Last posted
Total of 1000 posts
เอ็นโจ ถ้านายยังไม่ยอมเผยปมออกมาเนี่ย เดี๋ยวท่านเรย์กะก็ได้ลงเอยกับวาคาบะจังจริงๆหรอกนะเฮ้ย
รอดูต่อไปว่าเอ็นโจมันจะระเบิดตัวเอง/ฆ่าตัวตายให้แฟน ๆ ช้ำใจยังไงอีก
ว่าแต่มันก็มีช่วงนึงนะเว้ยที่เอ็นโจเหมือนจะ ooc ยังไงไม่รู้ ช่วงยูกิโนะมาแรกๆ มั้ง ที่เอ็นโจเป็นฝ่ายตามขอบคุณอะไรตลอดเลย กูรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่ องค์ชายของกูต้องบึ้มเรือตัวเอ-
KY นิด เสิร์ชชื่อเรย์กะใน twitter เจอคนบอกว่าอยากกินแฮมเบิร์กที่เรย์กะทำ รู้เลยว่าเรย์กะที่ทางโน้นพูดถึงต้องเป็นคนละเรย์กะกับที่กูคิดอยู่แน่ๆ 55555 เจ้าแม่ทำแฮมเบิร์กจะเอาเนื้ออะไรผสมลงไปมั่งวะ กูละกลัวใจจริงๆ
บางครั้งจิตใต้สำนึกก็บอกกูว่ากูควรลงเรือยูกิโนะ รอน้องให้โตให้จบๆไป จะรอคนพี่ทำไม แต่พอเอ็นโจคนพี่โผล่มามีบท มาทำหน้าหลั่นล้าให้ท่านเรย์กะเห็นเล่นๆกูก็ดีใจ..
>>20 out of character (ใช่ป่ะวะ) ถ้าเขียนนิยายก็หมายถึงพวกตัวละครที่วางไว้ในทีแรกแกว่งไปจากเดิม ทีแรกตั้งใจให้มันเป็นคนแบบนี้ ไปๆมาๆกลายเป็นอีกแบบไปซะได้ อะไรทำนองนั้นอะ เช่นวางมาให้เป็นตัวละครเงียบขรึมลึกลับพูดน้อย ไปๆมาๆจ้อเป็นต่อยหอย แต่ถ้าเขียนฟิคก็หมายถึงเขียนไม่ตรงคาแรคเตอร์ที่อฟช.กำหนดมา อย่างนาย A เป็นตัวละครหัวเราะถึกล่ำเฮฮาปาร์ตี้ แต่เขียนฟิคกลับกลายเป็นเคะร่างบางเจ้าน้ำตา อะไรประมาณนั้น
อ่านเจอความเห็นในเพจไลท์โนเวลเพจนึงมาว่ะ คนอ่านผู้ชายบอกว่า "คนแบบเอ็นโจแม่งโคตรคบไม่ได้"
โถถถถถถถถถถถถ นี่ขนาดผู้ชายด้วยกันยังไม่เข้าข้างเลยนะพวกมึง ชูสุเกะโคตรรันทด
เพราะงั้นใครจะมาลงเรือยูกิโนะกับกูก็มานะ มามะมามะ
>>29 โถ น่าสงสารอะไรอย่างนั้น //พูดเสียงเหมือนท่องอาขยาน
แต่ถึงคบไม่ได้ก็ตัวติดกับมาซายะมาตลอดชีวิตแล้วอะน้า เวลาฮีช่วยใครก็ช่วยสุดตัวแทบไม่คิดถึงตัวเองเลยนะ อย่างตอนไปตามมาซายะกลับมาจากหน้าผาโทจิมโบงี้ ช่วยเรย์กะแบบลับๆไรงี้ ยังถูกว่าคบไม่ได้อีกแน่ะ สู้ต่อไปนะชูสุมอย ซักวันความดีของนายโลกต้องรู้
หลังจากที่อ่านๆมามีใครพอจะบอกกูได้ว่าตอนนี้ยังเหลือเรือลำไหนให้กูได้ขึ้นบ้าง มันแทบจะล่มไปหมดทุกลำละ
อย่าลืมเรือท่านอิมาริกูด้วย ยังไงก็เขย่าหัวใจท่านเรย์กะกูสองสามครั้งแล้วนะเฟ้ย // โดนท่านพี่แทง 5555555
>>40 +++ ถ้าท่านอาริมะจริงจังนะมึ้ง เอ็นโจก็เอ็นโจเถอะ ยูกิโนะคุงเด็กน้อยเก็บไว้ มาควงคนอายุมากกว่าดีฝ่า แถมสเป็กท่านเรย์กะมากเลยนะ อายุมากกว่า ป๋าโคตร พาเที่ยวพาแดกคอยเทกแคร์ ถึงจะช่วงที่เทกแคร์แล้วจะหายไปเป็นพักๆก็เถอะ <=== กรณีท่านอิมาริจริงจัง+ฝ่าด่านท่านพี่เรียบร้อย (ยากแน่ๆ ยากชัว...)
สำหรับ คานไม่ใช่เรือ แต่เป็นภูเขาน้ำแข็งที่ไม่สั่นคลอน เรือลำอื่นต้องหลบไป ไม่งั้นแตกกระเจิง ยกเว้นเรือเอ็นโจนะ อันนั้นระเบิดตัวเองก่อนชนคานจังๆว่ะ
โม่งแปลล ขอบคุณสำหรับตอนใหม่
ว่าแต่ ค็อกเทลโนแอลที่ท่านเรย์กะจิบเนี่ย มึงหมายถึงม็อกเทลปะ..
ตอนล่านี่ บทมันควรเป็นของคาบุอะ สะดุ้งเวลาพ่อแม่บอกให้คบกับชนชั้นเดียวกัน อย่าไปคบสามัญชน ควรเพิ่มแท็กโชโจไอเพิ่มจริงๆได้แล้วอะ 555555
>>48 มึงจะเอาเรือไหนล่ะ ถ้าเรือเอ็นโจ.... ต่อไปนี้จะเป็นการพยากรณ์อากาศ สถานการณ์ในช่วงนี้มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ แต่แสงแดดยังสาดส่องมาเหมาะแก่การเพาะปลูกดอกรัก จากนั้นลมพายุที่ก่อตัวในทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลังฝนฟ้าคะนองและคลื่นลมพายุผ่านไปจะได้พบสายรุ้งและอากาศอบอุ่นจากลมฤดูใบไม้ผลิที่เกื้อหนุนอย่างแน่นอนในอีกเก้าตอน จบการรายงานสภาพภูมิอากาศ สวัสดี
กูรอให้พายุพัดบ้านแล้วต้องออกตามหารองเท้าแล้วเคาะสามทีเพื่อกลับ//กลับมาท่านเรย์กะก็ยังอยู่บนคาน
>>52 แปลว่าจากนี้จะมีเหตุการณ์พายุฝนฟ้าคะนองถล่มจนน้ำตานองหน้ากันรอบนึง ก่อนจะถูกพระเจ้าชุบชีวิตให้กลับคืนมาสินะ อาาาา พยากรณ์อากาศเขาว่าไว้อย่างนี้ เหล่าลูกเรือเตรียมรับมือพายุให้พร้อม เสื้อชูชีพอย่าให้ได้ขาดตกบกพร่องล่ะ ยาแก้เมาเรืออีก เผื่อเรือโคลงเคลงจะได้ไม่เวียนหัว
กูต่อเรือใหม่ดีกว่า เรย์กะยุยโกะ จริงๆที่ตามชูชูคือหึงเรย์กะ //ดมกาวฟื้ด
ถ้าเรื่องนี้มีแท็กยูรินะมึง ท่านเรย์กะคงเป็นเจ้าแม่ฮาเร็มยูริประจำโรงเรียนไปละ ดูที่กวาดเหล่าสมุนและเพื่อนสาวๆแต่ละคนมาได้เยอะแยะสิ
ky หน่อย
ไปเจอรวมมาสคอตสุดพิลึกของญี่ปุ่นมา
รู้สึกว่าต้องมีสักตัวที่เจ้าแม่ชอบแน่ ๆ
http://akibatan.com/2017/03/15-most-weird-prefecture-mascots-from-japan/
ดุ๊กดิ๊กๆ ท่านเรย์กะกับวาคาบะ น่ารักกกกกอ่า
https://touch.pixiv.net/member_illust.php?mode=medium&illust_id=64845457
วันนี้เงียบจังโว้ย~~~
*ตะโกนลอยๆ แล้วเดินจากไป*
แปลตอนหน้าเสร็จแล้ว อยากลงเร็วๆ จัง อุ๊อิ๊ //โม่งแปล
เดินไปเกาะขาโม่งแปล
เฮ่ย ดิบตอนใหม่ออกแล้วว่ะ
KY นิด อ่านกระทู้พันทิพเรื่องผญ.ที่มาแย่งสามีแอฟ เจอคนสอดส่อง ig นางแคปมาได้กระทั่งใบหน้าผช.ที่สะท้อนบนมีด กูนี่คิดถึงฟิค ig เด็กซุยรันแถวๆ นี้เลยว่ะ มีความเผือกแร้งงงงง 55555
คาบุคงจะแสดงสีหน้าเหมือนถูกเพื่อนสนิทหักหลังแล้วหลบลี้ไปทำใจ ทั่นเรย์กะที่ใจน้อยก็จะวิ่งกลับห้องเอาผ้าห่มคุมโปง วิ่งวุ่นดราม่าเรื่องการเงินกับคนทั้งบ้าน ส่วนเอ็นโจผู้เป็นคนกลางก็ยิ้มขื่นและคอยแก้ปัญหาให้กับทั้งสองคน เอิ่ม ชูสุมอยผู้น่าวงวาร ส่วนวาคาบะก็จะกันตัวเองจากวังวนได้แบบไม่รู้เรื่อง วงกัญชาซุยรันก็จะเม้ามอยว่าจักรพรรดิโดนจักรพรรดินีหักอก จบการฟี้แค่นี้
ตอนนี้ก้ยังเตะถ่วงไม่เข้างานซัมเมอร์ซักที กูว่างานซัมเมอร์แม่งคงอยู่ราวๆตอนที่ 300 นั่นล่ะ และตอนที่ร้อยพวกนี้จะเป็นความพีคของเรื่องซะด้วยสิ ตอนที่สามร้อยที่กำลังจะมาถึงนี่จะถึงคิวเอ็นโจรึยังน้า
อ้าอยากอ่านตอนต่อไปเลย
ตอนใหม่มาดึกจนกูงง คือแบบนี่ตีสามนะ โม่งแปลโพสตอนกี่โมงวะเนี่ย แถมเจ้าแม่สะบัดพัดตบท้ายด้วย ทำเอากูนอนต่อไม่ลงเลย ชงนมอุ่น ๆ กินฆ่าเวลาก็ได้ฟระ
ค้างงงงง ตอนนี้มันค้างเกินไปแล้ววว แล้วไอ้คำเปรยให้ค้างกว่าเดิมตอนจบนั่นมันอะไรกัน
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม..... แต่บุคลิกหน้าตาท่านเอ็นโจ ชูสุเกะ ของเรย์กะซามะของกูเป็นอิตาขวางโลก โมโนมะ เนโตะจากอนิเมะ BNHA วะ... >> https://imgur.com/a/ZSyCw
คือหน้าตาและรอยยิ้มมันให้มากสำหรับกู นี่คือท่านเอ็นโจววในอุดมคติ!!! คาดว่าถ้าจะเกรียนแตกก็คงเป็นแบบอิเนโตะแน่ๆมึง 555555555
ส่วนท่านเรย์กะที่สกิลหักธงแม่มติดตลอดในมโนกุวววก็งามเลอค่าแบบนี้ >> https://imgur.com/a/BoUtB
กูเบื่อ.....กูขอลงฟิคที่ดมกาวแต่งไปหน่อยนะ ไม่ว่าเรือกูจะล่มจมยังไงก็ก็ขออยู่เรือนี้ต่อไป!!! สัส.. จะร้องไห้ 5555 ส่วนชื่อ.... ไม่รู้ว่ะ 55555555 ที่แน่ๆปักธงซะมิดกันเอง ถ้ามันดูเมาๆงงๆยังไงก็ขอโทษด้วย กูพี้มากไปหน่อย
เริ่มเลยนะ
-----
เพลง : Blood Sweat And Tears Japanese ver.
血、汗、涙
[หยดเลือด หยาดเหงื่อ น้ำตา]
捧げる今も 溢れる ただただ…
[ผมที่มอบทุกอย่างให้คุณนั้น มันเอ่อล้นออกมาได้อย่างง่ายดาย ]
血、汗、涙
[หยดเลือด หยาดเหงื่อ น้ำตา]
この想いが oh
[ความรู้สึกนี้นั้น โอ]
溢れる ただただ…
[มันเอ่อล้นออกมาได้อย่างง่ายดาย]
血、汗、涙…
[หยดเลือด หยาดเหงื่อ น้ำตา]
ท่วงทำนองกีตาร์นุ่มละมุนดังคลอไปทั่วคาเฟ่ที่ตกแต่งแนว Natural ให้ความรู้สึกผ่อนคลายแห่งนี้ นัยน์ตาคมเรียวมีเสน่ห์ทรงอัลมอนต์สีน้ำผึ้งเฉกเช่นเดียวกับสีผมของเจ้าตัว จับจ้องเหม่อมองออกไปยังสวนนอกหน้าต่าง แม้ท่าทีจะดูเหมือนปิดการรับรู้จากโลกภายนอกก็ตาม แต่หาเป็นอย่างนั้นไม่
‘ อืม เพลงฮิตศิลปิน k-pop วง BTS เวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นสินะ ถึงมีคนเอามา cover เป็นแนว Acoustic แต่ยังไงความหมายและเนื้อหาก็หม่นๆเทาอยู่ดี ’
ใครๆก็ว่าการฟังเพลงนั้น เป็นอีกวิธีการหนึ่งสำหรับปลดปล่อยอารมณ์และความรู้สึกในใจ ยิ่งเป็นเพลงที่แนวและเนื้อหาความหมายตรงกับความในใจแล้วนั้น เพียงช่วงเวลาแค่ 3-4 นาที ก็เพียงพอเหมือนมีคนคอยรับฟัง สำหรับ [เอ็นโจ ชูสุเกะ] แล้ว ถือว่าเป็นอะไรที่ใช้ได้เลยทีเดียว
この 血、汗、涙と
[ทั้งหยดเลือด หยาดเหงื่อ และน้ำตาของผม]
昨日、今日、明日も
[จะเมื่อวาน วันนี้ หรือพรุ่งนี้ของผม]
すべて君のものだと
[ทุกๆอย่างทั้งหมดนั่นน่ะเป็นของคุณ]
知ってるさそんな事など
[ยังไงก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วนี่นะ]
กริ๊งงง
เสียงกระดิ่งที่ติดไว้ตรงเหนือมุมประตูดังขึ้นเตือนว่ามีลูกค้าเข้ามาใหม่ เสียงพนักงานเอ่ยต้อนรับขึ้นอย่างเป็นกันเอง แล้วทันทีที่เสียงหวานคุ้นหูเอ่ยตอบรับดังขึ้น เขาก็หันไปทางลูกค้าผู้มาเยือนรายใหม่ในทันใด ภาพเด็กสาว....เพื่อนสนิท...ที่เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันก็ปรากฏในสายตา [คิโชวอิน เรย์กะ] กำลังกวาดสายตาเมียงมองหาใครสักคน...
ร่างบางในเสื้อเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายแขนกุดสีขาวบริสุทธิ์สวมทับด้วยเสื้อกั๊กเขียวอ่อนสวยหวานปักลายใบโคลเวอร์เล็กๆน่ารักไปทั่วนั้นช่วยขับผิวขาวนุ่มเนียนนวล ยิ่งใส่ควบคู่กับกระโปรงจีบบานเอวสูงสีพีชที่เน้นช่วงเอวบอบบางนั่นอีก แค่นี้เจ้าตัวก็ดูคล้ายกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบแสนเปราะบางเสียแล้ว ถ้าเผลอไปแตะต้องเพียงนิดล่ะก็ คงสามารถแตกสลายหายไปได้ตลอดเวลา....
ไม่มีใครรู้ว่าเหตุบังเอิญ จงใจ หรืออะไรบันดล ตำแหน่งที่เธอยืนอยู่ตอนนี้มันเป็นจุดย้อนแสงพอดี สำหรับใครสักคนที่เผลอหันมามองหรือจับจ้องอยู่ตอนนี้ล่ะก็ ก็คล้ายจะมีแสงจากข้างหลังขับเด่นให้ร่างบางดูพร่าเรือน เหยื่อ(?)ผู้เคราะห์ร้าย(?)รายแรก(?)ที่โดนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ เอ็นโจ ชูสุเกะ เขาหลงวนเวียนอยู่ในห้วงแห่งภวังค์เสียแล้ว.... และช่วงจังหวะนั้นเองสายตาของทั้งคู่ก็สบบรรจบกัน ยิ้มหวานถึงดวงตาก็ถูกส่งตรงให้แต่เขาเพียงผู้เดียวก่อนที่เธอจะเข้าไปพูดคุยอะไรสักอย่างกับพนักงานก่อนแล้วเดินตรงมายังที่นั่ง
“ขอโทษนะคะที่ต้องทำให้ท่านชูรอนานอย่างนี้”
“รอนานอะไรกันล่ะแถมยังไม่ถึงเวลานัดสักหน่อย ผมพึ่งมาถึงที่นี่เมื่อ 5 นาทีที่แล้วนี้เอง ผู้ชายที่เป็นฝ่ายทำให้ผู้หญิงรอน่ะ คบ ไม่ ได้ หรอก นะ~”
อันที่จริงเหลืออีกตั้ง 15 นาทีก่อนถึงเวลานัด มันเป็นมารยาทของผู้ชายอยู่แล้วที่ต้องมารอก่อนถึงเวลานัด แต่ก็น่าตลกที่เธอมีนิสัยชอบมารอก่อนเวลานัดเหมือนกัน
สรุป จริงๆก็คือเขามารอที่นี่ได้ 15 นาทีแล้ว
“แหม~”
เรย์กะหัวเราะคิกคักอย่างน่ารักก่อนจะก้มลงมองเมนูของหวานที่ติดอยู่บนโต๊ะ ทำให้มีปอยผมบางส่วนหล่นคลอเคลียกับแก้มสีระเรื่อชวนคันยิบๆข้างในอก
‘ขนมที่นี่อร่อยมากเลยนะคะ~! อยากทานอะไรสั่งเลยเดี๋ยวฉันเลี้ยงเองค่ะ!’
เธอพูดกับเขาอย่างนั้น ซึ่งแน่นอนว่าชูสุเกะก็หัวเราะ ‘ฮะๆๆ’ ตอบกลับไป จะบ้าหรือไง ไม่มีผู้ชายที่ไหนให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายเลี้ยงหรอกนะ ยิ่งเป็นผู้หญิงที่ตนเอง [แอบชอบ] แล้ว ถ้าไม่เจ้าตัวไม่ยินยอมให้สามารถเป็นฝ่ายเลี้ยงได้ อย่างน้อยก็ต้องขอออกกันคนละครึ่ง
“ท่านชูตัดสินใจเลือกได้หรือยังคะ?”
“อ้อ ผม--”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันช่วยแนะนำของอร่อยให้เองค่ะ~!”
คนตรงหน้าเขาขยับตัวยื่นหน้าเข้ามาใกล้อย่างกระตือรือร้นฉับพลัน ไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัว กลิ่นหอมหวานคล้ายครีมกับลูกพีชก็ได้อัดแน่นเข้าไปเต็มปอด ชูสุเกะกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากจาก[อารมณ์อยากอาหาร]ก้มมองคนที่ตั้งหน้าตั้งตาจิ้มๆชี้ๆแนะนำเมนูของอร่อยให้เขาอย่างเต็มที่ นานเท่าไหร่แล้วนะที่เขาไม่ทันได้สังเกตเลยว่าเรย์กะเปลี่ยนไป
ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปากเรียวบางที่ทาลิปอ่อนๆเป็นมันวาว ไม่ว่าจะเป็นผมที่มักม้วนเกลียวอยู่เสมอก็เปลี่ยนเป็นทรงต่างๆแต่ที่เห็นได้บ่อยที่สุดคือปล่อยสยายเป็นเกลียวอ่อนๆ หรือไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวที่ดูประณีตอ่อนหวานกว่าเก่า
มีไม่กี่เหตุผลหรอกนะที่มันสามารถทำให้คนเราเปลี่ยนแปลง อันหลักๆคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่
[ความรัก]
ใช่แล้วล่ะ [คิโชวอิน เรย์กะ] คนที่เขาแอบรักกำลังมีความรัก
แล้วที่ๆมาคาเฟ่แห่งนี้ก็เพราะเจ้าตัวแอบสะกดรอยตามติดชีวิตประจำวันคนๆนั้น!
Peaches and cream Sweeter than sweet
[รสชาติอันนุ่มละมุน ช่างหวานซะยิ่งกว่าความหวานใดๆ]
Chocolate cheeks And chocolate wings
[ใบหน้าอันอ่อนหวานกับกลิ่นกายอันหอมหวน]
But その羽根は悪魔みたい
[แต่ ทั้งหมดนั่นน่ะดูราวกับว่าคุณเป็นปีศาจ]
逆にsweetがbitter bitter
[หากตรงกันข้ามกับความหวานก็เปรียบดั่งความขม]
“ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะที่ท่านชูต้องเสียเวลามาแบบนี้”
“เสียเวลาอะไรเล่า...ผมเป็นคนดึงดันขอมาด้วยต่างหาก แล้วอีกอย่าง ผมก็อยากจะเห็นคนที่ทำให้เรย์กะแอบชอบได้อยู่เหมือนกัน”
ใช่แล้ว เขาอยากเห็นหน้าไอคนๆนี้เสียจริง ต้องมีดีไหร่ ต้องมีฐานะหน้าตาทางสังคมสักแค่ไหนถึงคว้าหัวใจของเธอไปได้อย่างง่ายดายแล้วทำอะไรที่ไม่เป็นตัวของตัวเองได้จนถึงขั้นแอบตามอย่างนี้!!
แต่สิ่งที่ทำให้เขาเจ็บใจอย่างถึงที่สุดก็คงไม่ใช่ใครที่ไหนไกลถ้าไม่ใช่ตนเอง....
‘ ทำอะไรก็ไม่ได้เลย แถมไม่รู้อีกด้วยว่าหมอนั่นเป็นใครต่อให้สืบเท่าไหร่ก็ไม่มีใครรู้เลย ถ้าได้ข้อมูลเพียงเสี้ยวนิดล่ะก็....อะไรๆก็คงจัดการได้อย่างง่ายดาย ‘
“แล้วเขาคนนั้น เป็นคนยังไงเหรอ?”
“เป็นคนที่วิเศษมากเลยล่ะค่ะ~ ถ้าจะถามว่าชอบตรงส่วนไหนล่ะก็ คงเป็นรอยยิ้มของเขาล่ะนะคะ”
“รอยยิ้ม?..”
“ใช่ค่ะ~! ตอนนี้คงจะไม่ใช่แค่เพียงรอยยิ้มเท่านั้นแล้วล่ะ... ฉันคิดว่าฉันหลงรักทุกอย่างของเขา ไม่ว่าจะเป็นบุคลิก ท่าทาง น้ำเสียง หรือแม้กระทั่งนิสัยเสียๆของเขา คิก แปลกจังนะ ทำไมฉันถึงได้คิดว่ามันทั้งน่ารักและน่ามองไปทั้งหมดเลย”
น้ำเสียงที่เธอเอ่ยถึงเขาคนนั้น ต่อให้เอาคนที่ไม่รู้ประสีประสามานั่งฟังยังดูออกเลยว่าเต็มไปด้วยความรักและความสุขขนาดไหน รอยยิ้มและดวงตาพราวระยับนั่น....ช่างน่าเสียดายที่ไม่ใช่ของเขา
“เขา..เป็นใครเหรอครับ?”
ชูสุเกะมั่นใจว่าน้ำเสียงไม่ได้สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป ทั้งไม่อยากรู้จนเกินไปและไม่คาดคั้นจนเกินไป แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเรย์กะถึงมองเขามาด้วยสายตาที่แปลกประหลาดอย่างนั้น
“..เอ่อ...ฉันบอกไม่ได้จริงๆค่ะ อ๊ะ! แล้วอย่าพึ่งหาว่าฉันโรคจิตตามสตอลกเกอร์เลยนะคะ! ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้หรอก แต่ก็ห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ....ถ้าวันนี้ท่านชูไม่ได้มาด้วย คนอื่นคงมองว่าฉันบ้าไปแล้วแน่ๆ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ~ ถ้าฉันพร้อมเมื่อไหร่จะบอกท่านชูเป็นคนแรกเลยค่ะ~!”
เขายิ้มรับขื่นๆไปอย่างนั้นพร้อมกับความรู้สึกจุกเสียดในอก กว่าที่ทั้งเขากับเธอจะสามารถมานั่งคุยกันอย่างสนิทสนมแบบนี้ได้ มันต้องใช้เวลายาวนานแค่ไหนใครจะไปรู้บ้าง! ทุกอย่างกำลังไปด้วยดีแท้ๆ แต่แล้วอยู่ๆเขาก็เหมือนถูกตบลงจากที่สูงด้วยเรื่องคนที่เรย์กะแอบชอบคนนี้
Kiss me
[จูบผมสิ]
苦しくてもいいからもう
[ถึงจะต้องเจ็บปวดแล้วมันยังไง]
いっそ締め付けてくれBaby
[ทำให้มันหนักหน่วงขึ้นไปอีก ที่รัก]
酔うと知っていても君を飲む
[ถึงรู้ว่าจะต้องเมามาย แต่ผมก็ยังดื่มด่ำคุณเข้าไป]
You’re リスキーなウイスキー
[คุณน่ะ คือวิสกี้ที่แสนอันตราย]
‘ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้อย่างนั้นเหรอ หึ ’
ดูเหมือนว่าเธอจะลืมไปว่าที่มาคาเฟ่นี้ก็เพราะคนๆนั้น ไม่ว่ายังไงวันนี้เขาก็ต้องได้เห็นหน้าม้ามืดคนนี้อยู่ดี
‘ ขอโทษนะเรย์กะ ฉันไม่คิดจะปล่อยเธอไปให้ใคร’
และแล้วช่วงเวลาตลอดทั้ง 11 โมงจนถึง 4 โมงเย็นกว่าๆของวันนี้ ทั้งคู่ก็ได้ใช้มันไปหมดร่วนกันกับการนั่งคุยเรื่องราวต่างๆอย่างสนุกสนานพร้อมทานขนมหวานไปด้วย ภายนอกจากมุมมองของลูกค้าต่างๆกับพนักงาน ทั้งคู่ราวกับคู่รักที่ช่างรักใคร่และเหมาะสมกันดี แต่จากมุมมองของชูสุเกะแล้ว เรย์กะจะเสมองไปทางประตูเสมอเวลาเสียงกระดิ่งดัง อีกทั้งยังจับจ้องมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองอยู่ตลอด ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ดวงตาคู่งามที่พราวระยับสดใสก็หม่นลงทุกๆที เธอนั้นไม่แม้กระทั่งเสียมารยาทเอ่ยพูดคุยถึงเรื่องราวของคนที่แอบชอบคนนั้นถ้าเขาไม่เป็นฝ่ายเอ่ยถาม แม้จะรู้สึกโครตดีแต่เขาก็ไม่ชอบที่จะเห็นเธอเป็นแบบนี้
“ขออภัยค่ะท่านลูกค้า 16.30 จะเป็นเวลาที่ร้านปิดการให้บริการ ถ้าท่านทั้งคู่อยากสั่งเมนูเพิ่มเติมก็สามารถสั่งได้เลยตอนนี้ค่ะ”
“ครับ เรย์กะเอาอะไรเพิ่มมั้ย?”
“ไม่ค่ะขอบคุณ”
“ค่ะ รบกวนท่านลูกค้าไปเช็คบิลที่เคาท์เตอร์นะคะ แล้วทางเรามีโปรโมชั่นพิเศษลดราคาให้กับลูกค้าที่เป็นคู่รัก 40% พร้อมแถมชีสเค้กฟรีสองชุดค่ะ”
“เห๊ะ!! คือ-”
ชูสุเกะคว้าข้อมือของเรย์กะไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะปฏิเสธด้วยรอยยิ้มที่ระบายอยู่เต็มหน้าพร้อมลากไปจ่ายเงินด้วยกันแบบหารครึ่งอย่างที่ตกลงกันไว้ สร้างความน่ารักและประทับใจให้กับพนักงานกันอย่างล้นหลามอีกครั้ง จึงได้ชูครีมแถมมาอีกกันคนละกล่อง...
“เป็นร้านที่เทคแคร์ลูกค้าเก่งดีนะครับ~”
“แหม ก็ทั้งฉันและท่านชูกินจุซะอย่างนั้นก็ต้องมีบริการพิเศษเป็นธรรมดา แต่ว่าโกหกไปแบบนั้นไม่ดีเอาซะเลยนะคะ”
“แต่เราก็ได้ทั้งของแถมและส่วนลดนะ~”
เธอหันหน้าหนีเล็กน้อย เขาไม่สามารถเดาได้ว่าแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อตอนนี้น่ะเป็นเพราะโกรธหรือเขินอาย ถ้าจะคิดเข้าข้างตัวเองไปก็คงเจ็บตัวไปเสียเปล่าๆ ….
“แล้วนี่เรย์กะจะกลับยังไง ให้ผมไปส่งมั้ย”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวสักพักคุณซากามิก็มารับแล้ว ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ”
เรย์กะโค้งตัวขอบคุณให้เขาอย่างอ่อนหวานและส่งยิ้มให้อย่างน่ารักพลางยื่นถุงใหญ่ที่มีกล่องขนมให้
“ทาร์ตไข่ 3 กล่องนี้ฉันซื้อให้ค่ะ ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องทาร์ตไข่มากๆเลยนะ อย่าลืมฝากให้คุณพ่อคุณแม่ของท่านและยูกิโนะคุงด้วยนะคะ มาร้านอร่อยๆทั้งทีไม่มีของฝากให้ยูคุงคงเสียใจน่าดู”
“นี่ก็มีชูครีมกับชีสเค้กแล้วนะ เรย์กะเก็บเอาไว้เถอะ”
“ได้ที่ไหนกันเล่า ขนมสำหรับท่านพ่อท่านแม่และท่านพี่ฉันซื้อมาแล้วล่ะค่ะ ท่านชูรับไว้เถอะค่ะ ไม่หวานไม่เลี่ยนจนเกินไปช่วยผ่อนคลายได้ดี ถือซะว่าช่วยๆกันอ้วนละกันนะคะ~”
เขาอดไม่ได้ที่จะเขกหัวเธอที่ทำท่าแลบลิ้นน่ารักอย่างเอ็นดู พวกเขาพูดคุยเล่นๆข้ามเวลาผ่านไปได้สักพัก รถที่มีตราตระกูลคิโชวอินก็มาถึง
“ต้องขอบคุณอีกครั้งนะคะสำหรับวันนี้ แล้วเจอกันที่โรงเรียนค่ะ”
“เรย์กะเดี๋ยวก่อน!”
เธอชะงักและหันมามองเขาอย่างงุนงง ชูสุเกะกระแอมไอยิ้มน้อยๆก่อนเอ่ยสิ่งที่อยากพูดตั้งแต่ตอนแรกออกมา
“ชุดที่ใส่มา น่ารักมากๆเลยล่ะ”
เพียงแค่จบประโยคไปเท่านั้น แก้มนวลก็ขึ้นสีระเรื่ออย่างรวดเร็วก่อนที่จะถูกปกปิดไว้ด้วยมือของเจ้าตัว สถานการณ์ตอนนี้ คล้ายกับเวลาได้ถูกหยุดไว้ให้มีสายลมพัดผ่านมาอ่อนๆอย่างบางเบา แม้กระทั่งคุณซากามิที่ลงจากรถจะตรงมาช่วยถือของย้ายไปไว้ที่หลังรถจากมือคุณหนูของตนยังหยุดยืนอยู่กับที่และก้มๆหลบๆไม่อยากไปขัดขวางสถานการณ์อย่างอยู่เป็น
“อ-...คือ- ตายจริง... นึกว่ามันจะแปลกซะแล้วอีกที่แต่งอะไรแบบนี้ ฉันพึ่งลองแต่งมาครั้งแรกแล้วถูกท่านชูชมว่าน่ารักแบบนี้ รู้สึกดีใจสุดๆไปเลยล่ะค่ะ”
ไม่ต้องรอให้คุณซากามิมาช่วยถือของใส่เขารถให้ เธอก็ลงมือเปิดประตูยัดของเข้าไปด้วยตนเองก่อนที่จะก้าวขึ้นไปตาม ซากามิโผล่ตัวขึ้นมาโค้งตัวเคารพชูสุเกะแล้วขึ้นรถพร้อมขับเคลื่อนออกไปอย่างว่องไวจนหหายไปจากครรลองสายตา
‘ ฮะๆๆ พึ่งมาเขินหรือไงกันนะ ’
เขาโทรตามคนขับรถของตนเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้านบ้าง วันนี้สำหรับเขาแล้ว จะว่าคุ้มมั้ยก็ว่าคุ้ม แต่จะว่าไม่คุ้มด้วยก็ได้เช่นกัน
そっと今伝えて
[ได้โปรดช่วยกระซิบบอกผมหน่อย]
終わらせてその手で
[ต่อจากนั้นก็ปิดตาผมลงด้วยมือคู่นั้นของคุณที]
どうせ無理なんて言えないよ
[ถึงยังไงผมก็เอ่ยปฏิเสธออกไปไม่ได้หรอก]
逃げる事もできないもう
[ทำไม่ได้แม้แต่การวิ่งหนีไป]
君が甘すぎて、甘すぎて、甘すぎて、もう…
[คุณช่างหอมหวานเหลือเกิน ช่างหอมเหลือเกิน หอมหวานจนอดไม่ไหวเสียแล้ว...]
โม่งแปลมรึ๊ง!!!!!!!!!!
ตบตีโม่งแปล เอาเล็บจิกโม่งแปล ดึงขนหน้าแข้งโม่งแปล มึงอำมหิตมว๊ากกกกกกกกกก
คาบุเอ็งหายหัวไปไหนนนน กลับมาทำหน้าที่ของเอ็งสิ วาคาบะกูเจ็บช้ำหมดแล้วววว
โม่งแปล!!!!!! กูค้างงง ฮือ
ตอนนี้วาคาบะบทโคตรนางเอก เด็กสาวที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรม เป็นชนวนแห่งความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย
แต่ไอ้เด็กม.4 นั่นดวงกุดชะมัดเลยแฮะ คนอยู่กันตั้งเยอะดันไปเลือกใช้วาคาบะ ไม่รู้ซะแล้วว่ากำลังเล่นกับผู้หญิงของใคร 555555
พัดจริงโดนแบน พัดมายาก็ได้ฟะ!!
โม่งแปลลล เราค้างงง
//เขย่าๆให้ตอนต่อไปตกลงมา
วาคาบะจะโดนท่านเรย์กะปักธงมิดด้ามแล้ว เอ้าซู้ดดดดดดด
โอ้ยยยยค้างมาก ท่านเรย์กะจัดการเลยค่ะ แสดงอำนาจของเจ้าแม่กาลี!!
