Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสังเวียนความรักของจักรพรรดินี โอ้! ทรุดลงไปแล้วครับ! [กรรมการชูมือนับครั้งที่ 21]

Last posted

Total of 1000 posts

815 Nameless Fanboi Posted ID:HqJ72Jnjh

Ky เล็กน้อยนะคะ ต่อจาก >>740-742 ฟิคคู่หูทะลุมิติ

((ตอนพิเศษ : ถ้าไม่มีใครทะลุมิติ))

ตอนพิเศษที่แล้วเป็นฝั่งโลกคิมิดอล ส่วนอันนี้เป็นฝั่งโลกนิยายนะคะ พยายามคิดดูว่าถ้าไม่มีแหตุการณ์รถชนทะลุมิติจะเกิดอะไรขึ้น อาจต้องย้อนอดีตไปไกลถึงตอนแรกๆหน่อยนะคะ 5555 (เหตุการณ์นี้จริงๆน่าจะต่อกับ https://fanboi.ch/webnovel/3507/942-943/ )

...............

(โลกฝั่งนิยาย)

ขณะที่ฉันกำลังคิดว่าจะนอนอืดตื่นสายวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ท่านแม่ก็รีบมาบอกอย่างตื่นเต้นว่ามีแขกมา ฉันจึงแต่งตัวลงไปหาอย่างระแวง

“ช้าจริงๆเลยคิโชวอิน” คาบุรากิพูดส่ายหน้าอย่างตำหนิ

“มาทำอะไรคะท่านคาบุรากิ...”

“ก็มาวางแผนเดินทางกันไง” คาบุรากิพูดอย่างจริงจัง “ฉันลองไปศึกษามาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรับแค่ผู้ชายนะ ลองติดต่อไปแล้ว สำนักนั้นก็ยืนยันว่าให้ผู้หญิงบวชไม่ได้ เธอมีแผนอยากเปลี่ยนเพศไหม หรืออยากหาที่อื่นที่ไปด้วยกันได้”

“หะ?”

เดี๋ยวนะ เปลี่ยนเพศอะไรคะ! แล้วฉันตอบรับตอนไหนว่าจะออกเดินทางไปกับนาย เอ็นโจหายไปไหนน่ะ ทำไมไม่มาดูแลเพื่อนนายให้ดี... เพื่อนนายกำลังอกหักต้องได้รับการดูแลด่วนนะ หรือว่าจอมมารคิดว่าครั้งนี้ปล่อยให้ฉันจัดการไปก็แล้วกัน

“ท่านเอ็นโจไม่มาด้วยกันหรอคะ” ฉันปัดหนีสุดชีวิต ไม่อยากออกเดินทางกับเจ้าบ้าสองคนหรอกนะ ในฐานะเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยประถมอย่างเอ็นโจไม่คิดจะทำอะไรบ้างหรือไง ช่วยออกเดินทางแทนฉันที

“หมอนั่นยังไม่อกหักนี่” คาบุรากิบ่น

นายควรยินดีกับเพื่อนนายที่ไม่ได้มีชะตากรรมน่าเศร้าแบบนายนะ หรือว่าคิดว่าเอ็นโจทรยศเพราะดันรอดตัวจากคานไปคนเดียว อ้า จะยังไงเอ็นโจก็มีว่าที่คู่หมั้นแล้วล่ะนะคะ...

“เอาเถอะ เราต้องผ่านมันไปได้แน่” คาบุรากิให้กำลังใจฉัน “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ”

เอ๊ะ หน้าแบบนั้นมันหน้าแบบไหนหรอคะ หน้าตาสะเทือนใจน้ำตาไหลให้กับไหล่ผู้โชคร้ายที่ต้องโดนนายตบจนทรุดน่ะหรอคะ

คาบุรากิลุกขึ้น หันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น “เอาล่ะ ไปกันเถอะ”

“ไปไหนกันคะ...”

ฉันถูกคาบุรากิจับมือลากออกไป หมอนี่เอาแรงมาจากไหนกันน่ะ เมื่อวานยังทำตัวเปื่อยแทบจะไหลไปกองกับพื้นอยู่เลย ท่านแม่เห็นท่าทางแบบนั้นของฉันกับคาบุรากิก็ดีใจใหญ่ ส่งเสริมกันเต็มที่

แงงงง ท่านพี่ช่วยน้องด้วยค่ะ! ทำไมวันนี้ท่านพี่ต้องไปทำงานด้วยนะ ฉันจะให้ใครช่วยได้เนี่ย... ท่านแม่คะ หมอนี่จะทำลายทรงผมโคโคโร่ที่ท่านแม่ภูมิใจนะคะ นี่ฉันต้องไปโกนผมจริงๆหรอคะ แล้วเรื่องโรงเรียนล่ะ คงไม่ใช่บวชวันหยุดสุดสัปดาห์ พอวันจันทร์กลับมาเรียนต่อหรอกนะ

ใครก็ได้พาออกจากสถานการณ์นี้ที...

