ตระกูลเอ็นโจทำงานชักช้าจังเลยนะคะ.. ฉันบ่นในใจมาเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ ง่วงจะแย่แล้วค่ะ พรุ่งนี้หน้าต้องโทรมแน่ๆเลย โชคดีจังที่สองวันหลังจากนี้หยุด พอมีเวลาให้บำรุงก่อนจะออกไปเจอผู้คน
เอ็นโจตอนหลับนี่ดีกว่าตอนยังมีสติเยอะเลยนะคะ.. นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่านะที่ฉันรู้สึกสบายใจขนาดนี้ตอนอยู่กับเอ็นโจ? อื๋อ ก็ตอนที่ตานั่นมีสติชอบแกล้งฉันนี่คะ โผล่มาทีไรก็พูดเหมือนรู้ทุกอย่างยังกะเป็นสตอล์กเกอร์ ใครๆก็ต้องกลัวแหละค่ะ นอกจากนี้สายตานั้นก็ยังพราวระยับจนแค่เห็นก็หมั่นไส้ ใครจะไปอยากคุยด้วยคะ แถมยังชอบหาเรื่องยุ่งยากมาให้ส่วนตัวเองก็ไปหว่านเสน่ห์ใส่คนอื่นอย่างร่าเริง จะไม่ให้โมโหได้ยังไง ชิ
ฉันคิดเรื่องนั้นเรื่องนี่ไปเรื่อยเปื่อยตั้งแต่ตอนเจอกันครั้งแรก จากแค่คนอยู่สโมสรเดียวกันก็ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ที่ฉันได้อยู่กลุ่มเดียวกับพวกเขา ถึงแม้จะรู้สึกว่าไม่ใช่ก็เถอะ แต่หลังจากจบม.6 พอเจอกันตามงานเลี้ยงส่วนมากก็จะเกาะกลุ่มกันเองยกเว้นว่าจะมีบรรดาคุณลุงมาคุยงานกับคาบุรากิและเอ็นโจ เวลามีงานวันเกิดหรืองานฉลองอะไรของแต่ละคนก็จะไปร่วมเสมอ เวลาว่างๆ บางทีก็ไปทานข้าวด้วยกันบ้าง ส่วนใหญ่ก็คาบุรากินั่นแหละนะที่นัด บอกอยากไปตระเวนรำลึกความหลังสมัยที่พาวาคาบะไปเดท ฉันได้แต่ข่มความอิจฉาเงียบๆในใจ เดทในชุดนักเรียนที่ฉันไม่เคยมี!! แต่เป็นเพราะคาบุรากิชวนทั้งยังมีเอ็นโจไปด้วยอีกเลยได้โอกาสไปทานอาหารที่ท่านแม่ถือว่า"เป็นอาหารสามัญชน" ทั้งยังได้เจอวาคาบะจังอีกด้วย คุ้มขนาดนี้ยังไงก็ต้องไปแหละค่ะ
วาคาบะจังตั้งแต่คบกับคาบุรากิอย่างเปิดเผยก็ยุ่งขึ้นมาก นอกจากจะเรียน ช่วยงานที่บ้าน มีเวลาว่างก็ต้องไปเรียนเรื่องมารยาทต่างๆที่บ้านตระกูลคาบุรากิ ช่วงแรกๆได้ฟังวาคาบะจังโอดครวญบ่อยๆเลยล่ะค่ะ มาดามคาบุรากิตอนแรกก็ไม่ชอบใจวาคาบะจังหรอกนะคะแต่เวลาผ่านไปวาคาบะจังก็พิสูจน์ตัวเองได้ว่าเหมาะสมที่จะเป็นแฟน(และภรรยาในอนาคต)ของคาบุรากิก็ยอมรับมากขึ้น ส่วนคุณลุงคาบุรากิน่ะเข้ากันได้กับวาคาบะจังมากเลยล่ะค่ะ วาคาบะจังชอบอ่านหนังสือเป็นทุนเดิมเลยคุยกับคุณลุงได้อย่างราบรื่น ไม่ได้อิจฉาสักนิ๊ดเลยนะคะ ด้วยเหตุนี้หนทางความรักของวาคาบะกับคาบุรากิเลยราบรื่นจนกระทั่งจบมหาลัยไปอย่างสวยงาม
เอ็นโจก็มีปัญหาอะไรหลายๆอย่าง ทำให้ผ่านชีวิตช่วงมหาลัยไปได้ลำบากหน่อย แต่ก็ได้ตระกูลคาบุรากิช่วยอย่างเต็มที่แหละนะ อ๋อ ฉันยังเคืองไม่หายเลยนะคะที่คาบุรากิลากฉันไปเกี่ยวข้องด้วย ถ้าความมั่นคงตระกูลคิโชวอินสั่นคลอนขึ้นมา ตระกูลคาบุรากิจะรับผิดชอบยังไงคะ!
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังจากที่รับรู้ว่าเอ็นโจต้องมีชีวิตวัยเด็กและผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นมายังไง ฉันก็อดมองตานี่ในแง่ดีขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ถ้าฉันต้องเจอเรื่องกดดันแบบเอ็นโจจะสามารถยิ้มให้ทุกคนแบบตาคนนี้ได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย
ฉันลูบหัวหมอนั่นเบาๆเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต อืม ใช้แชมพูของอะไรเนี่ย กลิ่นหอมดีนะคะ ฉันก้มหน้าลงไปดมนิดหน่อยๆ ก็ได้ยินเสียงเรียก
"คุณพี่เรย์กะ อุ๊บ"
"....." ยูกิโนะคุง ทำไมทำเสียงแบบนั้นคะ
"ผมมาขัดจังหวะเหรอเนี่ย ขอโทษครับ" ยูกิโนะคุ๊งงงง ไม่ใช่นะจ๊ะ
"ไม่ได้ขัดจังหวะอะไรเลยจ้ะ.." จริงๆนะ
"ครับๆ"
"...."
"ขอโทษแทนพี่ชายผมด้วยนะฮะที่สร้างความเดือดร้อนให้คุณพี่เรย์กะ"
"อื๋อ ไม่เป็นไรจ้ะ คนกันเอง"
"แล้งพี่ชายผมแผลงฤทธิ์ยังไงบ้างฮะ คุณพี่เรย์กะรับมือเหนื่อยหรือเปล่า"
"ก็.. ไม่ได้อะไรมากนี่คะ ก็โวยวายนิดหน่อยแล้วหลับไปอย่างที่ยูกิโนะเห็นนี่แหละจ้ะ"
"อื๋อ? ไม่ไหวเลยน้าชูสูเกะ" หือ? "ขอบคุณคุณพี่เรย์กะมากเลยนะฮะที่ช่วยดูแล"
"ไม่เป็นไรจ้ะ งั้นพี่ขอตัวกลับก่อนนะ"
"ฮะ ขอโทษนะครับที่ไปส่งไม่ได้"
"ไม่เป็นไรจ้ะ กลับบ้านดีๆนะ" ฉันลายูกิโนะที่พยุงเอ็นโจอยู่ พอมองเอ็นโจที่ไม่ได้สติฉันก็อดนึกถึงเรื่องที่เอ็นโจละเมอขึ้นมาไม่ได้ พูดอะไรออกมาน่ะตาบ้า...
ฉันขับรถกลับบ้านด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนิดหน่อย 'ผมชอบคุณมากๆ..' ตาบ้าเอ็นโจ!!
----------------------------------
ขอแบ่งเป็นสองพาร์ท.. เดี๋ยวตอนดึกๆมาลงพาร์ทสอง ' ')