.
.
.
.
.
“ไง ชูสุเกะ”
ฉันทักอย่างเคยเมื่อเปิดประตูเข้าไปข้างใน วางของลงบนโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆกันแล้วลากเก้าอี้ไปนั่งข้างๆ
“วันนี้ฉันกับคิโชวอินไปดูยูกิโนะวิ่งแข่งมา ได้ที่หนึ่งซะด้วย ยูกิโนะวิ่งเพื่อนายเต็มฝีเท้าเลย ฉันถ่ายวิดีโอไว้ให้ วางอยู่ตรงนี้นะ”
ฉันตบลงบนม้วนเทปที่เพิ่งวางกับโต๊ะข้างเตียงไป
“เดี๋ยวนี้ยูกิโนะสุขภาพแข็งแรงขึ้นแล้วนะ มาขอให้ฉันช่วยสอนวิธีออกกำลังกายแบบเบาๆให้ ถ้านายอยากเห็นก็อัดเทปไว้ด้วยนะ ให้คิโชวอินถ่าย แต่ฝีมือไม่ได้เรื่องเลย ภาพสั่นกับเบลอตั้งเยอะ”
ฉันหัวเราะ
“เออใช่ แล้วตอนเย็นฉันเลยพาสองคนนั้นไปเลี้ยงฉลอง ยูกิโนะเป็นคนเลือกร้านเอง แต่คิโชวอินทำหน้าแปลกๆตลอดเลย พอถามก็บอกว่าเคยมากับยูกิโนะแล้วก็นาย แอบหนีไปเที่ยวโดยไม่บอกฉันเหรอ”
ฉันกอดอก ทำท่าเคร่งขรึม เอนหลังพิงพนักเก้าอี้
“แล้วทีมฟุตบอลที่นายเชียร์ก็แพ้ทีมที่ฉันเชียร์ยับเลยนะ นายต้องเลี้ยงข้าวฉันแล้วล่ะ ร้านราเม็งแบบที่ต้องต่อคิวกินเป็นชั่วโมงก็ดีเหมือนกันนะ”
ฉันหยิบนิตยสารขึ้นมาพลิกหน้าที่คั่นไว้แล้วก็กางให้ดู
“วันนี้ฉันชวนคิโชวอินมาหานายด้วย แต่เธอไม่ยอมมาอีกแล้ว ผู้หญิงอะไรใจดำจริงๆ”
ฉันเก็บนิตยสารเข้ากระเป๋า
“แต่ไม่มาก็ดีแล้ว ฉันขี้เกียจปลอบ พอเห็นผู้หญิงร้องไห้ฉันก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน ยูกิโนะพอเห็นคิโชวอินร้องไห้ก็ร้องด้วย วุ่นน่าดูเลยล่ะ ขืนยัยนั่นมาอีกก็คงเอาแต่ร้องไห้แหงๆ”
ฉันถอนหายใจ รู้สึกเหนื่อยหน่ายเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น
“เธอคงกลัวนายน่ะ สภาพน่าเกลียดชะมัด มีแต่สายอะไรต่อมิอะไรก็ไม่รู้ เสียบทั้งปากทั้งจมูกทั้งแขน ฉันเห็นฉันยังกลัวเลย”
ฉันวางมือลงบนแขนชูสุเกะ มันเล็กลีบลงไปแบบเห็นได้ชัดมาก
“กำลังฝันดีอยู่เหรอ คงเป็นฝันที่สนุกมากเลยใช่มั้ย นายถึงไม่ยอมตื่นซักที”
เสียงจากเครื่องอะไรซักอย่างที่หมอบอกว่ามันช่วยพยุงอาการของชูสุเกะไว้ดังขึ้นเป็นจังหวะเหมือนกำลังตอบคำถามฉัน
“หมอบอกว่าคนที่อาการโคม่าไม่มีความฝัน แต่นายนอนนานขนาดนี้ ต้องฝันดีอยู่แน่ๆ ตื่นมาเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้มั้ย”
ขอบตาฉันเริ่มรู้สึกร้อนผ่าว ฉันใช้หลังมือขยี้ สูดลมหายใจลึกๆ
“ที่ขยี้ตาเพราะฝุ่นมันเข้าตาน่ะ ไม่ได้ร้องไห้หรอกนะ”
ฉันต้องเป็นที่พึ่งให้สองคนนั้น จะมาทำตัวอ่อนแออย่างนั่งร้องไห้น่ะไม่มีทาง แค่ฝุ่นในห้องปลอดเชื้อมันเข้าตาเฉยๆเท่านั้นเอง
“เดี๋ยวฉันจะมาหานายไม่ได้ซักอาทิตย์ นอนเล่นไปคนเดียวก่อน อย่าเพิ่งเหงาล่ะ”
ฉันมองนาฬิกาข้อมือแล้วพยักหน้า ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปที่ประตู
“ฉันไปก่อนนะ แล้วจะมาใหม่”
ฉันมองเข้าไปข้างในเป็นหนสุดท้ายก่อนกลับ
“ฝันดีนะ ชูสุเกะ”
-------------------------------------------------------
ฝันดีรึเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันเพิ่งเริ่มต้นนะจ๊ะ คุณชูสุเกะ