Last posted
Total of 1000 posts
คาบุมองเรย์กะเป็นเพื่อนที่เป็นเบ๊อีกทอดหนึ่งไง เพราะมองเป็นเพื่อนเลยแสดงตัวตนออกมาได้แบบไม่กั๊กแล้วเพราะเรย์กะไม่แผ่รังสีเจ้าแม่กาลีใส่บ้างคาบุมันเลยไม่เกรงใจ ถ้ามันมองว่าเป็นเพื่อนที่มีฐานะทัดเทียมกันเหมือนเอ็นโจก็จะไม่อาการหนักขนาดนี้
คิดถึง เอนโจside story
นึกภาพคาบุแง้วๆใส่เอ็นโจ
from: มาซายะ / to: ชูสุเกะ
"ชูสุเกะ! ถึงซุยรันยัง!?"
"วันนี้ทาคามิจิชมฉันด้วยล่ะ! ฉันจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียดเลย!"
"ยังไม่มาอีกเรอะ"
"ทำไมไม่ตอบอยู่ที่ไหนแล้ว ชูสุเกะ!"
"ติดต่อกลับมาเดี๋ยวนี้"
"หรือว่าอยู่ในPivoineแล้ว?"
"เดี๋ยวฉันไปหา"
"ใกล้ถึงแล้ว"
"ไม่มี นายอยู่ไหนเนี่ย"
"หรือว่าอยู่ห้องเรียน?"
"เดี๋ยวฉันไปหา"
"ใกล้ถึงแล้ว"
"ไม่มี นายอยู่ไหนเนี่ย ชูสุเกะ!"
*ติ๊ง*
from: ชูสุเกะ / to: มาซายะ
"I'm here, behind you...."
//มาซายะค่อยๆหันหลังกลับไปช้าๆ แล้วเจอรอยยิ้มดำมืดของชูสุเกะ
//ภาพตัดไปที่ BG ท้องฟ้ายามเช้าเหนือโรงเรียนซุยรัน พร้อมกับเสียงร้องปริศนา?
>>141 กูนึกแบบนี้มากกว่า
คาบุ : วันนี้เจอวาคาบะบนระเบียง ได้คุยกันเรื่องข้อสอบนิดหน่อยด้วย โชคดีจังที่ห้องฉันสอบก่อน เลยพอได้บอกวาคาบะว่าต้องเตรียมตัวยังไง แหม! พอพูดเรื่องเรียนฉันกับวาคาบะก็คึกคักสุดๆไปเลย การได้คุยกับคนที่เข้าใจกันนี่มันดีจริงๆนะ อ๋อ แล้วก็....
เอ็นโจ : //เงยหน้าจากหนังสือในมือ// หืม ยังไม่จบอีกเหรอ มาซายะ? :)
อยากเห็นชูสุเกะเม้ากลับ
วันนี้คุณคิโชวอินตื่นตอนกี่โมง ทรงผมตอนตื่นเป็นยังไง อาบน้ำกี่นาที ม้วนผมข้างไหนก่อน บลาๆๆๆๆ
จนมาซายะสยองขวัญ
ฟิคเวียนในตำนาน >>>/webnovel/4018/653-654
ตอนนี้น่าจะชื่อ Can't fight the moonlight แนะนำให้เปิดเพลงนี้ฟังเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน
--------------------------------------------------------------
เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆ
ฉันกรีดร้องอยู่ในใจอย่างแตกตื่นลนลาน จะทำยังไงดีล่ะ
เสื้อคลุมที่เอ็นโจถอดออกมาสวมให้ก็ร่นลงมาอยู่ตรงช่วงเอว เปิดแผ่นหลังเปล่าเปลือยของฉันท้าทายกับสายลมที่พัดมาแต่ละทีก็เย็นยะเยือก ตัวฉันสั่นน้อยๆจากลมหนาว
สัมผัสหนักๆตรงต้นคอของฉันมันค่อยๆเลื่อนลงไปตามแนวกระดูกสันหลังพาให้สะดุ้งเฮือก ภาพสะท้อนในกระจกคือหัวอีตานี่ซุกๆอยู่กับหลังของฉัน แถมทำท่าจะเลื่อนลงต่ำไปเรื่อยๆ
แว้กกกกกกก!!!
ฉันรีบพลิกตัวกลับมา กลายเป็นว่าหน้าของอีตานี่เลยฝังอยู่กับช่วงท้องของฉันแทน ดีจังที่ในงานไม่ได้ทานอะไรเยอะ ท้องเลยยังไม่ป่องออกมา เอ็นโจคงยังไม่ทันสังเกต แต่เอ๊ะ!! นี่ไม่ใช่เวลาจะมาห่วงเรื่องนั้นนะ!!!
เอ็นโจที่อยู่ในท่านั่งคุกเข่าเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มมุมปาก สายตาเป็นประกายวิบวับ แต่ฉันอยากกัดลิ้นตายซะตรงนั้น
แง้ ท่านี้นี่มันติดเรทล่อแหลมยิ่งกว่าเดิมอีกไม่ใช่รึไงค้าาาาา
“ทะ ท่านเอ็นโจ”
“ครับ”
“กะ...กลับเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ ขอร้องล่ะ”
“เอ เรย์กะง่วงแล้วเหรอครับ”
“ก็ประมาณนั้นล่ะค่ะ” อยากกลับบ้านแล้วง่า
“นั่นสินะ เที่ยงคืนกว่าแล้วด้วย” เอ็นโจลุกขึ้นมายืน สวมเสื้อคลุมกลับคืนที่ให้ฉัน ค่อยยังชั่วหน่อย
ในขณะที่ฉันกำลังจะโล่งใจที่หมอนี่พูดจากันรู้เรื่อง ยอมฟังคำขอร้องดีๆอยู่นั้น วงแขนนั่นก็กอดหมับเข้าให้
“มาซายะเปิดห้องไว้ให้ผมน่ะ เราสองคนได้ที่นอนพอดีเลยเนอะ”
อุว๊ากกกก!!!
ว่าแล้วเชียว มีหรือที่อีตานี่จะยอมฟังคำขอของฉันดีๆ ไม่น่าไว้ใจคนของหมู่บ้านคาสโนว่าเลยค่า!!
“มะ ไม่เอาค่ะ ไม่เอา” ฉันส่ายหน้าหวือๆ อยากนอนที่นี่ก็นอนไปคนเดียวสิยะ
“ห้องสวีทด้วยนะ วิวสวยเชียว” เอ็นโจยิ้มมุมปาก สายตาก็ดูกรุ้มกริ่ม “ไม่อยากขึ้นไปดูวิวหน่อยเหรอ”
ไม่เอ๊า ไม่ไป ต่อให้วิวจะสวยแค่ไหนก็ไม่ไปค่า!!
“มีขนมที่ยูกิโนะซื้อมาแช่ไว้ในตู้เย็นตอนนั่งรอแต่งตัวด้วยนะ” ไอ้หมอนี่ คิดว่าจะเอาขนมมาล่อแล้วฉันจะตกหลุมพรางงั้นเร้อ ฝันไปเหอะย่ะ “ผมไม่ทานขนม เรย์กะช่วยไปทานให้หมดหน่อยสิ”
“ท่านพี่ต้องมารับฉันกลับบ้านนะคะ”
“เรย์กะโตแล้วนี่ครับ ต้องมีผู้ปกครองมารับกลับอีกเหรอ” เอ็นโจหัวเราะ “ถ้าอยากกลับจริงๆ ผมขับรถไปส่งให้ก็ได้นะ”
“ไม่กล้ารบกวนท่านเอ็นโจหรอกค่ะ”
“ประธานเอ็นโจเสนอตัวให้เชียวนะครับ ปฏิเสธได้ลงคอเชียวเหรอ” น้ำเสียงและสายตาออดอ้อนแบบนั้นมันอะไรกันยะ!!! “ค่าจ้างก็ถูกด้วยนะ”
“ไม่เอาค่ะ”
“อื๋อ”
ฉันถลึงตาใส่ ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆตามมาก็นึกอยากเอาเล็บข่วนหน้าหมอนี่ชะมัด
“อย่าทำหน้าบึ้งแบบนั้นสิครับ” จะพูดแล้วทำไมต้องก้มหน้ามาใกล้ๆด้วยล่ะยะ “คืนนี้พระจันทร์สวยออกนะ”
เอ๋!!!
ฉันกระพริบตาปริบๆ เมื่อกี้นายพูดอะไรนะ...พระจันทร์สวยงั้นเหรอ
เพราะคิดว่าจะคาดคั้นเอาความจริงก็เลยเผลอสบตากับเอ็นโจเข้าให้ บ้าชะมัด เพราะแสงจันทร์งั้นเหรอคะ ทำไมหมอนี่ถึงได้ดูดีขนาดนี้กันล่ะ
ฉันไม่ตั้งใจจะมอง แต่แสงจันทร์ที่ส่องลงมา เส้นผมของเอ็นโจก็ดูจะเป็นประกายระยิบระยับเหมือนเจ้าชายในการ์ตูนเรื่องโปรดของฉัน
เป็นแค่ซาตานแท้ๆ คิดจะมีประกายเรืองรองเลียนแบบเทวดา ช่างบาปหนาอะไรเช่นนี้
เอ็นโจหัวเราะแล้วจูบหน้าผากฉันเบาๆ ฉันรู้สึกร้อนวาบตรงบริเวณที่ถูกริมฝีปากสัมผัส...นะ นี่ตราประทับของปีศาจอย่างนั้นเหรอคะ
“ทะ ท่านเอ็นโจ…”
“ครับ” น้ำเสียงเอ็นโจที่ตอบรับมานั้นแหบพร่า ฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ
“ฉะ...ฉันกลัวค่ะ” คืนนี้เอ็นโจต้องถูกผีสิงแน่ๆค่ะ มาทำตัวแบบนี้ น่ากลัวเกินไปแล้วน้า!!
มือของหมอนี่ค่อยๆสอดประสานเข้ากับมือของฉัน เอ็นโจจับมือฉันขึ้นไปจูบที่หลังมือ บริเวณนิ้วนางข้างซ้าย ช้อนสายตามองฉันแบบเชื่องช้า
“ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวเลยครับ”
ก็นายไงล่ะยะที่ฉันต้องกลัว
เอ็นโจยิ้มน้อยๆแล้วจูบหน้าผากฉันอีกหนเหมือนจะปลอบประโลม ค่อยๆไล่ระมาตามปลายจมูกและแก้ม สายตาเรามองกันในระยะประชิด ใกล้ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
“ไว้ใจผมนะ”
ฉันเหมือนถูกสายตาคู่นั้นสะกดให้อยู่นิ่ง จนไม่อาจจะถอนตัวหนี
ริมฝีปากเราสัมผัสกันอย่างเชื่องช้า นุ่มนวลเหมือนขนนกลากผ่าน ความอ่อนหวานที่เคล้าเคลียอยู่ตรงปากทำเอาหัวใจฉันเต้นแรงแทบจะหลุดออกมาข้างนอกอยู่แล้ว
กลิ่นดอกไม้ที่บานในตอนกลางคืนลอยตามลมมา น่าจะมีฤทธิ์มอมเมาสติหรือหลอนประสาท ฉันรู้สึกเบลอไปหมดแล้ว แข้งขาก็อ่อนแทบไม่มีแรงยืน ถ้าไม่มีแขนรั้งไว้คงนั่งลงไปกองกับพื้นแน่ๆ
สัมผัสที่นุ่มนวลเหมือนขนนกค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วฉันก็คล้อยตาม ตอบสนอง
นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ
แขนฉันไปคล้องเข้ากับคอเอ็นโจตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วมืออีตานี่อยู่ตรงไหนน่ะห๊า!! กรี๊ดดดดด!!!!
ฉันควรจะแว้ดใส่ หยิกหลักมือ ดึงหู ต่อยท้อง หรือเตะหน้าแข้งเอ็นโจที่ทำแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันกลับนึกอะไรไม่ออกแม้แต่อย่างเดียว ในหัวหมุนวนไปหมด
จะทำอะไรก่อนดีล่ะ เรียบเรียงความคิดไม่ถูกเลย
ยูกิโนะคุงบอกว่าแสงจันทร์สามารถดึงเอาความบ้าคลั่งในจิตใจคนออกมาได้ เอ็นโจเองก็คงกำลังตกอยู่ใต้อำนาจของแสงจันทร์อยู่ใช่มั้ย ถึงได้ดูบ้าคลั่งขนาดนี้
เรื่องที่กำลังเกิดอยู่นี่ ต้องเป็นเพราะกลิ่นดอกไม้ หรือไม่ก็มนต์สะกดจากแสงจันทร์แน่ๆค่ะ
.
.
.
เสียงนาฬิกาที่ดังขึ้นอีกหนเรียกสติฉันให้กลับคืนมา อ้าว มานั่งที่ม้านั่งตั้งแต่ตอนไหนคะ ตอนนั้นยังอยู่ในสวนดอกไม้อยู่เลยไม่ใช่เหรอ
ฉันสำรวจไปรอบๆแบบงุนงง แล้วเสื้อคลุมนักเวทย์ที่เอ็นโจถอดมาคลุมให้มันหลุดหายไปไหนแล้วล่ะ เสื้อผ้าฉันยังอยู่ครบใช่มั้ย ค่อยยังชั่วหน่อย
“ตีหนึ่งแล้ว กลับกันเถอะครับ”
เอ็นโจหยิบเสื้อคลุมตัวที่ว่านั่นมาคลุมให้ฉัน มันไปพาดกับราวม้านั่งตอนไหนฉันก็งงๆอยู่ พอได้สวมก็อุ่นขึ้นมาหน่อย แต่เมื่อกี้ก็ไม่รู้สึกหนาวเลยอ่ะ
ว่าแต่ตีหนึ่งแล้วเหรอเนี่ย แย่ล่ะสิ ท่านพี่มารอนานรึยังคะเนี่ย
ฉันเกือบจะวิ่งแล้ว แต่เอ็นโจกลับยิ้มแล้วสอดประสานมือเข้ากับมือของฉัน จูงให้เดินไปช้าๆ
“อย่าวิ่งสิครับ เดี๋ยวก็หกล้มหรอก” มือของเอ็นโจอีกข้างถือปีกนางฟ้าของฉันกับหน้ากากหัวกระโหลกแพะเอาไว้ อ่า จริงสิ ปีกของฉันโดนถอดออกไปแล้วนี่เนอะ
แต่เอ๊ะ!! นางฟ้าถูกถอดปีกแบบนี้ ก็กลายเป็นนางฟ้าตกสวรรค์แล้วไม่ใช่เหรอค้าา!!! แถมเป็นฝีมือของซาตานชั่วร้ายนี่อีก ถึงจะเป็นแค่บทบาทสมมติแต่ก็อดรู้สึกเคืองไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น จะไปอธิบายกับคนอื่นยังไงล่ะยะว่าฉันถอดปีกนางฟ้าออกทำไมน่ะ
ผู้เป็นสาเหตุแห่งความขุ่นเคืองทั้งหมดทั้งมวลของฉันไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย เอาแต่ยิ้มอยู่นั่น หมั่นไส้ชะมัด แกล้งขัดขาให้ล้มซะดีมะ ห๊า!!!
มัวแต่หงุดหงิดก็เลยไม่รู้ว่าเดินมาถึงหน้าห้องจัดงานตั้งแต่เมื่อไหร่ มองเข้าไปคนในงานค่อนข้างโหรงเหรง ถึงเวลาเลิกงานที่ระบุไว้ในบัตรจะบอกว่าเลิกตีหนึ่งก็เหอะ ส่วนใหญ่ก็กลับไปเกือบหมดแล้ว
แต่ยูกิโนะคุง คาบุรากิ วาคาบะจัง ท่านไอระและท่านอิมาริยังไม่กลับ ยืนคุยกันอยู่ตรงประตูทางออก ถึงจะไฟสลัวมองเห็นไม่ค่อยชัด แต่ท่านพี่ก็ยืนอยู่ด้วย
อ๊ะ!! แย่ล่ะสิ
“อ้าว ท่านพี่กับคุณพี่เรย์กะนี่ครับ” ยูกิโนะคุงหันหน้ามาเห็นเข้าก็โบกมือให้ เอ็นโจเดินไปหา แต่...นายกำลังจับมือฉันอยู่อ่ะ
ปล่อยสิยะ นี่มันต่อหน้าท่านพี่น้าาา
ฉันมองซ้ายมองขวาเลิกลั่ก เอ็นโจที่กล่าวทักทายท่านพี่ก็ยังเอาแต่ยิ้มและจับมือฉันอยู่นั่น สายตาทุกคนมาหยุดที่มือของหมอนี่ที่จับมือฉัน ปีกนางฟ้าในมือเอ็นโจ แล้วก็เสื้อคลุมที่อยู่บนตัวของฉัน
ท่านไอระ ยูกิโนะคุง วาคาบะจังและท่านอิมาริมองฉันยิ้มๆ ท่านพี่กระแอมไอเล็กน้อยแล้วทักทายตอบ
“นึกว่าพาขึ้นห้องไปแล้วซะอีก” คาบุรากิหันไปกระซิบกระซาบกับเอ็นโจที่มีรอยยิ้มปริศนา
ขึ้นห้อง!! ขึ้นห้องอะไรห๊ะ!? เดี๋ยวเหอะ ฉันได้ยินนะยะ นี่พวกนายวางแผนอะไรไม่ดีกันอยู่ใช่มั้ย
ท่านพี่ส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับทุกคนรอบวง
“นี่ก็ดึกมากแล้ว คงต้องขอพาเรย์กะและคุณไอระกลับก่อนนะครับ”
“งั้นพวกเราก็กลับกันดีกว่านะ” คาบุรากิพยักเพยิดหน้า ทุกคนเลยไปร่ำลาท่านโยโกะที่กำลังสนทนากับคนสนิทอยู่แล้วเดินออกจากห้องจัดงาน ข้างนอกนี่สว่างจังเลยค่ะ ค่อยยังชั่วหน่อย
ท่านไอระเดินไปสมทบกับท่านพี่ แต่ไม่ลืมที่จะตบไหล่เอ็นโจเบาๆ “ฉันกลับก่อนนะ ชูสุ….อ๊ะ”
เสียงอุทานหลุดออกมาไม่ดังมาก แต่ก็เรียกความสนใจจากทุกคนได้
“มีอะไรเหรอ” เอ็นโจถาม
“ใส่หน้ากากเต็มหน้าแท้ๆ แต่ช่างแต่งหน้าเขาทาปากให้ด้วย...” ท่านไอระหยุดพูดไปชั่วครู่แล้วหันหน้ามองฉันสลับกับปากเอ็นโจ
อะ...ทำไมมองกันแบบนั้นล่ะคะท่านไอระ แล้วรอยยิ้มนั่นอีก….อ๊ะ วาคาบะจังก็จ้องฉันอยู่เหมือนกันนี่
เสียงหัวเราะคิกคักของท่านไอระและวาคาบะจังดังขึ้นพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย ยูกิโนะคุงกับคาบุรากิก็หัวเราะด้วย ตบหลังตบไหล่เอ็นโจกันใหญ่
เอ็นโจเอานิ้วแตะๆปากตัวเอง สีแดงสดเหมือนกลีบกุหลาบติดปลายนิ้วมาเล็กน้อย
สีเดียวกับสีลิปสติกที่ทามาในวันนี้ของฉัน
ท่านอิมาริผิวปากดังหวือ มองไปที่เอ็นโจด้วยสายตาที่ดูรู้ทัน แต่ฉันอายแทบจะแทรกแผ่นดินหนีแล้ว
เอ็นโจมองนิ้วตัวเองแล้วก็มองฉัน รอยยิ้มนั่นมันอะไรน่ะ ห๊า!!!!
ว้ากกกกกกกกกกกกก!!!!!
ฉันโผเข้าหาท่านพี่ หน้าร้อนฉ่าๆตอนหลบไปซุกหลัง ถึงจะถูกมองว่าทำอะไรเป็นเด็กๆก็เถอะ แต่ตอนนี้ไม่กล้าสู้หน้าใครแล้วค่าาาา
สี่คนนั้นยังไม่หยุดหัวเราะเลยอ่า แง้!!! ใจร้าย ใจร้ายที่สุด จะร้องไห้แล้วน้าาา
“เอาล่ะๆ ทุกคนพอดีกว่า” ถึงจะช่วยห้ามก็เถอะ แต่ท่านอิมาริพูดด้วยเสียงเหมือนกำลังกลั้นหัวเราะเหมือนกันนี่คะ “อย่าแกล้งเรย์กะจังมากไปกว่านี้เลยนะ”
“กลับกันได้แล้วล่ะ เรย์กะ” ท่านพี่พูดกับฉันอย่างอ่อนโยน ยอมให้ซุกอีกต่างหาก
ท่านพี่คะ ท่านพี่เป็นคนเดียวที่ไม่หัวเราะน้อง ประเสริฐอะไรเช่นนี้
“ขะ ขอตัวก่อนนะคะทุกท่าน” ฉันก้มหัวเร็วๆแล้วเดินก้มหน้างุดๆไม่ยอมสบตากับใคร ไม่ไหวแล้ว ต้องรีบไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
เดินมาถึงหน้าโรงแรม ขณะที่คิดว่ากำลังจะปลอดภัยแล้วเชียว อยู่ๆเอ็นโจก็เรียกฉันไว้
“คุณเรย์กะ”
ฉันเหลียวหลังไปมองอย่างหวาดๆ เอ็นโจยิ้มน้อยๆ เอามือไพล่ไปด้านหลัง แต่เขาแพะของหน้ากากโผล่แพลมๆออกมาให้เห็น
“ฝันดีนะครับ”
ตรงที่ฉันยืนอยู่คือสุดปลายบันได ส่วนเอ็นโจยืนอยู่ขั้นบนสุด พระจันทร์ที่อยู่เบื้องหลังสาดแสงลงมาทำให้เงาของเอ็นโจทอดตัวยืดยาวออกมาทาบทับกับตัวฉัน
กรี๊ดดดดดด!! นี่มันปีศาจ
แสงจันทร์คืนฮาโลวีนนี่น่ากลัวชะมัด มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งของฉันแล้วค่ะ ถึงตอนนี้ฉันจะเป็นนางฟ้าตกสวรรค์แต่ก็ได้โปรดช่วยฉันให้รอดพ้นจากปีศาจด้วยนะคะ
ฉันจ้ำอ้าวไปหาท่านพี่ที่ยืนรออยู่ที่รถ เปิดประตูแล้วขึ้นไปไม่เหลียวหลัง แต่ยังได้ยินเสียงหัวเราะแว่วๆของเอ็นโจตามมาหลอกหลอน
----------------------------------
ส่งต่อ........
อนึ่ง พระจันทร์สวย เป็นคำบอกรักแบบอ้อมโลกของคนญี่ปุ่น
แรงบันดาลใจจากท่อนหนึ่งของเพลง ฟังแล้วพล็อตฟิคพุ่งพล่านเลยต้องเขียน
You can try to resist (ถึงเธอจะต่อต้าน)
Try to hide from my kiss (พยายามหลบหนีจากจูบของฉัน)
But you know (แต่เธอรู้มั้ย)
But you know that you can’t fight the moonlight (เธอสู้แสงจันทร์ไม่ได้หรอก)
Deep in the dark (ดิ่งลึกลงในความมืด)
You’ll surrender your heart (เธอจะต้องพ่ายแพ้หัวใจตัวเอง)
But you know (เธอรู้มั้ย)
But you know that you can’t fight the moonlight (เธอไม่อาจต้านทานแสงจันทร์ได้)
No you can’t fight it (ไม่มีทางหรอก)
No matter what you do (ไม่ว่าเธอจะทำยังไง)
The night is gonna get to you (ค่ำคืนนี้ก็จะคืบคลานเข้าไปในใจเธอแน่)
เนื้อหาในตอนมันก็เลยออกมาประมาณนั้นล่ะ.......
>>155 >>158 ด้วยอำนาจของแสงจันทร์ กล้องแถวๆนั้นเลยพร้อมใจกันเสียน่ะ
>>159 Can't fight the moonlight จ้า
https://www.youtube.com/watch?v=bx3s99FNXzI
อ่านฟิคแล้วเขินชิบหาย ฟหกด้่สฟสกากวหงฟงหงฝห
ช่วงเวลาที่หายไปเนี่ย คือทำอะไรกันหนออออ??
บร้า พวกมึงก็อย่าคิดลึก เขาบอกว่าซื้อขนมมาแช่ตู้เย็นก็คงพาไปกิน แต่ดึกแล้วก็กลัวจะอ้วน เลยจับวิ่งออกกำลังกายรอบโรงแรมจนท่านเรย์กะสลบเหมือด โดนหามมานั่งม้านั่งไง ปริศนาไขกระจ่างแล้ว เรื่องราวมันก็เป็นแบบนี้ล่ะ ไม่มีอะไรจริงจริ๊งงงง //เสียงสูง
>>156 เห็นเพลงเลยไปหากระทู้รีวิวหนังเรื่องนี้อ่าน เจอกระทู้นึงแปลเพลงนี้ทำเอากูโครตลั่น ลั่นจริงอะไรจริงจนต้องมาเผยแพร่ต่อ นึกหน้าท่านเอ็นโจร้องเพลงนี้แบบกรุ้มกริ่มๆได้เลย 5555555555555555555
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/08/K8155573/K8155573.html
Underneath the starlight - starlight
ถึงจะมีแสงดาวเหลืออยู่
There's a magical feeling - so right
แต่พี่ก็สามารถนะน้องนะ
It'll steal your heart tonight
คืนนี้ล่ะน้องเอ๋ย
You can try to resist
อย่าขัดขืนเร้ยย
Try to hide from my kiss
พี่ขอหน่อยน่า
But you know
อย่าเลยน้อง
But you know that you can't fight the moonlight
ขัดขืนไปก็เท่านั้นนะจ๊ะ
Deep in the dark
มืดออกอย่างนี้
You'll surrender your heart
ใจอ่อนอยู่แล้วล่ะ
But you know
รู้อยู่เต็มอก
But you know that you can't fight the moonlight
ว่าสู้พี่ไม่ได้หรอก
No, you can't fight it
อย่าเสียแรงเปล่าเลย
It's gonna get to your heart
น้องก็เต็มใจใช่มั้ยล่ะ
>>152 ชวนขึ้นห้องไปดูวิว....แน่ใจนะว่าแค่ดูวิว แล้วมาถึง "ไว้ใจผมนะ" ไม่ค่ะ ไม่ไว้ใจเด็ดขาด หมอนี่มันร้ายนะคะหัวหน้า กูอ่านไปเขินไป ฮู้ยยย ลูกบ้านคาสโนว่ายังแพรวพราวขนาดนี้ แล้วตัวพ่ออย่างท่านอิมาริจะขนาดไหน ล่อลวงเหยื่อให้คล้อยตาม มีโอกาสก็คว้าไว้ คนหมู่บ้านนี้มันอันตรายจริงๆข่ะ
กูชอบการบรรยายแบบนี้นะ ไม่ต้องเขียนมากมาย แต่ก็รู้สึกวาบหวิว แถมฉากที่บรรยายว่าไม่รู้เสื้อคลุมโดนถอดไปตอนไหนกับฉากลิปติดปากนี่บับแวร่ จิ้นกันเองละกันว่าเมื่อกี้เร่าร้อนกันขนาดไหน ทำให้กูเขินมาก กูฟินมาก ใครก็ได้ช่วยแต่งต่อที
ตอนใหม่มาแล้ว!! ขอบคุณนะโม่งแปล! ท่านเรย์กะเบิกเนตรแล้ว! จงเปล่งประกายซะด้วยอำนาจของจักรพรรดินี!!
