ลงฟิคในเวลาเด็กดี
เอ็นโจเลี้ยงต้อย >>>/webnovel/4099/811-814
----------------------------
หลังจากเหตุการณ์นั้น ผมโทรไปถามรายละเอียดกับไอระ ก็ได้คำตอบว่าคนที่มาซายะต่อยไปคือเพื่อนที่พายูริเอะกับไอระไปเที่ยวบาร์เซโลนา แค่มาส่งที่บ้านแล้วก็กอดลาทั่วๆไป ยูริเอะไม่ได้คบกับผู้ชายคนนั้น
เมื่อถามถึงอาการของคนที่มาซายะต่อยไป ไอระตอบมาว่า “ยูริเอะพาเขาไปโรงพยาบาล ตรวจเช็คร่างกายว่ากระทบกระเทือนตรงไหน”
“เดี๋ยวมาเก็บเงินที่ผมก็แล้วกัน”
“ไม่เป็นไรหรอก” ไอระพูดต่อ “ดีนะที่เขาไม่เอาเรื่อง แต่ฉันกับยูริเอะก็ต้องช่วยกันขอร้องแทบแย่แน่ะ”
“ขอบคุณมากนะ”
ถ้าผู้ชายคนนั้นเอาเรื่อง แจ้งความ อาจถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล ถึงเรื่องจิ๊บจ๊อยแค่นี้จะไม่สะเทือนตระกูลคาบุรากิ แต่ในต่างแดนเช่นนี้มันจะเป็นประวัติติดตัวมาซายะ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
ไอระเล่าต่อว่าเรื่องนี้ทำให้ยูริเอะโมโหมาก จากเดิมไม่ได้ตั้งใจจะพูดตัดขาดกับมาซายะ เหตุการณ์ก็กลับบานปลายยิ่งกว่าที่คิด
“แล้วมาซายะเป็นยังไง”
“ซึมไปเลย เอาแต่นั่งเหม่อไม่พูดกับใครนอกจากผม”
มาซายะเอาแต่นั่งเงียบ มองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างแบบไร้จุดหมาย จากที่เคยนั่งตัวตรงท่าทางผึ่งผายก็กลับปล่อยตัวไหลไปตามเก้าอี้ แก้มซูบตอบเหมือนคนไม่ได้ทานข้าว แววตาก็แห้งผากไม่โฟกัสสิ่งไหน เป็นอย่างนั้นมาตลอดตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน
พ่อกับแม่ของมาซายะถามผมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็ได้แต่ตอบไปตามตรงว่าเขาทะเลาะกับยูริเอะถึงขั้นแตกหัก คุณลุงคุณป้าก็พยักหน้าเข้าอกเข้าใจ ฝากฝังให้ผมช่วยดูแลด้วย อาการมาซายะเป็นเอามากขนาดนี้ คงกังวลว่าลูกชายคนเดียวจะคิดสั้น
ผมก็กังวลเหมือนกันนั่นล่ะ
ตอนนี้ผมทำได้แค่ตักขนมที่เขาชอบไปให้ นั่งข้างๆเป็นเพื่อน ไปรับไปส่งที่บ้านเพราะอาการยังน่าเป็นห่วง แต่ตัวติดกับมาซายะตลอดแบบนี้ผมไม่มีเวลาให้เรย์กะเลย
ผมบอกเธอแค่ว่ามาซายะทะเลาะกับยูริเอะ แต่ไม่ได้บอกว่าสองคนนั้นรุนแรงถึงขั้นแตกหักกันไปแล้ว และช่วงนี้อาจจะต้องดูแลมาซายะที่กำลังเสียใจมากหน่อย เรย์กะก็ดูเข้าอกเข้าใจ บอกให้ทำสิ่งที่ผมควรทำ ไม่ต้องห่วงเธอ
ท่าทางที่แตกต่างกันแบบนี้ทำให้อดนึกถึงคุณคิโชวอินขึ้นมาไม่ได้
ถ้าพูดเรื่องนี้กับคุณคิโชวอิน เธอคงแซวว่าผมเป็นโฮโม คู่เกย์กับมาซายะอะไรทำนองนั้นแล้ว
จะให้มาซายะมาตัวติดกับผมตลอดไปก็คงไม่ได้ ทางเดียวที่จะช่วยคือหาใครซักคนมาช่วยให้มาซายะออกมาจากโลกแห่งความทุกข์ของตัวเอง
ใครดีล่ะ จากบรรดานักเรียนทั้งหมดนี่
พวกนักเรียนดูจะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับมาซายะ แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาถาม และในบรรดาสายตาของนักเรียนและแฟนคลับของมาซายะที่มองมานั้น มีสายตาเป็นห่วงของคุณทาคามิจิรวมอยู่ด้วย
อา ไม่เห็นจะต้องถามว่าใครเลยนี่นะ
.