ขอบคุณโม่งแปลค่ะ โม่งแปลน่าร๊ากน่ารัก //ทำตาปริบๆเฝ้ารอตอนต่อไปใจจดใจจ่อ
โม่งแปลส่งท้ายได้โหดมาก ขออนุญาตดึงขนหน้าแข้งออกได้มั้ยคะ /ดึงทีละเส้นด้วยความเกรี้ยวกราด
เดี๋ยวนะ ทำไมตื่นมาเจอคนรุมประทุษร้ายกูเต็มไปหมด 55555 ตอนต่อรอวันจันทร์นะเตง อ่านอย่างอื่นรอไปก่อน แต่งฟิคดมกาวฆ่าเวลาได้ตามสะดวก
KY เห็นความเห็นด้านบนพูดถึงอิมเมจเอ็นโจ กูขอเสนอรูปในอิมเมจกู
https://imgur.com/a/VWf41
รูปขึ้นไหมวะ
ตัดตอนได้ค้างมาก กูจะลงแดงละ ปัญหาเรื่องน้ำหกไม่รู้จะให้ใครเก็บกวาดนี่ถ้าเป็นกูจะไปเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาด โรงเรียนไฮโซอย่างซุยรันนี่จะไม่มีแม่บ้านซักคนเลยเชียวหรอ
ของกูมาจากเรื่อง 2.5 Jigen Kareshi
แต่เหมือนก็แค่ภายนอกนะ ภายใน บรรยากาศและอื่นๆไม่เหมือนกันเล๊ย
https://imgur.com/utIRJwF
อิมเมจเอ็นโจ กูนึกภาพเป็นนัตสึเมะ จาก Natsume Yuujinchou อะ ยิ้มขื่นๆนี่ใช่สำหรับกูเลย
กูเดาว่าปกตินักเรียนน่าจะไม่ค่อยเห็นตัวแม่บ้านบ่อย เหมือนพวกโรงแรมที่จะทำความสะอาดตอนแขกไม่อยู่ห้องไรงี้อะ ภารโรง อาจจะออกมาแค่ตอนเช้าก่อนเด็กมา หลังเด็กเข้าห้องหมดแล้วไรงี้ไม่ได้ออกมาทำความสะอาดตลอด เพราะงั้นเด็กจะไม่ค่อยได้เห็นภารโรงทำความสะอาดเลยจะไม่นึกถึงก็ได้มั้ง กูเห็นบางโรงเรียนก็เป็นอะ ไม่ค่อยเห็นตอนภารโรงทำความสะอาด แต่เขาก็ทำหน้าที่อยู่ทุกวันไรงี้ แต่มีอะไรก็เดินไปเรียกได้ ฟุตบาตกทม.ด้วย แถวที่มีแผงลอยสภาพตอนเย็นจะเละเทะอย่างกับผ่านสงครามโลก แต่เช้ามาจะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกูทึ่งความสามารถคนทำความสะอาดกทม.มาก ทั้งที่กูไม่เคยเห็นตอนเขาทำความสะอาดเลย ปกติเห็นแต่ตอนกวาดใบไม้เรื่อยเปื่อย ก่อนหน้านี้กูไม่เคยนึกถึงเลยว่ามีคนคอยทำความสะอาดเรื่องพวกนี้อยู่ทุกวัน กูเลยซึ้งเลยว่าทำงานกันโคตรเทพ
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าอยากให้มีใครสักคนเขียนบทความวิเคราะห์ประเด็นน่าสนใจที่ปรากฎในเรื่องนี้จังเลยว่ะ
เท่าที่กูจับประเด็นได้มี ช่องว่างระหว่างสามัญชนกับอภิสิทธิ์ชน การแบ่งแยกชนชั้น การเมืองในโรงเรียน วิธีการเรียนของคนเรียนเก่งกับคนกลางๆ มิตรภาพ มีอะไรอีกวะ นึกไม่ออกละ
ปล. อย่าถามหาจากกูนะ กูเขียนภาษาคนไม่ค่อยรู้เรื่อง555
เอาจริงกูเห็นพฤติกรรม pivoine ตัวประกอบตอนนี้แล้วก็ไม่แปลกใจนะว่าทำไมมิซึซากิถึงอคติกับ pivoine อะ ว่าไปแล้วถึงกับใช้งานนักเรียนนอกแบบนี้รุ่นก่อนๆยังไม่เคยทำเลยปะ หรือเพราะเกิดหลังฉากกับตัวละครที่ไม่มีบทคนอ่านเลยไม่รู้เพราะมี pivoine หลายคนนเลยที่ไม่ถูกกล่าวถึงในเรื่อง อย่าง pivoine ชั้นปีเดียวกับท่านเรย์กะที่ยังไม่มีบทก็เหมือนกัน มีบอกแค่ว่ามีกี่คนเฉยๆแต่ไม่เคยโผล่มา
>>121 มันอธิบายได้หลายอย่างเลยนะ ว่าทำไมทาคากิถึงกลัวเจ้าแม่เว่อร์ๆ ขนาดนั้น ถึงจะมีคดีอยู่ก่อนก็เหอะ จริงๆ Pivoine คนอื่นถึงไม่พูดอะไร แต่ก็อาจจะหนุนหลังหรือทำพฤติกรรมเดียวกันเงียบๆ อย่างตอนไปฝึกตนที่น้ำตก ท่านฟุยุโกะก็ยังเดินตัวปลิวไปปล่อยให้ท่านเรย์กะหิ้วกระเป๋าให้ตั้งนาน ถ้า Pivoine คนอื่นเป็นงี้ก็ไม่แปลกอ่ะที่อิโคมะจะชื่นชมเจ้าแม่ขนาดนั้น คงสวยรวยแต่มีน้ำใจ ไม่หยิ่ง ดีงามเช่นนี้ต้องคู่กับจักรพรรดิเท่านั้น
ขอบคุณโม่งแปลล่าสุด อ่านตอนนี้แล้วถ้าคาบุรากิไม่มาออกโรงปกป้องวาคาบะในตอนหน้ากูจะยกตำแหน่งพระเอกให้เจ้าแม่แล้ว ดูเท่ห์กว่าจักรพรรดิ(ฮาเงิบ) แล้วนะ จริงๆ เรื่องชนชั้นมันนี่ปัญหาใหญ่เลยกูคิดอยู่ว่าจะแก้ปัญหาชนชั้นในเรื่องนี้ยังไงนี่อ่านแล้วขึ้นแทน แต่มาเมืองไทยเนี่ยมรึงโดนแคปประจานทางโซเซียลแน่นอน
>>121 คิดว่าพฤติกรรมของ pivoine ส่วนใหญ่คงไม่ต่างจากเรย์กะในคิมิดอลเท่าไหร่อะ อาจจะไม่แรงหรือวีนเหวี่ยงเท่า แต่ก็อวดเบ่งบารมี ใช้อำนาจทำตามอำเภอใจไปเรื่อย
>>122 กูว่าท่านฟุยุโกะเคยชินกับการมีคนปรนนิบัติรับใช้มากกว่า อาจจะเป็นคุณหนูที่ไปไหนมาไหนมีพี่เลี้ยงมีคุณเมดตามประกบ ไม่ต้องมาถือของเองแบบนี้ พอมากับเพื่อนไม่ได้หอบหิ้วคนรับใช้มาก็เลยลืมว่าตัวเองเอากระเป๋ามาด้วย แต่อยู่โรงเรียนเรย์กะก็ไม่เห็นพูดถึงว่านางใช้คนอื่นถือของมาให้แบบพวกรุ่นน้องนี่นา แถมคำบรรยายถึงท่านฟุยุโกะก็พูดไปในทางที่ดีด้วย ไม่มีพิษมีภัยกับใคร นางก็แค่ชอบเรื่องไสยศาสตร์ลึกลับ ตอนไปเที่ยวกับพวกเซริกะนางยังดีใจเลย กูว่าเป็นคนนิสัยดีไม่เคยอวดเบ่งบารมีนั่นล่ะ
>>129 อาจจะได้ก็ได้นะเหวยย ฟีลแบบ เราเข้าใจกันและกัน มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ฉันจะคุยด้วยได้อย่างสนิทใจ เปิดตารางแค็ตตาล็อกปรึกษาว่าสัปดาห์นี้จะลองสั่งซื้อนำยาทำความสะอาดของยี่ห้อไหนดี พอได้ของมาก็ลองใช้ด้วยกัน ทำข้อดีข้อเสียของแต่ละผลิตภัณฑ์ไว้
//หมดกาวไปถังนึง แด่เรือที่กูโยนแขนขวาไว้
อยากให้อาริมะมีบทมากกว่านี้จัง ต้องการเห็นคู่ดาวรุ่งทีวีไดเร็กซ์ค่า
ให้ตายสิ ถึงตอนนี้จะไม่ได้เห็นท่านเรย์กะสะพัดพัดภูติพราย แต่ก็ได้เห็นคาบุโตขึ้นมาก แล้วเอ็นโจนั่นอะไรกัน นายเป็นพวกบอสลับใช่ไหม เป็นตัวร้ายขั้นสูง แบบที่ถ้าคิดจะแกล้งนางเอก ก็จะทำตัวน่าสงสารให้คนอื่นๆเกลียดนางเอก แล้วไปแกล้งแทนตัวเองสินะ
ความจริงทรงผมท่านเรย์กะไม่ได้แย่นะ แต่คำเปรียบเทียบนี่แย่สุดๆ
ว่าแต่เอ็นโจต้องไม่เคยจับผมท่านเรย์กะแหง ถ้าจะม้วนให้ได้ลอนสุดเพอร์เฟค ต้องฉีดสเปรย์ใส่มูสเป็นจำนวนมาก จะหาแบบที่ผมนุ่มนิ่มเหมือนสายไหมไม่มีหรอกนะ
ในที่สุดพระเอกก็มีพัฒนาการที่สมกับเป็นพระเอกเสียทีนะ!! //ปรบมือดังแป๊ะ
ส่วนอีตาเอ็นโจนี่ก็รู้ใจเจ้าแม่ดีจริ๊ง แต่ก็รู้ว่าตัวเองทำแล้วไม่เหมาะจะพาให้สาวๆแห่กันมาแย่งทำเอาเองแถมแก้ปัญหาได้ซอฟต์ๆด้วย แหม่ รู้จักใช้คนดีจริงสมกับที่เจ้าแม่กล่าวไว้
ตอนนี้แบบกรี๊ดมาก ขอบคุณนะโม่งแปลลล//เข้าไปเกาะขาดึงขนหน้าแข้งเล่น
กรี้ดดดดดดด. คาบุเอ๊ยยยยย
เชื่อว่าแม้คาบุจะเศร้า แต่วาคาบะมีใจเต้นแน่ๆ เท่ขนาดนี้. นี่อาจจะเป็นจุดที่ทำให้สองคนนี้กลับสู้เส้นทางพระเอกนางเอกซะที
ส่วนท่านเรยกะจะผ่านมากี่ตอนก็ยังคงความน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย. รักจริงๆ. รวมทั้งเอ็นโจก็สุดยอดในแนวทางของตัวเอง. (ออกแนวพระรองกับนางรองอ่ะนะ 555). ที่พัฒนาไม่ใช่แค่ความสัมพันธของคาบุวากะ แต่เป็นของสามสหายด้วย เป็นตอนที่มี impact factor สูงจริงๆ สมแล้วที่เป็นอีเว้นทใหญ่
หวังว่าตอนหน้ายังคงเป็นพารท 3 สหายอยู่น้าา. ขอบใจโม่งแปลม้ากมาก
สรุปท่านเรยกะ เปลี่ยนจากนางร้ายกลายเป็นเพื่อนพระเอกควบนางรองได้สินะ. น่ายินดีๆ
ตะไมพวกมึงต้องวนเวียนอยู่กับการเล่นขนหน้าแข้งโม่งแปลกันเล่า แต่ก็ขอบคุณนะโม่งแปล นี่เป็นครีมบำรุงขนนะ กูให้เอาไปบำรุง จะได้เงางามนุ่มสลวย เวลาถูกถอนจะได้ไม่เจ็บมาก ถถถถถถถถถถถถถ
ตอนนี้หยั่งกะ mv พระเอกมองนางเอกด้วยสายตาปวดร้าวที่เห็นเธอไปกับใคร แถมมีชนชั้นมาเป็นสถานะขวางกั้นระหว่างเราอีกต่างหาก แต่ตอนก้มหัวให้นักเรียนที่โดนใช้ให้เก็บกวาดนี่เท่มาก อาริมะอึ้งไปเลยเด่ะ หมอนี่ก็น่าจะอคติกับคาบุพอตัว แต่พอเจอซีนนี้ก็น่าจะเปลี่ยนความคิดใหม่ มองอย่างสนอกสนใจ จนในที่สุดก็กลายเป็นความรั..//แค่กๆๆๆๆ
เอ็นโจนี่มันสายซัพพอร์ตจริงๆ ยืนเงียบๆอยู่ข้างหลัง มองดูเหตุการณ์ตลอดแล้วค่อยเข้าไปอุดรอยรั่ว คลี่คลายสถานการณ์แบบละมุนละม่อม รู้ใจเรย์กะไปหมดทุกสิ่งอีกต่างหาก เรย์กะคิดว่าใครจะเก็บกวาดยะ ฮีพุ่งไปบอกเดี๋ยวจัดการเองทันที นี่สิงร่างเขาอยู่ใช่มะ หา 5555555555
จะเขียนว่าสมกันดี สาย support ทั้งคู่
แต่เชื่อว่า. ถ้าท่านเรยกะเปลี่ยนรูทเป็นสายหลัก เอ็นโจก็ตามมาได้
ทำไมตอนล่าสุดที่มาซายะหัวเราะหึ กูได้ยินเสียงมาซายะกับเอ็นโจวดังขึ้นมาว่ามิสชั่นคอมพลีทวะ 555555
ขอบคุณโม่งแปล ตอนล่าสุดคาบุรากิก็ทำตัวสมเป็นพระเอกโชโจพอไม่อยู่กับแก็งสาวแล้วไม่รั่วหรอ!! ตอนนี้กลัวเอ็นโจที่สุดแล้วรู้ทุกสิ่งที่เรย์กะคิดนี่มันเหนือขั้นของการสตอลเกอร์แล้ว!!
>>155 ก็มองมาตั้งแต่เด็ก เพื่อนๆเรย์กะเห็นเรย์กะหลุกบ่อยจนรู้ไส้รู้พุง เอ็นโจวนี่แอบโมงทั้งตอนอยู่กับเพื่อน ทั้งตอนลับหลัง กูว่ารู้มากกว่าชาวบ้านว่ะ 5555 น่าจะสังเกตเรย์กะตั้งแต่หลังจากโดนมาซายะใช้งานครั้งแรก
กูกลับไปอ่านใหม่ช่วงเรย์กะทำงานตอนประถมน่าสงสารมาก เอ็นโจวก็ไม่ช่วยเลย สาวๆของเอ็นโจวก็ทำวุ่นวายอีก กูอ่านตรงนี้ใหม่แล้วคิดอีกทีว่า นี่เป็นการทดสอบของเอ็นโจวรึเปล่า เพื่อดูว่าเรย์กะเป็นคนยังไง ที่มไ่นใจพวกเขาแค่เล่นตัวแกล้งไม่สนใจไปเองรึเปล่า(สรุปนางบ้างาน เอ็นโจวคืออากาศ สมน้ำหน้า สาวไม่สนใจ555) แต่พอเรย์กะเดือดร้อนจริงก็เลิกแกล้งแล้วมาช่วยไรงี้
ทำไมกูที่อยู่เรือเอ็นโจเป็นเมนอ่านตอนนี้แล้วปลาบปลื้มใจแต่ก็ใจเสียนิดๆ วะ ปลื้มใจที่เอ็นโจรู้ใจเรย์กะไปทุกอย่างหยั่งกะสิงร่างจริงๆ แต่ฮีทำไมทำตัวเหมือนชงเรย์กะกับคาบุแบบนี้วะ แม่งงงงง กูเสียไต มึงเห็นไหมว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้พัฒนาไปขั้นไหนแล้ว เมื่อก่อนมีคนมาขอให้ช่วยปลอบใจคาบุ นางยังแนะนำให้ไปบวชอยู่เลย เดี๋ยวนี้ถึงขั้นวิ่งตามไปเองแล้วเอาของกินมาหลอกล่อได้ด้วย ทำให้คาบุยิ้มได้ทั้งที่ยังอารมณ์ดาวน์ๆ อยู่ด้วย ฮือออออออ
>>157 ไม่รู้สิ แต่กูว่าฮีรู้ว่ามันไม่มีอะไรในกอไผ่นะ ถึงได้บอกให้ตามไป แล้วก็คิดว่าคนที่สนุกสนานอย่างเรย์กะจะช่วยมาซายะให้ร่าเริงขึ้นได้แน่ เป็นลิมิตที่ฮีรับได้ จะว่าเป็นความไว้ใจ เชื่อมั่น เชื่อใจ อะไรทำนองนั้นก็ได้มั้ง
จริงๆโมเมนต์ที่กูกรี๊ดที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องรู้ใจจนเหมือนไปสิงร่างเขาหรอกนะ แต่เป็นต่อให้คนเยอะแยะมากมายขนาดไหนก็หาเธอเจอต่างหาก ทั้งที่เหตุการณ์ตรงหน้ากำลังตึงเครียดหน้าสิ่วหน้าขวานเตรียมปะทะ แต่ทั้งคู่ก็รู้ว่าเขาหรือเธออยู่ตรงไหน ปกติเหตุการณ์เครียดๆเราก็โฟกัสที่เรื่องใหญ่ จุดหลักก่อน ไม่ได้สังเกตจุดเล็กๆที่ไม่ได้มีส่วนร่วมใช่มะ แต่เรย์กะรู้ว่าเอ็นโจยืนอยู่ตรงไหน ทำอะไรอยู่ เอ็นโจนี่ไม่ต้องพูดอะไรมาก พุ่งมาหาทันทีที่จบเรื่องเลยด้วย
ที่จริงกูว่าจะกรี๊ดเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนล็อกเกอร์ละ ที่นางรู้ว่าเอ็นโจอยู่ไหนและทำอะไร แต่ตอนนั้นกูนึกว่ากูคิดไปเอง แต่พอมาตอนนี้ เออ...นางก็สังเกตและมองหาเอ็นโจอยู่ตลอดเหมือนกันนี่หว่า ซึ่งเป็นจุดเล็กๆที่ทำให้กูฟินมากกก
ใจกูเต้นตึกตักเลยตอนเจ้าแม่วิ่งตามคาบุไปแล้วนังไม่ตอบ โชโจวมากกกกกกกกกกรี๊ดดดดดดดดดด แถมทำให้หลุดหัวเราะได้อีก โชโจว!! โชโจว!!
จบด้วยการพูดว่าผมเจ้าแม่...เปรียบเทียบโคตรเห่ย เล่นซิทคอมกันต่อไปเห๊อะ
>>143 แหม เหลือที่ว่างให้หนุ่มน้อยได้จินตนาการมั่งน่า เห็นร้ายลึก ยิ้มๆ รู้ทันกันหมดแบบนั้นอะ ในซอกหลืบ (ไหน?) ของหัวใจอาจเป็นแค่พ่อหนุ่มเพ้อรัก เฝ้าทอดถอนใจละห้อยหาท่านเรย์กะอยู่ก็ได้ แบบแอบสตอล์ค เอ๊ย แอบมองเค้าไปวันๆ พร้อมกับจินตนาการว่าจะได้สัมผัสลอนผมนุ่มๆ ของเค้าซักวันนึง... อุอิ...
แต่ตอนนี้ตะไมกูกรี๊ดฉากเก็บกระป๋องน้ำที่สุดเลยล่า... อะอะอะ อ่านวนๆ ไปมันชื่นใจจริ๊ง เอ็นโจช่างใส่ใจทุกรายละเอียด มาจัดการจุดที่เจ้าแม่กังวลที่สุดมาตั้งแต่ตอนที่แล้วเชียวนะ โถ พ่อคุณพ่อทูนหัว อะไรจะรู้ใจสาวได้ขนาดนี้ ....เอ๊ะ หรือจริงๆ กูควรจะกลัวดีวะ
ว่าแต่ตอนหน้าจะมีการบรรยายฉากเดทร้านโอโคโนมิยากิไม๊วะ ถ้าทำกูน้ำลายหกล่วงหน้าแล้วตัดฉับไปอยู่บ้านเลยนี่คงเศร้าใจหาน้อยไม่เชียวนา
ทำไมตอนนี้กูฟินคาบุกับเรย์กะมากกว่าเอ็นโจว้าาาาาาา มโนแรงอีกไม่นานถ้าเป็นงี้เลื่อยๆคาบุต้องชอบเรย์กะแน่ๆ โอ้ยๆเรือไหนกูก็ฟินนนนนนนนน
เคสก้มหัวกุคิดอีกแง่ว่ะ ถ้าวาคาบะไม่ได้โดนสั่งเฮียแกก็คงปล่อยไปเรื่อยๆเลยใช่มั้ย มันดูกะอวดสาวจนกูต้องขอหักคะแนนว่ะ
ตอนนี้ดีมากเลย! ขอบคุณโม่งแปล
กูว่ามันคงเหมือนภาพกะตุ๊กตาพวกนั้นเพราะผมมันแข็งตรงไม่เป็นธรรมชาติหรือเปล่า วิกนี่นะ
>>166 เออ ก็ไม่แน่เหมือนกัน ตอนมาดูเหตุการณ์แรกๆ ยังทำเบื่อๆ อยู่เลย ทำนองไรว้า กะอีแค่นี้ก็โวยวายกันใหญ่โต พอรู้ว่าวาคาบะพลอยซวยไปด้วยก็ดูสำเหนียกขึ้นมานิดนึง แต่กูว่าฮีกระตุกจริงๆ ตรงที่เด็กม.4 บ่นๆ ว่าไม่อยากมาเรียนที่นี่แล้วเหมือนเรย์กะนะ ถึงกับก้มหัวขอโทษนี่ เด็กนั่นแม่งมีหวังเด่นล้ำไปทั้งโรงเรียน
>>166 กูคิดเหมือนมึงอะ ตอนแรกเหมือนไม่สนใจแล้วจะปล่อยๆไปด้วยซ้ำ เพิ่งมาสนใจตอนมีคนพูดถึงวาคาบะขึ้นมา
ตอนแรกกูกำลังรอดูเจ้าแม่องค์ลงเลย แต่แบบนี้ก็โอเคเหมือนกัน ชอบตอนท่านเรย์กะวิ่งตามคาบุไปแล้วชวนกินโอโคโนมิยากิชะมัด ตอนท้ายที่แซวเรื่องทรงผมท่านเรย์กะนี่น่าตีทั้งสองหนุ่มเลย ขอให้ตุ๊กตาไปหาถึงข้างเตียง
>>169 +1 น่าจะเพราะเด็กบอกว่ารู้งี้ไปอยากเรียนที่นี่มากกว่า วาคาบะมีส่วน เราว่าันกระตุ้นให้คาบุรากิคิดว่าเรื่องที่ตัวเองคิดว่าไร้สาระในตอนแรก พอเด็กคนนั้นพูดออกมาก็นึกย้อนถึงวาคาบะ โดนแกล้งมาตลอด เธอก็ไม่อยากอยู่โรงเรียนนี้แล้วรึเปล่า แล้วค่อยสำนึกได้ว่า มันแย่ ไมใช่เรื่องไร้สาระเลยก้มขอโทษ คาบุรากิเป็นพวกอ่านสถานการณ์กับความรู้สึกของคนชั้นทั่วไปไม่ค่อยออก พอถูกคำพูดนั้นน่าจะถูกกระตุ้นเหมือนที่เรย์กะจุกนะ
>>169 >>171 กูก็คิดงั้นอะ ตอนแรกฮีดูเบื่อๆไม่สนใจ แค่น้ำหกพวกมึงก็มาโวยวายให้เป็นเรื่องใหญ่กันเนี่ยนะ ไร้สาระสิ้นดี แต่พอรู้ว่าวาคาบะโดนสั่งให้ไปเช็ดพื้นก็อึ้งละ แล้วที่เด็กคนนั้นพูดออกมา ฮีคงนึกย้อนถึงวาคาบะมั้ง ขนาดเด็กม.4คนที่เพิ่งมา โดนพวกเด็กเกรียนออกคำสั่งปากดีใส่หนเดียว ยังออกปากว่ากุไม่น่ามาเรียนที่นี่เลย แล้ววาคาบะที่มาเจอการกลั่นแกล้งในโรงเรียนมาตลอดอะจะคิดยังไง คาบุมันถึงได้สลดขนาดนั้น จนต้องก้มหัวขอโทษ จริงๆถ้าวาคาบะไม่โดนสั่งให้ไปเช็ดพื้น กูว่าคาบุก็ไม่สนเรื่องนี้หรอก หรือกูจะมองโลกในแง่ร้ายไป........
>>172 จริงๆ คาบุมันจะไม่สนใจก็ไม่แปลกนะ ขนาดกลุ่ม Pivoine ด้วยกันมันยังไม่เคยแยแสสนใจ กลุ่มรากหญ้านี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ขนาดวาคาบะที่ตัวเองแอบชอบเขาข้างเดียวมันยังอ่านอารมณ์ไม่ออก ไม่รู้ควรจะปฎิบัติตัวยังไงเลย แต่มาได้ถึงขั้นแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้นำได้นี่ก็เรียกว่าเติบโตขึ้นมาได้เหมือนกันนะ
>>158 มึง กูอ่านที่มึงพูดแล้วเขินตัวม้วนเลย ฮือ ถึงแม้ตอนแรกกูจะกลัวว่าเจ้าแม่จะระแวงเอ็นโจว่าทำไมอยู่ๆถึงโผล่มาก็เถอะ(เพราะกูก็ตกใจ5555)
ถ้าจบรูทเอ็นโจจริงๆนี่กูจะเขินมากๆนะ เพราะกูชอบความสัมพันธ์แบบนี้มากๆ คอยสังเกต ใส่ใจกันตลอดแบบเนี้ยย 555
แต่กูยอมรับเลยว่าวันนี้เรือเอ็นโจถูกสั่นคลอนจากปกติที่พังเรือเอง ตอนท่านเรย์กะวิ่งตามไปนี่โชโจมากๆ ฮือ ข่าวลือแน่นอน จักรพรรดิXจักรพรรดินี
คราวนี้ท่านเรย์กะจะปฏิเสธว่าไม่สนิทกับสองคนนั้นก็ไม่ได้แล้วสินะ เอ็นโจทั้งเดินเข้ามาคุยด้วย ท่านเรย์กะรีบวิ่งตามคาบุรากิไปหลังจากจบเรื่องอีก เหล่าพระสหายและสาวกจะพูดถึงเรื่องนี้กันว่ายังไงเนี่ย
อะไรกัน ถ้าผมบ็อบของคิชิดะ เรย์โกะยาวกว่านี้อีกหน่อยหรือเท่าอิชิมัตซึในภาพแล้วจะต้องเรียกว่าเป็นทรงผมยามาโตะ นาเดะชิโกะแท้ๆ
นายตัวสำรองนี่มันตัวสำรองจริงๆ ทั้งที่ออกมาปกป้องตั้งแต่แรกตั้งนานแล้วแต่เพียงคาบุรากิปรากฏกายพูดไม่กี่คำก็ดึงดูดความสนใจไปจนหมด! นี่สินะความแตกต่างระหว่างตัวละครหลักกับตัวรอง ยังไงก็พยายามเข้านะนายตัวสำรอง!
กลุ่มเซริกะจังจะทำยังไงเมื่อเห็นเอ็นโจกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหูท่านเรย์กะแล้วท่านเรย์กะผละออกจากกลุ่มไป อยากรู้! อยากรู้เหลือเกินว่าท่านเอ็นโจกระซิบอะไรไปกันแน่! พวกเซริกะจังก็คงคิดแบบนี้ ยิ่งพอท่านเรย์กะไล่ตามไปทางท่านคาราบุกิได้แวบเดียวยังเหลียวหันกลับมามองท่านเอ็นโจอีกครั้ง
ปวดร้าว! จะปวดร้าวเกินไปแล้ว!
ช่วงเป็นความปวดร้าวที่น่าอิจฉาเหลือเกิน สมแล้วที่เป็นท่านเรย์กะคนนั้น
ท่านเอ็นโจได้แต่ทำทีเก็บกระป๋องเจ้าปัญหาที่ตกอยู่ พวกเซริกะจังและผู้หญิงคนอื่นๆ ที่สังเกตเห็นปล่อยไว้ไม่ได้หรอก กระป๋องนั่นน่ะ ให้พวกเราเก็บเองเถอะ! ต้องคิดแบบนี้อยู่แน่ๆ
เข้ามาดูละเจอขนหน้าแข้งกุแหว่งไปอีกล่ะแม่ง 55555 ดีใจที่ชอบกัน ตอนอ่านตอนนี้ (และตอนหน้าๆ) กูนี่ฟินตัวแตกไปหลายรอบมาก โฮ้ยยยยย กระจายบทได้โคตรดี เรือวิ่งกันหลายลำ นานๆ จะมีงี้มาให้ชื่นใจซักที ได้สครีมกันหลายๆ คนซะทึ ฮือออออ
>>175 ตอนอาริมะจับได้ว่านางไปขัดโต๊ะแล้วนางมโนไปว่าอาริมะต้องคิดว่านางเป็นคนร้ายแน่ๆ นางถึงกับคิดว่าต่อไปคาบุกะเอ็นโจคงไม่เข้ามาคุยเล่นด้วย แล้วต้องมองมาแบบดูถูกแน่ๆ แสดงว่านางแคร์สองหนุ่มนี่มากว่ะ ถึงนางจะไม่อยากยอมรับก็เหอะ ปกติแล้วนางจะชอบคิดแบบคาบุกับเอ็นโจช่วยไปไกลๆจากชีวิตนางเถอะ แต่นี่ถึงกับกลัวว่าจะไม่ได้คุยกับเขาเลย ก็นะ สามคนนี้อยู่ด้วยกันมาสิบปี ใช้เวลาครึ่งหนึ่งในชีวิตด้วยกัน ผ่านนั่นนี่โน่นมาทั้งดีทั้งร้าย มันก็ต้องผูกพันกันมั่งล่ะ
กูว่าจริงๆนางสังเกตเอ็นโจตลอดนา แค่ไม่พูดออกสื่อเฉยๆ อย่างตอนไม่กินขนมนางก็รู้ว่าเขาไม่กิน เวลากินก็กินนิดเดียวเอง ไม่มองอยู่จะรู้เรอะ ตอนตั้งเพลงประจำตัวแต่ละคนเหมือนกัน กระทู้เก่าๆก็เคยพูดกันว่าเพลงประจำตัวฮีฟังดูเศร้าๆหม่นๆเป็นสีทึมๆ ถ้าไม่สังเกตจะรู้ได้ไงว่าฮีดูเศร้าๆเหมาะกับเพลงแบบนี้อะ คิดว่านางก็มองเขาอยู่ตลอดเหมือนกันนั่นล่ะ แค่จะพูดข้อมูลเขาออกมาตอนไหนก็เท่านั้นเอง
กูก็ชอบความสัมพันธ์แบบสามคนนี้นะ ถึงจะทะเลาะกัน จิกกัดกันสารพัด แต่ก็ซัพพอร์ต เป็นที่พึ่งพิงให้กันและกันเวลาเดือดร้อน มันแสดงถึงความเป็นเพื่อนสนิทได้ดีอะ กูว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันน่ารักมากๆเลย
>>176 เอาตรงๆมั้ย กูก็คิด ในโลกเดิมที่คาบุชอบวาคาบะอาจจะเพราะวาคาบะพาตัวเองไปเจอโลกใหม่ๆ
แต่พอมาโลกนี้ ท่านเรย์กะเป็นคนพาไปหมดเลยแถมอยู่กับท่านเรย์กะก็ไม่ต้องเกร็ง ทำตัวตามสบายๆได้ จะคุยเรื่องชนขั้นสูงหรือสามัญชนก็ได้หมด
ตอนที่ท่านเรย์กะชวนไปกินโอโคโนมิยากิแล้วคาบุหัวเราะออกมา เรือเอ็นโจกูสั่นคลอนไปหมด ฮือ
>>178 ตอนหน้าๆ!!! แปลว่ามันจะมีแบบนี้อีกหลายตอนใช่มั้ยยยย
>>179 ภาพลักษณ์เอ็นโจในสายตาทุกคนคือเป็นคนที่อ่อนโยน ในมังงะของโลกก่อนที่นางพูดถึงก็ไม่มีพูดถึงด้านเศร้าๆของเอ็นโจเลยมีแต่บอกว่าโกรธแล้วน่ากลัว
ถ้าไม่สนใจ ไม่ตั้งใจมอง ก็คงไม่รู้ว่าจริงๆเอ็นโจดูหม่นๆ
พอมึงพูดว่านางไม่พูดออกมานี่กูรู้สึกเหมือนคนชอบเขาแต่ไม่อยากยอมรับเลย /สูดกาว
แต่วันนี้กูกรี๊ดตอนท้ายๆอยู่นะ นางปล่อยให้คาบุเดินไปก่อนก็แปลว่า ท่านเรย์กะกับเอ็นโจเดินไปด้วยกัน !
เหมือนเวลาเราไปเที่ยวกับเพื่อนกับคนที่ชอบ แล้วพยายามเดินช้าๆไปพร้อมกันเลย ปล่อยเพื่อนเดินชนนกชมไม้คนเดียว /ยัดตัวเองลงไปในถังกาว
หลังจากที่โม่งแปลบอกว่าตอนล่าสุดพีค กูก็ไม่คิดว่ากูจะได้เจอฉากคาบุมันก้มหัวขอโทษเด็กกลุ่มนอก แม่งเอ๊ยยยย โคตรเท่เลย ฮืออ เป็นครั้งแรกในเรื่องที่กูนั่งหวีดคาบุอย่างเป็นทางการ คนบ้าๆบอๆแบบนายก็ทำสิ่งที่เท่ๆสมกับพระเอกโชโจได้เหมือนกันสินะคาบุรากิ (กูแยกคาบุรากิในโลกคิมิดอลกับโลกปัจจุบันเอาไว้เรียบร้อย) ฉากท่านเรย์กะเดินตามต้อยๆชวนคาบุรากิไปกินโอโคโนมิยากิแล้วคาบุหัวเราะนิดๆกูแบบ ฮืออออ เอ็นโจก็เอ็นโจเถอะ ตอนนี้ดาเมจแรงมาก!!
ตอนนี้นอกจากเห็นความสัมพันธ์ของคาบุ เรย์กะ เอ็นโจแล้ว กรุอดคิดไม่ได้ว่านายตัวสำรองก็รู้ว่าคาบุจีบวาคาบะอยู่ ไม่งั้นคงไม่ยกวาคาบะขึ้นมาพูด แถมได้ผลดีซะด้วย จะว่าไปสามคนนี้เคยไปเดทกันสามคนที่ห้องสมุดนี่นะ
เดี๋ยวนะ กูนึกเรื่องสยองได้อีกเรื่องว่ะ
คือไอ้โอโคโนมิยากิที่ไปแดกนี่เป็นร้านสามัญชนใช่มั้ย?
เพราะงั้นถ้าเป็นร้านแบบนี้นี่ถ้าแดกมันต้องทำเองใช่มั้ย?
........แล้วถ้าคาบุกะคุณชายมันทำไม่เป็นแล้วต้องให้เจ้าแม่ทำให้กินล่ะ?
คันตะที่คอยห้ามก็ไม่อยู่ แถมเจ้าแม่เวลาทำอาหารถ้าไม่มีเครื่องปรุงเสริมก็ไม่ใช่เจ้าแม่ บางทีชีคงพกติดกระเป๋าไปด้วยแหงๆ แบบกะว่าจะโชว์ภูมิ...............อีหรอบนี้กูว่ามีแวววงแตกว่ะ ได้สครีมเพราะอาหารเป็นพิษแน่ๆ
คุณชาย "อุ.....รสชาดแบบนี้มัน!!!"
คาบุบากะ "หมาไม่แดกสัสๆ !!!"
วันต่อมาสองหน่อถึงกับมาโรงเรียนไม่ไหว มีข่าวลือออกมาว่าจักรพรรดิป่วยเพราะความรับผิดชอบจริงจัง
เจ้าแม่รู้สึกผิดเลยไปเยี่ยม......แล้วทั้งคู่ก็ค่อยๆ เข้าใจกัน
.
.
.
.
.
.
อาห์.......กาวกระปุกนี้หอมชื่นจายยยยยยย
เรือคาบุแล่นฉิวววเลยเว่ยเฮ่ย!
กุกางขาเหยียบ2 เรือนี้อยู่พอดี. ตอนนี้ความเท่ความน่ารักคาบุมาเต็มจริงๆ. แต่กุว่าเรยกะเอนเอียงไปทางเอ็นโจว่ะ (สูดกาวนิดๆ) แม้นางยังไม่ยอมรับกับตัวเอง. แต่คนอ่านอย่างเราๆรู้ดี อิอิ อารมณนางประมานเอ็นดูเห็นใจแกมหมั่นไส้คาบุ มีชื่นชมบ้าง. แต่กับเอ็นโจนางออกแนวแอบสังเกตเขาอยู่. และนางก็รู้ตัวว่าเค้าแอบสังเกตนางอยู่. เหมือนนางจะยอมรับเอ็นโจอยู่กรายๆ
*ติดเฟิลเตอร์เรือเอ็นโจ* แงงง ทำไมกูดันไปกาวรอยยิ้มฝืดๆของเอ็นโจที่บอกว่าเจ้าแม่คิดเล็กคิดน้อยจริงๆ กูว่าคือปกติเอ็นโจต้องแซวหน้ายิ้มๆอะไม่ใช่ฝืดๆ แปลว่า นายรู้ตัวสินะว่าที่ไปโปรยสเน่ห์ใส่ฝูงผู้หญิงเมื่อกี้ท่านเรย์กะเค้าเห็น~ //ฟิลเตอร์หนามาก แต่จริงๆคิดว่าเอ็นโจนี่ชนักติดหลังเยอะจะตายไม่น่าใช่แค่เรื่องนี้ร้อกกก
ส่วนประเด็นชงให้ไปปลอบคาบุรากิ...คิดว่าคงเพราะถ้าเอ็นโจไปปลอบคาบุ เจ้าแม่คงไม่กล้าเก็บเองบวกกับไม่นับว่าเซริกะกับคิคุโนะไม่ยอมให้เก็บอยู่แล้ว พวกสภานักเรียนก็คงจะต้องเก็บ/ตามแม่บ้านมาเก็บให้ตามระเบียบ ซึ่งงงง มันจะกลายเป็นว่าไอ้เท่ๆที่คาบุทำเมื่อกี้จะต้องมัวหมองไปนิดนึงเพราะสุดท้ายแล้วคนร้ายก็ไม่ได้รับผิดอะไร เอ็นโจเลยต้องทำแบบนั้นแล้วให้ท่านเรย์กะไปปลอบแทน
ส่วนเรื่องร้านเนี่ยได้ข่าวว่าท่านเรย์กะชวนมาคนเดียวนะคะ แค่กๆ อีกคนตามมาได้ยังไงงงง แถมชมว่าน่ารักอีก--ทำท่านเรย์กะใจเต้นไปเลยนะนาย! คานซังอย่าไปยอมนะคะ!! ไอ้หมอนั่นกำลังจะมาแย่งคนรักชั่วนิรันดร์ของคุณไป--//โดนตบปลิวออกนอกกระทู้
*เปลี่ยนเป็นฟิลเตอร์สาวกท่านคาบุรากิ*
กรี๊ดดดดด โคตรเท่เลยค่า พฤติกรรมง้องแง้งแบบส่งเมล์จิกชาวบ้านนี่ถูกลืมไปเล้ย โคตรของโคตรหล่อ5555 ถึงจะโดนท่านเรย์กะขัดฟีลด้วยการบอกว่าแก้วที่โดนปัดยังไม่เก็บก็ตาม พอท่านเรย์กะเดินตามไปข้างๆ เห็นสีหน้าเหงาๆ โอ้ยยยย นี่มันฉากในมังงะโชโจ ยิ่งนางเอก(?)โก๊ะๆเห็นพระเอก(?)เศร้าไม่รู้จะทำยังไงดี หลุดปากออกมาหนึ่งคำ ชวนไปกินขนมปลอบใจ ทันใดนั้นเองพระเอก(?)ก็หลุดหัวเราะหึออกมาด้วยความเอ็นดู(อารมณ์แบบ adorable~งี้) ถึงจะปลอบไม่เป็นแต่ความพยายามนั่นก็ยังน่ารักมากอยู่ดี~ แค่มีเธออยู่ก็ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาได้แล้ว
ตอนที่โดนแกล้งให้เดินเลยไปแล้วต้องเดินหน้ามุ่ยกลับมาก็น่ารักมาก*หยิกแก้ม เคมีสองคนนี้แรงมากคูณล้านนน
แต่นอกจากฟิลเตอร์กาวๆนั่นแล้วคือตอนที่เอ็นโจพูดว่าเรย์กะยังไม่เลิกเล่นเป็นสปายนั้นคาบุยังเดินอยู่ในรัศมีการได้ยินรึเปล่า ถ้าได้ยินรับรองว่าคนช่างสังเกต ช่างใส่ใจ(จุกจิก)แบบคาบุรากิต้องไปสืบต่อแหงๆ
อีกตอนคือการที่เอ็นโจสามารถต่อความคิดในหัวของเจ้าแม่ได้เหมือนกับได้ยิน หลอนมากอีเหี้ย แบบเป็นการตอบที่เหมือน เอ๊ะ เมื่อกี้กูพูดคำนี้ออกไปเหรอ เหมือนมึงมานั่งอยู่ในหัวกูงี้ น่ากลัวสัสๆ แถมเจ้าแม่ยังไม่รู้สึกตัวด้วย คือ...ไม่สู้อะค่ะ เชิญท่านจอมมารสิงสู่ในหัวเจ้าแม่ต่อไป
ก๊อกๆ ดิบอัพตอนใหม่แล้วจ้าาาาาาาาา
>>193 สปอลย์ดิบล่าสุด
.
.
.
.
.
ท่านเรย์กะหนีคาบุลนลานอย่างกับชู้หนีผัว วาคาบะออกไปรับหน้าทัน แต่คาบุดันโทรจิกท่านเรย์กะ และเสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังไปถึงหูคาบุ วาคาบะกลบเกลื่อนไปได้ สุดท้ายคาบุเห็นว่ามีเพื่อนอยู่ในบ้านเลยขอตัวกลับไปก่อน แต่ดูท่าจะยังสงสัยนิดๆ แววโม่งแตกมาถึงในเร็ววัน
.
.
.
.
จบการสปอยล์
>>193 สปอยคร่าวๆ
.
.
.
.
ไปแอบฟังวาคาบะกับคาบุคุยกัน คาบุเอาของที่ซื้อมาให้วาคาบะ วาคาบะบอกวันนี้มีเพื่อนมาบ้านไม่ค่อยสะดวก คาบุถาม "ใคร" วาคาบะก็ "เอ๋" คาบุถามย้ำอีก "ใคร" วาคาบะเลยต้องตอบว่าโคโระจัง คาบุก็..โคโระจังชื่อแปลกจังนะ คุยกันอีกแปปแล้วคาบุก็ขอตัวกลับไป เรย์กะกินมื้อเย็นกับบ้านทาคามิจิ กลับมามีเมล์จากคาบุ กำลังจะพิมพ์ตอบกลับ แต่มีสายเข้าซะก่อน จบตอน
.
.
.
.
.
กุมาฟินตอนใหม่ตอนนี้ทันมั้ยว่ะ คือกุชอบตอนนี้มากกกก ถ้ากูเป็นโม่งซุยรันนะ กุคงมโนไปไกลเลย นึกภาพจักรพรรดิเดินไปอย่างโดดเดี่ยว แล้วจักรพรรดินีวิ่งตามไปปลอบ ส่วนเจ้าชายก็มาเก็บกวาดไรงี้ กุว่ามีคนเห็นภาพนี้กันหลายคน รวมถึงวาคาบะจังด้วย ถ้ากูเป็นวาคาบะจัง กูคงไม่ตึกตักกับคาบุนะ กุคงจะคิดว่า ยังไงกันน้า ระหว่างคาบุกับเรย์กะเนี้ย ไม่ยอมรับรึป่าวไรงี้ คือโมเมนต์มันได้มาก
กลับมาที่เอ็นโจ นายที่มันไม่มีอะไรจะกล่าว 555555 ตอนนี้กุกาวแรงมาก ชอบ ขอแบบนี้บ่อยๆนะคะ
กูว่าที่เอ็นโจไม่ไปปลอบคือไม่รู้จะพูดอะไรด้วยมั้ง ผชสองคนปลอบกันแค่คิดก็ขนลุก
อย่างตอนที่ยูริเอะเจ้าตัวก็ตามยื้อเป็นเพื่อนตั้งนานนมกว่าจะดึงกลับมาได้ 555
ส่วนกูมองว่าคาบุคงรู้สึกว่าทั่นเรย์กะน่ารัก เหมือนที่ท่านพี่มอง ไอ้นิยาม โง่เง่าแบบน่ารักนั้น 555
ส่วนเอ็นโจ เรือนั้นพายเอื่อยๆต่อไป น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง 555
>>198
..............................................................................................................................
..............................................................................................................................
..............................................................................................................................
..............................................................................................................................
..............................................................................................................................
..............................................................................................................................
เพราะเรย์กะเมลล์ไปบอกว่าแคนเซิ้ลไม่ไปออกกำลังกายกับคาบุรากิ เลยมาหาวาคาบะได้
คุยกับวาคาบะแล้วเพิ่งนึกออกว่าลืมส่งแปลนออกกำลังกายที่บ้านไปให้ เลยจะโทรไปสั่ง
..............................................................................................................................
..............................................................................................................................
..............................................................................................................................
