสุดแห่งยอดปิรามิดที่รู้ๆกันอยู่ว่าคือใคร (อ้อ โทษที ฉันเป็นวีแกนครั้งที่ 23 น่ะ)
///
>>870 ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับอาหารว่างยามบ่าย แหม ถ้าพูดขนาดนั้นแล้ว ขอซักคำก็แล้วกันค่ะ (อ้อ โทษที ฉันเป็นวีแกนครั้งที่ 23 น่ะ)
>>872 ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสกีนโทนหน้ากากแก้ว [แปะผิดช่องครั้งที่23]
>>911 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปริศนานามของหัวหน้าห้อง [เรื่องลี้ลับที่23]
//
----------------
สรุป >>847 ชนะ >>850 ไป 1 คะแนน ชื่อกระทู้หน้าจึงเป็น
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับซูชิไข่ปลวกและหนังสือหนังมนุษย์ [หนอนตัวที่ 23 กระดึ๊บออกมาแล้วค่า]
เชี่ย มีความหลากหลายทางพันธุกรรมของชื่อมู้มาก ใครตั้งห้องเป็นฝากด้วยน้อ
>>983 จริงๆ นี่ก็ไม่ได้ชิปคาบุเรย์กะนะ แต่ก็ยังไม่ค่อยสนิทใจกับคาบุวาคาบะเท่าไหร่ เหมือนนางกั๊กๆ อยู่หน่อยๆ ถ้าทำข้าวกล่องมาให้ทุกวัน นั่งเรียนติดกันสองต่อสอง ไปเที่ยวแล้วซื้อของที่ระลึกกลับมากันสองคน (แบบจริงๆ ไม่ใช่พวงกุญแจไดโนเสาร์นั่น) มันก็ไปซัก 80% ได้แล้วป่ะวะ ไม่น่าจะควบกั๊กอาริมะได้ล่ะ
>>984 กูว่าอาริมะนี่คงเป็นเพื่อนตามเซ็ตติ้งเดิมว่ะ ยังไม่เห็นเรื่องเล่าจากฝั่งอาริมะเลย นอกจากไปอ่านหนังสือด้วยกันแล้วจบ แต่ฟังจากฝั่งคาบุนี่ไปเดท ไปดูหนัง ไปเดินงานเทศกาลด้วยกัน ซื้อของที่ระลึกไปด้วยกันอีก ตอนคาบุเล่าให้ฟังที่เขาถามว่าเป็นแฟนก็ดูไม่เห็นนางจะปฏิเสธเลยนี่ ดังนั้นกูว่าเหลือแค่คาบุไปขอคบเป็นแฟนจริงๆจังๆนางคงตกลง ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วล่ะ
>>985 กูว่าตอนขอคบมันต้องมีอีเว้นแหงๆ เรื่องมันยาวได้ขนาดนี้ละ กูเขื่อว่ามันยังขยี้ได้อีก
แต่เอาจริงๆใจกูก็ชิปคาบุเรย์กะนะ โมเม้นมันให้อะ แต่เนื้อหาบทสนามันเพื่อนสาวไปหน่อย ชิปแล้วท้อเบาๆ สุดท้ายละกูว่าให้เจ้าแม่ขายออกเป็นโอเค เรือไหนได้หมด กูลุ้นไม่ให้จบคานอยู่เนี่ย
KY เล็กน้อย เห็นว่ากระทู้เกือบเต็มแล้ว กูตั้งกระทู้ใหม่ละนะ
https://fanboi.ch/webnovel/4903/
ทั้งนี้ ทั้งสารบัญกระทู้เก่าและสนธิสัญญารวมๆ กันแม่งเกินความยาวตัวอักษรที่จำกัดไปละจ้า กูเลยยกสนธิสัญญาลงมาคห.ที่สองนะ ใครจะตั้งกระทู้ที่ 24 อย่าลืมยกไปให้ครบๆ ล่ะ มาถึงเรือลำที่ 23 กันละโว้ยยยยยย
กุล่ะชอบการแดกดันแบบสวยๆของท่านเรย์กะจริมๆ
ปั่นให้จบๆขึ้นมู้ใหม่ได้ล่ะมั้ง
เรือใครก็ได้ว้า ขอให้เทียบท่าซักลำ!!
น้องต้องการกาว....
คิดถึงฟิคบ้านพักคนชราจังเลยยยยยย
คานซังยิ้มหวานรอต้อนรับทุกคนอยู่ที่ปลายทาง
ปิดค่ะ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.