ขณะที่ฉันกำลังร้องขอปาฏิหาริย์ อยู่ๆเสียงรถบรรทุกพุ่งตรงเข้ามาหาไม่มีการชะล่อความเร็วใดๆ ฉันได้แต่ตกตะลึงค้างอยู่กับที่ แต่คาบุรากิประสาทสัมผัสตื่นตัวได้ไหวกว่า เหวี่ยงตัวฉันออกห่างไป

หัวใจฉันแทบหยุดเต้น เกือบโดนชนไปแล้ว... น่ากลัวชะมัดเลย เสียววินาทีที่เกิดขึ้นรวดเร็วทำให้ร่างทั้งร่ายฉันอ่อนยวบไปหมด

“ขะ...ขอบคุณค่ะ”

ฉันพูดเมื่อเริ่มได้สติ ถ้าคาบุรากิไม่ช่วยเอาไว้ฉันต้องตายแน่ๆ... แต่ว่าถ้าเขาไม่คิดพาฉันออกเดินทางตั้งแต่ต้นก็คงไม่มาเจอเหตุการณ์เฉียดตายแบบนี้หรอก...

พอจะออกเดินทางก็ลางไม่ดีเลยนะคะ...

คาบุรากิเดินมาหาฉัน ก่อนจะจ้องมาด้วยดวงตาดำขลับราวกับนิล ท่าทางเหมือนกำลังสำรวจอย่างจริงจัง

“คิโชวอิน นี่เธอ...”

เขาเรียกชื่อฉันขณะเดินเข้ามาใกล้โดยไม่ถอนสายตาออกไป แล้วจับแขนฉันเบาๆ

ตอนที่เขาเหวี่ยงฉันออกไป เหมือนจะกระแทกพื้นไปนิดหน่อยนะคะ แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรรุนแรงมากนัก ไม่ได้ถึงกับช้ำหรือเจ็บหนักล่ะนะคะ ตะ...แต่ใกล้ไปแล้วนะคะ

คาบุรากิยังคงสำรวจฉันอย่างเคร่งเครียด จนฉันเกร็งไปหมด ต้องพูดอะไรสักอย่างแล้วมั้งคะ

“คะ...คือ”

“เธอหนักกว่าที่เห็นเยอะเลยนะ”

“ห๊าาาาาาา?!”

ฉันหลุดอุทานสุดเสียง

อะไรน่ะ! หนักกว่าที่เห็นนี่มันอะไรกันคะ!!!

“อือ เมื่อกี้กะแรงพลาดไปหน่อย ยังดีที่ไม่เป็นอะไรนะ”

พอจะด่า ก็มีบุญคุณค่ำคอจนฉันพูดไม่ออก ให้ตายเถอะ! ท่าทางเขายังไม่รู้ตัวว่าพูดสิ่งทำร้ายจิตใจสาวน้อยออกมาเลยซะนิด

“เธอหนักเท่าไหร่น่ะ”

“ห้ามถามเรื่องแบบนี้กับสาวน้อยสิคะ!”

หยุดพูดถึงเรื่องแบบนี้ได้แล้ว! ช่างไม่มีความละเอียดอ่อนเอาซะเลยนะคะ!!! แต่เมื่อกี้เผลอทำเสียงห้าวใส่ไปอีกแล้ว... ไม่เป็นไรหรอกมั้ง

ถึงคาบุรากิจะไร้สามัญสำนึกมากแค่ไหน แต่ดูเหมือนความผิดพลาดในอดีตจะช่วยสอนเขาได้ดีทีเดียว เลยไม่ถามต่อ แต่คิดแล้วน่าหงุดหงิดชะมัดเลย

816 Nameless Fanboi Posted ID:HqJ72Jnjh

“ไปกันต่อไหม”

"นี่คิดจะไปตามหาสำนักแบบนั้นจริงๆหรอคะ..." เพิ่งเกือบโดนรถชนมานะ ไม่คิดหน่อยหรอว่าเป็นเสียงจากสวรรค์ส่งสัญญาณมาบอกว่าอย่าไปทำอะไรแบบนั้นเลย

"ฉันคิดไว้แล้วล่ะ เรามาตั้งสำนักขึ้นมาเองกันเถอะ!"

