คุณคิโชวอินปลีกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อนๆ ผมก็เดินตามเธอไป ยื่นมือไปแตะบ่า คุณคิโชวอินที่กำลังอารมณ์ดีๆอยู่ พอหันกลับมาก็สะดุ้งโหยงเหมือนเห็นผี
“คุณคิโชวอินก็มีบุญคุณกับผมอยู่หลายครั้ง” ผมพูดยิ้มๆ รอดูปฏิกริยาของเธออย่างรู้สึกสนุก “ครั้งนี้จะทำเป็นมองไม่เห็นไปนะ”
หน้าที่ซีดอยู่แล้วก็ยิ่งซีดไปกว่าเดิมอีก ตลกเป็นบ้า
“เอาเป็นว่า จากนี้ไปก็ฝากด้วยนะ”
ผมส่งยิ้มให้คุณคิโชวอิน อยากจะเอาข่าวอื่นๆไปปล่อยเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องตบตีหรืออะไร ก็ตามสบายเลยนะ
แต่จะกล้ารึเปล่านี่สิ
.
.
.
.
หยอกคุณคิโชวอินพอหอมปากหอมคอเป็นการสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง ได้เห็นเธอกลัวตัวสั่นๆเหมือนกระต่ายแล้วก็รู้สึกพอใจขึ้นมานิดหน่อย
ต่อจากนี้ก็แค่ยิ้มใส่เฉยๆ เดี๋ยวคนอย่างเธอก็เก็บไปเครียดเองทีหลังนั่นล่ะ ถือซะว่าเป็นการชดใช้เรื่องวุ่นวายที่ผมกำลังจะเจอต่อจากนี้ก็แล้วกัน
เอาล่ะ เรื่องที่ยังคั่งค้างอยู่ก็ไปทำให้มันจบๆไปเลยดีกว่า
เมื่อซึรุฮานะออกไปจากโรงอาหาร ผมก็เดินตามไป แล้วก็รอให้อยู่คนเดียวเดี่ยวๆก่อน จะได้ไม่มีตัวเกะกะส่งเสียงน่ารำคาญ และอีกอย่าง...จะทำลายขวัญกำลังใจของศัตรูให้ย่อยยับลงได้ ก็มีแต่ต้องเด็ดหัวแม่ทัพเท่านั้น
คุณคิโชวอินใจดีเกินไปที่ปล่อยให้ซึรุฮานะรอดมาหลายหน วัชพืชน่ะ ถ้าไม่ถอนรากถอนโคนก็จะแตกหน่อขยายพันธุ์สร้างความรำคาญอยู่เรื่อยๆนั่นล่ะ
“คุณซึรุฮานะ จะรีบไปไหนเหรอ” ผมเรียกเธอไว้ “หยุดคุยกันก่อนสิ”
ซึรุฮานะชะงักกึก หันมามองผมแบบงุนงง ร้อยวันพันปีผมก็ไม่เคยจะยุ่งเกี่ยวกับเธอมาก่อน คงจะสงสัยว่าอยู่ๆก็มาเรียกไว้ทำไม
ผมก้าวเท้าไปหาด้วยท่าทางสบายๆ ส่งยิ้มน้อยๆไปให้
“ใส่ร้ายคนอื่นนี่สนุกรึเปล่า อ๋อ ก็ต้องสนุกอยู่แล้วล่ะเนอะ ได้โอกาสเห็นศัตรูย่อยยับลงไปตรงหน้าทำไมจะไม่คว้าไว้ ถึงได้พูดจาอะไรไม่เข้าท่าออกมาซะเยอะแยะเลยนี่นะ รู้อยู่แก่ใจว่าคุณคิโชวอินไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้นแต่ก็ยังใส่ร้ายเธอได้ ผมล่ะปวดใจจริงๆ”
“ท่านเอ็นโจคะ”
“ปกติผมก็ไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเรื่องผู้หญิงตบตีกันหรอก แต่ครั้งนี้ดูจะทำเกินไปหน่อยนะ”
ที่นี่ไม่มีใครนอกจากผมกับซึรุฮานะ ก็เลยไม่จำเป็นต้องปั้นหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตรให้เสียเวลา
“ถ้าคิดจะใส่ความคุณคิโชวอินมากไปกว่านี้ ผมจะเข้าข้างคุณคิโชวอินล่ะนะ จะเอายังไงล่ะ”
