Last posted
Total of 1000 posts
ชื่อเว็ปแบบนี้ แต่มี 18+ NC มันเหมือนห้องสมุดโรงเรียนมัธยมมีหนังสือปลุกใจเป่าวะ
GOT ก็เข้าค่าย NC นะ แต่เนื้อเรื่องมันเข้มข้นจนไม่ถือว่าเป็นผลงานน้ำกามแบบปล้ำๆ แบบนิยายไทย
กระทู้วิ่งไวดีแฮะ ไม่ถึงครึ่งเดือน ล่อไปครึ่งกระทู้แล้ว
เออ กุอ่านมู้ที่โม่งแปะเกี่ยวกับนิยายอีโร สงสัยว่าเด็กดี หรือวงการนักเขียนแอนตี้ธันวลัยหรอวะ มีเม้นบอกถ้าใครรู้ว่าเคยเขียนแนวอย่างว่าที่ธัล ต่อให้เรื่องอื่นเขียนดีก็เป็นตราบาป
>>514 กระแดะไปงั้นแหละ พูดยังกับนิยายเด็กดีนี่มันสูงส่งขนาดนั้น แค่ลงฉากเรทไม่ได้เฉยๆเอง
เดี๋ยวนี้เรื่องท็อปๆนี่นิยายรักขายป้าๆทั้งนั้น ในเว็บไม่มีnc แต่พอออกเล่มก็ncกระจุยกระจาย
ถ้าเทียบกับธัญวลัยก็แค่ธัญฯจะตรงประเด็นกว่า แต่ประเด็นที่ว่ามันก็เย็ดๆเหมือนกันน่ะแหละ
กูเพิ่งรู้ว่าบอร์ดเด็กดีมีเหยียดธันวลัยด้วย พอดีกูไม่ค่อยได้เข้าดูบอร์ดเลยไม่รู้เทรนด์เขา ของกูนี่แค่แอนตี้อุ๊คบีเพราะได้ยินว่าโกงเงินคนเอาหนังสือลงแอพเท่านั้นเอง ไม่ชอบแค่เพราะมันลงนิยายเรตได้เท่านั้นเหรอ? งั้นมันก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการลงไม่ใช่เหรอ? หรือต้องฝืนลง NC ในเด็กดีให้ถูกแบนวะ? กูว่าบอร์ดเด็กดีนี่เฮฮาดีว่ะ
กรุว่าเด็กดีไม่ได้แอนตี้ธันวลัยหรอก แค่มีพวกชอบเอาปัญหาในเว็บธันวลัยมาถามในเด็กดี ซึ่งแม่งเป็นคนละเว็ป แถมเป็นคู่แข่งอีก ดูยังไงก็ถามผิดที่ ถ้าพวกมาเฟียในบอร์ดจะเขม่นก็ไม่แปลกว่ะ
คนรู้จักกุคนหนึ่งลงแฟนตาซีไม่ nc ในธัลว่ะ แต่มันบอกว่าคนอ่านเยอะกว่าเด็กดี 555 ถึงยอดวิวจะเศษเสี้ยวของพวกสาย nc ก็เถอะ มันบอกว่าสงสัยผู้ใหญ่อ่านธัลวลัยเยอะกว่า
พูดถึงเรื่อง nc เดี๋ยวนี้เขายังฮิตใช้คำว่าแก่นกายอยู่หรือเปล่าวะ กรุอ่านเห็นคำนี้ทีไรขำทุกที
นิยายปัจจุบันของกูลงอยู่สองที่คือเด็กดีกับธัญ เวอร์ชั่นเดียวกัน ไม่มีNC ถ้าดูจากยอดวิวรวมแล้ว คนอ่านที่ธัญจะเยอะกว่า แต่มาดูตามวิวตอนแล้วคนอ่านที่เด็กดีเยอะกว่า อันนี้ไม่ได้จะว่าธัญแต่จะบอกว่าระบบนับวิวมันเฟ้อ
สำหรับตัวกูนะ ลงที่เด็กดีคนอ่านเยอะกว่า ติดตามเยอะกว่า แต่เมนต์เงียบมาก ลงที่ธัญคนอ่านน้อยกว่าเด็กดีเยอะ(ตรงจุดนี้กูทำใจไว้แล้ว เพราะของกูไม่มีNC) แต่เมนต์มาเว้ย เออ งงเหมือนกัน
https://www.dek-d.com/board/view/3788128/ <<<กระทู้หานิยาย
บางคนนี่แม่งก็แปลกเนอะ เขาเขียนเอาไว้แล้วว่า "ขอแค่เป็น ชxญ" แม่งยังเสือกถาม "เอาญxญไหม" กูเพลียแทนคนตั้งกระทู้555
ขอนอกเรื่อง พวกมึงรับได้มั้ย ตัวละครเทพเบียวซูไม่ใช่ตัวเอก
>>524 กุว่าพระเอกเบียวซูมันก็ไม่ได้เลวร้ายมาก ถ้ามันมีอย่างอื่นน่าสนใจ อย่างพวกเรื่องฮีโร่มันก็มีตัวร้ายเท่ๆ ซูไม่แพ้กันมันเลยโอ แต่ถ้าเป็นตัวร้ายซู กุว่ามันน่าเป็นตัวร้ายที่มีมิติบ้าง ไม่ใช่แบบละครไทยอ่ะ เอะอะก็กริ๊ด ต้องใช้มารยาแย่งผัวชาวบ้าน เลวร้ายสุดโต่งแบบหุ่นฟาง
เออ... ถ้าจะลงธันวลัยด้วย ลงเด็กดีไปด้วย กุควรจะจัดระเบียบการลงยังไงดีวะ?
ถ้าจำไม่ผิดธันวลัยมันเก็บเงิน ถ้ากุลงพร้อมเด็กดี เดี๋ยวแม่งจะกลายเป็นมันเข้ามาอ่านเด็กดีหมด
กูไม่เคยแอนตี้พระเอกเบียวพระเอกซูเลยนะ แค่อย่าเก่งจนหลุดจากตรรกะของเรื่องก็พอ
ชอบพระเอกซูมากกว่าพระเอกกากด้วยซ้ำ ถ้ามาแนวพระเอกกากนี่กว่ามันจะเก่งนี่ฝึกวิชายังกับนารุโตะ กูเบื่อฉากฝึกวิชา
ที่>>524 ถามกูชอบนะ เพราะมันจะทำให้ได้ลุ้นว่าพระเอกจะทำยังไงให้ล้มไอ้ตัวเบียวเทพซูนี่ได้ หรือถ้าไอ้ตัวเบียวซูนี่เป็นตัวละครผู้ช่วย พระเอกก็ต้องไชน์ออกมาให้เด่นกว่าไอ้ตัวนี้ ซึ่งก็น่าสนใจดีว่าคนเขียนจะทำยังไง
>>526 เราว่าคุณเข้าใจผิดนะ ในธัญวลัยเนี่ยมันเลือกได้ว่าตอนไหนจะขาย จะไม่ขาย จะลงให้อ่านฟรีตลอดเลยก็ได้ ส่วนเด็กดีก็มีให้ขายแต่มีข้อแม้ว่าต้องแต่งให้จบก่อน
เราแต่งลงทั้งสองที่ เราคิดว่าสองที่เนี่ยคนอ่านเขาแยกส่วนกัน ในเด็กดีเราลงนำหน้าในธวล.ไปเยอะมาก แต่คนอ่านที่ตามอ่านในธวล.ก็อ่านแค่ในธวล. ไม่ได้ไปตามในเด็กดีนะ
นิยายหรือการ์ตูนไมไ่ด้พังเพราะแย่ความซูเป็นหลักหรอก คือคนเขียนไม่เก่งพอเว้ย ไมไ่ด้ให้พระเอกชนะเพราะพระเอกฉลาด หรือ เก่งกว่าคนทั่วไป ส่วนใหญ่มักจะเขียนแบบตัวละครอื่นที่ไม่ใช่ตัวหลักนั้นดูโง่ ตัวร้ายโครตฉลาดในฉากอื่นกลับ iq ลดลงร้อยเปอเมื่อสู้พระเอก กับไอ้พวกรอดพ้นได้ทุกทีเพราะมีอะไรบันดาลให้รอด (TW ก็เข้าเค้านี้ คนสับตอนนั้นแม่งแม่นจริงว่ะ กลิ่นเบียวแกรี่มาเต็ม ลองไปอ่านตอนต่อไปเรื่อยๆ ก็เสต็บเดิมๆแหละ ในโลกนั้นนอกจากพระเอกกับจิ้งจอกคู่ใจคนอื่นนี่โง่หมด มีหน้าที่เพียงถูกพระเอกเตะกระเด็นเท่านั้น)
>>531 มึงอ่านมู้นี้แล้วจะเข้าใจ https://fanboi.ch/webnovel/4106/
มีคนสงสัยการตลาดนิยายเด็กดี
https://www.dek-d.com/board/view/3788216/
เงินบวกมันเป็นกบในกะลา
กุว่าลองเอานิยายในเด็กดีกุไปลงธัญวลัยด้วยดีกว่า แล้วเพิ่มตอน .5 NC ไว้เรียกยอด view
ky เพื่อนสนิทของกูคนนึงคิดจะเขียนนิยายหลายเรื่องพร้อมกันลงเว็บเด็กดี...กูควรจะห้ามหรือสนับสนุนมันดีวะ...
4000 คำเยอะเกินไปสำหรับหนึ่งตอนไหม? หรือต้องแบ่งออกเป็นตอนละ 2000 คำ
คนสับไปกินหมูกระทะละมั้ง
ปิ้งย่างอาหารทะเลก็น่ากินนะมึง
อย่าพูดเรื่องของกินดิ หิวแต่ไป 7-11 ไม่ได้ ฝนตก วกกลับเข้าเรื่องนิยายเหอะ
ฝนตกทั่วประเทศว่ะวันนี้
ความเห็น เซฮุน เรื่องนิยายติดท็อป
มึงต้องเข้าใจก่อนว่านิยายทุกเรื่องมี Learning Curve ถ้าไม่เข้าใจตรงนี้มึงก็ไม่เข้าใจคนอ่าน
Learning Curve ---> pay off (เรียนรู้ และ จะได้อะไร)
นิยายรัก มี LC ที่ไม่ชัน คนอ่านสามารถคุ้นชินกับมันง่าย คนเลยอ่านนิยายรัก (เดี๋ยวจะพูดถึง Pay off ทีหลัง)
พวกแมส กระแสติดท็อป มี LC เดิม คนอ่านไม่ต้องเรียนรู้อะไรใหม่ อ่านๆไปรอ Pay off อย่างเดียว
พวกนิยายแหวกแนวจะมี lc ที่ชันมาก ไม่ว่าจะ setting ประวัติต่างๆ บลาๆ
ต่อให้มึงเขียนเก่งแค่ไหน คนอ่านเขาคิดเสมอ ว่าเรียนรู้ไปได้อะไร เสียเวลาอ่านทำไม คุ้มไหม
ปรากฎการณ์ของปู่จอร์จ GoT เป็นตัวอย่างที่ดี เพราะ learning curve มันคล้ายกับ LotR และพวกนิยายแฟนตาซีสงคราม ไหนจะประวัติศาสตร์ต่างๆที่เป็นแรงบันดาลใจอีก คนอ่าน/ผู้ชมจะเข้าถึงได้ง่าย ส่วน pay off ของเรื่องไม่ต้องพูดถึง คุ้มค่ามาก
นิยายที่แย่คือ lc ชัน และ pay off ห่วย
นิยายติดท็อปมันไม่ต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มมาก อ่านๆไป pay off ห่วยก็ไม่แคร์
ลงชื่อ เซฮุน คหสต ยสตน กถพต ยลปล
เฮ้ยย กุไปเจอไอ้นี่ในพันทิพย์ว่ะ
นาน ๆ ทีจะเห็นแคมมี่มาตั้งกระทู้แบบนี้มั่งว่ะ ท่าทางเดือดจัด สงสัยนิยายที่ตามเอฟซีถูกก็อปละมั้ง
https://www.dek-d.com/board/view/3788325/
ปล.ในเด็กดีกูเห็นมาหลายเรื่องนะที่ลอกพล็อตนิยายแปลแบบแทบไม่ดัดแปลงมา อย่างเรื่องชาวบ้านกับโครงกระดูก
กุว่าโม่งต้องเปิดใจกับการตลาดนิยายตัวเองบ้างว่ะ เขียนดี สนุกขนาดไหนคนไม่รู้จักก็จบ ไม่มีใครปฏิเสธหรอกว่าลึกๆก็อยากดัง
กุมานั่งดูยอดคนอ่านในหมวดต่าง ๆ ...อืมจะว่าไงดีล่ะ
ถ้าเทียบกับจำนวนตอนแล้ว รู้สึกว่าหมวดแฟนตาซีคนอ่านต่อตอนแม่งน้อยมากเลยวุ้ย
พอลองเทียบงี้แล้ว กุรู้สึกอยากเลิกเขียนแนวแฟนตาซียังไงก็ไม่รู้ว่ะ
https://www.dek-d.com/board/view/3788493/
ถ้าเป็นกู กูขอตั้งชื่อใหม่ว่า "ตำนานรักแลนนิสเตอร์" หรือไม่ก็ "เพื่อนรักนักเ-็ด"
https://www.dek-d.com/board/view/3788469/
เอาเข้าไป -*-
ขอสับเรื่องนี้นะ https://writer.dek-d.com/Mizaukinaishi/story/view.php?id=1579292
มาสับละ
ชื่อเรื่อง - ปีศาจไฮเทค
คนแต่ง - Mizaukinaishi
สถานะปัจจุบัน - คาดว่าลงไห
เริ่มสับ
เท่าที่อ่านดูมา เราว่ายังบรรยายไม่ดีว่ะ ห้วนสุด ๆ แห้งเหมือนอยู่ในซาฮารา ขนาดนิยายวอนนาบีอย่างทูเวิด์ลของคนที่โม่งก็รู้ว่าใครยังควรค่าแก่การอ่านกว่าเยอะ บรรยาย(ที่แทบไม่มี) เอาไป1/5
คำผิด ปริศณา ต้องเป็น ปริศนา น่าตา ต้องเป็น หน้าตา เอาไป3/5
เปิดบทนำมายังไม่มีอะไรน่าดึงดูดใจ อย่างที่บอกไปว่าแห้งเหมือนซาฮารา โลกแต่ละโลกเป็นไงก็ยังไม่รู้ ตัวละครนี่ไม่ต้องหวังรู้แค่ว่าชื่อ ฟาร์ กับ อาร์ ก็...นะ สิ่งที่รู้อย่างเดียวก็คือ โลกปีศาจเนี่ย มันมีเทคโนโลยี แล้วไอ้ฟาร์กับอาร์ที่เป็นเจ้าชายปีศาจก็เปิดประตูเชื่อมโลกปีศาจกับโลกอื่น ๆ ไปเที่ยวโลกเทพ ก็โอเค ๆ พอถูไถไปได้
เนื้อเรื่อง เอาไป 3/5 น่าสนใจแต่คนเขียนฝีมือไม่ถึง อ่านแล้วคันไม้คันมืออยากยืมเรื่องมาแต่งใหม่เอง
การเปิดตัวบทนำ 2/5 ไม่ค่อยดึงดูดให้อยากอ่านต่อ
เดี๋ยวมาสับต่อ ตอนที่หนึ่ง หวังว่าคนเขียนน่าจะพัฒนาฝีมือขึ้นสักนิดนึงก็ยังดี
>>565 กูไม่เข้าใจ ดูยังไงแม้น้ำดรายแม่งก็ทะเลสาบชัดๆ มองยังไงเป็นแม่น้ำ
แต่รอบนี้ทำแผนที่สวยดี มีความพยายาม ถึงจะ hard sell ไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
4000 คำเยอะไป ลูกชิ้น 4 ลูกต้องกัด 4คำ เผื่อติดคอก็ 5 คำ ไม่ใช่กัด 4000 คำ
Fictionlog นี่ดีไหมวะ กูว่าจะลองลงนิยายที่อื่นนอกเว็บเด็กดี
KY หน่อย กูลองแต่งแนว NC ในธัญวัยดู รู้สึกขำตัวเองชิบหายเลย เขียนออกมาได้ไงวะเนี่ย
จูนิเบียว จูนิเบียวเต็มไปหมด
https://www.dek-d.com/board/view/3788644/
ดราม่าขิงๆ https://www.dek-d.com/board/view/3788673/
https://writer.dek-d.com/thenovar13srafzx/story/viewlongc.php?id=1690040&chapter=1
wtf is this ;-; กลับไปอ่านเรื่อง >>351 ต่อ
>>601
(ชิน) (พนักงาน) (God) (*o*)
ตู้ม วูบบบ ฟุบ ฟ้าววววววว ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม *ฝนดาวตก* 'หมับ'
https://writer.dek-d.com/thenovar13srafzx/story/viewlongc.php?id=1690040&chapter=7
อุ~อะ~อาา~อือ~ฮ่า~ หึหึหึหึ~
อุ..อะ..อ๊าาาา...(ลูบ)อืม~เอาละน่าาา~(แทง)โอ๊~
อะ..อือ~ฮ่าาา~รู้สึกดีจังเลยยย~
แฮ่ก..แฮ่ก..แฮ่ก..อุ...สุดยอด~เลยยย~เอาล่าา~ พอแค่นี้ละกัน
เรื่องเหี้ยไรวะ
KY ขอถามนอกเรื่องหน่อย
คือทั้งที่ล็อกหน้านิยายในเด็กดีแล้ว มันยังมีทางก็อปเอาไปได้อีกเหรอ แล้วมันมีทางแก้มั้ย หรืออยู่ที่ตัวเว็บอย่างเดียวเลย
https://www.dek-d.com/board/view/3788931/
เกรียนมาเกรียนกลับ ไม่โกง
โคตรอยากเห็นพี่เครื่องตบเกรียนเงินบวกจังๆสักครั้ง เห็นแซะกันหลายทีละ แต่แม่งยากตรงเวลาเงินบวกแสดงตรรกะพังแล้วพอโดนคนด่า มันก็หนีไปเลย ประหนึ่งขี้ทิ้งไว้กลางวงเสวนา ใครจะเหม็นก็เหม็นไป ส่วนกูเปิดตูดหนีละ
>>618 อ้อ คืออันนั้นกูรู้นะ กูก็มีไฟล์เวิร์ดเก็บตามปกตินั่นแหละ แต่ปัญหาคือนิยายกูหน้ามันเยอะไง หลายเรื่องด้วย พอภาพมันเสียทีมันเสียพร้อมกันหมดทุกเรื่องว่ะ บางทีไม่กี่เดือนภาพเสียหมดแล้ว ให้กูมาตามอัพภาพใหม่ทุกเรื่องไม่งั้นคนอ่านจะอ่านไม่ได้คือกูจะตายเอา กูเลยอัพ text ลงนั่นแหละ เน้นให้คนอ่านได้ไว้ก่อน อย่างอื่นมีปัญหาค่อยว่ากันอีกที
ลง ๆ ไปเหอะมึง จะไปทำเป็นภาพทำห่าไร ยุ่งยาก เรื่องมาก ถ้ามันจะก๊อป ให้แม่งก็อปไปเหอะ ไม่มีผลมากหรอก ใช้สมองโง่ ๆ ของมึงคิดเองว่าทำเป็นภาพกับแปะเป็นตัวอักษร ผลดีผลเสียมันต่างกันเยอะไหม ถ้าทำเป็นภาพ คนมันจะก๊อปซะอย่าง มึงคิดว่าจะรอดเหรอ ลองนึกดิว่าคนอ่านผ่านมือถือจะทำไง
ถ้าลงภาพ อย่าลืมลง watermark ด้วย
ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ แต่มึงคิดว่างานมึงจะมีใครก๊อบไปจริงเหรอ โถ พ่อยอดนักเขียนรางวัลโนเบล งานมึงไอเดียบรรเจิดถึงขนาดที่โดนก๊อบแล้วฉิบหายสะท้านสะเทือนวงการ?
