ลัทธิบูชาบาตร ทั้งๆที่ศาสนาไม่ให้ยึดวัตถุ ให้หายังไงของมึงก็หลักฐานกุ
ลูซิเฟอร์ มัน แปลว่า light bearer, morning star อันนี้แม่งมึงเงียบปากจะดูดีกว่านะ
ให้เด็กที่มันเข้ามาอ่านไป researcher ต่อเองเลย
ลงชื่อ เซฮุน แจกันคืนนี้
Last posted
Total of 1000 posts
ลัทธิบูชาบาตร ทั้งๆที่ศาสนาไม่ให้ยึดวัตถุ ให้หายังไงของมึงก็หลักฐานกุ
ลูซิเฟอร์ มัน แปลว่า light bearer, morning star อันนี้แม่งมึงเงียบปากจะดูดีกว่านะ
ให้เด็กที่มันเข้ามาอ่านไป researcher ต่อเองเลย
ลงชื่อ เซฮุน แจกันคืนนี้
researcher นี่เป็น n ปะวะ ไม่ควรต่อคำว่า ไป...
อะ ให้เด็กที่เข้ามาอ่านไปresearchต่อเองเลย กุแก้ให้ๆ เห็นว่ามึงฉลาดไม่อยากให้พลาดอะไรแปลกๆ
เอ้อ light bearer ไม่ได่เท่ากับ light นะรู้ยัง
Luicifer - Old English, from Latin, ‘light-bringing, morning star,’ from lux, luc- ‘light’ + -fer ‘bearing
มึงเอาเวลาหารากศัพท์รากเหง้าไปสับนิยายเก่าๆดีกว่าเถอะ
เถียงเรื่อง lucifer ไม่ใช่แสงนี่โง่เหี้ยๆ บอกตรงๆนะ
ว้ายอยู่ในห้องสับนิยายไม่สนใจคำผิดดั้วะ สมเป็นเซฮุนมากๆ กรี๊ดแล้วข่ะ แถมยังสามารถยกตัวอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งในเชิงสาระและรูปแบบได้อย่างชัดเจน สมเป็นเซฮุน อะเก๊น
จี้สัสบอกว่า auto suggestion แต่แยกแสงกับผู้นำแสงไม่ออก lux = light ดังนั้น lucifer ที่มาจากราก lux นี่ต้องแปลว่าแสง ว๊ายตั่ยแหล้วว
ปล.ขอโทษที่ฟีดค่ะ
มาเฟียลูกกะหรี่ ดีแต่รุม
พวกมึงแม่งสันดานเดิม
มาตายโง่ๆ เพราะเชื่อในเพื่อนๆโง่ๆของพวกมึง
ไหนว่าจะไม่คุยเรื่องบาตร แจกัน ลูซิเฟอร์ห่าเหวไรพวกนี้แล้วไง ถ้าจะเถียงเรื่องนี้แนะให้ไปเปิดทู้ใหม่คุยดีกว่ามั้ย ห้องสับนิยายไม่ใช่หรอวะ ไม่ไฟท์กันแบบนี้ดิ
จะเถียงกันเรื่องซ้ำซากเชิญห้องเนตวอชครับ
จะส่อทางเพศเชิญห้องกามาครับ
เขาแบ่งประเภทห้องให้แล้ว ก็ไปให้ถูกห้องด้วย
เซฮุนเนี่ย เคยมีวีรกรรมตบหัวแล้วลูบหลัง ประมาณไปด่าเขาเสียๆหายๆ แล้วกลับมาอวย โดยหารู้ไม่ว่า ip มันยังไม่เปลี่ยน เลยโป๊ะแตก
ไอ้เรื่องนี้ยังไม่เท่าไหร่ เข้าใจว่าเป็นเด็กเกรียนธรรมดา ตอนแรกก็เหมือนว่าโป๊ะแตกแล้วจะหายไป แต่ท้ายที่สุดก็กลับมา แถมกลับมาในชื่อเดิมด้วยทั้งๆที่จะเปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่นคนก็ไม่รู้ แสดงว่าหวงชื่อ "เซฮุน" มาก แล้วแบบนี้จะไม่เรียกว่าวอนนาบีซัมวันได้ยังไง
จะเอาอีกไหม มีเรื่องเสร่อๆอีกตั้งหลายอย่าง รำคาญพวกโง่อวดฉลาดที่อยากดัง แถมเสือกอยากดังในสถานที่ๆเขาปกปิดตัวตนกันด้วย น่าสมเพช
ก็ไม่ควรจะไปให้ค่า คนจิตไม่ปกติเรียกร้องความสนใจหรอกนะ เวลามันพูดอะไรเพี้ยนๆก็ไม่ต้องยุ่งกับมัน จบ
เซฮุนที่พวกมึงเถียงเรื่อยมาก็แค่เซฮุนวอนนาบี เซฮุนตัวจริงคือคนนี้ต่างหาก https://th.wikipedia.org/wiki/โอ_เซ-ฮุน
เซฮุนโผล่มาทีไรทำงานกร่อย คนสับนิยายหนีหมด
ไอ้เหี้ยตรรกะ grave robber นี่โง่ควายสุดละ มึงเขียนนิยายได้ยังไงวะ
ถ้ามึงลูกกะหรี่ มึงไม่ใช่กะหรี่ ใช่ แต่มึงเป็นลูก คนก็ต้องถามมึงลูกใครเหล่าเต้า ลูกกำพร้า ลูกทาส ลูกอะไรก็ว่าไป บางอย่างต้องขยาย บางอย่างไม่ต้อง
Light + bearer แม่ง เหมือนลูฟี่มนุษย์ยาง เหมือน Batman มนุษย์ค้างคาว ไอ้ห่า คือมึงเป็นคน กูเรียกมึงควาย เพราะมึงคิดควายๆ มนุษย์+ควาย มึงโง่จรไม่เข้าใจอะไรวะ
bearer มันต้องบอกสิวะ ว่ามึง นำพาอะไร แบกอะไร fire bearer, pussy bearer, cock bearer
Robber มึงไม่ต้องเจาะจง ปล้นเหี้ยไรก็ปล้น ถ้ามึงดังจากการปล้น grave หรือมึง เฉพาะทาง เหมือนหมอควย หมอผี หมอหี หมอไต ก็เป็นหมอ
โอ้ย เด็กเห่อหมอยยยยยย
แวบมาอ่านก็สลายตัวนะไปนะพวกมึงน่ะ โง่เหี้ยๆ โง่สัดๆ ถึงมาหลบอยู่ในนี้กัน
ลงชื่อ เซฮุน พรุ่งนี้แจกัน
มึงคิดว่าคนโบราณรู้ส่าแสงเป็นอณุภาค/คลื่นเหรอ มันเป็นการเปรียบเทียบแบบนามธรรม ไม่ได้มีความหมายตรงตัว
Light Bearer คือ Morning Star ดาวแรกของวัน คนโบราณถือว่าเป็นดาวที่นำแสงสว่างมายังโลก Light Bearer หมายถึงดาวดวงนี้
ในเมื่อมันนำแสงสว่างมาสู่โลก แล้วตัวมันเองจะเป็นแสงได้ยังไง เหมือนที่กูเทียบอพอลโลกับเฮลิออสนั่นละ
แล้ว Bearer ไม่ต้องเจาะจงนะ คำนี้แปลว่าผู้ถือ แบกหาม ตัวรับน้ำหนัก อยู่แล้ว ไม่ต้องบอกก็ได้ว่าถืออะไร
นี่ก็ได้ Cup Bearer คนถือจอกในราชสำนัก เอาตามมึงเลยนะ คนถือจอกจะเป็นจอกรึเปล่าละ
>>803 น้ำปลาคนแบกกุ้ง มึงเป็นคนแบก มึงไม่บอกว่าแบกอะไร?