เอ๋?! จะบ้าหรือไงกันคะ!!!

ฉันเหนือคำจะกล่าว แต่ท่าทางคาบุรากิดูตื่นเต้นน่าดู ความสลดจากอกหักนี่หายไปเร็วขนาดนี้เลยหรือไงกัน

คาบุรากิเริ่มพูดถึงการออกแบบอาคาร และสิ่งที่จะสอนในสำนักอย่างกระตือรือร้น ถ้าไม่รีบห้าม มีหวังทำจริงแน่เลยล่ะนะคะ...

ฉันพยายามค่อยๆพูดเปลี่ยนความคิด สุดท้ายไม่รู้ทำไม พวกเราก็มาจบที่ภัตตาคารที่เพิ่งเปิดสาขาในญี่ปุ่น แต่อย่างน้อยเขาก็ดูจะคิดได้แล้วว่าไม่ควรเปิดสำนักเอง

"เธอจะสั่งคาโบนาร่างั้นหรอ..."

"ค่ะ ทำไมหรอคะ"

"แค่...นั่นเป็นเมนูสุดท้ายที่ฉันกินกับทาคามิจิน่ะ..."

ซวยล่ะ ดันบังเอิญไปตรงกันซะได้

คาบุรากิทำหน้านิ่งก็จริง แต่ท่าทางนี่ซึมจ๋อยเศร้าสลดเหมือนแมวโดนน้ำสาดจนตัวลีบ

"คิดๆไป ฉันเปลี่ยนไปกินสลัดดีกว่านะคะ" จะได้ไดเอทด้วยล่ะนะ คำว่าหนักกว่าที่เห็นยังสะท้อนก้องอยู่ในหัวอยู่เลย...

"..."

คาบุรากินิ่งเงียบไม่ตอบอะไรสักพัก มองเมนูด้วยสายตาว่างเปล่า แผ่ออร่าหล่อระทมให้พนักงานเสิร์ฟสาวที่เดินผ่านมามองตาค้าง

จะเอาสลัดทั้งที เอาแบบไหนดีนะ เพิ่งรู้นะคะว่าร้านนี้มีสลัดกว่า 40 แบบ บางอันนี่ดูมีแป้งและเนื้อเกินกว่าจะกินเพื่อไดเอทนะคะ

แต่ภาพสเต็กข้างๆนี่ก็ดูน่ากินจังเลยนะ วันนี้มีเสิร์ฟเมนูพิเศษด้วย! สปาเกตตี้ผัดซอสนี่มันอะไรกันน่ะ!!! ซอสสูตรพิเศษที่จะมาแค่หนึ่งสัปดาห์ต่อปีเท่านั้น!!! ตอนนั้นฉันบินไปยุโรปยังกินไม่ทันเลยนะคะ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นเมนูนี้กับตาที่ญี่ปุ่น

มือไม้ฉันสั่นไปหมดจนทำอะไรไม่ถูก สั่งเมนูนี้ออกไปก่อนโดยไม่รอคาบุรากิที่ยังนั่งสลด

แต่ถ้าคาบุรากิยังไม่สั่งซะที เมนูของฉันก็ยังไม่ไปถึงห้องครัว แล้วซอสสูตรพิเศษอาจจะหมดก็ได้!

"ตัดสินใจได้หรือยังคะ"

ฉันเร่งคาบุรากิ แต่เขาดูหมดอะไรตายอยากน่าดู ถึงอย่างนั้นฉันก็ได้ยินเสียงกรี๊ดแววมาจากโต๊ะข้างๆตอนที่คาบุรากิถอนหายใจ

"อือ ฉันไม่รู้จะสั่งเซ็ตไหนดีน่ะ"

คาบุรากิวางเมนูให้ฉันดู แต่ละอย่างถ้าฉันเป็นคนกินเองต้องลดน้ำหนักเป็นเดือนแน่เลยค่ะ ปกติคนที่เศร้าๆเขากินกันเยอะขนาดไหนกันนะคะ

“เซ็ตที่สามดีไหมคะ มีสปาเกตตี้ผัดซอสสูตรพิเศษเฉพาะของร้านนี้ด้วยนะคะ”

“อ้า”

สรุปเอาใช่ไหมน่ะ ฉันหันไปสั่งก่อนถามต่อเปลี่ยนบรรยากาศ

“จะว่าไปท่านคาบุรากิเคยกินหรือยังคะ”

“อือ เคยให้เซฟมาทำให้ตอนไปกินกับทาคามิจิน่ะ...”