แคร์ห่าอะไรกับการโดนก๊อบไปลงที่อื่น ถ้ามึงหาเจอก็ไปตามด่ามันก็ได้ มันไมไ่ด้เอาไปขายนี่
คือเขากำลังพูดกันดีๆ แม่งก็ต้องหาเรื่องเขา คือมึงไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องพูด หรือพูดดีๆก็ได้ ไม่ได้เสนอว่าต้องไปขี้หน้าบ้านมึง พอแรงมาโดนแรงกลับก็โมโห 555 บันเทิงฉิบหาย
คือกูกำลังคิดอยู่ว่าช่วงหลังๆ จะเปลี่ยนไปใช้ภาพดีหรือเปล่า จบเรื่องยังไงก็หาทางทำอีบุ๊คหรือส่งสนพ.อยู่แล้ว พูดเรื่องคนอ่านในแอพกูก็เพิ่งนึกได้ กูว่ากูลงเป็น text นั่นแหละ ให้คนอ่านได้ไว้ก่อน
แต่ถ้ากลัวโดนก็อบกูเห็นด้วยว่าใช้ภาพดีกว่า (แต่ถ้าคนมันอยากก็อบจริงๆ มันก็คงนั่งพิมพ์เป็นตัวอักษรเอาไม่ก็ใช้โปรแกรมแปลงภาพเอาล่ะนะ ถ้ามันแปลงภาษาไทยได้)
มึงจะด่ากันทำไม ถ้าเรื่องมึงเริ่มดัง จะทำpdf หรือภาพไว้ยืนยันเผื่อเป็นหลักฐานตอนโดนก๊อบก็เข้าท่านะ หลายปีมันมีดราม่ากรณีแบบนี้จริงๆนะ ขโมยเรื่องไปยื่นขายสนพ บางทีสนพขโมยพลอตมึงไปให้นักเขียนดังๆดัดแปลง กันไว้ดีกว่าแก้ว่ะตามความคิดกุ
สวัสดี เราคือคนเปิดประเด็นเอง ขอบคุณที่ช่วยกันแสดงความเห็นนะ แต่ขอค้านหน่อย
>>626 งานจะดีพอหรือไม่ดีพอ เราไม่ได้โฟกัสตรงนั้น เราโฟกัสที่การก็อป เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า นี่มันเรื่องลิขสิทธิ์นะ การจะรักษาสิทธิ์ของตัวเองนี่มันผิดแปลกตรงไหน
ไม่ได้เอาไปขายแล้วยังไงเหรอ? นั่นก็ผลงานที่เราเป็นคนสร้างสรรค์ขึ้นมารึเปล่า แล้วคนที่ไม่ใช่คนสร้างสรรค์ผลงานมีสิทธิ์อะไรเอางานคนอื่นไปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตอะ?
ช่วงนี้ทีมสับหายไปเลย แดกจิ้มจุ่มกันยังไม่เสร็จอีกเหรอวะ
ลงนิยายแฟนตาซีนอกกระแส ไหนดีวะ หรือจะไปลงเด็กดอกเหมือนเดิมดี แต่ก็กลัวไม่มีคนอ่าน
>>637 กูว่าถ้ามึงลงตอนไปเรื่อยๆ นักอ่านก็จะเข้ามาเรื่อยๆ นะ ลงถี่ๆ เรื่อยๆ ยอดเฟบมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกัน ยิ่งตอนเยอะเท่าไรนักอ่านจะยิ่งเข้ามาดูนิยายเยอะขึ้น เพียงแต่ถ้าหยุดลงหรือแต่งจบแล้วนิยายมึงไม่ใช่นิยายกระแสหน้านิยายก็จะเงียบไปเหมือนป่าช้าเลย คนเข้าเดือนละสองสามคน
ถ้านิยายตอนน้อยจบไวก็อาจต้องทำใจหน่อยว่าคนเข้าคงไม่เยอะ แต่ถ้ามึงมั่นใจว่าตอนมึงเยอะลงไปเรื่อยๆ เลย มีคนเข้ามาดูเรื่อยๆ นั่นแหละ เทียบกับเว็บอื่นซึ่งถ้านิยายมึงเป็นนอกกระแสสำหรับเว็บนั้นเหมือนกัน กูว่าเด็กดีจะป่าช้าน้อยกว่าเว็บอื่น มันเป็นเว็บที่คนเข้าดูค่อนข้างเยอะด้วย
เออ ว่างจัดเนอะ ไม่มีอะไรจะทำนะเอ็ง
https://www.dek-d.com/board/view/3788981/
>>640 แล้วกูจะบอกว่ากูไม่ใช่พวกชอบวิ่งควายว่ะ กูชอบลงเร่ื่องอินดี้ของกู ใครมาเชียร์ให้กูเปลี่ยนนางเอกกูยังไม่เปลี่ยนเลย เชียร์ให้วายกันกูก็ไม่เปลี่ยน กูแค่ลงติดต่อกันทุกวันตามที่กูทำได้ วันไหนกูอารมณ์ไม่ดีกูก็ไม่ลงเพราะกูชอบเขียนทุกวัน กูไม่เขียนทุกวันกูรู้สึกหงุดหงิด นี่คือกูวิ่งควาย?
ถ้ามึงบอกว่ามึงจะไปลงนิยายแบบ heavy weight มึงก็ลงไปได้ ไม่ต้องลงทุกวันเน้นเอาคุณภาพมันก็ได้ แต่มึงอย่าเรียกหายอดวิวเยอะเลย คนเห็นนิยายน้อย เห็นตอนนิยายมึงน้อยมันกลัวค้างมันจะเข้ามาอ่านเหรอ? เห็นมึงลงช้ามันก็กลัวค้าง มันเข้ามาอ่านเหรอ? มันเลือกอะไร รอตอนเยอะๆ ค่อยอ่านตู้มเดียวสิวะ ถ้ามึงบอกมึงลงช้า มึงเร็วเหมือนคนอื่นไม่ได้ ลงเร็วคือพวกไม่มีคุณภาพ เน้นเอาคนอ่าน มึงไปมุ่งขายสำนักพิมพ์อะไรของมึงดีกว่า หรือลงอีบุ๊คก็ได้ ลงเน็ตคือมึงต้องเร็วเพราะมันก็แข่งกันเยอะแยะด้วย ลงแป้บเดียวนิยายมึงโดนกลบ คนอ่านไม่เห็นนิยายมึง คนอ่านชอบตอนเยอะๆ ด้วย ตอนน้อยมันอ่านค้าง มึงช้าคือมึงเสร็จพวกปลาเล็กที่เน้นตอดทั้งนั้นแหละ คือลงเร็วกับลงช้ามันมีข้อดีข้อเสียต่างกันวะ
ถ้ามึงไม่มีช่องทางโปรโมทนิยายที่ลงไม่บ่อยของของมึง คนอ่านเห็นน้อยแล้วมันจะมีคนรู้เหรอว่ามึงแต่งนิยายอยู่ คือใช่ ใช้เวลาเขียนน้อยเวลาให้พิจารณาเปลี่ยนแก้อะไรก็มีน้อย อาจไม่ดีเท่านิยายที่ค่อยๆ เลียดๆ เขียน ถ้ามึงแต่งตอนน้อย ลงช้า แล้วมึงไม่โปรโมท มึงก็มีแต่รอความหวังอย่างเดียวว่านักอ่านแสนน่าภาคภูมิใจของมึงจะช่วยเอาเรื่องของมึงไปโปรโมทเพื่อนมันให้ ถ้ามึงมีนักอ่านดีมันก็ไปชวนเพื่อนมาอ่านนิยายมึง แต่ถ้านักอ่านไม่ทำแบบนั้น มึงจะหวังอะไรมากว่าจะมีคนผ่านมาเห็นนิยายมึง คือมึง นักอ่านแม่งไม่ได้ดูชื่อนิยายแล้วตรัสรู้ว่าเร่ืองนี้ตรงแก็บมันหรือเปล่า บางคนเห็นเรื่องอินดี้หน่อยเดาทางไม่ออก อ่านไปตอนแรกๆ กดผ่านก็มีว่ะ มึงจะบอกว่ามึงแค่เขียนดี ใช้เวลานานแค่ไหนก็ได้ จากนั้นพระเจ้าจะประทานนักอ่านมาให้มึงทันทีแบบถล่มทลาย โลกแม่งไม่ได้ใจดีขนาดนั้นว่ะ
>>637 ลงไปสามตอน 5 เมนต์ แต่กูไม่รีบเพราะเขียนนามปากกาอื่นด้วยอะ ยอดแฟนยอดวิวเท่าไรเท่านั้น มึงก็ลงๆ ไปเถอะ ในทะเลกว้างใหญ่มึงได้แหวกว่ายไปเจอฝูงแมงกระพรุนสักสองสามตัวก็ถือว่าดีละนะ 555
>>639 กูกรุ๊ปโอ ตรงอยู่นะ เขียนไม่ให้คนหมดความศรัทธาในชีวิต พระเอกนิยายเรื่องนึงของกู อยู่ในยุทธภพได้โดยไม่ต้องฆ่าคนแม้สักคนเดียว
>>632 งงอะไร ถ้างานมึงไม่ดี หรือไม่ถูกใจชาวบ้าน เขาก็ไม่ก๊อบของมึงไง เพราะฉะนั้นจะป้องกันทำไม
มีใครเอาขยะเก็บไว้ในตู้เซฟเพราะกลัวคนขโมยบ้างวะ โอเค วันดีคืนดีคนเก็บของเก่าอาจมาเอาของมึงไป แต่มันจำเป็นเร่งด่วนขนาดนั้นที่ต้องป้องกัน?
พูดอีกเรื่อง เหมือนมีคนบอกไปแล้ว ถ้ามึงอัพเป็นรูป นักอ่านที่อ่านในมือถือจะลำบากนะ มึงจะเสียลูกค้าไปง่ายๆเลย
>>644 เราโดนก็อปไปแล้ว เราถึงมาถาม ก็สถานการณ์ประมาณวัวหายล้อมคอกนั่นแหละ
ส่วนเรื่องลงเป็นรูป เราคงไม่ทำ
เราเข้ามาถามเพราะอยากรู้วิธีรับมือหรือแก้ปัญหาล่วงหน้า ตัวเราเองไม่มีความรู้เรื่องโค้ดเลย เราก็เลยสงสัยว่าการที่โดนก็อปไปได้มันเป็นเพราะอะไร ตอนนี้รู้แล้ว ขอบคุณมากค่ะ
ตอนนี้กูหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการเขียนดองไว้หลายๆตอน แล้วค่อยปล่อยลงโดยทิ้งช่วงเล็กๆน้อยๆ มันมีข้อเสียของมันอยู่ แต่ก็เป็นทางเดียวที่นึกออกสำหรับนิยายลงเน็ตเน้นคุณภาพนะ...
>>641 >>642 มึงจะร้อนตัวไปไหน กูเคยบอกเรอะว่ากูเขียน?
กูบอกแค่อยากอยู่ท็อปประจำหมวดต้องรักษาตำแหน่ง ถ้าไม่ซีเรียสก็ไม่ว่า อย่างที่มึงพูด ถ้าอัพตอนใหม่ๆไม่ได้ก็ตกกระป๋อง นั้นนะคือการวิ่งควาย ถ้ามึงยังอวดรู้ก็เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ กูไม่มีเหตุผลจะมาแข่งนิยายของมึง เพราะกูทำงานหาเงิน ไม่ว่างเขียนนิยายหรอกเฟ้ย
ไม่ได้เขียนแนวกระแสก็อดทนหน่อย ไม่จำเป็นต้องลงถี่ๆทุกวันแค่ลงสม่ำเสมอแต่มีเหตุให้หยุดเขียนก็แจ้งนักอ่าน โฆษณาบ้างแต่อย่าบ่อยจนคนรำคาญ ที่สำคัญคือเนื้อหาต้องสนุก ยังไงก็มีคนอ่าน กุเขียนลงหมวดแฟนตาซีอยู่ปีครึ่งกว่าจะได้แฟนคลับและยอดวิวพอสมควรน่ะนะ
>>647 กูโกรธเพราะมึงด่าว่ากูวิ่งควายนั่นแหละสัส คือกูถนัดเขียนเร็วอย่างนี้ กูถามมึงทำไมกูต้องเขียนช้าในเมื่อกูเขียนเร็วได้ แล้วนั่นคือกูเขียนเต็มความสามารถกู กูเอาคุณภาพกูพร้อมความเร็วแบบนี้ได้ กูเขียนเร็วคือกูยังรักษาอารมณ์กูไว้ได้ไม่ให้มันหายไป แล้วกูจะเขียนช้าเพื่อ? เขียนเร็วแล้วกูวิ่งควาย กูต้องเขียนช้าเหมือนคนอื่นถึงจะไม่วิ่งควาย? ไอ้สัส
คือไม่ใช่ทุกคนเปล่าวะที่ถนัดเขียนช้ารักษาคุณภาพ กูเป็นพวกความคิดเร็วอะไรเร็ว ถ้าบอกว่านิยายกูมีข้อเสียอะไรบอกข้อเสียกูมาตรงๆ ให้กูแก้เลยดีกว่าไม่ใช่มาด่าว่ากูเขียนช้าแล้วกูชุ่ย กูว่ากูสนุกกับการเขียนเร็วแบบนี้นะ ได้อารมณ์กว่า มึงเอาอะไรวัดว่าเขียนเร็วแล้วคุณภาพนิยายแย่วะ?