คนแบก+จอก แบกควย แบกหี มึงต้องขยาย มึงจะไปแบกรถ แบกขี้ได้หรอ? ถ้ามึงเจาะจงแล้ว
ไอ้เหี้ย grave robber มึงชวนไปปล้น bank มันก็ไปได้ เพราะมันโจร อาจจะไม่เทพ ขุดๆไป แต่โคตรมันก็ grave robber
Light bearer/ Morning star
Lucifer = ผู้พาแสงสว่าง เรียกผู้พา เฉยๆ มึงพาน้ำ? เปล่า? มึงพาไฟ? เปล่า
มันพาแสง
เลิกโง่ว่ะ ขอโทษนะ โง่เหี้ยๆ
The Septuagint renders הֵילֵל in Greek as ἑωσφόρος (heōsphoros), a name, literally "bringer of dawn", for the morning star. The word Lucifer is taken from the Latin Vulgate, which translates הֵילֵל as lucifer, meaning "the morning star, the planet Venus", or, as an adjective, "light-bringing".
Lucifer bears the Light, but Christ is the Light; thus Lucifer is the Christophor, the Christ-Bringer. Another phrase from early Christianity also suggests this relationship: Christus verus Luciferus, which means “ Christ is the true Light-Bearer
Lucifer, as the embodiment of the Astral Light, of visible, revealed light can also be interpreted as the embodiment of the Fall into that Light, into the vast realm of Earth characterized by light travelling just under the speed of light. It sounds paradoxical if not confusing, but at the exact “speed” of light, there is no light or time or motion. That is the Pleroma, or Heaven.
The created worlds of Earth are the vehicles for speeds less than the full speed of light, from a little to a lot . Lucifer’s Fall was a speeding violation for going slower. Equally penetrating is the insight offered by one of Blavatsky’s contemporaries, the occultist Eliphas Levi (whom she cites) who wrote in 1860 that the Fall of Adam was an “erotic intoxication” with this “fatal light.” This made all subsequent humans similarly vulnerable to and “menaced” by the “exceedingly dangerous exaltation of this interior phosphorus.”
The Astral Light, Levi proposed, is the demonic fire of hell, the central fire that encompasses the Earth, consuming everything and leading to intoxication and “sin,” and it is also the revelation of the “Great Magical Agent,” the celestial Lucifer, the Morning Star of intelligence, who is the vehicle of light, the receptacle of all forms, and a “mediating force” diffused throughout all the created realms.
All the seeds of stars, planets, gods, humans, living creatures contained within Phanes’ silver egg comprise the Light that Lucifer is Lord and Bearer of. Lucifer contains this prodigy of Light, so therefore he is its Lord. He is Lord of Light not out of ambition, but because this is how the Supreme Being made him: he is the container of the light of creation and the means by which the world is visible. His appointed task is to bear and bare the Light, to be reservoir and epiphany. Lucifer is the Lord of Light because the Light he holds births the stars, which is to say, generates the multiplicity of gods. They are beholden to Lucifer for their Light and are subsequent to him in the sequence of creation
เก็บกดอะไรกันมาจากในบอร์ดหว่า ไอ้ขี้แพ้เรียกร้องความสนใจคนเดียวก็เกินพอล่ะนะ
>>804 ลองคิดตามนะ Cup Bearer คนถือจอกจะเป็นจอกรึเปล่าละ
>>805 Bearer เฉยๆ ก็มีความหมายแล้ว ไม่ต้องเจาะจงก็ได้ มึงอ่านจากไหนว่าต้องเจาะจง
แล้วมันพาแสงแปลว่ามันคือแสงป่าวละ ถ้าไม่ใช่ มันก็ไม่ใช่แสง มันงงตรงไหน
>>806 อ่านเองดีกว่า
http://biblehub.com/hebrew/1966.htm
http://biblehub.com/hebrew/1984.htm
ก่อน ลูซิเฟอร์จะเหี้ย มันเป็น Angel of Light
กูไปนอนละสัด พรุ่งนี้แจกัน
กูถามจริงๆ มึงเขียนนิยายกันได้ไง คิดยังไม่เป็นระบบระเบียบ
กูเข้าผิดห้องหรือเปล่าวะ
อวาลอนนี้เลิกเขียนเเล้วเหรอวะ
อวาลอน ชื่อนิยาย
มึงเรียกมันว่า นิยายอวาลอน
มันเป็นทั้ง นิยาย และ อวาลอน
ลงชื่อ เซฮุน พรุ่งนี้แจกัน
สัสไม่จบ5555555
>>798 กูไม่ได้ใส่ไฟ และไม่จำเป็นต้องใส่ไฟ เพราะไม่ได้เคียดแค้นชิงชังอะไรมึง เพียงแต่สมเพชความวอนนาบีซัมวันของมึงเท่านั้น
ต้องให้กูพูดอะไรอีกเหรอ ก็ไม่มีอะไรอยากจะพูดมากนะ คนอื่นเขาเอือมกันจะแย่แล้ว ไอ้แสงไอ้บาตรแจกันอะไรเนี่ยพอเถอะ เอาเป็นว่าถ้ามึงอยากเป็นฝ่ายถูกนักกูให้มึงถูกก็ได้ บาตรมาจากแจกัน ลูซิเฟอร์แปลว่าแสง จะเอาอะไรอีกก็บอกมา กูให้มึงได้ทุกอย่างเลย แต่ช่วยเลิกทำตัวระรานคนอื่นจะได้ไหม
เลิกสับนิยายกันดีมั้ยล่ะ จะได้คุยเรื่องแจกันลูซิเฟอร์ กูจะได้ย้ายบ้านล่ะ
สับนิยายในนี้ ถ้าไม่เอาไปแซะคนเขียนให้รู้
กูว่าไร้ประโยชน์ที่เพื่อนโม่งทำมากเลยวะ
ที่กูเห็น ในขณะที่หน้านิยาย กูรู้ว่าคนเขียนส่วนใหญ่ รอคอมเมนต์ ไปวิจารณ์อยู่
แต่แม่งว่างเปล่าในหลายๆเรื่องที่สับกันไป
คนเขียนแม่งไม่รู้หรอกว่า งานตัวเองเขียนเป็นไง คนอ่านว่ายังไง
ก็นะ
จุดประสงค์ดี แต่คนเขียนไม่รู้ มันก็เกม
ว่าแต่เมื่อไหร่จะเลิกสนใจเซฮุนกันวะ เหมือนเด็กเกรียนเห่อหมxย อิเหี้ย ทำตัวหน้าหนาหน้าทนกวนตีนไปงั้นแหละ ก็แค่เรียกร้องความสนใจ เลิกสนใจมันก็แห้งตายไปเอง นี่ผ่านมาตั้งกี่มู้แล้ว ให้อาหารมันอยู่ได้
>>824 หวัดดีนี่เซฮุนนะ จะแย้งให้ฟัง (ขอพูดซีเรียสบ้าง)
ประเด็นที่มึงยกมา คือ เห็นว่าสับในนี้ไร้ประโยชน์ เพราะคนเขียนไม่รู้
แต่ประโยชน์อื่นมันมี
1- มึงรู้ได้ไงว่าคนเขียนไม่รู้ เขาอาจจะรู้ก็ได้ ถึงไม่ทุกคนมันก็มีคนรู้ ถึงไม่รู้วันนี้ อีจิ๋มบวมมันเอาไปแปะบอร์ด เด็กมันก็แห่มา ข้อมูลมันไม่มีป้ายหมดอายุ
2- ประโยชน์ของมันคือเพื่อคนสับเอง ไม่ใช่คนเขียนโดยเฉพาะ
เป็นการฝึกให้คนสับ edit เป็น เพราะนักเขียนทุกคนต้อง edit นิยายตัวเองได้ และ!
