Last posted
Total of 1000 posts
ความแตกต่างในฟิคกาวและความเป็นจริงช่างใหญ่หลวงยิ่งนัก...
ช่วงแรกกูเชียร์เอ็นโจมากเลยนะ แต่ช่วงหลังออกมานี่ได้แต่ให้คะแนนติดลบไปเรื่อยๆ
จนตอนนี้กูหันไปเชียร์คนอื่นยกเว้นเอ็นโจแล้ว 55555555
เห็นด้วยยยย การจีบสาวผิดวิธีนะคะ นี่มันเด็กอนุบาลหรือเปล่า? การเข้าหาด้วยวิธีแก้หาเรื่องคนที่ชอบแบบนี้ กูชักเริ่มๆคิดแล้วว่าเอนโจไม่ฉลาด ไม่บอกเค้าจะรู้ได้ยังไงว่าชอบ พฤติกรรมสวนทางความคิดแบบนี้ ฮือๆ ย้ายเรือถาวรเลยดีไหมเนี่ยยยยยยยย // ไปอยู่เรือคานค่า! อุ้ย ผิด เรืออาริมะ น่าลงนะ แต่จบตอนนี้ไป บทก็คงหาย ถถถถถ
ปล. กูอยากกินเค้กกกบ้างงง โม่งแปลเราไปเดทกินเค้กกันเถอะะะะะะะะ กูเลี้ยงมึงนะ ตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ที่คอยแปลอย่างดี ไม่นับเชิงอรรถอลังการ เลิฟๆ
จริงๆกูคิดนะว่าเอ็นโจมันเป็นพวกโรคจิตประเภทซาดิสม์ว่ะ อาการแม่งเด่นชัดมากอะ 55555555555555555555
ไอ้ชอบมันก็ชอบนะ แต่ชอบเวลาเห็นเรย์กะลำบากใจ หน้าซีด ตัวสั่นเพราะถูกฮีข่มขู่เหมือนกัน ส่วนเรย์กะเป็นพวกวิตกจริตเกินเหตุเลยกลัวมากกว่าปกติ ถ้าจะให้เรย์กะมองฮีในแง่ดีได้ต้องเลิกพฤติกรรมจิตไม่ปกติแบบนี้ก่อน ซึ่งกูว่ายากส์ มันเป็นสันดานไปแล้ว
ใครอ่านญี่ปุ่นออก ฝอยให้ที ถถถ
https://touch.pixiv.net/novel/show.php?id=8585182&uarea=word
ดิบตอนใหม่ มุมมองเซริกะ!!
พวกมึงลืมจุดดด
เหย็ดเข้ เป็นมุมมองบุคคลที่นักอ่านรอคอยมากเป็นลำดับต้นๆเลยมั้งเนี่ย โอ้ว ว้าวววววววววว 5555555555555555
เออ เจอฟิคภาษาอังกฤษ ทำให้รู้ว่าจะกาวไทยหรือกาวนอก กลิ่นก็คล้ายๆกันเลยว่ะ 5555
กูขอกรี๊ดดด ดิบตอนใหม่!!!
.
.
.
.
.
.
สายตาท่านเอ็นโจที่จ้องมองท่านเรย์กะนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน //ดำน้ำมาจับจ้องได้แต่ตรงนี้ ลูกเรือเอ็นโจ กลิ้งไปค่ะ กลิ้งไป!!
.
.
.
.
.
>>85 มันเป็นคอมเม้นท์ในff อะ อ่านลำบากนิด
เป็นpovเอ็นโจ แล้วก็คาบุ
https://m.fanfiction.net/r/12561123/0/2/
เม้นท์ของยูสเซอร์ KuQ Ku
ต้องไล่อ่านจากเม้นท์ล่างขึ้นบน เริ่มหน้า2แล้วไล่ไปหน้า1
>>68 ว้ายยยยย จะเลี้ยงเค้กจริงเหรอ อยากไปจังเลยค่ะ! /ทำเสียงท่านเรย์กะตอนโดนชวนไปอควอเรียม แต่กูกลัวโม่งแตกอะ ฮือออออ เอาไว้แปลจบ (อีกกี่ร้อยตอนวะ...) แล้วไปตระเวณทัวร์บริโภคเป็นที่ระลึกท่านเรย์กะละกัน แดกราเม็ง เกี๊ยวซ่า ชีสเบอเกอร์ แกงกะหรี่มิราเคิลพุดดิ้ง แล้วไปจิบชากินขนม Ispahan แล้วใครจะเข้าคอร์สไดเอ็ทต่อก็ตามสะดวก
แอบไปอ่านดิบตอนล่าสุดมาล่ะ พักนี้อ.ฮิโยโกะขยันจังค่ะ ชื่นใจ
.
.
.
.
อ่านแล้วหลายๆ อย่างนี่ตรงกับที่โม่งคิดนะนี่ สงสัยเราจะตามรอยมาถูกทางล่ะ หรืออาจารย์แอบมาอ่านโม่งจริงๆ วะ 55555 ขอความหวานด้วยค่าาาาาา
.
.
.
.
>>93 กูว่าถ้าเราจัดมีทติ้ง เราก็ซื้อของกินที่มีอยู่ในเรื่องไปกันคนละอย่างสองอย่าง แล้วเอามาทำรูเล็ตต์เสี่ยงทายว่าใครจะได้แดกอะไรกันดีกว่า รางวัลแจ็คพ็อตคืออาหารฝีมือท่านเรย์กะ อย่างข้าวต้มโรงงานเกลือ แกงมิราเคิล เค้กช็อกโกแลตใส่เหล้าลิเควียร์ ฯลฯ เรทออกเหมือนกาชา ssr ไม่ดวงดีจริงๆไม่ได้ 555555555555
>>94 แกงนั่นกูว่ามีคนกินอยู่แล้ว เขาให้อะไรมาก็คงกิน และกินแบบหน้าชื่นตาบานด้วย 55555555555
อ่านดิบตอนใหม่แล้ว
.
.
.
.
.
สาวๆแก๊งค์เรย์กะซามะก็มีหนุ่มๆมาข้องแวะนี่นา มีแอบปาร์ตี้บาบีคิวกับหนุ่มโรงเรียนอื่นด้วย แต่ทำไมชีวิตเรย์กะซามะถึงได้แห้งเหี่ยวแบบนี้ล่ะะะะ
แต่เห็นฮิโยโกะซามะหยอดเอ็นโจมาเรื่อยๆแล้วกลัวหลังหักจัง เกิดโดนคนเขียนล่มเรือเองนี่ช้ำใจตายแน่
.
.
.
.
.
>>98 ไม่ได้สปอย แต่ตอบข้อความมึง ใส่จุดไว้หน่อยดึกว่า
.
.
.
.
เจ้าแม่ก็มีหนุ่มโรงเรียนอื่นมาข้องแวะนะ นายบ้าหมาไง แถมได้หมาเป็นดอปเปลแกงเกอร์อีก เหนือกว่าเห็นๆ ถถถถถถถ
ส่วนเรือเอ็นโจนี่ ถึงกูจะด่าไปหงุดหงิดไปตอนฮีทำตัวแย่ๆ แต่ถ้าล่มกูต้องกระอักเลือดช้ำในตายแน่ๆว่ะ คนนี้กูเชียร๋ไม่เคยเปลี่ยนใจมาตั้งแต่อยู่ประถมเบยยยยยย
.
.
.
กูเผื่อใจให้คานซังไปแล้ว 50% แต่จากตอนก่อนอาริมะตีเพิ่มเป็น20% แล้ว สู้ๆนะตัวสำรอง
กูกลัวว่า เรื่องนี้แม่งอาจจะจบแค่ท่านเรย์กะพ้นภัยหายนะ คาบุรักสมหวังอะไรก็ว่าไป ส่วนเรื่องรักของท่านเรย์กะ ทิ้งไว้ให้คิดเอาเอง จบปลายเปิดงี้ กูช้ำใจตายแน่
จบแบ่บส่งคนหมู่บ้านมีรักเข้าพิธีวิวาห์ ผู้ใหญ่บ้านคานทองกับรองผู้ใหญ่บ้านนั่งจิบชา คุยเรื่องทีวีไดเรคต์ไปด้วยกันก็โอแล้วนะ สำหรับกูในจุดนี้ มันดูชิลล์ๆ ดี ส่วนเอ็นโจถ้ายังทำเจ้าแม่หวาดผวาอยู่แบบนี้ก็ไม่ยกให้จริงๆ นะ แง่ง
.....
....
...
..
.
กริ๊ดดดด กูขอกรีดร้อง เพิ่งตามไปดำน้ำอ่านดิบตอนใหม่มา หมดกัน เจ้าแม่กู เหล่าลูกสมุนรู้ความลับเจ้าแม่หมดแล้ว นางซ่อนความรั่วของนางไม่ได้อีกต่อไป 5555 โอย
นี่ทนไม่ไหวต้องใช้อากู๋แปลเอา ดำน้ำไปเรื่อย ต้องไว้รออ่านภาษาไทยของโม่งแปลแบบฟินๆ เอา 555
ไหนๆก็เป็นผู้ใหญ่บ้านกับรองผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านคานทองอยู่แล้ว ก็อยู่ด้วยกันไปเลยเถอะ
วันๆนั่งคุยเรื่องทีวีไดเร็ค ทดลองสินค้ากันมุ้งมิ้งจะตาย ช่วงนี้กูเชียร์อาริมะมาก5555
//ส่วนเอ็นโจถ้ายังมัวแต่กดดันเจ้าแม่อยู่ก็นกไปซร้าา
มีตติ้งจริงปะมึง กูอยากไปจริงนะเนี่ย 5555 รู้จักพวกมึงมา18,000กว่าข้อความแล้ว อยากไปเม้าท์มอยในชีวิตจริงบ้าง แต่ก็กลัวโม่งแตก 5555 *สมัครเข้าชมรมงานฝีมือไปถักโม่งรอ*
กูก็อยากไป อยากเจอพวกมึง ทุกคนในกระทู้คือเพื่อนกูเช่นกัน ถ้ามีมีทเราจะเจอกันที่ไหนดี สยามเหรอ
>>106 กูอยู่ชมรมฟิสิกส์ไฟฟ้า ชื่อฟังดูดี แต่จริงๆเป็นชมรมลอกการบ้าน นอน เม้าท์แตก แดกส้มตำ ตีแบด เล่นเกมเศรษฐี ถกกันเรื่องมนุษย์ต่างดาว คิดว่าไดโนเสาร์จะเป็นโรคหัวใจกับโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดกันมั้ย ทำอะไรก็ได้ที่ไม่เกี่ยวกับฟิสิกส์ไฟฟ้า 55555555555555555
555 ถ้ามึงจัดมีทติ้งแล้วเสิร์ฟอาหารขนมทั้งหลายที่เจ้าแม่กิน กูจะรีบลงชื่อคนแรกเลย
กูอยู่ชมรมนั่งสมาธิ55555
ที่ความจริงคือการนั่งทำอะไรก็ได้โดยไม่มีเสียงและทำท่านั่งสมาธิทันทีที่มีคนมาตรวจ โดยห้องชมรมกูตั้งอยู่ในชัยภูมิที่ดี ใครจะเข้ามาใกล้ห้องนี่เราจะรู้ตัวก่อนเสมอ55555
กูอยู่ชมรมดนตรีแฮะ 555555 เล่นงานมหาลัยงานรับน้องไปเรื่อย มู้นี้คนหลายสายจังวะ 5555
รร.กูน่าจะมีชมรมนะเคยได้ยินผ่านๆ
แต่แม่งมุดอยู่ไหนกันไม่รู้ เหมือนรร.จะไม่สนับสนุนเท่าไหร่ มีแต่ชุมนุมที่บังคับเข้าเป็นวิชาเลือกตามระดับชั้น กูอยู่วรรณกรรม(ตอนแรกลงชื่ออีกชุมนุมไว้ แต่เจอพวกที่ไม่อยากเจอทั้งแก๊ง+กับอีกครึ่งห้องของกลุ่มพวกนาง กูนี่เปลี่ยนมาวรรณกรรมแทบไม่ทัน) พอมาอยู่แล้วชิวมาก อยู่ในห้องสมุด มีคนอยู่หกคน วิเคราะห์หนังสือกันเสร็จเหลืออีกชม.นึงก็นอนอ่านหนังสือตากแอร์กันในห้องสมุดนั่นแหละ สบายแท้ =w= เพื่อนกูมันอยู่อาหารว่างนานาชาติ พอจบคาบชุมนุมไปก็รอดักของกินจากมัน อร่อยมาก ไม่รู้ว่าเพราะหิวหรืออะไร5555555
กุอยู่ชมรมแฮนด์เมดว่ะ พวกของทำมืออะไรงี้ หน้าที่หลักคือใช้กรรไกร กับติดกาวให้เพื่อน งานฝีมือกุแย่มาก กุเป็นคนมือหนักใช้ชีวิตกับงานแบบนี้ยาก มาลงให้คนเต็มเพราะครูที่ปรึกษาบังคับมา รู้สึกเหมือนอยู่ผิดที่ต้องแวะไปหาชมรมอาหารตลอดเลย5555555555
>>119 ของกูก็ต้องเข้าชมรมเพราะโรงเรียนบังคับให้ทำกิจกรรมเหมือนกันว่ะ แต่กลุ่มกูชิงไปขออาจารย์ว่าตั้งชมรมกันเองได้มั้ย ให้อาจารย์ฟิสิกส์มาเป็นที่ปรึกษา อาจารย์แกก็โอเครับรองชมรมให้ แล้วแกก็ไม่ค่อยอยู่เท่าไหร่เพราะมีพวกสัมมนาวิชาการไรงี้เดือนๆนึงเยอะอยู่ พวกกูก็สบายยยยย เปิดแอร์ห้องเรียนฟิสิกส์ทำกิจกรรมอิสระกันเพลินเลย ภายนอกเขาก็มองว่ากลุ่มกูแม่งเด็กเรียนจัง เรียนห้องวิทย์ด้วย เข้าชมรมฟิสิกส์ไฟฟ้าด้วย พวกกูนี่อยากจะบอกว่าเปล่า คาบชมรมกูเอาไว้ลอกการบ้าน เล่นเกม นอนกันอย่างฟรีสไตล์ 55555555555555
เป็นกรรมการนักเรียน ช่วงชมรมก็ไปนั่งเล่น เม้าท์มอย ให้อาจารย์เลี้ยงขนมที่ห้องพักครูบ้าง ห้องปกครองบ้าง ไม่ก็ห้องรองผอ...
กูอยู่ชมรมจัดสวน ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ แต่สนุกดี ขุดดิน ใส่ปุ๋ย ปลูกต้นไม้ ได้ความรู้เรื่องพืชพรรณดอกไม้ใบไม้เยอะแยะ รู้วิธีดูแลต้นไม้ ตอนเอนทรานซ์กูเลยเลือกเข้าภูมิสถาปัตย์เพราะกูชอบทางด้านนี้ แล้วก็ไม่ผิดหวัง
>>91 >>93 >>105 >>109 >>111 >>112 บางทีก็คิดนะ ว่าถ้ามีอีตติ้งง เอ๊ยย มีทติ้ง คงสนุกดี ถ้าตระเวนไปร้านโน่น นี่ นั่น คงสนุกดี แค่ตามรอบท่านเรย์กะกินก็คงสนุกแล้ว สรุปว่าเราจะมีมีตติ้งตอนเรื่องจบใช่ไหมมม 5555 ให้เวลากี่ปีดีเนี่ยยย
ว่าแต่ว่าบางทีก็สงสัยว่ามันมีจำนวนโม่งใต้ดินแถวนี้อยู่เท่าไหร่ แอบอยากรู้เล่นนะเนี่ยย 5555
KY นิด Needle Felt ศิลปินเจ้านี้น่ารักมากเลยอ่า ท่านเรย์กะทำให้ได้อย่างเขาบ้างสิคะ
http://www.boredpanda.com/nature-inspired-woolen-art-theladymoth/?llid=1rNP1&utm_source=facebook&utm_medium=link&utm_campaign=liquidsocial&utm_content=9XxW
กูไม่มีหน้ากาก แต่มีแว่นดำ เนียนๆเอาละกัน555
คิดไปคิดมา กูขอใส่หน้ากาก V for vendetta ไปก็แล้วกัน 55555555
กูมีหน้ากากนี่ของแท้นะ ชอบหน้าตามันมากเพราะแม่งดูกวนตีนดี ชอบขนาดไปเมืองนอกก็หิ้วมาด้วย แต่ตอนนั้นพวกม็อบแม่งเอาไปใส่ แถมใช้หน้ากากความหมายแบบผิดๆอีก กูเคืองชิบหาย ถ้ามีมีทติ้งเดี๋ยวกูใส่ไป แต่เขาจะให้กูเข้าร้านรึเปล่าวะ 55555555555
ให้ทุกคนที่ไปมีทติ้งติดดอกโบตั๋นแดงเป็นสัญลักษณ์ก็ดีนะ มองตากันก็รู้ใจ คนอื่นไม่มีใครกล้าสบตาด้วย 555555
มีแต่คนใส่หน้ากากสายดาร์ก งั้นกูใส่ลายเซเลอร์มูนงานวัดมาแล้วกัน555
กูไม่มีงบ เอาถุงกระดาษคลุมหัวแทนได้มะถถถ
>>136 กูดูหนังอย่างเดียวว่ะ ประทับใจหน้ากากเชี่ยนี่มากตั้งแต่แรกพบ หน้าตามันกวนตีนชิบหาย ต้องขอบคุณฝ่ายอาร์ตใช่ป่ะที่ทำหน้ากากแบบนี้ออกมาบนโลกได้ 55555555555555555555
ถ้ามีมีทติ้งจริงๆกูจะไปนะ เราก็อยู่กันมาตั้งแต่ห้องลิทมายันตั้งอาณาจักรกันเอง กูก็อยากเจอพวกมึงเหมือนกัน
ได้เวลาแจกกาว
ฟิคเวียนในตำนาน >>>/webnovel/4218/974-975
------------------------------
รอคิวไม่นาน พวกเราก็ได้เข้ามานั่งในร้าน ได้เป็นโต๊ะมุมในสุดที่โต๊ะฝั่งหนึ่งติดกำแพง นั่งได้สามที่พอดี
ฉันนั่งที่หัวโต๊ะ ส่วนเอ็นโจกับนายตัวสำรองนั่งตรงกันข้าม เปิดเมนูไปไม่พูดไม่จา
“จะรับอะไรดีคะ”
พนักงานสาวที่ฉันคุ้นหน้าคุ้นตามารับออเดอร์ แต่เอ๊ะ!! รู้สึกวันนี้จะทำเสียงอ่อนเสียงหวานกว่าเดิมรึเปล่านะ แล้วปกติกว่าจะเดินมารับออเดอร์ก็น๊านนานไม่ใช่รึไง แล้วไหงวันนี้รวดเร็วจังเลยล่ะยะ
“เอาราเมงซุปเกลือที่หนึ่งครับ” โอ้ ความมุ่งมั่นของนายตัวสำรองไม่แปรเปลี่ยนจริงๆค่ะ บอกจะทานซุปเกลือก็สั่งซุปเกลือจริงๆ ผิดกับฉันที่ลังเล แหม ก็มันน่าทานไปหมดเลยนี่คะ
“งั้นฉันเอามิโซะราเมงค่ะ แล้วก็ขอเกี๊ยวซ่าเอ่อ….” ฉันเหลือบมองเอ็นโจ พอได้สบตาที่จ้องมองมา ฉันก็หดกลับไปดูเมนูเหมือนเดิม “...สามชุดก็แล้วกันค่ะ”
“แล้วคุณผู้ชายทางนี้ล่ะคะ”
เอ็นโจที่กำลังก้มลงมองเมนู เงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินคำถาม แล้วก็ส่งยิ้มหวานให้กับสาวพนักงานที่ยืนถือกระดาษจดกับปากกาในมือ
“เอามิโซะราเมงเหมือนคุณเรย์กะครับ”
แล้วทำไมต้องยิ้มแล้วทำสายตาแบบนั้นด้วยล่ะยะ หา!!!! ดูสิยะ เขาหน้าแดงหมดแล้วนะ
พอสั่งอาหารเสร็จ สาวพนักงานทำท่าอ้อยอิ่งที่จะจากไปด้วยล่ะค่ะ แต่เอ็นโจไม่สนใจ หันไปคุยกับนายตัวสำรองด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”
“นั่นสินะ ตั้งแต่จบม.ปลายเลยล่ะ” นายตัวสำรองพยักเพยิดหน้า
“แล้วคุณมิซึซากิมาทำอะไรที่คิโชวอินกรุ๊ปกันล่ะครับ”
“อ๋อ คุณทาคาเทรุจ้างบริษัทฉันเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายน่ะ” นายตัวสำรองเหลือบมองฉันนิดหน่อยแล้วก็หันไปคุยกับเอ็นโจต่อ “มาดูแลโครงการที่จะทำร่วมกับเอ็นโจกรุ๊ป”
“งั้นเหรอครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดีรึเปล่า”
“ก็ราบรื่นดีไม่มีปัญหา” นายหัวสำรองพยักหน้า “นักกฎหมายของฝั่งนั้นเก่งนะ ร่างสัญญามาได้รัดกุมรอบคอบจริงๆ”
“ผมชอบทำงานกับคนเก่งๆน่ะ ยิ่งฉลาดด้วย ยิ่งชอบ” เอ็นโจประสานมือไว้บนโต๊ะ “เพราะคนฉลาดน่ะหัวไว เข้าใจอะไรได้ง่าย ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความก็รู้ว่าตัวเองควรทำตัวยังไง มีสถานะแบบไหน”
เอ็นโจยิ้ม แต่ฉันเห็นแล้วรู้สึกหนาวสันหลังชอบกล เลยก้มหน้าดื่มชาเขียวร้อนอั๊กๆ
ในร้านก็น่าจะอุ่นแท้ๆ แต่ทำไมตรงนี้ถึงได้หนาวนักล่ะยะ
พนักงานสาวคนเดิมยกราเมงมาวางบนโต๊ะ มองนายตัวสำรองกับเอ็นโจตาปรอย ตอนวางชามก็ดูจะอ้อยอิ่งมากเกินควร แถมยังถามเสียงอ่อนเสียงหวานอีกว่าจะรับอะไรเพิ่มรึเปล่า
เอ็นโจปฏิเสธไปพร้อมรอยยิ้ม เรียกสีชมพูจางๆให้เกิดขึ้นบนใบหน้าของสาวน้อยอีกหน เดี๋ยวเถอะ นั่นมันผู้เยาว์นะยะ
เท่านั้นยังไม่พอ มีสาวออฟฟิศกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่อีกโต๊ะมองมา หมอนี่ก็หันไปส่งยิ้มให้ เรียกเสียงวี้ดว้ายจากโต๊ะนั้น คนของหมู่บ้านคาสโนว่านี่หว่านเสน่ห์ไปทั่วเลยนะยะ
พอฉันจ้องหน้า เอ็นโจก็ยิ้มมุมปากแล้วหันไปขยิบตาให้กับสาวออฟฟิศกลุ่มนั้นต่อ
ท่าทีแบบนั้นน่ะมันอะไรกันห๊ะ!! เช็คเรตติ้งงั้นเรอะ!! จะมาเยาะเย้ยฉันที่ตัวเองยังป็อบอยู่ มองไปทางไหนสาวก็กรี๊ด แต่ฉันไม่มีใครเหลียวแลในวันคริสต์มาสใช่มะ หนอย!!!!
ฉันตักน้ำซุปเข้าปากอย่างหงุดหงิด ชิ!!!...ซุปมิโซะวันนี้ไม่อร่อยเลย สงสัยต้องเปลี่ยนร้านแล้ว
นายสำรองมองฉันสลับกับมองเอ็นโจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เอ่ยขึ้น
“พวกเธอสองคนทะเลาะกันเหรอ”
“เอ๋!?” ฉันเลิกคิ้วขึ้น “เปล่านี่คะ”
“ก็ไม่นี่”
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามีเรื่องอะไรกัน แต่ฉันเข้าใจนะ คนเป็นแฟนกันมันก็มีกระทบกระทั่งหึงหวงกันบ้างเป็นธรรมดา”
“ห๊ะ!! มิซึซากิคุง พูดอะไรน่ะคะ”
“ไม่ได้ทะเลาะหรอกครับ….”
เอ็นโจแย้มรอยยิ้มดูเหมือนรูปปั้นกรีกที่อ่านใจจริงไม่ออกอีกแล้ว
“.....ก็ไม่ได้สนิทขนาดจะมาทะเลาะกันนี่นา”
รอยยิ้มของเอ็นโจ ดูบาดลึกยิ่งกว่าเดิม
“แล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย จะมาหึงหวงกันผมว่ามันแปลกๆอยู่นะ”
กรี๊ดดดดด!! อะไรมันจะหูผีขนาดนั้น ขนาดกระซิบกับนายตัวสำรองยังได้ยินอีกงั้นเรอะ!!!
ตอนที่ทำอะไรไม่ถูกอยู่นั่นเอง ก็มีผู้หญิงสองคนจากโต๊ะสาวออฟฟิศที่เอ็นโจไปเล่นหูเล่นตาด้วยเดินเข้ามาหา แนะนำตัวทักทายและส่งกระดาษอะไรให้เอ็นโจด้วยท่าทางขวยเขิน
ฉันลองแอบชำเลืองดูก็พบว่าเป็นเมล์กับเบอร์โทรเสร็จสรรพ แถมสาวๆสองคนนั้นยังบอกอีกว่ากำลังจะไปคาราโอเกะ ชักชวนเอ็นโจกับนายตัวสำรองไปด้วยอย่างเปิดเผย ข้ามหัวฉันไปอย่างไม่ไยดี ทำเป็นไม่เห็นว่ามาด้วยกัน
นายตัวสำรองปฏิเสธไปบอกว่ามีงานค้าง แต่เอ็นโจกลับยิ้มแย้มอ่อนหวาน ยกกระดาษเบอร์โทรแตะปากตัวเองเบาๆ ส่งสายตาหวานเชื่อมไปให้สองคนนั้น
“แหม อุตส่าห์มาชวนในวันสำคัญแบบนี้ เป็นเกียรติมากเลยล่ะครับ”
เอ็นโจยักไหล่ให้ฉัน ทำท่าเหมือนตัวเองเหนือกว่าเสียเต็มประดา
อ๊ากกกกกกกกกกกก!! โมโหว้อยยยยยยยยยยย!!!
สองคนนั้นกลับโต๊ะตัวเองไปแล้ว นายตัวสำรองที่ดื่มชาหมดแก้วแล้วก็ลุกขึ้นยืน ถือบิลเอาไว้ในมือบอกจะเลี้ยงเองแล้วทำท่าจะเดินจากไป แต่ฉันลุกขึ้นยืน คล้องแขนตัวเองเข้ากับแขนนายตัวสำรอง
“มิซึซากิคุง ฉันอยากทานเค้กตรงร้านที่เราสองคนเคยไปทานกันเมื่ออาทิตย์ก่อนจัง”
ฉันเน้นเสียงคำว่า “เราสองคน” แบบจงใจ แต่นายตัวสำรองเลิกคิ้วขึ้น
“ฉันมีงานค้าง….”
“พูดอะไรอย่างนั้น นี่มันคริสต์มาสนะคะ หัดสนุกสนานผ่อนคลายกว่านี้หน่อยซี่” ฉันรีบพูดแทรกนายตัวสำรองที่ทำท่าจะบ่ายเบี่ยง “เอ้า ไปกันได้แล้วค่ะ”
“เอ่อ….”
“เดี๋ยวทานเค้กเสร็จไปดูหนังกันดีมั้ยคะ มีหนังที่มิซึซากิคุงอยากดูกำลังฉายอยู่พอดีเลยนี่นา” ฉันทำเป็นเมินๆกริยานายตัวสำรองที่กำลังกระอักกระอ่วน “ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันคริสต์มาสทั้งที น่าจะทำอะไรพิเศษๆกันหน่อย”
“คิโช……”
“อ๋อ วันนี้ต้องขอบคุณท่านเอ็นโจมากเลยนะคะที่อุตส่าห์มาร่วมโต๊ะ” ฉันทำท่าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ หันไปโค้งให้เอ็นโจที่ตอนนี้ไม่มีรอยยิ้มอยู่บนหน้าแล้ว ลอยหน้าลอยตาพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “ไปก่อนนะคะ ท่าน-เอ็น-โจ”
เอ็นโจจะลุกขึ้นยืน แต่พวกสาวๆออฟฟิศก๊วนนั้นก็ยกพวกเข้ามารุมล้อมเสียก่อน ฉันปล่อยหมอนั่นไว้กับสาวๆพวกนั้น พอนายตัวสำรองจ่ายเงินเสร็จฉันก็ลากออกจากร้าน ตรงดิ่งไปร้านขนมหวานที่ว่าทันที
อีโธ่!!! กะอีแค่คริสต์มาส ระดับฉันน่ะจะหาใครมาควงก็ได้ ไม่ใช่สาวทึนทึกบนคานไม่มีใครเอาแบบที่นายเข้าใจหรอกย่ะ
.
.
.
วันอาทิตย์ ฉันมีนัดทานมื้อค่ำกับซากุระจังและอาโออิจังที่ร้านอาหารไทยที่เคยมาทานกับท่านพี่เมื่อสองเดือนก่อน คิดว่าคงจะเสียงดังแน่ๆก็เลยจองห้องส่วนตัวไว้เพื่อการเม้าท์โดยเฉพาะ
พอไปถึงก็เจอเข้ากับซากุระจังที่อาคิสะวะคุงขับรถมาส่งหน้าร้านพอดีเลยเดินเข้าไปข้างในด้วยกัน ซากุระจังแก้มเป็นสีชมพูดูมีความสุข ทักทายฉันด้วยน้ำเสียงสดชื่น
เฮอะๆ เจ้าคู่รักน่าหมั่นไส้นี่นะ เมื่อไหร่จะไปพายเรือที่ทะเลสาบอิโนะคาชิระด้วยกันซักทีล่ะยะ
ดูท่าซากุระจังจะจับรังสีแห่งความริษยาดำมืดที่พวยพุ่งออกจากร่างฉันได้ก็ถลึงตาใส่ หนอย พอลับหลังอาคิสะวะคุงก็แปลงร่างเป็นนางมารใส่ฉันเชียวนะ
“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไงยะ” ซากุระจังแยกเขี้ยว
“เปล่านี่” ฉันยักไหล่ เปิดเมนูอาหาร กวาดตามองไปเรื่อยๆว่าจะทานอะไร
ซากุระจังอ้าปากจะพูด แต่ถูกขัดจังหวะด้วยอาโออิจังที่เพิ่งมาถึง
“ขอโทษที่มาช้านะ” ฉันกับซากุระจังเลยตอบพร้อมกันว่าไม่เป็นไร
ชาวหมู่บ้านมีรัก พอเจอหน้ากัน สั่งอาหารเสร็จก็เปิดฉากเล่าว่าแฟนพาไปที่ไหน ซื้ออะไรให้บ้างในวันคริสต์มาส ซากุระจังแต่งงานแล้วก็เลยได้สร้อยคอมีจี้ทับทิมเล็กๆรูปดอกซากุระ ส่วนอาโออิจังได้แหวนเงินประดับเพชรเม็ดเล็กๆน่ารักจากแฟน รังสีแห่งความสุขจากแหวนและสร้อยส่องประกายระยิบระยับทิ่มแทงลูกตาฉันจนแทบไม่อยากมองเลยล่ะ
ฉันก้มหน้าดื่มน้ำตะไคร้ไปเงียบๆ ชิ!! ตอนที่มาทานกับท่านพี่ยังอร่อยอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ทั้งเหม็นหืนและขมไปได้ล่ะหา!!!
“แล้วคริสต์มาสของเธอเป็นไงมั่งล่ะ” ซากุระจังหันหน้ามาถามฉัน อาโออิจังก็ยิ้ม
อ๋อ!! เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามาด้วยกันอย่างนั้นสินะ ชาวหมู่บ้านมีรักน่ะเชิญมีความสุขกันไปตามสบาย ปล่อยฉันไว้ในความหนาวเหน็บของหมู่บ้านคานทองคนเดียวเถอะย่ะ
“ก็ไม่มีอะไรนี่” ฉันทิ่มหลอดที่ประดับด้วยดอกกล้วยไม้เข้ากับแก้วเป็นการระบายอารมณ์
คริสต์มาสงั้นเหรอ ….เฮอะ!!! พอนึกขึ้นมาทีไรก็โมโหทุกที
สองคนนั้นมองหน้ากันแล้วก็หันมองฉัน ซากุระจังเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“เรย์กะ”
“อะไรยะ”
“คายออกมาให้หมด”
“ก็ไม่มีอะไรนี่” ฉันย้ำคำเดิม
“เรย์กะจัง มีอะไรไม่สบายใจก็เล่าให้พวกเราฟังได้นะ” อาโออิจังยิ้มให้ฉันอย่างน่ารัก
“ก็ไม่มีอะ…”
“เรย์กะ” ซากุระจังกระเถิบเข้ามาใกล้เรื่อยๆ อาโออิจังก็เอนตัวเข้าหาเตรียมฟัง “คายออกมาให้หมด”
ซากุระจังก็ย้ำคำเดิมเหมือนกัน…..
.
.
.
.
----------------------------------------
เนื่องจากมันยาว ขอหั่นเป็นสองพาร์ทนะฮ๊าฟฟฟฟฟ
พาร์ทสองน่าจะลงได้พรุ่งนี้มั้ง
>>147-149 เอ้า! งานนี้มุมท่านเอ็นโจได้มีสนุกกันแน่ล่ะเอ้ยยยยยยย เดี๋ยวคงจะมีหมาหงอยชูสุมอยV. 2กำเนิดขึ้นมา แล้วไปง้อเขาแหงมๆ
โอเค ขอKYเล็กน้อย เนื่องด้วยสุขภาพไม่อำนวยเท่าไหร่แล้วต้องทำงานด้วยเลยไม่มีเวลาว่างมาลงจ้า หลังจากลงพาร์ท2ของมุมเอ็นโจแล้งก็จะโยนไม้แล้วเน้อ
กูเคยเจอคู่นิสัยแบบเอ็นโจกับเรย์กะฟิคเวียนในชีวิตจริง บอกเลย ถ้ารักกันไม่มากพอเลิกกันไวแน่ๆ จะคบกันยาวได้ไงถ้าโกรธแล้วทำตัวประชดกันไปมา แต่กูอยู่เรือเอ็นโจเพราะงั้นกูจะบอกว่าเขาสองคนรักกันมากๆจนไม่รู้จะทำตัวแบบไหนใส่กันเวลาหึงเพราะ"ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน" *สูดกาว*
เขียนเสร็จไวกว่าที่คิด ลงเลยละกัน
ฟิคเวียนในตำนาน >>>/webnovel/4296/147-149
---------------------------
เพราะแพ้ลูกตื๊อและสายตากดดันของสองคนนั้น ฉันก็เลยยอมๆเล่าออกมาในที่สุด
ทีแรกว่าจะเล่าแค่ตอนไปซื้อเค้กในคาเฟ่กับนายตัวสำรอง แต่เจอสายตาคมปลาบของซากุระจังที่จ้องมาเหมือนจะสื่อว่า “ฉันรู้นะยะว่าเรื่องมันไม่ได้มีแค่นี้” ฉันมันคนใจนกกระจิบ เห็นสายตาพิฆาตแบบนั้นก็จำต้องยกธงขาว
“เป็นคริสต์มาสที่แย่ที่สุดเลย…..”
จากที่จะพูดแค่นิดเดียว ก็กลายเป็นสารภาพหมดเปลือก ตั้งแต่ตอนคุยว่าจะไปทานราเมงกับนายตัวสำรอง เจอเอ็นโจมารอที่หน้าบริษัท ฉันวิ่งหนีลงมาจากรถ ได้ไปทานราเมงกันสามคน แล้วก็จบด้วยการไปร้านเค้กกับนายตัวสำรอง แต่ไปร้านไหนๆก็ไม่มีที่นั่งเลยต้องซื้อเค้กกลับมานั่งทานที่บ้านคนเดียวแบบเฉาๆ
ซากุระจังกับอาโออิจังนั่งฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนฉันพอได้ระบายก็รู้สึกโล่งๆขึ้นมาบ้าง แต่พอเล่าจบสองคนนั้นก็ทำหน้าแปลกๆ
“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไงน่ะ”
พอฉันทำหน้าบึ้งใส่ อาโออิจังยิ้มแหยๆเหมือนจะขอโทษ ส่วนซากุระจังยกแก้วน้ำสัปปะรดขึ้นมาจิบ
“แค่คิดว่าเธอนี่โง่รึเปล่า”
“อะไรกัน!! เธอว่าฉันโง่เหรอ ใจร้ายเกินไปแล้วนะ” ฉันหันไปฟ้องอาโออิจัง “ดูสิ ซากุระจังว่าฉันอ้ะ”
“เอาน่าๆ ซากุระจังก็อย่าพูดแรงขนาดนั้นสิ”
“ก็มันจริงมั้ยล่ะ แฟนมารอหน้าบริษัทดันไปควงกับหนุ่มคนอื่นต่อหน้าต่อตา ใครบ้างจะไม่โมโห”
“แล้วหมอนั่นก็เล่นหูเล่นตากับผู้หญิงในร้านด้วยนะ บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย ยังไงก็ผิดเห็นๆ”
“ก็ใครใช้ให้เธอพูดว่าไม่ได้เป็นอะไรกันก่อนล่ะ เขาก็ประชดให้น่ะสิ”
“ซากุระจังเป็นเพื่อนฉันไม่ใช่เหรอ ต้องเข้าข้างฉันสิ” ฉันทำแก้มป่องแบบงอนๆ “แล้วอีกอย่าง เอ็นโจก็ไม่ใช่แฟนด้วย”
“จริงอะ แล้วเขาจะมารอหน้าบริษัทในวันคริสต์มาสทำไมล่ะ” ซากุระจังหัวเราะหึๆ “แถมเหตุผลที่หนีลงจากรถก็คือเขาจะจูบอีกต่างหาก ไม่ได้เรื่องเล้ย”
“กะ...ก็ มันทำตัวไม่ถูกนี่นา”
“เป็นจูบแรกของเรย์กะจังงั้นเหรอ” อาโออิจังทำตาโต
“แหมๆ มันคงจะหนักหนาสำหรับเรย์กะนั่นล่ะน้า ฉันเข้าใจ จะให้ข้ามขั้นไปจูบในรถเลยก็เร็วเกินไปสำหรับเด็กน้อย….”
พูดไปซากุระจังก็มองฉันขึ้นๆลงๆไปแล้วก็แสยะยิ้ม
“หนอย!! อย่ามาดูถูกกันนะ กะอีแค่จูบน่ะ ทำมาหลายครั้งแล้วย่ะ”
“เห” ทั้งคู่ประสานเสียงพร้อมกัน
“มีนอกเหนือจากที่เล่าให้ฟังเมื่อคราวก่อนด้วยเหรอ”
ซากุระจังฉีกยิ้มที่เห็นแล้วฉันก็พลันรู้ตัวว่าตกหลุมพรางเข้าจนได้
อ๊าาาาาาา!!!! เมื่อไหร่ฉันจะเลิกนิสัยปากเบา พอเจอคำปรามาสก็หลวมตัวได้ง่ายขนาดนี้ล่ะค้าาาา!!!
“เล่ามาเดี๋ยวนี้!” ซากุระจังเขย่าแขนฉัน ท่าทางตื่นเต้นจัดๆ ทำท่าจะไม่ปล่อยด้วยถ้าไม่ได้อะไรไปจากฉัน ส่วนอาโออิจังช่วยยุส่งอีกแรง
ยะ อย่ากดดันกันสิ!!
จากฝีมือการรีดความลับของซากุระจัง ฉันก็จำต้องคายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันฮาโลวีนด้วยเหมือนกัน สองคนนั้นอมยิ้มทำท่าเหมือนจะหัวเราะ….อย่าเชียวนะ
“โรแมนติคชะมัด”
“นั่นสิ” อาโออิจังยิ้มกว้าง “จูบกลางสวนดอกไม้ใต้แสงจันทร์นี่ฟังดูวิเศษจังเลยน้า”
“แต่ว่า….”
“ทำไมล่ะ” ซากุระจังเลิกคิ้ว “เขาทำให้เธอรู้สึกไม่ดีงั้นเหรอ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” ฉันก้มหน้าก้มตาพูดเสียงอุบอิบๆ พอนึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาทีไรก็แก้มร้อนซู่ทุกครั้ง
“แล้วอะไรล่ะยะ”
“ก็...วันนั้น รู้สึกเคลิ้มๆจน...เอ่อ….” ซากุระจังกับอาโออิจังขยับเข้ามาใกล้ๆฉัน ใกล้ไปแล้วนะยะ
“อะไรล่ะ….อย่ายึกยักสิ”
“ก็...เป็นลมไปน่ะ”
สองคนนั้นหัวเราะลั่นห้องเลยค่ะ
แง้!! ถึงจะจองห้องส่วนตัวแต่จะหัวเราะดังขนาดนั้นมันไม่ดีน้าาาาา!!!
อาโออิจังหยุดหัวเราะคนแรก แล้วก็ปรามๆซากุระจังที่ตอนนี้ขำจนน้ำตาไหลแล้ว แต่หน้ายังยิ้มอยู่เลยอะ
ใจร้ายที่สุด!! รู้งี้ไม่เล่าให้ฟังก็ดีหรอก
.
.
.
.
เม้าท์มอยเรื่องนั่นนี่ตามประสาสาวๆกันอย่างเพลิดเพลิน รู้ตัวอีกทีเวลาผ่านไปเกือบสี่ทุ่มครึ่ง ในที่สุดก็ได้เวลาที่ต้องแยกย้าย
ซากุระจังมีอาคิสะวะคุงมารับ แต่อาโออิจังบอกจะกลับรถไฟ ฉันเห็นว่าดึกป่านนี้แล้วเลยอาสาไปส่งถึงที่พักให้เอง อาโออิจังดูเกรงใจทำท่าจะปฏิเสธ แต่ฉันคะยั้นคะยอให้มาด้วยกันจนได้
“อาโออิจังเป็นคนแรกเลยน้า ที่ได้นั่งรถที่ขับโดยฝีมือฉันน่ะ”
“แหม เป็นเกียรติมากเลยล่ะ” อาโออิจังโค้งศีรษะลง “ต้องขอรบกวนด้วยนะคะ”
“ไว้ใจได้เลยค่า” ฉันตะเบ๊ะให้ อาโออิจังก็หัวเราะ
วันนี้ฉันขับรถมาเองเพราะคุณซากามิที่รับส่งฉันประจำลาป่วย ท่านพี่ก็ไม่อยู่ ท่านพ่อกับท่านแม่ก็ใช้คนขับรถอีกคนพาไปงานเลี้ยง ฉันเห็นว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรงอะไรก็เลยขับมาเองดีกว่า
เห็นอย่างนี้ฉันก็มีใบขับขี่แล้วนะคะ บางวันก็ขับรถไปที่ทำงานเองด้วย ไม่ใช่มือใหม่หัดขับให้ใครต่อใครเป็นกังวลหรอกนะ แต่เพิ่งเคยให้ใครมานั่งข้างๆนี่ล่ะ
ระหว่างรถติดไฟแดง ฉันเหลือบมองอาโออิจังที่ถือกล่องขนมหวานจากร้านอาหารไทยเมื่อครู่นี้ไว้ ท่าทางทนุถนอมเป็นพิเศษ มีอมยิ้มด้วยล่ะ
“ซื้อฝากที่บ้านเหรอจ๊ะ”
“อ๋อ เปล่าหรอก…...ซื้อไปง้อแฟนน่ะ”
“เอ๋!?”
“ก่อนออกมา เราเถียงกันนิดหน่อย ป่านนี้ไม่รู้จะงอนไปถึงไหนแล้ว ก็เลยว่าจะเอาของหวานไปง้อ...อร่อยสมกับเป็นร้านที่เรย์กะจังแนะนำเลยล่ะ น่าจะได้ผลนะ”
“ทะเลาะกันบ่อยเหรอ”
“โอ๊ย บ่อยจะตาย ทะเลาะกันได้ทุกเรื่องแหล่ะ ส่วนมากก็เรื่องไร้สาระ” อาโออิจังหัวเราะ “แต่เราก็ตั้งกฎไว้ว่าต้องคืนดีกันภายในหนึ่งวัน ใครผิดก็ต้องขอโทษก่อน”
“เห”
“ฉันว่าการที่คนเราทะเลาะกันคือการทำความเข้าใจกันนะ” อาโออิจังมองหน้าฉันยิ้มๆ “มันเป็นทางที่เราจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจเราออกไป พออีกฝ่ายรู้ เราก็มาหาทางแก้ไข ปรับความเข้าใจให้ตรงกันเพื่อที่เราจะได้ไม่ทำผิดพลาดในแบบเดิมอีก…”
“เห…..”
“อ้อ ไฟเขียวแล้วล่ะเรย์กะจัง”
ฉันคว้าเกียร์แบบเงอะงะนิดหน่อย เพราะยังอึ้งๆกับคำตอบของอาโออิจังอยู่ โชคดีที่ถนนนี้โล่ง มีรถฉันจอดติดไฟแดงแค่คันเดียวเลยไม่ถูกบีบแตรไล่จากด้านหลัง
“แล้วทะเลาะกันบ่อยๆนี่ไม่เบื่อบ้างเหรอ”
“เบื่อจะตาย เหนื่อยด้วย แต่ก็ไม่อยากเลิกหรอก”
อาโออิจังก้มหน้าอมยิ้มกับกล่องขนม
“ก็รักนี่นา”
หน้าตาของอาโออิจังที่พูดคำนี้ออกมาดูอ่อนโยนมาก ฉันคิดว่ามันเป็นความรู้สึกที่มาจากใจจริง ฟังแล้วหัวใจเต้นระรัวเหมือนได้ดูหนังรักเลยล่ะค่ะ
“ถ้าแฟนของอาโออิจังได้ยินคงดีใจน่าดู”
“ฮะๆๆๆ หลังทะเลาะกัน เราก็บอกรักกันอยู่นะ อาจจะไม่หวานมาก แต่เข้าใจกันก็พอแล้ว”
“นี่คำพูดเหมือนในหนังรักเด๊ะเลยล่ะ อาโออิจัง”
เราสองคนหัวเราะให้กันอยู่พักหนึ่ง อาโออิจังพออยู่ใกล้ๆแล้วก็ทำให้บรรยากาศสดใสจังเลยน้า
“ฉันว่าคุณคนนั้นของเรย์กะจังก็รอให้เรย์กะจังไปพูดด้วยอยู่นะ” อาโออิจังมองฉันยิ้มๆ “แค่ตรงไปตรงมา บอกเลยว่ารู้สึกยังไงก็พอ ซื่อสัตย์ต่อตัวเองแล้วจะมีความสุขนะ”
“อาโออิจัง”
“เดี๋ยวเลี้ยวซ้ายข้างหน้าก็ถึงแล้วล่ะ” อาโออิจังชี้ให้ดูตึกข้างหน้า เป็นอพาร์ทเมนท์ที่หน้าตาดูดีเลยล่ะ
ฉันจอดตามที่บอก พอลงรถไปอาโออิก็กล่าวขอบคุณ โบกมือให้ฉันอย่างร่าเริงแล้วเดินขึ้นบันไดหายลับไปจากสายตา
ซื่อสัตย์ต่อตัวเองแล้วจะมีความสุขอย่างนั้นเหรอ….
เพลงที่เปิดในรถเปลี่ยนจาก Clair de Lune ของ Debussy ไปเป็น Gnossienne ของ Satie ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ แต่เสียงเปียโนเหงาๆเศร้าๆก็ปลุกให้ฉันตื่นจากภวังค์
หน้าของใครบางคนลอยชัดขึ้นในความคิดอย่างไม่ตั้งใจ
ฉันพยายามไล่ความฟุ้งซ่านออกไปจากหัวตอนขับรถกลับบ้าน และอยู่ๆเสียงมือถือที่เงียบมานานของฉันก็ดังขึ้น ช่วยดึงความสนใจไป...คงจะเป็นท่านพี่ที่โทรหา
แต่ชื่อที่โชว์ขึ้นมากลับเป็น “วาคาบะจัง” ทำให้ฉันแปลกใจอยู่มาก ดึกป่านนี้มีอะไรนะ
พอกดรับสาย เสียงวาคาบะจังก็ดังขึ้น เหมือนกำลังลุกลี้ลุกลนอะไรบางอย่าง
“คุณเรย์กะ ช่วยฉันด้วยค่ะ”
.
.
.
.
ฉันรีบขับรถไปยังโรงแรมในเครือคาบุรากิอีกที่ตามที่วาคาบะจังบอก นึกร้อนใจเรื่องที่อีกฝ่ายโทรหาเอาดึกป่านนี้ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรแต่ฝั่งนั้นขอความช่วยเหลือมาก็ต้องรีบไปล่ะนะ
วาคาบะจังบอกว่ามาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง ฉันก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ไม่ใช่เรื่องร้ายๆ
จอดรถที่หน้าโรงแรมได้ ฉันก็รีบกดลิฟท์ขึ้นไปยังชั้น 28 พอออกจากลิฟท์ก็ให้ตรงไปข้างหน้าตามที่วาคาบะจังบอกมาทุกอย่าง
ฉันแจ้งกับคนเฝ้าประตูสองคนว่ามาพบคุณวาคาบะ สองคนนั้นก็เปิดประตูให้เข้าไปเลย วาคาบะจังคงบอกไว้ล่วงหน้าแล้ว
ข้างในคือผับหรูหราที่ออกแบบโดยมัณฑณากรดังระดับประเทศ ที่ฉันเคยเห็นในนิตยสารแนะนำที่เที่ยว ของจริงสวยไม่แพ้ในรูปถ่ายเลยล่ะค่ะ
อ๊ะ!!!! นี่ไม่ใช่เวลาชื่นชมความงามซักหน่อย ต้องรีบไปหาวาคาบะจัง
คาบุรากิ!!!! นายปล่อยให้วาคาบะจังมาลำบากในที่แบบนี้ได้ไงยะ เจอหน้าสงสัยต้องเฉ่งกันหน่อยแล้ว
ฉันตรงดิ่งเข้าไปด้านในตามที่วาคาบะจังบอก เป็นส่วนที่กั้นไว้ด้วยฉากกั้นที่เป็นสแตนเลสฉลุลายงดงาม ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวจากสายตาคนอื่น พอฉันเข้าไปก็ได้เห็น
บนโซฟาหนังที่ดูหรูหรา คาบุรากินั่งกอดวาคาบะจังไว้อยู่ เอาหัวซุกไหล่ หลับตาพริ้ม ส่วนวาคาบะจังที่ถูกกอดทำหน้าแหยๆ บนโต๊ะและรอบตัวมีขวดเหล้าเกลื่อนกลาด
ฝั่งตรงข้ามมีร่างที่ดูคุ้นๆนอนฟุบกับโต๊ะ….เอ็นโจนี่นา!!
“คุณเรย์กะ” วาคาบะจังส่งเสียงเรียกเบาๆเหมือนกลัวว่าคาบุรากิจะตื่นขึ้นมา “ช่วยกันหน่อยสิคะ”
“วาคาบะจัง นี่เรื่องเป็นมายังไงกันน่ะ”
“เอ่อ คือว่า….”
วาคาบะจังเล่าอย่างรวบรัดว่าวันนี้คาบุรากิเห็นเอ็นโจดูซึมๆเลยชวนออกมาดื่ม ตอนห้าทุ่มคนของโรงแรมก็โทรไปรายงานว่าคุณชายคาบุรากิเมาแอ๋เดินไม่ตรง แต่พยายามจะห้ามเพื่อนที่เอาแต่กรอกเหล้าเข้าปากไม่หยุด แถมคุณเพื่อนก็ดูตาขวางๆเหมือนพร้อมจะมีเรื่อง ต้องลากมานั่งสงบสติอารมณ์ในมุมด้านในกันนี่ล่ะ
แล้วพอวาคาบะจังมาถึง พวกขี้เมาก็กำลังโหวกเหวกโวยวายได้ที่ รับมือคนเดียวไม่ไหวก็เลยโทรหาฉัน
อ๋อ เข้าใจแล้ว
“จริงๆน่าจะโทรหาคนของตระกูลเอ็นโจจะดีกว่านะคะ ฉันมาก็ทำอะไรไม่ได้หรอก”
“เอ่อ ขอโทษค่ะ ฉันลืมไป” วาคาบะจังยิ้มแหยๆ ทำหน้าเหมือนสำนึกผิด “จะว่าเคยตัวก็ได้นะคะ แต่พอนึกถึงคนที่จะช่วยได้ก็มีแต่คุณเรย์กะนี่ล่ะ”
“งั้นจะช่วยติดต่อบ้านเอ็นโจให้มารับก็แล้วกันนะคะ” ฉันปรายตามองคนที่ฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ แถวนี้เหม็นกลิ่นเหล้าชะมัด
“รบกวนด้วยนะคะ”
ฉันทรุดตัวลงนั่งขณะกดโทรศัพท์หาบ้านของเอ็นโจ พ่อบ้านรับสายแล้วก็บอกว่าจะส่งรถมารับภายในสี่สิบนาที พอบอกไปตามนั้น วาคาบะจังก็มีสีหน้าโล่งอก
“งั้น ฉันขอพาคุณมาซายะกลับบ้านก่อนได้มั้ยคะ”
ฉันมองนาฬิกา ตอนนี้เที่ยงคืนแล้วนี่นะ วาคาบะจังก็ดูเพลียๆด้วย ให้กลับไปพักผ่อนดีกว่า
พอฉันพยักหน้า วาคาบะจังก็ปรบมือเรียกให้บอดี้การ์ดที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่แล้วให้เข้ามา โอ้ ท่าทางจะคุ้นชินกับวิถีชีวิตนายหญิงบ้านคาบุรากิแล้วสินะคะ
บอดี้การ์ดสองคนประคองแขนคาบุรากิคนละข้าง ส่วนวาคาบะจังที่เป็นอิสระแล้วก็โค้งหัวให้ฉัน เดินตามคนพวกนั้นไป
ดื่มไปเท่าไหร่กันเนี่ย ถึงได้เมาแอ๋ขนาดนี้ หมดสภาพเอ็นโจที่ฉันเคยรู้จักไปโดยสิ้นเชิงเลยล่ะ
เรียกคนบ้านเอ็นโจมารับแล้ว ฉันก็น่าจะได้เวลากลับเหมือนกัน แต่พอมองคนเมาแล้วก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้ ก็เลยคิดว่าจะนั่งรอจนกว่าคนบ้านเอ็นโจจะมารับ...สำนึกบุญคุณด้วยล่ะ
ระหว่างนั่งรอ ฉันก็มองสำรวจว่าเจ้าพวกนี้มันดื่มอะไรกันไปมั่ง ส่วนใหญ่ก็วิสกี้กับรัมที่ดีกรีแรงสุดๆไปเลยทั้งนั้น เห็นแล้วแสบกระเพาะแทน ตัวฉันขอดื่มค็อกเทลหรือโรสไวน์หวานๆสีสวยๆจะดีกว่า
ขณะนั่งสำรวจยี่ห้อเหล้าต่างๆอยู่ ก็รู้สึกถึงอะไรที่เข้ามารัดพันตรงช่วงเอว หันกลับไปก็เห็นเอ็นโจลุกขึ้นมาจากการฟุบหลับตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่หน้าอยู่ใกล้ฉันมาก เหม็นเหล้าสุดๆเลยอะ!!
“ท่านเอ็นโจ”
“เรย์ก่าเหรออ…..” เอ็นโจหรี่ตามอง แล้วก็ยิ้มออกมา ตานี่เยิ้มเชียว แถมเสียงพูดก็อ้อแอ้ฟังไม่รู้เรื่องตามประสาคนเมา “คิดถึงจางงง”
“ปล่อยก่อนเถอะค่ะ”
“ม่ายอาววววววว” เอ็นโจส่ายหน้าไปมาแล้วเอาหน้าซุกกับต้นคอฉัน “เดี๋ยวเรย์ก่าหนีปายอีกกก ผมม่ายยอมมม”
“โอ๊ย ทำตัวให้มันดีๆหน่อยสิ”
“อย่าปายกาบมี้ซือซากี่เลยน้าาาา”
“ท่านเอ็นโจ”
“เรียกชูสิคร้าบบบบ” เอ็นโจเริ่มส่งเสียงแปลกๆแล้ว “ชูน่ะ ชู……”
“พูดไม่รู้เรื่องแล้วค่ะ”
ฉันเอามือดันๆหน้านั้นออกไป แต่กลับรู้สึกว่าถูกอ้อมแขนรัดมากขึ้นทุกที น้ำหนักตัวที่กดทับลงมาก็หนักชะมัด อย่ามาอ้วกใส่ฉันเด็ดขาดเชียวนะ ไม่งั้นฉันจะโกรธนายไปชั่วชีวิตเลย
“น้า น้าาา….เรียกหน่อยยย เดี๋ยวห้ายชูเปนรางวานนนนน”
เอ็นโจเอาแก้มมาดันๆกับแก้มฉันแบบออดอ้อน ถ้าไม่ติดว่าเมาอยู่ฉันจะเอานิ้วจิ้มตาหมอนี่ไปแล้ว ยังไม่ได้อนุญาตให้กอดเลยนะยะ
“น้าาา เรย์ก่าาาา…...”
วุ้ย!!! รับมือกับคนเมาพูดไม่รู้เรื่องนี่มันน่ารำคาญสุดๆไปเลยอ้ะ เมื่อไหร่คนบ้านเอ็นโจจะมาซักที อยากไปจากตรงนี้จะแย่อยู่แล้ว ไม่น่าใจอ่อนยอมนั่งรอจนกว่าคนบ้านเอ็นโจจะมารับเลยอ่า
“ท่านเอ็นโจนั่งดีๆหน่อยสิคะ ฉันหนัก”
“ชู……”
ทำไมสี่สิบนาทีมันถึงได้นานขนาดนี้ล่ะค้าาาาาา
-----------------------------------------------------------
ส่งต่อแจ้ //โปรยดอกไม้อวยพร
สุดท้ายก็ไม่ได้กินเค้กกับอาริมะคุงซินะ แถมยังไปกินเฉาๆทร่บ้านอีก วงวาร555555555555555
คาบุชวนเพื่อนมาดื่มกลายเป็นคู่หูเมาหัวแทบทิ่มเดินก็เป๋ มาดคุณชาย จักรพรรดิหานไปหน๊าย ถถถถถถถ เอ็นโจเมาแอ๋แล้วอ้อนนี่น่ารักกก มาหยิกแก้มทีซิชูสุมอยย
>>อะ...เอ็นโจเมาแอ๋!? สติหลุดไม่มีแล้วววฝฝ
ฟฟฟฟฟฟสอาเาดสอดยดาเ ไม่ไหวละความอ้อนนี้ หนนี้คนผิดคือท่านเรย์กะเองเน้อ สงสัยเวลาหายเมาแล้วคงเรียกคืนทบต้นดอก
>>159-162 ขอบคุณค่าโม่งฟิคคค ตอนคุยกะซากุระ อาโออิ ท่านเรย์กะก็ดูไม่ได้ปฏิเสธจริงจังเลยน้า~ รู้ใจตัวเองสักทีเถอะน่าาาา
เอ็นโจอ้อนน่ารักมาก ให้ชูเป็นรางวัลนี่อะไร!! ท่านเรย์กะก็ไม่ตัดมุขว่าไม่อยากได้อะไรด้วย!!! แอร๊ยยยยย
(แต่นึกสภาพจริงคงโดนกลิ่นเหล้ากลบความน่ารักไปหมดละ....)