สรุปว่าคนชี้เป้าไม่ใช่จอมมารแต่เป็นฟุยุโกะแฮะ
แว่วเสียง "หึ คิดว่าเป็นฝีมือผมตลอดเลยรึไง " ลอยมาตามลมทั้งที่ไม่มีคนอยู่รอบข้าง
ผู้ชายเรื่องนี้แม่งสกิลล์งานฝีมือสูงมากๆ ท่านพี่ทำตุ๊กตาผ้าเฟลท์ให้น้องได้ ทำข้าวต้มได้ คุณซาซาจิมะแก้งานได้ คาบุทั้งทำสร้อยคอเครื่องประดับเอง ถักลูกไม้เอง เหลือพื้นที่ให้สาวๆ บ้างเถอะ...
พวกมึง กูอยากอ่านความในใจของเด็กในชมรมอ่ะ ท่านเรย์กะเผยรอยยิ้มเปี่ยมเมตตาทีไรคนนอกมองมันเป็นรอยยิ้มพิฆาตไม่ใช่เหรอ 55555555 แต่ตอนนี้โคตรสนุก อยากเห็นเลยว่าข่าวในซุยรันจะเป็นไง 555
>>179 คุณนาโทริคงเอาไปคุยประมาณว่า ท่านจักรพรรดิทรงดุดันหักโหมราวกับพายุเมื่อแรกปรากฎตัว แต่ก็ทรงเมตตาท่านจักรพรรดินีมากๆ เมื่อเห็นว่าท่านเรย์กะยังทำงานฝีมือติดพันอยู่ ก็กรุณาลงมือช่วยถักด้วยตนเอง //โชว์ลูกไม้ประกอบ// งานถักลูกไม้ที่แสนปราณีตบอบบางนี้แสดงถึงความละเอียดอ่อนของจิตใจท่านจักรพรรดิ ก่อนทั้งคู่จะออกไปจากห้องชมรมอย่างสง่างาม กลายเป็นตำนานบทใหม่ในซุยรัน
กูนึกภาพไซซายะถักลูกไม้ไม่ออกเลยว่ะ...
ของมันถักกันง่ายๆ แบบนั้นเลยเรอะ!!
แต่ผิดคาดนิดๆ ที่เหล่าลูกแกะแตกตื่นลนลานนะ นึกว่าจะกรี๊ดกร๊าดกันซะอีก หรือว่าที่ดูแตกตื่นน่ะเฉพาะในสายตาของท่านเรย์กะเท่านั้น? ความจริงแล้วสาวๆ เค้าแค่อึ้งด้วยความปลาบปลื้มปิติกันอยู่ตะหาก
ฉากคาบุรากิถักลูกไม้นี่....ตะไมดูสาวน้อยจังเลยคะ ผู้ชายเรื่องนี้มีความสาวน้อยยิ่งกว่าสาวๆ ส่วนสาวๆก็แมนเอาๆ
>>184 ไม่ใช่ว่าเพราะคู่มือที่สภานักเรียนแจกให้พวกหัวหน้าห้องเอาไปป่าวประกาศหรอกเรอะ จากนั้นก็โดนใส่สีตีไข่ไปอีกประมาณว่า...
หัวหน้าห้อง : ที่โรงเรียนนี้มีคนสามคนที่อย่าคิดเข้าไปต่อกรหากยังรักชีวิต คนแรกจักรพรรดิคาบุรากิผู้เงียบขรึมสุดสง่าแสนจะเริ่ด ถ้าเป็นศัตรูด้วยจะถูกไพร่พลกรีฑาทัพถาโถมใส่จนตายไปจากสังคมทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย อีกรายคือจักรพรรดินีคิโชวอินผู้มีพัดและดอกโบตั๋นเป็นอาวุธ ยามใดที่พัดภูตพรายกรายกรีด ฝนโลหิตจะชโลมทั่วซุยรัน อ้อจักรพรรดินีมีทหารเอกชื่อริรินะ เป็นหน่วยทะลวงฟันที่ฉะแหลกหากมีคนว่าร้ายจักรพรรดินีพึงสังวรณ์ใว้เลยว่าอนาคตของคนที่ต่อต้านนั้นไม่จบดีซักคน ไม่เชื่อดูยัยซึรุฮานะเป็นตัวอย่าง อีกรายคือองค์ชายเอ็นโจ รายนี้แม้ไม่อันตรายเท่าสองคนข้างต้นแต่ก็อย่าได้ทำตัวตีสนิทจนเกินพอดี พึงสังวรณ์ใว้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่อยู่กับจักรพรรดิมาตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนและยังสามารถคุยกับจักรพรรดินีได้เป็นปรกติอีกต่างหาก นี่คือข้อควรระวังสูงสุดมีคำถามอะไรมั้ย?
นักเรียนนอก : ค่ะๆๆๆ มีคำถามค่ะ ถ้าเกิดว่าเผลอลงชื่อเข้าชมรมไปแล้วดันไปเจอะจักรพรรดินีเข้าจะขออกจากชมรมได้มั้ยครับ
หัวหน้าห้อง : ...............................................................ถ้าไม่กลัวเจ้าแม่กาลีองค์ลงประทับทรงบนเซอร์บิรุสมาสะบัดพัดก็ลองดู...
ตื่นมาเมื่อกี้กดอ่านท่านเรย์กะ แล้วว่าจะมาเม้ามอยแปลไทยตอนใหม่ แต่เจอข่าวนักร้องวง linkin park เสียชีวิต จากฮาๆตอนได้อ่านท่านเรย์กะ อารมณ์กูดิ่งวูบทันที แง้ วงโปรดกูด้วยอ่ะ ขอโทษที่นอกเรื่อง แต่กูเสียใจจริงๆ ไม่น่าเลย กูอยากไปดูคอนเสิร์ตวงนี้ให้ได้ซักครั้งในชีวิตแท้ๆ ; w ;
>>186 จะฮาเกินไปแล้ว ประทับทรงบนเซอร์บิรุสนี่อะไรกัน 55555
อ่านตอนนี้ เห็นคาบุทำอะไรก็รุ่งไปหมดแล้วอยากตะโกนว่า "ฮว้ากกกกกกก เรียจูระเบิดตายไปซ้าาาาาาาาา" ชะมัดเลย หนังสือก็ไม่ต้องติวอะไรมาก กีฬาก็เก่ง ทำอะไรก็สำเร็จง่ายๆไปหมด บ้านก็รวย มีแค่เรื่องจีบสายกับสามัญสำนักบางอย่างเท่านั้นแหละที่เอามาคานสมดุลย์บ้าง orz
จะว่าไปเพื่อนเรย์กะที่คาบุรากิบอกนี่ใคร เห็นใช้เต็มปากเต็มคำมากว่าเขา
เอ็นโจวแน่ๆ รู้ยันตารางเวลาของเจ้าแม่น่ะ
>>196 ท่านฟุยุโกะนั่นล่ะ บอกว่านั่งอยู่ด้วยกันแล้วก็ลาไปห้องชมรม แต่ชี้เป้ามาสถานที่ได้แบบนี้นี่มัน ท่านฟุยุโกะแม่งจะรู้ถึงขนาดนั้นเชียวเรอะ เห็นบอกไม่สนิทนี่นา
หรือแอบสะกดรอยตามมา......อยากคุยกับเรย์กะแต่ไม่กล้า เลยต้องสะกดรอยตามเพื่อหาจังหวะคุยให้ได้ แต่ไม่มีโอกาสซักที พอมีโอกาสก็เอาของที่ตัวเองชอบไปให้ แต่ท่านเรย์กะก็ดันหนีอีก
>>198 กูแอบคิดว่าท่านฟุยุโกะอาจเป็นตัวละครที่ไขปริศนาที่มาที่ไปของท่านเรย์กะก็ได้ ด้วยความที่มาสาย Occult นางอาจจะมองออกว่าท่านเรย์กะเป็นคนมีสองวิญญาณ ไม่ก็ระลึกชาติได้ เลยอยากหาทางเข้ามาตีสนิทด้วย หรือไม่จริงๆ แล้วนางก็เป็นน้องสาวท่านเรย์กะกลับชาติมาเกิดในการ์ตูนเรื่องนี้เหมือนกัน แต่หลุดมาเป็นตัวประกอบ //สูดกาวแรงๆ ซู้ดดดดดดดดด
กูไม่เก็ทว่าทำไมคาบุถึงบอกว่าอย่ามายืนข้างหลังอะ อธิบายหน่อยได้โปรด กูงง55555
KY ข่าวลือที่ว่าเรย์กะกับคาบุสนิทสนมกันนี่น่าจะมาจากการเรียกชื่อด้วยส่วนหนึ่งแน่ๆ คาบุมันเรียก คิโชวอิน ห้วนๆตลอดเลย ซากุระตอนเจอคนเยอะๆก็เรียกว่า คุณเรย์กะ มีแค่ตอนเจอไมฮามะอ่ะที่เรียกเรย์กะห้วนๆ เอ็นโจยังคุณคิโชวอินตลอดเลย
>>205 อาริมะก็เรียกคิโชวอินห้วนๆเหมือนกันมึง ยังไม่มีข่าวว่าสนิทเลย
กูว่าที่มีข่าวว่าสนิทนี่เพราะพฤติกรรมมากกว่า เอาหนังสือมาให้ต่อหน้าคนเยอะๆ เขกหัวมั่งล่ะ ลากไปนั่นไปนี่ หรือเดินมาคุยด้วยบ่อยๆ พอดีไอ้สองหล่อนี่มันไม่ทำแบบนี้กับใครในโรงเรียนไง ประมาณว่าเรย์กะเท่านั้นที่ได้รับสิ่งเหล่านี้ คนอื่นก็แค่แฟนคลับคอยตามกรี๊ด โอกาสได้คุยเป็นเรื่องเป็นราวยังแทบไม่มี คนก็เลยมองว่าสนิทกัน
>>204 น่าจะล้อ golgo13 ว่ะ พระเอกเป็นนักฆ่า คือนักฆ่ามักจะมีเซนส์ที่สามารถจับรังสีสังหารได้ รู้ว่าใครคิดปองร้ายตัวเองอยู่ แล้วก็ระแวงเรื่องโดนลอบฆ่าจากด้านหลัง กูว่าปกติคาบุมันทำอะไรก็มีสายตาจ้องรอบทิศอยู่แล้ว คงไม่ยี่หระเท่าไหร่กับตอนคนมาจ้องจากด้านหลัง แต่ถึงกับห้ามมายืนนี่ เรย์กะต้องแผ่ออร่าด้านลบใส่จนเขารู้ตัวแน่ๆ
นาโทริ
ฉันชื่อนาโทริ มิอุค่ะ ตอนนี้ฉันกำลังเรียนอยู่มัธยมปลายที่โรงเรียนซุยรัน อ๊ะ ไม่ใช่ว่าฉันร่ำรวยกว่าเด็กทั่วไปอย่างมากนะคะ ที่บ้านของฉันเคยเป็นเกษตรกร แต่พอคุณปู่เสีย คุณพ่อที่ได้รับมรดกเป็นผืนดินก็เลยขายที่ดินผืนนั้นแล้วย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง ไม่รู้เพราะว่าพื้นเพของพวกเราเป็นคนชนบทรึเปล่า เพราะงั้นคุณแม่เลยพยายามอย่างยิ่งที่จะให้ฉันเรียนโรงเรียนดี ๆ เพื่อจะได้เป็นที่เชิดหน้าชูตา อย่างตอนที่สอบเข้าซุยรันได้คุณแม่ก็เอาไปอวดยกใหญ่
ตอนสมัยต้นเทอมฉันยังปรับตัวเข้ากับเด็กคนอื่น ๆ ไม่ได้ ซ้ำยังล้มป่วยตอนที่ไปทัศนศึกษาอีก ดังนั้นก็เลยยิ่งโดดเดี่ยวเข้าไปใหญ่ ยังดีที่ฉันเข้าชมรมการฝีมือ ดังนั้นตอนเที่ยงก็เลยไปทานข้าวกับเพื่อนในชมรม ทำให้ไม่เหงามาก แต่ยังไงก็อยากมีเพื่อนในห้องอยู่ดี ก็นั่งเฉย ๆ อยู่คนเดียวน่ะดูเหมือนคนประหลาดนี่นา ฉันไม่ได้นิสัยแย่ขนาดไม่มีเพื่อนคบนะคะ
ชมรมการฝีมือเป็นชมรมเล็ก ๆ ที่ทุกคนรวมตัวกันทำสิ่งที่ตัวเองรัก แต่มีสิ่งที่สุดยอดไปเลยนั่นก็คือหัวหน้าชมรมของเราค่ะ
รุ่นพี่คิโชวอิน เรย์กะ เป็นคุณหนูแบบที่...คุณหนูสุด ๆ ไปเลยค่ะ จะให้บรรยายถึงแล้วทั้งฐานะแล้วก็รูปร่างหน้าตาสมบูรณ์แบบสุด ๆ แม้ว่ารุ่นพี่เรย์กะจะไม่เคยทำอะไรไม่ดี แต่ฉันก็ออกจะกลัว ๆ อยู่หน่อย อาจจะเป็นเพราะรุ่นพี่ให้ความรู้สึกเหมือนคุณหนูที่เป็นตัวร้ายในหนังสือการ์ตูนที่สมัยเด็กฉันเคยอ่านล่ะมั๊ง ฉันจำชื่อเรื่องไม่ได้แล้วล่ะค่ะ แต่เป็นหนังสือการ์ตูนเกี่ยวกับนางเอกที่เป็นสามัญชน เข้ามาเรียนในโรงเรียนไฮโซ แล้วก็มีผู้ชายมารุมชอบ หนึ่งในนั้นคือพระเอกที่แสนจะเลิศเลอเพอร์เฟค เป็นที่ชื่นชอบของคุณหนูทั้งหลาย ดังนั้นคุณหนูที่โดดเด่นที่สุดในโรงเรียนก็เลยไม่ชอบใจแล้วหาเรื่องรังแกนางเอกสารพัด ทั้งผมหลอด การใช้ชีวิตหรูหรา แล้วก็เสียงหัวเราะโฮะโฮะโฮะ นี่ช่างเหมือนกันเสียจริง ๆ แม้สุดท้ายแล้วคุณหนูผมหลอดจะพ่ายแพ้ถึงขนาดบ้านล่มจมตกต่ำไป แต่ถึงยังไงสำหรับฉันแล้วคนแบบนี้ห่างไว้เสียจะดีกว่า
อ๊ะ ไม่ใช่ว่าฉันคิดว่ารุ่นพี่เรย์กะจะเป็นคนแบบนั้นหรอกนะคะ เพราะอย่างตอนนี้ รุ่นพี่เรย์กะยังมาทำงานฝีมือกับพวกเรา แถมยังคอยดูแลไม่ให้คนในชมรมถูกรังแกอีก พอตอนที่บอกเรื่องกลุ้มใจออกไปก็ให้คำแนะนำอย่างละเอียด ช่างเป็นท่านพี่ที่สมบูรณ์แบบจริงๆ นี่ถ้าเป็นโรงเรียนยูกิโนะมิยะ ก็คงจะเหมือนท่านพี่โอซางาวาระ ซาจิโกะ ในเรื่อง ‘ท่านมาเรียมองเราอยู่นะ’ แน่นอน ถ้าถูกท่านพี่ที่สมบูรณ์แบบอย่างท่านเรย์กะประกาศว่า ‘ฉันจะทำให้เธอมาเป็น-เซอร์-ของฉันให้ได้’ ล่ะก็จะต้องเป็นลมแน่ ๆ (**ท่านมาเรียมองเราอยู่นะเป็นการ์ตูนแนวยูริ ส่วนโอซางาวาระ ซาจิโกะ คือหนึ่งในตัวเอกที่เป็นสาวสวยสมบูรณ์แบบในเรื่อง เซอร์ก็เหมือนกับน้องสาว)
ในขณะที่พวกเรากำลังคุยเล่นกันด้วยบรรยากาศสบาย ๆ กว่าที่คิด จู่ ๆ รุ่นพี่เรย์กะที่กำลังจะหยิบขนมให้พวกเราก็ชะงักไปเมื่อมองโทรศัพท์ ใบหน้าของรุ่นพี่ซีดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมือถือหยุดจากมือร่วงกระเด็นไปบนโต๊ะ
ทว่าก่อนที่ฉันจะได้ทันถามว่ารุ่นพี่ไม่สบายรึเปล่า ประตูห้องชมรมก็กระแทกเปิดออก พร้อมกับคนสุดท้ายในโรงเรียนที่ฉันคิดว่าจะมาเยือนชมรมเล็ก ๆ ของพวกเรา
ท่านคาบูรากิยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าโมโห ถึงอย่างนั้นใบหน้าที่หล่อเหลาดุดันก็ทำให้ลมหายใจของฉันขาดห้วง ดีจริง ๆ ที่ไม่ได้เข้าโรงเรียนยูกิโนะมิยะ
“คิโชวอิน คิดจะปล่อยให้คอยถึงเมื่อไหร่!”
ปากของฉันเปิดอ้าค้างอย่างเสียกริยาเมื่อได้ยินคำพูดของท่านคาบุรากิ แย่แล้ว จักรพรรดิของพวกเรารอจักรพรรดินีกลับบ้านด้วยกันเหรอเนี่ย จริงอยู่ที่ได้ยินข่าวว่าทั้งสองคนไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ แต่พอได้เห็นด้วยตา ได้ยินกับหูตัวเองก็ยังคงประหลาดใจอยู่ดี
“คิโชวอิน! เมื่อวานก็บอกแล้วไงว่าห้ามเมินเมล์ฉันน่ะ!”
ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงตะคอกด้วยความร้อนแรงนั่น หันไปมองหน้าเพื่อนในชมรม พวกเราจ้องตาแล้วพยักหน้ากัน หูไม่ฝาด ทั้งสองคนสนิทสนมกับถึงขนาดส่งอีเมล์หากันน่ะไม่แปลก แต่รุ่นพี่เรย์กะช่างเป็นท่านพี่ที่สุดยอดจริง ๆ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น คงระริกระรี้อวดทุกคนในโรงเรียนแล้วว่าตัวเองส่งเมล์ติดต่อหาจักรพรรดิบ่อย ๆ แต่รุ่นพี่เรย์กะไม่ใยดีถึงขนาดเมินอีเมล์จนต้องให้จักรพรรดิมาตามถึงชมรมด้วยตัวเอง
ก็เคยอ่านหนังสือแนะนำการวางตัวของผู้หญิงอย่าง ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก ที่ให้ทำตัวไม่เกาะติดผู้ชายอยู่หรอกนะ แต่นั่นมันผู้ชายธรรมดานี่นา ถ้าเป็นระดับจักรพรรดิมาสนใจ ไม่ว่าใครก็อดตื่นเต้นดีใจไม่ได้อยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่ารุ่นพี่เรย์กะจะทำได้จริง ๆ สมแล้วที่เป็นคนที่ป๊อปปูล่าร์ที่สุดในโรงเรียน ผู้หญิงที่เพียบพร้อมอย่างรุ่นพี่ก็คงมีผู้ชายดี ๆ มารุมล้อมจนชินชาแล้วกระมัง นอกจากฐานะแล้ว เลเวลเรื่องความรักของพวกเราช่างต่างกันจริง ๆ
“อ้าวตายจริง ท่านคาบุรากิ ยินดีต้อนรับสู่ชมรมงานฝีมือค่ะ เรื่องเมล์ที่ส่งมา ฉันเพิ่งจะสังเกตเห็นเมื่อครู่นี้เอง ต้องขอประทานอภัยด้วยนะคะ”
รุ่นพี่เรย์กะตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ มุมปากประดับรอยยิ้มสูงส่งเฉยชา ทำเอาฉันไขว้เขวอีกครั้ง รุ่นพี่คะ หัวใจของฉันจะละลายไปกองอยู่ในรองเท้าแล้วค่ะ ฉันนึกภาพตัวเองแทนที่ท่านเรย์กะ ถ้ารู้ว่าจักรพรรดิจะส่งอีเมล์หาฉัน ถึงจะเป็นอีเมล์เปล่า ฉันก็คงจะต้องโทรศัพท์ตลอดเวลา แต่เมื่อครู่นี้รุ่นพี่เรย์กะไม่มีท่าทีสนใจโทรศัพท์แม้แต่น้อย ให้คำแนะนำและพูดคุยกับพวกเราด้วยท่าทีผ่อนคลาย
นี่อย่าบอกนะว่าท่านคาบุรากิหลงรักรุ่นพี่เรย์กะข้างเดียว!
“ทุกครั้งเลยสิน่า ต้องให้บอกหรือเปล่าว่ามือถือมีไว้ทำอะไร”
ท่านคาบุรากิบอกด้วยน้ำเสียงโกรธ ๆ หัวใจของฉันเต้นระรัวอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่เพราะใบหน้าหล่อเหลาหรือร่างสูงสง่านั่น แต่เป็นบรรยากาศที่เข้าไม่ถึงของทั้งสองคนซึ่งทำให้คนอื่น ๆ ในชมรมกลายเป็นตัวประกอบมากกว่า นี่มันโชวโจมังกะสินะ แต่การ์ตูนเรื่องนี้ตัวเอกไม่ได้เป็นผู้หญิงจืด ๆ ธรรมดาอย่างฉัน แต่เป็นพระนางมารีอังตัวเนตต์ที่แสนเย็นชา กับเจ้าชายผู้มีความรักอันร้อนแบบที่ซักวันหนึ่งจะต้องมีฉากจับกดแล้วก็ XXX ที่มุมลับตาของโรงเรียน!
เมื่อเห็นว่ารุ่นพี่เรย์กะยังคงไม่ยี่หระกับน้ำเสียงโกรธเคือง ท่านคาบุรากิก็เชิดคางออกคำสั่ง
“ไปได้แล้ว”
ไม่จริงน่า ฉันหันไปมองตากับเพื่อนในชมรมอีกครั้ง ถึงแม้กับพวกผู้หญิงที่รุมตื้อ ท่านคาบุรากิจะแสดงท่าทางรำคาญและพูดด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ แต่ความสนิทสนมระดับนี้มันคืออะไรกัน ‘ไปได้แล้ว’ นี่ไปไหน หมายถึงเดทโรแมนติกหลังเลิกเรียน? หรือว่าไปทำเรื่องที่ผู้ใหญ่ทำกันน่ะ!?
“เกรงใจอย่างยิ่งเลยค่ะที่อุตส่าห์มารับถึงที่นี่ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ฉันกำลังทำงานฝีมือ ฉันกำลังทำกิจกรรมชมรมอยู่ ที่สำคัญ ฉันเป็นหัวหน้าชมรมนี้ คงจะถอนตัวออกไปกลางคันโดยพลการไม่ได้หรอกค่ะ”
รุ่นพี่เรย์กะบอกด้วยน้ำเสียงไม่เร่งร้อน ทำราวกับว่าช่วงเวลาที่ได้อยู่กับท่านคาบุรากิไม่มีความสลักสำคัญอะไรมากไปกว่าการทำงานฝีมือ
พวกเรามองหน้าอีกอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ พอมองลูกไม้ที่ถักค้างในมือก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นก้างขวางคอความรักของท่านคาบุรากิยังไงชอบกล
“ท่านเรย์กะ ถ้ามีธุระกับท่านคาบุรากิ จะออกไปก่อนก็ได้นะคะ พวกเราดูแลชมรมกันต่อเองได้ค่ะ” รองหัวหน้าชมรมรีบบอก ดังนั้นทุกคนเลยรีบพูดคล้อยตาม
ก็ขัดขวางทางรักของคนอื่นมันบาปนี่นา โดยเฉพาะกับความรักอันแสนร้อนแรงของท่านคาบุรากิคนนั้น แค่คิดก็รู้สึกหวิว ๆ ในท้องแล้ว ยิ่งคู่กับจักรพรรดินีอย่างรุ่นพี่เรย์กะ เป็นคู่ที่เหมาะสมกันยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยก แม้ว่ารุ่นพี่เรย์กะจะเหมาะสมกับการเป็นท่านพี่ของพวกเรา แต่จักรพรรดินีก็ต้องคู่กับจักรพรรดิสิ!
“ไม่ได้ค่ะ ฉันยังขึ้นงานค้างอยู่เลย จะละมือไปครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้ ต้องขออภัยด้วยนะคะ ท่านคาบุรากิ”
ฉันแทบจะร้องกรี๊ดออกมาอย่างไม่อยากเชื่อเมื่อได้ยินรุ่นพี่เรย์กะปฏิเสธท่านคาบุรากิ ท่านคาบุรากิคนนั้นเชียวนะคะท่านเรย์กะ จะสุดยอดเกินไปแล้ว! แต่จะดีเหรอคะ น่าเสียดายแย่เลย
ท่านเรย์กะเหมือนจะเหนื่อยที่จะต่อล้อต่อเถียงจึงลงมือทำงานฝีมืออย่างตั้งใจต่อ
“ทำงานอะไรอยู่” ท่านคาบุรากิยังคงไม่ลดละ สุดยอดไปเลยค่ะท่านคาบุรากิ เป็นผู้ชายคนอื่นคงถอยทัพกลับไม่ถูกแล้ว นี่สินะจักรพรรดิของพวกเรา
“รุ่นน้องบอกว่าอยากถักลูกไม้ร้อยลูกปัดทำเป็นเครื่องประดับสุนัขตัวโปรด ฉันเลยจะช่วยอีกแรงค่ะ”
หัวใจของฉันหวั่นไหวอีกครั้ง ไม่จริง แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนั้น รุ่นพี่ถึงกับปฏิเสธท่านคาบุรากิ...
น้ำตาของฉันเอ่อขึ้นมาบนขอบตา รุ่นพี่เรย์กะคะ ต่อให้น้องต้องเป็นโสดตลอดชีวิต ขอแค่ได้ติดตามท่านพี่ก็ถือเป็นความสุขอันสูงสุดแล้วค่ะ ขอโทษนะคะท่านคาบุรากิ หัวใจของมิอุให้กับท่านพี่เรย์กะไปหมดทั้งดวงแล้วค่ะ แต่เพื่อความสุขของท่านพี่เรย์กะ ฉันจะเชียร์ให้ท่านคาบุรากิสมหวังนะคะ
“เครื่องประดับสำหรับสุนัข?”
ขายาว ๆ ของท่านคาบุรากิเดินไม่กี่ก้าวก็เข้ามาประชิดข้างท่านพี่เรย์กะ พวกเราถอยกรูออกเหมือนปีศาจโดนแสงโฮลี่ จ...เจิดจ้า เจิดจ้าเกินไปแล้ว เพิ่งเคยได้อยู่ใกล้ท่านคาบุรากิขนาดนี้เป็นครั้งแรก ผู้ชายอะไรตัวหอมยิ่งกว่าผู้หญิง แถมยังเป็นกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ไม่ฉุนจมูกอีกท่านหาก ท่านพี่เรย์กะต้านทานผู้ชายแบบนี้ไหวได้ยังไงคะเนี่ย เลเวลสูงเกินไปแล้ว!!!
“...ชิ้นไหน?”
“หา?”
หา???
จู่ ๆ ท่านคาบุรากิก็เอื้อมมือที่เหมาะกับการพรมลงไปบนคีย์เปียโนมาหยิบลูกไม้ร้อยลูกปัดที่ฉันทำค้างไว้ไปดู ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วทำเสียงฮืมม์ในลำคอ แล้วนั่งลงบนที่นั่งของท่านเรย์กะ
“เอามา”
“หา?”
เดี๋ยวก่อนนะ...
ท่านคาบุรากิเอื้อมมือไปทางท่านเรย์กะ ตอนแรกฉันตกใจนึกว่าท่านคาบุรากิจะบังคับขืนใจท่านพี่ต่อหน้าธารกำนัล แต่ปรากฏว่าท่านคาบุรากิเพียงแค่คว้ากระสวยถักไปจากมือท่านพี่เรย์กะ ขายาว ๆ ไขว้อย่างเกียจคร้าน แล้วลงมือถักลูกไม้ร้อยลูกปัดอย่างคล่องแคล่วราวกับทำมานาน
ฉันอ้าปากค้าง ท่านพี่เรย์กะคะ ช่วยน้องด้วยค่ะ ดาเมจแรงเกินไปแล้ว!!!