เมื่อนักเขียนก้าวข้ามจุดเล็กๆอย่างคำผิดแล้ว ฝีมือในการ edit พัฒนาการมันก็จะไปด้านอื่น จังหวะ ย่อหน้า พล็อต โครงสร้าง อาร์คเรื่อง อาร์ตัวละคร ความสมเหตุสมผล การใช้สัญลักษณ์ อะไรก็ว่าไป
มึงอาจจะมองไม่เห็นภาพตอนนี้ แต่มึงต้องเข้าใจว่าคนที่เป็นพ่อครัวเก่งๆ เขาเอาลิ้นแตะอาหารคนอื่นเขารู้เลยมันใส่มาบ้าง อะไรเกินใส่อะไรน้อย รสแบบนี้มันผงนี้นี่หว่า... บางคนแดกจนอ้วนทำกับข้าวหมาไม่แดกก็มี บางคนอ้วนทำกับข้าวได้ก็เยอะ แต่เชฟผอมๆค่าตัวแพงๆก็มี... ซึ่งที่ว่าให้เทพอ่าน 8 บรรทัดก็รู้ว่านักเขียนคนนี้เขียนเป็นไม่เป็นมันจริงทุกอย่างนะ... นี่ประโยชน์คนสับ
3- มันเป็นการรีวิว ตอนนี้มีการให้คะแนน เช่น 3/10 มันเหมือนการไปเที่ยวกินอาหารตามร้านแล้วให้ดาวให้ความเห็น... มันเป็นประโยชน์คนอื่นที่มาอ่านการรีวิว
รสชาติถึงจะถูกปากชาวบ้าน แต่นักชิม เขาที่เคยกินมาเจ็ดย่านน้ำอาจจะไม่ถูกใจก็ได้ ไก่ต้องสด พิถีพิถัน คุณภาพ บลาๆ ตรงนี้ผู้บริโภคสามารถเอาไปตัดสินใจได้ (มันอาจจะไม่สาธารณะ แต่ก็นะ)
ไม่ใช่ว่าเป็นอาหารตามสั่งคนกินเยอะมันจะเป็นอาหารที่ดี ข้าวมันไก่เยิ้มๆแดกอร่อย แต่ทำลายสุขภาพไหมล่ะ นิยายติดท็อปคนอ่านเยอะมันก็จะไปพวกนั้น พวกสัมพเวสีมันก็อิจจาไป แต่กูเฉยๆ เพราะกูเข้าใจตลาด
นิยายดาร์กส่งเดช มันอาจจะเป็นเหล้าขาวต้มที่แดกแล้วตาบอด ขณะที่ดาร์กดีๆคือเหล้าบ่มนาน
นิยายมันเป็นงานศิลปะแบบหนึ่ง ถ้าเป็นไปได้ควรมีตารางโภชนาการแบบสิ่งอุปโภคบริโภค นิยายเรื่องนี้มีคำหยาย R18 มันยังไม่ละเอียดในสายตากู ถ้าบอกได้ว่าขับเคมีสมอง Dopamine กี่หน Oxytocin กี่หนได้ แบบบอกแคลอรี่ บอกน้ำตาล บอกโปรตีน ก็จะดีมาก
ลงชื่อ เซฮุน มึงก็ลองสับดูสักเรื่องสิ
หาพวกอะไรวะ รณรงค์อะไรของมึง บ้าบอ อะไรทำให้คนเราสำคัญตัวผิดได้ขนาดนี้ เฮ้อ
คร่อก... เหตุผลไม่ได้ก็โกรธ เด็กว่ะ
https://www.dek-d.com/board/view/3789987/ สำคัญตัวผิดขนาดไหนวะ กระทู้เก่านี่ออกงิ้วดิ้นกว่าคนก๊อปแล้วมั้ง
>>830 มึงอ่านแล้วดูไม่เป็นการหาพวก หรือ รณรงค์?
"ว่าแต่เมื่อไหร่จะเลิกสนใจเซฮุนกันวะ เหมือนเด็กเกรียนเห่อหมxย อิเหี้ย ทำตัวหน้าหนาหน้าทนกวนตีนไปงั้นแหละ ก็แค่เรียกร้องความสนใจ เลิกสนใจมันก็แห้งตายไปเอง นี่ผ่านมาตั้งกี่มู้แล้ว ให้อาหารมันอยู่ได้"
>>831 ก็ทำไปมึง สวะ หรือ ไฮดร้า ก็แล้วแต่คุณมึงเลยครับ ขำว่ะ
ถ้าดูตาม Guideline มันผิดเกือบทุกข้อ Admin บอกแล้วว่าถ้ามากไปก็แจ้งแบนได้
พวกมึงก็อย่าไปคุยกับมันก็พอ ให้มันเรื้อนเองคนเดียว เวลาแจ้งแบนจะได้ไม่มีข้ออ้าง
กูดีใจที่เป็นกลไกสำคัญในการทำให้พวกมึงปรองดองกันนะ
ลงชื่อ เซฮุน กูก็จะสับนิยายต่อไป ว่าแต่พวกมึงคงไม่สนใจอยู่ดี ฮ่าๆ
พวกมึงเลิกพูดถึงมันเลย ยิ่งพูดมันยิ่งชอบใจ มันเกรียนห่าเหวไรก็ไม่ต้องโต้ตอบ ทำมันเป็นอากาศธาตุไป
ผ่านไปเกือบห้าสิบเม้นต์ นอกจากเถียงกันเรื่องอะไรไม่รู้ ก็ไม่มีสาระอะไรเลย กูบอกไปเถียงกันในห้องเนตวอร์ช นี่ห้องสับนิยาย พวกมึงกำลังจะทำตัวเหมือนพวกบอร์ดเด็กดีนะ รู้รึเปล่า...
ใครช่วยบอกรายชื่อคนแปะลิ้งโม่งในเด็กดีหน่อยสิ มีกี่คนมีใครบ้าง
ky ชิบหายล่ะว่าเพื่อนโม่ง... กุกำลังตั้งใจซุ่มเขียนนิยายเรื่องหนึ่งอยู่เอาเป็นเอาตาย แต่ก็เริ่มฝืดเพราะใช้เวลาเขียนนานไปหน่อย (เขียนมา 3 เดือนแล้ว)
และวันนี้ก็เกิดเหตุขึ้น ระหว่างกุอาบน้ำอยู่ จู่ๆ ตัวกุก็ปิ้งไอเดียว่าจะรีไรท์เรื่องเก่าที่เขียนจบไปแล้วซะงั้น!! แถมความรู้สึกอยากเขียนก็เยอะอีกต่างหากด้วย!
เจอแบบนี้กุควรทำไงดีวะ! ถ้ากุหยุดเขียนเรื่องที่เขียนอยู่มีหวังขาดตอนแน่ แต่ถ้าไม่รีบกลับไปรีไรท์ก็มีหวังไอเดียหายหมดแหง!
เชี่ยเอ้ยย กุอยากเกิดเป็น อะมีบ้า แยกร่างเป็นสองคนได้จังโว้ย!