.
.
.
เลิกเรียน ผมไปดักรอพบคุณทาคามิจิ เมื่อเห็นว่าเธอต้องหอบสมุดการบ้านตั้งใหญ่ดูท่าทางจะหนักไปทางห้องพักครูก็จงใจเดินชนให้ของร่วง
“อ้าว ขอโทษนะ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันผิดเองที่ไม่ได้มองว่าท่านเอ็นโจเดินมา” คุณทาคามิจิก้มหัวปะหลกๆ แล้วก้มลงเก็บสมุดมาเรียงไว้เป็นตั้งๆ
“ผมช่วยนะ” เธออ้าปากค้างแล้วรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธเป็นพัลวันเมื่อผมก้มลงไปหยิบสมุดขึ้นมา “เอาน่า ช่วยกันสองคนจะได้เสร็จไวๆไง”
พอเก็บเสร็จคุณทาคามิจิก็เอากองสมุดตั้งใหญ่ขึ้นมาแบกไว้เหมือนเดิม แต่ผมฉวยไปจากมือเธอก่อน ให้ถือไว้แค่ไม่กี่เล่ม
“ท่านเอ็นโจคะ”
“วิชาฟิสิกส์สินะ” ผมมองชื่อวิชาที่เขียนไว้บนปกแล้วหันไปยิ้มให้ “ไปกันเถอะ เดี๋ยวอาจารย์จะรอนาน”
ผมก้าวเดินไปข้างหน้า ทำให้คุณทาคามิจิต้องเดินตามมาแบบเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างทางเจอมาซายะเดินสวนมาพอดี เขาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจที่เห็นผมเดินมากับคุณทาคามิจิ
“ผมเดินไปชนเธอน่ะ เลยต้องไถ่โทษช่วยถือของ”
“ขออภัยค่ะที่เพื่อนคนสำคัญของท่านคาบุรากิต้องมาเดือดร้อนเพราะฉัน” เธอก้มหัว ทำตัวเล็กๆลีบๆที่เห็นมาซายะ
“เธอนี่...พูดเป็นแต่คำนี้รึไง” มาซายะส่ายหน้าแล้วก็เดินจากไป
คุณทาคามิจิชะเง้อคอมองตาม ได้โอกาสพูดเรื่องนี้แล้ว
“เป็นห่วงเหรอ”
“อ๊ะ!! เอ๊ะ!!” คุณทาคามิจิสะดุ้งโหยง ทำท่าลุกลี้ลุกลน “คะ คือว่า...”
“กำลังสงสัยล่ะสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับมาซายะ” ผมหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้น “เล่าให้ฟังเอามั้ยล่ะ”
“มะ...ไม่เป็นไ….” เดินมาถึงห้องพักครูพอดี ผมเลยถือโอกาสทำหูทวนลมกับคำปฏิเสธนั้น เปิดประตูเข้าไปข้างใน วางกองการบ้านลงกับโต๊ะอาจารย์ รอให้คุณทาคามิจิออกมาแล้วเดินไปพร้อมกัน