บรรยากาศในห้องชมรมเงียบกริบ ทุกคนนิ่งเหมือนถูกสาป อา ถ้าเป็นคำสาปก็อย่าให้ใครมาถอนเลยนะ นี่มันวิเศษเกินไปแล้ว ถ้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปจะถูกดุมั๊ยนะ
“นี่เธอ ตาถักตรงนี้มันแปลกๆ นะ” ท่านคาบุรากิหันไปบอกท่านเรย์กะอย่างสนิทสนม มือก็ถักลูกไม้อย่างคล่องแคล่วโดยที่ไม่ต้องมอง
“...ตรงนั้นมัน จะกลับไปแก้มันลำบาก ปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นก็ได้ค่ะ” แก้มของท่านพี่เรย์กะขึ้นสี อ๊ะ ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นก็ได้นะคะท่านพี่ ใครที่ทำครั้งแรกก็ล้วนแต่ทำผิดพลาดทั้งนั้น
“ชิ อะไรน่ะ ไหมตรงนี้พันกันยุ่งเชียว”
“...ขออภัยด้วยค่ะ”
ท่าทีหยอกล้ออย่างสนิทสนมทำให้ฉันคันมือยิก ๆ อยากจะเอาโทรศัทพ์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพท่านพี่เรย์กะที่ทำแก้มพองงอนตุ๊บป่องที่ถูกดุ กับท่านคาบุรากิที่ถักลูกไม้ไปก็หยอกท่านพี่ไปด้วย โอ๊ย ขอเป็นวีดีโอเลยได้ไหมคะ นี่มันเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์แท้ๆ
พวกเรามองท่านพี่เรย์กะที่มีสีหน้าง้องอนไม่พอใจที่ถูกท่านคาบุรากิแย่งงานฝีมือไปทำ อา...จะโกรธก็ไม่แปลกสินะ ถ้าเป็นผู้หญิง ใคร ๆ ก็อยากโชว์ความเป็นแม่บ้านแม่เรือนให้กับคนที่ตัวเองชอบเห็นนี่นา ถูกแย่งไปทำเองแบบนี้ก็คงเสียหน้าน่าดู ท่านคาบุรากิก็เหลือเกินจริง ๆ ใจร้อนอยากจะออกเดทกับท่านเรย์กะจนทำเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจสาวน้อยแบบนี้…
อ่า แต่อันที่จริงก็น่ารักนะ ถ้าผู้ชายที่ฉันชอบกระตือรือร้นขนาดนี้ ก็คงจะให้ร้อยเต็มสิบไปเลย อ๊ะ ไม่ได้นะ ทั้ง ๆ ที่สาบานไว้แล้วว่าจะติดตามท่านพี่เรย์กะ แต่ดันไปไขว้เขวกับจักรพรรดิจนได้ ยัยมิอุ เธอนี่แย่จริง ๆ
“อะไร” ท่านคาบุรากิหันไปถามท่านพี่ที่จ้องเป๋ง
“เปล่า ไม่มีอะไรนี่คะ” ท่านพี่เรย์กะตอบ ก่อนจะจ้องมองท่านคาบุรากิอีกซักพัก แล้วก็เอ่ยขึ้นต่อ “เก่งจังเลยนะคะ... หรือว่ามีประสบการณ์ถักลูกไม้มาก่อน”
อุ... ท่านพี่คะ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ แค่แฟนหนุ่มแอบไปฝึกงานฝีมือลับหลัง ไม่จำเป็นจะต้องทำหน้าน้อยใจขนาดนั้นก็ได้นะคะ บางทีท่านคาบุรากิอาจจะอยากเซอร์ไพรส์ท่านพี่ก็ได้นะคะ”
“จะมีได้ยังไงเล่า แค่ทำตามคำอธิบายของแค่นี้ใครๆ ก็ทำได้”
คราวนี้ไม่ใช่แค่ท่านพี่เรย์กะ แต่ทุกคนมองหน้ากันอย่างช๊อคๆ มายูมิจังส่ายหน้าเป็นเชิงว่าตัวเองทำไม่ได้แน่นอน ฉันเองก็ส่ายหน้าเหมือนกัน ตอนที่ทำแรก ๆ เสียไปตั้งเยอะ คนปกติไม่มีทางทำได้หรอกนะ
“คิโชวอิน” ท่านคาบุรากิเอ่ยขึ้นท่ามกลางเสียงเงียบงันในห้อง
อ๊ะ ฉันเพิ่งสังเกตค่ะว่าท่านคาบุรากิเรียกชื่อของท่านพี่ด้วยชื่อสกุลอย่างห่างเหิน ไม่รู้ว่าทั้งสองคนจะรู้สึกตัวรึเปล่า แต่การแสร้งทำเป็นไม่สนิท ทั้ง ๆ ที่การพูดจาและการกระทำสนิทกันขนาดนี้ มันแสดงพิรุธนะคะ
“คะ...”
“อย่ามายืนข้างหลังฉัน”
พอพูดแบบนั้นท่านพี่ก็ขยับไปยืนข้าง ๆ ฉันกระพริบตาถี่ ๆ อา ตอนแรกก็คิดนะว่าค่อนข้างจะทำร้ายจิตใจไปซักหน่อย แต่การเรียกให้มายืนอยู่ในที่ ๆ มองเห็นได้นี่มัน...
“เสร็จแล้ว”
ท่านคาบุรากิโยนลูกไม้ร้อยลูกปัดไปให้ท่านพี่เรย์กะ พวกเราส่งเสียงฮือฮากันอย่างชื่นชม อา นี่มันสุดยอดจริง ๆ ถักไม่ผิดเลยซักนิด ทั้ง ๆ ที่ไม่ต้องมีคนสอนแต่ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ท่านพี่เรย์กะมีคนวิเศษสุดมาตามตื้อขนาดนี้แล้ว ก็ยอม ๆ ไปเถอะนะคะ
ในระหว่างที่ฉันกำลังอวยพรให้ทั้งคู่ได้มีความรักที่ดี จู่ ๆ มือของท่านพี่เรย์กะก็เอื้อมมาจับมือของฉัน แล้ววางลูกไม้ที่ท่านคาบุรากิถักให้ไว้บนมือ
“เอ๋...!”
สมองของฉันเหมือนขาดออกซิเจนกะทันหัน มือเล็ก ๆ ของท่านพี่นุ่มนวลแล้วก็อุ่นจนทำให้ร่างของฉันร้อนผ่าว ฉันเบิกตากว้าง ก่อนจะส่ายหน้าไปมา ม...มือ ไม่ใช่สิ ตอนนี้อย่าเพิ่งมาโฟกัสเรื่องแบบนี้ได้ไหมมิอุ ท่านพี่คะ นี่มันของแทนใจที่ท่านจักรพรรดิผู้นั้นอุตส่าห์ทำให้เลยนะคะ ท่านพี่เอามาให้ฉันแบบนี้ ฉันก็กลายเป็นคนบาปไปสิคะ!
ท่านพี่ยิ้มด้วยรอยยิ้มเปี่ยมเมตตาที่ฉันเห็นแล้วรู้สึกเหมือนเข่าจะอ่อน คอมโบซ้ำเข้าไปอีกด้วยการที่ท่านคาบุรากิไม่เพียงแต่ไม่โกรธ กลับหยิบลูกไม้จากมือฉัน (ท่านคาบุรากิหยิบของจากมือฉัน นิ้วของท่านคาบุรากิแตะถูกมือฉันด้วย! เมื่อครู่ก็ท่านพี่ คราวนี้ก็จักรพรรดิ ฉันจะไม่ล้างมือเลยดีไหมนะ???) ก่อนจะหันไปแซวท่านเรย์กะ
“ตรงที่ไหมย่นๆ ตาถักหายไปตรงนี้เป็นฝีมือแม่นี่นะ”
ฉันรับลูกไม้ที่ท่านคาบุรากิวางกลับลงมาไว้ในมือ ของแทนใจของท่านทั้งสองคน มิอุคนนี้จะรักษาไว้ด้วยชีวิตค่ะ!
“เอ้า วันนี้แหละ ไปซุปเปอร์กันได้แล้ว”
ท่านคาบุรากิบอก ก่อนจะลากท่านพี่ออกไปจากห้องชมรม พอทั้งสองคนลับตา ทุกคนก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่
“จักรพรรดิอัจฉริยะจริงๆนะคะ แค่มองก็สามารถถักได้เพอร์เฟคขนาดนี้!
“คุณนาโทริโชคดีจังค่ะ อา...ได้ของที่ทำมาจากฝีมือของรุ่นพี่เรย์กะแล้วก็จักรพรรดิ น่าอิจฉาจังนะคะ”
“ว่าแต่ทุกคนเห็นไหมคะ ท่านคาบุรากิกับรุ่นพี่เรย์กะ...อุฮิ” เพื่อนในชมรมของฉันหัวเราะคิกคัก “ข่าวลือท่าจะเป็นจริงเสียแล้วล่ะค่ะ แต่ผิดตรงที่ไม่ใช่แฟน แต่เป็นจักรพรรดิมาตามเกี้ยวรุ่นพี่เรย์กะฝั่งเดียวมากกว่า”
“อย่างนั้นท่านเอ็นโจของฉันก็ยังมีหวังสินะคะ”
ทั้งชมรมกรี๊ดกร๊าดกัน ก่อนที่เพื่อนคนหนึ่งจะถามขึ้น
“ว่าแต่ ซุปเปอร์ นี่....”
ทุกคนมองหน้ากันไปกันมาอย่างลังเล
“ก็คงจะเป็นร้านอาหารชั้นสูงที่ไหนล่ะมั๊งคะ” เพื่อนร่วมชมรมของฉันตอบ อา... น่าจะใช่ ต้องใช่แน่ ๆ คนอย่างจักรพรรดิและจักรพรรดินีไม่มีทางไปซุปเปอร์จ่ายตลาดเองเด็ดขาด!
ฉันมองลูกไม้ในมือ คืนนั้นทั้งคืนนอนไม่หลับด้วยหัวใจที่เต้นระรัว มีความรู้สึกว่าพรุ่งนี้จะต้องเป็นวันที่ดีแน่ ๆ
...........
“คุณนาโทริคะ เมื่อวานได้ข่าวว่าคุณได้รับของจากจักรพรรดิ”
พอตอนพัก เพื่อนผู้หญิงในห้องของฉันก็พามารุมโต๊ะฉันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถึงแม้จะพูดด้วยน้ำเสียงน่ากลัว แต่ฉันก็ทำใจดีสู้เสือ หยิบลูกไม้ออกมาโชว์
“ค่ะ ท่านเรย์กะเป็นหัวหน้าชมรมของฉัน หลังเลิกเรียนเมื่อวานท่านเรย์กะช่วยฉันถักลูกไม้ แต่เผอิญว่าท่านเรย์กะมีเดทกับท่านคาบุรากิ ท่านคาบุรากิเลยมาช่วยถักลูกไม้เพื่อให้ท่านเรย์กะปลีกตัวได้เร็วขึ้นค่ะ”
“เอ๋?! จริงหรือคะ??!”
“แสดงว่าท่านเรย์กะกับจักรพรรดิ?!”
“คุณนาโทริ กลางวันนี้พวกเราไปทานข้าวด้วยกันนะคะ แล้วช่วยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดเลยค่ะ!”
“ขอแบบละเอียดมาก ๆ เลยนะคะ!”
“ได้สิคะ” ฉันยิ้ม ก่อนจะก้มมองลูกไม้ในมือ
ขอบคุณนะคะท่านพี่เรย์กะ เพราะท่านพี่แท้ๆ ฉันถึงเข้ากับเพื่อนในห้องได้
จบ
น่ารักมาก ดีงามสุดๆ
โอยกริ๊ด ฟิคดีงาม
ความมโนของเด็กชมรมงานฝีมือน่ารักมาก
เฮลโหลววว นี่กูคนทำสารบัญเอง ถามไรหน่อยดิ เมื่อกี้เปิดสารบัญอาหารในมือถือแล้ว บางรูปมันไม่ขึ้นว่ะ เป็นหน้าขาวๆว่างๆไปเลย แต่ดูในคอมก็เห็นทุกรูปอยู่นะ มีใครเป็นแบบกูบ้างมั้ย ถ้าเป็นกันเยอะกูจะได้ลองเอารูปใหม่ใส่แทน แล้วก็จะลองปรับแก้บรรทัดใหม่ดูด้วย
ฟิคคือดีงาม >///<
น้องน่ารักกกกก กูชอบตรงที่น้องเกือบจะเดินทางสายพี่สาว(?)555555555
มีความมโนติดฟิลเตอร์สมเป็นเด็กซุยรัน! หรือว่าความสามารถในการจินตนาการนี่จะได้รับสืบทอดกันทางยูนิฟอร์มซุยรันที่พอใส่ชุดปุ้บค่าจินตนาการ+9 กันซะ70%
สารบัญของกิน(3)
ตอน 202 : ขนม Rusk
ตอน 205 : พุดดิ้งไฮโซ
ตอน 205 : กราแตง, ซุปมิเนสโตรเน่, ขนมปังบาแกตต์, ขนมปังเบเกิล, ฟองดองต์ช็อคโกล่า(*ซ้ำ)
ตอน 206 : โอโคโนะมิยากิ
ตอน 207 : เยลลี่ซากุระ, ซากุระโมจิ, อุเมกาเอะโมจิ
ตอน 208 : อาหารฝรั่งเศส-เนื้อเป็ด (คิดว่าน่าจะเป็น duck confit(confit de canard)
ตอน 209 : ขนม Ispahan(macaron)
ตอน 211 : เจลาโต้, เทปันยากิ
ตอน 213 : ฟรุตทาร์ต
ตอน 214 : เทปันยากิ(*ซ้ำ), พุดดิ้งนม, ชามุงิ(*ซ้ำ)
ตอน 217 : ชาฮิบิสคัส
ตอน 218 : ยำปลาแซลม่อน, ชาแอปเปิลซินนาม่อน, ชาลาเวนเดอร์, ชาดาร์จีลิ่ง
ตอน 219 : ชีสเบอร์เกอร์, กาแฟเย็น, ชาอู่หลง, แฮมเบอร์เกอร์ (ฟาสต์ฟู้ดธรรมดา)
ตอน 221 : ลูกอมรสมินต์, โดเรีย, เสต็กเซ็ทเมนู, เนื้อวากิว
ตอน 222 : คุกกี้, เทปันยากิ, Dolce
ตอน 223 : อาฟเตอร์นูนที(ถาดสามชั้น)(สโคน, แยม, คล็อทครีม), บิสกิต, เมเปิลไซรัป(*ซ้ำ), แซนด์วิช, ฟิชแอนด์ชิพส์
ตอน 224 : ขนมปังฝรั่งเศส, ครีมบูเล่
ตอน 225 : ทีรามิสุ, พันนาคอตต้า, คาปูชิโน่, เค้กมาการง, พิซซ่ามาเตอร์ริก้า, พาสต้าซอส Amatriciana, ชีส Pecorino Romano, ชีส Parmigiano reggiano, ขนม Gianduja
ตอน 226 : ช็อคโกครันช์, crema catalana, ถั่วแดงไดนากง, ขนมโอฮางิ(โคชิอัน, ซึบุอัน), ซากุระโมจิ(โชเมอิ, โดเมอิ), คาชิวะโมจิ
ตอน 227 : โอชาสึเกะปลาแซลมอนกับบ๊วย, ช็อคโกแลตข้าวโพด
ตอน 229 : พุดดิ้งเต้าหู้, ขนมสายไหม, ทีรามิสุสตรอวเบอรี่, ขนมยัตสึฮาชิ, ถั่วแมคคาเดเมีย
ตอน 230 : ขนมคารุคัง
ตอน 231 : เยลลี่แอปเปิ้ล
หลังจากนี้กูว่าจะมาอัพเดทอีกทีตอนถึงตอน ~260 (รอบละ20ตอน) โม่งที่ทำรูปว่าไงมั่ง มันเยอะไปป่าว หรือจะให้อัพเดททีละ10ตอน?
>>224 ทำๆมาเต๊อะ แบบไหนก็ได้ไม่ต้องรีบหรอก เอาที่มึงสะดวกอ่ะ กูยังทำค้างเติ่งไว้ที่ตอน 111 เอง พอดีว่างทำแค่เสาร์อาทิตย์ แถมมีปัญหาโหลดรูปในมือถือแล้วมันไม่ขึ้น เลยว่าจะปรับแก้อะไรนิดๆหน่อยๆด้วย
ขอบคุณมึงมากนะที่คอยลิสต์ให้ ให้กูทำเองลิสต์เอง ด้วยสปีดหอยทากชราแบบกูตอนนี้คงยังไม่พ้นบทที่ 50 แน่ๆ 55555555555555
กอดๆมึง รักน้าาาาาาาาาาาาาา
มีใครเข้าเวบแมวดุ้นไม่ได้มั้ยอ่า
ตอนใหม่....นี่มันเดทชัดๆ!!
ถ้าชูสุเกะมาเห็นว่าวิธีเด๋อๆของเพื่อนตัวเองทำให้ได้มาออกเดทกับท่านเรย์กะแถมได้ยินคำว่ารัก(?)จากปากสาวจะทำหน้ายังไงวะ555
โอ๊ยสัสขำ ตอนใหม่เอาซะกูหุบยิ้มไม่ได้เลย วันนี้อ่านตอนมาทำโอลูกน้องอยู่ข้างนอกจะหาว่ากูบ้ามั้ยเนี่ย อือ..........กูอยากแดกแฮมสด
ปล. คิดว่าท่านเรย์กะน้ำหนักจะขึ้นอีกกี่กิโล
ตอนนี้โคตรน่าร้ากกกกก เอาแฟนอาร์ตไปย้ำซ้ำเติม ท่านเรย์กะยิ้มแป้นน่ารักที่สุด คาบุถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว ถ้าซาโตมิคุงอยู่แถวๆ นั้นด้วยคงฮาโคตร
https://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=58855196
โอ๊ย ตอนนี้ดีจริงอะไรจริง เรือเอ็นโจที่เคยนั่งอยู่มี่นคงสั่นอย่างแรง เรือคาบุแล่นฉิวเลยค่ะ โมเมนต์เดทสามัญชนนี่เข้ากับทั้งคู่มากกว่าที่คิด >_<♡♡
ตอนแรกกูอยู่เรือไซซายะ แล้วก็มูฟไปเอ็นโจตอนวาคาบะมา นี่เริ่มจะย้ายกลับที่เดิมละ...
//ประสานอินคาถาแยกเงา!
All x ท่านเรย์กะ ยกเว้นเรือคาน ดีที่สุด
รักโม่งแปล ตอนนี้น่ารักมาก ๆเลย ฮือออออ เดท มันคือเดท!!!!
อื้อหือ วันอาทิตย์แสนสดใส กับเดทซุปเปอร์แสนอิ่มอร่อย คาบุดูจะอึ้งตะลึงกับหลายๆ อย่างนะ สนุกจังตอนนี้... อ่านจบแล้วอยากกินไก่ย่างขึ้นมาทันทีเลยกู
หูยยย หล่อ! กูรู้สึกตอนนี้คาบุหล่อมาก ตอนแย่งจ่ายเงินนี่ถ้ากูไม่เจอมันบ้าๆบอๆมาก่อนมีใจละลาย ลองนึกหน้าหล่อๆของจักรพรรดิยิ้มทำเสียงหึใส่ทีนึงแล้วแย่งจ่ายเงิน พนักงานหน้าแดงเลยทีเดียว ตอนถือตระกร้านี่เหมือนจะหล่อเหมือนกัน แต่กูเสือกซึ้งตามท่านเรย์กะเลยไม่ทันโดขิ คนเราสามารถเติบโตขึ้นได้จริงๆ 555 มีการเดินไปซื้อชาให้ด้วย! ครั้งนี้แหละที่กูรู้สึกว่ามันคือเดทจริงๆ คู่นี้เป็นธรรมชาติมากอ่ะ เป็นโชโจปรกติฉากพวกนี้คงมีแต่ความเขิลหน้าแดงเต็มไปหมดแล้ว โหยยย
กูเข้าแมวดุ้นไม่ได้อะ โอ้ยอยากอ่านนนนนนนน ฮือออออจะลงแดงแล้ว!
อยากให้คาบุรากิรักเรย์กะอ่ะ แต่เรย์กะไม่สน สุดท้ายก็ขึ้นคานทั้งคู่ไรงี้5555
โอ้ยยยย เรือเอ็นโจกูถูกพายุถล่มในตอนนี้แล้วว่ะ! คาบุกับท่านเรย์กะ โมเม้นธรรมชาติมากมึง เป็นตอนที่อ่านแล้วรู้สึกถึงความโชโจขึ้นมา เอ็นโจ...รีบทำคะแนนตามมานะลูก!
ตอนหน้าอยากเห็นเอ็นโจเดินผ่านเรย์กะแล้วเอามือปิดปากกลั้นขำจัง
มึงงงง โมเมนต์ตอนนี้คือโคตรโชโจ!
มึงตอนวันนี้กับตอนที่แล้วๆๆมันอยู่วันเดียวกันใช่มั้ย
รออ่านตอนเรย์กะไดเอ็ต555555
โชโจ แปลว่าอะไร? บอกข้าที
>>250 Shoujo เป็นคำเรียกแนวการ์ตูนสำหรับเด็กผู้หญิงไรงี้อะ ส่วนมากเป็นแนวรักๆใคร่ๆหรือการ์ตูนตาหวาน ถ้าบอกว่าแลดูโชโจมาก หรือโชโจชิบหาย ก็เหมือนบอกว่าโรแมนติกมากอย่างกับหลุดมาจากการ์ตูนโชโจอะไรประมาณนั้น
ตอนนี้ตอนแรกกูอ่านแล้วรู้สึกเหมือนแม่พาลูกชายเอาแต่ใจมาซุปเปอร์เลย ตอนถือตะกร้าให้เกือบหล่อละ มาหล่อจริงตอนจ่ายตัง เรือคาบุแล่นฉิวเลยตอนนี้ 555555
ถามเกี่ยวกะสปอย
เห็นแฟนอาร์ตทั่นเรย์กะผมตรง! ใครสปอยกุทีว่านางตัดผมหรือใส่วิก แล้วทำไมถึงตัดอ่ะ
เย้ย ขออภัย ตรงที่เว้นบรรทัดดันไม่เว้นเฉย สปอยเพื่อนโม่งไปแล้ว!
ตอนนี้น่ารักโคตรๆ เรย์กะก็กินเยอะโคตรๆ5555
อยากเห็นแฟนอาตงะะะ
อยากเห็นด้วยคน
กูถามอะไรหน่อย ไอ้ดอกซึมิเระแช่อิ่มในเรื่อง ภาษาญี่ปุ่นมันคืออะไรใครรู้มั่ง กูหารูปมาแต่คิดว่ามันไม่ตรงเลยจะหาใหม่อ่ะ
Flower Preserve มันแปลว่าดอกไม้แช่อิ่ม แต่ดูรูปแล้วมันไม่มีใครเอามาแดกกันเลยอ่ะ บล็อคที่สอนทำก็บอกแค่เอามาประดับได้ ไม่เห็นบอกกินได้เลย
เข้าไปส่องในสารบัญอาหาร ตอน128 เจอรูปปั้นช็อคโกแลตพระนางมารี กูแทบกรี๊ด นึกภาพเรย์กะนั่งแทะหัวพระนาง 5555555555
>>268 แต๊งกิ้ว
แต่พอเอาคำที่มึงให้ไปหา รูปที่มันขึ้นมาไปตรงกับอีกคำที่กูเคยหาคือ crystallized ไม่ใช่ Preserve ว่ะ ถ้า crystallized มันคือการเอาไปเคลือบน้ำตาลแล้วทิ้งไว้ให้เย็นตัว น้ำตาลจะจับเป็นเกล็ดบนวัตถุเอง แต่ Preserve มันแปลตรงตัวว่าการแช่อิ่มเลย แล้วไอ้การแช่อิ่มของฝรั่ง ของไทย ของญี่ปุ่น ผลลัพธ์แม่งก็ไม่เหมือนกันอีก กูเลยงงๆกับการแช่อิ่มพอสมควร แต่หลักๆคือเอาของที่จะแช่ไปทิ้งไว้ในน้ำตาลกับน้ำเชื่อมเหมือนกัน
>>269 พร็อพมึงงงงง พร็อพพพพพพพ 55555555555555555
ขอสาปแช่ง!!!! ตาที่สามจงเปิด ให้วิญญาณทานุกิสิงสู่โม่งสารบัญอาหารจนลงพุง มีพุงสามชั้น ชิ...
เปิดดูสารบัญอาหารแล้วเที่ยงนี้ต้องแวบออกจากออฟฟิศไปหาอะไรกินที่พาราก้อนด่วน แต่ละอย่างน่ากินมาก ทรมานใจเหลือเกิน 🍰
//ปล. ขอบคุณสำหรับสารบัญอาหารนะโม่ง มึงทำได้ดีมากจนกูหิวโฮก กิเลศพุ่งเลย ขนาดกูนั่งกินข้าวเช้าอยู่นะเนี่ย
เพิ่งได้อ่านตอนใหม่ รู้สึกเรือคาบุรากิพุ่งแรงจนเรือเอ็นโจที่นั่งอยู่มันสั่นโคลงเลยแฮะ บทสนทนาตอนนั่งกินไก่ย่างนี่คืออะไรวะ โคตรเป็นธรรมชาติ คาบุไปกดน้ำแล้วมีถามว่าเธอจะเอาอะไรด้วย โฮ้ยยยยย นี่รู้จักคิดเพิ่มเติมขึ้นมาขนาดนั้นเลยเรอะ คาบุ ขนาดลาเต้กระต่ายของเอ็นโจยังโดนกวนซะเละก่อนดื่มเลยนะ คิดๆ ดูแล้ว ของที่คู่นี้ให้กันและกันนี่มาแรงแซงคู่อื่นๆ เลยมั้งเนี่ย ถึงจะเป็นหนังสือกดจุดบ้างอะไรบ้างก็เหอะ
ตอนล่านี่เพิ่งสังเกตุว่าท่านเรย์กะไม่ได้ชิมสักสิ่งนอกจากน้ำผัก ได้แต่มองตามตาปรอย น่าเอ็นดู แล้วยังโดนคาบุจกขนมที่กะซื้อให้ตัวเองไปอีกต่างหาก ฮา
กูซ่า เดี๋ยวสักพัก คาบุรากิแม่ง ชอบเรกะแน่ๆ
ออกแนว ขอคำปรึกษาไปเรื่อย รู้สึกตัวก็ชอบมากกว่าวาคาบะซะแล้ว
>>277 รู้สึกตอนเที่ยงจะทานเป็นสลัดนะ เพราะวันนี้เริ่มมาตั้งแต่ตอนที่ 231 เช้ามาฟังข่าวลือเรื่องคาบุกับวาคาบะ เที่ยงมากินสลัดสวยๆ เพราะไดเอ็ท เจอริรินะให้ข้อมูลเรื่องคุณยุยโกะเลยสลด มานั่งกินเยลลี่แอปเปิลเชื่อมที่สโมสร กำลังจะไปต่อขนมอบแต่เจอท่านฟุยุโกะเลยเผ่นหนีมาก่อน เอาแต่ขนมติดมือมาด้วย พอจะกินขนมกับน้องๆ ก็เจอคาบุขัดอีกรอบ พอมื้อเย็นเลยระเบิดเกจซะ...
