เอ็นโจ Side Story >>>/webnovel/4018/932-935
---------------------------------------
หลังงานวันเกิดยูกิโนะ ผมเข้าไปขอบคุณเธอที่สละเวลามาร่วมงาน เล่าว่ายูกิโนะชอบของขวัญที่คุณคิโชวอินให้ไปมากๆ เห่อขนาดเอาไปใช้ในคืนนั้นเลย คุณคิโชวอินก็ยิ้มแย้ม ดูปลื้มอกปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง
ยูกิโนะชอบพวกสัตว์ทะเล อยากเลี้ยงปลาเขตร้อนถึงกับอ้อนขอปู่กับย่าว่าอยากเลี้ยง พอเล่าเรื่องนี้เธอก็ยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้นไปอีก
ผมหลีกเลี่ยงที่จะเล่าเรื่องนอกจากนั้น ก็เลยไปเล่าเรื่องมาซายะหัวร้อนกับการแก้ปริศนาห่วงกลจนถึงเช้าแทน คุณคิโชวอินก็ถามมาอีกนิดหน่อยพอเป็นพิธี พอบอกว่ามาซายะแก้ได้สำเร็จ แต่ก็เส้นเลือดตาปูดออก เธอก็ทำหน้าแปลกๆที่เหมือนไม่รู้จะหัวเราะหรือทำหน้านิ่งๆดี
“แล้วแม่ก็ฝากมาบอกด้วยว่าอยากให้คุณคิโชวอินมาเที่ยวบ้านอีกนะ”
ผมลองเอ่ยคำพูดที่ยังไงก็รู้ผลลัพธ์กันดีอยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามคาด
“ขอบคุณมากค่ะ ไว้ถ้ามีโอกาสนะคะ”
เธอโค้งหัวให้แล้วลุกขึ้นจากที่นั่ง ไปทักทายคนอื่นแล้วไปจากห้องสโมสร ทิ้งให้ผมนั่งยิ้มแห้งๆอยู่คนเดียวที่กระต่ายหนีไปอีกแล้ว….
ว่าแล้วเชียวว่าต้องถูกปฏิเสธ แต่ก็อยากชวนดูน่ะ
.
.
.
.
ใกล้เข้าสู่วันวาเลนไทน์ สาวๆในโรงเรียนก็จับกลุ่มคุยกันเรื่องช็อกโกแลตและจะให้ใครบ้าง ชื่อของผมกับมาซายะก็เป็นบุคคลลำดับต้นๆที่พวกเธอเหล่านั้นต้องการจะให้ แต่พวกผมไม่ได้ต้องการเลยซักนิด
จะแบรนด์ดังแค่ไหน ดีวิเศษอย่างไร ก็ไม่มีค่าเท่า “ใคร” เอามาให้หรอก
มาซายะเองก็เทียวไปหาคุณทาคามิจิ ท่าทางกระตือรือร้นออกนอกหน้าว่าอยากได้ช็อกโกแลตจากเธอจะแย่อยู่แล้ว
ไม่รู้ว่าคุณทาคามิจิจะให้หรือไม่ แต่ผมเองก็ควรจะทำอะไรซักอย่างเพื่อปีนี้จะได้ไม่ต้องรอเก้ออย่างที่ผ่านมาอีก
ได้ยินจากคนอื่นๆว่าคุณคิโชวอินไปปะทะคารมกันเล็กน้อยกลับกลุ่มพวกคุณซึรุฮานะ เรื่องที่มาซายะไปรับไปส่งคุณทาคามิจิถึงบ้าน นั่งรถมาโรงเรียนด้วยกันแทบทุกเช้านั้น ย่อมทำให้อิจฉาริษยาโกรธแค้น และในเมื่อโกรธแค้นก็ต้องหาที่ลงเพื่อระบายออกไป
พวกนั้นเข้าใจว่าคุณคิโชวอินเป็นกิ๊กกับมาซายะอยู่ ด้วยความที่เป็นศัตรูกันเนิ่นนานมาก็เลยเข้าไปเยาะเย้ยถากถางเรื่องมาซายะหันไปสนใจคุณทาคามิจิแล้ว คุณคิโชวอินคงต้องตกกระป๋องไปตามระเบียบ
เฮ้อ ยัยพวกนี้นี่นะ….