ยกตัวอย่างถูกป่าววะ https://www.dek-d.com/board/view/3790066/
วงการนิยายแปลแห่งสารขัณฑ์ https://www.dek-d.com/board/view/3790255/
เพื่อนโม่งมีใครอ่านเรื่อง rachelไหมกูอยากรู้มันรีไรต์เยอะไหมกูขก.กลับไปอ่าน
มู้นี้สปอยอปลกๆ ไม่รู้ทำไม
https://www.dek-d.com/board/view/3790019/
>>741 >>742 มาสับเรื่องเดิมต่อ
มีแฟนคลับในนี้อย่าว่าเรานะ
เรื่อง : เจิ้งฝูสื่อ จอมนางตำหนักเย็น
link : https://writer.dek-d.com/inin17305/story/view.php?id=1672006
จำนวน : 26 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ
การเขียน หลังจากย้อนอ่านทั้งเรื่องมาราว ๆ สิบรอบสรุปได้ว่าภาษาดี แต่ใช้คำฟุ่มเฟือยไป มีคำผิดประปราย เคยข้อความลับไปคุยกับผู้แต่งแต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ ถ้าลดคำฟุ่มเฟือยได้ก็เป็นนิยายที่เนื้อหาสนุกเรื่องหนึ่งในหมวดอดีต ปัจจุบัน อนาคต เลยล่ะ คะแนน 7 / 10
บที่ยี่สิบห้า - พระเอกยิ่งรุกนางเอกมากขึ้น เช้าวันต่อมานางเอกทำอาหารสองเมนูไปกินกับอี้หวงกุ้ยเฟย จบด้วยพระเอกหารือเรื่องการรบกับเหล่าขุนนางในท้องพระโรง
บทที่ยี่สิบหก - อี้หวงกุ้ยเฟยกับนางเอกกลายเป็นเพื่อนกัน นางเอกถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องในวังวนการแก่งแย่งช่วงชิงของเหล่าสนมเต็มตัว
อ่านมายี่สิบหกตอนรู้สึกว่านางเอกหลุดจาก concept จอมนางตำหนักเย็นมาเป็นนางสนมธรรมดา ๆ ในวังหลังนานแล้วอยากให้นางเอกกลับไปอยู่ตำหนักเย็นมากเลย
กุลองเอานิยายในเด็กดอยไปลงที่ธัญวลัยแล้วเติมฉาก Nc ลงไปด้วย ยอดวิวตอนที่มีฉาก nc โดยเฉลี่ยแม่งเยอะกว่าตอนเนื้อเรื่องปรกติหลายเท่า กุเลยสงสัยว่าคนมันอ่านแต่ฉาก nc แล้วมันจะรู้เรื่องเหรอวะ
คล้ายดูหนัง AV แล้วข้ามๆหาไป
ในเด็กดีนี่ก็มีหลายเรื่องใช้ฉากเย็ดเรียกวิวนะถึงจะไม่บรรยายโจ่งแจ้ง 20+ เปิดเรื่องมาด้วยการเข้าสิงร่างสาวที่กำลังโดนท่านอ๋องรูปงามสอดใส่ ถถถถ
มีใครเคยอ่าน จ้าวจตุรทิศ ไหม
มึงจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวหรือจีนบู้ก็เอาสักอย่างดิวะ https://my.dek-d.com/PMMchannel/writer/view.php?id=1694918
ky ถามหน่อยสิ สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในป่าหิมพานต์นี่ตัวอะไรวะ?
>>882 เรื่องนี้คนเขียนแม่งหากินแนวนี้เลยเหอะ กุเห็นแม่งติดท๊อปเลยเข้าไปอ่าน กุสุ่มไปอ่านตอนจบ นางเอกคลอดลูก แม่งคุยกับคนทำคลอด ยอกกับคนทำคลอดไปเบ่งไปได้ด้วยนะมึง
อีกเรื่องนึงพอแม่งเปิดมานางเอกโดนพิษ ส้นตรีนอะไรสักอย่าง ต้องนอนกับผู้ชายพันคืนถึงจะรักษาชีวิตไว้ได้ เอากะมันดิเอา ปล.นี่กุอ่านแค่คำโปรยนะ มันบอกไว้ประมาณนี้
เออ แล้วสดายุกับสัมพาทีนี่เก่งยังไงบ้างวะ ไปดูที่ไหนก็มีแต่สัมพาทีโดนเผาขนกับสดายุโดนแหวนกระแทกตายจนกูสัมผัสความเก่งของมันไม่ได้เลย
>>885 หูย เพิ่งเห็นคำถามนี้
ในอากาศคือครุฑ ถือเป็นเจ้าเวหา ไม่มีใครสู้ได้ พระนารายณ์เคยประมือด้วย ผลคือเสมอกัน เลยทำข้อตกลงซึ่งกันและกัน ครุฑกลายเป็นพาหนะของพระนารายณ์ตั้งแต่นั้นมา
บนบกคือไกรสรสีหะ แค่เสียงร้องก็ทำสัตว์อื่นตกใจตายได้ พละกำลังแข็งแรงมาก จนมีคนบอกไว้ว่า "ในบรรดาสัตว์สี่ตีนนั้นไม่มีสัตว์ใดจะกระโดดไปในอากาศได้เร็วเท่าไกรสรสีหะ ยกเว้นแต่ช้างแก้ว"
ในน้ำคงเป็นนาค เนรมิตตัวเองได้ เนรมิตอะไรต่อมิอะไรก็ได้ สร้างปราสาท สร้างน้ำให้ท่วมป่าหิมพานต์ บลาๆ มีพิษแบบต่างๆ ไปอีก
>>896 รู้สึกแทบจะไม่มีอะไรทำอันตรายสดายุได้เลยนะ แถมเกือบชิงนางสีดาจากทศกัณฐ์ได้ด้วย แต่มันดันปากพล่อยบอกว่าแหวนนางสีดาทำร้ายมันได้ตอนที่นางสีดาอยู่กับทศกัณฐ์ เป็นตัวประกอบที่โดนกวีเนิฟพลังให้เรื่องเดินไปต่อได้ชัดๆ
ส่วนสัมพาที ตัวนี้ไม่รู้ว่ะ โผล่มามีบทแค่เจอพวกพระรามกลางทางกับแฟลชแบ๊คโดนพระอาทิตย์เผาขน อ่านแล้วคล้ายตำนานอิคารอสเลย แต่เปลี่ยนคนโดนเผาจากอิคารอส (สดายุ) เป็นพ่อ (สัมพาที) แทน
อ่ะ นี่ โม่งแตกละ
เฮ้ย KY หน่อย
กุเห็นห้องนิยายเสิ่นเจิ้นเขาทำงี้แล้วเฮฮาดีว่ะ
https://docs.google.com/spreadsheets/d/1P5itSLfxuYZrmvEnHBfXWZBMmCR0QJJvds8Pdg45BMM/edit#gid=0
มู้นี้มีใครเชี่ยวพอทำได้มั่งเนี่ย แม่งอ่านย้อนแล้วฮาก๊ากจริง
เคยรีวิวมาสองเรื่อง เรื่องแรกก็คือเรื่องที่จะหยิบมารีวิวใหม่อีกครั้ง อีกเรื่องคือเจิ้งฝูสื่อ จอมนางตำหนักเย็น
เรื่อง : ชิงบัลลังก์นางหลงยุค
link : https://writer.dek-d.com/pinkblink/story/view.php?id=1684046
จำนวน : 11 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ
บทนำ - นางเอกก่อนย้อนมาจึนโบราณเป็นพนักงานบริษัท ต่อมาถูกเจ้านายฆ่าทิ้งวิญญาณไปสวรรค์ จากนั้นก็เจอกับเทพชราแสนใจดี เทพองค์นั้นส่งให้นางเอกมาเกิดพร้อมพรห้าข้อ ( พรแต่ละข้อส่งผลให้นางเอกเพอร์เฟคไปซะหมด )
บทเรก - บทที่ห้า :
