ต่อจาก >>141-145 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
วันนี้เขียนรวดเดียวถึงเกือบตีห้า อาจมีมึนนิดหน่อยนะคะ กะลงก่อนนอน 5555
...............
ฉันขึ้นมาบนรถคาบุรากิ ถึงจะเคยนั่งมาหลายครั้งแล้วก็เถอะค่ะ แต่ก็รู้สึกไม่ชินยังไงไม่รู้ แต่คงเพราะอีกฝ่ายเป็น “คาบุรากิ มาซายะ” ที่ถอดแบบมาจาก Kimi Dolce อย่างแท้จริง (โลกฝั่งนู้นดูเหมือนกับในมังงะมากกว่าเยอะเลยล่ะนะคะ) แถมจากคำให้การของคาบุรากิ เขาเคยบอกว่าคาบุรากิคนนั้นทำตัวน่าเบื่อนี่ อะไรที่ตรงข้ามกับความคิดบ้าบอหลุดโลกของหมอนั่นน่าจะเป็นสิ่งที่ดี
แต่! ไม่รู้ทำไม คาบุรากิผู้เป็นพระเอกมังงะคนนั้นก็เปลี่ยนไป เท่าที่อ่านในบันทึกที่ “เรย์กะ” อีกคนเขียนไว้ให้ฉัน ดูเหมือนจักรพรรดิเริ่มก้าวสู่เส้นทางที่ใกล้เคียงคาบุรากิในโลกนี้มากขึ้นทุกที... ยังดีที่การกระทำยังไม่น่าจะเกินคอมมอนเซ้นส์ของคนทั่วไปแบบคาบุรากิอีกคน
แต่ถึงแม้ตัวตนของคาบุรากิที่ฉันรู้จักจะปราศจากสามัญสำนึกแบบคนปกติจนทำให้ปวดหัวก็เถอะ ฉันก็อยากให้เขากลับมาโลกนี้อยู่ดี... ไม่สิ ฉันอยากอยู่โลกเดียวกับเขา
พอเข้าใจสิ่งที่เรย์กะทำแล้วค่ะ ถึงแม้โลกฝั่งคิมิดอลจะเลวร้ายแค่ไหน แค่เธอก็เลือกที่จะกลับไปหาเอ็นโจอยู่ดี
ถ้าฉันอยู่ในโชโจวมังงะจริงๆล่ะก็ แม้สุดท้ายจะเจออุปสรรคมากแค่ไหน สุดท้ายทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยความรักลึกซึ้ง! แต่โลกนี้กลับดูสมจริงประหลาดๆจนไม่รู้ว่าเหตุการณ์โรแมนติคในมังงะจะเกิดขึ้นได้หรือเปล่า... แถมถ้าเกิดได้จริง ฉันที่เป็นตัวร้ายก็คงไม่มีทางลงเอยกับพระเอกหรอกมั้งคะ
ตัดใจ...ดีกว่าไหมนะ แต่ก็อดมีความหวังไม่ได้ ไม่รู้ว่าครั้งนี้เขาจะตามฉันมาหรือเปล่านะคะ ตอนนั้นเขาก็กลับมาหาฉันนี่นา ถึงฉันจะไม่ได้รู้ตัวเลยก็เถอะ
ตอนที่ฉันยอมถูกรถชน ฉันแค่คิดว่าตัวเองต้องตาย แต่ไม่คิดว่าจะยังมีชีวิตอยู่ แถมดันกลับโลกเดิมได้ซะงั้น... ไม่รู้คาบุรากิจะเป็นยังไงบ้างนะ ตอนนี้เขาอยู่โลกนู้นคนเดียวจะไหวหรือเปล่า จะได้เจอกับเรย์กะโลกคิมิดอลไหมนะ อยู่คนเดียวได้ไหม คงไม่ทำอะไรบ้าๆหรอกใช่ไหมคะ
“เหม่ออะไรน่ะ”
“เอ๊ะ ขอโทษค่ะ”
“คิดถึงชูสุเกะโลกนั้นอยู่งั้นหรอ”
เรื่องนั้นอีกแล้วหรอ... แต่เรย์กะก็ชอบเอ็นโจคิมินี่เนอะ แถมอาการน่าจะเยอะกว่าที่เขียนอย่างซึนๆไว้ในหนังสือเล่มนั้นแน่ๆ ยังหลอนภาพเอ็นโจผมทองใต้เตียงอยู่เลยนะคะดีที่ไม่เอาไว้ใต้หมอน แต่เคยได้ยินว่ามีพิธีที่หากเอารูปใครไว้ใต้เตียงจุดเดียวกับหมอน จะฝันเห็นคนนั้นได้อยู่นะ เรย์กะคงไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นหรอกใช่ไหมนะคะ
ผ่านไปสักพักคาบุรากิก็พูดขึ้น “ต่อจากนี้ไป ฉันจะมารับส่งเธอเอง”
“เอ๋?!”