ตอนนี้อยู่กันที่โรงแรมคาบุ จะมีเปิดห้องกันมั้ยคะ //แค่กๆๆๆๆ
>>147-149 >>159-162 ดีจังที่มาดึกเลยได้อ่านสองตอนพร้อมกัน กรีดร้องง กรีดร้องงงงงงงง แต่ กรี๊ดด ท่านเอ็นโจเมาซะแล้วววว มึงขาาา อย่าตัดจบแบบนี้สิ กรี๊ดด มันค้าง ค้าง และค้างงงงง
จริง ๆ กูว่าคนอื่นบอกว่าท่านเรย์กะผิดก็จริงนะ แต่กูก็แอบนอยเอ็นโจด้วยนะ คือว่าก็รู้ว่าเรย์กะขี้อายแถมยังตื่นตูมขนาดนี้ ยังไปทำให้ไก่ เอ๊ยย กระต่ายตื่นซะได้ ก็ก้มหน้าก้มตากินราเม็งไปดี ๆ ไม่ต้องไปอ่อยคนอื่นยั่วเรย์กะก็ได้ เดี๋ยวก็ดีกันได้เองง แหมมม ยังกะว่าอ่อยแบบนี้แล้วเรย์กะจะรู้ตัว นี่ก็แค่เคือง ๆ แต่ก็มึน ๆ ต่อไปอีกต่างหาก ไม้อ่อนน่ะ ไม้อ่อนนนน แกใช้เป็นม้ายยย เอ็นโจๆๆๆๆๆ
เอ่อ ดูอินเกินนนนนไป ขอโทษนะโม่งงง หลังๆ เอ็นโจ อฟช. ทำกูเคื๊องเคือง ตอนนี้เริ่มสงสัยแล้วว่านี่คือพระเอกจริงเหรอ
ว่าแต่ว่า แหม พอวาคาบะจังใช้วิธีโทรตามเรย์กะมา ตอนแรกนึกว่าคาบุรากิวางแผนอะไรอีก แหม ก็ให้บอดี้การ์ดกะผู้ติดตามกะคนรถลากกลับบ้านไปก็สิ้นเรื่อง นี่มันแผนเอาท่านเรย์กะมารับหน้าแท้ ๆ จะกลายเป็นอาหารเอ็นโจคืนนี้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ //แอบลุ้นให้เป็--- แค่ก! ให้กลับบ้านปลอดภัย
>>168 โธ่ ก็ไปเยอรมันมาตั้งนานไม่ได้เจอเรย์กะก็เลยเผลอรุกแรงด้วยความคิดถึงไปหรอกน่าา
ไม่แน่ฮีอาจจะจัดเต็มไปกะคริสต์มาสนี้ก็ได้ ร้านเค้กชื่อดังหรอ จองทั้งร้านแม่ง จัดสถานที่บรรยากาศเตรียมขอคบขอ แหวนเพชรจากเยอรมันขอแต่งงาน เตรียมการวางแผนมาเป็นเดือน เรย์กะดันหนีมาแดกราเม็งกะอาริมะ เลยฟิวส์ขาด ถถถถ #สูดกาวเข้าไป
>>168 จริงๆอาจจะเป็นมารยาชาย เตี๊ยมกันไว้แล้ว พอแต่งเรื่องเสร็จค่อยให้วาคาบะโทรไปเรียกมา เอาเหล้าพรมๆตัวให้มีกลิ่นติด ทำเป็นเมาไม่รู้เรื่อง ใช้โอกาสออดอ้อนออเซาะ
ท่านเรย์กะอัดให้ร่วงเลยค่ะ พอม่อยกระรอกสิ้นฤทธิ์จริงๆค่อยหามไปใส่รถแล้วเอาไปกินที่บ้านแบบเค้ก//แค่กๆๆๆๆ
>> 171 ไม่น้าา กูไม่ได้ว่าเรื่องที่รุกหนักก แต่เรื่องที่ไปหว่านเสน่ห์ใส่คนอื่น แหม แหม กินเสร็จทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ลากเรย์กะไปต่อเค้กก็ได้นะ เอาของกินล่อ โอกาสสำเร็จสูงจะตายยย 555 แค่กัดฟันอีกนิดเดียวววว เดินเกมผิดเป็นไงล่ะ ตายคู่
>>172 ตรงจะให้ชูเป็นรางวัลนี่แอบน่ารักปนขำนะ ถถถถถ ไม่ต้องอัดก็เอากลับไปกินบ้านได้ แต่เอ๊ะ กินที่บ้าน ท่านพี่จะยอมเหรออ เทพมารออกฤทธิ์ชัวร์ กินที่โรงแรมก็ดีแล้วว ทีทางมีไว้เสร็จสรรพ // โดนท่านพี่ปาลูกดอกกลางกบาลค่ะ!
ให้ชูเป็นรางวัล ชูนี่จะแปลว่าจูบก็ได้นะ แต่จะได้ชูในความหมายไหนไป เจ้าแม่ก็เสียเปรียบอยู่ดี 55555555555
เป็นแรงจูงใจที่กาวพอๆ กับฟิคเลยมั้งน่ะ อิโคมะซัง...
ตอนใหม่มาแล้ว! ขอบคุณนะโม่งแปล!!
นายตัวสำรองนายเองก็เป็นชาวท่าแซะเรอะ
กูไม่น่าชงชากินตอนอ่านเลย พออ่านแรงจูงใจแล้วขำจนสำลักชาเกือบตาย
ถ้ากูตายไปนี่คงมีคดีตายปริศนา ในมือผู้ตายมีมือถือเปิดนิยายท่านเรย์กะ ตำรวจคงงงตายห่า นี่มันรหัสลับชวนกันฆ่าตัวตายรึไงฮึ
ขอบคุณโม่งแปลสำหรับตอนใหม่...ทำไมคนรอบตัวท่านเรย์กะมันถึงรั่วทุกคนเลยฟะ คนปกติสุดในซุยรันนี่ใครบอกกูที นายตัวสำรองกูก็แววรั่วมาถี่ยิบเลย ขอผู้ชายดีๆมาฉุดท่านเรย์กะกูสักคนเถอะ
ปล.อิโคมะนี่สิงโม่งอยู่ชัวร์555555555555
แรงจูงใจมาจากท่านเรย์กะที่รักจริงๆด้วย อ่านๆแล้วรู้สึกเหมือนอิโคมะนางหลงรักเรย์กะอยู่ยังไงไม่รู้ดิ แต่ต้องตัดใจเพราะเป็นไปไม่ได้ เลยคิดเอาเองว่าทำแบบนี้คือการปกป้องความรู้สึกของเรย์กะ แต่ผิดแล้วค่าาา คุณทาคามิจิเขาเป็นแฟนกับคุณคิโชวอินอยู่ต่างหาก เธอควรไปบอกคาบุรากิให้เลิกยุ่งกับแฟนคนอื่นมากกว่านะ 55555
แต่เรย์กะพูดไม่ได้ชอบคาบุรากิแบบนี้ นายคนที่ใช้วิชานินจาพรางตัวอยู่กับผนังต้องดีใจอยู่แหงๆ 55555555
>>177 ชูครีม....ข่นบ๊ะ ทะลึ่งที่สุดดดด =////=
มึงงง...มีใครได้ข่าวไรมาบ้าง เห็นเว็บนายท่านโดนปิดละ...คนในกลุ่มโน้นก็พูดๆว่าเดี๋ยวแมวดุ้นก็คงโดนด้วย เดี๋ยวๆๆ เฮ้ย แล้วนี่จะไปหาอ่านเรย์กะซามะได้ไหน ใครรู้ข่าวไรบ้างมาบอกที
เห็นว่าทางแอดมินปิดเพจกันเองไปก่อน ตอนนี้น่าจะรอหารือกันอยู่ เรื่องลิขสิทธิ์เนี่ยแหละ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=727492170769956&id=490227007829808
เดา ว่านายท่านน่าจะโดนเรื่องลิขสิทธิ์ประเด็นแปะภาพประกอบในเรื่องมาแบบเต็มล่ะมั้ง เมื่อวานมีประกาศอยู่ว่าห้ามลงภาพประกอบเรื่องแบบทั้งเล่ม โดยเฉพาะเรื่องที่มีลิขสิทธิ์ในประเทศ
กูผิดไหมถ้าไม่เข้าใจเรื่องชูครีม อธิบายที
กูทายเรื่องสาเหตุการรังแกถูกจริงๆด้วย คุณอิโคมะ การคิดแทนคนอื่นมันไม่ดีนะ!
ดูเหมือนนายตัวสำรองไม่น่าจะชอบวาคะบะนะ น่าจะคิดแบบเพื่อนมากกว่า กับเรย์กะก็ไม่น่าพัฒนาไปไกลว่าเพื่อนเหมือนกัน ส่วนคาบุรากิไม่อยากให้คู่กับวาคาบะเลย อยากให้ขึ้นคานไปซะ โทษฐานชอบจิกหัวใช้เจ้าแม่ หมั่นไส้
ฮัลโหล นี่โม่งแปลนะ ไปเช็กห้อง netwatch มาและ เวบนายท่านโดนปิดไปแล้วจริงๆ ด้วยนี่หว่า กูยังไม่ค่อยกังวลกับแมวดุ้นนะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเวบมันเป็นสีเทาแก่ๆ จริง ถ้าเจ้าของเขามาทวงก็ต้องหยุดไปอ่ะ ส่วนตัวกูคงทำไปเรื่อยๆ ก่อนจนกว่าเวบจะล่มจริงๆ แล้วค่อยว่ากันอีกที เน้นนโยบายสโลว์ไลฟ์ตามท่านเรย์กะไป
ผิดตัวแล้วคุณอิโคมะ คนที่ต้องไปรังแกเพราะขัดขวางทางรักเจ้าแม่คือคาบุรากิต่างหากล่ะ 55555
ข้อมูลเพิ่มเติมอธิบายเรื่องที่เว็บนายท่านปิดตัวลงชั่วคราว
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=727563400762833&id=490227007829808
ky หน่อย สมาชิก pivoine ได้พูดถึงรุ่นน้องบ้างไหมอ่ะ กูเห็นกล่าวแต่รุ่นพี่กับรุ่นของเรย์กะ รุ่งน้องนี้ไม่เห็นเลย
พูดถึง pivoine สมาชิกpivoine รุ่นท่านเรย์กะนี่มีกะนี่มีกี่คนนะ เรย์กะ คาบุรากิ เอ็นโจ ซาซาระ แล้วก็ฟุยุโกะ แค่นี้หรือเปล่า หรือมีอีก
ฟิคเวียน ต่อจาก >>159-162 จ้ะ
"คุณเรย์ก่า...... เรียกผมชูหน่อยสิคร้าบ..." เสียงเอ็นโจเริ่มแผ่วลงเรื่อยๆ ใกล้จะหมดฤทธิ์แล้วสินะคะ ดีค่ะ หลับๆไปเล้ยย ดีกว่าทำตัวรุ่มร่ามแบบเมื่อกี้ ฉันเอานิ้วจิ้มจมูกเอ็นโจอย่างหมั่นไส้ที่ตอนนี้กำลังนอนหนุนตักฉันอยู่ พอได้ดูใกล้ๆแบบนี้ขนตายาวงอนใช้ได้เลยนะเนี่ย ถ้ามีลูกคง.. เอ๊ะ ฉันกระพริบตาถี่ๆเรียกสติ แหม พอดึกแล้วสติสตังก็เริ่มหายแบบนี้สินะคะ โอะโฮะโฮะ
"คุณเรย์กะ.. รู้มั้ย ผมน่ะ..." ตาคนเมาเริ่มพูดจาอีกแล้วค่ะ จะแผลงฤทธิ์อะไรอีก! "ผมน่ะ..."
"ท่านเอ็นโจ จะพูดอะไรก็รีบๆพูดสิคะ ถ้าพูดแต่ผมน่ะ ผมน่ะ ฉันไม่รู้เรื่องหรอกนะคะ"
"เรียกผมชูสิคร้าบบบ" ว้ายยย อยู่ๆก็ลุกขึ้นพรวดพราด หน๊อยย เห็นว่าเมาอยู่หรอกนะเลยไม่ถือสา ตอนนี้คนเมากำลังงอแงเป็นเด็กเลยค่าาา จะอะไรกันหนักหนาแค่กับคำว่าชูคะ!! "นะครับ คุณเรย์กะ.." เอ็นโจมองจ้องมองหน้าฉัน อึก ขนาดเมาหมดสภาพขนาดนี้ก็ยังดูดี ไม่แปลกใจเลยทำไมสาวกรี๊ดขนาดนี้ พอนึกไปถึงเรื่องที่ทำตัวโปรยเสน่ห์ไปทั่วไม่เว้นแม้แต่พนักงานเสิร์ฟที่ร้านราเม็ง ฉันก็รู้สึกฉุนขึ้นมาจนอยากจะทิ้งหมอนี่ไว้ที่นี่คนเดียวแล้วหนีกลับบ้านไปซะ ฮึ! ถ้าไม่ติดว่าปล่อยไว้คนเดียวแล้วอาจจะมีคนมาลักพาตัวว่าที่ผู้บริหารเอ็นโจกรุ๊ปไปทำมิดีมิร้ายล่ะก็นะ.. เห็นแก่ที่ตระกูลเอ็นโจมีสัมพันธ์อันดีกับตระกูลคิโชวอินเฉยๆหรอกนะคะ
"ไม่ค่ะ" ฉันเชิดหน้าขึ้น "ไปบอกให้คนที่ร้านราเม็งเรียกสิคะ" หงุดหงิด! อยากได้นีดเดิลเฟลท์มาจิ้มระบายความหงุดหงิดจังค่า
"คุณเรย์กะ... หันมาหน่อยสิคร้าบ" โอ้ยๆ ฉันไม่อยากหันก็ต้องหันค่ะ เพราะตานี่เล่นหมุนไหล่ฉันให้ไปสบตากับเค้าเลยน่ะสิ อดทนไว้นะเรย์กะ นี่คือคนเมาๆๆๆ "คุณเรย์กะหึงเหรอ" ตาคนเมานี่ยิ้มตาหยี นี่เมาจริงๆหรือเปล่าคะ ไม่ใช่ว่าแกล้งเมาหรอกนะ?
"ไม่ได้หึ.." แต่คำพูดฉันโดนขัดจังหวะก่อนจะพูดจบ
"ถึงคุณเรย์กะไม่หึงแต่ผมหึงนะ.."
"....."
"อุตส่าห์นอนวันละ3ชั่วโมงมาตั้งหลายวัน จะได้เคลียร์งานให้เสร็จไวๆ จะได้มาถึงญี่ปุ่นทันเวลาที่คุณเลิกงาน" อุ๊.. รู้สึกผิดขึ้นมาเลยค่า
"...."
"พอมาถึงก็เจอคุณอยู่กับผู้ชายคนอื่น แถมคุยกันด้วยท่าทีสนุกสนานอย่างที่ผมไม่เคยได้ รู้มั้ยครับว่ามันน่าน้อยใจขนาดไหน"
"...."
"ผมน่ะ ชอบคุณม้ากมาก" ....หน้าฉันร้อนซู่ แต่คราวนี้ฉันแน่ใจว่าไม่ได้เป็นเพราะแอร์เสีย
"แต่ผมไม่รู้จะทำยังไงให้ได้เข้าใกล้ใจคุณ นี่ บอกผมหน่อยสิครับคุณเรย์กะ" รับรู้ได้ว่าหน้าฉันร้อนกว่าเดิมเมื่อเอ็นโจมองฉันอย่างอ้อนๆ
"จ.. จะไปรู้ได้ไงคะ"
"คุณเรย์ก่า.. คุณเป็นแบบนี้ตลอดเลย ผมเข้าใกล้คุณไปหนึ่งก้าว คุณถอยหลังไปสองก้าว"
"...."
"ต้องทำยังไงครับถึงจะเข้าใกล้คุณได้.." อึก.. อย่าเอาหน้าเข้ามาใกล้สิคะ โซฟาตัวนี้ไม่มีที่ให้ถอยหลังอีกแล้วนะคะ "บอกหน่อยสิครับ..."
"....."
"เพราะผมน่ะชอบคุณมากๆเลย" จบคำพูด เอ็นโจก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆฉัน อะ อะไรคะ? จะทำอะไรน่ะ!! ฉันหลับตาปี๋ กรี๊ดด จะทำอะไรเหรอคะ เอ๊ะ? อะไรหนักๆที่ไหล่? พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าเอ็นโจสลบไปเรียบร้อยแล้ว ฉันถอนหายใจอย่างฉุนๆเมื่อนึกถึงว่าตาบ้านี่ทำให้ฉันลำบากขนาดไหน
"ท่านเอ็นโจนะ ท่านเอ็นโจ.. พูดอะไรออกมาคะ รู้ตัวบ้างไหม" ฉันถอนหายใจ...
ตระกูลเอ็นโจทำงานชักช้าจังเลยนะคะ.. ฉันบ่นในใจมาเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ ง่วงจะแย่แล้วค่ะ พรุ่งนี้หน้าต้องโทรมแน่ๆเลย โชคดีจังที่สองวันหลังจากนี้หยุด พอมีเวลาให้บำรุงก่อนจะออกไปเจอผู้คน
เอ็นโจตอนหลับนี่ดีกว่าตอนยังมีสติเยอะเลยนะคะ.. นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่านะที่ฉันรู้สึกสบายใจขนาดนี้ตอนอยู่กับเอ็นโจ? อื๋อ ก็ตอนที่ตานั่นมีสติชอบแกล้งฉันนี่คะ โผล่มาทีไรก็พูดเหมือนรู้ทุกอย่างยังกะเป็นสตอล์กเกอร์ ใครๆก็ต้องกลัวแหละค่ะ นอกจากนี้สายตานั้นก็ยังพราวระยับจนแค่เห็นก็หมั่นไส้ ใครจะไปอยากคุยด้วยคะ แถมยังชอบหาเรื่องยุ่งยากมาให้ส่วนตัวเองก็ไปหว่านเสน่ห์ใส่คนอื่นอย่างร่าเริง จะไม่ให้โมโหได้ยังไง ชิ
ฉันคิดเรื่องนั้นเรื่องนี่ไปเรื่อยเปื่อยตั้งแต่ตอนเจอกันครั้งแรก จากแค่คนอยู่สโมสรเดียวกันก็ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ที่ฉันได้อยู่กลุ่มเดียวกับพวกเขา ถึงแม้จะรู้สึกว่าไม่ใช่ก็เถอะ แต่หลังจากจบม.6 พอเจอกันตามงานเลี้ยงส่วนมากก็จะเกาะกลุ่มกันเองยกเว้นว่าจะมีบรรดาคุณลุงมาคุยงานกับคาบุรากิและเอ็นโจ เวลามีงานวันเกิดหรืองานฉลองอะไรของแต่ละคนก็จะไปร่วมเสมอ เวลาว่างๆ บางทีก็ไปทานข้าวด้วยกันบ้าง ส่วนใหญ่ก็คาบุรากินั่นแหละนะที่นัด บอกอยากไปตระเวนรำลึกความหลังสมัยที่พาวาคาบะไปเดท ฉันได้แต่ข่มความอิจฉาเงียบๆในใจ เดทในชุดนักเรียนที่ฉันไม่เคยมี!! แต่เป็นเพราะคาบุรากิชวนทั้งยังมีเอ็นโจไปด้วยอีกเลยได้โอกาสไปทานอาหารที่ท่านแม่ถือว่า"เป็นอาหารสามัญชน" ทั้งยังได้เจอวาคาบะจังอีกด้วย คุ้มขนาดนี้ยังไงก็ต้องไปแหละค่ะ
วาคาบะจังตั้งแต่คบกับคาบุรากิอย่างเปิดเผยก็ยุ่งขึ้นมาก นอกจากจะเรียน ช่วยงานที่บ้าน มีเวลาว่างก็ต้องไปเรียนเรื่องมารยาทต่างๆที่บ้านตระกูลคาบุรากิ ช่วงแรกๆได้ฟังวาคาบะจังโอดครวญบ่อยๆเลยล่ะค่ะ มาดามคาบุรากิตอนแรกก็ไม่ชอบใจวาคาบะจังหรอกนะคะแต่เวลาผ่านไปวาคาบะจังก็พิสูจน์ตัวเองได้ว่าเหมาะสมที่จะเป็นแฟน(และภรรยาในอนาคต)ของคาบุรากิก็ยอมรับมากขึ้น ส่วนคุณลุงคาบุรากิน่ะเข้ากันได้กับวาคาบะจังมากเลยล่ะค่ะ วาคาบะจังชอบอ่านหนังสือเป็นทุนเดิมเลยคุยกับคุณลุงได้อย่างราบรื่น ไม่ได้อิจฉาสักนิ๊ดเลยนะคะ ด้วยเหตุนี้หนทางความรักของวาคาบะกับคาบุรากิเลยราบรื่นจนกระทั่งจบมหาลัยไปอย่างสวยงาม
เอ็นโจก็มีปัญหาอะไรหลายๆอย่าง ทำให้ผ่านชีวิตช่วงมหาลัยไปได้ลำบากหน่อย แต่ก็ได้ตระกูลคาบุรากิช่วยอย่างเต็มที่แหละนะ อ๋อ ฉันยังเคืองไม่หายเลยนะคะที่คาบุรากิลากฉันไปเกี่ยวข้องด้วย ถ้าความมั่นคงตระกูลคิโชวอินสั่นคลอนขึ้นมา ตระกูลคาบุรากิจะรับผิดชอบยังไงคะ!
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังจากที่รับรู้ว่าเอ็นโจต้องมีชีวิตวัยเด็กและผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นมายังไง ฉันก็อดมองตานี่ในแง่ดีขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ถ้าฉันต้องเจอเรื่องกดดันแบบเอ็นโจจะสามารถยิ้มให้ทุกคนแบบตาคนนี้ได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย
ฉันลูบหัวหมอนั่นเบาๆเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต อืม ใช้แชมพูของอะไรเนี่ย กลิ่นหอมดีนะคะ ฉันก้มหน้าลงไปดมนิดหน่อยๆ ก็ได้ยินเสียงเรียก
"คุณพี่เรย์กะ อุ๊บ"
"....." ยูกิโนะคุง ทำไมทำเสียงแบบนั้นคะ
"ผมมาขัดจังหวะเหรอเนี่ย ขอโทษครับ" ยูกิโนะคุ๊งงงง ไม่ใช่นะจ๊ะ
"ไม่ได้ขัดจังหวะอะไรเลยจ้ะ.." จริงๆนะ
"ครับๆ"
"...."
"ขอโทษแทนพี่ชายผมด้วยนะฮะที่สร้างความเดือดร้อนให้คุณพี่เรย์กะ"
"อื๋อ ไม่เป็นไรจ้ะ คนกันเอง"
"แล้งพี่ชายผมแผลงฤทธิ์ยังไงบ้างฮะ คุณพี่เรย์กะรับมือเหนื่อยหรือเปล่า"
"ก็.. ไม่ได้อะไรมากนี่คะ ก็โวยวายนิดหน่อยแล้วหลับไปอย่างที่ยูกิโนะเห็นนี่แหละจ้ะ"
"อื๋อ? ไม่ไหวเลยน้าชูสูเกะ" หือ? "ขอบคุณคุณพี่เรย์กะมากเลยนะฮะที่ช่วยดูแล"
"ไม่เป็นไรจ้ะ งั้นพี่ขอตัวกลับก่อนนะ"
"ฮะ ขอโทษนะครับที่ไปส่งไม่ได้"
"ไม่เป็นไรจ้ะ กลับบ้านดีๆนะ" ฉันลายูกิโนะที่พยุงเอ็นโจอยู่ พอมองเอ็นโจที่ไม่ได้สติฉันก็อดนึกถึงเรื่องที่เอ็นโจละเมอขึ้นมาไม่ได้ พูดอะไรออกมาน่ะตาบ้า...
ฉันขับรถกลับบ้านด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนิดหน่อย 'ผมชอบคุณมากๆ..' ตาบ้าเอ็นโจ!!
----------------------------------
ขอแบ่งเป็นสองพาร์ท.. เดี๋ยวตอนดึกๆมาลงพาร์ทสอง ' ')
ตายละ เพิ่งรู้ว่าไม่ได้เว้นช่องไฟ อ่านยากหรือเปล่า เดี๋ยวพาร์ทหน้าปรับให้นะ ขอโทษที;_;
มาแล้วจ้าาาา ต่อจาก >>214-215
(เอ็นโจ)
อุ๊ ปวดหัวชะมัดเลย... คืออาการแรกที่ผมรับรู้หลังจากตื่นนอน
"ตื่นแล้วเหรอ" พอลุกขึ้นมองไปยังต้นเสียงก็เจอยูกิโนะที่นั่งอยู่ปลายเตียง "เมื่อคืนท่านพี่หมดสภาพเลยนะฮะ"
"ปวดหัวขนาดนี้ก็พอเดาได้อยู่แหละ" ผมไม่เคยดื่มหนักจนเมาขนาดนี้เพราะถ้าเมาจนคุมสติไม่ได้อาจจะไปทำอะไรให้ตระกูลเสียหายได้ แต่คราวนี้ผมยอมรับว่าผมอยากดื่มหนักๆให้คลายเครียดหรือลืมเรื่องราวช่วงนี้ลงไปบ้าง ถึงจะรู้ก็เถอะว่าพอสร่างเมาแล้วก็ยังจำเรื่องราวช่วงวันคริสต์มาสได้ดี ก็นะ... โชคดีที่ผมไปเมาแอ๋กับมาซายะแถมคนของตระกูลคาบุรากิขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์ ไว้ใจได้ เลยสบายใจว่าจะไม่มีข่าวเราสองคนเมาหมดสภาพไปลงหนังสือพิมพ์
"เมื่อคืน... ยูกิโนะไปรับพี่เหรอ"
"ใช่ฮะ"
"แล้ว..." ทำไมผมคลับคล้ายคลับคลาว่าผมได้กอดผู้หญิง แถมเหมือนจะเรียกชื่อ.. เรย์กะ? แถมคนนั้นๆยังดูเหมือนคุณคิโชวอินอีกด้วยนะ "แล้วพี่ทำอะไรแปลกๆไปหรือเปล่า"
"ไม่นี่ฮะ" โชคดีไป ผมคงละเมอไปเองสินะ ก็นั่นสินะ.. คุณคิโชวอินจะมาหาผมได้ยังไง ผมคงหวังไปเอง
พูดถึงคุณคิโชวอิน ผมก็อดหนักใจไม่ได้ ทั้งๆที่รู้ว่าคุณคิโชวอินขี้กลัวผมก็ยังไปทำให้เธอกลัวจนได้ ผมลูบหน้าเบาๆ ไหนจะเรื่องที่ร้านราเม็ง ปกติผมคุมตัวเองได้ดีนะแต่พอเป็นเรื่องคุณคิโชวอินทีไร ผมก็เหมือนตัวเองเมาอยู่ตลอดเวลาถึงได้สติหลุดง่ายๆอย่างงั้น
ถึงตอนอยู่ร้านราเม็ง คุณคิโชวอินจะแสดงท่าทีที่ทำให้ผมมีความหวังอยู่บ้าง แต่เธอก็ไปคล้องแขนไอ้ประธานนักเรียนนั่นอย่างสนิทสนม ผมรู้จักกับเธอมาตั้งแต่ประถม เธอยังไม่เคยเดินมาคล้องแขนผมแบบนั้นเลยนะ แล้วไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร!
"แต่คุณพี่เรย์กะจุ๊บท่านพี่นะฮะ" หือ?!
"หา? พูดอะไรน่ะยูกิโนะ"
"จริงๆนะฮะ"
"แล้ว... จุ๊บที่ไหน ปากเหรอ" ให้ตายสิ ทำไมผมถึงไม่ยอมทำตามแผนมาซายะว่าให้แกล้งเมานะ ไม่น่าเมาจริงๆเลย โธ่เว้ย!
"เปล่าฮะ" ยูกิโนะเคาะที่หัวตัวเองเป็นเชิงบอกว่าเรย์กะทำตรงไหน
"ที่พูดนี่จริงหรือเปล่า"
"จริงสิฮะ ผมจะโกหกท่านพี่ไปทำไม"
"....." แย่ละ งั้นที่ผมกอดหรือเรียก 'เรย์กะ' นั่นก็คือคุณคิโชวอินจริงๆสินะ โธ่เว้ยชูสุเกะ! ทำไมไม่เชื่อแผนมาซายะ!!
"แย่ละสิ คุณคิโชวอินมาเห็นพี่เมาหนักขนาดนั้น.."
"รบกวนคุณพี่เรย์กะไว้มากเลยนะฮะ ตอนที่ผมไปถึงก็เกือบๆชั่วโมงหนึ่งหลังจากที่คุณพี่เรย์กะโทรมาที่บ้าน"
"อืม.. ให้คนเตรียมของไว้ให้หน่อยนะ จัดการเช็คกับบ้านคิโชวอินให้ด้วยว่าคุณคิโชวอินอยู่บ้านมั้ย พี่จะไปขอโทษเธอ"
"ฮะ"
"อ๋อ เอาช็อคโกแลตจากร้านประจำตระกูลเราไปด้วยนะ"
"ได้ฮะ เดี๋ยวจัดการให้"
"ขอบใจนะ ยูกิโนะ"
"อ๋อ ท่านพี่ฮะ ท่านแม่อยากคุยด้วย จัดการตัวเองเสร็จแล้วไปพบท่านแม่หน่อยนะ"
"ได้"
ระหว่างที่อาบน้ำ ผมก็ค่อยๆจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ทีละนิดละหน่อย
'คุณเรย์กะ' บ้างล่ะ
หรือจะ 'เรียกผมชูหน่อยสิคร้าบ'
ไหนจะ 'ผมชอบคุณมากเลยนะ' อีก
ให้ตายเถอะชูสุเกะ ทำอะไรลงไปเนี่ยยยย แย่ชะมัด แย่กว่านั้นคือผมไม่ได้สติด้วยนี่สิ อยากเห็นหน้าคุณคิโชวอินตอนนั้นจังเลย
เมื่ออาบน้ำเสร็จ ผมก็มาหาท่านแม่ ไม่รอให้ผมนั่งก่อน ท่านแม่ก็พูดขึ้นมาว่า
"ลูกกับคุณเรย์กะแห่งบ้านคิโชวอินนี่มีความสัมพันธ์กันยังไงหรือคะ" ผมชะงักไปชั่วครู่ ยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบก่อนจะตอบ
"ก็เป็น..." เป็นอะไรกันน่ะ "เป็นเพื่อนกันครับ"
"เพื่อนสินะคะ"
"...ครับ" ถึงผมจะสงสัยนิดหน่อยว่าคนเป็นเพื่อนกันจริงๆ จะเป็นแบบผมกับคุณคิโชวอินเหรอ แต่ผมก็ไม่กล้าบอกว่าเราเป็นอะไรกันมากกว่านั้น
"งั้นวันเกิดคุณเรย์กะครั้งนี้" ....หืม "ในฐานะเพื่อน ลูกควรไปสอดส่องว่าคุณชายบ้านไหนเหมาะกับคุณเรย์กะนะคะ" พูดอะไรน่ะ...
ท่านแม่เมื่อเห็นสีหน้าของผมที่เต็มไปด้วยความสงสัยก็อธิบายเพิ่มเติม
"พอดี แม่ได้ยินข่าวมาว่า งานวันเกิดคุณเรย์กะคราวนี้ ตระกูลที่ลูกชายยังโสดและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลคิโชวอินได้รับเชิญไปมากกว่าปีก่อนๆนิดหน่อยน่ะ"
"......"
ผมเดินมาทานข้าวที่ห้องอาหารด้วยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะสิ่งที่ท่านแม่พูด ผมไม่ใช่คนโง่ ผมรู้ว่างานวันเกิดคุณคิโชวอินครั้งนี้หมายถึงอะไร ถ้าคุณคิโชวอินยังไม่มีใครก่อนจะถึงงานนั้น ไม่ช้าก็เร็ว หลังจากจบงานนั้นไม่นาน คุณคิโชวอินน่าจะต้องได้หมั้นกับใครสักคนจากตระกูลในลิสต์นั้น
ตระกูลคิโชวอินรักลูกสาวยิ่งกว่าอะไร เรื่องนี้ไม่ว่าใครในวงการต่างก็ทราบ ไม่มีทางที่ตระกูลคิโชวอินจะบังคับใจลูกสาวแต่มันถึงเวลา.... งานนั้นจัดขึ้นก็แค่เพื่อสังเกตดูว่าคุณคิโชวอินดูจะเข้ากับใครได้มากที่สุด ก็ตระกูลคิโชวอินไม่อยากเห็นลูกสาวต้องเสียน้ำตาตลอดชีวิตที่เหลือนี่นา..
เสียงเพลงดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของผม
♪We're not, no we're not friends, nor have we ever been.
We just try to keep those secrets in a lie♪
เมื่อผมหันไปมองก็พบว่าเป็นยูกิโนะที่เดินเข้ามาที่ห้องอาหารพลางกดโทรศัพท์ยิกๆ ผมหันมาใส่ใจกับการทานอาหารที่อยู่ตรงหน้า
"คุณแม่บ้านฮะ ขอขนมปังขิงหน่อยฮะ" ยูกิโนะเดินไปนั่งที่ฝั่งตรงข้ามผม และยังไม่ยอมเงยหน้าจากโทรศัพท์ ผมส่ายหน้าเบาๆ เด็กสมัยนี้.. แต่ถึงยูกิโนะจะนั่งไกลจากผม ผมก็ยังคงได้ยินเสียงเพลง
♪And friends don't treat me like you do.
Well I know that there's a limit to everything,
But my friends won't love me like you.♪
ผมยังคงใส่ใจและจดจ่อกับการทานอาหาร....
♪But then again, if we're not friends,
Someone else might love you too, and then again♪
"ยูกิโนะ" ผมส่งเสียงเรียก ยูกิโนะเงยหน้าขึ้นมามองผม "หูฟังหายเหรอ ให้พี่ซื้อให้ใหม่เอามั้ย"
"อ้าว เพลงที่ผมเปิดรบกวนท่านพี่เหรอฮะ ขอโทษทีฮะ" ยูกิโนะยิ้มเผล่ให้ผม แต่ขอโทษนะ รอยยิ้มแบบนี้มีแค่คุณคิโชวอินเท่านั้นแหละที่หลงกล
หรือผมจะลองยิ้มให้คุณคิโชวอินแบบยูกิโนะบ้างนะ...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ฉันละสายตาจากโฆษณาเครื่องออกกำลังกายรุ่นใหม่ล่าสุด
"คุณหนูคะ พ่อบ้านแจ้งว่า คุณชายชูสุเกะแห่งตระกูลเอ็นโจขอพบคุณหนูวันนี้ตอนบ่ายโมงค่ะ"
"ขอบคุณค่ะ"
........เอ็นโจจะมาบ้าน! ฉันหันไปมองนาฬิกาด้วยความไวแสง ตอนนี้ 5โมงเช้า บ้าจริง อีก2ชั่วโมง ใครจะไปแต่งตัวทัน ตาบ้า ถ้าจะมาทำไมไม่นัดตั้งแต่เช้าๆ เอ๊ะ แล้วฉันจะร้อนใจทำไมเนี่ย ทำตัวตามปกติก็ได้นี่นา คนควรจะเกร็งต้องเป็นตาเอ็นโจสิคะ มาบ้านคนอื่นแท้ๆ เอ.. แต่ขอมาส์คหน้าหน่อยละกัน แหม ก็แค่รู้สึกหน้าโทรมๆ ไม่ได้อะไรเลยจริงจริ๊ง
เมื่อฉันมาถึงห้องรับรองแขกก็พบว่าเอ็นโจนั่งรออยู่แล้ว
"สายัณสวัสดิ์ค่ะ ท่านเอ็นโจ"
ตรงข้ามกับฉันที่นั่งลง เอ็นโจกลับลุกยืนขึ้นแล้วโค้งให้ฉัน
"ขอโทษที่รบกวนคุณคิโชวอินหลายๆเรื่องนะครับ" คุณคิโชวอิน..?
"ไม่เรียกคุณเรย์กะแล้วเหรอคะ"
"...."
!! ฉันเอามือขึ้นมาปิดปากอย่างช็อคๆ หละ หลุดปากอะไรไปน่ะตัวฉัน! เหลือบมองเอ็นโจที่นั่งลงเรียบร้อยแล้วก็พบว่าหน้าเอ็นโจดูจะมีสีแดงระเรื่ออยู่หน่อยๆ อะไรล่ะนั่น
"เรื่องเมื่อคืน..." ยังพูดไม่ทันจบ เอ็นโจก็หันหน้าหนีไม่ยอมสบตากับฉัน ใบหูก็แดงขึ้น แย่ละสิ ฉะ ฉันเองก็รู้สึกเหมือนหน้าตัวเองจะร้อนขึ้นด้วย โรคติดต่อหรือไงคะ
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ เมื่อคืนท่านเอ็นโจเมามาก เลยหลุดปากพูดอะไรไม่สมควรออกมา" เอ็นโจหันมามองฉันอย่างตกใจ.. ? ครั้งแรกเลยนะคะที่เห็นเอ็นโจทำสีหน้าแบบนี้ จะมาตกใจอะไรกันเล่าตาบ้า หาข้อแก้ตัวให้แล้วไง เมื่อคืนนายก็แค่เมา ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้น ฉันเข้าใจนะถ้าจะมาขอโทษแล้วบอกว่าเรื่องเมื่อคืนแค่เพราะเหล้าเลยไม่มีสติ เพราะเมาเลยทำให้พูดเรื่องแปลกๆออกมา ทั้งๆที่ไม่ได้คิดแบบนั้นน่ะ
"เรื่องเมื่อคืน.. ผมเมาจริงครับ" เอ็นโจที่เงียบไปสักพักพูดออกมา เห็นมั้ยล่ะคะ เพราะเมาเลยพูดอะไรแบบนั้นออกมา
"แต่..." เอ็นโจหน้าแดงอีกแล้ว... "ผมหมายความตามทุกอย่างที่พูด"
"....." คราวนี้เป็นฉันบ้างที่หน้าแดง พูดอะไรของเค้า
"ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยากให้เรียกชูแทนท่านเอ็นโจ.."
"....."
"เรื่องที่ผมหึงคุณ..."
"....."
"เรื่องที่ผมอยากเข้าใกล้คุณมากกว่านี้ก็ด้วย"
"....."
"เรื่องที่ผมชอบคุณมากๆอีก"
"....."
"คนเมาจะพูดความจริงครับ"
อึก....
"ตอนนี้ผมไม่เมาแล้วแต่เรื่องที่พูดไปผมก็ไม่ได้โกหก"
"...พูดอะไรออกมา รู้ตัวหรือเปล่าคะท่านเอ็นโจ"
"รู้ครับ.." แย่แล้ว ฉะ ฉันจะทำยังไงดีคะ
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบไปพักใหญ่ ฉันเงียบเพราะไม่รู้จะตอบกลับอะไร ที่เอ็นโจพูดมาไม่ใช่ประโยคคำถามนี่คะ เป็นประโยคบอกเล่าทั้งนั้นเลย
"ท่าน.."
"คุณ.." ละ แล้วพอจะพูดทำไมต้องพูดพร้อมกัน!!
"เชิญคุณคิโชวอินก่อนเลยครับ" ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
"ตั้งแต่ตอนไหนคะ?"
"ครับ?"
"ระ เริ่มชอบตั้งแต่ตอนไหนคะ" อย่าเขินสิ! นี่ก็แค่การพูดคุยธรรมดา ใช่ การพูดคุยธรรมดา
"ผมสนใจคุณมาตั้งแต่แรกเห็น ตอนที่เจอกันครั้งแรกในห้องสโมสร"
"....."
"แต่มาเริ่มรู้สึกตัวว่าสิ่งที่เป็นอยู่เรียกว่าชอบคุณก็ตอนอยู่ม.ต้นปี3ครับ"
.......เชื่อได้หรือเปล่าคะเนี่ย คนหมู่บ้านมีรักจะซื่อบื้อได้ถึงเพียงนี้หรือคะ
"ตลอดมาผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เข้าใกล้คุณ เพื่อให้คุณหันมาสนใจผมบ้าง แต่กลับกลายเป็นว่านั่นทำให้คุณหนีผมออกไปไกลกว่าเดิม"
"....."
"ผมในตอนนั้นทำผิดพลาดไป"
เพิ่งรู้ตัวเหรอคะ
"ผมไม่อยากเสียเวลาต่อไปอีกแล้ว ผมอยากอยู่ข้างคุณในวันที่เสียใจ เป็นคนที่คอยรับฟังเวลาคุณมีเรื่องทุกข์ใจ เจอของอร่อยๆก็อยากให้เป็นคุณที่ผมได้แบ่งปันรสชาตินั้นด้วยกัน"
"....."
"จะดูหนัง ฟังเพลงหรืออ่านหนังสือก็อยากให้คุณได้อยู่ด้วยในทุกช่วงเวลา"
....ตาบ้า
"เวลาไปเที่ยวก็อยากให้เป็นคุณที่ได้เห็นภาพทิวทัศน์เหล่านั้นกับผม"
"....."
"เจอเรื่องราวดีๆ ก็อยากให้แบ่งปันให้คุณฟัง อยากให้คุณแชร์เรื่องราวไม่ว่าจะดีหรือจะร้ายกับผม"
"....."
"คะ คุณเร.. คุณเรย์กะครับ" อยะ อย่าหน้าแดงสิคะท่านเอ็นโจ! ไม่รู้หรือไงคะว่าอาการหน้าแดงเป็นโรคติดต่อ เดี๋ยวฉันก็หน้าแดงตามหรอก
เสียงโทรศัพท์ของเอ็นโจดังขัดบทสนทนา.. เราสองคนสะดุ้ง เอ็นโจเอ่ยปากขออนุญาตรับโทรศัพท์
"อ่าๆ เข้าใจแล้ว เดี๋ยวจะรีบไป" เอ็นโจวางสาย สีหน้าดูเครียดๆ
"มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ.." ฉันเอ่ยถาม
"ครับ ที่บริษัทมีงานด่วนเข้ามา ผมคงต้องขอตัว" เอ็นโจทำสีหน้าลำบากใจ
"เอ่อ ไปดีมาดีนะคะ"
"ครับ.." เอ็นโจชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยเสริม "คืนนี้ผมโทรหานะครับ คุณเรย์กะ"
"....."
เอ็นโจพูดจบก็รีบเดินออกจากห้องโถงไป บะ บอกว่าอย่าหน้าแดงไงคะ!
ฉันทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง การถูกสารภาพรักครั้งแรกของคิโชวอิน เรย์กะ เกิดในในห้องโถงที่บ้าน อ๊าก หมดกัน ไหนความโรแมนติก แสงแดดา่องระยิบระยับ ใบไม้ปลิดปลิวลอยพริ้วอยู่ด้านหลังคะ!
-----------------------------------
จบจ้า ขอส่งต่อ 55555
ขอบคุณเพลง Friends - Ed Sheeran
แต่จริงๆเพลงที่จุดประกายให้แต่งต่อคือ คู่ชีวิต ของ Cocktail 5555
>>227 อ๊ากกกกกกกกกก อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก กูจะลงไปแดดิ้นกับความหวาน โอ๊ยยย แสงแดดระยิบระยับใบไม้ปลิวลมอะไรกันค้าาาา เว้ากันซื่อๆตรงไปตรงมานี่ล่ะที่ทำดาเมจ แต่สุดท้ายก็โดนขัดขวางจนได้สินะ ฮึ่มๆๆๆๆๆ โทรศัพท์นี่ไม่รู้จักกาลเทศะเอาซะเล้ยยยย
แต่ท่านเอ็นโจบอกตัวเองอยู่ใกล้ๆคุณคิโชวอินแล้วรู้สึกเมาตลอดเวลา ควบคุมสติตัวเองไม่ได้ ก็เป็นเพราะกำลังเมารักยังไงล่ะค้าาาา "มีใครบางคนเคยนิยามเอาไว้ ว่าความรักเป็นเหตุทำให้คนเมา เมื่อเรานั้นรักใคร สติมันก็ดูคล้ายจะบางเบา" อะฮิ้ววววววว
"เจอของอร่อยๆก็อยากให้เป็นคุณที่ผมได้แบ่งปันรสชาตินั้นด้วยกัน" 5555 ประทับใจ คุณสามี(?) สนับสนุนในแพชชั่นของท่านเรย์กะดีแท้คร่า
ขอบคุณน้าโม่งฟิค55555
ธงจะโดนหักมั้ยน้า
>>214-215 >>225-227 กรี๊ดด ขอกรีดร้องงงงง เต้าได้สารภาพรักกันแล้วว ไม่มีอะไรมาขัดด้วยย เอ๊ะ มีนี่ แต่อย่างน้อยก็ได้พูดจบก้แล้วกันวะมึงงงง กูดีใจ ขอบคุณน้าาาา ว่าแต่ว่าอีคาบุรากิแผนร้ายนุะ จะให้แกล้งเมาเนี่ยยยยย 5555 จะมีใครแต่งอีกเวอร์ชั่นเป็นแบบแกล้งเมาไหมเนี่ยยย คงน่าสนุกก แต่ว่าเวอร์ชั่นคงไม่ใช่แค่เมาๆ กอดๆ แต่ว่าจะทำอะไรอีกก็ไม่รู้แน่เลยยยย ดีไม่ดีเรย์กะได้ค้างโรงแร--- //อุ้ย ไม่มีอะไร
จะมีใครแต่งฟิคเวอร์ชั่นท่านเรย์กะสารภาพรักกลับบ้างมั้ยวะ 5555 กี่เรื่องๆก็ยังไม่เห็นเรย์กะบอกชอบสักที คนปากแข็งตัวจริงคือท่านเรย์กะนั่นแหละ 5555
>>241 มึงแต่งเลยค่ะ มึงแต่งเลยยย !! กูรออ! นั่นแหละ R-15 คือสิ่งที่เฝ้าคอ- // อุ้ย ไม่ใช่ กูแค่อยากเห็นเค้าใกล้ชิดสนิทสนมกัน บอกเอ็นโจให้อย่าเหม็นมากนะ เดี๋ยวคุณเรย์กะไม่ชอบบบ
ว่าแต่ว่ามึงขา ท่านนเทพมารอาจจะยังไม่มีแฟนก็ได้ค่ะ (ยกเว้นกรณีท่านพี่อิมาริ) ท่าทางจะหวงน้องสาวหนัก ถึงมีแฟน ช่วงนี้ก็อาจเป็นช่วงเฝ้าระวังเอ็นโจ
KYนี่กุคือคนที่เป็นโม่งฟิคเวียนพาร์ทเอ็นโจที่กำลังจะลงพาร์ท2เน้ออออ คาดว่าจะได้ลงฟิคในวันพรุ่งนี้เย็นๆแล้วจะส่งไม้ต่อแล้วเน้อ
ใครอยากเอาไปแต่งต่อก็เชิญตามสะดวกจ้า พอดีไปหาหมอมาได้กินยาก็ค่อยยังชั่วหน่อยมาแต่งต่อจนเสร็จได้แล้วจ้า
ปล.กริ้ดดดดดดดด กรี้ดดดดดดดด กรี้ดดดดดด(กรีดร้อง) มีกาวอัพตั้ง2 พาทแน่ะ!! ท่านเอ็นโจเป็นหมาหงอยไปแล้ว โอ๋เอ๋ๆ น่ารักเกินไปทน่ารักเกินไปแล้วนะ!!(นอนกลิ้ง)
>>246 รออ่านเน้อ ยังไงระวังสุขภาพด้วยนะตัวเอง อย่าหักโหมมาก รออ่านนะจุ๊
ทางนี้โม่งแปล มาคิดๆ ดูแล้ว คิดว่าช่วงนี้จะเพลาๆ การอัพลงหน่อยนะ อาจจะเว้นสองสามวันอะไรงี้อ่ะจ้ะ หนึ่งคือช่วงนี้งานกูออกไปข้างนอกเยอะ หาเวลามาอู้ไม่ได้ 55555 สองคือดูกระแสช่วงนี้ก่อน พอวนกลับมาเรื่อง LC นิยายทีไรปวดใจทุกที ขอไปนอนเยอะๆ ให้หายปวดใจก่อน แต่ก็จะมาเรื่อยๆ นะเคอะ เลิฟยูว์~
แหม่ พวกมึงนี่นะ ทำเอากูอยากกินชูครีมขึ้นมาเลย
งั้นกูไปbeard papa's...
>>273 'มาซายะ อย่ามาขยี้หัวน่าาาา'
'แค่นี้เองยูกิโนะ' /ขยี้แรงขึ้น
'ผมยุ่งหมดแล้ว!'
'แบบนี้ก็ดูดีไปอีกแบบ'
'ดูดีอะไรกันเล่า ไปไกลๆเลยมาซายะ น่ารำคาญ'
'หา ว่าใครน่ารำคาญน่ะ' /ล็อคคอ
'มาซายะไงเล่าาา' /พยายามหนี
'ง้านนนนเหรออ' /มืออีกข้างเอามาขยี้ผมยูกิโนะอีก
'มาซายะ! หยุดเลยนะ ไม่งั้นคืนนี้ไม่ให้ค้างด้วยแล้ว ท่านพี่บอกไม่ใช่เหรอว่าถ้ากลับดึกอีกจะไม่เปิดประตูห้องให้'
คาบุรากิเลยหยุดแกล้งน้องก่อนจะ..
'งั้นยูกิโนะจุ๊บที่แก้มเราทีหนึ่งก่อนดิ'
'.....'
เด็กซุยรันภาคเรียนต่อมหาลัย(?) คาบุเอ็นโจต่อโท/เอกมาเรียนเพราะรู้สึกว่าความรู้ชักไม่พอสำหรับการทำงาน น้องยูกิโนะเพิ่งขึ้นเรียนมหาลัยกรุบๆกริบๆ
บ้าจริง... กูรู้สึกบาป... /แถวนี้มีโบสถ์ให้สารภาพมั้ยคะ
กูก็ไม่ได้คิดอะไรจนกระทั่งกูคิดว่า แนวพี่ชายชอบไปวอแวน้องชายขี้รำคาญแต่เอาจริงๆก็โอ๋กันเองมันก็.... น่ารักดีนะ(////)
วายช*ชคู่แรกในชีวิตกู.. จีซั๊ส
>>276 บอกตรงๆว่าตอนคิดไม่ได้นึกถึง 3p แค่ มาซายะกลัวยูกิโนะปรับตัวกับชีวิตมหาลัยไม่ได้เลยมาหาที่ห้องบ่อยๆแค่นั้นเอ๊ง ส่วนเอ็นโจเบื่อที่คาบุรากิกลับหอดึก หนักๆเข้าเลยล็อกไว้เลยเพราะไม่อยากตื่นกลางดึกเพราะได้ยินเสียงคาบุเข้าห้องงี้
แต่พอพูดถึง3pแล้ว.... / -รู้สึกเขิงมากๆงดทฟง
ช่วงนี้โม่งแปลพักเยอะๆก็ได้ ไม่ต้องมาบ่อยหรอก จะทันยุ่นแล่ว ถ่วงเวลาไว้ก่อนก็ได้ไม่มีปัญหา ถถถถ
พูดถึงกาวแล้วกูขาดแคลนกาวคุณพี่อ่ะ..............ขาดแคลนมาก
ท่านพี่ยุยโกะก็ซิสค่อนท่านพี่ฟิคเวียนก็อ่อนให้นายตัวสำรองซะงั้น ก็อยากได้ท่านพี่แบบจอมมาร
ถามล่วงหน้าถ้าแปลทันถึงตอนล่าสุดแล้ว กฎการสปอยในโม่งจะมีการเปลี่ยนแปลงไหม เปลี่ยนไงบ้าง มาหารือกันตั้งแต่เนิ่นๆดีป่าว
>>286 กูว่าลงอาทิตย์ละตอนกำลังดี เหมือนสปอยการ์ตูนรายสัปดาห์ในพันทิป มาอาทิตย์ละครั้งยังรอกันได้เลย จะได้ไม่สร้างภาระให้มึงเกินไปด้วย แต่จริงๆก็ตามที่มึงสะดวกอะ กูยังไงก็ได้
>>287 ถ้าแปลทันดิบล่าสุดแล้ว ตอนต่อไปมาก็ไม่ต้องสปอยก็ได้มั้ง รู้ไปพร้อมกันเลย กูคิดงี้นะ แต่ถ้าใครอยากเม้าสปอยกูก็ไม่ได้ว่าอะไร
กูขอแค่ถ้าจะคุยสปอยก็ใส่จุดทั้งบนทั้งล่าง เม้นท์ที่ตอบสปอยด้วย
กูเจอสปอยดิบล่าสุดเมื่อกี้แบบไม่ตั้งใจมันก็ไม่ค่อยโออยู่ พอดีไม่อยากอ่านสปอยน่ะ
ขอKYลงแฟนอาร์ตนิดนุงง อยากวาดตั้งกะตอนที่ท่านจอมมารมาดหลุดปล่อยด้านมืด(?)ตอนที่238ละ แต่ชีวิตเฟรชชี่ทำพิษมากข่า เพิ่งได้มาอู้วาดตอนนี้
พอรู้รสนิยมการเลือกดูหนังของจอมมารแล้วรู้สึกหมอนี่ว่าเหมาะกับอะไรแบบนี้จริงๆ..
(ไม่ได้มาลงแฟนอาร์ตที่นี่นานเลย ยังมีใครจำกูได้ไหมคะ ฮือ555555)
http://imgur.com/dJqkJF9
ทำตามใจโม่งแปลเถอะ
แต่ถ้าถามกู กูกลัวเว็บแมวจะปลิวไปก่อนที่จะตามดิบทัน5555
BDSM รึไงนั่น... กรูรอดูฉากต่อไปอยู่นะ
เปิดตัวลัทธิเรย์กะ กูนี่ขำกลิ้ง ดีนะที่หยุดกินแซนวิสกับชาก่อนอ่าน ไม่อยากสำลักของกินเหมือนรอบก่อน
กรี๊ดดดด ตอนใหม่นี่เขาเปิดตัวว่าเป็นแฟนกันแล้วสินะ //สูดกาวกลิ่นดอกยูริ
วาคาบะแม่งร้ายเหมือนกันนี่หว่า ถามว่าทำลงไปเพราะชอบเรย์กะใช่มะ แล้วก็ตบท้ายด้วยการอวดความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแบบจงใจมากๆ แฟนคลับอย่างเธอน่ะทำได้แค่มอง แฟนตัวจริงอย่างฉันน่ะทำมากกว่านั้นเยอะ เครื่องแบบนี่เขาก็เปย์ให้ กินขนมฝีมือฉัน แถมสนิทสนมกับครอบครัวฉันเอามากๆ ไปเที่ยวบ้านกันหลายหนแล้ว อาริมะอึ้งไปเลยดิ ถถถถถถถถถถถถถ
กูนึกภาพตอนบากะรากิมารู้ทีหลังว่าโคโระจังคือใครไม่ออกฟร่ะ ยิ่งถ้ารู้ว่าเรย์กะไปลัลล้ากับวาคาบะบ่อย ๆ แถมสนิทกับครอบครัวทางนั้นอีก บากะรากิจะทำยังไง
ส่วนจอมมารก็คงเอามาขู่เรย์กะตามเดิมสินะ ถ้าไม่อยากให้มาซายะรู้ คุณต้องไปดูหนังกับผมนะ บลา ๆ
วาคาบะ the little devil
แปลตอนใหม่นี่ วาคาบะสายสตรองและร้ายลึก นี่มันเอ็นโจ Ver.ผู้หญิงนี่หว่า!!
อ่านตอนนี้แล้วกูว่าวาคาบะนี่แหละสายร้ายลึกที่แท้ทรู นี่คือมองออกทุกอย่างเลยนะว่ามีคนมาทำความสะอาดโต๊ะให้แต่ซุ่มเงียบ ฉากโชว์นี่แหละแฟนฉันกูละเสียวอิโคมะจะฉุนขาดแล้วลุกขึ้นมาตบด้วยความหึง คิโชวอิน เรย์กะ เธอมันผู้หญิงบาปหนาจริงๆ เที่ยวปักธงสาวๆ รอบข้างไปทั่ว
>>311 สาวๆในเรื่องมันเป็นพวกกินเนื้อ ส่วนหนุ่มๆเป็นพวกกินพืชถึกควายทุย ตามเล่ห์เหลี่ยมมารยาความร้ายของสาวๆไม่ทันหรอก 55555555555
ฉากเปิดตัวแฟนฉันนี่แบบ...สัมผัสได้ถึงความร้ายความแรงไม่น้อยหน้าใครทั้งนั้น ชอบได้ชอบไป ยังไงฉันก็คือตัวจริงย่ะ เขาไม่แลเธอหรอกเพราะเขาออกจะรักฉันขนาดนี้ ถ้ายังไม่เข้าใจฉันจะเปิดแผลแล้วเอาเกลือที่เรียกว่าความจริงราดซ้ำสลายมโนให้นะ
ลัทธิเรย์กะสมัครได้ที่ไหนครับ
อยากได้มุมมองวาคาบะ the dark side 555555
ตอนแปลล่าสุดนี่ เอ็นโจได้ศัตรูสุดแกร่งมาเพิ่มอีกคนแล้ว!! ธิดามารวาคาบะ!!
ดูจากลำดับในปิรามิดแล้ว สรุปคือตัวละครใสๆ นี่เหลือแค่เจ้าแม่กับจักรพรรดิใช่ไหมวะ คนอื่นเป็นอะไรกันหมดแล้ววววว กูล่ะกลัวใจแทนสองคนนั้นจริงๆ ที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเสือสิงห์กระทิงแรดแบบนี้...
กูว่าทุกคนดูปกติหมดเลยยกเว้นท่านเรย์กะ... วาคาบะที่ผ่านมาเห็นเอ๋อๆ แต่มาตอนนี้ชัดเลยว่าวาคาบะก็เป็นคนปกติ แถมฉลาดสมกับที่ติดท็อปรร.ตลอด /เหล่คาบุรากิ
ฉากเปิดเผยว่าสนิทกับท่านเรย์กะนี่โคตรร้าย
มาตรวัดความร้ายลึกฉบับกาว ณ เพลานี้
1. ท่านพี่ (เทพมาร, บอสลับ, ซิสคอน) - ตำแหน่งไม่มีการเปลี่ยนแปลง
2. ท่านอิมาริ (ผัวเทพมาร, ทาสในเรือนเบี้ย, นังซิน, กระสอบทราย) - ตำแหน่งไม่มีการเปลี่ยนแปลง
3. วาคาบะ (ธิดามาร, มารน้อย, สาวร้ายเงียบ) - พุ่งเพราะวาจากวนเบื้องล่างน่ากระทืบแบบไม่เกรงใจใคร
4. เอ็นโจ (จอมมาร, ไอ้ไก่อ่อน, จีบสาวไม่เป็น) - ตำแหน่งโดนเบียดตกเพราะ อฟซ. ตอน 252 จากคนข้างบน
5. ซากุราโกะ (แมวผี, อีสองหน้า, ยามาโตะนาเดชิโกะ) - บทโผล่ฉาบฉวยแต่สร้างกระแสได้ดี แถมจับผัวได้แล้วชัวร์ๆ
ส่วนสายใสซื่อที่สุดตอนนี้...