ถ้าบอกว่าเขียนเร็วแล้วข้อมูลไม่แน่น ขอโทษ ถ้ากูจะเขียนเร่ื่องที่เน้นประวัติศาสตร์หรือข้อมูลจริงๆ กูไม่หยิบมาเขียนก่อนที่กูจะศึกษาข้อมูลมันให้ดีก่อนหรอก กูมีมันอยู่ในหัวอยู่แล้ว จะหาข้อมูลเสริมระหว่างตอนเล็กๆ น้อยๆ งั้นเหรอ? กูเกิลหรือถ้าจะให้แม่นจริงๆ เข้าฐานข้อมูลก็ได้ไป ถ้ากูจะเขียนเรื่องที่มันเน้นประวัติศาสตร์นะ หรือคือต้องให้กูหยุดเขียนเพื่อไปห้องสมุด? นั่งทำงานในห้องสมุดเลยง่ายดีเนอะ แต่กูไม่ได้แต่งแนวประวัติศาสตร์ว่ะ กูเอามาเสริมให้มันดูสมจริงขึ้นเท่านั้น
>>653 กูโดนสับมานะ นิยายอยู่ในนี้ด้วย กูยอมรับว่าตอนแรกกูโกรธ แต่กูไม่ได้ด่าว่ะ กูถือว่ามันเป็นบทเรียน กูยอมรับกูอารมณ์ร้อน บางเรื่องกูเข้าใจและพยายามเก็บอารมณ์กู แต่คราวนี้หรือกูรู้สึกไปเองวะว่าก่อนหน้านี้มึงพูดจิกกัดกูเรื่องวิธีการเขียนของกูมันผิด เขียนเร็วคือผิด? แล้วจะให้กูทำยังไง? ยอมรับมึงเหรอ?
เออ เอาเป็นว่าถ้ากูเข้าใจผิดกูขอโทษ กูแค่รู้สึกว่ากูพูดถึงเรื่องการเพิ่มยอดวิวเฉยๆ ว่ามันต้องเน้นลงเร็ว ไม่งั้นคนมันไม่เห็น กูไม่ได้จะพูดประเด็นลงแบบมีคุณภาพเลย แต่มึงสวนกูขึ้นมาอีกเรื่องกูก็คงใจร้อนไปหน่อยและคิดไปเองว่ามึงหาเรื่องกูด่ากูว่าลงเร็วไม่มีคุณภาพ กูขอโทษแล้วกันที่ชวนทะเลาะ
เขียนดีแล้วมึงต้องทำการตลาดบ้างแบบสีเทา กับการจัดหน้าลงนิยายสวย ซึ่งจุดนี้มึงเรียนรู้จากมันได้ (มึงไม่ต้องเลียนแบบมัน แค่มาดัดแปลงมาในแบบของมึงก็พอ ) ไอ้เพจดรปอบ 2 นี่มึงล้อๆกันอ่ะคนก็ทยอยไลค์เฟสมันเรื่อยๆจะแซงไอ้เฟสไอ้สีเทาแล้วด้วย
กูไม่รู้ กูมารออ่านสับ
>>659 คำว่าอย่าตัดสินหนังสือจากหน้าปกมันใช้ไม่ได้แล้วในยุคที่คนมองอะไรจากภายนอกก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าจะล่อให้คนอ่านเรื่องของมึงได้ พื้นฐานอย่างแรกสุดคือหน้าปกต้องดึงดูด แต่ไม่ใช่ใส่กลิตเตอร์วิ้งๆ ใส่ภาพประกอบสีแสบตา หรือติดเพลงออโต้ไว้หน้านิยายนะ อันนั้นรกชิบหาย
>>659 อย่าดูถูกการตกแต่ง กูได้ทดลองแล้ว ตอนที่กูแต่งหน้านิยาย ใส่ธีม ในรูป ในตัวละคร แปะแบรนเนอร์สวย ๆ เปลี่ยนเคอร์เซอร์ คนแม่งเข้าเยอะกว่าตอนที่กูทำหน้านิยายโล่ง ๆ ไม่มีเหี้ยอะไรเลย
(แต่ตอนนี้กูไม่ได้แต่งหน้านิยายแล้ว รู้สึกไปด่าป้าคนนึงไว้เยอะเกี่ยวกับการแต่งหน้านิยาย เลยไม่อยากทำตาม ถถถถ)
การตลาดเป็นเหมือนดาบสองคมนะ ทำดีคนอาจจะทะลักเข้ามาเยอะตอนแรก แต่ถ้าเรื่องไม่ดีจริง ยอดจะลดฮวบๆ สำหรับนักเขียนหลายคนกุว่ายอดคนอ่านลดฮวบๆ นี่เจ็บปวดกว่าคนอ่านน้อยแต่ยอดคงที่
659 นะ
เราใส่เป็นแต่รูป ถถถ
อีกอย่างปกติอ่านในโทรศัพท์ไม่เคยเห็นธีมเลยนึกว่าไม่ค่อยเกี่ยวน่ะ
เดี๋ยวจะลองหารูปใส่ในแต่ละตอนล่ะกันนะ
เขียนผิด เดี๋ยวจะลองวาดรูปใส่ก็แล้วกันนะ
ขยะวรรณกรรมคืออัลไล
https://www.dek-d.com/board/view/3789127/
ky กลุ้มใจว่ะ เขาแนะนำให้กุเขียนนิยายลงเน็ตแค่ตอนละ 3-5 หน้า แต่กุชอบยิงยาวไป 8-12 หน้าทุกทีเลย
เรื่องเขียนเร็ว กูยังเคืองคนในบอร์ดคนนึงพูดว่าคนเขียนเร็วน่าอิจฉา เพราะไม่มีงานมีการทำล่ะมั้ง เขียนเร็วอาจรักษาคุณภาพเรื่องคำผิดหรือสำนวนแปลกๆหลุดลอดมาไมไ่ด้ แต่มันก็เกลาทีหลังได้รึเปล่าวะ ที่กูงงกว่าคือพวกนิยายติดท๊อป อัพทุกวันแต่คอมเม้นต์น้อยสวนทางกับยอดวิวมากกว่า ยิ่งจำนวนตอนเยอะก็ยิ่งสวนทางชัดเจนเหมือนปั่นวิวมา นิยายตอนนี้แม่งย้อนแย้งไปหมด ขนาดตีพิมพ์ยังรับประกันไมไ่ด้เลยว่าเป็นนิยายดีหรือนิยายสนุก บางเรื่องกูยังงงว่ามันผ่านเข้าไปได้ยังไง เรื่องก๊อปคนอื่นมาพอผ่านก็เอามาเกลาใหม่งี้เหรอ
>>679 ไอ้เหี้ยยยยย มึงดูคำตอบไอ้ถุย วิธีการหวงลูกสาวแบบไม่หัวโบราณ คือให้ใส่ Chastity belt (ใครไม่รู้จัก เรียกง่ายๆว่ากางเกงในแบบมีล๊อก ต้องไขกุญแจหรือใส่รหัสถึงจะไขออกมาเย็ดได้)
อันนี้คือไม่หัวโบราณ ไม่หัวโบราณพ่อมึงดิสัส นี่แม่งคือนวัตกรรมยุคกลางชัดๆ ไอ้เหี้ย
โอเค กูไปดูผิดที่ คือเท่าที่ดูมันเป็นกางเกงในเหล็กไง มีรูเอาไว้ให้ฉี่หรือถ่ายออกเท่านั้น แล้วก็จะมีล็อคกุญแจเอาไว้ทำให้ถ้าไม่มีกุญแจก็ปลดไม่ออก แล้วไอ้ตรงรูที่ว่าเนี่ยมันก็เล็กเกินกว่ามันจะสอดไอ้อย่างว่าเข้าไป ไม่ก็ทำแง่งให้มันแหลมออกไปด้านนอก คือต่อให้มีรูแต่มีใครที่ไหนคิดจะสอดผ่านมันเข้าไปหรือเปล่าวะ?
ทำไมคำตอบพี่แกแลดูกามๆ หรือเราคิดไปเอง
มึงคิดเองสัส เรื่องเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์แบบนี้จะให้กูพูดภาษาดอกไม้กูพูดไม่ถูกว่ะ คือมันเป็นกางเกงในพรหมจรรย์อ่ะ แล้วดูรูปร่างของมันกูก็ลองพูดดูตามที่กูคิด เพราะถ้าดูจากไอ้ลิงค์ข้อมูลด้านล่างที่กูยกมามันก็ไม่มีพูดเรื่องวิธีการใส่ให้มึงเข้าใจ คือมึงเข้าใจไหมว่าเรื่องแบบนี้มันพูดเป็นภาษาดอกไม้ยาก
แต่พวกวิธีใช้อะไรก็ตามด้านล่างนี้ เขาบอกพวกกางเกงในพรหมจรรย์นี่มันเป็นเหล็ก มันจะมีแหลมๆ อยู่ ต่อให้ไม่ร่วมประเวณีกันเหล็กมันก็เสียดสีดอกไม้หรือกระบอกฉีดน้ำของมึงได้ แล้วกางเกงในมันใส่ได้ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชาย ถ้ามึงถามวิธีการใส่แบบชัดเจน มึงลองจินตนาการจากรูปลักษณ์ของมันดู
https://th.wikipedia.org/wiki/เข็มขัดพรหมจรรย์
https://www.spokedark.tv/articles/chastity-belts/
หรือกูควรพูดแบบเถื่อนๆ ไปเลยไม่ต้องเลี่ยงพูดให้มันดูกามแบบเกินเหตุวะ? คือมึงจะเยดกันมึงก็ต้องยัดควยใส่กันใช่ปะ? คือไม่ใช่แค่มึงจับนมเลียอะไรกันแล้วคือมึงเยดกันแล้วนะเว้ย ไอ้เข็มขัดนี่มันก็คือตัวช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ยัดควยใส่ช่องหีของผู้หญิงมึงนั่นแหละ แล้วเข็มขัดมันก็จะมีช่องที่เล็กกว่าควยไง หรือบางทีก็มีหนามแหลมอยู่รอบๆ ช่องกางเกงเหล็กของมึงเรียงตัวกันสวยงามให้แง่งแหลมมันออกมาด้านนอก ยัดเข้าไปสิควยมึงได้แหกกันพอดี
บางที่เขาบอกใส่กันตอนช่วงสงครามครูเสดเพื่อที่ห่างกันทั้งหญิงชายจะได้ไม่มีเพศสัมพันธ์กัน แต่วิกิบอกมันอาจจะเริ่มต้นมีตั้งแต่ยุคหลังจากนั้นกูก็ไม่รู้วะ ส่วนปัจจุบัน...คงไม่ต้องพูดใช่ไหม? มันคือเซ็กส์ทอยว่ะ
การใส่เท่าที่ดูก็คือเหมือนเข็มขัด เอาสองส่วนมาทับกันแล้วล็อคกุญแจ หรือมึงอยากรู้แค่นี้แต่กูอธิบายเกินไปวะ? งั้นกูขอโทษ
อันนี้รูปกางเกงตอนแผ่ ไปจินตนาการที่อยากรู้กันเอาเอง
ไอ้ถุยแม่งหื่นกว่าไพฑูรย์ ธัญญาที่ดราม่าเมื่อวานซืนซะอีก
ไม่มีใครสับนิยายกันแล้วหรอ
ไอ้ถุยเขียนไซไฟจริงๆหรอวะเนี่ย
นิยายยอดวิวเยอะก็นิยายกระแส ซึ่งมันก็คล้ายๆ กัน ในเมื่อมีให้อ่านฟรีจะเสียเงินซื้อทำไม เรื่องไหนเปลืองเงินก็เลิกอ่าน ไปหาอ่านเรื่องที่คล้ายกันแทนดีกว่า >>> คนอ่านคงคิดแบบนี้มั้ง
ถ้ากุเขียนแนวแฟนตาซีที่เล็งกลุ่มวัยรุ่นค่อนโต ไม่ก็วัยผู้ใหญ่ไปเลยคิดว่าจะขายได้หรือเปล่า
ชิบหาย... ทำไมช่วงนี้ในหัวกุมันคิดอยากจะเลิกเขียนนิยายบ่อยจังวะเนี่ย
หรือว่าเพราะกุแก่แล้ว... หรือว่ากุรู้สึกเขียนไปก็ไม่สนุกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
แม่งเถอะ ถ้าเลิกนี่งานอดิเรกกุก็เหลือแต่ตีดอทสิวะแบบนี้
ถ้ามึงสบายใจที่จะเขียนก็เขียนเถอะ ตลาดไทยตอนนี้ไม่เอื้อนักเขียนที่ตั้งใจๆจริงๆว่ะ
ถ้าคาดหวังชื่อเสียงยาวๆ มึงคาดหวังงานเขียนซีไรต์ดีกว่า ไม่ต้องง้อนักอ่านเด็กดีหรอก คนอวยงานซีไรต์บางคนไม่เคยงานพรรคนี้ด้วยซ้พ
ถ้ามึงอยากเขียนซีไรต์ เลิกคิดถึงแฟนตาซีร่วมสมัยไปเลย ไม่อินดี้จ๋าแบบอ่านไม่รู้เรื่อง สูงส่ง ก็แนวละครไทยป้าๆ เคยมีคนบอกกุซีไรต์ไมไ่ด้วิเศษหรอก เขามีรสนิยมของเขาอยู่แล้ว แค่เขาไม่บอก
กุ >>705 นะ
คือกุถนัดแนวแฟนตาซีน่ะ แต่ก็อย่างที่รู้กัน... แม่งขายไม่ได้ในไทย
ทุกวันนี้ที่ทนทำได้เพราะเห็นว่าเป็นงานอดิเรกที่ใช้ฆ่าเวลาตอนว่างในที่ทำงาน แต่... รู้สึกช่วงหลัง ๆ ยิ่งทำกุยิ่งคิดมากว่ะ
คิดว่าไอ้แนวแบบนี้จะมีคนอ่านมั้ย? คิดว่าอนาคตมันจะมีมั้ย? คิดว่าคุ้มมั้ยที่จะเอาเวลาว่างมาใช้แบบนี้? คิดว่าไอ้ที่ทำอยู่นี่มันมีค่าพอจนกุต้องมาจัดระเบียบตัวเองนั่งเขียนทุกวันรึเปล่า?
แม่งพอคิดมากแบบนี้แล้วก็ทำเอาอยากเลิกเขียนแล้วปล่อยตัวตามสบายชะมัด
>>710 มึงต้องถามตัวเองอ่ะ มีความสุขกับการเขียนเปล่า เขียนเพราะอะไร บางทีมึงไม่ต้องอัพเดททุกวันก็ได้ บางคนนี่ไม่เขียนนอนไม่หลับเพราะพล็อตเล่นไปมาในหัว เรื่องของกุนี่ลงไปมีคนมาโหเลย ไม่คิดว่าจะเรื่องแนวนี้ในเน็ตด้วยเหมือนได้อ่านแฟนตาซีสมัยรุ่งๆเลย แต่ยอดวิวค่อยๆมาเรื่อยๆ ส่วนตัวกุคิดว่ากุพยายามให้ดีที่สุดว่ะ อาจจะมีฝันเฟื่องว่าตัวเองจะเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูแฟนตาซีของไทย
>>710 ไม่ได้ดราม่านะ แต่สรุปว่ามึงห่วงว่าจะไม่มีคนอ่านว่างั้นเหอะ
คือ ถ้ามึงคิดแบบนั้นจริงๆ กุว่ามึงชิงเลิกไปตอนนี้เลยดีกว่า ถ้าทนแต่งนานไปจะเจ็บใจกว่าเดิม
นี่กุไม่ได้ประชดนะ คือ ที่กุแนะนำมันมีผลดีหลายส่วน คืออย่างที่บอกไปแล้วว่ามึงจะไม่เหนื่อยมากไป และไอ้นักอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องของมึงเค้าจะได้ไม่ค้างหนัก อย่างพวกแต่งนิยายจนจะจบมิจบแหล่อยู่แล้วบอกหมดไฟเลิกแต่งเงี้ย อิเชี่ย!! ที่กุทนอ่านทุ่มใจไปนี่คือ เพื่อ..? เพื่อให้อีนักเขียนมาบอกว่าคนอ่านน้อยเลยเลิกแต่งเหรอ แล้วถ้ากุไปเกณฑ์คนมาเพิ่มวิวให้แล้วมันจะกลับมาเขียนต่อเหรอ
โอย ยิ่งพูดยิ่งเจ็บ วงการนี้ไม่ได้มีมึงคนเดียวหรอกที่เซ็ง
>>711 ความเห็นเมิงให้กำลังใจกุดีว่ะ บางทีกุอาจคิดมากไปก็ได้
>>712 กุอยากเลิกนะ... แต่กุเขียนมาสิบกว่าปีแล้วเนี่ยสิ กุเขียนมาตั้งแต่กุยังหมอยไม่ขึ้น จนตอนนี้หัวกุหงอกหมดและ คือแม่งกลายเป็นชีวิตประจำวันกุไปแล้วและกุก็ชอบเขียน แต่ตอนนี้ติดปัญหาคือกระแสตลาดอย่างที่ว่าว่ะ ยิ่งพูดยิ่งเซ็ง ยิ่งคิดมาก
>>713 เออ... กุก็ว่ากุควรวางปากกาซักอาทิตย์นึงว่ะ
คำโปรยก็มีเเต่ต่างโลกๆๆ
กูเลิกเขียนตั้งนานแล้ว การตลาดนิยายไทยพังพินาศตั้งแต่ยุคบารามอสกับเซวีน่าแล้วล่ะ
ขอนิยายเเนะนำหน่อยดิไม่ต่างโลกไม่
เออ กูแต่งเร็วไม่ได้ กว่าจะเขียนอะไรออกมาได้ซักอย่าง แต่ทีนี้กูก็อยากมีคนตามบ้างไง แต่ก็กังวลอีกว่าจะเขียนออกมาบ่อยๆติดต่อกันไม่ไหวนี่สิ...
