เอ็นโจ Side Story >>>/webnovel/4218/228-230
---------------------
วันรุ่งขึ้น เรื่องที่คุณคิโชวอินมอบช็อกโกแลตให้ผมก็กลายเป็นข่าวใหญ่ เธอดูหงุดหงิดมาก สั่งห้ามไม่ให้ทุกคนพูดถึงเรื่องนี้ พร้อมกับยืนกรานด้วยว่ามอบให้ยูกิโนะ ฟังแล้วก็รู้สึกแห้งเหี่ยวอยู่เหมือนกันนะ
แต่เอาเถอะ ได้มีความสุขเล็กๆน้อยๆในช่วงเวลาสั้นๆก็ดีแล้ว จะให้คุณคิโชวอินโกรธมากไปกว่านี้ก็ไม่ได้ซะด้วยสิ
ดังนั้น เวลามีคนมาถามผมก็ต้องตอบไปตามความจริงว่าเธอให้ยูกิโนะ ไม่ใช่ผม
ฮารุกิเองก็มาวุ่นวายตั้งแต่เช้า แต่พอส่งยิ้มให้เป็นการข่มขู่ว่าอย่ามาจุ้นจ้านก็ถอยทัพกลับไป หลังจากนี้คงไปหาเรื่องคุณคิโชวอินแน่ๆ
ไอ้หมอนี่น่ารำคาญชะมัด
แม้จะเสียดายแค่ไหน แต่เพื่อเป็นการยับยั้งข่าวลือ ผมก็เลยเปรยๆเรื่องนี้ให้ยูกิโนะฟัง น้องเองก็ให้ความร่วมมือ ตามมาที่สโมสรเพื่อยืนยันเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
คุณคิโชวอินนั่งคุยกับน้องผม แต่ทำตาเขียวปั๊ดมองมาซายะที่ทำท่าซังกะตาย ถอนหายใจไป อ่านบทกวีไปด้วยความแห้งเหี่ยว
อ้อ รู้สึกว่าคุณทาคามิจิจะไม่ได้ให้ช็อกโกแลตวาเลนไทน์กับมาซายะนี่นะ
นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ดีของ “ยิ่งคาดหวังไว้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งช็อครุนแรงเท่านั้น”
มาซายะได้ช็อกโกแลตจากยูริเอะทุกครั้ง แต่ผมต้องนั่งรอเก้อ แถมยังต้องมาฟังมาซายะพูดว่าดีใจแค่ไหนที่ได้ช็อกโกแลตจากคนที่ชอบ พอเห็นหมอนี่เซื่องซึมไปก็ออกจะรู้สึกดีขึ้นที่มาซายะก็ต้องมาเผชิญชะตากรรมเดียวกันแล้ว
จงรับรู้ซะว่าในวันวาเลนไทน์ของทุกๆปี ผมรู้สึกยังไงบ้าง
แต่เห็นมาซายะมาถอนหายใจเฮือกๆ เอาแต่พร่ำเพ้อบทกวีเกี่ยวกับความผิดหวังเจ็บปวดทั้งหลายนี่มันก็น่ารำคาญอยู่เหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าไอ้อาการแบบนี้จะกินเวลาไปนานเท่าไหร่
แล้วคนที่ต้องมารับเคราะห์นั่งฟังมันก็คือผมไม่ใช่รึไง
.
.
.
.
ดูเหมือนใครซักคนบนฟ้าจะได้ยินคำพูดของผม ส่งเรื่องมาเบี่ยงเบนความสนใจของมาซายะจากเรื่องนี้ไปได้ในที่สุด แต่ก็แลกมาด้วยความวุ่นวายอีกระลอกใหญ่
ตอนที่เข้าห้องเรียนไปก็เห็นมาซายะโวยวายอะไรเสียงดังอยู่คนเดียว มีนักเรียนอื่นๆรายล้อมมุงดูเหตุการณ์
“อรุณสวัสดิ์ มาซายะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นน่ะ”
“จะมีอะไรอีกล่ะ! ทาคามิจิโดนกลั่นแกล้งไม่เข้าเรื่องแบบนี้อยู่น่ะสิ!”
