กูยกตัวอย่างจาก >>437 นะ
tell : บรรยากาศในโรงเรียนร้างตอนกลางคืนเก่าและน่ากลัวมาก (เสริม : จนชวนขนลุกขนพอง)
show : พื้นไม้ที่วันดียืนอยู่เป็นสีทึมของไม้เก่าๆ เธอไม่รู้ว่าสมัยที่มันยังใหม่อยู่มีคนขัดมันให้มันหรือเปล่า หรืออาจจะเกิดจากการครูดขีดเสียดสีจากความเก่า พื้นของมันขรุขระมาก หากถอดรองเท้านักเรียนออกเหลือแต่ถุงเท้าแล้วเหยียบลงไปบนมัน เธอคิดว่ารองเท้าคงจะไปติดเสี้ยนไม้แล้วดึงออกยาก
ไม่เพียงแต่พื้นที่ขรุขระ หากมองไปตามทางเดินที่ทอดยาวไปสู่เมืองหน้า เธอจะเห็นกระดานที่ใช้ปูทำเป็นทางเดินแตกออกจากกันเป็นจุดๆ วันดีเดินเข้าไปมองภายในหลุมรอยแตกของกระดานไม้ มันเป็นสีดำมืดที่มองด้านในไม่เห็น ความมืดที่เหมือนข้างล่างเป็นหุบเหวที่ลึกล้ำ เธอไม่รู้มันสูงขนาดไหน มันอาจไม่สูงมากนักหรอก ก็นี่อาคารเรียนนี่นา เป็นชั้นหนึ่งด้วย ด้านล่างคงจะเป็นพื้นปูนหรือไม่ก็พื้นดินโดยตรง แต่พอคิดเช่นนั้นเธอก็กลัวเสียอีกว่าจะมีอะไรบางอย่างยื่นมือของมันออกมาจากใต้ช่องว่างนั้น อาจจะเป็นมือของปีศาจหรือไม่ก็ผี เธอไม่คิดว่าผีมีอยู่จริง เธอปฏิเสธมัน แต่ในใจเธอกลัวและก้าวหลบจากมันไปแล้ว
เธอเดินห่างออกจากหลุมสีดำมืดที่มองอะไรไม่เห็น จ้องมองเข้าไปในห้องเรียนที่ผนังและประตูสร้างขึ้นจากไม้ เช่นเดียวกับกระดานที่ใช้ทำพื้น มันเก่าและผุกร่อนเป็นเสี้ยนหนาม มองเข้าไปในห้องเรียนที่ดำมืด แม้จะไม่ได้มืดขนาดนั้น พอมองเห็นข้างในได้บ้าง แต่ในใจของเธอสร้างภาพหลอนขึ้น ข้างในอาจจะมีผียืนอยู่ก็ได้ แต่เธอคิดว่ามันอาจจะไม่มี เธอตรงเข้าไปกระชากประตูเปิด ประตูที่เก่าซมซ่อยึดติดกับบานจนแทบเปิดไม่ออก เธอกลัวว่าออกแรงมากกว่านี้เธอจะเผลอทำมันพัง แต่ตอนนี้เธอไม่สนหรอก เธอต้องพิสูจน์ว่าในห้องมีอะไรหรือเปล่า เธอไม่เชื่อหรอกพวกเรื่องผีแบบนั้น ถ้ากล้าก็ออกมาเลยสิ ผีน่ะ ถ้ากล้าก็ออกมาเลย!
ครื้ด! วันดีเลื่อนประตูเปิดออกได้ในที่สุด เธอรีบกวาดตามองไปรอบๆ ห้องเรียน แต่ในนั้นไม่มีใครอยู่เลย