ทำไมกูอ่านมังงะเหมาเหมาไม่ได้วะ เน็ตกูแย่ หรือเว็บมันล่ม
ทำไมกูอ่านมังงะเหมาเหมาไม่ได้วะ เน็ตกูแย่ หรือเว็บมันล่ม
เรื่องเหมาๆอะ ตัวเอกชายเป็นขันทีเหรอ? โดนตอนแล้ว?
กระทู้ท่านเรย์กะโดนน้องเหมายึดซะแล้ววว
มีใครคิดถึงนายบ้าหมาเหมือนกูบ้างมั้ย กูรู้สึกว่านางไร้บทมานานมากแล้วนะ ครั้งสุดท้ายที่ออกมามันตอนไหนวะ จำไม่ได้แล้ว
เผื่อโม่งอารมณ์ค้างอยากเม้าท์น้องแมวเหมาเหมาต่อ ลองใช้กระทู้นิยายนาโร่แก้ขัดไปก่อนมะ ถ้ามีต่อยาวๆ ค่อยว่ากันอีกที
https://fanboi.ch/webnovel/2413/
เพิ่งเห็นชื่อคันจิเหมาเหมา ใช้ตัวแมว 猫 น่าจะอ่านว่าเมาเมานะ แต่อออกเสียงแล้วนึกถึงเหล้าเลย 555
สำหรับคนที่อยากอ่านน้องแมวแบบนิยายเชิญได้ที่เว็บนายท่าน มีผู้ใจดี(ทาส)ลองแปลมาแล้วจ้ะ
https://goshujin.tk/index.php?topic=9703.0
นิสัยจินชิกับเหมาเหมาคล้ายอิมาริกับท่านพี่อยู่เหมือนกันแฮะ... คิดแล้วก็อยากอ่านฟิคที่ท่านพี่เป็นฮ่องเต้ อิมาริเป็นอ๋องจัง แค่กๆ /สูดกาว เรย์กะเป็นองค์หญิง คาบุรากิเป็นแม่ทัพ เอ็นโจก็ท่านโหว อะไรงี้
ถ้าจับตอนโฉ่งฉ่างเกินไปอาจจะใช้วิธีรมเครื่องหอม ใส่ยาพิษค่อยๆ ทำให้เสื่อมสมรรถภาพลงในพระกระยาหารก็ได้นะ พอได้ทายาทมังกรมาจำนวนหนึ่งก็พอละ ผลิตออกมาเยอะมากเกินไปเดี๋ยวเกิดศึกชิงบัลลังก์ ท่านอ๋องคู่พระทัยเลยตัดปัญหาที่ต้นตอ 5555
กูอ่านนิยายภาคแรกจบแล้ววววววว
ใครบอกนะว่าจินชิเหมือนเอ็นโจ? หึ คนละชั้นว้อยยยยยยยยยยยยยย
จินชินี่ทั้งMทั้งยัน นิสัยคล้ายๆเอ็นโจก็จริง แต่สกิลรุกสาวนี่เกือบเท่าอิมาริแล้วนะ!
>>735 สงสารเอ็นโจมันมั่งเหอะมึง กระทู้แรกยังเป็นถึงองค์ชายนะ
มีเรือก็ล่ม (มีแล่นตอนสองตอนล่าสุด) มีผีพรายหลอกหลอน กอล์ฟมาร์คเกอร์ทำลายชื่อเสียง ไก่อ่อนจีบสาวไม่เก่ง ทำได้แค่เป็นหมาหวงก้างต้องให้น้องมาคอยช่วย พอบทจะจีบจะซื้อใจสาวเจ้าก็ไม่เล่นด้วย มึงจะเอาไปเทียบกับอิมาริกับจินชิที่ผ่านศึกสมรภูมิมาหลายพันมันไม่ใช่
>>735 มึงหมายถึงฉากนั้นสินะ!!! //เขิลกลิ้งม้วนตัวสามตลบ
แต่เทียบกันแล้วถึงเอ็นโจจะฝีไม้ลายมือด้อยกว่า แต่จินชินี่จะว่าไงดี... นางเอกบื้อไปรึเปล่านะ ท่านเรย์กะยังมีแอบโดกิโดกิอยู่บ้างเลย
แต่สิ่งที่เหมือนกันเป๊ะเลยของสองเรื่องนี้คือฝ่ายหญิงชอบหน้าตาฝ่ายชายทั้งคู่ กับฝ่ายชายชอบใช้ประโยชน์จะฝ่ายหญิงประจำ 555
Ky นะคะ ต่อจาก https://fanboi.ch/webnovel/4218/345-348/ ฟิคคู่หูทะลุมิติ (จริงๆก็ไม่ต่อซะทีเดียว)
((ตอนพิเศษ : ถ้าไม่มีใครทะลุมิติ))
เนื่องจากยังเขียนตอนจบให้ลงจบไม่ได้ซะที เลยเอาตอนพิเศษมาแก้ขัดไปก่อนนะคะ นี่เป็นเหตุการณ์ที่(มโนว่า)เกิดขึ้น หากเรย์กะกับมาซายะโลกนิยายไม่ได้ถูกรถชนแล้วทะลุมิติ ตอนนี้จะเป็นเขียนฝั่งโลกคิมิดอล จริงๆไม่จำเป็นต้องอ่านตอนอื่นมาก่อนก็อ่านตอนนี้ได้นะคะ 555 แต่อาจจะคนละแนว
...............
(ฝั่งโลกคิมิดอล)
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วอย่างไม่รู้ตัว พอได้สติอีกครั้ง ทุกสิ่งที่เคยทำมาก็พังทลายลงชั่วพริบตา
ทั้งครอบครัว ทั้งทรัพย์สมบัติ ทั้งชนชั้น ทุกอย่างหายไปหมดแล้ว...
ฉันเดินออกมาจากบ้านที่ถูกยึดไปแล้ว โหวงเหวงจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อรู้ข่าวว่าหุ้นของตระกูลคิโชวอินถูกตระกูลคาบุรากิกว้านซื้อไปทั้งหมด ตอนนี้ฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
และฉันก็เห็นเขา คนที่ใส่หน้ากากตลอดเวลา ทำเป็นยิ้มแย้ม แม้ข้างในจะเลือดเย็นแค่ไหนก็ตาม คนที่หาข้อมูลจัดการกับตระกูลของฉัน
เอ็นโจ ชูสเกะ
ปีศาจที่เสแสร้งทำเป็นองค์ชายผู้อ่อนโยนแสนดี เห็นกี่ครั้งก็น่ารังเกียจสิ้นดี คงคิดจะมาเยาะเย้ยฉันสินะ มาดูผลงานว่าศัตรูที่ตัวเองทำลายชีวิตไปแล้วจะอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชแค่ไหน
"มีความสุขแล้วสินะคะ"
"..."
เขาไม่ตอบ ทำเหมือนว่าตัวเองสูงส่งมีคุณธรรมไม่อยากซ้ำเติมใคร ทั้งๆที่เขาทำให้ฉันมาอยู่จุดนี้แท้ๆ!
อย่ามาทำเหมือนว่าการที่นายมาอยู่แถวนี้เป็นเรื่องบังเอิญไปหน่อยเลย
"คุณน่ะ คิดจะออกจากออกจากซุยรันงั้นหรอ"
เขาพูดในที่สุด หมอนั่นคิดว่าใครกันที่บีบให้ฉันไม่มีทางเลือก
"แค่เดือนเดียวคุณก็จะเรียนจบแล้ว ได้ใบประกาศรับรองไว้ก่อนไม่ดีกว่าหรือไง"
ฉันแค่นเสียงหัวเราะเหยียดหยามออกมาอย่างทนไม่ได้ เขาคิดจริงๆงั้นหรอว่าฉันจะกลับไปในขุมนรกนั่น ที่ที่พวกอ่อนแอทำเป็นเบ่งใหญ่โตใส่ฉัน ทั้งๆที่เป็นชนชั้นสามัญไร้ค่าแท้ๆ
"ต่อให้ฉันเรียนจนจบก็ไม่มีผลอะไรกับชีวิตอีกแล้วล่ะค่ะ" ฉันยิ้มเยาะเย้ย คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่าไม่มีทางที่บริษัทไหนจะรับฉันเข้าทำงาน เพราะไม่อยากเป็นศัตรูกับตระกูลคาบุรากิ
สายตาของปีศาจนั่นดูแปลกไปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รู้จักกันมา ทำฉันชะงักไปชั่ววูบก่อนจะรู้สึกสะอิดสะเอียนไปทั้งร่าง
ฉันหันหลังให้เขา เตรียมที่จะเดินไปอีกทาง
"ผมขอโทษ..."
"..."
ฉันเดินต่อไปและไม่คิดจะหันกลับมาอีกแล้ว
ฉันไม่ต้องเจอกับเขาอีกแล้ว...
ท่านแม่กลับไปอยู่กับตระกูลเดิม แม้หลายๆคนในตระกูลจะไม่เห็นด้วย แต่ท่านยายก็โต้เถียงจนทุกอย่างเรียบร้อย โดยมีเงื่อนไขว่าฉันต้องเรียนให้จบ ทำให้ฉันนึกถึงปีศาจร้ายที่มาคุยกับฉันเมื่อวันก่อน
แต่ถึงหมอนั่นจะเจ้าเล่ห์เพทุบายแค่ไหน แต่ก็คงไม่ถึงขั้นอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ได้ล่ะมั้ง
อย่างไรก็ตาม ฉันก็ต้องอยู่ที่นี่ อยู่หอพักโทรมๆราคาถูก เพื่อไปทรมานตัวเองในโรงเรียนให้ครบกำหนด และเอาใบจบที่คงไม่มีวันได้ใช้
สายตาของทุกคนรอบข้างเปลี่ยนไป จากที่เคยหวาดกลัวกลายเป็นสะใจ เสียงหัวเราะแววมาจากทุกด้าน ฉันได้แต่กำมัดแน่นเดินผ่านไป จะยังไงฉันก็ไม่อยากลดตัวไปตอบโต้กับคนแบบนั้นหรอกนะ
ขณะที่ฉันจะเข้าอาคารเรียน ก็มีกลุ่มคนมายืนขวางเอาไว้ สายตาเหมือนกำลังจ้องมองคนที่ต่ำกว่า ทั้งๆที่ตัวเองเป็นแค่สามัญชนแท้ๆ
ไม่เจียมตัวจริงๆที่กล้าเข้ามาพูดเยาะเย้ยถากถางฉัน คงเพื่อเอาใจตระกูลคาบุรากิ คำด่าแค่นี้สู้เอ็นโจไม่ได้เลยสักนิด ห่างชั้นจนน่าเบื่อ ฉันตอบกลับไปไม่กี่คำก็ไปต่อไม่เป็นแล้ว ช่างไม่รู้ระดับของตัวเองเลยนะคะ
เมื่อหมดคำจะพูด สุดท้ายก็ใช้วิธีสกปรกแบบพวกขี้แพ้ ฉันยกมือขึ้นจับแก้มที่ถูกตบ
หึ เตรียมต้อนรับเต็มที่จริงๆ
“พอแค่นั้นแหละ”
เสียงที่ฉันเกลียดที่สุดดังขึ้น เอ็นโจเดินมาทางนี้ด้วยรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงแววตา
“ไม่รู้หรือไงว่าสิ่งที่พวกคุณทำมันผิด”
เอ็นโจเอ่ยขึ้น พวกสามัญชนในกลุ่มต่างลนลาน
“ท่านเอ็นโจคะ แต่พวกเราเองก็โดนมาไม่ต่างกันหรอกนะคะก่อนหน้านั้น! ทุกคนที่นี่เคยโดนผู้หญิงคนนี้กลั่นแกล้งมาทั้งนั้น!!!”