“ป้องกันการฆ่าตัวตายน่ะ”
ยังปักใจว่าที่ฉันเกือบตกบันไดตอนนั้นจงใจอยู่งั้นหรอคะ แล้วมันควรพูดตรงขนาดนั้นไหมคะ แถมถ้าคิดจะฆ่าตัวตายก็มีที่อื่นให้ทำอีกเยอะ แต่นึกถึงคาบุรากิสมัยอกหักจากท่านยูริเอะ เอ็นโจก็นั่งรถรับส่งไปกับคาบุรากินี่นะ
หมอนั่นจ้องฉันจริงจังด้วยตาดำขลับราวกับกลัวว่าฉันเป็นเด็กมีปัญหาพร้อมเอาหัวโขกฆ่าตัวตายได้ตลอดเวลา น่ากลัวนะคะ! จะว่าไปตั้งแต่ออกจากบ้านมา หมอนั่นจ้องอยู่ท่านั้นตลอดเลยงั้นหรอ
ไม่ได้การล่ะ! รีบเคลียร์ให้ชัดๆเลยดีกว่า
“ฉันไม่คิดจะทำอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ และฉันคือเรย์กะของโลกนี้เองค่ะ”
“อือ คิดได้อย่างนั้นจริงๆก็ดีแล้วล่ะ ต่อจากนี้ไป เราคงต้องอยู่และเป็นคนของโลกนี้”
“...”
ยังไม่เข้าใจอีกหรอ ลำบากจังวุ้ย
“ฉันหมายถึงฉันเพิ่งทะลุมิติกลับมาค่ะ”
“หา?!”
คาบุรากิตกใจจนลุกขึ้นแล้วหัวชนหลังคารถอย่างจัง แม้แต่คนขับรถก็ตกใจ รีบแวะจอดแล้วหันมาดูพวกเรา พร้อมเสนอให้ไปโรงพยาบาล แน่นอนว่าเขาปฏิเสธทันทีพร้อมกุมหัวตัวเอง
ท่าทางเจ็บน่าดูเลยนะคะ
“เป็นอะไรไหมคะ”
“ธะ...เธอคือคิโชวอินที่เคยอยู่โลกนี้น่ะนะ”
“อย่างนั้นแหละค่ะ”
“กลับมาตั้งแต่ตอนไหน...”
“เมื่อวาน ตอนเช้าค่ะ”
“งั้นตอนนั้น เมื่อวาน...” คาบุรากิพูดด้วยท่าทางตกตะลึง หน้าเขามีสีแดงจางๆปรากฏขึ้น
ฉันเอะใจอะไรบางอย่าง เมื่อวานสิ่งที่เขาทำ เพราะคิดว่าฉันเป็นเรย์กะ จะว่าไป แต่ละอย่างก็... ไม่สิ อย่าคิดเรื่องนี้ดีกว่านะคะ