ผมกลับไปยิ้มเหมือนเดิมให้ซึรุฮานะที่หน้าซีด เสนอทางเลือกให้สองทางว่าจะถอยหรือเดินหน้าต่อ
คนฉลาดที่ไหนก็ต้องเลือกถอยหลัง และผมเองก็หวังว่าเธอจะเป็นคนฉลาด
ซึรุฮานะตัวสั่นน้อยๆ ไม่รู้ว่ามาจากความกลัวหรือความโกรธ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องใส่ใจ
“อย่าเงียบสิ คุณซึรุฮานะ” ผมหัวเราะ เอียงคอมองเธอ “คุณไม่พูดอะไรเลยแบบนี้ ผมอาจจะเข้าใจว่าคุณกำลังจะท้าทายผมอยู่ก็ได้นะ แต่ผมน่ะไม่ใจดีแบบคุณคิโชวอินหรอก”
“....ขออภัยค่ะ”
“หืม”
“....ต้องขออภัยต่อการกระทำอันไม่เหมาะสมของฉันต่อท่านเรย์กะด้วยค่ะ”
“อื๋อ แล้วยังไงอีกล่ะ พูดต่อสิ คุณยังพูดไม่จบไม่ใช่เหรอ”
“ฉัน...ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีก....” พอผมเลิกคิ้วหน่อยๆเป็นเชิงถามว่าแบบไหน เธอก็รีบพูด “...ไม่กล่าวให้ร้ายท่านเรย์กะอีก....”
“อือฮึ ต้องแบบนี้สิ ถึงคุยกันรู้เรื่องหน่อย” ผมพยักหน้ายิ้มๆ “หวังว่าคุณจะจำคำพูดของคุณในวันนี้ได้นะ คุณซึรุฮานะ โอกาสน่ะมีได้ครั้งเดียว ถ้ามีอีกล่ะก็...”
“.....ทราบแล้วค่ะ” ซึรุฮานะก้มหน้า ท่าทางจะเจ็บแค้นมาก แต่ต้องยอมจำนน คงจะนึกถึงเรื่องสมัยก่อนที่ถูก Pivoine อย่างคุณคิโชวอินข่มขู่ล่ะสิท่า
“เด็กดี”
ผมมองตามหลังซึรุฮานะที่เดินจากไปหลังจากคุยกันรู้เรื่องแล้ว จากนี้คงจะสงบสุขไปอีกซักระยะ
ถึงเรื่องนี้เธอจะยอมล้มเลิกไป แต่ผมคิดว่าผู้หญิงที่เหมือนงูพิษจ้องจะแว้งกัดได้ทุกเมื่อแบบนี้คงไม่ยอมรามือง่ายๆหรอก ผมคิดว่าเธอคงหาโอกาสอื่นมาเล่นงานคุณคิโชวอินอีกแน่ แต่โอกาสนั้นจะมาอีกเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครรู้
ช่างเถอะ โอกาสจะมาถึงเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็จะทำแบบเดิมอยู่ดี
ผมจะปกป้องคุณ ถึงคุณไม่ต้องการ ไม่ได้ร้องขอ แต่ผมก็จะปกป้องคุณ
เพื่อคุณแล้วจะให้ผมทำอะไรก็ได้ ต่อให้ต้องกลายเป็นปีศาจร้ายแค่ไหนผมก็ยอม ผมไม่มีวันยอมปล่อยให้คุณตกอยู่ในอันตรายเป็นอันขาด
ทำไมน่ะหรือ คำตอบมันก็ง่ายแสนง่าย เพราะผมชอบคุณน่ะสิ
ที่ผ่านมา ไม่ว่าเธอจะมีปัญหากับใครผมก็ยื่นมือเข้าไปหาทุกครั้ง แม้เธอไม่ได้ร้องขอแต่ผมก็อยากช่วย ไม่ได้รับผลตอบแทนอะไรแต่ผมก็ไม่สนใจ เพราะผมเต็มใจอย่างยิ่งที่จะทำให้
ก็อยากปกป้อง อยากดูแลคนที่ชอบมันแปลกตรงไหน ใครๆบนโลกเขาก็ทำกัน
แต่เรื่องนั้น คุณคิโชวอินไม่จำเป็นต้องรู้หรอก
------------------------
Kisshouin-san I will protect you.