กูเบื่ออออ
ท็อป20มีเเต่ฮาเร็มต่างโลก
>>725 งั้นมึงอ่านคร่าวๆละกัน ถ้าอยากอ่านก็เตรียม dict พร้อมเลย https://www.asiabooks.com/assassin-s-creed-the-secret-crusade-6869.html?___store=asia_books_th&___from_store=asia_books_en
มึงเซฮุนใช่มั้ย
https://www.dek-d.com/board/view/3789504/
ไม่มีใครสับนิยายเลยหรอ
มึงคิดยังไงกับที่1หมวดแฟนตาซีปัจจุบัน
>>734 ลืมแปะลิงค์... ไอ้ที่ 1 หมวดแฟนตาซีที่ว่าหมายถึงเรื่องนี้ใช่มั้ย https://writer.dek-d.com/naturecrowns/story/view.php?id=1685517
เดี๋ยวแม่งเข้าใจผิดกัน
คิดว่าจะได้ตีพิมพ์ไหมนิยายทรงนี้
>>735 ไม่รู้ว่าจำถูกหรือเปล่านะ ว่าคนนี้ได้โดเนทตอนละพัน แต่คงเขียนเป็นอาชีพจริงๆแหละ กับอีกคน https://my.dek-d.com/sinmahat51/writer/
ลงเหรียญเรื่องไหนของแกก็ขายดีหมด
>>735 พอเข้าไปอ่านจริงๆก็ไม่เลวนะ คนเขียนดูมีประสบการณ์ด้วยซ้ำ แต่ตอนกุเห็นคำว่าโลกสวยแม่งความน่าอ่านน้อยลงไปเลย
มึงจะเขียนนิยายดาร์คโคตรพ่อโคตรแม่ดาร์คมึงก็เขียนไปดิ บอกให้คนอ่านใช้วิจารณญานมึงก็บอกไป แต่แม่งเล่นจั่วหัวไปแบบนี้ทำให้ first impression นิยายมันดูจูนิเบียวมาก อย่างน้อยก็ในสายตากุนะ
>>731 เราไง ขอลองสับเรื่องนี้นะ ใครอยากช่วยสับช่วยได้เลย สับเพราะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจแต่งแนวนางเอกอยู่ในตำหนักเย็นเหมือนกัน ถ้ามีแฟนคลับในนี้อย่าว่าเรานะ
เรื่อง : เจิ้งฝูสื่อ จอมนางตำหนักเย็น
link : https://writer.dek-d.com/inin17305/story/view.php?id=1672006
จำนวน : 24 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ
การเขียน หลังจากย้อนอ่านทั้งเรื่องมาราว ๆ สิบรอบสรุปได้ว่าภาษาดี แต่ใช้คำฟุ่มเฟือยไป มีคำผิดประปราย เคยข้อความลับไปคุยกับผู้แต่งแต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ ถ้าลดคำฟุ่มเฟือยได้ก็เป็นนิยายที่เนื้อหาสนุกเรื่องหนึ่งในหมวดอดีต ปัจจุบัน อนาคต เลยล่ะ คะแนน 7 / 10
บทเรก ( รีไรท์แล้ว ) - บทที่ห้า :
บทแรก : พิชชาพรนักศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ไทยย้อนเวลามาในร่างเสวี่ยไฉเหรินสนมต้องโทษในตำหนักเย็น พอฟื้นขึ้นมาก็เจอนางกำนัลคนสนิทของเจ้าของร่างเก่าแล้วถามว่าตนเองเป็นใคร ที่นี่เรียกหาพี่น้องกันว่ายังไง นางกำนัลตอบว่าเจี่ยเจียกับเม่ยเมย จากนั้นพิชชาพรก็เรียกนางกำนัลว่าเจี่ยเจียมาตลอด ฮ่องเต้ส่งแพรขาวสามฉื่อมาให้ปลิดชีพตนเองแต่นางเอกเอามาห่ม ( จุดนี้เห็นว่าไม่เหมาะเพราะร่างที่มาอาศัยเป็นร่างของไฉเหรินซึ่งยศต่ำนะ คิดว่าควรเป็นพระราชทานสุราพิษมากกว่า )
บทที่สอง - หลังจากฟื้นขึ้นมาพวกขันทีก็นำเรื่องไปทูลฮ่องเต้ที่ประทับในตำหนักชื่อดาราจีนคนดังที่ผลงานล่าสุดเกี่ยวกับต้นท้อ ฮ่องเต้เลยออกราชโองการแต่งตั้งเป็นไฉเหริน ( ตำแหน่งเดิม ) แต่พระราชทานนามให้ว่า เจิ้งฝูสื่อ พระพราชทานของให้มากมาย ตำหนักเย็นคึกครื้นขึ้นทันตา ขันทีและองครักษ์คนสนิทผลัดเปลี่ยนมาดูแลนางเอก ทั้งชงชา เป็นเพื่อนคุย และ แฟนคลับ ( เอ่อ... คืออ่านกี่รอบ ๆ ก็คิดว่าไม่สมเหตุสมผล )
บทที่สาม - ฮ่องเต้ปลอมเป็นองครักษ์คนสนิทมาหานางเอกที่ตำหนักเย็น แต่ติดปานผิดด้าน ท้ายบทฮ่องเต้ยังหยอกองครักษ์คนสนิทเรื่องที่ปลอมองค์เป็นเขาอีก สะใจนิด ๆ ที่องครักษ์คนสนิทบอกว่าปานอยู่ที่แก้มขวาไม่ใช่แก้มซ้าย ( ใช่ พิมพ์ไม่ผิดหรอกบทนี้มีเนื้อหาแบบนี้จริง ๆ ฮ่องเต้ปลอมองค์ออกไปข้างนอกยังพอว่า แต่นี่มาตำหนักเย็นที่ไม่เคยคิดจะสนใจตั้งแต่แรกเนี่ยนะ )
บทที่สี่ - ชีวิตในตำหนักเย็นของนางเอกสุขสบายอย่างมาก พูดถึงเสบียงอาหารกันว่าอาหารไม่พอ นางเอกเลยถามว่าฝ่ายในส่งมาทุกเจ็ดวันไม่ใช่เหรอ ( จำได้ว่าสองบทก่อนยังบอกว่าใบชาค้างปีอยู่เลย แล้วเสบียงจะส่งมาทุกเจ็ดวันได้ไง และ อย่าลืมว่าตำหนักเย็นนะไม่ใช่ตำหนักธรมดา ๆ ที่จะได้รับเสบียงเป็นรายวันกับรายเดือน )
บทที่ห้า - ฮ่องเต้สนุกกับการลดและเลื่อนตำแหน่งสนมแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซล ลดเพราะสนมเหล่านั้นไปกลั่นแกล้งนางเอกทั้งทางตรงและทางอ้อม เลื่อนเพราะนางเอกรู้จักสั่งสอนนางกำนัลให้รู้ที่ต่ำที่สูง ไม่ใช่ลดแบบทีละขั้นสองขั้นนะแต่ลดจากหวงกุ้ยเฟยเป็นเฟยธรรมดาและหวั่นอี๋ เลื่อนจากไฉเหรินเป็นหวั่นอี๋ ( ที่ติตรงนี้เพราะเห็นว่าเป็นการลดและเลื่อนขั้นแบบฮวบฮาบเกินไป เฟยธรรมดานี่ศักดิ์ต่ำกว่าหวงกุ้ยเฟยและสี่เฟยชั้นสูงหลายขั้นเลยนะไฉเหรินเป็นหวั่นอี๋ก็ข้ามมาหลายขั้นเช้นกัน คิดว่าค่อย ๆ เลื่อน ค่อย ๆ ลดดีกว่า )
บทที่หก - บทที่สิบ :
บทที่หก - ฮ่องเต้มีหน้าที่เพิ่มคือตัดหญ้าหน้าตำหนักเย็น ( เอิ่ม เป็นถึงฮ่องเต้น่าจะถือตัวสักนิด ไม่ควรยอมไปตัดหญ้าง่าย ๆ นะ )
บทที่เจ็ด - เริ่มด้วยประชุมเช้า จบด้วยเสด็จไปตำหนักเย็นประกาศศักดาว่าไม่ได้เกรงกลัวนางเอก ( เรายังไม่เห็นเหตุผลที่ฮ่องเต้จะะกลัวนางเอกเลยนะ เห็นแต่ว่าฮ่องเต้พยายามเกี้ยวพานางเอก )
บทที่แปด - เริ่มด้วยจับผีต้นเถาฮวา นางเอกลองชงชาให้องครักษ์คนสนิท( ตัวปลอม ) ดื่ม องครักษ์ดูท่าจะติดใจมากดื่มไปสี่ถ้วยเชียวและยังเสนอว่าให้ลองชงไปให้ฮ่องเต้ดื่มบ้าง นางเอกรับปากว่าจะลอง
บทที่เก้า - เกี่ยวกับลูก ๆ ของฮ่องเต้ที่เหล่าสนมกำลังกังวล แต่เจ้าตัวดูไม่สนใจเท่าที่ควร
บทที่สิบ - องครักษ์คนสนิทตัวปลอมพานางเอกหนีเที่ยวนอกวัง ( เอิ่ม นางเอกเป็นสนมในวังไม่ควรทำแบบนี้อย่างมาก เพราะถือว่ามีใจเป็นอื่นไม่ภักดีต่อฮ่องเต้ มันเป็นการกระทำที่ไม่คิดหน้าคิดหลัง คิดแค่อยากสนุกก็ไป อยู่ในตำหนักเย็นอยู่แล้วยังจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีก )
บทที่สิบเอ็ด - บทที่สิบห้า :
บทที่สิบเอ็ด - หนีเที่ยวสำเร็จและเที่ยวกันจนพอใจ
บทที่สิบสอง - ความจริงเรื่องฮ่องเต้ปลอมเป็นองครักษ์คนสนิทถูกเปิดเผยอย่างจังนางเอกถึงกับโหนเกี้ยวหนี ( หา! ดูเหมือนนางเอกจะลืมไปว่าควรสำรวมให้มากกว่านี้นะ โหนเกี้ยวนี่เป็นกิริยาที่สนมควรทำใช่ไหม 555 )
บทที่สิบสาม - นางเอกหนีไม่รอดเลยถูกจุมพิตจนตัวอ่อนปวกเปียก จุดเริ่มเริ่มต้นของการหวนรัก
บทที่สิบสี่ - ดอกรักผลิบานในตำหนักเย็น จบด้วยนางเอกชงชาไว้เผื่อขันที
บทที่สิบห้า - นางเอกพยายามเอาชีวิตริดในตำหนักเย็นต่อไปโดยวางแผนทำเรื่องต่าง ๆ
>>741 เองมาต่อกันเลย
บทที่สิบหก - บทที่ยี่สิบ :
บทที่สิบหก - หวั่นอี๋ให้บทเรียนนางกำนัลอีกครั้งอย่างเจ็บแสบ
บทที่สิบเจ็ด - เหล่าสนมใส่หน้ากากเข้าพบกัน นางเอกจะเริ่มร้ายแล้ว 555
บทที่สิบแปด - นางเอกได้รับพระราชทานอภัยโทษ ได้สลับตำหนักกับหวงกุ้ยเฟย ส่วนหวงกุ้ยเฟยถูกลดเป็นไฉเหริน ( ยังคงลดแบบฮวบฮาบเหมือนเดิม ไม่เห็นแก่ความดีก่อนเก่าของหวงกุ้ยเฟยเลย )
บทที่สิบเก้า -นางเอกให้คนสนิทเอาหีบเครื่องประดับไปให้จางไฉเหริน จบด้วยฮ่องเต้ไปหานางเอกในเย็นวันนั้น
บทที่ยี่สิบ - กินกันแล้วจ้า 555
บทที่ยี่สิบเอ็ด - บทที่ยี่สิบสี่ :
บทที่ยี่สิบเอ็ด - หลังจากรบรากันตามประสาฮ่องเต้กับสนม นางเอกก็รับราชโองการให้เข้าร่วมพิธีบวงสรวงสวรรค์ของรัชสมัยนี้เป็นครั้งแรก
บทที่ยี่สิบสอง - หวั่นอี๋บวงสรวงสรวงสวรรค์ต่อหน้าเชื้อพระวงศ์และเหล่าขุนนาง ( สงสัยจังว่าหวั่นอี๋สามารถบวงสรวงสวรรค์ได้ด้วยเหรอ เท่าที่เคยดูซีรีส์มาเห็นว่าฮองเฮาที่เหมาะทำหน้าที่นี้เคียงข้างฮ่องเต้ ถ้าไม่มีฮองเฮาน่าจะเป็นสนมที่ต่ำลงมาแต่ไม่น่าใช่หวั่นอี๋อ่ะ )
บทที่ยี่สิบสาม -เลื่อนขั้นให้เสียนเฟยเป็นหวงกุ้ยเฟย เพื่อรอวันแต่งตั้งฮองเฮา ( แฟนคลับพากันต่อว่าผู้เขียนยกใหญ่เพราะไม่อยากให้พระเอกมีสัมพันธ์ ( ปั่มปั๊ม ) กับสนมอื่น จนเราแปลกใจว่านางเอกยศต่ำนะจู่ ๆ จะแต่งตั้งข้ามขั้นตั้งหลายขั้นได้ยังไง อีกอย่างก็เพิ่งพระราชทานอภัยโทษมาไม่นานหวั่นอี๋ก็น่าพอแล้วสำหรับตำแหน่งแรกหลังพ้นมลทิน )
บทที่ยี่สิบสี่ - แฮก ๆ มาถึงบทล่าสุดสักที บทนี้เหมือนแต่งเอาใจแฟนคลับเพราะมีคอมเมนท์ต่อว่าฮ่องเต้เยอะ
คำฟุ่มเฟือยที่ว่าเช่น กัมปนาทดังกึกก้อง ( บทที่สอง ) ชูช่อผลิดอกหยอกล้อ ( บทที่สิบ ) เป็นต้น
แค่นี้พอแล้วกัน รอคนอยากสับคนต่อไป
กูขออวยนิยายหน่อย
ตำนานสงครามบัลลังก์เหนือ
https://my.dek-d.com/bcgs/writer/view.php?id=1625175
หลังจากดองไป เกือบสิบปีในที่สุดนักเขียนก็กลับมาลงแล้ว นึกว่าชาตินี้จะไม่ได้อ่านตอนจบแล้วเนี่ย
ตอนนี้อยู่ในช่วงรีไรท์ของเดิมที่เกือบเหมือนเดิม ลองไปอ่านดูได้ (แบบก่อนรีไรท์ปิดไปหมดแล้ว)
นักเขียนเคยมีผลงานกับสถาพรมาก่อนเรื่อง artifact hunters ค่อนข้างเงียบ ๆ นะ แต่จะว่า “ก่อน” ก็ยังไงอยู่เพราะเรื่องนี้เขียนก่อนหลายปี แต่ไม่ได้พิมพ์ พอแต่งเรื่องที่ได้พิมพ์เรื่องนี้เลยถูกแช่แข็ง
ปล.เรื่องนี้เป็นภาค 2 ภาคแรกเป็นนิยายทำมือ (รุ่นพ่อแม่) กูไม่ได้ทันอ่านเหมือนกัน แต่อ่านแยกได้
เรื่องนี้แฟนตาซีตามขนบเดิมเลย ไม่เบียว ไม่ดาร์ก เกิดใหม่ต่างโลก ฯลฯ
ภาษาดี เนื้อเรื่องดี ดีงามทุกอย่าง ยกเว้นภาพประกอบฝีมือนักเขียนที่กูว่าไม่ค่อยเอาอ่าว แต่เบลอไปได้ เพราะแปะมาที่เดียวตรงหน้าแรก
เรามาตามหาคนที่สับนิยายเรื่องนี้ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1685602
ไปเมื่อวันก่อน จากคำสับของท่าน (ที่อ่านแค่สองบทแรก) เราได้ทำการรีไรท์ทั้งเรื่องเรียบร้อย
แต่อยากให้ท่านช่วยกลับไปอ่านสองบทแรกอีกครั้งดูฮะ
ถ้าท่านไม่อยากอ่านอีกทีก็ไม่เป็นไร อยากบอกว่าขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์ในวันนั้นมากๆ เลยฮะ
>>741 >>742 เรื่องนี้ห้องนิยายเสิ่นเจิ้นก็ด่าไว้แหลกอยู่
ไอแพรขาวอะ ไม่เหมาะกับยศนางเอกปะ และขนาดของแพรขาวแค่สามศอกมันจะใช้ห่มตัวเองได้ยังไง
ฮ่องเต้ลดฮวบฮาบขนาดนั้นไม่ได้ นี่ไม่ใช่แค่ความพอใจ แต่เป็นการเมือง ตระกูลขุนนาง ตระกูลของสนมแต่ละนางจะว่ายังไง
เรื่องทำพิธี นางเอกก็ไม่มีสิทธิ์ดิ จะไปทำคู่กับฮ่องเต้ได้ไง ยศยังด้อยกว่าคนอื่นอยู่เลย
แล้วเรื่องคนอ่านบอกไม่ให้ฮ่องเต้ไปมีอะไรกับสนมคนอื่น อันนี้ก็ตลกอีก นี่ฮ่องเต้ นี่คนที่มีเมียสามพัน นี่คนที่ต้องมีเมียเยอะเพื่ออำนาจ นี่แนวจีน+โบราณที่ผู้ชายเป็นใหญ่
ไม่สมเหตุสมผลทั้งเนื้อเรื่องทั้งคนอ่าน
ขอบคุณโม่งที่มาสับ เราอยู่แนวเดียวกัน ไว้ว่างๆจะสับมั่ง
>>746 สับตรงนี้ คนเขียนก็ไม่รู้หรอกว่า เค้าเขียนเป็นยังไงบ้าง
โม่งในนี่ ความจริงสามารถเข้าไปแวะได้ทุกเรื่องที่สับ
แต่ไม่ทำกัน
คนเขียน เขียนให้ตาย ก็ไม่รู้หรอกว่า มีคนมองนิยายเค้าว่ามีจุดดีจุดด้อยยังไงบ้าง
พอไม่มีคอมเมนต์ กำลังใจอยากเขียนมันไม่ค่อยมีหรอก
สรุปฟีดแบล้ก ไม่มีทั้งคนเขียนและคนอ่าน อย่าหวังว่าจะเห็นการพัฒนาปรับปรุงที่สับกันมาต่อไป (ไร้อารมณ์ร่วมนั่นแหละ)
>>745 ผมไม่ใช่คนสับนะ แต่คิดว่าเนื้อเรื่องแบบนี้บรรยายเป็นบุรุษที่ 3 น่าจะดีกว่า (คหสต.) แล้วก็มีเรื่องการใช้สัญลักษณ์กับการบรรยาย รู้สึกว่าการบรรยายยังติดภาษาการ์ตูนอยู่ อ่านแล้วรู้สึกแปลก ๆ ส่วนคาร์แรคเตอร์ตัวละคร ถ้าผมเดาไม่ผิดคิดว่าจะทำให้พระเอกห้าว ๆ ห่าม ๆ ตามประสานักเลงใช่ไหม? ถ้าใช่ผมแนะนำว่าลองทำความเข้าใจกับคาร์แรคเตอร์ตัวละครมากกว่านี้ดีกว่าไหม เพราะที่เขียนมาตัวละครค่อนข้างน่ารำคาญ ส่วนโครงเรื่องจัดว่าน่าสนใจทีเดียวครับ ค่อย ๆ พัฒนานะครับ เป็นกำลังใจให้ #คนดี2017
Ky นิยายจีนเสินเจิ้นคืออะไร จีนเก๊เรอั
KY เคยมีจีนเสินเจิ้น เอาไปแปลจีน ขายจีนปะวะ?
