Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับไอเดียบรรเจิดเพ้อฝันของเจ้าแม่ [ขอปฏิเสธรอบที่ 18]

Last posted

Total of 1000 posts

831 Nameless Fanboi Posted ID:cp4IZ7R7Z

ต่อฟิคเวียนในตำนาน >>>/webnovel/4218/154
-----------------------------

จากการแนะนำของท่านพี่ รู้สึกว่าบริษัทของนายตัวสำรองจะมาเป็นที่ปรึกษากฏหมายของโครงการที่กำลังจะทำร่วมกับเอ็นโจกรุ๊ป คอยดูแลเรื่องสัญญาและรักษาผลประโยชน์ทางฝั่งคิโชวอิน

แหม รักษากฎหมายงั้นเหรอ เป็นอาชีพที่เหมาะกับนายตัวสำรองดีจัง

“เรย์กะ ตัดสินใจได้รึยังว่าจะสั่งอะไร”

“งั้นเอาออเดิร์ฟเป็นข้าวตังหน้าตั้งกับยำส้มโอ ส่วนเมนคอร์สขอเป็นแกงมัสมั่นเนื้อ ต้มข่าไก่ กุ้งมังกรทอดขมิ้น แล้วของหวานเอาเป็นข้าวเหนียวมะม่วงก็แล้วกันค่ะ”

ฉันตัดใจจากแกงเขียวหวาน หมูผัดใบชะมวง และเป็ดซอสมะขามด้วยความยากลำบาก อะไรก็น่าทานไปหมด แต่ถ้าสั่งที่อยากทานทั้งหมดล่ะก็ น้ำหนักมันก็จะ...

อ๊ะ ขนมช่อม่วงกุหลาบนี่ดูน่าทานจัง จะสั่งเพิ่มดีมั้ยนะ แต่นายตัวสำรองอยู่ด้วยอ่า งั้นต้องสร้างภาพไว้ก่อนก็แล้วกัน

ท่านพี่สั่งตามที่ฉันพูดไป สั่งเพิ่มอีกนิดหน่อย แล้วก็ได้เวลาเข้าสู่การพูดคุยสัพเพเหระระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟ

ฉันนั่งฟังท่านพี่ไปคุยกับนายตัวสำรองไป ยิ่งฟังก็ยิ่งได้ยินข้อมูลดีๆของนายตัวสำรองออกมาเรื่อยๆ ลูกชายคนเดียวของบริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมายที่ใหญ่ติดอันดับ Top 5 ของประเทศบ้างล่ะ จับงานโครงการระดับร้อยล้านพันล้านบ้างล่ะ ทุกย่างก้าวดูมีแต่ความจริงจังมั่นคงสุดๆอ่ะค่ะ

นายตัวสำรองค้อมหัวรับคำชมของท่านพี่ พูดเสียงเรียบๆแบบถ่อมตัวว่ายังไม่เก่งขนาดนั้น

“ผมเองก็ต้องเรียนรู้อีกมากครับ”

“อย่าถ่อมตัวไปหน่อยเลยครับ คนที่มีความสามารถก็ต้องได้รับคำชมสิ” ท่านพี่หัวเราะน้อยๆ “คุณมิซึซากิเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับเรย์กะสินะ น้องสาวของผมไปสร้างความเดือดร้อนให้บ้างรึเปล่า ถ้ายังไงก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ”

“แหม ท่านพี่ล่ะก็…”

“ไม่หรอกครับ คุณคิโชวอินเป็นนักเรียนดีเด่น ได้รับคำชมจากอาจารย์มากมาย ถึงจะเป็นสมาชิกของ Pivoine แต่ก็ให้ความช่วยเหลือสภานักเรียนมาเป็นอย่างดีตลอด ทางผมต่างหากที่ต้องขออภัยที่ได้รบกวนคุณคิโชวอินไว้มากขนาดนั้น”

ว่าแล้วนายตัวสำรองก็ค้อมหัวให้ฉัน อุหวา ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ค่ะ

“ไม่ได้รบกวนอะไรเลยค่ะ ฉันเองต่างหากที่เต็มใจจะช่วยเหลือ การให้ความร่วมมือกับสภานักเรียนก็เป็นสิ่งที่นักเรียนซุยรันพึงกระทำไม่ใช่เหรอคะ”