ท่านเรย์กะกับคาบุรากิไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขนาดนี้ ที่บ้านทั้งสองคนต้องรู้แหละ อย่างน้อยๆคนขับรถบ้านคาบุน่าจะรายงานพ่อแม่คาบุรากิ
แล้วคนในระดับเดียวกัน นอกจากยูริเอะก็ไม่เห็นคาบุจะมีท่าทีอะไรด้วย ตอนนี้มาสนิทสนมกับเรย์กะ พ่อแม่คาบุอาจจะทำอะไรสักอย่างก็เป็นได้
>>278 มึงพูดละนึกได้ ท่านเรย์กะพอเป็นเรื่องยุยโะกับเอ็นโจแล้วชอบเผลอตัวอยู่เรื่อย ปากบอกไม่สนใจๆ แต่พอริรินะพูดขึ้นละนางออกอาการไวกว่าเพื่อนเลย แถมพอเจอสองคนนี้รังสีสาปแช่งก็แรงกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัวแถมไม่หายโกรธด้วยนะ คู่อื่นพอนางเผลอแช่งพอรู้สึกตัวก็รู้สึกผิด
>>271 ฮรี่ๆๆๆๆ ทำให้มึงหิวได้ กูก็ดีใจ แต่อ่านแล้วรู้เรื่องใช่มั้ย ไม่น่าเบื่อใช่มั้ย ตอนทำกูเจอเกร็ดนั่นนี่น่าใส่เยอะแยะไปหมด แต่ใส่แล้วเดี๋ยวยาวเป็นรายงานเลยไม่ใส่ ที่เห็นกูมาพล่ามเยอะๆในโม่งคือกูอัดอั้น กูสำลักความรู้ที่ได้รับ เช่นเรื่องพายแอปเปิ้ลนี่ ประวัติยาวเหยียดมาก แถมประวัติในเมกาแม่งค่อนข้างบ้าบอนิดๆ แต่ใส่แล้วจะยาวเลยไม่เอาดีกว่า
>>272 นั่นสิ พูดถึงลาเต้อาร์ทแล้วก็ปวดใจแทนองค์ชายของกูเหลือเกินนนน แต่นางชดใช้ จ่ายค่าตอบแทนของการกระทำไปด้วยอาการหมดอาลัยตายอยากตอนเห็นยุยโกะมาควงแขนถึงที่แล้ว กูเลยไม่อะไรมากเท่าไหร่
>>279 กูว่าเข้ารูทงานหมั้นแน่ๆ 55555555
พูดไปเห็นมีโม่งคนนึงบอกว่าเข้าใกล้ตอนที่ 100 นี่คือเรื่องหนักๆที่แต่ละคนจะต้องเจอ ร้อยตอนแรกคาบุอกหักไปโดดผา ตอนที่สองร้อยเรย์กะเจอคดีล๊อกเกอร์ ตอนที่สามร้อยน่าจะถึงคิวเอ็นโจละ ต้องดูกันว่าใครจะโดนจับหมั้นก่อนระหว่างคาบุกับเอ็นโจ แต่ให้กูเดา กูว่าเอ็นโจไม่รอดแน่
>>280 กูว่านางชอบเขาว่ะ แต่ไม่ยอมรับตัวเอง หลังๆมานี่ พอเป็นเรื่องยุยโกะกับเอ็นโจทีไร นางโกรธแบบจริงๆจังๆมาก แล้วเวลายุยโกะโผล่มาแทรกเวลาดีๆที่นางอยู่กับเอ็นโจ นางปิดกั้นตัวเองทันทีเลยด้วย ตัดฉับไปที่กำลังทำอะไร แต่ไม่บอกว่าคิดอะไร ฟีลมันจะเหงาๆเป็นสีเทาๆมัวๆ แบบที่โม่งคนนึงเคยบอกไว้ว่าเต้นอยู่ดีๆแล้วโดนเปิดไฟไล่กลับบ้านน่ะ
ปล. กูว่ากูเจอแบรนด์ขนมที่เอาไปงานน้ำชาบ้านคาบุแล้วว่ะ เดี๋ยวเย็นนี้ค่อยกลับไปใส่ให้
กูคนเดียวเบิ้ลไปสามเมนท์เลยเว้ยยยยย ขอโทษ Orz
>>288 กูจะพยายามเล่าย่อๆที่สุดละกัน
พายแอปเปิ้ลเกิดในอังกฤษราวๆศตวรรษที่ 13 สมัยนั้นน้ำตาลแพงมาก ต้องนำเข้า เลยเอาแอปเปิ้ลไปผัดกับพวกเครื่องเทศอย่างชินามอนแล้วก็อะไรก็ตามที่จะหาใส่ได้ ไม่ใส่น้ำตาล สูตรโบราณๆหน้าตาบ้านๆจืดๆ แล้วก็กินกันแบบนั้นมาเรื่อยๆ ฟังดูไม่ค่อยน่าอร่อยเท่าไหร่
จนกระทั่งไปล่าอาณานิคมที่อเมริกา คนอังกฤษก็เอาสูตรพายแอปเปิ้ลติดตัวไปด้วย แต่ว่าสมัยนั้น อเมริกาเพาะปลูกห่าอะไรก็ลำบาก ส่วนใหญ่ก็ทำไร่ข้าวโพด ข้าวสาลีอะไรกันไป ต้นแอปเปิ้ลหายาก กว่าจะได้กินก็ต้องรอทางอังกฤษส่งมาให้ เลยไม่มีของทำพายแอปเปิ้ล ก็จับสัตว์แถวๆนั้นทำไส้พายซะ เป็นที่มาของพายเนื้อ
แล้วพอศตวรรษที่ 19 การเกษตรเจริญก้าวหน้า ปลูกแอปเปิ้ลได้แพร่หลายก็เริ่มต้นทำพาย จนฮอตฮิตในอเมริกามากกก ขนาดมีคำพูดประมาณว่า "คนไหนไม่กินพาย ก็ให้เอาไปกำจัดทิ้ง" แล้วก็มีคำที่สัมภาษณ์จากทหารที่ไปรบใน ww2 ว่าไปรบเพราะอะไร คำตอบคือ "for mom and apple pie" (เป็นสำนวนเมกันประมาณว่าพิทักษ์สิ่งสำคัญอ่ะ แต่กูก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าพายแอปเปิ้ลมันเป็นสิ่งสำคัญจนต้องพิทักษ์ยังไง ใครรู้ก็อธิบายที)
ปล. มีเมืองชื่อ pie town ด้วยนะ อยู่ในนิวเม็กซิโก ตั้งขึ้นเพราะความคลั่งไคล้พายแอปเปิ้ล
ปล.อีก ที่มาของทาร์ตก็มาจากพายแอปเปิ้ลเหมือนกัน
เชี่ยยยย จู่ๆ พอลองมโนว่า จอมมารชอบเจ้าแม่อยู่แล้ว แต่จีบอ้อมโลก เจ้าแม่ก็ชอบจอมมารแบบไม่รู้ตัว ไซซายะก็อาจหันมาชอบแม่สื่อ
นิยายเรื่องนี้คงวุ่นไปอีกแบบ ยิ่งดูจากนิสัยไซซายะแล้ว วุ่นแน่ๆ...
>>292 กูก็อยากคิดแบบนั้นนะ แต่อ.ฮิโยโกะแกเป็นนักหักหลังว่ะ อะไรที่คนอ่านอยากเห็น อยากได้ แกไม่ให้หรอกนะ 555555555555555
หลายอีเวนท์มากที่ปูมาทำนองให้คิดไปไกลว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้แน่ๆ เอาเข้าจริงไม่เกิดอะไรขึ้นเลย แต่พอไม่คาดหวังอะไร ไม่ได้ปูเรื่องอะไรมาเลย
หรือไม่ก็ไม่ได้ชง อีเวนท์เสือกโผล่มาซะงั้น เป็นงี้หลายรอบแล้ว และกูว่ามันคงเป็นไปยันจบเรื่องแน่ๆ
>>290 for mom and apple pie คำเต็มๆคือ motherhood and apple pie เป็นคำปลุกระดม ปลุกใจให้ทหารไปรบ โดยสร้างสัญลักษณ์ที่เด่นชัดในใจมากของคนอเมริกันคือบ้านเกิดเมืองนอนและพายแอปเปิ้ล
motherhood and apple pie = ค่านิยมอันดีงามทั้งหลายของชาติอเมริกัน ที่ต้องเป็นพายแอปเปิ้ลเพราะชาวอเมริกันทุกคนล้วนแต่ชื่นชอบพายแอปเปิ้ลน่ะสิ (A “motherhood and apple pie” issue is an issue which is universally agreed upon just as no one would disparage “motherhood” and everyone likes apple pie. )
อ่านคำอธิบายแล้วรู้สึกว่าแม่งโครตโอตาคุพายแอปเปิ้ลกันเลยโว้ย อะไรจะคลั่งไคล้ขนาดนั้นนนนน
สงสัยว่านอกจากชั้นใต้ดินห้างสรรพสินค้าแล้ว ยังมีอีกกี่ที่ให้คู่หูตะลอนทัวร์ (บริโภค) คู่นี้ไปกันนะ ขืนเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ กว่าจะเรียนรู้วิถีสามัญชนเสร็จ ท่านเรย์กะมีหวังอืดพอดี
>>300 อาฮะ รสนิยมเฉพาะทางจริงๆ แต่หนังขาวดำหลายเรื่องก็สนุกมากนะ อย่าง To Kill a Mockingbird,Psycho(หนังฮิตช์ค็อก คนที่เจ้าแม่ต้องการโค่นล้ม),Casablanca(หนังแอบรักเมียชาวบ้านในช่วงสงครามโลก),Following(หนังโนแลน เกี่ยวกับนักเขียนที่สะกดรอยตามคนอื่นเพื่อหาแรงบันดาลใจเขียนบท สนุกมาก กูแนะนำเลย)
>>301 Casablancaหนังดีนะ ฉากที่นาซีร้องเพลงชาติในบาร์แล้วทุกคนนั่งกัดฟันทน
จนพระเอกสั่งให้นักดนตรีขึ้นเพลงชาติฝรั่งเศสแล้วคนร้องกันทั้งบาร์
ตอนที่ฝรั่งเศสโดนก่อการร้ายเมื่อปีสองปีก่อนคนเอาฉากนี้มาแชร์กันเพียบ
ปลุกใจรักชาติกับให้กำลังใจคนฝรั่งเศสช่วงนั้น
อีกเรื่องคือเอฟเฟคอลังการ ฉากที่สนามบิน เครื่องบินที่อยู่ไกลๆในฉากหลังทำจากลังกระดาษ
>>303 ฉากนั้นกูก็ชอบ ขนลุกเลยตอนร้องเพลง อีกฉากที่ดูแล้วเศร้าตามคือ พระเอกอ่านจดหมายนางเอกที่สถานีรถไฟแล้วน้ำฝนมันมาโดนกระดาษ หมึกก็เลยเลอะ แล้วข้อความก็ค่อยๆหายไป เหมือนจะสื่อว่านางเอกก็ร้องไห้ผ่านจดหมาย พระเอกก็เศร้าด้วยเพราะสายฝนและการลาจาก เล่นได้ดีจริงๆ สายตาเศร้ามากอ่ะ
กูชอบพระเอกเรื่องนี้นะ คำพูดว่ารักแท้คือการเสียสละ รักอมตะคือการรักเขาข้างเดียว แม่งเหมาะกับพระเอกเรื่องนี้จริงๆ แถมหนังโฟกัสในมุมมองฮี ก็ยังเสือกคาดเดาได้ยาก อ่านใจไม่ออกอีกต่างหาก(ลักษณะคุ้นๆเหมือนใครซักคนแถวๆนี้เลยเนอะ) แล้วสุดท้ายก็... แต่ก็โอเค เป็นบทสรุปที่ดีสำหรับทุกฝ่ายแล้ว
แปลไทยตอนใหม่มาแล้ว โอ๊ย...ฮาพลังแห่งสปิริต ชอบตอนที่ฟุยุโกะทักว่าชอบเอ็นโจหรอ เรย์กะตอบแบบมาตรฐานคนซึนเลยไม่มีอธิบายอะไรซะอย่าง แต่พอคาบุรากิตอบแบบคนเซ็งๆ มีเหตุผลอธิบายเพียบ
หลังจากมีอีเวนท์กับจักรพรรดิรัวๆ อะไรคือเอ็นโจโผล่ออกมาคืบเดียว นายจะยกตำแหน่งพระเอกให้คาบุรากิแล้วสินะ
อ่านคอมเมนต์ในแมวดุ้นที่ว่าพัฒนาความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นไปถึงไหนๆ แต่กับเอ็นโจยังเดินหนีเหมือนเดินแล้วโคตรปวดใจ แต่ก็จริง 55555 ถ้าไม่งัดการ์ดยูกิโนะมาใช้ก็แทบไม่มีโอกาสเข้าถึงตัวเจ้าแม่เลยนะเนี่ย
สปอยนิดๆนะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
จากที่ดำน้ำอ่านมา หลังๆพอคาบุอยู่กับเรย์กะ2ต่อ2ทีไร เอ็นโจจะชอบเข้ามาขัดตาทัพเรื่อย มีขอมาอยู่ในห้องประชุมเล็กด้วย มีตอนที่คาบุอยู่กับเรย์กะแล้วล๊อคห้องประชุม ตานี่ก็รีบมาเคาะถามทำไมต้องล๊อค พอเขาจะไปฟาสฟู้ดกันกก็ขอตามไปด้วย
เพราะงั้นชาวเรือเอ็นโจ ห้ามพ่ายแพ้ต่อคะแนนมิตรภาพของเจ้าคาบุเชียวนะ เรายังมีความหวังเต็มเปี่ยม!
พูดเรื่องผม สีหัวของเอ็นโจบ่อยๆอีกละ ทีแรกก็พูดว่าผมเป็นประกายระยิบระยับ คราวนี้อยากให้ย้อมเลยวุ้ย ทีแรกยังไปทักซาโตมิว่าย้อมผมผิดกฎแท้ๆ ....อยากเจอเจ้าชายจากคิมิดอลอะดิ ฮี่ๆๆๆๆ
กูว่าในงานโรงเรียนต้องมีอีเวนท์เจ้าชายผมทองปรากฎตัวแน่ๆ
>>308 โอ๊ย กูล่ะนึกถึงเพลงไกลเท่าเดิม
"อยากให้เธอรู้สักอย่าง เราอยู่ห่างเกินไป
เธอวางตัวกับฉันทีไร เหนื่อยใจไม่อยากทวงถาม
จากที่เคยใช้เวลา เนิ่นนานทุกอย่างเท่าเดิม
แล้วทำไมไม่คิดเพิ่มเติม เธอเว้นทางเดินเผื่อใคร"
>>311 แม้ครั้งใด ที่ฉันต้องการใกล้เธอ เธอก็ถอยไปอีกไกล ออกไป ยิ่งไกล ไกล เท่าเดิม..... //กูต่อเพลงให้ 55555555555555
ผ่านมาสิบปี นายก็ยังได้ระยะห่างเท่าเดิมเลยเว้ย ถ้าไม่มียูกิโนะคือนายหลุดขอบจักรวาลท่านเรย์กะไปแล้วล่ะ โครตน่าสงสาร คนหล่อเรื่องนี้มันอาภัพจริงๆวุ้ย สงสัยต้องกินกันเองแล้วถึงจะสุขสมหวัง ปล่อยสาวๆไปปลูกทุ่งดอกไม้ ส่วนพวกนายก็ปลูกป่า//ผิดๆๆๆๆๆๆๆ
แอบเข้าใจเรย์กะนะ เรื่องเอ็นโจ
พอเป็นปัญหาก็โยนมาแล้วหายหัวไป ไหนไม่รู้
แล้วทำมาพูดว่า เหนื่อยหน่อยนะ พร้อมยิ้มหัวเราะ อะไรของเมิงวะ สนุกเหรอ
เป็นกุคงแบบไอ้เวรนี่โยนภาระมาให้กุแล้วมาหัวเราะคิกคักใส่อีก หาเรื่องกันเหรอวะ ไรงี้แน่ๆ
พอเห็นแบบนี้ท่านเรย์กะจะมองในแง่ลบ ค่อยเลี่ยงคอยหนีก็ไม่แปลกอ่ะนะ
สปอย์มั้ง
ยิ่งหลังๆ ทำมาร่วมวงด้วย แอบมาด้วยแบบเนียนๆ
อารมณ์แบบตอนแรกไม่ช่วย พอเห็น เค้าไปกันด้วยดี สนุก ทำมาร่วมด้วย
เหอะ.. หมั่นไส้คนแบบนี้ว่ะ เหมือน หวงก้างนิดๆมั้ง
ปล.เห็นด่างี้ แต่กุเรือเอ็นโจนะเนี่ย แต่เบื่อพฤติกรรมเฮียแกจริงๆ
>>315 มันเหมือนว่าตอนแรกเอ็นโจแอพพรูฟเรย์กะ(ก็คงเริ่มชอบเองด้วยแหละ จำได้ว่าช่วงแรกมันมีpov ของนักเรียนคนนึงที่เล่าประมาณว่า "คนๆนั้นก็คอยมองเรย์กะอยู่ พอเห็นเรย์กะโดนขี้นกตกใส่ยังขำ" เราว่านี่พูดถึงเอ็นโจแน่ๆ และตอนซาโตมิ povก็พูดถึงเอ็นโจช่วยเรย์กะลับหลังอีก) แล้วคิดว่าตัวเองแข่งกับมาซายะไม่ได้ เลยกะจะจับคู่เรย์กะให้มาซายะ เพราะรู้ว่ามาซายัสิ้นหวังกับยูริเอะแน่ๆ เห็นได้ว่าตอนแรกๆเอ็นโจพยายามยัดเยียดให้สองคนนี้เข้าหากัน
แต่พอมีวาคาบะเข้ามา ก็กลายเป็นว่าทางสะดวก หลังๆเอ็นโจเลยค่อยๆรุกคืบหาเรย์กะมากขึ้น (ช่วงที่แวบหายไปคงติดปัญหาเรื่องคุณยุยโกะ) ช่วงหลังนี่ เอ็นโจพยายามแทรกกลางระหว่างคาบุกับเรย์กะมากขึ้น คิดว่าเฮียคงเริ่มเอาจริง
ยังไงก็ขอปักธงเอ็นโจมั่นไม่ไปไหนละ
>>315 เอาน่า กูเข้าใจ บางทีกูก็อยากทะลุมือเข้าไปในเรื่องแล้วตบกบาลฮีเหมือนกัน แต่เห็นแก่ความดีทั้งหลายที่ทำมา ก็เลยยังรักอยู่ อีกอย่างเวลาสองคนนี้มีปัญหาอะไรฮีก็ออกหน้าแทนตลอด มาช่วยทุกครั้งนั่นล่ะ แต่พอช่วยปัญหาหนักๆก็ไม่เคยเอาบุญคุณมาพูด ตรงนี้ล่ะที่ทำให้กูรักเขา ที่ตอนนี้ยังไม่มาร่วมด้วยเพราะติดธุระบวกกับเห็นว่าเรย์กะยังจัดการได้อยู่มั้ง กูก็ไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงเหมือนกัน
>>316 กูมัดตัวเองกับเรือนี้แน่นหนาไม่ไปไหนตั้งแต่ "เขา" ของหัวหน้าห้องในตอนที่ 70 แล้ว กูมั่นใจมากว่าเขาที่ว่านั่นคือเอ็นโจนั่นล่ะ คำว่าคอยสอดส่องคือคีย์เวิร์ด แล้วคนที่สอดส่องเรย์กะมาจนบัดนี้ก็มีอยู่คนเดียวจะใครล่ะ จากมุมมองคนอื่นจะเห็นว่าเอ็นโจอ่ะทำอะไรเพื่อเรย์กะแบบลับหลังตลอดเลย ไปพูดด้านดีๆของเรย์กะให้เณรน้อยฟังมั่งล่ะ น้องแว่นบอกจับหิ่งห้อยให้มั่งล่ะ ขู่ซึรุฮานะว่าถ้าใส่ร้ายเรย์กะกูไม่เอามึงไว้แน่ แม้พฤติกรรมบางอย่างของฮีมันน่าเหนื่อยใจ แต่กูเชื่อว่าฮีไม่มีทางคิดร้ายต่อเรย์กะแน่ๆ ก็ออกจะรักหนักแน่นมั่นคงขนาดนี้
กูว่าฮีชอบเรย์กะมานานมากว่ะ อาจจะตั้งแต่แรกพบด้วย ถึงได้มองมาตลอด จำชื่อเขาได้ทั้งที่ยังไม่เคยคุยกันเลย จำได้ว่าเขาทำอะไร ชอบอะไร สมัยประถมเวลาเรย์กะเลิกมองคนอื่นพอหันหน้าไปก็ได้สบตากับเอ็นโจตลอดนั่นล่ะ แต่ที่ไม่รุกซักที กูว่าฮีมีเรื่องยุยโกะเป็นห่วงผูกคอตัวเองอยู่นี่ล่ะ ทำอะไรก็สะดุดไปหมด คือเวลามีเรื่องยุยโกะมาข้องเกี่ยวเนี่ย นอกจากเรย์กะจะตัดฉับความคิดตัวเองแล้ว เอ็นโจก็ยัง Pause ตัวเองไว้เหมือนกัน มันเลยไม่ไปไหนซักทีไง จะช้าจะเร็วยังไงปมยุยโกะก็ต้องเคลียร์ ซึ่งกูก็หวังให้เคลียร์ไปได้ด้วยดีนะ
>>319 คิดไว้เหมือนกันว่า ถ้าในด้านเอ็นโจ แม้จะชอบเรย์กะ แต่ฮีคงมียุยโกะเป็นห่วงผูกคออยู่ ทั้งเห็นว่ามาซายะไม่หวังกับยูริเอะแน่ เลยตัดใจและไหนๆก็ไหนๆ ยกคนที่ชอบให้เพื่อนสนิทดีกว่าให้ไปคบกับใคร ทีนี้ตอนหลังคาบุดันมีวาคาบะ และท่าทางเอาจริง ตัวเองเลยเห็นความหวัง หมดห่วงเรื่องเพื่อนแล้ว ทีนี้ข้าขอเอาเองละกัน และเริ่มที่จะไล่เคลียร์ปัญหายุยโกะ
แต่แอบคิดว่า ยุยโกะมันต้องมีความหลังไรที่ทำให้เอ็นโจปฏิเสธนางไม่ได้แน่ๆ ไม่งั้น ทั้งหน้าตาทางสังคม ชาติตระกูล มันก็ไม่มีอุปสรรคอะไรเลยที่คิโชวอินกับเอ็นโจจะเกี่ยวดองกัน
เราว่ายุยโกะมันต้องไม่ปกติแหง
แต่ดิบนี่ก็ไม่อัพเดทซักที แล้วยังไม่เฉลยปมไรด้วย สงสัยปมยุยโกะอาจจะมาตอนที่300
ky ไปเจอในบอร์ด NU
https://www.fanfiction.net/s/12561123/1/Kenkyo-Kenjitsu-wo-Motto-ni-Ikiteorimasu
ยังไม่ได้อ่านว่าเป็นยังไง มาแปะไว้ก่อน ฟฟฟฟฟ
KY นิด นี่อ่านตอนที่คาบุว่าจะร้องเพลงกับวงดนตรีสดเท่านั้น ถ้าเกิดวาคาบะพูดให้ได้ยินต่อหน้าว่าชอบนักร้องวงนั้นวงนี้หรือคนที่ร้องเพลงเก่งๆ คาบุมันต้องไปเกณฑ์วงออเครสตร้ามาเป็นแบ็คให้ร้องต่อหน้าแน่ๆ ไม่ก็ไปบังคับเอ็นโจให้เล่นกีตาร์ ท่านเรย์กะ... ตีฉิ่งเคาะอังกะลุง ตั้งแบนด์สามผู้ยิ่งใหญ่แห่งซุยรันออกแสดงในงานโรงเรียนแหงๆ 55555
>>327 เอ็นโจต้องเล่นเบส เหมาะสุด เบสคือตัวเชื่อมประสานระหว่างกลองกับกีต้าร์ ขาดเบสไปดนตรีไม่สมบูรณ์ทันที กลองเป็นตัวคุมจังหวะเพลง เบสเป็นตัวคุมจังหวะเมโลดี้ เหมือนกระดูกสันหลังของวง
แหะๆ กูเคยเล่นเบสมาก่อนนิดหน่อยน่ะ เลยอยากฝอยคุณงามความดีของเบสน่ะ 555555555
คาบุเป็นพวกชอบโชว์ออฟแม่งต้องลีดส์กีต้าร์ โซโล่แบบเท่ๆ เทคนิคแพรวพราวอย่างเดียวเท่านั้น
เห็นทักเรื่องสีผมอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่ประถม ถ้าเอนโจบ้าจี้ย้อมจริงนี่มีฮานะ
ตระกูลเอ็นโจอาจจะติดหนี้ตระกูลอุริว(ชื่อนี้ป่ะวะ)เลยต้องส่งชูสุเกะไปขัดดอก
สัญญาหมั้นตั้งแต่รุ่นปู่ย่าหรือเปล่า ถึงตัดขาดตรงๆ ไม่ได้ ปฏิเสธก็ไม่ได้ ได้แต่เป็นท่อนไม้ให้ยุยโกะเกาะ
>>340 กูก็เคยคิดเหมือนกัน ตอนนางปรากฎตัวทีไร เอ็นโจดูไม่ดีใจเลยซักครั้ง อย่างตอนงานโรงเรียนก็สะดุ้ง หยอกกับเรย์กะในงานซากุระจากหัวเราะๆก็เปลี่ยนไปแค่ยิ้มนิดๆ ตอนไปดื่มชากันสามคน นางโทรมา ฮีหุบยิ้มทันควัน ถ้านางมาประชิดตัวก็ต้องรีบเอาอกเอาใจทำตามคำสั่ง ดูขัดใจนางไม่ได้เลย ต้องทูนไว้เป็นเจ้าหญิงบนหิ้งตลอด แต่กับเรย์กะฮีบริการให้ทันทีไม่ต้องร้องขอ อาสาทำด้วยตัวเอง เอาน้ำให้ จับหิ่งห้อยให้ ทำลาเต้อาร์ทให้ นั่นนี่โน่น
กูว่าถ้าคนแบบเอ็นโจจะปฏิเสธไม่เอา ไม่ทำแบบหนักแน่นก็ทำได้นะ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็แปลว่าต้องมีเงื่อนไขอะไรหนักหนาสาหัสเกินกำลังอยู่นั่นล่ะ เรื่องนี้จะเกี่ยวอะไรกับพ่อเอ็นโจที่ยังไม่ออกมารึเปล่าหว่า
>>346 กูว่าปมเอ็นโจน่าจะมาท้ายๆ ใกล้จบเรื่องแน่ๆว่ะ ซึ่งตามสเต็ปมังงะโชโจในรั้วโรงเรียน ทุกอย่างจะคลี่คลายก่อนถึงพิธีจบการศึกษา ดูเป็นเรื่องใหญ่ที่ยังคั่งค้าง ปกติอีเวนท์อื่นๆไม่กี่ตอนก็คลายปมแล้ว แต่นี่ยังคาราคาซังลากยาวมาเป็นปี เป็นร้อยตอน ไม่มีทีท่าจะเคลียร์ ก็น่าจะอุบไว้เป็นทีเด็ดช่วงท้ายๆเลย คงอลังการงานสร้างแน่ๆ
>>354 ว่าไปหน้ากากแก้วมันไปถึงไหนแล้ววะ กูอ่านถึงตอนคู่หมั้นพระเอกขู่ฆ่าตัวตายเล่ม 40 กว่าๆมั้ง รำคาญนางชิบหาย ขู่จนกูรู้สึกแบบ เออๆช่วยตายๆไปเหอะว่ะ ขู่หลายรอบแล้วแต่เสือกไม่ตายจริงซักที.......... น่าจะมีให้ใครจัดให้นางสมความปรารถนานะ
แต่คุณมาสึมินั้นได้ใจกูมากกกกก ขึ้นทำเนียบพระเอกในดวงใจกูเลย ปกติกูรักพระรอง แต่เรื่องนี้กูรักพระเอก
>>355 เท่าที่รู้ก็คือประมาณนั้นล่าสุดนะ จนกูเริ่มไม่สนใจล่ะว่าใครจะได้เล่นบทนางฟ้าสีแดง สนว่าคุณมาสึมิกับมายะจะได้กันหรือเปล่ามากกว่า
...จะว่าไป ท่านเรย์กะก็เหมาะกับบทคุณอายูมิดีนะ ลูกคุณหนูสวยเริ่ดไว้ผมม้วน ใครๆ มองว่ามีพรสวรรค์เพียบพร้อมแต่ความจริงเป็นคนอุตสาหะพยายามสุดๆ 5555
ทางนี้ยังไม่ได้แก่นะ แต่ยังมีหนังสือสมัยรุ่นแม่เก็บไว้อยู่เลยได้อานิสงค์อ่านจนติดตามไปด้วย ว่าไปแล้วพวกที่ยังเป็นตำนานนี่นับคำสาปฟาโรห์ด้วยไหมหว่า แบบว่าแครอลคือไอซิสพี่สาวฟาโรห์ที่สุดท้ายก็ต้องไปแต่งกับใครก็ไม่รู้ รู้แต่เป็นราชาแถวอาหรับแล้วคนๆนั้นเป็นเอ็นโจ ประธานนร.เป็นอิสมิล เรื่องคงกลายเป็นแฮปปี้ดี๊ด๊าไม่ต้องรบราอะไรกันจนกลายเป็นบ้านเมืองสงบไปเป็นพันปีงี้55555
>>355 ก็ตามนั้นล่ะ คู่หมั้นพระเอกก็ขู่ฆ่าตัวตายหลายรอบ ถ้าพระเอกไม่ไปอยู่ข้างกายนาง นางก็จะเรียกร้องความสนใจละ แต่พระเอกตัดสินใจว่ากูจะไม่ทนอีกต่อไป ตัดขาดกับพ่อแม่งละ อยากให้แต่งก็แต่งเองละกัน ส่วนนางฟ้าสีแดงก็ดับเบิ้ลแคสท์กันอยู่
>>356 วาคาบะเป็นมายะสินะ สาวน้อยสามัญชนแต่มีพรสวรรค์ เรย์กะเป็นคุณอายูมินี่เหมาะมาก แถมปกป้องมายะแบบสุดฤทธิ์สุดเดชด้วย ตอนมายะโดนอีสาวคนนึงใส่ร้าย อายูมินางเล่นงานยัยนั่นด้วยความสามารถจนไม่มีที่ยืนในวงการเลย เหมือนเรย์กะกับวาคาบะเลยเนอะ 555555
>>359 คุณกุหลาบสีม่วงต้องซึนด้วยมึง ให้คาบุไปใส่ความซึนมาซะ 55555555
ว่าไปนิยายเรื่องนี้ก็ล้อการ์ตูนเก่าหลายเรื่องมากเลยนะ ไหงยังไม่เคยเห็นมุกจากหน้ากากแก้วหรือคำสาปฟาโรห์เลย ถ้าเรื่องนี้วาดเป็นมังงะ แม่งต้องทำหน้าตกใจ ตาดำหายเหลือแต่ตาขาว แล้วมีสายฟ้าฟาดลงมาแบบหน้ากากแก้วแน่ๆอะ
>>362 ลืมใส่รูปอีก โทษๆ
http://imgur.com/o8pDvNz
ความไม่ค่อยซูของเรื่องนี้
คาบุ -บ้าและซึน
เอ็นโจ -ขี้เสือก
เรย์กะ - เสียของ
วาคาบะ -มึนๆ
อาริมะ -ขี้มโน
ซากุระ -ปีศาจหลายหน้า
ยุยโกะ -... ผีโลกไม่ลืม(?)