“...”

เอาอีกแล้วเรอะ ประสบการณ์ของกินของคาบุรากิกับทาคามิจินี่ท่าทางจะเยอะเกินไปแล้วนะ!

คาบุรากิเหม่อมองด้วยสายตาคะนึงหา ก็มัวแต่ถือหลักการหมู่บ้านคานทองไม่ยอมสารภาพจนโดนตัดหน้าไปเองนะคะ

ท่าทางหมดอาลัยตายอยากขึ้นเรื่อยๆเลยนะ พอไม่มีเรื่องสร้างสำนักเดินทางออกบวชก็ไม่มีอะไรยึดเหนี่ยวจิตใจสินะ

พออาหารมาเสิร์ฟ ฉันกินอย่างตื่นเต้น นี่เองสินะรสชาติที่ร่ำลือกันมานาน ช่างคุ้มค่าจริงๆที่มีโอกาสได้ลิ้มลอง

ผ่านไปสักพัก อยู่ๆคาบุรากิก็พูดขึ้นมา “เธอทนได้ยังไงน่ะ...”

“เอ๋?”

“เธอรับมือกับเรื่องแบบนั้นได้ยังไง”

“เรื่องอะไรคะ?”

“ก็ประธานนักเรียนนั่นไง เธอชอบหมอนั่นไม่ใช่หรือไง”

“ห๊า?! ไม่ใช่ค่ะ ดูเหมือนจะเข้าใจผิดแล้วนะคะ!!!”

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจ เธอเองก็ไม่อยากพูดออกมาใช่ไหม...”

“...”

“ฉันเห็นเธอร้องไห้ตอนหมอนั่นกับ...ทาคามิจิเดินไปด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องนี้หรอกนะ”

เอ๊ะ หมายถึงเรื่องเมื่อวานงั้นหรอ เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วนะคะ ทำไมคาบุรากิชอบคิดว่าฉันต้องเจอเหตุการณ์เดียวกับเขาตลอดด้วยคะ

“ฉันไม่ได้ชอบคุณมิซึซากิหรอกนะคะ...”

“เธอเข้มแข็งจริงๆเลยนะ”

บอกว่าไม่ใช่ไงเล่า! เข้าใจผิดอย่างงี้นี่เองสินะถึงได้มาลากไปออกเดินทาง

817 Nameless Fanboi Posted ID:HqJ72Jnjh

“ไม่กินหรอคะ” ฉันเปลี่ยนเรื่องอย่างปลงตก ขณะมองจานที่เต็มไปด้วยอาหารของคาบุรากิ นี่เขายังไม่แตะมันเลยใช่ไหม

“รู้สึกกินไม่ลงน่ะ...”

“ท่านคาบุรากิคะ”

“หืม?”

ฉันวางส้อมก่อนจะจ้องคาบุรากิอย่างจริงจัง

"ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่ควรเป็นปรปักษ์กับอาหารอร่อยนะคะ"

“หะ?”

ฉันพูดจริงนะ อาหารอร่อยก็ยังอร่อยอยู่วันยังค่ำ ไม่ยอมแม้แต่จะให้โอกาสมันได้เข้าปากด้วยซ้ำแบบนี้ไม่ยุติธรรมเลยนะคะ! กินเข้าไปซะ

“แต่ฉันเคยกินกับทาคามิจิ...”

“ถ้าท่านคาบุรากิจะไม่กินอะไรที่เคยกินกับคุณทาคามิจิ ตอนนี้จะกินอะไรได้บ้างคะ?”

“...เหมือนจะไม่ค่อยมีเท่าไหร่”

“ใช่ไหมล่ะคะ สุดท้ายจะหิวตายเพราะไม่มีอะไรกินหรอคะ”

“ยังพอมีบ้างนะ แต่ถ้ากินอาหารที่เคยกินกับเธอไม่ได้ ฉันคงกินอะไรไม่ได้อีกแล้วล่ะ”

เดี๋ยวคะ! คำพูดแบบนั้นนั่นมันหมายความว่าไงกันคะ!!! นี่มองฉัน=อาหาร โดยสมบูรณ์แล้วจริงๆใช่ไหม หยาบคายที่สุด

ฉันแย่งจานสปาเกตตี้มาจากคาบุรากิ

“อะไรน่ะ ขโมยหรอ!”