1. ท่านเรย์กะ - คนที่คิดไปเองว่าตัวเองไม่มีคนแล
2. ริรินะ - สาวน้อยมาก...สาวน้อยเห้ๆ
3. คาบุรากิ - นี่ก็สาวน้อย แทบไม่มีมารยาเลย
อ้าว...ขอโทษ กูเพิ่งกดส่งไป ไม่เห็นว่ามีคนจัดลำดับใว้แล้ว
เห็นตอนนี้แล้วกูแอบว่าในคิมิดอล วาคาบะน่าจะร้ายใช่ย่อย แต่ทำเป็นอ่อนแอให้คาบุมาปกป้องด้วยซ้ำ ยิ่งทำตัวหงิมๆไม่ตอบโต้มากเท่าไหร่ ฝั่งเรย์กะที่มารังแกก็ยิ่งดูแย่มากเท่านั้น เรียกคะแนนสงสารได้โข //ไม่นะ วาคาบะไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก จิตใจกูสกปรกเอง
>>324 กุว่าลำดับปิรามิดนี่มันน่าจะมีขึ้นลงตามสถานการณ์มากกว่า จอมมารกับเจ้าแม่นี่น่าจะสลับบ่อยเพราะพอจอมมารเอาจริงเจ้าแม่หัวหดอ่ะ
เอ็นโจ : "หืม? คุณคิโชอินชอบอยู่ข้างบนสินะ? โดยเฉพาะกับผมด้วย"
เรย์กะ : (อะไรย่ะ!! แค่ลำดับขั้นปิรามิดต่ำกว่าฉันเลยหาเรื่องหรือไง!! แล้วมาทำสายตากะลิ้มกะเหลี่ยมาทางฉันทำไมย่ะ!!)
ท่านพี่ : "เอ็นโจคุง ชั้นเองก็ชอบอยู่บนนะโดยเฉพาะนาย.......อยู่ใต้เท้าชั้นนะ"
โอยวาคาบะตอนนี้ผัวมาก ผัวมากๆ!!
ท่านเรย์กะคะเป็นสะใภ้บ้านทาคามิจิก็ไม่เลวนะคะ อาหารก็อร่อย อยากอยากเพื่อนสาวหรือผัวก็เป็นให้ได้หมดนะคะะะะะ
กูนี่ขึ้นเรือวาคาบะเลยจ้า
>>336 ชีวิตคนเรามีขึ้นก็ต้องมีลง ให้สองคนนี้ผลัดกันขึ้นๆลงๆก็แล้วกัน //หมายถึงขั้นปิรามิดนะ ไม่ได้มีความหมายแอบแฝงเลย
>>340 คลับคิโชวอินสงสัยต้องบรรจุวาคาบะลงไปในกลุ่มโฮสต์ด้วยล่ะมั้ง แข่งกันทำยอดกับท่านอิมาริ ใครกันที่เรย์กะจะเป็นฝ่ายเปย์ให้มากกว่า 55555555 ส่วนจอมมารกับจักรพรรดิที่เป็นเด็กฝึกงานน่ะไปล้างจานกับกวาดพื้นหลังร้านกันซะนะ
>>335 ถึงจากตอนนี่จะบอกว่าวาคาบะร้ายลึกกันก็เถอะ แต่ถ้ามองจริงๆผมว่าคุณเธอก็ดูเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ใช่แม่พระ พอคนที่แกล้งตัวเองทุกวันมาขอโทษก็ยกโทษให้เฉยๆโดยไม่เอาความอะไรเลย ถึงจะบอกท่านเรย์กะว่าไม่เก็บมาคิด แต่ยังไงก็ต้องรู้สึกแย่บ้างแหละ
ที่เธออวดเรื่องเป็นเพื่อนกับท่านเรย์กะส่วนหนึ่งคงมาจากความอัดอั้นที่ไม่สามารถบอกเรื่องนี้กับใครในโรงเรียนได้มาตลอด อีกส่วนหนึ่งก็เป็นการเอาคืนคนที่แกล้งเธอแรงๆอยู่เป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ก็จะเอาให้อีกฝ่ายสูญสิ้นโดนถอนรากถอนโคน
อย่างน้อยผมว่าคาแรคเตอร์ก็น่าสนใจกว่าเป็นแม่พระที่ปกป้องตัวเองไม่ได้ ต้องให้ท่านเรย์กะแก้ปัญหาตลอด
>>343 แต่งมาเลยมึ้งงงงงงงง
>>342 กูมองว่าวาคาบะเป็นคนธรรมดาทั่วไปมีรักโลภโกรธหลงอยู่นะ ที่ผ่านมาก็ไม่ใช่แม่พระหรอก ที่ไม่ตอบโต้เพราะไม่มีโอกาส ไม่สามารถทำได้ เลยต้องยอมตกเป็นเบี้ยล่าง ทำเป็นไม่ใส่ใจเพราะจะได้ไม่ต้องเจ็บมากเวลาถูกแกล้ง แต่พอมีโอกาสเอาคืนนางใส่ไม่ยั้งเลย แถมรู้ว่าจะทำยังไงให้อีกฝ่ายเจ็บที่สุด แต่พื้นฐานนิสัยก็ไม่ได้เป็นคนเลวทรามเจ้าคิดเจ้าแค้นอะไร ก็เลยยั้งๆมือไว้ไม่ได้กะเอาตาย แค่จะให้บทเรียนว่าอย่าทำอีก
กูชอบคาแรคเตอร์ในเรื่องนี้นะ ตอนเปิดเผยด้านมืดของตัวเองออกมากูว่าน่าสนใจมากเลย ตอนเอ็นโจก็ทำให้กูประทับใจทีหนึ่งละ ตอนนี้วาคาบะอีก ต่อไปจะเป็นใครกันน้อออออ
มีใครเข้าแมวดุ้นไม่ได้มั่งไหมเนี่ย พูดอยู่หยกๆ ไม่ใช่ว่าระเบิดลงเลยนะเฮ้ย
ถ้ากูเป็นวาคาบะแล้วกูฟังสาเหตุที่ทั้งสองคนนั้นช่วยลบโต๊ะตอนเช้าทุกวันนะ
นายตัวสำรอง >> ในประธานนักเรียนและเพื่อนกัน โอเค พอสมเหตุสมผล
เรย์กะ >> เพราะไม่อยากให้วาคาบะเสียใจ โอ้ยถ้าเป็นกูนี่ตกหลุมรักเลย ลงทุนทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียใจ เจอบอกแบบนี้โคตรเขินสัสๆ
เห็นความฉลาดของวาคาบะจังตอนล่าสุดแล้วก็นึกเอ็นดูคาบุรากิเลย
โถ่ ไซซายะ สายใสๆจีบไม่เป็นแถมยังเนิร์ดนิดๆอย่างนาย วาคาบะจังคงหัวเราะกิ๊กกั๊กๆแบบเอ็นดูอยู่ห่างๆ อย่างตอนพาไปร้านฟาสต์ฟู้ด เชื่อว่าอย่างคาบุ(ที่ทำตามท่านเรย์กะ)น่าจะมีอะไรเอ๋อนิดๆตามต้นฉบับไม่มากก็น้อย คงเหมือนเด็กป.หนึ่งอวดว่าเนี่ยรู้รึเปล่าป๋มท่องสูตรคูณแม่หนึ่งถึงแม่สิบสองได้แล้วนะ น่ารักน่าเอ็นดูเว่อร์
///เห็นหน้าวาคาบะพูด "ไม่น่าเชื่อว่ามาซายะคุงจะเคยมานะคะ" แบบกลั้นยิ้มขำได้มากๆ โอ้ยยยย ประมาณว่า นี่อย่าบอกนะว่านะว่าจักรพรรดิซุยรันจีบใครไม่เป็นทั้งที่มีผู้หญิงมาคอยห้อมล้อมเยอะขนาดนั้นแท้ๆ กรี๊ดดดด
เป็นนิยายยูริก็คงไปถึงไหนต่อไหนละ เอ...หรือนี่เป็นนิยายยูริมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วหว่า
"ก๊อกๆ"
"ค่าา เข้ามาได้เลยยย"
พอเห็นใบหน้าประดุจตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่เกือบจะร้องไห้นี่ทำฉันดีใจที่เธออุส่าห์กังวลคิดถึงฉัน แต่วินาทีถัดมาเธอกลับมองไปยังนังขยะนั่น!
ยิ่งพอฟังเหตุผลที่นังหมูตัวเมียนี่ทำเรื่องโง่ๆ ก็ยิ่งขำในความไร้สมองของนังนี่ ในระหว่างนั้นเธออุส่าห์กังวลถึงนังนั่น! ฉันเลยได้แต่หยอกพร้อมลงโทษยัยโสโครกนี่แต่พองาม
"เน่ๆ คุณอิโคมะเรื่องงานพิเศษตั้งแต่อาทิตย์หน้าสะดวกมั้ย..."
"เอ่อ..."
" บ้านฉันถูกมั้ย อยู่เลยตรงข้ามสถานี..."
พอเธอเห็นฉันกำลังคุยกับคุณอิโคมะเลยขอตัวกลับ ส่วนมิซึซากิคุงก็ขอตัวหลบไปเช่นเดียวกัน จึงได้โอกาสคุยกัน2คน
"นี่คุณอิโคมะ... ถึงแม้ฉันจะไม่ใส่ใจที่คุณหาเรื่องฉัน แต่ถ้าทำให้เธอคนนั้นเสียใจอีกละก็มันจะไม่จบอย่างวันนี้แน่ พูดแค่นี้คงพอเข้าใจนะ..."
นังนั่นตัวแข็งไปเลย ฉันจึงเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับเอามือตบแก้มเบาๆให้รู้สึกตัว
-------------------------------
"กลับมาแล้วค่า~ แม่คะ~อาทิตย์หน้าจะมีคนที่โรงเรียนมาทำงานพิเศษที่บ้านเรานะคะ"
"เดี๋ยว! วาคาบะ! ที่ว่าเนี่ยหมายความว่ายังไง!?"
"ปัง!"
"ซูด!~ แฮ่กๆ เรย์กะๆ~" ฉันสูดชุดสูทบนกายที่เคยเป็นของเธอ เป็นเพราะวันนี้ได้คุยกันที่โรงเรียนแท้ๆเลยทำเอายับยั้งชั่งใจไม่อยู่ ถึงจะเทียบไม่ได้กับตัวจริงแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย
"อ่า!~ เรย์กะ! คุณคิโชวอิน! ฉะ-ฉันไม่ไหวแล้ว อ่า!~"
ฉันได้แต่ครวญครางท่ามกลางกลางจินตนาการ...
......
มึง.. ก่อนจะลงอย่าลืมจั่วหัวนะ เพื่อนโม่งบางคนอาจจะไม่โอเค
>>367 ห่ะ เรื่องนี้มีคนปกติด้วยหรอ? //กวาดตามอง
>>369 ตาม >>370 มันคือแฟนตาซี จริงๆมึงก็คงนั่งเงียบๆช่วยตัวเองไปป่าววะ
Ps.กุเป็นญว่ะ ไม่ใช่ชแอ๊บมาเขียนนะ
>>371 โทดทีระหว่างที่กุพิมพ์กุก็ส่องๆแล้วว่าจะมีใครออกกาวมาให้กุอ่าน แต่ดันไม่มีทั้งๆที่มันฟุ้งมากก กุเลยพิมพ์ไประหว่างที่พวกมึงกำลังเม้าส์กัน พิมพ์เสร็จก็โยนเลย กลัวหาย555
>>355 มึงพูดแล้วกูอยากให้มีฉากคาบุวาคาบะไปเดทกันแล้วเรย์กะเดินผ่านมาเห็นพอดีเลยวุ่มดูสถาการณ์
คาบุก็มั่นมากว่าทำนู่นทำนี่ได้ วาคาบะก็จ้า จ้า จ้า เรย์กะถึงกับกุมหัวในดงพุ่มไม้ คาบุรากิ นายมันน่าสิ้นหวังแล้ว!!! อย่าบอกนะว่าที่ผ่านๆมาที่บอกว่าเดทไปได้วยนายก็โชว์ความง่าวแบบนี้!! นี่มันมนุษย์สามัญชนเลเวล1 ที่กร่างทำเป็นผู้รู้กับสามัญชนเวล999 แล้วสามัญชนผู้เวลตันก็ไม่ขัดอะไรมองยิ้มๆอย่างอ่อนโยน 5555555555
>>355 ที่นางลืมขอซอสมะเขือเทศมาแล้วต้องมาแบ่งกันกินสองคน สร้างโมเมนต์สีชมพูหวานแหวว สัมผัสได้ถึงความอ่อยเบอร์แรงยังไงไม่รู้ดิ กูขอโทษนะ แต่พออ่านตอนนี้แล้วกูอดคิดแบบนี้ไม่ได้จริงๆ ลืมขอก็เดินกลับไปขอกับพนักงานใหม่ก็ได้แต่ก็ไม่ทำ เรย์กะยังไล่ไปขอเองเลย แต่มาซายะคุงเพิ่งจะเคยมาเลยไม่กล้าไป วาคาบะก็น่าจะเดินไปขอได้ล่ะ แต่กลับมานั่งแบ่งกันกิน โชว์ด้านน่ารักๆ มีนิดเดียวก็ต้องประหยัดเน้ออออ
กูสัมผัสได้ถึงความมีใจก็เลยอ่อย ให้คาบุมันโชว์แมนเอสคอร์ต ให้เขาปลาบปลื้มว่าได้เทคแคร์สาวที่ชอบมั่ง รู้ว่าเขาอยากได้อะไร ต้องการอะไรก็ไม่ขัดขวางแต่ส่งเสริม ไม่ทำลายความภาคภูมิใจของเขา มารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนจริงๆ 555555555555555
>>372 เอ่อ...ไม่ต้องรีบก็ได้มึง ใจเย็นๆนะ คือกูไม่ได้อะไรกับฟิคเรท แต่เรื่องใสๆกูก็ชอบให้มันใสๆน่ารักๆ ถึงจะเรทก็พอกุบกิบๆหอมปากหอมคอ พอเลื่อนมาเจอฟิคมึงกูก็สตั๊นท์ไปเลย ทีหลังจั่วหัวไว้ด้วยน้า
>>375 กูนึกถึงฉากร่มในหนัง season change ว่ะ การอ่อยแบบน่ารักๆ เป็นฉากฝนตกแล้วไอ้หนุ่มหยิบร่มมากาง อีสาวก็ทำท่าจะหยิบร่มในกระเป๋าแต่ก็ชะงัก ไอ้หนุ่มถามเป็นอะไร อีสาวบอกลืมเอาร่มมาน่ะ ไอ้หนุ่มผู้ไม่รู้อะไรบ้างเลย บอกให้มาเข้าร่มที่ถืออยู่นี่ เดินคุยไปด้วยกันใต้ร่มคันเดียวกันน่ารักๆ แต่จริงๆร่มน่ะไม่ได้ลืมหรอกเพราะกล้องก็ซูมให้เห็นว่ามีร่มอยู่ แค่อยากเดินใต้ร่มคันเดียวกันกับเธอเฉยๆ ฉากนี้ดูแล้วจั๊กจี้หัวใจมาก กูชอบการอ่อยน่ารักๆแบบนี้ล่ะ
>>374 คาบุกับวาคาบะไปเดทกัน แล้วเรย์กะก็ไปซุ่มสังเกตการณ์ที่พุ่มไม้ ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงจิตคุกคาม(?)ที่ด้านหลัง
"ท ท่านเอ็นโจ!? ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะคะ!?"
"อื้อ บังเอิญผ่านมาแถวนี้น่ะนะ แล้วคุณคิโชวอินล่ะ~"
"เอ่อ.. คือ..."
"อื๋อ? นั่นมาซายะกับคุณทาคามิจินี่... หรือว่า..."
"อ เอ่อ...."
"น่าเป็นห่วงจริงล่ะนะ... เข้าใจล่ะ งั้นเราสองคนแอบตามดูสองคนนั้นเดทด้วยดีกว่าเนอะ"
"ห เอ๋!?"
อ่านตอนล่าสุดใบหน้าธิดามารของวาคาบะกูผุดขึ้นมาในประโยคนี้เลย
http://imgur.com/ooDO4A7
>>383 ฮีอาจจะคิดประมาณ "บ้าจริง โดนแกล้งแล้วจะสนิทกับคุณคิโชวอินอย่างนั้นเหรอ งั้นไปหาคนมาแกล้งบ้างดีมั้ย" พอมาซายะเดินผ่านมาก็รีบเรียก "เอ้า มาซายะรังแกผมที ผมจะได้วิ่งไปฟ้องคุณคิโชวอินว่าผมโดนรังแกคร้าบบบบ...ปกป้องผมที" แต่มาซายะถอยกรูดไปด้านหลัง ส่ายหน้าปฏิเสธอย่างเดียว "โธ่ มาซายะไม่ให้ความร่วมมือเอาซะเลย......ช่วยไม่ได้นะ กลับไปรังแกมาซายะเหมือนเดิมก็แล้วกัน"
รักโม่งแปลค่าาา!!!
กูเป็นโม่งยามดึก เพิ่งได้เวลามาอ่าน และขอแก้ตัวให้วาคาบะได้ไหม กูไม่มองว่านางสายมืดสายมารนะมึง แหม แหม ถ้าโดนทำถึงขนาดนี้ แล้วร้ายใส่แบบนี้ถือว่านางใจดีมีบุญคุณมากเลยนะคะ ความกดดันกลั่งแกล้งแบบนี้ ถ้าต้องเจอกับตัวมันคงเหนื่อยรากเลือด ยิ่งจิตอ่อนอาจะถึงขั้นฆ่าตัวตายเลยก็ได้มึงงงงง ซึ่ง ถ้าเป็นเกิดกับคนอื่น เอาตัวแรง ๆ เหรอ ป่านนี้ลากไปประจานทั้งชั้นแล้วลากพาไปให้ทั่วโรงเรียนแล้ว ดีไม่ดี อาจจะออกสื่อออนไลน์โซเซียลทั้งหลายต่อไปอีก แบบนี้ คือไม่ใช่แค่ถูกให้ออกจากโรงเรียน แต่จะถึงขั้นไม่มีที่ยืนในสังคมเลยนะ
นี่คือแค่แซะ ๆ กัด ๆ จิก ๆ ปรับเงินก็ไม่ปรับนะ คือถ้าเป็นกู ตอนอ่านเนี่ย กูยังนึกว่าจะเลือกเส้นทางสายนี้เลย ได้เงินค่าเสื้อมาสัก 2-3 แสนเยน โฮะโฮะ ชีวิตดี เก็บให้พวกคันตะเป็นทุนการศึกษายังได้เลย ถ้าไม่อยากใช้เอง แค่ไปทำงานที่ร้าน เหมือนจะถูกด่าประนามจากทางบ้านวาคาบะ แต่มึงงงๆๆ ทางนั้นคือสายเผ่าพันธุ์ไฮเปอร์เฟรนลี่นะมึงงง ไม่ร้ายใส่มากหรอก (ไปอยู่บ้านเอ็นโจ ยุยโกะ หรือกับท่านพี่ก็ว่าไปอย่าง) ดังนั้น กูขอสรุปให้ = นางไม่ร้ายยยย
ไม่ใช่สายวาคาบะ (หลัง ๆ กูออกจากเรือเอ็นโจคนพี่จะไปสิงเรือคนน้องกับนายตัวสำรองแล้วนะ) แต่ก็ขอตอนแทนให้ว่านางก็ไม่รู้นะคะ ว่ามีใครมาแก้แต่ละวัน มึงขาาา มึง ถ้าถูกแกล้ง มันก็ต้องมาโรงเรียนด้วยความหวังว่าจะไม่ถูกแกล้งเปล่าวะ? ยิ่งเป็นสายปล่อยวางแบบนางแล้ว ไม่มีก็ถือว่าดีแล้ว ใครจะมาแล้วบอกว่ามีค่ะ ถูกแกล้งค่ะ นั่นไง โน่น นี่ นั่น
อ๋อ มัวแต่อินเรื่องวาคาบะ กรี๊ดด อย่างนี้นายตัวสำรองก็มองท่านเรย์กะดีขึ้นแล้วสิ นายตัวสำรองๆๆๆๆ มาลงเรือท่านเรย์กะม้ายยยยย ... มานะ มานะ รวย แต่น่ารัก นิสัยดี ไม่ถือตัวน้าาาา กูอยากเห็นท่านเรย์กะมีคนมาจีบ อินเลิฟกับนางบ้างง ต้องเอาคนเนี้ยแหละถึงจะสู้กับอิทธิพลมืดและดาร์ดออร่าของจอมมารได้ โฮะโฮะ
แต่อย่างน้อย ท่านเรย์กะก็ได้ตัวตายตัวแทนไปฝึกวิชาใต้น้ำตกแล้วน้าาาาา อะไรคือท่อนชักชวนว่า "พิจารณาตัวตนอันอ่อนแอ" วะ บางทีกูก็งง ๆ ว่านางก็สรรหาคำพูดอลังการในเวลาอันรวดเร็วมาได้ อย่างเรื่องคำตอบสาเหตุการไปกินอาหารสามัญชนยังมาอบบเขียนสคริปส์ไว้แล้วเลย หรือว่าความเพ้อมโนอะไรในใจของนางมันมีผลเนี่ยยย
แล้วลัทธินี้ บำเพ็ญตัวยังไง ไปแสวงหาอาหารอร่อยลืมตายมาถวายบรรณาการเจ้าแม่เหรอออ?? อ้วนตายทั้งลัทธิแน่เลยยย!
อ้านย้อนไปตอนเรย์กะแนะนำคาบุไปเรียนกะอิมาริ แล้วคาบุกลับมาบอกว่าไม่ไหวหรอก สงสัยจังว่าเกิดอะไรขึ้น...
1.อิมาริโชว์เทพโฮสต์ จีบสาวในงานเลี้ยงรัวๆ
2.อิมาริจีบสาวจนโดนแทง
3.อิมาริจีบคาบุ?
(3.1 โดนเทพมารมองแรง ถถถถ)
>>392 มา กูต่อให้
มาซายะ : ไม่ใช่อย่างนั้นครับ หมายถึงผมจะมาขอฝากตัวเป็น "ลูกศิษย์" ต่างหาก
อิมาริ : อื๋อ งั้นเหรอ ว้า...เสียดายจังเลยนะ
มาซายะ : //เหงื่อแตกอยู่ในใจ ทำไมต้องเสียดายด้วยหา!!
อิมาริ : แล้วอยากรู้อะไรล่ะ
มาซายะ : คือว่า ผมแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ แต่ว่าผมเพิ่งถูกคนบอกมาว่าให้มาฝึกหัดเรียนรู้ความสามารถเอาใจผู้หญิง โดยมีคุณอิมาริเป็นแบบอย่างครับ
อิมาริ : แหม น่าดีใจจัง แล้วใครบอกให้เธอมาเรียนรู้จากฉันอย่างนั้นเหรอ
มาซายะ : คิโชวอิน เรย์กะครับ
อิมาริ : เอ...อย่างนั้นเหรอ งั้นเราไปหาที่คุยกันเงียบๆสองคนดีกว่ามั้ย
มาซายะ : ครับ//เดินตามไปด้วยสายตาเป็นประกายมุ่งมั่น ดีใจที่จะได้เรียนสกิลจากโปรเฟสชั่นแนลแล้ว
อิมาริ : ไหน ลองว่ามาซิ ปัญหาของเธอคืออะไร//นั่งโซฟาตัวเดียวกับมาซายะ เอาแขนพาดไปตรงพนักพิง
มาซายะ : ผมถูกบอกว่าไม่ละเอียดอ่อน ขาดการเอาใจใส่และไร้สามัญสำนึกครับ
อิมาริ : อืม อย่างนั้นเองเหรอ //พยักหน้ายิ้มๆ เอาแขนพาดบ่ามาซายะ ลูบไล้ไปมา
มาซายะ : ครับ
อิมาริ : ไม่ยากหรอก ผู้หญิงน่ะเป็นเพศที่ชอบการเอาใจมากเลยนะรู้มั้ย พูดจาหวานๆ หาข้อดีในตัวเธอแล้วพูดชมออกมา อย่างเช่น....//ขยับมือจากที่ลูบหัวไหล่มาซายะก็มาไล้ปลายนิ้วไปตามใบหน้ามาซายะแทน//....ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ที่ผมได้พบกับผู้งดงามเฉกเช่นคุณมาเยือนต่อหน้า หรือคุณจะเป็นเทพธิดาแห่งราตรีจำแลงกายมาล่อหลอกเอาหัวใจไปจากผมกันล่ะ
มาซายะ : ........
อิมาริ : ดวงตาคุณงามดั่งเพชรนิลอันลึกล้ำ ราวกับจะดูดกลืน สะกดให้ผมหลงเข้าไปในห้วงมิติอันลี้ลับไม่สิ้นสุด ที่แห่งนั้นผมจะเป็นทาสของคุณ
มาซายะ : ..............
อิมาริ : ผิวกายคุณดั่งแสงจันทร์ที่ส่องสว่างกลางราตรีเสียจริง ใบหน้าดูราวกับเทพเจ้าเสกสรรค์ปั้นแต่ง หากเทพีวีนัสมาพบเห็นคงริษยาผู้งดงามเช่นคุณเป็นแน่
มาซายะ : .....................
อิมาริ : ริมฝีปากนี้แดงสดเหมือนผลเชอรี่น่าลิ้มลอง ขอให้ผู้ต้อยต่ำเช่นผมมีโอกาสได้ชิมรสชาติได้หรือไม่ //ไล้นิ้วโป้งไปตามริมฝีปากมาซายะเบาๆ
มาซายะ : คุณอิมาริครับ....
อิมาริ : มาซายะคุง เคยมีจูบรึยัง ถ้ายัง...ฉันสอนให้เอามั้ย
มาซายะ : มะ ไม่เอาดีกว่าครับ ผมเกรงใจ
อิมาริ : ไม่ต้องเกรงใจหรอก คนกันเองทั้งนั้น
มาซายะ : คะ คือว่า นึกขึ้นได้ว่ามีธุระ ขอตัวก่อนนะครับ//โกยอ้าวกลับห้องจัดเลี้ยง
อิมาริ : อ้าว หนีไปซะแล้ว ไม่ไหวเล้ย //หัวเราะแล้วกดโทรศัพท์หาทาคาเทรุ คุยงุ้งงิ้งต่อว่าวันนี้แกล้งเด็กสนุกดีจัง
โอ๊ยยยยย คาบุลู้กกก วงวาร 555555555555555555555
พอบอกว่าน้องสะใภ้แนะนำมาปุ้ป อิมาริองค์ลงเลย
กูฮาบทชมโฉมมาก 5555
kyหน่อย กูเห็นด้านบนบอกประทับใจกับฉากเปิดดาร์กไซด์ของจอมมาร มันตอนไหนวะ กูลืม
>>386 จริงๆกูว่าโม่งๆคงไม่ได้คิดว่านางสายมารแรงขนาดนั้นหรอก แต่ก็ไม่ใช่สายนางเอกโชโจไทป์คนดีจ๋าๆไง555555 แต่ต่อให้วาคาบะแบบนั้นพูดเยาะเย้ยนิดๆแซะหน่อยๆกูว่าก็นิสัยไม่ธรรมดาอยู่นะเว้ย คือ อย่างกูคงไม่กล้าแซะคนที่เคยแกล้งตัวเองแบบนั้นว่ะ ต่อให้มีแบ๊คใหญ่มากกกกกกก็ตาม วาคาบะนี่ท่านเรย์กะติดฟิลเตอร์นางเอกนิยายเข้าไป จริงๆก็คงแรงอยู่พอตัวแหล่ะนะ55555
>>386 กูว่าโม่งก็แซวกันเล่นนี่ล่ะ แบบ..เห็นเป็นคนดีใจเย็นสบายๆอะไรก็ไม่แคร์มาตั้งนาน พอโกรธก็แสดงความเป็นมนุษย์ออกมาเต็มที่ ไม่ได้ใจเย็นเป็นแม่พระมาจากไหน ผิดคาดกันเลยทีเดียว
ตอนที่ถามย้ำๆชอบคุณคิโชวอินมากเลยเหรอ กูว่านางโกรธจัดๆหาทางเล่นงานอยู่ว่าแบบไหนจะเจ็บแสบที่สุด มันก็เลยออกมาในรูปแบบเย้ยหยันรัวๆ ว้าย ไอดอลของเธอเขาไม่เคยแลเธอแม้แต่ครั้งเดียว อะไรที่เธออยากได้เขาก็ให้ฉันหมดเป็นไงล่ะ
ที่ผ่านมาคือเราก็รู้ว่าวาคาบะเป็นพลเมืองชั้นสองในโรงเรียน ทำอะไรก็มีเหตุผล แต่พอโกรธนางก็ใส่ไม่ยั้งเหมือนกัน ไม่กลัวว่าอีกฝั่งจะผูกใจเจ็บทำอะไรที่มันร้ายแรงกว่านี้มั่งเลย
>>404 เรียกว่าเป็นการเปิดด้านมืดของวาคาบะครั้งแรก หลังจากเห็นด้านสว่างมาตลอด
ตอนที่ได้ยินสาเหตุการกลั่นแกล้งมาจากปากของอาริมะ วาคาบะก็น่าจะคิดวิธีเอาคืนได้แล้วละ แต่ที่ถามย้ำต่อหน้าหลายๆรอบว่า"ทำเพราะชอบคุณคิโชวอินเหรอ" นี่เหมือนค่อยๆเอามีดกรีดแผลเล็กๆ
ก่อนเปิดเผยความสัมพันธ์เหมือนการทาเกลือซ้ำไปตรงแผล
นี่ถ้าเทวดาน้อยเผยด้านมืด สงสัยเม้นกันหนักไม่แพ้ตอนนี้แหง
กูอยากเห็นด้านมืดของอาริมะ แต่ท่าทางจะยาก นายมันคนดีเกินไปปปปป
เงียบจุง หมดเทศกาลฟิครัวๆแล้วเหรอ
เดี๋ยวถึงกลับบ้านแล้วกูลงให้ซักฟิคละกัน มีในสต็อคอยู่พอดี แต่จะอยากอ่านกันรึเปล่าก็ม่ายรู้
กรี๊ด โม่งแปลลงตอนใหม่แล้ว กดF5รอโหลดขึ้น //ขอบคุณจ้า
กูขำตั้งแต่เรย์กะนึกว่าวาคาบะตัดพ้อตัวเองหยั่งกะเมียเก็บ เมียเก็บอะไรกันค้าาาา แฟนตัวจริงไม่ใช่เหรอ อย่าคิดแบบนั้นสิ 5555555
กูฮาตรงคาบุแม่งจะแกล้งเพื่อนแต่เพื่อนเสือกพริ้วหลบไปได้อย่างงดงามนี่ล่ะ จะแกล้งชูสุมอยก็พยายามเข้านะไซซายะ //มองด้วยสายตาเอ็นดู
ส่วนสามหน่อผู้ยิ่งใหญ่แห่งซุยรันนี่คือแก๊งทรีโอ้เพื่อนกันจริงๆแล้วสินะ ถึงเรย์กะจะซึนไม่ยอมรับก็เหอะ แต่ก็อยากไปเที่ยวด้วยกันเหมือนกันนี่นา
ร้านกาแฟที่เอ็นโจว่านี่สตาร์บัครึเปล่าอะ เห็นบอกเป็นร้านฮิปๆ แล้วเรย์กะบอกว่าลนลานทำตัวไม่ถูกตอนสั่ง เลยคิดว่าจะเป็นสตาร์บัค เพราะกูก็เคยไปยืนเด๋อๆสั่งไม่ถูกไม่รู้จะเริ่มยังไงหน้าเคาน์เตอร์ตอนเข้าครั้งแรกเหมือนกัน
เอ็นโจจะมีสักตอนไหมที่ไม่ทำให้ลูกเรือผิดหวัง... ระเบิดเรือตัวเองทุกครั้งที่โผล่มา...
กูว่าคาบุแม่งหาจังหวะแกล้งเอ็นโจมานานแน่ๆ กะว่าจะให้เอ็นโจไปโชว์ความเงอะงะแบบตัวเอง แต่แกลืมไปรึเปล่าว่าเพื่อนแกน่ะมันนักปรับตัวตามสถานการณ์ เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้หมด ขนาดอีไก่โง่มาวอแวพี่แกยังปัดทิ้งแล้วลากเรย์กะกับมาซายะไปฟาสต์ฟู้ดได้ แล้วธุระที่เอ็นโจไม่ไป....ยุยโกะแหงๆ
ช่วงท้ายๆมีเจาะเรือนิดหน่อยแต่ไม่เสียหายมาก ไม่ถึงกับระเบิด แค่วิดน้ำออกเรือก็พอ แต่แอบขัดใจว่าทำไมไม่คว้าโอกาสไว้หา!! อย่างนายดูก็น่าจะรู้นี่ว่าเจ้าแม่อยากไป เสือกไม่ให้เขาไปซะงั้น หรืองอนที่นางออกตัวปฏิเสธในตอนแรกเลยลงโทษแกล้งเล่น?? เดาใจยากจังไอ้นี่
ตอนนี้มีล่อลวงเขาไปเดทด้วยด้วยเว้ยยยย ชูสุมอยยย
>>421 ฮ่วย ฉลาดมาตั้งนาน เสือกมาสะเทือนใจตอนเขาปฏิเสธลูกเดียวอ๊ะป่าว เลยนอยด์ๆโง่กระทันหัน ไม่อยากไปขนาดนั้นก็ไม่ขัดใจ 55555555555
แต่พอเดินไปด้วยกันสามคนทีไร พี่แกเดินคั่นกลางทันทีเลยว่ะเฮ้ย ตอนไปแจกของขวัญที่เปอติต์ก็คั่นกลางเหมือนกัน ไม่ให้เขาเดินข้างๆกันเลย หวงสินะ หึๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณโม่งแปลมากกก
ตอนนี้อ่านไปกุมใจไป เอ็นโจหล่อมาก แงงงงงงง
แต่เสียดายตอนสุดท้าย ทำไมไม่ให้ท่านเรย์กะไปด้วย ฮือออออออออ
หรือว่าที่ไปกันสองคนเพราะจริงๆวันนี้อยากเอาเรื่อง'คนที่คุยโทรศัพท์ด้วย'มาปรึกษาคาบุรากิ?
จะว่าไปวันนี้ท่านเรย์กะก็ซวยอีกแล้วสินะ.. โดนตาไก่โง่เห็นเข้าเต็มๆเลยว่าอยู่ด้วยกันกับสองคนนี้
จากเหตุการณ์วันนี้ คิดว่าคาบุรากิโดนเอามาเป็นไม้กันหมาบ่อยมากแน่ๆเลย 5555
ความคิดกูนะคะแนนผู้ชายในใจของเจ้าแม่คงจะประมาณนี้อ่ะ
คาบุรากิ ... +5 (คะแนนความน่าเอ็นดูในบางเวลา)
มิซึซากิ ... +15
นายบ้าหมา(กูควรจะนับด้วยมั้ย?) ... 0
ท่านอิมาริ ... +95
เอ็นโจยูกิโนะ ... +100(++)
ท่านพี่ ... +100(+++)
สุดท้ายนี้....
เอ็นโจ ชูสุเกะ ... -100,000,000
กูขำเมนท์ในแมวดุ้น รู้สึกจะเมนท์ไปในทางเดียวกันแทบทั้งนั้นเลยว่าเอ็นโจหึงอยู่ชัวร์ๆ แต่หึงหวงแล้วหัวร้อนระเบิดเรือตัวเองแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ โอกาสมาถึงที่ทำคะแนนหน่อยเซร่ อย่าให้มันติดลบมากไปกว่านี้เลยขอร้องล่ะ 55555555555555555
เอ็นโจ๊วววววววววว
ไอ้....
ไอ้.......
ihgrea;fierutjgf'seaojgvmzdopujgfkaepitjgvsepojkgik
ฟร๊าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค
สุดท้ายเรือเอ็นโจก็ไม่พ้นคำสาปหักคะแนนไม่ก็ระเบิดเรือตัวเองตอนจบสินะ แม่งเอ็นโจสมได้รับฉายาจอมมารต้มตุ๋นจริงๆ พริ้วอย่างไวข่มขู่อย่างคล่องแถมตอนนี้เป็นอีกตอนที่แสดงพลังจอมมารขู่ตาไก่อ่อนจนหนีกระเจิง
เบื่อเอ็นโจวจังวะ ขู่ให้เค้ามาขนาดนี้ละ เสือกทิ้งเค้าตอนท้ายซะงั้น
เบื่อกุไม่เชียร์มึงละ อยู่กับว่าที่ของเมิงต่อไปเหอะ รำคาญญญญญญ
ตอนนี้เรือกูแล่นชิวมากเลย เมียกงเมียเก็บอะไรกันท่านเรย์กะ โมเม้นขนาดนี้แล้วเป็นเมียหลวงก็ยังได้
พวกมึงง สตก.มืออาชีพแบบเอ็นโจอาจจะรู้อยู่แล้วว่าเรย์กะติดเรียนพิเศษไปไม่ได้อยู่แล้วก็ได้ เลยจงใจ (กูพยายามช่วยเต็มที่...)
เออ แต่ร้านกาแฟนี่กูว่าไม่น่าจะใช่สตาร์บัคส์นะ อันนั้นมันเข้ามาในญี่ปุ่นนานแล้วหนิ ไม่มีกาแฟดริปด้วย นี่น่าจะเป็นร้านสาขาน้อยๆ กว่านั้นมั้ง
>>437 ช่วยไม่สำเร็จหรอกมึง//ตบบ่า ที่เป็นอยู่ก็ทำตัวเองทั้งน้านนน
แต่จริงๆก็ว่าเอ็นโจน่าจะรู้อยู่แล้วนั่นแหล่ะ แต่ที่พูดขึ้นมาเพราะท่านเรย์กะคงตาวาวๆเป็นประกาย//เอ็นโจเคยบอกว่าหน้าคุณคิโชวอินมองออกง่าย เลยต้องแกล้งนิดแกล้งหน่อย ฮึ ไหนว่าไม่อยากไปกับพวกผมไงล่ะคุณคิโชวอิน พอเป็นเรื่องของกินล่ะก็...
คาบุนี่น่าเอ็นดูจริงๆนะ*น้วยไซซายะ* ท่องอาหารตามเมนูฤดูอย่างภูมิใจนี่เด็กมาก โคตรเด็ก การบรรยายสัมผัสได้ถึงความรักความเอ็นดู(?)ที่ท่านเรย์กะมีต่อคาบุรากิ555555 พูดมาแบบปนความหมั่นไส้มากๆ
เห็นเมนต์ในแมวดุ้น ไอ้ประโยคที่ว่า "คุณคิโชวอินไม่ค่อยชอบกาแฟเท่าไหร่ใช่มั้ยนะ?" ที่จริงอาจถามไพล่ไปถึงลาเต้อาร์ตแก้วนั้นรึเปล่า.... เพราะในตอนนี้ท่านเรย์กะตอนปฏิเสธก็ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนะ บอกไม่ได้ดื่มบ่อยเฉยๆ
กูโม่งฟิคเวียนมุมมองเอ็นโจเองนะ ขอโทษนะ แง้ ช่วงนี้ป่วยไม่พอแถมติดสอบติดค่ายอีกต่างหาก งานเข้ารัวๆๆ เลยไม่มีเวลาไปแต่งต่ออ่ะ สำหรับใครที่รออยู่ก็ขอโทษด้วยน้า
ปล. กรี้ดดดดดดดดดดดด ตอนใหม่! รู้ว่าสาวเขาอยากไปแต่เพราะรู้ว่าเขาติดเรียนอยู่เลยไม่ค่อยอยากให้เสียเวลาเรียนไปมากกว่านี้ใช่มะ!?(ติดฟิลเตอร์มโนขั้นอัพเกรด) เป็นห่วงสาวเจ้าขนาดนี้ดีเหลือเกินนน ถึงจะเสียดายแต่ก็อยากแกล้งด้วยใช่มะ อุตส่าห์หาโอกาสมารับยาใจได้นี่ไม่ธรรมดาเลย แต่บอกตรงๆได้เลยว่า....ยุยโกะนี่ก้างชิ้นใหญ่แข็งแรงประหนึ่งพอลิเมอร์เลย นี่คงร้อนใจและค่อนข้างโกรธด้วยล่ะมั้งถึงได้ตามทั้งทางโทรศัพท์และผ่านตาไก่โง่(ซึ่งโง่อยู่วันยังค่ำ) อย่างที่เหล่าโม่งได้คาดไว้ว่าฮีน่าจะติดบุญคุณตระกูลนางไว้สักทางก็น่าจะจริง แต่คงไม่ถึงขั้นตระกูลอ่ะ น่าจะติดเรื่องส่วนตัวในวัยเด็กๆมากกว่าประมาณว่าเคยช่วยชีวิต(?/หรืออะไรที่สำคัญมากๆ)เอาไว้โดยจบที่ยุยโกะบาดเจ็บหรืออะไรทำนองนี้เพราะนางดูผีมากๆ(คงป่วยหลงเหลืออยู่ไม่ก็ใช้มันในการรั้งชูสุมอยเอาไว้) ถ้าติดที่ตระกูลจริงๆแล้วยุยโกะรักขนาดนี้คงใช้ข้ออ้างมาบังคับหมั้นไปนานแล้ว แต่ที่ยังไม่หมั้นนี่คงเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่มองแล้วให้เด็กๆเลือกกันเองน่าจะดีกว่าล่ะมั้ง เพราะดูแล้วแม่ของเอ็นโจค่อนข้างจะปล่อยลูกเรื่องคนที่ชอบพอสมควรเลย พอฮีมีคนที่ชอบจริงๆแถมตระกูลเหมาสมทางฝั่งเอ็นโจที่มีชนักติดหลัง(ยุยโกะ)เลยดันตรงๆไม่ได้ แต่ก็ขวางเรื่องหมั้นได้อยู่ เลยจบที่ให้เด็กๆทำศึกกัน้องแล้วลุ้นว่าเอ็นโจจะทำสำเร็จหรือเปล่า เพราะดูทรงแล้วตระกูลฝั่งยุยโกะชั้นสูงอยู่นะแต่ก็ชนเจ้าแม่ไม่ได้เลยสิ ขนาดใช้อำนาจขวางท่านเรย์กะยังไม่ได้ถึงได้ร้อนอกร้อนใจแบบนั้น เอ้า!สู้เขาล่ะชูสุมอย!
>>444 ถ้าเรื่องมาแบบว่า...
"ชู แวะมาดูยูกิโนะหน่อยเถอะนะ น้องเธอไม่สบายมาก" ฉันกรอกเสียงระล่ำระลักลงในโทรศัพท์ ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่แคร์
"ผมไม่ใช่หมอนะ ยุยโกะ ไปแล้วจะทำอะไรได้ คุณอยู่ทางโน้นก็ดูแลไปสิ" น้ำเสียงบ่งบอกความไร้เยื่อใย
"แต่ยูกิโนะเรียกหาคุณนะคะ"
"อื้อ ก็บอกแล้วไงว่ามีนัดกับเพื่อน"
เสียงของเขาฟังดูหงุดหงิดอย่างควบคุมไม่อยู่ ต่อว่าฉันอีกสองสามคำก็ตัดสายไป ฉันอดน้ำตารื้นขึ้นมาไม่ได้ น้องของเขาเองทั้งคนยังไม่เหลียวแล คนใจร้าย ...ช่วยไม่ได้... ฉันโทรหาฮารุ หวังจะให้เขาเป็นที่พึ่งสุดท้ายแม้จะพอรู้อยู่เต็มอกว่าคงหวังอะไรไม่ได้...
ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะเอ็นโจโคตรเลวเลยนะเว้ย 5555555
>>445 ทำไมเหมือนภรรยาหลวงที่แต่งงานกันมานานบอกสามีว่าลูกป่วยนะ กลับมาดูแลลูกหน่อย แต่สามีแม่งโนสนโนแคร์ กูจะไปหาอีหนูเอ๊าะๆที่กูเลี้ยงไว้ว้อย 55555555
เอาเข้าจริงกูว่าไม่ใช่หรอก เอ็นโจรักยูกิโนะออกนะ ไม่ใช่อะไรคอขาดบาดตายแบบตอนมาซายะไปทัวร์ฆ่าตัวตายแบบนั้นคงไม่ทิ้งน้องไปไหนหรอก ตอนหอบกำเริบแล้วเรย์กะแบกไปส่งห้องพยาบาล หลังอาจารย์แจ้งไปฮีก็รีบวิ่งมาเลย คงไม่ออกมาแนวนี้แน่ๆ ให้กูเดา กูว่ายุยโกะนางน่าจะชวนชูไปไหนมากกว่า ซึ่งชูแม่งคงรำคาญมากจนหนี ไม่มีธุระจริงๆก็โกหก ไม่อยากไป ถึงขั้นเลือกว่าไปไหนก็ได้ที่ไม่ต้องไปกับยุยโกะแน่ๆ ชักสงสัยว่าตอนอยู่สองคนยุยโกะทำตัวยังไงนี่ หรือฮีต้องรองรับอารมณ์ยุยโกะตลอดจนเบื่อก็ไม่รู้ ฮึ้ยยย ปริศนาเยอะจริงๆนะชูสุมอย
กูว่าปากพาซวยทั้งคู่ เรย์กะเนี่ยมีอะไรก็ชิงปฏิเสธไว้ก่อนเลย ไม่เอาไม่ไปตลอด เอ็นโจก็โกรธจนขาดสติอีกแล้ว วางเหยื่อล่อแต่โดนเมิน แถมยังไปแนะนำคนอื่นอีก งั้นก็ไม่ต้องไปแม่งละกัน ศึกนี้กูว่าเสมอกันว่ะ ต่างคนต่างหักธงกันและกันถือว่าสมน้ำสมเนื้อ 555555555
แต่กูยังมองว่าเอ็นโจล่มเรืออยู่นะ ถ้าเป็นฝ่ายชวนให้ "ไปต่อกันเลยไหม" อ่ะ รู้ๆ อยู่ว่าท่านเรย์กะติดเรียนต่อเลยไปไม่ได้แล้วทิ้งขว้างกันกลางคัน ถถถถถ
>>455 คนที่ชวนให้ไปต่อกันเลยนี่คาบุรากิครับ
ท่านเรย์กะอยากไปแต่กลัวเสียฟอร์ม เลยใช้วิธียั่วให้คาบุรากิอยากไป จะได้นัดไปวันหลัง ตัวเองจะได้เนียนตามไปด้วยได้
แต่คาบุดันใจร้อนอยากไปวันนี้เลย ท่านเรย์กะเลยอดไปด้วยอยู่ดี เอ็นโจยังซ้ำเติมอีกว่า "คุณคิโชวอินไม่ชอบกาแฟสินะ"
>>456 อ้าว คนชวนไม่ใช่เอ็นโจเหรอ กูเข้าใจว่าพอมาซายะเรียก ชูสุเกะเลยบอกว่างั้นไปกันเลยมั้ย
กูว่าจริงๆที่ฮีชวนไปร้านกาแฟก็เพราะต้องการอยู่นอกบ้านให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ว่ะ กลับไปอาจจะเจอพ่อหรือแม่เรียกไปด่าก็ได้ที่ไปปฏิเสธยุยโกะ บางทียุยโกะอาจจะดักรออยู่ที่บ้านแล้วด้วยซ้ำ แถมไปกับมาซายะสองคนก็ได้ปรับทุกข์ในเรื่องนี้อีก มาซายะก็คงรู้บวกกับตัวเองคิดไวทำไว พอเรย์กะบอกว่าวาคาบะอาจจะชอบ ก็ไปเซอร์เวย์สถานที่ไว้ก่อน จะได้พาวาคาบะมาก็เลยตกลงทันที ส่วนเรย์กะที่ติดเรียนพิเศษไปกับฮีไม่ได้ก็หันมาทำหน้าเสียดายอีก ไม่งั้นคงดักหน้าดักหลังให้ไปด้วยเหมือนทุกครั้งแล้ว
พอเป็นเรื่องยุยโกะแล้วฮีกันไม่ให้เรย์กะเข้ามาเกี่ยวหรือมารับรู้ตลอดอะ อย่างตอนงานโรงเรียนก็รีบพากลับทันที ตอนบอกยูกิโนะมีคนมารอก็พูดแบบประโยคบอกเล่าทั่วไป ให้เรย์กะไปรู้เองว่าเมื่อวานยุยโกะมารอ ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆแบบงานซากุระถึงค่อยพูด บอกไปในโทรศัพท์ว่าไม่ไป มีนัดกับเพื่อนก็ไม่ได้พูดชื่อขึ้นมาแถมรีบวางสายต่อหน้าเรย์กะด้วย ตลอดเวลาที่ผ่านมาฮีไม่เคยรับสายยุยโกะต่อหน้าเรย์กะซักครั้ง กูว่าสองคนนี้มีซัมติงบางสิ่งที่เอ็นโจไม่อยากให้เรย์กะมารู้เรื่องว่ะ อาจจะเป็นเรื่องใหญ่มากเลยด้วย วู้!! เมื่อไหร่จะเฉลยกันหว่า อยากรู้จะแย่อยู่ละ ทำตัวลึกลับขนาดนี้แม่งต้องพีคแหงๆ
กูอ่านตอนวาคาบะเปิดตัวความเป็นเพื่อนของเรย์กะแล้วชอบมาก เลยขอแต่งฟิตจอมมาร VS ธิดามาร
................................................................................................................................................................
กาแฟของร้าน Rúnda ที่มาเปิดใหม่อร่อยดีนะ แถมวันนี้มีเมนูพิเศษด้วย ปล. คุณลืมของไว้ อย่าลืมมาเอาล่ะ
ผมจ้องดูกระดาษที่พิมพ์ข้อความไม่กี่บรรทัดที่วางไว้ตรงทางเดินไปยังลานจอดรถที่ผมผ่านประจำ ปกติผมคงเดินผ่านไปไม่สนใจกระดาษแผ่นนี้หรอกถ้าไม่มีช่อดอกกุหลาบพันปีสีชมพู (Rhododendron) วางทับไว้ แถมข้างหลังกระดาษมีแปะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กซึ่งผมรู้ดีมันคืออะไร
“ยูกิโนะ วันนี้พี่ขอแวะไปทำธุระหน่อยนะกลับบ้านไปก่อนเลย” ผมบอกกับยูกิโนะที่จ้องมายังดอกไม้กับกระดาษในมือของผม สายตาของน้องชายบ่งบอกว่ากำลังสนุกที่ความลับของผมโดนคนอื่นจับได้
“เข้าใจแล้วครับ อย่ากลับค่ำมากล่ะครับ ผมนะขี้เกียจพูดจาต่อล้อต่อเถียงเพื่อถ่วงเวลากับคนคนนั้นนะ” ยูกิโนะพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายก่อนเดินนำหน้าผมเข้าไปในรถ ผมเองก็เดินตามไปเช่นกัน
“ขอบใจนะ เดี๋ยวซื้อขนมมาฝาก” ยูกิโนะยิ้มพยักหน้าและรถก็วิ่งออกจากโรงเรียนไป
“คนที่วางช่อดอกกุหลาบพันปีไว้ให้ท่านพี่นี่ใจกล้าน่าดูเลยนะครับ”
“นั่นสินะ”
ปกตินักเรียนหญิงที่ชอบผมมักวางดอกไม้ที่มีความหมายเชิงความรักแต่การวางช่อกุหลาบพันปีที่มีความหมายว่า “จงระวังตัว” หรือ “ขอเตือนไว้” พร้อมมีอุปกรณ์ชิ้นเล็กแนบติดมาด้วย ถือว่าเป็นจดหมายเตือนแกมข่มขู่แบบว่า “ถ้าไม่รีบมาคุยกันเกี่ยวกับไอ้สิ่งนี้ มีเรื่องแน่เพราะชั้นเจออีกหลายชิ้นเลย” ถือว่าเป็นคนที่มีรสนิยมในระดับหนึ่งในการข่มขู่คนก็แล้วกันแต่ใจกล้ามาขู่ผมที่เป็นตระกูลใหญ่ต้องมีอิทธิพลในระดับหนึ่งด้วย ผมอยากรู้จริงๆ ว่าเป็นใคร เพราะอุปกรณ์ชิ้นนี้มันอยู่ในห้องๆ หนึ่ง ที่ผมสั่งให้คนแอบเอาไปวางไว้ ระหว่างคิดไปพลางๆ ผมก็ถึงจุดหมายแต่ผมสั่งให้คนขับรถส่งผมไปอีกที่หนึ่งที่เป็นจุดอับก่อนที่ผมจะลงจากรถโดยไม่ลืมหยิบช่อดอกไม้เจ้าปัญหา เดินลัดซอยเข้าทางข้างหลังร้าน Rúnda (รูนด้า) ที่เป็นคาเฟ่ผสมร้านอาหาร
ร้านคาเฟ่นี้พึ่งเปิดร้านได้ไม่กี่เดือนแต่ก็เป็นที่นิยมเพราะรสชาติของอาหารและเครื่องดื่ม บรรยากาศเงียบสงบ และชั้นสองเป็นห้องส่วนตัวไว้พูดคุยกันโดยราคาไม่แพงมากนัก แต่ตั้งไกลจากเมืองไปหน่อยทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงานที่มาคุยกันเงียบๆ หรือสั่งแบบกลับบ้าน เลยเป็นที่เหมาะสมให้กับนักเรียนซุยรันที่ไม่ต้องการเป็นจุดสนใจอย่างผมกับคนที่ผมจะไปเจอหน้า ผมมองหาคนที่ส่งช่อดอกกุหลาบพันปีมาโดยมองไปยังจุดที่น่าจะลับตาคน
“ขอโทษค่ะ คุณลูกค้าที่จองโต๊ะส่วนตัวทางชั้นสองไว้สินะคะ เชิญทางนี้ค่ะ”
อยู่ๆ พนักงานหญิงในร้านก็เชิญผมไปยังชั้นสองที่เป็นโซนห้องส่วนตัว ผมแปลกใจพอสมควรเพราะผมไม่ได้จองโต๊ะไว้แต่ผมก็เข้าใจทันทีเพราะพนักงานหญิงมองช่อดอกกุหลาบพันปีสีชมพูในมือของผม เจ้าคนส่งนี่สั่งพนักงานไว้สินะ ผมเดินตามพนักงานหญิงไปยังห้องสุดท้าย ผมหยุดยืนอยู่หน้าประตูก่อนเปิดเข้าไปในใจพลางคิดว่าเป็นใคร
ภายในห้องตกแต่งเรียบง่ายไม่ได้หรูเลิศแต่ดูดี มีเด็กสาวในชุดนักเรียนซุยรันนั่งอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งกำลังเล่นกับดอกกุหลาบพันปีสีชมพูเหมือนกับในมือของผมอย่างอารมณ์ดี ทำไมเธอถึงมาอยู่ตรงนี้?
“ทาคามิจิ วาคาบะ”
>>459 ต่อ
“ทาคามิจิ วาคาบะ”
“ค๊า---“
เจ้าตัวตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี ผิดกับผมที่มีความงุนงงอย่างขีดสุด ทาคามิจิกล่าวทักทายผมก่อนเชิญผมนั่งลงตรงเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามพลางถามผมว่าจะสั่งอะไรไหม? ที่นี่กาแฟอร่อยนะ แต่ผมไม่มีอารมณ์มาดื่มกาแฟตอนนี้หรอกนะ
“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?” ผมถามออกไปอย่างไม่คิด ก่อนมองมาที่ดอกกุหลาบพันปีสีชมพูที่อยู่บนโต๊ะ ทาคามิจิเป็นคนส่งกระดาษมาหรอหรือว่าเธอโดนข่มขู่เหมือนกับผม?
“การที่ท่านเอ็นโจมาที่นี่แสดงว่าของชิ้นนี้เป็นของคุณเอ็นโจจริงๆ ด้วยสินะคะ” ทาคามิจิพูดจบก็วางชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชิ้นเล็กๆ หลายๆชิ้นที่เหมือนกับของที่ผมได้รับพร้อมกับข้อความนั้น
“ไอ้เจ้าเครื่องดักฟังกับกล้องเข้มที่แอบติดไว้ที่ห้องสภานักเรียนกับห้องเรียนของชั้นน่ะ เผอิญชั้นไปเจอตอนเก็บเอกสารที่ห้องสภานักเรียนก็เลยหาไปเรื่อยๆ จนเจอเครื่องดักฟังกับกล้องรูเข็มหลายชิ้น เข้าใจติดในกรอบรูปนะคะแต่น่าจะเลือกบริเวณดีๆ หน่อย กรอบรูปที่ติดดันสะอาดแต่รูปข้างๆมีฝุ่นจับ ชั้นที่จะเข้าไปทำความสะอาดตรงนั้นก็รู้แล้วล่ะค่ะว่ามันผิดปกติ” ทาคามิจิกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่กดดันผู้ฟังที่กระทำความผิดได้ดีทีเดียว
“งั้นเธอก็เป็นคนส่งข้อความกับดอกไม้นี้มาสินะ ไม่คิดว่าเป็นคนอื่นมั่งหรอ? บางทีผมเห็นว่าเป็นเรื่องน่าสนุกเลยมาดูก็ได้” ผมถามพร้อมส่งรอยยิ้มกลับไปแต่ทาคามิจิก็หัวเราะเบาๆ
“ตอนแรกก็ไม่ได้สงสัยคุณเอ็นโจหรอกค่ะ คิดว่าเป็นพวกที่ไม่พอใจสภานักเรียนหรือตัวชั้นด้วยซ้ำว่าคิดดักฟังข้อมูลไปข่มขู่พวกชั้นหรือเปล่า? และถ้าไม่ใช่ของคุณเอ็นโจคงไม่สนใจด้วยซ้ำเพราะพื้นฐานของคุณคือไม่อยากยุ่งเรื่องวุ่นวายชาวบ้านที่ไม่มีผลประโยชน์กับตัวเอง อ่ะ..คุณเอ็นโจลองกินโกโก้มิลล์ของร้านนี้ไหมคะเค้าว่าอร่อยนะแถมกินโกโก้ทำให้อารมณ์ดีขึ้นนะ” ทาคามิจิตอบกลับอย่างร่าเริงพลางเอามือชี้ไปที่มุมปาก ผมเห็นใบหน้าตัวเองที่หยุดยิ้มอย่างไม่รู้ตัวตรงกระจกที่ประดับอยู่ในห้อง พลาดซะแล้วสิ
“เธอต้องการอะไรกันแน่?” ดูท่าจะต่อปากต่อคำหรือเปลี่ยนเรื่องก็คงไม่มีปะโยชน์อะไรต่อหน้าทาคามิจิที่ดูจะรู้เรื่องราวของผมมาระดับหนึ่งสู้พูดกันตรงๆ ถามจุดประสงค์กันเลยดีกว่าซึ่งฝ่ายตรงข้ามเองก็คิดเช่นกัน
“นั้นต้องเป็นคำพูดของชั้นมากกว่าค่ะ คุณต้องการอะไรกันแน่? ไม่สิ....” หล่อนเว้นวรรคหายใจก่อนพูดด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น “คุณต้องการอะไรจากคุณคิโชอิน เรย์กะกันแน่?”
“...........”
“ฉันเป็นคนธรรมดาไม่เข้าใจความคิดพวกตระกูลใหญ่ๆแบบคุณหรอกค่ะ แต่คุณต้องการข่มขู่คุณคิโชอินที่แอบติดต่อสภานักเรียนที่เป็นศัตรูของ Pivoine เพื่อให้เธอทำตามคำขอของคุณเพื่อประโยชน์ของตัวคุณเองหรือคะ? โดยใช้ของพวกนี้เป็นการแบล็คเมล์เธอ”
“...........”