บทแรก - นางเอกมาเกิดในท้องของฮูหยินแม่ทัพใหญ่ ตามพรหนึ่งในห้าข้อของเทพชรา พี่ชายทั้งสองวิ่งเข้ามาดูน้องสาว ( พี่คนโตชื่อยังกับญี่ปุ่น ) ห้าปีผ่านไป พี่ชายนางเอกเดินไปเจอน้องสาว เลยถามว่าทำอะไรอยู่ นางเอกตอบว่าอ่านตำราประวัติศาสตร์ ( ตรงจุดนี้คิดว่าห้าขวบยังไม่ควรอ่านตำราที่หนักหนาขนาดนั้น ) เท่านั้นยังไม่พอนางเอกยังจะฝึกวรยุทธด้วย ( โอเค อายุเท่านี้เริ่มฝึกได้ไม่เสียหายอะไร แต่นี่เหมือนจะเก่งอยู่แล้วเพราะทหารที่ตัวใหญ่กว่าหลายเท่าสามคนยังแพ้ เป็นไปไม่ได้ที่เด็กห้าขวบจะสู้ผู้ใหญ่ได้ขนาดนั้น ) จบด้วยพ่อตอบตกลงจะส่งตัวไปสำนักฝึกยุทธ
บทที่สอง - พูดถึงวันแรกที่นางเอกไปถึงสำนักฝึกยุทธและได้เจออาจารย์กับคนที่มาร่วมคัดเลือกเป็นศิษย์สำนักนั้น
บทที่สาม - ผ่านไปอีกเจ็ดปีในที่สุดก็มาถึงว้นสุดท้ายที่นางเอกฝึกวรยุทธที่สำนักนี้เพราะสำเร็จวิชาทุกแขนงของที่นี่เรียบร้อย
บทที่สี่ - กลับจวนแม่ทัพใหญ่อีกครั้ง
บทที่ห้า - ถึงเวลาต้องฝึกสกิลของบุตรีขุนนางชั้นสูงในยุคจีนโบราณ ท้ายบทได้เจอตัวละครที่คาดว่าเป็นพระเอกอีกครั้งที่ตลาด ตัวละครนั้นซื้อหวีให้นางเอก
บทที่หก - บทที่สิบ :
บทที่หก - รัชทายาทโผล่มายังไงกันนะ ( เอ้า ๆ ตกลงรัชทายาทคือเด็กชายที่แอบชอบนางเอกหรอกเหรอ ทำไมไม่เรียกรัชทายาทตั้งแต่บทแรก ๆ ) บทนี้ผู้ชายเล่าบ้าง ( ใช้คำแทนตัวไม่เข้ากับยุคสมัยมาก ๆ )
บทที่เจ็ด - กลับมาเป็นนางเอกเล่าเรื่องเหมือนเดิม แม่จะส่งลูกสาวไปคัดเลือกสนมในวัง ตอนแรกนางเอกไม่ยอม แต่พอได้ยินแม่บอกว่าตัดสินใจแล้วก็เปลี่ยนใจยอมไปทันที ( เอ่อ...เปลี่ยนใจง่ายไปนะ )
บทที่แปด - พ่อให้องครักษ์เงาไปตามดูแลนางเอกในวังหลวง ก่อนคัดเลือกนางเอกถูกขัดสีฉวีวรรณตามคำสั่งของฮูหยินแม่ทัพ พอขัดตัวเสร็จก็แอบไปเข้าแถวคัดเลือกของสตรีชั้นต่ำเพราะหวังว่าจะถูกคัดออก ได้เพื่อนใหม่อีกคน
บทที่เก้า - นางเอกกับเพื่อนใหม่ผ่านการคัดเลือกฉลุย ฮ่องเต้พูดคุยกับนางเอกแบบไม่ถือองค์ต่อหน้าคนอื่น ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้มีตำแหน่งใด ( มีฮ่องเต้โผล่มา ดูเหมือนฮ่องเต้จะเป็นรัชทายาทตอนบทที่หกนะ สามบทผ่านมาไม่มีบอกเลยว่าฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคตหรือกลายเป็นไท่ซ่างหวงไปแล้วหรือไม่ คิดว่ามันดูลอย ๆ ไปหน่อยน่าจะมีบอกบ้าง )
บทที่สิบ - ฮ่องเต้จัดขบวนขันหมากไปรับตัวนางเอกที่จวนแม่ทัพใหญ่อย่างเอิกเกริกสมตำแหน่งที่ได้รับ
อ่านเรื่องนี้แล้วมากกว่าสามรอบ จุดบกพร่องจุดแรกของเรื่องคือคำผิดมีให้เห็นทุกบทโดยเฉพาะ ค่ะ คะ จุดที่สองคือการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างงง เนื้อเรื่องดีนะ แต่อย่างทที่บอกว่าดำเนินเรื่องค่อนข้างงงเลยทำให้ดูไม่สนุกเท่าที่ควร ชื่อตัวละครหลายตัวค่อนข้างแปลกไม่เหมือนจีน เช่น หลงอามิ วิงเว่อ มิงเอ๋อ มิงฟ้า เป็นต้น เอาไป 4/10 แล้วกัน
คะน้า ค่ะน้า
เรื่อง : ไลฟ์สไตล์เจ้าหญิงอัปลักษณ์ ( รอบแรก )
link : https://writer.dek-d.com/koko2476/writer/view.php?id=1547742
จำนวน : 27 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ
บทเรก - บทที่ห้า :
บทแรก - นางเอกทะลุมิติมาในยุคจีนโบราณ เป็นบุตรีแม่ทัพอีกแล้ว ฟื้นมาก็ได้เจอแม่กับน้องของเจ้าของร่าง แม่ให้สาวใช้ไปตามหมอมาตรวจอาการเพราะเห็นลูกสาวคนโตแปลกไป หมอบอกว่านางเอกความจำเสื่อมเพราะสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักหายได้แต่ต้องใช้เวลา หลังจากหมอกลับไปนางเอกก็ซักไซ้แม่กับน้องของเจ้าของร่างจนรู้เรื่องเกี่ยวกับอีกฝ่ายทั้งหมด
บทที่สอง - เริ่มการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเจ้าของร่างใหม่ด้วยการไปซื้อเมล็ดพันธุ์ผักและผลไม้มาปลูก
บทที่สาม - เริ่มปฏิการลดริ้วรอยบนดวงหน้าที่ทำให้ตนอัปลักษณ์ บทนี้บอกสูตรลดสิวมาด้วย
บทที่สี่ - เริ่มลดน้ำหนักไปพร้อมกับเรียนศิลป์ศาสตร์ทุกแขนงที่จเป็นสำหรับกุลสตรีสมัยจีนโบราณอย่างหนักเป็นเวลาสี่เดือน
บทที่ห้า - นางเอกกับสาวใช้ไปเที่ยวเทศกาลโคมลอย หนุ่มใจดีซื้อโคมลอยให้
สรุปจุดเด่นของห้าบทแรกคือคำผิด เด่นมากจริง ๆ มีแต่คำผิด อีกจุดคือชื่อตัวละครที่เป็นตัวเอกนะ อ่านมาตั้งแต่สมัยแรก ๆ ที่ยังไม่เปลี่ยนชื่อเป็นสามพยางค์ นางเอกเดิมชื่อ หยางลี่หลันฮวา ( ตอนนี้เป็นหยางหลันฮวา ) น้องสาว หยางฟางโม่ลี่ฮวา ( ตอนนี้เป็น โม่ลี่ฮวา เหมือนไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ เลย เพราะคนละแซ่ ไปแล้ว ควรเป็น หยางโม่ลี่ ผู้แต่งน่าจะอยากได้ชื่อที่หมายถึงดอกมะลิแก้ให้แล้วนะโดยตัด ฟาง และ ฮวา ออก ) แม่ของสองสาว หยางซูหวงหลาน ( ตอนนี้เป็น หยางซูหลาน ที่จริงอันนี้สามารถเรียกได้อีกแบบว่า หยางซูซื่อ ไม่ต้องมีชื่อมาเกี่ยวเลยและนิยมในสมัยนั้นด้วย หยางคือแซ่แม่ทัพ ซูคือแซ่ฮูหยินแม่ทัพ )
อยากรู้มานานแล้วว่าเดี๋ยวนี้นิยายจีนเขานิยมตั้งชื่อหลายพยางค์กันเหรอ ส่วนตัวไม่มีปัญหากับพวกโอวหยาง กงซุน อวี่เหวิน อ้ายซินเจวี๋ยหลัว หนานกง ตงฟาง ฯลฯ แต่จะมีปัญหากับพวกแซ่หลายพยางค์ที่เกิดขึ้นเองโดยนำคำมาผสมกันเพราะรู้สึกว่ามันแปลกๆ
โม่งฝึกสับหมายเลข 27 มีต่อ มาต่อพรุ่งนี้นะ ตอนนี้ต้องไปแต่งนิยายตัวเองก่อน
อย่าว่าแต่ชื่อจีนเลย กูว่าลำพังแค่ชื่อไทยแม่งก็หาความหมายยากแล้ว....