วอนอย่าตีกู 555
คืนนี้ย้อนอดีตดักแก่กันด้วยหน้ากากแก้วเหรอวะ 55555
ทีแรกกูยี้ลายเส้นแบบนี้มากเลย คิดว่าไม่มีวันหยิบมาอ่านแน่ ไปๆมาๆ เข้าห้องน้ำแล้วไม่มีอะไรอ่าน แม่กูวางเรื่องนี้เล่มแรกไว้ในห้องน้ำ กูเลยหยิบมาอ่านฆ่าเวลา กลายเป็นว่าจบเล่มแรกกูเดินไปถามแม่ทันทีมีเล่มอื่นมั้ย ตอนนั้นเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เป็นของสะสมแม่กูเอง ออกมาสามสิบกว่าเล่มมั้ง กูโครตลงแดงเลย ไปตระเวณหาซื้อให้ครบชุดแล้วไล่อ่าน แล้วคนเขึยนก็หายไปสิบปีเลยด้วย สมมติอ.ฮิโยโกะแกติสท์แบบคนเขียนหน้ากากแก้ว หายไปสิบปีเหมือนกันจะเป็นยังไงวะ 555555555555
ต่อจาก >>96-98 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
เคยเขียนมุมมองเอ็นโจ และมุมคนนอกแล้ว วันนี้เลยลองมาเขียนคนสนิทกับเรย์กะมากที่สุดคนหนึ่ง คือ คิคุโนะจังนะคะ ที่เลือกคิคุโนะ เพราะรู้สึกว่าในนิยายบทน้อยกว่าเซริกะนิดหนึ่ง เลยเอ็นดูขึ้นมา 5555 และมอง (มโน) ว่าคิคุโนะจะนุ่มนวลกว่าเซริกะนิดหน่อยเลยเขียนแนวๆนี้
...............
(มุมมองของอิมามุระ คิคุโนะ ณ โลกคิมิดอล)
ฉันรู้จักกับคิโชวอิน เรย์กะมาตั้งแต่สมัยประถม ตอนนั้นฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจอะไรเท่าไหร่ แต่ท่านพ่อท่านแม่บอกให้ฉันผูกมิตรกับเธอเอาไว้เพื่อผลประโยชน์ของตระกูล แม้จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ก็เหมือนเป็นหน้าที่ที่หลีกหนีไม่ได้ เซริกะจังเพื่อนสนิทของฉันเองก็ต้องทำแบบนี้เช่นกัน เป็นเรื่องปกติของสังคมชนชั้นสูงเช่นนี้
ท่านเรย์กะเองก็คบกับพวกฉันด้วยสาเหตุเดียวกัน แต่เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นบุตรสาวจากตระกูลคิโชวอิน จึงถือว่าอยู่เหนือพวกเราทั้งหมด เธอวางตัวสูงส่งและหยิ่งทระนงเสมอ ไม่ว่าเธออยากได้อะไรก็ต้องได้เท่านั้น ฉันกับเซริกะจังต้องทำเรื่องสกปรกนับไม่ถ้วนเพื่อผู้หญิงคนนั้น แต่ว่าการที่ท่านเรย์กะประทับใจแล้วทำให้ครอบครัวของฉันได้ผลประโยชน์ไปด้วยก็ถือว่าคุ้มค่า ท่านพ่อบอกว่าการเจรจาธุรกิจกับตระกูลคิโชวอินเป็นไปอย่างราบรื่นเสมอ
ในซุยรันมีผู้ชายคนหนึ่งที่สาวๆทั้งโรงเรียนต่างใฝ่ฝันหา แม้แต่ฉันเองก็อดไม่ได้ที่จะเคลิบเคลิ้มทุกครั้งที่ได้เห็น เขาคือคาบุรากิ มาซายะ จักรพรรดิแห่งซุยรัน เป็นคนที่ดีพร้อมทั้งกีฬา การเรียน ชาติตระกูลสูงส่ง ใบหน้าหล่อคมคาย ท่าทางสง่างามมีอำนาจ
แม้ฉันจะชอบท่านคาบุรากิมากแค่ไหน แต่ทว่าท่านเรย์กะเองก็ชอบเขาเช่นกัน ฉันจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินถอยหลังตัดใจ แม้จะขมขื่นแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าเป็นศัตรูกับท่านเรย์กะต้องไม่ดีแน่ๆ จึงได้แต่เชียร์ให้ความสัมพันธ์ของเธอกับจักรพรรดิคืบหน้า อย่างไรก็ตามฉันก็เต็มใจอย่างยิ่งที่จะ “เตือน” ผู้หญิงคนอื่นที่ไม่เจียมตัว พยายามเข้าหาท่านคาบุรากิทั้งๆที่ฐานะไม่สมควร
แต่ว่าทุกคน รวมถึงท่านเรย์กะเองก็รู้ดีว่าท่านคาบุรากิก็รักท่านยูริเอะ แม้จะกันผู้หญิงออกไปกี่คน ก็ไม่สามารถทำให้ท่านคาบุรากิหันมามองท่านเรย์กะได้อยู่ดี
ในช่วงที่ท่านเรย์กะดูเหมือนจะตัดใจได้อยู่แล้ว ทาคามิจิ วาคาบะก็ปรากฏตัวขึ้น และดึงความสนใจจากจักรพรรดิแห่งซุยรันไปได้
นับวันทาคามิจิก็สนิทกับท่านคาบุรากิมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ท่านเรย์กะเองก็รับรู้ว่าทั้งสองคนชอบกัน แต่อีกฝ่ายเป็นเพียงแค่สามัญชนผู้ต่ำต้อย การที่จะได้คู่กับจักรพรรดิแห่งซุยรันทำเอาพวกเรารู้สึกว่าเป็นหน้าที่ที่ต้อง”สั่งสอน” ผู้หญิงคนนั้น วันที่ท่านคาบุรากิถูกหักอกจากท่านยูริเอะยิ่งเพิ่มความหวังให้ท่านเรย์กะ และกีดกันทาคามิจิทุกวิธี พยายามทุกรูปแบบให้อีกฝ่ายมีชีวิตไม่ต่างจากในนรกแบบที่สามัญชนคนนั้นสมควร แต่ยิ่งทำแบบนั้นก็กลับทำให้ความสัมพันธ์ของท่านคาบุรากิกับทาคามิจิแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น...
วันหนึ่ง “การสั่งสอน” ของพวกเรารุนแรงเกินกว่าปกติไปหน่อย ท่านเอ็นโจ ชูสุเกะก็เรียกท่านเรย์กะไปคุยตัวต่อตัว เขาเป็นเพื่อนสนิทของท่านคาบุรากิ และเป็นหนุ่มฮอตไม่แพ้กันอีกคน เขามักมีรอยยิ้มประดับหน้าเสมอ สุภาพอ่อนโยนราวกับเจ้าชาย บทสนทนาของทั้งสองมักอยู่ในที่ลับจึงไม่มีใครรู้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน แต่ท่านเอ็นโจมักจะยิ้มฝืนๆเล็กน้อยเมื่อคุยกันเสร็จ ในขณะที่ท่านเรย์กะแย้มยิ้มปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แม้ท่านเรย์กะอาจจะไม่เคยรู้ตัว แต่แทบทุกคนในซุยรันรู้ว่าท่านเอ็นโจชอบเธอ ทุกครั้งที่ท่านเรย์กะเอาแต่มองท่านคาบุรากิ ท่านเอ็นโจก็จะแอบมองเธออีกทอดหนึ่ง ท่านเรย์กะดูไม่ค่อยสนใจเขาเท่าไหร่ นอกจากจะคุยเรื่องท่านคาบุรากิหรือทาคามิจิ ความรักก็เจ็บปวดแบบนี้ล่ะนะคะ...
ฉันก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวนี้จะจบเมื่อไหร่ แต่สำหรับฉัน แค่ทำหน้าที่ทำตามความปรารถนาของท่านเรย์กะให้ดีที่สุดก็พอแล้ว
ฉันเคยพลาดท่าแล้วบาดเจ็บจากการทำตามคำสั่งของท่านเรย์กะ ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือเปล่า แต่หลังจากนั้นท่านเรย์กะก็ไม่ยอมให้ฉันใช้วิธีนั้นอีกเลย และเมื่อจำเป็นก็จะเป็นคนทำเอง แต่ก็บอกว่าเธอไม่ไว้ใจให้ใครทำอีกแล้ว แม้ฟังดูโหดร้าย แต่ไม่รู้ทำไมฉันรู้สึกว่าท่านเรย์กะไม่อยากให้ใครต้องมาเจ็บแบบนั้นอีก บางทีฉันอาจจะคิดไปเองก็ได้ บุตรสาวผู้สูงส่งจากตระกูลคิโชวอินไม่มีความจำเป็นต้องเป็นห่วงคนที่ต่ำกว่าหรอกมั้งนะคะ
นานเข้าฉันก็ไม่แน่ใจ ท่านเรย์กะมักเอาแต่ใจก็จริง แต่เวลาเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมา หรือต้องปะทะกับใคร ก็มักยอมออกหน้าเสมอ แม้จะขี้วีน ทำร้ายข้าวของยังไง แต่ก็ดูเหมือนหลีกเลี่ยงที่จะอาละวาดแล้วพวกเราโดนลูกหลง แม้เธอจะยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะหลีกเลี่ยงอะไรเป็นพิเศษซะหน่อยก็ตาม
มีครั้งหนึ่งที่ท่านเรย์กะทำให้ทาคามิจิถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล ท่านเอ็นโจโกรธจนพูดต่อว่าท่านเรย์กะต่อหน้าคนหลายๆคน ต่างจากปกติที่มักเรียกไปคุยแค่สองคน ทุกคำที่ท่านเอ็นโจพูดกับท่านเรย์กะดูรุนแรง แม้แต่ฉันที่ไม่ได้โดนโดยตรงก็จุกจนพูดอะไรไม่ออก นี่คือสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกันมาโดยตลอดงั้นหรอ...
ฉันหันไปมองท่านเรย์กะ ก่อนจะอดประหลาดใจไม่ได้ที่เห็นท่านเรย์กะยิ้มเหมือนมีความสุขมากๆ แววตาเป็นประกายวิ้งวับแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน
ในตอนนั้นเองฉันก็ได้รู้ว่าท่านเรย์กะชอบท่านเอ็นโจ
ลักษณะท่าทางตอนที่ท่านเรย์กะได้พูดคุยกับท่านเอ็นโจ แตกต่างจากเวลาที่ท่านเรย์กะมองท่านคาบุรากิโดยสิ้นเชิง เหมือนกำลังมีความสุขทุกวินาทีจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก เซริกะจังและคนอื่นๆในเหตุการณ์ก็วิเคราะห์ออกมาไม่ต่างกันนัก
ปกติฉันไม่ได้สังเกต แต่ตอนนี้ฉันเห็นแล้วว่าเวลาที่ท่านเรย์กะพูดถึงว่าที่คู่หมั้นของท่านเอ็นโจ ท่าทางดูเจ็บปวดยิ่งกว่าตอนพูดถึงทาคามิจิซะอีก แต่เหมือนพยายามกดตัวเองไม่ให้รู้สึกแบบนั้น พยายามกล่อมตัวเองให้เชื่อว่ายังคงรักท่านคาบุรากิ
วันหนึ่งทางครอบครัวก็จัดเตรียมเลือกคู่หมั้นทางธุรกิจให้ฉัน ถึงฉันจะทำตามหน้าที่อื่นๆมาได้โดยตลอด แต่เรื่องนี้ทำฉันหวาดกลัว และปรึกษากับเซริกะจัง ก่อนท่านเรย์กะจะบังเอิญมาได้ยินพอดี ท่าทางดูไม่ใส่ใจเท่าไหร่แบบที่ฉันพอจะเดาได้... สำหรับท่านเรย์กะแล้วเรื่องแค่นี้จะเป็นอะไรได้
แต่ไม่รู้ทำไม อยู่ๆเรื่องนี้ก็เลื่อนระยะเวลาการตัดสินใจไปได้อีกพักใหญ่ และท่านพ่อไม่ได้คาดคั้นบังคับฉันเรื่องนี้อีก
หลังสืบๆไป เหมือนท่านเรย์กะจะเป็นคนพูดเรื่องนี้ให้เอง แต่ไม่ให้ใครบอกฉันว่าเธอเป็นคนช่วย
พอฉันรีบไปบอกว่าไม่ต้องถูกบังคับให้หมั้นแล้วกับท่านเรย์กะอย่างตื่นเต้นดีใจ อีกฝ่ายตอบรับแค่ “งั้นหรอคะ” ด้วยท่าทางเหมือนไม่ได้สนใจอะไร ทั้งๆที่ช่วยขนาดนั้นแท้ๆ
เซริกะจังเล่าให้ฟังว่าสังเกตมานานแล้วว่าเวลาปรึกษาปัญหาอะไรกับท่านเรย์กะ อีกฝ่ายมักเหมือนไม่ตั้งใจฟังเท่าไหร่ แต่สุดท้าย ไม่รู้ทำไมปัญหาแทบทุกอย่างก็หายไปเฉยๆ พอแอบสืบไปเรื่อยๆก็มักเจอว่าท่านเรย์กะอยู่เบื้องหลังเสมอ
ท่านเรย์กะช่วยพวกเรามาตลอด ทั้งๆที่พวกเราไม่เคยช่วยอะไรเธอได้อย่างจริงจังเลย...
ทำไมท่านเรย์กะถึงทำแบบนี้นะคะ ทำไมต้องคอยหลบๆซ่อนๆ ไม่ยอมบอกว่าตัวเองเป็นคนช่วย ทำไมทั้งๆที่เป็นห่วง แต่กลับทำเหมือนไม่ใส่ใจ ทำไมไม่ยอมแสดงออกมาตามที่ตัวเองรู้สึก ทำไมถึงบอกว่ารักท่านคาบุรากิ ทั้งๆที่ชอบท่านเอ็นโจ
วันหนึ่งท่านเรย์กะถูกท่านคาบุรากิโมโหใส่ และประกาศกร้าวว่าจะไม่มีวันหันมาสนใจท่านเรย์กะ แม้จะไม่ใช่คำพูดรุนแรงเท่าท่านเอ็นโจ แต่ฉันเห็นท่านเรย์กะตัวสั่นราวกับหวาดกลัวบางอย่างจะแตกสลาย ขอบตาแดงก้ำ แต่ไม่ยอมให้น้ำตาไหลออกมา ฉันกับเซริกะจังนึกไม่ออกว่าจะช่วยอีกฝ่ายจากสถานการณ์นี้ยังไง
ฉันเห็นท่านเอ็นโจมองท่านเรย์กะ ก่อนจะพูดเกลี้ยกล่อมให้ท่านคาบุรากิกับทาคามิจิกลับไป
เสียงพูดของท่านเอ็นโจเหมือนทำให้ท่านเรย์กะได้สติกลับมา เธอหันหลังแล้ววิ่งหนีไป พวกฉันก็วิ่งตามมา แต่อีกฝ่ายก็วิ่งเร็วมากจนฉันหลงทางอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเจอเธอในห้องเรียนที่ไม่มีคน เพราะเลิกเรียนกลับบ้านกันหมดแล้ว
แต่ในนั้นไม่ได้มีเพียงท่านเรย์กะคนเดียว
“พอซะทีเถอะ เลิกรักคนที่เขาไม่มีวันรักเราได้แล้ว” ท่านเอ็นโจพูดกับท่านเรย์กะที่ตอนนี้ร้องไห้ออกมาอย่างเปิดเผย ท่านเรย์กะเหมือนพยายามจะหยุดร้อง แต่ก็ทำไม่ได้
ฉันเห็นท่านเอ็นโจมองท่านเรย์กะด้วยแววตาเศร้าๆ แม้จะพูดออกมาอย่างหนักแน่นเย็นชาคล้ายเตือนสติ แต่ท่าทางท่านเอ็นโจจะเจ็บกับคำพูดตัวเองมากยิ่งกว่าท่านเรย์กะเสียอีก...
ฉันอยากกรีดร้องตะโกนตรงนั้นว่าความจริงทั้งคู่รักกันแล้ว! ทำไมถึงไม่รู้ตัวกันซะทีนะคะ...
แต่ที่น่าสงสัยที่สุดก็คือท่านเรย์กะจริงๆไม่ได้ชอบท่านคาบุรากิแท้ๆ ทำไมตอนนั้นถึงทำสีหน้าเหมือนโลกทั้งใบแตกสลายแบบนั้นกันนะ...
“ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากหรอกค่ะ” ท่านเรย์กะพูดในคราบน้ำตา “ถ้ามันง่ายดายขนาดนั้นก็ดี...”
ท่านเอ็นโจไม่ตอบอะไร แต่หลับตาเหมือนไม่อยากเห็นภาพตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆหันหน้าหนีเดินจากมา
ฉันที่แอบอยู่แถวนั้นเมื่อเห็นท่านเอ็นโจไปแล้วก็รีบเข้าไปหาท่านเรย์กะ พยายามปลอบใจ และบอกว่าจะกลับบ้านเป็นเพื่อนเอง
ไม่รู้ทำไมท่านเรย์กะถึงตัวสั่นหน่อยๆ
ทันทีที่ไปถึงคฤหาสน์ของคิโชวอิน ท่านประธานคิโชวอินก็มาต้อนรับสีหน้าเย็นชาเมื่อได้รู้ว่าท่านคาบุรากิพูดแบบนั้นกับท่านเรย์กะ คล้ายกับสายข่าวได้บอกมาก่อนแล้ว แววตาแบบนั้นไม่เหมือนกับสายตาที่พ่อจะมองลูกเลยสักนิด... มันเหมือนกับสายตาที่มองสินค้าที่มีตำหนิ
ฉันทำได้เพียงส่งที่หน้าบ้านเท่านั้น หัวใจฉันกระตุกวูบเมื่อเห็นแววตาของท่านเรย์กะปราศจากแววใดๆ
หลังเหตุการณ์นั้นท่านเรย์กะก็ซึมไปพักใหญ่ นานหลายวันกว่าจะกลับมาเรียนอีกครั้ง เกราะที่เคยกันทุกคนไม่ให้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงก็พังทลายชั่วคราว ท่านเรย์กะช่วยอายาเมะจังแบบเปิดเผยอย่างไม่เคยทำมาก่อน และบอกว่าถ้ายังมีโอกาส ก็ไม่อยากให้ใครต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเพื่อธุรกิจ
ฉันเอะใจขึ้นมา สาเหตุที่ท่านเรย์กะปฏิเสธว่าชอบท่านเอ็นโจมาโดยตลอด บางทีอาจเป็นเพราะที่บ้านเองก็ได้ เมื่อนึกถึงสมัยเด็ก ท่านเรย์กะก็ไม่ได้สนใจท่านคาบุรากิเป็นพิเศษ แต่หลังๆก็โดนที่บ้านส่งเสริม กล่อมเธอมาโดยตลอดว่าท่านคาบุรากิเหมาะสมกับเธอที่สุด พูดถึงชาติตระกูลแล้วยังไงเอ็นโจก็เป็นรองอยู่ดี
แม้ไม่ต้องการ แต่ท่านเรย์กะก็จำเป็นต้องทำเพื่อตระกูล ทำเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยเฉพาะตอนนี้ท่านเรย์กะกลายเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลคิโชวอินแล้ว เพราะพี่ชายของเธอหนีออกจากบ้าน ภาระและความกดดันทั้งหมดจึงมาตกอยู่ที่เธอ เธอทำได้แค่พยายามแต่งงานกับท่านคาบุรากิเพื่อรักษาชื่อเสียงและอำนาจของตระกูลไว้ แม้นั่นจะหมายถึงว่าต้องหลอกตัวเองว่าชอบท่านคาบุรากิก็ตาม...
ในที่สุดฉันก็ได้คำตอบที่เคยสงสัยมานาน... เพราะต้องทำตามหน้าที่ จึงไม่สามารถแสดงออกดั่งใจได้ เพราะความกดดันเหล่านี้ทำให้ท่านเรย์กะไม่รู้วิธีที่ทำให้คนอื่นเข้าใจ เพราะแบบนี้แม้อยากจะช่วย ก็ไม่สามารถออกนอกหน้าได้
การสอนจากที่บ้านฉันพอเข้าใจได้ ฉันก็ถูกสอนตั้งแต่เด็กว่าการช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ ท่านเรย์กะที่เป็นถึงลูกสาวจากตระกูลคิโชวอินคงโดนเคี่ยวเข็ญมากยิ่งกว่าฉันหรือใครๆ เพราะแบบนั้นงั้นหรอถึงไม่อยากให้ใครรู้ว่าช่วยพวกเราแบบไม่หวังผลตอบแทน
ฉันทำทุกอย่างให้ท่านเรย์กะเพราะผลประโยชน์มาตลอด แต่ตอนนี้ฉันกลับเริ่มรู้สึกอยากช่วยท่านเรย์กะจริงๆ
เพราะท่านเรย์กะเป็นเพื่อนคนสำคัญของฉัน
ฉันนึกโทษตัวเองที่ไม่เคยสามารถช่วยท่านเรย์กะได้เลย
ช่วงปิดเทอม ไม่มีใครติดต่อท่านเรย์กะได้เลย เห็นท่านเรย์กะบอกว่าต้องไปเข้าคอร์สอะไรบางอย่าง และตัดขาดติดต่อสื่อสารกับคนภายนอก
ท่านเรย์กะกลับมา แม้ภายนอกไม่ต่างจากเดิมมาก แต่พวกเรารู้ดีว่าท่านเรย์กะเกาะติดท่านคาบุรากิมากขึ้น “สั่งสอน” ทุกคนที่เข้าใกล้ท่านคาบุรากิมากขึ้น ใช้อำนาจให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ราวกับจมลึกไปสู่ความมืดมิดอย่างไม่สามารถกลับมาได้อีกแล้ว
ช่วงเวลาเดียวที่ท่านเรย์กะคล้ายจะมีความสุขคือตอนที่ท่านเอ็นโจเข้ามาต่อว่า ทั้งคู่อยู่ในภาวะหวานปนขมแบบที่ไม่เคยรู้เลยว่าต่างก็เป็นแสงสว่างของกันและกัน
เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันรู้ว่าตอนนี้ท่านเรย์กะไม่สามารถหลุดจากวังวนอันขมขื่นนี้ไปได้ ไม่อาจยอมรับความรู้สึกได้ และต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่อยาก เพื่ออำนาจของตระกูลที่ตัวเองไม่ต้องการ ฉันเห็นท่านเรย์กะพูดเรื่องเลวร้ายกับตัวเองอยู่บ่อยๆเหมือนกำลังทำให้ตัวเองเชื่อว่าจำเป็นต้องทำอย่างนั้น
นี่ล่ะนะสังคมชนชั้นสูง... อาจดูเหมือนมีทุกอย่าง แต่แท้จริงกลับไม่มีสิ่งที่ต้องการจริงๆเหลืออยู่เลย
จนในวันหนึ่งทุกอย่างก็แปลกไป ท่านเรย์กะเสียความทรงจำ และเปลี่ยนตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือ สั่งให้ทุกคนหยุดแกล้งทาคามิจิ ตั้งใจเรียน คอยช่วยเหลือเพื่อนๆอย่างเปิดเผย คอยหยุดเวลาคนทะเลาะกัน คุยเล่นและหัวเราะไปพร้อมกับคนในห้อง บรรยากาศในห้องดูสดใสร่าเริง ฉันเองก็รู้สึกสบายใจไปด้วย เหมือนความทรงจำที่หายไป หายไปพร้อมภาระหนักอึ้งในใจด้วย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านเรย์กะมีความสุขมากขนาดนี้ ถ้าไม่นับตอนที่ท่านเรย์กะอยู่กับท่านเอ็นโจ
ตอนนี้แม้แต่ท่านคาบุรากิและท่านเอ็นโจก็เป็นมิตรกับท่านเรย์กะ ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือท่านเรย์กะเริ่มสนิทกับท่านคาบุรากิมากขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนทั้งคู่จะชอบกันเข้าจริงๆแล้ว ทั้งไปกลับพร้อมกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน หลังๆท่านคาบุรากิมาที่ห้องเรียนเพื่อคุยกับท่านเรย์กะบ่อยๆ
ท่านเรย์กะตอนนี้ทั้งเท่ทั้งอ่อนโยน ดูดีพร้อมจนแม้แต่สาวๆที่เคยเป็นแฟนคลับท่านคาบุรากิและท่านเอ็นโจยังย้ายข้างเทใจมาให้ แม้แต่ฉันยังหวั่นไหวใจเต้นไปบ้างเลยค่ะ ไม่แปลกที่ท่านคาบุรากิจะชอบ แต่หากท่านเรย์กะได้ความทรงจำกลับมาเมื่อไหร่ทั้งคู่ยังรักกันหรือเปล่านะคะ...