“นั่นสินะ” ท่านพี่พูดยิ้มๆ

อาหารที่สั่งไปมาเสิร์ฟพอดี แต่ละอย่างใส่มาในชามกระเบื้องใบเล็กๆสีน้ำเงินเข้มบนถาดไม้ทรงสูงที่ดูสง่างาม พนักงานเสิร์ฟแนะนำว่าการเสิร์ฟแบบนี้เรียกว่าขันโตก

ยอดไปเลยค่ะ อาหารบนโลกนี้ช่างซับซ้อน ฉันเองก็ต้องเรียนรู้อีกมาก และเพื่อเป็นการเรียนรู้ เพราะฉะนั้นจะทานแล้วนะคะ

อร่อย อร่อยจังเลยค่ะ

ข้าวตังหน้าตั้ง น้ำจิ้มมีเนื้อกุ้งหวานๆเข้ากับซอสที่หวานๆเค็มๆมันๆ ทานคู่กับข้าวตังที่กรุบกรอบ มีผักชีด้วย ยอดเลย ยำส้มโอก็เปรี้ยวอมหวาน มีรสเผ็ดนิดหน่อยให้พอตื่นเต้น

แล้วเมนคอร์สอย่างมัสมั่นเนื้อก็เข้มข้น รสชาติของเครื่องแกงและกะทิเข้ากันได้ดีกับเนื้อที่หั่นมาได้พอดีคำ ต้มข่าไก่นี่ก็อร่อยชะมัดเลยค่ะหวานมันจากกะทิและเนื้อไก่ กุ้งมังกรทอดขมิ้นก็หอมเครื่องเทศ เขาเรียกว่าอะไรนะ ตะไคร้กับใบมะกรูดอย่างนั้นเหรอ อื้ออื้อ มีกระเทียมด้วยใช่มั้ยนะ

ไว้วันหลังนัดซากุระจังมาทานข้าวที่นี่ดีกว่า

ฉันปล่อยให้ท่านพี่กับนายตัวสำรองคุยกันไป แล้วหันมาจัดการกับข้าวเหนียวมะม่วงอย่างจริงจังคร่ำเคร่ง อร่อยจัง แต่ได้ยินว่ากะทิมีคอเรสเตอรอลสูง กินมากไปมันก็จะ....

ช่างมันละกัน กินๆไปก่อน เดี๋ยวไปวิ่งเอาออกทีหลัง

“เออใช่ เรย์กะ” ท่านพี่หันหน้ามาทางฉัน “จากนี้คุณมิซึซากิจะเข้ามาที่บริษัทเรา สัปดาห์ละสองครั้ง วันอังคารกับวันศุกร์ ยังไงก็ฝากด้วยล่ะ”

“ได้เลยค่ะ ท่านพี่” ท่านประธานมอบหมายงานมาให้แล้ว พนักงานอย่างฉันก็ต้องรับคำสั่ง

“ส่วนคุณมิซึซากิ ต้องการอะไรก็บอกได้เลยนะ จะข้อมูลหรืออะไรก็ถามเรย์กะได้”

“ขอบคุณมากครับ” นายตัวสำรองค้อมหัวให้

เอ วันอังคารกับวันศุกร์อย่างนั้นเหรอ....วันนี้วันจันทร์ งั้นก็พรุ่งนี้แล้วน่ะสิ
.
.
.

832 Nameless Fanboi Posted ID:cp4IZ7R7Z

จบมื้อเที่ยง ฉันกับท่านพี่ก็กลับบริษัท ระหว่างทางท่านพี่ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะอาหารร้านนั้นอร่อยจริงๆด้วยสินะคะ แหม ดีจัง

“ทีแรกนึกว่าเรย์กะไม่ค่อยสนิทกับคนของสภานักเรียนซะอีก แต่เห็นดูคุ้นเคยกันอยู่ก็ค่อยวางใจขึ้นมาหน่อย”

“ก็ไม่เชิงไม่สนิทหรอกนะคะ” ก็เข้าขากันได้ดีตามประสาผู้ชื่นชอบการชมรายการทีวีไดเร็คท์นั่นล่ะค่า

“เหรอ” ท่านพี่มองฉันยิ้มๆ “แล้วเรย์กะคิดว่าเขาเป็นยังไงบ้างล่ะ”