มาซายะตวาดลั่น ชี้ให้ผมดูโต๊ะของคุณทาคามิจิที่มีข้อความหยาบคายเสียๆหายๆเขียนอยู่
“อ๋อ เรื่องนี้เองเหรอ” ผมพยักหน้าแบบเข้าอกเข้าใจ
เรื่องที่คุณทาคามิจิถูกเขียนโต๊ะหรือเอาโคลนมาป้ายเก้าอี้ก็เป็นเรื่องที่พบได้ในทุกวัน ทุกคนก็ดูจะชินชาและเมินเฉยด้วยว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยว หรือไม่ก็สาแก่ใจที่เธอบังอาจไปยุ่งกับมาซายะของพวกเธอ
“ยังไงซะก็ต้องหาตัวคนที่เขียนว่าร้ายบนโต๊ะทาคามิจิมาให้ได้”
“นั่นไม่ใช่งานของมาซายะ เป็นงานของคณะกรรมการนักเรียนไม่ใช่เหรอ” ผมสวนกลับไปเพื่อเตือนให้เขารู้ว่ากำลังจะชักนำความเดือดร้อนอย่างหนักมาให้คุณทาคามิจิอยู่ ถ้ามาซายะมายุ่มย่ามก็ยิ่งแต่จะเพิ่มปัญหาหนักเข้าไปใหญ่
ถ้ายอมฟังก็ดีน่ะสิ
“...หมอนั่นไม่ได้อยู่ที่นี่ตอนสำคัญแบบนี้ จะทำอะไรได้”
พอได้ยินว่ามิซึซากิไปทำธุระ มาซายะก็ทำเสียงเยาะๆแล้วเลิกสนใจเรื่องนี้ หันไปหาคุณทาคามิจิ ถามว่าใครเป็นคนทำ เธอตอบแบบเลี่ยงๆว่าไม่ทราบ
คู่กรณีมันเยอะเกินไปจนนึกไม่ออกเลยว่าฝีมือใคร
มาซายะไปตั้งหน้าตั้งตาหาตัวคนร้ายในหมู่นักเรียน ถามคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยว่าใครคือตัวการ ทำแบบนั้นคงจะมีคนยอมตอบอยู่หรอกนะ
ผมมองหาคุณคิโชวอิน เธอก็มามุงเหตุการณ์อยู่เหมือนกัน เห็นเธอค่อยๆขยับไปทางคุณทาคามิจิ เตือนว่าคาบเรียนกำลังจะเริ่ม ควรทำความสะอาดโต๊ะก่อนดีกว่า
“จริงด้วยนะคะ” คุณทาคามิจิสะดุ้งเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้แล้วลงมือขัดถูโต๊ะตัวเองต่อ ปล่อยมาซายะไปควานหาตัวคนร้ายที่ไม่มีท่าทีจะเจอ
ว่าแล้วเชียว ความสัมพันธ์ของคุณทาคามิจิกับคุณคิโชวอินเป็นไปในทางที่ดี แทบจะเรียกได้ว่าเป็นมิตรจริงๆด้วย
เมื่อก่อนคุณคิโชวอินจะแค่ยืนดูเฉยๆไม่เอาตัวเข้ามายุ่งเกี่ยวความวุ่นวาย อย่างตอนพวกซึรุฮานะเหยียบผ้าขนหนูก็ยังทำแค่มอง แต่ตอนนี้มาออกปากเตือนต่อหน้าคนเยอะๆ ก็เป็นการยืนยันว่าเธอห่วงเป็นใยคุณทาคามิจิไม่น้อย
ไปสนิทสนมกันตอนไหนนะ
คุณทาคามิจิขัดถูโต๊ะไปกับนักเรียนหญิงอีกคน ปัญหาก็ทำท่าจะคลี่คลายไปเหมือนสีเมจิคที่เลือนไปบนโต๊ะ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น
รุ่นพี่นาคาจิมะ อดีตประธาน Pivoine ปรากฎตัวที่ชั้นเรียนของม.5 คงจะสะดุดตาว่าที่นี่กำลังมุงอะไรอยู่ถึงได้มาดูเหตุการณ์กับเขาด้วย
เมื่อได้ฟังเรื่องจากคนอื่น รุ่นพี่นาคาจิมะก็ขมวดคิ้ว มองไปทางคุณทาคามิจิด้วยความไม่พอใจ
“นี่คุณอีกแล้วเหรอ คุณทาคามิจิ”