>>915 เองมาต่อแล้วนะ
เรื่อง : ไลฟ์สไตล์เจ้าหญิงอัปลักษณ์ ( รอบสอง )
link : https://writer.dek-d.com/koko2476/writer/view.php?id=1547742
จำนวน : 27 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ
บทที่หก - บทที่สิบสี่ :
เริ่มด้วยเที่ยวเทศกาลโคมลอยต่อจากบทที่แล้ว พ่อไปหาที่บ้าน นางเอกถีบพ่อ มาอีกวันนางเอกจะออกเดินทางเพื่อไปฝึกเป็นแม่ทัพหญิง สามบทต่อจากนี้เป็นการเตรียมตัวก่อนออกเดินทางของนางเอก นางเอกเปิดร้านขายของตั้งชื่อร้านแปลก ๆ แม้แต่สาวใช้ยังรับไม่ได้ ( แปดบทนี้ จุดเด่นคือคำผิด บทที่เจ็ดถึงเก้าคิดว่านางเอกทำเกินไป ยังไงก็ไม่ควรถีบพ่อแบบนั้น บทที่สิบสองมีอโมติคอนหลุดมาซึ่งไม่เข้ากับยุคสมัยของนิยายอย่างมาก บทที่สิบสามมี 555 หลุดมาอันนี้คิดว่าเป็น ฮ่าๆๆ ดีกว่า )
บทที่สิบห้า - บทที่ยี่สิบ :
เริ่มด้วยคิดเมนูอาหาร ผ่านมาหลายบทแล้วนางเอกและะพลพรรคยังออกกำลังกายอยู่ ( เป็นแนวคิดที่ดีนะ ) หลังจากคิดเมนูกันเสร็จก็มาเปิดโรงเตี๊ยม กิจการเป็นไปอย่างราบรื่น สองต่อมาออกจะงง ๆ เลยเล่าไม่ได้ บทที่สอิบเก้าและยี่สิบออกท่องเที่ยวอีกครั้งราวกับลืมว่าเปิดโรงเตี๊ยม
สรุปคืออ่านแล้วงงมากเรื่องนี้ แต่เหห็นด้วยกับแนวคิดที่ให้ตัวละครออกกำลังกายนะ คำผิดก็เยอะมาก ที่สำคัญคือ ค่ะ คะ เจ้าค่ะ เจ้าคะ ซึ่งน่าจะเป็นคำผิดยอดฮิต
>>920 เองมาแก้และลงชื่อ
เรื่อง : ไลฟ์สไตล์เจ้าหญิงอัปลักษณ์ ( รอบสอง )
link : https://writer.dek-d.com/koko2476/writer/view.php?id=1547742
จำนวน : 27 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ
บทที่หก - บทที่สิบสี่ :
เริ่มด้วยเที่ยวเทศกาลโคมลอยต่อจากบทที่แล้ว พ่อไปหาที่บ้าน นางเอกถีบพ่อ มาอีกวันนางเอกจะออกเดินทางเพื่อไปฝึกเป็นแม่ทัพหญิง สามบทต่อจากนี้เป็นการเตรียมตัวก่อนออกเดินทางของนางเอก นางเอกเปิดร้านขายของตั้งชื่อร้านแปลก ๆ แม้แต่สาวใช้ยังรับไม่ได้ ( แปดบทนี้ จุดเด่นคือคำผิด บทที่เจ็ดถึงเก้าคิดว่านางเอกทำเกินไป ยังไงก็ไม่ควรถีบพ่อแบบนั้น บทที่สิบสองมีอโมติคอนหลุดมาซึ่งไม่เข้ากับยุคสมัยของนิยายอย่างมาก บทที่สิบสามมี 555 หลุดมาอันนี้คิดว่าเป็น ฮ่าๆๆ ดีกว่า )
บทที่สิบห้า - บทที่ยี่สิบ :
เริ่มด้วยคิดเมนูอาหาร ผ่านมาหลายบทแล้วนางเอกและะพลพรรคยังออกกำลังกายอยู่ ( เป็นแนวคิดที่ดีนะ ) หลังจากคิดเมนูกันเสร็จก็มาเปิดโรงเตี๊ยม กิจการเป็นไปอย่างราบรื่น สองบทต่อมาออกจะงง ๆ เลยเล่าไม่ได้ บทที่สิบเก้าและยี่สิบออกท่องเที่ยวอีกครั้งราวกับลืมว่าเปิดโรงเตี๊ยม
สรุปคืออ่านแล้วงงมากเรื่องนี้ แต่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ให้ตัวละครออกกำลังกายนะ คำผิดก็เยอะมาก ที่สำคัญคือ ค่ะ คะ เจ้าค่ะ เจ้าคะ ซึ่งน่าจะเป็นคำผิดยอดฮิต
ลงชื่อ โม่งหัดสับหมายเลข 27 เดี๋ยวไว้จะหานิยายมาสับอีกถ้าว่างจากแต่งของตัวเอง
>>923 บทแรก ๆ ยังไม่งงเท่าหลัง ๆ คิดว่าแรก ๆ วางบ้างแต่หลัง ๆ รีบเขียนไม่ได้วาง
KY กูไม่รู้อ่ะว่ามาถามห้องนี้ไหมเพิ่งเล่น5555 คือถ้าสมมติกูแต่งนิยายแนวจีนข้ามมิติ พวกมึงว่ามันจำเจไหม55 เท่าที่กูอ่านดูแนวที่กูจะแต่งเยอะมาก(กูแต่งเป็นแนวY) กูเลยลังเลว่าจะลงดีไหม...
เออ ไม่ยักกะสงสัยว่าได้ประโยชน์อะไรจากการเขียนนิยายเด็กดี
https://www.dek-d.com/board/view/3791055/
โม่งมึงไปเกรียนทำไม? สาระมันอยู่ตรงไหน?
มึงไม่แจ้งสนพหรือหน่วยคุ้มครองผู้บริโภควะ ตั้งกระทู้หาพ่องหรอ? ควาย
นิยายผมเคยโดนวิจารณ์ไปแล้ว ตอนนี้กำลังรีไรต์ใหม่อยู่ ถ้าเสร็จแล้วฝากวิจารณ์อีกรอบได้ไหมครับ?
https://www.dek-d.com/board/view/3791287/
นี่เรียกวิจารณ์เหรอวะ สำหรับกูมันคือการหาคำผิด มีช่วยแก้สำนวนบ้างนิดหน่อย นิดหน่อยจริง ๆ
ไม่รู้ว่ะ สำหรับกุพล็อตเนื้อเรื่องสำคัญกว่าสำนวนภาษานะ(แต่ก็ไม่ควรเหียกขนาดอ่านไม่รู้เรื่อง) กุว่าภาษามันเกลาได้ง่ายกว่าว่ะ ถ้าเนื้อเรื่องมันดีอยู่ล่ะ ค่อยๆมาอ่านใหม่แล้วแก้ก็ได้ แต่เนื้อเรื่องเหียกภาษาดีแค่ไหนก็ไม่ช่วยอ่ะ รีไรท์นี่ลำบากกว่าแก้ภาษาเยอะ แต่ถ้าเขาพอใจก็ โอเคล่ะนะ
ความจริงส่วนมากจะได้ช่วยตั้งแต่บทนำเลยฮะ หลายเรื่องมากที่เริ่มขึ้นมา พล็อต หรือโครงเรื่องย้อนแย้งกันเต็มไปหมด คาแรกเตอร์ตัวละคร
แต่ตรงนี้คือใช่ เหมาะสำหรับนักเขียนที่สนใจอยากรีไรท์มากกว่าจริงๆ มีเวลาว่างเลยจัดไป
บทนำนี่แหละจุดสำคัญ เปิดเรื่องยังไงให้น่าสนใจ บางคนพล็อตสนุก แต่มาตายที่บทนำ
ถูกบทนำสำคัญมากแหละ แต่สุดท้ายนิยายมันไม่จำเป็นต้องเพอเฟคทุกด้านเสมอไปหรอก (แต่ถ้าได้ก็ดี) แต่อย่างน้อยมันก็ควรมีด้านดี ดึงความสนใจกุมากพอที่จะมองข้ามจุดด้อยนิยาย ควรจะคุยกับตัวเองก่อนอ่ะอยากขายอะไรในนิยายแล้วเน้นด้านนั้นให้ดีไปเลย
พล็อต โครงเรื่อง และตัวละคร...
ต้องทำอะไรกับมันบ้างวะ
>>959 เอาตามที่กูเข้าใจนะ
พล็อต = กำหนดเหตุการณ์คร่าว ๆ เช่น ผู้กล้าต้องต่อสู้กับจอมมารที่เมืองหนึ่ง
โครงเรื่อง = เป็นการกำหนดเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในระหว่างนั้น หรือจะเรียกว่าทำให้พล็อตเกิดเป็นเรื่องราวก็ได้ เช่น ผู้กล้าต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์มากมายก่อนจะเจอจอมมาร ระหว่างนั้นคนในปาร์ตี้บาดเจ็บล้มตายไปหลายคน ซึ่งใครตายบ้าง ตายยังไง แล้วเรื่องราวจะดำเนินต่อไปยังไง
ตัวละคร = ตัวดำเนินเรื่อง ซึ่งสำคัญมากคือนิสัยตัวละคร เพราะนิสัยตัวละครตะเป็นตัวกำหนดแนวทางการดำเนินเรื่อง อย่างเช่นคนนิสัยใจร้อน อาจจะบุกไปเจอจอมมารโดยไม่วางแผนอะไรเลย คนนิสัยใจเย็น อาจจะทำอะไรรอบคอบหน่อย คนขี้เกียจ กะล่อน อาจจะหาทางพยายามบ่ายเบี่ยง คนขี้กลัว อาจจะทำอะไรติด ๆ ขัด ๆ ไม่กล้าเสี่ยง
จะหมดมู้ละ ไม่ใครจะสับเรื่องไหนเพิ่มอีกหรือเปล่าวะ
มีเรื่องขอให้ช่วยหน่อย พอดีว่าทำแพ๊คนิยายขายเป็นภาคย้อนอดีตแต่ทีมงานไม่ให้ผ่านบอกว่า "ให้ขายในช่วงตอนจบของเรื่อง"
ทั้งๆที่กุสรุปกับแก้ปมเฉพาะภาคนั้นไปแล้ว แล้วก็มีทิ้งท้ายเพื่อเปิดทางไปสู่เนื้อเรื่องหลัก กุแก้ไปสองรอบละ ยังย้ำแบบเดิม พอถามไปก็เงียบ
เลยอยากให้เพื่อนโม่งช่วยดูหน่อยว่าแบบนี้มันเป็นตอนจบไม่ได้หรอ
>>อันนี้สามประโยคท้ายตอนจบ
กาลเวลาเคลื่อนคล้อยเลื่อนไหลผ่านไป หนึ่งปี สิบปี ห้าสิบปี หนึ่งร้อยปี...
จนกระทั่งเด็กน้อยจากหมู่บ้านหาปลาเล็กๆได้พบเข้ากับหนังสือโทรมๆรุ่งริ่งเล่มหนึ่งซึ่งถูกคลื่นทะเลพัดมาเกยที่ชายหาด
แล้ววงล้อแห่งชะตากรรมครั้งใหม่ก็ได้เริ่มต้นหมุนขึ้นอีกครั้ง
ลิสต์นิยายที่กูจองไว้มีอะไรบ้างวะ จำได้แต่ Supreme เลื่อนขึ้นไปหาเจอแต่แจกันกับลูซิเฟอร์
ลงชื่อ เซฮุน หมดโปรหนึ่งแถมหนึ่งแล้ว
แปะกันลืม
https://writer.dek-d.com/bluesea25/story/view.php?id=880244 (Supreme ที่หนึ่งหมวดวิทย์)
https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523 (สาวใช้พันธุ์ดุ Maid-at-Arms ... ชื่อเรื่องเพราะดี)
https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849 (จอมราชันย์หลงยุค... ข้าขอคำชี้แนะ เตรียมรับมือ)
https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272 (Evolve ฟองเบียร์
Ky กูควรเฉลยที่มาของปมพระเอกในตอนบทนำหรือฟีดแบ็คย้อนหลังวะ คือปมนั้นกูก็บอกโต้งๆไว้ในเรื่องย่อแล้วนะ เพราะมันเป็นปมที่เป็นแก่นของเริ่องนะ ยกตัวอย่างหน่อยละกัน
เรื่อง ย่อ-ครอบครัวของ A ได้ถูกฆ่าล้างตระกูลด้วยฝีมือขององก์กรปริศนา A ที่เป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวและรู้เห็นเรื่องราวทุกอย่างในเหตุการณ์นั้นจึงตั้งมั่นว่าจะล้างแค้นให้ครอบครัว ด้วยการเข้าโรงเรียนเพื่อฝึกฝนฝีมือไขว้หาพลังจากสมบัติลับของโรงเรียนที่ผู้ชนะในงานประลองเวทประจำปีเท่านั้นจะได้รับ
เปิดบทนำด้วย เรืีองของพระเอกในอดีตครอบครัวถูกฆ่าล้างบาง แล้วตัวเองรอดมาได้เพราะยังเป็นเด็กตัวเล็ก 4-5 ขวบพ่อกับแม่เลยเอสตัวไปซ่อนในตู้ พระเอกเลยเห็นคนในบ้านถูกคนร้ายฆ่าตายต่อหน้าต่อตา
เริ่ม บท แรก คือฉากปัจจุบันที่พระเอกโตขึ้นและเป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนเวทมนตร์ แต่เปลี่ยนชื่อไปจากเดิม
บทสอง กล่าวถึงเหตุการในบทนำแบบผ่านๆ เป็นการย้ำเตือนว่าพระเอกยังยึดติดกับเรื่องนั้นและต้องการจะแก้แค้น แต่เพราะยังไม่แข็งแกร่งพอเลยต้องเปลี่ยนชื่อแล้วหลบมาอยู่กับญาติที่ต่างประเทศ
เรียงไทมไลน์แบบนี้ดีปะวะ
มีคำถาม
ถ้าขึ้นภาคใหม่ต้องเปลี่ยนคำโปรยไหม?