“ใช่ค่ะ! แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”
“ฉันเคยคิดจะลาออกเพราะถูกแกล้งเหมือนกันค่ะในตอนนั้น!”
เมื่อมีคนเริ่ม ก็มีคนพูดตามไปเรื่อยๆ ต่างคนต่างพูดถึงเรื่องถูกแกล้ง ทั้งๆที่เรื่องแบบนั้นคนเป็นสามัญชนไม่สมควรกล้าต่อว่า pivione อย่างฉันด้วยซ้ำ ช่างไม่เจียมตัวจริงๆ
เมื่อพูดมาสักพัก เอ็นโจก็เปลี่ยนรอยยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะกวาดตามองไปทีละคน ทุกคนไม่กล้าพูดอะไรต่อแทบจะในทันที
“เพราะงั้นเลยเลือกที่จะวิธีเดียวกันแกล้งกลับไปสินะครับ พวกคุณก็ทำไม่ต่างอะไรจากคนที่พวกคุณประณามหรอกนะครับ”
อาจเพราะพวกนั้นไม่ชินกับตัวตนที่แท้จริงของปีศาจร้ายนัก เลยหน้าซีดตัวสั่นกันไปหมด
ฉันเดินหลบกลุ่มคนเข้าไปในอาคาร แต่ไปไม่ถึงไหนก็มีคนน่ารำคาญคนหนึ่งเข้ามาพูดด้วย
“คุณน่ะหยุดมองว่าคนอื่นต่ำกว่าได้แล้ว ไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้คุณน่ะก็ฐานะเดียวกับสามัญชนที่เคยดูถูกนั่นแหละ”
“อย่ามาเตือนเหมือนว่าตัวเองเป็นคนสูงส่งไปหน่อยเลยค่ะ” ฉันตอบกลับไปอย่างเย็นชา
“ผมอาจจะไม่ได้สูงส่งก็จริง แต่ฐานะในตอนนี้ผมสูงกว่าคุณก็แล้วกัน”
รอยยิ้มเย็นของจอมมารหนาวลึกเข้าไปถึงหัวใจ
นี่สินะ ตำแหน่งของคนที่พ่ายแพ้ อย่างที่ท่านพ่อบอกจริงๆ เมื่อไหร่ที่พลาดพลั้ง สุดท้ายต้องสูญเสียทุกอย่าง
ถ้าตอนนั้นฉันใจแข็งกว่านี้ คงไม่มาถึงจุดนี้ได้หรอก ตัวตนที่อ่อนแอของฉันนี่ช่างน่าสมเพชจริงๆ
ทำไมตอนนั้นถึงไม่กำจัดให้เด็ดขาดไปซะนะ
“ยินดีด้วยแล้วกันนะคะ ดูเหมือนคุณได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้ว”
ฉันตอบรับกลับไป มองใบหน้าของคนเบื้องหน้า
เขาชนะแล้ว ชนะทุกอย่าง
เจ็บใจจริงๆ
ฉันหันหลังกลับ หัวใจรู้สึกเจ็บแปลบอย่างอธิบายไม่ถูก
“ผมขอโทษ... ผมไม่ได้อยากให้เรื่องจบลงแบบนี้เลย”
คำพูดที่ทับซ้อนกับตอนที่เขาเคยพูดก่อนหน้านั้น ทำให้ฉันหยุดชะงักไปพักหนึ่ง
“ไม่ต้องพยายามรักษาภาพคนดีอะไรนั่นหรอกค่ะ” ฉันหันกลับไปพูด “ของแบบนั้นคุณไม่ได้เป็นจริงตั้งแต่ต้นอยู่แล้วนี่คะ”
ฉันเหลือบมองแววตาเขาชั่วขณะ มันแปลกแตกต่างจากทุกครั้ง ทำให้ฉันรู้สึกอยากหนีออกห่างให้เร็วที่สุด และครั้งนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ตามมาอีกแล้ว
ขณะที่แยกทางออกมาได้ไม่ไกล ใครสักคนเทน้ำที่ไว้ถูพื้นใส่ฉัน
"อุ๊ย ขอโทษทีค่ะ มองไม่เห็นจริงๆ นึกว่าถังขยะซะอีก"
คนในกลุ่มนั้นหัวเราะกันอย่างครึกครื้น ความอดทนฉันมาถึงขีดสุด
"พวกเธอคิดว่า..." ฉันหยุดไปกลางคันเมื่อเห็นคุคิโนะจังกำลังเดินพุ่งตรงมาทางนี้ ฉันตัดสินใจรีบหนีไปอีกทางทันที
"ท่านเรย์กะ!"
พวกเซริกะจังเรียกขณะรีบตามฉันมา ก่อนใครสักคนจะคว้ามือฉันไว้ทำให้วิ่งต่อไม่ได้
"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ..."
เซริกะถามขณะจับมือฉันไว้แน่น ฉันไม่กล้ามองสายตาเหล่านั้นตรงๆ
มีแค่พวกเธอเท่านั้นที่ฉันไม่อยากให้ต้องเป็นอะไรไปด้วย...
ฉันปัดมือของเซริกะจังออก ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงรังเกียจ "เอามือสกปรกนั่นออกไปนะ"
ทั้งๆที่บอกชัดขนาดนั้นแท้ๆ ยัยพวกงี่เง่าพวกนั้นก็ยังพามาห้องน้ำ ช่วยเช็ดน้ำที่เปื้อนอยู่ให้
"...ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไปให้พ้น"
"เอาชุดในอาคารฉันไปเปลี่ยนก่อนนะคะ"
"ใครต้องการช่วยเหลือจากพวกเธอกัน!"
"เซริกะจังจองห้องประชุมเล็กไว้ให้แล้วค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาไดร์เป่าผม แล้วไปเจอกันที่นั่นนะคะ คุคิโนะจังจะพาท่านเรย์กะไปเองค่ะ"
พวกเธอทำบ้าอะไรกัน! งี่เง่ากันชะมัด
คุคิโนะจังเป่าผมให้ฉัน ผมม้วนที่ไม่ได้รับการดูแลเท่าไหร่เริ่มคลายออก มีเพียงปอยเล็กๆเท่านั้นที่ยังเป็นลอนอ่อนๆ
"ฉันขอพูดให้ชัดเจนเลยนะ! ฉันเกลียดพวกเธอทุกคน! พวกเธอมันก็แค่คนที่ฉันหลอกใช้! เป็นแค่..."
ฉันชะงักเมื่อพวกเขากอดฉัน
"ท่านเรย์กะไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะคะ!"
"..."
"พวกเราพร้อมอยู่ข้างท่านเรย์กะเสมอค่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม"
"ได้โปรด อย่าเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองแบบนี้อีกเลยนะคะ!"
"เราผ่านมันไปด้วยกันนะคะ"
ผ้าเช็ดหน้าของใครสักคนช่วยเช็ดน้ำที่ไหลออกมาจากตาของฉันอย่างแผ่วเบา ในที่สุดผ้านั้นก็เปียกชื้นจนซับไว้แทบไม่พอ
งี่เง่ากันจริงๆ...
ฉันเองก็แย่ชะมัดที่เผลอกอดตอบพวกเขา...
...............
ชีวิตของผู้แพ้โหดร้ายเสมอ เพราะฉะนั้นท่านพ่อท่านแม่เลยบอกเสมอว่าเราจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด แต่ทว่าก็ไม่สามารถทำอะไรอีกแล้ว
หลังจากเจอเอ็นโจในวันแรกที่มาซุยรัน เขาก็ไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีกเลย
พวกเพื่อนๆที่งี่เง่าพวกนั้นก็คอยพยายามช่วยเหลือฉัน น่ารำคาญชะมัด ฉันไม่ได้ต้องการให้ทำอะไรแบบนี้ซะหน่อย
ฉันไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองตัดสินใจผิดพลาดแค่ไหน...
วันหนึ่งขณะเดินไปโรงอาหารด้วยกัน คุคิโนะจังโดนกระแทกอย่างจงใจจากสาวเกลที่พากันหัวเราะคิกคัก
"ฉันไม่เป็นไรค่ะท่านเรย์กะ"
"..."
"ท่านเรย์กะ..."
"พอได้แล้ว เลิกตามดื้อน่ารำคาญแบบนี้ซะที"
"ท่านเรย์กะคะ..."
"อย่าเข้ามาใกล้ฉันอีก! เข้าใจไหม!" ฉันสะบัดมือที่คุคิโนะจังพยายามเข้ามาจับ
พอกันซะที!
ไม่ควรรับความช่วยเหลือนั่นตั้งแต่ต้นเลย...
ฉันไม่ไหวอีกแล้ว อยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว...
เซริกะจังพยายามเข้ามาหยุดฉันไว้ตอนที่ฉันคิดจะเดินออกจากซุยรัน ฉันพูดคำพูดที่โหดร้ายที่สุดเท่าที่จะคิดออกในเวลานั้น ก่อนจะรีบหนีไปให้เร็วที่สุด
อย่าทำเหมือนฉันไม่รู้เลยว่าตอนนี้ที่บ้านเซริกะจังลำบากแค่ไหนในการทำธุรกิจกับตระกูลคาบุรากิ คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่ามันเลวร้ายขึ้นตั้งแต่เธอยังทำดีกับฉัน...
ฉันวิ่ง วิ่งไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย ทำไมกันเรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับฉัน... ทั้งๆที่ฉันเกิดมาในตระกูลที่ดีพร้อมยิ่งกว่าใครแท้ๆ ทำไมจุดจบถึงมาอยู่จุดนี้ได้...
"โอ้ย!"
ฉันชนใครสักคน แต่ก็ไม่คิดที่จะสนใจอะไร ก่อนจะลุกขึ้นเตรียมวิ่งต่อ แต่แขนถูกจับเอาไว้อย่างดิ้นไม่หลุด
"ก็ไม่ได้ไร้หัวใจนี่นา"
"คุณ..."
ท่านพี่งั้นหรอ คนที่ทรยศหันหลังให้ตระกูลคนนั้นน่ะนะ
ฉันตกตะลึง มองคนร่วมสายเลือดที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมานาน
เขามาทำอะไรที่ซุยรันกันน่ะ
"ปล่อยค่ะ!"
"เธอคิดจะทำอะไรต่อไป"
"ไม่เกี่ยวกับคุณซะหน่อยนี่คะ!"
"แม้เราจะเป็นพี่น้องกันน่ะหรอ"
"ต่อให้มีสายเลือดเดียวกัน แต่คนที่ทิ้งครอบครัวไปอย่างคุณน่ะไม่ถือว่าเกี่ยวกับฉันหรอกนะคะ"
"พี่ออกจากบ้านเพราะคิดว่าทุกคนในครอบครัวเป็นพวกเลือดเย็นไร้หัวใจ"
"คิดจะมาซ้ำเติมกับทางเลือกนี้งั้นหรอคะ"
ฉันถามกลับไป
"เปล่า” เขาตอบ และหยุดไปสักพักก่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากขึ้น “พี่กลับมาเพราะรู้แล้วว่าพี่คิดผิด ขอโทษนะที่ปล่อยให้น้องต้องเผชิญหน้ากับเรื่องอย่างนั้นคนเดียว"
"...ไม่ว่าคุณต้องการจะทำอะไร ตอนนี้ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว”
“พี่แค่...”