แม้ท่านเรย์กะจะลืมเลือนว่าหัวใจตัวเองเคยรักท่านเอ็นโจ แต่ท่านเอ็นโจก็ยังไม่เคยหยุดรักอีกฝ่ายเลย ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือท่านเอ็นโจดูไม่เคยจะได้สมหวัง...
แต่ว่าสำหรับฉัน แค่ท่านเรย์กะมีความสุขได้ก็น่าจะพอแล้ว อันที่จริงตอนนี้ท่านเรย์กะรักท่านคาบุรากิอาจจะดีกว่าจริงๆนั่นแหละนะ ฉันพยายามส่งเสริมเท่าที่ทำได้ล่ะนะคะ
แต่ท่านเรย์กะฮอตแบบนี้ก็อดน้อยใจหน่อยๆไม่ได้นะคะ ทั้งๆที่ปกติจะแอบช่วยเหลือแต่พวกฉันแท้ๆ ตอนนี้กลับช่วยเหลือทุกคน ถึงยังไงพวกฉันก็เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของท่านเรย์กะอยู่ดี ไม่มีใครแย่งตำแหน่งนี้ไปได้หรอกนะคะ!
ถึงท่านเรย์กะจะเริ่มกล้าทำดีต่อหน้าแล้ว แต่เวลามีปัญหาก็ชอบเก็บไว้คนเดียวเหมือนเดิมไม่มีผิด เวลาพยายามถาม พยายามจะช่วยก็ปฏิเสธ และบอกว่าพวกเราคิดมากไปเอง รอยยิ้มฝืนๆแบบนั้นะยังไงก็ไม่เนียนนะคะ...
ท่านเรย์กะมักจะโดดเรียนบ่อยๆช่วงหลังๆ แต่ด้วยความช่วยเหลือเอาใจใส่ของท่านคาบุรากิ ท่านเรย์กะกลับเรียนดีกว่าที่เคยผ่านมาอย่างทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น ท่านคาบุรากิหึงหวงท่านเรย์กะเหมือนตอนท่านยูริเอะไม่มีผิด ประจันหน้ากับประธานชมรมฟุตบอลคนนั้น และขู่ผู้ชายทุกคนที่คิดจะจีบท่านเรย์กะ
ตอนท่านเรย์กะรู้เรื่องก็โกรธกันไม่นาน ท่านคาบุรากิก็เสียสละตัวเอง ยอมถูกรถชนแทน โรแมนติคสุดๆไปเลยนะคะ ทำท่านเรย์กะยอมให้อภัยและดูเหมือนจะยอมรับเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการ เป็นคู่หมั้นแบบที่รักกันจริงๆ ไม่ได้เป็นเพียงคู่หมั้นทางธุรกิจ
ปิดเทอมนี้พวกฉันชวนท่านเรย์กะไปเที่ยวทะเลด้วยกัน ท่านเรย์กะตอบรับด้วยรอยยิ้มมีเสน่ห์ ขณะที่พวกเรากำลังตื่นเต้นกับวันปิดเทอมที่ใกล้เข้ามา ท่านเรย์กะก็มาบอกว่าท่านคาบุรากิกับท่านเอ็นโจก็ขอไปด้วย ทำพวกเราตื่นเต้นมากกว่าเดิม
ท่านเอ็นโจติดต่อพวกเรามาให้มาที่เกาะก่อน เพราะท่านคาบุรากิต้องการสร้างเซอร์ไพส์บางอย่างให้ท่านเรย์กะ เราตอบรับกันอย่างยินดี
ในตอนแรกท่านเรย์กะต้องขัดแย้งตัวเองมาโดยตลอดเพราะรักคนที่ครอบครัวไม่ได้สนับสนุน และต้องแกล้งทำเป็นรักท่านคาบุรากิอย่างขมขื่นมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ท่านเรย์กะรักท่านคาบุรากิจริงๆแล้ว จักรพรรดิเองก็รับตอบ ครอบครัวทั้งคู่ยังสนับสนุน ฉันดีใจมากจริงๆที่ในที่สุดท่านเรย์กะไม่ต้องตกอยู่ในวังวนอันน่าเศร้าแบบนั้นอีกแล้ว
แต่ท่านเอ็นโจคงเจ็บไม่น้อย ใครๆก็ดูออกว่าเขายังรักท่านเรย์กะอยู่ แต่ก็พร้อมเสียสละและสนับสนุนเพื่อนสนิทของเขา...
หลังพวกเราคาดเดากันมากมาย วันต่อมาท่านเรย์กะกับท่านคาบุรากิก็มาเกาะด้วยกัน ทั้งคู่เดินจับมือกัน ท่าทางขวนเขิน แต่ก็เป็นภาพที่สวยงาม เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข ตอนนี้บรรยากาศของท่านเรย์กะกับท่านคาบุรากิดูโรแมนติคกันมากๆ รอยยิ้มที่มีให้กันดูสดใสมีความสุข ราวกับทั้งโลกมีเพียงเราสอง แต่เมื่อท่านเรย์กะเห็นพวกฉัน ก็ทักทายอย่างยิ้มแย้มไม่แพ้กัน จนหัวใจฉันแทบหยุดเต้น การที่ท่านเรย์กะยิ้มได้แบบนั้นนี่ดีจริงๆเลยนะคะ
ถึงตอนแรกจะเป็นแค่หน้าที่ที่ไม่อยากทำ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่มันเริ่มกลับกลายเป็นโชคดีที่ได้เป็นเพื่อนกับท่านเรย์กะแบบนี้ ไม่รู้ทำไมเวลาท่านเรย์กะเรียกฉันว่า “เพื่อน” แล้วหัวเราะร่าเริงสดใสทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจแบบนี้นะคะ
ฉันตั้งปณิธานว่าต่อให้เกิดอะไรขึ้น ฉันก็จะเป็นเพื่อนกับท่านเรย์กะตลอดไป
แต่ไม่เคยคาดคิดเลยว่าคำว่า “ตลอดไป” จะจบลงรวดเร็วแบบนี้...
-------------- (จบตอน 50) -------------
ป.ล. ช่วงหลังๆอาจจะแปลกๆหน่อยนะคะ เพราะง่วงล้วนๆ 5555 ทำไมเขียนๆไป อยู่ๆก็ตีสี่กว่าแล้วล่ะ...
>>370-373 กุชอบแนวการเฉลยของฟิคนี้ ตอนแรกมุมเอ็นโจรักเขาข้างเดียว พอมานร.ซุยรันธรรมดาก็เขียนให้ว่าเรย์กะkimiเลวร้ายแค่ไหน พอเรย์กะมาที่โลกkimidolceเลยสร้างความเปลี่ยนแปลงมากมาย จากนั้นมาอ่านมุมเรย์กะkimi ถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายรักเอ็นโจkimi เหมือนกัน แถมแม้ตอนแรกๆจะร้าย แต่สุดท้ายก็กลับตัวได้ พอตอนนี้มาอ่านมุมมองคนสนิท เลยรู้ว่าเรย์กะkimi ดูเป็นคนดีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แค่อาจจะดีกับกลุ่มเพื่อนตัวเองเท่านั้น แถมซึนมานานแล้วด้วย น่าเอ็นดูววว จริงๆเหมือนไม่กล้าบอกใครเพราะอิทธิพลจากครอบครัวเต็มๆ กูอยากจะร้องไห้ตามตอนเรย์กะkimiถูกคาบุkimiต่อว่า แล้วทำหน้าเหมือนโลกแตกสลาย คือดูหวาดกลัวครอบครัวมากจริงๆ สงสารรรรรรร เอ็นโจกูก็สงสาร ทำไมโลกkimi แม่งเศร้าหมดยกเว้นวาคาบะกับคาบุวะ ยิ่งคิดยิ่งน่าสงสารจริงๆ ถ้าใน kimidolce เนื้อเรื่องเป็นงี้จริงๆแล้วสุดท้ายตระกูลคิโชวอินล้มละลาย ให้ความรู้สึกเหมือนเรย์กะkimi ไม่เคยได้มีความสุขจริงๆมาก่อนเลย โคตรอิน ณ จุดนี้ 555+ แต่ทะลุมิติก็ดีกับเรย์กะkimi ที่สุดแล้วนะกูว่า ดูได้เรียนรู้ได้ปรับปรุงอะไรเยอะแยะ แถมอยู่โลกไหนก็ดูจะแฮปปี้ขึ้น แต่ถ้ากลับโลกเดิมจะดีมาก หุหุ อยากให้นางเจอเอ็นโจ
>>370-373 จะมีทางไหนไม่ปวดร้าวมั้ยเนี่ย 555555555555555555555
กูชอบฟีลคนสองคนรักกัน แต่ต้องทำเป็นไม่รักเพราะหน้าที่มันค้ำคออะไรประมาณนี้อ่ะ มันดูขมขื่นบีบคั้นหัวใจดี กรั่กๆๆๆ
ชูสุมอยคิมิดอลของกูวววว คิดว่ารักเขาข้างเดียวและไม่มีหวังก็เลยพยายามตัดใจ ช่วยให้คนรักกันเขาสมหวังสินะ โถ พ่อพระรองผู้แสนดี นายอย่าเพิ่งยอมแพ้ อย่าหมดหวัง อย่าถอดใจ เรย์กะเขากำลังจะกลับไปหานายนะ เขารักนายมากเลยนะ รู้ตัวมั้ย เรย์กะคิมิกลับไปได้ก็กอดเขาแน่นๆด้วยนะ มีปัญหาก็บอกเอ็นโจนะ เอ็นโจคือผู้ช่วยเหลือ คือผู้ปัดเป่าเรื่องร้ายๆให้ออกไป เขาต้องช่วยเธอได้แน่ๆ และเขาก็รักเธอมากเหมือนกันน้าาาาาาาาาา
เพิ่งได้มาอ่านกระทู้ เห็นเมนท์บนๆพูดถึงเอ็นโจได้ที่หนึ่งในการโหวตตลอดเพราะเป็นเคะให้คาบุรากิในคิมิดอล ด้วยความที่กูเป็นสาววายเลยไปไล่อ่านตั้งแต่ต้นเพื่อหา fact เอามาวัตถุดิบในการจิ้น แต่ไม่เจอว่ะ ไม่มีบอกเลยว่าเอ็นโจเป็นเคะให้คาบุ ไม่พูดด้วยซ้ำว่ามีการจิ้นวายเรื่องคิมิดอลเกิดขึ้นในโลกเดิมของเรย์กะ มีแต่นางจิ้นเอง แซวสองคนนี้แบบวายๆเอง ซึ่งก็ไม่ได้บอกว่าใครเมะใครเคะ กูแอบผิดหวังอยู่เบาๆ 5555555
แต่ให้กูเดานะ ในอดีตชาติของนาง กูว่าเรย์กะนางจิ้น คาบุ×เอ็นโจแหงๆ อาจจะวิ่งซื้อโดคู่นี้เป็นตั้งๆในงานคอมมิคเกะด้วยซ้ำมั้ง
แปลไทยล่าสุดมาแล้ววว ขอบคุณโม่งแปลน๊าา ท่่านเรย์กะเดี๋ยวนี้เรียกวาคาบะจัง ได้เต็มปากเต็มคำเลยนะเนี่ย
คันตะคุงน่ารักกก>< นึกถึงสายตาเย็นชาขณะห้ามเจ้าแม่ ช่างร้อนแรงยิ่งหนัก เจ้าแม่มีงอนอีก
แต่อ่านๆดูแล้วเนี่ย วาคาบะก็น่าจะชอบคาบุรากิเหมือนกัน เหมือนได้ยินเสียงเรือพังไงไม่รู้..คาบุรากิคงไม่ใช่พระเอกของเรย์กะ
คงเป็นเอ็นโจสินะ เอ็นโจ เอ็นโจ้จจจจจ
ขอบคุณโม่งแปลสำหรับตอนใหม่
ชารัสเซียเค้ากินกับแยมจริงๆมึง แถบพวกสหภาพโซเวียตเก่าเค้าก็กินกันวิธีนี้
ตอนกูไปใหม่ๆ เห็นเค้าชงชาแล้วตักแยมใส่ถ้วยมาวางคู่กัน กูก็รอ นึกว่าจะมีขนมปังหรือบิสกิตให้กินกับแยม ปรากฎเค้าเอาแยมตักใส่ถ้วยชาแล้วคนๆ กูนี่ช๊อกมาก แอบคิดในใจ 'แดกได้แน่เหรอวะ' แต่เค้าก็ดูกินกันปกติดี
ตอนล่าสุดนี่ ท่านเรย์กะไม่ต้องตบตีบัลลังก์หรอกค่ะ ดูจากอิทธิพลและผู้หนุนหลังของพระนางมีพระเจ้าหลุยส์(คาบุ) ดยุคเวลลิงตัน(เอ็นโจ) ผู้ยิ่งใหญ่ถึงสองพระองค์นะคะ
อ่านแปลไทยตอนใหม่ เรย์กะใช้คำพูดเดียวกับเอ็นโจเลยไอ้ตรง "ยังไงกันน้าา" สรุปไอ้ตรงยังไงกันนะของจอมมารมันมีอะไรแน่นอน ส่วนท่านเซฟคันตะยังใช้ปางห้ามโคโรเน่ใช้สูตรพิศดารอย่างแข็งขันเหมือนเดิม มีปฏิเสธรัวๆ
>>385 คาบุไม่ใช่นโปเลียนเรอะ 5555555
กูว่าวาคาบะชอบคาบุแล้วชัวร์ๆ พูดถึงอาริมะนิดเดียว แต่พูดถึงคาบุซะเยอะ มีการปฏิเสธเป็นพัลวันอีก กับอาริมะดูตบมุกสบายๆ แต่กับคาบุนี่ดูมีความเขินอายแฝงมาด้วยตอนพูดด้วยว่ะ แถมหน้าแดงด้วย หึๆๆๆๆๆ ชอบเขาแล้วแน่ๆ รักคุณเข้าแล้วเป็นไร~ รักจนคลั่งไคล้จริงจัง~~
>>384 กูก็เคยไปเที่ยวคาเฟ่ในรัสเซียแล้วเจอวิธีแดกชาแบบนั้นเหมือนกัน ทีแรกกูก็นึกว่าเดี๋ยวมีบิสกิต ขนมปังหรือสโคนตามมาแบบอังกฤษมั้ง ปรากฎอีเจ๊รัสเซียโต๊ะอื่นตักแยมใส่แก้วชาแล้วแดกเฉย กูช็อคมาก แม่งดูเป็นของที่ไม่น่าเอาไปรวมกันได้เลย กูเลยนั่งซดชาไปแบบเงียบๆ ไม่ตักแยมใส่อะไรทั้งนั้น ชาใส่เนยจามรีที่เคยแดกตอนไปธิเบตกูยังพอรับได้ แต่ชาใส่แยมแม่งเหนือสามัญสำนึกกูจริงๆ
>>386 กูว่า ยังไงกันน้า~~ มันเป็นการปฏิเสธแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่ะ ไม่เอาตัวเองลงไปออกความเห็นแบบฟันธงว่าต้องเป็นแบบนี้ๆๆชัวร์ แต่รู้อยู่แก่ใจว่าพูดถึงอะไร ประมาณว่าถนอมน้ำใจคนฟังไม่หักหน้าอ่ะ เพราะเรย์กะกับวาคาบะนี่ก็รู้กันอยู่เต็มอกว่าคาบุชอบวาคาบะและจีบอยู่ เรย์กะเลยไม่พูดออกมาให้ชัดๆ ให้มันคลุมเครือไป
กูว่าวาคาบะชอบบากะแล้ว แต่ถ้าแรงกาวกูยังไม่หมด กูมองว่าคาบุอาจหนีไปชอบแม่สื่อแทน... โอ้ ดราม่าาา
แต่นี่คือนิยายของอ.ฮิโยโกะ... จงมโนต่อไป
ชอบคู่ของคันตะกับเรย์กะมากอ่ะ น่ารักโคตร
>>393 สงสัยต้องให้มารี อังตัวเนตต์มีภัยร้ายแรงก่อน ถึงจะออกรบแบบจริงๆจังๆอีกหน ถถถถถถถถถ
ถ้าในกุหลาบแวร์ซาย เอ็นโจฮีน่าจะได้บทของแฟร์ซอง ชู้รักพระนางมารี ช่วยมารีทั้งต่อหน้าและลับหลังตลอด มีสาวมาหลงรักก็ไม่เคยหวั่นไหว แต่แฟร์ซองตอนจบกูจำได้ว่าโดนกระทืบตายนี่หว่า..... อย่าไปจบแบบนั้นก็แล้วกัน 555555
>>384 >>387 แบบนี้นี่เอง แต๊งกิ้ว กูก็เคยได้ยินมาว่ารัสเซียใส่แยมลงไปในชาจริงๆ แต่พอไปอ่านมาอีกที มีคนบอกด้วยว่านั่นเป็นวิธีการดื่มที่ผิด! เพราะแยมจะทำให้อุณหภูมิของชาลดลง ของแท้เขาต้องนั่งเลียแยมแล้วจิบชากันย่ะ กูก็รู้สึกแดกจุดเล็กน้อย แค่กินชาทำไมต้องลำบากจังวะ 55555
ว่าแต่ ใครอ่านแล้วคิดว่าท่านฮิโยโกะต้องทดลองเอาเตอร์กิชดีไลท์ใส่ลงไปในถ้วยชาจริงๆ แล้วลองดื่มจริงๆ ดูบ้าง... แม่งให้ฟีลลิ่งว่าผ่านปสก.จริงมาแล้วสุดๆ...
เดี๋ยว วันก่อนก็หน้ากากแก้ว วันนี้ก็กุหลาบแวร์ซาย ไหงช่วงนี้พวกมึงย้อนอดีตดักแก่กันบ่อยจัง ในกระทู้มีแต่พวกแก่ๆสินะ ดีจังที่กูยังวัยรุ่นอยู่เลยตามไม่ทัน 55555555555555555555555
แต่ชาใส่แยมนี่กูแอบสงสัยรสชาติว่าเป็นยังไงว่ะ เย็นนี้ลองทำดูดีมั้ยหว่า มีแยมสตอเบอรี่กับแยมส้มอยู่พอดี แต่ทำแล้วกูจะกล้ากระเดือกลงไปรึเปล่า นี่คือปัญหา แดกไม่ได้ก็เสียของอีก
ชารัสเซียเขาไม่ได้ใส่แค่แยมอ่ะ แต่ใส่น้ำผึ้งกับนมด้วย รสชาติออกมาก็เหมือนแดกชาผลไม้ แต่จะรู้สึกข้นๆหนืดๆหน่อย แล้วก็ใส่พวกน้ำเลมอน น้ำส้ม น้ำสัปปะรด หรือพวกเครื่องเทศแบบอบเชยด้วย แต่กูก็เคยเห็นคนกินแบบใส่แยมลงในชาตรงๆเลย กับดื่มชา แล้วก็ตักแยมใส่ปากนิดๆด้วยเหมือนกัน แต่ไอ้คนดื่มชาแล้วตักแยมใส่ปาก มันดื่มจากจานรองชาว่ะ..... ไอ้ดื่มชาจากจานรองชา กูก็ไม่รู้ว่าเป็นธรรมเนียมด้วยอ๊ะป่าว แต่กูขอดื่มจากแก้วแบบปกติละกัน
จะย้อนอดีตอะไร เกรงใจวัยสะรุ่นอย่างหนูด้วบค่า
กุหลาบแวร์ซายนี่กูมียกชุดนะ แต่แม่งหายไปตอนน้ำท่วมหมดแล้ว กูโครตเสียดาย อยากให้สยามเอามาพิมพ์ใหม่เหลือเกิน กูรักแฟร์ซอง เป็นพระรองที่รักคนแรกของกูเลย 5555555555555555555
>>399 พวกพูดว่าวัยรุ่นนี่ส่วนใหญ่แม่งแก่กันทั้งนั้นล่ะ มึงอย่ามาแอ๊บ กูรู้มึงทันกุหลาบแวร์ซาย 5555555555555
เออ แต่ไล่อ่านมาจนถึงตอนนี้ รู้สึกเลยนะว่าด้วยความที่เรย์กะเปลี่ยนนิสัย ไม่ยอมเล่นบทตัวร้ายเหมือนเดิมมันทำให้เรื่องหลุดไปจากโครงความเป็นคิมิดอลมากๆ พอนางไม่ไปรังแกวาคาบะ ช่วงเวลาที่คาบุกับวาคาบะจะรู้จักกันมันก็ดีเลย์ไปจากเดิม (เห็นว่าตามเดิมต้องรู้จักกันตั้งแต่คาบุอกหักจากยูริเอะแล้วหันไปพาลใส่วาคาบะแล้วนิ) แถมนางยังส่งจดหมายน้อยเตือนให้วาคาบะรู้จักวิธีปฎิบัติตัว วาคาบะเลยใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ได้เข้าเป็นสมาชิกสภานักเรียน สนิทกับอาริมะมากกว่าเดิม จนมาถึงปัจจุบัน กลายเป็นว่าเรย์กะกลายเป็นคนที่คาบุเชื่อใจแถมสนิทเป็นอันดับต้นๆ ไป บทที่ควรจะเป็นของวาคาบะ แบบการแนะนำเข้าสู่โลกสามัญชน มันเลยตกเป็นของเรย์กะไปซะชิบ ปรกติถ้าเป็นโชโจนี่มันบทนางเอกชัดๆ เลยป่ะวะ การเรียนรู้โลกของเธอและฉันเนี่ย แต่นางยังไม่รู้ตัวเลยมั้งว่ามาแย่งบทนางเอกเข้าไปทุกที ยังงงๆ เบลอๆ เป็นหัวหน้าหมู่บ้านคานทองต่อไปซะงั้น
>>414 โอ๊ยยยย ตอนอังเดรวางยาออสการ์นี่กูร้องไห้น้ำตาไหลพรากๆตามเลย ปกติกูไม่ชอบอังเดรนะนั่น ยังอินกับความรักแบบไม่สมหวัง โครตเศร้า โครตโศกนาฏกรรมจริงๆเรื่องนี้ มารีกับแฟร์ซองรักกัน แต่เพราะรักษาเกียรติของมารี แฟร์ซองเลยออกเดินทางไปทำสงครามและไม่กลับมาหามารีอีกเลย แถมตายได้ทุกข์ทรมานและอนาถสัสๆ ออสการ์แอบรักแฟร์ซองแต่เขารักมารี ส่วนอังเดรก็แอบรักออสการ์ แต่ก็............. เรื่องนี้แม่งมีแต่คนอกหักรักคุดจุดจบไม่สวยกันทั้งนั้น ลายเส้นหวานๆแบ๊วๆตาวิ้งวับมันหลอกตามาก เนื้อหาคือการ์ตูนการเมืองชัดๆ
>>416 คำสาปฟาโรห์แรกๆกูกลัวลายเส้นเว้ย ตาโตๆแล้วหน้าปกน่ากลัวๆแบบอียิปต์อ่ะ เห็นแล้วขนลุก แต่ลองไปเปิดอ่านฟรีที่ร้านเช่า ติดหนึบเลยกู สนุกชิบหาย ยิ่งตอนแครอลหนีกลับลงน้ำไปโลกปัจจุบันเพราะช้ำใจเมมฟิสนี่มันส์มาก แต่หลังๆนางชักจะออนทัวร์ทั่วโลก ยิ่งกว่าวงดนตรีทัวร์คอนเสิร์ตอีก กูเลยเลิกอ่านไปละ
กูอ่านถึงแครอลโดนเจ้าชายอินเดียขอเข้าเฝ้า แล้วนางเผลอพูดเนื้อหาปวศ.ไปว่าราชวงศ์เจ้าชายจะล่มสลาย แล้วตอนงานเลี้ยงดันมีสงครามในราชวงศ์เกิดขึ้นจริงๆ อีเจ้าชายอินเดียมันเลยอาฆาตว่ามึงมันตัวซวย ทำนายเรื่องอัปมงคลออกมาได้ไง กูจะไปลักพาตัวมึงมาฆ่าทิ้ง ส่วนกูคนอ่านกลอกตามองบนเลยจ้าาา ปมเชี่ยอะไรก็ไม่เฉลย แล้วจะไปทัวร์อินเดียต่อสินะ
พวกมึงเริ่มทำกูอยากไปหามาอ่านจริงๆแล้วนะเนี่ย ก่อนหน้านี้กูก็สนใจอยู่บ้างแต่ไม่รู้จะไปหามาจากไหน
>>417 คำสาปฟาโรห์ กูเคยเจอฟิคชั่นที่บอกว่าตอนจบได้ครองรักกับพี่ไรอัน พี่เขาคือเมมฟิสกลับชาติมาเกิดว่ะ ถ้าเป็นจริงกูจะดีใจมากๆๆๆๆ พี่ไรอันแม่งเหมือนท่านพี่ทาคาเทรุอ่ะ หล่อ อ่อนโยน ใจดีกับน้อง และเป็นซิสค่อน 5555555555 แต่เสียดายพี่บทน้อยไปหน่อย แต่เพราะความซิสค่อนเลยยิงพระรองจนกระสุนฝังในมาเป็นปีๆได้ แถมไอ้คนโดนยิงก็เสือกถึกโครต แม่งไม่ตายเพราะแผลติดเชื้อซักที
>>420 อันนี้ก็ต้องทำใจด้วยว่ะมึง คนเขียน 80+ แล้ว จริงๆเขาควรออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรไม่ต้องวาด เอาแค่ตอนจบจะจบยังไงกูก็พอใจละ
เพิ่งเจอ pdf กุหลาบแวร์ซายน์ตะกี้เลย
แต่ไม่แน่ใจภาษาอะไร....
https://prakijsongsangchi.blogspot.com/2016/07/blog-post_32.html
กูเพิ่งไปหาข้อมูลกุหลาบแวซายมา สรุปคนผมเหลืองนี้ผู้หญิงเหรอวะ กูเงิบเลย นึกว่าพระเอกมาตั้งนาน
>>420 อะ หย่อนทางเข้าให้ 1 กระทู้ จากนั้นเจ้าจงมีศรัทธาในพระนางมารีและหาทางไปต่อด้วยตนเองเถิด......