“ก็ไม่กินไม่ใช่หรือไงคะ”

“มันก็...”

“ฉันรู้สึกเสียดายน่ะค่ะถ้าจะทิ้ง ซอสรสชาติโดดเด่นเข้ากับเส้นได้ดีขนาดนี้หาไม่ได้ง่ายๆเลยนะคะ” ฉันเอาเข้าปากอย่างเปี่ยมสุข

คาบุรากิมองตาละห้อย อยากกินล่ะสิ จริงๆอยากกินใช่ไหมล่ะ

“เอาไหมคะ”

“มะ...ไม่”

“งั้นฉันขอเลยแล้วกันนะคะ”

“...ขอกินสักคำก่อนแล้วกัน ไหนๆก็สั่งมาทั้งที”

คาบุรากิลองกินคำแรกแล้วท่าทางหยุดตัวเองไม่ได้ กินต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็กินจนหมดโดยลืมความตั้งใจแรกเริ่มไป ท่าทางดูร่าเริงแจ่มใสขึ้นทันที อาหารอร่อยนี่มีพลังจริงๆนะคะ

หลังได้กินอะไรไปบ้างแล้ว คาบุรากิดูมีพลังชีวิตมากยิ่งขึ้น

“ขอบคุณมาก ฉันได้เรียนรู้หลักการที่จะอยู่อย่างเข็มแข็งแล้วล่ะ”

เอ๋? ไปเรียนรู้อะไรมาตอนนั้นไหนน่ะ

“ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่ควรเป็นปรปักษ์กับอาหารอร่อย ฉันจะจำประโยคนี้ไว้”

ไม่ต้องจำอะไรแบบนั้นก็ได้นะคะ... แต่ดีขึ้นได้ก็ดีแล้วล่ะ ฉันจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับการโกนหัวหรือออกเดินทาง

คาบุรากิมาส่งฉันที่บ้าน

“ขอบคุณค่ะที่กรุณามาส่ง”

“อ่า”

ตอบขอไปทีชะมัด

“แล้วก็พรุ่งนี้มาแต่เช้าล่ะ ฉันจะเตรียมแบบทดสอบสำหรับสอบครั้งหน้าให้”

“เอ๋! นั่นมันอีกตั้งนานนี่คะ!!!”

“เธอคิดจะพอใจแค่ที่ 18 หรือไง! ครั้งหน้าติด 1 ใน 10 ให้ได้ซะ!”

“ไม่มีทางค่ะ! ฉันทำถึงขนาดนั้นไม่ไหวหรอกค่ะ!!!”

“เธอทำไม่ได้เพราะเริ่มต้นช้าเกินไปต่างหาก! พรุ่งนี้เตรียมฝึกหนักได้แล้ว”

อะไรเนี้ย!!! ไม่น่าช่วยปลอบหมอนี่เลย ปวดกระเพาะยังไงไม่รู้แหะ...

“ขอแค่รักษาระดับ 1 ใน 20 ไม่ได้หรือไงคะ”

“เธอต้องพัฒนาขึ้นสิ!”

“งั้นขอแค่มากกว่าที่ 18 ได้ไหมคะ...” จะยังไงก็ไม่ไหวอ่ะ 1 ใน 10 นี่นะ

“งั้น 15 ก่อนก็ได้”

ถึงจะดีขึ้นก็เถอะ แต่ก็ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ... นึกถึงช่วงนรกที่ถูกคาบุรากิเคี้ยวสอบแล้วหดหู่ชะมัด ฤดูใบไม้ผลิจะมาหาผู้ที่เอาแต่เรียนได้ไหมนะ...

ฉันเดินเข้าบ้าน รู้สึกเหนื่อยทั้งกายและใจจริงๆ...ฉันภาวนาให้อะไรๆดีขึ้นในวันพรุ่งนี้

แต่ไม่รู้เลยว่ามันจะกลับแย่ลงกว่าเดิม...

………………(จบตอนพิเศษ2)………………

ป.ล. มีปัญหากับการเขียนลงจบจริงๆนะคะ ตอนแรกเขียนไปสามหน้า แต่จบไม่ได้ซะทีจนกลายเป็นหกหน้า... (ปัญหาเดียวกับเขียนเนื้อเรื่องหลัก orz)

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.