“อย่ามาเสแสร้งเป็นคนดีไปหน่อยเลยค่ะ"
ผู้ชายคนนั้นชะงัก รอยยิ้มอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งในพริบตา
"มองออกด้วยสินะ"
"มีคนหลงผิดที่ดูไม่ออกด้วยงั้นหรอคะ ต้องการอะไรถึงมาที่นี่ล่ะคะ"
ผู้ชายคนนั้นยิ้มนิ่งๆยากจะคาดเดาอารมณ์ ท่าทางเหมือนถือไพ่เหนือจนน่ารำคาญ ทำตัวเหมือนเอ็นโจไม่มีผิด เป็นคนประเภทที่ฉันเกลียดที่สุด
“พี่มาจัดการเรื่องของเธอที่นี่”
“หมายความว่ายังไงกันคะ”
เขาไม่ตอบแต่ยื่นนามบัตรให้
“ถ้ามีเรื่องต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อมาก็แล้วกัน”
ฉันมองพี่ชายคนเดียวเดินจากไปอย่างไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเขา และตัดสินใจไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนก็จะไม่ขอความช่วยเหลือจากคนประเภทเดียวกับเอ็นโจเด็ดขาด
ฉันลองหันมาดูนามบัตรที่ได้มา ชื่อของเขาที่ใช้ในบัตรเป็นชื่อปลอม ก็นะ จะยังไงบอกใครว่าเป็นคนตระกูลคิโชวอินก็คงไม่มีใครไว้ใจหรือกล้ารับเข้าทำงานหรอก ว่าแต่นามสกุลปลอมโมโมโซโนะนี่รู้สึกเหมือนนามสกุลใครในสังคมคนชั้นสูงเลยนะ ไปเอามาใช้แบบนี้ไม่เป็นไรหรือไงกัน
เมื่อกวาดตาดูรายละเอียดฉันก็ชะงักไปชั่ววูบ
ตอนนี้เขาทำงานที่บริษัทของตระกูลเอ็นโจ
คิดจะทำอะไรกันแน่นะ...
………………(จบตอนพิเศษ1)………………
ป.ล. นี่เป็นเพียงนิสัยตัวละครที่มโนขึ้นเองนะคะ เดาว่าถ้าไม่ทะลุมิติไปเจอเหตุการณ์แบบนั้น แต่ละคนน่าจะนิสัยประมาณนี้ อาจจะแปลกไปบ้างนะคะ
>>739 น่าจะอีกพักใหญ่เลยอ่ะ กูใส่สปอยไว้แล้วกัน
สปอยน้องมาวมาวหมอยา
.
.
.
.
.
มันเป็นตอนที่มาวๆออกจากวังไปเยี่ยมบ้าน มาวๆไปขอให้ทหารคนนึงให้ช่วยรับรองตัวตนให้ แลกกับให้ได้ใช้บริการกับ"พี่สาว"ของมาวๆที่หอนางโลม
พอกลับมาก็โดนจินชิงอนใส่เพราะไปให้(ผู้ชาย)คนอื่นไปรับรองให้ แถมตอนจินชิโวยวายยังใช้คำว่า ore อีก (สรรพนามแทนตัวเอง สรรพนามแบบแมนๆที่ผู้ชายให้กัน แต่ปกติจินชิจะแทนตัวเองว่า watashi ที่เป็นสรรพนามกลางๆไม่เจาะจงเพศ)
ตอนที่ถามว่ามาวๆให้อะไรตอบแทนทหารคนนั้น มาวๆดันไปพูดจากำกวมไปว่า 'บริการ'ให้หนึ่งคืน แต่จินชิเข้าใจผิดไปโน่น (คนบริการคือพี่สาว) บีบถ้วยชาแตกคามือ5555
ส่วนสาเหตุที่มาวๆไม่ขอให้จินชิรับรองให้ เพราะคิดว่าจะเป็นการดูถูกถ้าชวนขันทีไปใช้บริการหอนางโลม ส่วนที่กูบอกว่าจินชิM เพราะตั้งแต่ต้นเรื่องมาวๆจะมองจินชิด้วยสายตาที่เหมือนมองหนอนแมลง พอโดนมองอย่างนั้นจินชิก็จะอารมณ์ดียิ้มมีความสุขเหมือนคนบ้า5555
ความจริงอยากสปอยเรื่องจินชิมาก แต่อ่านเองน่าจะดีกว่า เป็นอะไรที่น่าจะพีคในตอนหลังๆ
.
.
.
.
.
>>742 เดี๋ยว!! ท่านพี่นามสกุลโมโมโซโนะ....งั้นก็แต่งงานกับอิมาริแล้วสินะ เพราะภรรยาใช้นามสกุลสามีนั้นเป็นเรื่องปกติฝุดๆ
แต่เทพมารไปอยู่กับจอมมารแบบนี้ก็แทคทีมรวมหัวกันแล้วทำให้บริษัทคาบุรากิล่มจมไปเลยค่ะ มีกันแค่สองคนก็เหลือแหลที่จะครองโลกได้แล้ว เอาให้มันลุกเป็นไฟไปเล้ย เย้เย //ไม่ใช่ละ
เพื่อนโม่งกูถามหน่อย
.
.
.
.
.
ก่อนหน้านี้กูเห็นคนบอกว่าเอ็นโจรู้ใจตัวเองแล้ว นี่ตอนไหนวะ ในดิบหรือที่แปลแล้ว
.
.
.
.
.
740-742 อร๊ายยยย นี่มันซีรี่ส์ใหม่! สปินออฟ ชอบคำบรรยายเอ็นโจว่ายิ้มไปไม่ถึงดวงตาจังคร่ะ แอบสงสารเรย์กะคิมิดอลเล็กๆ นี่ท่านพี่จะโผล่มาเยียวยาแน่ใช่ไหมคะ!
อะไรคือการจับผิดสามีคาบุนอกใจ 5555 นี่ให้ความหวังเรือคาบุกันเกินไปละ
ตอนนี้มาแปลกตรงเอ็นโตกับเรย์กะแท็คทีมกันดีมาก ปกติเอ็นโจจะระเบิดเรือต้วเอง ตอนนี้ทำดีย์
บากะรากี๊!! สามัญสำนึกหยดสุดท้ายได้เหือดหายไปแล้วสินะ
แต่งานนี้เอ็นโจทำดี กู๊ดจ๊อบ!!
แปลไทยใหม่ ขอบคุณมากโม่งแปล
กูเชื่อว่าตอนที่เรย์กะด่าคาบุรากิว่า “สตอล์กเกอร์” เนี่ย เอ็นโจคงสะอึกน่าดู 555555555
ขอบใจโม่งแปลน้าาา. ม้วบบบบ
ตอนนี้น่ารักดีจังง. คาบุรากินนี่น่าเอ็นดูชมัก. เด็กเอ๊ยย. เอ็นโจเมื่อไหร่จะทำได้ซักครึ่งนึงของคาบุเนี่ยยยยย. แกรหัดดูเพื่อนบ้าง. แต่เอาครึ่งเดียวพอนะ 555
สามคนนี้ก็ยังคงความเป็นตลกคาเฟ่ได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ แทคทีมกันดีมาก คนนึงชง คนนึงตบ อีกคนขำ แต่คาบุเอ๋ย การที่เจ้าจะเรียกตัวเองว่าสตอล์กเกอร์นั้นมันเร็วไป
โอ๊ย!! น้ำตากูจะไหล ถ้ากูเป็นวาคาบะนี่กูควรจะดีใจหรือเสียใจดีว่ะที่มีคนแบบบากะรากิมาชอบ เจ้านี้มันเป็นทุกอย่างจริงๆตั้งแต่คุณชาย อัจฉริยะ(+คนโง่ในอีกหลายๆเรื่อง) ตัวปัญหา จอมKY สตอล์กเกอร์ ไปจนถึงคนบ้า//กุมขมับ
ขอบคุณโม่งแปล ตอนใหม่นี่สามหน่อตบมุกกันโครตขำแต่ฮาเอ็นโจเหมือนเกทับคาบุรากิในเรื่องสตอกเกอร์
คาบุที่หลบหน้าเจ้าแม่นี่ รู้ตัวสินะว่าการกระทำของตัวเองเนี่ยมันเป็นยังไง
เจ้าแม่นี่ก็มองออกทะลุปรุโปร่ง เลย~
ชอบตอนคาบุรากิโค้งตัวพูดยินดีด้วยครับ มันกร๊าวใจมากเลยยังไงไม่รู้ แต่ก็ทำตัวมีพิรุธจริงๆนะ ไม่เนียนเล๊ยย ถึงเรย์กะบอกว่ากลัวคาบุรากิเมินแล้วฐานะตัวเองจะสั่นครอนก็เถอะ จริงๆแอบเศร้าที่เขาหนีใช่ไหม ถ้าเป็นแต่ก่อน คาบุรากิหลบหน้างี้ เรย์กะคงแฮปปี้เดินตัวปลิว แต่นี่มีพยายามหาสาเหตุ ยอมไปคุยด้วย //นอนตายในกองกาว
ตอนนี้คือตอนที่ควรกร๊าวใจ แต่กูฮาตั้งแต่ต้นจนจบเลย นี่คือบรรยากาศคณะตลกสามคนสินะ หุๆๆๆ
เกือบดีแล้วเอ็นโจ ติดนิดเดียวดันไปแซวสาวเรื่องหลุดเสียงต่ำห้าวไม่สมเป็นกุลสตรี เอ้า พยายามเข้านะเอ็นโจเอ๊ย
ขอบคุณโม่งแปลมาก
สรุปนี่คือไพโรรี่ที่ตอนนั้นในบอร์ดโม่งเกือบมีเรือเป็นของตัวเองใช่มะ
>>761 กูก็ชอบ 5555 พอนึกภาพคาบุโค้งตัวบอกเรย์กะว่ายินดีด้วยครับมันกร๊าวใจมากๆ ว่าแล้วก็สงสารคนที่ได้เป็นแค่แบ็คอัพให้จัง..
กูควรเตรียมตัวไปเกาะเรือคาบุมั้ย เผื่อเรือกูล่ม นับวันคู่เรย์กะคาบุยิ่งน่ารักมากขึ้นทุกที เวลาอยู่ด้วยกันเจ้าแม่ก็ไม่รักษามาดเท่าไหร่แล้ว
ขอเสนอทฤษฎีตอนจบ
ทางบ้านท่านเรย์กะกับคาบุเห็นว่าสองคนนี้สนิทกันดีเลยจับหมั้น เรย์กะช็อคกลัวเรื่องจบตามเดิม ส่วนคาบุไม่ว่าอะไรเพราะเพิ่งรู้ใจว่าชอบเรย์กะ
แต่จบแบบนี้แล้วจะเคลียร์ปมวาคาบะยังไงน้อออ คาบุก็ดูจะไม่ใช่คนที่เปลี่ยนใจง่ายๆ จากมุมมองท่านเรย์กะเห็นมีโมเม้นท์น่ารักกันก็เยอะ แต่ในส่วนที่เราไม่รู้คาบุก็จีบวาคาบะอยู่อย่างเอาจริงเอาจัง
>>768 กูขอเสนอทฤษฎีตอนจบ คาบุ เอ็นโจ เรย์กะ วาคาบะทั้ง 4 คนยืนอยู่ต่อหน้าประตูมหาลัยซุยรันในวันเปิดเทอมใหม่มีซากุระโปรยปรายสร้างบรรยากาศ ทั้ง 4 หันมามองหน้ากันอย่างยิ้มแย้มพลางวิ่งเข้าประตูไปอย่างร่าเริง ขึ้นคำโปรยว่า "อนาคตที่ไร้ขีดคั่น ไม่มีทั้ง Pivoine หรือสามัญชน วัยรุ่นของพวกเราเพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น!" จากนั้นก็ขึ้นเครดิตพร้อมคำขอบคุณ
พอจบเครดิตก็มีอาริมะเดินมามองผู้ชมด้วยสายตาว่างเปล่า พร้อมกับคิดว่าขอตูมีบทบ้าง...