“มิซึซากิคุงน่ะเหรอคะ ก็เป็นคนจริงจัง หนักแน่น เอาการเอางาน เก่งกาจ แล้วก็ตรงไปตรงมาค่ะ”

“อือฮึ” ท่านพี่พยักหน้า “ถ้ายังไงก็ฝากดูแลรับรองเขาด้วยล่ะ”

“ค่า”
.
.
.
.
นายตัวสำรองมาเริ่มงานในวันรุ่งขึ้นจริงๆอย่างที่ท่านพี่บอก มาถึงก็หอบกระเป๋าที่น่าจะอัดแน่นไปด้วยเอกสารสัญญาและตำรากฎหมายเล่มหนาปึ้ก บรรยากาศดูจริงจังสุดๆจนไม่กล้าแหย่เล่นเลยล่ะค่ะ

ฉันนำทางนายตัวสำรองไปที่ต่างๆในบริษัท แนะนำให้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รู้จัก แล้วก็พาไปที่ห้องทำงานที่ท่านพี่ให้คนมาจัดไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว

ห้องทำงานของนายตัวสำรองอยู่ชั้นเดียวกับฉันเลยค่ะ เหตุผลคือจะได้ไปมาหาสู่กันสะดวก เวลาจะปรึกษางานจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นเดินลงให้มันลำบาก

ฉันชี้ให้ดูกระดาษที่แปะอยู่กับโต๊ะทำงานให้นายตัวสำรองดู เป็นกระดาษบอกเบอร์โทรศัพท์ภายใน สองเบอร์แรกเป็นเบอร์ต่อสายตรงเข้าห้องทำงานของฉันหรือของท่านพี่ นายตัวสำรองฟังแล้วก็พยักหน้าหงึกๆว่าเข้าใจแล้ว และเริ่มต้นทำงานทันที

เอาจริงเอาจังไม่เปลี่ยนเลยน้า

ฉันถอยออกมาแบบเงียบๆ ปล่อยนายตัวสำรองทำงานไป ฉันเองก็ต้องเริ่มงานของฉันบ้างล่ะค่ะ

มื้อเที่ยง ท่านไอระเดินเข้ามาหาฉันที่ห้องทำงาน ชวนไปทานข้าวที่ร้านอาหารใกล้ๆนี้ ฉันกำลังจะลุกขึ้นแต่นึกขึ้นได้ว่านายตัวสำรองมาทำงานแล้ว

“ขอชวนอีกคนไปด้วยได้รึเปล่าคะ”

“ตามสบายเลยจ้า”

“งั้นรอเดี๋ยวนะคะ”

ฉันกดโทรศัพท์ไปที่ห้องนายตัวสำรอง พอฝั่งนั้นรับสายฉันก็รีบพูด

“มิซึซากิคุง พวกฉันกำลังจะออกไปทานมื้อเที่ยง ถ้ายังไงก็ไปด้วยกันมั้ยคะ”

นายตัวสำรองตอบตกลง ฉันก็เลยนัดให้ไปเจอกันข้างล่าง พอไปถึงก็เจอนายตัวสำรองนั่งคอยอยู่ตรงล็อบบี้อยู่แล้ว พวกพนักงานสาวๆที่เดินผ่านไปผ่านมามองกันเหลียวหลังเลยล่ะค่ะ

“ขอโทษที่ให้รอนะคะ”

“ไม่เป็นไร” นายตัวสำรองพยักหน้า หันไปมองท่านไอระที่เดินตามหลังฉันมา “เอ่อ คุณ…”

“มินาสึกิ ไอระค่า” ท่านไอระแนะนำตัวเองอย่างร่าเริง “กำลังเรียนรู้งานบริหารจากคิโชวอินกรุ๊ปอยู่ค่ะ”

“มิซึซากิ อาริมะครับ” นายตัวสำรองก้มศีรษะให้อย่างอ่อนน้อม “มาเป็นที่ปรึกษากฎหมายของคิโชวอินกรุ๊ปตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอฝากตัวด้วยนะครับ”

“เรื่องนั้นคุณทาคาเทรุเล่าให้ฟังแล้วล่ะ” ท่านไอระโค้งหัวรับพลางยิ้มให้ “ขอฝากตัวด้วยเช่นกันนะคะ”