http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2007/05/A5460716/A5460716.html
โห กราบพวกมึง ขอบคุณมาก ไม่คิดว่าจะช่วยกันหามาให้กูขนาดนี้ ;w;
กูอัพเดทสารบัญตัวละคร พอคลิกจะทำของอาริมะ ไล่ๆอ่านดู แม่งไม่มีบทเพิ่มขึ้นมาเลยนี่หว่า.....ไม่ได้อัพเดทอะไรให้อาริมะนานแล้วนะ สงสารจัง ทำไมนายบทน้อยเยี่ยงนี้วะเนี่ย 555555555555
มึง...กูลองไปเล่นดูแล้ว...แล้ว//เอามือปิดหน้าร้องไห้ วิ่งออกจากกระทู้
http://imgur.com/r62SgyV
>>435 เดี๋ยวว ลืมอีกอัน...แต่ยังสรุปได้ว่าอำนาจของคานซังชั่งร้ายกาจ...หรืออาจจะคาบุอกหัก เรย์กะปลอบใจก็เป็นได้ ถถถถ
http://imgur.com/a/SY58w
วันนี้เพิ่งสังเกตุเฟสบุคของโม่งแปลที่ใช้ตอบ Reika sama นักแสดงตลก คืออันนี้ลั่นมาก 55555
เมรัยแห่งแสงตะวัน ต้นฉบับมันเขียนว่าไงอ่ะ กูได้ชื่อค็อกเทลหลายอันที่มันเกี่ยวกับดวงอาทิตย์แต่ไม่รู้อันไหนถูกเลยจะมาถามหน่อย
เคยอยู่รัสเซียมาแปป ๆ เห็นคนรัสเซียเวลาดื่มก็ซดเอา ๆ แต่ก็เคยเห็นคนแบบ เล็มแยมนิด ๆแล้วตามด้วยชาเหมือนกันนะ ไม่ก็อมน้ำตาลไว้ในปากแล้วดื่มตาม ดูมีอารยะ แต่เทแยมลงไปในชาเลยนี่ไม่เคยเห็นว่ะ แต่แยมมันเข้ากับชานะมึง ลองดู
แฟนๆอาริมะรอหน่อย เดี๋ยวก็มีบทแล้ว เรารอแปลตอนนี้มาก ชอบ ทุกคนในเรื่องนี่ชอบมีกิมมิคแปลกๆ
>>444 เขากินกันแบบนั้นเองเรอะ แต่กูเคยไปรัสเซียแค่ไม่กี่วันเอง แถมเคยเข้าคาเฟ่แค่ครั้งนั้นครั้งเดียวด้วย เลยนึกว่าคนรัสเซียเขากินแบบนั้นกันอะ สงสัยเจ๊คนที่กูเห็นคงเป็นคนโปแลนด์มั้ง เห็นโม่งแปลบอกเทแยมลงชาเป็นวิธีกินแบบโปแลนด์ แต่กูก็แยกไม่ออกว่ะ คนไหนโปแลนด์คนไหนรัสเซีย
กูลองเอาแยมใส่ชาดำแล้ว ก็โอเค เหมือนแดกชาผลไม้ที่ให้ความรู้สึกหนืดนิดๆ แต่มันหวานไปหน่อยว่ะ กูไม่ชอบ ก็เลยว่าจะไม่ทำอีก
.......นี่เคยเอาแยมชงกับน้ำร้อน เราว่ามันไม่โอเค 5555555 แต่พี่เราเอาแยมกินกับโค้ก เอิ่ม อิชั้นไม่กล้าลอง
แปลไทยตอนล่าสุด.... โอ๊ยยยยยยย 55555 ทั่นอิมารี้ 555555555
ท่านพี่กับท่านอิมาริยังคงความเป็นคู่ผัวเมียพ่อบ้านใจกล้าได้ไม่เสื่อมคลายจริงๆว่ะ กูลั่น "เดี๋ยวปั๊ด ฆ่าแม่ง" ชิบหาย 555555555 มีไล่ออกจากห้องกลางดึกด้วย แถมย่องไปเที่ยว กลับมาเจอท่านพี่กอดอกรอแต่เช้าด้วยวุ้ย กูอยากรู้เรื่องไม่ใสสะอาดของท่านพี่จัง ขยายความด้วยค่ะ
ว่าแต่ชอบสินะ กอล์ฟมาร์คเกอร์น่ะ เรย์กะซื้อตามรสนิยมเอ็นโจทุกอย่างเลยนะ ไม่รู้ต่อหน้ายิ้มๆบอกว่าชอบ แต่ลับหลังถือไม้เบสบอลตอกตะปูเตรียมไปฟาดหัวคุณชายเอ็นโจกันรึเปล่า
นโมอมิตตาพุทธ ท่านอิมาริ
เดี๋ยวเราจะพบมัมมี่อิมาริจริงหรือเปล่าน้าา
อมิตตาพุทธ ท่านอิมาริ.....
ว่าแต่ตอนนี้ท่านอิมาริชอบเรย์กะแบบอะไรจริงจังแค่ไหนแล้วล่ะนั่น นี่อ่านๆไปชักจะเห็นคำว่าผู้ท้าชิงหมายเลข1ลอยอยู่บนหัวซะหราเลย นี่ถ้าเกิดหวังแต่งจริงๆขึ้นมาคงได้เรื่องแหงๆ ไม่ใช่แค่ฝ่าด่านท่านพี่ แต่ด่านจอมมารเอ็นโจยังต้องผ่าไปอีก ตอนใหม่ทำเอานึกถึงฟิคเรย์กะคิมิล้างแค้นเลยแฮะ
ความท่านอิมาริ เสน่ห์เหลือล้นจริงๆ ผู้ใหญ่บ้านคาสโนว่านี่น่ากลัววววว
แต่อะไรคือท่องหนังสือแล้วเฉไปเรื่องอื่น ท่านเรย์กะแบบนี้โจทย์จะเสร็จสักทีไหมล่ะคะ
ขอบใจโม่งแปลน้าาา
ท่านอิมาริกร๊าวใจดีจัง! แหวนเงินๆ ใครจะเป็นผู้มอบแหวนเงินให้เรยกะกันน้า ทำไมหวั่นใจว่าจะเป็นทานุกิ!
โอยย ตอนใหม่นี่กูนึกว่าฟิควายย อิมาริท่าพี่ที่ดีงามอะไรขนาดนี้
แบบท่านอิมาริมีความพ่อบ้านใจกล้าสูงสัสๆ
ใครก็ได้ช่วนสกรีมเป็นเพื่อนหน่อย ท่านพี่อิมาริถึงจะท่องกลอนเชยๆในคราวนั้น แต่คราวนี้ทำคะแนนทะลุมาก ถ้าไม่ติดท่านพี่ บ้านคิโชวอินคงล่มสลายเพราะท่านเรย์กะประเคนเงินทองให้หมดละ
พอท่านเรย์กะพูด ก็คิดว่าถ้าตั้งซุยรันโฮสต์คลับ รองจากท่านอิมาริ ใครจะเป็นอันดับสองกันน๊า
โอ๊ย กูตายยยย ตายยยยย มาคราวนี้ท่านอิมาริดีงามพระรามแปด จะเอาพี่หรือน้องเอาให้แน่ ว่าแต่ใครทำท่านพี่มีราคีไม่ใช่นายใช่ไหมอิมาริ! แต่คาดว่ามาคราวนี้ ท่านอิมาริคงหายไปอีกสักพักยาวยาวววววววว
>>459 กูก็จิ้นว่ะ สองคนนี้แม่งทำตัวให้น่าจิ้นกันจริงๆ อิมาริแม่งพ่อบ้านใจกล้าสัสๆอะ โดนซ้อม โดนด่าหลายรอบก็ไม่เข็ดนะ หาเรื่องโดนตีนท่านพี่ตลอด ที่กะลิ้มกะเหลี่ยใส่เรย์กะนี่กูรู้สึกว่าฮีแหย่ท่านพี่เฉยๆ ชอบโดนซ้อมสินะ
เห็นความสัมพันธ์ของท่านพี่กับอิมาริ ทำเอากูคิดว่าคู่เอ็นโจกับคาบุแม่งคบกันแบบเด็กดีไปเลย รู้สึกว่าท่านพี่กับอิมารินี่ดูอันตรายกว่าอ่ะ ความสัมพันธ์แบบเย้ายวนเป็นผู้ใหญ่ ทำให้กูจิ้นวาย 55555555 กูซื้อเหล้ามาแดกกับเพื่อนในห้องก็ไม่ได้เปิดไฟสลัวๆแบบนี้นะ หรือจะเสพบรรยากาศ เสพความสุนทรีด้วยห้องที่แสงไฟน้อยกันวะ สองคนนี้ถ้าไม่มีอะไรในกอไผ่ก็อย่าทำตัวให้จิ้นกันสิว้อย 55555
กูต้องบอกตัวเองย้ำๆ ตลอดการอ่านตอนนี้ว่า อย่าจิ้น ไม่มึง อย่าจิ้น อย่าจิ้นโว้ยยยย
>>464 ท่านฮิโยโกะชงมาขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่จิ้นจะผิดต่อเนื้อเรื่องนะมึง 55555 ท่านพี่ที่เป็นหนุ่มเนี้ยบกรรมการห้อง เบื้องหน้าอ่อนโยนใจดี แต่ความจริงเฉยชาไม่เปิดใจให้ใครกับท่านอิมาริหนุ่มเสเพลกลับเช้านี่มันสุดๆ แล้วท่านอิมาริรู้ได้ไงไปเห็นอะไรถึงรู้ว่าท่านพี่ไม่ใสๆ แล้ววะ โฮ้ยยยยยยย มันคาใจ
อยากให้ขยายความเรื่องท่านพี่ไม่สะอาดจังเลยค่าาาาา หนูอยากรู้สุดๆไปเลย
แม่งตอนนี้คือเป็นตอนที่อ่านไปยิ้มไปตบหน้าตัวเองแล้วพูดว่าอย่าจิ้น แม่วววว ฟหด้าวงงงยร้ดกำั่
ที่กูอยากรู้กว่าคือ ท่านเรย์กะทำไมไม่จิ้นว้าาา คู่หูยังจิ้น แต่ไหงท่านพี่กับท่านอิมาริไม่จิ้นนะ
เอ็นโจเคยบอกเรย์กะประมาณว่า ตัวติดกับคาบุน่าขนลุก แต่ท่านพี่กะท่านอิมาริชอบไปมาหาสู่กันจังนะคะ
ขอบคุณโม่งแปลสำหรับตอนใหม่
นี่มันเหมือนอิมาริยั่วให้ท่านพี่หึงเลย โอ้ยย ท่านพี่ก็ซึนตลอดเว อยากเสพกาวคู่นี้
พอเรย์กะพูดถึงโฮสคลับแล้วท่านอิมาริโปรยสเน่ห์ เสียงในใจกูร้อง ดอมเปรีๆๆๆ รัวเลย555 (มีใครเก็ทมุกนี้ไหม)
แต่สรุปกอล์ฟมาร์คเกอร์ไม่ได้มีความหมายอย่างที่คิดใช่มั้ย ถถถถ
ท่านพี่กับอิมารินี่คือคู่วายประจำเรื่องนี้ใช่ป่ะ ฟีลแม่งใช่มากอ่ะ เพื่อนหนีเที่ยวมีตื่นมารอด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ไล่ออกจากห้องด้วย นี่มันสามีภรรยาชัดๆ อิมาริก็โครตพ่อบ้านใจกล้าเลย แกว่งปากหาตีนท่านพี่ตลอดไม่เคยหลาบจำ
แต่ไอ้ใช้เวลาร่วมกับใครในความทรงจำนี่คือจีบท่านพี่ใช่ป่ะ พูดหวานๆ แล้วก็หยอกให้ท่านพี่หึง สามีภรรยาคู่นี้เขารักใคร่กันดีนะคะ
ว่าแต่ ไอ้ตรง "ติดสอย" นี่ ประโยคนี้เอ็นโจก็ใช้ตอนตามคาบุรากิมานั่งคุยที่คาเฟ่กับเรย์กะเหมือนกันนะ ทีตอนนั้นเรย์กะยังด่าในใจว่าถึงพูดยิ้มๆ ก็ไม่น่ารักหรอกย่ะ พอท่านอิมาริพูดดันกลายเป็นยิ้มซนๆ ไปซะงั้น ถถถถถถถถ
กูไม่ไหวกับท่านอิมาริท่านพี่แล้วววว เพื่อนกันในห้องสลัวๆเรอะ ชงอะไรเบอร์นี้ อยากเขียนฟิคเลย แต่มันวายนี่สิ เกรงใจโม่งนอลมแล มีอะไรแนะนำไหม จะแปะไพรเวทเตอร์เดี๋ยวโม่งจะแตก5555
กูว่าที่อิมาริดูเป็นพ่อบ้านใจกล้าได้ขนาดนี้ คงเพราะถึงจะหยอกท่านพี่แล้วโดนทำร้ายร่างกายกี่ครั้งกี่หน ฮีก็ไม่เคยตอบโต้เลยซักครั้ง ปล่อยให้เขาทำไป เหมือนพวกผู้ชายที่ยอมลงให้แฟนอะ แถมชอบใจอีก เพราะท่านพี่ไม่ค่อยแสดงออกว่ารักเลยยั่วโทสะ อยากเห็นท่านพี่หึงใช่มะ
>>488 เออ จะว่าไปท่านอิมาริก็น่ารักตรงนี้แหละ แม่งดูสมยอมสัดๆ น่าเสียดายที่ไม่ค่อยเห็น FA คู่นี้เลย กูเลยจิ้นเอาเองว่าท่านอิมาริน่าจะหล่อแบบกรีกๆ หน้าตาออกแนวนมเนย โครงหน้าลึกจมูกโด่ง รูปร่างสูงๆ ผึ่งผาย เป็นถึงกัปตันชมรมบาสน่าจะตัวสูงแหละ ส่วนท่านพี่เป็นหนุ่มร่างสะโอดสะองที่เหมาะกับฮาคามะในชุดยิงธนู อุโอ้ววววว
กูเคยแอบจิ้นว่าท่านอิมาริเป็นเพลย์บอยอย่างทุกวันนี้เพราะเรียกร้องความสนใจจากท่านพี่ว่ะ คบสาวคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยเพราะอยากให้ท่านพี่หึง แต่ตอนท่านพี่บอกเรย์กะว่าอิมาริมีแฟนอยู่โรงเรียนอื่นก็ดูจะไม่ชอบใจนะ หึๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ท่านพี่ท่านอิมาริก็จิ้น แต่ซากเรือท่านอิมาริท่านเรย์กะกูก็รักเหมือนกัน ตอนนี้ถือว่ามันแล่นได้ไหมวะ ดูคล้ายโฮสต์ยังไงชอบกล Orz
จริงๆก่อนกูเข้ามาในมู้นี้กูก็ว่าเป็นคู่จิ้นที่โครตดีของเรื่องเลยนะ
แต่พอพวกมึงไซโคไปไซโคมา กูเกือบจะคิดว่านี่มันคู่จริงไปแล้วนะพวกมึงงงงง
เอาความคิดใสใสก่อนไสยไสยของกูคืนมาาาา
ตอนนี้กูว่าเรืออิมาริท่านพี่นี่นำโด่ง แปลไทยตอนล่าสุดทำให้มีคนแยกร่างกระโดดขึ้นเรือนี้จนล้นแน่นวล
>>500 กูว่าจริงๆเรืออิมาริท่านพี่ก็มีคนลงอยู่เยอะแยะมากมายอยู่แล้วนะ กระทู้แรกๆก็กรี๊ดคู่นี้กันสนุกมาก แต่ช่วงหลังๆนี่หาโมเมนต์เด็ดๆจังๆแบบนี้ยาก เลยไม่ค่อยมีใครพูด หนุ่มๆที่อ่านเรื่องนี้ยังคิดไปในทางเดียวกันหมดเลยว่านี่มันคู่ผัวเมียละเหี่ยใจนี่หว่า อะไรคือการเข้าห้องท่านพี่ไปแล้วกลับออกมาแบบโทรมๆน่ะหา แถมมาเปิดไฟสลัวจิบไวน์ด้วยกันสองต่อสองอีก แต่งๆกันไปเห๊อะ
>>501 กูก็อยากว่ะ ฮืออออ ใครก็ได้ช่วยต่อที อยากเห็นท่านพี่ ท่านอิมาริแท็กทีมกันเล่นงานว่าที่น้องเขย
>>501 กูก็อยากอ่านฟิคเวียนต่อเหมือนกัน กูจะมาตามกรี๊ดมันก็ผ่านไปแล้วเลยปล่อยให้ผ่านไป แต่ก๊าวใจมากตั้งแต่ตอนแรกยันตอนล่าสุดบอกเลย อ่านไปเขินไปนอนดิ้นอยู่บนเตียง กูชอบฉากสีลิปติดปากเอ็นโจมาก มันเอโร่ยยย เลิฟๆโม่งทั้งหมดที่มาแต่งนะ
กูไม่มีความสามารถแต่งทำได้แค่สูบกาว รอคอยผู้มีจิตศรัทธามาแต่งต่อ ถะ ถะ...ถ้าแต่งต่อให้ท่านพี่ ท่านอิมาริ เอ็นโจอยู่ด้วยกันสามคนจะดีมากเลย //me จิ้มนิ้วเข้าหากัน ไม่ขอมากไปใช่มั้ย 5555555555555555555
อิมาริกับท่านพี่กูจำได้ว่ามีเมนท์เก่าๆโดยผู้ชายที่ดูแล้วไม่น่าจะใช่สายวายว่าสองคนนี้ได้กันแล้วแน่ๆ ดูการแสดงออกแม่งเกินเพื่อนมากๆ ผู้ชายเขาไม่ทำแบบนี้กัน กูก็เห็นด้วยอยู่นะ แต่กูก็ไม่ใช่ผู้ชายเลยไม่รู้ว่าผู้ชายทำแบบนี้มันปกติมั้ย โม่งชายแถวๆนี้เคยทำแบบอิมาริท่านพี่กับเพื่อนผู้ชายด้วยกันมั้ยวะ กูอยากรู้
นี่พึ่งได้อ่านแปลไทยตอนล่าสุด โฟกัสความหวงน้องสาวของท่่านพี่อย่างเดียวเลย อยากมีพี่ชายแบบนี้บ้าง เสียดายเป็นลูกคนเดียวㅠㅠ
ถ้าน้องสาวกูน่ารักแบบเรย์กะกูคงหวงนะ แต่น้องสาวในความเป็นจริงแม่งก็อย่างที่รู้ๆ กัน
506 507 พูดซะฝันกุสลาย~ ﹏
ปล.แท็กยังไงวะ
โอเคๆ ทำได้ละ ขอบคุณมาก😘
พี่น้องจะซิสค่อน บราค่อนได้ หนึ่งในเงื่อนไข คือ หน้าตาดีทั้งคู่ว่ะ 555
แต่กูว่าอยู่ที่ความขี้หวงของแต่ละคน มันไม่เท่ากัน~
แต่กูว่าพี่น้องคิโชวอิน มีนิสัยเหมือนๆกันนะ คือ ติดตามความเคลื่อนไหว ถ้าสงสัยเรื่องเพศตรงข้ามหรือคนที่ชอบ ถามแล้วจะตอบบ่ายเบี่ยงพอกัน
กูอยากอ่านฟิคท่านพี่ ท่านอิมาริ ยุยโกะว่ะ 5555 เริ่มไม่แน่ใจว่าถ้าสามคนนี้มาจับกลุ่มอยู่ด้วยกันใครจะอะไรใครยังไงแน่ มันคลุมเครือเหลือเกิ๊น
เรื่องไฟสลัวในห้องท่านพี่กูมองต่างอย่างนะ กูเคยเจอคนรู้จักที่ถ้ามันทำอะไรอยากจิบบรรยากาศ เช่นฟังเพลง ดื่มเหล้า ดื่มไวน์หรือไรงี้แล้วชอบเปิดแค่ไฟสลัวๆไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือคนอื่นอยู่ด้วยอะ อยู่หลายๆคนก็ยังเปิดไฟสลัว (เว้นคนที่อยู่ด้วยบอกให้เปิกไฟ) เห็นบอกว่าอยากให้ได้ฟิล บรรยากาศไรงี้
>>510 กูว่าที่ท่านพี่เป็นซิสค่อนเพราะเรย์กะบ๊องๆเอ๋อๆชอบทำอะไรพิลึกๆว่ะ เลยเป็นห่วงมากกว่าพี่ชายปกติทั่วไป แล้วเรย์กะก็น่ารัก ชอบอ้อนท่านพี่ด้วย เลยยิ่งหวงเข้าไปใหญ่
>>521 เพราะเป็นท่านพี่กับอิมาริมันเลยดูคิดลึกว่าจะมีซัมติงล่ะมั้ง สองคนนี้ทำอะไรมันก็ดูน่าคิดลึกไปหมด พฤติกรรมแม่งเหมือนผัวเมียกันชิบหาย
>>523 บร้าาา มึงก็พูดไป กูก็พยายามไม่คิดไม่จิ้น ท่องว่าเขาคือเพื่อนกันแล้วนะ 5555555555
ตั้งแต่ได้ยินว่าท่านพี่ตื่นมารออิมาริที่ย่องหนีเที่ยวกลับตอนสว่าง สมองกูก็ถูกฉาบด้วยรังสีเหนือม่วงแล้ว นี่มันพฤติกรรมเมียหลวงชัดๆ ถ้าตอนจบมาเฉลยว่าท่านพี่กับอิมาริเป็นแฟนกัน กูว่าก็คงไม่มีใครประหลาดใจนะ หนุ่มๆที่อ่านเรื่องนี้ก็คงรับได้ที่มีคู่วายอยู่ในเรื่องด้วย
กระแสท่านพี่อิมาริ นี่กลบคำพูดที่อิมาริบอกจะซื้อแหวนให้เรย์กะหมดเลย 55555
อิมาริกับท่านพี่....อฟช.ชงหนักชิบหายขนาดนี้ถ้าไม่จิ้นกูก็คนบาปแล้ว กร๊าซซซซซซซซซ จิบไวน์สลัวๆมันเบๆไป ตอนหลังๆขอแบบนอนกอดกันบนเตี---- //โดนลากไปเก็บ
ทีแรกกูก็ไม่จิ้นหรอก อิมาริท่านพี่ แต่มันชักแหม่งๆตอนที่ท่านพี่บอกอิมาริมีแฟนอยู่อีกโรงเรียนแล้วทำหน้าไม่ชอบใจ ตอนนั้นกูแซวในใจเล่นๆเฉยๆว่าหึงสินะ แต่ไปๆมาๆ ทุกครั้งที่สองคนนี้ออกมาด้วยกันมันชักแหม่งๆขึ้นเรื่อยๆ กูเลยเริ่มจิ้นอย่างเป็นทางการ ยิ่งมาตอกย้ำความเป็นสามีภรรยาในตอนที่ 237 กูก็กู่ไม่กลับแล้วจ้า เพื่อนอะไร้มานั่งกอดอกรอเพื่อนกลับสว่าง บอกรักสาวคนนั้นคนนี้ก็ไล่ออกจากห้อง อิมารินี่ก็นะ...ไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงหรือที่ไหนก็ได้ แต่ดันคุยต่อหน้าเลย นี่จะยั่วให้ท่านพี่หึงอะดิ ท่านพี่ทุบตีก็ดูจะชอบมากด้วย ฟินเลยสินะที่เขาแสดงอารมณ์น่ะ 55555555555555555555
>>530 "การทำฮาราคีรีให้ครบเครื่องนั้น จะต้องมีผู้ช่วย(Kaichaku)ซึ่งเป็น "เพื่อนสนิท" ของคนที่จะทำ มีไว้เพื่อที่จะตัดคอคนที่ทำฮาราคีรี(เผื่อคว้านท้องแล้วดันไม่ตาย จะได้ไม่ทรมาน) จะยืนอยู่ที่ซุ้มทางทิศใต้ของผู้กระทำ ก่อนจะทำการคว้านนั้น ซามูไรจะต้องดื่มสาเกที่นำมาเสิร์ฟทางซ้าย ทั้งหมด4ครั้ง การกระทำฮาราคีรีนั้น จะต้องมีโฆษก มากล่าวประกาศความผิดของผู้กำลังจะตาย จากนั้นก็เอ่ยคำขอบคุณผู้ที่มาร่วมงาน....."
ใครคือผู้มาร่วมงานวะ 555555555555555555555555555
แค่ก อยู่ๆก็มีกาวมาจากไหนไม่รู้ แต่เป็น No pairing ที่แอบมีคาบุเรย์กะหน่อยๆ? หรืออันที่จริงคือเข็นมาได้แค่นี้เลยจบลงที่ No pairing ใครจะต่อก็ต่อได้เลย กาวกูหมดแล้ววว
สุดท้ายฉันก็พาคาบุรากิไปถึงฝั่งฝัน...แค่ก หมายถึง ในที่สุดนายนั่นก็ขอวาคาบะจังเป็นแฟนได้สำเร็จ! ในวันที่เดินกลับบ้านไปด้วยกัน แวะกินราเม็งร้านข้างทางอย่างเอร็ดอร่อย เมื่ออยู่ห่างจากบ้านฝ่ายหญิงไม่เกินสามหลังคา ในใจพลันบังเกิดความรู้สึกอยากให้ทางกลับบ้านนั้นยืดยาวออกไป ฝ่ายชายจึงเอื้อมมืออกไปคว้ามืออีกฝ่ายไว้แน่น ริมฝีปากพลันขยับพูดออกมาสามคำ "เป็นแฟนกันนะ"
ถือว่าเป็นอันปิดตำนานซินเดอเรลล่าแห่งซุยรัน จักรพรรดิผู้สูงส่งและเด็กสาวจากก้นครัวเบเกอรี่ งานของฉันก็ถือว่าเป็นอันจบลงอย่างสมบูรณ์แบบ
ซะที่ไหนกันละคะ! หลังจากคาบุรากิส่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยรวมให้ฉันพร้อมกับแนบท้ายมาว่าเผลอหลุดปากขอวาคาบะจังเป็นแฟนไปตอนใกล้ถึงบ้านมาจบในหนึ่งข้อความ แต่ข้อความต่อมาต่อๆมา และต่อๆๆมาของหมอนั่นกลับเต็มไปด้วยคำบ่นไร้สาระ
"...ฉันน่ะลืมตัวไปหน่อย ทั้งที่กะจะขอเป็นตัวอักษรที่จะอ่านได้เฉพาะตอนมองลงมาจากเครื่องบินเจ็ทตรงที่ว่างในต่างประเทศซักที่แท้ๆ..."
"...แต่ทาคามิจิต้องไม่ยอมไปแน่ เลยคิดเผื่อปฏิเสธว่าอาจจะชวนไปบ้านพักตากอากาศต่างจังหวัดแทนแล้วก็เล่นมายากลไปเซอร์ไพรส์..."
"...หรือถ้าเล่นเปียโนพร้อมกับบอกความในใจ ระหว่างช่วงดนตรีสดตอนดินเนอร์ก็ฟังดูไม่เลว"
"...หรืออย่างน้อยฉันก็ควรมีดอกกุหลาบให้ยัยนั่นซะหน่อย..."
"เธอว่่าไง ยัยนั่นจะผิดหวังมากๆเลยรึเปล่านะ"
"เธอว่าพรุ่งนี้ฉันควรจะทำมันใหม่รึเปล่า ให้รถขนดอกไม้ไปส่งที่โรงเรียน แล้วประกาศว่าทาคามิจิน่ะเป็นของฉัน ไอ้ประธานนักเรียนนั่นจะได้รู้จักระยะห่างซะบ้าง"
"แต่อย่างนั้นฉันจะก็ต้องเลิกก่อนที่จะขอเป็นแฟนใหม่รึเปล่า?"
"อย่างนั้นน่ะไม่ได้นะ!"
"คิโชวอิน เธอคิดยังไง"
"นี่ๆ คิโชวอิน ตอบอะไรมาบ้างสิ!"
"เฮ้! นี่เป็นเรื่องสำคัญนะ ถ้าเธอไม่ตอบฉันจะโทรตอนนี้แล้วนะ!!"