>>768 อาจจะไปนั่งดินเนอร์กันสองคนใต้แสงเทียนแล้ววาคาบะก็เกริ่นนำ
"มาซายะคุง ฉันชอบเธอนะ"
"!!!วาคาบะ"
"แต่ฉันไม่คู่ควร"
"ไม่หรอกน่าเรื่องแบบนั้น"
"เพราะงั้นมาซายะคุง.......แต่งงานกับคุณเรย์กะเถอะ"
"!!!"
"แล้วก็รับฉันไปเป็นอนุฯ"
"!!!!!!"
"จริงๆ แล้วฉันแอบคบหากับคุณเรย์กะมาก่อนมาซายะอีก"
"!!!!!!!!!"
"แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องครอบครัวหรอก ถ้าเป็นคุณเรย์กะพ่อแม่หรือน้องๆ ของฉันคงยินดี"
"!!!!!!!!!!!!"
................ราวๆ นี้มั้ง
แต่ตอนล่าสุดนี่กูชอบตอนสุดท้านฉิบหายเลยให้ตาย มันดูเคมีเข้ากันมากเลยคู่นี้
"ยินดีด้วยครับ"
"ขอบคุณค่ะ"
...ว้ากกกก!! น่ารักกมากกก ตั้งแต่อ่านเรื่องนี้กูก็โดขิโดขิกะเรื่องเล็กน้อยซัมเหมอ
ขอบคุณโม่งแปล
ตอนนี้เหมือนเรย์กะจับผิดคุณสามี (คาบุ) โดยมีซูสุมอยเป็นกองหนุนเลย แฮะ 555
ตอนท้ายกูตลกมากกว่าเขินแฮะ เหมือนท่านเรย์กะพยายามบอกคาบุว่านี่ฉันได้ตั้งที่ 18 นะยะ แล้วคาบุก็ยอมๆก้มหัวแสดงความยินดีเพราะระอาอะ555555 แบบ เออๆ ยินดีด้วยนะ 5555555
กูฮาตอนนี้ตั้งแต่ต้นยันจบ คณะตลกสามช่านี่มันเข้าขากันจริงๆด้วยว่ะ คือกูคิดว่าถ้าสามคนนี้จบแบบเป็นเพื่อนกัน แยกย้ายไปมีครอบครัวตัวเองก็โอเคเลยน้า กูชอบสไตล์มิตรภาพมากกว่าจะให้มันกินกันเองในกลุ่มอะ
กูรู้สึกได้ว่าในการโค้งยินดีของคาบุ มันมีคำขอขมา ที่ต้นๆบอกว่า กะอีแค่สอบได้ไม่เกิน30แล้วยังไง ถถถถ
ตอนใหม่นี่ก็ขำความจับสามีหนีเที่ยวมาก555555555น่ารักกันจริงๆ
//ไม่ได้เข้ามาหลายวัน ชอบฟิคเรย์กะนัดบอร์ด กับ ทะลุมิติภาคพิเศษ มากก ไม่เจอกาวมานานเลยรู้สึกกาวอร่อยเป็นพิเศษ
น้องเหมาๆอ่านมังงะละชอบ คงได้ไปดำน้ำตามโม่งๆในเร็ววัน
ฮือๆๆๆ กูชอบตอนนี้ ฮาตอนโค้งให้กันด้วย อ่านช่วงแรกๆกูรู้สึกเหมือนเป็นเอ็นโจเรย์กะ คุณพ่อคุณแม่ที่ปรึกษาเรื่องลูกชายแตกหนุ่ม แต่เข้าช่วงหลังกลายเป็นคุณแม่เรย์กะที่ไปไล่บี้คุณพ่อคาบุผู้มีคดีแทน ส่วนเอ็นโจเป็นป้าข้างบ้านสายซัพ... กูชอบคสพ.สามคนนี้มากกว่าไปเชียร์วาคาบะจังกับคาบุแฮะ ดูพอสติรั่วกันแล้วเคมีไม่เข้ากัน วาคาบะจังกับนายตัวสำรองดูจะเข้ากันได้มากกว่าอีก
>>781 คุ่นั้นมีอุปสรรคอะไรเหรอ เขาเลิฟๆกันตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเว้ย!
>>783 ไม่มีผลหรอกน่าเชื่อกู ถึงขั้นที่สาวคนอื่นได้มาเห็นความรักของทั้งคู่ต้องยอมถอยออกไปเองเลยนะ ในใจต้องคิดว่า 'เราคงเข้าไปแทรกกลางระหว่างพวกเขาไม่ได้หรอก' แหงๆ เป็นความรักอันบริสุทธิ์ใจและเร่าร้อนกว่าคู่หลักของเรื่องนี้อีก! ว่าแต่คู่หลักเรื่องนี้ใครนะ คานซังเรย์กะ? เครื่องชั่งน้ำหนักเรย์กะ?
กุชอบคำว่า. ฆ่าแม่ง 555
ว่าแต่ความสนิทของ 3 คนนี้มันเกินระดับจะมาเรียกท่านๆแล้วนะ. อย่างคาบุรากิที่เรยกะรู้ไส้รู้พุงหมดแล้วว่ามันบ้า ยังเรียกท่านคาบุรากิได้ลงหรอ 555. มันเป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้วนิ
ถ้าเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆ กูก็อยากเห็นฉากรุมตบกบาลเวลาใครในกลุ่มพูดอะไรไม่เข้าท่าออกมาอยู่นะ นี่ก็ด่าและเหน็บแนมกันแบบไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้นมานานละ ไม่สนิทจริงทำแบบนี้ไม่ได้หรอก 5555555555555555555555
แค่ก ไม่มีใครตลกคุณพ่อสิงโตทะเลเหมือนกูหรอม ชาติที่แล้วสิงโตทะเล ชาตินี้ทานุกิ ท่านเรย์กะมีความสัมพันธ์แบบlove-hate Relationshipกับคุณพ่อสินะเนี่ย55555
แต่น่ารักกุ๊งกิ๊งโชโจละเกิน นี่กูเปิดถูกเรื่องเหรอวะ/เช็ก
ในอนาคต ถ้าวาคาบะมาร่วมวงทัวร์กินกับสามช่า วงนี้จะไม่กลายเป็น double date เหรอวะ คาบุกับวาคาบะก็ต้องมี moment ใช่มะ เหลือจอมมารกะเจ้าแม่เรา ไม่น่าจะรอดนะ...
หวังว่าไม่ใช่พอไปเดท 4 คน เจ้าแม่กะวาคาบะมุ้งมิ้ง ปล่อยให้สองหนุ่มเดินเคียงกันนะ
อ่านมาวมาวแล้วขัดใจชื่อมาก อยากจับแก้ให้จีนให้หมด แต่ประเด็นคืออ่านดิบไม่ออก ไม่รู้คันจิตัวไหนคือชื่อ....
อ่านมาวมาวแล้วขัดใจชื่อมาก อยากจับแก้ให้จีนให้หมด แต่ประเด็นคืออ่านดิบไม่ออก ไม่รู้คันจิตัวไหนคือชื่อ....
เชี่ย เด้งสอง
กุก็สาววายนะ แต่พวกมึงแดกกาวเข้าไปกี่กระป๋องเนี่ย เรื่องนี้มีวายคู่เดียว ท่านอิมาริ×ท่านพี่ นอกนั้นเป็นผู้มีรักแบบ normal กับสมาชิกคานทองหมด
สมาชิกคานทองกุเหมารวมคาบุ กะ เอ็นโจด้วย กุล่ะอยากให้วาคาบะคู่กะนายตัวสำรอง ยุยโกะโดนเอ็นโจทิ้งเพราะชอบเรย์กะ เลยหันไปได้กะตาไก่โง่ แต่สุดท้ายจะชอบกันอิรุงตุงนังยังไง ขอให้ขึ้นคานเข้าบ้านพักคนชราหมด กุดูทรงแล้ว tag love แม่งจะ activated ทีไร โดน tag food ตบตายห่าหมด
ยูกิโนะคุงพระเอก!!!
คืออยากบอกว่าสงสัยมานานล่ะไอ้ spinster นี่อ่ะไรเลยไปเปิดดิก อ้อ คานซังนี่เอง พระเอกของเรื่องเลยนะ
มานั่งตามอ่านในนี้แล้วเพิ่งนึกได้ว่า จริงๆเรื่องนี้ท่านเรย์กะมาเกิดใหม่ในร่างนางร้ายนี่นา
ลืมตัวนึกว่าเป็น เรื่องชีวิตพิชิตคาน/ นิยายแนะนำอาหารสามัญชนสู่คนรวย อะไรแบบนี้
กูเริ่มคิดแล้วว่าพระเอกเรื่องนี้อาจมาตอนเข้ามหาลัย หนุ่มๆในโรงเรียนแต่ละคนใช้ไม่ได้เลย//ส่ายหัว
800 แล้ว เสนอชื่อมู้กันด้วย
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับศาสตร์การพิชิตสิงโตทะเล หึ! นายยังอ่อนหัด...เจ้าสิงโตทะเลตัวน้อย [ฆ่าแม่งครั้งที่ 22]
Ky เล็กน้อยนะคะ ต่อจาก >>740-742 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
((ตอนพิเศษ : ถ้าไม่มีใครทะลุมิติ))
ตอนพิเศษที่แล้วเป็นฝั่งโลกคิมิดอล ส่วนอันนี้เป็นฝั่งโลกนิยายนะคะ พยายามคิดดูว่าถ้าไม่มีแหตุการณ์รถชนทะลุมิติจะเกิดอะไรขึ้น อาจต้องย้อนอดีตไปไกลถึงตอนแรกๆหน่อยนะคะ 5555 (เหตุการณ์นี้จริงๆน่าจะต่อกับ https://fanboi.ch/webnovel/3507/942-943/ )
...............
(โลกฝั่งนิยาย)
ขณะที่ฉันกำลังคิดว่าจะนอนอืดตื่นสายวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ท่านแม่ก็รีบมาบอกอย่างตื่นเต้นว่ามีแขกมา ฉันจึงแต่งตัวลงไปหาอย่างระแวง
“ช้าจริงๆเลยคิโชวอิน” คาบุรากิพูดส่ายหน้าอย่างตำหนิ
“มาทำอะไรคะท่านคาบุรากิ...”
“ก็มาวางแผนเดินทางกันไง” คาบุรากิพูดอย่างจริงจัง “ฉันลองไปศึกษามาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรับแค่ผู้ชายนะ ลองติดต่อไปแล้ว สำนักนั้นก็ยืนยันว่าให้ผู้หญิงบวชไม่ได้ เธอมีแผนอยากเปลี่ยนเพศไหม หรืออยากหาที่อื่นที่ไปด้วยกันได้”
“หะ?”
