เมื่อถูกเรียก เอ็นโจก็หยุดนิ่ง แต่ไม่หันกลับมา
“ครับ”
“เมื่อกี้นี้ หมายความว่ายังไงคะ” บอกสิว่าแกล้งเล่น ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันคง…….
“เราต้องพูดความจริงในวันคริสต์มาสครับ”
“ไม่เห็นเคยได้ยินเรื่องแบบนั้นเลยค่ะ”
“งั้นก็ถือซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกันนะ”
“ทำได้ซะที่ไหนล่ะคะ พูดออกมาแล้วจะให้ปล่อยผ่านไปอย่างนั้นเหรอ”
“.......”
“แล้วก็หันมาคุยกันก่อนสิคะ” ฉันเดินเข้าไปใกล้ เอ็นโจก็ยิ่งถอยห่างไปเรื่อยๆ
“คุ...คุณคิโชวอิน อย่าเข้ามาใกล้มากไปกว่านี้เลยครับ” น้ำเสียงเอ็นโจดูร้อนรนกว่าปกติ พูดจาก็ตะกุกตะกักแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เป็นอะไรไปคะ ท่านเอ็นโจ”
“ขอร้องล่ะ”
“ไม่สบายเหรอคะ”
“......”
“ท่านเอ็นโจ” ฉันก้าวเข้าไปประชิดตัวเอ็นโจ หมอนั่นสะดุ้งเฮือกแล้วรีบก้มหน้าก้มตาลง เอ๊ะ อะไรกันนักกันหนายะ
ฉันก้มตัวตาม เอียงคอมองคนที่กำลังก้มหน้าอยู่แล้วก็ได้เห็น
ใบหน้าของเอ็นโจแดงก่ำเหมือนเลือดไหลมารวมกันอยู่ตรงนั้นทั้งหมด สีแดงนั้นลามไปถึงใบหู ปากก็ดูจะสั่นๆ ตาจ้องเป๋งมองพื้นไม่สบตาฉัน
เอ๋!!!
เอ็นโจหน้าแดงเนี่ยนะ อะไรเนี่ย หมายความว่ายังไงกัน ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นหมอนี่หน้าแดงหรือเขินอายกับเขาด้วย
มือถือ มือถืออยู่ไหนอะ ขอถ่ายรูปก่อนได้มั้ย นี่มันโมเมนต์หายากเลยนะเนี่ย
“อย่ามองเลยครับ” เอ็นโจยกมือมาปิดหน้าตัวเองแต่ก็ปิดไม่มิด
“ท่านเอ็นโจ….” ฉันควานมือไปข้างๆตัว อ้าว ลืมไปว่ากระเป๋าอยู่บนรถนี่นา “หน้าแดงเชียว...เขินอยู่งั้นเหรอคะ”
เอ็นโจสะดุ้งเฮือก แล้วหันไปทางอื่น
“มัวแต่หนีแล้วจะคุยกันรู้เรื่องได้ยังไงล่ะคะ หันมานี่ก่อนสิ”
ฉันเข้าไปใกล้ๆ เอ็นโจดูลนลานแตกตื่นแบบเห็นได้ชัด เป็นท่าทีที่คงจะไม่มีวันได้เห็นในยามปกติแน่ๆ
“อะไรกัน คนที่มั่นใจในตัวเองเมื่อกี้หายไปไหนแล้วล่ะ”
โอ๊ย ได้เอาคืนแบบนี้สนุกชะมัดเลยค่ะ
เอ็นโจถอนหายใจออกมา สีหน้าดูสับสน
“น่าสมเพชใช่มั้ยล่ะครับ อุตส่าห์คิดว่าจะพูดแบบเท่ๆ แต่ดันมาทำตัวน่าขายหน้าซะได้” หมอนี่เกาคอตัวเอง มองไปทางอื่นไม่ยอมสบตา “จะหัวเราะก็ได้นะครับ”
“ไม่หัวเราะหรอกค่ะ” ฉันทำแค่ยิ้ม จริงๆก็อยากหัวเราะนะ แต่ไม่รู้จะโดนเก็บดอกเบี้ยอาฆาตแค้นอะไรรึเปล่า ก็เลยต้องเก็บไว้ก่อน “แล้ว....จะหันมาพูดกันดีๆได้รึยังคะ”
เอ็นโจค่อยๆหันมา ส่งยิ้มหน้าปูเลี่ยนๆให้ แต่ก็ดีแล้วที่ไม่ใช่ยิ้มขื่นๆแบบที่ชอบทำ
“เมื่อกี้ สารภาพรักสินะคะ” ฉันยื่นนิ้วไปตรงหน้าเอ็นโจที่ทำท่าผงะหงาย “อ๊ะๆ อย่ามาบ่ายเบี่ยงเชียวนะ วันคริสต์มาสต้องพูดความจริงไม่ใช่เหรอคะ”
เอ็นโจนิ่งไปครู่หนึ่งก็พยักหน้า “ก็...ตามนั้นนั่นล่ะ”
“นี่เพี้ยนรึเปล่า คนสวยๆ นิสัยดีๆก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ ฉันแทบจะไม่เคยทำอะไรดีๆให้คุณเลยไม่ใช่รึไง” พูดไปก็รู้สึกว่ากำลังด่าตัวเองอยู่เลยแฮะ แต่ฉันสงสัยจริงๆนะ
หรือหมอนี่จะเป็นมาโซ…..โอ๊ย!! ตายแล้ว ชอบการถูกทรมานทำร้ายจิตใจอย่างนั้นเหรอ
“คนสวยๆหรือนิสัยดีๆพวกนั้นไม่ใช่คุณนี่นา” เอ็นโจยิ้ม แสงไฟจากโบสถ์และต้นคริสต์มาสทำให้บรรยากาศดูอ่อนโยนมาก หยั่งกะในหนังแน่ะ “สำหรับผม คุณเพอร์เฟค”
ฉันหน้าร้อนซู่ขึ้นมาทันที