“ที่กะจะนัดเจอก็เรื่องนี้แหละค่ะ” ฉันสรุป ก่อนจะเริ่มปฏิบัติตามที่เรย์กะขอไว้ “เรย์กะฝากมาให้ค่ะ”
"จดหมายจากคิโชวอินงั้นหรอ..." คาบุรากิจากโลกคิมิดอลรับจดหมายก่อนจะพึมพำเบาๆ ฉันเห็นเนื้อหาไวๆได้ประมาณว่า "ถ้านายเห็นจดหมายนี้แสดงว่าการโดนรถชนได้ผล ตามมาได้เลย! แต่ถ้าบังเอิญเจอมันทั้งๆที่ฉันยังอยู่โลกเดิมหรือตายไปแล้วก็อย่าโดดเด็ดขาดนะ!” เขายิ้มเศร้าๆเมื่อมองข้อความส่วนที่เหลือที่ฉันไม่เห็น ก่อนจะเก็บจดหมายไป ไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย
พอถึงซุยรัน พวกเราก็เดินไปที่ห้องสโมสร คาบุรากิคิมิดอลนั่งลงตรงโซฟาตัวโปรด แล้วเหม่อลอย ฉันพยายามเอาอะไรให้กินก็ไม่ตอบสนองทั้งนั้น
ผ่านไปพักใหญ่ๆ คาบุรากิก็หยิบจดหมายขึ้นมา แล้วมองไปที่ข้อความในนั้นเนินนานราวกับอ่านมันซ้ำๆอยู่ ตั้งแต่เริ่มเรียนจนกระทั่งฉันเลิกเรียน และออกจากห้องสโมสร เขาก็ยังอยู่ท่าเดิม
ฉันให้จดหมายที่เรย์กะฝากมากับเอ็นโจช่วงพักกลางวัน บอกว่าเป็นสิ่งที่ฉันเขียนไว้ช่วงเสียความทรงจำ หมอนั่นก็หายไปไม่ปรากฏตัวอีกเลยตลอดทั้งวัน มีอะไรในจดหมายนั่นงั้นหรอคะ...
แต่ปฏิกิริยาของวาคาบะจังแตกต่างจากสองหนุ่มนั่นมาก พอรู้ว่าฉันกลับมาโลกเดิมก็สวมกอดทันที พร้อมพูดว่า “ยินดีต้อนรับกลับมานะคะ!” ด้วยเสียงร่าเริงแจ่มใส สมกับเป็นวาคาบะจังเลยนะคะ! ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นได้เสมอแบบนี้ เราตกลงกันว่าจะเลี้ยงฉลองการกลับมาที่บ้านวาคาบะจังวันอาทิตย์นี้ แทบรอไม่ไหวเลยล่ะค่ะ! คิดถึงน้องๆ คุณพ่อคุณแม่ของวาคาบะจังมากเลยค่ะ สถานที่พักใจสำหรับเรื่องน่าปวดหัวทั้งป่วงของฉัน
เมื่อวานเพราะหลงดีใจที่กลับมามากเกินไป ทำให้ประมาทไป! เผลอกอดทานุกินั่น ตอนนี้ทานุกิเลยคุยโม้ไปทั่วว่าลูกสาวขี้อ้อนติดพ่อมากแค่ไหน น่าหมั่นไส้ชะมัดเลยค่ะ!
ตอนนี้พอดูคะแนนตัวเองคร่าวๆ ฉันคิดว่าคงต้องรีบกลับไปเรียนพิเศษตามเดิมล่ะนะคะ จะว่าไป นายบ้าหมาส่งอะไรแปลกๆมาให้เรย์กะหรือเปล่านะ...
เมื่อฉันอ่านเมลล์ก็พูดอะไรไม่ออก เรย์กะดูจะปักใจเชื่อจริงๆว่าตัวเองคุยกับหมาอยู่ แนะนำแชมพูที่ใช้อีกต่างหาก ของคนกับหมานี่จะเหมือนหรอคะ...
แถมเรย์กะคิดว่าเป็นเรื่องปกติของโลกนี้ด้วยแหะ พอคุยๆไป นายบ้าหมาก็ดันบ้าจี้ตาม แย่แล้วค่ะ สงสัยกลับไปเรียนคงต้องเคลียร์กันอีกเยอะ
ช่วงพักกับช่วงเลิกเรียนเป็นเวลาที่ฉันจะทำตามคำขอของเรย์กะ สวมวิญญาณบุรุษไปรษณีย์แจกจดหมายให้กับเพื่อนๆ
พอแจกจดหมายที่เรย์กะเขียนไว้ให้ หลายคนถึงกับร้องไห้ออกมาเลยค่ะ อย่างพวกเซริกะจังก็มารุมกอดฉันด้วยน้ำตาซึม ปลอบประโลมอยู่หลายครั้งกว่าจะกลับสู่สภาพปกติได้
เรย์กะรักโลกนี้จริงๆนะคะ
ถึงจะรู้สึกเหงาๆอย่างประหลาด แต่ก็อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกไปพร้อมๆกันนะคะ
ตอนนี้ทุกอย่างที่ฉันต้องการมาตลอดอยู่ตรงหน้าแล้ว ชีวิตเดิม เพื่อนและครอบครัวของฉัน
แต่คาบุรากิไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย...
ฉันเดินออกจากโรงเรียน เหม่อมองรถที่ขับไปมา
โดนรถชนทำให้ทะลุมิติได้จริงๆสินะ...
"จะทำอะไรน่ะ!" มีใครสักคนรัดตัวเธอไว้ "อยากตายหรือไงกันฮะ!!!"
เสียงนี้มัน "ท่านคาบุรากิ?"
ฉันพยายามเลี้ยวคอเหลือบมองอย่างยากลำบาก คาบุรากิจริงๆด้วยสินะ ฟื้นตัวเรียบร้อยแล้วหรอคะ
“คิดจะทำอะไรน่ะ!” เขาถามย้ำอย่างบูดบึ้ง
“ยืนชมวิวค่ะ”
ฉันแค่มายืนรำพึงรำพันระลึกความหลังเองค่ะ คาบุรากิเวอร์ชั่นไหนก็ชอบโผล่มาขัดอารมณ์โศกเศร้าของสาวน้อยอยู่เรื่อยเลย ...
คาบุรากิดูท่าทางไม่ไว้ใจนัก จับตัวฉันเดินห่างจากถนน
ถึงจะกลับมาโลกเดิมได้แล้ว แต่เมื่อนึกถึงอีกโลกก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ถ้าคาบุรากิกลับโลกเดิมแล้วเห็นการทุจริตของตระกูลคิโชวอินอาจจะจัดการก็ได้นี่นา ฉันไม่อยากให้ตอนจบยังเป็นเหมือนเดิมทั้งๆที่เรย์กะเปลี่ยนไปขนาดนั้นแล้ว
ถึงอ่านจากบันทึกจะดูเข้ากันได้ดีก็เถอะ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะสนิทพอยอมทนยอมช่วยเรื่องทุจริตของตระกูลคิโชวอินนี่นะ
“นี่! ห้ามมาเหม่อลอยใกล้ถนนนะ!!!”
จักรพรรดิโวยวาย พร้อมดึงฉันให้ห่างจากถนนยิ่งกว่าเดิม แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเอง หวาดกลัวเกินเหตุไปแล้วนะคะ แต่การปกป้องอย่างตรงไปตรงมาของเขาก็เป็นเสน่ห์ที่ทำให้เป็นพระเอกที่ได้รับความนิยมอยู่นี่นะ