เดี๋ยวนะ เปลี่ยนเพศอะไรคะ! แล้วฉันตอบรับตอนไหนว่าจะออกเดินทางไปกับนาย เอ็นโจหายไปไหนน่ะ ทำไมไม่มาดูแลเพื่อนนายให้ดี... เพื่อนนายกำลังอกหักต้องได้รับการดูแลด่วนนะ หรือว่าจอมมารคิดว่าครั้งนี้ปล่อยให้ฉันจัดการไปก็แล้วกัน
“ท่านเอ็นโจไม่มาด้วยกันหรอคะ” ฉันปัดหนีสุดชีวิต ไม่อยากออกเดินทางกับเจ้าบ้าสองคนหรอกนะ ในฐานะเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยประถมอย่างเอ็นโจไม่คิดจะทำอะไรบ้างหรือไง ช่วยออกเดินทางแทนฉันที
“หมอนั่นยังไม่อกหักนี่” คาบุรากิบ่น
นายควรยินดีกับเพื่อนนายที่ไม่ได้มีชะตากรรมน่าเศร้าแบบนายนะ หรือว่าคิดว่าเอ็นโจทรยศเพราะดันรอดตัวจากคานไปคนเดียว อ้า จะยังไงเอ็นโจก็มีว่าที่คู่หมั้นแล้วล่ะนะคะ...
“เอาเถอะ เราต้องผ่านมันไปได้แน่” คาบุรากิให้กำลังใจฉัน “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ”
เอ๊ะ หน้าแบบนั้นมันหน้าแบบไหนหรอคะ หน้าตาสะเทือนใจน้ำตาไหลให้กับไหล่ผู้โชคร้ายที่ต้องโดนนายตบจนทรุดน่ะหรอคะ
คาบุรากิลุกขึ้น หันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น “เอาล่ะ ไปกันเถอะ”
“ไปไหนกันคะ...”
ฉันถูกคาบุรากิจับมือลากออกไป หมอนี่เอาแรงมาจากไหนกันน่ะ เมื่อวานยังทำตัวเปื่อยแทบจะไหลไปกองกับพื้นอยู่เลย ท่านแม่เห็นท่าทางแบบนั้นของฉันกับคาบุรากิก็ดีใจใหญ่ ส่งเสริมกันเต็มที่
แงงงง ท่านพี่ช่วยน้องด้วยค่ะ! ทำไมวันนี้ท่านพี่ต้องไปทำงานด้วยนะ ฉันจะให้ใครช่วยได้เนี่ย... ท่านแม่คะ หมอนี่จะทำลายทรงผมโคโคโร่ที่ท่านแม่ภูมิใจนะคะ นี่ฉันต้องไปโกนผมจริงๆหรอคะ แล้วเรื่องโรงเรียนล่ะ คงไม่ใช่บวชวันหยุดสุดสัปดาห์ พอวันจันทร์กลับมาเรียนต่อหรอกนะ
ใครก็ได้พาออกจากสถานการณ์นี้ที...
ขณะที่ฉันกำลังร้องขอปาฏิหาริย์ อยู่ๆเสียงรถบรรทุกพุ่งตรงเข้ามาหาไม่มีการชะล่อความเร็วใดๆ ฉันได้แต่ตกตะลึงค้างอยู่กับที่ แต่คาบุรากิประสาทสัมผัสตื่นตัวได้ไหวกว่า เหวี่ยงตัวฉันออกห่างไป
หัวใจฉันแทบหยุดเต้น เกือบโดนชนไปแล้ว... น่ากลัวชะมัดเลย เสียววินาทีที่เกิดขึ้นรวดเร็วทำให้ร่างทั้งร่ายฉันอ่อนยวบไปหมด
“ขะ...ขอบคุณค่ะ”
ฉันพูดเมื่อเริ่มได้สติ ถ้าคาบุรากิไม่ช่วยเอาไว้ฉันต้องตายแน่ๆ... แต่ว่าถ้าเขาไม่คิดพาฉันออกเดินทางตั้งแต่ต้นก็คงไม่มาเจอเหตุการณ์เฉียดตายแบบนี้หรอก...
พอจะออกเดินทางก็ลางไม่ดีเลยนะคะ...
คาบุรากิเดินมาหาฉัน ก่อนจะจ้องมาด้วยดวงตาดำขลับราวกับนิล ท่าทางเหมือนกำลังสำรวจอย่างจริงจัง
“คิโชวอิน นี่เธอ...”
เขาเรียกชื่อฉันขณะเดินเข้ามาใกล้โดยไม่ถอนสายตาออกไป แล้วจับแขนฉันเบาๆ
ตอนที่เขาเหวี่ยงฉันออกไป เหมือนจะกระแทกพื้นไปนิดหน่อยนะคะ แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรรุนแรงมากนัก ไม่ได้ถึงกับช้ำหรือเจ็บหนักล่ะนะคะ ตะ...แต่ใกล้ไปแล้วนะคะ
คาบุรากิยังคงสำรวจฉันอย่างเคร่งเครียด จนฉันเกร็งไปหมด ต้องพูดอะไรสักอย่างแล้วมั้งคะ
“คะ...คือ”
“เธอหนักกว่าที่เห็นเยอะเลยนะ”
“ห๊าาาาาาา?!”
ฉันหลุดอุทานสุดเสียง
อะไรน่ะ! หนักกว่าที่เห็นนี่มันอะไรกันคะ!!!
“อือ เมื่อกี้กะแรงพลาดไปหน่อย ยังดีที่ไม่เป็นอะไรนะ”
พอจะด่า ก็มีบุญคุณค่ำคอจนฉันพูดไม่ออก ให้ตายเถอะ! ท่าทางเขายังไม่รู้ตัวว่าพูดสิ่งทำร้ายจิตใจสาวน้อยออกมาเลยซะนิด
“เธอหนักเท่าไหร่น่ะ”
“ห้ามถามเรื่องแบบนี้กับสาวน้อยสิคะ!”
หยุดพูดถึงเรื่องแบบนี้ได้แล้ว! ช่างไม่มีความละเอียดอ่อนเอาซะเลยนะคะ!!! แต่เมื่อกี้เผลอทำเสียงห้าวใส่ไปอีกแล้ว... ไม่เป็นไรหรอกมั้ง
ถึงคาบุรากิจะไร้สามัญสำนึกมากแค่ไหน แต่ดูเหมือนความผิดพลาดในอดีตจะช่วยสอนเขาได้ดีทีเดียว เลยไม่ถามต่อ แต่คิดแล้วน่าหงุดหงิดชะมัดเลย
“ไปกันต่อไหม”
"นี่คิดจะไปตามหาสำนักแบบนั้นจริงๆหรอคะ..." เพิ่งเกือบโดนรถชนมานะ ไม่คิดหน่อยหรอว่าเป็นเสียงจากสวรรค์ส่งสัญญาณมาบอกว่าอย่าไปทำอะไรแบบนั้นเลย
"ฉันคิดไว้แล้วล่ะ เรามาตั้งสำนักขึ้นมาเองกันเถอะ!"
เอ๋?! จะบ้าหรือไงกันคะ!!!
ฉันเหนือคำจะกล่าว แต่ท่าทางคาบุรากิดูตื่นเต้นน่าดู ความสลดจากอกหักนี่หายไปเร็วขนาดนี้เลยหรือไงกัน
คาบุรากิเริ่มพูดถึงการออกแบบอาคาร และสิ่งที่จะสอนในสำนักอย่างกระตือรือร้น ถ้าไม่รีบห้าม มีหวังทำจริงแน่เลยล่ะนะคะ...
ฉันพยายามค่อยๆพูดเปลี่ยนความคิด สุดท้ายไม่รู้ทำไม พวกเราก็มาจบที่ภัตตาคารที่เพิ่งเปิดสาขาในญี่ปุ่น แต่อย่างน้อยเขาก็ดูจะคิดได้แล้วว่าไม่ควรเปิดสำนักเอง
"เธอจะสั่งคาโบนาร่างั้นหรอ..."
"ค่ะ ทำไมหรอคะ"
"แค่...นั่นเป็นเมนูสุดท้ายที่ฉันกินกับทาคามิจิน่ะ..."
ซวยล่ะ ดันบังเอิญไปตรงกันซะได้
คาบุรากิทำหน้านิ่งก็จริง แต่ท่าทางนี่ซึมจ๋อยเศร้าสลดเหมือนแมวโดนน้ำสาดจนตัวลีบ
"คิดๆไป ฉันเปลี่ยนไปกินสลัดดีกว่านะคะ" จะได้ไดเอทด้วยล่ะนะ คำว่าหนักกว่าที่เห็นยังสะท้อนก้องอยู่ในหัวอยู่เลย...
"..."
คาบุรากินิ่งเงียบไม่ตอบอะไรสักพัก มองเมนูด้วยสายตาว่างเปล่า แผ่ออร่าหล่อระทมให้พนักงานเสิร์ฟสาวที่เดินผ่านมามองตาค้าง
จะเอาสลัดทั้งที เอาแบบไหนดีนะ เพิ่งรู้นะคะว่าร้านนี้มีสลัดกว่า 40 แบบ บางอันนี่ดูมีแป้งและเนื้อเกินกว่าจะกินเพื่อไดเอทนะคะ
แต่ภาพสเต็กข้างๆนี่ก็ดูน่ากินจังเลยนะ วันนี้มีเสิร์ฟเมนูพิเศษด้วย! สปาเกตตี้ผัดซอสนี่มันอะไรกันน่ะ!!! ซอสสูตรพิเศษที่จะมาแค่หนึ่งสัปดาห์ต่อปีเท่านั้น!!! ตอนนั้นฉันบินไปยุโรปยังกินไม่ทันเลยนะคะ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นเมนูนี้กับตาที่ญี่ปุ่น
มือไม้ฉันสั่นไปหมดจนทำอะไรไม่ถูก สั่งเมนูนี้ออกไปก่อนโดยไม่รอคาบุรากิที่ยังนั่งสลด
แต่ถ้าคาบุรากิยังไม่สั่งซะที เมนูของฉันก็ยังไม่ไปถึงห้องครัว แล้วซอสสูตรพิเศษอาจจะหมดก็ได้!
"ตัดสินใจได้หรือยังคะ"
ฉันเร่งคาบุรากิ แต่เขาดูหมดอะไรตายอยากน่าดู ถึงอย่างนั้นฉันก็ได้ยินเสียงกรี๊ดแววมาจากโต๊ะข้างๆตอนที่คาบุรากิถอนหายใจ
"อือ ฉันไม่รู้จะสั่งเซ็ตไหนดีน่ะ"
คาบุรากิวางเมนูให้ฉันดู แต่ละอย่างถ้าฉันเป็นคนกินเองต้องลดน้ำหนักเป็นเดือนแน่เลยค่ะ ปกติคนที่เศร้าๆเขากินกันเยอะขนาดไหนกันนะคะ
“เซ็ตที่สามดีไหมคะ มีสปาเกตตี้ผัดซอสสูตรพิเศษเฉพาะของร้านนี้ด้วยนะคะ”
“อ้า”
สรุปเอาใช่ไหมน่ะ ฉันหันไปสั่งก่อนถามต่อเปลี่ยนบรรยากาศ
“จะว่าไปท่านคาบุรากิเคยกินหรือยังคะ”
“อือ เคยให้เซฟมาทำให้ตอนไปกินกับทาคามิจิน่ะ...”
