>>623 เอาให้จบบทสอง
........................................................................................
“.......ชั้นพอเข้าใจอยู่ค่ะ ว่าบางครั้งสภาพแวดล้อมก็หล่อหลอมคนเราให้ดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดดังนั้นฉันจะโทษคุณเอ็นโจทั้งหมดไม่ได้ แต่ใช่ว่าชั้นจะให้อภัยในสิ่งที่คุณทำอยู่หรอกน่ะ”
“.........”
“เก็บพวกขยะของคุณกลับไปซะ หวังว่าคงไม่ทำเรื่องเข้าข่ายอาชญากรรมอีกนะคะ นี่ก็เย็นมากแล้ว ขอตัวนะคะคุณเอ็นโจ”
ทาคามิจิดันพวกเศษอุปกรณ์ดักฟังกับกล้องรูเข็มมาทางผมและลุกขึ้นเก็บของ ผมมองดูนาฬิกาข้อมือซึ่งเป็นเวลาที่เย็นพอสมควรคงถึงเวลาที่บทสนทนาตรงนี้จบลง
“ผมทำผิดกับคุณไว้เยอะทีเดียวเพื่อเป็นการขอโทษ วันนี้ผมขอเลี้ยงเพื่อเป็นการไถ่โทษเล็กน้อยก็แล้วกัน”
“ไม่จำเป็นค่ะ ชั้นได้จ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ตอนสั่งอาหารแล้ว ไม่รบกวนคุณเอ็นโจไปมากกว่านี้แล้วค่ะ”
ครับๆ ไม่รับสินน้ำใจไถ่โทษที่เล็กน้อยแสดงว่าไม่ยอมยกโทษให้ผมตามที่เธอกล่าวไว้ ซึ่งผมก็คิดอยู่แล้วล่ะก็เล่นข้ามเส้นความส่วนตัวติดนู่น ติดนี่จนเกิดความระแวง แถมยังทำให้คุณคิโชวอินที่เป็นเพื่อนสนิทเกิดอาการขวัญเสียอีก ความผิดมันเยอะขนาดนี้สมควรไม่ได้รับการให้อภัยและโดนฝีปากดุจคมมีดเชือดเฉือน ถ้าเป็นคนอื่นนี่ผมใช้อิทธิพลของผมกดดันกับครอบครัวของหล่อนไปแล้ว โชคดีไปนะคุณทาคามิจิที่มาซายะชอบคุณ และคุณคิโชวอินเป็นเพื่อนคุณน่ะ
“งั้นผมขอไม่ส่งคุณน่ะ คุณคงกลับเองได้โดยไม่พึ่งผม”
ผมยิ้มส่ง “ผู้เตือน” ไปอย่างเสแสร้ง คุณคิดว่าผมใจดำสินะที่ไม่ยอมส่งผู้หญิงตัวคนเดียวกลับบ้าน นี่...ร้านรูนด้ามันไกลจากตัวเมืองมากแถมรถโดยสารที่ผ่านทางนี้มีน้อย ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องมารถส่วนตัวกับรถแท็กซี่ จะบอกว่าทาคามิจิมาด้วยรถแท็กซี่หรอ..หึ...ตอนแรกผมคงจะเชื่อและจะให้เธอติดรถพาเธอกลับบ้านไปแล้วล่ะ
ถ้าตอนมาร้านผมไม่เจอทาคามิจิออกมาจากรถยนต์หรูหรา ผมถึงสั่งให้คนขับรถแอบไปจอดมุมอับเพื่อไม่ให้รถคันนั้นสังเกตเห็น เมื่อมีคนส่งก็ต้องมีคนมารับใช่ไหม?
“....อือหือ?....นั่นนะสิค่ะ...ช่างรอบรู้สมกับเป็นคุณชายเอ็นโจจริงๆ”
ทาคามิจิก็ยิ้มตอบกลับมาแบบผู้ดีที่ดูก็รู้ว่าแกล้งยิ้มอย่างประชดประชัน ทาคามิจิเธอเองไม่ต้องฝึกสีหน้าประชดประชันหรอกนะแค่คำพูดก็พอแล้ว
“ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ก็มาดูตรงระเบียบก็ได้นะคะ ว่าใครมารับชั้น”
ทาคามิจิส่งเสียงสบายๆ โบกมือลั้นลา แต่มันกวนประสาทผมได้ดีเลยล่ะ เอาซิ!! ผมอยากรู้เสียจริงว่าใครมาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของเธอให้เธอมาเป็น “ผู้เตือน” ผมอย่างไม่กลัวตายกัน
เมื่อทาคามิจิออกจากประตูไป ผมก็ดื่มกาแฟให้หมดและเดินออกไปที่ระเบียงด้านข้างที่สามารถมองเห็นหน้าร้านและตัวถนน โอ๊ะ..เจอทาคามิจิที่เดินออกจากร้านไปทางรถหรูคันเดิมที่ผมเห็นเมื่อตอนแรก หือ? มีคนก้าวออกมาจากรถ? ทาคามิจิก็โค้งตัวเคารพผู้ชายคนนั้นก่อนจะเข้าไปในรถซึ่งฝ่ายชายก็ปิดประตูให้
อ่า......เข้าใจแล้ว
ผมไม่แปลกใจแล้วที่ทาคามิจิกล้ามา “เตือน” ผมอย่างไม่เกรงกลัวอิทธิพลของตระกูลเอ็นโจ รู้ถึงอุปกรณ์ดักฟังที่คนของผมไม่น่าจะพลาดได้ถึงขนาดที่เธอเล่า หรือคนของผมที่แอบตามคุณคิโชวอินไปที่บ้านเธอ แล้วกิริยาแบบผู้ดีของเธออีก คุณเองสินะที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด
“คิโชวอิน ทาคาเทรุ”
และเขาก็มองขึ้นมาทางผมด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
.................................................................
โธ่..จอมมารตีโต้ไม่ทันไรเจอธิดามารสวนกลับเข้าให้ แถมมารู้ว่าธิดามารเป็นเด็กปั้นของเทพมารอีก พยายามเข้านะจอมมาร!!