“ข่มขู่ว่าเธอเป็นสปายสินะ ให้คุณคิโชอินหวาดกลัว ให้คิดว่าทุกคนต้องทอดทิ้งเธอเพราะเธอเป็นคนทรยศทั้งที่จริงที่คุณคิโชอินติดต่อกับสภานักเรียนเพื่อช่วยลดการบาดหมางระหว่าง Pivoine กับนักเรียนกลุ่มนอกและช่วยเพื่อนๆ ของเธอด้วย ถึงความแตกว่าคุณคิโชอินเป็นสปายก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” ทาคามิจิพูดมาด้วยสีหน้าและรอยยิ้มที่มั่นใจ
“เพราะฉันจะอยู่เคียงข้างคุณคิโชอินและไม่ให้เธอเสียใจอยู่เพียงผู้เดียวเด็ดขาด”
เมื่อทาคามิจิพูดประโยคนั้นออกมา ประโยคที่ผมอยากพูดกับเธอคนนั้นมาตลอด มือของผมก็ขย้ำดอกกุหลาบพันปีที่อยู่ในมืออย่างไม่รู้ตัว
.................................................................................................................
เอาไว้ต่อตอนฟิตนี้แต่งจบก็แล้วกัน น่ะนับถือคนแต่งฟิตคนอื่นจริงๆ พิมพ์แค่นี้ปาไป 3 - 4 ชั่วโมงเลย จนกาวหมดกระป๋องแล้วเนี่ย
ปรากฏว่าอุปกรณ์ดักฟังในนั้นมีอันที่ไม่ใช่ของเอ็นโจด้วย แถมยังกำลังทำงานอยู่อีก
แล้วเทพมารก็หัวเราะหึอยู่เบื้องหลัง ตีกันให้ล่มกันทั้งสองฝ่ายไปเลยซะ!!
>>459 >>461
“เพราะฉันจะอยู่เคียงข้างคุณคิโชอินและไม่ให้เธอเสียใจอยู่เพียงผู้เดียวเด็ดขาด” อะ..... ออร่าพระเอกนี่มันอะไรกัน ช่างเจิดจ้าเหลือเกิน
โดนคอมโบวาคาบะจังรัวๆต่อจากแปลไทยเลยที่เดียว สู้ๆนะโม่งฟิคกูนี่ปูเสื่อรอตอนต่อเลย
>>465 แหม ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนะท่านพี่ แต่เอาจริงท่านพี่อาจจะระดับพระกาฬกว่านั้นติดในที่ที่ใครๆก็หาไม่เจอก็ได้นะ 5555
กูมาต่อให้จบบทแรกเดี๋ยวกูนอนไม่หลับ ใจมันกระสับกระส่าย
ต่อจาก >>459 >>461
.........................................................................................................................
“คุณทาคามิจิโปรดเข้าใจไว้สักเรื่อง” ผมหยุดเว้นวรรคและเน้นเสียงจริงจัง
“ผมไม่มีวันทำร้ายคุณคิโชอิน ผมไม่มีวันทำให้เธอเสียใจ” ผมไม่รู้ว่าหน้าตาของผมตอนพูดประโยคนี้เป็นยังไง แต่ก็ทำให้ทาคามิจิตะลึงไม่น้อยก่อนเธอจะถอนหายใจแบบโล่งอก
“อ่า...นั้นสินะคะรู้สึกว่าพูดเกินไปหน่อยต้องขอโทษคุณเอ็นโจจริงๆ ค่ะ”
แต่สีหน้าเธอไม่มีเค้าโครงรู้สึกผิดเลยนะ ทาคามิจิ เอาเห๊อะ...ผมรู้มาว่าคุณคิโชอินกับทาคามิจิสนิทสนมกันพอสมควรการที่ทาคามิจิจะพูดแรงใส่ผมแบบนี้เพราะเธอต้องการปกป้องคุณคิโชอินที่เป็นเพื่อนของเธอ แล้วไอ้คำพูดว่า “จะไม่ให้เธอเสียใจ” นั่น ทาคามิจิคงรู้ว่าผมคงแอบฟังตอนที่เปิดเผยความเป็นเพื่อนกับคุณคิโชอินกับอิโคมะที่เป็นคนร้ายที่ขีดเขียนโต๊ะของเธอ ก็เลยเอาคำนี้มาพูดกับผมเพื่อประกาศว่า”คุณคิโชอินอย่าเป็นฝ่ายปกป้องอยู่ฝ่ายเดียวชั้นจะปกป้องคุณด้วย” กับเตือนผมว่า “ถ้าเห็นคุณคิโชอินเป็นคนสำคัญก็อย่าทำให้เธอเสียใจ เพราะถ้าทำให้เธอเสียใจเค้าจะยิ่งสนิทกับชั้นนะ” คุณอิโคมะผมเริ่มเข้าใจผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกของคุณแล้วล่ะ ส่วนมาซายะนายจะรู้นิสัยด้านมืดของคนที่ชอบหรือเปล่าเนี่ย? ถ้ารู้แล้วยังจะชอบลงหรือเปล่า?
“หืม?...แล้วเธอจะเอาเรื่องนี้ไปป่าวประกาศหรือไง?” ผมถามกลับไป ทิ้งหน้ากากสุภาพบุรุษเสียยังไงซะคนตรงหน้าก็รู้เรื่องนิสัยของผมอยู่แล้ว ก็เป็นพวกผีเห็นผีนี่นะยิ่งพวกแบบเดียวกันโชว์นิสัยและความจุดประสงค์ของแต่ละคนทีเดียว ไม่ต้องมากความ
“อืม...ใจจริงก็อยากทำแบบนั้นอยู่นะคะ แต่วิธีนั้นมันคงไม่ได้ผลเท่าไหร่ คุณคงเฉไฉรอดตัวได้เป็นปกติแหล่ะค่ะ ”
นั่นแหล่ะถึงเธอประกาศออกไปใครจะเชื่อเธอกัน เพราะตัวเธอมีศัตรูมากมายแถมผมอาจเอาเป็นข้ออ้างในการเอาตัวรอดได้อีกด้วย
“ที่สำคัญมีภาพที่คุณคิโชอินติดต่อกับพวกชั้นด้วย ถึงคุณจะรอดแต่คุณคิโชอินไม่รอดนะคะ ชั้นไม่ยอมให้คุณคิโชอินเจ็บปวดเพราะของเหล่านี้หรอกค่ะ คุณเอ็นโจก็ว่าแบบนั้นใช่ไหมคะ?”
....ที่พูดมาแบบนี้ยังกะกล่าวหาว่าผมติดของพวกนี้มีแต่ทำร้ายคุณคิโชอินหรือไง ยิ่งมองหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มแต่แววตาเต็มไปด้วยการคุกคามแบบนี้ตีความได้อย่างเดียวเลย “ให้เอากล้องกับเครื่องดักฟังออกไปซะเหลือพื้นที่ส่วนตัวให้คุณคิโชอินบ้าง” ตั้งใจจะบอกแบบนี้ใช่ไหมทาคามิจิ คนหวงเพื่อนนี่น่ากลัวดีนะ
“ชั้นพอรู้ค่ะ ว่าผู้ชายคลั่งรักมักทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนที่รักแต่การกระทำบางอย่างมันเข้าข่ายอาชญากรรม ขอให้เลิกซะนะคะ หวังว่าคงไม่ได้คลั่งจนติดกล้องไว้ที่ห้องน้ำกับห้องเปลี่ยนเสื้อของคุณคิโชอินนะ”
“ไม่ได้ติดไว้ที่นั่นหรอกน่า วางใจได้” ผมดูเมนูเครื่องดื่มของทางร้านพลางคิดว่าเรื่องที่มาซายะแอบชอบเจ้าตัวคงรู้แล้ว เพราะคำพูดเมื่อกี๊มันแซะทั้งผมและมาซายะเลยนี่ไอ้คำว่าผู้ชายคลั่งรักนะ แต่เธอรู้เรื่องความรู้สึกผมต่อคุณคิโชอินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ตอนที่ผมพูดประโยคว่าไม่มีวันทำร้ายคุณคิโชอิน
“จะวางใจกว่านี้ถ้าเอาออกให้หมดค่ะ”
“แค่ห้องสภานักเรียนกับห้องเรียนของเธอเท่านั้น”
“จะให้เรียกการกระทำนี้เป็นศัพท์ทางการหรือภาษาบ้านๆ ดีคะ?”
“เข้าใจแล้ว แต่ขอติดแบบการรักษาความปลอดภัยแบบปกติคือตามทางเดิน ตู้ล๊อคเกอร์ และทางหลังอาคารเรียน”
“อย่าส่งคนมาจับตามองเวลาคุณคิโชอินมาบ้านชั้นด้วยค่ะ”
“ขอปฏิเสธ ถือว่าเป็นการรักษาความปลอดภัยของคุณคิโชอินไปในตัว”
“แต่ทางบ้านของคุณคิโชอินก็ส่งคนมาแล้วนะคะ ทางคุณไม่จำเป็นต้องส่งมาหรอกค่ะ”
“หืม...คุณพี่ชายก็รู้เรื่องนี้แล้วสินะ”
>>468 ต่อ
“ขอโทษค่ะ ของที่สั่งไว้ได้แล้วค่ะ” พนักงานหญิงของร้านเคาะประตูและขออนุญาตยกเครื่องดื่มกับของว่างที่สั่งไว้มาวางบนโต๊ะ ลาเต้อาร์ต 2 ถ้วย ที่ทำเป็นรูปใยแมงมุม กับสโตรปวาเฟล (Stroop wafel) และมาการูน (Macaroon) การสนทนาข้างบนจึงหยุดชะงักไป
“ลาเต้ที่นี่รสชาติดีนะคะ แถมลาเต้อาร์ตสามารถสั่งว่าจะเอารูปไหนได้ด้วย ส่วนสโตรปวาเฟลกับมาการูน เป็นของขึ้นชื่อของร้านค่ะ อ่ะ..ฉันแนะนำให้ทานสโตรปวาเฟลคู่กับอเมริกาโน่นะคะรสชาติกลมกล่อมใช้ได้ทีเดียว” ทาคามิจิพลางเลื่อนแก้วกาแฟ 1 แก้วและขนมมาทางผม ส่วนทาคามิจิหยิบอีกถ้วยก่อนจิบฟองนมออก ก่อนเอาสโตรปวาเฟลวางไว้บนปากแก้วเพื่อให้ไอร้อนกาแฟทำให้ขนมนิ่มและอุ่นนั้นเอง ส่วนผมจ้องลาเต้อาร์ตที่เป็นรูปใยแมงมุมอย่างไม่ไว้ใจนี่จะแซะเรื่องไหนอีกล่ะจะว่าผมเป็นพวกชั่วร้ายคอยดักข่าวสารคุณคิโชอินเหมือนแมงมุมพ่นใยเครือข่ายหรือไง ทาคามิจิมองผมอย่างขำขัน
“สงสัยเรื่องไหนหรอค่ะ? ระหว่างความนัยในลาเต้อาร์ตหรือความรู้สึกของคุณเอ็นโจที่มีต่อคุณคิโชอินว่าชั้นรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ผมนิ่งไม่ตอบอะไรแต่มองทาคามิจิด้วยความหงุดหงิดว่าถ้ารู้เรื่องที่ผมจะถามแล้วก็ตอบมาให้หมดนั่นแหล่ะ
“คำตอบมันก็อยู่ในลาเต้อาร์ตนั่นแหล่ะค่ะ คำตอบของคำถามแรกคุณน่าจะรู้ แต่คำตอบของคำถามที่สองนั้นถ้ายังงงล่ะก็คงตั้งแต่เจ้ากระต่ายน้อยลาเต้อาร์ตโดนชงซะไร้ความปราณีแล้วคุณเอ็นโจทำสายตายังกะโลกนี้แตกสลายละค่ะ ยิ่งแน่ใจอีกตอนคุณตอบชั้นว่าไม่มีวันทำร้ายคุณคิโชอินสีหน้าของคุณตอนนั้นสมเป็นลูกผู้ชายดีนะคะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” ว่าแล้วทาคามิจิก็กินสโตรปวาเฟลจิบกาแฟตามลงไปด้วยสีหน้าระรื่นขณะที่ผมหงุดหงิดกับความยียวนของเธอ
มาซายะผมอยากจะถามนายอีกครั้ง ถ้ารู้นิสัยของทาคามิจินายยังจะชอบอยู่ไหมเนี่ย ถ้ารู้เรื่องความรู้สึกของผม ความรู้สึกของมาซายะก็ไม่ต่างกันผมถามเพื่อความแน่ใจเลยดีกว่า อีกอย่างถ้าเป็นเรื่องจริงผมคงได้เอาคืนมั่งล่ะ
“หืม? ถ้าเธอพูดแบบนี้ได้แสดงว่าความรู้สึกของมาซายะที่มีต่อเธอคงรู้แล้วสินะ...” ได้ผลความระรื่นบนสีหน้าของเธอหายไปทันทีมีสีแดงจางระเรือบนหูของเธอ เอาเป็นว่าจริงแท้แน่นอนเธอรู้และเธอเองก็เริ่มรู้สึกดีต่อมาซายะล่ะนะ ถึงทั้งคู่จะใจตรงกันแต่คนรอบข้างไม่ยอมแถมสถานะทางสังคมต่างกันอีกก็เป็นอุปสรรคใหญ่น่าดูแหล่ะ
“ชั้นรู้ค่ะ แต่คนอย่างชั้นไม่คู่ควรกับคาบุรากิคุงหรอกค่ะ ไม่ว่าทั้งฐานะและสภาพทางสังคมด้วย”
ก็รู้ตัวถึงเรื่องนี้ดีนี่
“เพราะคาบุรากิคุงคงจะได้หมั้นหมายกับหญิงสาวที่เหมาะสมทั้งฐานะและสภาพทางสังคมที่เหมาะสมกับตระกูลคาบุรากิแหล่ะค่ะ อย่างนั้นใช่คะ คุณเอ็นโจ?”
.......และตระกูลที่เหมาะสมที่ว่าก็คือตระกูลคิโชอินที่มีข่าวว่าลูกสาวของตระกูลมีความสนิทสนมกับลูกชายของตระกูลคาบุรากิ “คิโชอิน เรย์กะ” ถ้าเป็นแบบนั้นชั้นก็เข้าใจค่ะ ถ้าเป็นเพื่อนของชั้น....ชั้นยินดีค่ะ....
และเป็นอีกครั้งที่ดอกกุหลาบพันปีโดนขย้ำจนกลีบช้ำไร้ความสวยงามดังเดิม
...................................................................................................................................
จบตอนแรกล่ะ นอนหลับสบายแล้ว จอมมารจะทำเช่นไรเมื่อโดนธิดามารลูบคมซะขนาดนี้
ขอบคุณสำหรับฟิคฮ่าห์ กูฮาที่บ้านคุณคิโชวอินก็ส่งคนมาจับตามองนี่แหละ อะไรมันจะแบ่งสรรปันส่วน มะรุมมะตุ้มรักเรย์กะกันขนาดนั้น 5555
มายืนยันอีกเสียงว่าเป็นตามที่ >>457 คิดนะ คือดูประโยคญี่ปุ่นแล้วค่อนข้างมั่นใจว่าคนที่บอกว่าไปต่อกันเลยไหมคือเอ็นโจว่ะ
「じゃあこの後で行く?」ถ้าเป็นคาบุพูด ประโยคนี้น่าจะตามต่อด้วย か ซึ่งจะทำให้ประโยคดูแมนๆ ขึ้น ส่วนประโยคตามที่ว่า นั่นสินะ
「そうだな」ไอ้การลงท้ายด้วย な (นะ) ก็เป็นสไตล์คาบุอ่ะ ถ้าเอ็นโจพูดจะเป็น そうだね นั่นสิเนอะ ซึ่งทำให้ดูซอฟต์ๆ กว่า เพราะงี้แหละกูเลยว่าฮีจมเรือตัวเอง เพราะเล่นตีปิดทางเองนี่หว่า =*=
เรือคาราบุกิวิ่งฉิวววว เข้าทะเลเฟรนโซน คู่กับเรืออาริมะ
เรือเอ็นโจเกือบแล้วๆ เจ้าของดันระเบิดตัวเองไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ
มีแต่เรือวาคาบะที่ลอยละล่องเข้าทะเลยูริอย่างสวยงาม
วาคาบะนอนรอแบบเหงาๆคนเดียวที่เส้นชัยจนหยากไย่ขึ้นหมดแล้ว เหลือแค่ใช้เล็บนิ้วก้อยแตะริบบิ้นเส้นชัยก็เข้าวิน แต่ที่ยังไม่แตะก็เพราะเรื่องนี้ยังไม่จบนั่นเอง ก็นอนรอกันไปก่อนนะ
ถ้าเรื่องนี้มีแท็กยูริเพิ่มอย่างเป็นทางการคงเห็นแววชนะลอยมาแต่ไกล อุปสรรคที่เหลือคือทำให้บ้านคิโชวอินยอมรับความแตกต่างของชนชั้นได้เท่านั้นเอ๊ง
ถึงแปลไทยตอนล่าสุด ถ้าให้ท่านพี่เลือก ท่านน่าจะเลือกวาคาบะมากกว่าจอมมาร
เพราะเรย์กะอยู่กีบวาคาบะแล้วมีความสุข ส่วนอยู่กับเอ็นโจแล้วเครียด
ผลประโยชน์ที่ซิสค่อนมอง=ความสุขของน้องสาว
วาคาบะแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ แค่ทำงานบ้านงานเรือนได้ก็ผ่านแล้ว แถมถ้าแต่งวาคาบะเข้า ท่านเรย์กะก็ไม่ต้องออกไปอยู่บ้านอื่นด้วย
แค่นี้ก็นำโด่งแล้ว ทานุกิท่านแม่ท่านพี่คนรับใช้ยินดีต้อนรับแน่นอน
อ่านคอมเมนต์ในแมวดุ้นแล้วรู้สึกสงครามกองเรือทางโน้นชักเริ่มร้อนแรงจังแฮะ
>>486 ดุเดือดมาก...
สงครามร้อนจนกูสงสัยว่ากูอ่านเรื่องเดียวกันอยู่มั้ยนะ ตั้งแต่เมื่อวานละ กูอ่านละก็เฉยๆ ไม่ได้รู้สึกว่ามีเรือวิ่งเรือล่มอะไร ดำเนินเรื่องและหักจบตอนแบบนี้มันก็เป็นปกติของเรื่องนี้อยู่แล้วนี่หว่า หรือเพราะกูไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้วนะ.... นี่กูชินชาหมู่บ้านคานทองของท่านเรย์กะไปแล้วหรือไงกันนะ 5555555
>>487 มึงชินชาไปแล้วว่ะ..........กูก็ด้วย
คาบุก็ KY ตลอดศก
เอ็นโจก็หักธงต่อเนื่อง
อาริมะก็มาสายแม่บ้าน
ที่ออกมาพอให้ฉ่ำใจก็มีเทวดาน้อยกับคันตะ
ที่ผิดคาดสุดๆ คงเป็นวาคาบะล่ะนะ แม่งแต่ละดอกอย่างพีค ถ้าไม่ติดว่าเพศเดียวกันคงตกร่องปล่องชิ้นได้เสียเป็นเมียผัวกันไปนานแล้ว
ก้าวหน้าเห้ๆ
>>487 กูก็เฉยๆนะ คือมันก็ปกติแบบนี้อะ หรือเพราะกูชินก็ไม่รู้ดิ อาจจะมีบ่นๆว่ามึงเอาอีกแล้วนะเอ็นโจ ไม่รู้จักคว้าโอกาส แต่ก็ไม่ได้โกรธแค้นขุ่นเคืองที่เอ็นโจหักธงอะไรขนาดนั้น สงสัยคนในนี้จะยอมรับคานซังเป็นพระเอกกันหมดแล้ว เลยดูชิลกว่า อยากทำอะไรก็ทำเล้ย เอาเลยตามสบาย 5555555555555
กูคิดว่ามันเป็นวันๆของท่านเรย์กะอะ เรือก็ลอยเนิบๆของมันไป มีลมมาหน่อยก็พัดให้เรือเคลื่อนที่ ปักธงและหักธงกันตามปกติ เรย์กะพูดไม่คิดก่อน เอ็นโจบ้าจี้ตาม คาบุ ky ได้เอาคืนคนละดอกสองดอกเจ็บทั้งคู่ถือว่าเสมอตัว แต่เห็นเมนท์นึงบอกเอ็นโจน่ารังเกียจกูก็ตกใจอยู่นะ ขนาดนั้นเลยเหรอวะ สำหรับกูอีตานี่มันน่าหมั่นไส้น่ากระทืบให้หายเก๊กวางฟอร์มอะนะ แต่ก็ไม่ได้จะขัดอะไรหรอกเพราะคิดยังไงมันก็สิทธิ์ของเขา
แต่กูลั่นหลายเมนท์ชิบหาย บางอันนี่โครตฮาเลย อ่านเมนท์พวกนี้แล้วไม่ซีเรียสดี กูชอบขาประจำคนนึงเวลามาเมนท์ แม่งฮาทุกรอบเลย 555555
กุอ่ะไม่ค่อยชอบเอนโจเพราะว่านางชอบแบลคเมล์เรย์กะ ดูไล่ต้อนกับบีบให้เรย์กะจนมุมอยู่ตลอด มันชักจะแกล้งเยอะมากจนไม่สนุกแล้วอ่ะ เอนโจออกมาทีกุนี่เครียดตามเรย์กะเลยว่าจะมาไล่ต้อน ถากถางอะไรอีกไหมว้าาาา นี่ยังไม่นับเรื่องตาไก่โง่นะ ตัวเองก็เห็นกับตาอ่ะแต่ไม่เคยห้ามหรือตำหนิที่ไปทำกับเรย์กะแบบนั้นเลย แต่ก็ยอมรับนะว่าลุคนางดูดีอ่ะ แต่ถ้ายังทำแบบนี้ต่อไปแล้วได้คู่กับเรย์กะ กุสงสารนางว่ะ คงผมขาว คิ้วร่วงอีกอ่ะ.....ระเบิดตัวเองตายอย่างสงบ
ชินชา..... กูชินชามาก ใครจะหักธงระเบิดเรืออะไรก็ทำไปกูไม่สะเทือนหรอกเว้ย จิตใจน้อยๆ ของกูได้ผ่านคลื่นลมมรสุมมามากมายจนบอบช้ำ ณ จุดจุดนี้มันทำให้กูยืนหยัดอยู่เคียงข้างคานซังได้อย่างแข็งแกร่งมั่นคงแล้ว
หึ... อะไรกัน ทำไมเหงื่อถึงไหลออกจากหางตากันนะ //ปาด
กุขอแค่เรย์กะลงจากคานได้กุก็ตื้นตันใจแล้ว
กูอยู่เรือคาน สบายมากๆ ที่กว้างขวางให้นอนกลิ้ง ครบครันด้วยเครื่องอำนวยความสะดวก มาเป็นสมาชิกกับเราสิคะ รับคานไปฟรีๆให้ไปนอนกอดที่บ้าน
>>497 เรื่องตาไก่โง่ จริงๆอาจจะมีประเด็นบางอย่าง ทำให้เอ็นโจปฏิเสธหรือดุหมอนี่ตรงๆเพื่อปกป้องเรย์กะไม่ได้ก็ได้นะ เช่น ทำแล้วอาจจะมีผลเสียตามมา แต่เอ็นโจเป็นตัวละครที่เราไม่เคยรู้ปัญหาของหมอนี่เลย ชอบโผล่มาทำหน้ายิ้มๆ เลยบอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงไมปกป้องเรย์กะจากตาได่โง่กันนะ
หมอนี่น่าจะแคร์ท่านเรย์กะแน่ๆ จากตอนที่ขู่ซึรุฮานะกับตอนที่จิตตกจนคะแนนหล่นมาที่4 ถ้าไม่แคร์จริงคะแนนก็ไม่น่าร่วง ไม่มีเหตุผลอื่นที่อธิบายได้ด้วย
ส่วนเรื่องชอบแบล็คเมล์ น่าจะเพราะหมอนี่มันไก่อ่อนจีบสาวไม่เป็น จะเข้าหาก็โดนเรย์กะหนีตลอด พอลองข่มขู่ดูสาวเจ้าจำใจยอมมาด้วยเลยใช้แต่วิธีนี้ตลอด ทั้งที่ใช้แล้วสาวเจ้าก็เครียด ตัวเองก็เสียใจเหมือนกัน
นิสัยขี้ระแวงคิดมากของเรย์กะพอมาเจอมาดจอมเจ้าเล่แบล็คเมล์ของเอ็นโจเลยเจ็บทั้ง2ฝ่าย จุดนี้จะแตกต่างชัดเจนกับวาคาบะ วาคาบะรู้หลายๆเรื่องแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้เพื่อความสบายใจของเรย์กะ ส่วนเอ็นโจดันเอามาเป็นจุดข่มขู่เพื่อให้ได้คุยกับเรย์กะ คะแนนความชอบของเรย์กะกับแฟนที่อ่านนิยายจะติดลบก็ไม่แปลก
กรั่กๆๆๆ กูยังเชียร์อยู่นะ และกูก็เฉยๆกับตอนล่าสุด ไม่ได้สร้างธงหรือหักธงล่มเรืออะไร กูมองเป็นเรื่องปกติไปแล้วว่ะสำหรับสองคนนี้ เรย์กะเองก็ใช่จะไร้พิษสงให้เขารังแกอยู่ฝ่ายเดียวซะเมื่อไหร่ เวลานางทำร้ายจิตใจเขานางก็ไม่รู้สึกผิดอะไรเหมือนกัน แถมเวลาช่วยหรือทำอะไรให้
คำขอบคุณก็ไม่เคยมี ไม่เคยคิดจะขอบคุณอีกต่างหาก
กูว่าบางเมนท์ทั้งในแมวดุ้นและในนี้ก็เข้าข้างเรย์กะเกิ๊น นางก็น่ารัก เด๋อด๋า เอ๋อๆ เห็นแก่กินแบบที่เห็นกันมาตลอดกูไม่เถียง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียหรือนิสัยแย่ๆนะ อย่างเรื่องโดนลากไปนั่นมานี่กับคาบุแล้วคะแนนตก กูว่านางก็ทำตัวเองด้วยเหมือนกันนะ อย่างเอาเวลาไปหัวเราะคิดฟุ้งซ่านเป็นชั่วโมงหรือมัวแต่มาร์คไฮไลท์จนอ่านไปไม่ถึงไหนเพราะไปโฟกัสแต่เรื่องทำให้สมุดออกมาสวยๆ จนไม่ได้ทบทวน จะโทษว่าเป็นความผิดไอ้สองหน่อนั่นทั้งหมดเลยที่ทำให้นางคะแนนไม่ดีกูว่าเกินไป กูว่าถึงคาบุไม่ลากไปไหนมาไหน นางก็ยังทำพฤติกรรมแบบนี้อยู่ดีว่ะ คะแนนมันก็เลยออกมาราวๆนั้นละน้า
เห็นคอมเม้นที่ว่าเอ็นโจฉลาดและมั่นใจในตัวเองแล้วชะงัก อืมม ในโม่งเรากาวกันว่าไอ้หมอนี่ไม่กล้าสารภาพรักคุณคิโชวอินซักที เพราะไม่มั่นใจเลยทำตัวเป็นหมาหยอกไก่ไปเรื่อยๆ แต่จริงๆแล้วอะไรทำให้เรากาวไปในทิศทางนั้นกันนะ อะไรทำให้เราคิดว่าหมอนี่ต้องเป็นพวก รักนะแต่ไม่กล้าบอก(แสดงออกเลยละกัน(?)) ส่วนคาบุที่พยายามเดินหน้าจีบวาคาบะจังอย่างเต็มที่ เมื่อไหร่จะสารภาพรักฟะ-*- กับท่านยูริเอะนี่เกือบสิบปี/หรือสิบกว่าปีไม่แน่ใจ แต่อะไรคือแฟคเตอร์ที่จะทำให้คาบุสารภาพรักวะสงสัย555555 ไม่นับว่าต้องตั้งใจวางแผนอย่างแน่นอน
>>507 ที่กาวกันว่าเอ็นโจไม่กล้าสารภาพรัก ทำตัวหมาหยอกไก่ คงเพราะเอ็นโจช่วยเรย์กะหลายครั้งลับหลัง แต่พอต่อหน้าท่านเรย์กะก็สวมบทจอมมารคอยกดดันข่มขู่ท่านเรย์กะล่ะมั้ง พฤติกรรมย้อนแย้งแบบนี้ เลยคิดว่าหมอนี่ไม่กล้าคุยดีดีกับสาวที่ตัวเองแอบชอบเพราะประหม่าจนทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่ต่อหน้ามั้ง
kyหน่อยนึงน้า มีใครคิดถึงนายบ้าหมาและเบียทันบ้าง เรือนี่หายไปเลย ไม่รู้เมื่อไรจะมีบท
ช่วงนี้โฟกัสอยู่ที่ตัวละครหลักของมังกะคิมิมั้งครับ หลังจากที่ทานเรย์กะลั่นล้าออกนอกเนื้อเรื่องหลักมานาน ตัวละครที่ไม่ใช่ตัวหลักในมังกะเลยบทหายยาว
กุว่า. เอ็นโจอยากไปร้านนี้กับเรยกะ 2 คนหว่ะ. ยิ่งรู้ว่าสาวเจ้าอยากไปอีก ไม่ยอมให้กลายเป็น ทริปเราสามคนอะไรแบบนี้มากกว่า. ติดฟิลเต้อหนามาก
>>506 กูก็คิดแบบมึง ท่านเรย์กะก็ไม่ได้กลัวเอ็นโจตลอด บางทีก็แซะแถมยังต่อปากต่อคำกลับได้เลย 55555
แล้วกูว่าท่านเรย์กะเป็นพวกอคติสูงปรี๊ดด้วย
อย่างตอนที่มีงานรร. คาเฟ่แกะดอลลี่ ไมฮามะแซะเรย์กะ เอ็นโจออกตัวปกป้องให้ทันทีเลยนะ เรย์กะยังไม่รู้สึกซาบซึ้งอะไร
แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยุยโกะทีไร เอ็นโจไม่เคยออกตัวแรงเลยว่ะ
กูก็ไม่ชอบเอ็นโจ รู้สึกหลายครั้งก็หยอกแรงเกิน กูถอนหายใจหลายครั้งอารมณ์อีกนิดเดียวทุกอย่างจะดีอยู่แล้วแท้ๆ
ถ้ากูเจอคนแบบนี้ในชีวิตจริงคะแนนกูติดลบ อยู่แล้วเหนื่อยแถมมีไก่โง่ที่เพิ่มดีกรีความน่ารำคาญอีก มีเรื่องคู่หมั้นที่ยังไม่ชัดเจนว่าเอาไงกันแน่ แถมเจ้าตัวไม่ชัดเจนทำหมาหยอกไก่ไปเรื่อยเหมือนจะจีบแต่ก็ถอย ถ้าเกิดไปรักเขาจริงๆจะแน่ใจได้ยังไงว่าเขาจะคบกับเรา ในเมื่อเจ้าตัวดูมีเรื่องที่ทุ่มเทให้มากกว่าอยู่ เช่นยุยโกะ ซึ่งถ้าตามที่คนคิดกันว่าน่าจะเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวเอ็นโจ ก็แสดงว่าถึงเวลาเข้าตาจนจริงๆเอ็นโจอาจทิ้งเรย์กะเพื่อครอบครัวก็ได้
แต่จากปฏิกิริยาหลายๆอย่างกูว่าเจ้าแม่ชอบเอ็นโจ ถ้าเกิดถึงจุดที่ปัญหาล้มทับเอ็นโจจริงๆแล้วเอ็นโจเปิดปากถึงปัญหา กูว่าเจ้าแม่พร้อมไฝว้เพื่อเอ็นโจ กลายเป็นเจ้าหญิงขี่ม้าขาวไปช่วยเจ้าชายแทน 555
เรื่องตาไก่โง่เนี่ย อย่าลืมว่าหมอนี่เสมือนเป็นสายสืบให้ยุยโกะนะ
เอ็นโจอาจจะมองแล้วก็ได้ว่าตาไก่โง่เป็นแค่มอนลูกกระจ๊อก ทำดาเมจจิ๊บจ๊อย ปล่อยไว้ไม่น่าเสียหาย แค่ก่อความรำคาญให้เรย์กะ
แต่ถ้าเอ็นโจออกหน้าปกป้องท่านเรย์กะต่อหน้าไก่โง่เมื่อไหร่ ไก่โง่อาจจะอัญเชิญบอสใหญ่มาก็ได้ คราวนี้เรย์กะอาจจะโดนโจมตีจนเลือดเกือบหมดหลอดเลย
เอ็นโจจึงตัดสินใจไม่ออกหน้าปกป้อง ยอมโดนเรย์กะมองไม่ดี เพื่อกันยุยโกะไม่ให้มายุ่งกับเรย์กะก็เป้นได้
เมื่อก่อนกูอวยเอ็นโจหนักมาก หลังๆเห็นมาขู่มาหยอกแรงๆกูเริ่มไม่ชอบหนักขึ้นเรื่อยๆ เอาจริงต้องอยู่กับคนที่ทำแบบนี้ใส่บ่อยๆมีใครชอบใจบ้างวะ เห็นทำแบบนี้ใส่เรย์กะบ่อยๆกูเลยรู้สึกไม่อยากเชียร์ มีตอนที่แอบช่วยลับหลังนี่แหละรั้งกูไว้ได้หน่อย เฮ้อ นึกถึงเม้นนึงในนี้เลยที่บอกว่าถ้าเป็นท่านพี่คงแทงเอ็นโจก่อนคนแรก แต่เอาจริงจะจบกับใครกูก็โอเคหมดแม้แต่คานซัง
ป.ล. กูรู้ว่าเรย์กะก็มีส่วนที่นิสัยเสียเยอะแต่ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องเอ็นโจมาทำข่มขู่ มาแบล็กเมล์ใส่เรย์กะบ่อยๆจนหลายคนเริ่มเอือมเริ่มไม่ชอบเอ็นโจเปล่าวะ นี่คือโอ๋ตรงไหนกูงง
จะว่าเข้าข้างเอ็นโจก็ได้นะ แต่กูว่ามันเป็นพัฒนาการตัวละครว่ะ จากเมื่อก่อนที่ยืนเป็นเสาไฟ เป็นวอลเปเปอร์ ก็เริ่มพูดกับแสดงตัวตนมากขึ้นละ ไอ้หนุ่มไก่อ่อนจีบสาวไม่เป็นไม่รู้จะเข้าหาสาวยังไง ก็ได้แต่ทำตัวฟายๆไป คุยกับเขาดีๆเขาไม่สน เลยต้องบังคับข่มขู่ กูว่าฮีเสียใจนะไม่ใช่ไม่เสียใจ แต่ในเวลานั้นฮีคงไม่รู้จะทำยังไงแล้วว่ะ จนกว่าจะจบเรื่องกูว่าเราคงได้เห็นการจีบแบบเอื่อยเฉื่อยสโลว์ไลฟ์ โง่ๆน่าเหนื่อยใจอย่างนี้ไปเรื่อยๆนั่นล่ะ (แต่ถ้าเป็นอย่างนี้ทั้งเรื่องกูก็คงไม่ไหวเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นกูจะโทษว่าเป็นความผิดคนเขียนแล้วนะที่เขียนให้วนลูปน่าเบื่ออยู่แบบนี้)
แต่กูว่าถึงฮีแบล็คเมล์เรย์กะไปแล้วจะทำอะไรได้วะ จะบอกคนอื่นเหรอ กูคิดว่าไม่นะ ก็ขู่ไปงั้นล่ะ แต่เรย์กะเป็นพวกระแวงเกินเหตุเครียดจนเก็บมาคิดทั้งที่มันไม่มีอะไร แค่เชิดหน้าเอาพัดฟาดฮีก็สยบลงแทบเท้าแล้ว
อ.แกเกลียดอะไรเอ็นโจป่าววะ คนอื่นดูมีบทดีๆภาพลักษณ์ดีๆ นี่แทบไม่มีเลยว่ะ ภาพลักษณ์ดีๆชอบมาแพลมๆตามมุมมองคนอื่นอยู่เรื่อย แต่เจ้าแม่ไม่เห็นความดีเลยซักครั้ง 55555555555555555555555 แม้จะน่าเหนื่อยใจแต่กูยังเอาใจช่วยอยู่นะ อยากให้เขาได้รับการเห็นค่าบ้าง
ไปคุยเรื่องท่านเรย์กะในเพจไลท์โนเวลเพจนึงมา (เรื่องที่ท่านฮิโยโกะไม่ยอมปล่อย LC ซักที) แล้วเจอคอมเมนท์นึงพูดถึงพวกเราใว้ว่า
"พวกโม่งไม่ค่อยชอบอ่ะ มันแต่งฟิกกันเองจนจะเป็นพวกไทป์ประมูลไปแล้ว หาความน่าเชื่อถือไม่ได้แถมบิดเบือนต้นฉบับ ขออย่างเดียวอย่าให้คนแปลรู้เลย เดี๋ยวจะเลิกแปลไปแบบเว็บนายท่านอีก"
...คืออยากบอกว่าเจ้าตัวคนแปลก็เล่นกาว เล่นโม่งนะ...
ปล. ไม่แคปมา ไม่อยากให้มีดราม่า ขอแค่เล่าสู่กันฟังก็พอ
ว่าแต่อะไรคือไทป์ประมูล รู้แค่เกี่ยวกับบอร์ดประมูลแต่มาไม่ทันยุคหยงรุ่งเรือง
>>523 ในความคิดกูถึงแบล็กเมล์ไปก็แล้วทำอะไรไม่ได้ แต่คนโดนพูดใส่แบบนั้นมันรู้สึกไม่ดีไปแล้ว มันก็แย่ตั้งแต่พูดจาแบบนั้นออกมาแล้วแหละไม่ต้องถึงกับเอามาคิดต่อหรือไม่คิดหรอก
ตอนแรกๆที่ยังไม่แกล้งอะไรแรงๆกูก็ไม่ได้ไม่ชอบเอ็นโจนะ แต่หลังๆมานี่คะแนนในใจกูติดลบสุดๆ กูดูแล้วเหมือนคนที่อยากเป็นเพื่อนกับอีกคนแต่เอาแต่แกล้งเขาแรงๆจนโดนเกลียดแทน ซึ่งกูไม่ค่อยชอบคนแบบนี้ ถึงจะน่าสงสารหรือยังไงแต่ถ้าเลือกจะทำอะไรแบบนี้แล้วโดนเกลียดหรืออะไรก็ต้องยอมรับผลกรรมไปละนะ ก็แล้วแต่คนจะมอง ใครจะชอบเอ็นโจหรือเกลียดเอ็นโจก็แล้วใจคนนั้นเลย
>>524 โว้ย กูเขียม 5555555555555555555555555555555555555555555555555555555
อยากไปสะกิดจังว่าคนแปลก็เล่นโม่งไม่ใช่เหรอ แถมติดฟิคกาวในนี้ด้วยนี่นา แต่งฟิคลงในนี้ด้วยนะ ว่าแต่เขาเป็นไทป์ประมูล ตัวเองอะไม่รู้เชี่ยไรเลย
ไทป์ประมูล ก็มาจากเว็บประมูลนั่นล่ะ ช่วงนั้นพวกข้อมูลอะไรมันน้อย คนอ่านญี่ปุ่นออกก็มีไม่กี่คนไง ก็เลยเกิดการมั่วข้อมูลขึ้นมา ตั้งตัวเป็นศาสดาแล้วก็มีคนเชื่อเป็นตุเป็นตะ คิดไปว่าเป็นเรื่องจริง ต่อมาเรื่องมันดังขึ้น ข้อมูลที่ถูกต้องก็หาได้ตามแหล่งต่างๆมากขึ้น แต่ก็ยังมีคนบางพวกที่เชื่อข้อมูลบิดเบือนจากศาสดาคนเก่าอยู่ เวลามีคนไปถามตามเว็บบอร์ดไรงี้ก็ต้องแก้ความเข้าใจผิดกันไป
อืม เรื่องตาไก่โง่ ที่เอ็นโจไม่มาปกป้องกูว่าเพราะไม่จำเป็นด้วยแหละ ท่านเรย์กะรับมืออีตานี่ได้สบายๆ นะ อย่างมากก็แค่รำคาญ เห็นแกล้งกลับไปตั้งหลายที ไม่ได้กลัวเหมือนที่กลัวซึรุฮานะ
>>529 กูลืมบอกไปว่าหมายถึงของ Type-Moon นะ อย่าง fate stay night, Tsukihime ไรงี้ พวกนี้ตัวละครเยอะมาก จักรวาลเชื่อมกันเหมือนตัวละครมาร์เวล คนนั้นข้องเกี่ยวกับคนนี้ในอีกเรื่อง คนนี้มีความสัมพันธ์กันกับคนโน้นในอีกเรื่อง ค่าพลังท่าไม้ตายนั่นนี่เยอะแยะ มันเลยปลอมแปลงบิดเบือนข้อมูลกันง่าย
>>522 จับมือมึงตอนแรกกูก็มาทางเรือเอ็นโจแต่หลังๆกูว่ารุกล้ำความเป็นส่วนตัวเรย์กะเกิน บางครั้งก็ทำตัวหมาหวงก้างทั้งที่ตัวเองยังเคลียร์เรื่องฝั่งตัวเองไม่เรียบร้อย ถึงเอ็นโจอาจมีประเด็นปัญหาครอบครัวแต่กูว่าเรื่องโชคร้ายของตัวเองไม่ใช่เหตุผลที่ไปทำไม่ดีกับคนอื่นว่ะ
ถึงบอกสิ่งที่เอ็นโจขู่จะไม่เกิดอะไรกับเรย์กะจริงแต่มันก็ก่อดาเมจทางใจให้เรย์กะนะ แถมเจ้าตัวก็รู้ดีว่ามันทำให้เรย์กะระแวงกังวลแต่ก็จงใจทำ
ขอรับบริจาคตอนที่เอ็นโจแกล้งเรย์กะหน่อย อยากไปอ่านทบทวน..
ตอนที่ว่าวางแผนเดทให้คาบุกับวาคาบะ กูก็มองว่าเอ็นโจมันพูดไปปกติของมัน แต่เจ้าแม่โมโหค้างมาจากตอนที่คาบุทำเหมือนว่าทุกอย่างที่วางแผนเป็นความคิดเรย์กะคนเดียว พอเอ็นโจพูดเลยโมโหใส่ทุกสิ่งทุกอย่างแบบอารมณ์ผู้หญิงอ่ะมึง 555 พอคนมันจะวีนห้ามได้ที่ไหนกัน
ทะ...ทำไมอยู่ๆอดีตลูกเรือเอ็นโจพากันกลับมาเจาะเรือจอมมารกันอีกแล้ว
เรื่องนิสัยเอ็นโจ กูโนคอมเมนต์นะ ถ้ามัวแต่ขู่สาวเจ้า ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องก็คงไม่น่าสบอารมณ์ แต่กูว่ารอดูไปเรื่อยๆ ฮีอาจจะเปลี่ยนพฤติกรรม ปรับทัศนะคติอะไรให้ดีขึ้นก็ได้
>>533 ไปคุ้ยในสารบัญมั้ย เผื่อมีเขียนไว้ว่าตอนไหนบ้าง
>>534 กูว่ามันวนลูปอะ เอ็นโจทำตัวแย่ๆ อ.ฮิโยโกะร่ายรามู ฟาดสายฟ้าฟาดใส่เรือจนแตกกระเจิงกันไปคนละทาง เดี๋ยวซักพักก็ส่งมือวิเศษมาช่วยกอบกู้เรือเอง....กูว่าคนซาดิสม์ตัวจริงคืออ.ฮิโยโกะนี่ล่ะ แกก็เก่งเหมือนกันนะที่ทำให้ตัวละครนึงเป็นที่รักและเกลียดของคนได้เยอะขนาดนี้
กูว่าเรื่องนี้มันมีเรื่องของความโอเวอร์แอ็คติ้งของเรย์กะด้วยอะ แบบนางขี้กลัว กลัวอะไรมาทีก็จะคิดเตริดเปิดเปิง แค่ตอนเด็กเจอคาบุเอ็นโจในงานปาร์ตี้ก็หน้าซีดเดินเป็นปูไปละ กระทั่งยังยึดติดกับการล้มละลายจนทำสัญญาเลือด อย่างคดีล็อกเกอร์หรือตอนนายตัวสำรองจับได้ว่าเรย์กะมาทำอะไรแต่เช้าที่โต๊ะวาคาบะก็คิดไปไกลถึงขั้นล้มละลาย,ไล่ออก,ประหารกิโยติน ฯลฯ แบบคิดตีความไปเองหลายครั้งอะ (ขนาดเรื่องผีที่ซาโตมิแค่พูดเกริ่นชื่อ นางยังหลอนไปตลอดทริป...) แต่จริงๆแล้วมันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ เอ็นโจก็อาจจะพูดไปตามเรื่อง หรือหยอกเล่นไม่ได้จะแบล็กเมล์ แต่เจ้าตัวมีชนักปักหลังก็กลัวนั่นกลัวนี่เครียดไปเองน่ะ
อ้อ คงเพราะกูอ่านเอาชิว ไม่ได้คาดหวังว่าเรื่องจะเดินยังไงด้วยมั้งเลยไม่รู้สึกไร
แต่ที่แน่ๆทั้งคาบุกะเอ็นโจก็ดูจะอยู่ในช่วงพัฒนาตัวละครกันทั้งคู่ มีแต่ท่านเรย์กะเนี่ยที่ไม่เห็นพัฒนาไรบ้างเลย พัฒนาแต่น้ำหนักตัว....... //โดนโบตั๋นปักคอ
วิ่งมาอุดเรือเอ็นโจ
พร้อมกับวิดน้ำออก
เรือลำนี้จะจมไม่ด้ายยยย
>>537 กูว่านางมีชีวิตอยู่บนพื้นฐานความกลัวว่ะ กลัวว่าจะเกิดเรื่องแบบในมังงะ กลัวไปหมดทุกอย่าง อะไรนิดๆหน่อยๆสะกิดให้นางคิดถึงแต่รูทหายนะได้หมด แต่พอเอาเข้าจริงมันคือสิ่งที่นางคิดไปเองทั้งนั้น จริงๆปมเรื่องนี้อาจจะต้องให้เรย์กะก้าวข้ามผ่านความกลัวของตัวเอง ใช้ชีวิตได้สง่าผ่าเผยไม่ต้องหวาดระแวงด้วยก็ได้ ถือเป็นพัฒนาการของตัวละครได้นะ
>>539 กูเห็นด้วยนะ คิดว่าธีมของเนื้อเรื่องช่วงนี้คือการปรับตัวเข้าหากันว่ะ กูว่าความสัมพันธ์คนเรามันก็มีทั้งดีทั้งแย่ปะปนกันไปอะนะ ตัวละครก็ต้องพัฒนากันไป ไอ้พวกนี้มันก็เด็กม.ปลาย ความคิดความอ่านก็อยู่ในโลกแคบๆ เป็นวัยรุ่นอารมณ์ร้อนฮอร์โมนพุ่งพล่าน กูว่าช่วงวัยรุ่นทุกคนก็ทำตัวงี่เง่ากันหมดนั่นล่ะ แต่งี่เง่าก็ขอให้คิดได้และโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดี กูคิดว่าอ.แกไม่ให้ตัวละครย่ำอยู่กับที่แค่นี้หรอก ทุกคนในเรื่องยังพัฒนาไปได้อีกไกล
อา... จริงๆ กูก็เป็นคนนึงที่อาจจะเผลอโอ๋เรย์กะซามะก็ได้ จริงๆ ก็ไม่ได้โอ๋หรอก แต่สงสารนางที่ทำความดีอะไรไปไม่ค่อยมีใครเห็นหัวเลย กับคาบุนี่โดนลากไปโน่นมานี่ขนาดนั้น ขอบคุณซักคำยังไม่มี ตัวเองดูหนังสือแทบตาย (ถึงจะใช้วิธีไม่ค่อยฉลาดก็เหอะ) ก็ยังสอบได้คะแนนแย่ๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์ตื่นเช้ามาขัดโต๊ะให้คนอื่นไง ด้วยความดีแบบเอ๋อๆ นี่เลยไม่มีใครอยากตำหนินางอ่ะนะกูว่า นี่ยังคิดเลยว่านี่เอ็นโจมาขู่พูดเป็นนัยๆ แบบนี้เพราะอยากให้นางเลิกไปช่วยคนอื่น เอาตัวเองให้รอดก่อนหรือเปล่า โดยผลลัพธ์มันก็ได้อยู่อ่ะนะ...
>>543 เอ๊ะ มึงพูดแบบนี้กูก็เพิ่งนึกถึงประเด็นนี้ ถึงแม้ว่าถ้าเอ็นโจใช้วิธีแบบนี้เพราะอยากให้เรย๋กะเลิกแอบคอยช่วยเหลือคนอื่นลับๆแล้วไม่มีใครเห็นจริงๆ มันจะแปลกๆหน่อยก็เหอะ 555
ฮีอาจจะหงุดหงิดมานานตั้งแต่คดีล็อกเกอร์ก็ได้ คุณคิโชวอินที่คอยช่วยเหลือคนอื่นมาตลอดแบบนี้ต้องมาถูกฉวยโอกาสใส่ร้ายทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไร ถึงแม้จะมีคนมาแก้ต่างให้แต่คนที่ไม่เชื่อก็มี ฮีอาจจะแบบ ไม่อยากให้ท่านเรย์กะถูกเข้าใจผิด อยากให้คนรู้ว่าเรย์กะทำอะไรเพื่อคนอื่นไปบ้าง
/สูดกาว
เอาตรงๆกูอยากอ่านพาร์ทเอ็นโจมาก ทำไมกูรู้สึกว่าพาร์ทฮีต้องเป็นตอนที่เฉลยเนื้อเรื่องแน่ๆก็ไม่รู้ (ปรากฏว่ามีตัวละครลับโผล่ม----) แต่กูก็ทำใจไว้ละว่ามันคงสโลว์ไลฟ์ ดูตัวละครโต โตตามตัวละคร 5555
ส่วนเรื่องอ่านหนังสือสอบกูว่าท่านเรย์กะเป็นพวกอัจฉริยะข้ามคืน พอม.6มานี่ จะอ่านหนังสือนางก็ขอนอนก่อนละกัน พออ่านก็คิดเรื่อยเปื่อย อ่านจริงๆจะได้กี่ชม.กัน แถมทุ่มเททำบางอย่างผิดเรื่องอย่างเขียนผิดก็ลงทุนทำใหม่หมดเพราะอยากให้สวยๆงี้ (แต่กูก็เข้าใจนะ 555 โน้ตสวยๆส่งผลต่อความอยากหยิบขึ้นมาอ่าน กูก็นับถือนางตรงมีความพยายามนี่ละนะ)
กรี๊ดดดดดดดดดดด พวกมึงเข้าโหมดซีเรียสแบบนี้ กูกะว่าจะลงฟิค งั้นพับไว้ก่อน //มะ ไม่ใช่ข้ออ้างในการอู้หรอกนะ
มาๆ ให้กูซีเรียสด้วยคน //ชูไม้ชูมือขอแจม
>>543 กูว่าเอ็นโจกับเรย์กะนี่โครตเหมือนกันในการใช้ชีวิตเลยนะ เรย์กะเป็นพวกที่อยู่กับความกลัว ความหวาดระแวงจนเกิดความเครียด เอ็นโจเห็นว่ายิ้มๆกูว่าต้องอยู่กับความเครียดและความกดดันตลอด ช่วงหลังๆฮีดูจะปรี๊ดแตกง่ายมาก เก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่แล้ว เมื่อก่อนจะยิ้มๆยังไงกันนะตลอด ตอนนี้แสดงความรู้สึกออกมาบ้างละ ไม่แน่นะ เรย์กะคิ้วโล้นข้างนึง ฮีอาจจะคิ้วโล้นอีกข้างหนึ่งเหมือนกันก็ได้ 5555555555555 //จริงจังหน่อยสิวะ
เรื่องทำอะไรให้ไปก็ไม่เคยมีใครเห็นค่า ไม่ได้รับคำขอบคุณก็เหมือนกันด้วย คาบุกูว่าไม่ขอบคุณเรย์กะเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนว่ะ เพื่อนลากเพื่อนไปกินและเที่ยวไม่เห็นแปลกตรงไหน เรย์กะเองก็ใช่ว่าจะไม่เต็มใจไปนั่นไปนี่กับคาบุนะ แต่ทำซึนไปงั้นอะ อยากกินเองชัดๆแต่ทำฟอร์ม ส่วนเรย์กะไม่ขอบคุณเอ็นโจเพราะระแวง ไม่ไว้ใจ ไม่รู้จะมาไม้ไหน ไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ ไม่สนใจ(เหตุผลน่าปวดใจชิบหาย)
กูว่าที่ฮีมาพูดขู่เรื่องมาตาฮารีคิดว่าต้องการให้เรย์กะจัดการให้มันจบๆไปว่ะ ไม่งั้นก็ทำได้แค่ไปเช็ดโต๊ะอยู่วันยังค่ำ ไม่มีอะไรคืบหน้านอกจากโต๊ะวาคาบะที่เปล่งประกายเงางามขึ้นทุกวัน จับคนร้ายก็ไม่ได้ ก็ต้องวนลูปไปกี่วันกี่เดือนกันล่ะ จากเฉื่อยๆเป็นแม่บ้านทีวีไดเร็ค พอกระตุ้นหน่อยก็เปลี่ยนวิธีเลย ไม่เอาแต่เช็ดโต๊ะแล้ว เรย์กะก็รู้ขีดจำกัดแล้วด้วยว่าจะมามัวทำความสะอาดแบบนี้ไม่ได้ ไม่งั้นตัวเองแย่แน่ ไหนจะเรื่องตื่นเช้ากว่ากำหนดร่างกายจะแย่เอา ไหนจะเรื่องความแตกว่าสนิทสนมกับพวกสภานักเรียน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องส่วนตัวมาแอบแฝงนะ กูว่าฮีหึงด้วยที่เอาแต่ไปขลุกอยู่กับอาริมะน่ะเลยแกล้งแม่ง เป็นความโรคจิตสไตล์ฮี ซึ่งก็น่าวิงเวียนอยู่นะ
>>544 กูว่าพาร์ทเฉลยเอ็นโจคือความพีคว่ะ ต้องมาตอนท้ายแน่ๆ กูเองก็อยากอ่านนะ ให้กูมโนกาวอย่างเดียวมันก็เวียนเฮด ความดีของอีตานี่ชอบไปผลุบๆโผล่ในมุมมองคนอื่นอยู่เรื่อย อ.ฮิโยโกะหยอดมาเป็นรายทางเลย
เรื่องเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทำหมาหยอกไก่ไปวันๆกูเฉยๆนะ กูรู้ว่าเขารักเรย์กะกูก็พอใจ เดี๋ยวซักวันอ.แกก็เฉลยมาให้เองล่ะ มึงจะรุกจีบแบบสโลว์ไลฟ์ กูก็สโลว์ไลฟ์ตาม มีโมเมนต์ก็ดีใจ โดนพังเรือก็หน้าแห้ง มีโมเมนต์ก็กลับไปดีใจต่อ โดนพังเรือก็หน้าแห้งต่อ วนลูปตามแต่อ.จะพอใจเลยฮ่ะ กูทนได้
ใจเย็นๆๆ พวกเมิงอย่าเพิ่งเจาะเรือเอ็นโจ. ลืมไปรึว่ากระโดดออกจากเรือนี้ที่เหลือ ก็เป็นเรือคาน เรือยูรี เรือโลลิโชตะ เรือบราคอน ไม่ไหวนา
กุว่าเอ็นโจมันเก่งสารพัดยกเว้นเรื่องการจีบสาวไง เพราะมีแต่สาวเข้าหา. คนที่มันสนใจมันก็มองหา+ตามข่าวอยู่ตลอด แต่สาวที่สนใจดันไม่ชอบมันเลย มันเลยเกิดกลไลโปรเทคตัวเองแบบชั้นก็ไม่สนใจเธอหรอกขึ้นมา. คงหลอกตัวเองว่าที่ทำไปอ่ะเพื่อน้องนะ. เจ้าตัวก็ยังคิดไม่ถึงสินะว่ามันมีดาเมจต่อตัวเองรุนแรงถึงขั้นทำคะแนนตกได้. หลังจากพารททำคะแนนตก เอ็นโจก็เข้าหาเรยกะมากขึ้น แต่ด้วยความที่มีชนักยุยโกะติดหลังอยู่ ซึ่งเคลียรไม่ได้ง่ายๆ(กุเดาว่าเป็นเรื่องครอบครัวหรือหนี้บุญคุณ). เจ้าตัวจึงรุกเรยกะไม่ได้. ได้แต่ทำตัวเป็นไม้กันหมาอยู่แบบนี้.