“...”
เอาอีกแล้วเรอะ ประสบการณ์ของกินของคาบุรากิกับทาคามิจินี่ท่าทางจะเยอะเกินไปแล้วนะ!
คาบุรากิเหม่อมองด้วยสายตาคะนึงหา ก็มัวแต่ถือหลักการหมู่บ้านคานทองไม่ยอมสารภาพจนโดนตัดหน้าไปเองนะคะ
ท่าทางหมดอาลัยตายอยากขึ้นเรื่อยๆเลยนะ พอไม่มีเรื่องสร้างสำนักเดินทางออกบวชก็ไม่มีอะไรยึดเหนี่ยวจิตใจสินะ
พออาหารมาเสิร์ฟ ฉันกินอย่างตื่นเต้น นี่เองสินะรสชาติที่ร่ำลือกันมานาน ช่างคุ้มค่าจริงๆที่มีโอกาสได้ลิ้มลอง
ผ่านไปสักพัก อยู่ๆคาบุรากิก็พูดขึ้นมา “เธอทนได้ยังไงน่ะ...”
“เอ๋?”
“เธอรับมือกับเรื่องแบบนั้นได้ยังไง”
“เรื่องอะไรคะ?”
“ก็ประธานนักเรียนนั่นไง เธอชอบหมอนั่นไม่ใช่หรือไง”
“ห๊า?! ไม่ใช่ค่ะ ดูเหมือนจะเข้าใจผิดแล้วนะคะ!!!”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจ เธอเองก็ไม่อยากพูดออกมาใช่ไหม...”
“...”
“ฉันเห็นเธอร้องไห้ตอนหมอนั่นกับ...ทาคามิจิเดินไปด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องนี้หรอกนะ”
เอ๊ะ หมายถึงเรื่องเมื่อวานงั้นหรอ เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วนะคะ ทำไมคาบุรากิชอบคิดว่าฉันต้องเจอเหตุการณ์เดียวกับเขาตลอดด้วยคะ
“ฉันไม่ได้ชอบคุณมิซึซากิหรอกนะคะ...”
“เธอเข้มแข็งจริงๆเลยนะ”
บอกว่าไม่ใช่ไงเล่า! เข้าใจผิดอย่างงี้นี่เองสินะถึงได้มาลากไปออกเดินทาง
“ไม่กินหรอคะ” ฉันเปลี่ยนเรื่องอย่างปลงตก ขณะมองจานที่เต็มไปด้วยอาหารของคาบุรากิ นี่เขายังไม่แตะมันเลยใช่ไหม
“รู้สึกกินไม่ลงน่ะ...”
“ท่านคาบุรากิคะ”
“หืม?”
ฉันวางส้อมก่อนจะจ้องคาบุรากิอย่างจริงจัง
"ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่ควรเป็นปรปักษ์กับอาหารอร่อยนะคะ"
“หะ?”
ฉันพูดจริงนะ อาหารอร่อยก็ยังอร่อยอยู่วันยังค่ำ ไม่ยอมแม้แต่จะให้โอกาสมันได้เข้าปากด้วยซ้ำแบบนี้ไม่ยุติธรรมเลยนะคะ! กินเข้าไปซะ
“แต่ฉันเคยกินกับทาคามิจิ...”
“ถ้าท่านคาบุรากิจะไม่กินอะไรที่เคยกินกับคุณทาคามิจิ ตอนนี้จะกินอะไรได้บ้างคะ?”
“...เหมือนจะไม่ค่อยมีเท่าไหร่”
“ใช่ไหมล่ะคะ สุดท้ายจะหิวตายเพราะไม่มีอะไรกินหรอคะ”
“ยังพอมีบ้างนะ แต่ถ้ากินอาหารที่เคยกินกับเธอไม่ได้ ฉันคงกินอะไรไม่ได้อีกแล้วล่ะ”
เดี๋ยวคะ! คำพูดแบบนั้นนั่นมันหมายความว่าไงกันคะ!!! นี่มองฉัน=อาหาร โดยสมบูรณ์แล้วจริงๆใช่ไหม หยาบคายที่สุด
ฉันแย่งจานสปาเกตตี้มาจากคาบุรากิ
“อะไรน่ะ ขโมยหรอ!”
“ก็ไม่กินไม่ใช่หรือไงคะ”
“มันก็...”
“ฉันรู้สึกเสียดายน่ะค่ะถ้าจะทิ้ง ซอสรสชาติโดดเด่นเข้ากับเส้นได้ดีขนาดนี้หาไม่ได้ง่ายๆเลยนะคะ” ฉันเอาเข้าปากอย่างเปี่ยมสุข
คาบุรากิมองตาละห้อย อยากกินล่ะสิ จริงๆอยากกินใช่ไหมล่ะ
“เอาไหมคะ”
“มะ...ไม่”
“งั้นฉันขอเลยแล้วกันนะคะ”
“...ขอกินสักคำก่อนแล้วกัน ไหนๆก็สั่งมาทั้งที”
คาบุรากิลองกินคำแรกแล้วท่าทางหยุดตัวเองไม่ได้ กินต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็กินจนหมดโดยลืมความตั้งใจแรกเริ่มไป ท่าทางดูร่าเริงแจ่มใสขึ้นทันที อาหารอร่อยนี่มีพลังจริงๆนะคะ
หลังได้กินอะไรไปบ้างแล้ว คาบุรากิดูมีพลังชีวิตมากยิ่งขึ้น
“ขอบคุณมาก ฉันได้เรียนรู้หลักการที่จะอยู่อย่างเข็มแข็งแล้วล่ะ”
เอ๋? ไปเรียนรู้อะไรมาตอนนั้นไหนน่ะ
“ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่ควรเป็นปรปักษ์กับอาหารอร่อย ฉันจะจำประโยคนี้ไว้”
ไม่ต้องจำอะไรแบบนั้นก็ได้นะคะ... แต่ดีขึ้นได้ก็ดีแล้วล่ะ ฉันจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับการโกนหัวหรือออกเดินทาง
คาบุรากิมาส่งฉันที่บ้าน
“ขอบคุณค่ะที่กรุณามาส่ง”
“อ่า”
ตอบขอไปทีชะมัด
“แล้วก็พรุ่งนี้มาแต่เช้าล่ะ ฉันจะเตรียมแบบทดสอบสำหรับสอบครั้งหน้าให้”
“เอ๋! นั่นมันอีกตั้งนานนี่คะ!!!”
“เธอคิดจะพอใจแค่ที่ 18 หรือไง! ครั้งหน้าติด 1 ใน 10 ให้ได้ซะ!”
“ไม่มีทางค่ะ! ฉันทำถึงขนาดนั้นไม่ไหวหรอกค่ะ!!!”
“เธอทำไม่ได้เพราะเริ่มต้นช้าเกินไปต่างหาก! พรุ่งนี้เตรียมฝึกหนักได้แล้ว”
อะไรเนี้ย!!! ไม่น่าช่วยปลอบหมอนี่เลย ปวดกระเพาะยังไงไม่รู้แหะ...
“ขอแค่รักษาระดับ 1 ใน 20 ไม่ได้หรือไงคะ”
“เธอต้องพัฒนาขึ้นสิ!”
“งั้นขอแค่มากกว่าที่ 18 ได้ไหมคะ...” จะยังไงก็ไม่ไหวอ่ะ 1 ใน 10 นี่นะ
“งั้น 15 ก่อนก็ได้”
ถึงจะดีขึ้นก็เถอะ แต่ก็ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ... นึกถึงช่วงนรกที่ถูกคาบุรากิเคี้ยวสอบแล้วหดหู่ชะมัด ฤดูใบไม้ผลิจะมาหาผู้ที่เอาแต่เรียนได้ไหมนะ...
ฉันเดินเข้าบ้าน รู้สึกเหนื่อยทั้งกายและใจจริงๆ...ฉันภาวนาให้อะไรๆดีขึ้นในวันพรุ่งนี้
แต่ไม่รู้เลยว่ามันจะกลับแย่ลงกว่าเดิม...
………………(จบตอนพิเศษ2)………………
ป.ล. มีปัญหากับการเขียนลงจบจริงๆนะคะ ตอนแรกเขียนไปสามหน้า แต่จบไม่ได้ซะทีจนกลายเป็นหกหน้า... (ปัญหาเดียวกับเขียนเนื้อเรื่องหลัก orz)
ขอบคุณสำหรับฟิค ที่จริงจะเขียนกี่หน้าก็ได้น้า เขียนยาวขนาดไหนอ่านได้หมดแหละ~
ม.รัฐนี่หมายถึงโทไดรึเปล่าอะ ที่นางตั้งเป้าไว้
แล้ววาคาบะจะเข้าม.ไหนต่อ?
ถ้าวาคาบะจะเข้าม.รัฐ คาบุก็น่าจะตามไป จะมีอีเวนท์ลากเจ้าแม่เข้าม.รัฐตามไหม
นักเรียนชายคนที่ตามอาโออิจังตอนที่165 คือคนที่สอบได้ที่สองในตอน270เปล่าว่ะ
คนที่น่าสังสัยที่สุดคือไอ้หมอนี้แหละะ
คนที่ได้ที่สองอาจจะเป็นท่านซาซาระรึเปล่า เห็นเหมือนนางเป็นหนอนหนังสือนี่ ไม่แน่อาจจะเรียนเก่งก็ได้
ตอนที่คาบุรากิไม่ติดท๊อปห้า มีชื่อตัวละครอื่นนอกจากกลุ่มที่ได้ประจำมะ กูจำไม่ได้ว่ามันอยู่ตอนที่เท่าไร
หรือว่าคุณที่สองนี่อาจเป็นสมาชิกสภานักเรียน เรียนเก่งไปก็ไม่มีใครสนมาก
หรือรองประธานนักเรียนผู้จืดจาง?
จะว่าไปพวกมึงว่าซุยรันจะบังคับเรียนภาษามั้ยวะ กูจำได้ว่ามู้ก่อนๆมีโม่งคุยว่าท่านเรย์กะน่าจะได้ฝรั่งเศสเพราะดูโอเปร่ามันใช้ภาษานี้?
แต่ดูจากความประหลาดใจที่ซึรุฮานะได้อังกฤษ กูก็คิดว่าซุยรันอาจจะไม่ได้เข้มมาก? แต่หลักสูตรก็ยังเข้มข้นกว่าโรงเรียนทั่วไปอยู่ดี??