อ่านตอนใหม่แล้วกรี๊ดมาก คาบุรากิตอนก้มหัวรับผิดนี่กระชากใจมากๆ ไหนจะฉากหันมาหัวเราะใส่เรย์กะตอนพยายามเข้ามาปลอบ เรย์กะรู้ว่าคาบุรากิรู้สึกซึมจ๋อยที่พยายามปกปิดเอาไว้ พอมาปลอบเอาเรื่องอาหารมาพูดถึง คาบุรากิคาดไม่ถึงหลุดหัวเราะอารมณ์ดีทันตาอย่างเอ็นดู โมเม้นต์น่ารักเกินไปแล้ววววว ในที่สุดความโชโจวที่ไม่มีวีแววมาก่อนก็ปรากฏขึ้นมาบ้างแล้วสินะ //ปาดน้ำตาสามสี่ครั้ง ดมกาวพร้อมดื่ม(กัญ)ชา
เราไม่ได้เปิดกระทู้มานานมาก เพิ่งไล่ตามอ่านทัน เราเป็นคนเขียนฟิคคู่หูทะมิติเอง (ถ้ายังมีคนจำเรื่องนี้ได้ orz) จริงๆเขียนใกล้เสร็จมาหลายครั้งก็ลงจบไม่ได้ซะที บางทีเขียนๆไป ปรากฏแปลไทยออกมาบทตรงกันอีก ต้องแก้บทใหม่ 55555 ไม่รู้จะเขียนเสร็จเมื่อไหร่นะคะ อาจมาลงตอนพิเศษคั่นไม่ก็ฟิคใหม่ที่คิดๆไว้ไปก่อนในกรณีที่ไม่ได้ลงนานจริงๆ แต่ถ้าเขียนตอนหลักได้เสร็จก็คงเอามาลงต่อปกติค่ะ
หวาาา. กรี้ดดดดดด. เรือคาบุที่กุเคยหมดหวังกระโดดน้ำหนีออกมาแล่นฉิววยังกะติดไอพ่น. กุยิ้มแย้มโบกมือให้จากบนเรือเอ็นโจที่ยังลอยเอื่อยๆ
ตอนนี้กุกร้าวใจจริง. แม้ท่านฮิโยโกะจะชงจะตบเอ็นโจแค่ไหน แต่คาบุเรยกะนี่เคมีพุ่งทะลุจอหยุดไม่อยู่
พอกลับไปอ่านฉากคาบุก้มหัวขอโทษซ้ำอีกรอบแล้วนึกถึงตอนท่านเรย์กะก้มหัวขอโทษแทนริรินะยังไงไม่รู้แฮะ
>>211 พูดถึงฉากนั้นกูกร๊าวใจตอนที่คาบุบอกเรย์กะว่า 'ใช้ไม่ได้เลย' แล้วหัวเราะหึๆ (btw แค่นี้ก็ยังกร๊าวใจ ความโชโจในตัวกูคงมีมากกว่าที่คิดเยอะ)
แต่พอดีฉากที่เอ็นโจเดินตามมาดาเมจรุนแรงกว่า
มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้นแหละที่มีสิทธิ์ทำให้เธอเดือดร้อน คนอื่นอย่าได้แม้แต่จะคิดเชียว /ตอนนี้กูนอนเล่นในถังกาวอยู่
มาแจกกาว.....
เธอ ผม ความสัมพันธ์ระหว่างเรา
ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหนกันนะ เป็นคำถามที่ผมคอยถามตัวเองอยู่บ่อยๆ หากแต่คำตอบนั้นดูพร่าเลือนเพราะรู้สึกตัวอีกทีผมก็ชอบเธอเข้าซะแล้ว
ผมรู้จัก คิโชวอิน เรย์กะ มาตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียนที่ซุยรัน ในตอนแรกนั้นผมไม่ได้สนใจจะทำความรู้จักเธอด้วยซ้ำถึงแม้ว่าเทียบกับคนอื่นในรุ่นแล้วเธอจะดูโดดเด่นและแตกต่างอยู่มากทีเดียว
แต่หลังจากงานซัมเมอร์ปาร์ตี้ ความคิดผมก็เปลี่ยนไป คิโชวอิน เรย์กะ เป็นเด็กผู้หญิงที่น่าสนใจทีเดียว แน่ล่ะ อย่างน้อยในวงสังคมนี้ก็ย่อมไม่มีใครปล่อยตัวเพลิดเพลินไปกับแสงแดดยามฤดูร้อนจนได้ผิวคล้ำมาแบบเธอ อีกอย่าง ในงานที่ต้องรักษาภาพลักษณ์เป็นอันดับแรกก็คงไม่มีใครปล่อยใจไปกับความรื่นเริงจนมากเกินไปอย่างเธอ แต่ก็ต้องยอมรับว่ารอยยิ้มกว้างของคิโชวอิน เรย์กะนั้นน่ามองจริงๆ
ดูท่าจะไม่ใช่แค่ผมที่คิดว่าคิโชวอินคนนั้นน่าสนใจ หลังจากจบงานซัมเมอร์ปาร์ตี้ เวลาที่พวกเรา(ผม มาซายะ ยูริเอะ และไอระ) อยู่ในห้องสโมสรครบพร้อมกัน ไอระจะชอบชวนคิโชวอิน เรย์กะมานั่งด้วยเสมอ แต่สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจคือการที่มาซายะผู้ไม่สนใจคนอื่นนักจดจำเธอได้ แต่ก็แน่ล่ะ งานวันนั้นเธอออกจะเด่นนี่นา
และจากการที่เราได้ใช้เวลาร่วมกันบ่อยขึ้นทำให้ผมได้รับรู้ว่า คิโชวอิน เรย์กะ กำลังสนใจมาซายะ แต่เมื่อเธอสังเกตเห็นว่าผมกำลังมองเธออยู่ก็มีอาการหวาดกลัวขึ้นมาทันที หือ? ยังไงกันนะ
วันเวลาในซุยรันของผมผ่านไปอย่างเรียบง่าย ไม่มีเรื่องเดือดร้อนมากวนใจมากนัก นอกเสียจากว่าความสงสัยที่ผมมีต่อคิโชวอินคนนั้น ทั้งๆที่สนใจมาซายะแท้ๆแต่ทำไมถึงได้ไม่พยายามเข้าใกล้เลยนะ เธอเองก็จับกลุ่มอยู่แต่กับเพื่อนของเธอ ไม่แม้แต่พยายามเรียกร้องความสนใจจากมาซายะ ค่อนข้างหลีกเลี่ยงด้วยซ้ำไป แปลก แอบมองบ่อยขนาดนั้นแท้ๆ…
แล้ววันหนึ่งก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสทำความรู้จักคิโชวอิน เรย์กะมากขึ้น ต้องขอบคุณยูริเอะเลยนะ แต่ทว่าผมยิ่งสับสนหนักเข้าไปอีกเมื่อพบว่าคิโชวอินมีโอกาสใกล้ชิดมาซายะมากกว่าผู้หญิงคนไหนๆแต่กลับพยายามปฏิเสธ ผลักไส และหวาดกลัว(?)โอกาสนั้นเหลือเกิน
เมื่อผมพูดคุยกับเธอถึงเรื่องนี้ เธอก็ปฏิเสธว่าไม่ได้มีความรู้สึกใดๆให้มาซายะ พูดออกมาด้วยท่าทีเฉยเมยเสียจนผมเลิกล้มการค้นหาคำตอบว่าเธอโกหกหรือไม่
เรื่องราวหลังจากนั้นก็กลับเข้าสู่โหมดปกติ คิโชวอินได้กลับไปใช้ชีวิตกับกลุ่มเพื่อนของเธอ ไม่หาทางมาข้องเกี่ยวกับมาซายะตามเคย สีหน้าแววตาดูสดใสเหมือนเคย
อะไรบางอย่างที่ทำให้จิตใจผมหนักอึ้งตลอดเวลาที่ผ่านมาดูจะหายไปแล้ว
วันหนึ่ง ผมได้มีโอกาสทำงานร่วมกับคิโชวอิน เรย์กะเป็นครั้งแรก ผมพบว่าเธอต่างจากผู้หญิงทั่วไปมากทีเดียว แน่ล่ะ ปกติเธอก็ดูแตกต่างมากอยู่แล้ว หากแต่คราวนี้แตกต่างในความหมายที่ต่างออกไป คนที่เป็นถึงคิโชวอิน เรย์กะนั่งทำงานเอกสารอย่างไม่ปริปากบ่น ผมเห็นเธอมีสีหน้าเหนื่อยล้าแต่ก็ไม่ปฏิเสธสักคำเมื่อมีใครนำงานมาเพิ่มให้ งานพวกนั้นเธอไม่ควรจะต้องทำคนเดียวแท้ๆ ผมเอ่ยปากบอกให้เด็กผู้หญิงที่อยู่รอบตัวให้ไปทำงานแต่ไม่มีใครยึดถือคำพูดนั้นจริงจัง ทุกคนต่างต้องการดึงความสนใจของผม ไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ผมยิ่งรำคาญ หรือผมควรจะทำตัวหยิ่งยโสแบบมาซายะดีนะ…
เผลอละสายตาไปแวบเดียว คิโชวอินหายไปแล้ว เมื่อถามถึงคนรอบตัวก็พบว่าเธอกำลังไปห้องเรียนเด็กปีสาม ห้องที่มีเจ้าคาซึรางิ ฮารุกิอยู่
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ผมคงคิดว่าเธอรับมือกับเรื่องแบบนี้ได้สบาย แต่ตอนนี้ผมคิดว่า คิโชวอินคนนั้นน่ะไม่มีทางทำเรื่องพวกนี้ได้แน่ๆ ผมรีบเร่งเดินตามเธอไป
เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วย คาซึรางิทำตัววุ่นวายอีกตามเคย ผมสั่งให้เขาทำตัวดีๆ แล้วเดินตามคิโชวอินออกนอกห้องไป ด้วยความประหลาดใจ ผมโดนเธอคนนั้นเหน็บแนมเข้าซะแล้ว คนที่แทบไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมามากมาย คราวนี้’เผลอ’หลุดอาการหงุดหงิดออกมาจนได้
คิโชวอิน เรย์กะนี่น่าสนใจจริงๆแหละ
ยิ่งนานวันเข้าการได้พบเจอคุณคิโชวอินกลายเป็นหนึ่งในเรื่องสนุกของผม การได้เห็นคุณคิโชวอินเผลอทำเรื่องแปลกๆออกมาเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข ผมทราบได้จากใจจริงเลยว่าผมมีความสุขจริงๆ
คนที่เป็นถึงบุตรของตระกูลคิโชวอินแต่แค่ได้ทานของอร่อยๆก็มีแววตาที่เปล่งประกายแล้ว เป็นคนที่ดูสูงส่งจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้กลับเป็นที่รักของบรรดาสัตว์โลก
ถึงแม้คุณคิโชวอินจะเป็นคนแปลกๆอยู่บ้างแต่เธอก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ผมไม่เคยเห็นเธอใช้อำนาจข่มเหงเพื่อนของเธอเลยสักครั้ง และนั่นทำให้ผมประทับใจในตัวเธอมากขึ้นไปอีก
วันเวลาผ่านพ้นไป เผลอแป๊ปเดียว พวกเราก็ขึ้นชั้นมัธยมต้น
คุณคิโชวอินมีความรักครั้งแรก เธอไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่คนที่คอยเฝ้ามองเธอมาตลอดอย่างผมก็รู้สึกได้ แววตาที่เปลี่ยนไปเมื่อเธอมองเขา ต่างจากตอนมองคนอื่น ต่างจากเวลาที่เธอมองผม ผมรับรู้ได้ถึงความขมขื่นที่แผ่ขยายในจิตใจ
วันนั้นผมรู้สึกตัวว่าผมรักคุณคิโชวอินเข้าแล้ว
แต่รักแล้วยังไงล่ะ
ผมก็ยังคงไม่สามารถเข้าใกล้เธอได้เหมือนเดิม ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมคุณคิโชวอินถึงไม่ยอมมาพูดคุยกับพวกผมเลยนะ
บางครั้งบางคราว คุณคิโชวอินและผองเพื่อนก็ชอบลงไปเดินเล่นในสวน ผมไม่ได้ยินว่าเธอพูดคุยอะไรกับเพื่อนแต่จากท่าทีที่ชูมือแปลกๆคงเป็นเรื่องที่น่าสนุกแน่เลย ผมที่แอบมองเธอจากบนอาคารเรียนพูดในใจว่า น่ารักจังเลย
หนึ่งวันของผมจะเป็นวันที่ดีหรือเลวร้ายล้วนขึ้นอยู่กับคุณคิโชวอิน คุณคิโชวอินมีความสุข วันนั้นเป็นวันที่ดี หากวันไหนเธอหม่นหมอง ราวกับว่าท้องฟ้าของผมครึ้มเหมือนฝนจะตกก็ไม่ปาน
มีบางที ความคิดเรื่องสารภาพรักออกไปแวบเข้ามาในหัวแต่ก็ถูกปัดตกไปในทันที
แค่ผมพยายามหาเรื่องคุยด้วยยังกลัวขนาดนั้น
ผมไปทำอะไรให้เธอกันนะ...
แต่บางทีเธอมองมาที่ผมด้วยความขุ่นเคืองใจ อาจจะฟังดูแปลกประหลาดไปหน่อยแต่ผมกลับชอบที่เธอมองมาที่ผมด้วยสายตาแบบนั้น เพราะลึกๆในใจผมมีความรู้สึกว่าเธอก็ไม่ได้กลัวผมมากมายเสียหน่อย
และอีกอย่าง.. ไม่ใช่ทุกคนที่เธอจะเปิดเผยความรู้สึกด้วยขนาดนี้
ส่วนใหญ่แล้วเธอมักจะยิ้มแย้มอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นการที่ได้เห็นคุณคิโชวอินมีอารมณ์อย่างอื่นบ้าง(โดยเฉพาะกับผมคนเดียว)นับเป็นเรื่องที่น่าดีใจอย่างยิ่ง
แล้ววันหนึ่งคุณคิโชวอินก็รู้จักยูกิโนะ เธอชอบยูกิโนะมากๆ มากเสียจนคุยกับผมด้วยท่าทีผ่อนคลายมากกว่าที่เคย
คุณคิโชวอินที่คอยเก็บงำความรู้สึกไว้เสมอ คราวนี้ยิ้มด้วยรอยยิ้มเหมือนเมื่องานซัมเมอร์ปาร์ตี้วันนั้น แววตามีร่องรอยของความสุขใจ
ผมไม่ได้เห็นรอยยิ้มและแววตาของเธอแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ
ในใจลึกๆ ผมอดอิจฉายูกิโนะไม่ได้ที่เป็นคนทำให้เธอมีความสุขขนาดนี้
เหลือบมองใบหน้าของเธอที่อยู่ด้านข้าง อยู่ใกล้ถึงเพียงนี้แต่ไม่สามารถบอกอะไรออกไปได้ ช่างเป็นระยะห่างที่แสนอึดอัดใจ
ทั้งๆที่ชอบมากมายถึงเพียงนี้ ผมก็ยังคงไม่สามารถเข้าใกล้คุณคิโชวอิน
เพราะชอบมากมายถึงเพียงนี้ ผมถึงไม่สามารถเข้าใกล้คุณคิโชวอิน
แค่เห็นหน้าเธอ ผมก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง ในใจมันเงอะงะไปหมด ถึงภายนอกผมจะดูสบายๆก็เถอะ
หยิบยกเรื่องที่ผมได้จากการสังเกตคุณคิโชวอินมาพูดคุยเล่น ถ้าหากไม่ใช่เรื่องยูกิโนะแล้ว คุณคิโชวอินก็มีสายตาบ่งบอกว่าระแวงผมเสียอย่างนั้น
คิดอะไรของคุณน่ะคุณคิโชวอิน..
แต่ผมพบว่า ผมชอบช่วงเวลาที่อารมณ์ของเธอเปลี่ยนไปมาเหลือเกิน โดยเฉพาะอารมณ์และสีหน้าของคุณคิโชวอินที่ไม่มีใครเคยได้เห็น มีแค่ผมเท่านั้นที่รู้จัก
ความคิดที่ว่าผมอยากเป็นคนที่เธอคอยมาแบ่งปันความรู้สึกในแต่ละวันผ่านเข้ามาในหัว
อยากให้พึ่งพาตัวผมให้มากกว่านี้สักหน่อย เราเป็นถึง….?
นั่นสินะ เราเป็นอะไรกัน ผมรู้จักกับคุณคิโชวอินมามากกว่าสิบปีแต่ระยะห่างระหว่างเราก็ไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าเพื่อนเลยแม้แต่น้อย
เมื่อคิดเช่นนี้ ผมก็แอบท้อใจอยู่บ้าง
มีข่าวลือระหว่างเราสองคนอยู่บ้างแต่ถึงกระนั้นก็โดนคุณคิโชวอินปฏิเสธไปทุกครั้ง
ไม่เห็นต้องจริงจังขนาดนั้นเลยนี่นา… ปล่อยไว้แบบนั้นแล้วตกหลุมรักผมก็ได้นะคุณคิโชวอิน
แล้วก็มีวันที่ผมต้องอิจฉาน้องชายตัวเอง ยูกิโนะได้เต้นรำกับคุณคิโชวอินด้วยล่ะ ผมอยากเต้นด้วยจังเลย ถ้าไปขอแลกคู่ คุณคิโชวอินจะตอบตกลงมั้ยนะ แต่ถ้าเป็นคุณคิโชวอินแล้วล่ะก็คงจะตอบปฏิเสธแน่ๆเลย ในขณะที่ผมละล้าละลังอยู่นั้นเสียงเพลงก็จบลง ผมถอนหายใจอย่างเซ็งๆแล้วเดินไปหายูกิโนะกับคุณคิโชวอิน
ผมไม่ชอบตัวเองที่ขี้ขลาดแบบนี้เลย แต่ก็เพราะเป็นเรื่องของคุณคิโชวอิน ผมถึงได้ขี้ขลาดแบบนี้ ถ้าหากเผลอหลุดปากอะไรออกไปแค่นิดเดียว คุณคิโชวอินคงหายจากผมไปตลอดกาล
แต่ละวันของผมจบลงไปด้วยคำว่า ‘ถ้าได้สารภาพรักออกไปคงดีไม่น้อย..’
คนที่น่ารำคาญที่สุดในโลก
ตั้งแต่ฉันจำความว่าโลกที่ฉันอยู่คืออะไร ฉันก็ตั้งใจว่า จะมีชีวิตอยู่โดยที่ไม่หาเรื่องใส่ตัวเด็ดขาด ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย นอบน้อม และหนักแน่นเข้าไว้ ไม่กระทำการใดๆให้อันจะส่งผลให้ตระกูลเสี่ยงต่อการล่มสลายเป็นอันขาด
วันแรกที่เข้าโรงเรียน ฉันตื่นตาตื่นใจกับความอลังการของโรงเรียนแห่งนี้มากๆ ในฐานะที่เป็นแฟนคลับเมื่อได้มาเห็นของจริงแล้วรู้สึกปลื้มปิติอย่างยิ่งค่ะ
โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นตัวเอกอย่าง คาบุรากิ มาซายะ และ เอ็นโจ ชูสุเกะ ในวัยเด็ก
ถึงจะดีใจแต่ก็ไม่ลืมว่าการไปยุ่งเกี่ยวกับสองคนนี้เป็นหนทางทำให้ตระกูลล่มสลาย ฉันจึงจงใจรักษาระยะห่าง ไม่แสดงอาการว่าสนใจสองคนนั้น
พูดกันตามตรง ในชาติที่แล้วนั้นเอ็นโจ ชูสุเกะเป็นแบบที่ฉันชอบเลยค่ะ ภาพลักษณ์ใจดี อ่อนโยน เหมาะกับฉายาเจ้าชายมากๆ ตอนที่ได้เห็นว่าไม่ใช่ผมทองอย่างในหนังสือก็อดไม่คุ้นตาอยู่บ้างแต่เมื่อนึกดูแล้วถ้าไม่ได้ไปย้อมผม มีผมทองก็คงจะแปลกมากเลยล่ะสำหรับคนที่มีเชื้อสายเอเชียเต็มตัว
ถึงจะตั้งใจไว้อย่างนั้น แต่ในงานซัมเมอร์ปาร์ตี้ครั้งแรกของฉันก็เผลอทำเรื่องเด่นสุดๆไปค่ะ แย่จริง ฉันตกใจจนตัวแข็งเป็นหิน ไหนเพื่อนๆของฉันบอกว่าสองคนนั้นคงไม่อยู่ญี่ปุ่นล่ะคะ ไม่งั้นฉันก็คงไม่มาเต้นวอลซ์หรอก บ้าจริง อย่าจำฉันได้เลยนะ
ดูท่าคำขอของฉันจะไม่เป็นผล เมื่อเอ็นโจถามว่าฉันใช่เด็กคนที่เต้นวอลซ์เมื่อวันนั้นหรือเปล่า คาบุรากิก็พูดอะไรบางอย่างที่่บ่งบอกว่าจำฉันได้ ฉันแอบเตือนตัวเองในใจอย่างเงียบๆว่าอย่าหาเรื่องทำให้ตัวเองเด่นอีก
แต่ฉันก็ต้องขอบคุณตัวเองที่ไปเต้นวอลซ์เมื่อวันนั้นนะคะ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ได้ใกล้ชิดกับท่านไอระแน่ๆเลย ฮุฮุฮุ
ได้อยู่ใกล้ๆคนที่เคยเป็นตัวละครในหนังสือที่ชอบ ฉันก็อดแอบมองไม่ได้ แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกทีก็เห็นเอ็นโจมองมาทางนี้ อึ๋ย..
แต่ทว่าวันหนึ่ง ฉันก็มีเหตุให้ได้เกี่ยวข้องกับคาบุรากิมากกว่าเดิม น่ากลัวเหลือเกิน
เด็กตัวแค่นี้ก็มีพลังข่มขู่คนขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ทำก็จะเป็นการสร้างความขุ่นเคืองใจและอาจจะมีศัตรูโดยไม่จำเป็นสินะคะ ฉันยอมรับการเป็นสปายให้คาบุรากิอย่างไม่เต็มใจ
การเข้ามายุ่งเกี่ยวครั้งนี้ ทำให้ฉันได้รับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของคาบุรากิที่ทุกคนฝันใฝ่ ความจริงก็เป็นแค่เด็กบ้าคนหนึ่งเท่านั้นค่าาา
ฉันทนเก็บความอึดอัดใจเอาไว้ลำพังเมื่อต้องฟังเหล่าเพื่อนๆกล่าวชมสองคนนั้น
วันหนึ่ง ฉันมีโอกาสได้เป็นกรรมการงานกีฬาร่วมกันกับเอ็นโจ คนอย่างเอ็นโจไม่น่าจะมาทำงานแบบนี้นะคะ หรือเขาจะชอบทำกิจกรรมกันนะ?
แต่แล้วฉันก็พบว่าการที่เอ็นโจเป็นกรรมการงานกีฬาร่วมกันนั้น.. ไม่ทำให้งานคืบหน้าแม้แต่น้อย!! เลิกไปมะรุ้มมะตุ้มเอ็นโจได้แล้วค่ะ งานเยอะขนาดนี้ทุกคนต้องมาช่วยกันสิคะ แต่ตัวฉันที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่หาเรื่องใส่ตัว ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป
แอบมองไปทางนั้นอย่างเคืองๆ เห็นว่าเอ็นโจทำงานของตัวเองดีแต่สาวๆเอาแต่ชวนคุย ถึงแม้เอ็นโจจะบอกให้เด็กผู้หญิงพวกนั้นทำงานแต่พวกเธอก็ทำแค่แป๊ปเดียว ฉันอดหงุดหงิดใจไม่ได้ จริงจังกว่านี้หน่อยสิยะ
งานกีฬาปีนั้นจบลงด้วยการที่ฉันได้รู้ความจริงว่าฉายาจักรพรรดิของคาบุรากิมาจากกีฬาขี่ม้าส่งเมือง
ถึงงานจะจบลงไปแล้วแต่กระแสความเก่งกล้าอันร้อนระอุของ’จักรพรรดิ’ไม่จบตามไปด้วย เพื่อนๆรอบตัวฉันพูดคุยถึงความเหมาะสมของคาบุรากิกับฉายานี้อย่างเซ็งแซ่ และเอาใจช่วยฉัน หือ? อะไรนะคะ?
ทุกคนเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วค่ะ ฉันปฏิเสธออกไป แต่ก็มีคนเข้าใจผิดว่าฉันนั้นหลงใหลในตัวเอ็นโจ นั่นก็ไม่ใช่อีกเหมือนกันค่ะ ไหนๆก็ไหนๆฉันเลยปฏิเสธให้ชัดเจนว่าไม่ได้มีความรู้สึกให้สองคนนั้น กลับกลายเป็นว่าโดนเด็กพวกนี้หาว่าฉันยังเป็นเด็กน้อยอยู่ซะงั้น อะไรกันคะเนี่ย
เมื่อเข้าม.ต้น ฤดูใบไม้ผลิมาเยือนฉัน.. ฉันมีความสุขกับช่วงเวลานั้นได้ไม่นานก็พบว่าคนที่เป็นรักครั้งแรกของฉันมีแฟนอยู่แล้ว
มีเวลาให้เสียใจไม่นานฉันก็ต้องเจอเรื่องน่าปวดหัวเมื่อลูกพี่ลูกน้อง โคโทะ ริรินะ เข้ามาเรียนที่ซุยรัน เด็กคนนั้นก่อเรื่องวุ่นวายให้ตามจัดการ แถมยังทำให้คาบุรากิโมโหด้วย ฉันตัวสั่นขึ้นมาเมื่อนึกว่าสถานะทางสังคมของตัวเองอาจจะตกต่ำลงก็ได้
ในขณะที่กำลังกลุ้มใจพลางกล่าวขอโทษคาบุรากิเรื่องริรินะไปพลาง คาบุรากิก็มีท่าทีว่าไม่ได้โมโหแล้ว เอ๋? ดีจังเลยนะคะ ดีใจได้ไม่นานก็มีคนแจ้งว่าริรินะมารอที่หน้าห้องสโมสร หาาาา
เมื่อออกไปพบริรินะ เจ้าตัวก็งอแงขอให้พาไปขอโทษคาบุรากิ ขณะกำลังยืดยื้อกันอยู่ เอ็นโจก็เดินออกมาจากห้องสโมสร
‘นี่ พอทีเถอะน่า ไม่รู้เหรอว่าถ้าทำให้มาซายะโกรธไปกว่านี้จะเป็นยังไง ไม่รู้เหรอว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอ คุณคิโชวอินน่ะต้องไปก้มหัวปลกๆ ขอโทษคนอื่นแค่ไหน ถ้ารู้คงไม่ทำอะไรหน้าไม่อายอย่างนี้หรอกใช่ไหม ที่เธอไปสร้างศัตรูกับรุ่นพี่ไปทั่วแล้วยังลอยตัวอยู่ได้น่ะเป็นเพราะคุณคิโชวอินไปเที่ยวขอร้องคนอื่นไว้หรอกนะ มาซายะเองก็รู้ถึงได้เงียบไว้มาตลอด แต่นี่มันชักจะเกินไปแล้วนะ’ อุหวา อะไรกันน่ะ เอ็นโจที่ปกติดูยิ้มแย้มอยู่เสมอตอนนี้ดูน่ากลัวชะมัดเลย ริรินะวิ่งหนีไปโดยไม่แม้แต่จะทำความเคารพ ฉันหันไปกล่าวขอโทษที่ทำความวุ่นวายให้เอ็นโจ แต่กลับโดนบอกมาว่า ‘แต่ว่าคุณคิโชวอิน นี่ก็ถือว่าติดหนี้กันครั้งหนึ่งแล้วนะ’ หาาาาาาา ภาพลักษณ์เจ้าชายของเอ็นโจอะไรนั่นความจริงแล้วหมอนั่นก็เป็นแค่จอมเจ้าเล่ห์คนหนึ่งเท่านั้นค่าาา
และแล้วฉันก็ถูกทวงหนี้จากตาเจ้าเล่ห์นั่น… กระเพาะของฉันปวดแปล๊บขึ้นมามานึกภาพความวุ่นวายที่ต้องรับมือ เอ็นโจ ชูสุเกะนี่เป็นคนที่น่ารำคาญจริงๆเลย หาเรื่องให้คนอื่นอยู่ได้
นอกจากจะต้องรับมือกับความวุ่นวายในห้องแล้ว ยังมีเรื่องที่ให้ฉันต้องจัดการ.. ซึรุฮานะ มากิ
พักหลังซึรุฮานะเริ่มจะไม่เห็นฉันอยู่ในสายตามากขึ้น ถ้าปล่อยไปสถานะทางสังคมของฉันต้องตกต่ำลงแน่ๆเลยค่ะ แต่คนใจปลาซิวปลาสร้อยอย่างฉันตอนนี้ทำได้แค่ถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ…
การถ่วงเวลาของฉันจบลงเมื่อไปร้านแฮร์ซาลอนแล้วพบว่าตัวเองมีผมหงอก… อายุแค่สิบห้าปีมีผมหงอกซะแล้ว.. ต้องจัดการเรื่องนี้แล้วสินะคะ
วันนั้นฉันบำรุงตัวเองไปอย่างดี เอาล่ะ เป็นไงเป็นกัน!!
จัดการซึรุฮานะลงได้อย่างสวยงามแต่โดนคาบุรากิที่เดินผ่านมามองด้วยสายตาตำหนิ หาาา อะไรกันน่ะ ตัวเองเป็นคนก่อเรื่องให้คนอื่นตามเช็ดแท้ๆ ฉันที่โมโหจัดเดินมุ่งหน้าไปยังห้องสโมสร ระเบิดอารมณ์ใส่จักรพรรดิอย่างหยุดไม่อยู่ เอ็นโจเข้ามาห้ามไว้ พอเห็นใบหน้ายิ้มๆนั่นฉันก็อดหมั่นไส้จนความรู้สึกโมโหพุ่งพล่านขึ้นมาอีกระลอกไม่ได้ เหวี่ยงใส่เอ็นโจเต็มเหนี่ยว
แต่เมื่อกลับถึงบ้านและอารมณ์เย็นลงแล้วฉันกลับกลายเป็นตัวสั่นระริก หวาดกลัวในสิ่งที่ทำลงไป
วันต่อมา คาบุรากิและเอ็นโจมาขอโทษฉันที่ห้อง คาบุรากินี่เป็นเจ้าบ้าจริงๆนะคะ ขอโทษคนอื่นด้วยการเขกหัว แต่เอ็นโจทำให้ฉันประหลาดใจด้วยการขอโทษฉันอย่างจริงจังแถมยังบอกให้ต่อยเขาได้ด้วย จริงหรือคะนี่!? โอกาสแบบนี้ไม่ได้มาถึงง่ายๆ ฉันต่อยท้องเอ็นโจเข้าเต็มรัก ถือว่าเอาคืนที่ก่อความรำคาญให้ตลอดเวลาที่ผ่านมานะคะ โฮะโฮะโฮะ
เวลาหลังจากนั้นผ่านไปอย่างเรียบง่าย ฉันได้ไปพักร้อนกับเพื่อนที่คารุอิซาวะ แต่หัวเรื่องที่คุยดันกลายมาเป็นเรื่องคาบุรากิกับเอ็นโจซะได้ หวา.. พวกคนป็อปปูล่าร์นี่น่ารำคาญจริงๆเลย แต่ไหงอยู่ๆกลายมาเป็นเรื่องคาบุรากิกับฉันได้ล่ะคะ!? ฉันละความสนใจจากขนมหันมาตอบปฏิเสธไปอย่างหนักแน่นก็กลายมาเป็นฉันกับเอ็นโจ นั่นก็ไม่ใช่เหมือนกันค่ะ คนน่ารำคาญ ชอบหาเรื่องวุ่นวายมาให้แบบนั้นใครจะไปชอบลงคะ ก่อนที่จะได้กล่าวปฏิเสธไปก็มีคนเอาเรื่องที่ฉันได้บัตรเชิญจากบ้านคาบุรากิมาพูด ไม่มีโอกาสให้ปฏิเสธเรื่องเอ็นโจ ฉันกลับไปปฏิเสธเรื่องคาบุรากิอีกครั้ง ยังไงสิ่งที่ต้องทำให้ชัดเจนคือตัวฉันนั้นไม่มีความรู้สึกใดๆให้จักรพรรดิของทุกคนทั้งนั้นแหละค่ะ ส่วนเอ็นโจ.. เอาไว้ก่อนก็ได้มั้ง ยังไงถ้าไม่ไปทำให้คาบุรากิขุ่นเคืองใจ เอ็นโจก็คงไม่เป็นศัตรูกับฉันหรอก
และแล้วก็มีอีเว้นท์ครั้งใหญ่มาสั่นสะเทือนซุยรัน จักรพรรดิผู้ครองตำแหน่งท็อปในการสอบเสมอกลับไม่ติดอันดับ!? แถมยังหายตัวไปอีกด้วย!!?
พูดกันตามตรงฉันก็แอบสนใจอยู่นะคะแต่ไม่กล้าแสดงออก ประสบการณ์ในวันวานสอนให้ฉันรู้ว่าไม่เข้าไปยุ่งจะดีที่สุด
ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่เอ็นโจก็หาเรื่องมาให้ฉันจนได้ มาเล่าให้ฟังนิดๆหน่อยๆ แล้วมาข่มขู่ว่า ‘ถ้าไปเล่าอะไรให้ฟังเจออะไรน่ากลัวแน่’ หา แล้วจะมาทำให้อยากรู้มากกว่าเดิมทำไมยะ น่าหงุดหงิดจริงๆ
แต่สีหน้าของเอ็นโจดูเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด จะไหวมั้ยนะ…?
วันเวลาในซุยรันของฉันกลับมาสดใสอีกครั้งเมื่อได้พบกับเทวดาน้อย แต่ปัญหามีอยู่แค่อย่างเดียว.. เทวดาน้อยคนนี้เป็นน้องชายแท้ๆของเอ็นโจ ชูสุเกะล่ะค่ะ
ความตั้งใจที่จะไม่พาตัวเองไปใกล้ชิดสองคนนั้นมากเกินไปพังทลายอย่างไม่มีชิ้นดี แหม ถ้าเป็นแค่คุณน้องชายก็พอไหวอะนะ ฉันหาข้อแก้ต่างให้ตัวเองแล้วปล่อยใจระเริงไปกับความน่ารักของยูกิโนะคุง อา~~ น่ารักจังเลยน้าาา อยากจับมาฟัดจังเล้ยยยยย
พอรู้ตัวอีกทีก็คุยเรื่องยูกิโนะคุงกับเอ็นโจอย่างไหลลื่นแล้วล่ะ เอ๋ ยังไงกันนะ
ห้ามลืมสิว่าถ้าไปยุ่งกับเอ็นโจและคาบุรากิมากไปอาจจะเจอเรื่องเจ็บปวดภายหลังก็ได้นะ ต้องทำเฉยๆเข้าไว้ ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ..
แล้วคนจอมเจ้าเล่ห์นั่นก็หาเรื่องเดือดร้อนมาให้ฉันอีกแล้วล่ะค่ะ บนโลกนี้ก็มีผ้าขนหนูตั้งเยอะ ทำไมต้องมาใช้ยี่ห้อเดียวกันด้วยนะคะ น่าปวดใจจริงๆที่พอจะปฏิเสธก็ถูกกลบด้วยเสียงกรี๊ดกร๊าด ฟังกันบ้างสิคะ!
โชคดีที่ข่าวลือนี่อยู่ไม่นานเพราะสาวๆหันไปใช้ผ้าขนหนูเข้าคู่กับเอ็นโจและคาบุรากิกันหมด
พอไปเลียบๆเคียงๆถามยูกิโนะเรื่องเอ็นโจใช้ผ้าขนหนูยี่ห้อผืนเดียวกัน ก็ได้คำตอบมาว่า ยูกิโนะคุงซื้อให้พี่ชายใช้เอง.. อ้าว.. แหม งั้นก็ไม่เป็นไรหรอกเนอะ ขนาดฉันเจอของดีๆยังอยากให้ท่านพี่ได้ใช้ด้วยเลย
คดีเก่ายังไม่ทันหายก็มีคดีใหม่มาอีกแล้วค่ะ ตาไก่โง่มาโหวกเหวกโวยวายใส่ฉันว่าเด็กผู้หญิงม.ต้นลือกันว่าฉันกับเอ็นโจสนิทกันดี หา ใครไปสนิทด้วยตอนไหนคะ กับคนที่ชอบหาเรื่องวุ่นวายมาให้แบบนั้นใครจะอยากไปสนิทด้วย
นอกจากนั้นยังต้องมาเจอไมฮามะพูดจาน่าขนลุกว่าฉันไปเล่นหูเล่นตากับเอ็นโจอีก ช่างจินตนาการกันเหลือเกินนะคะ บอกไปคงไม่มีใครเชื่อสินะคะว่าเอ็นโจ ชูสุเกะน่ะน่ารำคาญที่หนึ่งในโลกเลย
งานเทศกาลโรงเรียนคราวนี้กระหึ่มไปด้วยเรื่องของจักรพรรดิผู้ไม่ทานขนมทำมือแต่กลับทานคุ้กกี้ที่วาคาบะจังทำแถมยังชมว่าอร่อยดีนี่ด้วย เด็กผู้หญิงคนอื่นนึกว่าคาบุรากิทานขนมทำมือแล้วแต่พอเอาไปให้คาบุรากิก็ตอบกลับมาว่าฉันไม่ทานของทำมือเหมือนเดิม แต่ดันทานคุ้กกี้ของวาคาบะจังนี่นะ เหตุการณ์นี้ทำให้วาคาบะจังโดนสุมเพลิงไฟริษยามากกว่าเดิมอีก
อ๊ะ แต่ก็มีอีกเรื่องหนึ่งด้วยนะคะคือเอ้นโจทำลาเต้อาร์ทให้ฉัน ก่อเรื่องวุ่นวายให้อีกแล้วนะคะ น่ารำคาญจริงๆ ใต้ความอ่อนโยนนั่นมีแต่ความเจ้าเล่ห์ล้วนๆนะคะทุกคน หมอนั่นก็แค่อยากใช้ฉันเป็นข่าวกลบเรื่องของเพื่อนตัวเองเท่านั้นแหละ
ความจริงลาเต้อาร์ทแก้วนั้นก็น่ารักดีนะคะ ฉันก็อยากชื่นชมความน่ารักนานกว่านั้นสักหน่อยถ้าไม่ติดว่าหมั่นไส้คนทำเลยคนจนเละแทบทันทีที่ได้มา
งานโรงเรียนวันที่สอง เปิดให้คนนอกเข้าชมได้ พวกอุเมวากะคุงก็มาวันนี้แหละค่ะ
พอเจอกันพวกคุณโมริยามะก็เล่าให้ฟังว่าเจอบาริสต้าสุดหล่ออย่างกับเจ้าชาย.. เหอะ คงจะเป็นเอ็นโจอย่างไม่ต้องสงสัย ป๊อปเหลือเกินนะคะ ฉันชักจะหมั่นไส้ เมื่อคุณโมริยามะถามว่ารู้จักหรือเปล่าเลยตอบไปว่าเป็นแค่คนเคยเห็นหน้า แหม ขืนตอบว่ารู้จัก อาจจะโดนรบกวนอะไรหลายๆอย่างก็ได้ ไม่ล่ะค่ะ ตัวฉันที่รักสงบไม่ขอหาเรื่องวุ่นวายมาใส่ตัวเด็ดขาด
แล้วคาเฟ่สูฝูก็คึกคักขึ้นมาเมื่อคาบุรากิและเอ็นโจปรากฏตัว เอ่อ.. ต้องขอบคุณสองคนนี้สินะคะ เมื่อเห็นยูกิโนะคุงโผล่ออกมาจากด้านหลังเอ็นโจ ฉันก็เปลี่ยนโหมดเป็นเรย์กะผู้คึกคัก ทักทายยูกิโนะอย่างแจ่มใส
ฮืม.. เมื่อวานก็ได้ลาเต้อาร์ทมาฟรีๆด้วย งั้นแถมขนมเปี๊ยะให้ด้วยแล้วกันเนอะ
พอทั้งสามดื่มชาเสร็จก็จะกลับ ฉันเลยเดินไปส่งจนถึงทางเดิน คาบุรากิขอตัวกลับไปก่อนเพราะมีงานเลี้ยงปิดงานของห้อง ฉันยืนคุยกับยูกิโนะเพลินจนลืมว่าจริงๆจะแค่ออกมาส่ง เอ็นโจก็ยืนยิ้มๆมองพวกเราคุยกันอยู่ หืม~ พอมีน้องอยู่ด้วยแล้วเอ็นโจดูจะอารมณ์ดีกว่าปกติแฮะ ดีจังน้า~
แล้วก็มีเสียงเรียก
‘ชู’ ………….ชู?
พอหันไปมองก็เห็นตาไก่โง่ยืนอยู่กับผู้หญิงผมดำยาวประบ่าร่างอ้อนแอ้น ใครน่ะ? เอ็นโจสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกนั้นแล้วเดินเข้าไปหา ชื่อ ยุยโกะ งั้นเหรอ.. ยูกิโนะบีบมือฉันแน่น อื๋อ? ยูกิโนะคุง?
เอ็นโจกับคุณยุยโกะเปล่งประกายรังสีความสนิทสนมอย่างเห็นได้ชัด
‘แค่ลาเต้อาร์ทไม่เห็นต้องมาถึงงานโรงเรียน ที่่บ้านก็วาดอะไรที่ยุยโกะชอบให้ได้หมดทุกอย่างเลยนะ’ หา อะไรกันน่ะ?
‘ถ้าชูไม่อยู่ก็ไม่สนุกน่ะสิ’ อะไรล่ะนั่น…
ยูกิโนะกับเอ็นโจมาลาฉัน ฉันมองเหม่อตามคุณยุยโกะที่เดินคล้องแขนเอ็นโจอย่างเป็นธรรมชาติจากไปอย่างเงียบๆ ตาไก่โง่มากระซิบข้างหูฉันว่า ‘คุณยุยโกะน่ะเป็นคนรักของคุณเอ็นโจนะ’
คนรัก…………….? คนแบบเอ็นโจก็มีคนรักแล้ว? อะไรกันน่ะ ฮะๆ ไม่เห็นรู้มาก่อนเลย
ฉันรู้สึกเหมือนโดนสายฟ้าฟาดใส่ พวกอุเมวากะคุงกลับมาพอดี ขอถ่ายรูปฉันในชุดจีนกันใหญ่ ฉันที่ไม่มีกะจิตกะใจจะมาปฏิเสธอะไรแล้วปล่อยให้ถ่ายไปเรื่อยๆ
คนรัก? คนรัก? อะไรกัน บ้าน่า….
บ้าจริง… ทั้งๆที่รักษาระยะห่างก็แล้ว ไม่เข้าใกล้มากเกินจำเป็นก็แล้ว ทำไมยังเจ็บอยู่อีกนะ? ทำไมกัน..
เป็นแค่คนที่น่ารำคาญคนหนึ่งแท้ๆ…
------------------------------------------------
ขอตั้งชื่อฟิคนี้ว่า ~ความรักเล็กๆข้างเดียว~ กว่าจะจบหมดกาวไปเยอะมากแต่เมื่อวานได้กาวถังใหญ่เลยมีแรงปั่น 5555
ปล. นี่จบแล้วนะ ไม่มีตอนต่อ พูดตรงๆคือกูไม่รู้จะแต่งต่อยังไง 5555
หวังว่าจะไม่ยาวไปเน้ออ ถ้ามันยาวไปก็ขอโทษด้วย ;ww;)
>>222 แต่ก่อนพวกเราก็เป็นคนใสๆน่ารักแบบนั้นแล //เหม่อมองท้องฟ้านึกถึงอดีตมู้แรกๆที่ผ่านมา
ตอนนี้น่ะเรอะ.... เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน จากเคยชื่นชมองค์ชายก็มาแซะแทน จากปกติโชโจวอื่นๆฉากหวานๆอะไรกูก็ไม่สะเทือนแท้ๆ แต่พอมาท่านเรย์กะกูแห้งเหือดมากๆ ตอนนี้แค่คุยกับใครที่กูโยนชิ้นส่วนร่างกายไปอยู่บนเรือกูนับเป็นโมเมนต์หมดเลย โคตรกระหาย55555
จากใจกูนะ ฟิคที่ตราตรึงที่สุดในโม่งซุยรันก็ฟิคบ้านพักคนชราเนี่ยแหละ บรรยายทีภาพมาเป็นฉากๆเลย โคตรประทับใจ555555555
กูประทับใจมะหมาสุดละ โคตรสร้างสรรค์
แถมมาในวันวาเลนไทน์ สัส
>>220 ไม่น๊าาาา จบแค่นี้ก็รักเค้าข้างเดียวต่างคนต่างแห้งเหี่ยวเหมือนของจริงน่ะสิ อะฮึก....
เอาวะ กูจะอดทนรอวันที่ฟ้าประทานความหวังครั้งใหม่ หยอดมานิดๆ หน่อยๆ แค่ไหนกูก็จะเอาไปกาวให้รุ่งโรจน์ละวะ
ป.ลิง กูโคตรชอบมะหมา แต่บ้านพักคนชราก็ทำแดเมจจิตใจสาวน้อยใสซื่อของกู (ณ ตอนนั้น) หนักมากๆ
กูย้อนไปอ่านตั้งตะต้นๆ สมัยที่ยังกรี๊ดกร๊าดกับหิ่งห้อย ผ้าขนหนู ลาเต้อาร์ท 12 นักษัตร (?) ละก็คิดได้ว่านี่มันอาจเป็นแผนการแยบยลขั้นสุดของท่านฮิโยโกะที่ปล่อยตัวละครโปรไฟล์โคตรดีอย่างคาบุ เอ็นโจ ท่านอิมาริ ฯลฯ ออกมามากมาย ให้พวกเราได้กรี๊ดและเห็นความหวัง จากนั้นก็หย่อนระเบิดร่วงลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนเหล่าลูกเรือซมซาน ต้องหันมาสยบให้คานซัง ไม่ว่าจะมีโมเมนต์โดคิๆ ออกมาแค่ไหนทุกคนก็ได้แต่มองตาปรอย เพราะยังหวาดระแวงเงาอันยิ่งใหญ่ของคานซังที่ทาบทับเรือทุกลำ 555555
>>215-220 โถ ชูสุเกะคลุงงงงงง เขาว่ากันว่ารักแท้ไม่เอื้อนเอ่ย แต่ถ้าไม่บอกไม่พูดไม่กล่าว แล้วเขาจะรู้ว่ารักรึเปล่า อาจจะไม่แน่ใจ อยากให้เขารู้ เธอคงต้องแสดงออก ไม่ใช่ให้ใครเขาบอก หรือว่าให้เขาเดาเอง//มาเป็นเพลงเลยเว้ยกู 55555555555555555
>>229 คานซังก็หนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีนะ คงดีพร้อมไปทุกอย่างยิ่งกว่าคนที่มึงยกตัวอย่างมาอีก ไม่งั้นท่านเรย์กะไม่คบมายาวๆขนาดนี้หรอก ถึงจะชอบบ่นนั่นบ่นนี่แต่เอาจริงๆก็รักคานซังจะตาย ไม่เคยเหลียวแลคนอื่น รักเดียวใจเดียวขนาดนั้น จะให้กูจับคู่ท่านเรย์กะกับคนอื่นก็ออกจะใจร้ายเกินไปหน่อยแล้ว
ขอมาแทรกไอกาวสักครู่ กูกลับไปอ่านตอนของท่านพี่กับท่านอิมาริสมัยตอนต้นๆ นู้นมา กูได้ลองจินตนาการดูแล้วก็ค้นพบว่า
ถ้าท่านเรย์กะงามแบบตุ๊กตาฝรั่งเศสโบราณ หน้าท่านพี่ที่อิมาริบรรยายว่าเป็นรูปสลักโบราณนี่ไม่รูปปั้นกรีกก็รูปปั้นจิโซล่ะมั้งนะ.... หรือพระพุทธรูปวะ หน้ายิ้มๆ
ขอ ky หน่อย พอดีในทวิตกูมีรูปนี้รีทวิตมา ที่จริงเป็นตัวละครจาก tsukiuta แต่เห็นว่าเหมาะดี กูเลยลองเอามาจิ้นเป็นอิมเมจตัวละครเล่นๆ
https://twitter.com/tsukiuta1/status/911558123831181312
เรียงจากซ้ายไปขวานะ.... ยูกิโนะ ซาโตมิ ท่านพี่ อิมาริ เอ็นโจ คาบุ ทีแรกกูว่าจะให้คนที่สองเป็นอาริมะแต่แม่งไม่เหมาะกับพวกพรรคมารเลยเขี่ยออก แล้วจิ้นเป็นหน้าซาโตมิแทน หรือจะจิ้นเป็นรุ่นพี่โทโมเอะดีวะ 55555555555555
>>233 พอมึงพูดว่ายิ้มแบบรูปปั้นกรีกละกูนึกถึงอันนี้
....ท่านพี่คะะะะะะะ55555555555555555
https://imgur.com/QDHUDq7
ท่านพี่โดนซะแล้ว555
เอาแค่พอขำๆนะคะทุกท่าน อย่าให้คาร์ท่านพี่เปลี่ยนเลย เดี๋ยวจะเหมือนครั้งกอล์ฟมา์คเกอร์ของเอ็นโจผู้เคยคูล(แต่ตอนนี้เป็นแค่ไอ้ไก่อ่อน...)
>>241 Prove it!!!!
ปล. ลองเขี่ยๆ แฟนอาร์ทตอนประชุมอยู่ดู "สามผู้ยิ่งใหญ่ไปรเวท xxx & เรย์กะ & บากะ"
เรย์กะดูฮิปฯ พอรึบัง?
https://imgur.com/eNeS6sZ
...ก็มันประชุมเสร็จเร็วอ่ะ
ky พูดถึงฟิคมะหมาแล้วก็นึกถึงไซซายะแฮะ เอาไปเอาหมาก็ไม่ต่างจากจัวจริงเท่าไรเลย 555
โม่งฟิคมะหมาสนใจส่งกาวขำขันให้เพื่อนๆมั้ยเอย
>>257 แถวบ้านกูจะมีบ้านนึงที่เลี้ยงทั้งไซบีเรียนทั้งซามอยด์ด้วยกัน กูล่ะอยากถลาเข้าไปกอด ไซบีเรียนก็หล่อมาก ซามอยด์ดูนู่มมมมมมเหลือเกิน กูผ่านบ้านนี้ทีไรกูจะแอบเรียกหมาเขาในใจว่าไซซายะกับชูสุมอยทุกที แล้วก็ยืนมองหมาสองตัวนี้เล่นกัน จิ้นเป็นไซซายะกับชูสุมอยทำนั่นทำนี่ด้วยกัน โครตน่ารัก 555555555555555
>>261 ตะ...แต่กระทู้แรกเอ็นโจยังเป็นเจ้าชายอยู่เลยนะมึง...
เหม่อมองท้องฟ้าอันมืดครึ้ม เรือก็แตกแล้ว...น้ำจะท่วมมั้ยวะเนี่ย
>>251 กลัวแล้ว อย่าทำเลย วาดให้ใหม่แล้ว ให้มึงโดยเฉพาะเลย เอ้าแปะ
https://imgur.com/OKamIm4
.
.
.
.
.
.
.
>>247 ไม่รู้จะถูกโฉลกมึงมั้ยนะ แต่ revise ให้แล้ว
https://imgur.com/ufMV3Xf
>>263 "สัส........มุงเฬวมั่ก"
http://forgifs.com/gallery/d/264764-2/Sleeping-leg-hair-waxing-prank.gif
...ตั้งแต่ตอนโม่งแปลแล้ว...พวกมึงเป็นอะไรกับขนหน้าแข้งกันหา
อนึ่ง ช่วงหลังๆ แม่งกาวกันหนักขนาดคนที่ใน อฟช. ไม่เคยเจอกันยังเอามามีโมเมนท์กันได้อ่ะคิดดู
Ky แป้บ วันนี้กูไปขุดมู้เก่าๆ มาอ่านเพิ่มความหอมกาว แล้วเสือกอยากอ่านฟิคที่ค้างๆ กันเอาไว้ต่อ โม่งฟิคคคคค กลับมาาาาา เบบี้คัมแบคทูมี~~~
จริงๆมีช่วงนึงกุไม่ค่อยอยากเข้าโม่งเพราะว่าจะมีโม่งคนนึงลิสต์รายชื่ออาหารกับขนมในตอนพร้อมกับลิงค์รูปภาพช่วงเย็นๆดึกๆ ตอนนั้นกุด่าโม่งคนนั้นในใจว่าจิตใจมึงทำด้วยอะไร ทำด้วยวุ้นมิราเคิลใช่มั้ย /จ้วงมาม่ารัวๆ
แมวดุ้นล่มอ่าาาาา ถ้ายังไม่กลับมาก่อนแปดโมงเจอกันอีกทีเที่ยงๆ เย็นๆ นะพวกตัวเธออออ //โม่งแปล
เข้าเว็บไม่ได้ เว็บล่มเรอะ!
คงไม่ใช่ว่าจอมมารพิโรธจากรูปบนๆนั่นนะ....
โอ้วววว อาถรรพ์ชิบ
แหงกๆ กูก็รีเฟรชไปสิ.... ตั้งแต่หกครึ่ง
ทางนี้ก็นักเรียนค่าาา
ปล.มีลูกแคแสดหลงมาบ้างไหม??
ลงได้แล้วววว รอรีเฟรชขึ้นหน่อยนะพวกตัวเธอ
โม่งแปลสุดเลิฟฟฟฟ. พิงศีรษะแนบอก
ตอนนี้เอ็นโจทำคะแนนเงียบๆๆ ไม่หวือหวาแต่ได้ผลชงัด
วันนี้เจ้าแม่ใจกล้าเป็นพิเศษนะ ด่าคาบุตรงๆด้วย!!!
เอ็นโจ!!!! กุภูมิใจมากที่ไม่ระเบิดเรือฆ่าตัวตายเหมือนตอนอื่น แถมทำคะแนนได้อีก อุกรี๊ด
ลืมไป ถึงขนาดเห็นแสงเฮ้ากวงเรืองรองนี่แสดงว่าทำคะแนนได้พรวดพราดเลยนะเว้ย แค่หมั่นปรนเปรอด้วยอาหารกะไม่ระเบิดเรือตัวเองทิ้งบ่อยๆ ก็ไปได้สวยแล้วแท้ๆ...
เอ็นโจเริ่มรู้ทางแระ. 5555. เจ้าแม่ต้องถวายของกินเช่นนี้แหล่ะ.
ว่าแต่คาบุกับเรยกะนี่ถือว่าสนิทกันมากแล้วนะ ด่ากันไปกินกันไปได้ขนาดนี้
ว่าแต่ว่า เรย์กะกินเท่ากับคาบุเลยนะ แถมได้เพิ่มจากเอ็นโจอีก น้ำหนักล่ะท่านเรย์กะ น้ำหนักจะขึ้นอีกใช่ไม๊
หลังจากทัวร์บริโภค อีกไม่เกิน 5 ตอนก็คงเข้าสู่ฉากออกกำลังกาย เข้าคอร์สลดน้ำหนัก สินะ สินะ สินะ
ตอนนี้นี่ให้ความรู้สึกประมาณ สนิทกันดีจังน้าา~~~ จังเลย
ขอบคุณโม่งแผลนะ //หวีขนหน้าแข้งให้
ความเอ็นโจมาทำคะแนนเงียบๆ 555 จังหวะเจ้าแม่ขึ้น เอ็นโจก็ยอมอ่อนข้อให้อย่างง่ายดาย ดีกว่าให้คาบุและเรย์กะทะเลาะกัน/ตัวกินทั้งคู่/ 555 จะว่าไปคาบุกับเรย์กะนี่รักการกินเหมือนกันขนาดนี้ ต่อไปจะมีการจัดทัวร์กินไม่ยั้งยาวๆรึเปล่า รีวิวบล็อกอาหารสองคู่หูดูโอ้ กับเอ็นโจแขกรับเชิญที่โผผล่แวบไปแวบมา อุอิ
กูยังเข้าไม่ได้เลยอ่าาาาา Orz
ขอบคุณโม่งแปล ไอ้คนใช้อำนาจเบ็ดเสร็จนั่นมันเจ้าแม่แล้ว ไอ้ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์คิโชวอินอ่ะ
เข้าได้ละ แต่อืดชิบหาย
เรื่องของกินเจ้าแม่ไม่ยอมใครทั้งนั้นเลยวุ้ย เอ็นโจวันนี้ทำดีมาก ยอมอ่อนข้อให้ แบ่งอาหารให้ รู้ใจเธอไปหมดทุกอย่าง กูล่ะเป็นปลื้มมม แถมดูท่าทางเอ็นโจจะทำอาหารเก่งด้วยนะ สมเป็นร่างแยกท่านพี่จริงๆ สกิลงานครัวก็มา
เอ็นโจ กู๊ดจ๊อบ!!
อื้อตอนนี้อ่ะนะนอกจากเรือเอ็นโจจะแล่นโดยไม่พังเรือตัวเองแล้ว ผู้ชายตัวอย่างก็เป็นคันตะคุง เพราะทำขนมให้เจ้าแม่ทาน ฮา//เอาไม้พายจ้วงเข้าตัวข้า
ดูตอนนี้แล้วก็นึกสงสัย ทำไมถึงทำอาหารได้โดยไม่ล่ม ปกติมีสกิลทำอาหารแดกไม่ลงนี่หว่า
กูละปลาบปลื้มกับตอนนี้มาก อ่านแล้วคิดถึงตอนที่น้องมาโอะกับยูริคุงไปกินข้าวด้วยกันแล้วน้องมาโอะลังเลว่าจะสั่งของหวานอะไร ยูริคุงก็บอกสั่งมาสองอย่างก็ได้แล้วแบ่งกันทาน ท่านเรย์กะยังดูๆ แล้วเห็นว่าน่าร้ากกกกกกอยู่เลย ให้คนที่ตัวเองชอบได้กินของที่อยากทาน ทีงี้ทำไมไม่สำเหนียกบ้างละค้า เจ้าแม่ เขาชอบคุณน่ะแหละค่าาาาาาาาาา
>>309 กูก็ปลื้ม ฮรืออออออออออ อีเอ็นโจมันไม่หักธง ไม่ระเบิดเรือ แถมกวาดคะแนนได้รัวๆ โอ๊ยยยยย น้ำตาแห่งความยินดีกูจะไหล กูมีแรงและพลังเขียนเอ็นโจ side story ต่อแย้วววว ทำดีมากเลยลูก กู๊ดดดดดดดดดดด แถมดูท่าทางตอนนี้ เอ็นโจนี่ท่าทางจะทำอาหารเก่งนี่หว่า ดีล่ะ กูมีวัตถุดิบกาวเพิ่มไปใส่ในฟิคอื่นด้วย
ขอบคุณโม่งแปลมาก กูรักมึงงงงงงงงงงง งานการไม่ทำนั่งผลิตกาวแล้วว้อยยย 555555555555
เอ็นโจวววว ทำไมอยู่ๆก็รู้งาน
แต่ตอนนี้เจ้าแม่บ่นหนักจริงๆ อะไรที่ปกติอยู่ในใจ ไหงพูดหมดเลยล่ะแม่
เมื่อก่อนคาบุยังบอกเจ้าแม่ให้แบ่งของกินให้ เดี๋ยวนี้ทำตัวเป็นทรราช แย่งของกินในจานเจ้าแม่ต่อหน้าต่อตาเลยเว้ย เอาพัดฟาดปากสักสองทีดีมั้ยคะเจ้าแม่//น้วยเรย์ทัน
ตอนนี้กูหิวโอโคโนมิยากิมากๆ ถ้ามีมีตติ้งโม่งซุยรัน กูเสนอให้ไปร้านโอโคโนมิยากิกันเถอะ อยากกิน
ปรนเปรอเจ้าแม่ด้วยอาหาร เอนโจฉลาดมาก
มารู้ทีหลังว่ามันใส่น้ำมันใจไข่เจียวแล้วเอาไปทอดพร้อมกัน กับน้ำปลาอีกครึ่งขวด กูเจ็บปวดมาก
กูหนักสุดเลยมั้ง เคยทอดไข่เจียวกับอิชิตันเพราะนึกว่ามันเป็นน้ำมัน แดกไม่ล่าย
เซนส์ทำอาหารของพวกมึงนี่แม่ง........
กูคิดว่าถ้าจะมีทติ้งจริงๆ ก็ขอเป็นที่ร้านนะ หลีกเลี่ยงการนำอาหารทำเองมารับประทานร่วมกัน...
กุก็ชอบทำอาหารนะ แต่แบบ กูทำมากูกินได้คนเดียวอ่ะ ไม่ยอมมีใครกินกับกูเลย
ปล.โจ๊กใส่ฟันโอกับข้าวผัดใส่นมช็อคโกแลตไม่อร่อยนะ อย่าลองทำตาม
ทำแกงแคกินกับเพื่อนที่หอ ฝากมันดูหม้อใว้ว่าถ้าเดือดให้ใส่กะปิไปอีกนิด
ล่อน้ำพริกตาแดงกูไปสองช้อน.....เย็ดแม่
เดี๋ยวกูไม่ได้เข้าโม่งแค่สามวัน อ่านที่พสกมึงคุยกันกูถึงกับต้องย้อนไปดูชื่อห้องใหม่ //จริงๆกูเกือบผสมโรงไปว่ากล้วยจิ้มแม็กกี้อร่อยนะมึง...
กูทำอาหารได้ ทำได้ดีด้วย แต่มือหนักไปหน่อยรสชาติเลยมักจะเป็นอะไรที่กู(ต้องทำใจ)กินคนเดียว......
แต่กูต้มมาม่าอร่อยมาก เวลาที่กูต้มมาม่าทุกคนจะชมว่าอร่อย เส้นที่กูต้มอร่อยกำลังดี น้ำก็กำลังพอดี ปกติคนที่กินมาม่าสองซองขึ้นไปมักจะต้มเป็นรสเดียวกัน แต่กูชอบเอารสนั้นรสนี้มาผสมกัน อย่างมาม่ารสต้มยำกุ้งน้ำข้นกับแกงเขียวหวานผสมกันแล้วนัวมากกก กินร้อนๆตอนอากาศเย็นๆโคตรฟิน มาม่าต้มยำกุ้ง+ควิกต้มโคล้ง+ยำยำหมูสับต้มยำหรือนิชชินรสหมูสับต้มยำก็รสถึงเครื่องแซ่บสะใจมากกก
พวกมึงจะแข่งสกิลทำอาหารแบบหลุดโลกกับเจ้าแม่เหรอ กูว่าถ้ากูได้ทำอาหารกับพวกมึงกูต้องกลายร่างเป็นน้องคันตะแน่ๆ "ขอปฏิเสธ!!"กันรัวๆ
แต่กูก็เคยลองทำพวกอะไรแปลกๆแบบข้าวหุงโคล่าหรือมาม่าต้มกับแฟนต้าน้ำแดงนะ ผลการทดลองก็.....อืมมมมม อะไรที่มนุษย์ปกติเขาทำกันเราก็ควรทำต่อไป ไม่ควรไปขัดจารีตนิยมอะไรแบบนั้นเลย
เออ พูดแล้วนึกได้ เมื่อวานดูรายการญี่ปุ่นมา เชฟญี่ปุ่นเอาราเม็งสำเร็จรูปมาทำแบบฝรั่งเศส เวลาทำครีมซอสแม่งก็เอาไอติมวานิลาแท่งผัดแทนตะหลิวจนหมด 555
ตอนกูอยู่จีนเจอ "ไอติมพริก" ด้วยเว้ย แถมเคลมอย่างดีว่าอิมพอร์ตจากไทย พอกูตีเนียนถาม (หน้ากูจี๊นจีน) เจ้าของร้านยังยืนยันว่ามาจากไทยแท้ๆ
ไท่กั๋วเหมยโหย่วว้อยยยยยยยยยยยย
ขอขัดจังหวะทำอาหาร คือดิเทคุงมีทรงผมแบบวีนัสหรอกเหรอ กูจินตนาการหมอนี่เป็นผมทรงแอฟโฟร่มาตั้งนาน....
เออใช่ นึกออกอีกอย่าง ตอนนั้นกูว่าจะทำกะเพรา แต่เหมือนว่าง่วงๆ เลยหยิบผงโลโบ้พะโล้มาผัดซะงั้น ผัดแบบกะเพราปกติเลยอะ แล้วกูเสือกเติมพริก เติมซีอิ๊วเพิ่มเข้าไปอีก....
เป็นมื้อที่เหี้ยที่สุดในชีวิตกูรองจากแดกงูเลยเว้ย
กระทู้นี้แม่งน่ากลัวขึ้นทุกที ที่ผ่านมาพวกมึงไม่ได้เมากาวหรอก เป็นอาหารที่แดกกันเข้าไปเนี่ยแหละ....
กูอยากบอกว่ากูเคนเอาไข่ ซอสมะเขือเทศ มายองเนส ซีอิ๊วและอื่นๆจำไม่ได้ มาคนเข้าด้วยกันแล้วเอาไปทำเป็นไข่เจียว กินไปก็แปลกๆดี แต่วันต่อมานี้แหละกูปวดหัวโคตรๆ
หลังจากนั้นกูจำเลยว่าทำอาหานปกติเหอะ
กุเคยต้มมาม่าครั้งนึงแล้วก็กลับไปเล่นเกมต่อ กุไม่รู้ว่าต้องรอให้น้ำเดือดแค่ไหนเพราะปกติกูจะใช้วิธีเวฟเอามาตลอด พอกูกลับมาน้ำในหม้อแห้งเหือดเหลือแต่มาม่าที่ซึมซับผงชูรสเต็มเปี่ยม กูเลยปฏิญาณต่อจากนั้นว่ากูควรเวฟมาม่าต่อไป ไม่ก็ซื้อกินเอาเถอะ
พอเข้ามาอ่านที่คุย ๆ กันอยู่ กูต้องย้อนกลับไปดูเลยว่าไม่ได้เข้ากระทู้ผิด ฮัลโหล นี่ยังเป็นวงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันอยู่ใช่ไหม ?
ของกูแค่หยิบน้ำตาลจะใส่ชาผิดเป็นหยิบพริกป่นแค่นั้นเอง ไม่น่าหยิบพวงพริกมาใช้ตอนชงชาจริง ๆ นั่นแหละ
ของกุ กุชอบกิน หมูหยอง+หมูหนำเลี๊ยบ+ไข่ตุ๋น+ข้าวต้ม มากกก กินทีไรโดนคนที่บ้านทักทั้งปีว่าอย่างกับข้าวหมา
มันอร่อยมากนะมึง มีรสหวานของหมูหยอง รสเค็มหมูหน่ำเลี๊ยบ ไข่ตุ๋นช่วยให้รสนัวๆขึ้น :P
เอิ่ม ;-; โม่งแต่ละตัวเอ้ย.. นี่คือสาเหตุที่ความกาวของพวกมึงมีมากมายขนาดนี้สินะ!!
ของกุค่อนข้างเป็นคนมีสติอยู่กับตัวบ่อยๆ เพราะงั้นเรื่องทำกับข้าวอย่างพวกของง่ายๆ ไข่เจียว หมูทอด มาม่า
กุก็ทำได้สบายมาก แถมพอทำก็มีแต่คนชมว่าอร่อยนะมึง
กูอ่านแล้วรู้สึกว่าพวกมึงไม่มีสิทธิไปตำหนิท่านเรยฺกะเรื่องแกงกระหรี่มิราเคิลพุดดิ้งเลยว่ะ พอกันชัดๆ...
อ่านตอนนี้แล้วทำไมรู้สึกสยองแปลกๆ เหมือนว่าตอนหน้าเรือที่กำลังฉิวจะสะดุดภูเขาคาน ล่มลงเลยวะ แง้ นี่คือคิดมากไปเองป่าววะ...หรือกูชินกับลูปการมีโมเม้นแล้วล่มวนไปวนมาแบบนี้ของท่านเรย์กะมากเกินไป ยิ่งตอนท้ายยิ่งไม่น่าไว้วางใจ สองคนนั้นวางแผนอะไรไว้น่ะ! ไม่น่าไว้วางใจ //กดปุ่มโทรหาคานซัง ช่วยท่านเรย์กะด้วยค่ะ~
ปล.ท่านเรย์กะบ่นเยอะมากเลยตอนนี้ ดูอยู่ในที่สามัญชนแล้วรู้สึกว่านางดูจะกล้าข่มคนอื่นขึ้นเป็นเท่าตัว55555 ทีเวลาอยู่ในสโมนี่คือค่อนข้างจะขี้กลัว เหมือนเป็นที่ๆท่านเรย์กะคิดว่าตัวเองปลอดภัยที่สุดคือท่ามกลางสมช.อะ
ไม่แปลกว่าทำไมจะชอบวาคาบะจังมากๆ เป็นคนที่ให้ความรู้สึกว่าผ่อนคลายได้แบบไม่ต้องคอยระวังสินะ*ซับน้ำตา* //ชงเองได้แม้เจ้าตัวจะโผล่มาแค่ชื่อ ฟฟฟฟ
กูเคยทำผัดกระเพรา กูรู้ว่าตามสูตรปรุงเล็กๆน้อยๆ แต่กูคิดว่าใส่แค่นั้นจะได้ราอะไรวะ พอกูใส่เพิ่มอย่างละนิดอย่างละหน่อยรสจัดฉิบหาย ยิ่งใส่แก้ยิ่งเลี่ยน สุดท้ายกูแอบเททิ้งแล้วผัดของกินอันใหม่หน้าด้านๆ กูรู้ซึ้งกับคำว่าเติมนิดหน่อยของทั่นเรย์กะเลยล่ะ
กลับไปที่ไข่เจียวกูเคยทำตอนเด็กๆแบบดูการ์ตูนแล้วเห็นออมเล็ตประมาณไข่เจียวใส่นม กูเลยเอาไข่ใส่นมช๊อกโกแลตไปเจียว
สรุปโยนลงถังหลังจากชิมไปคำนึงรสชาติแบบ#&&#%*@@%&
>>368 บร้าา ไม่ขนาดคันตะคุงหรอก
ยังทำขนมไม่เก่งขนาดนั้น
เรื่องอาหาร เพราะบ้านกุเรื่องกินเรื่องใหญ่มั้ง ทำอาหารเป็นกันเกือบทุกคน
พวกผู้ชายก็ทำได้หมด กับข้าวในวงเหล้านี่โคตรหร่อย นัว กว่าผู้หญิงทำอีก
แต่กุไม่ค่อยชอบทำ ขี้เกียจเก็บล้าง มือกุแพ้พวกน้ำยาล้างจาน คัน เลยเลี่ยงๆ
แล้วแม่งร้อนเหนื่อยด้วยทำกับข้าว
เพื่อนๆคิดว่ากุทำไรไม่เป็น เวลาไปเที่ยวกลุ่มใหญ่ๆ เห็นชอบโชว์ความแม่ศรีเรือนกัน ไม่อยากไปขัด
กุเลยนั่งกิน+เม้าส์กับกลุ่มผู้ทั้งหลาย ปล่อยแม่นางทั้งหลายทำไป ห่า แดกได้นะ แต่โคตรไม่อร่อย เหมือนแม่ไม่เคยสอนหุงข้าว
หั่นหมูก็ไม่เท่า ผักยิ่งแล้วใหญ่ นี่แม่ไม่ตีมึงเหรอ ทำกับข้าวแบบนี้ออกมา สาสส
สุดท้ายต้องลุกไปทำเอง มีหน้ามาถามทำได้เหรอ จะดีเหรอ หนอยย
ทำเสร็จยังกะแร้งลง จากนั้น มาเวลาไปเที่ยว ต้องแดกร้านค่ะ ไม่งั้นมันโยนมาให้กุทำ ไม่เอาเว้ยยเหนื่อยย
กุชอบคนทำอาหาร แล้วมีความสุขตอนทำให้คนอื่นกินนะ เห็นคนแบบนี้ละกุปลื้มปริ่ม มีความสุข (อย่างคุณอาคิมิ น้องคันตนี่ สเป๊คกุเลย)
เพราะกุไม่เคยรู้สึกงั้นว่ะ ไม่เข้าใจ เลยทึ่งเวลาเจอคนแบบนั้น
ส่วนกุจะทำก็ต่อเมื่อกุต้องกิน หรือที่มีแม่งแดกไม่ได้คร่ะ
โทษๆยาวไปหน่อย
...เราไม่ได้ทำอาหารไม่เป็น เราแค่เปิดเตาแก๊สไม่ได้! แต่สะเทือนใจตอนบอกว่าไข่ ของทอด กับของเวฟอยู่ระดับเดียวกัน สะ...แสดงว่าที่กูดีใจเหมือนเป็นบ้าตอนทอดไข่ได้นี่ไม่ถือเป็นการพัฒนาหรอวะ ร้องไห้แปป
กูไม่เข้าใจ ว่าเวลาปรุงอาหารปรุงเองยิ่งใส่เยอะยิ่งเลี่ยน แต่พอปรุงมาม่ากับก๋วยเตี๋ยวยิ่งใส่เยอะยิ่งแซ่บ
มันคือพลังอาหารทำเองกับอาหารสำเร็จรูปสินะ orz
กระทู้ซุยรันกลายเป็นกระทู้ทำอาหารไปซะแล้ว ฮัลโหล 55555
ไม่ใช่กุไม่ให้เกียรติของทอดนะ แต่คือ กุเกิดในยุคที่ไม่มีไมโครเวฟแพร่หลายเว้ย มันมากุก็อยู่มัธยมแล้ว
เพราะงั้น สกิลพื้นฐานอย่าง ตั้งเตาต้มน้ำ เปิดแก็สตั้งกระทะ เตรียมน้ำมัน อะไรพวกนี้คือ เด็กๆรุ่นราวคราวเดียวกัน
ทำเป็นกันหมดเหมือนสกิลพาสซีฟอ่ะเมิง
คือ แบบมันเป็นไรที่กุชินมาก แบบเด็ก 6-7 ขวบแถวบ้านกุ พ่อแม่ไม่อยู่กลับดึกๆดื่นๆ
ตั้งเก้าอี้หน้าเตาแก็สเพราะตัวเตี้ยกว่าเตา ทอดไข่ ต้มมาม่า ให้น้องที่เล็กกว่าได้อ่ะ
หลายๆบ้านก็เป็นงั้น เข้าประถมทุกคนก็ทำไรพวกนี้เป็นกันแล้ว
กุเลยคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ทุกคนก็ทำได้ กุขอโทษษษ ( .___.)a
กูว่าพวกของต้มนี่ง่ายกว่าทอดนะ ถ้าไม่นับแกงที่ต้องใช้เครื่องแกงแล้วต้องตำเอง กูทำแกงเป็นก่อนทอดไข่ซะอีก
กูมองชื่อกระทู้แล้วก็เลื่อนลงกลับมาดูคอนเทนต์กระทู้ใหม่อีกรอบ
โอนิวาบังสังสรรค์ถกวิถีการทำอาหารชัดๆ
>>373 มึงพูดถึงเรื่องกลัวน้ำมันแล้วกูนึกถึงเน็ตไอดอลคนนึง คือนางอายุน่าจะราวๆ17-20 แล้วนางทำคลิปต้มมาม่าครั้งแรกลงยูทูป อะไรๆนางก็ทำดีมาตลอดนะจนถึงตอนต้องหย่อนก้อนมาม่าลงน้ำ นางก็ไม่ยอมหย่อนสักทีจนคนถามว่าทำไมไม่ใส่ลงไปนางก็โวยวายใหญ่ว่ากลัวๆๆๆๆๆ ณ จุดนั้นกูนี่แบบมึงกลัวอะไรคะลูก คือนางคิดว่ามันจะกระเด็นแบบน้ำมันกระเด็น ถถถถถถ กูนี่กุมขมับแรงมาก อย่างน้อยต่อให้ทำอาหารไม่เป็นเลยมันก็ควรมีความรู้พื้นฐานบ้างนะเว้ย / ขอโทษที่นอกเรื่องแต่นึกถึงทีไรกูอนาถจิตทุกที
ทำไมกูต้องมาเห็นการพูดถึงของกินอะไรแบบนี้ตอนเช้าด้วย...orz // ดูๆไปก็อิจฉาพวกมึงที่คุยเรื่องทำอาหารกันอย่างออกรสนะ กูชอบทำอาหารมากๆ แต่ดูเหมือนยามที่หอเขาจะไม่เข้าใจ
>>382 หอห้ามทำอาหารเหรอ? ของเพื่อนกูยังมีหม้อไฟฟ้าแบบหม้อสุกี้ไว้ทำอาหารสารพันนานาได้นะ
กูรู้สึกว่าทำอาหารมันยากลำบากจังว่ะ นานๆ ทีจะลุกขึ้นมาทำแกงกระหรี่ญี่ปุ่นงี้กว่าจะปอกผักปอกมันหั่นหมูเคี่ยวแกง หมดไปแล้วสองชั่วโมง จานชามกองพะเนิน เล่นเอากูนับถือแม่บ้านที่ทำอาหารทำกับข้าวเองทั้งสามมื้อเลย...
>>376 >>381 พวกมึงเกิดยุคไหนกันเนี่ย ... *เหม่อ* จะว่าไป กูก็หัดเจียวไข่ตอนอยู่ประถมนะ โรงเรียนบังคับสอน กว่าจะเรียนจบประถมก็ทำอาหารเป็นหลายอย่างแล้วอะ กูสงสัยมากว่าเดี๋ยวนี้เค้ายังมีสอนในโรงเรียนประถมกันอยู่รึเปล่าวะ ไอ้พวกวิชาการเรือนเนี่ย แต่คิดว่าไม่แล้วมั๊ง เกิดไปทำลูกหลานเค้าไฟลวกน้ำมันกระเด็นหนังพองคงโดนฟ้องตัยห่-
กูยังพอทำอาหารได้นะ แถมทำๆมาพอสมควรเหมือนกัน ครั้งแรกก็ตอนป.4ที่ขี้เกียจหาเมนูมาทำ(ครูให้ทำอะไรก็ได้)เลยทำยำวุ้นเส้นไปเลย อร่อยด้วยนะ ส่วนเมนูไข่เจียวนี่ทำเป็นตอนป.6ได้ แล้วก็ไม่ชอบทำไข่ดาวเพราะมันกระเด็นง่าย
ทีนี้พอมาตอนมอต้น โรงเรียนบังคับเรียนพิเศษตอนเย็นไง แล้วก็มีคาบทำอาหารด้วย แล้วทีนี้โรงเรียนทำเบเกอรี่ขายเองไงเลยได้ทำขนมเยอะแยะเลย ชูโรสมั่งล่ะ บานอฟฟี่มั่งล่ะ บราวนี่มั่งล่ะ ชีสเค้กมั่งล่ะ ทำง่ายแถมออกมาดีด้วยนะ ตอนม.ปลายก็มางัดวิชาพวกนี้ออกมาทำให้พี่รหัส ทำบานอฟฟี่นี่แหลั แต่ทำเอง คาราเมลออกมาขมนิดหน่อยแต่กล้วยนี่หวานจัดมากแล้วพี่เขาไม่ค่อยชอบหวานมากเท่าไหร่เลยเป็นดีไป ยำไข่ดาว หมูไก่กระเทียม ก็ทำครั้งแรกก็ออกมาดีอยู่ ถือว่าทำได้ดีพอตัวอยู่นะเนี่ย
>>393 กูนี่ไม่ได้เลย เวลาจะต้มมาม่าแดกแต่ละทีคือต้องเตรียมเครื่องกับผักให้พร้อม แล้วต้องจับเวลาต้มเส้นด้วย ใส่กี่นาที ตามด้วยเครื่องอันไหนใส่ก่อนใส่หลังเหมือนพิธีกรรม ก็ออกมาอร่อยทุกครั้งนะ กินแล้วฟิน แต่พอคนอื่นรู้วิธีต้มของกูส่วนใหญ่จะพูดว่ากูเรื่องมากทั้งนั้น เออ กูเรื่องมากแหล่ะ ก็กูอยากกินของอร่อยอ่าาาา 55555555555
กูดูมาจากรายการเกาหลี เขาบอกว่าใส่น้ำส้มสายชูลงไปต้มกับเส้นด้วยหน่อย ประมาณหนึ่งช้อนโต๊ะ เส้นจะเป็นมันเงาและเหนียวนุ่มขึ้นนะ กูลองทำตามก็เออ...เหนียวนุ่มขึ้นจริงๆด้วย ลองเอาไปทำตามดูนะ เพื่อความฟินในการแดกที่มากยิ่งขึ้น
กุอยู่บ้านก็ต้มกับเตาแก๊สนะ ใส่ซีอิ้ว น้ำปลา ผงมาม่าอย่างละหน่อย เอาน้ำรวนหมูสับใส่แทนน้ำสต๊อก ใส่เส้น ปิดท้ายด้วยไข่จะได้ไม่สุกมาก
ส่วนไมโครเวฟมีไว้อุ่นน้ำร้อนชงชา ขืนเอามาทำมาม่าน้ำมันไม่ร้อนใส่ไรเพิ่มไม่ได้ ถ้าให้ร้อนเผลอกุออกไปต้มเตาแก๊สไวกว่าอีก
พูดถึงมาม่ากูไม่คิดจะเอาเข้าไมโครเวฟเลยอะ กูชอบแบบเส้นนุ่มๆ เส้นหนาๆหน่อยก็โอเค แบบพวกมาม่าเกาหลีกูยิ่งชอบ พวกเผ็ดคูนสองใส่เบคอน หมูเด้ง หมูบด กับเต้าหู้เหนียวๆที่กูชอบนี่คือสุดยอดละ
มาม่าปกติกูใส่น้ำร้อนแล้วเอาเข้าเวฟแฮะ ออกมาเส้นกำลังดีสำหรับกูเลย
เหตุผลที่เวฟมาม่าคือขี้เกียจล้างหม้อ.... กูเวฟจนชำนาญละ อร่อยทุกครั้ง 55
กูตั้งใจจะลงวิชาทำอาหารม.ต้นแบบจริงจังมาก
แต่กูเสือกลงเรียนหลักสูตรสสวทมึง เขาตัดวิชาคหกรรมออกไป T_T
พอตอนม.ปลาย ตั้งใจจะเข้าแน่ๆ แบบีเพิ่มเติมทำขนมด้วย! แต่ให้ลงเฉพาะม.ต้นซะงั้น
Orz
โรงเรียนกูมีวิชางานบ้านงานเรือนทั้งม.ต้น ม.ปลาย เรียนทุกปี ปีนึงเรียนทุกอย่าง 2เดือนเปลี่ยนทีนึง คหกรรม หัตถกรรม เกษตร งานอาชีพ ทำมันทุกอย่าง อาหารทุกประเภท ตัดเย็บเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ ทำสวน ปลูกต้นไม้ ทำของขาย กะว่าจบไปมึงต้องเอาสักอย่างไปใช้ได้แน่ๆอ่ะ
กูทำอาหารเป็นตั้งแต่เด็กๆเลยเพราะพ่อแม่ไม่ค่อยอยู่บ้านนี่ล่ะ แถมไม่ทิ้งตังไว้ให้ด้วย มีแต่พวกวัตถุดิบหมูไก่ผักไรงี้ในตู้เย็น กูก็ต้องขวนขวายหาทำแดกเอง จะกินไข่ต้มมาม่าแบบเดิมๆมันก็เบื่อ ก็ต้องแอดวานซ์กันหน่อย ยำปลากระป๋องมั่ง ไข่เจียวหมูสับมั่ง ไปๆมาๆก็เกิดอยากกินนั่นกินนี่ก็ลองทำแดกดู แล้วต้องทำเผื่อพ่อกับแม่ที่กลับบ้านตอนเย็นๆดึกๆด้วย แรกๆก็ไหม้ เละเทะ แดกไม่ลง แต่พอจับหลักได้ ทำบ่อยๆแล้วก็ทำได้เอง
ตอนม.2 โรงเรียนกูมีวิชาคหกรรมแบ่งกลุ่มกันทำอาหาร แล้วกลุ่มกูเสือกมีกูคนเดียวที่ทำอาหารเป็นอีก พวกในกลุ่มกูให้จับมีดก็ อรั้ยย กลัวบาดมือ ให้ทอดปลากลัวน้ำมันกระเด็น กูเลยเหมาทำคนเดียวหมดแล้วไปลอกการบ้านวิชาอื่นๆของพวกมันแทน 5555555555555555555
คหกรรมงานกลุ่มเหมือนกลุ่มกูโชคดีอ่ะ ญทั้งกลถ่มมีผชคนเดียว คนเดียวที่ทำอาหารเป็นคือผช+มีผญแกะสลักเก่งๆไปอีกคน//ได้แกงฟักทองที่แกะเป็นลายไทยได้โคตรอลังถถถถถ
>>403 ถ้าเป็นทอดน้ำ ทาน้ำมันบางๆ(ใช้ทิชชู่สำหรับซับน้ำมันก็ได้) ที่กะทะเทฟล่อน พยายามวางแผ่นเกี๊ยวซ่าติดๆกัน ใส่น้ำพอท่วมเกี๊ยวประมาณ1-2มิล (ถ้าเป็นเกี๊ยวสดก็เติมน้ำมากกว่านั้นหน่อย) ถ้าอยากให้เกี๊ยวกรุบๆก็เติมน้ำมันเพิ่ม ผิดฝา ทั้งหมดนี้ใช้ไฟอ่อน-ปานกลาง รอให้น้ำแห้งแล้วตักใส่จาน
กูทำก็ประมาณนี้แหละ กินแล้วฟินเวอร์
นี่ห้องก้นครัวรึเปล่า 😂😂😂
อะไรทำให้ล่กยาวจากโอโคโนมิยากิเจ้าแม่มาถึงสารพันปัญหาทำกับข้าวได้วะถถถ
กรูไม่ได้เข้าโม่งมาแค่3วัน
ทำไมเพื่อนโม่งกลายร่างเป็นโม่งเชฟกันไปหมดละวะ
จากโม่งที่นั่งผสมผงปรุงรสม่าม่าอย่างเมามัน เผื่อได้มาม่ารสใหม่
ไม่น่าเข้ามาอ่านตอนนี้ กูอยากกินเกี๊ยวซ่าเลย ฮือออออออออออออ
กูเริ่มคิดว่ากูจะต้องแวกซ์ขนหน้าแข้งทิ้งให้หมดล่ะ โดนกระตุกไปเป็นหย่อมๆ น่าเกลียดชิบหาย นี่หรือคือการตอบแทนของคนที่รักและไว้ใจ 55555
งี้ก็ไม่เหลืออะไรให้กูช่วยแล้วซิ กูตอบแทนด้วยการถอนหงอกให้แล้วกัน //แค่กๆๆ
ช่วงนี้โม่งซุยรันเฟติชขนกันสินะ
แพ็กกระปุกแว๊กซ์ไว้ขาย พลางยื่นโลชั่นและยาปลูกขนให้โม่งแปล
พวกมึงห้ามแตะต้องขนบนร่างกายกูยกเว้นผมหงอก! ไม่งั้นกูจะบิดเบือนให้จบตอนแบบบ้านพักคนชรา!
ไหงพวกมึงหันมาถอนขนโม่งแปลกันล่ะเหวย ไอ้พวกซาดิสม์ กูรับไม่ได้
พวกมึงเฬวมาก จิตใจพวกมึงทำด้วยอะไร!!! วันนี้สิ้นเดือนบัญชีปิดยอดกูหลุดขำมาเขาก็รู้กันหมดสิว่ากูแอบเล่นเน็ต
กุเป็นโม่งเด็กนักเรียนเตรียมสอบ ตอนที่คาบุว่าท่านเรย์กะนี่เหมือนโดนด่าไปด้วย หน้าสั่นเลย 5555 แถมยังไม่รู้ว่าอยากเรียนไรอีก ไร้passionในการอ่านหนังสือสุดๆ /เวลาคุยกันเรื่องอาชีพนี่ก็แอบเก็บข้อมูลอยู่เงียบๆนะคะ *แอบฟังหลังกำแพง*
>>438 >>439 บวกพวกมึงนะ แต่กูสอบเสร็จตั้งแต่วันที่ 20 แล้ว /สะบัดผม
ตอนคาบุพูดกูก็หน้าสั่นไปตามๆกัน กูเป็นพวกขี้เกียจเหมือนท่านเรย์กะเปี๊ยบ เผลอก็เข้าโม่งเข้าแมวดุ้นนายท่านดูนาฬิกาอีกทีก็ผ่านมาเป็นชั่วโมง ;-; +ยังไม่รู้ว่าอยากเรียนอะไรเหมือนกัน ฮือ
ตอนที่สายอาชีพมาคุยกันหรือคุยเกี่ยวกับพวกนี้กูนี่ยิ้มแปล้ เอามาอีกค่ะ ชอบมาก แอบจดๆไว้ว่าเป็นยังไงบ้าง
กูเป็นสถาปนิกผู้โหยหาการนอน แต่ที่กูทำอยู่ตอนนี้คือปั่นฟิครัวๆ กูควรจะไปนอน ฮรือออออออออ
กูเพิ้งสอบเสร็จเมื่อศุกร์ที่แล้วเว้ย //เสยหน้าม้า
แต่กูก็ทำไม่ได้ orz
นี่กูเพิ่งสอบเสร็จเมื่อวาน สอบวันแรกเจอเคมีชีวะพร้อมกันเลย มายก้อด จำทั้งน้านนนน รอดมาได้ก็เป็นบุญยิ่งกว่าท่านเรย์กะได้เดทกับเอ็นโจสองต่อสองในชุดนักเรียนแล้วล่ะ
วันนี้เปลี่ยนจากห้องก้นครัวมาเป็นห้องสยามเรอะ 5555
โถ้วเพื่อนโม่ง กูก็สอบเสร็จนานแล้วล่ะตอนคาบุรากิพูดกูก็ไม่สะดุ้งด้วยเพราะกูไม่อ่านอยู่แล้ว………
เห็นเอ็มร้อยแล้วนึกได้ มันมีเอ็มร้อยปั่นยาคูล อยู่ในเมนูร้านน้ำปั่น มีโม่งไหนเคยกินบ้าง กูอยากรู้ว่ามันเวิร์คจริงๆเหรอ
กุเป็นนักศึกษาที่เคยโหมงานจนป่วย ปัจจุบันมีสถานะต้องไปดรอป 4 ตัวเพื่อความอยู่รอดในการเรียนจบ...
นึกถึงตัวเองตอนเรียนออกแบบ เข้าเรียนทุกคาบ ส่งงานทุกตัว ทำแม่งทุกอย่าง โหมวาดจนดินสอหักปากกาหมดไปเป็นร้อย อนาโตมี่ เบนแฟลท ศัพท์กระดูก รูปแบบการนำเสนอการเขียนโครงสร้างท่องเป็นบ้าเป็นหลังเกรดยังออกมาเหี้ย
กลับกันไอ้คนเซอร์ ๆ ทำงานส่ง ๆ เขี่ย ๆ เข้ามั่งไม่เข้ามั่งเสือกได้เอางานขึ้นบอร์ดแทบจะทุกเดือน แถมงานที่ขึ้นบอร์ดเสือกเป็นงานวาดไม่ถึงคาบด้วย
นึกแล้วน้อยใจฉิบหาย เพราะงั้นตอนนี้ได้มันมาเป็นลูกน้องต้องใช้แม่งให้คุ้ม
ร้านแถวหอกูมีเอ็ม150ใส่ปีโป้อะ 55555
อ่านแล้วทำหน้าเยาะเย้ยใส่พวกมึงทุกคน - จากโม่งทำงานแล้ว
มีกูคนเดียวเหรอที่คิดว่ามหาลัยชิวมาก มัธยมกูเรียนลากเลือดมาก แต่มหาลัยเหมือนมานั่งเล่นที่มหาลัยหนังสือแทบไม่ต้องอ่านตั้งใจเรียนในห้องเอา อาจเพราะมัธยมเรียนสายวิทย์ มหาลัยมาสายศิลป์ด้วยมั้ง บวกติดเพื่อนทั้งสาขาด้วยเลยทำข้อสอบได้หมด แต่ข้อเสียคือไม่มีเพื่อนแชร์ภาระตอนมัธยมลอกการบ้าน มันจะมีต้นฉบับแต่ละวิชาสลับคนทำกันไป เวลาลอกก็ต้องตรวจคำตอบให้เพื่อน คิดไปด้วยระหว่างลอก แต่พอมาหมาลัย กูคือต้นฉบับทุกวิชา เวลาทำงานกลุ่มตามตัวเพื่อนยากชิบหายยยย
เออ.. กูก็เรียนสายวิทย์ ถ้ามหาลัยกูเลือกไปเรียนสายศิลป์จะสบายมั้ย ตอนนี้กูเกลียดวิทย์มาก คณิตยังพอถูไถ แต่เคมีฟิสิกส์เหมือนกูนั่งอ่านภาษาต่างดาว... ;_;
จริงๆกูมองบัญชีไว้อยู่นะ แต่เหมือนจะได้เรียนแคลใช่ปะ คือกูตกแคล แง เป็นคณิตเรื่องเดียวที่กูเรียนแล้วนั่งเอ๋อ กูยังจับจุดไม่ได้ ;___;
>>468 ถ้ามึงไม่ไหวเรื่องฟิสิกส์ เคมี จริงๆ ก็ไปสายศิลป์ดีกว่ามึง กูกลัวมึงอยู่มหาลัยสายวิทย์แล้วจะร้องไห้ เพราะกูเข้าใจฟิลลิ่งที่นั่งน้ำตาซึมไปทำไปตอนสอบเคมีตอนปี1เพราะอ่านยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่... คือกูก็ไม่ได้เลือกสายเคมีนะ แต่ถ้าไปสายวิทย์มันก็ต้องเรียนหมดอ่ะตอนพื้นฐาน ฟิ เคมี ชีวะ แคลก็เรียนด้วยนะมึง
ว่าแต่อยู่ดีๆจากอาหาร(?) วกมาเข้าเรื่องเรียนได้ยังไงวะ 5555555 //กูสายวิทย์สุขภาพที่วันๆอยู่แต่แถวโรงพยาบาลจ้ะ
ขอบคุณโม่งแปลนะจุ๊บๆ
ตอนนี้เอ็นโจทำตัวเหมือนพ่อสื่อแฮะ
แต่คาบุพูดเรื่องเวลานอนแล้วกูสะดุ้งเลย ถึงจะช่วงสอบมหาลัย แต่กูก็นอน 6-7 ชั่วโมง ร่างกายไม่ยอมลุกจากเตียง กระซิกๆ
ไหนบอกจะลงโทษแค่เด็กม.4 ไง ไหงซวยกันทั้งสโมวะ 55555
คาบุนี่สุดยอดจริงๆ. เรือคาบุแล่นจ้าาาา
เอ็นโจตอนนี้แม่งถอยไปเล่นเป็นพระรองกลายเป็นคนเชียร์แขกทั้งฉาก จะเอายังไงแน่โว้ย...
ว่าแต่มิตรภาพขอวกลุ่มท่านเรย์กะนี่สุดๆเลยนะ โดนัทค้างคืนนี่..
ท่านเรย์กะตอนกินนี่ประกายออร่าความสุขต้องฟุ้งแน่ๆ
ไมพวกมึงพูดมา กูไม่อยากต่อมหาลัยแล้ววะ ออกจาก รร. ไปไถนาถ้าจะรุ่ง กูอยู่ ม.6 อ่านที่คาบุรากิพูดแล้วจุกสัดๆ
กูสอบพรุ่งนี้ยังไม่ได้อ่านเลย... ไปซื้อเอมร้อยแปป
เอาสูตรกูมั้ย หั่นโสมให้เป็นชิ้นเล็กๆ นั่งเคี้ยวๆอมๆไปเรื่อยๆเวลาอ่านหนังสือกะตอนสอบ มันไม่ใจสั่นเท่าเอ็มร้อยแต่ตาสว่างพอกัน
จากโม่งทำงานแล้วที่ได้นอนวันละ5ชม.T-T
แดกมันชิ้นนึงก่อนเข้าห้องสอบอ่ะ ถ้าชิ้นใหญ่หน่อยกว่ามึงจะเคี้ยวเสร็จแม่งก็ปาไป2ชม.ละ
นี่สูตรประจำตระกูลกูเลยนะเว่ยใช้ตั้งแต่สมัยอากงกูสอบ
จากโม่งทำงานแล้วเสาอาทิดยังต้องเคลียงานอยู่บ้าน
ว้ากกกก ทำไมกูรู้สึกตอนนี้มันโชโจ๊โชโจ คาบุคือพระเอกผู้เผด็จการแต่ในใจหวังดีต่อเธอไรงี้ กี๊ซๆๆๆๆ //ลี้ลงจากเรือผุของเอนโจ
ทำไมเนื้อหาท่านเรย์กะโคตรเข้ากับเวลาช่วงนี้เลยวะ ช่วงนี้เป้นช่วงสอบกลางภาคของมหาลัยรึเปล่า กูจบแล้วกูไม่มั่นใจ
>>492 ไฟนอลของเด็กมัธยม มิดเทอมของเด็กมหาลัยเลยจ้ะ ;;;__;;;
ตอนนี้เอ็นโจเอาเรือตัวเองขึ้นไปซ่อมแซมบนเรือจักรพรรดิอยู่มั้ง เลยต้องเอาใจเจ้าของเรือนิสนุง
ช่วงนี้เรือจักรพรรดิแล่นแรง เลยไม่แปลกใจแล้วที่ทำไมแฟนๆญี่ปุ่นติ่งจักรพรรดิกันเยอะ ตอนแรกก็แอบสงสัยว่าสาวๆญี่ปุ่นชอบแบบจักรพรรดิเวอร์ชั่นไซซายะกันเรอะ!!!
จากโม่งบัญชีข้างบนนู้นเพิ่มเติมคือสอบเสร็จแล้วและพรุ่งนี้มีสอบต่อ โฮวววววว จักรพรรดิขามาช่วยหนูติวทียยยยยย์
ตอนล่าสุดเหมือนโดนคาบุทำร้าย เหมือนมีลูกศรพุ่งมาแทงนับสิบกับสอบวันใกล้นี้ อ๊ากกกกกก บสงทีเรื่องจริงที่นายพูดออกมาก็โหดร้ายไปนะ ~
ฮิโยโกะซามะ. ถ้าจะลิขิตเอ็นโจเป็นพระเอกจริงๆ โปรดอย่าทำให้คาบุเจิดจรัสขนาดนี้เลยเจ้าค่ะ ทั้งเคมี ท่วงท่า ช่างดึงดูดใจอะไรเช่นนี้. คาบุอะไรก็ดีไปหมดขาดไปอย่างเดียว. คือไม่มองเรยกะในเชิงชู้สาวนี่สิ
ขอบคุณโม่งแปลนะจ๊ะ ซื้อยาปลูกขนหน้าแข้งมาให้แล้วล่ะนะ
แต่ว่าๆๆๆๆ คาบุบอกเรย์กะว่าอย่างอแงหรอ T______T ในฐานะผู้มีจิตใจสาวน้อยอย่างกูแล้ว นี่เป็นคำที่ทำให้เขินฝุดๆๆๆๆๆ t-----t
ทำงานแล้วกุไม่อยากกลับไปเรียนเลย
ขี้เกียจส่งงานขี้เกียจสอบ
กูไม่มีสอบ กูมีแต่ธีสิส ช่วยกูด้วย...
คำพูดคาบุมันแทงกุแรงประหนึ่งโดนเกทออฟบาบิโลนกระหน่ำใส่มาก เพราะอีก3อาทิตย์จะมีสอบพรีฯของ9วิชาสามัญกับGAT-PATของคนที่ลงไว้ไง แล้วเราลงของคณิตกับวิศวะเอาไว้ด้วยแล้วตอนนี้ก็ยังง้องแง้งไม่รู้ว่าควรอ่านอะไรเสริมสิริมงคลตัวเองดีอีก.....
>>508-509 กูไม่ได้ลง พวกมึงสอบแล้วมารีวิวที
กูแม่งชะล่าใจ สอบปีหน้า รู้ตัวอีกทีเหลืออีกไม่กี่เดือนแล้ว ฮืออออ5555 กูยังไม่ได้อ่านอะไรเลย
คนที่กูคุยๆอยู่ก็มีแต่บอก รออยู่ รีบตามมา กูยิ่งกดดัน แง แถมไม่แน่ใจว่าอยากเรียนคณะเดียวกันมั้ยอีก กูกลัวกูเข้าไปเรียนแล้วไม่ชอบแต่กูก็ยังไม่รู้ว่ากูชอบอะไร แงงง
ไม่ว่าจะอ่านหนังสือสักกี่เล่ม
แต่เชื่อกูเถอะถ้าก่อนสอบโม่งแปลอับตอนใหม่
พวกมึงทั้งหลายก็ต้องแอบอ่านท่านเรย์กะด้วยข้ออ้างว่าเพื่อผ่อนคลายแน่นอล
นี่กูมานั่งอ่านท่านเรย์กะเยียวยาใจตัวเองหลังสอบอยู่เนี้ย ออกมาจากห้องนี้ค่อดเหี่ยวเลย ละตอนนี้แม่งมีความโดขิอยู่ในความโดนด่า กูไม่รู้จะรู้สึกยังไงดีละเนี้ยยยย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ซาบซึ้งในมิตรภาพกลุ่มสาวๆจริงๆค่ะ
>>511 กู >>510 นะ
กูถนัดภาษาอะ วิทย์ได้แค่ชีวะ วาดรูปก็ไม่ถนัด ไม่ถนัดสังคมด้วย555 แต่จะให้เรียนสายวิทย์กูก็เรียนได้แหละ. ละคณะที่คนคุยกูอยู่พอผ่านปีหนึ่งไปมันก็ไม่ได้ต้องเจอกับพวกฟิสิกส์เคมีชีวะคณิตมากเท่าเดิม เหมือนเรียนเรื่องใหม่หมด เนื้อหาก็น่าสนใจดี มั้ง กูไม่รู้ 555 แต่เห็นพวกพี่ปีโตๆเรียนก็น่าหนุกดี
จะเรียนภาษากูก็ไม่ได้มีภาษาที่สามหรือสี่ที่อยากเรียนเท่าไหร่ แต่คือตอนนี้กูก็สนุกกับการเรียนภาษา>วิทย์ง่ะ
ฮรือ อย่าถามนะว่าคนนั้นไม่ช่วยกูหาคณะที่ชอบเลยเหรอ เพราะทุกคนเชียร์ให้กูเข้าคณะนั้นหมดเลย ทั้งที่บ้าน เพื่อนก็ด้วย
กูแนะนำว่าชอบอะไร ลองมองดูว่าชอบอะไรในนั้นนะ แบบเพื่อนกูชอบเลข ชอบความเป็นเหตุเป็นผลเดาได้ คิดเป็นแพทเทิร์นไรงี้ มันก็เข้าบัญชี แฮปปี้ดีนะ
นี่เป็นโม่งห้องlifestyleไปแล้วสิกู
มีแต่หนูๆที่กำลังจะสอบเข้าทั้งนั้นเลยวุ้ย พวกลุงๆป้าๆอยู่ไหนกันหมด กูรู้ว่ากระทู้นี้มีลุงๆป้าๆเยอะกว่าเด็กๆนะ 55555555555
>>514 เดี๋ยวนะมึง ถ้ามึงจะเลือกบัญชีเพราะมึงชอบเลข/เก่งเลข "มึงคิดผิดแล้ว"
บัญชีแทบไม่ใช้เลขเลยว้อยยยยยยยยยยยยย โดยเนื้อหาแล้วจะใกล้เคียงกับพวกสายกฎหมายมากกว่า คือต้องท่องจำมาตรฐานการบัญชีที่โคตรยุบยับ ท่องๆๆแล้วก็ท่อง แล้วดูว่ารายการบัญชีไหนเข้าข่ายอะไร แล้วบันทึก ยิ่งถ้าเรียนไปถึงวิชาสอบบัญชีแล้วเลขยิ่งแทบไม่ได้ใช้เลย ไม่ทราบว่าจะตั้งเกณฑ์pat1ซะสูงเพื่อ? เข้ามาก็ไม่ได้ใช้
ใครมันบอกว่าบัญชีคือเลขนี่โคตรไม่จริง กูเรียนบัญชีจนจะจบแล้วใช้เลขแค่บวกลบคูณหารเท่านั้นแหละ แถมตั้งแต่เข้าคณะนี้มาดูเหมือนความสามารถในการคำนวณจะหายไปดื้อๆอีกต่างหาก สงสัยเพราะพึ่งเครื่องคิดเลขมากเกิน5555 อาจารย์ในคณะระดับดร.บวกเลขผิดบ่อยเป็นปกติ
ส่วนสายบริหาร นอกจากเอกไฟแนนซ์แล้วแทบไม่ได้ใช้เลขเลย เป็นหลักการซะมากกว่า (แต่ไฟแนนซ์นี่เลขโหดใช้ได้เลย) ถ้ามึงอยากจะเลือกคณะเพราะเก่งเลข นอกจากคณะสายวิทย์ก็มีคณะเศรษฐศาสตร์อ่ะ ที่ใช้เลขโหดๆ
เข้ามาเตือนก่อนที่เข้าไปจริงๆแล้วจะไม่ตรงกับความคาดหวัง ตอนปีหนึ่งเพื่อนกูซื่วไปหลายคนเพราะเรื่องบัญชี=เลขนี่แหละ
>>514 มึงคิดผิดละ เรียนบัญชีไม่ต้องเก่งคณิตก็ได้ แทบไม่ได้ใช้อ่ะ เว้นแต่พวกวิชาแคล สถิติงี้
มึงต้องจำ ตีความและวิเคราะห์ภาษาไทยเป็นไทย ต้องอ่านละเอียดตีโจทย์ให้แตก ไม่งั้นพลาดแน่
แล้วที่สำคัญต้องฝึกทักษะกดเครื่องคิดเลขข่มศัตรูด้วย(ไม่ใช่ละ)
จากโม่งบัญชีที่เข้าเพราะชอบคณิตและยังติดอยู่ที่เดิมไม่รู้จะไปไหน
เก่งคณิต แล้วอังกฤษพอไปวัดไปวาได้ กูว่ามาทางโปรแกรมเมอร์ก็ดีนะ วิธีเขียนมันตรรกะเดียวกับคณิตศาสตร์อ่ะ
เก่งคณิตต้องสายวิศวะเลยจ้า สายนี้คำนวณเน้นๆ สายวิทย์นี่มีให้เลือกหลายวิชา
ส่วนพวก สายบริหาร บัญชี กฎหมาย กูว่าอารมณ์เหมือนสาย(สิญจ์ เอ้ย ศิลป์ คือมึงต้องได้ภาษา ตรรกะ อะไรพวกนั้นมากกว่าคณิตเพียว
เห็นพูดเรื่องนี้กัน ขอบ่นนิดหน่อยนะ กูอึดอัด จะพูดกับพ่อแม่กูก็ไม่กล้า ,__,
กูมีของที่ชอบเยอะแยะจนเลือกไม่ถูก อันนู้นก็ชอบ อันนี้ก็ชอบ การ์ตูนก็ชอบ หนังสือก็ชอบ หนังก็ชอบ ไปเที่ยวเดินทางก็ชอบ ทำอาหารก็ชอบ วาดรูปก็ชอบ ใช้คอมทำงานหรือทำพวกไอทีก็ชอบ
เป็นพวกได้ภาษาอะ เพราะกูอยากไปเที่ยว อยากไปเที่ยวได้ไกลๆเลยชอบภาษาไปด้วย อังกฤษค่อนข้างดี จีนได้นิดหน่อย(นิดเดียวจริงๆ สนใจจะเรียนเพิ่มด้วย) ไอทีกับวาดกูไม่ได้เด่นแต่ก็โอเค คณิตกับวิทย์พอถูไถ แต่พวกหลักภาษาไทยไม่นับนะ อะไรที่ให้วิเคราะห์นี่กูไม่ไหว พวกกลอนงี้กูแทบจะเลือกข้อฝนมั่วแล้วข้ามเลย กูทำไม่ได้ ;-; กูเคยคิดจะเรียนอักษร แต่ดูจะไม่ไหวว่ะ กูไปค้นๆมาเจอการแปล(กูชอบพวกหนังสืออยู่แล้ว กูแปลได้ แต่คิดว่าภาษากูไม่สวยพอจะให้คนอื่นเข้าใจไปกับกู ) ใช้เหตุผลใช้ปรัชญานี่กูกลัวมาก สังคม... เกรดกูร่อยหรอแทบทุกปี ดีที่กูทำงานส่งเลยยังพอมีคะแนน
ตอนนี้ก็ปวดหัวยังไม่รู้ว่าอยากจะเข้าอะไร เคยแอบมองพวกออกแบบไว้อีกอย่าง แต่ยังไม่ได้หาข้อมูลเลย ทำไมกูเป็นคนแบบเน้้้ พวกค้นหาตัวเองตามเว็บก็ไปลองมาแล้วแต่ไม่รู้จะทำยังไงต่ออยู่ดี กูกังวลมากๆเลย นี่ได้ระบายก็โล่งๆขึ้น แต่ก็คิดไม่ตกอยู่ดี5555
ไม่ทราบว่าใครมีอะไรจะพอแนะนำอะไรได้บ้างไหมคะ ฮือ
นี่ห้อง lifestyle เหรอวะ กูนึกว่ากูเข้าผิดห้อง 555555555555555 //โอ๋ๆ แซวเล่นนะ
กูขอด้วย แต่ไม่มีดีเทลมาก ยังหาตัวตนไม่ได้ T______T กูไม่มีวิชาที่ชอบเป็นพิเศษ มีเกลียดคือ พละ 5555 กูอ่อนกีฬาแต่ก็พอถูไถ ส่วนใหญ่คะแนนกูก็เท่าๆกันหมด อย่างหลายๆได้ท็อปมาทั้งๆที่กูคิดอยู่ว่าได้ไง ปัญหาคือ ต้องเลือกสายไหนทีนี้
กูชอบทุกอย่าง ทำอาหาร(ทำได้ แต่อร่อยไหมน้อ รสชาติเหมือนเจ้าแม่นิดนึง) ดูหนัง ฟังเพลง เที่ยว อ่านนิยาย วาดรูป เต้น ร้องเพลง กูพยายามค้นหาตัวเองตั้งแต่มอต้นละ เพราะดูว่ามันน่าจะได้เปรียบกว่าถ้ารู้ว่าเราอยากเป็นอะไร จนจวนจะสอบแล้วกูก็ยังนั่งบื้ออยู่นี่
กูเรียนปี3กูยังไม่รู้เลยว่ากูอยากทำอะไร .....//ไปละพนสอบเช้ายังท่องวิอาญาไม่จบเลย
โห เพื่อนโม่งเตรียมสอบเยอะชิบหาย กูรอรีวิวสอบ Pre ด้วยคน ไม่ได้ลง ห้องกูโดนครูแนะแนวเกลียดขี้หน้า ชีช้ำ ถ้ากูติดกูจะไปเดินไฟนอลวอร์ค ฟูลเทิร์น ใส่แม่ง แต่ติดอยู่อย่างเดียว lifestyle อ่านหนังสือกูแย่ยิ่งกว่าท่านเรย์กะอีก
มีคนไม่รู้ว่าตัวเองชอบไรเยอะอยู่เหมือนกันหมดนี่หว่า... รู้สึกเหมือนเจอเพื่อน T_T /วิ่งไปกอด
รอบตัวกูรู้หมดเลย ส่วนใหญ่ก็ไปสายสุขภาพ ส่วนน้อย=กู 555555 กูไม่ค่อยอยากเลือกตามเพื่อน อยากเรียนไรที่ตัวเองชอบจริงๆ แต่ถ้ามันใกล้ถึงวันที่ต้องเลือกคณะแล้วกูยังไม่รู้อีกก็คงเลือกตามเพื่อนแหละ ฮือ อย่างน้อยก็มีเพื่อน พวกรุ่นพี่คนรอบตัวกูส่วนใหญ่ก็ไปสายนี้หมด
>>532 สู้ๆนะ อย่านอนดึกกกก ขอให้อ่านทันน
KY เราคุยกันแบบนี้ถือว่าใช้กระทู้ผิดหมวดมั้ยหรือมันก็เป็นการเม้าท์มอยในแวดวงโม่งซุยรัน ภาค จิบน้ำชาแก้ง่วงก่อนสอบ
(อย่าว่ากูงั้นงี้เลยนะ.. มาคุยในนี้กูรู้สึกได้ข้อมูลหลายๆเรื่องกว่าในห้องlifestyleอีก)
กูรู้ว่ากูชอบอะไร... แต่ไม่รู้ว่าคสรเอาไปเรียนอะไร... และถ้าได้เรียน จะทำได้ดีไหม...
ขอวกเข้าหวีดเรื่องอีกนิด// พีคสุดของกูคือตอนที่ทั่นเรย์กะนังทำคิ้วตกหน้าม่อยละคาบุอ่อนให้อะ ไอ้บ้าเอ๊ยฟหกดสหาสหสห
เด็กเตรียมสอบเยอะว่ะ
นึกว่าอยู่ซักมหาลัยกันซะอีกนะ
อยากฟังความจริงอันโหดร้ายมั้ย :D
มาป้าจะบ่นให้ฟัง
ถ้าพวกเมิงไม่ได้อยากทำอาชีพเฉพาะทางสุดๆจริงๆ อย่าง พวก หมอ นักวัจัย วิศวะ โปรแกรมเมอร์ สถาปัตย์ นักกฏหมายไรพวกนี้
เรียนอะไรก็ได้นะจริงๆ
แต่ถ้าอยาก เข้าราชการ จริงๆ ไปสาย สังคม+นิติ+รัฐศาสตร์ ไรพวกนี้เลย เพราะ แทบทุกตำแหน่งรีเควส ทางนี้ว่ะ
แม้สุดท้ายเมิงจะไปนั่งเฉยๆแทบไม่ได้ใช้ อุ๊บ โทษๆ เผลอๆ คือมันมีหลักการทำงานของมันทุกอย่างแล้ว ไม่ค่อยได้ใช้อะไรซับซ้อนมาก
ใช้จริงๆ ก็พวกนิติเนี่ยแหละ(ต้องตรวจเอกสารตลอด)
ตอนเรียนกุก็เลือกที่ชอบ 4 คณะ กุเลือกคนละอย่างเลย อักษร รัฐศาสตร์ ศิลปะ มนุษย์ฯ (ยังกะสุ่มเลือก)
ก็ติด 2 ในนี้แหละ ก็เลือกๆไป ไม่ได้อะไรมากมาย
ตอนทำงานจริงๆ ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ อันนี้อยู่ที่ฝีมือและไหวพริบของเมิงเองอ่ะ แต่คอมยังไงเมิงต้องเป็น
เอ็กเซลไร พิมพ์งานไรต้องคล่องไว้จะสบาย กุว่าพวกเมิงไม่น่ามีปัญหาหรอก ถ้าทำงานออฟฟิสส่วนใหญ่โปรแกรมสำเร็จรูป เรียนรู็ไม่นานหรอก
บัญชีด้วย ปกติแทบทุกบริษัทเค้าก็ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเมิงกดเครื่องคิดเลขให้คล่องก็พอ 555
กุเคยทำราชการ มา 2 ที่
แต่กุทนสังคมในนั้นไม่ค่อยได้ รำคาญความอาวุโส และธรรมเนียมมากมาย ไม่ไหว
ปัจจุบัน เอกชน ก็ ไม่ได้เกี่ยวเชียกับที่เรียนมาเลย แต่ก็มีความสุขดี เงิน พอไหวค่อนไปทางเยอะกว่าราชการ(สวัสดิการพอๆกัน)
มีเวรให้เลือกเข้า ออกนอกสถานที่ก็หนุกดี(เบิกเงินเพิ่มได้)
คือแบบ ตอนทำงานจริงๆ เมิงไม่จำเป็นต้องชอบก็ได้นะ ถ้าทำได้และทำได้ดีหาเงินได้ดี ก็ทำไปก็ได้ มีเงินใช้ยังไงก็ดี
กุว่างๆ ก็วาดรูป เขียนนิยาย กุก็มานั่งคิดถ่าทำเป็นอาชีพกุต้องเครียดและเกลียดแน่ๆ แบบมีเส้นตาย มีลูกค้าเร่งงานไรงี้
กุเลยแยกงานกับเรื่องที่ชอบไว้คติกุคือ กุไม่ต้องชอบงานนั้น กุได้เงินจากงานนั้นก็พอ
เดี๊ยวค่อยเอาเงินไปเปย์ของเล่นได้มากมายสบายใจ
นี่ที่ต้องเรียนอันที่ชอบเพราะพอขึ้นม.4เจอวิชาที่ไม่ชอบไปแล้วไม่มีแรงอ่านหนังสือเลย แต่จะให้เรียนก็เรียนได้นะแต่ไร้ความอยากในการลุกขึ้นมาอ่าน แบบถ้าเป็นเรื่องที่ไม่สนใจก็จะไม่อยากอ่านเลย ถ้าไปมหาลัยแล้วเป็นแบบนี้คงไม่ได้แน่ๆ เพราะสิ่งเดียวที่ทำให้อยากลุกขึ้นมาอ่านคือคำว่าพรุ่งนี้สอบ เลยต้องเลือกอันที่ชอบไว้ก่อนอย่างน้อยตัวเองก็ชอบไปค้นนั่นนี่มาอ่านเพิ่ม
แต่เอาตรงๆนี่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชีวิตการทำงานเลย นึกออกแต่ภาพสายสุขภาพ สายอาขีพอื่นคือไม่รู้เลยว่าทำงานกันยังไง ขอบเขตงาน ความกดดันเป็นแบบไหน ทำอะไรบ้าง
อย่างสายสุขภาพนี่ก็ไปรพ.บ่อย ก็คิดว่าน่าจะทำได้ แต่พอนึกภาพตัวเองช่วยคนไข้ไม่ได่แล้วรู่สึกทำใจไม่ได้+ลึกๆกลัวการไปรพ.มาก รู้สึกเชื้อโรคเกาะตามตัวไปหมด ก็รู้นะว่าอยู่ไหนก็มีเชื้อโรคแต่ในรพ.นี่แบบ ;____; อะไรบ้างก็ไม่รู้
นี่ก็อยากเจอให้เรื่องที่ตัวเองชอบอยู่ในสายงานที่ได้เงินดีเหมือนกันนะ เรื่องที่ต้องเปย์มันเยอะมาก 5555
เวลามีใครถามอยากเรียนไรนี่อยากตอบเหลือเกินว่าคณะที่จบมาแล้วได้เงินเยอะ
(เห็นบ่นๆแบบนี้พอเอาเข้าจริงๆอาจจะเลือกสายสุขภาพก็ได้ คอมฟอร์ตโซนสุดๆ 555)
อย่าหาว่าโลกไม่สวยเลย แต่การเลือกคณะอ่ะ เลือกที่มันหางานได้ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ชอบ แค่เป็นอาชีพที่คิดว่าตัวเองสามารถอยู่กับมันได้ยี่สิบสามสิบปีก็พอ
ตอนอยู่มหาลัย เรื่องเรียนสำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าคือการฝึกคิด ฝึกแอตติจูด ฝึกบุคลิก ฝึกการเข้าสังคม soft skillทั้งหลายนี่เป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าความรู้อีกถ้ามึงไม่ได้อยู่ในสายอาชีพเฉพาะทางมากๆ ตัวอย่างเช่น ต่อให้มึงมีแผนงานที่ดีมากแค่ไหน แต่ถ้าไปพรีเซนท์งึกๆงักๆต่อหน้าผู้บริหาร เค้าก็ไม่เอางานมึง
พวกโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นเจ้านายตัวเอง เล่นหุ้น ขายตรง เล่นบิทคอยน์อะไรต่างๆนานาก็ขอให้ฟังหูไว้หู คนที่เล่นพวกนี้แล้วรวยมีจริง แต่พวกที่เล่นแล้วจนมีมากกว่านั้นอีก งานประจำกอดเอาไว้ให้แน่น ส่วนอื่นๆเก็บไว้เป็นรายได้เสริม/งานพิเศษ
อีกเรื่องคือความรับผิดชอบ เด็กเดี๋ยวนี้ชอบเฮโลไปเรียนพวกวิชาชีพเฉพาะ(หมอ วิศวะ บัญชี ฯลฯ) แต่กูไม่ชอบ การที่มันเป็นวิชาชีพเฉพาะเพราะมันเกี่ยวข้องกับผู้คนและทรัพย์สินจำนวนมาก ความรับผิดชอบของผู้ประกอบอาชีพก็สูงตามไปด้วย เช่น ถ้ามึงเป็นหมอ มึงต้องรับผิดชอบชีวิตคน ถ้ามึงทำพลาดอาจหมายถึงชีวิตของคนๆนึง มึงสามารถรับอะไรแบบนั้นไหวไหม? ถ้ามึงเป็นวิศวกรไปสร้างตึก แล้วตึกที่มึงสร้างถล่ม มึงรับผิดชอบไหวไหม?
ความรับผิดชอบของมึงมากพอที่จะรับความเสี่ยงเหล่านี้ไหวไหม ถ้าไม่ไหวก็อย่า กูยกตัวอย่างแบบมองโลกเลวร้ายมาก ความจริงมันมีระบบตรวจสอบอีกเยอะ แต่อยากทำให้เห็นภาพว่ารายได้ดีๆของอาชีพพวกนี้มันมาพร้อมกับความเสี่ยงนะ
มีเด็กจบใหม่ที่ไม่พร้อมรับเรื่องแบบนี้เยอะมาก ถ้าปรับตัวได้ก็ดีไป แต่ถ้าปรับตัวไม่ได้ก็ลาออกไปทำงานสายอื่นก็เยอะ ก็อยากเตือนเด็กๆก่อนเลือกเรียนว่าคิดถึงตอนทำงานด้วยแล้วกัน
แชร์อีกมุมมองนึงบ้าง กูทำงานที่กูชอบนะ ตอนนี้เรียนจบละกำลังทำ
กูอยากไปที่ทำงานทุกวัน เพราะที่ทำงานมันแฮปปี้มาก ของกินพร้อมมีมาม่า ไข่ ผัก ให้กินฟรี ใช้ครัวได้ตลอดเวลา แอร์พร้อม ของพร้อม เพื่อนร่วมงานดี๊ดี(ไม่มีวงจับกลุ่มนินทาอ่ะมึง กูฟินมาก มีแต่วงเม้าอะไรไร้สาระกับเม้าเรื่องงาน555) ทำงานเหมือนจะเครียดแต่เมาท์มอยทั้งวัน จะหยุดจะอะไรก็ได้ขอแค่บอกก่อน และงานต้องเสร็จตามเวลา ถ้างานหนักมากๆ ไม่ทันจริงๆ คนที่งานจะเสร็จหรือยังไม่ใกล้เดธไลน์จะมาช่วยกันทำ มีเบื่อบ้างไหมก็มี แต่พอเบื่อก็ไปหยิบการ์ตูนมาอ่านได้ ลงไปทำอาหารได้ ดูยูทูปในเวลางานได้ พอเริ่มมีไฟก็มาทำงานต่อ
บางครั้งเล่นเกมในเวลางานด้วยน้ำ แกนนำคือหัวหน้างาน ชวนแหกคอกบ่อยเหลือเกิน ข้อเสียก็ตรงบางครั้งทำงานไม่โดนใจลูกค้าแล้วต้องแก้อยู่นั่นแหละ แต่แก้เกินโควต้่าก็คิดเงินเพิ่มเลยไม่เท่าไร แต่ถ้าเจอลูกค้าที่บรีฟงานได้... นี่ก็น่าร้องไห้อยู่
ส่วนหมอกูมีพี่น้องเรียนหมอนะ ถามว่าตอนเข้าไปได้เตรียมใจเตรียมพร้อมกับเรื่องภาระไหมก็ไม่ เด็กอายุ18 ตอนนั้นก็แค่คิดว่าอะไรมั่นคง อะไรน่าจะทำให้ได้เงิน แต่พอเข้าไปเรียนจริง หมอเขามีวิชาพวกแนวละลายพฤติกรรม กับจริยธรรมนะ พี่กับน้องกูตอนนี้กลายเป็นคนนอนตรงไหนก็ได้ไปละ เพราะลงชุมชนบ่อยตั้งแต่ปีหนึ่ง กันดารมากๆ นอนบนดินมันยังหลับได้อ่ะ พี่กูกลายเป็นพวกนอนไม่ต้องเปิดพัดลมไม่เปิดอะไรทั้งสิ้นไปแล้ว5555 บวกความกดดันต่างๆ ปี 1-3 นี่อาจไม่เท่าไร แต่ปี 4 เริ่มทำงานในโรงพยาบาลเหมือนช่วงปรับตัวรุนแรง หลายคนไม่ไหวก็ต้องออก แล้วในรัฐแพทย์ระบบอาวุโสแรงอยู่นะ บางทีมึงร่มเคสกับคนที่อาวุโสกว่า แล้วเขาพลาดและมึงไม่ผิด แต่มึงจะถูกอีกคนด่าจนร้องไห้เลย เป็นแพะแทนเขา เพราะพวกที่อาวุโสเขาไม่อยากขัดขากันเอง เด็กจบใหม่เลยซวยแทนบ่อยๆ ต้องอยู่เป็นถ้าไม่มีที่ไป งานหนักถ้าเทียบกับเงิน เงินเดือนถ้าจำไม่ผิด 17000 มั้ง ที่เหลือค่าเวรที่ทำลายสุขภาพกายและจิตอย่างมาก ไหนจะเสี่ยงติดโรคจากผู้ป่วยอีก ต้องฉีดวัคซีนให้ตัวเองเยอะแยะกว่าคนปกติหลายตัวยาเพราะ รพ คือแหล่งเชื้อโรคดีๆ 55555 ที่หมอรัฐรวยกันกูว่าเพราะไม่มีเวลาใช้มากกว่า กูเห็นว่างก็นอนตลอด ไม่ทำอย่างอื่นเลย เอกชนนี่กูไม่รู้ว่าเป็นไง
>>547 เห็นด้วย เรื่องบรรยากาศ งานกุจริงๆแม่งเจอลูกค้าด่าทั้งวันแหละ แต่คือกุไม่ได้ไม่ชอบตัวงานรึที่มำงานเลยนะ
คนในแผนกแบบแม่งดีอ่ะ ไม่มีนินทา ไม่มีตีกัน สงครามเย็น แบบราชการ
บอกตรงๆตอนทำราชการว่างชิบหาย แต่เบื่ออยากออก สามเวลา แต่เอกชนที่ทำแม่งก้มหน้าทำงานงกๆเงยหน้ามาหกโมงละ
เงินเดือนกุพูดกันตรงๆ ถ้าบ้านมึงไม่ได้ติดลบ มีหนี้สิน + เลี้ยงพ่อแม่ เงินเดือนสัก 20k-30k อยู่สบายมากนะ
กุพ่อแม่ทำงานเงินเดือนเยอะกว่ากุ ทุกวันนี้ให้เงินเค้ากินหนมกับซื้อของขวัญ พากินข้าวนอกบ้าน ไม่ได้ใช้ไรมากมายอ่ะ
บ้าน รถ กุมีไม่ต้องไปเช่าห้องอยู่ ที่ทำงานก็ใกล้บ้าน คือแบบเงินเหลือๆเลยอ่ะ กุอยู่ กทม.นะ
กุว่าหลายคนเงินดือนเยอะแต่หหมดกับค่าหอ น้ำไฟ ซะเยอะ
>>547 เห็นด้วย บรรยากาศงานเป็นสิ่งสำคัญแต่ถึงยิ่งระบบงานอาวุโสนะเด็กๆ โดนด่าตลอดโดยเฉพาะลูกจ้าง หัวใหญ่ๆทะเลาะกันแม่งด่าหัวไม่ได้เลยด่าลูกน้องเค้า ลูกน้องก็โกรธสิว่ะสาปส่งอยู่ในใจแถมนินทาลับหลังสนุกปากแถมทำงานไปงั้นๆแหล่ะ พอสิ้นหัวโขนแล้ว ไม่มีใครแลเลยแบบว่าไม่เคยได้ใจลูกน้องไง จะยิ่งมันส์กว่านี้ถ้าเกิดการฟ้องร้องคดีทุจริตแล้วเค้าสืบย้อนหลังใครดำรงตำแหน่งช่วงนั้นมีเรื่องปวดหัวตอนเกษียณนี่แหล่ะมีลุ้นเอาว่าจะรอดไหมถ้ารอดก็ดี ไม่รอดก็อดได้บำนาญ
สิ่งที่จะทำให้ทำงานมีความสุขหรือไม่ไม่ใช้งาน แต่คือ "เพื่อนร่วมงาน" ซึ่งได้แต่สวดมนตร์ภาวนาอย่างเดียวเลย
กูหนีเพื่อนร่วมงานมาทำฟรีแลนซ์เองเนี่ย เลยเหลือแต่ลูกค้าไรก็ไม่รู้ ฮือ
เรียนจบมากูก็ยังไงแน่ใจเลยว่าชอบมั้ย แต่กูแค่ทำมันได้เรื่อยๆไม่เกลียดหรือเบื่อและมีเงินก็โอเคละ...
//จากก้นครัวเป็นห้องสยาม ตอนนี้ห้องไรละเนี่ย
เอาสายภาษามั่งมะ เนื้องานกูมันทำได้ทั้งฟรีแลนซ์ทั้งงานบริษัทน่ะนะ กูก็ทำมาทั้งอย่าง มันก็ทุกข์สุขไม่เหมือนกัน ฟรีแลนซ์นี่อิสระมากกกกก จะไปดูหนังวันพุธก็ได้ อะไรๆ ในชีวิตก็ประหยัดกว่า แต่ความทุกข์คือห้ามป่วยห้ามตาย ไม่งั้นชีวิตมึงจะขาดรายได้ทันที แถมถ้าเจอลูกค้างกเงินต้องไล่ทวงกันนี่ประสาทแดกมาก ทวงแล้วทวงอีกจนกูนี่หน้าชาเลอ
ส่วนชีวิตบริษัทนี่แล้วแต่ที่ว่ะ ข้อดีคือไม่ต้องห่วงเรื่องรายได้ ส่วนงานหนักกูไม่มีปัญหา แต่เพื่อนร่วมงานนี่เป็นประเด็น คือกูเป็นพวก introvert ไง แต่แผนกที่กูสังกัดเพื่อนร่วมงานเป็น Extrovert ต้องไปปาร์ตี้มีดริงค์ฟังดนตรีโยนโบว์มีกิจกรรมห่าเหวไรกันทุกสัปดาห์ เหนื่อยสัดๆ ทนไม่ได้ลาออกมาเตะฝุ่นแม่ง
>>551 น่าจะเป็นห้องปรึกษาปัญหาชีวิต 555555
สายศิลป์ออกแบบว่ะ เป็นผู้ชายด้วย
เคยทำมาทั้งฟรีแลนส์ทั้งบริษัทถ้าจะให้แจแบบ >>552 ก็ประมาณนี้
ฟรีแลนซ์ - ใช้ชีวิตเต็มที่ ไม่ต้องห่วงเรื่องตารางเวลาอะไรเลยเพราะแม่งจัดเองได้ทุกอย่าง ขอแค่งานเสร็จมึงจะทำอะไรก็ได้ เป็นฟรีแลนซ์นานมาก 9 ปีได้มั้ง แต่ช่วงหลังๆ ที่มีเครื่องพิมพ์ไวนิลมาดัมป์ราคาทำป้ายแข่งนี่เริ่มแย่ ต้องเฟดตัวออกมาหางานอื่น ตกร่องปล่องชิ้นมาจับได้งานบริษัท
พนักงานเงินเดือน - บอกตามตรงว่าปรับตัวนานพอสมควร 2-3 เดือนเลย ต้องตื่นเช้า แดกข้าวเป็นเวลา อิสระที่เคยมีขาดหาย เพื่อนร่วมงานเหี้ยๆ แต่ก็ทำใจอยู่ไป ตะทีนี้ด้วยความที่อ่านการ์ตูน หัวศิลป์ เขียนงานมาเยอะเลยมีสกิลภาษาและรูปแบบพรีเซนท์มากกว่าชาวบ้านเขา นายฝรั่งเห็นเลยชอบใจจับย้ายแผนกเลื่อนขั้นให้ซะงั้น ตอนนี้ก็เลยสบายมากกับงานบริษัทเพราะใกล้เคียงกับตอนที่เป็นฟรีแลนซ์ คือโดนจับมาเป็นฝ่ายซัพลูกค้า ตอบคำถาม ทำพรีเซนท์หรือบอกความจริงไม่หมดยังไงก็ได้เพื่อให้ลูกค้าพอใจสั่งออเดอร์ บางทีไม่ต้องเข้าบริษัทเลยก็มี
บอกตามตรงว่าที่พิมพ์ตอบตอนนี้ก็คอมบริษัทนะ
พวกมึงคุยอะไรเครียดกันจังวะ ตอนใหม่คาบุรากิน่ารักจังวะะะ ท่านจักรพรรดิผู้จริงจังขึงขังพึ่งพาได้!! *บวกแต้มความรักรัวๆ*
เป็นห้องศาลาประชาคมไปแล้ว ช่วงนี้คือช่วงปรับทุกข์ในหน้าที่การงานกันสินะ ถถถถถถถถถถถถถ
เออ ไม่ดิ ต้องห้องสีลมที่มันเกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือน ห้องศาลาประชาคมมันเอาไว้ร้องทุกข์ กูจำผิด โทษๆ
>>547 โม่งมึงแหกแล้ว //จับหมวกกันน็อคสวมทับมึงอีกชั้นนะ
ของกูที่เรียนมาเฉพาะสาย แต่จบไปแม่งไม่ค่อยมีคุณภาพ เฉไปสายอื่นซะเยอะ ค่อนข้างเหมาะกับพวกแอคทีฟตามข่าวสาร มึงต้องวิ่งตามเทคโนโลยีตลอด สายสล็อตแบบกูนี่จะร้อง อิเหี้ยเรียนตอนปี1 เป็นpython 2.x เพิ่งขึ้นปี 2 แม่งอัพเป็นpython3.x กูยังไม่ทันจบเลยนะ... ปรับเปลี่ยน syntax อีก ศึกษาวนไปค่ะ วนไป มีอะไรออกมาใหม่ก็ต้องไปเรียนรู้เพิ่ม
กูเครียดชิบหายเลย รอบพอร์ตเปิดรับแล้ว แต่กูยังทำพอร์ตไม่เสร็จเลย ไม่ถึงครึ่งด้วย ตายยยยย กูตายแน่
>>565 เอาจริงๆ พูดแบบอุดมคติก็คือไม่ว่าจบสายไหนมา ถ้าเป็นคนระดับครีมมี่หัวกระทิจริงๆ ค่าตอบจะสูงเสมอ ไม่ว่าสาย IT สายภาษา บัญชี ฯลฯ แต่มันก็จะลิมิตอยู่ซัก 5-10% ของส่วนบนๆ พูดแบบโลกไม่สวย ถ้าตระหนักว่าตัวเองอยู่แถวๆ ค่าเฉลี่ยคือควรเลือกคณะที่มั่นใจว่าจะไม่ตกงานแบบที่ท่านเรย์กะคิด พวกสายสุขภาพ บัญชี เฉพาะทางอะ
ช่วงโม่งแชร์ประสบการณ์
สมัยกูอยู่หอที่มหาลัยกูมีรูมเมท3คน ในห้องมี
กู-สินกำ
เมท1-วิศวะ
เมท2-บัญชี
เมท3-นิติ
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
เมท1จบไปอยู่แท่นเจาะขุดน้ำมัน บ่นว่าอยากออกจากงานแต่ไม่ได้ออกซะที
เมท2สอบผู้ตรวจสอบบัญชีผ่านแต่ชีดันได้แต่งกับผู้ฝรั่งเลยต้องมาทำร้านอาหารร่วมกับผู้จากนักบัญชีกลายเป็นเชพเพื่อผู้
เมท3สอบเนติดแต่ดันจับพลัดจัยผลูมาเป็นผู้จัดการโรงงานแห่งนึง
ส่วนกูจากพนักงานบรีษัทเสื้อผ้าไปฟรีเลนส์ออกแบบ ปัจจุบันเป็นเจ้ากิจการเล็กๆ
อยากจะบอกว่าเรียนอะไรก็เรียนไปเถอะมีสิทธิได้งานไม่ตรงสายเยอะมากอ่ะมึง
ทำไมมันมาไกลขนาดเน้ งั้นกูขอบ่นในฐานะเรียนคณะวิทย์ละกัน ถึงกูจะยังเรียนอยู่ก้เถอะ
กูเรียนด้านชีวะเพื่อหนีพวกวิชาคำนวน สุดท้ายก็เจอมันทุกปี ทำใจให้ชอบไม่ได้แม่งเหมือนอกจะแตกตายให้ได้ พวกหัวกะทิมันก็ชิลๆเว้ย ส่วนที่เหลือแม่ง ขนาดตอนปี 2 ยังครํ่าครวญว่าทำไมกูไม่ซิ่วอยู่เลย ชวนจิตตกแล้วอยากยอมแพ้ตามชิบหาย orz
ส่วนเรื่องทำงานไม่ตรงสายเป็นปกติของคณะไปแล้วว่ะ เหมือนอยากเรียนให้มันจบๆกันไปแล้วหนีไปทำอย่างอื่น ยังดีสาขากูมีใบประกอบโรคศิลป์
>>566 ของกูนะ เรื่องภาษาตอนนี้กูก็กลางๆแหละ แต่เรื่องสายวิทย์ พวกเรียนแล้วไม่ตกงานนี่ไปเป็นฐานให้คนอื่นแน่นอน แบบนี้กูควรไปเรียนภาษามั้ย 555
>>567 พวกบ่นอยากออกบ่อยๆมักจะอยู่นาน ส่วนคนที่อยากออกจริงๆไม่ค่อยบ่นแต่รู้อีกทีคือเห็นยื่นใบลาออกแล้ว 55555
ตอนเด็กๆกูอยาหเรียนมากนะวิศวะ อยากทำปิโตรด้วย ไปอยู่แท่น เกร๋ๆ จนกระทั่งกูมาเจอฟิสิกส์ กูเรียนพิเศษฟิสิกส์มาตั้งแต่ม.2แต่กูยังไม่เข้าใจมันเลย ฮือออออ
https://touch.pixiv.net/member_illust.php?mode=medium&illust_id=65237480
ความโชโจวิ้งวับนี่มันอะไรกัน
>>586 เป็นความผิดของโม่งแปลสินะ แต่เราจะไม่แตะขนโม่งแปลนอกจากหงอก ดังนั้นเราจะเอาอย่างอื่นแตะแทน
https://imgur.com/fz8ow83
ช่วงนี้มู้เงียบจัง...
นั่นสิ ไม่มีฟิคกาวเลย กูกระหาย
กูว่ากระทู้วิ่งเรื่อยๆ นะ บางวันเป็นสไตล์ห้องก้นครัว สยาม ปรึกษาปัญหาชีวิต แลดูคล้ายวงน้ำชาของเด็กซุยรัน 55555
คนแต่งฟิคเขาสอบกันรึเปล่ามึง 5555
เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนใหม่ก็มาแล้ว ไว้ค่อยเม้าตอนนั้น555
ใช่ไหมโม่งแปล?/มองด้วยสายตาปิ๊งๆ แต่ด้านหลังถือเทปกาวไว้พร้อมใช้งาน
จะว่าไปนี่ก็ใกล้ทันต้นฉบับแล้วนี่
สรุปตอนที่ 300 อาจารย์ประกาศดรอ---//โดนฟาดจากทุกสารทิศ
ฮว้ากกกกกกก~~~~~~
ตอนนี้นอกจากท่านพี่ใส่สูทแล้วยังมีเอ็นโจสอนหนังสืออีกเรอะ!!!!!!!
ชั่วช้าสามานย์ ชั่วช้าสามานย์ยิ่งนัก คิโชวอิน เรย์กะ ชาติที่แล้วเธอทำบุญด้วยอะไรรรร
อยากจะหวีดให้มากกว่านี้ แต่แปดโมงกูมีสอบ ฮรอลลลลลล/ท่องนิยามวนไปค่ะ
ตอนนี้ช่างก๊าวหัวใจกูเหลือเกิน ท่านพี่กับเอ็นโจสอนหนังสือให้เรย์กะ อะไรมันจะเป็นร่างแยกของกันและกันได้ขนาดเนร้ ท่านเรย์ก่าาา นี่ไงคะ ผู้ชายที่เหมือนท่านพี่ เป็นคนในสเป็คไม่ใช่เหรอ อยู่ใกล้แค่เอื้อมเอ๊งงงงงง
ที่ท่านพี่บ่นพึมพำตอนท้ายๆนี่คือพิษรักแรงหึงสินะ เห็นอิมาริโอบไหล่สาวไปถึงกับอยากยิงให้ตายเลย พวกจอมมารนี่ก็หึงโหดไม่แพ้กันเลยนะคะ ถถถถถถถถถถถถ
โอ๊ยยยยยยย กร๊าวใจอิช้อยยิ่งนัก!! มีเอ็นโจมาติว ท่านพี่มาติว คาบุมาวอแว ชีวิตเธอทำบุญด้วยอะไรมาาาา
ส่วนท่านพี่กับอิมาริ.... เราจะไม่กล้าเสี่ยงยุ่ง
ตอนท่านพี่พูดว่าตัวเองเหมาะกับเก็บงานอยู่เบื้องหลังนี่กูก็คิดว่าถ้าเป็นเอ็นโจโดนเรย์กะถามว่าทำไมไม่ขึ้นเป็นประธานก็คงตอบมาแนวๆนี้ ท่านพี่กับเอ็นโจนี่โคตรร่างแยกของกันเลยโว้ย
แล้วตอน 'ผมว่าผใจดีกับทุกคนนั่นแหละ' สบตากันแล้วหัวเราะหึหึนี่อะไรกันคะ คุณคิโชวอินมาอธิบายหน่อยค่าาา แล้วนั่งติวหนังสือด้วยกันนานสองนานนี่ยังไงกันคะคุณเอ็นโจ
กูอยู่เรือเอ็นโจนะแต่หลังมาๆกูรู้สึกถ้าท่านเรย์กะกับคาบุจะชอบกันก็ไม่น่าแปลกใจเลย แถมจะเป็นคู่ที่น่ารักมากด้วย ฮือ สองคนนี้อยู่ด้วยกันมันน่ารักมากๆๆ
>>621 กูก็เรือเอ็นโจ แต่ตอนนี้เริ่มกรี๊ดน้อยลงเป็นผลพวงจากจอมมารระเบิดตัวเองบ่อยจนตอนนี้คิดว่าเรย์กะคู่กับใครก็ได้แล้ว
ส่วนแปลล่าสุด ฮาท่านพี่ไอ้ที่ว่าอิมาริมาเป็นเป้าธนูยิงไม่พลาดแน่นอน ท่านพี่พูดเรื่องจริงได้โหดร้ายมากนึกถึงการปฏิวัติฝรั่งเศสประชาชนอย่างเดียวไม่ได้ต้องมีผู้มีอำนาจส่วนหนึ่งสนับสนุนด้วยนะเออ
กุว่าพวกน้องสาวคนเล็กมันต้องคู่กับพี่ชายคนโตด้วย. ลูกชายคนเดียวมักต้องคู่กับพี่สาวคนโต. มันถึงจะพอดิบพอดี
กูกรี๊ดๆๆๆ ตอนนี้มาเป็นแพ็คคู่ ท่านพี่และเอ็นโจพร้อมๆกัน กูเรือเอ็นโจแต่ยอมใจในความจอมมาร เห็นเรือแล่นเป็นไม่ได้โยนระเบิดลงทุกที ทุกวันนี้ต้องพายเอื่อยๆไหลตามน้ำ มีกาวและกัญชาเป็นเชื้อเพลิงหลัก ส่วนออฟฟิเชียลหรือ คืออะไรอ่ะ!?
ถึงโม่งแปล ประโยคทิ้งท้ายมึงดูให้กำลังใจ แต่ทำไมกูรู้สึกถึงไอมืดๆดำๆออกมาให้เสียวสันหลังวูบอ่ะ//กระซิก
>>623 สูตรเดียวกันเลยแฮะ กูเคยอ่านที่ไหนไม่รู้ว่ามีคนทำสติติคู่สามีภรรยาที่อยู่กันยืด ส่วนใหญ่จะไม่ใช่พี่คนโต-พี่คนโต หรือ น้องเล็ก-น้องเล็ก แต่จะไขว้กัน แบบคนนึงเป็นพี่คนโตอีกคนนึงมักจะเป็นน้องคนกลางหรือน้องเล็ก ลูกคนเดียวก็ต้องคู่กะคนที่มีพี่น้อง อะไรเงี้ย พอมาสังเกตดูคนรอบๆ ตัวก็เหมือนจะจริงนะ อาจจะเพราะนิสัยพี่-พี่ น้อง-น้อง มันจะคล้ายๆ กันแล้วเลยตีกันเอง
ยังงี้คุณน้องสาวก็คงได้คู่กับคุณพี่ชายจริงๆ น่ะสิ *ขัดถูดาดฟ้าเรือเอ็นโจ จงส่องประกายแวววาว แวววาว...*
จะว่าไป ท่านพี่ยิงธนูแม่นเพราะอิมเมจเทรนนิ่งกับแกนสมองของท่านอิมารินี่เอง 555
กูกรี๊ดท่านพี่กับอิมาริตอนนี้หนักมากบอกเลย กูรู้สึกถึงออร่า กลิ่นไอความหึงหวงที่ท่านพี่พวยพุ่งออกมาจากร่าง อิมาริก่อปัญหาให้ ยังมีหน้าไปโอบไหล่สาวเดินยิ้มๆจากไป ส่วนท่านพี่ต้องตามไปเช็ดปัญหาให้ แต่ยังไงท่านพี่ก็ยังตัดไม่ตายขายไม่ขาด อิมาริก็ดูภักดีเหลือเกิน จะมีใครกี่คนก็จะกลับมาหาท่านพี่ตลอด มีใครต่อใครคือจะยั่วให้ท่านพี่หึงใช่มะ ไปมอง อาเมอใส่อีก นี่มันผัวเมียละเหี่ยใจชัดๆ
กูฮาท่านพี่ เวลาอยู่ชมรมยิงธนู เล็งแม่นไม่มีพลาดเพราะนึกเป้าเป็นหน้าท่านอิมาริใช่ไหม ฤทธิ์ความหึงนี้ 5555
ตอนนี้กรี๊ดกร๊าดเหลิอเกิน ในที่สุดก็เป็นฮาเร็มท่านเรย์กะเหมือนชื่อกระทู้สักที กระซิกๆ ท่านเรย์กะค่ะ มีคนบ่นอิจฉาชีวิตม.ปลายของท่านแล้วนะ
กรี๊ดท่านพี่กับอิมาริมาก จนลืมพายเรือเอนโจแล้ว นี่มันแบบเดียวกับในละครหรือนิยายจีนประเภทจักรพรรดิ์เจ้าสำราญเลยนะ ถ้าสนมในวังตบกันคนมีหน้าที่ไปจัดการคือฮองเฮาตลอดดดดด โว๊ยยยยย ประกาศคบกันไปเลยไหมคะคู่นี้ น้องโดกิโดกิจนไม่มีใจจะอ่านหนังสือสอบแล้ว
>>630 กูกร๊าวกับคำว่ามงอาเมอมากๆ ประโยคนั้นพูดให้ท่านพี่เหรอออออ นึกภาพท่านพี่จัดการปัญหาบรรดากิ๊กของอิมาริจนหมดแล้วอิมาริมานั่งเจี๋ยมเจี้ยมต่อหน้า ยิ้มประจบเอาใจ บอกรักคำหวานๆ แต่ท่านพี่ปัดทิ้งหมด อิมาริก็ตามมากระดิกหางใส่จนท่านพี่ใจอ่อนยอมคืนดีครั้งแล้วครั้งเล่า ฮึ่ยยย ประกาศคบกันซักทีสิคะ จะได้ไม่เป็นภาระกองอวย
>>632 ก็ความหวานในอฟช.มันไม่ได้มีมากันบ่อยๆนี่มึ้งง สภานักเรียนก็รู้สินะว่าคนนี้เมียหลวง ถถถถถถถถถถถ
เอาจริงๆท่านพี่จะไม่สนใจก็ได้นะ อิมาริจะไปควงคนนั้น สาวๆตบตีกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องของท่านพี่เลย แต่ก็ยังไปตามแก้ปัญหาให้ หน้าที่เมียหลวงชัดๆ
ปล. กูต้องขออภัยที่ได้สะกดคำอ่านว่า mon amour ผิด จริงๆมันต้องเป็นมง นามูร์ต่างหาก คำนี้แปลว่า my love ใช้เรียกได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เรียกใครกันน้อออออออ
จะว่าไปสิ่งที่ทำให้ชีวิตมัธยมของท่านพี่กระอักกระอ่วนนี่เพราะมีท่านอิมาริใช่ไหม 555
ท่านพี่เปิดโหมดดาร์คมีคำหยาบหลุดมาด้วย
ส่วนเอ็นโจนี่มันอาร๊ายยทำไมทำตัวดีมาหลายตอนติดๆกันแล้ว!!?
บรรยากาศท่านเรย์กะกับฮาเรมของเธอนี่มุ้งมิ้งๆชื่นใจดีจริงๆ
กูคิดว่าท่านพี่นี่น่าจะเนื้อหอมกว่าอิมารินะ แต่ทำไมไม่เคยมีปัญหาเลย กูเคยดูรายการยุ่นที่เอาสาวๆไปรร.ชายล้วน แล้วมีหนุ่มหน้าม่อปากหวานมาจีบ สาวๆแกบอกไม่โอเคเลยคนแบบนี้ กูเลยคิดว่าจริงๆที่อิมาริหยอดนี่สาวๆจะโอกันจริงหรือเปล่า หรือที่จริงแล้วแกล้งทำเป็นตบตีแย่งอิมาริกันนี่เพื่อให้ท่านพี่มาออกโรง เพราะท่านพี่หาโอกาศคุยยากงี้ อารมณ์พอท่านพี่ออกมาสาวๆก็หยุดตี เสพโมเม้นท์กัน 555555
>>636 ช่วงแรกๆที่บอกท่านพี่คุยยากเลยต้องสร้างโอกาสเองเพื่อจะได้คุย ยังดูเป็นสาวโอโตเมะอยู่ แต่ช่วงหลังๆที่บอกหยุดตีกันแล้วเสพโมเมนต์นี่...ไหงดูเป็นฟุโจชิไปได้ล่ะ ถถถถถถถถถถ
จริงๆแล้วพวกหล่อนเป็นสาววายกันหมดสินะ มองการกระทำระหว่างท่านพี่กับอิมาริแล้วชื่นใจ กูว่าสมัยท่านพี่ต้องมีคนเขียนโดจินกับฟิคของสองคนนี้ แล้วเอาไปเวียนกันอ่านแบบลับๆแน่ๆ
แอบ KY นิดนึง กูแอบตกใจที่ท่านพี่บอกว่ายังไงก็ไม่เกิดปฎิวัติเพราะฝั่งโรงเรียนจะเลือกกลุ่มคนอภิสิทธ์แบบ Pivoine แน่นอน คือท่านพี่แอบเลือดเย็นอ่า ถึงจะเป็นมุมมองตามความเป็นจริงเลยก็เหอะ มิน่านายตัวสำรองถึงได้พูดปลงๆ แบบสู้ไปก็ไม่ชนะ สุดท้ายท่านเรย์กะนี่ใสสุดแล้วมั้ง นานๆ ทียังนึกผวาๆ กลัวโดนโค่นอำนาจอยู่เลย
>>640 ก็โรงเรียนสร้างโดยการสนับสนุนจากคนกลุ่มนี้ กูว่าไม่ได้เลือดเย็นอะไรนะ นักเรียนทุนได้มาเรียนก็เพราะเงินจากคนกลุ่มนี้จริงๆถ้ามีเรื่องอันฝ่ายไหนชนะก็เห็นๆอยู่ไม่ต้องคิดไรมากเลย คนมาขอยืมเงินใช้กับคนที่ถืเป็นผู้สนับสนุนโรงเรียน Pivoineนี่ถ้าผิดจะผิดในด้านเหยียดสิทธิมนุษยชนมากกว่าซึ่งโรงเรียนมักไม่ค่อยแคร์เรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้า
แล้วตามการ์ตูนที่เรย์กะแพ้ ไม่ใช่เพราะนักเรียนนอกมาปฏิวัติแต่เพราะเอ็นโจวกับคาบุรากิที่ใหญ่ที่สุด ไปอยู่ฝั่งเด็กนอกต่างหากเลยแพ้ แต่ท่านเรย์กะเหมือนจะกลัวอะไรผิดๆจนฝังใจไปละ 555
กูเข้าใจแล้วว่าทำไมเอ็นโจถึงทำท่าเหมือนจะจีบเรย์กะไปด้วย พร้อมกับอวยมาซายะให้เรย์กะไปด้วย จริงๆแล้วนางอยากจะ 3p สินะ แค่กๆ--- //กูขอโทษ กูผิดไปแล้ว มันความคิดชั่ววูบ ท่านพี่คะ อย่าเอธนูยิงกูนะ
กูสนใจที่โม่งบนๆคุยกันเลยไปหามา นิสัยลูกคนเล็กนี่ท่านเรย์กะเป๊ะเลย http://www.jatschool.com/index.php?route=module/pageview&path=1517&catagory=8#.WdSNGhkxXqA
ตอนนี้ท่านพี่ใช้โควต้าปรากฏตัวหมดแล้วมั้ง อ่านมา 200+ กว่าตอนพึ่งเคยเห็นท่านพี่พูดอะไรยาวขนาดนี้ เป็นบุญของแฟนคลับเหลือเกินค่ะ ไหนจะท่าชุดสูทหลังทำงานนั่นอีก /อุดกำเดา ชายผู้เป็นข้อยกเว้นทุกสิ่ง มาปุ๊บรงเรืออะไรกูทิ้งหมดเลยแปลงร่างเป็นจุลินทรีย์เกาะสูทท่านพี่อย่างเงียบๆ..
แต่คู่ท่านพี่อิมารินี่เหมือนคู่ผัวเมียละเหี่ยใจจริง คนนึงก็ออกไปลั้นลา โดนฟันกลับมา ท่านพี่ก็บ่นๆๆๆแล้วก็ไปตามกวาดล้าง แล้วอีกฝ่ายก็ง้อๆแล้วก็ไปลั้นลาต่อ (วนลูป)
อ่านๆไปท่านพี่ก็คล้ายเรย์กะนะ ตรงที่เก็บความคิดมาตลอดแต่พอหลุดนี่โคตรน่ากลัว เช่นท่านพี่หลุดว่าจะยิงธนูใส่หัวอิมาริ ส่วนท่านเรย์กะนี่มาแนวสาปแช่ง และหลุดลงมือเป็นบางครั้ง สองพี่น้องนี่โคตรเหมือนกันเลยนี่หว่า พอทำเสร็จก็กลับมาสร้างภาพเหมือนเดิม เหมือนไม่เคยทำอะไรแปลกๆมาก่อน
>>655 ถ้าลองเอาเหตุการณ์นั้นมาใช้กับพวกท่านพี่บ้าง
ตอนทั้งคู่พึ่งรู้จักกัน
อิมาริ:นายต้องคอยมาเก็บกวาดเรื่องผู้หญิงให้ผมอยู่เรื่อย เอาเป็นว่าเชิญทำร้ายร่างกายผมได้สบายเลยนะ
ท่านพี่:ตวัดตามองคมกริบ แล้วซัดเต็มเหนี่ยวเข้าที่ท้อง จากนั้นก็สบัดมือเบาๆ พึมพำว่าไม่ได้ออกแรงเต็มที่ตั้งนาน เดินออกมาพร้อมฉากหลังที่มีอิมาริกุมท้องอย่างสงบ
ต่อมา อิมาริก็กลายเป็น m แค่กๆ
กูทำสารบัญอาหารไล่ตามแปลไทยทันแย้ว //ชูมือ สนุกจังโว้ย!!!
อ่านสารบัญอาหารมาถึงยามะอิโมะ กูก็นึกถึงประสบการณ์ตอนเคยไปแดกไอ้ข้าวโทโรโระที่ว่านี่ตอนไปญี่ปุ่น เห็นเป็นสีขาวๆดูยืดๆ กูก็คิดว่าต้องอร่อยเค็มๆมันๆเหมือนชีสแน่นวล เลยสั่งมาแดกด้วยความมั่นใจ คำแรก...จืดสะแด่ว คำที่สอง...มันเป็นเมือกๆอ่า คำที่สาม...รู้สึกหยะแหยงง่า คำที่สี่...กูควรพอแล้วสั่งอย่างอื่นมาแดกแทน ไม่น่าลองของแปลกเลยกู ให้ใครแดกช่วยก็กินได้คำเดียวแล้ววางช้อนกันหมด แต่เห็นเขาว่าใส่โอโคโนมิยากิจะอร่อย ถ้าได้ไปญี่ปุ่นกูเดี๋ยวกูจะลองสั่งมากินใหม่
เห็นแล้วทำเอากูคิดว่าจริงๆเอ็นโจไม่ได้ชอบไอ้ยามะอิโมะนี่เลย แต่เห็นเจ้าแม่อยากกินก็เลยสั่งให้เขากินมากกว่า แต่ก็เป็นมโนของกูอะนะ จริงๆฮีอาจจะชอบก็ได้
>>662 เออ นี่เป็นอย่างหนึ่งที่กูไม่เข้าใจความอร่อยของมันเหมือนกัน ตอนไปกินร้านเนื้อย่างนี่มีให้สั่งเพิ่มราดมาบนข้าวด้วยนะ ยืดย้วยแหยะ กูสลดมาก เซนส์ของคนญี่ปุ่นที่ชอบกินอะไรยืดๆ แบบกระเจี๊ยบ นัตโตนี่เป็นอะไรที่กูเข้าไม่ถึงสุดๆ
แต่ตรงนั้นกูก็คิดว่าเอ็นโจสั่งมาเอาใจเจ้าแม่น่ะแหละ อุอิ
ตอนหารูป เห็นมันยืดๆกูก็นึกว่ารสชาติต้องแบบเดียวกับชีสเหมือนกัน อยากลองกินจังเลยน้า แต่พออ่านคำบรรยายรสชาติจืดๆ เป็นเมือกลื่น เหนียวๆหนึบๆ โอเค กูไม่อยากกินละ บรัยยยย
>>663 >>665 ช่วงไปเที่ยวญี่ปุ่นกูลองอะไรแปลกๆที่ไม่เคยได้กินในไทยอยู่เยอะเหมือนกันนะ อียามะอิโมะก็อย่างหนึ่งละ นัตโตะก็ด้วย ทำตามวิธีที่เขาบอกแบบนี้อร่อย ผลคือคำแรกกูวิ่งไปอ้วกละ ไม่ไหว เหม็นในปาก รู้สึกอึ๋ยๆกับไข่ดิบมาก เสียดายเงินนิดๆ
แต่อย่างพวกไอติมเนื้อม้า...รสชาติบอกไม่ถูกว่ะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความเป็นเนื้อม้าตรงไหน เหมือนไอติมวานิลามากกว่า ไปญี่ปุ่นงวดนั้นเหมือนไปเปิบพิศดาร ถ้ามีโอกาสอีกกูอยากลองไปกินไอติมรสชาติแปลกๆให้ครบนะ เก็บ trophy 55555555
เมื่อก่อนกูนึกว่านัตโตะเค็มนะ แบบอยากลอง แต่พอกินจริงๆแม่งขมชิบหาย 555
กูเคยได้ยินว่าไข่ญี่ปุ่นกินดิบๆได้ เคยมีใครลิ้มลองรสชาติไข่ดิบคลุกข้าวยัง กูอยากรู้ว่าเป็นยังไง
>>668 เคยกินกับหมูชาชู เอาหมูไปลวกจุ่มๆ แล้วเอาออกมาจุ่มๆไข่ดิบแล้วกิน ตัวไข่ดิบมันไม่ค่อยมีรสหรอก แต่เหมือนทำให้รสหมูละมุนขึ้น
แต่กูเคยอ่านเจอมาว่าการกินไข่ดิบไม่มีประโยชน์อะไรเลย นอกจากเสี่ยงกับแบคทีเรียเชื้อโรคฯลฯ เลี่ยงได้เลี่ยง ถ้าจะลองก็เลือกดีๆหน่อยเอาไข่สดๆสะอาดๆ
กลับเข้าห้องก้นครัวอีกแล้วเหรอ 5555555
>>668 ไม่เคยกินไข่ญี่ปุ่น แต่เคยกินไข่ดิบไทยกับข้าวสวยร้อนๆ ผลคือกูอ้วกจ้า แม่งโครตคาวเลย ขนาดหยิบเอาแพ็คที่มันเขียนว่าผลิตวันนั้นวันนี้แล้วนะ แต่ถ้าเป็นไข่ต้มแบบตานีหรือยางมะตูมกูกินได้สบายมากนะ ออกจะชอบด้วย ถ้าจะกินข้าวหน้าไข่ดิบเห็นเขาบอกให้ไปซื้อไข่ไก่ตามซุปเปอร์ญี่ปุ่น พวกนั้นจะเป็นเกรดกินดิบได้ กูยังไม่เคยลองเลย
ว่าไปแล้ว ตั้งแต่ทำสารบัญอาหารมากูยังไม่เคยเห็นท่านเรย์กะกินข้าวไข่ดิบเลยนี่หว่า ไม่แม้แต่จะพูดถึงด้วย ไหนบอกเป็นอาหารสิ้นคิดของคนญี่ปุ่นไง
กู 668 เอง กูเคยกินไข่ดิบของไทยนะ แต่เห็นคนญี่ปุ่นเขาเอาข้าวคลุกไข่แล้วใส่โซยุมาเป็นอาหารมื้อจริงๆ เลยคิดว่าจะมีอะไรสเปเชียลกว่าซะอีก555
เอาตอนใหม่มาทิ้งไว้ให้นะพวกตะเอง วันเสาร์ขี้เกียจตื่นเช้าจริงๆ ว่ะ
ป.ล. ดีใจได้ แต่ห้ามดึง แตะ ลอก ถอนขนบนร่างกายกู
กรี้ดดดดดด. โม่งแปลลล. นี่มันไฮไลตรึเปล่าค้าาตอนหน้าาา. ตื่นเต้ลลลลลล
แต่หลังจากผ่านความชอกช้ำผิดหวังมามากมายก็รู้สึกปลงว่าอาจจะไม่มีไรในกองไผ่สินะ 555. ที่ได้คงมีแต่ข่าวลือระหว่างท่านเรยกะกะคาบุ.
ปล. เบื่อเอ็นโจ ไม่ต้องเดินมาทางนี้เลยนะ
มีการถามถึงด้วยเว้ย! //ได้แค่นี้ก็เอา
แปลไทยตอนใหม่มาแล้วนะเพื่อนโม่ง ขอบคุณมากๆนะโม่งแปล
ปล.โม่งแปลลงแบบนี้แสดงว่าเสาร์-อาทิตย์ไม่ว่างใช่มั้ยเนี่ย?
อ่อ. โม่งแปลคิดว่านั่นคือพระเอกกะนางเอกรึ?
จับได้แล้วว. โม่งแปลอยู่เรือคาบุ คริๆๆๆ
จริงๆน้าา. สองคนที่สนิทสนมกันและเหมาะสมกันขนาดนี้. เชื่อไหมว่าเด๋วเอ็นโจต้องบังเอิญเห็นฉาก2 คนเคียงข้างเข้าสวนแล้วรีบปลีกตัวตามมา ฟันธง!
เอ็นโจ แกจงทำอะไรซักอย่างนอกจากรอยยิ้มลึกลับข้างยุยโกะณบัดนี้
สุดท้านก็โดนเล่นขนจนได้
อะฮ่า คอนเซปต์ท่านเรย์กะคือนกกางเขนเรอะ งี้ก็ไม่ได้สมหวังเองซักทีสิ ต้องทอดกายเป็นสะพานให้คู่รักอื่นเขาเหยียบย่ำอยู่ร่ำไป ยังงี้เป็นแพนด้าอาจจะดีกว่าก็ได้นะ ไม่ว่าจะไปอยู่สวนสัตว์ไหนมนุษย์ก็จะพยายามจับคู่ให้ได้ปั๊มลูกตลอดๆ 555
ไม่รู้ว่าบากะรากิระเบิดเรือตัวเองหรือติดไอพ่นดี อา แต่ฟิน
พอกุอ่านว่าบากะกับเจ้าแม่จะออกไปหาท่านอิมาริ ในหัวมโนทันทีว่าทั้งสองคนไปเห็นท่านพี่กับท่านอิมาริแอบมาทะเลาะกันเรื่องผู้หญิงของอิมาริ ถ้าคนแต่งมีความเป็นฟุหน่อย จะต้องมีฉากท่านอิปล้ำจูบท่านพี่ตอนท่านพี่งอน แล้วเจ้าแม่ก็จะเหวอรับประทาน
กูพุ่งขึ้นเรือคาบุแล้วนะ ดูมีหวังขึ้นมา 55555555
โอ้ว ยุยโกะโผล่มาแล้ว มีตบกันแหงๆ ตบกัน ตบกัน ตบกัน //ผิดเรื่อง
ที่คาบุทักว่าเป็นแพนด้านี่เพราะหุ่นคล้ายๆใช่มั้ย แล้วไปยืนข้างต้นไผ่อีก แพนด้าจริงๆด้ว....//สัญญาณขาดหาย
ยุยโกะโผล่มาแบบนี้ กูว่าตอนหน้ากูต้องได้รับความเสียหายทางใจอะไรบางอย่างแน่นอน อีเอ็นโจยิ้มรูปปั้นกรีกอีกแล้วรึ ต่างจากตอนเรย์กะบรรยายว่านายยิ้มให้พร้อมทำตาวิบวับไม่น่าไว้ใจเลย
>>676 กูบำรุงขนให้น้า ขนโม่งแปลจะได้อยู่คู่โม่งแปลให้โม่งซุยรันได้ถอนเล่นแก้เขินไปนานๆ
>>694 อ๊ะ แต่กูขึ้นเรือท่านพี่ไปพร้อมๆ กับเรือคานซังนะ ท่านพี่แม่งโคตรดีทำลายทุกกฎเกณฑ์ทุกลำเรือ มีช็อตปลดเนคไท ใส่แว่น สอนหนังสืออย่างอ่อนโยน ลูบหัว มางานก็ยังควงน้องสาวมาโชว์ ดีทุกสิ่งอัน ติดที่อิมารินี่แหละที่ชอบทำให้ท่านพี่เฉไฉคอยกดโทรศัพท์หาแทนที่จะดูแลน้องสาว 555555
ขอบคุณนะโม่งแปล ตอนนี้ก็ดีมากๆ
ถ้ากูเป็นเรย์กะกูจะจี้จุดเรื่องที่นางเคยบ้าคาบุรากิมากๆให้แฟนนางฟังนะ แต่ดูท่าท่านเรย์กะจะช็อคกับคำว่าแฟนเลยคิดไม่ทัน 55555
แต่ตอนนี้กูสงสารเอ็นโจเหมือนกันนะ ยืนยิ้มเป็นหุ่น ดูว่าที่คู่หมั้น (?) อ้อล้อกับหนุ่มๆ ส่วนเพื่อนสนิทดันตบหลังสาวที่ใส่ชุดเผยผิวเยอะๆ พาเดินออกไปในสวนกลางแจ้งในคืนทานาบาตะให้เห็นคาตาอีกตะหาก....
โอ้ยยย ใกล้จะตอนสามร้อยแล้วว อย่าบอกนะว่าไคล์แมกซ์จะเป็นการเฉลยปมเอนโจกลางงานคาบุรากิปาร์ตี้นะ!
ปล.รอกาวท่านพี่Xอิมาริอยู่นะคะอาจารย์-----
คิดอีกแง่ ผีพรายอาจจะอยากให้หึงแต่ไอ้ไก่อ่อนดันไม่หึงก็ได้นะ
ผีพรายเลยหรอวะ? 55555
เรือเอ็นโจจะไปรอดไหมวะ ยุยโกะมาทีไร รู้สึกอึดอัดทุกที
อยากรู้ว่าพงไปทำไรกันนน. คาบุกะเรยกะ
ใครแอบมาสปอยดกุที. กุแอบหวังว่ะ. ถึงแม้ว่ารู้ว่าจะต้องผิดหวังงง
กูไม่สนเรื่องคาบุเรย์กะแล้วว้อยยยน ฝั่งจอมมารน่าเผือกกว่าเยอะ
มึงงงง ท่านพี่ไปหาอิมาริใช่มั้ย ซิสค่อนยังไงน้องสาวก็แพ้แฟนสินะ
กูรับไม่ได้ ถ้าอ.จะชงขนาดยี้ก็แต่งเรื่องใหม่แยกไปเลย เราพร้อมดำน้ำติดตามท่านพี่ไป!
กูอยากอ่านมุมมองบุคคลที่สามในงานเลี้ยงโว้ยยยยยย 555
>>716 กูว่าถ้าเป็นมุมมองเด็กซุยรันขาประจำคงโคตรอย่างติดฟิลเตอร์ อา... วันนี้ท่านจักรพรรดินีก็ดูงดงามอีกเช่นเคย ชุดขาวดำช่างเข้ากับท้องฟ้ายามราตรีในคืนทานาบาตะจริงๆ อ๊ะ! ไม่ทันไรก็มีกลุ่มท่านๆ Pivoine รุ่นน้องเข้าห้อมล้อมท่านเรย์กะกันใหญ่ แววตายามที่พวกเขาเหม่อมองท่านเรย์กะช่างเศร้าสร้อยเหลือเกิน คงรู้ว่าเป็นดอกฟ้าที่เกินเอื้อมสินะคะ
อ้าว ไม่ทันไรท่านจักรพรรดินีก็เป็นฝ่ายผละออกจากกลุ่มมาก่อน ที่แท้ก็มาทักทายท่านที่เรียนอยู่ยูริมิยะ ช่างเป็นที่รู้จักกว้างขวางจริงๆ ค่ะ หัวเราะต่อกระซิกแลดูสนิทสนมกันดีนะคะ แต่ดูท่านเรย์กะซึมๆ ไปเล็กน้อย เพราะอะไรกันน้า... อ้าว! พอท่านจักรพรรดิเดินมาหา ท่านเรย์กะก็แลดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาเลยค่ะ! มีหน้าแดงสะบัดหน้าง้องอนด้วย อุหุหุหุ แต่กิริยาที่ท่านเรย์กะเหลือบมองดูท่านเอ็นโจอย่างเศร้าสร้อยแวบหนึ่งก่อนจะโดนท่านคาบุรากิเดินโอบไหล่ออกไปในสวน (ใส่ฟิลเตอร์) ก็ไม่พ้นสายตาฉันไปได้หรอกนะคะ เดี๋ยวจะตามรีพอร์ตแบบไลฟ์ต่อไปค่ะ!
จากห้องแชทปริศนาของเด็กซุยรัน
กูรอไม่ได้เลยไปดำน้ำมา ตอนหน้าแม่งพีคชิบหาย กูนั่งขำนานมาก555555555555
กรี้ดดดดด กุอยากรู้วววว
สปอยล์มาทีเถ้อออออ ><><><
♕ สนธิสัญญา ♕
1) สปอยล์ได้ แต่รบกวนเตือนและจุดลากยาวทุกครั้ง(อย่างน้อย7-8บรรทัด) ช่วยป้องกันให้คนที่ไม่ต้องการอ่านสปอยล์เนื้อเรื่อง
1.1) ไม่สปอยล์เนื้อหาที่แปลไทยใกล้จะถึงแล้ว
เตือนจ้ะ ตกลงกันแล้ว อีกตอนเดียวเอง อดทนหน่อย
อีกไม่กี่วันเองมึง สู้ๆ //เกาะขนหน้าแข้งโม่งแปลที่พริ้วไสวจากการบำรุง
รอตอนหน้าสุดๆเลย /หวีขนให้โม่งแปล
จริงๆที่ยิ้มนี่อาจจะอารมณ์แบบเสียหน้าหน่อยๆแต่ก็ทำไรไม่ได้ จะห้ามก็ไม่ได้ จะไปก็ไม่ได้อีก จอมมารหนออออ
ส่วนบากะนี่โคตรไม่ไว้ใจอิมาริเลย พอเรย์กะบอกจะไปหาอิมาริก็เลยไปด้วยแบบว่าปกป้องไรงี้อ่อ #ติดฟิลเตอร์
ปล.จริงๆเรือจอมมารแต่ตราบใดที่ข้างกายไม่ว่างเราก็ยกให้คนอื่นๆไป จริงๆบากะก็ดีนะ
เคๆ กุรอโม่งแปลล.
แต่โม่งบนๆบอกขำมากก. สรุปเป็นคอมเมดี้ไม่ใช่โชโจวสินะ. ปรับอารมณ์นิดนุง
กุอยู่เรือคาบุแม้ว่าความหวังจะริบหรี่ก็ตาม ไปเล้ยยยคาบุ ฉันเลือกนาย ตอนหน้าขอให้มีความคืบหน้านะ!!
ที่คาบุรากิกลัวนี่เพราะโดนจีบแน่ๆ ท่านอิมาริน่าจะเหมาชายหญิง หลวงคือท่านพี่ ที่ยังซึนบวกเอส
กุว่าความสัมพันธ์ของเรย์กะกับคาบุเหมือนต่างฝ่ายต่างสนใจกันและกัน แต่ท่าเยอะทั้งคู่ ถึงเจ้าแม่จะวางตัวห่างๆรักษาคอนเซฟอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ(กลัวบ้านล่มจม)มาตลอด แต่คาบุอารมณ์ดีไม่ดี เจ้าแม่รู้แจ้งหมด ส่วนคาบุทั้งๆที่บรรยายว่าเป็นพวกโนสนโนแคร์ แต่ก็ชอบสังเกตุเรื่องเล็กน้อยของเจ้าแม่ แม้ว่าที่ฮีสังเกตุได้จะมีแต่ข้อเสียบ้างมโนบ้าง หาเรื่องเอามาจิกเจ้าแม่บ้างก็เหอะ แต่ถ้าไม่สนใจจริงๆฮีก็ไม่น่าแม้แต่จะแลเล
นี่กุลงเรืองคาบุเต็มตัวละ ไม่ใช่อะไร แต่กุแค่คิดว่า
.
.
((กันไว้ก่อนเผื่อกุสปอยล์พวกเมิง))
.
.
.......ถ้าคนเขียนไม่ปักธงฮีเป็นพระเอกก็น่าจะอาศัยจังหวะที่ฮีไปชอบวาคาบะลดแอร์ไทม์ของฮีป่าววะ
แต่นี่ผูกเรื่องให้คาบุชอบวาคาบะแล้วอันเชิญเรย์กะมาเป็นที่ปรึกษา เพิ่มโอกาสให้ฮีได้ใกล้ชิดเรย์กะมากขึ้นซะงั้น
กุว่า คาบุแมร่งนกวาคาบะแน่นอล เพราะตอนนี้วาคาบะมีเจ้าแม่คอยปกป้อง คาบุเลยทำคะแนนพระเอกให้นางซาบซึ้งเหมือนในมังงะต้นฉบับไม่ได้ เท่าที่อ่านๆมากุว่าวาคาบะก็เหมือนไม่ค่อยอินกะคาบุเท่าไหร่
.
.
.
.
.(สปอยล์)
.
.
.
.
ล่าสุด(298) เจ้าแม่มีนอยเล็กๆที่คาบุนัดวาคาบะเดทแล้วไม่รีพอร์ทนางด้วยนะเว้ยยย
กุว่าจริงท่านพี่กับวาคาบะน่าจะไปกันได้ดีนะเว้ย
ท่านพี่ดูทำงานจริงจัง กุว่าวาคาบะน่าจะชอบคนแบบนี้มากกว่าคาบุ
มโนว่าพอไปเดทกันหลายๆที ทั้งคาบุทั้งวาคาบะอาจจะรู้ตัวว่าไม่คลิก คาบุรู้ตัวว่าชอบเรย์กะไรงี้ 555
ส่วนเอ็นโด กุว่าออร่าพระรองเปล่งประกายมาก กุว่าฮีเป็นหัวหน้าทีมคาบุเรย์กะเลยนะ
กูรับได้นะถ้าสุดท้ายเรือคาบุเข้าวินอ่ะ
แบบเวลาปกติก็เป็นจักรพรรดิจักรพรรดินีทัวร์บริโภค ยามศึกก็กลายเป็นทรราชกับเจ้าแม่กาลีร่วมกำราบศัตรู
แต่กูสงสารเอ็นโจ โลกโน้นก็พระรอง โลกนี้ก็พระรอง แถมโลกนี้มีผู้หญิงที่ตัวเองสลัดไม่หลุดมาติดพันอีก ถ้าไม่มีเรย์กะนี่มีหวังโดนจับแต่งแน่ๆ กูสงสารเค้าาาาาา
กูเรือเอ็นโจ กูโอเคถ้าคาบุจะเข้าวิน แต่ขอให้เอ็นโจมีความสุขด้วยเหอะ กูสงสารเขาที่ได้แต่ยิ้มขื่นๆหรือยิ้มเป็นรูปปั้นตลอด อยากให้ยิ้มจากใจ ยิ้มแบบมีความสุขน่ะ แต่กูก็คิดว่าเอ็นโจออร่าพระรองแรงมากๆเหมือนกัน ถถถถถถถถ
>>745 โลกโน้นเพื่อนพระเอก พระรองคืออาริมะต่างหาก ถึงจะจืดจางแต่ก็เป็นพระรองของคิมิดอลนะเว้ยย 55555
เออจริง กูว่าโลกนี้คาบุอาจจะไม่ได้คู่กับวาคาบะจังว่ะ ในคิมิดอลที่คู่กันเพราะเรย์กะคอยตามราวี เป็นอุปสรรครักระหว่างเรา ยิ่งเพิ่มความอาลัยอาวรณ์ความเป็นห่วงของคาบุในการปกป้องวาคาบะจากเหล่าร้ายเข้าไปใหญ่ พอโลกนี้ท่านเรย์กะไม่ตามราวี แถมชิงดูแลตัดหน้าก่อนคาบุเกือบทุกอย่าง กลายเป็นว่าวาคาบะยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้แล้ว มีความมั่นใจในการอยู่ซุยรัน โล่จักรพรรดิที่ได้มาก็เลยไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก อย่างว่ากุว่าวาคาบะน่าจะเริ่มรู้ความรู้สึกคาบุแล้วแหละ กูว่านางคงไปคู่กับอาริมะมากกว่า ถ้าอีเวนท์ยังไม่บีบบังคับอยู่แบบนี้
>>747 กูว่านางไม่เริ่มรู้หรอก นางรู้ตั้งนานแล้วว่าเขาจีบ คันตะก็รู้เลยทัก แต่นางตอนนั้นคงไม่กล้าคิดอาจเอื้อมมั้ง ไม่กล้าเข้าข้างตัวเองด้วย ไปๆมาๆคาบุมันเช้าถึงเย็นถึง แสดงออกนอกหน้าว่าจีบนะ นางก็คงคิดว่าลองๆดูก็ไม่เสียหลายมั้ง คาบุมันก็เป็นคนดี เทคแคร์นางดี ก็ขอศึกษานิสัยก่อนก็แล้วกัน หลายคนว่าคาบุไม่ได้แสดงนิสัยจริงๆที่เป็นข้อเสียให้วาคาบะเห็น กูว่าวาคาบะก็ไม่ได้แสดงข้อเสียให้คาบุเห็นเหมือนกัน
แล้วธรรมชาติผู้หญิงเนี่ย รู้ว่าผู้ชายจีบ ถ้าไม่ใช่พวกหลอกแดกจะกินฟรี และไม่มีใจให้เลยก็คงไม่ไปว่ะ อารมณ์แบบถ้าไม่ชอบก็ไม่อยากให้ความหวังกันอะ กูว่าวาคาบะนางมีใจอยู่นะ ช่วงนี้คงอยู่ในช่วงศึกษานิสัยกันมากกว่า แต่เพราะอะไรๆในเรื่องมันช้า มันก็เลยดูเอื่อยๆไปหมด
เอ้ออ. กุชอบคาบุ. แต่ๆๆ. กุไม่เห็นวี่แววความรักระหว่างคาบุเรยกะเลยซักนิด. คือคาบุมันไม่ใช่คนที่จะเปลี่ยนใจอะไรง่ายๆนะ ความมุ่งมั่นเบอร์นั้น. ถึงแม้ว่าจะยากเย็นแค่ไหนคาบุมีแต่จะมองว่าต้องทำให้ได้นั่นแหล่ะ
อีกอย่างถึงเคมี2 คนนี้จะเข้ากันแค่ไหน มันก็เป็นการเข้ากันแบบคอมเมอดี้ คู่หูคู่ฮาอ่ะ. นิสัยมันเด็กๆทั้งคู่คล้ายกัน. เหมือนปลั้ก ต้องคู่กับเต้าเสียบอ่ะ จะมาคู่กันอินเลิฟมันดูขัดๆ. อย่าหาว่ากุยิงระเบิดใส่เรือคาบุเลยนะ 555
อย่างที่บอกกุชอบคาบุเรยกะนะ แต่ไม่ใช่แนวรักๆใคร่ๆอ่ะ กุมโนว่าต่อไปคาบุอาจจะเรียก "เรยกะ" แทนคิโชวอินก็ได้นะ 555. เพราะสนิทกันเบอรนั้น อิอิ. อีกอย่างจากสปอยล์
.
.
.
.
.
.
ตอนที่ 298 คาบุยังจีบวาคาบะอยู่เรยนะเฟ้ย! ป่านนี้แล้วจะยังไม่รู้ใจตัวเองเชียวรึ
.
.
.
.
.
จบสปอยล์
>>749 กูแอบรู้สึกว่ามึงยิงนิดๆว่ะ ไม่เรือนี้ก็ไม่เรือนี้แต่อย่าฟันธงได้มั้ยว่าคู่นี้ไม่มีทางได้กัน
ส่วนตัวกูรู้สึกวาคาบะมีแนวโน้มจะชอบคาบุ อย่างคาบุโดนทำลายอีเวนท์จนเจอวาคาบะช้าก็ยังเข้าชะตาเดิมๆว่าไปตกหลุมรักสาวเจ้าเข้า ดังนั้นกูว่าสุดท้ายถึงเหตุการณ์จะเปลี่ยนนิดหน่อยแต่ก็จะเข้าทิศทางเดิม ขนาดคาบุไม่มีอีเวนท์ปักธงวาคาบะก็ยังดูรู้สึกดีกับคาบุหน่อยๆ กูว่านางรู้ว่าคาบุจีบตอนนี้ก็เลยคอยศึกษาดูใจไปเรื่อยๆว่าโอเคมั้ย ซึ่งในคิมิสองคนนี้เคยรักกันมาแล้ว ถ้ารักกันนอกจากอีเวนท์ปักธงแล้วก็ต้องรักกันที่นิสัยด้วย ถ้ารู้จักนิสัยกันจริงๆกูว่าสุดท้ายวาคาบะก็ตอบรับคาบุ นอกจากวาคาบะจะรักคนอื่นก่อนที่จะรักคาบุเช่นท่านเรย์กะ เป็นต้น
>>750 ยูริรูทสินะ กูว่าควรเตะแท็กโชโจออกแล้วเอาแท็กยูริไปแปะแทนได้ละ ถถถถถถถถถถถถถถ
กูก็เห็นด้วยนะ วาคาบะนางรู้ว่าเขาจีบก็ดูไม่ได้รังเกียจอะไร ให้โอกาสด้วยซ้ำ ยอมไปไหนมาไหนสองต่อสอง ถึงมีปฏิเสธบ้างก็เหอะ แต่ก็ยังไปกับเขานะ ช่วงนี้ก็คงอยู่ในระหว่างดูใจคุยกันไปเรื่อยๆนั่นล่ะ ถึงไม่มีเรย์กะคิมิดอลมาคอยสร้างความร้าวฉาน แต่คนเราบนโลกมันก็ไม่ได้จะคบกันเพราะอุปสรรคหรือเขาคอยตามปกป้องกันไปหมดทุกคู่ซักหน่อย
อย่างกูกับแฟนกูหน้าตาถูกใจ นิสัยเบื้องต้นก็เข้ากันได้ เขาเลยเอ่ยปากว่ามาลองคบหาดูใจกันก่อนมั้ย คุยๆกันก่อนก็ได้ไม่ต้องเป็นแฟน ไม่ชอบก็แยกย้าย พอแน่ใจว่าโอเคก็ตกลงเป็นแฟนกัน ก็ราบรื่นดีไม่ต้องมีนางร้ายมากรี๊ดๆสร้างอุปสรรคให้รักกันแน่นแฟ้นแบบในโชโจมังงะ หรือมีพระรองแสนดีมาคอยตามเทียวไล้เทียวขื่อ แต่ก็ฟังดูจืดๆเหมือนกันนะ ชีวิตรักของกูโครตราบเรียบเลย 55555555555555555
กุว่าที่นิสัยคาบุ เรย์กะมันเด็กๆ เพราะแสดงความเป็นเด็กใส่กันด้วยป่าววะ คือกับคนอื่น 2 คนนี้จะมีฟอร์มพอสมควร (จริงๆเรย์กะนางก็ไม่ค่อยมีฟอร์มหรอก) เรื่องยังเพิ่งถึง ม.ปลาย ซุยรันมีมหาลัย กุว่าคนเขียนมีเวลาในเรื่องอีกเยอะว่ะ เท่าที่อ่านมา กุว่า เรย์กะ กับคาบุ มีคาแรคเตอร์ ดิวิลอปเมนท์ เยอะสุดในตัวละครทั้งหมดแล้ว
เอนโจบุคลิกตั้งแต่ประถมถึง ม. ปลาย เหมือนเดิมเลย แถมมีว่าที่คู่หมั้นสลัดไม่หลุดอีก ท่านเรย์กะดูเป็นพวกมีศักดิ์ศรี ไม่แย่งกับใครอ่ะ ถ้าเอนโจไม่เคลียเรื่องคู่หมั้น ยังไงก็ท่านเรย์กะก็ไม่เอา ถ้าเผลอๆเรย์กะแมร่งเกี่ยวคู่หมั้นเอนโจมาเป็นเพื่อนหญิงได้นี่เรือจมแน่นอล ที่เรื่อคาบุยังวิ่งได้ก็เพราะวาคาบะจังไม่ได้แสดงท่าทีว่าชอบคาบุเท่าไหร่ แต่ดูๆไป กุว่าถ้าว่าวาคาบะจังชอบคาบุ เรือคาบุก็เตรียมจมอ่ะ
กูลงหมดทุกเรือ! ตั้งแต่อ่านท่านเรย์กะมาสองร้อยกว่าตอน กูไม่สามารถคาดเดาใจฮิโยโกะซามะได้อีกแล้ว กูรักทุกเรือไม่เว้นแม้แต่คานซังสุดหล่อ
>>749 (298) จีบวาคาบะแต่โทรหาเรย์กะตอนอยู่กับวาคาบเจังนะเว้ย ทำไมต้องเลือกเวลาโทรตอนนั้น แถมกุว่าที่ไม่รายงานเรย์กะเรื่องเดทนี่ก็น่าสนใจ ความเป็นไปได้อันแรกคือฮีรู้สึกว่าฮีไปต่อเองได้ ไม่ต้องปรึกษาเรย์กะแล้ว อันที่2คือฮีไม่ได้ดีใจ ตื่นเต้นที่วาคาบะยอมไปดูดอกไม้ไฟด้วยมากมายเหมือนเดทแรกๆ ฮีเลยไม่ได้แชร์ความสุขของฮีกับเรย์กะ แบบฮีก็วางแผนตามสเตปไปเรื่อยว่าจีบสาวต้องแบบนี้ๆนะ แต่เหมือนความ enthusiastic มันค่อยๆลดลงว่ะ ตามประสาผู้ชายมั้ง
เดี๋ยววววว กูไม่ได้เป็นคนเริ่มประเด็นขนๆ มีคนมาดึงขนหน้าแข้งกูก่อน โปรดอย่าผลักไสเฟติชประหลาดๆ ให้กู๊!
บำรุงทรีตเมนต์อะไรเท่าไหร่ไปก็รอตอนใหม่วันจันทร์นะเคอะ ถามว่าพีคไหม ก็ว่าก็พีคนะ.... ในหลายๆ แง่....
กูว่าท่านฮิโยโกะโคตรเก่งเลยนะ เป็นเรื่อง Tag Love ที่ลากยาวมาเกือบสามร้อยตอนคู่หลักยังไม่มีใครสมหวัง อยู่กันไปแบบเรื่อยๆ เปื่อยๆ แดกจนอ้วนแล้วก็ไดเอ็ทใหม่เหมือนชีวิตจริงกูเลย...
กุก็ได้หมดถ้าสดชื่น แม้แต่คานซัง 555
กูไปนอกมาสามอาทิตย์กลับมาเจอกระทู้ใหม่(ไม่แปลกใจ)และการถอนขน
ขอถามหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นวะ?
ตอนใหม่นี่ กุว่าคาบุแม่งโคตรซึน
เค้าคุยกันเรื่องแฟน พอเรย์กะซึมปุ๊ปพี่แกเข้าหาปั้ป
ฮั่นแหน่ รู้เลยนะท่านจักรพรรดิ5555
>>770 กูว่าคงเป็นฝั่งอิมาริที่ร้องไห้ฟูมฟายว่ะ ประมาณว่าโดนสาวแทงแล้วทรุดลงไปเลยรีบหันไปหาเทพมาร
อิมาริ : ช้าก่อน สะต๊อปปุทากะจัง คือไม่ใช่นะ แบบว่านี่น่ะเข้าใจผิดนิดหน่อยน่ะ ใจเย็นๆอย่าพึ่งกระทืบซ้ำนะ คืออย่างน้อยก็ขอให้ได้พูดแก้ตัวก่อนเถอะ!!!
ทาคาเทรุ : หืม? (ใบหน้าเฉยชา)
อิมาริ : ห้านาที!!! สงบสติแล้วฟังเรื่องราวสักห้านาทีนะ!!!
ทาคาเทรุ : ห้า
อิมาริ : ใช่ๆห้านาทีๆ
ทาคาเทรุ : สี่...สาม...
อิมาริ : (เชรี่ยยยยยยย)
>>769 กูนึกภาพเป็นอิมาริทำให้ท่านพี่เคืองอะไรสักอย่างพอชวนเที่ยวในวันคริสมาสต์ด้วยกันเลยปฏิเสธ อิมาริจากที่คาสโนว่าอยู่แล้วก็อัพเกรดเป็นซูเปอร์คาสโนว่า หว่านจีบป้อนคำหวานเกินลิมิตจนสาวตบกัน ระหว่างท่านพี่ไปเคลียร์ให้ สาวยันเดเระนางหนึ่งก็แทงอิมาริจนเลือดท่วมหมดสติ
ตัดฉากมาอีกทีตอนอิมารินอนสลบในโรงพยาบาล ท่านพี่ยืนข้างเตียงเงียบๆมือข้างนึงพาดเสื้อนอกที่ชุ่มไปด้วยเลือด คิดอยู่แล้วว่าสักวันต้องมีวันนี้แต่พอเจอจริงๆใจกลับวูบโหวงอย่างประหลาด
ต้องขอบอกว่านี่เป็นกระทู้ที่แปลกมาก ปกติถ้าเรื่องไม่วายแล้วสาววายจับตลค.มาจิ้นกัน โม่งผู้ชายจะต้องรังเกียจไล่ให้ไปไกลๆ แต่อิคู่ผัวเมียละเหี่ยใจนี่กูยังไม่เห็นใครคัดค้านเลย ความคาน่อนนี้ 5555555555555555
..."จะให้พวกกูเอาอะไรมาค้าน"
ลงชื่อโม่งชายซุยรัน
แต่กุว่าถ้าวายจริงอิมาริไม่น่าจะเฟลิทกับหญิงนะ กุมีเพื่อนเกย์ /ยิงเรือ
คานซังนี่หล่อสุดวินสุดในเรื่องแล้วนะ มึงยอมๆยกท่านเรย์กะให้เค้าไปเหอะ//ปลูกขนหน้าแข้งโม่งแปลหน้าหมู่บ้านคาน
ท่านอิมาริก็บอกว่าน้องชายตัวเองไม่น่ารัก หรือจะเป็นพวกไม่รับมุขพี่ชายว่า พูดอะไรมาทำหน้านิ่งแบบไซตามะใส่
กุก็อยากให้รุ่นพี่ประธานกลับมามีบทอีกรอบ เข้ามหาลัยจะได้เจอกันไหมเนี๊ยะ
ประธานก็ได้นะ กุพร้อมลงเรือทุกลำ
คู่หลักอฟช.นอกจากนายบ้าหมา-เบียทริช ท่านพี่-อิมาริแล้ว ยังมีท่านไอระ-ยูริเอะอีกนะ! ....ทำไมไม่มีคู่นอมอลเลยวะ?
กุฟินคู่ไอระ-ยูริเอะมักๆ
>>799 แต่นี่ก็คู่รองหมดเลยนะ หรือว่าเจ้าแม่จะเอาดวงความรักไปแจกคนรอบข้างหมดแล้วจริงๆ วะ ถถถถถภถ นี่ทุกวันนี้กูยังคาใจเรื่องนารุคุงอยู่เลยนะ ออกมาทำไมหว่า เงาโคตรจาง ตอนแรกเหมือนจะโยงถึงปมอดีตในชาติก่อน แต่ดันหายไปดื้อๆ ซะงั้น ไม่ปล่อยให้เจ้าแม่ได้พูดจาด้วยซักคำ
800 แล้ว ตั้งชื่อมู้ด้วยนา
งานเลี้ยงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแท็กเลิฟที่หายไป...
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสังเวียนความรักของจักรพรรดินี โอ้! ทรุดลงไปแล้วครับ! [ขน 21 เส้นสุดท้ายของโม่งแปล]
ทำไมพวกมึงถึงวนเวียนกับเรื่องขน!!!!
อีพวกข่ลเฬวววววว //เอาพัดไล่ตีมือ ซักวันกูจะไปทำเลเซอร์กำจัดขน ระหว่างนี้ห้ามยุ่งกับขนต่างๆ บนร่างกายกู และห้ามมีคำว่าขนในชื่อกระทู้ว้อย ใครไม่เชื่อขอให้ตกเป็นทาสฮาเร็มของคานซังโดยที่ไม่มีอะไรมาลบล้างได้!
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับความหวังที่ยังเหลืออยู่ เจ้าชายของฉัน! อยู่ที่ไหนกันคะ!!! [รถด่วนขบวนที่21]
เห็นโม่งบนๆ พูดถึงอิมเมจ ในจินตนาการพวกมึงท่านพี่กะท่านอิมาริหน้าตาประมาณไหนวะ ของกูจิ้นหน้าท่านพี่ไม่ออก เวลาอ่านจจะจินตนาการเป็นคำว่าหล่อแล้วมีแขนยื่นมาตบหัวน้องสาวแปะๆ ยิ้มใจดี อะไรทำนองนี้ ไม่ว่าจะเค้นสมองยังไงกูนึกหน้าท่านพี่ไม่ออกเลย ส่วนท่านอิมาริกุมักจะคิดว่ามันผมสั้นๆ เสยขึ้น
กูนึกหน้าท่านพี่เป็น2D ผมสีอ่อน
อิมาริกุนึกหน้าไม่ออก lol แบบว่ากุไม่ค่อยชอบพวกคลาโนว่าปากหวานเรื่อยเปื่อยไปทั่ว
กุอยากเพิ่ม tag food and travel ให้เลย อ่านแล้วอยากตามรอยท่านเรย์กะ
ขอสครีมแบบ Spoil ใครอ่าน Spoil มาสครีมเป็นเพื่อนกรุหน่อย
.
.
.
.
.
.
.
.
คือ กรุอ่านตอนที่คาบุเดทกับวาคาบะแล้วเล่า/เขียนอีเมล์ให้เจ้าแม่ คือแบบ มึง ในตอนนั้นรู้สึกว่า เหนือกว่า Friend zone ยังมี Mom zone คาบุเหมือนเด็กอนุบาลที่ตื่นเต้นกับการไปโรงเรียน แล้วกลับมาเล่าให้แม่ฟังมาก เจ้าแม่ก็แบบ กุก็รับฟังตามหน้าที่ค่ะ บวกดีใจที่ได้เห็นลูกนกโบยบินออกจากรังได้ อา ความจริงกุเรือเอ็นโจนะ แต่เห็นเรือคาบุมุ่งเข้าน่านน้ำ Mom zone แล้วเศร้าใจ
ว่าถึงเรือเอ็นโจ หลังๆจอมมารรุกหนักฉิบหาย กรุอ่านไปจิกหมอนไป โอ๊ย ภูติพรายก็ภูติพรายเหอะ มาเจอพรมลิขิตของเรือเอ็นโจ เจอกันบังเอิญในสโมสรที่ไม่มีคนบ้าง เจอกันในร้านคอฟฟี่ชอปบ้าง อะไรจะบังเอิญจนน่ากลัวขนาดนั้น แล้วเจ้าแม่จะไปไหน นั่งกะใคร ถ้ามีเสียงคนทัก ไม่ต้องสงสัยค่ะ เอ็นโจแน่นอน นี่ถ้าไม่ติดยุยโกะนะ กรุว่าเจ้าแม่โดนต้อนติดผนังเหมือนในการ์ตูนตาหวานแน่ *สูดกาว*
.
.
.
.
.
.
.
.
>>817 สำหรับกูท่านพี่คือหน้าตาแบบจิ้งจอกตามวงการธุรกิจว่ะ ยิ้มๆนิ่งๆแต่เชือดเฉือนและฆ่าคนหน้าตาย อาจมีปนความราชินีอยู่ค่อนข้างสูง เป็นผู้ชายที่เหมาะกับการนั่งไขว่ห้างบนบัลลังค์อ่ะมึง //เหยียบหนูทีค่ะพลีสสสส
ส่วนเอ็นโจคือ เวอร์ชั่นร่างโนวิซของท่านพี่ อาจจะเก็บสีหน้ายังไม่เกลี้ยงเท่าท่านพี่แล้วก็ยังขาดความราชินีอ่ะ
ส่วนท่านอิมาริ ....ผู้ชายตามโฮสต์คลับเลยอ่ะมึง ติดลิเกๆพอสมควรเลยด้วยอาจบวกความปลาไหล พูดไปเถอะจับไปเถอะ พ่อคุณเค้าไม่อยู่เฉยๆหรอก
...และไซซายะก็ยังเป็นไซซายะต่อไป//นี่เป็นคาแรคเตอร์ที่ตรงสุดเท่าที่กูนึกออกละถถถถถถ
คนอื่นนึกไม่ค่อยออก แต่มาซายะ สำหรับกูอิมเมจคือ โทบิโอะ เรื่องไฮคิวอะ ถถถถ
จริงๆกระทรวงวัฒนธรรมญี่ปุ่นน่าจะสปอนเซอร์ท่านเรย์กะให้เป็นเรื่องเป็นราว 555
เรานึกอิมเมชท่านพี่เป็นเคียวยะจากเรื่อง Ouran และแน่นอนว่า อิมาริต้อวเป็รทามากิ 555
>>824
.
.
.
.
.
.
.
จอมมารมีพลังแฝงนะเว้ย พลังแห่งการสตอเกอร์ไงล่ะ แต่ว่าเอ็นโจมีปมทางบ้านแน่นอนเพราะเห็นเคยบ่นในสปอยว่าไม่อยากอยู่บ้าน บางทีกูก็คิดมโนว่าเอ็นโจไม่ใช่คุณหนูแต่แรกอาจเคยใช้ชีวิตแบบสามัญชนมาก่อนเป็นคุณหนูแบบนี้ก็ได้ เพราะพี่แก่รู้สึกจะคล่องในร้านสามัญชนกับการครัว
.
.
.
.
.
.
>>824 กรี๊ดไปกะเมิง
(สปอยล์)
กุว่าคาบุจีบวาคาบะจังนี่เรือคาบุเรย์กะยิ่งแล่น
เหมือนมีเหตุให้คาบุกะเรย์กะใกล้ชิดกันมากขึ้น รู้จักกันมาตั้งแต่ป.1 เพิ่งมาแลกเบอร์ ทานข้าวกัน2คน(เดท?) กันช่วงนี้
แถมตอนล่าสุดนี่คาบุมีวางแผนเดทจัดเต็มดูดอกไม้ไฟกับวาคาบะจังบนเรือยอร์ชส่วนตัวแล้วไม่รีพอร์ทท่านเรย์กะเลยคิดว่านางอาจจะออกจาก mom sone เร็วๆนี้ (เข้าสู่โหมดลิ่วล้อโซนแทน โดนครูจ่าคาบุจับมาฝึกสมรรถภาพ lol) กุมโนว่าคาบุเองก็พยายามหาเหตุอื่นดึงเรย์กะมาใกล้ๆ ไม่งั้นตอนเอ็นโจ้ทักก็ซื้อของให้เป็นการขอบคุณเรื่องทีท่านเรย์กะช่วยเป็น love life coach ก็จบปะ
แถมที่ผ่านมา คนรอบข้างที่สนิดกับคาบุก็อวยท่านเรย์กะเต็มที่ มันต้องมีอะไรบ้างแหละน่า หึหึ
เอ็นโจ้ช่วงหลังบังเอินเจอท่านเรย์กะบ่อย ถึงจะมีโมเมนต์บ้าง แต่เอ็นโจ้ไม่ได้วางแผนจะให้เรย์กะมาอยู่ใกล้ๆเพื่อตัวเองนะ ฮีมักจะดันให้เรย์กะอยู่กับคาบุ เจอกันก็คุยเรื่องคาบุ แต่กุคิดว่าเอ็นโจ้ก็ชอบท่านเรย์กะว่ะ แต่มีว่าที่คู่หมั้นเกาะหลังอยู่เลยออกตัวแรงมากไม่ได้(?)
ส่วนคาบุ กุว่าฮีออกอาการหวงเรย์กะโดยไม่รู้ตัวบ่อยๆ พอเอ็นโจ้บอกว่าอยู่ร้านกาแฟกับเรย์กะก็รีบมาเลย ตอนพีคสำหรับกูคือตอนที่ท่านเรย์กะยืนคุยกับประธานที่โรงเรียนให้เห็น ฮีก็จู่เข้ามาถามด้วยความรมย์เสียเลยว่าคุยอะไรกัน แกล้งเรย์กะเหรอ แถมเอาความเป็นประธานpivoine มาชนจังๆ ซึ่งดูไม่ใช่นิสัยของฮี ได้คำอธิบายแล้วก็ยังเหวี่ยงใส่ประธานได้อีก ขนาดตอนวาคาบะโดนแกล้งฮียังดูมีสติกว่านี้ (สูดกาว)
แต่กุก็พร้อมลงเรือเอ็นโจ้นะเว้ย ถ้าฮีจะ man up ชนกับความรู้สึกตัวเอง กล้าบอกคาบุว่าฮีชอบเรย์กะ คือกุว่าถ้าฮีชอบเรย์กะแล้วทำเป็นอวยเรย์กะกับคาบุแบบที่ผ่านมา กุว่าฮีไม่แมนว่ะ
>>834 งั้นมาสูดกาวกัน พล็อตมันก็จะน้ำเน่าๆหน่อยนะ ใส่จุดเป็นพิธีเพราะไม่น่าจะสปอยอะไร
.