เรื่องที่ชอบขู่เรยกะ กูว่ามันคิดมุกอื่นไม่ออกว่ะ อารมณแบบคนโง่ด้านความรักที่อยากอยู่ใกล้เธอแต่เธอเกลียดผม+ออกตัวแรงไม่ได้+งอนสาวบางครั้งจากอีโก้เดิมด้วย+คงเป็นสายยันด้วย+หึงด้วย+แต่ก็ห้ามไม่ให้อยู่ใกล้เธอไม่ได้
หลังจากเคลียรเรื่องคาบุวาคาบะ (ใครยังขึ้นเรือคาบุอยู่ได้กุนับถือในกาวมากเลย) กุว่าตอนเฉลยความรู้สึกเอ็นโจอาจจจะเป็นตอนจบเรื่องนี้ว่ะ เจาะเรือจอมมารมือระวิง เหนื่อยมาก
เข้ามาตอกบัตรคะแนนว่าหลังๆเริ่มรำคาญเอ็นโจ แต่คิดอีกทีก็ไม่ถูก คาบุก็เชียร์แล้วเชียร์อีกจนลงจากเรือ อาริมะ...นี่ก็พุ่งทะยานไปไกลมาก เข้าน่านน้ำเฟรนด์โซนแล้ว สรุปกูเชียร์วาคาบะที่สุดแล้วในตอนนี้ น่าจะไปรอดที่สุดละ เศร้าสัดๆ ทำไมซาโตมิคุงต้องมีแฟนด้วย ฮืออออออ
เท่าที่กูสังเกตมาเรย์กะก็พัฒนาไปบ้างแล้วล่ะ พักหลังเรย์กะไม่ได้พูดเรื่องทุจริตกับที่บ้าน แต่กูว่าจะให้เลิกกลัวคงยากว่ะ นางจำฝังหัวว่าบทในการ์ตูนมันจบไม่สวย แค่ตอนแอบขัดโต๊ะเจอนายสำรองมาถามว่าทำอะไรอยู่ก็สั่นเป็นเจ้าเข้าทั้งๆที่แค่โชว์หลักฐานไปก็ได้แล้ว เลยคิดว่าเรย์กะคงระแวงที่ไม่ค่อยมีคนเชื่อเท่าไร เหมือนนางเองก็ยังติดภาพพจน์ตัวเองเป็นตัวร้ายโรโคโค่หน่อยๆด้วย ถึงหลังๆจะดูหลุดไปกับเสียงโฮะๆตัวเองก็เหอะ ดำเนินชีวิตมาด้วยความระแวงตั้งแต่อนุบาลคงถอนตัวยากหน่อย มนุษย์ประเภทนี้ต้องการคนเปิดเผยจริงใจแต่ไม่คุกคาม
ส่วนเอ็นโจ....ช่างแม่งเถอะ กูไม่ชอบประเภทข่มซ้ำแล้วซ้ำอีกอ่ะ เอ็นโจดำมืดเกินไปสำหรับกู คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้น่ากลัวจะตาย ขอเจอเปิดเผยแบบคาบุดีกว่า แต่รายนี้ก็สุดโต่งในทางของตัวเองเหมือนกัน เห้อ ไม่มีใครปกติเลยว่ะ กูเชียร์วาคาบะกับซาโตมิคุงก็แล้วกัน5555 คานแน่นอนจ้า
>>546 เรื่องนี้มันวนลูปแบบที่เมนท์บนๆบอกอะมึง มีโมเมนต์-->โดนพังเรือ-->มีโมเมนต์-->โดนพังเรือ-->มีโมเมนต์-->โดนพังเรือ-->ไปสู่อินฟินิตี้ จนกว่าจะจบ เพราะงั้นกูก็เลยปลงๆไม่ค่อยคาดหวัง เดี๋ยวฟ้าก็ประทานอะไรมาให้กูเอง ระหว่างนี้ก็เก็บเศษเล็กเศษน้อยมากวนกาวเอา 55555555555
กูเห็นด้วยนะว่าอีนี่มันโง่ โง่มากกกก โครตโง่ และกูว่าฮีต้องมองอะไรในแง่ลบไว้ก่อน อาจจะเคยคิดในแง่ดีแล้วกลับมาปวดใจเองทุกครั้งเลยเลิกหวังลมๆแล้งๆ อยู่ในเซฟโซน ไม่อยากเสี่ยง ไม่อยากเจ็บอีกหน พอรวบรวมความกล้ามาได้หน่อยแล้วสาวเจ้าทำท่าจะปฏิเสธ ฮีวิ่งกลับเซฟโซนทันที เช่นเรื่องร้านกาแฟไง เปรยๆขึ้นมาลองถามดูเคยไปมั้ย เรย์กะบอกไม่ค่อยดื่มกาแฟ คงเข้าใจแล้วว่านี่คือคำปฏิเสธ แล้วนึกถึงลาเต้อาร์ทแก้วนั้นแน่ๆ ฮีคงรู้สึกขมขื่นน่าดูอะ ไม่ชอบกาแฟเลยทำแบบนั้นสินะ.....แต่ใช่ว่าจะไม่มีความกวนตีนแฝงอยู่ เพราะแม่งชวนมาซายะไปทันทีเลย 5555555555555
>>545 เอากาวม๊าาาาาาาาาา!
>>546 คาบุมันทื่อแบบสุดโต่งอ่ะนะ จริงๆ กูอยู่เรือเอ็นโจที่ปัจจุบันเอาชิ้นส่วนตัวเองไปหว่านโปรยตามเรือต่างๆ แต่ก็โคตรชอบเคมีระหว่างเรย์กะกับคาบุเวลาอยู่ด้วยกันสองคน แม่งหลุดมาดจักรพรรดิจักรพรรดินีกันทั้งคู่ กลายเป็นแก๊งเด็กเอ๋อหล่อสวยเสียของ 55555 แล้วรสนิยมของสองคนนี้มันก็ต้องกันแบบไม่ได้ตั้งใจด้วยนะ ห่วงกลที่เรย์กะซื้อมาให้ยูกิโนะ คาบุก็ถูกใจจนแย่งเด็กเล่น ใช้แฮนด์ครีมก็พอใจ ช็อกโกแลตที่ซื้อไปฝากก็อร่อย มาดามคาบุรากิถูกใจอีกต่างหาก กูว่าถ้าคาบุอกหักจากวาคาบะแล้วหันมาเห็นความดีของคนใกล้ตัวเมื่อไหร่นี่มันอันตรายยยยยยยยย เรือมีสิทธิพุ่งแรงแบบเจ็ตสกีได้นะเว้ย เรย์กะยิ่งโดขิๆ กับความหล่อของคาบุได้ง่ายอยู่
นั่งแต่งฟิคยุยโกะ (ในเวลางาน) เล่นๆ แต่งไปแต่งมาพิมพ์ไปพิมพ์มา มาอ่านซ้ำอีกทีเรื่องลงเอยที่วาคาบะอยากให้เรย์กะแต่งงานกะคาบุแล้วให้คาบุฯ มาเก็บตัวเองไปเป็นอนุฯ เพื่อจะได้อยู่กับเรย์กะเพราะตัวเองชอบเรย์กะและไม่ได้รังเกียจคาบุฯ............................
กูก็ว่ากูไม่ได้ดมกาวระหว่างพิมพ์นะ...ทำไมกลายเป็นแบบนี้ได้วะ อ่านเองยังงงเอง
>>551 ม่ายอาววว พวกมึงกำลังซีเรียสกันอยู่ กูก็ต้องซีเรียสด้วย //นอนจิบน้ำแตงโมมองมาจากเรือคานซัง
กูว่าโมเมนต์ระหว่างคาบุกับเรย์กะมันก็น่ารักดี ดูฮา น่ารักน่าหยิก คาบุมันก็น่าเอ็นดูในความจริงใจซื่อตรงกับความพยายามทำทุกอย่างออกมาให้ดี แต่กูก็คิดว่าวาคาบะมีใจให้คาบุว่ะ คงไม่แห้วหรอก นางฉลาดจะตายทำไมจะไม่รู้ว่าผู้ชายเขาจีบอยู่ แล้วถ้าเราไม่เล่นด้วยเนี่ยจะปฏิเสธไปก็ได้ แต่นี่นางก็ยอมไปไหนมาไหนกับคาบุหลายหน ทัวร์ของหวานบ้าง ทัวร์พิพิธภัณฑ์บ้าง ขนาดอควอเรียมที่ไม่ได้นัดล่วงหน้า วิ่งแจ้นไปชวนทันทีนางก็ตกลงง่ายๆแล้วก็ไปเดี๋ยวนั้นเลย ไม่ได้ลำบากใจที่จะไปด้วย กูว่ามีใจชัวร์ป้าบ
กูเคยคิดเล่นๆนะเว้ยว่าตอนเรย์กะตายแล้วมาเกิดจากโลกเดิมมาเกิดในโลกนี้ วิญญาณถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเข้าร่างเรย์กะ อีกส่วนเข้าร่างคาบุ แต่ส่วนที่เข้าร่างคาบุลืมความทรงจำในชาติที่แล้วไป แต่ความติงต๊องกับการชอบกินอาหารสามัญชนยังหลงเหลืออยู่ รสนิยมมันถึงได้ออกมาคล้ายคลึงกันขนาดนี้ หยั่งกะเป็นคนคนเดียวกัน 555555555555555555555555
ไม่เห็นโมเม้นตอนคาบุอยู่กับวาคาบะเป็นยังไง
แต่ตอนอยู่กับเรย์กะนี่ออกแนวเพื่อนสนิทที่พูดใส่หน้าว่า"เธอตัวยาวนะ"ได้
>>562 พอเอ็นโจร่างสัญญาประทับเลือดมาจริงๆ
เรย์กะ : อี่๋!!!! อะไรกันตานี่ อย่างที่คิดจริงๆ ด้วย จ้องจะทำลายตระกูลคิโชวอินอยู่จริงๆด้วยสินะ ในคิมิดอลไม่ได้บอกรายละเอียดใว้มากก็จริงแต่จากความบ้าบอของคาบุรากิคนบงการต้องเป็นเจ้ามารร้ายตัวนี้แน่ๆ อา.....ท่านพี่คะช่วยน้องสาวคนนี้ด้วย น้องกำลังจะโดนมารร้ายข่มขู่ค่ะ
- ท่านเรย์กะได้รับสัญญาเลือด 1EA
- สถานะ : ส่งผลให้เป้าหมายหวาดระแวงขั้นสูงสุด ความเชื่อใจติดลบสามล้านจุด เอฟเฟคท์พิเศษหากเป้าหมายคือคิโชวอิน เรย์กะจะเพิ่มค่าความเชื่อใจติดลบเป็นอนันต์
เอ็นโจ : ในที่สุดก็ให้ไปแล้ว เท่านี้คุณเรย์กะคงมองเราเหมือนมาซายะเสียที ดีใจจัง
- เอ็นโจมอบตราสัญญาประทับโลหิตแก่เรย์กะ
- สถานะ : เกิดความฝันลมๆ แล้งๆ ละเมอเพ้อพกบ้าไปเองว่าจะถูกมองในด้านดีทั้งที่กวนตีนเขาใว้เยอะ ดวกส์
ท่านพี่ : ได้รับสัญญาณร้องขอความช่วยเหลือจากน้องสาวงี่เง่า
- สถานะ : โหมดซิสค่อนสแตนด์บาย จัดไพรมารี่ออเดอร์สู่ระดับหนึ่ง เพิ่มค่าสถานะทุกอย่าง +255 ยกเว้นค่าความต้านทานต่ออาหาร (พิเศษ) ของน้องสาว
ตอนแรกกูก็ลงควบหลายๆเรือนะเว้ย แต่แบบแม่งดูพุ่งฉิวเข้าเฟรนด์โซนทุกลำเลยวะ ตอนแรกสุดที่อ่านเลย ก็ลังเลคาบุหรือเอ็นโจ ต้องสองตัวนี้แน่ๆที่เป็นพระเอกแม่งช่างเป็นกลุ่มบุคคลที่เด่นซะเหลือเกิน อีกแป๊ปนึงกูคงจะได้รู้ว่าเลือกถูกรึเปล่า ลงควบสองเรือเลยแล้วกัน เวลาผ่านไปหลายตอนกูก็ค้นพบว่าสองเรือแม่งไม่พอว่ะ ถ้าไม่เหวี่ยงแหไว้เยอะๆ ความน่าจะเป็นที่ไปจบเรือคานซังมีสูงมาก ก็แบ่งร่างยาวๆไป จะเรือท่านพี่ ท่านอิมาริ นายบ้าหมา ซาโตมิ วาคาบะจัง ซึรุฮานะ เอสชมรมฟุตบอล นายตัวสำรอง ไรจินฟูจิน บลาๆๆ ลงมันไปให้หมดตามทางตามบท
แต่แม่นางเรย์กะก็ขยันสละเรือตัวเองทิ้งจริงจริ๊ง เดี๋ยวลากเข้าน่านน้ำเฟรนด์โซน เดี๋ยวลากเข้าโซนเพื่อนผู้มีงานอดิเรกร่วมกัน โซนคู่หูคู่แดก ไม่นับว่าบางคนมีเจ้าของอยู่แล้ว(เช่นเบียทัน แฟนซาโตมิ และคุณว่าที่คู่หมั้น...)
ซึ่งมาถึงปัจจุบันนี้ กูโอเคกับการอยู่บนเรือคานซังแล้วด้วยซ้ำ โว้ยยย คือ กูไม่ควรชินแบบนี้รึเปลาวะ555555 แต่ก่อนคือแบบฟิคบ้านพักคนชราอารั๊ย ท่านเรย์กะคงไม่อยู่แบบนั้นหรอกม้างง//ตัดภาพมาที่ทุกวันนี้สามารถมองมองฉากแบบนี้ได้ทุกครั้งที่อ่านจบตอน
เอ่อ เราขอ KY ลงฟิคได้ไหมอะ ._.
ขออนุญาตเปิดเรื่องใหม่ คงลงเรื่อยๆ แต่บอกไม่ได้ว่าจะสม่ำเสมอแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่าช่วงไหนมีงาน+สอบน้อย
---------------------------------------------------------------------------
โรงเรียนซุยรัน ภาค วันหยุดฤดูร้อน☆
ไปไหนดีนะ ฉันนั่งมองเที่ยวโปรแกรมของปีนี้อย่างครุ่นคิด อืม.. ถึงจะพูดว่าปีนี้แต่เอาจริงๆก็มีของปีก่อนๆๆๆที่อยากไปแต่ไม่ได้ไปด้วยอะนะ ฤดูร้อนทั้งทีก็อยากไปทะเลแต่ถ้าท่านพี่ไม่ไปด้วย ฉันก็ไม่มีคนเล่นน้ำด้วยน่ะซี~
ตาทานุกิใช้งานท่านพี่หนักเกินไปแล้วนะ! อ๊ะ ชวนพวกเซริกะจังไปด้วยดีไหมน้า~
“คุณเรย์กะ ทำอะไรอยู่เหรอคะ?” ท่านแม่เดินถือถ้วยน้ำชาเข้ามาในห้องนั่งเล่น
“กำลังคิดโปรแกรมวันหยุดฤดูร้อนปีนี้ค่ะ”
“อ๋อ เหรอคะ” ท่านแม่จิบน้ำชาก่อนพูดต่อ “แล้วมีที่ไหนอยากไปหรือเปล่าคะ”
“อยากไปทะเลน่ะค่ะ ท่านแม่คะ ปีนี้ชวนเพื่อนไปด้วยได้ไหมคะ ลูกอยากเล่นน้ำทะเล นะคะ ท่านแม่~” ฉันทำตากะพริบอ้อนท่านแม่ปริบๆ แหม ถ้าเป็นตาทานุกิป่านนี้ได้ไปแล้วเนี่ย! ยิ่งฉันโตขึ้นท่านแม่ยิ่งกังวลว่าแสงแดดจะทำให้ผิวเสีย เลยไม่ค่อยได้ไปทำกิจกรรมกลางแจ้งเลยอ่า~
“ถ้าคุณเรย์กะอยากไปก็ไปสิคะ” เอ๋!! ใจฉันเต้นตึกตักรัวเหมือนมีใครตีกลองรบในอกเลยค่า~ โอะโฮะโฮะโฮะ ทะเลจ๋า เรย์กะมาแล้ววววว
“แต่”
“…..”
“เมื่อกี้แม่เพิ่งได้รับโทรศัพท์จากบ้านคาบุรากิว่าถ้าไม่ติดธุระอะไรก็ขอให้เข้าร่วมวันหยุดฤดูร้อนที่เกาะส่วนตัวของตระกูลคาบุรากิ ถ้าลูกไม่ว่าอะไรแม่ก็อยากให้ไปเล่น’น้ำทะเล’ที่เกาะนี้นะคะ” ท่านแม่หัวเราะ ‘โอะโฮะโฮะ’ อย่างชั่วร้าย……
“แต่ลูกไม่สนิทกับท่านคาบุรากิเลยนะคะ …..” ฉันพูดพร้อมแกล้งทำท่าทางห่อเหี่ยว “จะไปสนุกได้ยังไงคะ”
“ก็ใช้โอกาสนี้เพิ่มความสนิทสนมเลยสิคะ” ไม่ใช่!!
“มีใครไปบ้างหรือคะ…” ท่านแม่พยักหน้าให้สาวใช้ที่ยืนอยู่แถวๆนั้น ไม่นานนักก็มีกระดาษวางอยู่หน้าฉัน เป็นบัตรเชิญจากบ้านคาบุรากินี่เอง หืม มีรายชื่อตระกูลท่านไอระกับท่านยูริเอะด้วย! เอ๋~ อยากให้ท่านพี่ไปด้วยจังเลยค่ะ
มีแต่ตระกูลที่สนิทกับคาบุรากิทั้งนั้นเลยนี่นา ท่าทางลูกชายอยากไปเที่ยวกับเพื่อนแต่โดนแม่ฉวยโอกาสใช้งานนี้จัดดูตัวไปด้วยละม้าง~ เป็นตาคาบุรากินี่ก็ลำบากเหมือนกันแฮะ
แล้วไหงถึงมีตระกูลฉันติดเข้าไปด้วยเนี่ย!!! มาดามคาบุรากิแอบมาเพิ่มหรือเปล่าคะ ฉันจะโดนจักรพรรดิพิโรธใส่หรือเปล่านะ อุหวาา
ตระกูลเอ็นโจ.. เทวดาน้อยของฉันจะไปหรือเปล่านะ
“สรุปไปใช่ไหมคะ”
“เดี๋ยวค่ะ! ขอให้คำตอบพรุ่งนี้ได้ไหมคะ”
“งั้นพรุ่งนี้แม่ต้องได้คำตอบนะคะ ห้ามเฉไฉด้วย” แหงะ…
“ทราบแล้วค่ะ..” ฉันตอบรับเสียงอ่อยๆ ทำไงดีอ่ะ!! ถ้าไปก็ต้องโดนแผนจับคู่แน่เลยๆ แงงงงง
ฉันนั่งจิบชาในห้องสโมสรเรื่อยๆ รอเวลาที่’คนนั้น’ จะเข้ามา อุฮุฮุ พอลองคิดแบบนี้เหมือนกำลังมีเรื่องสำคัญที่เป็นจุดไคลแมกซ์ของเรื่องจะเกิดขึ้นเลยนะคะ แต่นี่ก็นับเป็นเรื่องสำคัญสำหรับฉันเหมือนกันนะ ว่าแต่ทำไมเอ็นโจช้าจังเนี่ย ปกติถ้าเป็นวันจันทร์จะมาถึงห้องสโมสรไวกว่าคาบุรากิไม่ใช่เรอะ ฉันข่มความหงุดหงิดลงไปในใจ ถ้าช้ากว่านี้จะคุยธุระไม่ทันนะ หน๊อย ทำไมเวลาต้องการถึงชอบหายหัวไปแบบนี้นะ!
ประตูห้องสโมสรเปิดออก พอหันไปมองก็พบว่าเป็นเอ็นโจที่เดินเข้ามา ยะฮู้ว~ มาจนได้นะเอ็นโจ ฉันยิ้มร่าด้วยความดีใจก่อนจะเดินเข้าไปหา เอ็นโจมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ เอ๊ะ ฉันเผลอทำตัวประหลาดไปหรือเปล่านะ ฉันรีบสงบสติอารมณ์อย่างรวดเร็ว
“ท่านเอ็นโจคะ ถ้าไม่ว่าอะไรอยากขอคุยด้วยสักหน่อยค่ะ”
“ครับ?”
“อืม ตรงนี้คงไม่สะดวก ไป..” ไปไหนดี….
“ไปนั่งคุยตรงกันก็ได้ครับ” เอ็นโจผายมือไปทางมุมประจำ
“เอ๋ แต่ว่าตรงนั้นเป็นที่ประจำของท่านคาบุรากิกับท่านเอ็นโจนี่คะ” หวาาา ได้ไงล่ะ! ถ้าคาบุรากิมาเจอฉันแย่งที่นั่ง ฉันอาจจะถูกโมโหก็ได้นะ! แค่คิดภาพก็ตัวสั่นแล้วอะ!!
“ไม่เป็นไรหรอกน่าคุณคิโชวอิน มาซายะไม่ว่าอะไรหรอกนะ ถ้าเป็นคุณคิโชวอินน่ะ” เห.. แน่นะคะ? “ผมพูดจริงน่า ทำไมมองด้วยสายตาแบบนั้นละครับ” เอ็นโจผายมือให้ฉันเดินไปก่อน พลางก้มตัวกระซิบกับฉันว่า “ยิ่งยืนคุยอยู่ตรงนี้นานยิ่งเป็นเป้าสายตานะครับ” เอ๋! จริงด้วย ลืมคิดไปเลยว่าตรงนี้เป็นตรงทางเข้าประตูสโมสร ถึงประตูจะปิดอยู่ก็เถอะ แต่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่คนในสโมสรเห็นชัดเจนที่สุดแล้ว ฉันรีบเดินจ้ำอ้าวไปยังมุมประจำของสองคนนั้นอย่างรวดเร็ว
ตรงไหนดีละเนี่ย… ฉันมองที่นั่งสองที่ที่อยู่ตรงหน้าอย่างสับสน “ทำไมไม่นั่งละครับ คุณคิโชวอิน”
“เอ่อ.. ไม่ทราบว่าจะนั่งตรงไหนดีน่ะค่ะ”
“อ๋อ… จะนั่งตรงไหนก็ได้นะ ยังไงพื้นที่ในห้องสโมสรก็เป็นพื้นที่ส่วนกลางให้พวกเราได้ใช้อยู่แล้วนี่นา ไม่มีใครเป็นเจ้าของหรอก”
“นั่นสินะคะ..” ฉันพูดพลางนั่งลงที่ของเอ็นโจอย่างรวดเร็ว ถือว่าอนุญาตแล้วนะคะ เอ็นโจมองฉันอย่างยิ้มๆ ก่อนจะนั่งลงตรงที่ของคาบุรากิ ฉันทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มีเด็ก2-3คนรีบเดินออกไปจากห้องสโมสร เอ.. ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านะ
“ก็พูดไปแล้วนี่นาว่ามาซายะไม่ว่าอะไรหรอก” พอฉันหันไปมอง เอ็นโจก็พูดเสริม “ยังไงในนี้ก็เป็นพื้นที่ให้สมาชิกได้ใช้น่า”
“ถ้าท่านคาบุรากิมาถึงคงต้องขอตัวนะคะ แล้วก็ขอโทษที่มารบกวนเวลาพักของท่านเอ็นโจนะคะ”
“หือ? ไม่เป็นไรหรอก คุณคิโชวอินไม่ได้รบกวนผมสักหน่อย” เอ็นโจโบกมือเป็นเชิงไม่ถือสา “ไม่ต้องลุกก็ได้นะ จริงๆตรงนั้นมีโซฟาอีกตัวหนึ่งน่ะ มาซายะนั่งตรงนั้นก็ได้” พอมองตามสายตาเอ็นโจไป ฉันถึงเพิ่งรู้ว่า พื้นที่ตรงนี้มีโซฟาสามตัวแต่จากมุมมองที่นั่งอื่นจะมองไม่เห็น
“แล้วอยากคุยเรื่องอะไรเหรอ”
“เรื่องวันหยุดฤดูร้อนที่ตระกูลคาบุรากิจัดน่ะค่ะ” ฉันลดเสียงลงจากที่พูดปกติ เพราะวันนี้สมาชิก Pivoine ดูเหมือนจะเงยหน้าขึ้นมาจากภารกิจที่ทำอยู่เยอะกว่าปกติ ยังไงเรื่องที่ได้รับเชิญคราวนี้ก็มีคนไม่กี่คนแปลว่างานต้องเป็นส่วนตัวระดับหนึ่ง
“อะไรนะครับ” อุหวา สงสัยจะพูดเบาไปเอ็นโจเลยต้องเอนตัวมาใกล้ๆ
“เรื่องวันหยุดฤดูร้อนที่ตระกูลคาบุรากิจัดน่ะค่ะ” ฉันพูดซ้ำอีกรอบ เพิ่มระดับเสียงขึ้นอีกนิด
“อ๋อ เรื่องนี้เองเหรอ”
“ค่ะ”
“จริงๆ มาซายะอยากใช้โอกาสช่วงวันหยุดนี้ศึกษาความแตกต่างระหว่างชนชั้นเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจน่ะ”
“......”
“จริงๆ ตอนแรกมีแค่ผมนะ เพราะเป็นวันหยุดฤดูร้อนทั้งที มาซายะก็กลัวว่าถ้าไปชวนจะเป็นการรบกวนคุณคิโชวอินเข้าหรือเปล่า” เห~ คาบุรากิคิดอะไรแบบนี้เป็นด้วยเหรอเนี่ย “แต่พอยูริเอะรู้เรื่องก็ให้คำแนะนำมาว่า ‘ถ้างั้นก็เขียนกำกับไปว่า ‘ถ้าสะดวก’ สิ’ ประมาณนี้น่ะครับ”
“เห งั้นเหรอคะ”
“ครับ”
“แล้วทำไมท่านยูริเอะกับท่านไอระถึงได้มีรายชื่อมาด้วยหรือคะ ไหนตอนแรกบอกมีแค่ท่านเอ็นโจกับท่านคาบุรากิ”
“อ๋อ พอมาซายะบอกยูริเอะไปว่า ปีนี้จะไปพักที่เกาะส่วนตัว ยูริเอะกับไอระก็อยากไปด้วยน่ะ เกาะของมาซายะหาดสวยด้วยนี่นา เห็นว่าไม่ได้ไปเที่ยวช่วงฤดูร้อนด้วยกันนานแล้วด้วยเลยถือโอกาสนี้ไปด้วยซะเลย แต่ก็ได้ยินมาว่าทั้งสองคนนัดเพื่อนไปเพิ่มอีกด้วยนะ”
“ท่านทั้งสองทราบหรือเปล่าคะว่าจุดประสงค์หลักของท่านคาบุรากิคืออะไร?”
“ไม่รู้หรอก แต่พอเห็นบัตรเชิญก็คงจะงงนิดหน่อยแหละ” เอ็นโจหัวเราะฮะๆ อย่างอารมณ์ดี
“แต่ยังไงก็เป็นเกาะส่วนตัว แล้วในรายชื่อก็เห็นว่ามีได้รับเชิญแค่ไม่กี่ตระกูล นัดแนะเพื่อนมาเพิ่มแบบนี้ ถ้าท่านคาบุรากิทราบเข้าจะไม่โกรธหรือคะ” ฉันชะงักแวบหนึ่งก่อนจะนึกได้ “แล้วเป็นเกาะส่วนตัวอีก จะมีร้านให้ไปศึกษาความแตกต่างระหว่างชนชั้นเหรอคะ”
“อ๋อ คุณคิโชวอินไม่ทราบสินะ ฝั่งที่หาดสวยเปิดให้เข้ามาเที่ยวได้นานแล้วแหละ ตระกูลคาบุรากิก็ถือโอกาสนี้ทำโรงแรมแล้วตอนนี้ก็มีร้านค้าต่างๆเพิ่มเยอะเลย” อ๋อ งี้นี่เอง.. “อ๊ะ บอกให้รู้ก่อนนะว่าไปพักที่บ้านพักส่วนตัวของตระกูลคาบุรากิที่อีกฝั่งของเกาะน่ะ” หา?
เอ็นโจเห็นท่าทางตกใจของฉันก็หลุดหัวเราะออกมา เดี๋ยวทุบเลยตาคนนี้นี่!
“คุณคิโชวอินมีเรื่องจะคุยด้วยแค่นี้เหรอครับ?” อ๊ะ เกือบลืมไปเลย
“เอ่อ ยูกิโนะคุงไปด้วยหรือเปล่าคะ”
“ถ้าตอนนั้นแข็งแรงดีก็คงได้ไปด้วยครับ แต่พอเจ้าตัวได้ยินว่ามีท่านเรย์กะด้วยก็ร้องงอแงอยากไปใหญ่เลย ตอนนี้ก็ขยันดูแลตัวเองให้แข็งแรงเป็นพิเศษอยู่” เอ็นโจพูดยิ้มๆ อุหวา ดีใจจัง พี่ก็อยากไปเที่ยวกับยูกิโนะคุงนะจ๊ะ
“อ๋อ งั้นหรือคะ” ฉันตอบ “แล้วมีแค่นี้เหรอคะ? ไม่มีผู้ใหญ่ไปด้วย?”
“หือ? ทำไมต้องมีล่ะ” เอ็นโจทำหน้างงๆ ก่อนจะยิ้มแล้วเอ่ยตอบ “อ๋อ เด็กผู้หญิงนี่นะ แล้วเป็นคุณคิโชวอินอีก” เป็นเด็กผู้หญิงแล้วทำไม! เป็นฉันแล้วจะทำไม หา!! เห็นแบบนี้ก็เคยไปเที่ยวกับเพื่อนแบบไม่มีผู้ปกครองนะคะ ชิ!
“แล้วคุณคิโชวอินว่างหรือเปล่าล่ะ?”
“ทั้งสองคนคุยอะไรกันน่ะ?” ก่อนที่ฉันจะได้ตอบก็มีเสียงดังมาจากหน้าสโมสรขัดก่อน พอหันไปมองก็พบว่าเป็นคาบุรากิที่เดินตรงเข้ามาพร้อมด้วยสายตาคนในสโมสรที่หันมามองทางนี้กันหมด หน๊อย คาบุรากิ!!
“คิโชวอินทำไมมานั่งตรงนี้ล่ะ”
“มาซายะ นั่งตรงนั้นสิ” คาบุรากิเอ่ยถามอย่างไม่ได้ต้องการคำตอบอะไรเพราะพอนั่งลงที่โซฟาอีกตัวก็เอ่ยถามคำถามถัดมา “แล้วสรุปคุยอะไรกันอยู่”
“เรื่องวันหยุดฤดูร้อนน่ะ ที่มาซายะจัดไง”
“อ๋อ แล้วสรุปคิโชวอินว่างหรือเปล่าล่ะ”
“ว่างค่ะ โชคดีนะคะที่ทางตระกูลคาบุรากิโทรแจ้งเข้ามาไม่งั้นคง…”
“อ๋อ ต้องขอบคุณชูสุเกะแหละนะที่แนะนำให้โทรไปด้วยแทนที่จะส่งแค่บัตรเชิญ”
“...งั้นหรือคะ” พอหันไปมองเอ็นโจก็พบว่าฝ่ายนั้นมองก่อนอยู่แล้ว พอเห็นฉันหันไปก็ส่งยิ้มให้
“ถ้ายังไงเดี๋ยวนัดแผนการตอนไปถึงเกาะละกัน” คาบุรากิพูดขึ้น
“ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”
“อ่า”
“ไว้เจอกันนะคุณคิโชวอิน เดี๋ยวผมจะบอกยูกิโนะให้”
“ยูกิโนะ…” ได้ยินเสียงคาบุรากิเอ่ยชื่อยูกิโนะแว่วมาแต่ไม่ได้ยินประโยคที่เหลือเพราะฉันเดินออกมาจากตรงนั้นก่อน
ซัมเมอร์~! เทวดาน้อย~! ทะเล~~~ อยู่ดีๆ ฉันก็คึกคักกับวันหยุดฤดูร้อนปีนี้อย่างประหลาด
-------------------------------------------------------------------------------
ลืมบอกไปว่า ถ้าหมดมุก สมองตันก็อาจจะหายไปสักพักด้วย แง 55555 แต่จะพยายามลงให้จบ(ซึ่งยังไม่รู้ว่าเรื่องจะเป็นยังไง จบแนวไหน 555) เขียนแบบงงๆ
ตอนใหม่อัพแล้ว! แต้งกิ้วนะโม่งแปล!
อึก....อ่านๆไปแล้วเหมือนตัวเองกำลังถูกคาบุรากิว่าใส่แทนเจ้าแม่เลยแฮะ...ก็เราเองมันเด็กเตรียมสอบเข้าเหมือนกันนี่หว่า วันนี้มีสอบเคมียังดอดมาอ่านฟิคได้นี่....เอื๊อะ!!//กระอักเลือด
//คลานกลับไปอ่านหนังสือต่อ
//ขอบคุณสำหรับกาวกำลังใจในวันนี้มาก
ตอนใหม่นี่....กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดคาบุรากี่ยยยยย์ ขอให้แกนกกกก
น้ำตาท่วมพื้นอย่างคนติดโปรเจคก์แต่นั่งอู้ เหมือนโดนพาดพิงด้วยเลย
สัส...อาการที่เรย์กะเป็นนี่มันกูชัดๆ...
จริงๆ อาการเรย์กะในแปลตอนล่าสุดแก้ได้ด้วยการใช้สมาธิกับมีคนคุมน่ะ เพราะคนประเภทนี้เป็นพวกเสียสมาธิง่ายบวกกับขี้เกียจอ่ะ
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่น้าา
อุกก-- รู้สึกเหมือนจะโดนว่ไปด้วยอีกคนเลยอะ จพสอบไฟนอลแล้วแต่หนังสือก็ยังไม่ได้แตะ ฮึก ;-;
ตอนล่าสุดแม่ง กูเข้าใจมึงนะโม่งแปล นิตยสารญี่ปุ่นเค้าเขียนทำนองนี้จริงๆ เว้ย แบบนี้เลย 555555 #นึกถึงสมัยตามเก็บซื้อหนังสือแฟชั่นพวกนี้
ตอนล่าสุดนี่ ดีจังนะเรย์กะ ท็อปทรีมาช่วยติวให้เลยนะ! มาซายะน่ารักจังเลยย
>>586 มึงต้องเจอศัพท์สาวแกล ตอนเจอครั้งแรกกูแทบร้องให้ เหี้ยกว่าศัพท์สก๊อยบ้านเราร้อยเท่า นี่กูไม่ได้ชมนะ กูด่า!!!
ยกตัวอย่างคำที่กูยังไม่เข้าใจจนบัดนี้ (และยังหาคำแปลไม่ได้ด้วย)
ぷわヂ
ぎりギりぴぴぴ
Otomuウ
サランがとう
นี่ยังไม่รวมศัพท์ห่าจิกที่เอาสัญญลักษ์มาใช้แทนคันจิ/คาตาคานะอีกนะ
เอารูปตะขอมาแทน 乙 กูยังพอเข้าใจ
แต่เอารูปขนตาปลอมมาใส่เลข 9 ตามด้วย 恥番 นี่อะไรของมึงงงงงงงงงงง
>>587 แล้วคำที่มึงยกมามันทำไมมันดูเข้าใจยากจัง ยัยคุณอายะในคอลัมน์นี่ไม่เห็นพูดเรื่องเรียนเลยซักแอะ เอาแต่แต่งตัวไปเที่ยวอยู่นั่น มาร์ชเมลโลเมคอะไรเนี่ย กูงง 555555555
เห็นมั้ยว่านางเป็นพวกเลี้ยวออกจากจุดประสงค์เดิมได้ง่ายมาก จะดูหนังสือสอบแต่กลับไปอ่านหนังสือแฟชั่นหรือหัวเราะฟุ้งซ่านเป็นชั่วโมง อาริมะขอให้ช่วยจับคนร้าย แต่สิ่งที่ทำจริงๆคือเป็นอีแจ๋ว ทดลองประสิทธิภาพสินค้าจากจอร์จกับซาร่า ถ้าไม่มีคนกระตุ้น ตบให้กลับเข้ามาอยู่ในทางเดิม ไม่ให้ลืมจุดประสงค์เดิม นางก็ทำตัวลอยชายอยู่เรื่อยแบบนี้ต่อไปนั่นแล้
ตอนล่าสุดกูว่านางแบบอายะโคตรแรด คือมึงมีแฟน (ที่ทะเลาะกัน) มีเขา (ที่ได้แหวนมา) มีรุ่นพี่ที่แอบชอบ แล้วยังมีเคนตะอีก
หันมองดูเจ้าแม่เรย์กะ....
คาบุนี่รอบรู้จริงๆ กลุ่มอาการแบบนี้ยังอุตส่าห์รู้ชื่ออีก สมแล้วที่ชอบดูสารคดี
แต่ที่เหนือกว่าคาบุคืออ.ฮิโยโกะเนี่ยแหละ
>>591 ไม่แน่นะ คนเขียนเรื่องอายะนี่อาจจะเป็นท่านซาราระหรือหัวหน้าห้องก็ได้ รับจ็อบเขียนบทความลงนิตยสาร ระหว่างเขียนอาจจะเอาเรย์กะเป็นแบบ แล้วมโนเอาถึงชีวิตเลิศหรูรายล้อมด้วยหนุ่มหล่อๆว่าต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆเลย แล้วก็เมคเรื่องร้ายๆซวยๆบ้างคนจะได้ไม่อิจฉาจนเกินไป หัวหน้าห้องอยู่ชมรมที่เกี่ยวกับขีดๆเขียนๆด้วยใช่มะ อาจจะใช่ก็ได้นะ 5555555555555555
อ่านตอนที่คาบุรากิทักเรื่องอาการของเรย์กะแล้วนี่มันเข้าตัวกูชัด ๆ อย่างเวลานี้กูควรจะทำโปรเจคจบได้แล้วยังมานั่งอู้อ่านนิยายอยู่เลย 555555
ว่าแต่อะไรคือการที่มีฉากติวหนังสือแต่ติวกันคร่ำเคร่งขนาดนี้ปกติแนวนี้มันควรจะมีโมเม้นอะไรมากกว่านี้ไม่ใช่หรอฟะ นี่เล่นนั่งคร่ำเคร่งอ่านหนังสือจริงจังตลอดเลย
ตอนคาบุรากิทักเรย์กะนึกว่าจะมีฉากแบบให้คำแนะนำเรื่องแก้นิสัยแล้วมาช่วยติวหนังสือกัน แต่นี่พอพูดแล้วเงียบไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมจะเอาสมุดให้ลอกแล้วโดนปฏิเสธอีก 5555555555555
เออ แต่มีตู้น้ำมีชุดชามาตั้งในห้องประชุมนี่ก็แสดงว่าที่สองสามคนนี้มันชอบมานั่งสุมหัวกันก็ไม่ใช่ความลับแล้วสินะ ทางโรงเรียนรู้แน่ๆ บริการเพียบพร้อมซะขนาดนี้
ขออนุญาตเอาฟิคลง >>571-573
ก่อนถึงวันเดินทาง ฉันตรวจเช็คทุกอย่างจนแน่ใจว่าจะไม่ลืมเพราะไม่รู้ว่าบนเกาะจะมีร้านให้ซื้อหรือเปล่า แต่ใจจริงก็อยากเตรียมพวกครีมบำรุง ของเล็กๆน้อยๆไปอีกชุดเลยอะน้า~ จะได้มั่นใจว่า’ถ้า’ลืมจริงๆ ยังไงก็มีสำรอง แต่แค่นี้ก็ 4 กระเป๋าแล้ว ไปอยู่ตั้ง 10 วันไม่รู้ว่าจะได้เจอกิจกรรมแบบไหนบ้างเลยเตรียมเผื่อๆไปเลย
ตรวจแล้วตรวจอีกจนแน่ใจว่าครบทุกอย่าง ค่อยเข้านอนได้อย่างสบายใจหน่อย
แต่เช้าวันถัดมาก็ต้องเจอกับเรื่องน่าตกใจ!? เอ๋ ทำไมท่านพ่อกับท่านแม่ไปด้วยอะ????
“อรุณสวัสดิ์ เรย์กะ ตื่นเช้าจังเลย” ตาทานุกิหัวเราะจนพุงกระเพื่อม
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านพ่อกับท่านแม่ไปด้วยหรือคะ”
“นานๆทีจะว่างไปเที่ยวกับลูกสาวสุดที่รัก เป็นการเริ่มต้นฤดูร้อนที่ดีจริงๆ” ก็ไปแทบจะทุกปีไม่ใช่เรอะ…..
“ท่านพ่อทิ้งงานไว้ให้ท่านพี่ทำคนเดียวแบบนี้ ไม่ดีเลยนะคะ”
ท่านพ่อลนลานตอบกลับมาว่า “ทาคาเทรุจะตามมาหลังจากเคลียร์งานเสร็จ เรย์กะอย่าโกรธพ่อนะ อยากกินอะไร พ่อจะพาไปกินหมดทุกอย่างเลย”
“เอ้าๆ เลิกเล่นกันได้แล้วค่ะทั้งสองคน ออกจากบ้านช้ากว่านี้จะไปถึงสนามบินสายนะคะ”
เมื่อไปถึงสนามบิน พอเจอคาบุรากิ ฉันก็รีบไปประกบตามถามคำถามสำคัญ
“ไหนตอนแรกบอกไม่มีผู้ใหญ่มาด้วยไงคะ”
คาบุรากิทำหน้าลำบากใจก่อนจะตอบกลับมา “ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะมาแหละ แต่ไม่รู้ไปไงมาไง พ่อแม่ฉันก็ไปชวนพ่อแม่เธอกับเอ็นโจแล้วก็ไอระกับยูริเอะมาด้วย” คาบุรากิเบ้หน้า “ดีนะมาไม่ครบ”
“ใครมาบ้างเหรอคะ”
“ก็มีแค่ของฉัน ของเธอ แล้วก็ท่านแม่ของเอ็นโจ”
“อ๋อ..”
“แพลนที่วางไว้ตอนแรกเลยพังไปหมด เพราะพวกผู้ใหญ่เกิดคึกจะจัดปาร์ตี้อะไรไม่รู้”
“เอ๋.. แล้วจะทำยังไงดีคะ”
“ไม่รู้สิ” คาบุรากิทำหน้าเบื่อๆ “แต่พอมีวันที่ว่างอยู่บ้างแหละ ค่อยหาเวลาไปเอา”
“ค่ะ” ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรต่อก็ได้ยินเสียงเรียกมาจากข้างหลัง
“คุณพี่เรย์กะ~” ฉันรีบหันขวับกลับไปมอง ก็เห็นยูกิโนะวิ่งร่ามาหาฉันกับคาบุรากิตามด้วยเอ็นโจและมาดามเอ็นโจ
“ยูกิโนะคุง~ มาแล้วเหรอจ๊ะ” ฉันคุยกับยูกิโนะสองสามคำแล้วหันไปสวัสดีมาดามเอ็นโจและเอ็นโจที่เดินมาถึงทีหลัง เรียกเอ็นโจว่าชูสุเกะก็รู้สึกแปลกๆดี...
“ยูกิโนะ ไปสวัสดีผู้ใหญ่ก่อน”
“ฮะ” ยูกิโนะรับคำกับเอ็นโจแล้วเดินไปสวัสดีท่านพ่อและท่านแม่ของฉันกับคาบุรากิที่กำลังคุยอยู่กับท่านไอระและท่านยูริเอะ
“มาช้านะ ชูสุเกะ”
“โทษที มีปัญหานิดหน่อย”
“อ้อ เรื่องเดิมเหรอ”
“ใช่”
“ยังจัดการไม่ได้อีกหรือไง” เอ๋~ พูดเรื่องอะไรกันน่ะ เค้าก็อยากรู้นะ ฉันแกล้งทำเป็นให้ความสนใจร้านค้ารอบๆ แต่หูผึ่งเต็มที่
“ไม่ได้ทำได้ง่ายๆอย่างนั้นนี่นา มาซายะก็รู้นี่” พูดเรื่องอะไรกันนะ...
“อ่า”
“คุณคิโชวอินอยากรู้มั้ยครับ”
“เอ๊ะ เอ่อ.. ก็ไม่เท่าไหร่นะคะ”
“เออใช่! ปรึกษาคิโชวอินก็ได้นี่ชูสุเกะ” หาาา พูดอะไรน่ะคาบุรากิ๊--!
“ไม่ดีหรอกมั้งมาซายะ แค่นี้ก็วุ่นวายมากอยู่แล้ว” เอ็นโจหันมามองฉันยิ้มๆ หาา จะหาว่าฉันเป็นตัววุ่นวายเหรอ ไม่ใช่สักหน่อย!!
พวกเรายืนคุยกันได้สักพักก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง
ระหว่างทางเดินจะไปขึ้นเครื่องบิน ฉันก็ตระหนักถึงปัญหาสำคัญ ท่านไอระกับท่านยูริเอะคงนั่งด้วยกัน ท่านพ่อท่านแม่ ท่านประธานกับมาดามคาบุรากิ เอ็นโจก็คงนั่งกับคาบุรากิ แล้วยูกิโนะคุงก็นั่งกับมาดามเอ็นโจ ละ แล้วฉันจะนั่งกับใคร!?
“เห~ ก็ผมอยากนั่งกับคุณพี่เรย์กะนี่ฮะ”
“ไม่ได้นะจ๊ะ เดี๋ยวจะไปรบกวนคุณเรย์กะเข้า” เมื่อกลุ่มตระกูลเอ็นโจที่เดินตามหลังกลุ่มบ้านของฉันใกล้เข้ามา ก็ได้ยินเสียงของยูกิโนะอ้อนมาดามเอ็นโจ
“งั้นเดี๋ยวผมไปถามคุณพี่เรย์กะเอง”
“เดี๋ยวสิ ยูกิโนะ!”
“คุณพี่เรย์กะ~ ผมไปนั่งด้วยได้หรือเปล่าฮะ” ฉันก้มลงมองยูกิโนะที่วิ่งมาหาฉัน
“ได้สิจ๊ะ”
“เย้” ยูกิโนะตะโกนอย่างดีอกดีใจ แหม น่ารักจริงๆ เทวดาน้อยของฉัน ฮุฮุฮู
“แหม เด็กคนนี้นี่” มาดามเอ็นโจดุยูกิโนะอย่างไม่จริงจังนักก่อนจะพูดกับฉัน “ขอโทษนะคุณเรย์กะ ยูกิโนะชอบไปรบกวนอยู่เรื่อยเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ยูกิโนะไม่ได้รบกวนเลย”
“เห็นมั้ยล่ะฮะ ผมบอกแล้ว” เสียงเล็กๆดังแทรกขึ้นมา เรียกรอยยิ้มเอ็นดูขึ้นมาบนใบหน้าของทุกคน
อา ผ่านพ้นปัญหาเรื่องจะนั่งกับใครไปได้แล้ว ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเทวดาน้อยแท้ๆเลย ยูกิโนะคุง ขอบใจนะจ๊ะ
เมื่อขึ้นเครื่องมาแล้ว ฉัน ยูกิโนะ และมาดามเอ็นโจนั่งแถวเดียวกัน ฉันให้ยูกิโนะนั่งฝั่งติดหน้าต่าง เด็กๆคงอยากดูวิวใช่มั้ยล่า~ ง่ะ.. แล้วทำไมเอ็นโจถึงมานั่งลงข้างมาดามเอ็นโจละเนี่ย กลายเป็นว่าฉันได้นั่งข้างเอ็นโจ(แบบไม่ได้ตั้งใจ)ซะงั้น
“ไม่ไปนั่งข้างท่านคาบุรากิเหรอคะ”
“มาซายะชอบนั่งคนเดียวน่ะ” เอ็นโจหันมามองหน้าฉันก่อนจะบุ้ยปากให้ฉันหันไปดูคาบุรากิที่นั่งอยู่ด้านหลัง หมอนั่นกำลังอ่านหนังสือส่วนที่นั่งข้างๆที่ควรจะเป็นให้คนนั่งกลับกลายเป็นที่วางหนังสือจำเป็นซะได้ โฮ.. เด็กที่ติดอันดับท็อปของสายระดับเสมอใช้ชีวิตแบบนี้เองหรือคะ…
-------------------------------------------
>>602 เป็นฟิคแนวไหนเนี่ย กูจะได้ปรับตัวถูก ตลก เสื่อม ดราม่า ปวดตับ รอมคอม มิติลี้ลับ???? 5555555555555555
ถ้าเชิญท่านฟุยุโกะมาด้วยอาจจะได้ตามหาตำนานขุมทองบนเกาะหรือไม่ก็พากันไปพิสูจน์เรื่องผีก็เป็นได้
>>606 >>607 อาจจะเป็นกระเป๋ามิติที่สี่แบบโดราเอมอน ว่าไปหุ่นเจ้าแม่ก็คล้ายๆโดราเอม่อนเหมือนกั........//โดนโบตั๋นปักคอ
ขอ KY ฟิต จาก https://fanboi.ch/webnovel/4296/469/
บทสองของฟิต จอมมาร VS ธิดามาร คราวที่แล้วธิดามารนำหน้าจอมมารไป 1 แต้ม รอบนี้จอมมารจะตีโต้ได้หรือไม่
...................................................................................................
“ก็จะให้ยอมเป็นแบบนั้นก็ต่อเมื่อคุณคิโชวอินชอบคาบุรากิคุงค่ะ แต่ถ้าหมั้นแบบคลุมถุงชนโดยคุณคิโชวอินไม่ยินยอมล่ะก็....” ทาคามิจิทำท่าอารา
อาร่าก่อนหยิบดอกกุหลาบพันปีสีชมพูที่อยู่บนโต๊ะ “พวกชั้นไม่อยู่เฉยหรอกค่ะ” พร้อมขย้ำดอกไม้ทิ้งด้วยสีหน้าที่พวกมาเฟียมาเห็นคงก้มกราบเรียก
อาเจ้ทีเดียว
มาซายะ....ถ้าบุญวาสนานำส่งหรือเวรกรรมนำพาให้ครองคู่กับทาคามิจิ ยินดีด้วยนะนายได้เข้าสู่สมาคมพ่อบ้านใจกล้าแน่นอน ขอให้โชคดีมีชัย
“หึ..ถึงพูดดีขนาดไหนแต่เพียงเธอคนเดียวที่ไม่มีอะไรเลย จะเอาอะไรไปค้านพวกผู้ใหญ่กัน” ผมชงลาเต้อาร์ตให้เป็นเนื้อเดียวกับกาแฟ อุ..พอทำแบบนี้นึกถึงเรื่องนั้นเลยแฮะ...
“ความเป็นจริงไม่ได้สวยหรูอย่างที่เธอคิดหรอกน่ะ” เหลือบมองทาคามิจิที่หยิบมาการูนมากินอย่างเรียบร้อยบุคลิกการกินของเธอดูสง่างามราวกับได้ฝึกมาแบบคุณหนู ผมไม่ได้คลุกคลีกับเธอเท่าไหร่เลยพึ่งสังเกตเห็นกิริยาของเธอ แต่พึ่งมาทำท่าทางอย่างนี้เหมือนแกล้งแสดงมาปั่นหัวผมเล่นมากกว่า
“นี่...คุณเอ็นโจชั้นบอกว่า [พวกชั้น] น่ะ ไม่ได้ว่าตัวชั้น [คนเดียว] เสียหน่อย”
เธอกล่าวออกมาอย่างเรียบง่าย...แสดงว่าต้องมีกลุ่มคนหนุนหลังเธออยู่ด้วย มาซายะ? ไม่สิเจ้าหมอนั่นยังไม่ได้คบกับทาคามิจิ แถมถ้าทำจริงคงลากผมเข้าร่วมอยู่แล้ว
“ถึงทางชั้นไม่ทำอะไร คุณเอ็นโจคงไม่ยอมอยู่เฉย จริงไหมคะ? แล้วก็คุณคิโชวอินไม่ใช่พวกยอมเป็นเครื่องมือทางธุรกิจอยู่แล้ว คงหาทางเฉไฉขอเรียนต่อมหาลัยให้จบแล้ว โดยระหว่างนั้นก็คงหาคนรักถ้าหาไม่ได้คงจะปัดผ่านการดูตัวจนถึงวัยทำงานล่ะมั่งค่ะ”
มีเวลาให้มีคนทำแต้มอยู่แล้วล่ะเน้อ ถ้าไม่ท้อไปก่อนล่ะนะ แต่ถ้ามีคนรอบข้างสนับสนุนก็มีโอกาสพิชิตใจ ทาคามิจิขยับปากเปล่งประโยคที่แผ่วเบา ด้วยสีหน้าร่าเริง
ผมนี่ถึงกับขมวดคิ้ว นี่จะบอกว่า “คุณเอ็นโจให้ฉันช่วยสิ ไม่ช่วยฟรีนะ ” อ่า...ผมคงชงกาแฟแรงไปหน่อยเสียงช้อนกระทบก้นเลยดังไป จากที่ผมเคยคิดว่าจะแอบใช้ทาคามิจิเป็นตัวเชื่อมในการเข้าหาคุณคิโชวอินอีกทางแต่กลับโดนลูกย้อนมาแบบนี้รู้สึกหงุดหงิดชะมัด
“คุณทาคามิจิจะพูดตรงๆ มาก็ได้นะ เช่น คุณเอ็นโจช่วยให้ชั้นเป็นที่ยอมรับกับคนรอบข้างคาบุรากิคุงทีสิ ชั้นเองก็ช่วยเรื่องคุณคิโชวอินกับคุณด้วยนะ” ผมมองทาคามิจิด้วยสายตาดูถูก
“ผมน่ะ ไม่ได้จนตรอกถึงขนาดเอ่ยขอความช่วยเหลือจากใครหรอกนะ อยากให้เป็นที่ยอมรับก็พยายามไต่ไปสู่จุดมุ่งหมายด้วยกำลังของตัวเองสิ แต่ว่าสำหรับบางคนที่พยายามแค่ไหนแต่ไม่มีใครเห็นคุณค่าทำไปก็เสียเปล่าน่ะ”
เหมือนกับคุณที่พยายามแทบตายแต่ก็โดนพวกมีเส้นแย่งหน้า เหมือนตอนสอบถึงจะเก่งแค่ไหนก็ต้องยอมลงให้กับพวกตระกูลใหญ่อย่างคาบุรากิน่ะ
ปึง!!
ดูท่าการพูดสวนกลับไปของผมน่าจะได้ผลดี ทาคามิจิกระแทกแก้วกาแฟดังปึง ร้านนี้ใช้ของดีแฮะกระแทกแก้วซะแรงแต่ไม่แตก
“คุณทาคามิจิจะรับโกโก้มิลล์ไหม? เค้าว่าโกโก้มันช่วยทำให้อารมณ์ดีน่ะ” ผมจิบกาแฟอย่างอารมณ์ดี พลางชี้นิ้วไปที่มุมปาก โฮ่..ทาคามิจิหน้าตา
ตอนอารมณ์โกรธเนี่ยเอาไปขู่พวกผู้หญิงที่รุมแกล้งได้สบายเลยน่ะ ผมรับประกัน
..................................................................
จอมมารตีโต้ได้แล้วววว ตอนนี้ 1 - 1 กันแหล่ะ
>>620 มาต่ออีก จอมมารช่างกล้าพูดนะว่าไม่จนตรอกหักธงตัวเองไปกี่รอบล่ะฮ่ะ ธิดามารจัดการมันเลยค่ะ!!
.................................................................................
“...............”
“..............”
ทาคามิจิที่หน้าเหมือนรูปปั้นท้าวจตุโลกบาลหน้าศาลเจ้า อยู่ๆก็สูดหายใจเข้า หายใจออกเหมือนกับพยายามกดอารมณ์ตัวเองลง
“ที่ว่าถึงจะพยายามแค่ไหนถ้าไม่มีคนเห็นคุณค่าก็เปล่าประโยชน์สินะคะ”
อ่า...ผมขอถอนคำพูดเรื่องที่ทาคามิจิพยายามกดอารมณ์ตัวเองลงนะ ไอ้ท่าเมื่อกี๊มันเป็นท่าเรียกแรงฮึดก่อนปล่อยระเบิดลูกใหญ่ อุ..รู้สึกเหมือนไปเปิดกล่องต้องห้ามแพนโดร่าเข้ามาเลย
“เหมือนกับคุณเอ็นโจ ที่พยายามทำกับคุณคิโชวอินใช่ไหมคะ? ไม่ว่าทำยังไงเธอก็ถอยหนี ไม่ว่าพูดคำหวานไปเท่าไหร่เธอก็ระแวง ไม่ว่าพยายามกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เธอก็ไม่แล ไม่เข้าใจความรู้สึกของคุณเลยสินะ”
เสียงทาคามิจิเริ่มมีน้ำเสียงที่เย็นขึ้นเรื่อยๆ กับคำพูดที่คมบาดเข้าจิตใจผมอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
“แต่มันก็เป็นบทลงโทษที่เหมาะกับคุณดีนะ สำหรับคนที่ใช้ความรู้สึกของคนอื่นเป็นเครื่องมือก่อนน่ะ” อยู่ๆ ทาคามิจิก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเลื่อนอะไรสักอย่าง
“นี่คุณเอ็นโจรู้หรือเปล่า การสร้างความเชื่อใจในสายสัมพันธ์มันเป็นสิ่งสำคัญมากนะ ถ้าหมดไปแล้วถึงทำดีแค่ไหนมันก็ไม่ฟื้นคืนมาหรอก มีแต่สร้างความระแวงกันก็เท่านั้น”
ทาคามิจิโชว์รูปในมือถือของเธอให้ผมดู......รูปนั่น...
เป็นรูปที่คุณคิโชวอินยิ้มอย่างสดใสกับตุ๊กตาเมอแรงค์รูปเด็กผู้หญิงผมม้วน......
…..อิจฉาหรือปล่า? อิจฉาสิน่ะ คุณคิโชวอินยิ้มแบบนี้กับชั้น แล้วก็กับคนอื่นๆ ที่....... “ไม่ใช่คุณ” .....
ผมเข้าใจสิ่งที่ทาคามิจิพูด คุณคิโชวอินไม่ใช่พวกผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวแบบนั้น ถ้าผมไม่ใช้หนี้บุญคุณกับคุณคิโชวอิน มีความจริงใจกับเธอมากกว่านี้ สร้างความเชื่อใจกับเธอผมคงได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสแบบที่ทาคามิจิได้เห็นจากคุณคิโชวอินบ่อยครั้ง ผมก้มหน้านิ่งเงียบจนทาคามิจิเก็บโทรศัพท์ไป
>>623 เอาให้จบบทสอง
........................................................................................
“.......ชั้นพอเข้าใจอยู่ค่ะ ว่าบางครั้งสภาพแวดล้อมก็หล่อหลอมคนเราให้ดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดดังนั้นฉันจะโทษคุณเอ็นโจทั้งหมดไม่ได้ แต่ใช่ว่าชั้นจะให้อภัยในสิ่งที่คุณทำอยู่หรอกน่ะ”
“.........”
“เก็บพวกขยะของคุณกลับไปซะ หวังว่าคงไม่ทำเรื่องเข้าข่ายอาชญากรรมอีกนะคะ นี่ก็เย็นมากแล้ว ขอตัวนะคะคุณเอ็นโจ”
ทาคามิจิดันพวกเศษอุปกรณ์ดักฟังกับกล้องรูเข็มมาทางผมและลุกขึ้นเก็บของ ผมมองดูนาฬิกาข้อมือซึ่งเป็นเวลาที่เย็นพอสมควรคงถึงเวลาที่บทสนทนาตรงนี้จบลง
“ผมทำผิดกับคุณไว้เยอะทีเดียวเพื่อเป็นการขอโทษ วันนี้ผมขอเลี้ยงเพื่อเป็นการไถ่โทษเล็กน้อยก็แล้วกัน”
“ไม่จำเป็นค่ะ ชั้นได้จ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ตอนสั่งอาหารแล้ว ไม่รบกวนคุณเอ็นโจไปมากกว่านี้แล้วค่ะ”
ครับๆ ไม่รับสินน้ำใจไถ่โทษที่เล็กน้อยแสดงว่าไม่ยอมยกโทษให้ผมตามที่เธอกล่าวไว้ ซึ่งผมก็คิดอยู่แล้วล่ะก็เล่นข้ามเส้นความส่วนตัวติดนู่น ติดนี่จนเกิดความระแวง แถมยังทำให้คุณคิโชวอินที่เป็นเพื่อนสนิทเกิดอาการขวัญเสียอีก ความผิดมันเยอะขนาดนี้สมควรไม่ได้รับการให้อภัยและโดนฝีปากดุจคมมีดเชือดเฉือน ถ้าเป็นคนอื่นนี่ผมใช้อิทธิพลของผมกดดันกับครอบครัวของหล่อนไปแล้ว โชคดีไปนะคุณทาคามิจิที่มาซายะชอบคุณ และคุณคิโชวอินเป็นเพื่อนคุณน่ะ
“งั้นผมขอไม่ส่งคุณน่ะ คุณคงกลับเองได้โดยไม่พึ่งผม”
ผมยิ้มส่ง “ผู้เตือน” ไปอย่างเสแสร้ง คุณคิดว่าผมใจดำสินะที่ไม่ยอมส่งผู้หญิงตัวคนเดียวกลับบ้าน นี่...ร้านรูนด้ามันไกลจากตัวเมืองมากแถมรถโดยสารที่ผ่านทางนี้มีน้อย ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องมารถส่วนตัวกับรถแท็กซี่ จะบอกว่าทาคามิจิมาด้วยรถแท็กซี่หรอ..หึ...ตอนแรกผมคงจะเชื่อและจะให้เธอติดรถพาเธอกลับบ้านไปแล้วล่ะ
ถ้าตอนมาร้านผมไม่เจอทาคามิจิออกมาจากรถยนต์หรูหรา ผมถึงสั่งให้คนขับรถแอบไปจอดมุมอับเพื่อไม่ให้รถคันนั้นสังเกตเห็น เมื่อมีคนส่งก็ต้องมีคนมารับใช่ไหม?