>>751 เออกุขอ Ky มั่ง...
เห็นก่อนหน้านี้พูดถึง "นิยายการ์ตูน" กัน กุเลยสงสัยว่ะว่าคนอ่านส่วนใหญ่เขาจินตนาการออกมาเป็นคนจริง ๆ กันตลอดเลยรึเปล่าวะ
อย่างของกุนี่อาจจะเรียกว่าบ้า... เพราะกุอ่านนิยายไม่ว่าจะแบบไหนในหัวกุก็นึกภาพเป็นการ์ตูนออกมาหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นนิยายเอเชียหรือฝรั่ง แม้กระทั่งนิยายสอบสวนอย่าง เชอร์ล็อค โฮมส์ กุยังนึกภาพเป็นการ์ตูนก่อนเลย ล่าสุดกุหยิบ TLOR มาอ่าน กุยังเห็นภาพเป็นการ์ตูน แทนที่จะเป็นนักแสดงแบบในหนังซะงั้น...
นี่เป็นผลจากอ่าน LN มาไปรึเปล่าวะเนี่ย...
กูไม่เข้าใจคนอ่านส่วนใหญ่เขาไม่เบื่อกับเเนวเดิมๆเหรอวะกูเห็นเเต่งเเต่เเนวเดิมๆก็ดังได้
ไม่มีใครรู้หรอกว่า เมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อน คนโบราณเห็นภาพเป็นการ์ตูนหรือคนจริง ต่อให้ไม่มีการ์ตูนให้ดูก็มีภาพฝาผนังตามโบราณสถานมาเป็นต้นแบบขึ้นภาพในหัว ไม่งั้นละก็ ในยุคสุนทรภู่ คนวาดแม่งจะวาดโชเน็นจัมป์มาแต่รัชกาลที่ 2 เรอะ
เอ้า เฮียโน๊ตมาแล้ว โม่งอยากเสนอก็จัดไป
https://www.dek-d.com/board/view/3789672/
>>763 ซื้อโฆษณานิยายนี่เป็นไอเดียที่ดีนะ ยังไงก็ควรมีไว้
ทุนนิยมมันต้องแบบนี้แหละ ตามใจตลาด แข่งขันอย่างเท่าเทียมด้วยการลงทุน
ใครไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร คนเงินเหลือใช้ได้ก็ใช้ไป ใครจะกู้แบงก์มาโปรโมทนิยายขาย
ดีกว่าโฆษณานิยายพวกเดียวกันเองแล้วไม่เคยได้อะไรคืนมาเลย
ราคาพื้นที่ตรงโฆษณาแฟนต้านั่นกี่บาทวะ รำคาญฉิบหาย
ไม่มีใครสับนิยายแล้วหรอ?
มันเพิ่งจะอวยเอาตอนนี้ แถมลงผิดหมวด https://www.dek-d.com/board/view/3789770/
เวลามีคนบอก เดี๋ยวแจกัน กูนึกถึง บาตรพระตลอดเลยว่ะ
ลงชื่อ เซฮุน คืนนี้แจกัน
>>774 มึงยังไม่จบสินะ เอาหลักฐานชั้นรองจากวัฒนธรรมอื่นมาเถียงหลักฐานชั้นต้นของวัฒนธรรมดั้งเดิม ปัญญาอ่อนชิบหาย เถียงอยู่ได้ว่าแจกัน ไอ้ที่มึงพูดถึงในอินเดียมันคือ กุมภ ไม่ใช่แจกัน คนละเรื่องกันเลย และไม่มีที่ไหนบอกว่ามันคือต้นกำเนิดของบาตรด้วย
แจกันที่เบตที่มึงบอกว่ารักษาความหมายดั้งเดิมไว้นักหนากูก็เอามาเทียบให้ดูแล้วว่าคนละคำ ยังมีหน้าเอามาแย้ง โง่ดักดานไม่เปลี่ยนจริงๆ อ.กะหลวงพี่มึงไม่เคยสั่งสอนเรื่องการใช้หลักฐานเหรอว่าต้องใช้ยังไง
เรื่องลูซอเฟอร์ก็ด้วย ต่อให้มึงจะพูดยังไงมันก็ไม่ใช่แสงอยู่ดี เป็นแค่สิ่งที่ใกล้เคียงเท่านั้น แบบเดียวกับที่อพอลโล่ไม่ใช่เทพแห่งพระอาทิตย์ แต่เป็นแค่คนลากพระอาทิตย์นั่นละ ถึงคนส่วนใญ่จะเข้าใจยังไง เทพแห่งพระอาทิตย์จริงๆ ก็คือเฮลิออส และลูซิเฟอร์ก็แปลว่าแสงไม่ได้ด้วย
สำหรับคนอื่น กูขอโทษที่มาต่อความยาวนะ ถ้ามันไม่พูดกูก็ไม่มาต่อหรอก
ลัทธิบูชาบาตร ทั้งๆที่ศาสนาไม่ให้ยึดวัตถุ ให้หายังไงของมึงก็หลักฐานกุ
ลูซิเฟอร์ มัน แปลว่า light bearer, morning star อันนี้แม่งมึงเงียบปากจะดูดีกว่านะ
ให้เด็กที่มันเข้ามาอ่านไป researcher ต่อเองเลย
ลงชื่อ เซฮุน แจกันคืนนี้
researcher นี่เป็น n ปะวะ ไม่ควรต่อคำว่า ไป...
อะ ให้เด็กที่เข้ามาอ่านไปresearchต่อเองเลย กุแก้ให้ๆ เห็นว่ามึงฉลาดไม่อยากให้พลาดอะไรแปลกๆ
เอ้อ light bearer ไม่ได่เท่ากับ light นะรู้ยัง
Luicifer - Old English, from Latin, ‘light-bringing, morning star,’ from lux, luc- ‘light’ + -fer ‘bearing
มึงเอาเวลาหารากศัพท์รากเหง้าไปสับนิยายเก่าๆดีกว่าเถอะ
เถียงเรื่อง lucifer ไม่ใช่แสงนี่โง่เหี้ยๆ บอกตรงๆนะ
ว้ายอยู่ในห้องสับนิยายไม่สนใจคำผิดดั้วะ สมเป็นเซฮุนมากๆ กรี๊ดแล้วข่ะ แถมยังสามารถยกตัวอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งในเชิงสาระและรูปแบบได้อย่างชัดเจน สมเป็นเซฮุน อะเก๊น
จี้สัสบอกว่า auto suggestion แต่แยกแสงกับผู้นำแสงไม่ออก lux = light ดังนั้น lucifer ที่มาจากราก lux นี่ต้องแปลว่าแสง ว๊ายตั่ยแหล้วว
ปล.ขอโทษที่ฟีดค่ะ
มาเฟียลูกกะหรี่ ดีแต่รุม
พวกมึงแม่งสันดานเดิม
มาตายโง่ๆ เพราะเชื่อในเพื่อนๆโง่ๆของพวกมึง
ไหนว่าจะไม่คุยเรื่องบาตร แจกัน ลูซิเฟอร์ห่าเหวไรพวกนี้แล้วไง ถ้าจะเถียงเรื่องนี้แนะให้ไปเปิดทู้ใหม่คุยดีกว่ามั้ย ห้องสับนิยายไม่ใช่หรอวะ ไม่ไฟท์กันแบบนี้ดิ
จะเถียงกันเรื่องซ้ำซากเชิญห้องเนตวอชครับ
จะส่อทางเพศเชิญห้องกามาครับ
เขาแบ่งประเภทห้องให้แล้ว ก็ไปให้ถูกห้องด้วย
เซฮุนเนี่ย เคยมีวีรกรรมตบหัวแล้วลูบหลัง ประมาณไปด่าเขาเสียๆหายๆ แล้วกลับมาอวย โดยหารู้ไม่ว่า ip มันยังไม่เปลี่ยน เลยโป๊ะแตก
ไอ้เรื่องนี้ยังไม่เท่าไหร่ เข้าใจว่าเป็นเด็กเกรียนธรรมดา ตอนแรกก็เหมือนว่าโป๊ะแตกแล้วจะหายไป แต่ท้ายที่สุดก็กลับมา แถมกลับมาในชื่อเดิมด้วยทั้งๆที่จะเปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่นคนก็ไม่รู้ แสดงว่าหวงชื่อ "เซฮุน" มาก แล้วแบบนี้จะไม่เรียกว่าวอนนาบีซัมวันได้ยังไง
จะเอาอีกไหม มีเรื่องเสร่อๆอีกตั้งหลายอย่าง รำคาญพวกโง่อวดฉลาดที่อยากดัง แถมเสือกอยากดังในสถานที่ๆเขาปกปิดตัวตนกันด้วย น่าสมเพช
ก็ไม่ควรจะไปให้ค่า คนจิตไม่ปกติเรียกร้องความสนใจหรอกนะ เวลามันพูดอะไรเพี้ยนๆก็ไม่ต้องยุ่งกับมัน จบ
เซฮุนที่พวกมึงเถียงเรื่อยมาก็แค่เซฮุนวอนนาบี เซฮุนตัวจริงคือคนนี้ต่างหาก https://th.wikipedia.org/wiki/โอ_เซ-ฮุน
เซฮุนโผล่มาทีไรทำงานกร่อย คนสับนิยายหนีหมด
ไอ้เหี้ยตรรกะ grave robber นี่โง่ควายสุดละ มึงเขียนนิยายได้ยังไงวะ
ถ้ามึงลูกกะหรี่ มึงไม่ใช่กะหรี่ ใช่ แต่มึงเป็นลูก คนก็ต้องถามมึงลูกใครเหล่าเต้า ลูกกำพร้า ลูกทาส ลูกอะไรก็ว่าไป บางอย่างต้องขยาย บางอย่างไม่ต้อง
Light + bearer แม่ง เหมือนลูฟี่มนุษย์ยาง เหมือน Batman มนุษย์ค้างคาว ไอ้ห่า คือมึงเป็นคน กูเรียกมึงควาย เพราะมึงคิดควายๆ มนุษย์+ควาย มึงโง่จรไม่เข้าใจอะไรวะ
bearer มันต้องบอกสิวะ ว่ามึง นำพาอะไร แบกอะไร fire bearer, pussy bearer, cock bearer
Robber มึงไม่ต้องเจาะจง ปล้นเหี้ยไรก็ปล้น ถ้ามึงดังจากการปล้น grave หรือมึง เฉพาะทาง เหมือนหมอควย หมอผี หมอหี หมอไต ก็เป็นหมอ
โอ้ย เด็กเห่อหมอยยยยยย
แวบมาอ่านก็สลายตัวนะไปนะพวกมึงน่ะ โง่เหี้ยๆ โง่สัดๆ ถึงมาหลบอยู่ในนี้กัน
ลงชื่อ เซฮุน พรุ่งนี้แจกัน
มึงคิดว่าคนโบราณรู้ส่าแสงเป็นอณุภาค/คลื่นเหรอ มันเป็นการเปรียบเทียบแบบนามธรรม ไม่ได้มีความหมายตรงตัว
Light Bearer คือ Morning Star ดาวแรกของวัน คนโบราณถือว่าเป็นดาวที่นำแสงสว่างมายังโลก Light Bearer หมายถึงดาวดวงนี้
ในเมื่อมันนำแสงสว่างมาสู่โลก แล้วตัวมันเองจะเป็นแสงได้ยังไง เหมือนที่กูเทียบอพอลโลกับเฮลิออสนั่นละ
แล้ว Bearer ไม่ต้องเจาะจงนะ คำนี้แปลว่าผู้ถือ แบกหาม ตัวรับน้ำหนัก อยู่แล้ว ไม่ต้องบอกก็ได้ว่าถืออะไร
นี่ก็ได้ Cup Bearer คนถือจอกในราชสำนัก เอาตามมึงเลยนะ คนถือจอกจะเป็นจอกรึเปล่าละ
>>803 น้ำปลาคนแบกกุ้ง มึงเป็นคนแบก มึงไม่บอกว่าแบกอะไร?
คนแบก+จอก แบกควย แบกหี มึงต้องขยาย มึงจะไปแบกรถ แบกขี้ได้หรอ? ถ้ามึงเจาะจงแล้ว
ไอ้เหี้ย grave robber มึงชวนไปปล้น bank มันก็ไปได้ เพราะมันโจร อาจจะไม่เทพ ขุดๆไป แต่โคตรมันก็ grave robber
Light bearer/ Morning star
Lucifer = ผู้พาแสงสว่าง เรียกผู้พา เฉยๆ มึงพาน้ำ? เปล่า? มึงพาไฟ? เปล่า
มันพาแสง
เลิกโง่ว่ะ ขอโทษนะ โง่เหี้ยๆ
The Septuagint renders הֵילֵל in Greek as ἑωσφόρος (heōsphoros), a name, literally "bringer of dawn", for the morning star. The word Lucifer is taken from the Latin Vulgate, which translates הֵילֵל as lucifer, meaning "the morning star, the planet Venus", or, as an adjective, "light-bringing".
Lucifer bears the Light, but Christ is the Light; thus Lucifer is the Christophor, the Christ-Bringer. Another phrase from early Christianity also suggests this relationship: Christus verus Luciferus, which means “ Christ is the true Light-Bearer
Lucifer, as the embodiment of the Astral Light, of visible, revealed light can also be interpreted as the embodiment of the Fall into that Light, into the vast realm of Earth characterized by light travelling just under the speed of light. It sounds paradoxical if not confusing, but at the exact “speed” of light, there is no light or time or motion. That is the Pleroma, or Heaven.
The created worlds of Earth are the vehicles for speeds less than the full speed of light, from a little to a lot . Lucifer’s Fall was a speeding violation for going slower. Equally penetrating is the insight offered by one of Blavatsky’s contemporaries, the occultist Eliphas Levi (whom she cites) who wrote in 1860 that the Fall of Adam was an “erotic intoxication” with this “fatal light.” This made all subsequent humans similarly vulnerable to and “menaced” by the “exceedingly dangerous exaltation of this interior phosphorus.”
The Astral Light, Levi proposed, is the demonic fire of hell, the central fire that encompasses the Earth, consuming everything and leading to intoxication and “sin,” and it is also the revelation of the “Great Magical Agent,” the celestial Lucifer, the Morning Star of intelligence, who is the vehicle of light, the receptacle of all forms, and a “mediating force” diffused throughout all the created realms.