พวกเราเดินข้ามถนนมาที่ร้านอาหารจีนที่เปิดมานานพอสมควร ในร้านคนแน่นขนัด แต่ท่านไอระโทรมาจองโต๊ะไว้ล่วงหน้าแล้วจึงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

เมื่ออาหารมาถึงก็ได้เวลาศิษย์เก่าของซุยรันที่จะเม้ามอย ท่านไอระถามข้อมูลนายตัวสำรองเสียละเอียดยิบ นายตัวสำรองก็ตอบอย่างตรงไปตรงมาไม่ปิดบัง ฉันเองก็ช่วยเสริมบ้างบางจุด แต่ส่วนใหญ่จะง่วนอยู่กับเข่งติ่มซำมากกว่า

นายตัวสำรองถือบิลไปจ่าย แม้ฉันกับท่านไอระจะปฏิเสธ แต่เขาก็บอกว่ามื้อนี้จะเลี้ยงเอง แล้วก็เดินฉับๆไปที่แคชเชียร์ จัดแจงจ่ายเงินให้เสร็จสรรพ

แหม เป็นสุภาพบุรุษจังเลยค่ะ

833 Nameless Fanboi Posted ID:cp4IZ7R7Z

พวกฉันจะไปทานขนมกันต่อ แต่นายตัวสำรองปฏิเสธ บอกว่ามีงานค้างอยู่ต้องรีบตรวจสอบให้เสร็จ เย็นนี้จะได้เอาไปคุยกับท่านพี่ต่อ ทั้งที่เวลาพักเหลือตั้งเยอะแท้ๆ เอาการเอางานเหลือเกินค่ะ

ฉันกับท่านไอระมานั่งกันต่อที่ร้านเค้ก สั่งขนมกับเครื่องดื่มคนละอย่าง ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับการละเลียดฟองนมของลาเต้ ท่านไอระก็เอ่ยขึ้น

“เป็นคนจริงจังเอาการเอางานจังเลยเนอะ” ท่านไอระเขี่ยน้ำแข็งในแก้วโซดาเล่นๆ “น่าทึ่งมากเลยล่ะ”

“มิซึซากิคุงเป็นคนหนักแน่นจริงจังมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ”

“เรย์กะจังดูสนิทกับอาริมะคุงดีจัง นึกว่าคนของ Pivoine จะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับสภานักเรียนซะอีก”

“สมัยเรียนฉันเคยเป็นกรรมการนักเรียนมาก่อน ก็ได้เจอกับมิซึซากิคุงบ่อยๆน่ะค่ะ ก็รบกวนเขาไว้หลายอย่างเหมือนกัน”

ก็อย่างตอนไปไล่จับคนร้ายที่เขียนโต๊ะวาคาบะจัง หรือเม้ามอยกันเรื่องแคตาล็อคสินค้าจากทีวีไดเร็คท์อะน้า

“ชูสุเกะรู้เข้าหึงแย่”

“เอ๋” ไหงชื่อเอ็นโจโผล่มาในบทสนทนาอีกแล้วล่ะยะ

“ช่วงนี้เจ้าตัวก็ไม่อยู่ด้วย เห็นบอกจะไปเยอรมันตั้งสองเดือน กว่าจะกลับมาก็น่าจะเลยช่วงคริสต์มาสไปแล้ว” ท่านไอระเท้าคางมองฉันยิ้มๆ “น่าเสียดายเนอะที่ไม่ได้ฉลองคริสต์มาสด้วยกัน”

“เอ๋!?” เอ็นโจไปเยอรมัน....อะไรกันยะ ไม่เห็นบอกกันบ้าง “งั้นเหรอคะ”

“อื้อ เพิ่งบอกเมื่อสองวันก่อนเอง ตอนนี้คงไปถึงที่นั่นแล้วล่ะ”

แล้วท่านไอระเสียดายที่ไม่ได้ฉลองคริสต์มาสกับอีตานั่นด้วยเหรอคะ ….เฮอะ ไม่เห็นจะน่าเสียดายตรงไหน