“....อือหือ?....นั่นนะสิค่ะ...ช่างรอบรู้สมกับเป็นคุณชายเอ็นโจจริงๆ”
ทาคามิจิก็ยิ้มตอบกลับมาแบบผู้ดีที่ดูก็รู้ว่าแกล้งยิ้มอย่างประชดประชัน ทาคามิจิเธอเองไม่ต้องฝึกสีหน้าประชดประชันหรอกนะแค่คำพูดก็พอแล้ว
“ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ก็มาดูตรงระเบียบก็ได้นะคะ ว่าใครมารับชั้น”
ทาคามิจิส่งเสียงสบายๆ โบกมือลั้นลา แต่มันกวนประสาทผมได้ดีเลยล่ะ เอาซิ!! ผมอยากรู้เสียจริงว่าใครมาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของเธอให้เธอมาเป็น “ผู้เตือน” ผมอย่างไม่กลัวตายกัน
เมื่อทาคามิจิออกจากประตูไป ผมก็ดื่มกาแฟให้หมดและเดินออกไปที่ระเบียงด้านข้างที่สามารถมองเห็นหน้าร้านและตัวถนน โอ๊ะ..เจอทาคามิจิที่เดินออกจากร้านไปทางรถหรูคันเดิมที่ผมเห็นเมื่อตอนแรก หือ? มีคนก้าวออกมาจากรถ? ทาคามิจิก็โค้งตัวเคารพผู้ชายคนนั้นก่อนจะเข้าไปในรถซึ่งฝ่ายชายก็ปิดประตูให้
อ่า......เข้าใจแล้ว
ผมไม่แปลกใจแล้วที่ทาคามิจิกล้ามา “เตือน” ผมอย่างไม่เกรงกลัวอิทธิพลของตระกูลเอ็นโจ รู้ถึงอุปกรณ์ดักฟังที่คนของผมไม่น่าจะพลาดได้ถึงขนาดที่เธอเล่า หรือคนของผมที่แอบตามคุณคิโชวอินไปที่บ้านเธอ แล้วกิริยาแบบผู้ดีของเธออีก คุณเองสินะที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด
“คิโชวอิน ทาคาเทรุ”
และเขาก็มองขึ้นมาทางผมด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
.................................................................
โธ่..จอมมารตีโต้ไม่ทันไรเจอธิดามารสวนกลับเข้าให้ แถมมารู้ว่าธิดามารเป็นเด็กปั้นของเทพมารอีก พยายามเข้านะจอมมาร!!
>>626 เอ้า ตายแล้วฝั่งนั้นเขามีกันสอง เราจะสู้เขาได้เหรอ แถมเทพมารผนึกกำลังกับธิดามารอีก ศึกนี้ตึงมือเกินไปแล้ว 5555555555555555
กูล่ะสงสารจริงๆตอนวาคาบะเอารูปให้ดู เป็นยิ้มที่ตัวเองไม่เคยได้รับเลยซักครั้ง แถมยังหักธงตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะงั้นกูวางเดิมพันข้างจอมมารละกัน กูชอบเชียร์มวยรองเสมอ //โบกปอมปอมเชียร์
ตายๆๆ เทพมารออกโรง จอมมารกับธิดามารนี่กลายเป็นระดับบอสกลางไปเลย
กรี๊ดดดดดด จอมมาร ธิดารมาร เทพมาร ออกโรงครบหมด จอมมารจะเอาไรมาสู้ คุณคิโชวอินเค้าชอบธิดารมารกับเทพมารขนาดนั้น 5555555 สงสารจอมมารขึ้นมาเลย หัวเดียวกระเทียมลีบสุดๆ งั้นเราอยู่ข้างจอมมารละกัน ฮือ
เทพมารออกโรงขนาดนี้ จอมมารจะเอาที่ไหนไปสู้กับเค้าวะ 555
ท่านเรย์ก๊าาาาาา ว่าแล้วเป็นพวกสมาธิค่อนข้างจะสั้นนี่เอง! (สั้นเพราะหาเรื่องเฉไฉไปทำอย่างอื่น) เผลอๆถ้าไปฝึกจริงจังอาจจะอ่านหนังสือดีขึ้นก็ได้นะ!
ทั่นเรย์กะวันนี้ ...ดูทรงแล้วคานยาวจนจบเรื่องแน่นอน ที่ทำอยู่นี่มันกิจกรรมสาวมอปลายจริงๆเหรอวะ เอาตัวอย่างแบบสาวนิตยสารตอนที่แล้วซะบ้างฟฟฟฟฟฟ
กูว่าถ้าอิโคมะไปป้วนเปี้ยนรอบตัวเอ็นโจแล้วโดนจับได้ คงไม่โดนขยี้หรอก แต่คงถูกหลอกรีดความลับจนเกลี้ยงแน่ๆ...
ทำไมแปลไทยตอนใหม่วันนี้มันเอื่อยจังหว่า กลับไปสู่วันๆ ของท่านเรย์กะอีกละเร้อ
ตอนนี้อ่ะ ไม่มีของกิน 555555555
แปลไทยตอนล่าสุด ตอนเบาๆแบบนี้ ไม่มีลมเลย กองเรือต่างพากันจอดนิ่งหมด
ทำไมกุชอบตอนล่าสุดว่ะ รู้สึกจิตใจกุได้ฮีลไปด้วยเลย กุควรไปนั่งใต้น้ำตกด้วยป่ะ?
กูไปอัพเดทสารบัญแฟนฟิตกับรูปแฟนอาร์ตมา ขาดตรงไหนช่วยบอกด้วยนะจะได้เพิ่มให้
>>649 คนอื่นเขาโทรหาเจ้าแม่หรือส่งเมล์หากันได้หมดทุกคนละ แถมเจ้าแม่ก็เปย์สารพัดสิ่ง มีเอ็นโจคุงนี่ล่ะที่ไม่เคยได้รับอะไรเลยซักอย่าง ของที่ได้ก็ของเหลืออีกต่างหาก รู้สึกอนาถชิบเป๋ง
อ่านฟิคจอมมารปะทะธิดามารแล้วรู้สึกฮา สองคนนี้เขาเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอออ ไหงฟิคนี้เป็นศัตรูกันไปได้ 55555555555555555
แต่จอมมารกูจะเอาอะไรไปสู้เขาวะ เทพมารเป็นแบ็คอัพให้ธิดามารอีก แพ้ตั้งแต่นอนอยู่ในมุ้งแล้วล่ะ R.I.P. นะ เอ็นโจคุง //ทำท่าไม้กางเขนในใจ
โหลๆ เทสๆ กูคนทำสารบัญเองน้า ตอนนี้ยุ่งมากไม่ค่อยมีเวลามาทำเท่าไหร่ ทั้งสารบัญตัวละครหรือสารบัญอาหาร กว่าจะได้กลับมาทำอีกทีอาจจะหลายๆเดือนเลยด้วย ก็เลยมาบอกกันก่อน ใครอยากทำก็ทำได้เลยนะ สารบัญเป็นของทุกคน จะแก้หรือเพิ่มอะไรก็ตามสบายเลย
>>653 กูชอบสารบัญอาหารนะ ได้ความรู้ กูชอบอ่านเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่มึงใส่มามากๆ แถมดูแล้วทรมานตัวเองไป สารบัญตัวละครหลายอันมึงก็เขียนได้ฮามาก อย่างได้ฟังเรื่องไปเดทแบบยาวไป ยาวไป หรือเม้าท์มอยสินค้าจากทีวีไดเร็คดุจดั่งแม่บ้านว่างงาน หรือคาบุรากิโดนตบเกรียนกลับไป สรุปก็ได้ใจความทั้งตอน 5555555555555555 ขอบคุณโม่งสารบัญทุกคนที่เหนื่อยยากนะ
กูย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าๆ รู้สึกสะดุดตรงที่ท่านพี่ชมชุดที่เรย์กะใส่ในตอนที่ 7 ว่าชุดน่ารัก เข้ากันมากเลย ส่วนเอ็นโจชอบชมว่าน่ารัก ชุดเหมาะมาก ขนาดคำชมยังเหมือนกันเลยวุ้ย สมเป็นร่างแยกของกันและกันจริงๆ ต่างกันแค่ปฏิกริยาของคนได้ฟัง ท่านพี่พูดเรย์กะว่าปากหวาน เอ็นโจพูดนางถอยหนี 555555555555
ไหนๆก็เหมือนกันขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าท่านเทพมารก็มีสกิลจีบหญิงอย่างไก่อ่อนแบบเดียวกับจอมมารนะ... ไม่ใช่ใช่มั้ย...
KY นี้ดดด ในห้องก้นครัวมีทำ Spaghetti all'Amatriciana แบบที่นางไปกินที่อิตาลีด้วยแฮะ โปะชีสมหาศาล แล้วจะผอมไหมนั่น...
https://m.pantip.com/topic/36852774
เกิดไรขึ้นกะแมวดุ้น... นิยายไม่ขึ้น หรือกูเป็นคนเดียว
เรื่องฮาจิเมะตอนนี้ก็ประกาศLCอย่างเป็นทางการไปแล้ว
ต้องรอดูว่าเว็บนายท่านจะกลับมาหรือไม่ เมื่อไหร่
เพิ่งเห็นประกาศล่าสุดจากเว็บนายท่าน
https://goshujin.tk/index.php
ต่อจาก >>602-603
ฮ้าาาา ถึงซะที ฉันน่ะไม่มีปัญหากับการนั่งเครื่องบินก็จริงแต่นั่งเรือก็ค่อนข้างจะกลัวอยู่นะ ถ้าเรือเกิดรั่วขึ้นมาฉันจะเอาชีวิตรอดยังไงคะ ยิ่งว่ายน้ำไม่แข็งอยู่
“เรย์~กะจัง!” ท่านไอระร้องเรียกพร้อมจับเข้าที่ไหล่ฉัน “เหนื่อยหรือเปล่า”
“ไม่เหนื่อยเลยค่ะ” ได้รับการทักทายอย่างสนิทสนทจากท่านอัศวินก็หายเหนื่อยแล้วค่า “ท่านไอระเป็นยังไงบ้างคะ”
“อื้อๆ ไม่เหนื่อยหรอก ชินแล้วน่ะ”
“อ๋อ มาบ่อยสินะคะ”
“เอ.. จะว่ายังไงดี ก็ไม่บ่อยหรอกนะ เคยมาที่นี่แค่ 4-5 ครั้งเอง”
“เอ๋ น้อยกว่าที่คิดเยอะเลยนะคะ”
“ก็ก่อนที่จะเปิดหาดให้เข้ามาเที่ยวได้ ที่เกาะนี้ไม่มีอะไรเลยนี่นา แถมถ้ามาก็มีแค่ฉัน ยูริเอะ มาซายะ ชูสุเกะ มีคนน้อยเลยเล่นไม่สนุกน่ะสิ เลยไปเที่ยวที่อื่นกัน”
“ใช่แล้วจ้ะ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่พวกเรามาหลังจากเกาะเปิดให้คนเข้ามาเที่ยว” คราวนี้ท่านเทพธิดาเข้ามาร่วมวงด้วย ถ้าบรรดานักเรียนซุยรันมาเห็นเทพธิดาสององค์คุยกันจะเกิดความรู้สึกยังไงนะ ฮุฮุฮุู
“ครั้งแรกของท่านคาบุรากิและท่านเอ็นโจด้วยหรือคะ”
“ไม่หรอก พวกฉันเคยมาเมื่อ4ปีก่อน” คราวนี้จักรพรรดิเข้ามาร่วมวงด้วย
“ต้องขอบคุณมาซายะเลยน้า~ ที่เชิญมา ไม่งั้นคงไม่ได้เข้ามาพักที่บ้านพักส่วนตัวตระกูลคาบุรากิหรอก” ท่านยูริเอะเอ่ยล้อๆ
“แต่ยูริเอะกับไอระก็พักไม่กี่วันไม่ใช่หรือไง”
“เอ๋ ไม่ได้อยู่จนครบกำหนดหรือคะ” ฉันเอ่ยถามอย่างตกใจ
“อื้อ ใช่แล้วจ้ะ มาซายะไม่ได้บอกเหรอ” ท่านยูริเอะตอบคำถามฉันพลางทำหน้างงๆ
“ไม่ทราบมาก่อนเลยค่ะ น่าเสียดายนะคะ”
“งั้นเรย์กะจังไปเที่ยวอังกฤษกับพวกฉันมั้ยล่ะ” ท่านไอระถามฉันอย่างนึกสนุก
“คงไม่ได้หรอกนะ ไอระ”
“ทำไม หวงเหรอ ชูสุเกะ”
“........”
“โอ๊ะ เรย์กะจังคงไม่สบายใจสินะ ขอโทษทีๆ” ท่านไอระเอ่ยอย่างลุกลี้ลุกลนเมื่อเห็นว่าฉันเงียบไป
“เอ่อ.. ไม่เป็นไรค่ะ แค่ไม่ชินนิดหน่อย”
“ขอโทษแทนไอระอีกทีด้วยนะคุณเรย์กะ ไอระก็เป็นแบบนี้แหละ อย่าถือสาเลยนะ” ท่านยูริเอะเอ่ยช่วยอีกแรง
“ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ อย่างที่บอกแค่ไม่ชินน่ะค่ะ”
“ขอโทษทีนะ ฉันเห็นว่าเรย์กะจังออกจะน่ารัก คงมีเรื่องรักๆเข้ามาเยอะ กับอะไรพวกนี้คงจะชินแล้ว”
“.....”
“เพราะตอนที่พวกฉันยังเรียนอยู่ซุยรันก็มีคนเข้าหาฉันกับยูริเอะเรื่อยๆ แล้วเรย์กะที่น่ารักขนาดนี้คงมีคนเข้าหาเยอะแน่นอน”
“.....”
“แต่เรย์กะจังคงยังไม่ชินกับเรื่องพวกนี้สินะ” ทะ ท่านไอระคะ พอก่อนเถอะค่ะ ทางนี้ถูกมีดปักอกเลือดจะไหลหมดตัวแล้วค่ะ
“คุณเรย์กะยังเด็กอยู่เลยนะไอระ จะทำอะไรก็ระวังหน่อยสิ”
“......”
“ขอโทษอีกทีน้าา เรย์กะจัง”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไรจริงๆนะคะ ท่านไอระไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ” ฉันพูดอย่างยิ้มแย้มแต่ในใจเลือดไหลซิบเลยค่า
“แล้วคุณเรย์กะมีคนที่ชอบบ้างหรือยัง” ท่านยูริเอะเอ่ยถาม
“....ไม่มีค่ะ”
“เอ๋ ไม่มีเลยเหรอ”
“ค่ะ”
“น่าเสียดายน้า.. ปีสุดท้ายของชีวิตนักเรียนม.ปลายแล้ว มีหลายเรื่องเลยนะที่ถึงแม้จะไปเดทตอนอยู่มหาลัยก็ไม่เหมือนไปตอนยังเป็นนักเรียนน่ะ” ท่านไอระพูดขึ้นมา
“ยกตัวอย่างหน่อยสิไอระ” ท่านยูริเอะพูดขึ้นมาอย่างขำๆ
“ก็อย่างไปเดทหลังเลิกเรียนในชุดนักเรียนไง” เอ๋!?
“ท่านไอระเคยไปเดทด้วยเหรอคะ”
“อื้อ เคยสิ”
“เอ๋~ แปลกใจมากเลยล่ะค่ะที่ข่าวเงียบขนาดนี้”
“แหม ก็ฉันไม่มีคนมาทำให้เป็นเรื่องใหญ่เหมือนยูริเอะนี่นา”
“อะไรกันเล่า” คาบุรากิที่เดินอยู่เงียบๆพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเรื่องเริ่มเกี่ยวข้องกับตัวเอง
“แต่สำหรับเรย์กะจังแล้วเนี่ย น่าเสียดายจริงๆนะ ถ้าฉันได้ไปเดทกับคนที่น่ารักอย่างเรย์กะจังคงจะมีความสุขมากๆแน่เลย” แหงะ.. ไหงวกมาเรื่องฉันอีกแล้วล่ะคะท่านไอระ
“.......นั่นสินะคะ”
“พอได้แล้วน่าไอระ ไม่เห็นหรือไงว่าคุณคิโชวอินลำบากใจน่ะ” เอ็นโจที่เงียบมานานพูดขึ้นบ้าง
“โอ๊ะ ขอโทษอีกรอบนะเรย์กะจัง”
“.....ไม่เป็นไรค่ะ”
“ขอโทษจริงๆนะ ฉันอยู่กับเด็กสองคนนั้นมานานจนลืมว่าเรย์กะจังยังเป็นเด็กอยู่น่ะ” เอ่อ… ยังไงกันนะ
“เดี๋ยวเถอะไอระ พวกฉันก็อายุเท่ากับคิโชวอินนะ”
ท่านไอระหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเอ่ยต่อว่า “ก็แถวๆนี้มีเด็กแก่แดดที่ตกหลุมรักพี่สาวคนสวยตั้งแต่สองขวบไง” ท่านไอระยิ่งอารมณ์ดีหนักขึ้นเมื่อท่านยูริเอะฟาดลงมาที่บ่าเบาๆ ……...ท่านไอระชอบโดนทำร้ายร่างกายสินะคะ
หลังจากนั้นหัวข้อก็ถูกเปลี่ยนไปคุยเรื่องการเรียนต่อ ฉันผู้ไม่ติดอันดับได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งเมื่อเดินตามพวกผู้ใหญ่ทันก็ถูกท่านประธานคาบุรากิเอ่ยแซวอย่างขำๆว่า ‘คุยอะไรเคร่งเครียด มาพักผ่อนแท้ๆ’ ใช่ไหมคะ วันหยุดฤดูร้อนทั้งทีควรจะเป็นทานคาคิโกริรสอะไรดีสิคะ
ฟังspotifyละมันรันเพลง gnossienne ขึ้นมา
เคยคุยเรื่องเพลงประจำตัวแต่ละคนกระทู้แรกๆโน้น (เคยเม้นท์ว่าทำไมเอ็นโจเป็นเพลงนี้ มันหม่นๆ ฟังแล้วกูเห็นเป็นภาพฟิล์มขาวดำ) เมื่อกี้ฟังไปก็นึกถึงหนังฟิล์มทั้งหลายที่ฮีชอบ... เออ เหมาะจริงๆว่ะ 5555
>>671 spotify มีเพลงคลาสสิคด้วยเรอะ น่าสนใจ เดี๋ยวกูลองใช้ด้วยดีกว่า
เพลงนี้โครตเข้ากับเอ็นโจมากเลยนะมึง เพราะชื่อเพลงมาจากวังคนอสซอส(knossos) เป็นวังเขาวงกตที่อยู่บนเกาะครีต ลองหารูปแปลนในอากู๋ดูสิ จะเห็นความเป็นเขาวงกต นามสกุลฮีก็แปลว่าปราสาทด้วย
กูเคยคิดว่าอ.แกฟังเพลงนี้ก่อนแล้วถึงตั้งนามสกุลให้เอ็นโจด้วยซ้ำ จะสื่อว่าจิตใจฮีมันวกวนดั่งเขาวงกตสินะ
>>673 เพลงนี้กูฟังแล้วเห็นความหม่นหมองทึบทึมว่ะ no.1 ตอนแรกๆก็ดูเหงาๆเศร้าๆยังไงก็ไม่รู้ แต่ช่วงท้ายๆกูรู้สึกว่ามันอ่อนหวานอยู่นะ เพราะเสียงใสๆของเปียโนมั้ง no.4 no.5 กูชอบนะ ฟังดูหวานกว่าหมายเลขอื่นๆ กูไม่มีความรู้เรื่องดนตรีนะ แต่ฟังแล้วคิดงี้อะ
กูว่าสัญลักษณ์แทนตัวหรือสิ่งของที่อ.แกใส่มาในเรื่องนี่ต้องคิดมาดีแล้วว่ะ บอกตัวตนของคนคนนั้นได้ครบถ้วนเลย ตอนเห็นชื่อกูลองเอาไปฟังดูก็แบบ เอ่อม เพลงหม่นขนาดนี้เลยเหรอ สงสัยหมอนี่ยิ้มๆแต่ข้างในหม่นหมองหดหู่อย่างแรงแหงๆ แล้วก็ไม่ผิดจริงๆด้วย กูว่าแกเก่งนะเขียนตามคอนเซปต์ที่กำหนดไว้เป๊ะเลย
>>674 กูเห็นด้วย Gnossienne ของ Erik Satie กูฟังแล้วแทบจะร้องไห้ยิ่ง No.1 นะโครตเศร้า ขนาดเพลงเบอร์ 4 เบอร์ 5 ที่ว่าหวานขึ้นนิดหน่อยก็ยังหม่นอ่ะ มันเป็นเพลงที่มันหม่น มันเศร้า แถมกดดันอีกน่ะ แล้วคิดดูขนาดเรย์กะคิดว่าเหมาะกับเพลงนี้แสดงว่าชีต้องคอยสังเกตเอ็นโจตลอดอ่ะ เพราะคนที่ยิ้มๆแล้วมีรังสีหม่นๆน่ะ ถ้าไม่สังเกตนานๆ ไม่รู้หรอก
ขอ KY ด้วยแฟนฟิต เจ้าค่าาา
ต่อตอนสาม ของแฟนฟิต จอมมาร VS ธิดามาร
เทพมารกับธิดามารร่วมมือกัน จอมมารจะเอาอะไรไปสู้!!
.....................................................................................................
“คิโชวอิน ทาคาเทรุ”
มองมาทางผมด้วยสีหน้าเย้ยหยันก่อนหันหลังกลับเข้าไปในรถด้านคนขับและขับออกไป เป็นอันแน่ชัดแล้วว่าคิโชวอินคนพี่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ในการตระเตรียมครั้งนี้ แต่ทำไมทาคามิจิถึงไปร่วมมือกับผู้ชายคนนั้นได้ มีเหตุผลอะไรที่ทำแบบนั้น ผมกลับไปที่ห้องเพื่อเก็บกวาด ”ขยะ” ที่ทาคามิจิทิ้งไว้ และผมก็ได้เห็นดอกไฮยาซินธ์ (Hyacinth) สีม่วงวางไว้ที่เบาะนั่งของเธอ
........ฉันขอโทษ..........
“ฉันขอโทษ” คือความหมายของดอกไม้ชนิดนี้ ทาคามิจิคงแอบวางไว้ให้ผม นี่คงเป็นดอกไม้ที่เธอตั้งใจมอบให้ผมไม่ใช่ช่อดอกกุหลาบพันปีสีชมพู (Rhododendron) ที่แปลว่า “ขอเตือน” ไอ้ดอกไม้คำขู่นั่นน่าจะมาจากคุณคิโชวอินคนพี่เสียมากกว่า การที่ทาคามิจิทำตัวเป็นศัตรูกับผมก็คงเป็นคิโชวอินคนพี่อีกนี่แหล่ะ คงไปพูดขู่บังคับอะไรกับทาคามิจิหรือเปล่า? เพราะคนเป็นศัตรูกันไม่ส่งดอกไม้ขอโทษแบบนี้หรอก ถึงผมจะเจ็บจากคำพูดของเธอแต่ทาคามิจิเองก็คงเจ็บปวดจากการทำตัวร้ายๆ ใส่ผมเหมือนกันมั้ง?
อืม....คงเจ็บแหล่ะ..เพราะ “ทาคามิจิ วาคาบะ” เป็นคนรักพวกพ้อง....และผมก็เป็นหนึ่งในพวกพ้องของเธอนี่นา.....
ผมโทรเรียกรถบอดี้การ์ดที่จอดรออยู่มารับ และซื้อขนมฝากยูกิโนะที่คอยทำหน้าที่ถ่วงเวลาถ้าผมไปช้า โดยไม่ลืมนำขยะนั่นฝากไว้กับคนของผมไปทำลายก่อนเข้าไปนั่งในตัวรถ ผมยังชั่งใจอยู่ว่าจะเล่าเรื่องนี้ให้มาซายะฟังด้วยไหม เรื่องที่คิโชวอินคนพี่ที่อยู่กับทาคามิจิ แต่ไม่เอาดีกว่าข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มันยังน้อยเกินไปดีไม่ดีเจ้าบ้ามาซายะเกิดอาละวาดตีโพยตีพายทำให้ความสัมพันธ์กับตระกูลคิโชวอินมีปัญหา แถมคุณคิโชวอินคนน้องที่ไม่รู้เรื่องราวจะโดนลูกหลงอีก สงสัยผมต้องสั่งสายสืบของผมคอยติดตามสืบคุณทาคามิจิสักระยะโดยไม่โดนคนของอีกฝ่ายรู้ตัว หรือไม่ก็ถามทาคามิจิโดยตรงถ้าเธอยังคิดว่าผมเป็นเพื่อนอยู่ก็น่าจะบอกเหตุผลได้ อืม...จะให้ถามทาคามิจิที่โดนเจ้าบ้ามาซายะกับคนของคิโชวอินคนพี่ตามแอบดู
โดยไม่ให้รู้เนี่ย ยากกว่าแอบตามคุณคิโชวอิน เรย์กะ อีกแฮะ
......
.............
.........................
ภายในรถหรูหราราคาเหยียบสิบล้าน “คิโชวอิน ทาคาเทรุ”คนขับ กับ “ทาคามิจิ วาคาบะ” ผู้โดยสาร นั่งเงียบกันเป็นเวลานานตั้งแต่ออกจากร้าน Rúnda (รูนด้า) โดยไม่มีใครยอมทำลายความเงียบ
“ชั้นทำตามที่คุณบอกแล้วนะ พอใจยังค่ะ คุณคิโชวอิน?” ทาคามิจิ วาคาบะ เป็นผู้ทำลายความเงียบก่อน และปลดนาฬิกาข้อมือยื่นไปทางคนขับ
“เธอทำได้ดีนี่ พูดจาใช้ได้แต่ข้อเสียคือเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เสียงวางแก้วของเธอดังซะจนชั้นแสบแก้วหูทีเดียว” ทาคาเทรุรับนาฬิกาเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ
รู้แบบนี้เอาเครื่องดักฟังซ่อนอยู่ในเม็ดกระดุมดีกว่า คิโชวอิน ทาคาเทรุ บ่นพึมพำอีกหลายประโยคทำให้วาคาบะหงุดหงิด แค่นี้เธอก็ปวดใจกับการ
ทำตัวร้ายๆใส่เพื่อนของเธอ ถึงเธอจะไม่ได้สนิทกับเอ็นโจมากเท่ากับเรย์กะ แต่เค้าก็ช่วยเหลือเธอยามเธอลำบากจึงไม่อยากทำตัวแย่ๆ ใส่เค้าเท่าไหร่ ถ้าไม่ติดปัญหาว่า “คิโชวอิน ทาคาเทรุ” จะทำตามในสิ่งที่เธอร้องขอโดยมีสิ่งแลกเปลี่ยนที่ว่า
....จงไปตักเตือน “เอ็นโจ ชูสุเกะ” ในฐานะศัตรูเท่านั้นเอง....
“รู้แบบนี้ชั้นน่าจะทำให้เสียงดังกว่านี้ ไม่ก็จ่อไปยังลำโพงเมทัลร๊อคเสียนี่”
“อะไร..โกรธหรือไง?”
“ใครไม่โกรธก็บ้าแล้วล่ะ ถูกบังคับให้เป็นศัตรูกับเพื่อนเนี่ยมีคนที่ไหนหลั่นล้ากันบ้าง คุณนี่แย่ชะมัด!”
“แต่ชั้นก็ไม่แย่ถึงขั้นทำให้พวกเธอแตกหัก ชั้นอุตส่าห์ไปโผล่หน้าให้หมอนั่นเห็นแล้วนะ ถ้าหมอนั่นโง่คิดว่าเธอตั้งตัวเป็นศัตรูจริงๆ ก็เลิกคบไปได้เลยถือว่าไม่ผ่านความเป็นเพื่อนและความเป็นผู้นำตระกูลเอ็นโจแล้ว”
“.............”
“อะไร? หน้าตาเหมือนสงสัยเรื่องอะไรกันยัยลูกเจี๊ยบ”
“ตกลงคุณเกลียดเอ็นโจคุงจริงๆ แน่หรือ? ”
“เกลียดสิ”
“เพราะเค้าชอบคุณเรย์กะหรือค่ะ?”
“นั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่ชั้นเกลียดอะไรหลายๆ อย่างของเจ้านั่น”
ทาคาเทรุทำสีหน้านิ่งเรียบมองไปตามถนน และบรรยากาศในรถก็เงียบอีกครั้ง
“ยัยลูกเจี๊ยบพรุ่งนี้เวลาเดิม มาทำงานพิเศษด้วยล่ะ”
“เอ๊ะ!! แต่ฉันต้องอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบแล้วก็กลับมาช่วยงานที่ร้านนะคะ!!”
“อย่ามาใช้ข้ออ้างแบบ Acquired Self-handicapping (พฤติกรรมหนีความจริง) ถึงเธอไม่ได้อ่านจนคะแนนตกนิดหน่อยก็ไม่เป็นไรมั้ง ยังไงซะ
ตัวท๊อปมันก็ต้องเป็นเจ้าหนู 2 หน่อนั่นอยู่แล้ว ถือว่าเป็นการตกอันดับแบบสมจริงไง แถมที่ร้านมีคนช่วยเพิ่มแล้วนี่”
“ถึงจะมีคนช่วยก็ช่วยได้ไม่เต็มเวลานะคะแถมชั้นต้องเตรียมสอบเข้ามหาลัยอีกนะ คุณคิโชวอิน!!”
“แล้วเธออยากเข้ามหาลัยไหน คณะไหนล่ะ? ชั้นจะได้ใช้คุณฟุคุซาว่า ยูกิจิ* เข้าไปเคลียร์ให้”
“คุณคิโชวอิน!!”
“ล้อเล่นครับ จริงๆ แล้วถ้างานไม่สำคัญจริงชั้นก็ไม่อยากใช้เธอหรอกแต่งานนี้มันสำคัญมากเลยจำเป็นต้องใช้เธอ”
“จ้างมืออาชีพไม่ดีกว่าหรือคะ? ชั้นนะแค่เด็ก ม. ปลาย เองนะคะ แถมประสบการณ์ก็น้อยด้วย”
“มืออาชีพเนี่ยแหละ ที่ไม่ไว้ใจ และที่สำคัญประสบการณ์นะมันเก็บเกี่ยวกันได้ ส่วนอายุชั้นไม่สนหรอกแค่มีประโยชน์ต่อการทำงานของชั้นก็พอแล้ว”
“เจ้าพวกใช้แรงงานเด็ก”
“แค่งานพิเศษที่หนักหน่วงไปหน่อยเองครับ” ทาคาเทรุตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแต่ปนเปื้อนไปด้วยความชั่วร้าย
ทาคามิจิ วาคาบะ ได้ตระหนักแล้วว่าผู้ชายคนนี้เลวร้ายยิ่งกว่านักปล่อยกู้หน้าเลือดหรือนักเลงสุดถ่อย ส่วนเธอก็โง่งมที่หลงไปทำสัญญาปิศาจกับคนคนนี้เสียได้ เธอจ้องมองผู้ชายคนนี้อย่างจะกินเลือดกินเนื้อแต่ก็โดนมือใหญ่มาขย้ำหัวซะผมเสียทรง เธอจึงปัดมือเจ้าปิศาจด้วยความหงุดหงิดมากกว่าเดิม แถมเจ้าปิศาจตนนี้กลับหัวเราะชอบใจเสียงั้น วาคาบะได้แต่กลั้นความหงุดหงิดจนรถมาถึงหลังบ้าน เธอลงจากรถและปิดประตูรถอย่างแรงโดยไม่กลัวโดนเรียกค่าเสียหาย
เมื่อเห็นเด็กสาวกลับเข้าบ้านไปอย่างปลอดภัย ทาคาเทรุจึงขับรถออกมาไปยังอีกสถานที่หนึ่งซึ่งเป็นที่นัดหมายกับคนคนหนึ่งไว้ ร้านบาร์เหล้าส่วนตัวที่ตั้งอยู่ชั้นใต้ดินเป็นส่วนหนึ่งของร้าน Rúnda (รูนด้า) เปิดให้บริการเฉพาะสมาชิกและต้องจองไว้ล่วงหน้าด้วยเลยเหมาะกับการคุยธุรกิจลับ
“โย่ ทาคาเทรุมาเร็วจริงนะ ได้ข่าวว่าไปแกล้งเด็กน้อยอีกแล้วหรอ?”
ที่นั่งตรงหน้าเคาน์เตอร์นั้น “โมโมโซโนะ อิมาริ” กำลังนั่งโบกมือเรียกเพื่อนซี้อย่างกระตือรือร้น
...................................................................................
สรุป ธิดามารก็แค่ลูกไก่ในกำมือของเทพมาร
---ไม่มีไรมากแค่อยากแปะข้อมูลของกินของจุกจิกในแฟนฟิต----
* Fukuzawa Yukichi นักคิดในสมัยเมจิ และเป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย Keio และอยู่บนหน้าธนบัตรใบ 10,000 เยน ของญี่ปุ่น https://imgur.com/99eNNOQ
1. สโตรปวาเฟล (Stroop wafel) https://imgur.com/32s7Qhu : เป็นขนมชนิดหนึ่งของเนเธอร์แลนด์ ทำจากแผ่นแป้งกลมบางประกบกัน ตรงกลางสอดไส้น้ำเชื่อมข้นหนืดเหมือนน้ำตาลเคี่ยว นิยมกินคู่กับกาแฟดำ วิธีกินกินได้ 2 แบบ คือ ใส่ปากกินเลยกับวางไว้บนถ้วยกาแฟตามภาพเพื่อให้ขนมมันอุ่นและนิ่ม
2. มาการูน (Macaroon) https://imgur.com/Jmci4es : เป็นขนมของชาวอเมริกัน ลักษณะจะคล้ายขนมบ้าบิ่นในบ้านเรา มีขายทั่วไปตามร้านเบเกอร์รี่และซูเปอร์มาเก็ตในอเมริกา แต่ว่าบางร้านก็ทำแบบมาการอนไปเลยแทนที่จะใช้ผงอัลมอนต์ป่นจะใช้มะพร้าวป่นแทนอัลม่อนด์บด หรือจะคงส่วนผสมของอัลม่อนด์บดไว้ให้เหมือน Macaron คนก็เลยสับสนกัน แต่ส่วนตัวเราว่ามันเป็นการทำมาการอนแบบลดต้นทุนมากกว่า
3. ดอกไฮยาซินธ์ (Hyacinth) https://imgur.com/xQg3K1a : มีพันธุ์เดียวกันอีก คือ ดอกผักตบชวา ดอกไฮยาซินธ์มีหลายสีแต่ละสีความหมายก็ต่างกัน ดอกไฮยาซินธ์สีม่วง แปลว่า “ฉันเสียใจโปรดให้อภัยฉันเถอะหรือความเศร้าโศกเสียใจ” มักใช้กับการขอโทษ
4. ดอกกุหลาบพันปี (Rhododendron) https://imgur.com/ymhnL79 : ดอกกุหลาบพันปีมีหลายสายพันธุ์และบางสายพันธุ์มีพิษในน้ำหวานคนในยุควิคตอเรียเลยเอามาเป็นความหมายในการ “ อันตราย” “จงระวังตัว” (ว่ามีคนปองร้าย) หรือ “การตักเตือน” (ก็เตือนให้ระวังตัวอีกนั่นแหล่ะ)
.....................................................................................................................................................
>>676-678 ลืมลิงค์ตอนที่แล้วววว เลยมาแปะตรงนี้ https://fanboi.ch/webnovel/4296/626/
>>675 เพลงนี้มันเป็นเพลงประกอบหนังเศร้าด้วยนี่นา พระเอกรักเขาข้างเดียว แต่นางเอกไม่เคยรักพระเอกเลย
ใช้พระเอกหนีจากแม่ตัวเอง แถมไปมีชู้อีกต่างหาก ตอนจบก็........ สมแล้วที่เป็นเพลงเศร้าประกอบหนังเศร้า
>>676 โถ ท่านพี่ รังแกเด็กทั้งคู่เลย ทั้งวาคาบะและเอ็นโจ วาคาบะพอแสดงอารมณ์หงุดหงิดรู้สึกว่าน่าเอ็นดูขึ้นนะ เพราะแสดงอารมณ์สมกับเป็นเด็กๆมั้ง
>>675 มึงพูดแบบนี้แล้วเหมือนมึงกำลังยื่นกาวให้กูแบบไม่ได้ตั้งใจ..
*สูดกาว* โหยย ก็ถ้าไม่มองไม่สังเกตก็คงจะไม่รู้เนอะว่าเอ็นโจเศร้าอยู่ กูละอยากมโนไปว่าท่านเรย์กะแอบมองว่าเอ็นโจบ่อยๆแต่ไม่รู้ตัว ที่สบตากันบ่อยๆก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแค่มองกันบ่อยๆแค่นั้นเอ๊ง ต่างกันที่อีกฝ่ายตั้งใจมองแต่อีกฝ่ายมองแบบไม่รู้ตัว
>>681 กรั่กๆๆๆๆๆๆ งั้นกูจะทำให้คุ้นๆมากขึ้นอีกนะ
พระเอกรักนางเอกข้างเดียว แต่ก็แค้นด้วยที่นางเอกไปมีชู้ ถึงนางเอกจะสำนึกผิดและทำตัวดีขึ้นในตอนหลังๆ แต่ก็ไม่เคยให้อภัยกับสิ่งที่นางเอกทำลงไปเลย ฮีรักเดียวใจเดียวแต่ก็สุดโต่งกับพฤติกรรมจนมันกัดกร่อนตัวเอง ทำให้ไม่เคยมีความสุขในชีวิต นอกเหนือจากการไม่ให้อภัยนางเอกคือ พระเอกไม่เคยให้อภัยตัวเองที่ไปรักนางเอก เอาแต่โทษตัวเอง รักมันก็รักนะ แต่ก็ไม่ได้เป็นคนดีขนาดจะยอมอภัยให้ได้ทุกเรื่อง แถมรู้ตัวว่านางเอกก็ไม่ได้รักตัวเองด้วยเลยรู้สึกขมขื่น ไร้ค่า พยายามทำดีไปก็ไม่เคยเห็นผล มันก็เลยออกแนวโทษตัวเองที่เสือกไปรักเขาเองเลยเจ็บเองนั่นล่ะ
ส่วนนางเอก...ถ้าเป็นเวอร์ชั่นหนังสือยังไงก็ไม่รักพระเอกว่ะ แค่สงสาร เห็นใจ แต่ถามว่ารักมั้ย ก็ไม่..... แต่เวอร์ชั่นหนังนางเห็นความดีในตัวพระเอก แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นรัก แต่สายไป แถมจบแบบจุกๆด้วย
>>686 ช่วงกลางๆเรื่องนางสำนึกนะ แล้วพยายามปรับปรุงตัว เปิดใจให้พระเอกแล้วด้วย พระเอกเอาแต่อีโมมืดหม่นไม่ให้อภัยตัวเองอยู่ได้ น่าบ้องหูมั่กๆ
มีฉากนึงนางอึดอัดมากที่พระเอกทำตัวเย็นชาใส่เลยตะโกนถามว่าจะทำตัวเย็นชาลงโทษฉันไปถึงไหน พระเอกเลยตอบกลับมาว่าไม่ได้ลงโทษคุณ ผมลงโทษตัวเองที่เผลอไปรักคุณเข้า ก็อึ้งๆกันไปทั้งคู่ นางเอกก็ปรับปรุงตัวจากตรงนี้ด้วยล่ะ
แต่จริงๆพระเอกมันก็ไม่รู้หรอกว่านางเอกเปิดใจให้แล้ว ฮีก็ยังระแวง มีความคิดว่าเขาคงกลับไปหาชู้ ที่เขาทำดีด้วยก็เพราะสงสาร สมเพชเวทนาอะไรประมาณนั้นอะ เหมือนเจ็บมามากเลยไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขามีใจให้แล้ว น่าสงสารทั้งคู่อะน้า ถ้าตรงไปตรงมากันมากกว่านี้ก็มีความสุขแล้ว
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่นะโม่งแปล!
เอ๋?....เอ๋!? เอ๋!?!? ถ้าขอตรงๆจะไม่ได้แบบนั้น แต่จะตรงข้าม หมายความว่า!? จะไม่ได้แฟนที่แสนวิเศษแต่จะได้แฟนที่แสนจะเลวร้ายเหมือนปีศาจใช่มะ!?
อ.ฮิโยโกะคะ! อยากบอกนะว่า!?
เดี๋ยวโดนแซวเรื่องท้อง เดี๋ยวโดนแซวเรื่องลูก แสดงว่า ในสายตาคนอื่นท่านเรย์กะไม่โสดไงคะ(กาวบวกพลีชีพ)555555
ส่วนเรื่องแฟนแสนวิเศษ หันมองทางไหนก็เจอแต่จอมมารหน้ายิ้ม ขี้แกล้งค่ะท่านเรย์กะ อิอิ
นึกภาพสาวงามหน้าตาโบราณ ๆ ใส่กระโปรงบาน ๆ ยาว ๆ ยืนกางร่มท่าทางนิ่ง ๆ...... สงสัยจะหลุดมาจากยุคไทโชล่ะมั้ง....
สงสารท่านเรย์กะแต่ก็อดขำไม่ได้ แง 55555555
ลูกท่านเรย์กะนี่กับใคร คานซัง?? อาหารซัง?? ส่วนคุณลูกน่าจะชื่อไขมันซังหรือคอเรสเตอรอลซังแหงๆ ฟังดูไฮโซเป็นภาษาต่างประเทศเหลือเกิน
ทรงผมเป็นเหตุแท้ๆ.... อารยะขัดขืนท่านแม่ดูเถอะ
กูลั่นตอนโดนทักว่าลูกชิบหายเลยว่ะ อะไรจะเหมือนคนผ่านการมีลูกแล้วขนาดนั้นคะ 5555555555555555
ยินดีด้วยนะคะที่คลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย ท่าทางจะแข็งแรงดีมากๆกันทั้งแม่ทั้งลูกเลยนะคะ //ผิดๆๆๆๆๆ
ท่านฟุยุโกะนี่กูว่าเตะขัดขาดวงความรักท่านเรย์กะอยู่ชัวร์ๆ คราวก่อนก็บอกให้ขอจากอาร์ทิมิสทีนึงละ แต่เจ๊อาร์ทิมิสแกขึ้นคานนะเหวย แถมยังอิจฉาริษยาคนที่มีความรักเกินหน้าเกินตานางด้วย มาตอนนี้รอให้ท่านเรย์กะเขียนเสร็จก่อนแล้วค่อยบอกว่าเขียนตรงๆไม่ได้ สมเป็นเพื่อนสาวในแก๊งอาร์ทิมิสจริงๆ ฉันยังไม่มีแฟนแกก็ห้ามหนีไปมี เข้าใจ๋
ไอ้ฉากที่มีป้ามาหาว่าเป็นคุณแม่นี่ทำไมกูนึกภาพเอ็นโจโดดออกจากหลังน้ำตกมารับสมอ้างว่าเป็นพ่อวะ ช่วยรักษาหน้าท่านเรย์กะ 55555
ที่จริงหน้าตาโบราณอาจมีส่วนบ้าง แต่หลักๆคงโดนเข้าใจอายุผิดเพราะคาแรกเตอร์ป่ะ แบบบุคลิกดูโตวางตัวสง่าไรเงี้ย ในความเป็นจริงก็เป็นวิญญาณแก่ๆอยู่แล้วด้วย
เจ้าแม่อายุเยอะแล้ว แต่ทำไมถึงกลัวพวกเด็กๆ อย่างเอ็นโจ คาบุรากิล่ะ 5555
กูอ่านเรื่องนี้อยู่
http://www.novelupdates.com/series/i-reincarnated-and-tried-to-become-a-genius-child-actor-i-want-to-quit/
ไอ้เรื่องที่นางเอก(?)เล่นนี้มันท่านเรย์กะชัดๆ พระเอกฉายาจักรพรรดิ์ นางเอกสามัญชน คุณหนูตัวโกง แล้วมีสปินออฟเป็นคุณหนูตัวโกงกลับมาเกิดใหม่แล้วกลับใจอีก lol
เคยอ่านเรื่องนึง ตัวเอกเกิดใหม่เป็นคู่แข่งนางเอกในเกมจีบหนุ่ม ที่ในเกมมีฉายา"คุณหนูผู้เพรียบพร้อม"
เซ็ตติ้งในเรื่องคล้ายเรย์กะนิดๆ เพราะเป็นโรงเรียนคุณหนูเหมือนกัน แต่แนวซีเรียส เปิดเรื่องมาตัวเอกประสบอุบัติเหตุ เป็นแผลเป็นทั้งร่าง เลยต้องแต่งเครื่องแบบนักเรียนชาย จากคุณหนูผู้เพรียบพร้อม เลยกลายเป็นฉายา "เจ้าชาย" แทน 55555
มีตัวละครนึง เป็นประธานนักเรียน มีฉายาจักรพรรดิ์ หลงรักญาติสาวของตัวเอง แต่สุดท้ายก็แดกแห้ว แม่งคาบุชัดๆ 5555555
อยากจะอ่านต่อ แต่แปลอังกฤษบอกจะอัพสัปดาห์หน้า แล้วก็หายต๋อมไปเลย เสียจัย
วันนี้ไม่มีฟิตกาวเติมความหวานในหัวใจเลย.... เค้าอยากได้....ฟิตกาว...
กูเข้าใจความรู้สึกของท่านเรย์กะดีนะ
กูเคยไปเที่ยวกับน้องและเพื่อนนางอีกสองคน แล้วแม่ของเด็กคนหนึ่งมารับ มองกูที่ช่วยน้องๆ แบกกระเป๋าอยู่แล้วพูดว่า
"ลูกสองเลยเหรอคะ สุดยอดเลย"
....
กูช็อค
เข้าใจแหละว่าบุคลิกกูมันนิ่งๆ ไม่ค่อยชอบพูด ถือของพะรุงพะรัง ไหนจะเสื้อขนเป็ดยาวถึงเข่าสีเข้มโคตรขรึม (กูอยู่ตปท.)
แต่...
แต่...
แต่... กูอายุแค่ 17 เองนะเฮ้ยยยยยย ฮรือออออออ จิตใจสาวน้อยได้แหลกสลายลงก็ตอนนั้นนั่นแหละ
เออ แต่กูคิดว่าท่านฮิโยโกะน่าจะไปเก็บข้อมูลส่วนของฝึกตนใต้น้ำตกมาจริงว่ะ แลดูมีดีเทลล์แปลกๆ
มาลงฟิคตามสัญญา
ยูกิโนะ Side story(AU: ชูสุเกะกลับชาติมาเกิด) >>>/webnovel/3805/323-324
-------------------------
หลังจากเล่นเปียโนเสร็จ ผมก็นั่งจิบชาฝรั่งอุ่นๆอยู่ในห้องสโมสร รอชูสุเกะมารับตามที่ได้นัดกันไว้ เห็นว่าห้องชูสุเกะขายดีมากจนร้านปิดเร็วเกินกว่ากำหนด เนื้อหอมจริงๆเลยน้า เจ้าน้องชาย
ชูสุเกะเปิดประตูเข้ามา ข้างหลังมีมาซายะเดินตามมาด้วย ผมกำลังจะทักแต่ก็เห็นว่าทั้งคู่มีสีหน้าอึมครึม หม่นหมอง โดยเฉพาะชูสุเกะที่ดูอมทุกข์อมโศกประหนึ่งโลกจะสลาย
เฮ้ๆ ไปทำอะไรกันมาน่ะ
นายยังไม่หายหดหู่เรื่องลาเต้อาร์ทเรอะ ชูสุเก่!! นายจะมาจมอยู่ในความเศร้าไม่ได้นะ ชีวิตมันต้องก้าวต่อไปสิ
ส่วนมาซายะ....คงหดหู่ที่ไม่ได้เดินเที่ยวงานกับคุณทาคามิจิล่ะมั้ง ช่างเถอะ
ผมเดินไปหาชูสุเกะ พูดด้วยเสียงออดอ้อนว่าอยากไปหาคุณพี่เรย์กะ ชูสุเกะชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้าตกลง ดีมาก เจ้าน้องชาย พูดกันรู้เรื่องแบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องให้ใช้กำลังบังคับกัน
เราสามคนเดินไปยังห้องที่เธอจัดงาน พวกสาวๆทำท่าจะมารุมล้อมเจ้าสองคนนั้น แต่พอเห็นผมก็ล่าถอยออกไปอย่างกับโมเสสแหวกทะเลแดง ไปยืนมองห่างๆแต่ก็ยังกรี๊ดกร๊าดไม่เลิกรา
ประธาน Pivoine สั่งให้ทุกคนห้ามรบกวนผมด้วยเรื่องของสุขภาพ นักเรียนหญิงทั้งหลายก็ทำได้แต่วี้ดว้ายไปตามเรื่องตามราว ไม่กล้าเข้าใกล้
ผมรู้ว่าชูสุเกะในแต่ละวันจะมีสาวๆรุมล้อมตามเป็นโขยงจนน่าอึดอัด แต่ขอโทษนะครับ วันนี้ชูสุเกะถูกจองตัวไว้แล้ว ไม่ว่างมาเทคแคร์พวกเธอหรอกนะ
สองคนนั้นก้าวเข้าไปในร้านก็ยังได้รับเสียงกรี๊ด ชูสุเกะไม่สนใจพวกนั้น ก้าวไปยืนตรงหน้าเรย์กะในชุดกี่เพ้า
“สวัสดีคุณคิโชวอิน ยูกิโนะบอกอยากมาเลยพามาหาแน่ะ วันนี้เป็นโกวเนี้ยน้อยน่ารักเชียวนะ”
ดีมาก ชูสุเกะ จีบสาวต้องหมั่นชมแบบนี้ล่ะ
ผมทักทายเรย์กะ ลอบมองปฏิกริยาของเธอ ดูนิ่งๆกับคำชมของชูสุเกะ แต่มายิ้มเพียงแค่คำพูดสวัสดีของผมเนี่ยนะ ยัยผู้หญิงอำมหิตคนนี้นี่….
มาซายะมองไปรอบๆ พูดเรื่องไม่มีลายมังกรจะเก็บไม่ครบซีรีส์ เรย์กะก็หน้าบึ้งตึงทันที
“ฉันไม่มีความทะเยอทะยานพิสดารพรรค์นั้นหรอกค่ะ”
พูดเรื่องอะไรกันอยู่เนี่ย
เรย์กะพาพวกผมมานั่งที่โต๊ะ สั่งชากันคนละอย่าง ไม่นานเท่าไหร่ชาที่สั่งไปก็ยกออกมาเสิร์ฟ มีขนมเปี๊ยะแถมมาให้ด้วยคนละก้อน ส่วนผมได้เต้าฮวยเพียงคนเดียว
ความสองมาตรฐานนี่มันอะไรกัน ผมควรจะแบ่งให้ชูสุเกะด้วยมั้ยนะ
แต่ชูสุเกะดูจะพอใจกับขนมเปี๊ยะที่ได้รับมาอยู่เงียบๆ ทานไปไม่บ่นอะไรสักคำ ไม่เรียกร้องจะเอานั่นเอานี่ด้วย มักน้อยอะไรอย่างนี้ น้องชายผู้น่าสงสารของผม
ผมสั่งชาบุปผาคลี่ เป็นชาที่เรย์กะแนะนำว่าแค่เอาก้อนชาใส่ลงไปในน้ำร้อน ผ่านไปสักพัก ก้อนชาก็จะค่อยๆคลายตัวออกเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานในน้ำ
ชูสุเกะเหมือนก้อนชาบุปผาคลี่เปี๊ยบ
ก่อนหน้าที่จะเข้าร้าน นายยังอมทุกข์ หน้าหุบเป็นก้อนชานี่อยู่เลย แต่พออยู่ใกล้ๆเธอก็ยิ้มหน้าบานเชียวนะ อย่างกับดอกไม้ในน้ำร้อนเลย
แต่ผมพามาให้นายคุยกับเรย์กะ นายก็คุยเสริมซะเป็นส่วนใหญ่ ให้ผมเป็นคนคุยหลักแทน ไม่ไหวเล้ยเจ้าหมอนี่
เวลาแห่งความสุขผ่านไปเร็วยิ่งนัก รู้ตัวอีกทีก็ได้เวลาเลิกกันแล้ว ไม่มีงานเลี้ยงไหนไม่เลิกรา
เรย์กะเดินจูงมือผมออกมาส่งข้างหน้า มาซายะขอแยกตัวไปร่วมงานเลี้ยงฉลองปิดงานของห้อง ได้ยินว่าบ้านผีสิงของมาซายะประสบความสำเร็จดีก็นับว่าดีใจด้วย
ชูสุเกะยืนฟังเรย์กะคุยกับผม ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่น่าหมั่นไส้สุดๆ ถ้านายได้คุยตรงๆจะมีความสุขจนลอยได้เลยรึเปล่าล่ะนั่น
“ชู”
ผมชะงักทันควันเมื่อได้ยินเสียงหนึ่งที่คุ้นเคย เป็นไปไม่ได้ หูฝาดแน่ๆ
แต่ความคิดของผมไร้ผลเมื่อผู้หญิงคนนั้นมายืนอยู่ตรงหน้า
“ยุยโกะ”
ชูสุเกะสะดุ้ง หน้าตาเหมือนเพิ่งตื่นจากภวังค์แล้วหล่นลงมากระแทกพื้น พอตั้งตัวได้ก็เดินเข้าไปหา พูดคุยกันสนิทสนม
ผมที่จับมือกับเรย์กะอยู่เผลอตัวบีบมือเธอเสียแน่น
ผู้หญิงคนนั้นมาที่นี่ได้ยังไง
ดูจากการสะดุ้ง คิดว่าชูสุเกะไม่ได้บอกแน่ๆ ก็เหลือแค่…..
ผมจ้องไปที่คาซึรางิ ไอ้หมอนี่จุ้นจ้านไม่เข้าเรื่องดีจริง คอยคาบข่าวของชูสุเกะกับผมไปรายงานตลอดเลยสินะ เจ้าสุนัขรับใช้
คาซึรางิก็คงรู้ตัว เพราะหลบตาชูสุเกะ ถอยไปยืนข้างหลังทำเหมือนตัวเองไม่สำคัญ
ชูสุเกะหันมาเรียกผมกลับบ้านและกล่าวคำอำลาเรย์กะ ผู้หญิงคนนั้นก็ตามมา ควงแขนประกาศความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
บ้าเอ้ย!!
พัง พังหมดแล้ว ทุกอย่างที่ผมคิดไว้ถูกทำลายย่อยยับไม่มีชิ้นดี แย่ยิ่งกว่าตอนมาซายะทำลายโอกาสที่ผมให้ผ้าขนหนูไปเสียอีก
เรย์กะปกติก็ดูไม่ยินดียินร้ายกับชูสุเกะอยู่แล้ว ถ้าเจอว่ามีผู้หญิงข้างตัวหมอนี่ไม่ยิ่งหนีห่างไปกันใหญ่งั้นเรอะ
ปัดโธ่เว้ย!!!
.
.
.
ผมครุ่นคิดหาวิธีที่จะดึงความสนใจจากเรย์กะไว้ กำลังคิดอยู่หลายๆวิธีอยู่นั้น ก็เห็นชูสุเกะชงกาแฟทำลาเต้อาร์ทให้ผู้หญิงคนนั้นตามที่ได้สัญญาไว้ตอนงานโรงเรียน เห็นท่าทางออดอ้อนบอกจะเอารูปนั้นรูปนี้ให้ชูสุเกะทำให้ ผมที่จิบนมร้อนอยู่ก็ได้แต่เบ้ปากมองอยู่เงียบๆ
กับเรย์กะน่ะ ชูสุเกะฝึกทำเป็นอย่างพิเศษ แถมไม่ต้องรีเควสต์ก็มาวางตรงหน้าแล้วนะ ระดับมันผิดกันเห็นๆ
ว่าแต่ลาเต้อาร์ทอย่างนั้นเหรอ
ชูสุเกะส่งสายตาขอความช่วยเหลือมา ผมก็จำใจลุกจากที่นั่ง เดินเข้าไปหา ทำเป็นสนอกสนใจการทำลาเต้อาร์ทนี้เสียเต็มประดาและขอให้สอนทำบ้าง ชูสุเกะก็สอนให้อย่างยินดีและดูกระตือรือร้น
ผมเป็นพี่ที่สปอยล์น้องเกินไปแล้ว แต่ก็นะ....น้องชายส่งสายตาขอความช่วยเหลือวิงวอนขนาดนั้นจะให้ทำเมินๆ ก็จะดูใจร้ายเกินไปหน่อย
ชูสุเกะให้ผมเริ่มจากลายที่ง่ายที่สุดที่เป็นพื้นฐานก่อน นั่นคือรูปหัวใจ
เจ้าน้องชายของผมบอกว่าต้องใจเย็นและค่อยเป็นค่อยไป แล้วก็ให้ความรู้เรื่องการชงกาแฟมาด้วย สอนผมถึงการสตรีมนมว่าทำอย่างไร อุณหภูมิเท่าไหร่ถึงจะพอดี สอนเรื่องการกระดกข้อมือกับส่ายแก้วแล้วก็ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
เห็นชูสุเกะทำแล้วเหมือนง่ายและรวดเร็ว แต่พอลองทำเองจริงๆมันไม่ง่ายเลย
ลาเต้อาร์ทนี่ถ้าเผลอกระดกข้อมือหนักหรือแรงไปหน่อยก็เปลี่ยนรูปร่างแล้ว ตอนสตรีมนมก็ต้องหมั่นใส่ใจ ถ้าลงมือหนักไปก็จะได้โฟมนมเยอะเกิน ตอนเอามาใช้จะหนืดเกินความต้องการ แต่ถ้าเบามือเกินไปก็จะได้โฟมนมที่เหลวเกิน ใช้การไม่ได้อีก
อุณหภูมิตอนทำก็สำคัญ ต้องระวังไม่ให้สูงเกินเจ็ดสิบองศา ไม่อย่างนั้นจะเสียรสชาติของนมไป แถมโฟมนมที่ได้ก็จะหยาบ ยุบตัว เทออกมาแล้วไม่สวยอีกต่างหาก ถ้าเป็นลวดลายยากๆก็ต้องทำเร็วๆแข่งกับเวลา ไม่ให้กาแฟเย็นชืด จะเสียรสเอาได้
ยิ่งเรียนก็ยิ่งรู้สึกเสียดายแทนลาเต้ที่ถูกทำลายแก้วนั้นจริงๆเลยน้า
จากการฝึกฝน ผมก็พอจะเทลายง่ายๆอย่างหัวใจได้เป็นผลสำเร็จ แต่ก็ยังไม่สวยอยู่ดี เห็นผลงานของชูสุเกะเทียบกับตัวเองแล้วก็รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมากระทันหัน
ดังนั้น ผมก็เลยยัดเยียดลาเต้อาร์ทที่ผมหัดทำให้ชูสุเกะดื่มเข้าไปซะเลย
ชูสุเกะทำหน้าตาแปลกๆตอนที่ผมเอาลาเต้อาร์ทมาให้ ไม่ต้องเกรงใจกันหรอกน่า มีอีกหลายแก้วเลยนะ กินให้นอนไม่หลับกันไปข้าง
มาซายะมาเที่ยวบ้านพอดี ผมก็เลยแบ่งให้อย่างเอื้อเฟื้อ ช่วยๆชูสุเกะกินหน่อยก็แล้วกัน
หมอนั่นดูแปลกใจที่อยู่ๆผมลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้ ผมก็เลยบอกว่าอยากฝึกให้เรย์กะได้ทาน มาซายะพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจก่อนจะบอกว่าเรย์กะชอบซีรีย์นักษัตร และกำลังเก็บแต้มให้ได้ครบๆก่อนเรียนจบอยู่
ซีรีย์นักษัตร…..
ห๊ะ!! อะไรกันเนี่ยยัยผู้หญิงคนนี้ รสนิยมพิลึกชะมัด ของอย่างอื่นบนโลกมีให้ชอบตั้งเยอะไม่ชอบ ชอบซีรีย์นักษัตรเนี่ยนะ
มาซายะไล่ให้ฟังว่าเรย์กะเก็บแต้มอะไรไปบ้างแล้ว และพูดถึงการส่งร่างแยกออกมาเก็บแต้มในงานกีฬาสีของปีนี้ ท่าทางจะไม่ได้อำเล่นด้วยสิเพราะมีหลักฐานเป็นรูปถ่ายให้ดู
เอ่อ...ไก่ - ปีระกา,ลา - ปีมะเมีย,หมา - ปีจอ แล้วแมวล่ะ….ปีที่แล้วก็แต่งเป็นหนูด้วยเหมือนกันนี่นะ...
ชูสุเกะนั่งอมยิ้มอะไรอยู่คนเดียวก็ไม่ทราบ แต่ดูท่าทางจะรู้ว่าเรย์กะชอบนักษัตร เพราะอย่างนั้นนายเลยทำกระต่ายให้สินะ
ผมกำลังสับสนว่าจะชมเชยที่น้องชายเอาใจใส่ พอรู้ว่าสาวเขาชอบอะไรก็ทำให้เขา หรือจะกลุ้มใจกับรสนิยมพิลึกของว่าที่น้องสะใภ้ดีล่ะ เลือกไม่ถูกเลย
ช่วยมาซายะจีบคุณทาคามิจิ ผมยังไม่หนักใจเท่านี้เลยนะ
ถ้าเรย์กะมีจุดประสงค์แบบนั้นจริงๆ ผมก็คงต้องช่วยบ้าง นี่ก็เป็นการเอาใจว่าที่น้องสะใภ้ในอนาคต
ผมมาไล่ๆนับดูว่านักษัตรตัวไหนที่เรย์กะยังไม่ได้เก็บเข้าคอลเลคชั่นบ้าง ถ้าเป็นเสือหรือมังกร ปีหน้าเรย์กะอาจจะแต่งคอสเพลย์เอาก็ได้เพราะคอนเซปต์ง่าย
กำลังคิดๆอยู่ว่าจะทำลาเต้อาร์ทรูปอะไรให้เรย์กะดี ชูสุเกะก็มาเปรยๆว่าช่วงนี้คุณคิโชวอินดูเหนื่อยๆ ผมก็เลยขอให้เล่านั่นเล่านี่ให้ฟังอย่างเคยเป็นการเก็บข้อมูล เจ้าน้องชายก็ยอมเล่าแต่โดยดี
รู้สึกว่าช่วงนี้จะมีอะไรหนักๆถาโถมเข้าใส่เรย์กะซะเยอะ อย่างเรื่องตึงเครียดระหว่างสภานักเรียนกับ Pivoine หรือปัญหาหยุมหยิมน่ารำคาญ ถ้าได้เล่นกับผมอาจจะรู้สึกจิตใจผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง
พอผมบอกว่าอยากไปห้องสโมสรฝั่งม.ปลายเพื่อเจอคุณพี่เรย์กะ ชูสุเกะก็อมยิ้มแล้วตอบตกลงง่ายๆ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นอ้างสุขภาพของผมตลอดว่าไม่เหมาะกับเจอคนเยอะๆ
นายเล็งผลแบบนี้ไว้แล้วสิท่า คิดจะใช้ผมเป็นสะพานในการเดินไปคุยกับ “คุณคิโชวอินของนาย” ใช่มะ เพราะงั้น ผมเลยยอมๆหลับตาข้างหนึ่ง ทำเป็นไม่รู้อะไรเลย ปล่อยให้ชูสุเกะได้ใจไปก่อน
พี่ชายยอมเอาตัวเข้าแลก ให้ใช้งานได้ขนาดนี้แล้วก็คว้าโอกาสไว้ให้ดีๆล่ะ ชูสุเกะ
.
.
.
ผมเดินไปที่ห้องสโมสรฝั่งม.ปลายกับชูสุเกะ แหงนหน้ามองอาคารทั้งหลาย ทิวทัศน์ที่คุ้นตาพวกนี้ทำให้คิดถึงพอสมควร มองแล้วก็นึกถึงความทรงจำเก่าๆ
จะเรื่องดีหรือร้ายก็เกิดขึ้นในโรงเรียน ผ่านมานานขนาดนั้น พอมองย้อนกลับไป หลายเรื่องที่ดูหนักหนาร้ายแรงในสายตาของเด็กม.ปลายก็กลับเป็นเรื่องตลกขึ้นมา
ไม่รู้ว่าที่โลกเดิม มาซายะกับคุณทาคามิจิจะเป็นยังไงบ้าง แล้วคิโชวอิน เรย์กะคนนั้นอีก หวังว่าจะสบายดีกันทุกคน
คร่ำครวญถึงอดีตไปก็เท่านั้น อย่างไรเสียมันก็ย้อนกลับคืนมาไม่ได้อยู่แล้ว ที่ต้องทำคือเดินหน้าต่อ
ผมผลักประตูสโมสรเข้าไปอย่างที่เคยทำในอดีต เห็นเรย์กะนั่งอยู่ตรงโซฟาก็รู้สึกทับซ้อนกับความทรงจำจากโลกเดิม ต่างกันแค่ครั้งนั้นผมเมินเธอไม่สนใจไยดี ส่วนตอนนี้กลับวิ่งเข้าหา
“คุณพี่เรย์กะ”
เธอดูแปลกใจที่ผมมาที่นี่ได้ ผมก็เลยยิ้มให้ บอกว่าขอให้ชูสุเกะพามา พูดยังไม่ทันขาดคำ เจ้าน้องชายก็วางมือลงบนหัวผม บอกให้ไปทักทายคนอื่นก่อน
“อ๊ะ แย่แล้ว”
ผมทำเป็นอุทานเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ แล้วก็เดินไปหาคนที่เป็นประธาน Pivoine นี่ก็คล้ายกับโลกเดิมอีกแล้ว
“เอ็นโจ ยูกิโนะฮะ สวัสดีฮะ”
เป็นไปตามคาดที่ผมจะถูกเหล่าสาวๆรุ่นพี่ทั้งหลายยึดตัวไว้ เอาน้ำกับขนมมาเสิร์ฟ พอเหลือบมองชูสุเกะที่นั่งลงข้างๆเรย์กะก็รู้ทันทีว่าหมอนี่เอาผมมาเป็นเหยื่อล่อชัดๆ
ผมนั่งคุยกับคนอื่นไป ให้ชูสุเกะใช้เวลากับเรย์กะแบบสองต่อสอง ไม่รู้ว่าคุยอะไร แต่ก็เห็นยิ้มแย้มให้กันและกันดีอยู่ น่าจะเป็นไปได้ราบรื่นมั้งนะ
ต้องไปติดตามผลงานซักหน่อยว่าได้เรื่องได้ราวอะไรมั้ย
แต่พอลองเลียบๆเคียงๆถาม รู้สึกจะไม่ได้เรื่องแฮะ แถมบรรยากาศก็ดูกระอักกระอ่วนอีก ไม่ไหวเล้ย ชูสุเกะ
ผมเลยเปลี่ยนเรื่องด้วยการเล่าให้เรย์กะฟังว่ากำลังฝึกทำลาเต้อาร์ท และบอกว่ารู้รสนิยมชอบสิบสองนักษัตร ยัยนั่นก็ดูตะลึงพอสมควร รีบปฏิเสธเป็นการใหญ่
ไม่ต้องอายหรอกน่า บนโลกก็มีรสนิยมพิลึกๆอยู่อีกเยอะ แค่ชอบสิบสองนักษัตรเอง ไม่เห็นจะเป็นอะไร
ว่าแต่สิบสองนักษัตรงั้นเหรอ….ลาเต้ก็ใช้นม...วัว….เอ่อ...วัวก็อยู่ในสิบสองนักษัตรนี่นะ….
“ครั้งหน้าจะลองท้าทายกับภาพวัวนะฮะ” ผมบอกเรย์กะไปอย่างนั้น ยัยนั่นก็ทำหน้าแปลกๆ แต่หลังจากอธิบายนั่นนี่เยอะแยะ ก็พยักหน้ายอมรับได้ในที่สุด
ดีแล้วล่ะ ซื่อตรงกับตัวเองน่ะดีที่สุดเลย
ชูสุเกะก็อมยิ้มอีกแล้ว ไม่ต้องมายิ้มดีไปเลยเจ้าหมอนี่ กลับบ้านผมจะใช้งานซะให้คุ้ม ให้สอนทำรูปวัวจนเอียนไปข้าง
แต่อีกใจผมก็รู้สึกว่านี่มันทำให้ตัวเองลำบากชัดๆ น่าจะทำลายง่ายๆแบบอื่นดีกว่า
เฮ้อ เลือกของยากแล้วสิ ไม่น่าเลยจริงๆ
-------------------------------------------
ตัดตอน ชับ ชับ ชับ
>>739-741 ความบราค่อนของยูกิโนะในฟิคนี้ เทียบกับท่านพี่ทาคาเทรุใครจะหลงน้องตัวเองมากกว่าล่ะนั่น ยูกิโนะดูสปอยชูสุเกะมากๆ เอาใจทุกอย่าง แทบไม่กลั่นแกล้งเลย หรือรู้สึกสงสารปนเวทนากับชะตากรรมชูสุเกะเลยยอมหยวนๆ
กัปตันขา น้องชายนายช่วงนี้ทำตัวไม่ได้เรื่องเลย สงสัยต้องให้ยูกิโนะจากฟิคฮาร์ดคอร์เข้ามาตบสั่งสอนแล้วมั้ง ถถถถถถถถถถถถ
ดิบตอนใหม่มาแล้ว
กูมีคำถาม ตอนนี้ดิบอยู่ตอนที่เท่าไหร่ละวะ
ตื่นมาเข้าห้องน้ำเลยเช็คดูตอนใหม่มายัง ขอบคุณนะโม่งแปล
กูขำตรง "คะนึงหาชั่วชีวีไม่เอื้อนเอ่ย เก็บกลั้นไว้ในใจเล่าคือรักแท้" เอามากๆ ฟังดูคุ้นๆกับใครซักคนแถวๆนี้ชิบหาย สองคนนี้สมเป็นเพื่อนกันจริงๆว่ะ พฤติกรรมแบบเดียวกันเด๊ะ แต่แน่ใจแล้วนะว่าเรย์กะอยู่บนยอดพีระมิดสตอล์กเกอร์... ไม่ใช่นายคนนั้นหรอมมมม แถมตอนท้ายๆนี่ดูเป็นคุณนายบ่างช่างยุ ซุบซิบให้คนอื่นเขาแตกคอกันยังไงไม่รู้ดิ 5555555555
ยูกิโนะมาแล้ว มาดักรอเลยวุ้ย จะหาเรื่องอะไรมาชงให้พี่อีกน้า
แปลไทยล่าสุดที่เรย์กะพูดมานี่นอกจากกระทบคาบุรากิแล้วยังกระทบถึงจอมมารโดยไม่รู้ตัว ถ้าจอมมารได้ยินมีกระอักกันบ้างล่ะ แต่บางทีก็คิดนะว่าคาบุรากิเตี๊ยมกับเอ็นโจเปล่าถึงออกไปเวลานี้ยูกิโนะโผล่มาปั๊ป
คนที่มีโอนิวาบังนี่มันไม่น่าจะใช่เรย์กะนะ น่าจะคนที่คุณก็รู้ว่าใครมากกว่า แต่ยูกิโนะมาทำไมน้อ ดูเหมือนจะมาดักรอด้วยสิ พี่ชายหนูเอามาหย่อนทิ้งไว้เป็นเหยื่อล่ออ๊ะป่าว รู้ได้ไงว่ารถเรย์กะจอดอยู่ตรงนี้อะ
แต่คะนึงหาชั่วชีวีไม่เอื้อนเอ่ย เก็บไว้ในใจคือรักแท้นี่มันจริงเรอะ ดูยังไงก็ทรมานตัวเองอยู่ชัดๆ รักเขาแต่พูดออกไปไม่ได้นี่คงอึดอัดน่าดูนะ เปิดเพลงไม่บอกเธอให้ทั้งมาซายะทั้งชูสุเกะไปเลย
"อึดอัดเหลือเกินต้องเก็บเอาไว้ข้างใน อึดอัดหัวใจแต่ก็กลัวถ้าพูดไป กลัวจะต้องเสียใจ...." สู้ๆนะ ชูสุเกะคุง มาซายะคุง
โอนิวาบัง นึกถึงท่าน อาโอชิ เลย
กรี๊ดมาดคูลอาโอชิ
หลงกล้ามล่ำๆอ.ฮิโกะ
คลั่งไคล้ความบ้าของชิชิโอ
ชอบน้องติดพี่แบบเอนิชิ
คะนึงหาหน้ายิ้มแบบเซตะ
ไปๆมาๆ อ๊ะ......นี่กูชอบตัวร้ายไม่ก็คนที่กระทืบพระเอกหมดเลยนี่หว่า
ตอนต้นโครตได้ฟีลคุณสามีไปทำงานตจว.แล้วโทรคุยกับคุณภรรยา เด็กมาฝึกงานที่ทำงานเป็นไงมั่ง อ๋อ ทำงานได้ขยันขันแข็งดีค่ะไม่ต้องเป็นห่วง แล้วก็คุยบลาๆๆๆ ก่อนจะบอกว่าจะรีบกลับไปหานะจ๊ะ คิดถึงนะ คิดถึงเช่นกันจ้า อะไรประมาณนี้อะ 5555555555555
ตอนท้ายๆ...เออเว้ย วาคาบะนี่สุดยอดนักสับรางจริงๆ หลังจากรถไฟชนกันไปคนละรอบ ก็ไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเลย บริหารเอาใจคนในฮาเร็มได้ดียิ่ง คาบุชวนสามครั้งโดนปฏิเสธสองครั้ง เวลาสามส่วนแบ่งให้เรย์กะส่วนหนึ่ง อีกส่วนให้มิซึซากิใช่มะ แบ่งเวลาเป็นนะเนี่ย สงสัยวาคาบะเป็นลูกศิษย์อิมาริแหงๆ
บางทีกูก็แอบๆคิดนะว่าสายของเอ็นโจหนึ่งในนั้นมีวาคาบะด้วยรึเปล่า สองคนนี้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ในมังงะ น่าจะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันนะ แถมดูท่าจะสนิทกันลับหลังเรย์กะอีก ตอนเดินทางไกลเอ็นโจก็เดินเข้าไปหา หัวเราะกันร่าเริง อยู่ห้องเดียวกันตอนม.5ก็คงคุยกันบ่อย มีเรียกเอ็นโจคุงด้วย กูว่าอาจจะมีแชร์ข้อมูลเรย์กะกันสองคนก็เป็นได้นะ 5555555555555555555555555
>>770 กูชอบไซโต้ คนอะไร๊เท่เหลือหลาย เท่ทุกอิริยาบถ ไม่หล่อแต่เท่ เท่โครต เอาใจกูไปเลย
กรี๊ดดดดด ตอนใหม่
นายบากะรากิว่สทั่นเรย์กะเป็นสตอล์กเกอร์ได้ยังไง คนร้ายตัวจริงน่ะท่านเอนโจชัดๆ เลยยย
โอ๊ยยยขำ ขอบคุณน้าโม่งแปลลล วันนี้ก็ยังขยันเหมือนเดิมเลยยย เลิฟฟฟฟฟฟ
ถ้าหากว่า........
ริรินะมี KGB - "ความลับจะเป็นความลับ เมื่อเราอนุญาต"
เรย์กะมีโอนิวาบัง - "ฟูรินคะซัน"
เอ็นโจครอบครอง MI6 - "ผีหลอก วิญญาณหลอน"
เทพมารคงไม่พ้น FSB - "ชั่วช้าสามานย์ ทุกประการเพื่อน้องสาว"
กูยืนกรานมาตลอดว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไงกูก็ไม่ย้ายออกจากเรือจอมมาร แต่วันนี้กูยอม.... ขอไปอยู่เรือกัปตันยูกิโนะแทนเจ้าค่ะ!!!
บ้าจริงงง ฉากโผเข้ามากอดนี่มันอะไร!? หัวใจสาวน้อยหวั่นไหวเหลือเกิน
ถ้ากูไม่รู้ว่าโอนิวาบังคืออะไรจะผิดไหม ผู้ใด๋ใจบุญช่วยอธิบายให้เด็กน้อยตาดำๆ ด้วยเน้อ
ไม่ใช่ว่าตอนต่อไป ชูสุมอยจะเดินลงจากรถตามกัปตันมานะ 55555
เห็นกระทู้เงียบ ก็เลยย่องมาแปะฟิคแบบเงียบๆ
เอ็นโจ Side story >>>/webnovel/4218/557-560
--------------------------
วันรุ่งขึ้น หัวข้อสนทนาของนักเรียนทั้งซุยรันก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องล็อคเกอร์ของคุณทาคามิจิ ก็คู่กรณีเป็นถึงคุณคิโชวอินผู้โด่งดังนี่นะ
แม้คุณทาคามิจิจะมาออกหน้าให้ แต่ดูเหมือนว่าทุกคนก็ยังมีข้อสงสัย บางคนก็ปักใจเชื่อว่าคุณทาคามิจิถูกกลุ่มคุณคิโชวอินข่มขู่ ลือกันไปต่างๆนานา
ในสโมสรก็พูดกันถึงเรื่องนี้ไม่หยุด ผมนั่งฟังข่าวซุบซิบนั่นนี่เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าในนี้จะไม่มีใครเชื่อว่าคุณคิโชวอินทำ ก็ค่อยยังชั่วหน่อย
เมื่อวานผมเองก็คุยเรื่องนี้กับมาซายะ ไม่ต้องพูดอะไรกันมากมาย มาซายะก็ยอมเข้าใจว่าคุณคิโชวอินไม่ใช่คนทำ บทสนทนาก็เลยออกไปในทางจะสืบหาคนร้ายได้อย่างไรดี
โรงเรียนก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ คงกลัวว่าสืบไปสืบมา เกิดคุณคิโชวอินเป็นคนร้ายขึ้นมาจริงๆ ก็จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันเข้าไปใหญ่
ไม่มีใครลงโทษ Pivoine ได้หรอก ผลกระทบตามมาเป็นลูกโซ่แน่นอน
จะเอานักเรียนธรรมดามาแลกกับลูกคนใหญ่คนโตมันได้ไม่คุ้มเสีย
คุณทาคามิจิก็ไม่ได้เรียกร้องจะเอาคนผิดมาลงโทษ เธอคงอยากให้เรื่องจบไปให้ไวที่สุดเหมือนกัน แต่มาซายะนั้นฮึดฮัด สัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะสืบหาคนร้ายให้ได้
พูดถึงมาซายะ วันนี้หมอนั่นยังไม่เข้ามาที่สโมสรนี่นะ คุณคิโชวอินก็ด้วย
....อยู่ด้วยกันงั้นเหรอ!?
ผมกดเมล์ส่งไปถามมาซายะว่าอยู่ที่ไหน แล้วก็บอกสถานการณ์คร่าวๆของที่นี่ มาซายะก็ตอบกลับมาว่าคุยกับคุณคิโชวอินเสร็จแล้ว กำลังจะไปหา
มาซายะอยากคุยเรื่องนี้กับคุณคิโชวอินตั้งแต่เมื่อวาน แต่เธอก็เอาแต่หลบหน้า คงกลัวว่าจะถูกมาซายะเล่นงานเพราะเข้าใจผิดคิดว่าไปกลั่นแกล้งคุณทาคามิจิ
โธ่ กระต่ายน้อย กลัวอะไรไม่เข้าเรื่องจริงๆ มันไม่มีวันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นหรอกนะ
แต่ถ้ามันเกิดขึ้น ผมจะช่วยคุณเอง
พอมาซายะกลับมาก็เล่าเรื่องที่ไปคุยกับคุณคิโชวอินให้ฟัง เธอก็เสนอวิธีแก้ปัญหาที่จะช่วยคุณทาคามิจิได้ผลชะงัดนัก นั่นคือให้เลิกยุ่งกับคุณทาคามิจิ
ก็เป็นคำแนะนำที่ดีที่สุดแล้ว แต่มาซายะไม่มีวันยอมทำหรอก
มาซายะกำลังมีไฟลุกพรึ่บๆ มุ่งมั่นในการควานหาตัวคนร้ายจากในความมืด ผมก็เลยปล่อยให้เขาเล่นบทนักสืบไป ในใจนึกถึงเรื่องคุณคิโชวอินว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
เจอเรื่องหนักๆแบบนี้คงเหนื่อย ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาอะไรที่จะทำให้เธอผ่อนคลายขึ้นได้
งั้นก็คงมีแค่อย่างเดียว.....
.
.
.
.
ก่อนวันไวท์เดย์ ผมเข้าไปหาคุณคิโชวอินที่นั่งจิบชาอยู่ในที่ประจำของตัวเอง เธอดูอารมณ์ดีขึ้นมาก คงเพราะเพื่อนๆของเธอช่วยกันแก้ข่าวลือเรื่องคุณคิโชวอินเป็นคนร้าย ทำให้ตอนนี้แทบไม่มีใครสงสัยในตัวเธอแล้ว
รู้สึกกระแสในตอนนี้จะตีกลับไปทางฝั่งซึรุฮานะเสียเองแล้วล่ะ
ผมปัดเรื่องนั้นทิ้งไปก่อน ส่งยิ้มให้อย่างเคย
“คุณคิโชวอิน วันไวท์เดย์พรุ่งนี้น่ะ ยูกิโนะบอกว่าอยากให้ขนมตอบแทน ขอเวลาช่วยแวะไปหาซักนิดหนึ่งได้มั้ย”
“แหม ยูกิโนะคุงน่ะเหรอคะ!? ดีใจจังเลย”
พอได้ยินชื่อยูกิโนะ คุณคิโชวอินก็ดูจะดีใจจริงๆอย่างคำพูด ยิ้มกว้างออกมาจนเห็นลักยิ้มเล็กๆน่ารักๆนั่น ยิ้มได้แบบนี้คงไม่เป็นอะไรแล้วสินะ
เธอดูกังวลนิดหน่อยเรื่องเวลาเลิกเรียนที่ไม่ตรงกัน ผมก็เลยบอกไปว่ายูกิโนะเอาเกมที่คุณคิโชวอินสอนให้เล่นในวันเกิดมาเล่นกับเพื่อนๆที่เปอติต์ด้วย สนุกกันใหญ่เลยล่ะ
“ยูกิโนะอยากให้คุณคิโชวอินอยู่เล่นด้วยน่ะแหล่ะ แต่ถ้าคุณคิโชวอินมีกำหนดการอื่น ปฏิเสธไปก็ได้นะ”
“กำหนดการอื่น?” เธอเลิกคิ้วขึ้น ทำท่าครุ่นคิดนิดหน่อยก็ตอบตกลงว่าจะไปหายูกิโนะ
แต่ตอบตกลงง่ายๆแบบนี้ก็ผิดคาดไปเหมือนกัน นึกว่าจะมีนัดไปกับใครคนอื่นเสียอีก ขนาดวันคริสต์มาสยังปฏิเสธคำชวนจากมาดามคาบุรากิเลยนะ หรือยูกิโนะจะสำคัญมากจนยอมทิ้งนัดไวท์เดย์ก็ไม่รู้
“แล้วท่านเอ็นโจล่ะคะ มีเดทวันไวท์เดย์รึเปล่า”
เธอถามกลับมาด้วยเสียงล้อเลียน นี่ก็ผิดคาดเหมือนกัน
“ก็นะ ประมาณนั้นล่ะ” พอตอบออกไป คุณคิโชวอินก็ชะงักไปทันควัน แล้วก็ดูจะหงุดหงิดขึ้นมา มีมองค้อนด้วยหางตาอีกต่างหาก
แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยเห็นจะใส่ใจใยดีอะไรเลยนี่นา ว่าผมจะไปที่ไหนกับใครหรือทำอะไรอยู่ในแต่ละวันบ้าง อยู่ๆก็มาถามแบบนี้ แล้วยิ่งท่าทางหลังฟังคำตอบอีก
คุณคิโชวอินครับ อย่าทำแบบนี้สิ เดี๋ยวผมก็คิดไปไกลหรอก
.
.
.
.
จากการแก้ข่าวของเหล่าพันธมิตรของคุณคิโชวอินทำให้คุณซึรุฮานะมีสถานะตกต่ำในชั่วพริบตา เดินผ่านไปตรงไหนก็ถูกซุบซิบนินทาว่าเป็นคนร้าย จัดฉากใส่ความคนดีๆอย่างคุณคิโชวอินไปได้
ก็สมน้ำหน้าแล้วล่ะนะ
แต่ผู้หญิงที่เหมือนอสรพิษ คอยจ้องจะแว้งกัดอยู่ร่ำไปไม่มีทางยอมอยู่เฉยๆแน่ แล้วก็เป็นไปตามคาดที่คุณซึรุฮานะจะปรี่มาเอาเรื่องคุณคิโชวอินกลางโรงอาหารทันที คงจะเลือดขึ้นหน้าจนไม่สนสถานะแล้ว
ผมมองเหตุการณ์อยู่วงนอกเงียบๆกับพวกนักเรียนชายคนอื่นๆไม่เข้าไปยุ่ง ปล่อยให้ผู้หญิงตบกันไป ถ้าคุณคิโชวอินมีอันตรายค่อยเข้าไปช่วยเป็นพอ
แต่องครักษ์พิทักษ์ราชินีรายล้อมกันเป็นพรวนอย่างนั้น คุณซึรุฮานะคงไม่ได้แตะแม้ปลายเส้นผมของคุณคิโชวอินด้วยซ้ำ
กรรมการนักเรียนเข้ามาห้ามทัพ แต่กลายเป็นการราดน้ำมันลงกองเพลิงกองใหญ่ ยังมีคุณโคะโท ลูกพี่ลูกน้องของเธอเข้ามาร่วมด้วย กลายเป็นจราจลขนาดย่อมๆที่น่ายิงแก๊สน้ำตาใส่
พวกนักเรียนหญิงตบตีกันไปได้สักพัก ประธานนักเรียนก็ออกมาระงับเหตุ จับแยกออกจากกัน สอบถามเรื่องราวและเหตุผล ต่างฝ่ายต่างก็โทษกันไปมาหาว่าอีกฝ่ายเริ่มก่อน
พอพวกเธอตั้งท่าจะตีกันอีกรอบ และประธานนักเรียนก็ห้ามไม่ไหว สิ่งที่เหมือนระฆังห้ามมวยก็ดังขึ้นได้จังหวะพอดี
“หนวกหู!!”
มาซายะตะโกนขึ้น ทำให้ทุกคนเงียบกันไปหมด
“เสียงแสบแก้วหูแล้วสารรูปยังดูไม่ได้อีก”
พวกผู้หญิงที่ก่อเหตุตบตีหน้าเจื่อนกันไปหมดที่ถูกมาซายะตำหนิ
“ยังไม่มีใครถูกระบุตัวว่าเป็นคนร้ายคดีล็อคเกอร์ของทาคามิจิ อย่ามาเอะอะกันด้วยข้อสันนิษฐานไร้สาระน่า”
ท่าทางเอาจริงเอาจังน่ายำเกรงของมาซายะก็ยังข่มขวัญคนอื่นได้เสมอ เรื่องก็ทำท่าจะจบลงด้วยข้อยุติจากปากจักรพรรดิแห่งซุยรัน เตรียมได้เวลาแยกย้าย
แต่พวกคุณคาซามิดักหน้ามาซายะไว้ ท่าทางกริ่งเกรงกับประหม่าแบบเห็นได้ชัด
“อะ เอ่อ ท่านคาบุรากิคะ”
“ท่านคาบุรากิ ท่านเรย์กะไม่ได้เป็นคนกลั่นแกล้งนะคะ มีแต่เรื่องนี้เท่านั้นที่ขอให้เชื่อเถอะค่ะ”
“ใช่แล้วค่ะ กรุณาอย่าเข้าใจท่านเรย์กะผิดๆเลยนะคะ”
สองคนนั้นเป็นแฟนคลับมาซายะมาตั้งแต่ประถม แต่ตอนนี้กลับออกหน้าขอร้องไม่ให้มาซายะเข้าใจคุณคิโชวอินผิดๆ น่าจะกังวลเรื่องนั้นมาตลอดเลยล่ะมั้ง
ทุกคนรู้ว่าถ้าทำให้มาซายะโกรธก็คงกลายเป็นศัตรูของคนทั้งโรงเรียน แต่ก็ยอมยืนอยู่ข้างคุณคิโชวอินที่กำลังลำบากมากกว่า ไม่ยอมทอดทิ้งไปไหน
คุณคิโชวอิน คุณมีเพื่อนดีนะ
มาซายะตอบสั้นๆว่า “ฉันเชื่อ” แล้วก็เดินจากไป
พวกผู้หญิงกรี๊ดกร๊าดกันดังลั่นโรงอาหาร เข้าไปแสดงความยินดีกับคุณคิโชวอินที่ปราศจากมลทินแล้ว คุณคิโชวอินก็ยิ้มออกมา ดูมีความสุขที่ได้อยู่ท่ามกลางเพื่อนๆและคนที่เชื่อใจ
ผมมองรอยยิ้มนั่นแล้วก็ยิ้มตาม
ดีแล้วล่ะ ขอให้รอยยิ้มแบบนี้อยู่บนใบหน้าของคุณตลอดไป
แต่พอเรื่องคลี่คลาย คุณคิโชวอินกลับพูดสิ่งที่ทำให้ผมต้องหุบยิ้มในทันควัน
“ได้ยินว่าท่านเอ็นโจมีเดทกับใครบางคนในวันไวท์เดย์ด้วยนะคะ”
อ้าว ใช้เรื่องของผมเบี่ยงเบนความสนใจของคนอื่นไปจากเรื่องตึงเครียดพวกนี้อย่างนั้นใช่มั้ย อะไรที่ทำอยู่น่ะ คิดเหรอว่าผมจะไม่รู้เลยงั้นสิ
ถึงเรื่องนี้จะไม่ใช่ความลับอะไร แต่พวกผู้หญิงต้องมารุมถามนั่นนี่แน่ๆ แล้วก็จะวุ่นวายน่ารำคาญสุดๆ
จะปล่อยให้ได้ใจก็คงไม่ดี เพราะอย่างนั้นผมคิดว่าต้องไปแสดงตัวให้เห็นสักหน่อย
คุณคิโชวอินปลีกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อนๆ ผมก็เดินตามเธอไป ยื่นมือไปแตะบ่า คุณคิโชวอินที่กำลังอารมณ์ดีๆอยู่ พอหันกลับมาก็สะดุ้งโหยงเหมือนเห็นผี
“คุณคิโชวอินก็มีบุญคุณกับผมอยู่หลายครั้ง” ผมพูดยิ้มๆ รอดูปฏิกริยาของเธออย่างรู้สึกสนุก “ครั้งนี้จะทำเป็นมองไม่เห็นไปนะ”
หน้าที่ซีดอยู่แล้วก็ยิ่งซีดไปกว่าเดิมอีก ตลกเป็นบ้า
“เอาเป็นว่า จากนี้ไปก็ฝากด้วยนะ”
ผมส่งยิ้มให้คุณคิโชวอิน อยากจะเอาข่าวอื่นๆไปปล่อยเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องตบตีหรืออะไร ก็ตามสบายเลยนะ
แต่จะกล้ารึเปล่านี่สิ
.
.
.
.
หยอกคุณคิโชวอินพอหอมปากหอมคอเป็นการสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง ได้เห็นเธอกลัวตัวสั่นๆเหมือนกระต่ายแล้วก็รู้สึกพอใจขึ้นมานิดหน่อย
ต่อจากนี้ก็แค่ยิ้มใส่เฉยๆ เดี๋ยวคนอย่างเธอก็เก็บไปเครียดเองทีหลังนั่นล่ะ ถือซะว่าเป็นการชดใช้เรื่องวุ่นวายที่ผมกำลังจะเจอต่อจากนี้ก็แล้วกัน
เอาล่ะ เรื่องที่ยังคั่งค้างอยู่ก็ไปทำให้มันจบๆไปเลยดีกว่า
เมื่อซึรุฮานะออกไปจากโรงอาหาร ผมก็เดินตามไป แล้วก็รอให้อยู่คนเดียวเดี่ยวๆก่อน จะได้ไม่มีตัวเกะกะส่งเสียงน่ารำคาญ และอีกอย่าง...จะทำลายขวัญกำลังใจของศัตรูให้ย่อยยับลงได้ ก็มีแต่ต้องเด็ดหัวแม่ทัพเท่านั้น
คุณคิโชวอินใจดีเกินไปที่ปล่อยให้ซึรุฮานะรอดมาหลายหน วัชพืชน่ะ ถ้าไม่ถอนรากถอนโคนก็จะแตกหน่อขยายพันธุ์สร้างความรำคาญอยู่เรื่อยๆนั่นล่ะ
“คุณซึรุฮานะ จะรีบไปไหนเหรอ” ผมเรียกเธอไว้ “หยุดคุยกันก่อนสิ”
ซึรุฮานะชะงักกึก หันมามองผมแบบงุนงง ร้อยวันพันปีผมก็ไม่เคยจะยุ่งเกี่ยวกับเธอมาก่อน คงจะสงสัยว่าอยู่ๆก็มาเรียกไว้ทำไม
ผมก้าวเท้าไปหาด้วยท่าทางสบายๆ ส่งยิ้มน้อยๆไปให้
“ใส่ร้ายคนอื่นนี่สนุกรึเปล่า อ๋อ ก็ต้องสนุกอยู่แล้วล่ะเนอะ ได้โอกาสเห็นศัตรูย่อยยับลงไปตรงหน้าทำไมจะไม่คว้าไว้ ถึงได้พูดจาอะไรไม่เข้าท่าออกมาซะเยอะแยะเลยนี่นะ รู้อยู่แก่ใจว่าคุณคิโชวอินไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้นแต่ก็ยังใส่ร้ายเธอได้ ผมล่ะปวดใจจริงๆ”
“ท่านเอ็นโจคะ”
“ปกติผมก็ไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเรื่องผู้หญิงตบตีกันหรอก แต่ครั้งนี้ดูจะทำเกินไปหน่อยนะ”
ที่นี่ไม่มีใครนอกจากผมกับซึรุฮานะ ก็เลยไม่จำเป็นต้องปั้นหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตรให้เสียเวลา
“ถ้าคิดจะใส่ความคุณคิโชวอินมากไปกว่านี้ ผมจะเข้าข้างคุณคิโชวอินล่ะนะ จะเอายังไงล่ะ”
ผมกลับไปยิ้มเหมือนเดิมให้ซึรุฮานะที่หน้าซีด เสนอทางเลือกให้สองทางว่าจะถอยหรือเดินหน้าต่อ
คนฉลาดที่ไหนก็ต้องเลือกถอยหลัง และผมเองก็หวังว่าเธอจะเป็นคนฉลาด
ซึรุฮานะตัวสั่นน้อยๆ ไม่รู้ว่ามาจากความกลัวหรือความโกรธ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องใส่ใจ
“อย่าเงียบสิ คุณซึรุฮานะ” ผมหัวเราะ เอียงคอมองเธอ “คุณไม่พูดอะไรเลยแบบนี้ ผมอาจจะเข้าใจว่าคุณกำลังจะท้าทายผมอยู่ก็ได้นะ แต่ผมน่ะไม่ใจดีแบบคุณคิโชวอินหรอก”
“....ขออภัยค่ะ”
“หืม”
“....ต้องขออภัยต่อการกระทำอันไม่เหมาะสมของฉันต่อท่านเรย์กะด้วยค่ะ”
“อื๋อ แล้วยังไงอีกล่ะ พูดต่อสิ คุณยังพูดไม่จบไม่ใช่เหรอ”
“ฉัน...ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีก....” พอผมเลิกคิ้วหน่อยๆเป็นเชิงถามว่าแบบไหน เธอก็รีบพูด “...ไม่กล่าวให้ร้ายท่านเรย์กะอีก....”
“อือฮึ ต้องแบบนี้สิ ถึงคุยกันรู้เรื่องหน่อย” ผมพยักหน้ายิ้มๆ “หวังว่าคุณจะจำคำพูดของคุณในวันนี้ได้นะ คุณซึรุฮานะ โอกาสน่ะมีได้ครั้งเดียว ถ้ามีอีกล่ะก็...”
“.....ทราบแล้วค่ะ” ซึรุฮานะก้มหน้า ท่าทางจะเจ็บแค้นมาก แต่ต้องยอมจำนน คงจะนึกถึงเรื่องสมัยก่อนที่ถูก Pivoine อย่างคุณคิโชวอินข่มขู่ล่ะสิท่า
“เด็กดี”
ผมมองตามหลังซึรุฮานะที่เดินจากไปหลังจากคุยกันรู้เรื่องแล้ว จากนี้คงจะสงบสุขไปอีกซักระยะ
ถึงเรื่องนี้เธอจะยอมล้มเลิกไป แต่ผมคิดว่าผู้หญิงที่เหมือนงูพิษจ้องจะแว้งกัดได้ทุกเมื่อแบบนี้คงไม่ยอมรามือง่ายๆหรอก ผมคิดว่าเธอคงหาโอกาสอื่นมาเล่นงานคุณคิโชวอินอีกแน่ แต่โอกาสนั้นจะมาอีกเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครรู้
ช่างเถอะ โอกาสจะมาถึงเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็จะทำแบบเดิมอยู่ดี
ผมจะปกป้องคุณ ถึงคุณไม่ต้องการ ไม่ได้ร้องขอ แต่ผมก็จะปกป้องคุณ
เพื่อคุณแล้วจะให้ผมทำอะไรก็ได้ ต่อให้ต้องกลายเป็นปีศาจร้ายแค่ไหนผมก็ยอม ผมไม่มีวันยอมปล่อยให้คุณตกอยู่ในอันตรายเป็นอันขาด
ทำไมน่ะหรือ คำตอบมันก็ง่ายแสนง่าย เพราะผมชอบคุณน่ะสิ
ที่ผ่านมา ไม่ว่าเธอจะมีปัญหากับใครผมก็ยื่นมือเข้าไปหาทุกครั้ง แม้เธอไม่ได้ร้องขอแต่ผมก็อยากช่วย ไม่ได้รับผลตอบแทนอะไรแต่ผมก็ไม่สนใจ เพราะผมเต็มใจอย่างยิ่งที่จะทำให้
ก็อยากปกป้อง อยากดูแลคนที่ชอบมันแปลกตรงไหน ใครๆบนโลกเขาก็ทำกัน
แต่เรื่องนั้น คุณคิโชวอินไม่จำเป็นต้องรู้หรอก
------------------------
Kisshouin-san I will protect you.
บทสนทนาของเอ็นโจกับซึรุฮานะกูดัดแปลงจากตอนเรย์กะไปข่มขู่นาง เห็นคำว่าฉันเผยรอยยิ้มที่มืดดำไม่แพ้เอ็นโจแล้วก็คิดว่าสองคนนี้คงขู่คล้ายๆกันแหงๆ ตอนเจ้าแม่ขู่ทาคากิก็ใช้วิธีการเดียวกันเด๊ะๆเลยนะ เพราะงั้นเลยคิดว่าเอ็นโจคงทำเหมือนกันนั่นล่ะ
เที่ยงคืนแล้ว ถือว่าเป็นวันใหม่ ลงฟิคต่อได้
เอ็นโจเลี้ยงต้อย >>>/webnovel/4099/841-844
------------------------------
“.....เกะ….ชูสุเกะ….ชูสุเกะ….”
สัมผัสหนักๆที่เกิดขึ้นกับไหล่เรียกให้ผมตื่นจากภวังค์ความคิด พอหันหน้าไปก็เห็นมาซายะกำลังจับไหล่ผมพลางขมวดคิ้วจ้องมองมา ท่าทางงุนงงสงสัย
“เป็นอะไรไป เรียกตั้งนานไม่ตอบ”
“โทษทีนะ” ผมส่งยิ้มกลบเกลื่อนไปให้ “พอดีคิดอะไรเพลินไปหน่อย”
“อย่าเหม่อสิ ให้มันแข็งขันหน่อย”
“รู้แล้วน่า”
ตอนนี้ผมกับมาซายะมานั่งอยู่ด้วยกันที่ห้องรับแขกของคลีนิคจิตแพทย์ที่ตกแต่งไว้อย่างเรียบง่ายแต่ดูหรูหราด้วยโทนสีที่เห็นแล้วสบายตา ทำให้รู้สึกสงบ คงเป็นเรื่องจิตวิทยาการใช้สีในการออกแบบอะไรซักอย่าง
“เดี๋ยวมานะ” ผมบอกมาซายะตอนถูกเรียกตัวเข้าไปพบแพทย์ เขาก็พยักหน้า เปิดอ่านนิตยสารที่วางอยู่แถวๆนั้นฆ่าเวลาไป
ก่อนหน้านั้นผมบอกให้มาซายะไม่ต้องมาด้วยกันก็ได้เพราะมันใช้เวลานาน แต่เขาก็ดื้อ เอาแต่บอกว่ารอได้ แล้วก็ไม่ยอมรับฟังอะไรอีก ผมขี้เกียจจะเถียงก็เลยยอมๆไป
อันที่จริงกำหนดการของพวกเรานั้นแน่นเอี๊ยดแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว แต่มาซายะก็ยอมทิ้งธุระทั้งหลาย มานั่งรอผมคุยกับจิตแพทย์ทุกครั้ง ทั้งที่มันดูเหมือนจะเป็นการใช้เวลาแบบเปล่าประโยชน์ จะว่าเป็นการตอบแทนที่ผมอยู่ข้างๆเขาตอนอยู่ที่ลอนดอนก็ได้มั้ง
จิตแพทย์คนใหม่เป็นผู้หญิงร่างท้วม ท่าทางอบอุ่น ใบหน้าดูใจดีเหมือนคุณแม่ผู้มีเมตตา เห็นแล้วให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ตรงหน้าพระโพธิสัตว์กวนอิมอะไรแบบนั้น
ดูท่าทางเธอจะรู้ข้อมูลของผมอยู่แล้ว เพราะผมคือเคสที่ส่งต่อมาจากจิตแพทย์จากลอนดอนที่เป็นอาจารย์ของเธอ เราพูดคุยสัพเพเหระกันอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เข้าเรื่องปัญหาของผม
หมอสอบถามผมหลายอย่างทั้งเรื่องอาการปวดหัว เรื่องความเครียด เล่าถึงชูสุเกะในหัวของผมว่าเราพบกันเมื่ออายุเท่าไหร่ แล้วก็เล่าต่อจากเดิมว่าชูสุเกะในโลกกระจกเริ่มมีอำนาจเหนือผมขึ้นทุกวันๆ จนผมควบคุมเขาไม่ได้ ไม่รู้จะออกมาอีกตอนไหน
อย่างครั้งล่าสุดที่ปรากฎตัวนั้นก็เอาร่างกายไปใช้ตามใจชอบ ตอนที่เขาใช้ร่าง ผมไม่มีสติรับรู้เหตุการณ์
ผมกลัวว่าเขาจะเอาไปทำเรื่องร้ายๆ ถึงมันจะเป็นร่างกายของเขาเองก็เถอะ แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาที่ถูกขังอยู่ในร่างกายตัวเองมานานเป็นสิบปีจะวิปลาสไปแค่ไหน
หมอให้ผมเล่าเรื่องที่อีกคนหนึ่งในตัวกระทำลงไป ผมก็เลยเล่าถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่เขาปรากฎตัวด้วยการบอกให้มาซายะพาไปดูละครเวที อีกหนคือใช้ร่างนี้ไปทำเรื่องแบบนั้นกับเรย์กะ
พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร ความรู้สึกกระอักกระอ่วนก็ปรากฎขึ้นมาทุกครั้ง มันเป็นความรู้สึกที่สับสนวุ่นวาย ผสมกับความวิตกกังวลอย่างบอกไม่ถูก ตอนกอดเธอผมก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจเหมือนมีหนามทิ่มแทงอยู่ตลอด
“นั่นเป็นครั้งแรกของฉันเลยน้า” เรย์กะเอานิ้วจิ้มไหล่ของผมแบบเขินๆ “ต้องรับผิดชอบด้วยล่ะ”
ยิ่งเห็นรอยยิ้มที่ไม่รู้อะไรเลยของเธอ ผมก็ยิ่งรู้สึกผิดที่คิดแบบนี้ แต่จะให้บอกความจริงออกไปว่านั่นไม่ใช่ผม ก็ทำไม่ได้
เท่าที่ดู ชูสุเกะคนนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีใส่เรย์กะ จากที่เลียบๆเคียงๆถาม เขาดูจะสวมบทบาทเป็นแฟนที่ดี นุ่มนวล อ่อนโยนและเอาใจใส่ บทรักก็ไม่ได้หยาบคาย แต่เต็มไปด้วยความทนุถนอม สร้างความทรงจำดีๆให้เหมือนในหนังรักโรแมนติค ผมเลยนึกถึงคำพูดที่เขาเคยพูดไว้เมื่อก่อน
“นายชอบอะไรผมก็ชอบด้วย นายรักอะไรผมก็รักด้วย ก็เราสองคนคือคนคนเดียวกันนี่นา”
หมอนั่น รักเรย์กะจริงๆเหรอ
ผมไม่มั่นใจว่ามันเป็นจริงอย่างที่เขาพูด ถ้าเราสองคนคือคนคนเดียวกัน ยิ่งเชื่อถือไม่ได้เข้าไปใหญ่
ไม่รู้ว่าเขามีจุดประสงค์อะไร เรื่องที่มันผ่านมาแล้วจะให้ย้อนกลับไปแก้ไขก็คงเป็นไปไม่ได้
แต่จะให้หาทางแก้ไข ผมยังมองไม่เห็นทางออกเลยสักนิด
.
.
.
จากการสอบถามข้อมูล ทำแบบทดสอบอีกหลายอย่าง ไปหาหมออีกหลายหน หมอก็วินิจฉัยว่าผมเป็น Dissociative Identity Disorder หรือโรคบุคลิกภาพแตกแยก แต่ผมรู้ดีว่ามันไม่ใช่
โรคนี้มักเกิดจากการสร้างอีกบุคลิกที่เข้มแข็งกว่ามาปกป้องบุคลิกหลักเมื่อได้รับความเจ็บปวดกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง แล้วบุคลิกหลักก็จะไปหลบซ่อน หนีจากความเจ็บปวดที่ได้รับ เมื่อปลอดภัยแล้วจึงออกมาใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งกรณีของผมมันไม่เข้าข่าย
ชูสุเกะคนนั้นไม่ได้สร้างผมขึ้นมา ไม่มีการทารุณทางร่างกายหรือจิตใจอะไรทั้งนั้น อยู่ๆผมก็โผล่มาติดอยู่ในร่างนี้เอง เป็นอาการที่นักจิตบำบัดคนไหนก็ช่วยไม่ได้
หมออธิบายถึงวิธีรักษาว่าต้องใช้ยาควบคู่ไปกับการบำบัดทางจิต และหนทางรักษาคือหลอมรวมบุคลิกของผมและเขาเข้าด้วยกัน แต่ผมและเขาจะต้องยอมรับการมีตัวตนของกันและกันก่อน
เรื่องนั้นจะเป็นไปได้หรือ สิ่งที่ผมเป็นอยู่นี้มันก็ไม่ใช่บุคลิกภาพแตกแยกซักหน่อย
“....ชูสุเกะ….ชูสุเกะ…..”
มาซายะเรียกผมให้กลับมาสู่โลกความจริงเหมือนเคย สีหน้าเรียบเฉยที่มักทำอยู่เป็นประจำ ก็ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าที่ดูเป็นห่วงเป็นใยแบบเห็นได้ชัด
“อะ อื๋อ...ว่าไง”
“เหม่ออีกแล้วนะ” เขาหดมือกลับไปเมื่อผมมีปฏิกริยาตอบรับแล้ว
“โทษทีๆ” ผมยิ้มกลบเกลื่อนสถานการณ์ แต่มาซายะกลับขมวดคิ้วใส่
“พักนี้นายดูใจลอยผิดปกติ...คิดอะไรอยู่เหรอ มีอะไรไม่สบายใจก็เล่าให้ฉันฟังสิ”
“ไม่…” ผมจะตอบปฏิเสธอย่างเคย แต่มาซายะกลับชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ฉันพึ่งพาอะไรไม่ได้เลยเหรอ นายถึงไม่ยอมบอกอะไรฉันซักอย่าง”
ดูทำหน้าเข้า.... ท่าทางหงอยๆ แววตาเหมือนลูกหมาที่กำลังจะถูกทิ้งนั่นมันอะไรน่ะ
“ไม่ใช่อย่างนั้น มันก็แค่….”
“ก็แค่อะไรล่ะ”
ผมนึกถึงเรื่องที่ชูสุเกะในโลกกระจกคนนั้นออกมาเจอกับมาซายะแล้ว จะดีรึเปล่านะ ถ้าบอกมาซายะเรื่องนี้ ให้เขาระวังตัวเอาไว้
“นี่...มาซายะ ถามอะไรหน่อยสิ”
“ว่ามาสิ”
“ถ้าในตัวผมมีปีศาจสิงสู่อยู่ นายจะทำยังไงเหรอ”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็...สมมติว่า….ถ้าเกิดวันหนึ่งอยู่ๆผมก็เปลี่ยนไป กลายเป็นใครที่ไม่รู้จักมาอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่ตัวผมที่เคยเป็นมาตลอด เป็นปีศาจที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี นายจะทำยังไงล่ะ”
“ชูสุเกะ ฉันไม่เข้าใจ…”
“ก็แค่พูดเล่นน่ะ” ผมหัวเราะเบาๆ ทำเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องไม่สำคัญ “มันเป็นเรื่องสมมติ”
มาซายะจับไหล่ผมทั้งสองข้าง จ้องหน้าผมด้วยสายตาจริงจัง
“นั่นคือปัญหาที่นายกำลังเจออยู่ตอนนี้ใช่มั้ย” พอผมเงียบเขาก็ถามย้ำ “ใช่มั้ย ตอบมาสิ”
ผมทำแค่ยิ้มแล้วดึงมือเขาออก
“ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นหรอกน่า ก็บอกแล้วว่ามันเป็นเรื่องสมมติ”
“......”
“กลับกันเถอะ”
มาซายะก้าวขึ้นรถมานั่งข้างๆ บอกให้ขับไปส่งที่โรงแรมที่เป็นหนึ่งในเครือตระกูลคาบุรากิ แล้วก็เงียบไปตลอดทาง จนใกล้ๆถึงที่หมายเขาก็ยอมเอ่ยปากขึ้นมาเป็นคำแรก
“แม่ฉันสั่งให้ไปทานมื้อค่ำด้วย” เขาทำหน้าเหม็นเบื่อ “เห็นบอกอยากให้สนิทกับใครคนหนึ่งไว้”
มิน่า ชุดวันนี้ถึงดูเป็นกึ่งทางการ มีนัดไปทานมื้อค่ำต่อจากนี้นี่เอง คงหนีไม่พ้นแนะนำผู้หญิงในแวดวงสังคมให้ได้รู้จักแหงๆ
“เป็นหนุ่มเนื้อหอมก็แบบนี้ล่ะน้า” ผมเอ่ยแซว เขาก็ถลึงตาใส่
พอรถจอดหน้าโรงแรม มาซายะทำท่าจะเปิดประตูลงไป แต่ผมเรียกเขาไว้ก่อน จัดปกเสื้อกับกลัดกระดุมให้ ตบๆตามตัวเบาๆทำเหมือนปัดฝุ่นออกจากตัว
“ไปพบสาวก็ต้องแต่งตัวให้ดูดีกันหน่อยสิ”
มาซายะกลอกตาขึ้นมองข้างบน ผมเลยหัวเราะ
“เอ้า หล่อแล้ว ไปได้” ผมดันหลังเขาให้ออกจากรถเบาๆ “ไม่ต้องห่วง ผมไม่บอกคุณทาคามิจิหรอกว่ามาซายะมีเดทกับสาวอื่น”
“เงียบเหอะน่า”
มาซายะเหลือบมองผม เปิดประตูค้างไว้แต่ยังไม่ก้าวออกไป
“นี่ ชูสุเกะ”
“อะไรเหรอ”
“ปีศาจที่ว่านั่นน่ะ ฉันเคยเผชิญหน้ากับมันมาก่อนใช่มั้ย”
“เอ๋!?”
“ถ้าฉันหาวิธีกำจัดมันออกไปจากตัวนายได้ นายจะมีความสุขขึ้นรึเปล่า”
“พูดเรื่องอะไรน่ะ”
“เรื่องสมมติ”
“มาซายะ”
“ฉันไม่อยากเห็นนายมีความทุกข์มากไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะงั้นนะ...ฉันจะหาหนทางกำจัดปีศาจให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนฉันก็จะทำ”
“มาซายะ…”
“แล้วเจอกัน”
มาซายะยิ้มน้อยๆตอนที่วางมือลงบนหัวผม ตบปุๆอยู่สองสามทีแล้วก็ลงไป ปิดประตูรถ ก้าวขึ้นบันไดโรงแรมไปไม่หันกลับมามอง
ผมมองตามแผ่นหลังนั่นด้วยความรู้สึกสับสน
เขารู้อย่างนั้นเหรอ ว่านั่นไม่ใช่ผม
.
.
.
.
“ปีศาจอย่างนั้นเหรอ ใจร้ายจังเลยน้า คุณชูสุเกะ...”
เสียงที่เหมือนกันกับผมดังขึ้นให้ได้ยินเมื่อจมดิ่งลงในห้วงแห่งความฝัน พอเหลียวไปมองตามทิศทางของเสียงก็เห็นชูสุเกะในโลกกระจกนั่งไขว่ห้างอยู่กลางอากาศ แย้มรอยยิ้มน่ารังเกียจอย่างเคย
“แก!!!”
“ใจร้อนจัง” ชูสุเกะผมทองหัวเราะคิกคัก “ไม่เจอกันตั้งนาน ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยเหรอ มารยาทน่ะเอาไปไว้ไหนหมด”
“ต้องการอะไรกันแน่”
“อูว ทำหน้าน่ากลัวชะมัด” เขาเอานิ้วชี้เคาะหัวตัวเองเบาๆ “เครียดมากมันไม่ดีต่อสุขภาพนะรู้มั้ย คุณชูสุเกะเอาแต่เครียดอยู่แบบนี้ถึงได้ปวดหัวอยู่เรื่อยเลยไง”
“แกต้องการอะไรกันแน่”
“เอ้า ก็ได้ๆ เข้าเรื่องก็ได้….วันนี้ผมได้ยินการกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรมว่าผมน่ะเป็นปีศาจร้ายที่สิงสู่อยู่ในร่าง มาซายะก็คิดจะกำจัดผมอีกด้วย ผมรู้สึกเสียใจม๊ากมาก ก็เลยอยากออกมาพูดอะไรหน่อย”
ชูสุเกะผมทองกุมหน้าอกตัวเอง แกล้งทำสีหน้าเจ็บปวด แล้วก็เงยหน้าขึ้น
“ปีศาจที่สิงสู่อยู่ในร่างอย่างนั้นเหรอ นี่มันควรเป็นคำพูดของผมมากกว่านะ”
“.............”
“ดูเหมือนว่าการปล่อยให้คุณใช้ร่างของผมมาสิบกว่าปี จะทำให้คุณลืมตัวเองไปหน่อยล่ะมั้งว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของตัวจริง...ผมก็เลยต้องเตือนสติกันหน่อย”
“แกจะเอายังไงก็ว่ามา” ผมกำหมัดแน่น พยายามระงับอารมณ์ไม่ให้เข้าไปต่อยหน้าเขา ถึงจะมีกระจกขวางกั้นอยู่ก็เถอะ
“เอายังไงดีน้า” เขาทำเสียงล้อเลียน “ว้า แย่จัง ตอนนี้นึกไม่ออกเลยว่าจะเอายังไงดี ถ้าได้กอดเรย์กะอีกซักครั้งหรือสองครั้ง….อาจจะพอนึกออกบ้างก็ได้”
“แก!!”
“เอ้าๆ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ต้องขอบคุณผมมากกว่านะที่ทำให้อะไรๆมันง่ายขึ้น” ชูสุเกะผมทองยิ้มหวานหยด “มีครั้งแรกแล้วก็ต้องมีครั้งต่อๆมาใช่มั้ยล่ะ หลังจากนั้นคุณก็มีอะไรกับเธอมาตลอดเลยนี่”
“สารเลว”
“ฮะๆๆๆ ดูพูดเข้า” เขาหัวเราะร่วน ดูท่าทางอารมณ์ดี “คนที่คิดจะกำจัดเจ้าของร่างอย่างผมออกไปให้พ้นทางความสุขของตัวเองน่ะไม่ใช่คนสารเลวหรอกเหรอ ช่างไร้ยางอายเหลือเกิน”
ชูสุเกะในโลกกระจกเปลี่ยนจากการลอยอยู่เบื้องบนลงมาเดินกับพื้น ก้าวเท้าเข้ามาหาผมช้าๆ
“แล้ว...ที่ไปหาหมอมาวันนี้ ทำไมคุณไม่เล่าให้หมอฟังถึงเรื่องที่คุณคิดจะบีบคอเรย์กะให้ตายทุกครั้งที่คุณกับเธออยู่บนเตียงกันล่ะ”
เขาเอียงคอมอง แล้วก็แย้มรอยยิ้มกว้าง
“ความหึงหวงของคุณ รุนแรงยิ่งกว่าที่ผมคิดซะอีก ทนไม่ได้สินะที่จะมีใครแบ่งปันเธอไปจากคุณ ถึงแม้จะเป็นตัวเองในอีกโลกก็ตาม”
เมื่อผมนิ่งเงียบ เขาก็หัวเราะ
“ผมพูดถูกมั้ยล่ะ ด็อกเตอร์เจเคิล….”
ถูกของเขา
เวลาที่ผมอยู่เหนือร่างเธอ ความคิดอยากจะกำรอบลำคอนั้นแล้วออกแรงบีบก็ผุดขึ้นมาทุกครั้ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าซุกหน้าเข้ากับต้นคอ กดจูบหรือไม่ก็กัดเบาๆพอให้เป็นรอย แม้จะอยากฝังคมเขี้ยวเข้ากับผิวเนื้อนั่นขนาดไหนก็ตาม
สิ่งที่ตามมาคือความละอายใจและรู้สึกผิด เรย์กะไม่ได้รู้เรื่องอะไรสักหน่อย แล้วผมก็เอาความคิดน่าขยะแขยงแบบนี้ไปลงกับเธอได้ยังไงกัน
“เพราะอยากแก้ไขสิ่งที่คุณเคยทำผิดพลาด พอมาโลกนี้คุณก็เลยเก็บตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้ เล่นบทด็อกเตอร์เจเคิลผู้แสนดี...ในเมื่อคุณตั้งใจไว้แบบนั้น ผมก็จะเล่นเป็นมิสเตอร์ไฮด์ให้เอง….แต่มิสเตอร์ไฮด์จะทำอะไรลงไปบ้างก็ไม่รู้”
“ไอ้ปีศาจ!!”