>>974 ขึ้นอยู่กับว่าภาคใหม่มึงเปลี่ยน Setting ไปขนาดไหน
บางเรื่องเวลาขึ้นภาคใหม่อาจจะแค่ Timeskip แต่ Setting เดิมก็ไม่ต้องเปลี่ยน
แต่บางเรื่องอย่างนิยายจีนที่กุเคยอ่านนี่ นี่ขึ้นภาคใหม่ = ไปผจญภัยที่ใหม่ แม่งต้องเปลี่ยนคำโปรยเลย คือเหมือนแค่ใช้พระเอกคนเดิม แต่เนื้อหาเป็นอีกโลกหนึ่งไปเลยอะ
ก็ตามที่ >>973 ว่านั่นแหละ กูแค่อยากรู้ว่าเปิดแบบนี้ดีไหม แต่ >>972 ถามก็ขออธิบายเพิ่มหน่อยเพื่อความเข้าใจ จุดเด่นคงอยู่ช่วงกลางๆระหว่างเดินเรื่อง เพราะพอรู้ว่าเป็นพล็อตโหล คนอ่านคงเดาตอนจบได้ส่วนใหญ่ แต่แบบจะค่อยๆเฉลยไปไงว่าทำไมองก์กรนั่นถึงมาฆ่าครอบครัว มีตัวละครที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทางใดทางหนึ่ง ความจริงเรื่องของสมบัติลับ ครอบครัวพระเอกมีความสำคัญยังไง คนในครอบครัวความจริงยังมีคนรอดอยู่แต่อาจพิการหรือความจำเสื่อมเลยจำกันไม่ได้คร่าว ๆ ประมาณนี้แหละ ตอนจบอาจจบแบบพระเอกล้างแค้นได้สำเร็จก็จริง แต่อาจมีจุดหักเหอื่น ๆ เช่น องก์กรนั่นยังมีสาขาหลงเหลืออยู่แต่เป็นคนละกลุ่มที่พระเอกล้างแค้นและไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับพระเอก ที่มาของสมบัติลับนั่นอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด
>>977 ก็นะ ถ้าจะให้พูดถึงบทเปิด กูก็คิดว่ามันธรรมดาอยู่ดี ขยายความเพิ่มว่า คือแนวนี้ถ้าจะเปิดเรื่องมันก็มีความโหลอยู่สองทาง คือเปิดมาด้วยเหตุการณ์ท่านพ่อถูกฆ่าในอดีตอย่างที่มึงว่า กับอีกทางหนึ่งคือเปิดมาโดยการให้พระเอกแสดงพฤติกรรมแปลกๆ แบบเย็นชา หรืออะไรอย่างนี้ และก็ค่อยไปคลายปมเอาทีหลังว่า ที่มันเย็นชาเพราะคิดจะล้างแค้นให้ท่านพ่อ
เรื่องแนวนี้โดยทั่วไปมันก็เปิดเรื่องกันประมาณนี้ล่ะ กูถึงบอกว่ามันธรรมดาทั่วไปไง ไอ้ที่มีคนมาชมว่าสุดยอดเนี่ย ออกจะเกินไปหน่อย
>>977 พล๊อตเปิดเรื่องโหลกุว่ายังโอ กุว่าโลกนี้พล๊อตมีไม่กี่แบบหรอก ท้ายสุดเรื่องทั้งหมดก็เกิดจากพระเอกต้องการทำไรสักอย่างแต่มีอุปสรรค ฉากเปิดที่มึงว่ามามันก็โอ แต่ที่สำคัญและจะให้เรื่องมึงโดดเด่นเปล่าคือการดำเนินเรื่อง ตัวละครเป็นไง สมเหตุสมผลเปล่า ระบบเวทมนต์ หักมุม หรือตัวร้ายมีเสน่ห์ขนาดไหน
โลกนี้มีพล็อตพื้นฐานราว 19-20 แบบ พล็อตเด็กดวกอย่างแนวโรงเรียนเวท เกมออนไลน์ ต่างโลกยุโรป จัดอยู่ในกลุ่มพล็อต Adventure (เสี่ยงตาย) หรือ Quest (การสำรวจ) แต่จีนโบราณในตอนนี้จัดอยู่กลุ่มพล็อต Love (รักโรแมนติก) หรือ Forbidden Love (รักต้องห้าม)
ปล.มีเป็น pdf แต่ไม่มีแปลไทย เก่าด้วย
>>982 กูสอนให้ ไม่อยากทำ hotlink เดี่ยวทางเว็บลบทิ้งแม่งอดดูเลย
1.เข้า google พิมพ์ 20 master plots pdf
2.มันอยู่หน้าแรก เข้าลิ้งก์ที่ขึ้นหัวว่า [PDF] และชื่อโดเมนคือ writerdigest (หนึ่งในเว็บสอนเขียนนิยายต่างประเทศ เชื่อถือว่าเว็บเด็กดี 100 เท่า)
3.อ่านเล่นหรือเซฟตามอัธยาศัย
>>985 อย่าลืม พล็อตพื้นฐาน 19-20 แบบเป็นแค่แนวทางเบื้องต้น มึงสามารถประยุกต์เนื้อเรื่องใหม่ได้ ตราบที่ยังอยู่บนพล็อตพื้นฐานแบบใดแบบหนึ่ง และที่กูบอกว่าเก่า เพราะเขียนขึ้นก่อนปี 2000 ตอนนั้นค่านิยมของตัวละครที่มีต่อเนื้อเรื่องอาจจะต่างจากตอนนี้ก็ได้ อย่างเมื่อก่อน ยึดค่านิยมผู้ชายต้องเข้มแข็ง ผู้หญิงควรอ่อนแอ แต่ปัจจุบันไม่จำเป็นแล้วก็ได้
ไหนๆแล้ว กูก็มีคู่มือสร้างตัวละครพื้นฐาน 45 แบบจากเว็บออนไลน์
หน้าแรก http://tvtropes.org/pmwiki/pmwiki.php/Literature/FortyFiveMasterCharacters?from=Main.MasterCharacters
พระเอก http://tvtropes.org/pmwiki/pmwiki.php/Literature/FortyFiveMasterCharacters-Heroes
นางเอก http://tvtropes.org/pmwiki/pmwiki.php/Literature/FortyFiveMasterCharacters-Heroines
ตัวประกอบ http://tvtropes.org/pmwiki/pmwiki.php/Literature/FortyFiveMasterCharacters-SupportCharacters
ที่มา https://www.amazon.com/45-Master-Characters-Creating-Original/dp/1599635348
ปล.การเขียนตัวละครสไตล์ญี่ปุ่น เกาหลี จีนอาจจะไม่ได้ยึดแนวทางนี้ เด็กดวกอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ
https://www.dek-d.com/board/view/3791248/ เห็นเมื่อวานมีคนเอาเฟสฝากนิยายมาแปะ เจอมู้ต้นเรื่องล่ะ
>>988 เอาตามตรง แบบนี้ไม่รุ่งหรอก เห็นได้ชัดว่าใครส่งนิยายอะไรมาก็โปรโมท คนกดไลค์ก็กระจึ๋งเดียว
ถ้าจะทำให้รุ่ง ต้องเปิดเพจ ทำคอนเทนต์ดีๆ ดึงดูดให้คนอ่านเข้ามาสนใจ เช่น สอนการเขียน สับนิยาย แล้วแทรกด้วยการแนะนำนิยาย เหมือนเพจหนังที่มีดังๆ อยู่หลายเพจอะ พอจะเห็นภาพไหม
ใกล้ครบ 1000 เม้นแล้ว เตรียมตั้งมู้ 12 เอาไว้แล้วยัง?
ไม่ลองแข่งมันด้วยทำเพจโม่งบน fb เลยล่ะ
มารเทาขยันโปรโมทแต่ไม่ขยันฝึกเขียนเพิ่มเติมเลย มันจะเอาดีแบบดอกปอบรึไง แต่ละอย่างที่ทำก็ไม่ค่อยจริงใจด้วย
ขอเลขสวยก่อนขึ้นมู้ใหม่
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.