ฉันจ้วงเค้กส้มเข้าปากอย่างหงุดหงิด บรรยากาศกำลังดีๆแท้ๆ แต่ชื่อของเอ็นโจก็ทำให้เสียอารมณ์ไปซะหมด แอบไปเมืองนอกเมืองนาโดยไม่บอกแบบนี้ก็คงไปหาสาวสวยผมทองตาฟ้าแหงๆ

เชอะ อยากไปไหนก็ไปเถอะย่ะ ตามสบายเลย

แม้จะมาทำงานที่นี่สัปดาห์ละสองวัน แต่ทุกคนในบริษัทก็รู้จักนายตัวสำรองกันหมด มีสาวๆแวะเวียนมาเดินผ่านหน้าห้องทำงานไม่ขาดสาย ก็นะ นายนี่ก็เป็นที่นิยมในหมู่สาวๆมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนี่นา

บางวันฉันก็ได้ไปนั่งทานข้าวกลางวันกับนายตัวสำรองสองคน เพราะท่านไอระไม่ว่าง บางวันท่านพี่ก็เรียกไปร่วมโต๊ะด้วย แล้วก็ได้เจอผู้บริหารจากที่อื่นๆอีก ท่านพี่ก็แนะนำนายตัวสำรองให้ได้รู้จักเหมือนกัน

นายตัวสำรองบุคลิกน่าประทับใจ ขยันขันแข็ง เอาการเอางาน เป็นที่เข้าตาของผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนจนได้รับคำชมมากมาย แต่ก็ไม่เคยเหลิงไปกับคำชมนั่นสักนิด นายตัวสำรองก็ยังเป็นคนเดิมที่ฉันเคยรู้จักอยู่นั่นเอง ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

ตอนฉันเอาแฟ้มเอกสารไปให้ ก็เห็นนายตัวสำรองใช้ผ้าขี้ริ้วที่หน้าตาดูคุ้นๆเช็ดถูโต๊ะตัวเองอยู่

“นั่นผ้าเมจิคัลรุ่นใหม่ใช่มั้ยคะ”

“อ๋อ ใช่ พอดีเห็นเขาโฆษณาว่าผ้ารุ่นใหม่ ถึงจะซักแล้วก็ไม่เสื่อมคุณภาพแบบรุ่นก่อนๆก็เลยลองสั่งมาใช้ดู”

นายตัวสำรองดูภูมิใจเสนอโต๊ะที่เป็นมันวับนี้มาก แหม มิน่าล่ะ แม่บ้านถึงมาพูดให้ฟังว่าโต๊ะสะอาดเอี่ยมอ่องทั้งที่ยังไม่ได้เช็ดถู ทุกจุดเนี้ยบนิ้งจนแทบไม่มีอะไรให้ทำเลย

“ฉันเองก็ลองใช้แล้วเหมือนกันค่ะ สมกับที่คุยไว้จริงๆ”

“มาตรฐานอเมริกาก็แบบนี้ล่ะนะ”

“แต่จริงๆมิซึซากิคุงไม่ต้องมาเช็ดโต๊ะแบบนี้ด้วยตัวเองก็ได้นะคะ ประเดี๋ยวแม่บ้านของที่นี่จะตกงานไปซะก่อน” ฉันเอ่ยแซว

“ก็..ก็แค่อยากลองประสิทธิภาพสินค้าดูน่ะ” นายตัวสำรองกระแอม ดูท่าทางจะเขินอยู่หน่อยๆ “สั่งมาแล้วก็ต้องใช้สิ”

พอฉันแนะนำให้สั่งน้ำยาเช็ดกระจกมาลองดู นายตัวสำรองก็รีบไปสั่ง แล้วเอามาพูดถึงประสิทธิภาพทันที ดูจะทึ่งเอามากๆด้วย

“รู้สึกกระจกในห้องทำงานจะดูใสขึ้นมาทันตาเห็นเลยล่ะ”

“แหม ดีจังเลยนะคะ”

ระหว่างมื้อกลางวัน นายตัวสำรองก็เล่าถึงตอนที่ไปอยู่ต่างประเทศให้ฟังด้วย ดูเหมือนจะได้ดูโฆษณาสินค้าทีวีไดเร็คท์ของทางนั้นเช่นกัน ก็เลยลองสั่งกรรไกรตัดกิ่งไม้แบบยืดได้สามตอนมาใช้ทำสวนด้วย แต่รู้สึกจะไม่เวิร์กเท่าไหร่ เพราะใช้งานยาก

