Fanboi Channel

นิยายเด็กดี บทที่ 12 (DDN XII) ภาคย้อนเวลาไปเป็นเมียฮ่องเต้ เน้นโปรโมทไม่เน้นฝีมือ เพราะการตลาดมันสำคัญยังไงล่ะ!

Last posted

Total of 1000 posts

216 Nameless Fanboi Posted ID:IJ+S9B4ZX

สับ มนตราเงาบุปผา Always be Youของโม่ง /webnovel/4393/40 จ้า
ออกตัวว่าไม่ชอบแนวรักแรกพบหรือโชคชะตาเท่าไร แต่คิดว่าเรื่องมึงน่าสนใจดี
เริ่มตอนที่ 1
นางเอกเจสก้าเดินทางไปซื้อดอกเรเดียร์ที่ร้านประจำจนได้เจอพระเอกชาลีสแล้วเกิดความรู้สึกประหลาดเหมือนที่กุสรุปได้ว่า คนนี้แหละคู่ชีวิตฉัน ฝ่ายพระเอกได้ยินคำสาปแช่งบรรพบุรุษของตนว่าทายาทตระกูลเซาท์ออทัมน์ต้องช้ำรักเสมอไป ระหว่างมึนๆ พระเอกก็ช่วยนางเอกจากกระถางต้นไม้ที่จะตกลงมา เจ้าของร้านโผล่มาแซวคู่พระนางแล้วพูดถึงดอกเรเดียร์
เอาถึงตรงนี้ก่อนนะ กุว่ามึงใส่expositionได้เนียนดี เพราะปมของเรื่องส่วนนึงก็คือคำสาปตระกูลพระเอกที่ทำให้ดอกเรเดียร์ที่รัฐตนเป็นสีชมพู มึงก็เลยมาเริ่มที่ร้านดอกไม้ เป็นการสร้างบริบทให้ใส่expostionได้เนียนดีมาก ชอบๆ
ที่จะติอย่างแรกคือ มึงสับมุมมองไปมาระหว่างพระเอกนางเอก มันเลยจะงงๆในบางจุด เช่นจุดที่สบตากันแล้วช็อต กุนึกว่านางเอกเป็นคนได้ยินคำสาปเสียอีก แต่เข้าใจว่าต้องการเกริ่นเรื่องดอกไม้ก่อน ถ้าแบบนั้นตัดบทไปหาพระเอกตอนที่แม่พระเอกโทรมาแจ้งเรื่องอาเลยน่าจะลื่นกว่า อาจจะเป็น
ครั้นเจสก้าเดินจากไปมีเสียงโทรศัพท์ดังไล่หลัง ทว่ากว่าชายหนุ่มจะรับสาย เธอก็ก้าวขึ้นรถไฟฟ้าบริการแขกวีไอพีของตนไปเสียแล้ว
-----
“ชาลีส กลับบ้านด่วยเลยนะ ชาเลย์.... ท่านอาของลูก...” ชาลีสหน้าเผือกสีเมื่อได้ฟังคำดังกล่าว ...
อีกเรื่องที่จะติงคือการบรรยาย ทั้งตัวละครและเนื้อเรื่อง
มึงติดคำว่า”ก่อนจะ"นะ บางจุดไม่จำเป็นต้องมีหรืออาจใช้คำว่า”แล้ว"มาแทน
เช่น หญิงสาวเพียงยิ้มรับ ก่อนจะเดินผ่านตัวร้านจุดคิดเงินไปยังสวนเล็กๆ ด้านข้างซึ่งจัดไว้ให้ลูกค้าได้เลือกชม
ปัญหาของประโยคนี้คือยาวมาก ไม่มีเว้นให้คนอ่านหายใจ ทำให้อ่านแล้วเหนื่อย เหนื่อยสะสมมันก็จะเบื่อแล้วชวนปิดหน้านิยาย
หญิงสาวเพียงยิ้มรับแล้วจึงเดินผ่านจุดคิดเงินไปยังสวนขนาดเล็กที่จัดแสดงแก่ลูกค้า
อันนี้ของกุก็ไม่ได้ดีมาก ที่กุคิดคือตรงตัวร้านจุดคิดเงินไม่จำเป็น เพราะจุดคิดเงินก็อยู่ในตัวร้ายอยู่แล้ว(รึเปล่า?) สวนเล็กๆ ... ตรงนั้นกุว่าถ้าขึ้นประโยคใหม่ได้เลยก็ได้ แต่กุชอบอะไรสั้นๆมากกว่า
การบรรยายตัวละคร อืม อันนี้ค่อนข้างsubjectiveแต่ส่วนตัวไม่ชอบคนบรรยายละเอียดจัดๆ เหมือนที่มึงเขียนว่า หญิงสาวผมลอนยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มจนออกแดงดัดปลาย เพราะมันคือนิยาย ต่อให้มึงบรรยายละเอียดมากๆๆยังไงคนอ่านก็นึกตามมึงไม่ได้หรอก ยิ่งมาสีน้ำตาลเข้มออกแดงนี่กุหยุดชะงักว่าสีประมาณไหนวะ
ตอนบรรยายพระเอกครั้งแรกด้วย มึงบรรยายซ้ำพอสมควร

"ชายหนุ่มผิวขาวซีด ผมดำสนิทตัดเข้ากับใบหน้า ทว่ากระเซอะกระเซิงชี้ฟูเหมือนคนเพิ่งตื่นและไม่ค่อยถูกดูแลจัดหวีให้เข้าทรง ใส่กางเกงผ้าขายาวสีเทากับเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว รองเท้าแตะ มันเหมือนชุดกำลังจะเข้านอนมากกว่าจะออกมาเพ่นพ่านด้านนอก และที่ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดคือนัยน์ตาคมสีม่วงประหลาดๆ คู่นั้นก็มองมาที่เธอด้วยสีหน้าตกตะลึงไม่แพ้กัน”

ผมกระเซอะกระเซิงคือผมที่ไม่ได้หวีให้เข้าทรงอยู่แล้ว รวบไปว่าผมกระเซิงเหมือนคนเพิ่งตื่นไปเลย สีเสื้อกางเกงนี่ไม่สำคัญหรอก มึงก็บอกเสื้อยืดกางเกงขายาวเหมือนจะเข้านอน ก็รู้อยู่แล้วว่าเซอแดก เรื่องตาสีม่วง กุคิดว่าควรเอาไปไว้แรกสุดว่ะ เพราะพระนางก็กึ่งๆมองหน้ากันถึงรู้สึกช็อตป่ะวะ อีกอย่างตาสีม่วงเป็นสัญลักษณ์ของคำสาปพระเอก ดังนั้นมึงควรเน้นและควรเอาไว้ข้างหน้า มันจะได้มีimpactมากที่สุด
(เสนอแนะ ลองเลี่ยงการใช้คำว่า “ถูก” คำว่า “มัน” ดู มันเป็นสำนวนต่างประเทศ จริงๆไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นแต่ถ้าลองเลี่ยงก็เป็นการฝึกฝีมือการเลือกคำไปในตัว)
(มีต่อ)

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.