All the seeds of stars, planets, gods, humans, living creatures contained within Phanes’ silver egg comprise the Light that Lucifer is Lord and Bearer of. Lucifer contains this prodigy of Light, so therefore he is its Lord. He is Lord of Light not out of ambition, but because this is how the Supreme Being made him: he is the container of the light of creation and the means by which the world is visible. His appointed task is to bear and bare the Light, to be reservoir and epiphany. Lucifer is the Lord of Light because the Light he holds births the stars, which is to say, generates the multiplicity of gods. They are beholden to Lucifer for their Light and are subsequent to him in the sequence of creation
เก็บกดอะไรกันมาจากในบอร์ดหว่า ไอ้ขี้แพ้เรียกร้องความสนใจคนเดียวก็เกินพอล่ะนะ
>>804 ลองคิดตามนะ Cup Bearer คนถือจอกจะเป็นจอกรึเปล่าละ
>>805 Bearer เฉยๆ ก็มีความหมายแล้ว ไม่ต้องเจาะจงก็ได้ มึงอ่านจากไหนว่าต้องเจาะจง
แล้วมันพาแสงแปลว่ามันคือแสงป่าวละ ถ้าไม่ใช่ มันก็ไม่ใช่แสง มันงงตรงไหน
>>806 อ่านเองดีกว่า
http://biblehub.com/hebrew/1966.htm
http://biblehub.com/hebrew/1984.htm
ก่อน ลูซิเฟอร์จะเหี้ย มันเป็น Angel of Light
กูไปนอนละสัด พรุ่งนี้แจกัน
กูถามจริงๆ มึงเขียนนิยายกันได้ไง คิดยังไม่เป็นระบบระเบียบ
กูเข้าผิดห้องหรือเปล่าวะ
อวาลอนนี้เลิกเขียนเเล้วเหรอวะ
อวาลอน ชื่อนิยาย
มึงเรียกมันว่า นิยายอวาลอน
มันเป็นทั้ง นิยาย และ อวาลอน
ลงชื่อ เซฮุน พรุ่งนี้แจกัน
สัสไม่จบ5555555
>>798 กูไม่ได้ใส่ไฟ และไม่จำเป็นต้องใส่ไฟ เพราะไม่ได้เคียดแค้นชิงชังอะไรมึง เพียงแต่สมเพชความวอนนาบีซัมวันของมึงเท่านั้น
ต้องให้กูพูดอะไรอีกเหรอ ก็ไม่มีอะไรอยากจะพูดมากนะ คนอื่นเขาเอือมกันจะแย่แล้ว ไอ้แสงไอ้บาตรแจกันอะไรเนี่ยพอเถอะ เอาเป็นว่าถ้ามึงอยากเป็นฝ่ายถูกนักกูให้มึงถูกก็ได้ บาตรมาจากแจกัน ลูซิเฟอร์แปลว่าแสง จะเอาอะไรอีกก็บอกมา กูให้มึงได้ทุกอย่างเลย แต่ช่วยเลิกทำตัวระรานคนอื่นจะได้ไหม
เลิกสับนิยายกันดีมั้ยล่ะ จะได้คุยเรื่องแจกันลูซิเฟอร์ กูจะได้ย้ายบ้านล่ะ
สับนิยายในนี้ ถ้าไม่เอาไปแซะคนเขียนให้รู้
กูว่าไร้ประโยชน์ที่เพื่อนโม่งทำมากเลยวะ
ที่กูเห็น ในขณะที่หน้านิยาย กูรู้ว่าคนเขียนส่วนใหญ่ รอคอมเมนต์ ไปวิจารณ์อยู่
แต่แม่งว่างเปล่าในหลายๆเรื่องที่สับกันไป
คนเขียนแม่งไม่รู้หรอกว่า งานตัวเองเขียนเป็นไง คนอ่านว่ายังไง
ก็นะ
จุดประสงค์ดี แต่คนเขียนไม่รู้ มันก็เกม
ว่าแต่เมื่อไหร่จะเลิกสนใจเซฮุนกันวะ เหมือนเด็กเกรียนเห่อหมxย อิเหี้ย ทำตัวหน้าหนาหน้าทนกวนตีนไปงั้นแหละ ก็แค่เรียกร้องความสนใจ เลิกสนใจมันก็แห้งตายไปเอง นี่ผ่านมาตั้งกี่มู้แล้ว ให้อาหารมันอยู่ได้
>>824 หวัดดีนี่เซฮุนนะ จะแย้งให้ฟัง (ขอพูดซีเรียสบ้าง)
ประเด็นที่มึงยกมา คือ เห็นว่าสับในนี้ไร้ประโยชน์ เพราะคนเขียนไม่รู้
แต่ประโยชน์อื่นมันมี
1- มึงรู้ได้ไงว่าคนเขียนไม่รู้ เขาอาจจะรู้ก็ได้ ถึงไม่ทุกคนมันก็มีคนรู้ ถึงไม่รู้วันนี้ อีจิ๋มบวมมันเอาไปแปะบอร์ด เด็กมันก็แห่มา ข้อมูลมันไม่มีป้ายหมดอายุ
2- ประโยชน์ของมันคือเพื่อคนสับเอง ไม่ใช่คนเขียนโดยเฉพาะ
เป็นการฝึกให้คนสับ edit เป็น เพราะนักเขียนทุกคนต้อง edit นิยายตัวเองได้ และ!
เมื่อนักเขียนก้าวข้ามจุดเล็กๆอย่างคำผิดแล้ว ฝีมือในการ edit พัฒนาการมันก็จะไปด้านอื่น จังหวะ ย่อหน้า พล็อต โครงสร้าง อาร์คเรื่อง อาร์ตัวละคร ความสมเหตุสมผล การใช้สัญลักษณ์ อะไรก็ว่าไป
มึงอาจจะมองไม่เห็นภาพตอนนี้ แต่มึงต้องเข้าใจว่าคนที่เป็นพ่อครัวเก่งๆ เขาเอาลิ้นแตะอาหารคนอื่นเขารู้เลยมันใส่มาบ้าง อะไรเกินใส่อะไรน้อย รสแบบนี้มันผงนี้นี่หว่า... บางคนแดกจนอ้วนทำกับข้าวหมาไม่แดกก็มี บางคนอ้วนทำกับข้าวได้ก็เยอะ แต่เชฟผอมๆค่าตัวแพงๆก็มี... ซึ่งที่ว่าให้เทพอ่าน 8 บรรทัดก็รู้ว่านักเขียนคนนี้เขียนเป็นไม่เป็นมันจริงทุกอย่างนะ... นี่ประโยชน์คนสับ
3- มันเป็นการรีวิว ตอนนี้มีการให้คะแนน เช่น 3/10 มันเหมือนการไปเที่ยวกินอาหารตามร้านแล้วให้ดาวให้ความเห็น... มันเป็นประโยชน์คนอื่นที่มาอ่านการรีวิว
รสชาติถึงจะถูกปากชาวบ้าน แต่นักชิม เขาที่เคยกินมาเจ็ดย่านน้ำอาจจะไม่ถูกใจก็ได้ ไก่ต้องสด พิถีพิถัน คุณภาพ บลาๆ ตรงนี้ผู้บริโภคสามารถเอาไปตัดสินใจได้ (มันอาจจะไม่สาธารณะ แต่ก็นะ)
ไม่ใช่ว่าเป็นอาหารตามสั่งคนกินเยอะมันจะเป็นอาหารที่ดี ข้าวมันไก่เยิ้มๆแดกอร่อย แต่ทำลายสุขภาพไหมล่ะ นิยายติดท็อปคนอ่านเยอะมันก็จะไปพวกนั้น พวกสัมพเวสีมันก็อิจจาไป แต่กูเฉยๆ เพราะกูเข้าใจตลาด
นิยายดาร์กส่งเดช มันอาจจะเป็นเหล้าขาวต้มที่แดกแล้วตาบอด ขณะที่ดาร์กดีๆคือเหล้าบ่มนาน
นิยายมันเป็นงานศิลปะแบบหนึ่ง ถ้าเป็นไปได้ควรมีตารางโภชนาการแบบสิ่งอุปโภคบริโภค นิยายเรื่องนี้มีคำหยาย R18 มันยังไม่ละเอียดในสายตากู ถ้าบอกได้ว่าขับเคมีสมอง Dopamine กี่หน Oxytocin กี่หนได้ แบบบอกแคลอรี่ บอกน้ำตาล บอกโปรตีน ก็จะดีมาก
ลงชื่อ เซฮุน มึงก็ลองสับดูสักเรื่องสิ
หาพวกอะไรวะ รณรงค์อะไรของมึง บ้าบอ อะไรทำให้คนเราสำคัญตัวผิดได้ขนาดนี้ เฮ้อ
คร่อก... เหตุผลไม่ได้ก็โกรธ เด็กว่ะ
https://www.dek-d.com/board/view/3789987/ สำคัญตัวผิดขนาดไหนวะ กระทู้เก่านี่ออกงิ้วดิ้นกว่าคนก๊อปแล้วมั้ง
>>830 มึงอ่านแล้วดูไม่เป็นการหาพวก หรือ รณรงค์?
"ว่าแต่เมื่อไหร่จะเลิกสนใจเซฮุนกันวะ เหมือนเด็กเกรียนเห่อหมxย อิเหี้ย ทำตัวหน้าหนาหน้าทนกวนตีนไปงั้นแหละ ก็แค่เรียกร้องความสนใจ เลิกสนใจมันก็แห้งตายไปเอง นี่ผ่านมาตั้งกี่มู้แล้ว ให้อาหารมันอยู่ได้"
>>831 ก็ทำไปมึง สวะ หรือ ไฮดร้า ก็แล้วแต่คุณมึงเลยครับ ขำว่ะ
ถ้าดูตาม Guideline มันผิดเกือบทุกข้อ Admin บอกแล้วว่าถ้ามากไปก็แจ้งแบนได้
พวกมึงก็อย่าไปคุยกับมันก็พอ ให้มันเรื้อนเองคนเดียว เวลาแจ้งแบนจะได้ไม่มีข้ออ้าง
กูดีใจที่เป็นกลไกสำคัญในการทำให้พวกมึงปรองดองกันนะ
ลงชื่อ เซฮุน กูก็จะสับนิยายต่อไป ว่าแต่พวกมึงคงไม่สนใจอยู่ดี ฮ่าๆ
พวกมึงเลิกพูดถึงมันเลย ยิ่งพูดมันยิ่งชอบใจ มันเกรียนห่าเหวไรก็ไม่ต้องโต้ตอบ ทำมันเป็นอากาศธาตุไป
ผ่านไปเกือบห้าสิบเม้นต์ นอกจากเถียงกันเรื่องอะไรไม่รู้ ก็ไม่มีสาระอะไรเลย กูบอกไปเถียงกันในห้องเนตวอร์ช นี่ห้องสับนิยาย พวกมึงกำลังจะทำตัวเหมือนพวกบอร์ดเด็กดีนะ รู้รึเปล่า...
ใครช่วยบอกรายชื่อคนแปะลิ้งโม่งในเด็กดีหน่อยสิ มีกี่คนมีใครบ้าง
ky ชิบหายล่ะว่าเพื่อนโม่ง... กุกำลังตั้งใจซุ่มเขียนนิยายเรื่องหนึ่งอยู่เอาเป็นเอาตาย แต่ก็เริ่มฝืดเพราะใช้เวลาเขียนนานไปหน่อย (เขียนมา 3 เดือนแล้ว)
และวันนี้ก็เกิดเหตุขึ้น ระหว่างกุอาบน้ำอยู่ จู่ๆ ตัวกุก็ปิ้งไอเดียว่าจะรีไรท์เรื่องเก่าที่เขียนจบไปแล้วซะงั้น!! แถมความรู้สึกอยากเขียนก็เยอะอีกต่างหากด้วย!
เจอแบบนี้กุควรทำไงดีวะ! ถ้ากุหยุดเขียนเรื่องที่เขียนอยู่มีหวังขาดตอนแน่ แต่ถ้าไม่รีบกลับไปรีไรท์ก็มีหวังไอเดียหายหมดแหง!
เชี่ยเอ้ยย กุอยากเกิดเป็น อะมีบ้า แยกร่างเป็นสองคนได้จังโว้ย!
ยกตัวอย่างถูกป่าววะ https://www.dek-d.com/board/view/3790066/
วงการนิยายแปลแห่งสารขัณฑ์ https://www.dek-d.com/board/view/3790255/
เพื่อนโม่งมีใครอ่านเรื่อง rachelไหมกูอยากรู้มันรีไรต์เยอะไหมกูขก.กลับไปอ่าน
มู้นี้สปอยอปลกๆ ไม่รู้ทำไม
https://www.dek-d.com/board/view/3790019/
>>741 >>742 มาสับเรื่องเดิมต่อ
มีแฟนคลับในนี้อย่าว่าเรานะ
เรื่อง : เจิ้งฝูสื่อ จอมนางตำหนักเย็น
link : https://writer.dek-d.com/inin17305/story/view.php?id=1672006
จำนวน : 26 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ
การเขียน หลังจากย้อนอ่านทั้งเรื่องมาราว ๆ สิบรอบสรุปได้ว่าภาษาดี แต่ใช้คำฟุ่มเฟือยไป มีคำผิดประปราย เคยข้อความลับไปคุยกับผู้แต่งแต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ ถ้าลดคำฟุ่มเฟือยได้ก็เป็นนิยายที่เนื้อหาสนุกเรื่องหนึ่งในหมวดอดีต ปัจจุบัน อนาคต เลยล่ะ คะแนน 7 / 10
บที่ยี่สิบห้า - พระเอกยิ่งรุกนางเอกมากขึ้น เช้าวันต่อมานางเอกทำอาหารสองเมนูไปกินกับอี้หวงกุ้ยเฟย จบด้วยพระเอกหารือเรื่องการรบกับเหล่าขุนนางในท้องพระโรง
บทที่ยี่สิบหก - อี้หวงกุ้ยเฟยกับนางเอกกลายเป็นเพื่อนกัน นางเอกถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องในวังวนการแก่งแย่งช่วงชิงของเหล่าสนมเต็มตัว
อ่านมายี่สิบหกตอนรู้สึกว่านางเอกหลุดจาก concept จอมนางตำหนักเย็นมาเป็นนางสนมธรรมดา ๆ ในวังหลังนานแล้วอยากให้นางเอกกลับไปอยู่ตำหนักเย็นมากเลย
กุลองเอานิยายในเด็กดอยไปลงที่ธัญวลัยแล้วเติมฉาก Nc ลงไปด้วย ยอดวิวตอนที่มีฉาก nc โดยเฉลี่ยแม่งเยอะกว่าตอนเนื้อเรื่องปรกติหลายเท่า กุเลยสงสัยว่าคนมันอ่านแต่ฉาก nc แล้วมันจะรู้เรื่องเหรอวะ
คล้ายดูหนัง AV แล้วข้ามๆหาไป
ในเด็กดีนี่ก็มีหลายเรื่องใช้ฉากเย็ดเรียกวิวนะถึงจะไม่บรรยายโจ่งแจ้ง 20+ เปิดเรื่องมาด้วยการเข้าสิงร่างสาวที่กำลังโดนท่านอ๋องรูปงามสอดใส่ ถถถถ
มีใครเคยอ่าน จ้าวจตุรทิศ ไหม
มึงจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวหรือจีนบู้ก็เอาสักอย่างดิวะ https://my.dek-d.com/PMMchannel/writer/view.php?id=1694918
ky ถามหน่อยสิ สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในป่าหิมพานต์นี่ตัวอะไรวะ?