ฉันนั่งเม้ามอยเรื่องครีมลบรอยขูดขีดบนโต๊ะกับนายตัวสำรองอย่างออกรส มีโปรซื้อ 1 แถม 1 ฉันก็คิดว่าจะสั่งมาลองใช้อยู่เหมือนกัน นายตัวสำรองก็แนะนำเครื่องทำน้ำแข็งไสแบบรวดเร็วให้ด้วย

อุเฮี้ยว มีสินค้าน่าสนใจเต็มไปหมดเลย
.
.
.

834 Nameless Fanboi Posted ID:cp4IZ7R7Z

วันแล้ววันเล่าผ่านไปเช่นนั้น แล้ววันคริสต์มาสก็ใกล้เข้ามา ฉันก็พบปัญหาอีกแล้วค่ะ

คริสต์มาสมันเป็นวันของคู่รัก แต่จนเวลาล่วงเลยมาถึงป่านนี้ ฉันยังไม่เคยใช้ช่วงเวลานี้กับใครเลยไม่ใช่รึไงค้าาาา!!!

ท่านพี่ไม่อยู่ที่บริษัทตั้งแต่บ่าย ส่วนท่านไอระตอนเลิกงานก็รีบกลับเลย คงจะมีนัดเดท ลูกน้องสาวๆในแผนกก็ทยอยกันกลับไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เหลือฉันนั่งเหี่ยวๆอยู่คนเดียวในห้องทำงาน

วันนี้วันศุกร์ด้วยนี่นะ เฮอะ คริสต์มาสอีฟที่ตรงกับวันศุกร์ง้านเหรอ ดูจะเป็นวันหยุดที่สนุกสนานจังเลยนะคะ คริสต์มาสอะไรกันว้า เจ้าพวกไม่นับถือในพระพุทธศาสนา ขอให้หิมะตกลงมาถล่มจนการจราจรเป็นอัมพาตไปเลยเถอะ

นั่งเซ็นเอกสารจนมาถึงแฟ้มสุดท้าย เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นห้องของนายตัวสำรองยังเปิดไฟอยู่ หนุ่มป็อบอย่างหมอนี่ไม่มีนัดเดทกับใครเขารึไงนะ

ฉันปิดแฟ้ม บิดขี้เกียจแล้วเดินออกจากห้องทำงาน เคาะประตูห้องนายตัวสำรองก็ได้รับคำตอบว่า “เชิญครับ” เลยเปิดเข้าไป

“ยังไม่กลับอีกเหรอคะ”

“ว่าจะกลับแล้วล่ะ แต่ขออ่านตรงนี้ให้เข้าใจก่อน”นายตัวสำรองเงยหน้าขึ้นมองแป๊บเดียวแล้วก็ก้มหน้าลงไปอ่านต่อ แต่ก็ชะงักไปนิดหน่อย ฉันไม่ปล่อยให้กริยานั้นรอดพ้น รีบซักถามทันที

“มีอะไรงั้นเหรอคะ”

“เปล่า แค่คิดว่าเธอยังไม่กลับเหรอ”

“ฉันก็ต้องเคลียร์งานเหมือนกันค่ะ”

“เหรอ” นายตัวสำรองเลิกคิ้ว “นึกว่าเธอมีนัดไปกับเอ็นโจซะอีก”

“เอ๋!!!” ฉันกระพริบตาปริบๆ “ทำไมฉันต้องไปกับท่านเอ็นโจด้วยล่ะคะ”

“อ้าว ก็พวกเธอคบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ”

“ห๊ะ!!!!” ฉันอ้าปากค้างทันที พอตั้งสติได้ก็รีบพูด “เปล่านะคะ ฉันกับท่านเอ็นโจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด มิซึซากิคุงไปฟังเรื่องเหลวไหลพวกนั้นมาจากไหนน่ะ”

“เอ้า ใครๆเขาก็รู้กันทั่ว”

“ไปกันใหญ่แล้วค่ะ ไม่จริงเลยนะคะ”

หนอย ข่าวลือพวกนั้นมาจากไหนกันห๊ะ!! ฉันกับเอ็นโจไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อยนะยะ แค่เพื่อนร่วมรุ่นเท่านั้นเอง

ฉันฉุนเฉียวนักล่ะที่ได้ยินข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงแล้วถูกเผยแพร่ไปผิดๆ แต่นายตัวสำรองพยักหน้าเนิบๆ ทำเหมือนเข้าอกเข้าใจแล้วก็ก้มลงไปอ่านเอกสารต่อ

เข้าใจอะไรของนายยะ ห๊า!!

ฉันกระแทกเท้ากลับห้องทำงานตัวเองแบบฉุนเฉียว เตรียมติดต่อหาเซริกะจังหรือคิคุโนะจังให้ช่วยแก้ข่าว แต่ยังไม่ทันจะหยิบมือถือมาพิมพ์ส่งเมล์ นายตัวสำรองก็เปิดประตูห้องทำงานฉันเข้ามาพอดี

“เออ คิโชวอิน เธอหิวรึเปล่า” นายตัวสำรองถามขึ้น “ฉันว่าจะลงไปกินอะไรที่ร้านใกล้ๆนี้ก่อนแล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ จะไปด้วยกันมั้ย”

“ขยันเกินไปแล้วนะคะ”

“ก็คุณทาคาเทรุจ้างซะแพงนี่นะ ก็ต้องทำงานให้คุ้มกันล่ะ”

ฉันมองนาฬิกาข้อมือ นี่ก็จะหนึ่งทุ่มแล้วด้วย ที่จริงก็กะจะกลับบ้านไปทานข้าวอะนะ แต่ก็ได้เวลาอาหารแล้ว ช่วยไม่ได้แฮะ งั้นทานนอกบ้านไปก็แล้วกัน

“งั้นเอาเป็นร้านราเมงแถวๆนี้ก็ได้ค่ะ”

“ราเมงงั้นเหรอ”

“ทำไมคะ”

“เปล่า แค่คิดว่าคุณหนูแบบเธอไม่น่าจะเข้าร้านพวกนี้”

“แหม จะดูถูกกันเกินไปหน่อยแล้วนะคะ” ฉันเชิดหน้าขึ้นหน่อยๆ

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่”

ฉันคว้ากระเป๋าสะพายที่เก็บเตรียมไว้ขึ้นมาถือ กะว่าทานเสร็จก็กลับบ้านเลย นายตัวสำรองไม่ได้เอากระเป๋าไปเพราะจะกลับมาทำงานต่อ

ระหว่างเดินลงไปด้านล่างฉันก็อธิบายถึงแรงค์กิ้งร้านราเมงแถวๆนี้ให้นายตัวสำรองฟัง หมอนั่นดูจะทึ่งมากที่ฉันรู้ละเอียดขนาดนี้ แล้วฉันก็อธิบายถึงซิกเนเจอร์ของแต่ละร้านว่าเป็นอย่างไรด้วย

“งั้น ฉันลองราเมงซุปเกลือบ้างดีกว่า”

“ฉันว่าซุปเต้าเจี้ยวก็อร่อยนะคะ”

“แต่โชยุก็ฟังดูไม่เลว”

“หมูชาชูของร้านที่กำลังจะไปก็อร่อยมากเลยค่ะ หอมซอสถั่วเหลืองที่ใช้หมักแล้วก็มีรสหวา….เอ๋!!.....”

คำพูดฉันชะงักไปเมื่อเห็นรถที่ดูคุ้นๆตาจอดอยู่ตรงทางออกของบริษัท เหมือนเคยเห็นที่ไหนนะ

ราวกับจะตอบคำถามฉัน เพราะประตูรถฝั่งคนขับเปิดออก ขายาวๆในกางเกงแสลคสีดำสนิทก็ก้าวออกมาจากข้างใน ก้าวเท้ามาหาฉัน แย้มรอยยิ้มที่สุดแสนจะคุ้นตาให้ แต่ฉันรู้สึกเย็นยะเยือกกับรอยยิ้มนั่นสุดๆ

“สายัณห์สวัสดิ์ครับ คุณเรย์กะ”

เอ็นโจ!!!!

--------------------------------------
นักต้มตุ๋นปะทะผู้รักษากฎหมาย ใครจะอยู่ใครจะไปเชิญต่อได้ตามสบาย

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.