Ky นะคะ ต่อจาก https://fanboi.ch/webnovel/4218/345-348/ ฟิคคู่หูทะลุมิติ (จริงๆก็ไม่ต่อซะทีเดียว)
((ตอนพิเศษ : ถ้าไม่มีใครทะลุมิติ))
เนื่องจากยังเขียนตอนจบให้ลงจบไม่ได้ซะที เลยเอาตอนพิเศษมาแก้ขัดไปก่อนนะคะ นี่เป็นเหตุการณ์ที่(มโนว่า)เกิดขึ้น หากเรย์กะกับมาซายะโลกนิยายไม่ได้ถูกรถชนแล้วทะลุมิติ ตอนนี้จะเป็นเขียนฝั่งโลกคิมิดอล จริงๆไม่จำเป็นต้องอ่านตอนอื่นมาก่อนก็อ่านตอนนี้ได้นะคะ 555 แต่อาจจะคนละแนว
...............
(ฝั่งโลกคิมิดอล)
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วอย่างไม่รู้ตัว พอได้สติอีกครั้ง ทุกสิ่งที่เคยทำมาก็พังทลายลงชั่วพริบตา
ทั้งครอบครัว ทั้งทรัพย์สมบัติ ทั้งชนชั้น ทุกอย่างหายไปหมดแล้ว...
ฉันเดินออกมาจากบ้านที่ถูกยึดไปแล้ว โหวงเหวงจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อรู้ข่าวว่าหุ้นของตระกูลคิโชวอินถูกตระกูลคาบุรากิกว้านซื้อไปทั้งหมด ตอนนี้ฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
และฉันก็เห็นเขา คนที่ใส่หน้ากากตลอดเวลา ทำเป็นยิ้มแย้ม แม้ข้างในจะเลือดเย็นแค่ไหนก็ตาม คนที่หาข้อมูลจัดการกับตระกูลของฉัน
เอ็นโจ ชูสเกะ
ปีศาจที่เสแสร้งทำเป็นองค์ชายผู้อ่อนโยนแสนดี เห็นกี่ครั้งก็น่ารังเกียจสิ้นดี คงคิดจะมาเยาะเย้ยฉันสินะ มาดูผลงานว่าศัตรูที่ตัวเองทำลายชีวิตไปแล้วจะอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชแค่ไหน
"มีความสุขแล้วสินะคะ"
"..."
เขาไม่ตอบ ทำเหมือนว่าตัวเองสูงส่งมีคุณธรรมไม่อยากซ้ำเติมใคร ทั้งๆที่เขาทำให้ฉันมาอยู่จุดนี้แท้ๆ!
อย่ามาทำเหมือนว่าการที่นายมาอยู่แถวนี้เป็นเรื่องบังเอิญไปหน่อยเลย
"คุณน่ะ คิดจะออกจากออกจากซุยรันงั้นหรอ"
เขาพูดในที่สุด หมอนั่นคิดว่าใครกันที่บีบให้ฉันไม่มีทางเลือก
"แค่เดือนเดียวคุณก็จะเรียนจบแล้ว ได้ใบประกาศรับรองไว้ก่อนไม่ดีกว่าหรือไง"
ฉันแค่นเสียงหัวเราะเหยียดหยามออกมาอย่างทนไม่ได้ เขาคิดจริงๆงั้นหรอว่าฉันจะกลับไปในขุมนรกนั่น ที่ที่พวกอ่อนแอทำเป็นเบ่งใหญ่โตใส่ฉัน ทั้งๆที่เป็นชนชั้นสามัญไร้ค่าแท้ๆ
"ต่อให้ฉันเรียนจนจบก็ไม่มีผลอะไรกับชีวิตอีกแล้วล่ะค่ะ" ฉันยิ้มเยาะเย้ย คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่าไม่มีทางที่บริษัทไหนจะรับฉันเข้าทำงาน เพราะไม่อยากเป็นศัตรูกับตระกูลคาบุรากิ
สายตาของปีศาจนั่นดูแปลกไปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รู้จักกันมา ทำฉันชะงักไปชั่ววูบก่อนจะรู้สึกสะอิดสะเอียนไปทั้งร่าง
ฉันหันหลังให้เขา เตรียมที่จะเดินไปอีกทาง
"ผมขอโทษ..."
"..."
ฉันเดินต่อไปและไม่คิดจะหันกลับมาอีกแล้ว
ฉันไม่ต้องเจอกับเขาอีกแล้ว...
ท่านแม่กลับไปอยู่กับตระกูลเดิม แม้หลายๆคนในตระกูลจะไม่เห็นด้วย แต่ท่านยายก็โต้เถียงจนทุกอย่างเรียบร้อย โดยมีเงื่อนไขว่าฉันต้องเรียนให้จบ ทำให้ฉันนึกถึงปีศาจร้ายที่มาคุยกับฉันเมื่อวันก่อน
แต่ถึงหมอนั่นจะเจ้าเล่ห์เพทุบายแค่ไหน แต่ก็คงไม่ถึงขั้นอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ได้ล่ะมั้ง
อย่างไรก็ตาม ฉันก็ต้องอยู่ที่นี่ อยู่หอพักโทรมๆราคาถูก เพื่อไปทรมานตัวเองในโรงเรียนให้ครบกำหนด และเอาใบจบที่คงไม่มีวันได้ใช้
สายตาของทุกคนรอบข้างเปลี่ยนไป จากที่เคยหวาดกลัวกลายเป็นสะใจ เสียงหัวเราะแววมาจากทุกด้าน ฉันได้แต่กำมัดแน่นเดินผ่านไป จะยังไงฉันก็ไม่อยากลดตัวไปตอบโต้กับคนแบบนั้นหรอกนะ
ขณะที่ฉันจะเข้าอาคารเรียน ก็มีกลุ่มคนมายืนขวางเอาไว้ สายตาเหมือนกำลังจ้องมองคนที่ต่ำกว่า ทั้งๆที่ตัวเองเป็นแค่สามัญชนแท้ๆ
ไม่เจียมตัวจริงๆที่กล้าเข้ามาพูดเยาะเย้ยถากถางฉัน คงเพื่อเอาใจตระกูลคาบุรากิ คำด่าแค่นี้สู้เอ็นโจไม่ได้เลยสักนิด ห่างชั้นจนน่าเบื่อ ฉันตอบกลับไปไม่กี่คำก็ไปต่อไม่เป็นแล้ว ช่างไม่รู้ระดับของตัวเองเลยนะคะ
เมื่อหมดคำจะพูด สุดท้ายก็ใช้วิธีสกปรกแบบพวกขี้แพ้ ฉันยกมือขึ้นจับแก้มที่ถูกตบ
หึ เตรียมต้อนรับเต็มที่จริงๆ
“พอแค่นั้นแหละ”
เสียงที่ฉันเกลียดที่สุดดังขึ้น เอ็นโจเดินมาทางนี้ด้วยรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงแววตา