หวัดดี กูสับพี่ตูนมา
เซฮุน: คิดยังไงกับเสียงวิจารณ์
พี่ตูน: การวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิทธิส่วนบุคคล เราบังคับให้ใครเห็นด้วยทั้งหมดไม่ได้ แต่อยากบอกว่า ที่ออกมาวิ่ง เราแค่อยากเป็นส่วนเล็กๆ ที่ได้ช่วยเหลือตามกำลังของเรา อยากใช้โอกาสนี้ในการสื่อสารในสิ่งทีเราเห็นมา
เซฮุน: ได้อ่านคำวิจารณ์บ้างไหม
พี่ตูน: มีคนส่งให้อ่านบ้าง ผมเคารพหมด คำวิจารณ์บางครั้งก็เป็นประโยชน์ ผมรับฟังนะครับ ทุกอย่างเป็นเรื่องดี ผมน้อมรับคำติคำวิจารณ์
เซฮุน: ท้อไหม บั่นทอนกำลังใจไหม
พี่ตูน: ไม่เลย คิดว่าเป็นอีกหนึ่งกระบวนการ ไม่ว่าทำอะไรก็ตามก็ต้องเจอปัญหาในงานอยู่แล้ว ต้องก้าวข้ามหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ต้องเจอและจัดการ แม้กระทั่งจัดการกับอารมณ์ตัวเองก็ต้องทำให้ได้ สุดท้ายผมใช้ปลายทางที่เราทำประโยชน์มากกว่า ไม่รู้มากน้อย แต่ขอให้มีประโยชน์สักหน่อย มันอาจจะมีหลายๆชีวิตได้รับการรักษา หลายชีวิตในโรงพยาบาลสบายขึ้น ผมเอาตรงนี้เป็นเป้าหมาย ต้องย้อนกลับไปคิดว่าวันแรก เหตุที่เราออกมาทำนั้นเพื่ออะไร เพราะจริงๆ ผมอยู่เฉยๆ ก็ได้ มีความสุขดี ไม่ต้องออกมาทำอะไรแบบนี้
เซฮุน: ถ้ามีโอกาสได้พูดกับคนที่วิจารณ์ อยากสื่อสารอะไร
พี่ตูน: ไม่มีครับ ผมชอบทำมากกว่าพูดครับ
ลงชื่อ เซฮุน พวกมึงควรเอากูเป็นตัวอย่าง