ต่อ
"ดะ ดึงเข้าหาเลยเหรอ" ผมเล่าถึงตอนที่เห็นจักรพรรดิคว้าแขนคุณคิโชวอิน
"อื้อ ตกใจหมดเลยล่ะ ตอนนั้นมิซึซากิคุงถูกมองด้วยสายตาที่เตรียมจะบดขยี้เลยด้วย อ๊ะ แต่คุณคิโชวอินก็แก้ความเข้าใจผิดให้นะ" พอมานึกดูแล้ว "จะว่าไปคุณคิโชวอินก็ไม่ได้แสดงทีท่าเขินอายเท่าไหร่ด้วย ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นอาจจะเป็นลมไปเลยก็ได้นะ"
"แล้วต่อจากนั้นล่ะ"
"ก็เป็นขบวนเสด็จกลับของจักรพรรดิกับจักรพรรดินีน่ะ ตอนนั้นเหมือนกับโมเสสแหวกทะเลเลย ทั้งที่ไม่ได้ตั้งขบวนแท้ๆ ว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นเพราะตัวบุคคล"
พูดถึงตรงนี้ก็นึกขึ้นได้
"อะ ซากุระไปเล่าให้คุณคิโชวอินฟังเหรอเรื่องขบวนไดเมียวน่ะ"
"เอ๋ อะ ก็สถานการณ์พาไปน่ะ ตอนนั้นที่ไปกินลันซ์เรย์กะปรึกษาเรื่องอิมเมจอยู่ก็เลยวิเคราะห์สาเหตุกัน ที่ซื้อมาฝากทาคุมิวันนั้นน่ะ"
"งั้นเหรอ ช่วยไม่ได้นะ คุณคิโชวอินเองถึงจะทำท่าข่มขู่นิดหน่อยว่าอย่าไปทำให้คนอื่นเข้าใจผิด แต่จริงๆ คงเขินที่ซากุระรู้ละมั้ง แต่ตอนทะเลแหวกแล้วยิ้มแย้มตอบโต้กับรุ่นน้องนี่เป็นธรรมชาติมากเลยนะ"
"อื้อ เอ๋ แบบนี้ไม่ใช่ว่าเรย์กะไม่รู้ตัวหรอกเหรอ"
พอซากุระทักขึ้นมาผมก็นึกตาม
"...มีความเป็นไปได้นะ"
ได้ยินเสียงบ่นของซากุระว่าไม่นึกว่าเรย์กะก้าวหน้าไปขนาดนี้แล้ว จากนั้นอีกฝ่ายก็เงียบไปพักหนึ่ง
"เป็นอะไรไปหรือเปล่า ซากุระ"
"อื้อ เปล่าหรอกแค่รู้สึกว่าบางครั้งเป็นตัวเองที่เอื่อยเฉื่อยไปหรือเปล่านะ"
"เรื่องอะไรงั้นเหรอ"
"ไม่มีอะไรหรอก"
ซากุระที่จู่ๆ ก็เงียบไปทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา จากนั้นก็เลยนึกถึงลันซ์ที่อีกฝ่ายเอามาฝากเมื่อตอนนั้นได้
"จริงสิ ลันซ์วันนั้นอร่อยดีนะ วันหยุดคราวหน้าไปทานด้วยกันเป็นไง"
อันที่จริงผมก็ไม่เคยบอกซากุระหรอกนะว่าจริงๆ เธอคล้ายกับคุณคิโชวอินในบางเรื่อง เช่นเวลาทำท่าไม่สบายใจ ถ้าผมพาไปเลี้ยงอาหารหรือทานไอศครีมแล้วอีกฝ่ายก็เหมือนจะสดชื่นขึ้นมายังไงอย่างงั้น หรือว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นแบบนั้นกันนะ
"อื้อ! เอาสิ แล้วจะรอนะ"
แล้วน้ำเสียงของซากุระก็สดใสขึ้นมา ว่าแล้วเชียว ต้องเป็นเพราะของกินแน่ๆ เลย
.
.
.
ลองแต่งดู พอไหวไหมอันนี้