.
จริงๆแล้วเอ็นโจอาจจะเป็นเด็กที่รับมาเลี้ยงเพราะหน้าคล้ายทายาทผมสีน้ำผึ้งตัวจริงที่ตายไป ละทิ้งชื่อจริงตัวเองแล้วใช้ชีวิตในชื่อชูสุเกะนับแต่นั้น
ภายใต้ชื่อชูสุเกะ เขาต้องพยายามถีบตัวเองทุกอย่างขึ้นไปให้ทัดเทียมกับคนอื่นๆในวงสังคมไฮโซ ทุกอย่างก็ไปได้ดี เขาแสดงละครเป็นคุณชายได้แนบเนียนจนทุกคนเชื่อ อนาคตทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้วเขาก็ได้แต่ก้มหน้ารับไม่มีปากเสียงเพราะสำนึกในบุญคุณบ้านเอ็นโจที่เก็บเด็กแบบเขามาเลี้ยง แต่ในใจก็โหยหาอิสรภาพและที่พักใจจนกระทั่งเจอเธอคนนั้น ผู้ที่เป็นแสงสว่างในชีวิตเพียงอย่างเดียวของเขา นกในกรงที่ไม่เคยมีความฝันก็เริ่มอยากสยายปีกออกไปยังโลกภายนอก แต่ก็ถูกกดหัวไว้ด้วยคำว่าบุญคุณ ทำให้ทำอะไรอย่างใจไม่ได้ซักอย่าง ได้แต่มองเธอตาละห้อย ดูเธอไปกับคนนั้นคนนี้ด้วยความเจ็บปวด แถมเธอก็ไม่เหลียวแลอีกต่างหาก
.
.
น้ำเน่าพอมั้ย
>>834 กุว่าไม่น่าถึงกะไม่ใช่คุณหนูนะ เพราะสังคมแคบ พ่อแม่รู้จักกันหมด แถมเป็นเพื่อนกับคาบุตั้งแต่เด็กๆ น่าจะคุณหนูแหละ เพียงแต่ที่บ้านอาจจะกดดันเรื่องว่าที่คู่หมั้นไรงี้ป่าว ตอนเด็กฮีก็คงไม่ได้ว่าอะไร พอโตขึ้นพอฮีรู้ตัวว่าไม่ได้ชอบนางพราย ก็เลยอึดอัดเพราะชีเป็นญาติ มาบ้านบ่อย ปฏิเสธตอนนี้ผู้ใหญ่อาจจะเข้าหน้ากันไม่ติดไรงี้ กุนี่ก็มโนใหญ่เลย 555
พวกเมิงว่าอีกนานไหมกว่าจะจบวะ แล้วมันจะจบหรือเปล่า กุกลัวคนแต่งมีกิจธุระ ขี้เกียจแต่งต่อ
>>827 จริง กูก็คิดว่ามาซายะคือโทบิโอะเวอร์ชั่นเสริมหล่อ+โหวกเหวกขึ้นมาหน่อย สองคนนี้นิสัยเหมือนกันมาก แค่คนนึงบ้าขี่ม้า อีกคนบ้าวอลเล่ย์ ถถถถ
ท่านพี่กับเอ็นโจมีความใกล้เคียงกันสูงมาก แต่ท่านพี่จะไปทางหล่อสวยติดเจ้าเล่ห์แบบนักธุรกิจ ส่วนเอ็นโจจะไปทางหล่อสุภาพนุ่มนวลเหมือนพวกคุณชายบนหอคอยงาช้าง
ผมสีอ่อนทั้งคู่ ใส่สูทขึ้นมากๆ สายตาแอบเจ้าเล่ห์ ใส่แว่นแล้วดาเมจ+100%
อิมารินี่ถ้าเป็นธีมย้อนยุคจะต้องเป็นพวกคุณชายอิตาเลียนเสเพลๆ ผมยาวสีทอง รวบหลังท้ายทอยแล้วเอามาพาดบ่า
>>843 กูว่าถ้าไม่มีภาคมหาลัยต่อน่าจะได้อีกซัก 50-100 พูดแบบเหวี่ยงแหมากๆ เพราะท่านฮิโยโกะสัด อะไรที่คนหวังจะได้เห็นก็ดันพูดสามบรรทัดจบ แล้วให้เจ้าแม่นั่งมโนเรื่อยเปื่อยไปอีกครึ่งหน้า ณ จุดนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้
แต่ถ้ามีภาคมหาลัยซุยรันต่อ กูให้บวก 1000 ตอนอัพไปเลยว่ะ อ่านกันยันแก่ โสดไปพร้อมๆ กับท่านเรย์กะ แค่กๆๆ
>>846 300 ตอนนี่ก็ 3 ปีละนะ 1000 ตอนอัฟ มิปาเข้าไป 10 ปีรึ
แค่กุสงสัยว่า ระดับมหาลัยแล้ว ไอ้ pivoine ยังมี power อยู่แค่ไหน คือจริงๆพอวัยเข้ามหาลัยแล้วถ้ายังเอาอำนาจที่บ้านมาอ้างก็ดูเป็น looser ปะ สภาพสังคมไม่น่าจะเหมือนระดับมัธยมที่บังคับให้คนเรียนด้วยกัน มำกิจกรรมด้วยกัน อยู่มหาลัยเลิกเลคเชอร์ก็จับกลุ่มเฉพาะที่สนิดๆ หรือกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนมัธยมก็ยังได้
ทำไมอิมเมจทุกคนในหัวคือคือท่านทามากิท่ไม่เลเวลความเรื้อนที่ต่างกันวะ555
กูว่าเอาจริงๆสถานการณ์ชีวิตเอนโจอาจจะคล้ายๆเคียวยะช่วงที่ดูมีปมเรื่องพี่ๆอ่ะ คือแบบรู้มาก เก่ง แต่คิดไปเองว่าตัวเองไม่มีสิทธิทำไรงี้
ตอนนี้ raw ถึง high school เทอม2 ยัง ใกล้เรียนจบยังวะ
มึง กูขอสงสัยนิดนึง ตอนมันนานมากแล้วแต่กูยังคาใจอยู่
ช่วงที่ท่านเรย์กะไปไฟท์กับคาบุเรื่องแก๊งซึรุฮานะ แล้ววันถัดมาคาบุเดินแถ่ดๆมาเขกหัวท่านเรย์กะทีนึงแล้วบอกหายกันนะคือมันสื่อถึงการขอโทษยังไงวะ ?
อ่าาาา. กุรู้สึกเหมือนอ่าน diary เพื่อนเลย เรื่องนี้. มันเหมือนชีวิตเพื่อนม้ากมากก. บางอย่างมันลุ้นๆ ลุ้นไปก็เท่านั้น. รอกันยาวๆๆนะตะเองเฟมือนชีวิตจริง
>>859 บทพูดคล้ายกัน แต่ชะตากรรมคนพูดต่างกันนะมึง
"มงไดไน ไดโจบุ" นี่คนพูดแม่งเคลียร์ปัญหายากๆ เอาตัวรอดมาได้แบบเทพๆ เลยมาพูดหล่อๆ ว่า "ไม่มีปัญหา ไม่ต้องห่วง"
ส่วน "ไดโจบุดะ มงไดไน" นี่มีคนให้อาวุธ + ชุดเกราะแต่คนพูดทำหล่อบอก "ไม่ต้องห่วงน่า ไม่มีปัญหา" ...เลยโดนกระทืบตายห่ากลับมาเจอคำถามเดิม งวดนี้เลยยอมไม่หล่อบอกไปว่า "เออ จัดเต็มมาให้ที"
>>861 ไอ้หมอนี่ใช่ไหม
https://www.youtube.com/watch?v=PvmVc1LgP28
>>838 กรี๊ดดดด น้ำเน่าเหลือเกิน แต่กูชอบ น่าเอาไปเขียนฟิคสัสๆ
จริงๆถ้ามาอีหรอบนี้ กูว่ามันก็ตอบคำถามได้หลายอย่างนะกับนิสัยของฮี ทั้งไม่พยายามทำตัวเด่น ทั้งรักเขาแค่ไหนแต่ก็ต้องพยายามผลักดันกับชงให้เพื่อน ทั้งการขัดขืนภูตพรายไม่ได้ แล้วก็เรื่องบุญคุณที่ฮีชอบย้ำนักย้ำหนาด้วย กูนึกถึงคุณกุหลาบสีม่วงในหน้ากากแก้วว่ะ เป็นลูกคนใช้ในบ้านแต่พ่อเอามาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมเพราะเห็นแววเป็นคนฉลาด รักนางเอกแต่ก็ต้องแสดงออกแบบร้ายๆ ทำตัวเป็นคนใจดำเห็นแค่ผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง แต่ไปคอยช่วยเหลือเขาลับหลัง แถมยังมีคู่หมั้นสวยบอบบางเหมือนกันอีก
>>861 อีเกม el shaddai อะไรนี่ใช่มะ กูไม่เคยเล่นแต่เคยอ่านไดอะลอกมัน แม่งอย่างฮา เป็นเกมที่กาวพอตัวเลย 555555555555555
>>861 >>862 เห็นแก่ที่พวกมึงขุดmemeนี้มา แปะให้เอาไปดูกันเล่น
https://www.youtube.com/watch?v=8vkuZc3-xWo
สวัสดี กูเป็นโม่งที่ตามมาจากห้องลิทนะ พอดีมีคนเอานิยายเรื่องนี้ไปแนะนำ กูเลยไล่อ่านรวดเดียวตั้งแต่ตอนแรกถึงตอนปัจจุบัน แล้วก็ตัดสินใจมอบกายถวายใจเป็นทาสท่านเอ็นโจไปแล้ว กูชอบคาแรคเตอร์แบบนี้มากเลย ชอบมาตั้งแต่สเนปละ แบบคุณฮายามิในหน้ากากแก้วก็ใช่ พวกที่รักเขาและคอยช่วยเขาตลอดอยู่ด้านหลังแบบไม่ต้องการผลตอบแทนแม่งก๊าวหัวใจกูเหลือเกิน >[ ]<
ทีนี้เขาก็แนะนำให้อ่านฟิคในนี้ด้วย ซึ่งกูก็ตกใจพอสมควรที่มีตั้งยี่สิบกระทู้แล้ว กูจะอ่านหมดมั้ย 5555+ กูเพิ่งได้อ่านฟิคเดียวคือเอ็นโจ side story แต่ฟินฝุดๆ ทนไม่ไหวเลยขอกรี๊ดก่อน ซีนจับหิ่งห้อยนี่ละมุนมากเลย ไปเดินมืดๆในป่ายุงกัดบ้างรึเปล่าไม่รู้ แต่นางดันเอาไปปล่อย ทำไมใจร้ายจัง T_T
>>866 >>867 กูอ่านถึงตอนปัจจุบันแล้ว ตาแฉะมากมาย แต่ต้นฉบับญี่ปุ่นไม่ได้อ่านเพราะอ่านไม่ออก มันยังไม่จบใช่มั้ย กูแค่อยากรู้ว่ากูขึ้นเรือถูกลำรึเปล่า เพราะกูเคยปฏิญาณตนไว้ว่ากูจะไม่อ่านเรื่องที่พระเอกหรือนางเอกไม่ชัดเจนเด็ดขาด กูช้ำในมามากแล้วในสงครามกองอวย พูดถึงแล้วก็เฮิร์ต เจ็บจี๊ดๆ เจ็บนี้รสปูอัด
แต่คนนี้กูต้องยอมเขาจริงๆว่ะ เขาเป็นคาแรคเตอร์ตรงสเป็คกูมากๆเลย กูได้แต่กรีดร้องอ๊ายๆอยู่คนเดียวในห้อง กูกรี๊ดตอนไปขู่สาวแกลปกป้องเธอลับหลังมากๆๆๆๆๆๆๆ อยากให้มีตอนเฉลยจริงจังว่าเขาไปทำอะไรเพื่อนางเอกบ้าง ท่าทางจะฟินไม่น้อย
ทำไมพวกมึงยอมรับแท็กนอกรีตอย่าง spinster กันยะ หยาบคาย หยาบคายเป็นที่สุด
ส่วนเรือเอ็นโจมึงควรทำใจ คนอื่นเขาพัฒนาขึ้นมีแต่เรือนี้แหละที่ระเบิดตัวเองบ่อย ๆ
เรือเอ็นโจก็ลุ่มๆดอนๆตามประสาพระรองเบอร์หนึ่งอะนะ โฮะโฮะ
>>886 แหม่ มึงนี่ก็.... ไอเดียกูกำลังบรรเจิดเลยรู้มั้ย งานแต่งสุดโรแมนติคริมทะเลยามเย็น บนพื้นเป็นหาดทรายสีขาววางประดับด้วยดอกไม้และเทียนหอม เจ้าสาวในชุดสีขาวแบบสบายๆ ประดับผมด้วยดอกไม้สีขาว ถือช่อดอกอุราระไว้ในมือ ส่งยิ้มเอียงอายให้ให้เจ้าบ่าวรูปหล่อ(คานซัง-อาหารซัง ใครซักคน กูยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกจะเขียนใคร) อยู่ใต้ซุ้มดอกไม้ที่มีบาทหลวงส่งยิ้มอบอุ่นให้คนทั้งคู่ เจ้าบ่าวเจ้าสาวแลกแหวนกัน จุมพิตสาบานรักชั่วนิรันดร์ คลอด้วยเสียงคลื่นซัดสาดน้อยๆเป็นดนตรีธรรมชาติ โรแมนติคโครตๆ
ขอบคุณโม่งแปลสำหรับตอนใหม่ด้วยนะคะ ท่านอิมารินี่สุดยอดในหลายๆความหมายจริงๆ
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่เน้อโม่งแปล อิมาริแม่ง....
นกไนติงเกลที่สละชีวิตเพื่อความรักของผู้อื่น คงไม่ใช่ว่าอ.ฮิโยโกะจะหมายถึง เรย์กะเสียสละ ยอมเจ็บปวดให้คาบุจีบวาคาบะ แต่สุดท้ายวาคาบะไม่รับรัก การเสียสละของท่านเรย์กะเลยสูญเปล่าหรอกนะ
คาบุเอ๊ยยยย ตอนที่แล้วอุตส่าห์อวยพรให้มีความคืบหน้าทำไมเอ็งดันคิดถึงสาวอื่นขึ้นมาห้ะะะ ไร้น้ำยาเกินไปแล้ว!! ว่าแต่ท่านเรย์กะนี่ท่าจะชอบหน้าคาบุจริงๆนะ ชมหลายครั้งละ ถ้านิสัยไม่ใช่อย่างนี้อาจจะเป็นผู้ท้าชิงเขย่าคานอันดับหนึ่งก็ได้ ส่วนพ่อนกไนติงเกลของกูไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ สมแล้วที่เป็นท่านอิมาริ 5555
ขอบคุณโม่งแปลลลลล
ตอนล่าสุดนี่แบบ. เอ้ออ. กุเรือเอ็นโจ ชอบคาบุ. หลงสเน่หท่านอิมาริ. แต่รู้สึกว่าท่านพี่นี่แหล่ะดีสุด. ท่านพี่ขาาา. เกาะแขนแน่นๆ. คนอื่นใช้ไม่ได้ๆๆ
กุชอบคาบุจริงๆนะ. แต่ตัดออกเลยเมิงทำลายบรรยากาศขนาดนเน้. ขนหลุยวิกตองที่ลืมไว้บนเรือคาบุใบสุดท้ายออกมา. พำนักบนเรือเอ็นโจ พลางแพ็คของขู่! ปกติสลัดยัยพรายพระจันทรยุยโกะได้. วันนี้เสียของมาก. แก้ตัวมาน้าาา
>>896 เรยกะชอบหน้าเอ็นโจมากกว่าป่ะ ตอนแรกๆที่บอก
คาบุคงชอบวาคาบะจริงๆ เรยกะโง่เกิน(ด้านการเรียน). ไม่ใช่สเป็ค. เป็นแค่น้องสาวหรือลูกน้องที่ต้องดูแลได้แค่นั้นแหล่ะ. เศร้าจายย. ซิกๆ
คาบุเรยกะจะเป็นจริงก็ต้องนกวาคาบะก่อน. ซึ่งกุว่าไม่น่าจะนกได้ คู่นี่เป็นคู่พรหมลิขิตแท้ๆ. ยิงเรือคาบุตู้มๆๆๆพลางน้ำตาไหล
เอ็นโจเห็นตอนก่อนๆไม่ได้ยิงเรือตัวเอง งวดนี้เลยเอาซะเรือกระจุยเลย
อะไรคือใส่เสื้อซ้ำทีมกันแถมมีค็อกเทลประจำคาแร็คเตอร์
ดูสิ!! ลูกเรืออพยพข้าวของมาเรือคาบุกันเต็มไปหมดแล้ว
//โดนระเบิดเรือจนต้อไปว่ายน้ำอยู่ในทะเล
มองเห็นเรือเอ็นโจระเบิดตัวเองตามเคย. ยิงเรือคาบุเมามัน. หันมามองตัวเอง. อ้าว กุอยู่บนเรือท่านพี่(คานซัง)นี่นา. ไม่รู้ตัวเลย
เออ แต่อ่านตอนนี้แล้วนึกภาพว่าคุณยุยโกะน่าจะสวมประมาณดาราเกาหลี บอบบาง หน้าตาสวยพิมพ์นิยมแบบเอเชีย ส่วนท่านเรย์กะนี่คงสวยแบบฝรั่งๆ ที่โครงหน้าชัดๆ แต่มีแนวโน้มจะดูเป็นผู้ใหญ่ (= แก่กว่าวัย) สินะ
ขอบคุณโม่งแปลค่ะ ท่านเรย์กะนี่น่ารักจริงๆน๊า ชอบการปิดหูไม่รับฟังของนาง ฮาาา ตั้งแต่ตอนไปงานชมซากุระราตรีละ แลดูสนิทสนมกันดีกับทั้งเอ็นโจและคาบุรากิ
ส่วนยุยโกะก็ยังแพ้ทางอยู่ ที่ว่าหวานอร่อยดีหมายถึงอะไรน่ะ จงใจข่มกันรึเปล่านะ
ขอบคุณโม่งแปลมั่กๆ กูลั่นปนขนลุกกับบทจีบของอิมาริชิบเป๋ง ไม่หล่อจริงแล้วพูดเลี่ยนๆแบบนี้มีสิทธิ์ดับได้เลยนะเนี่ย ถถถถถถถถถถ
นางเอาตัวเองไปเทียบกับยุยโกะอีกละ กูว่าในงานก็น่าจะมีคนแต่งชุดขาวหรือชุดคอนเซปต์ทานาบาตะอยู่เยอะนะ ที่ผ่านมานางก็ไม่เคยเอาตัวไปเทียบกับใครด้วย พอยุยโกะโผล่มาปุ๊บนางเริ่มเปรียบเทียบตัวเองทันที แล้วก็คิดว่าไม่มีทางชนะตลอดเลย
กูจำได้ว่าตอนนี้เคยมีคนมาสปอยฟังดูแย่มากเลยนี่หว่า พออ่านจริงก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดนะ แต่ยุยโกะนางก็ไม่ได้คิดจะสานสัมพันธไมตรีอะไรกับเรย์กะด้วยเลย ตอบตามมารยาทไปงั้น เห็นคุยดีกับหนุ่มๆแท้ๆ หรือจะคุยกับผู้หญิงไม่เก่ง??
>>906 กูว่าตัวตนของยุยโกะที่มองจากท่านเรย์กะกับที่ฟังจากริรินะนี่ผิดกันเป็นคนละเรื่องเลยนะ ที่ว่านางสวยระดับตำนาน เป็นดาวโรงเรียน มีผู้ชายจากข้างนอกแห่แหนเข้ามาดูหน้า แต่พวกผู้หญิงก็ยังไม่มีใครอิจฉาเลย เพราะดูนางบอบบางอ่อนหวาน น่ารัก แต่จากมุมมองเรย์กะนี่ ดูยังไงก็เป็นที่น่าหมั่นไส้ในหมู่ผู้หญิงด้วยกันชัดๆ
>>907 กุว่านางกลัวๆคุณยุยกะนะ ออกแนวแพ้ทาง เหมือนซากุระจังที่เป็นหญิงบอบบางน่ามนุถนอม นางก็ไม่กล้าสู้ผุ้หญิงแนวนี้ ไม่เหมือนกับไมฮามะที่นางวอร์ใส่เต็มที่
แต่ก็แอบรู้สึกว่านางไม่ค่อยถูกชะตากับคุณยุยโกะเท่าไหร่ ไม่ชอบให้สาวๆมาเกาะแกะเอ็นโจ้งั้นเหรอ เอ๊ะ หรือเรือเอนโจ้จะเริ่มแล่นน 555
รายชื่อท้าชิงหัวกระทู้หน้า
>>806 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :งานเลี้ยงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับทรีตเม้นท์ขนหน้าแข้งโม่งแปล [เส้นขนยาวสลวยราวกับลอนผมเจ้าแม่ขยุ้มที่ 21]
>>808 งานเลี้ยงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแท็กเลิฟที่หายไป...
>>809 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสังเวียนความรักของจักรพรรดินี โอ้! ทรุดลงไปแล้วครับ! [ขน 21 เส้นสุดท้ายของโม่งแปล]
>>814 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับความหวังที่ยังเหลืออยู่ เจ้าชายของฉัน! อยู่ที่ไหนกันคะ!!! [รถด่วนขบวนที่21]
(แต่ละอันแม่ง....)
เอ็นโจตอนนี้เป็นอะไร ปกติก็อ่านบรรยากาศเป็นนี่ น่าจะเห็นได้ชัดว่าบรรยากาศอึดอัดยังเสนอตัวตามเรย์กะไปตอนขอปลีกตัวอีก
ปกติก็กันเรย์กะออกจากยุยโกะชัดเจน ทำไมครั้งนี้จะตามไป ปล่อยสาวสองคนปล่อยออร่าใส่กันส่วนตัวเองยืนหล่อๆไม่เกี่ยวกูไม่โอว่ะ หักคะแนนรัวๆ ถ้าปกป้องเขาจากคนของตัวเองไม่ได้ก็อย่าจีบอย่าหยอกเลย
กูขอส่งหัวข้อท้าชิง
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูร้อนแห่งความหวัง!!! [นกไนติงเกลตัวที่ 21]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือรักที่แข็งแกร่งของคานซัง : เรือเสริมใยเหล็กลำที่ 21
.
.
.
กูเชียร์คานซัง คานหล่อสุด 5555555555
>>918 แต่ซากุระจังนี่ยังแสดงออกค่อนข้างตรงไปตรงมานะ ตอนเจอกันนั่นยังเป็นเด็กประถมด้วยมั้ง มารยาเลยไม่ค่อยเยอะ หวงแฟนก็แสดงออกตรงๆ พอคิดได้ก็ขอโทษตรงๆ ถึงได้เป็นเพื่อนกันได้ แต่คุณยุยโกะนี่ยิ้มเยื้อนอ่อนหวานลูกเดียว เดาใจไม่ถูก แต่กูว่างานนี้เอ็นโจผิดจริงว่ะ ระดับนี้แล้วไม่มีทางไม่สังเกตเห็นว่าเรย์กะกระอักกระอ่วนไม่อยากอยู่ตรงนั้น ยังจะตามเกาะ ไม่รู้เกิดนึกอยากระเบิดเรือตัวเองขึ้นมาอีกทำไม
อ่านตอนกูแล้วกูชอบเวลาสามหน่ออยู่ด้วยกันเลยวะ มันเหมือนเป็นเป็นเพื่อนสนิทที่ถึงจะแง้วๆใส่แต่ก็รู้ใจกันอะ กูเข้าใจเลยว่ายุยโกะจะมองว่าเรย์กะเป็นศัตรูก็ไม่แปลก ทั้งสามคนเวลาอยู่ด้วยกันมันต้องมีรังสีบางอย่างที่คนข้างนอกเขาไม่ถึง ยุยโกะจะไปอิจฉาคาบุก็จะแปลกๆ เลยอิจใส่เรย์กะที่เป็นผู้หญิงคนเดียวแทน555
>>920 คุณยุยโกะเธอก็แสดงออกชัดเจนนะ เกาะหนึบเอนโจ้ขนาดนั้น เหมือนซากุระโกะที่เกาะแฟนนางแสดงความเป็นเจ้าของน่ะ ไม่ได้รู้สึกว่านางมารยาอะไร กุว่าถ้าเอ็นโจ้ไม่ชอบนางก็ควรทำให้ชัดเจนว่ะ นึกถึงที่ท่านเรย์กะเคยเตือนแฟนซากุระจังไว้ เอนโจ้กับคุณยุยโกะนี่ก็น่าจะเป็นแบบเดียวกัน ประมาณว่าผู้ใหญ่ที่บ้านเป็นใจ ตอนเด็กๆก็ไม่ได้รังเกียจอะไร อีกฝ่ายก็ปักใจเต็มที่ พอโตมาจะปฏิเสธก็ลำบากละนะ (กรูมโน)
เดาว่าที่เอ็นโจ้ดึงเรย์กะไว้ก็คงไม่อยากยืนอยู่กับคุณยุยโกะ 2 คน ให้คนมองว่าเป็นคู่รัก love bird คือกุว่าฮีมีนิศัยที่จะใช้คนอื่นออกหน้าถ้าดูแล้วมีความเสี่ยงอ่ะ
อยากกินโซเมงเลย
โหวตขน 21 เส้นของโม่งแปล 555
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรัน กองเรือรั่วกองที่ 21 เรือคานและอาหารเท่านั้นที่ยังยืนยง
โหวต 806
กุไม่เข้าใจทั้งคุณยุยโกะทั้งท่านเรย์กะเลย
คุณยุยโกะจากที่ยิ้มแย้มเบ่งบานกับหนุ่มๆทั้งงานข้างๆว่าที่คู่หมั้นทำไมมาทำเย็นชาเมินใส่ท่านเรน์กะขนาดนี้
หรือเป้าหมายจริงๆนางคือคาบุ หรือแค่เคืองท่านเรย์กะที่ดึงความสนใจหนุ่มไปจากนาง(คาบุกะเอ็นโจ)
ประมาณว่าชั้นเป็นราชินีทุกคนต้องให้ความสนใจ พอมีหนุ่มระดับท็อปไปเดินชมดาวกะสาวอื่นเลยเคือง
หรือเพราะเห็นเอ็นโจคอยมองหาท่านเรย์กะตลอดเวลาเลยเคือง(อันนี้กาว)
ส่วนท่านเรย์กะคุณยุยโกะเหมือนเป็นปมด้อยท่านเรย์กะจริงๆ กับพวกไมฮามะ ทสึรุฮานะนี่หาข้อด้อยจิกใส่ได้รัวๆ
แต่กับคุณยุยโกะนี่นางหาแต่จุดเด่นเขามาเทียบกับตัวเองรัวๆเลยอ่ะเป็นอะไรของนาง
กูโหวตอันนี้ว่ะ >> ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูร้อนแห่งความหวัง!!! [นกไนติงเกลตัวที่ 21]
ชื่อกระทู้มันต้องมีหวังแบบนี้แหละ!! ว่าแต่นกไนติงเกลมันจะเป็นลางร้ายรึเปล่าวะ (ปล. เรื่องนี้กูก็เคยอ่านตอนเด็กๆ อ่านถึงตอนจบแม่งหงุดหงิดอัดอั้นชิบหอย นึกดูเด็กประถมที่โลกสวยงามอ่านแต่นิทานทุ่งลาเวนเดอร์ มาเจอเรื่องจบแบบจบเห่แบบนี้ กูอ่านจบแล้วอึนๆ เหี่ยวๆ ไปหลายวันเลย The Happy Prince ก็อีกเรื่อง)
>>933 กุว่าคุณยุยโกะเขม่นท่านเรย์กะเพราะนางระแคะระคายว่าท่านเรย์กะสนิดกับเอ็นโจ้ แถมสนิดกับน้องชายเอ็นโจ้อีก แถมโพรไฟล์ท่านเรย์กะก็เริศ เป็นคู่แข่างนางได้เลย
มองว่านางไม่น่าจะสนคาบุนะ ส่วนที่ยิ้มแย้มกับหนุ่มๆก็ตามมารยาทสังคมอะนะ จะให้นางเหวี่ยงวีนยโสใส่หนุ่มๆ admirer ของนาง ก็คงไม่ใช่ก็เหมือนเรย์กะกับอิมาริไง เรย์กะก็ยิ้มแย้มพูดคุยกับฮีเวลาฮีหว่านเสน่ห์ใส่นะ ในความนอยของท่านเรย์กะ นางก็จิกคุณยุยโกะเล็กๆนะ เปรียบคุณยุยโกะเป็นภูตพรายมั่ง ออร่าน่ากลัวมั่งไง
นี่กุชอบท่านเรย์กะตอนช่วยคาบุจีบวาคาบะจังมากเลย เหมือนนางจะด่าคาบุไปแต่นางก็ลุ้นให้คาบุสมหวัง คำแนะนำนางก็มีประโยชน์นะ
>>934 ถ้าเป็นนกมันจะขี้ใส่หัวเจ้าแม่ป่ะวะ หรือขี้ใส่แค่นกพิราบ นกตัวอื่นยังเป็นมิตรอยู่....
แต่อ่านตอนนี้กูฮาบทจีบของท่านผู้ใหญ่บ้านคาสโนว่าจริงๆ นึกถึงคาบุรากิเป็นคาสโนว่าขึ้นมา กูควรกลับไปเขียนต่อดีมั้ย ไหนๆก็มีต้นแบบมาให้เลียนแบบต่อหน้าต่อตาทั้งที 555555555555
>>933 นั่นสิ กูว่านางชอบเอาตัวเองไปเทียบกับยุยโกะตลอดอะ มีคิดอีกว่าใครจะเหมาะกับชุดขาวมากกว่าด้วย แต่จริงๆกูก็ไม่เข้าใจนะ แค่แต่งสีขาวเหมือนกัน แต่แพทเทิร์นชุดคงไม่ใช่แบบเดียวกัน ต้องเป็นเรื่องคิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ คนอื่นในงานไม่แต่งสีขาวมาเลยงั้นสิ ถ้าชุดแบบเดียวกันกูยังพอเข้าใจได้หน่อยว่ามันน่ากระอักกระอ่วน
เออ กูนึกขึ้นมาได้อีกเรื่อง ตอนงานหิ่งห้อย นางใส่กิโมโนสีฟ้าอ่อน ไมฮามะก็ใส่สีเดียวกับนางเหมือนกัน นางยังไม่เห็นจะคิดเทียบเลย ไม่มีความคิดจะเปรียบเทียบด้วย ก็แปลกดีนะ
เวลาท่านเรย์กะเผชิญหน้ายุยโกะตามงานต่างๆ มักจะมีการกล่าวถึงนิยายต่างๆร่วมด้วย
ครั้งก่อนงานชมซากุระ ก็มีพูดถึงเรื่อง มีศพอยู่ใต้ต้นซากุระ ก่อนยุยโกะเปิดตัวแบบหลอนๆ
คราวนี้มีเรื่องนกไนติงเกลกับกุหลาบสีเลือด ก่อนจะมาเจอเอ็นโจ-ยุยโกะอีก
โหวต => >>809 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสังเวียนความรักของจักรพรรดินี โอ้! ทรุดลงไปแล้วครับ! [ขน 21 เส้นสุดท้ายของโม่งแปล]
.
>>923 >>928 ขอแปะมือพวกมึงด้วย ,__, กูนี่ช้ำใจเหลือหลาย ฮืออออ
.
กูอ่านตอนนี้ละหงุดหงิดเอ็นโจนิดหน่อย กูว่านางต้องดูออกอะว่าท่านเรย์กะอึดอัดแล้วก็กระอักกระอ่วนอยู่ ยังจะมีมาถามว่าไปคนเดียวได้มั้ยอีก อยากจะ เห้ออออออ ยาวๆ
แต่ท่านเรย์กะดูซีเรื่องชุดมากอะ มันเป็นเรื่องหน้าตาทางสังคมอะไรงี้เหรอ กูไม่รู้อะ ใช้คำไม่ถูก
เสนอ ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการชมเดือนดารา [ดูนก21ตัวที่เกาะอยู่บน...นั่นสิ]
>>948 ไม่ๆ ก่อนหน้านั้นนางแค่เห็นว่าไมฮามะมีหิ่งห้อยอยู่รอบๆตัวเลยรู้สึกแพ้เท่านั้นเอง ไม่ได้คิดเรื่องสีชุดขึ้นมาเลยด้วยซ้ำนะ ต้องให้ท่านโยโกะทักก่อนเรื่องสีชุดของไมฮามะว่าสีเหมือนไฟล่อแมลง แต่นางก็ไม่ได้คิดเรื่องสีชุดอีกนั่นล่ะ ว่าท่านโยโกะพูดแบบนี้ก็เหมือนว่ากระทบนางไปด้วย เพราะนางก็ใส่สีฟ้าอ่อนเหมือนกัน
นี่กุกังวลมาก คุณเรย์กะมี story เหลืออีกเยอะ ทั้งเรื่องตุีกตาที่นางสัญญาไว้แล้วยังไม่เริ่ม เรื่องการดูหนังสือสอบของนาง เรื่องเข้ายิมลดหุ่น เรื่องวาคาบะกะคาบุ เรื่องเอ็นโจะกับคุณยุยโกะ แถมมีเรื่องประธานเก่าประธานใหม่มาเล่นได้อีก
กูยังตะหงิดๆว่าโทโมเอะเซมไปต้องมีใจให้คุณเรย์กะนิดๆ แหงๆ ชีแสดงออกชัดเจน ขนาดว่าหัวหน้าห้องยังดูออก ถ้าเซมไปไม่ชอบชี ฮีจะขอ Chocolate วันวาเวนไทน์เหรอ แถมพอชนะกีฬาก็มีการส่งซิกให้คุณเรย์กะอีก ช่วยเกรงใจคุณแฟนด้วยนะคะเซมไป
ปล. ตอนงานกีฬาที่นางเชียร์โทโมเอะเซมไปออกนอกหน้า พอเซมไปชนะเกมแล้วคาบุแอบหน้าหงิก กุเดาว่าคาบุแอบหวงนางนะ โฮะโฮะ (สูดกาว)
กูว่าที่ไม่มีคนอิจฉายุยโกะนี่เป็นเพราะภาพลักษณ์ของนางปะ บอบบางน่าทะนุถนอม แต่ความเป็นจริงมันต้องมีคนหมั่นไส้แน่ๆแต่ออกตัวไม่ได้เพราะมีสายตาคนอีกเยอะคอยจ้องอยู่ ไม่ก็นางแอบไปจัดการลับหลังได้เนียนกริ๊บจนไม่มีคนรู้อ่ะ ถถถ
ถ้าเกิดอีตาเอ็นโจเป็นพระเอก(คู่รักท่านเรย์กะ)ของเรื่องจริงๆเรื่องคงจะจบแบบเดียวกันกับในมังงะมั้งถึงจะถอนรากถอนโคนได้หมดจด
>>952 กูว่าโทโมเอะเอ็นดูเรย์กะแบบน้องสาวว่ะ ไม่ได้มีใจเชิงชู้สาวหรอก ไม่งั้นคุณแฟนคงหึงเรย์กะไปละ
>>954 กูว่าเพราะยุยโกะสวยจริงว่ะ สาวอื่นคงมีอิจฉาแต่เทียบชั้นไม่ได้เพราะสวยไม่เท่าอะ แถมมีภาพลักษณ์บอบบางน่าทนุถนอมอีก ถ้าไปหาเรื่องก็คงดูเหมือนเป็นคนเลวไปเลย ตอนพวกเซริกะนินทานางก็ยังดูกร่อยๆจ๋อยๆกันเลย ไม่เหมือนตอนนินทาวาคาบะหรือคนอื่นๆที่พวกนางจะแสดงอาการข่มได้เต็มที่เลยใส่ไม่ยั้ง
>>954 คิดว่าคนที่โรงเรียนนางไม่หมั่นไส้นาง(ออกนอกหน้า) เพราะคุณยุยโกะอาจจะแสดงออกชัดว่าชอบเอ็นโจ้ที่อยุ่โรงเรียนอื่น ไม่ได้เป็นคู่แข่งแย่งหนุ่มๆกับสาวๆโรงเรียนเดียวกันด้วยด้วยละมั้ง แถมหนุ่มๆก็ชื่นชมชีว่าดูอ่อนแอน่าทนุถนอม ถ้าใครเผลอทำท่าไม่ชอบขี้หน้านาง อาจจะภาพลักษณ์เสียหายถูกมองว่ารังแกคนเรียนร้อยไม่มีทางสู้ แต่นั่นเป็นที่โรงเรียนนาง ถ้าเกิดนางมาอยู่ซุยรันแล้วเกาะเอ็นโจ้เป็นปลิงแบบนี้ คิดว่าคงโดนแก๊งส่วแกลเขม่นแหงๆ
>>809 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสังเวียนความรักของจักรพรรดินี โอ้! ทรุดลงไปแล้วครับ! [ขน 21 เส้นสุดท้ายของโม่งแปล]
ขอโหวต ถึงมีความเสี่ยงกับขนกับโม่งแปลแต่ชื่อแรกให้ผ่านอ่ะ ชอบ
แปลไทยล่าสุด ดูยังไงยุยโกะเหมือนข่มเรย์กะอ่ะ แล้วเรย์กะเป็นพวกคิดมากแบบถ้าวอร์ไปเหมือนเป็นนางร้ายไปรังแกสาวน้อยอีก แต่เครียดไม่ทันไรเจอมุกท่านอิมาริถอยแทบไม่ทันเลย ฮาเกิน
ใจคอเราจะเอาขนขึ้นชื่อกระทู้จริงๆเหรอ
นั่นดิ กุว่าหยุดเรื่องขนๆไว้เพียงเท่านี้เตอะ
ขอใช้สิทธิโม่งแปลห้ามเอาขนขึ้นหัวกระทู้เฟ้ยยยย เราต้องมีอารยธรรมเกรงใจผู้อยู่ร่วมห้องกันบ้าง เดี๋ยวเปิดมาแล้วผงะทุกครั้ง โหวตชื่ออื่นๆ ที่รื่นหูรื่นตากันนะตะเอง
เพิ่งอ่านตอนล่าสุดมา โมเม้นชมดาวในสวนนี่แม่งส่งความเป็นโชโจมาก แต่กลับมาด้วยความบอบช้ำจากนกไนติงเกลทั้งสองฝ่าย คู่นี้ดูๆไปมันก็น่ารัก ตลกดี
เฮ้อ ละเหี่ยใจจัง อ่านมาขนาดนี้แล้วเริ่มรู้สึกไม่อยากจะเชียเรือไหนแล้วอ่ะ ต่างคนต่างก็มีพันธะ ท่านพี่น่าจะดีที่สุด โอเค กูเชียคานซัง(ท่านพี่)เต็มตัวเลยละกัน
ท่านพี่ก็มีพันธะเป็นท่านอิมารินะ 555555 โตกันทำงานแล้วยังตัวติดกันอยู่เลย หายากนะเนี่ย
พวกมึงก็อิมาริกับท่านพี่กันจนกูเริ่มคิดแล้ว...คิดว่าที่ท่านพี่เตือนคราวหลังไม่ให้ตามอิมาริ นี่กลัวน้องไปเจอฉากจีบสาวหรือไปเจอฉากจีบพี่
ตอนล่าสุดกูคิดไปเองคนเดียวรึเปล่าวะ ว่าเอ็นโจวกำลังส่งสัญญาณ SOS ขอความช่วยเหลือจากเรย์กะ ใช้ช่วยอยู่เป็นเพื่อนหน่วย
กลับไปนั่งอ่านใหม่แล้วสะดุดท่อนทางช้างเผือกที่มองไม่เห็นเพราะแสงในเมืองสว่างเกินไป ในขณะที่ดาวชายเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้ายังเห็นได้ชัด เหมือนท่านเรย์กะที่ตอนนี้ความรู้สึกที่มีให้ยังไม่ชัดเจน ไม่เหมือนวาคาบะที่เป็นดั่งสาวทอผ้า----เชี่ย นี่กรุมโนอะไร เดินขึ้นเรือคาบุเฉยเลย
KY สวนกระแส ทำไมคาบุมันทำลายโมเม้นตัสเองแบบนี้ ทั้งๆที่จะเปลี่ยนเป็นชวนกันดูดาวได้แบ้ว
อย่าเพิ่งตอบกันจนเต็มนะ กูจะตั้งกระทู้เอาลิงก์มาแปะ
เปิดวาร์ป
>>>/webnovel/4574/
ทำไมเรือวาคาบะกูไม่แล่นเลยห๊ะ!
By โม่งเรือนกระจก
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.