หรือหลักสูตรน่ะเข้มข้นจริง แต่ไปเข้มกับเด็กนอก พวกลูกหม้อก็หลับหูหลับตาปล่อยๆไป แล้วไปเน้นวิชาอย่างพวกการเข้าสังคมไรงี้มากกว่า จัดดอกไม้ชงชางี้ แต่กูคิดว่าคงไม่มีพ่อแม่เด็กนักเรียนชั้นในปล่อยให้ลูกสื่อสารภาษาที่2-3ไม่ได้ว่ะ อาจจะไม่ได้คล่องขั้นnativeแต่ก็พอได้แน่ๆ เพราะการติดต่อในระดับธุรกิจนี่ยังไงก็ต้องได้ใช้ พวกPivoineขั้นต่ำน่าจะได้คนละ3ภาษาเลยนะ
>>856 กูว่าที่แปลกใจว่าซึรุฮานะได้คะแนนภาษาเยอะ เพราะภายนอกนางคงดูเหมือนพวกเด็กไม่สนใจเรียนว่ะ พอได้คะแนนเยอะๆคนเลยทึ่งมั้ง
แต่โอเปร่าส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอิตาลีนะ เพราะเป็นต้นกำเนิด รองมาก็เยอรมัน แล้วก็ฝรั่งเศส อังกฤษก็มีแต่มีน้อย กูว่าพวก pivoine หรือเด็กซุยรันชั้นกลางๆอย่างน้อยต้องได้ภาษาอังกฤษกันว่ะ เพราะเห็นไปเที่ยวเมืองนอกหรืออยู่เมืองนอกตอนปิดเทอมกันเป็นว่าเล่น ส่วนภาษาอื่นๆนั้นกูไม่รู้
แต่ว่าพวกมึง การรู้ภาษาฟังพูดได้ใช่ว่าจะทำข้อสอบภาษานั้นๆได้นะมึง การสื่อสารในชีวิตประจำวันมันต่างจากไวยากรณ์ในการเรียนอ่ะ
>>859 มันก็ใช่ แต่พวกที่ออกข้อสอบส่วนใหญ่ก็ใช้แกรมม่า กับโวเค็บเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว นักเรียนซุยรันที่ต่อไปต้องสืบทอดกิจการต่อ ถ้าไมรู้แกรมม่าก็เท่ากับเขียนเอกสารเป็นทางการให้ต่างชาติไม่ได้ ส่วนโวเค็บ คำศัพท์ที่ออกสอบก็ใช้ในชีวิตจริงอยู่แล้ว นอกจากจะไปสอบด้านภาษาโดยตรงที่เจาะศัพท์ลึกกว่า
วันนี้กูนึกครึ้มไปเปิดโอรันโฮสคลับดู อห ทามากินี่ท่านอิมาริมากๆ 555555555 ดูแล้วทำเอาภาพบรรยากาศในสโมสรชนชั้นสูงของกูแจ่มชัดขึ้นมาเยอะเว่อๆเลย พวกคุณหนูในโอรันนี่ดูจะเหมือนจะอาการหนักกว่าแก๊งดอกโบตั๋นอีกป่ะวะ ตอนเห็นผงกาแฟชงน้ำร้อนนี่มันน่าหมั่นไส้มั่กๆ กร๊ากก
ตอนนี้ชื่อมู้มีไรบ้างนะ จะ900แล้ว
ขอเสนอ ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับการตามหานายที่สองผู้เป็นปริศนา (ประกาศเรียกรอบที่ 22 แล้วก็ยังไม่รู้นาม)
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับเรื่องลุ้นๆครั้งใหม่ของเจ้าแม่ (ชายผู้ลี้ลับใครนะคือเนื้อคู่ 22 ) ลองเสนอบ้างแต่ค่อนข้างแบ๊วเผื่อชีชิตเจ้าแม่จะสดใสโดนสอยลงจากคาน5555555555
ขอรวมรายชื่อผู้เข้าแข่งขันไว้ตรงนี้ ใครจะเสนอเพิ่มเติมก็เชิญนะฮะ
>>503
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับศึกแย่งชิงพื้นที่การออกอากาศ [ชัยชนะของ tag food ครั้งที่ 22]
>>504
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเหล่าโม่งที่โอดครวญ "ไหนบอกว่า tag love ไหงเป็น tag food ล่ะ คุณหลอกโม่ง!!" (โม่งผู้ตะโกนโวยวาย ครั้งที่ 22)
>>814
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับศาสตร์การพิชิตสิงโตทะเล หึ! นายยังอ่อนหัด...เจ้าสิงโตทะเลตัวน้อย [ฆ่าแม่งครั้งที่ 22]
>>863
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับการตามหานายที่สองผู้เป็นปริศนา (ประกาศเรียกรอบที่ 22 แล้วก็ยังไม่รู้นาม)
>>864
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับเรื่องลุ้นๆครั้งใหม่ของเจ้าแม่ (ชายผู้ลี้ลับใครนะคือเนื้อคู่ 22 )
อะ เพิ่งเห็นว่าตกไป รวบรวมของ 507 มาไว้ตรงนี้แล้วน้า
>>503
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับศึกแย่งชิงพื้นที่การออกอากาศ [ชัยชนะของ tag food ครั้งที่ 22]
>>504
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเหล่าโม่งที่โอดครวญ "ไหนบอกว่า tag love ไหงเป็น tag food ล่ะ คุณหลอกโม่ง!!" (โม่งผู้ตะโกนโวยวาย ครั้งที่ 22)
>>507
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับชายที่มีเส้นผมสีน้ำผึ้งในห้องนั้น ถึงแม้จะทำตัวดี แต่เหล่าโม่งตาสว่างแล้วน้า~(แท็ก love ที่ถูกทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขอเหมารวม 22 ครั้งแล้วกัน)
>>814
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับศาสตร์การพิชิตสิงโตทะเล หึ! นายยังอ่อนหัด...เจ้าสิงโตทะเลตัวน้อย [ฆ่าแม่งครั้งที่ 22]
>>863
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับการตามหานายที่สองผู้เป็นปริศนา (ประกาศเรียกรอบที่ 22 แล้วก็ยังไม่รู้นาม)
>>864
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับเรื่องลุ้นๆครั้งใหม่ของเจ้าแม่ (ชายผู้ลี้ลับใครนะคือเนื้อคู่ 22 )
โหวต 503
โหวต 503 จ้า
503 🤔🤔🤔😋😚😍😍
อห. เว็บ Nekopost แม่งล่มวันละกี่รอบวะ กุเหนื่อยจะหัวร้อนแล้วเนี่ยยยย
วิธีแสดงความรักของเรย์กะคือการตุ๊ยท้องสินะ....
แล้วก็กินช๊อกโกแลตต่อ tag food มาอีกล่ะ
เมื่อไหร่ tag love จะโผล่มาน้อ
นอบน้อมและหนักแน่น ไพโรไลอินเรย์กะวันนี้... ธาตุแท้หลุดหมดแม่คุณ จากตอนเก่าๆที่ถูกยกมาว่าสวยสง่าเหมือนเจ้าหญิงก็กลายเป็นรุ่นพี่ที่น้องต่างเพศชวนไปส่งหาหมอซะงั้น นิยายรักกลายเป็นอะไรไปอีกแล้ว! ที่พวกคิคุโนะกับเซริกะตามไปไล่เก็บสร้างอิทธิพลให้น่ะถูกต้องแล้วล่ะ ขืนปล่อยตามปกติคนอื่นรู้หมด ไม่เหลือแน่นอนมาดเจ้าแม่
ไปทวนอ่านอีกที กูเมินโมเม้นคาบุรากิเขินเพราะไพ..เรย์กะชมว่าดูแลคนในสังกัดเก่งได้ยังไง! ที่แท้ก็แอบแท็คเลิฟมาเนียนๆนี่เอง!
ปกติเด็กม.ปลายเขามาห้อมล้อมคุยกันเรื่องฉี่เป็นเลือดเหรอวะ แหม่ กุ๊กกิ๊กดีจัง
โม่งแปล ‘เสียงทักดังมาจากด้านหลัง’ นะ
อ่านตอนนี้แล้วสงสัย ช่วงที่ติว ในPivoineรุ่นเดียวกัน มีแต่เรย์กะหรือเปล่าที่โดนคาบุลากมาติว ไม่เห็นมีใครพูดถึงคนอื่นเลย
ท่านเรย์กะนี่ยังไง คนอื่นกลัวกันหมดแต่นี่แป๊ปเดียวสนิทกับรุ่นน้องPivoineจนน้องแซวแถมมีปล่อยหมัดด้วย จอมมารว่าไงคะ ยอมให้มีคนอื่นโดนเจ้าแม่ต่อยเหรอ XD
แค่สนิทกับรุ่นน้องผู้ชายหน่อยทำเป็นไม่พอใจเชียวนะยะ อยากเรียกชื่อบ้างรึไง
คาบุมันคงน้อยใจ ทำไมน้องๆไม่สนิทด้วยบ้าง อิจฉาเรย์กะล่ะสิ
คาบุน้อยใจจริงๆนั่นแหละ เวลาอยู่กับคนทั่วไปนี่พระเอ๊กพระเอกนะ เรย์กะที่ได้เห็นธาตุแท้แต่เด็กนี่ควรจะรู้ตัวได้แล้ว รู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้วล่ะ เจ้าแม่จะฆ่าทานุกิแล้วววว ท่านพี่ทำอะไรลงไป
ปล.ทำไมยิ่งอ่าน ร่างเราก็เข้ามาฝังเรือคาบุมากขึ้นล่ะเห้ย
ปล.2ท่านพี่ยิ้มขื่นๆ...
สนิทถึงขนาดหมัดตรงใส่ได้นี่ไม่ธรรมดาแล้วนะ กูอ่านบรรทัดนั้นตั้งหลายรอบ โคตรฮา 555555
อาหารเพื่อสุขภาพหรืออาหารทำลายสุขภาพกันแน่ท่านเรย์กะ
สงสารท่านพ่อบ้างเถอะ
ฉากหมัดตรงนั่นหลุดหมดแล้วครับท่าน
อาจจะเป็นการชวนไปเดทแบบเนียนๆของรุ่นน้องก็ได้นะ.......
//มโนต่อปายยยยยย
แมวน้อย โม่งแปล แปลเสร็จแล้วเรอะ
พวกรุ่นน้องนี่ มองท่านเรย์กะยังไงเนี่ย
//เอาขนมมาขอขมาเจ้าแม่เดี๋ยวนี้เลยนะ!!?!
ทำไมคาบุรู้จักหมอเยอะจัง
คงไม่ใช่แอบเป็นโรคอะไรรักษายากๆหรอกนะ?
จะปิดโหวตที่เม้นไหนนะ
พวกรุ้นน้องในตอนใหม่นี่มันยังๆว่ะ เหมือนจะพยายามสนิทกับเจ้าแม่น่าดู จะว่าเนียนจีบหน่อยๆดี หรือตีเนียนเป็นพวกดี
ถ้าโม่งแปลแปลเองจะทั่นเรย์กะ(จงใจพิมพ์ผิด)รึอีมาวมาว("อี"ในที่นี้ถือเป็นคำชม แม่งโคตรเฟี้ยว)ก็ควบรวมในนี้เลยไม่ดีกว่าเหรอ เพราะส่วนใหญ่ก็ตามทั้งคู่อยู่แล้วด้วย
โม่งที่เล่นห้องนี้น่ะ อย่าระรานมู้อื่นนักเลย ตั้งกระทู้บ่อยๆไม่ยอมรู้จักหาแนวทางการเล่นบอร์ดงี้แม่งน่ารำคาญชิบหาย
>>919 ถึงคนแปลคนเดียวกัน แต่คนแต่งคนละคนนะมึง ไม่ใช่บางเรื่องที่คุยรวมๆกระทู้ได้เพราะคนแต่งคนเดียวกันอย่างแพนโดร่าฮาร์ทหรือวานิทัส พวกงาน Type-moon อะไรแบบนั้น แยกๆไปเหอะดีแล้ว
ช่วงนี้มีกระทู้เรย์กะซ้ำแบบน่าสงสัยนิดๆหน่อยๆ เป็นกระทู้ที่ไม่รู้ตั้งมาทำไมและเจ้าของกระทู้ไม่เคยกลับมาดูฟีดแบคกระทู้ตัวเองเลยด้วย โม่งใหม่เหรอ หรือตั้งใจมากวนตีน???