>>882 เรื่องนี้คนเขียนแม่งหากินแนวนี้เลยเหอะ กุเห็นแม่งติดท๊อปเลยเข้าไปอ่าน กุสุ่มไปอ่านตอนจบ นางเอกคลอดลูก แม่งคุยกับคนทำคลอด ยอกกับคนทำคลอดไปเบ่งไปได้ด้วยนะมึง
อีกเรื่องนึงพอแม่งเปิดมานางเอกโดนพิษ ส้นตรีนอะไรสักอย่าง ต้องนอนกับผู้ชายพันคืนถึงจะรักษาชีวิตไว้ได้ เอากะมันดิเอา ปล.นี่กุอ่านแค่คำโปรยนะ มันบอกไว้ประมาณนี้
เออ แล้วสดายุกับสัมพาทีนี่เก่งยังไงบ้างวะ ไปดูที่ไหนก็มีแต่สัมพาทีโดนเผาขนกับสดายุโดนแหวนกระแทกตายจนกูสัมผัสความเก่งของมันไม่ได้เลย
>>885 หูย เพิ่งเห็นคำถามนี้
ในอากาศคือครุฑ ถือเป็นเจ้าเวหา ไม่มีใครสู้ได้ พระนารายณ์เคยประมือด้วย ผลคือเสมอกัน เลยทำข้อตกลงซึ่งกันและกัน ครุฑกลายเป็นพาหนะของพระนารายณ์ตั้งแต่นั้นมา
บนบกคือไกรสรสีหะ แค่เสียงร้องก็ทำสัตว์อื่นตกใจตายได้ พละกำลังแข็งแรงมาก จนมีคนบอกไว้ว่า "ในบรรดาสัตว์สี่ตีนนั้นไม่มีสัตว์ใดจะกระโดดไปในอากาศได้เร็วเท่าไกรสรสีหะ ยกเว้นแต่ช้างแก้ว"
ในน้ำคงเป็นนาค เนรมิตตัวเองได้ เนรมิตอะไรต่อมิอะไรก็ได้ สร้างปราสาท สร้างน้ำให้ท่วมป่าหิมพานต์ บลาๆ มีพิษแบบต่างๆ ไปอีก
>>896 รู้สึกแทบจะไม่มีอะไรทำอันตรายสดายุได้เลยนะ แถมเกือบชิงนางสีดาจากทศกัณฐ์ได้ด้วย แต่มันดันปากพล่อยบอกว่าแหวนนางสีดาทำร้ายมันได้ตอนที่นางสีดาอยู่กับทศกัณฐ์ เป็นตัวประกอบที่โดนกวีเนิฟพลังให้เรื่องเดินไปต่อได้ชัดๆ
ส่วนสัมพาที ตัวนี้ไม่รู้ว่ะ โผล่มามีบทแค่เจอพวกพระรามกลางทางกับแฟลชแบ๊คโดนพระอาทิตย์เผาขน อ่านแล้วคล้ายตำนานอิคารอสเลย แต่เปลี่ยนคนโดนเผาจากอิคารอส (สดายุ) เป็นพ่อ (สัมพาที) แทน
อ่ะ นี่ โม่งแตกละ
เฮ้ย KY หน่อย
กุเห็นห้องนิยายเสิ่นเจิ้นเขาทำงี้แล้วเฮฮาดีว่ะ
https://docs.google.com/spreadsheets/d/1P5itSLfxuYZrmvEnHBfXWZBMmCR0QJJvds8Pdg45BMM/edit#gid=0
มู้นี้มีใครเชี่ยวพอทำได้มั่งเนี่ย แม่งอ่านย้อนแล้วฮาก๊ากจริง
เคยรีวิวมาสองเรื่อง เรื่องแรกก็คือเรื่องที่จะหยิบมารีวิวใหม่อีกครั้ง อีกเรื่องคือเจิ้งฝูสื่อ จอมนางตำหนักเย็น
เรื่อง : ชิงบัลลังก์นางหลงยุค
link : https://writer.dek-d.com/pinkblink/story/view.php?id=1684046
จำนวน : 11 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ
บทนำ - นางเอกก่อนย้อนมาจึนโบราณเป็นพนักงานบริษัท ต่อมาถูกเจ้านายฆ่าทิ้งวิญญาณไปสวรรค์ จากนั้นก็เจอกับเทพชราแสนใจดี เทพองค์นั้นส่งให้นางเอกมาเกิดพร้อมพรห้าข้อ ( พรแต่ละข้อส่งผลให้นางเอกเพอร์เฟคไปซะหมด )
บทเรก - บทที่ห้า :
บทแรก - นางเอกมาเกิดในท้องของฮูหยินแม่ทัพใหญ่ ตามพรหนึ่งในห้าข้อของเทพชรา พี่ชายทั้งสองวิ่งเข้ามาดูน้องสาว ( พี่คนโตชื่อยังกับญี่ปุ่น ) ห้าปีผ่านไป พี่ชายนางเอกเดินไปเจอน้องสาว เลยถามว่าทำอะไรอยู่ นางเอกตอบว่าอ่านตำราประวัติศาสตร์ ( ตรงจุดนี้คิดว่าห้าขวบยังไม่ควรอ่านตำราที่หนักหนาขนาดนั้น ) เท่านั้นยังไม่พอนางเอกยังจะฝึกวรยุทธด้วย ( โอเค อายุเท่านี้เริ่มฝึกได้ไม่เสียหายอะไร แต่นี่เหมือนจะเก่งอยู่แล้วเพราะทหารที่ตัวใหญ่กว่าหลายเท่าสามคนยังแพ้ เป็นไปไม่ได้ที่เด็กห้าขวบจะสู้ผู้ใหญ่ได้ขนาดนั้น ) จบด้วยพ่อตอบตกลงจะส่งตัวไปสำนักฝึกยุทธ
บทที่สอง - พูดถึงวันแรกที่นางเอกไปถึงสำนักฝึกยุทธและได้เจออาจารย์กับคนที่มาร่วมคัดเลือกเป็นศิษย์สำนักนั้น
บทที่สาม - ผ่านไปอีกเจ็ดปีในที่สุดก็มาถึงว้นสุดท้ายที่นางเอกฝึกวรยุทธที่สำนักนี้เพราะสำเร็จวิชาทุกแขนงของที่นี่เรียบร้อย
บทที่สี่ - กลับจวนแม่ทัพใหญ่อีกครั้ง
บทที่ห้า - ถึงเวลาต้องฝึกสกิลของบุตรีขุนนางชั้นสูงในยุคจีนโบราณ ท้ายบทได้เจอตัวละครที่คาดว่าเป็นพระเอกอีกครั้งที่ตลาด ตัวละครนั้นซื้อหวีให้นางเอก
บทที่หก - บทที่สิบ :
บทที่หก - รัชทายาทโผล่มายังไงกันนะ ( เอ้า ๆ ตกลงรัชทายาทคือเด็กชายที่แอบชอบนางเอกหรอกเหรอ ทำไมไม่เรียกรัชทายาทตั้งแต่บทแรก ๆ ) บทนี้ผู้ชายเล่าบ้าง ( ใช้คำแทนตัวไม่เข้ากับยุคสมัยมาก ๆ )
บทที่เจ็ด - กลับมาเป็นนางเอกเล่าเรื่องเหมือนเดิม แม่จะส่งลูกสาวไปคัดเลือกสนมในวัง ตอนแรกนางเอกไม่ยอม แต่พอได้ยินแม่บอกว่าตัดสินใจแล้วก็เปลี่ยนใจยอมไปทันที ( เอ่อ...เปลี่ยนใจง่ายไปนะ )
บทที่แปด - พ่อให้องครักษ์เงาไปตามดูแลนางเอกในวังหลวง ก่อนคัดเลือกนางเอกถูกขัดสีฉวีวรรณตามคำสั่งของฮูหยินแม่ทัพ พอขัดตัวเสร็จก็แอบไปเข้าแถวคัดเลือกของสตรีชั้นต่ำเพราะหวังว่าจะถูกคัดออก ได้เพื่อนใหม่อีกคน
บทที่เก้า - นางเอกกับเพื่อนใหม่ผ่านการคัดเลือกฉลุย ฮ่องเต้พูดคุยกับนางเอกแบบไม่ถือองค์ต่อหน้าคนอื่น ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้มีตำแหน่งใด ( มีฮ่องเต้โผล่มา ดูเหมือนฮ่องเต้จะเป็นรัชทายาทตอนบทที่หกนะ สามบทผ่านมาไม่มีบอกเลยว่าฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคตหรือกลายเป็นไท่ซ่างหวงไปแล้วหรือไม่ คิดว่ามันดูลอย ๆ ไปหน่อยน่าจะมีบอกบ้าง )
บทที่สิบ - ฮ่องเต้จัดขบวนขันหมากไปรับตัวนางเอกที่จวนแม่ทัพใหญ่อย่างเอิกเกริกสมตำแหน่งที่ได้รับ
อ่านเรื่องนี้แล้วมากกว่าสามรอบ จุดบกพร่องจุดแรกของเรื่องคือคำผิดมีให้เห็นทุกบทโดยเฉพาะ ค่ะ คะ จุดที่สองคือการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างงง เนื้อเรื่องดีนะ แต่อย่างทที่บอกว่าดำเนินเรื่องค่อนข้างงงเลยทำให้ดูไม่สนุกเท่าที่ควร ชื่อตัวละครหลายตัวค่อนข้างแปลกไม่เหมือนจีน เช่น หลงอามิ วิงเว่อ มิงเอ๋อ มิงฟ้า เป็นต้น เอาไป 4/10 แล้วกัน
คะน้า ค่ะน้า
เรื่อง : ไลฟ์สไตล์เจ้าหญิงอัปลักษณ์ ( รอบแรก )
link : https://writer.dek-d.com/koko2476/writer/view.php?id=1547742
จำนวน : 27 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ
บทเรก - บทที่ห้า :
บทแรก - นางเอกทะลุมิติมาในยุคจีนโบราณ เป็นบุตรีแม่ทัพอีกแล้ว ฟื้นมาก็ได้เจอแม่กับน้องของเจ้าของร่าง แม่ให้สาวใช้ไปตามหมอมาตรวจอาการเพราะเห็นลูกสาวคนโตแปลกไป หมอบอกว่านางเอกความจำเสื่อมเพราะสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักหายได้แต่ต้องใช้เวลา หลังจากหมอกลับไปนางเอกก็ซักไซ้แม่กับน้องของเจ้าของร่างจนรู้เรื่องเกี่ยวกับอีกฝ่ายทั้งหมด
บทที่สอง - เริ่มการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเจ้าของร่างใหม่ด้วยการไปซื้อเมล็ดพันธุ์ผักและผลไม้มาปลูก
บทที่สาม - เริ่มปฏิการลดริ้วรอยบนดวงหน้าที่ทำให้ตนอัปลักษณ์ บทนี้บอกสูตรลดสิวมาด้วย
บทที่สี่ - เริ่มลดน้ำหนักไปพร้อมกับเรียนศิลป์ศาสตร์ทุกแขนงที่จเป็นสำหรับกุลสตรีสมัยจีนโบราณอย่างหนักเป็นเวลาสี่เดือน
บทที่ห้า - นางเอกกับสาวใช้ไปเที่ยวเทศกาลโคมลอย หนุ่มใจดีซื้อโคมลอยให้
สรุปจุดเด่นของห้าบทแรกคือคำผิด เด่นมากจริง ๆ มีแต่คำผิด อีกจุดคือชื่อตัวละครที่เป็นตัวเอกนะ อ่านมาตั้งแต่สมัยแรก ๆ ที่ยังไม่เปลี่ยนชื่อเป็นสามพยางค์ นางเอกเดิมชื่อ หยางลี่หลันฮวา ( ตอนนี้เป็นหยางหลันฮวา ) น้องสาว หยางฟางโม่ลี่ฮวา ( ตอนนี้เป็น โม่ลี่ฮวา เหมือนไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ เลย เพราะคนละแซ่ ไปแล้ว ควรเป็น หยางโม่ลี่ ผู้แต่งน่าจะอยากได้ชื่อที่หมายถึงดอกมะลิแก้ให้แล้วนะโดยตัด ฟาง และ ฮวา ออก ) แม่ของสองสาว หยางซูหวงหลาน ( ตอนนี้เป็น หยางซูหลาน ที่จริงอันนี้สามารถเรียกได้อีกแบบว่า หยางซูซื่อ ไม่ต้องมีชื่อมาเกี่ยวเลยและนิยมในสมัยนั้นด้วย หยางคือแซ่แม่ทัพ ซูคือแซ่ฮูหยินแม่ทัพ )
อยากรู้มานานแล้วว่าเดี๋ยวนี้นิยายจีนเขานิยมตั้งชื่อหลายพยางค์กันเหรอ ส่วนตัวไม่มีปัญหากับพวกโอวหยาง กงซุน อวี่เหวิน อ้ายซินเจวี๋ยหลัว หนานกง ตงฟาง ฯลฯ แต่จะมีปัญหากับพวกแซ่หลายพยางค์ที่เกิดขึ้นเองโดยนำคำมาผสมกันเพราะรู้สึกว่ามันแปลกๆ
โม่งฝึกสับหมายเลข 27 มีต่อ มาต่อพรุ่งนี้นะ ตอนนี้ต้องไปแต่งนิยายตัวเองก่อน
อย่าว่าแต่ชื่อจีนเลย กูว่าลำพังแค่ชื่อไทยแม่งก็หาความหมายยากแล้ว....
>>915 เองมาต่อแล้วนะ
เรื่อง : ไลฟ์สไตล์เจ้าหญิงอัปลักษณ์ ( รอบสอง )
link : https://writer.dek-d.com/koko2476/writer/view.php?id=1547742
จำนวน : 27 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ
บทที่หก - บทที่สิบสี่ :
เริ่มด้วยเที่ยวเทศกาลโคมลอยต่อจากบทที่แล้ว พ่อไปหาที่บ้าน นางเอกถีบพ่อ มาอีกวันนางเอกจะออกเดินทางเพื่อไปฝึกเป็นแม่ทัพหญิง สามบทต่อจากนี้เป็นการเตรียมตัวก่อนออกเดินทางของนางเอก นางเอกเปิดร้านขายของตั้งชื่อร้านแปลก ๆ แม้แต่สาวใช้ยังรับไม่ได้ ( แปดบทนี้ จุดเด่นคือคำผิด บทที่เจ็ดถึงเก้าคิดว่านางเอกทำเกินไป ยังไงก็ไม่ควรถีบพ่อแบบนั้น บทที่สิบสองมีอโมติคอนหลุดมาซึ่งไม่เข้ากับยุคสมัยของนิยายอย่างมาก บทที่สิบสามมี 555 หลุดมาอันนี้คิดว่าเป็น ฮ่าๆๆ ดีกว่า )
บทที่สิบห้า - บทที่ยี่สิบ :
เริ่มด้วยคิดเมนูอาหาร ผ่านมาหลายบทแล้วนางเอกและะพลพรรคยังออกกำลังกายอยู่ ( เป็นแนวคิดที่ดีนะ ) หลังจากคิดเมนูกันเสร็จก็มาเปิดโรงเตี๊ยม กิจการเป็นไปอย่างราบรื่น สองต่อมาออกจะงง ๆ เลยเล่าไม่ได้ บทที่สอิบเก้าและยี่สิบออกท่องเที่ยวอีกครั้งราวกับลืมว่าเปิดโรงเตี๊ยม
สรุปคืออ่านแล้วงงมากเรื่องนี้ แต่เหห็นด้วยกับแนวคิดที่ให้ตัวละครออกกำลังกายนะ คำผิดก็เยอะมาก ที่สำคัญคือ ค่ะ คะ เจ้าค่ะ เจ้าคะ ซึ่งน่าจะเป็นคำผิดยอดฮิต
>>920 เองมาแก้และลงชื่อ
เรื่อง : ไลฟ์สไตล์เจ้าหญิงอัปลักษณ์ ( รอบสอง )
link : https://writer.dek-d.com/koko2476/writer/view.php?id=1547742
จำนวน : 27 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ
บทที่หก - บทที่สิบสี่ :
เริ่มด้วยเที่ยวเทศกาลโคมลอยต่อจากบทที่แล้ว พ่อไปหาที่บ้าน นางเอกถีบพ่อ มาอีกวันนางเอกจะออกเดินทางเพื่อไปฝึกเป็นแม่ทัพหญิง สามบทต่อจากนี้เป็นการเตรียมตัวก่อนออกเดินทางของนางเอก นางเอกเปิดร้านขายของตั้งชื่อร้านแปลก ๆ แม้แต่สาวใช้ยังรับไม่ได้ ( แปดบทนี้ จุดเด่นคือคำผิด บทที่เจ็ดถึงเก้าคิดว่านางเอกทำเกินไป ยังไงก็ไม่ควรถีบพ่อแบบนั้น บทที่สิบสองมีอโมติคอนหลุดมาซึ่งไม่เข้ากับยุคสมัยของนิยายอย่างมาก บทที่สิบสามมี 555 หลุดมาอันนี้คิดว่าเป็น ฮ่าๆๆ ดีกว่า )
บทที่สิบห้า - บทที่ยี่สิบ :
เริ่มด้วยคิดเมนูอาหาร ผ่านมาหลายบทแล้วนางเอกและะพลพรรคยังออกกำลังกายอยู่ ( เป็นแนวคิดที่ดีนะ ) หลังจากคิดเมนูกันเสร็จก็มาเปิดโรงเตี๊ยม กิจการเป็นไปอย่างราบรื่น สองบทต่อมาออกจะงง ๆ เลยเล่าไม่ได้ บทที่สิบเก้าและยี่สิบออกท่องเที่ยวอีกครั้งราวกับลืมว่าเปิดโรงเตี๊ยม
สรุปคืออ่านแล้วงงมากเรื่องนี้ แต่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ให้ตัวละครออกกำลังกายนะ คำผิดก็เยอะมาก ที่สำคัญคือ ค่ะ คะ เจ้าค่ะ เจ้าคะ ซึ่งน่าจะเป็นคำผิดยอดฮิต
ลงชื่อ โม่งหัดสับหมายเลข 27 เดี๋ยวไว้จะหานิยายมาสับอีกถ้าว่างจากแต่งของตัวเอง
>>923 บทแรก ๆ ยังไม่งงเท่าหลัง ๆ คิดว่าแรก ๆ วางบ้างแต่หลัง ๆ รีบเขียนไม่ได้วาง
KY กูไม่รู้อ่ะว่ามาถามห้องนี้ไหมเพิ่งเล่น5555 คือถ้าสมมติกูแต่งนิยายแนวจีนข้ามมิติ พวกมึงว่ามันจำเจไหม55 เท่าที่กูอ่านดูแนวที่กูจะแต่งเยอะมาก(กูแต่งเป็นแนวY) กูเลยลังเลว่าจะลงดีไหม...
เออ ไม่ยักกะสงสัยว่าได้ประโยชน์อะไรจากการเขียนนิยายเด็กดี
https://www.dek-d.com/board/view/3791055/
โม่งมึงไปเกรียนทำไม? สาระมันอยู่ตรงไหน?
มึงไม่แจ้งสนพหรือหน่วยคุ้มครองผู้บริโภควะ ตั้งกระทู้หาพ่องหรอ? ควาย
นิยายผมเคยโดนวิจารณ์ไปแล้ว ตอนนี้กำลังรีไรต์ใหม่อยู่ ถ้าเสร็จแล้วฝากวิจารณ์อีกรอบได้ไหมครับ?
https://www.dek-d.com/board/view/3791287/
นี่เรียกวิจารณ์เหรอวะ สำหรับกูมันคือการหาคำผิด มีช่วยแก้สำนวนบ้างนิดหน่อย นิดหน่อยจริง ๆ
ไม่รู้ว่ะ สำหรับกุพล็อตเนื้อเรื่องสำคัญกว่าสำนวนภาษานะ(แต่ก็ไม่ควรเหียกขนาดอ่านไม่รู้เรื่อง) กุว่าภาษามันเกลาได้ง่ายกว่าว่ะ ถ้าเนื้อเรื่องมันดีอยู่ล่ะ ค่อยๆมาอ่านใหม่แล้วแก้ก็ได้ แต่เนื้อเรื่องเหียกภาษาดีแค่ไหนก็ไม่ช่วยอ่ะ รีไรท์นี่ลำบากกว่าแก้ภาษาเยอะ แต่ถ้าเขาพอใจก็ โอเคล่ะนะ
ความจริงส่วนมากจะได้ช่วยตั้งแต่บทนำเลยฮะ หลายเรื่องมากที่เริ่มขึ้นมา พล็อต หรือโครงเรื่องย้อนแย้งกันเต็มไปหมด คาแรกเตอร์ตัวละคร
แต่ตรงนี้คือใช่ เหมาะสำหรับนักเขียนที่สนใจอยากรีไรท์มากกว่าจริงๆ มีเวลาว่างเลยจัดไป
บทนำนี่แหละจุดสำคัญ เปิดเรื่องยังไงให้น่าสนใจ บางคนพล็อตสนุก แต่มาตายที่บทนำ
ถูกบทนำสำคัญมากแหละ แต่สุดท้ายนิยายมันไม่จำเป็นต้องเพอเฟคทุกด้านเสมอไปหรอก (แต่ถ้าได้ก็ดี) แต่อย่างน้อยมันก็ควรมีด้านดี ดึงความสนใจกุมากพอที่จะมองข้ามจุดด้อยนิยาย ควรจะคุยกับตัวเองก่อนอ่ะอยากขายอะไรในนิยายแล้วเน้นด้านนั้นให้ดีไปเลย
พล็อต โครงเรื่อง และตัวละคร...
ต้องทำอะไรกับมันบ้างวะ
>>959 เอาตามที่กูเข้าใจนะ
พล็อต = กำหนดเหตุการณ์คร่าว ๆ เช่น ผู้กล้าต้องต่อสู้กับจอมมารที่เมืองหนึ่ง
โครงเรื่อง = เป็นการกำหนดเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในระหว่างนั้น หรือจะเรียกว่าทำให้พล็อตเกิดเป็นเรื่องราวก็ได้ เช่น ผู้กล้าต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์มากมายก่อนจะเจอจอมมาร ระหว่างนั้นคนในปาร์ตี้บาดเจ็บล้มตายไปหลายคน ซึ่งใครตายบ้าง ตายยังไง แล้วเรื่องราวจะดำเนินต่อไปยังไง
ตัวละคร = ตัวดำเนินเรื่อง ซึ่งสำคัญมากคือนิสัยตัวละคร เพราะนิสัยตัวละครตะเป็นตัวกำหนดแนวทางการดำเนินเรื่อง อย่างเช่นคนนิสัยใจร้อน อาจจะบุกไปเจอจอมมารโดยไม่วางแผนอะไรเลย คนนิสัยใจเย็น อาจจะทำอะไรรอบคอบหน่อย คนขี้เกียจ กะล่อน อาจจะหาทางพยายามบ่ายเบี่ยง คนขี้กลัว อาจจะทำอะไรติด ๆ ขัด ๆ ไม่กล้าเสี่ยง
จะหมดมู้ละ ไม่ใครจะสับเรื่องไหนเพิ่มอีกหรือเปล่าวะ
มีเรื่องขอให้ช่วยหน่อย พอดีว่าทำแพ๊คนิยายขายเป็นภาคย้อนอดีตแต่ทีมงานไม่ให้ผ่านบอกว่า "ให้ขายในช่วงตอนจบของเรื่อง"
ทั้งๆที่กุสรุปกับแก้ปมเฉพาะภาคนั้นไปแล้ว แล้วก็มีทิ้งท้ายเพื่อเปิดทางไปสู่เนื้อเรื่องหลัก กุแก้ไปสองรอบละ ยังย้ำแบบเดิม พอถามไปก็เงียบ
เลยอยากให้เพื่อนโม่งช่วยดูหน่อยว่าแบบนี้มันเป็นตอนจบไม่ได้หรอ
>>อันนี้สามประโยคท้ายตอนจบ
กาลเวลาเคลื่อนคล้อยเลื่อนไหลผ่านไป หนึ่งปี สิบปี ห้าสิบปี หนึ่งร้อยปี...
จนกระทั่งเด็กน้อยจากหมู่บ้านหาปลาเล็กๆได้พบเข้ากับหนังสือโทรมๆรุ่งริ่งเล่มหนึ่งซึ่งถูกคลื่นทะเลพัดมาเกยที่ชายหาด
แล้ววงล้อแห่งชะตากรรมครั้งใหม่ก็ได้เริ่มต้นหมุนขึ้นอีกครั้ง
ลิสต์นิยายที่กูจองไว้มีอะไรบ้างวะ จำได้แต่ Supreme เลื่อนขึ้นไปหาเจอแต่แจกันกับลูซิเฟอร์
ลงชื่อ เซฮุน หมดโปรหนึ่งแถมหนึ่งแล้ว
แปะกันลืม
https://writer.dek-d.com/bluesea25/story/view.php?id=880244 (Supreme ที่หนึ่งหมวดวิทย์)
https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523 (สาวใช้พันธุ์ดุ Maid-at-Arms ... ชื่อเรื่องเพราะดี)
https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849 (จอมราชันย์หลงยุค... ข้าขอคำชี้แนะ เตรียมรับมือ)
https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272 (Evolve ฟองเบียร์
Ky กูควรเฉลยที่มาของปมพระเอกในตอนบทนำหรือฟีดแบ็คย้อนหลังวะ คือปมนั้นกูก็บอกโต้งๆไว้ในเรื่องย่อแล้วนะ เพราะมันเป็นปมที่เป็นแก่นของเริ่องนะ ยกตัวอย่างหน่อยละกัน
เรื่อง ย่อ-ครอบครัวของ A ได้ถูกฆ่าล้างตระกูลด้วยฝีมือขององก์กรปริศนา A ที่เป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวและรู้เห็นเรื่องราวทุกอย่างในเหตุการณ์นั้นจึงตั้งมั่นว่าจะล้างแค้นให้ครอบครัว ด้วยการเข้าโรงเรียนเพื่อฝึกฝนฝีมือไขว้หาพลังจากสมบัติลับของโรงเรียนที่ผู้ชนะในงานประลองเวทประจำปีเท่านั้นจะได้รับ
เปิดบทนำด้วย เรืีองของพระเอกในอดีตครอบครัวถูกฆ่าล้างบาง แล้วตัวเองรอดมาได้เพราะยังเป็นเด็กตัวเล็ก 4-5 ขวบพ่อกับแม่เลยเอสตัวไปซ่อนในตู้ พระเอกเลยเห็นคนในบ้านถูกคนร้ายฆ่าตายต่อหน้าต่อตา
เริ่ม บท แรก คือฉากปัจจุบันที่พระเอกโตขึ้นและเป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนเวทมนตร์ แต่เปลี่ยนชื่อไปจากเดิม
บทสอง กล่าวถึงเหตุการในบทนำแบบผ่านๆ เป็นการย้ำเตือนว่าพระเอกยังยึดติดกับเรื่องนั้นและต้องการจะแก้แค้น แต่เพราะยังไม่แข็งแกร่งพอเลยต้องเปลี่ยนชื่อแล้วหลบมาอยู่กับญาติที่ต่างประเทศ
เรียงไทมไลน์แบบนี้ดีปะวะ
มีคำถาม
ถ้าขึ้นภาคใหม่ต้องเปลี่ยนคำโปรยไหม?
>>974 ขึ้นอยู่กับว่าภาคใหม่มึงเปลี่ยน Setting ไปขนาดไหน
บางเรื่องเวลาขึ้นภาคใหม่อาจจะแค่ Timeskip แต่ Setting เดิมก็ไม่ต้องเปลี่ยน
แต่บางเรื่องอย่างนิยายจีนที่กุเคยอ่านนี่ นี่ขึ้นภาคใหม่ = ไปผจญภัยที่ใหม่ แม่งต้องเปลี่ยนคำโปรยเลย คือเหมือนแค่ใช้พระเอกคนเดิม แต่เนื้อหาเป็นอีกโลกหนึ่งไปเลยอะ
ก็ตามที่ >>973 ว่านั่นแหละ กูแค่อยากรู้ว่าเปิดแบบนี้ดีไหม แต่ >>972 ถามก็ขออธิบายเพิ่มหน่อยเพื่อความเข้าใจ จุดเด่นคงอยู่ช่วงกลางๆระหว่างเดินเรื่อง เพราะพอรู้ว่าเป็นพล็อตโหล คนอ่านคงเดาตอนจบได้ส่วนใหญ่ แต่แบบจะค่อยๆเฉลยไปไงว่าทำไมองก์กรนั่นถึงมาฆ่าครอบครัว มีตัวละครที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทางใดทางหนึ่ง ความจริงเรื่องของสมบัติลับ ครอบครัวพระเอกมีความสำคัญยังไง คนในครอบครัวความจริงยังมีคนรอดอยู่แต่อาจพิการหรือความจำเสื่อมเลยจำกันไม่ได้คร่าว ๆ ประมาณนี้แหละ ตอนจบอาจจบแบบพระเอกล้างแค้นได้สำเร็จก็จริง แต่อาจมีจุดหักเหอื่น ๆ เช่น องก์กรนั่นยังมีสาขาหลงเหลืออยู่แต่เป็นคนละกลุ่มที่พระเอกล้างแค้นและไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับพระเอก ที่มาของสมบัติลับนั่นอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด
>>977 ก็นะ ถ้าจะให้พูดถึงบทเปิด กูก็คิดว่ามันธรรมดาอยู่ดี ขยายความเพิ่มว่า คือแนวนี้ถ้าจะเปิดเรื่องมันก็มีความโหลอยู่สองทาง คือเปิดมาด้วยเหตุการณ์ท่านพ่อถูกฆ่าในอดีตอย่างที่มึงว่า กับอีกทางหนึ่งคือเปิดมาโดยการให้พระเอกแสดงพฤติกรรมแปลกๆ แบบเย็นชา หรืออะไรอย่างนี้ และก็ค่อยไปคลายปมเอาทีหลังว่า ที่มันเย็นชาเพราะคิดจะล้างแค้นให้ท่านพ่อ
เรื่องแนวนี้โดยทั่วไปมันก็เปิดเรื่องกันประมาณนี้ล่ะ กูถึงบอกว่ามันธรรมดาทั่วไปไง ไอ้ที่มีคนมาชมว่าสุดยอดเนี่ย ออกจะเกินไปหน่อย
>>977 พล๊อตเปิดเรื่องโหลกุว่ายังโอ กุว่าโลกนี้พล๊อตมีไม่กี่แบบหรอก ท้ายสุดเรื่องทั้งหมดก็เกิดจากพระเอกต้องการทำไรสักอย่างแต่มีอุปสรรค ฉากเปิดที่มึงว่ามามันก็โอ แต่ที่สำคัญและจะให้เรื่องมึงโดดเด่นเปล่าคือการดำเนินเรื่อง ตัวละครเป็นไง สมเหตุสมผลเปล่า ระบบเวทมนต์ หักมุม หรือตัวร้ายมีเสน่ห์ขนาดไหน
โลกนี้มีพล็อตพื้นฐานราว 19-20 แบบ พล็อตเด็กดวกอย่างแนวโรงเรียนเวท เกมออนไลน์ ต่างโลกยุโรป จัดอยู่ในกลุ่มพล็อต Adventure (เสี่ยงตาย) หรือ Quest (การสำรวจ) แต่จีนโบราณในตอนนี้จัดอยู่กลุ่มพล็อต Love (รักโรแมนติก) หรือ Forbidden Love (รักต้องห้าม)
ปล.มีเป็น pdf แต่ไม่มีแปลไทย เก่าด้วย
>>982 กูสอนให้ ไม่อยากทำ hotlink เดี่ยวทางเว็บลบทิ้งแม่งอดดูเลย
1.เข้า google พิมพ์ 20 master plots pdf
2.มันอยู่หน้าแรก เข้าลิ้งก์ที่ขึ้นหัวว่า [PDF] และชื่อโดเมนคือ writerdigest (หนึ่งในเว็บสอนเขียนนิยายต่างประเทศ เชื่อถือว่าเว็บเด็กดี 100 เท่า)
3.อ่านเล่นหรือเซฟตามอัธยาศัย
>>985 อย่าลืม พล็อตพื้นฐาน 19-20 แบบเป็นแค่แนวทางเบื้องต้น มึงสามารถประยุกต์เนื้อเรื่องใหม่ได้ ตราบที่ยังอยู่บนพล็อตพื้นฐานแบบใดแบบหนึ่ง และที่กูบอกว่าเก่า เพราะเขียนขึ้นก่อนปี 2000 ตอนนั้นค่านิยมของตัวละครที่มีต่อเนื้อเรื่องอาจจะต่างจากตอนนี้ก็ได้ อย่างเมื่อก่อน ยึดค่านิยมผู้ชายต้องเข้มแข็ง ผู้หญิงควรอ่อนแอ แต่ปัจจุบันไม่จำเป็นแล้วก็ได้
ไหนๆแล้ว กูก็มีคู่มือสร้างตัวละครพื้นฐาน 45 แบบจากเว็บออนไลน์
หน้าแรก http://tvtropes.org/pmwiki/pmwiki.php/Literature/FortyFiveMasterCharacters?from=Main.MasterCharacters
พระเอก http://tvtropes.org/pmwiki/pmwiki.php/Literature/FortyFiveMasterCharacters-Heroes
นางเอก http://tvtropes.org/pmwiki/pmwiki.php/Literature/FortyFiveMasterCharacters-Heroines
ตัวประกอบ http://tvtropes.org/pmwiki/pmwiki.php/Literature/FortyFiveMasterCharacters-SupportCharacters
ที่มา https://www.amazon.com/45-Master-Characters-Creating-Original/dp/1599635348
ปล.การเขียนตัวละครสไตล์ญี่ปุ่น เกาหลี จีนอาจจะไม่ได้ยึดแนวทางนี้ เด็กดวกอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ
https://www.dek-d.com/board/view/3791248/ เห็นเมื่อวานมีคนเอาเฟสฝากนิยายมาแปะ เจอมู้ต้นเรื่องล่ะ
>>988 เอาตามตรง แบบนี้ไม่รุ่งหรอก เห็นได้ชัดว่าใครส่งนิยายอะไรมาก็โปรโมท คนกดไลค์ก็กระจึ๋งเดียว
ถ้าจะทำให้รุ่ง ต้องเปิดเพจ ทำคอนเทนต์ดีๆ ดึงดูดให้คนอ่านเข้ามาสนใจ เช่น สอนการเขียน สับนิยาย แล้วแทรกด้วยการแนะนำนิยาย เหมือนเพจหนังที่มีดังๆ อยู่หลายเพจอะ พอจะเห็นภาพไหม
ใกล้ครบ 1000 เม้นแล้ว เตรียมตั้งมู้ 12 เอาไว้แล้วยัง?
ไม่ลองแข่งมันด้วยทำเพจโม่งบน fb เลยล่ะ
มารเทาขยันโปรโมทแต่ไม่ขยันฝึกเขียนเพิ่มเติมเลย มันจะเอาดีแบบดอกปอบรึไง แต่ละอย่างที่ทำก็ไม่ค่อยจริงใจด้วย
ขอเลขสวยก่อนขึ้นมู้ใหม่
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.