“ปีศาจอีกแล้ว” เขาหัวเราะ ท่าทางรื่นเริงใจ “อย่าลืมสิว่าคุณเองนั่นล่ะ ที่เป็นคนสร้างปีศาจให้เกิดขึ้น และสิ่งที่ปีศาจที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีทำได้ก็มีแค่การกินคนยังไงล่ะ แต่ปีศาจน่ะไม่ได้มีแค่หนึ่งหรอกนะ”
ชูสุเกะผมทองลอยกลับขึ้นไปกลางอากาศเหมือนเดิม เท้าคางมองลงมาด้วยสายตาที่ดูสนุกสนาน ทำเหมือนตัวเองเป็นปีศาจตัวจริง คอยเฝ้ามองหายนะของมนุษย์ยังไงยังงั้น
“ดูเหมือนจะได้เวลาตื่นของคุณแล้ว” เขาแหงนหน้ามองข้างบนแล้วหันมายิ้มให้ “ถ้าอย่างนั้น ปีศาจจะบอกอะไรดีๆให้ซักอย่างเป็นของขวัญก่อนจากนะ คุณชูสุเกะ…”
ผมหรี่ตามองเขา ไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องอะไร แต่มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตอนที่คุณทำเรื่องแบบนั้นกับเรย์กะ...ผมเองก็รู้สึกไม่ต่างจากคุณเหมือนกัน”
รู้สึกไม่ต่าง….หมายความว่ายังไงน่ะ
“ก็..คุณรู้สึกอะไรบ้างตอนทำ ผมก็รู้สึกแบบเดียวกันนั่นล่ะ….ทุกอย่างเลย….”
เขายิ้มกว้าง ผายมือออกมาทั้งสองข้างเหมือนจะอ้าแขนโอบกอด
“เหมือนได้ทำพร้อมๆกันสามคนเลยเนอะ ว่ามั้ย!?”
สิ้นเสียง ผมกระโจนหาเขาในทันที แต่ชูสุเกะผมทองกลับหัวเราะ ร่างกายในกระจกแตกตัวออกเป็นขนนกสีดำนับพันเส้นในอากาศ ส่วนผมรู้สึกเหมือนมือที่มองไม่เห็นกำลังจับตัวผมไว้ให้ลอยไปสู่แสงสว่างเบื้องบน
“แล้วค่อยพบกันใหม่นะ คุณชูสุเกะ”
เสียงหัวเราะเยือกเย็นบาดหูยังดังก้องอยู่ภายในหัว แม้ตอนตื่นขึ้นมาก็ยังได้ยินอยู่ มันมาพร้อมอาการปวดหัวอีกหน
แทนที่จะยกมือกุมศีรษะอย่างเคย ผมกลับยกมือปิดหูทั้งสองข้าง รู้ว่าทำแบบนี้เสียงก็ไม่หายไป แต่ในเวลานี้ผมไม่อยากได้ยินได้ฟังอะไรทั้งนั้น
---------------------------
ตอนหน้าเป็นมุมมองคนอื่น...จะเขียนใครดีน้า.......
>>796 มาซายะออกมาทีไรทำให้กูรู้สึกว่าฟิคนี้ดูยังไม่สิ้นหวังว่ะ เหมือนเป็นแสงสว่างมาพาชูสุเกะออกไปจากความมืด เป็นที่พักใจจากปัญหาอะไรทั้งหลายที่มันโถมเข้ามา แถมพร้อมจะช่วยแก้ไขและรับฟัง ดูท่าทางมาซายะรู้ปัญหานะ แค่รอชูสุเกะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือออกมา กูว่าฮีพร้อมลงไปฟาดฟันศัตรูของเพื่อนแน่ๆ
กูไม่ใช่สายวายนะ แต่ในฟิคนี้ถ้ากูเชียร์มาซายะxชูสุเกะจะเป็นไปได้มั้ย ก็หนุ่มๆเทคแคร์กันมันน่ารักนี่หว่า 5555
ตื่นมาก็มีฟิคให้อ่านตั้งสองเรื่องแน่ะ วันนี้ชีวิตดี~ จริงๆ ตอนที่สาวๆ ตบกันก็ไม่รู้จอมมารไปซุ่มดูอยู่หลังเสาต้นไหนนะ ไม่มีบทเลยพ่อคุ๊น แต่เห็นริรินะปกป้องเรย์กะเอาเป็นเอาตายขนาดนั้น คงให้คะแนนบวกเพิ่มรัวๆ เลยมั้ง จดลงบัญชีเพื่อนคุณคิโชวอินที่ไว้ใจได้ เอาไว้ใช้เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน
>>799 มีสามP ด้วย!? มุมมองคนอื่นนี่... น่าจะเป็นท่านพี่ทาคาเทรุได้นะ ฟิคนี้โคตรงน่างสาน น้องสาวก็ไม่น่ารัก...
>>796-799 รู้สึกทุกอย่างกำลังเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆยังไงไม่รู้ดิ ดูภายนอกเอ็นโจก็เหมือนจะสมหวังอะนะ แต่จริงๆมีปัญหาเยอะมาก ทั้งเรื่องปวดหัวจากความเครียด ศึกภายนอกก็มาอย่างเรื่องบ้านคิโชวอิน ศึกภายในก็ต้องมาประสาทแดกกับอีตาหัวทองอีก เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงจริ๊ง แต่ปีศาจที่ไม่ได้มีแค่หนึ่งกับสร้างปีศาจขึ้นมานี่มันยังไง..... เอ็นโจเองก็ไม่ได้แสนดีอะไรด้วย ดูมีความเห็นแก่ตัว โมโหร้าย กูรู้สึกเหวอตอนบอกอยากบีบคอเรย์กะให้ตายๆเพราะทนไม่ได้ที่จะต้องแบ่งปันให้คนอื่น สมกับที่เป็นสายยันเดเระจริงพ่อคุ๊ณ
กูชอบมาซายะที่สุดในฟิคนี้ละ เหมือนแสงสว่างในความมืดจริงๆแหล่ะ ตอนไหนที่มาซายะออกมากูจะรู้สึกแฮปปี้กว่าตอนเรย์กะออกมาอีก ห่วงใย เทคแคร์กันสุดๆ ทำทุกอย่างเพื่อกันและกัน กูชอบตอนมาซายะบอกว่าจะหาทางกำจัดปีศาจเพราะไม่อยากเห็นนายมีความทุกข์มากไปกว่านี้อีกแล้ว เอาตำแหน่งเมะไปเลยค่ะ 555555555555555555555555555555
เอาจริงๆ กูไม่ชอบคาร์เรย์กะฟิคนี้เลยอะ แต่ก็นะ ผลผลิตของแก แกต้องรับผิดชอบเองนะ เอ็นโจวววว
เออกุขอโทษนะ แต่กุอยากรู้ว่าเมะ มังงะ หรือ ไลท์โนเวลที่พวกมึงกำลังพูดถึงนี่เรื่องอะไรหรอ
>>807
謙虚、堅実をモットーに生きております!
นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!
(RAW) http://ncode.syosetu.com/n4029bs/
(TH) http://www.nekopost.net/novel/3015
เอ้อ 800แล้ว เสนอชื่อกระทู้หน้ากันด้วยนะ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับคำอธิฐานแห่งรัก [เกลือชำระกระปุกที่ 20]
>>820 คานซังมี 20 คนเลยเหรอ......
หรือจะเป็นพล็อตแบบ....ท่านเรย์กะเป็นสาวอมตะไม่มีวันตาย ส่วนคานซังเป็นมนุษย์อายุไขปกติ ก่อนตายกลัวท่านเรย์กะจะเหงาเลยทำวิทยาการโคลนนิ่งตัวเองออกมา ส่งต่อ DNA มารุ่นต่อรุ่นเพื่อมาดูแลท่านเรย์กะคนเดียว..... ทุกคนใช้ชื่อเดียวกันแต่มีลำดับที่บ่งบอกว่าผ่านมากี่รุ่นแล้ว คำขวัญประจำตัวคือ คุณเรย์กะ...ผมจะอยู่กับคุณตลอดไป
>>822 ในวันที่ท่านเรย์กะเกิด ท่านพ่อท่านแม่ได้เชิญแขกผู้มีเกียรติมาร่วมให้พรท่านเรย์กะ
คานซังที่ 1 ขอให้มีหน้าตาน่ารักดั่งตุ๊กตา
คานซังที่ 2 ขอให้มีรักยิ้ม
คานซังที่ 3 ขอให้ตัวยาว
คานซังที่ 4 ขอให้กินเก่ง
คานซังที่ 5 ขอให้อ้วนง่าย
คานซังที่ 6 ขอให้ผมเป็นลอนแน่นเปรี๊ยะตลอดไป
//เริ่มหมดมุก 55555
ไหนแต่ก่อนเคยบอกว่า คานคืออัปมงคลกันวะ แล้วนี่จะให้มีตั้ง20คาน ฮือออ จิตใจด้านชากันหมดแล้วสินะ
>>824 คือคือ...เมื่อก่อนกูก็กีดกันเค้านะ แต่พอได้มาเห็นความดี ความตั้งใจของเค้าต่อท่านเรย์กะก็ก็เริ่มใจอ่อนว่ะ บางครั้งเห็นเกี่ยวกับบ้านพักคนชราก็หลับตาข้างนึงปล่อยๆคานซังเค้าทำอะไรที่เค้าอยากทำบ้าง กูว่ารออีกซักแป๊ปกูก็ยอมรับเค้าได้แล้วล่ะ แต่ขอดูก่อนว่าจะคอยดูแลคอยเคียงข้างท่านเรย์กะตามมาตรฐานนี้ได้ตลอดไปได้ไหม
>>828 แพ้ความดีของคานซังสินะ แบบกูอะ เมื่อก่อนรับไม่ได้เลย มาคงมาคานอะไร อี๋!! ไม่เอา!! เดี๋ยวนี้กูกลายเป็นลูกเรือเขาแล้ว ตอนนี้ชีวิตแฮปปี้ดี มองดูคานซังกับท่านเรย์กะรักกัน
ถ้าคานซังไม่ดีจริงท่านเรย์กะไม่เลือกหรอก ปากบอกไม่เอาคานซังก็ซึนเดเระล้วนๆ ที่จริงตัวเองน่ะห่วงหาคานซังยิ่งกว่าใครๆ ไม่ยอมให้ใครยุ่งกับคานซังด้วย คาบุมาตีท้ายครัวลักลอบเข้าหาคานซัง นางยังวางแผนขับไล่เลย เห็นป่ะว่ารักและหวงขนาดไหน
>>831 ระหว่างคานซังกับท่านเรย์กะมันเป็นรักแท้เว้ย ของแท้ย่อมไม่ถูกทำลายได้ง่ายๆ ยิ่งนานวันไปก็จะยิ่งล้ำค่าและคลาสสิค ผ่านมาจะเกือบๆปีที่กระทู้นี้ถูกตั้งขึ้น คานซังก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นแล้วว่ารักท่านเรย์กะขนาดไหน กูซึ้งกับรักนี้มาก ขอตัวไปซับน้ำตาแพพนะ
ไม่ทันครบปีล่อไป 20 กระทู้
ไอ้พวกนี้มันเชี่ยอัลไล!!! ต้องกาวหนักขนาดไหนถึงจะมาได้ขนาดนี้
กระทู้ตั้ง 25/12/16 (คริสมาสกะคานซัง) วันนี้ 16/09/17 (หวยออกและน่าจะแห้วแดก)
ผ่านมาทั้งสิ้น 265 วัน รีพลาย ณ หมายเลข 833 คือ 19833 รีพลาย
เฉลี่ยตกวันละ 75 รีพลายโดยประมาณ..........
พวกมรึงคุยเหี้ยอะไรกันนักหนาวะ!!!
ปล. โหวต >>812 ...แม่งกาวดี
>>834 ช่วงพีคๆเคยคุยกันสามวันกระทู้เต็มก็มีนะ 5555
กูล่ะปลาบปลื้มใจมาก ตอนตั้งกระทู้ครั้งแรกไม่เคยคิดว่าจะมาไกลขนาดนี้เลย คิดว่าจะร้างๆไม่ค่อยมีใครคุย อย่างมากก็แค่ห้าหกกระทู้แบบอืดๆไรงี้ แต่เดินหน้ามาเกือบยี่สิบกระทู้แล้วจ้า ยะโฮ่!! ขอบคุณพวกมึงมากที่มาร่วมกันเม้ามอยครื้นเครงน้าาาา กูสนุกมากเลยเวลาอ่านเมนท์ในนี้
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้พวกมึงทุกคนในกระทู้นี้อยู่ด้วยกันไปยาวๆยันจบเรื่องเลย จะใช้เวลากี่ปีวะ เวลานั้นกาวจะเหือดแห้งไปหมดรึยัง หรือทุกคนสวามิภักดิ์ต่อคานซังกันหมดเรียบร้อยโรงเรียนซุยรัน 555555555555
//ปรายตามองด้านบน แล้วเหยียดยิ้ม
เมื่อก่อนยังเป็นคำอัปมงคลแท้ๆ ตอนนี้ยอมรับกันหน้าชื่นตาบานเลยนี่นา เวลาเปลี่ยนไปใจคนก็เปลี่ยนตาม มนุษย์เราช่างอ่อนแอนัก อ่อนแอแบบนี้ก็จงพ่ายแพ้แก่โชคชะตาไปซะเถอะ!!
แล้วกฎที่ว่าห้ามตั้งชื่อกระทู้ด้วยคำว่า คาน นี่ต้องปลดออกมั้ย 55555
ตอนใหม่เข็นแล้วน้าเพื่อนโม่ง
สปอยดิบตอนใหม่แบบสั้นๆ
.
.
.
.
ไม่มีอะไรไปมากกว่าเล่นพลุกับพวกเพื่อนโรงเรียนกวดวิชา
มิตรภาพงอกงาม เป็นความทรงจำดีๆที่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนในหน้าร้อน
.
.
.
.
.
จบการสปอย
รู้สึกเหมือนเวลานี้อ.แกกำลังเตะถ่วงให้เป็นตอนวันๆของท่านเรย์กะเพื่อจะได้เขียนอะไรพีคๆในตอนที่ 299 300 ยังไงไม่รู้ดิ เพราะปกติตัดอีเวนท์เร็วจะตาย อย่างอีเวนท์ไดเอทที่ผ่านมาก็มีไม่กี่ตอน แต่ตอนนี้ดูยืดๆแปลกๆ
>>853 คงงั้นมั้ง หรือไม่แน่คนอ่านก็ถูกโทรล ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกจ้าา คาดหวังอะไรกันอยู่ล่ะสิ อิอิ
แปลไทยตอนใหม่ ยูกิโนะไม่อยากกลับบ้านเพราะยุยโกะมาบ้านอ๊ะป่าว ตอนเรย์กะบอกจะพาไปส่งนี่จับเสื้อซะแน่นเชียว แถมดูงอนและหงุดหงิดเอามากๆที่บอกท่านพี่มีนัดกับใครก็ไม่รู้ ท่าทางไม่ชอบยุยโกะจริงๆนั่นล่ะ มีปัญหาอะไรหว่า อยากรู้จริงๆ
ยูกิโนะเทวดาน้อยยยยยย สมกับเป็นกัปตัน แต่ฟังมากๆเข้ากลายเป็นว่ากูแหยะคำว่า 'ชู?' มากเลย อึ๋ยยยยยยยยยย
กูอยากขึ้นเรือยูกิโนะะะะ ฮืออออ น่ารักชิบหาย คนพี่กูไม่สนแม่งแล้ว
กูแอบสงสัย สมมติวันนึงยูกิโนะเผยธาตุแท้ออกมาว่าเป็นเด็กเปรตงี่เง่าเอาแต่ใจคนนึง เรย์กะจะทำยังไงวะ หรือจะมองว่าน่ารักเหมือนเดิม 55555555
อี๋คำว่าชูมากตอนนี้ มารยาทอะมีมะ คยเขาคุยโมรศัพท์ยังจะแทรก
ส่วนเรื่องทรงผม.... โถววววว
ยูกิโนะคุงกู้ดจ๊อบค่ะ รู้สึกเห็นยูกิโนะคุง(ฮาร์ดคอร์)แสยะยิ้มตอนส่งเมลให้เอ็นโจเลย
'หึ ชูสึเกะบังอาจทิ้งฉันไปเดทกับสาว งั้นฉันไปออดอ้อนคุณพี่เรย์กะให้นายอิจฉาเล่นดีกว่า'
อะไรคืออ่านเมลปุ๊บโทรมาปั๊บ แล้วทำยังกับแอบเมียหลวงมาคุยกับเมียน้อย น่าหมั่นไส้จริงนะคะคุณเอ็นโจ ชูสึเกะ //ดิสคะแนน999,999
ตอนเสียงผู้หญิงเรียก"ชู?"นี่ยังไงนะปรกติท่านเรย์กะต้องแขวะสิ 'อะไรกันยะ พวกหมู่บ้านมีรักไปเดทกับสาวทิ้งเทวดาน้อยให้อยู่อย่างเหงาหงอย แย่จริงๆ' แล้วก็บ่นอิจฉาตาร้อน บลาๆ แต่นี่เหมือนเบลอความคิดทิ้ง หรือว่าเกิดความเคยชินละ(?)//พอๆวางกระปุกกาว
ขอบคุณโม่งแปลที่ทำให้เช้าวันนี้สดใส//กระโดดกอด
ปล.โม่งใหม่เพิ่งตามอ่านถึงปัจจุบัน อยากบ่นบ้างอะไรบ้าง ช่วยอ่อนโยนกับเราหน่อยนะ(?)
>>860 ชวนยูกิโนะมาเป็นสาวกทีวีไดเร็คอีกคนสินะ ถถถถถ
>>861 ยินดีต้อนรับสู่กระทู้ //เอามาลัยดอกกล้วยไม้มาคล้องคอให้ ส่วนกาวทางนี้คือเวลคัมดริงค์นะ จะกิน จะดม
จะทาก็ทำได้ตามสบายไม่ต้องเกรงใจกัน
เรื่องเสียงผู้หญิงที่แทรกในโทรศัพท์เนี่ย...พอเป็นเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับยุยโกะ นางชอบตัดฉับความคิดตัวเองทิ้งทันทีอะ เป็นงี้แทบทุกรอบ แล้วก็จะกระโดดข้ามไปเรื่องอื่นเหมือนไม่อยากนึกถึงยังไงไม่รู้ดิ ซึ่งปกตินางจะตบมุกหรือคิดอะไรในใจแบบที่มึงว่าอะแหล่ะ แต่พอยุยโกะเข้ามาปุ๊บ นางหยุดคิดเลย อารมณ์แบบกำลังเต้นอยู่ดีๆแล้วถูกเปิดไฟไล่กลับบ้านแบบที่โม่งในกระทู้เก่าๆเคยบอกง่ะ
ยูกิโนะทำหน้าที่เป็นกัปตันเรือพี่ชายเพราะรอจังหวะเรือแซงหน้าคนอื่นแล้วจะปล่อยเรือของตัวเองแยกออกมานี่เอง!!!
เป็นแผนการที่ชั่วช้ามากจ้ะยูกิโนะคุง พี่จะไปเป็นฝีพายให้เรือของน้องเอง!!!
ปมเรื่องยุยโกะเนี่ยเป็นอะไรที่ลากยาวที่สุดในเรื่องแล้ว
เรื่องอื่นๆเอ่ยไว้ประปรายแต่ก็ทยอยๆเคลียร์ไปเรื่อยๆ
แต่เรื่อยยุยโกะเนี่ย หยอดมาทีละหน่อยนานมากแต่ไม่เคลียร์ซักที
อ่านๆมาว่าจะเมนท์อะไรอยู่ แต่พอเจอว่าสมัยเด็กท่านพี่ก็น่ารักมาก ความคิดกูก็แตกกระเจิง.... กูนึกภาพท่านพี่น่ารักไม่ออกเลยว่ะ 55555 หรือเรื่องนี้ต้องถามอิมาริวะ ว่าท่านพี่น่ารักยังไงบ้าง
แปลไทยตอนล่าสุดนี่ ถ้ามองแบบเมากาวเหมือนยูกิโนะมาเป็นข้ออ้างในการช่วยเอ็นโจหนีออกจากกิจธุระที่ไม่ชอบเลยแฮะ มันน่าสงสัยตั้งแต่เมลหาที่เรย์กะคิดว่าทะเลาะกันแล้ว
ยูกิโนะเมล์หาเอ็นโจ
ยูกิโนะ : ท่านพี่ผมไปบ้านพี่เรย์กะนะ!!
เอ็นโจ : อ่า อยู่ให้นานที่สุดน่ะ เดี๋ยวพี่จะได้ไปรับ
ยูกิโนะ : ได้เลยท่านพี่ พี่โทรหาผมเลยจะได้คุยกับพี่เรย์กะด้วย
แล้วก็ตัดฉากเอ็นโจโทรเข้ามา
อิฉันว่า 2 คนนี้มันต้องเตี๊ยมกันค่ะ!! จะพ่วง 3 เป็นมาซายะด้วยไหมเนี่ย? มันน่าสงสัยตั้งแต่รีบไปแล้ว กาวมาค่ะกาวมา
โอกาสที่จะได้เห็นท่านเรย์กะเปลี่ยนทรงผมนี่ไม่มีแล้วสินะ....//มองฟ้า
>>877 ตอนน้องแกมายืนก้มหน้ารอที่รถนี่ดูเครียดชัดๆนะ แต่พยายามไม่แสดงออกต่อหน้าเรย์กะ ถ้าอยากมาเจอจริงๆแบบอารมณ์ดีๆตั้งใจไว้ว่าจะมาหา พฤติกรรมมันจะไม่ใช่แบบนี้อะ แถมคำตอบก็ดูผ่านการคิดมาก่อนแล้วด้วยว่าตอบยังไงคนฟังถึงจะชอบ ขนาดเด็กหกขวบยังรู้จักปั้นแต่งคำตอบแล้ว บ้านนี้เขาสอนกันมายังไงฟะ ที่แน่ๆไม่ได้สอนกันธรรมดาตามปกติทั่วไปแน่นอน
กูคิดว่าน้องแกกำลังใช้เรย์กะเป็นเครื่องมือในการทำให้เป้าหมายอะไรซักอย่างบรรลุว่ะ ซึ่งเป้าหมายที่ว่านี่น่าจะหนีไม่พ้นแยกยุยโกะออกไปจากชีวิตแหงๆ หรือกูคิดมากไปเองวะ น้องแกคงใสๆตามประสาเด็ก ไม่ได้ร้ายอะไรขนาดนั้น 5555555555555555555
เสนอบ้าง
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกัปตันนักต่อเรือผู้ชำนาญการยูกิโนะ ครั้งนี้ขอแยกเรือเป็นเอกเทศ [ลำที่19+1]
>>880 ถ้ามารอแบบอารมณ์ดีจริงๆจะเป็นไงวะ... กูคิดว่าน้องแกอยากมาหาเรย์กะจริงๆ อาจจะเพราะ ไม่อยากไปเจอยุยโกะเลยดื้อกับเอ็นโจ
เอ็นโจถึงจะกล้าดุน้องแต่บทยูกิโนะจะดื้อขึ้นมาก็อาจจะเอาไม่อยู่
(เดาอีก) ยุยโกะอาจจะไม่อยากให้ยูกิโนะไปด้วยอยู่แล้ว พอยูกิโนะบอกไม่ไปก็ใช้โอกาสนี้รั้งตัวเอ็นโจไว้เลยทำให้เอ็นโจตามยูกิโนะมาไม่ได้
>>884 ถ้ามารอแบบอารมณ์ดีจริงๆ มันจะดูร่าเริงกว่านี้อะ ไม่น่าจะมีเรื่องของพี่ชายเข้ามาข้องเกี่ยวถึงได้มาหา กูอ่านแล้วคิดว่าน้องแกเครียดนะ ไม่ได้วางแผนจะไปไหน ไม่ได้คิดด้วยว่าจะทำอะไร ไม่อยากให้พี่ชายไปกับยุยโกะแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง งั้นไปเจอคุณพี่เรย์กะก็แล้วกัน อาจจะมีวิธีทำอะไรกับเรื่องที่กำลังเกิดอยู่ก็ได้....กูมโนน่ะ 55555
ไปๆมาๆกูก็แอบคิดนะว่าถ้ายูกิโนะคุงโตเลยวัยประถมแล้วจะยังเป็นเทวดาน้อยในสายตาท่านเรย์กะรึเปล่านะ เพราะหน้าตาคล้ายเอ็นโจแถมนิสัยก็ไม่ได้ใสๆเหมือนภายนอกด้วยนี่นะ แต่นึกภาพเด็กเจ้าเล่ห์แอ๊บแบ๊วเต๊าะคุณพี่สาวก็อร่อยไปอีกแบบนะ หึหึหึ
แปลก ๆ ที่มีตอนใหม่มาวันอาทิตย์ กรี๊ดดดด กูรักโม่งแปลค่าาา!!! // เอาล่ะ หลังตอนนี้กูตกลงใจแล้ว ลงเรือยูกิโนะมันเนี่ยแหละ ดีงามแล่นไกลลลลลลลล
ถ้าน้องร้ายจริงนี่จะมีฟิคฉากน้องปะทะเทพมารมั้ยวะ555 คิดแล้วขำชห.
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการเสริมสร้างคานคฤหาสน์ให้แข็งแรง [ตะปูตัวที่ 20]
เสนอจ้า ช่วงนี้ทีมคานคุงแข็งแรงเหลือเกิน555555
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับพิธีตอกเข็มสาปแช่งตุ๊กตาวูดูที่ชื่อ คาน (เข็มนีดเดิ้ลเฟลท์เล่มที่ 20)
ไม่! กูไม่หลวมตัวไปกะคานคุงหรอก!
>>897 คานคุงก็แค่เพื่อนเท่านั้นแหละ ท่านเรย์กะยังฝันอยากมีรักมีเดทมีแฟนมีสามี อยากออกจากหมู่บ้านคานทองจะตายไป แต่พวกนี้คานคุงให้เรย์กะไม่ได้สักอย่าง แล้วเรย์กะจะมีความสุขได้ยังไงล่ะ! กักขังหน่วงเหนี่ยวกันชัดๆ! ไร้มนุษยธรรม!
รักจริงคานคุงควรปล่อยเจ้าแม่ไปมีความสุขค่ะ ทำดีแค่ไหน รั้งคนที่เขาไม่รักเรายังไง ให้ตายเขาก็ไม่รักตอบหรอก!!
>>898 นางซึนไปงั้นอะ กูว่า เอาเข้าจริงก็รักและหวงคานซังยิ่งกว่าใครทั้งนั้น มีคนมาจีบก็ไม่ยอมไปกับเขา หักธงเรียบวุธ แถมกลัวคานซังจะเหงาเลยหาคนมาเล่นเป็นเพื่อนอีก ต้องเป็นคนที่นางคัดกรองมาแล้วว่าเข้ากับคานซังได้ คนอื่นที่ไม่เข้าตากรรมการนี่อย่าหวังเลยเหอะ คาบุแอบดอดมาตีท้ายครัวเข้าหาคานซังก็เตรียมไล่ตะเพิดหนีละ คานซังต้องเป็นของนางคนเดียว ไม่ยอมแบ่งปันใคร ที่ฝันอยากมีสามีไรงี้ก็เหมือนเราติ่งดารานักร้องทั้งหลายอะ คือมโนได้ ฝันได้ แต่ลืมตาขึ้นมาก็จะเห็นว่าใครช่างแสนดี เอาใจใส่ พร้อมจะอยู่เคียงข้างกันไปตลอด ก็คานซังไงจะใครล่ะ
กูคิดว่ายูกิโนะเนี่ย คงมาหาแบบอารมณ์เสียจริงๆแหละ เวลาหงุดหงิดเราก็อยากไปหาสักคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจอะ คยที่ตามใจเรา เขาชอบเราด้วยใจ แล้วเราก็ชอบเขา
ตอนนี้ยูกิโนะแสดงนิสัยเสียแบบฉบับเด็กเปรตออกมาหลายอย่างอยู่นะตอนคุยกับชูสุเกะ แต่เรย์กะติดฟิลเตอร์ไงทำอะไรก็ว่าน่ารัก แบบที่พูดจาเอาแต่ใจกับพี่ ประชดงี้ คำพูดคำจาไม่ได้น่ารักเลยนะ แต่เรย์กะก็ว่าน่ารัก อยู่บ้านนี่เอาแต่ใจเอาเรื่องแน่ๆ
กูทายว่าเพราะเจ้าตัวไม่ชอบยุยโกะ แต่พ่อแม่ก็ยังสนับสนุนยุยโกะให้พี่ พี่ก็ไม่ยอมปฏิเสธให้พ้นๆไป (อาจจะคิดแบบเด็กๆว่าไม่ชอบก็ไล่ไปสิ) พอเผลอทำตัวไม่น่ารักเพราะไม่ชอบใจก็อาจจะโดนดุ (หรือโดนยุยโกะแซะเอา) เจ้าตัวเลยหงุดหงิดไม่อยากกลับบ้าน แล้วจะไปที่ไหนล่ะ? >> ไปหาท่านพี่เรย์กะดีกว่า ยังไงก็ไงปฏิเสธอะไรเราอยู่แล้ว?
อะไรงั้นปะ
กุทายว่ายุยโกะเนี่ย เอ็นโจอยู่กะน้องก็ยังเรียกร้องให้เห็นตัวเองสำคัญกว่าอยู่ดีปะ ยูกิโนะเลยไม่ชอบ แต่เรย์กะเนี่ย ถ้าอยู่ด้วยกันยูกิโนะคุงอีสนัมเบอร์วันตลอด มีอะไรก็เอายูกิโนะคุงมาก่อนตลอด เทียบกับพี่ชายที่ทิ้งไปเที่ยวกับสาว มาหาท่านพี่เรย์กะดีกว่า ไรงี้..
>>900 ดูๆ ไปมันก็มีอะไรกินแหนงแคลงใจอยู่ระหว่างยุยโกะและยูกิโนะจริงๆ ล่ะนะ น้องดูไม่ชอบเอามากๆ อย่างเห็นได้ชัด หรือมองในอีกแง่หนึ่ง น้องชอบยุยโกะมากเลยหึงชูสุเกะ ไม่อยากให้ชูสุเกะไปพัวพันกับยุยโกะ เลยผลักไสเอาคุณพี่เรย์กะเข้ามาให้แทนก็เป็นได้ ถ้าเป็นงี้จริงนี่โคตรรักข้ามรุ่นอ่ะ
...แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้แหละ เพราะขนาดคาซึรางิที่เป็นเบ๊ให้ยุยโกะ น้องยังทำท่ารังเกียจแบบออกนอกหน้าเลย เหอะๆๆ
อ้อ เห็นว่าปาเข้าไป 900 แล้ว ลองรวบรวมผู้สมัครรายชื่อกระทู้หน้ามาให้ก่อนนะ ไม่แน่ใจว่าตกหล่นใครไปหรือเปล่า หรือจะเพิ่มตัวเลือกก็ตามสบาย โหวตได้ถึง 980 ละกัน
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโอนิวาบังในเงามืด [ชั่วช้าสามานย์ ทุกประการเพื่อฮาเร็มทั้ง 20]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับคำอธิฐานแห่งรัก [เกลือชำระกระปุกที่ 20]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกัปตันนักต่อเรือผู้ชำนาญการยูกิโนะ ครั้งนี้ขอแยกเรือเป็นเอกเทศ [ลำที่19+1]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการเสริมสร้างคานคฤหาสน์ให้แข็งแรง [ตะปูตัวที่ 20]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับพิธีตอกเข็มสาปแช่งตุ๊กตาวูดูที่ชื่อ คาน (เข็มนีดเดิ้ลเฟลท์เล่มที่ 20)
อ่านตอนล่าสุดละ กูกลับมาลงเรือเอ็นโจละ
เอ็นโจ ยูกิโนะ...
คนพี่ถีบตกเรือไป...
ถึงกูจะเรือคานซัง แต่ก็ไม่สนับสนุนการเอาคานขึ้นหัวกระทู้ จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของพวกเรา พอมีคำอัปมงคลขึ้นหัวกระทู้ทีไร เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นทุกที ดังนั้นกูเลยโหวตเกลือชำระ จะได้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นบ้าง
โหวตเกลือชำระ
ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกัปตันนักต่อเรือผู้ชำนาญการยูกิโนะ ครั้งนี้ขอแยกเรือเป็นเอกเทศ [ลำที่19+1]
กุโหวตนี้ กุชอบ กุจะต่อเรือยูกิโนะคุงแล้ว สัสสส นิดนึง เปลี่ยนลำที่ 19+1 เป็น20ปกติเถอะ ดูง่ายดี
ไอ้พวกไม่ศรัทธาในท่านพี่!!! ต้องชั่วช้าสามานย์เพื่อน้องสาวสิวะ
โหวตอันเน้ >> ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโอนิวาบังในเงามืด [ชั่วช้าสามานย์ ทุกประการเพื่อฮาเร็มทั้ง 20]
ชอบชั่วช้าสามานย์ ได้อารมณ์แปลกๆ ดี...
เอาชั่วช้าสามานย์อีกเสียง!
โม่งที่ตั้งชื่อกระทู้แรกด้วยคำว่าฮาเร็มเนี่ย มึงคงไม่คิดว่าอนาคตของเจ้าแม่เรย์กะมันจะแห้งแล้งไร้รักขนาดนี้สินะ สินะ อย่างว่าแหละ ใหม่ๆ ก็มองโลกสดใสกันอยู่เนาะ
ไหนมึงยังอยู่ป่าว มารายงานตัวหน่อยดิ๊
ฮาเร็มของท่านเรย์กะ
1.เซริกะ คนนี้สู้ตายถวายหัวเพื่อท่านเรย์กะ
2.คิคุโนะ เช่นเดียวกับเซริกะ
3.ริรินะ เช่นเดียวกับสองคนด้านบน
4.ซากุระ มีแอบหวงที่เรย์กะไปสนิทกับคนอื่นมากกว่าด้วย
5.อาโออิ สาวสายปลอบโยน ฮีลลิ่ง
6.วาคาบะ เมียเก็บ
7.อิโคมะ ติ่ง
8.รุเนะ แข่งกีฬาสีด้วยกันบ่อยๆ
9.อายาเมะ นอนค้างห้องเดียวกันตอนไปเที่ยว
10.ฟุยุโกะ พยายามเสนอของที่ชอบให้
11.ซาราระ เช่นเดียวกับฟุยุโกะ
12.ซึรุฮานะ มาแนวจิกกัดแต่น่าจะซึนมากกว่า
13.ไมฮามะ เอาไว้ตบเล่นคลายเครียด
14.โมริยามะ เชิญมาเที่ยว ไปนั่นไปนี่ด้วยกัน
15.โมชิดะ ตกได้ข้างทาง
16.มิฮารุ
17.โนโนเสะ
18.ท่านโยโกะ
19.ท่านพ่อ
20.ท่านพี่
เห็นมั้ย ง่ายจะตายในการลิสต์ชื่อฮาเร็ม
ลืมแบทริกส์ไปแล้วเหรอ
ฮาเร็มนี่ขอเป็นพวกที่ไม่ค่อยกินเส้นกับท่านเรย์กะได้ไหม๊ อย่าง ตาไก่โง่ ซึรุฮานะ นายหัวหน้าชมรมฟุตบอล และคนที่มิอคติตั้งแต่แรก (ตอนนี้หายแล้ว)อย่างนายตัวสำรอง งี้ 5555อยากให้คนพวกนี้ชอบเรย์กะจังเลย คงเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายแน่ๆ
ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกัปตันนักต่อเรือผู้ชำนาญการยูกิโนะ ครั้งนี้ขอแยกเรือเป็นเอกเทศ [ลำที่19+1] <<< แอร้ยยยย กูโหวตชื่อนี้ยย์
กูโหวตชั่วช้าสามานย์
จะรอการรวมตัวกันของเหล่ามารนะค้าาาาาาา
+1 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโอนิวาบังในเงามืด [ชั่วช้าสามานย์ทุกประการเพื่อฮาเร็มทั้ง 20] ชอบ5555555
โหวต ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโอนิวาบังในเงามืด [ชั่วช้าสามานย์ทุกประการเพื่อฮาเร็มทั้ง 20]
โหวตโอนิวาบังในเงามืด [ชั่วช้าสามานย์ทุกประการเพื่อฮาเร็มทั้ง 20] ที่โหวตนี่เพราะชั่วช้าสามานย์ล้วนๆดิบเถื่อนสมเป็นเจ้าแม่กาลีมาก
โหวตนิวาบัง ฮาดี
ชื่อกระทู้มันบ่งบอกอะไรหลายๆ อย่างนะ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ [เรือลำที่ 1 : องค์ชายเอ็นโจ]
- เปิดกระทู้ด้วยความสดใส มโนไปว่าเอ็นโจเป็นตัวเอก ฟิกชั่นทั้งหลายออกแนวตาหวาน
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชายามบ่ายของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]
- โม่งทุกคนจบซุยรัน พูดจบสะบัดบ๊อบ ฟิกชั่นเข้าข้างเอ็นโจอย่างไม่ลืมหูลืมตา ท่านเรย์กะมีความเป็นโชโจสูงปรี๊ด โม่งบางส่วนเริ่มดมกาว
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3)
- หลายคนไม่จบแค่กัญชา บางคนเริ่มอาบกาวแล้ว มีสับเซ็ตแยกย่อยเป็นฮาเร็มเป็นเรือแจว แต่เอ็นโจยังคงเป็นเรือสำราญ
.
.
.
.
.
.
.
.
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเทพเกศาบันดาลรัก โปรดรับบรรณาการนี้ไปด้วยเถิด!!! (บรรณาการจานที่ 16)
- จากเรือสำราญเอ็นโจกลายเป็นไททานิค กอล์ฟมาร์คเกอร์กลายเป็นประเด็นสาปส่งเอ็นโจ โม่งหลายคนเริ่มเกาะแพ คานซังเริ่มได้รับการยอมรับ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการซื้อบ้านพร้อมที่ดินในหมู่บ้านมีรักถวายเจ้าแม่ [หลังที่ 17]
- เรือเอ็นโจมีแพมาช่วย พอลูกเรือมีใจจะต่อเรือใหม่ไอ้เวรเอ็นโจก็ถล่มเรือทิ้งด้วยสกิลปากหมาแบบ อฟช.
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับไอเดียบรรเจิดเพ้อฝันของเจ้าแม่ [ขอปฏิเสธรอบที่ 18]
- ยุยโกะหลอกหลอน.......มีมโนหลากหลาย ถึงยุคตกต่ำของสาวกเอ็นโจ มีคนย้ายเรือมากมาย ดมกาว? มึงพูดบ้าอะไร กาวเขาเอาใว้กินแทนน้ำต่างหาก
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการขี่โพนี่พุ่งทะยานข้ามแดนไปหาเจ้าชาย [หน้าตาสมัยศตวรรษที่ 19]
- วาคาบะเมียหลวง ฟิคมโนไปถึงระดับวาคาบะจะจับเรย์กะแล้ว คาบุรากิกลายเป็นเสือกระดาษ โบกธงชูป้ายไฟเชียร์ยูกิโนะ หือ?เอ็นโจ ชูสุเกะ? ใครวะ?
>>943 กูขรรม การผ่านไปของแต่ละกระทู้นี่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตลอดจริงๆ 555555555555555555555
กูยังอยู่เรือเอ็นโจนะเว้ย เมื่อก่อนก็แจวๆอยู่หรอก แต่เดี๋ยวนี้กูลอยไปตามกระแสน้ำตามบุญตามกรรม เอามือวักๆน้ำเล่นนิดหน่อยให้เรือเคลื่อนจะได้ไม่อยู่กับที่ วันไหนพระเจ้าใจดีก็ส่งลมมาพัดให้เรือแล่นไปด้วยความเมตตาเองนั่นล่ะ แต่วันไหนส่งสายฟ้ามาฟาดเรือแตกก็ลอยคอกันไป
แต่กูรู้สึกว่าเวลาสายฟ้าฟาดลงมาที่เรือเอ็นโจนี่ฟาดโครตแรงเลยนะ เรือแตกไปคนละทาง หน้าหมองกันเลยทีเดียว อ.ฮิโยโกะกะเอาตายเลยรึเปล่า กับตัวละครอื่นอ.แกยังดูมีเมตตาไม่ทำอะไรรุนแรงอยู่นะ จริงๆแกเกลียดเอ็นโจป่ะวะ 555555555555555555555555555
>>945 ขอนอกเรื่องหน่อย คาโคะดันบุงเคยมีบทสัมภาษณ์ถาม อ.นิชิโอะ อิชินคนแต่งเรื่องบาเกะโมโนกาตาริว่าชอบตัวละครไหนในซีรี่ย์ที่สุด... อ. แกตอบว่า "ฮาเนะคาว่า สึบาสะ" ...เอาล่ะ นั่งลงล้อมวงสิ กูจะเปรยชีวิตของลูกรักอาจารย์แกให้ฟัง...
- พ่อแม่แท้จริงของฮาเนะคาว่าตายหมดแล้ว พ่อแท้ๆ ตายก่อนแม่เลยแต่งกับพ่อใหม่ ต่อมาแม่แท้ๆ ตายอีก พ่อใหม่เลยแต่งกับแม่ใหม่ ฮาเนะคาว่าอยู่ในบ้านที่ไม่มีคนที่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดเลยมา 10 กว่าปีโดยไม่ได้รับความรัก
- เครื่องครัวข้าวของในบ้านฮาเนะคาว่ามีสามชุด แต่ละคนทำความละอาด เก็บกวาด ทำกับข้าวในส่วนของตัวเอง ไม่มีการพูดคุยกันเลย
- เป็นคนฉลาดหลักแหลม มีมารยาท แต่การวางตัวเพียบพร้อมสูงส่งเกินไปจนไม่มีเพื่อนที่คุยด้วยได้ "แม้แต่คนเดียว"
- ช่วยชีวิตพระเอกด้วยความรักล้วนๆ พระเอกมองว่าเป็นผู้มีพระคุณ.........ไม่กล้าจีบ
- เครียดจัดโดนผีแมวสิงสู่ แต่ก็ยังรักพระเอก พอพระเอกเมลไปว่ากำลังลำบากเลยรีบมาช่วย.......โดนพระเอกหลอก โดนแวมไพร์กระทืบซ้ำ
- ยินดีสละชีวิตช่วยพระเอก ผ่านเรื่องทุกข์ยากลำบากมาด้วยกัน คิดว่าจะไปกันด้วยดี เทิดทูนพระเอกมาก.......เปิดเทอมใหม่พระเอกไปคว้าสาวซึนเดเระมาเป็นแฟน
- รอบรู้พหูสูตร รู้แทบทุกเรื่อง พระเอกพึ่งพาบ่อยมาก ทำลามกใส่ก็บ่อย.......แต่ไม่เคยจีบ...
- เครียดจัดแมวสิงอีกรอบ คราวนี้สูญเสียตัวตนจนเหลือแต่จิตใต้สำนึก แต่จิตใต้สำนึกก็ยังรักพระเอกอยู่ดี พอพระเอกมาช่วย........โดนแวมไพร์ตบรอบสอง
- เจอผีเสือ โดนเผาบ้าน ระหกระเหินเร่ร่อนเคราะห์กรรมซ้ำซัดแถมจะโดนเสือฆ่า........พระเอกโผล่มาช่วยตอนโดนกระทืบเจียนตาย
- ตัดใจสารภาพรักพระเอก.......พระเอกบอกดีใจมากเลย แต่กูมีแฟนแล้ว......นั่งร้องให้ไปดิ
- ตัดใจจากพระเอก ดูอยู่วงนอกอย่างห่วงๆ แต่สุดท้ายก็โดนลากเข้าวังวนสารพัดสารเพเพราะพระเอก ตอนจบซีซั่นสองลงทุนขายตัวเองให้กองทัพเพื่อไปพาคนมาจากขั้วโลก
นี่แหละชะตากรรมลูกรักเขาล่ะ คุ้นๆ มั้ยพวกมึง
สรุปชีวิตของตัวละครใน>>946 สั้นๆแบบภาพเคลื่อนใหว บางทีเอ็นโจอาจจะเป็นลูกรักจารย์ฮิโยโกะก็ได้นะมึง
แบบว่ารักแท้เก็บใว้ไม่เอื้อนเอ่ยอ่ะ
http://i.imgur.com/zg839bM.gif
https://media.giphy.com/media/v1NWM5hCe9d0Q/giphy.gif
http://38.media.tumblr.com/tumblr_m7mt6yJrmc1rc4y5co1_500.gif
http://68.media.tumblr.com/1ac25bfa8d6b9e6650c7aa7dc8e39b87/tumblr_mspgodZ5HC1sg1ksjo3_500.gif
กูยังโหวตทันไหมๆ ขอด้วย ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกัปตันนักต่อเรือผู้ชำนาญการยูกิโนะ ครั้งนี้ขอแยกเรือเป็นเอกเทศ [ลำที่19+1] เอาอันนี้ //ขอลงเรือยูกิโนะเต้มตัว กูไม่ไหวกับคนพี่แล้วววว T_T
>>943 สรุปให้แล้วว่าอารยธรรมคนพี่ถึงจุดเสื่อมแล้ว อีกไม่ช้านานก็คงถึงกาลแตกดับ พวกเราควรรีบหนีไปซบอารยธรรมอื่นโดยด่วนก่อนที่จะต้องล่มสลายไปด้วยยยย
นึกถึงกระทู้แรกๆตอนใสๆ ไม่เอาคานนะ! ฟิคบ้านพักคนชรา อัปมงคลล!!!
ตอนนี้น่ะเหรอ หู้ยยย คานซังดีจังเลยเน้อ~ จะไปหาใครที่ดีแบบนี้ได้ที่ไหนอีก
ตามสรุปคะแนนโหวตซะหน่อย นับตั้งแต่เมนต์ที่ 900 มาถึงปัจจุบัน ตอนนี้ชั่วช้าสามานย์นำลิ่วมาที่ 10 คะแนน ตามด้วยเกลือชำระกับกัปตันยูกิโนะที่คะแนนเท่ากันที่อย่างละ 3 คะแนน ยังไม่ปิดโหวต เชิญลงคะแนนกันได้เรื่อยๆ เลยนะฮะ
--------------------
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโอนิวาบังในเงามืด [ชั่วช้าสามานย์ ทุกประการเพื่อฮาเร็มทั้ง 20] + IIIII IIIII
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับคำอธิฐานแห่งรัก [เกลือชำระกระปุกที่ 20] + III
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกัปตันนักต่อเรือผู้ชำนาญการยูกิโนะ ครั้งนี้ขอแยกเรือเป็นเอกเทศ [ลำที่ 20] + III
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการเสริมสร้างคานคฤหาสน์ให้แข็งแรง [ตะปูตัวที่ 20]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับพิธีตอกเข็มสาปแช่งตุ๊กตาวูดูที่ชื่อ คาน (เข็มนีดเดิ้ลเฟลท์เล่มที่ 20)
จะปิดโหวตที่เท่าไหร่เนี้ย ฮา
>>946 กูเข้าใจสิ่งที่มึงอยากจะสื่อนะว่าเอ็นโจเป็น 'ลูกรัก' ของ อ.ฮิโยโกะแก
- เอ็นโจไม่เคยเปรยสถานะตัวเองออกมา แม้แต่เด็กอย่างยูกิโนะก็ไม่เคย ตอนคาบุได้ยินว่ายูกิโนะเป็นเด็กดีถึงกับไปดูด้วยตัวเอง ไม่คิดว่ามันแปลก?
- ตอนไปที่บ้านคาบุพ่อแม่คาบุออกมาต้อนรับ เวลามีคนมาบ้านเรย์กะพ่อแม่ก็อยู่ต้อนรับ แต่บ้านเอ็นโจมีแค่ท่านแม่?
- เอ็นโจฉลาด มีมารยาท วางตัวสบายๆ แต่กลับกันในขณะที่คาบุมีคนกล้าพูดตรงๆ ด้วย แล้วเอ็นโจล่ะ? อย่างมากก็มีคนเล่าผ่านๆ
- ช่วยท่านเรย์กะในที่ลับ อาจจะไม่ใช่รอบเดียว แต่ท่านเรย์กะมองเอ็นโจยังไง?
- เคยผลสอบตกเพราะอะไรบางอย่าง แล้วเป็นไงล่ะ?
- พยายามช่วยเหลือให้คำปรึกษาแถมคอยหนุนหลังด้วย ท่านเรย์กะมองในแง่ดีมั้ย?
- พยายามเสนอเรื่องที่ท่านเรย์กะน่าจะอยากรู้ให้เสมอๆ แต่ท่านเรย์กะดันสนแต่ยูกิโนะ
- ปากหมาไปหลายรอบ มีครั้งนึงอวดเบ่งว่าไม่เคยชวนใครเดท ผลเป็นไงล๊าววววววว
- เจอยุยโกะหลอกหลอน คาบุ KY เคราะห์ซ้ำกรรมซัดทำดีไปสารพัดแต่ท่านเรย์กะก็หาได้เหลียวแล แถมมีตาไก่โง่มาคอยรังควาญ
แถมในโม่งนี่ีก็อีก
- ช่วยเลือกของฝาก เนื้อหาจะไม่มีอะไรเลยถ้าโม่งไม่แฉความหมายของกอล์ฟมาร์คเกอร์
- พยายามเลี่ยงท่านเรย์กะ ก็โดนหาว่ารักไม่จริง
- เต๊าะแบบใสๆ ก็หาว่าจีบสาวไม่เป็น
- เข้าหาแบบเนียนๆ ก็หาว่าหมาหวงก้าง
- ปากหมาก็หาว่าปากหมา....................แล้วไอ้บากะรากิล่ะ?
ชะตากรรมแม่งลูกรักสัสๆ
>>965 โดยมากชะตากรรมลูกรักคนเขียนมักเจออะไรมากกว่าคนอื่น กูก็เป็นนะ เวลากูเขียนนิยาย ใครเป็นลูกรักกูนี่โดนกูแกล้งหนักๆหมดทุกคนเลย หรือไม่ก็ชีวิตรันทดกว่าชาวบ้าน กูก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกัน แทนที่จะเขียนให้ดีๆกูดันไปแกล้งมันซะงั้น บางทีก็สงสัยว่านี่กูรักหรือเกลียดมันวะ 555555555
>>969 โหย คุณนอ.ล็อคอินในตำนานคนนั้นป่ะ แกยังสิงอยู่พันทิปอีกเหรอ โดนแหกไปขนาดนั้นไม่เข็ดรึไง
แต่กูก็ไม่เคยเห็นคนมีอุณาโลมจริงๆนะ ที่บอกว่าอยู่กลางหน้าผากแบบพระพุทธเจ้า ที่ผานมากูนึกว่าตรงนั้นมันเป็นไฝซะอีก.... ไม่ได้คิดว่าเป็นอุณาโลมอะไรเลย กูนี่คนบาปชิบหาย 55555555
พวกมึงนี่โคตรแก่เลยนี่หว่า....
ว่าแต่ จำไม่เห็นได้เลยเรื่องอุณาโลม ไหนๆ ก็พูดถึงละขอวาร์ปเฟสคุณนอหน่อยสิ ชักคิดถึง
>>965 อารมณ์ประมาณอ๋องแปด อ๋องเก้าสินะ ออกมาให้คนรัก แต่นางเอกก็เลือกพระเอก เจ็บสัส
แต่เรื่องนี้ทั่นเรย์กะไม่ใช่นางเอก เป็นตัวร้าย(?) เป็นเจ้าแม่กาลี น่าจะพอไหวบ้างน่า
กูเดาว่าที่อ.ทำร้าย คงเพราะรักนี่ล่ะ เขาว่าตัวละครที่ชอบคือตัวตนในอุดมคติ ส่วนมากกูสังเกตว่าตัวละครพวกนี้มักจะมีคำว่าเสียสละอยู่ในชีวิตด้วย
>>954 ถ้าดูอนิเมจะรู้ว่าฉากร้องให้นั่นแทนสภาพจิตใจฮาเนะคาว่าล้วนๆ คือภายนอกก็ยิ้มแหละ แต่ข้างในใจร้องบอกไม่ใหวแล้ว ช่วยฉันทีอะไรแบบนั้น (ยกเว้นภาพสองที่ร้องเพราะโดนปฏิเสธ)
บางทีเอ็นโจอาจจะมีปูมหลังอะไรที่มันหนักหนาสาหัสเกินเยียวยาก็ได้นะ รอตอน 300 เผื่อจารย์ฮิโยโกะแกจะเฉลยปมเอ็นโจก่อนย้ายเรือก็ยังไม่สาย อีกไม่กี่ตอนเองนะพวกมึง เอ้านี่กาวมโนชั้นดี แดกเข้าไปสิ!!!
Monogatari series ลามมายันนี่เลยเหรอวะ
โหวตชั่วช้าสามานย์อ่ะ แต่จะไม่แก้เป็นเพื่อน้องสาวเหรอ?
ขอโหวตชั่วช้าสามานย์ ความดิบความเถื่อนนี้มันดึงดูดสายตามาก
KY นิด นี่โม่งฟิคตำนาน ver.เอ็นโจเองนะ ตอนนี้อาการป่วยหายดีแล้วแต่ติดสอบเยอะมาก หลังสอบจะกลับมาลงให้ทีนึงแล้วจะโยนไม้แล้วนะ!
เห็นว่ากระทู้ใกล้เต็มแล้วเลยไปตั้งกระทู้ใหม่ไว้ตรงนี้นะ ชั่วช้าสามานย์มาวินว่ะ 5555
https://fanboi.ch/webnovel/4454/
อ่านแปลตอนใหม่แล้ว ขอบคุณโม่งแปลสรุปแล้วไม่ใช่การฝ่าฝันของคู่ไซซายะวาคาบะแต่เป็น เรย์กะxวาคาบะสินะ อยากบอกท่านพ่อท่านแม่เบาๆว่า ลูกสาวลื้ออ่ะ คบสามัญชนเพียบเลยนะลื้อ (จริงๆ ก็คิดนะคนที่ทำให้เรย์กะคิมินิสัยเสียคือพ่อแม่นี่แหล่ะ บางทีก็สมน้ำหน้าพ่อแม่นะตอนตกต่ำ)
โอ้โอ ตอนใหม่นี่มัน.... พระเอกไปกินข้าวกับครอบครัวแล้วโดนพูดทำนองว่าห้ามคว้าสาวสามัญชนที่ไหนก็ไม่รู้มาเป็นสะใภ้บ้านเรานะ พระเอกเลยสะดุ้งไปตามระเบียบ เพราะกำลังแอบคบหาดูใจกับสาวสามัญชนที่ว่านี่อยู่พอดี ท่านแม่ขา ท่านแม่ไม่รู้เหรอคะ โบราณเขาว่าเกลียดอย่างไหนมักได้อย่างนั้นนะคะ เตรียมรอรับลูกสะใภ้สามัญชนได้เลยค่ะ ถถถถถถถถถถถถถถถ
ท่านแม่กับมาดามคาบุรากิเนี่ย สำหรับวาคาบะจังแล้ว ใครเป็นบอสที่โหดกว่ากันนะ
>>989 ตอนท้ายๆ มาดามคาบุรากิอาจจะมายุแยงท่านแม่เรื่องสะใภ้สามัญชนไม่คู่ควรกับตระกูลคิโชวอิน พร้อมกับเร่งรัดงานหมั้นของมาซายะกับเรย์กะให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด แต่ท่านพี่มาช่วยเหลือด้วยการเปิดโปงการทำทุจริตของบ้านคาบุรากิจนล้มละลาย ท่านแม่ใจอ่อนเห็นความดีของวาคาบะจัง อนุญาตให้ครองรักกับเรย์กะได้ ทั้งคู่ได้เข้าพิธีหมั้น เกี่ยวก้อยกันไปเรียนในมหาลัยซุยรันและเมื่อเรียนจบก็แต่งงาน แฮปปี้เอนดิ้งสไตล์โชโจ
ส่วนมาซายะหลังล้มละลายก็ติดใจอาหารสามัญชนเป็นอย่างมาก ระหว่างที่อกหักจากวาคาบะก็ได้ออกเดินทางรอบโลกแบบแบ็คแพ็คเกอร์ เสาะแสวงหาของอร่อยจากทั่วมุมโลก รีวิวบะหมี่ถ้วยราคาประหยัดหรือข้าวกล่องลดราคาบ้าง เขียนรีวิวอาหารเล่นๆลงเน็ตแต่เสือกดังซะงั้น ปัจจุบันกลายเป็นบล็อคเกอร์อาหาร ชีวิตมีความสุขดี
หวัดดีนะกุเห็นเรื่องนี้นานแล้วแต่ไม่เคยอ่าน แวะมาดูกระทู้นานๆ ครั้ง(แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก) เปิดดูสารบัญฟิค+ฟอพวกมึงแล้วกุนึกว่าเอ็นโจคงบทเยอะมาก ปรากฏว่าสองวันนี้กูตะลุยอ่านตั้งแต่ 1-ล่าสุด .................................พวกมึงหลอกดาว 5555555 กุนี่ช็อคไปเลย เกิดมาไม่เคยอ่านนิยายแนวเลิฟคอม? สไลส์ออฟไลฟ์? ฟู้ด? เอ่อ เอาเป็นว่ากุยังจัดหมวดไม่ถูกเลย คือกุไม่เคยอ่านนิยายที่มีหลายเรือมาก่อน แต่คิดว่ายังไงแต่ละรูทก็คงจะมี มม. กับผู้ท้าชิงเยอะกว่านี้ใช่มั้ย แต่ว่าเรื่องนี้มัน... กุอ่านแล้วอยากล้มโต๊ะ ตอนต้นๆ เคยคิดว่าถ้าท่านเรย์กะเดินหน้าเป็นเพื่อนกับสองหน่อเต็มกำลัง ทำนองหนีไม่ได้ก็เอาเข้าพวกแม่งซะเลย แล้วจัดการหาแฟนให้ทั้งคาบุกะเอ็นโจแต่งๆ ออกไปส่วนตัวเองก็ใช้ชีวิตบนคานเนี่ย กูคงจะอึดอัดน้อยกว่านี้ แต่ว่าบ้าจริงกุดันอ่านมายันตอนล่าสุดแล้วก็เสือกเป็นพวกอ่านแล้วต้องอ่านให้จบซะด้วย มีตลค.หลายตัวที่นึกเอ็นดูและอยากรู้บทสรุป กุเลยยังไปไหนไม่ได้ ฮรอลลล
ชิ่อหัวกระทู้มาไกลมาก แต่ชั่วช้าสามานย์นี่คุ้นๆเหมือนอ่านเจอในpantipนะมึง
จงสดุดี จงสรรเสริญเทพแห่งคานทอง และเจ้าแม่คานทอง โอ้! สตรีศักดิ์สิทธ์แห่งคานทอง!!
//ปั่นกระทู้ได้เลย
เอ้า ไปสู่กาวกระปุกใหม่กันเถอะ!!!
มุ่งสู่ความชั่วช้าสามานย์ ใครตามโรโคโค่เดิ้น ใครขวางโรโคโค่ด้อง!!!
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.