อยากพูดตั้งนานละให้แยก แต่กลัวโดนด่างะ เพราะเราตามแต่เรย์กะ
รอลงเสร็จแยกเลยละกันเนอะ ปล.ใครก็ได้ช่วยคิดชื่อหน่อย
เหมาเหมา ตำหนักแมวท้ายวัง [หลังที่ 1]
คิดชื่อได้จืดชิบเลยกู 5555555555
เอิ่มมมม สหายโม่งร่วมตำหนักโปรดอย่าเร่งร้อนหุนหัน ยังไงไปโหวตชื่อกระทู้หน้าท่านเรย์กะกันก่อนเว้ย อย่าเพิ่งรีบโดดไปหาน้องแมว จะบอกให้รออ่านหมายเหตุหลังลงกันก่อนนนนน เพราะน้องแมวกูกะจะลงเป็นรายเฉพาะกิจเว้ย ลงสม่ำเสมอแบบท่านเรย์กะไม่ไหว capacity ผลิตงานไม่พอ ไม่อยากให้ตั้งกระทู้แล้วร้างเดี๋ยวจะโดนด่ากันอีก orz เรย์กะนี่กว่าจะมีกระทู้ของตัวเองก็ต้องโดนไล่มาจากห้อง lit เร่ร่อนมาถึงห้องนิยายนาโร่ กว่าจะได้เปิดฮาเร็มของตัวเองเลยนะเหวย เลยอยากให้ใจเย็นๆ กัน กูกลัวดราม่า แล้วบอกตามตรงว่าน้องแมวนี่มันไม่เหมือนท่านเรย์กะที่มีค่ายซื้อ LC ได้ กูเลยบอกตรงๆ ว่าคงไม่ขอแปลจนจบนะ อาจจะขอแปลซัก 1-2 ARC ให้เกียรติค่าย LC เขาซื้อไปเน้อ
เอิ่ม... จะมีตำหนักแมวน้อยเพิ่มเข้ามาแล้วสินะ?
เอาวะ! กุนั่งรอ
ส่วนชื่อตำหนักเจ้าแม่เรย์กะ กุว่า... "การตุ๋ยท้องคือธรรมเนียม ประดุจชาววัลแคนยิงใส่ชาวคลิงออนเป็นการทักทาย!"
โทษที... ช่วงนี้กุติดซีรีย์ Star trek...
ตอนนี้เรือคาบุแล่นฉิวๆชิบหัย อยากให้รุ่นน้องมาปักธงทั่นเรย์กะกูนะ แต่นิสัยแบบนี้ไม่โอว่ะ แม่งเอ๊ย เจอยิ้มเยือกเอ็นโจทีมึงไม่สลายเป็นไอเลยหรอวะ อ่อนแอ แง้ แต่เรือคาบุแม่งงงงงงงงงงง //กัดผ้าเช็ดหน้าจาดเรือเอ็นโจ
>>937 คือ... ไอ้ในเรื่อง Star Trek เนี่ย ชาวดาววัลแคนมันเป็นอริกับชาวคลิงออน ประมาณพวกตัวดีกับตัวร้ายน่ะ แล้วบังเอิญไอ้พวกคลิงออนเนี่ยมันยึดติดธรรมเนียมบูชาคนแข็งแกร่งและคลั่งการต่อสู้ ฉะนั้นเวลาที่พวกวัลแคนเจอพวกคลิงออน มันจะยิงใส่ทันทีเป็นการทักทายจนกลายเป็นธรรมเนียมระหว่างสองเผ่าพันธุ์น่ะ
ว่าแต่เหมาเหมา ขอชื่อเรื่องหน่อยเดี๊ยวจะไปหา
มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรหรอ
เหมาๆนี่หาฉบับนิยายจากไหนกันอ่ะเห็นมีคนพูดถึงว่ามี
อันนี้มู้เรย์กะหรือมู้น้องแมวอะ กูสับสนไปหมดแล้ว ขอได้มั้ย คุยกับในมู้อื่นได้มั้ย กูขอล่ะ
>> 954 ขอโทษศ์ซ์ฐ์ฏ์ฑ์
ขนมของท่านเรย์กะนี่อลังการชิบหาย นอกจากกุจะไม่รู้จักแล้ว กุยังอ่านชื่อมันไม่ออกด้วย แล้วทำไมกุต้องหิวด้วยวะ
โอ๊ยยย เข้ามาแล้วตกใจไมกลายเป็นมู้น้องแมว
กูไม่ยกบัลลังก์คุณชายเอ็นโจนักล่มเรือให้ท่านจินชิของพวกมึงแน่ๆ555 กลับมาอยู่กับเรื่อง #รักนี้เกิดที่แผนกทางเดินปัสสาวะ กับกูก่อน แม่มมมม เป็นจุดเริ่มต้นคสพ.ที่เหี้ยมมากๆ5555
ถ้าคุยเรื่องน้องแมวอีกขอความกรุณาไปคุยในกระทู้ https://fanboi.ch/webnovel/2413/ นะ เคยมีโม่งบนๆบอกไปแล้วแต่คงไม่เห็นกัน
กูสงสัยมาก คือถ้าเป็นเพื่อนชายเชี่ยๆบ้านๆแบบพวกเราพูดเรื่องฉี่กับผู้หญิงผู้หญิงก็ตบหัวด่ามันไปสักพักแล้วว่าทุเรศ แต่นี่ชนชั้นสูงพูดเรื่องนี้หน้าตาเฉย สนิทกันระดับไหนวะ 55555
ไอ้เหี้ยเว็บล่มอีกแล้ววววว
>>961 จริงๆ คาบุแม่มเป็นผู้ชายอารมณ์อ่อนไหวนะมึง ดูงานอดิเรกนางแต่ละอย่าง ดีดเปียโน อ่านกวีรัก คือจริงๆ แม่งต้องอยากมีชีวิตรักที่เป็นตำนานแน่ๆ ดูอย่างตอนขับรถชนวาคาบะงี้ กูมโนภาพออกมาแบบ...ณ วินาทีนั้นเธอขับพาหนะสองล้อหน้าตาประหลาดผ่านรถที่ฉันนั่ง ดวงตาของเธอเบิกกว้าง เสียงดังก้องดังขึ้นพร้อมๆ กับรถที่สั่นสะเทือนไปทั้งคัน ฉันเปิดประตูรถยนต์ก้าวออกไปโดยไม่ทันคิด เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นและดวงตาของเราทั้งคู่สบกันเวลาก็พลันหยุดหมุน กลับกันโชคชะตาของฉันได้เริ่มขึ้นแล้ว //เปิดเพลง O fortuna 55555
ถึงเหล่าโม่งที่อ่านน้องแมวกันนะ คือถ้าจะคุยเรื่องน้องแมวก็คุยกันพอหอมปากหอมคอพอเนอะ เพราะไงๆกระทู้นี้เป็นของท่านเรย์กะ หลายๆคนก็อยากเม้าท์กันเรื่อง "ว่าด้วยการลงจากคาน" ของท่านเรย์กะ อะไรที่มากเกินไปมันก็ไม่ดีเนอะ เพราะงั้นไม่ต้องทะเลาะกันนะ โอ๋เอ๋ๆ
โอเคกูเข้าใจ กูจะทนไปก่อนละกัน ; _ ; เข้าใจว่าหลายคนอัดอั้นอยากระบาย ฮือ
>>969 ชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนยืนมองทะเลคลั่งท่ามกลางพายุหิมะ อยู่ด้วยกันที่น้ำตกกลางป่าเขาลำเนาไพร มันช่างชวนจิ้นวายเหลือเกิน
บางทีกูก็คิดนะว่าคาบุกับเอ็นโจควรจะได้กันแล้วปล่อยเจ้าแม่ไปกับคานซังเถิด ไหนๆก็เป็นคู่ร่างแยกของอิมาริกับท่านพี่ทั้งทีก็ควรเอาอย่างร่างต้นที่เขาเป็นผัวเมียละเหี่ยใจกันอยู่ทุกวัน แต่ก็ยังรักกันดีไม่เปลี่ยนแปลง
กูอ่านอีกรอบ ตอนแรกกูอ่านแล้วขำรุ่นน้อง แต่ทำไมตอนนี้กูกลับรู้สึกว่านางแต่งเรื่องเพื่อชวนเรย์กะไปด้วยกันวะ เพื่อนที่ยืนข้างๆก็มีไม่ให้ไป ดันไม่ชวนไป ชวนท่านเรย์กะซะงั้นผิดวิสัยชัดเจน นี่มันขอออกเดททททททททททททททททททททททททททททท
แต่นายควรกลับไปเรียนมาใหม่!!! หัวข้อออกเดทโคตรทุเรศ 55
ถ้าเป็นการชวนเดทจริง เป็นข้ออ้างที่ไก่ยิ่งกว่าจอมมารอีก รายนั้นใช้เทวดาเป็นตัวล่อ
จะว่าไปกูว่าคาบุมีความเหมือนจอมมารนะ
สาวไม่สน --> ของกิน,ติวหนังสือ,ของฝาก,แวะไปบ้าน,พิพิธภัณฑ์ และจะลามไปที่เรียนพิเศษ ถถถ
จอมมาร สาวไม่สน -->ของกิน+น้องชาย,น้องชาย,น้องชาย และ น้องชาย...
กูวงวารนางสุดๆแล้ว 555
>>982 ก็วาคาบะเปิดรับและให้โอกาสคาบุนี่หว่า มันถึงมีต่อยอดไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ได้ ถึงจะบอกว่าชวนแล้วปฏิเสธไปซะเยอะ แต่นางก็ดูเต็มใจไปกับคาบุตั้งหลายหน รับของนั่นนี่มาก็หลายชิ้น แต่เจ้าแม่นี่ปิดประตูทุกทางเลย ถ้าจอมมารไม่เอาน้องไปเคาะประตู คาดว่าแม้แต่จะคุยก็ยังไม่มีโอกาสเลย 555555555555
กุนึกว่ามีกุคนเดียวที่โดขิกับการที่รุ่นน้องชวนท่านเรย์กะไปเดทที่แผนกทางเดินปัสสาวะ นี่พวกเราแห้งแล้งมาจนถึงจุดนี้เชียวเหรอ......
เออ มีใครจะโหวตกระทู้อีกมั้ย ไม่มีกูจะนับคะแนนแล้วตั้งละนะ
เปิดวาร์ป >>>/webnovel/4659/
จากนี้เชิญวิ่งควายกันได้
เสียดายตอนนี้มา้าไปกูอยากให้ปัสสาวะคุงได้ประดับบนชื่อมู้จริงๆ 555
กูว่า พัฒนาการด้านการจีบสาวของหนุ่มๆในเรื่องยังไม่เท่าพัฒนาการด้านการตั้งชื่อของเหล่าโม่งเลย 555
โม่งในอดีตผู้ตั้งกระทู้แรก "บ้าน่า แม้แต่จอมมารองค์ชายที่มีพลังในการล่อลวงเหล่าโม่งมากที่สุด!!!"
โม่งปัจจุบันผู้รับสภาพ "หึ...เป็นยังไงบ้างล่ะ ภาพลวงตาที่ผ่านมา 22 กระทู้"
อยากอ่านฟิคจังค่า โม่งๆไปไหนหมด
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.