หลังเหตุการณ์นั้นท่านเรย์กะก็ซึมไปพักใหญ่ นานหลายวันกว่าจะกลับมาเรียนอีกครั้ง เกราะที่เคยกันทุกคนไม่ให้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงก็พังทลายชั่วคราว ท่านเรย์กะช่วยอายาเมะจังแบบเปิดเผยอย่างไม่เคยทำมาก่อน และบอกว่าถ้ายังมีโอกาส ก็ไม่อยากให้ใครต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเพื่อธุรกิจ
ฉันเอะใจขึ้นมา สาเหตุที่ท่านเรย์กะปฏิเสธว่าชอบท่านเอ็นโจมาโดยตลอด บางทีอาจเป็นเพราะที่บ้านเองก็ได้ เมื่อนึกถึงสมัยเด็ก ท่านเรย์กะก็ไม่ได้สนใจท่านคาบุรากิเป็นพิเศษ แต่หลังๆก็โดนที่บ้านส่งเสริม กล่อมเธอมาโดยตลอดว่าท่านคาบุรากิเหมาะสมกับเธอที่สุด พูดถึงชาติตระกูลแล้วยังไงเอ็นโจก็เป็นรองอยู่ดี
แม้ไม่ต้องการ แต่ท่านเรย์กะก็จำเป็นต้องทำเพื่อตระกูล ทำเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยเฉพาะตอนนี้ท่านเรย์กะกลายเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลคิโชวอินแล้ว เพราะพี่ชายของเธอหนีออกจากบ้าน ภาระและความกดดันทั้งหมดจึงมาตกอยู่ที่เธอ เธอทำได้แค่พยายามแต่งงานกับท่านคาบุรากิเพื่อรักษาชื่อเสียงและอำนาจของตระกูลไว้ แม้นั่นจะหมายถึงว่าต้องหลอกตัวเองว่าชอบท่านคาบุรากิก็ตาม...
ในที่สุดฉันก็ได้คำตอบที่เคยสงสัยมานาน... เพราะต้องทำตามหน้าที่ จึงไม่สามารถแสดงออกดั่งใจได้ เพราะความกดดันเหล่านี้ทำให้ท่านเรย์กะไม่รู้วิธีที่ทำให้คนอื่นเข้าใจ เพราะแบบนี้แม้อยากจะช่วย ก็ไม่สามารถออกนอกหน้าได้
การสอนจากที่บ้านฉันพอเข้าใจได้ ฉันก็ถูกสอนตั้งแต่เด็กว่าการช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ ท่านเรย์กะที่เป็นถึงลูกสาวจากตระกูลคิโชวอินคงโดนเคี่ยวเข็ญมากยิ่งกว่าฉันหรือใครๆ เพราะแบบนั้นงั้นหรอถึงไม่อยากให้ใครรู้ว่าช่วยพวกเราแบบไม่หวังผลตอบแทน
ฉันทำทุกอย่างให้ท่านเรย์กะเพราะผลประโยชน์มาตลอด แต่ตอนนี้ฉันกลับเริ่มรู้สึกอยากช่วยท่านเรย์กะจริงๆ
เพราะท่านเรย์กะเป็นเพื่อนคนสำคัญของฉัน
ฉันนึกโทษตัวเองที่ไม่เคยสามารถช่วยท่านเรย์กะได้เลย
ช่วงปิดเทอม ไม่มีใครติดต่อท่านเรย์กะได้เลย เห็นท่านเรย์กะบอกว่าต้องไปเข้าคอร์สอะไรบางอย่าง และตัดขาดติดต่อสื่อสารกับคนภายนอก
ท่านเรย์กะกลับมา แม้ภายนอกไม่ต่างจากเดิมมาก แต่พวกเรารู้ดีว่าท่านเรย์กะเกาะติดท่านคาบุรากิมากขึ้น “สั่งสอน” ทุกคนที่เข้าใกล้ท่านคาบุรากิมากขึ้น ใช้อำนาจให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ราวกับจมลึกไปสู่ความมืดมิดอย่างไม่สามารถกลับมาได้อีกแล้ว
ช่วงเวลาเดียวที่ท่านเรย์กะคล้ายจะมีความสุขคือตอนที่ท่านเอ็นโจเข้ามาต่อว่า ทั้งคู่อยู่ในภาวะหวานปนขมแบบที่ไม่เคยรู้เลยว่าต่างก็เป็นแสงสว่างของกันและกัน
เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันรู้ว่าตอนนี้ท่านเรย์กะไม่สามารถหลุดจากวังวนอันขมขื่นนี้ไปได้ ไม่อาจยอมรับความรู้สึกได้ และต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่อยาก เพื่ออำนาจของตระกูลที่ตัวเองไม่ต้องการ ฉันเห็นท่านเรย์กะพูดเรื่องเลวร้ายกับตัวเองอยู่บ่อยๆเหมือนกำลังทำให้ตัวเองเชื่อว่าจำเป็นต้องทำอย่างนั้น
นี่ล่ะนะสังคมชนชั้นสูง... อาจดูเหมือนมีทุกอย่าง แต่แท้จริงกลับไม่มีสิ่งที่ต้องการจริงๆเหลืออยู่เลย
จนในวันหนึ่งทุกอย่างก็แปลกไป ท่านเรย์กะเสียความทรงจำ และเปลี่ยนตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือ สั่งให้ทุกคนหยุดแกล้งทาคามิจิ ตั้งใจเรียน คอยช่วยเหลือเพื่อนๆอย่างเปิดเผย คอยหยุดเวลาคนทะเลาะกัน คุยเล่นและหัวเราะไปพร้อมกับคนในห้อง บรรยากาศในห้องดูสดใสร่าเริง ฉันเองก็รู้สึกสบายใจไปด้วย เหมือนความทรงจำที่หายไป หายไปพร้อมภาระหนักอึ้งในใจด้วย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านเรย์กะมีความสุขมากขนาดนี้ ถ้าไม่นับตอนที่ท่านเรย์กะอยู่กับท่านเอ็นโจ
ตอนนี้แม้แต่ท่านคาบุรากิและท่านเอ็นโจก็เป็นมิตรกับท่านเรย์กะ ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือท่านเรย์กะเริ่มสนิทกับท่านคาบุรากิมากขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนทั้งคู่จะชอบกันเข้าจริงๆแล้ว ทั้งไปกลับพร้อมกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน หลังๆท่านคาบุรากิมาที่ห้องเรียนเพื่อคุยกับท่านเรย์กะบ่อยๆ