คุณคิโชวอินไม่ได้เป็นของมาซายะซักหน่อย พูดจาไร้สาระกันจริงๆ
รู้สึกว่าพวกคุณซึรุฮานะจะดูถูกเธอเรื่องวันวาเลนไทน์ที่ต้องอยู่อย่างเดียวดาย ผมจะยอมให้ใครมาสบประมาทคุณคิโชวอินไม่ได้หรอก
จะช่วยก็แล้วกัน
.
.
.
.
ผมไปหาคุณคิโชวอินที่ห้อง เรียกเธอให้ออกมาหาต่อหน้าคนจำนวนมาก บอกว่ายูกิโนะป่วยเข้าโรงพยาบาลอีกหน คุณคิโชวอินดูจะตกใจเอามากๆ รีบถามอาการของน้องผมเป็นการใหญ่
“ก็แค่เข้าเผื่อๆไว้เท่านั้นแหละนะ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก”
“ที่ไหนล่ะคะ แค่ต้องเข้าโรงพยาบาลก็ลำบากแย่แล้วล่ะ”
เธอทำท่าดุผมหน่อยๆที่ผมดูไม่ค่อยสนใจยูกิโนะมากเท่าไหร่แบบตอนนั้น คุณคิโชวอินแค่ได้ยินว่ายูกิโนะป่วยก็ร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว ผมเลยทำสีหน้าที่ดูลำบากใจเสริมขึ้นมา
“อา อื้อ คือว่านะ ต้องขอโทษด้วย ก่อนเลิกเรียนช่วยเขียนข้อความให้กำลังใจยูกิโนะให้หน่อยได้มั้ย”
“ข้อความเหรอคะ”
คุณคิโชวอินเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยิน ผมเลยพูดต่อ
“อื้อ คราวนี้เจ้าตัวงอแงไม่อยากเข้าโรงพยาบาลเพราะอาการกำเริบแค่นิดเดียว แล้วก็อารมณ์บูดมาตลอดเลย อยากให้คุณคิโชวอินเขียนจดหมายให้กำลังใจหน่อย เผื่อจะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง”
“แหม...”
เธอพยักหน้าตกลงแบบแข็งขันแทบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย แถมพอบอกว่าจะตอบแทนให้ก็รีบปฏิเสธว่าไม่เป็นไร
ถ้าเพื่อทำให้ยูกิโนะมีรอยยิ้มแล้วล่ะก็ อะไรเธอก็คงทำทั้งนั้น
ก็น่าน้อยใจอยู่เหมือนกันนะ
.
.
.
.
เลิกเรียน ผมไปหาคุณคิโชวอินที่ห้อง คุณคิโชวอินพอเห็นผมก็รีบยื่นซองจดหมายให้ ท่าทางจะร้อนใจมากจนลืมคิดไปว่าการทำแบบนี้ในช่วงใกล้วันวาเลนไทน์ก็ไม่ต่างอะไรจากการยื่นจดหมายรักให้เลย
สายตาคนที่มองมาเป็นจำนวนมาก น่าจะสร้างข่าวลือให้คุณซึรุฮานะหุบปากได้
เท่านั้นยังไม่น่าจะพอ ผมเลยดึงเธอไว้ด้วยเรื่องของยูกิโนะ เดินเล่าอาการให้ฟังไปตลอดทางที่ไปลานจอดรถ คุณคิโชวอินฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ มองจากสายตาคนนอกก็เหมือนกำลังกลับบ้านด้วยกันนั่นล่ะ
จะลือกันไปเยอะๆก็ได้ ตามสบายเลยนะ
ผมมองหน้าด้านข้างของเธอ คุณคิโชวอินที่ตั้งใจฟังในสิ่งที่ผมพูด มองสบตาไม่เลี่ยงหลบ แค่ได้เดินข้างๆก็รู้สึกมีความสุข ตัวเบาล่องลอยเหมือนอยู่ในฝัน
แต่ความฝันสิ้นสุดลงเมื่อมาถึงลานจอดรถ ความเป็นจริงก็ปรากฎให้เห็นตรงหน้า
ยุยโกะนั่งรออยู่ในรถ จะไปเยี่ยมยูกิโนะพร้อมกัน
ผมหันไปขอบคุณเธอเรื่องจดหมาย โบกมือลาแล้วขึ้นรถไป
.
.
.