อ๊ะ!! แย่ล่ะสิ
“อ้าว ท่านพี่กับคุณพี่เรย์กะนี่ครับ” ยูกิโนะคุงหันหน้ามาเห็นเข้าก็โบกมือให้ เอ็นโจเดินไปหา แต่...นายกำลังจับมือฉันอยู่อ่ะ
ปล่อยสิยะ นี่มันต่อหน้าท่านพี่น้าาา
ฉันมองซ้ายมองขวาเลิกลั่ก เอ็นโจที่กล่าวทักทายท่านพี่ก็ยังเอาแต่ยิ้มและจับมือฉันอยู่นั่น สายตาทุกคนมาหยุดที่มือของหมอนี่ที่จับมือฉัน ปีกนางฟ้าในมือเอ็นโจ แล้วก็เสื้อคลุมที่อยู่บนตัวของฉัน
ท่านไอระ ยูกิโนะคุง วาคาบะจังและท่านอิมาริมองฉันยิ้มๆ ท่านพี่กระแอมไอเล็กน้อยแล้วทักทายตอบ
“นึกว่าพาขึ้นห้องไปแล้วซะอีก” คาบุรากิหันไปกระซิบกระซาบกับเอ็นโจที่มีรอยยิ้มปริศนา
ขึ้นห้อง!! ขึ้นห้องอะไรห๊ะ!? เดี๋ยวเหอะ ฉันได้ยินนะยะ นี่พวกนายวางแผนอะไรไม่ดีกันอยู่ใช่มั้ย
ท่านพี่ส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับทุกคนรอบวง
“นี่ก็ดึกมากแล้ว คงต้องขอพาเรย์กะและคุณไอระกลับก่อนนะครับ”
“งั้นพวกเราก็กลับกันดีกว่านะ” คาบุรากิพยักเพยิดหน้า ทุกคนเลยไปร่ำลาท่านโยโกะที่กำลังสนทนากับคนสนิทอยู่แล้วเดินออกจากห้องจัดงาน ข้างนอกนี่สว่างจังเลยค่ะ ค่อยยังชั่วหน่อย
ท่านไอระเดินไปสมทบกับท่านพี่ แต่ไม่ลืมที่จะตบไหล่เอ็นโจเบาๆ “ฉันกลับก่อนนะ ชูสุ….อ๊ะ”
เสียงอุทานหลุดออกมาไม่ดังมาก แต่ก็เรียกความสนใจจากทุกคนได้
“มีอะไรเหรอ” เอ็นโจถาม
“ใส่หน้ากากเต็มหน้าแท้ๆ แต่ช่างแต่งหน้าเขาทาปากให้ด้วย...” ท่านไอระหยุดพูดไปชั่วครู่แล้วหันหน้ามองฉันสลับกับปากเอ็นโจ
อะ...ทำไมมองกันแบบนั้นล่ะคะท่านไอระ แล้วรอยยิ้มนั่นอีก….อ๊ะ วาคาบะจังก็จ้องฉันอยู่เหมือนกันนี่
เสียงหัวเราะคิกคักของท่านไอระและวาคาบะจังดังขึ้นพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย ยูกิโนะคุงกับคาบุรากิก็หัวเราะด้วย ตบหลังตบไหล่เอ็นโจกันใหญ่
เอ็นโจเอานิ้วแตะๆปากตัวเอง สีแดงสดเหมือนกลีบกุหลาบติดปลายนิ้วมาเล็กน้อย
สีเดียวกับสีลิปสติกที่ทามาในวันนี้ของฉัน
ท่านอิมาริผิวปากดังหวือ มองไปที่เอ็นโจด้วยสายตาที่ดูรู้ทัน แต่ฉันอายแทบจะแทรกแผ่นดินหนีแล้ว
เอ็นโจมองนิ้วตัวเองแล้วก็มองฉัน รอยยิ้มนั่นมันอะไรน่ะ ห๊า!!!!
ว้ากกกกกกกกกกกกก!!!!!
ฉันโผเข้าหาท่านพี่ หน้าร้อนฉ่าๆตอนหลบไปซุกหลัง ถึงจะถูกมองว่าทำอะไรเป็นเด็กๆก็เถอะ แต่ตอนนี้ไม่กล้าสู้หน้าใครแล้วค่าาาา
สี่คนนั้นยังไม่หยุดหัวเราะเลยอ่า แง้!!! ใจร้าย ใจร้ายที่สุด จะร้องไห้แล้วน้าาา
“เอาล่ะๆ ทุกคนพอดีกว่า” ถึงจะช่วยห้ามก็เถอะ แต่ท่านอิมาริพูดด้วยเสียงเหมือนกำลังกลั้นหัวเราะเหมือนกันนี่คะ “อย่าแกล้งเรย์กะจังมากไปกว่านี้เลยนะ”
“กลับกันได้แล้วล่ะ เรย์กะ” ท่านพี่พูดกับฉันอย่างอ่อนโยน ยอมให้ซุกอีกต่างหาก
ท่านพี่คะ ท่านพี่เป็นคนเดียวที่ไม่หัวเราะน้อง ประเสริฐอะไรเช่นนี้
“ขะ ขอตัวก่อนนะคะทุกท่าน” ฉันก้มหัวเร็วๆแล้วเดินก้มหน้างุดๆไม่ยอมสบตากับใคร ไม่ไหวแล้ว ต้องรีบไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
เดินมาถึงหน้าโรงแรม ขณะที่คิดว่ากำลังจะปลอดภัยแล้วเชียว อยู่ๆเอ็นโจก็เรียกฉันไว้
“คุณเรย์กะ”
ฉันเหลียวหลังไปมองอย่างหวาดๆ เอ็นโจยิ้มน้อยๆ เอามือไพล่ไปด้านหลัง แต่เขาแพะของหน้ากากโผล่แพลมๆออกมาให้เห็น
“ฝันดีนะครับ”
ตรงที่ฉันยืนอยู่คือสุดปลายบันได ส่วนเอ็นโจยืนอยู่ขั้นบนสุด พระจันทร์ที่อยู่เบื้องหลังสาดแสงลงมาทำให้เงาของเอ็นโจทอดตัวยืดยาวออกมาทาบทับกับตัวฉัน
กรี๊ดดดดดด!! นี่มันปีศาจ
แสงจันทร์คืนฮาโลวีนนี่น่ากลัวชะมัด มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งของฉันแล้วค่ะ ถึงตอนนี้ฉันจะเป็นนางฟ้าตกสวรรค์แต่ก็ได้โปรดช่วยฉันให้รอดพ้นจากปีศาจด้วยนะคะ
ฉันจ้ำอ้าวไปหาท่านพี่ที่ยืนรออยู่ที่รถ เปิดประตูแล้วขึ้นไปไม่เหลียวหลัง แต่ยังได้ยินเสียงหัวเราะแว่วๆของเอ็นโจตามมาหลอกหลอน
----------------------------------
ส่งต่อ........
อนึ่ง พระจันทร์สวย เป็นคำบอกรักแบบอ้อมโลกของคนญี่ปุ่น