ฉันมองไฟโทรศัพท์ที่กะพริบอย่างรวดเร็วซึ่งบ่งบอกว่ากล่องข้อความของฉันกำลังถูกถมด้วยอีเมลล์ขยะจากคาบุรากิ แต่พอเปิดเมลล์ล่าสุด สายตาก็เหลือบไปเห็นข้อความล่าสุดที่บอกว่าจะโทรมาเข้า
ฉันขยับนิ้วไปกดปุ่มปิดเครื่องอย่างรวดเร็ว
เจ้าลูกบ้านหมู่บ้านมีรักนี่น่ารำคาญจริงๆ ไม่รู้จักเวล่ำเวลาซะบ้าง ตอนค่ำวันศุกร์น่ะไม่มีใครว่างงานตลอดแบบนายหรอกนะยะ
คำถามที่ถามมาก็ไม่ได้เรื่อง! ดูจากข้อความที่ส่งมาก็รู้แล้วว่าบทเรียนความรักภาคทฤษฎีของหมอนี่ไม่รุ่งเพราะทักษะการวางแผนต่ำถึงติดลบ แต่ละอันที่เสนอก็แทบจะเหมือนกับลอกออกมาจากคอลัมน์ ขอแต่งงานอย่างไรดี จากนิตยสารแม่บ้านรายสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยยี่สิบเคล็ดลับเด็ดมัดใจสาว เก้าฮาวทูบีอะกู้ดไวฟุ ส่วนภาคปฏิบัติก็ห่วยแตกเพราะขาดความอดทนและไม่รู้จักการควบคุมตัวเอง
ยังไงก็เถอะ ถ้าวาคาบะจังตอบตกลงก็คงต้องถือว่าหมอนี่สอบผ่านล่ะนะ! คาบุรากิย้ายออกจากสำนักไปตั้งรกรากใหม่ ในที่สุดฉันก็จะได้เป็นไท!
ไม่มีการลากไปนู่นมานี่ตอนเย็น! ไม่มีการขัดจังหวะการปฏิบัติหน้าที่ของหัวหน้าชมรมของฉัน! ไม่มีอีเมลล์ขยะมารบกวนจิตใจ!
พรุ่งนี้ต้องไปกินเค้กฉลองแล้วล่ะ อุฮุฮุ
แต่ความรู้สึกยิบๆในอกนี่มันอะไรกันนะ... หรือว่า นี่คือสิ่งที่อาจารย์ประจำชั้นรู้สึกเวลาที่นักเรียนสำเร็จการศึกษาใช่มั้ยนะ?!? อยู่ดีๆ ฉันก็นึกถึงอนิเมะเรื่องหนึ่งในชาติที่แล้ว ฉากจบเป็นภาพแผ่นหลังของเด็กนักเรียนที่โตขึ้นมาเป็นครูซ้อนทับกับคุณครูที่เสียชีวิตไปแล้ว ในตอนนั้นฉันไม่เข้าใจว่ากะอีแค่สอนแค่เทอมเดียวจะไปส่งผลต่ออนาคต จะไปผูกพันกันขนาดนั้นได้ยังไง
แต่ตอนนี้เหมือนจะเข้าใจเสี้ยวความรู้สึกพวกนั้นขึ้นมาอีกนิดหน่อยละมั้ง...?
ก๊อกๆ
"เรย์กะ ไหนว่ามาเอาของแปปเดียวไง พี่..." ท่านพี่เปิดประตูเข้ามาในห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่พอเห็นฉันกลับขมวดคิ้วขึ้นมา ก่อนจะเดินมานั่งขัดสมาธิอยู่ที่พื้นกับฉันด้วย
"เปลี่ยนใจแล้วล่ะ พี่ว่าพี่ไม่ค่อยได้มาหาเรย์กะที่ห้องเท่าไหร่ วันนี้เราอยู่กันห้องนี้แล้วกัน"
"..."
ปกติฉันจะได้เห็นท่านพี่ที่ปกติจะนั่งมาดเนี้ยบอยู่บนโซฟาหรือเก้าอี้ทำงานตลอด พอได้เห็นท่านพี่มานั่งสบายๆที่พื้นก็ไม่รอช้าเอนตัวไปซบไหล่ท่านพี่อย่างผ่อนคลาย...ไม่สิ! นะ นี่มันไม่ถูกต้อง! ฉันไม่ควรจะรู้สึกแบบนี้!
ความรู้สึกเดียวที่อยู่ในใจคือ แข็ง! แข็งมาก!
พยายามผ่อนคลายหัวอย่างเต็มที่แล้ว แต่ทำยังไงกระดูกหัวไหล่ของท่านพี่ก็ทิ่มจนเจ็บไปหมด ในใจน้ำตาฉันไหลพรากๆที่ไม่รู้จักคิดให้ดีก่อน แน่อยู่แล้วว่าท่านพี่ที่รูปร่างผอมกำลังดีมีกล้ามนิดๆ ย่อมไม่มีเนื้อนิ่มๆเหมือนหมอนหนุน
พวกมังงะโชโจหลอกลวง! ตอนนางเอกซบลงบนไหล่พระเอกถึงได้สบายจนหลับไปทั้งแบบนั้นนี่มันขี้โม้ทั้งเพ!
ฉันสาปแช่งคนแต่งมังงะเรื่องนั้นอย่างดุเดือด แต่กลับหนีความจริงที่ว่าฉันพึ่งเอนซบลงไปไม่นานไม่ได้ ต้องเวลานานเท่าไหนถึงจะขยับออกได้แบบไม่เสียมารยาทนะ ถ้าขยับออกเร็วเกินไป ท่านพี่ต้องไม่สบายใจแน่ แต่ไม่ขยับออกก็ไม่ได้เหมือนกัน...
"เรย์กะ..." ท่านพี่พูดแผ่วเบา จริงสิ! ขอแค่ท่านพี่เอ่ยปากบอกว่าหนัก ยังไงฉันก็ต้องลุกออกไป คิดได้ดังนี้ก็กดน้ำหนักหัวลงไปสุดแรง เจ็บมากแค่ซักพักนึงจะเป็นไร แต่รอแล้วรอเล่าท่านพี่ก็ไม่พูดต่อซักที แย่ล่ะสิ แรงกดหัวของฉันจะหมดแล้วนะ
ท่านพี่ขา ช่วยน้องหน่อยนะ!
"เรย์กะไม่ต้องผ่อนน้ำหนักหรอก...ทิ้งตัวลงมาได้เต็มที่เลย ไม่ต้องเกรงใจ" ท่านพี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
บางทีมีท่านพี่ที่อ่อนโยนขนาดนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าปวดใจ! ท่านพี่ทำเอาฉันรู้สึกผิดที่คิดจะขยับออก นานๆทีท่านพี่จะมีเวลามาอยู่กับฉันแท้ๆ...
บรรยากาศในห้องเงียบลงเมื่อท่านพี่ไม่พูดอะไรต่อ ส่วนฉันก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ช่วยคาบุรากิให้รักกับวาคาบะจังเสร็จแล้ว ป้องกันท่านพ่อโกงธุรกิจก็ทำเท่าที่ทำได้แล้ว เงินก็เก็บสะสมเกือบจะพอจบมหาวิทยาลัยทั่วๆไปได้แล้ว ฉันที่วางแผนมาตลอดสิบกว่าปีนี้ก็อดรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาไม่ได้
หลังพิธีจบการศึกษานี้...ถ้าไม่นับสปินออฟหลังแต่งงานของทั้งสองคน ก็จะถือว่ามังงะเรื่องนี้จบลงแล้ว ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าฉันจะสามารถเป็นเด็กธรรมดาๆบ้างได้รึเปล่า
"หึ เด็กโง่" ท่านพี่เอื้อมมืออีกข้างมาลูบหัวฉันเบาๆ ก่อนจะออกแรงดึงให้ฉันไปนอนพิงอกแทนที่จะเป็นหัวไหล่ แล้วใช้แขนทั้งสองข้างรวบกอดไว้...ท่านี้ ฉันอดนึกไปถึงคุณพ่อในชาติที่แล้วไม่ได้ ความอบอุ่นจากความทรงจำปนกับสัมผัสที่ได้รับทำเอาฉันน้ำตารื้น
"เมื่อกี้กังวลเรื่องอะไร...หรือว่าเรื่องใคร เรย์กะบอกพี่ได้นะ"น้ำเสียงท่านพี่อ่อนโยนมาก จนฉันนึกอยากจะพูดออกมาให้หมด เรื่องที่ฉันเข้ามาในโลกนี้ แต่ว่า...นั่นหมายถึงฉันจะต้องยอมรับกับท่านพี่...กับ คิโชวอิน ทาคาเทรุ ว่าฉันเป็นน้องสาวของเขาแต่ก็ไม่ใช่น้องสาวของเขา
"เรย์กะ มีคนมาหาแน่ะลูก ...อ้าว ทาคาเทรุก็อยู่นี่ด้วย พอดีเลย ลงไปทักทายเพื่อนของเรย์กะหน่อยสิจ้ะ" ท่านแม่พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอยู่หน้าประตูห้อง ท่าทางเหมือนดีใจจนกระทั่งประตูก็ลืมเคาะ
ผิดปกติ! ผิดปกติมากๆ! ไซเรนในหัวของฉันส่งเสียงดังลั่นพร้อมๆกับสัญญาณสีแดง นี่มันลางร้าย! คนที่จะกล้ามาหาฉันถึงบ้านในช่วงกลางคืนวันศุกร์ คนที่จะทำให้ท่านแม่แทบจะอุ้มฉันลงไปส่ง ในหัวผุดออกมาแค่คนเดียว แถมยังเป็นชื่อคนที่ฉันพึ่งปิดเครื่องหนีเขาไปเมื่อครู่
มะ ไม่จริงน่า กลางคืนวันศุกร์หมอนั่นยังจะมาอีกหรอ ฉันกล้าปิดเครื่องเพราะคิดว่าเวลานี้หมอนั่นคงไม่บ้าถึงขนาดมาหาที่บ้่าน แต่หลักฐานก็มีให้เห็นแล้วชัดๆ...ฉันจะหนีไปทางไหนได้บ้างนะ หน้าต่าง!?! ไม่ได้! รังนกพวกนั้นล็อตใหม่พึ่งจะเริ่มมา ยังไม่ได้กำจัดเลย
อ้อมกอดของท่านพี่รัดแน่นขึ้นวูบหนึ่ง ก่อนท่านพี่จะกระซิบ "เรย์กะ ไปดูกันเถอะว่าใครมา"
หวาย~ ท่านพี่ไม่พอใจแล้ว น้ำเสียงเท่สุดๆไปเลยค่า ท่านพี่กำลังเล่นบทอัศวินพิทักษ์เจ้าหญิงอยู่สินะค้า ฉันตัวอ่อนยวบไปกับความรู้สึกได้รับการปกป้องจากท่านพี่ มีท่านพี่อยู่ อีตานั่นจะนับเป็นอะไรได้
เจ้าพ่อมดชั่วคาบุรากิ จงรับดาบเพลิงพิโรธนี้ไปซ้า~ โฮะๆๆ บังอาจมาขัดเวลาของฉันกับท่านพี่...
"เรย์กะ?"
"คะ? อ้อ ค่ะ ไปเดี๋ยวนี้แล้วค่ะ" ฉันลุกขึ้น พอท่านพี่ลุกขึ้นมา ฉันก็เดินนำไปที่ห้องรับแขก
แน่นอนว่าคนที่มาก็หนีไม่พ้นคาบุรากิอย่างที่คาดไว้
-------------------------------------------------------------------------------
ขออภัยกับคำผิดและความ ooc ของตัวละคร กรี๊ดด
Ky กูไม่น่านึกเข้าไปส่องสารบัญอาหารในเวลาแบบนี้เลย ฮือ
เพื่อนโม่งขยันชิพ นอกจากเตือนว่าโหลดโหดแล้ว มึงควรเตือนว่าอย่าส่องดึกๆดื่นๆด้วยนะ
รูปลาเต้น้องต่ายน่ารักจนถ้ากูมีผู้ชายทำให้ กูก็คนทิ้งเหมือนเรย์กะละ จะมุ้งมิ้งน่าหมั่นไส้เกินไปแล้ว...กูทำไม่ได้ กูพาล... สรุปผู้ชายเรื่องนี้แม่งเก่งงานฝีมือกันหมดซินะ (ละท่านพ่อไว้หนึ่งคน)
คู่อิมาริท่านพี่ทำให้มิเตอร์วายกูพุ่งสูงปรี๊ด เกจไม่ยอมลดซักที จนกูตัดสินใจที่จะเขียนฟิคคู่นี้ กูเลยไปไล่อ่านย้อนหลังเก็บข้อมูลเขียนฟิค แล้วก็พบว่าเวลาที่อิมาริจะพูดจาหยอกๆเรย์กะเป็นเชิงว่าพี่จะจีบนะน้อง หรือถึงเนื้อถึงตัวอย่างป้อนอาหาร ทาเนลออยล์ จะทำต่อหน้าท่านพี่หมดเลยนี่หว่า ไม่มีไปอยู่สองต่อสองเลย อย่างกับจงใจใช้เรย์กะยั่วให้ท่านพี่โมโหหึงยังไงยังงั้น กูนี่แบบ.... โฮ้ยย คู่นี้โตๆกันแล้วก็แต่งๆกันไปซักทีเหอะ จะได้ไม่เป็นภาระกองอวย
ตอนใหท่มาแล้วขอบคุณโม่งแปลมาก
เอ็นโจ...ที่โดนเมินมาไม่รู้เท่าไหร่นี่ไม่เคยโดนเขาทิ้งเลยสินะ
จะเจาะรูเรือตัวเองทำม้ายยยยแค่นี้เขาก็ติดลบไปเยอะแล้ววววว
ถ้ามีเรกะแร้งค์กิ้งเมื่อไหร่นายอาจได้อยู่ท้ายสุดคู่ตาไก่โง่เลยนะ Orz
เอ็นโจ....อย่าบอกนะว่าเห็นอิมาริพูดเรืองแหวนแต่งงานแล้วก็เลยรู้ตัวว่าอยู่เฉยไม่ได้แล้วก็เลยเริ่มรุกบ้างเรอะ!? ไอ้นี่มันสตอล์คระดับเทพแล้วนะ! แล้วที่ว่าไม่เคยถูกทิ้งนี่คงหมายความว่าเขาไม่รักแต่แรกเลยใช่มะ โอ๋ๆๆ ยังกับจะบอกว่า"ผมไม่เคยถูกทิ้งเพราะคนที่ผมรักยังไม่หันมามองผมเลย ผมจะถูกทิ้งได้ยังไงในเมื่อเขายังไม่รักผมแบบนี้" น่าสงสารจังเลยชูสุมอย
การสาป 79 ครั้งที่ท่านริวโฮกล่าว ส่วนใหญ่สาปชาวหมู่บ้านมีรักแน่เลย~
ทำไมอ่านแล้วเขินตอนนี้ ความเถียง ความหยอกกัน อ้ายยยยย~ บิดตัวดิ้นๆๆๆ
วอนคนใจดี หนังที่ท่านเอ็นโจว่ามันแนวไหนอ่ะ ไม่รู้จัก
ตอนล่าสุดกูลั่นชิบหายที่ เรย์กะทักคาบุว่าไม่มีเพื่อนมั่งล่ะ เอ็นโจดูนิตยสารที่คาบุเอามาแล้วมีแต่อะไรก็ไม่รู้มั่งล่ะ เอ็นโจพูดว่าเดทตามคู่มือมันไม่สนุกหรอก แล้วคาบุแม่งถีบหัวส่งเรย์กะ หักหลังย้ายฝั่งทันที ใช่ๆๆๆ ตามนั้นเลย
ยิ่งมาตอนไม่เคยถูกทิ้ง.... โอ๊ย กูหมั่นไส้จัง ไม่เคยถูกทิ้งเหรอจ๊ะ จ้าาาาา พ่อหนุ่มเสน่ห์แรง พ่อคนช่ำชองความรัก ความหมั่นไส้กูพวยพุ่งมากกกกกกกก
แต่รักไม่ไดัมีไว้ดูแต่มีไว้สัมผัสนี่กูแอบเขินปนขนลุกอยู่ สมเป็นลูกบ้านคาสโนว่า พูดจาเลี่ยนๆแบบนี้ถ้าไม่หล่อเขาจะมองว่าเสี่ยวแดกนะ
>>548 กูว่าสถานะเอ็นโจนี่น่าจะต่ำกว่าอีไก่โง่อีก อีไก่โง่นี่เรย์กะยังพอเอ็นดูบ้างนะ แต่เอ็นโจนั้น นอกจากยูกิโนะนี่ก็ไม่เหลืออะไรดีในชีวิตแล้ว.......
เมื่อก่อนเรือเอ็นโจและแน่ใจว่ายังไงเอ็นโจก็พระเอก แต่หมั่นไส้เหลือเกินนนนนน ตอนนี้จะอวยทุกคนที่ไม่ใช่พระเอกแล้วเฟ้ยยยย
โอ้ยยยย ตาเอ็นโจจจจ นี่ขนาดคนอ่านยังอยากจะขอสาปด้วย หมั่นส้ายยยยยย อ่านตอนนี้แล้วตงิดๆเหมือนจะไม่ใช่แผนเดทแล้วนะคุณ เหมือนอยากจะไปทัวร์กินของสามัญกันกับเรย์กะมากกว่าแล้วนะ 555555555555555555 ดูซื้อมาแต่ละเล่มราเม็งงี้ โอโคโนมิยากิงี้ถถถถ
>>550 เคยดูแค่สองเรื่องนะ
The cabinet of dr.caligari หนัง horror ของเยอรมัน พระเอกกับเพื่อนแข่งกันจีบสาวคนนึง แล้วไปเจออีดร.คาลิการี มีร่างทดลองอยู่ร่างนึง อ้างว่าร่างนี้สามารถทำนายอนาคตได้ ไปๆมาๆเพื่อนพระเอกโดนฆ่าตาย อีสาวนั่นโดนลักพาตัว พระเอกต้องไขปริศนาตามหาสาวคนนั้น และตามล่าหาความจริง หนังมืดๆทึมๆแสงน้อย โทนเรื่องหม่นหมอง เนื้อหาเน้นความวิปริตบิดเบี้ยวกับความมืดดำในใจคน
The tin drum หนังเชิงสัญลักษณ์ เสียดสีนาซี การเมืองการปกครอง สื่อออกมาในรูปแบบ sex sex แล้วก็ sex พระเอกคือเด็กน้อยผู้ตั้งใจว่าจะไม่ยอมโตเลยทำให้ตัวเองตกบันไดบ้านหัวฟาดพื้น สมองเหลือความทรงจำแค่สามขวบ ทุกอย่างในเรื่องคือความวิปริต ไร้สามัญสำนึก เต็มไปด้วยความรุนแรง ไม่มีศีลธรรม
หนังวิปริตสองเรื่องแล้วนะโว้ย เอ็นโจ รสนิยมนายนี่แม่ง....
>>554 เชี่ย เป็นหนังแบบนี้เองเหรอวะ งั้นหนังที่แต่ละคนชอบแม่งก็แสดงตัวตนจริงๆ ด้วยสินะ คาบุชอบหนังสารคดีธรรมชาติ มีความดิบๆ เถื่อนๆ ตรงไปตรงมา แต่ก็โรแมนติคด้วย ส่วนเอ็นโจ... ก็ตามนั้น ส่วนท่านเรย์กะชอบ charlie and the chocolate factory แม่งก็สมเป็นท่านเรย์กะอีกล่ะ 5555
ส่วนเอ็นโจ ถ้าคิดว่าที่พูดมาเป็นความจริงแบบไม่ได้ตั้งใจจะยั่วให้ใครหมั่นไส้ มันก็น่าคิดดีนะ จะพูดเป็นนัยๆ ว่าตัวเองไม่เคยเป็นฝ่ายชวนยุยโกะออกไปก่อน และที่บอกว่าไม่เคยถูกทิ้งก็เป็นเพราะยุยโกะยังแปะติดอยู่กับโผมมมม ก็เป็นได้
>>558 เมียเผาชู้ให้ผัวแดกป่ะมึง กูไปอ่านเรื่องย่อมาจาก wiki แบบว่าผัวเป็น gangster ที่เป็นเจ้าของภัตตาคาร เมียแอบไปเป็นชู้กับลูกค้าประจำที่เป็นจข.ร้านหนังสือ ผัวจับได้ว่าเมียมีชู้เลยไปซ้อมชู้จนตายด้วยการบังคับให้แดกหนังสือทีละหน้า เมียกลับมาเห็นศพชู้แล้วช็อค ขอให้เชฟที่ภัตตคารทำชู้เป็นอาหาร แล้วเอาปืนจ่อผัวบังคับให้แดกชู้ลงไปแล้วยิงทิ้ง เชี่ยแม่ง โหดชิบหาย เอ็นโจววววว อยู่ดีๆ ทำไมต้องเผาเรือตัวเองด้วยว้อยยยยยยย
>>562 กูได้ดูเพราะมีพี่ที่เขาชอบหนังแบบนี้ (หมายถึงหนังเก่า หนังเงียบ หนังขาวดำนะโว้ย ไม่ใช่หนังวิปริต 55555) เวลามีเทศกาลหนังเก่าๆก็ชวนไปดูเป็นเพื่อน
คาลิการีนี่เป็นอะไรที่ติดตรึงกูมาก ทั้งการเล่าเรื่องที่ซ้อนเรื่อง สับสนวุ่นวาย พระเอกเล่าเรื่องท่าทางปกติ แต่บรรยากาศเย็นชาน่าขนลุก ฉากในเรื่องดูเหนือธรรมชาติ เซอร์เรียล ไม่ใช่ความจริง หม่นหมองและมืดดำ ให้คิดต่อเอาเองว่าพระเอกบ้าไปเอง หรือดร.คาลิการีฆ่าแล้วโยนความผิดให้พระเอกกันแน่
สิ้นคำพูดเอ็นโจ ยังไม่ทันเห็นเรย์กะสาปกูยังอุทานเหี้ย!! กูจะตบมันนนนขึ้นมาก่อนเลย แม่งงง หมั่นไส้สัดๆ
ตอนที่เอ็นโจ(แย่ง)ตอบเรย์กะว่า มาซายะชอบเลิฟสตอรี่แบบพระเอกนางเอกฝ่าฟันอุปสรรคกว่าจะครองรัก ไม่ชอบเลิฟคอมเมดี้
เหมือนจะจิกไงไม่รู้ว่า มาซายะชอบแนววาคาบะนะ ไม่ชอบความเป็นคู่รักตลกคาเฟ่แบบเรย์กะหรอก
แบบแหม ตอนแรกๆนี่ก็พยายามจับคู่เขา เดี๋ยวนี้นี่พยายามกีดกันทุกวิถีทางเลยนะ
รีบวิ่งแจ้นมาเพราะกลัวเค้าอยู่กันสองต่อสองด้วย
ส่วนไอเรื่องหนังนี่มันก็เกี่ยวกับรักใคร่ๆแบบยัน(เดเระ)ๆยังไงไม่รู้ พูดขู่เรย์กะป่าวว่า ถ้าเธอไม่ยอมรับรักชั้น เธอเจอแน่ *แสยะ*
กูอุตส่าห์ดีใจที่กอล์ฟมาร์คเกอร์ไม่มีความหมายอะไรแบบที่คิด ทำไมท่านเมพฮิโยโกะมาหย่อนระเบิดทิ้งอีกก็ไม่รู้
กูเรือเอ็นโจนะ แต่เอ็นโจมึงตายซะ ตายซร้าาาาาาาาาาาา
>>568 องค์ประกอบหลักของ How to be Devil Lord เลยว่ะ แต่เรื่องที่บอกนี่มันเหมือนบอกว่าจะจัดการศัตรูหรือคู่แข่งยังไงเลยว่ะ เพราะแต่ละเรื่องคู่แข่งหรือศัตรูโดนฆ่าอนาจตลอดอ่ะ คาบุรากิมีหนาวๆ ร้อนๆ ละว่ะ
>>567 กูก็ว่ากันซีน มีขัดคอตลอด ที่พูดตอนท้ายชวนเราหมั่นไส้เนี่ยเป็นการพูดโม้เอาคืนเรย์กะเปล่าว่ะ ที่พูดว่าน่าเบื่อโดนเขี่ยคงแทงใจฮีน่าดูเลยสวนกลับไปซะ
>>567 เราว่าไม่ใช่แค่เรื่องกันคาบุรากิหรอก ตอนที่แล้วรู้สึกว่าเฮียอิมาริพูดเรื่องแต่งงานนี่แหละที่ไปสะกิดต่อมของจอมสตอล์คให้เริ่มตื่นตัว กอปรกับที่เรย์กะชักจะใกล้ชิดกับคาบุรากิมากขึ้นเรื่อยๆแล้วคงทำให้ฮีทนอยู่เฉยไม่ได้อ่ะ .....ว่าแต่ฮีแอบสตอล์คอิมาริไว้ด้วยป่ะนั่นถึงได้รู้อะไรเยอะแบบนั้นแล้วอมพะนำไว้คนเดียว เขาว่าชอบอะไรก็บอกลักษณะของคนๆนั้น.....ยะ....อย่าบอกนะว่านี่คิดจะทำแบบนั้นกับอิมาริน่ะ!!!???
#ทีมกาวอวกาศ #สายมโนยาว
#จารย์แกเล่นอีกแล้ววววว
>>570 มึ้งงงงงงง หนังแต่ละเรื่องนี่คือแบบ....สุดๆอะ เรื่องแรกมันแข่งกันจีบหญิงกับเพื่อนเว้ย แล้วทีนี้เพื่อนมันตาย หนังมันก็จะทำให้เราคิดเป็นสองทางว่าใครฆ่าเพื่อนมันกันแน่ พระเอกหรือด๊อกเตอร์ แต่กูเอียงไปทางพระเอกฆ่าเพื่อนมันมากกว่า
เรื่องสอง พระเอกมันชวนสาวสิบหกมาอึ๊บกับมันแบบหน้าด้านๆ อีสาวก็ยอมด้วยนะ ทั้งเรื่องจะทำเหมือนพระเอกคือเด็กน้อยไร้เดียงสา เป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะสมองอยู่ที่สามขวบไง แต่จริงๆแล้วมันวิปริต ลามกจกเปรต ไม่สนศีลธรรมจรรยาใดๆบนโลก คือกูจะเอาอ่ะ
เรื่องสาม ไม่ได้ดู แต่จากเรื่องย่อโม่งบนๆบอกนี่มันก็นะ........รสนิยมแม่งสุดๆไปเลย
KY นิดหน่อย คือกูอยากลองวาดท่านเรย์กะเวอร์ชั่นโบราณๆหน่อยอ่ะ คิดว่าวาดแบบไหนดี? จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อังกฤษ หรือเอาแหวกหน่อยก็อียิปต์....
กูเพิ่งได้อ่านแปลตอนล่าสุด
กูเรือเอ็นโจมาตลอดจนตอนนี้นี่แหละ หมั่นไส้โคตรๆๆๆ แบบ เกลียด อยากตบ (ไปยืนชกลมเป็นเพื่อนคาบุ)
นี่ลมหึงหรืออะไร ทำไมตอนนี้ปากคมออกนอกหน้าเป็นพิเศษ หึงแน่ๆ หึงสินะ
บ๊ะ ตอนนี้เอ็นโจแม่ง พูดหนเดียวยิงทะลุสองเป้าเลยวุ้ย แทงใจดำทั้งเรย์กะทั้งคาบุ เฮดช็อตตายคาที่ทั้งคู่ โดยเฉพาะคาบุไอ้ตรงคำว่าเกิดมาก็ไม่เคยถูกทิ้งนี่คงอยากลุกมาต่อยเอ็นโจแน่ๆแต่ไม่กล้า เลยต้องหันไปชกลมฟ้าอากาศแบบนั้น 555555555555555555555
แต่เห็นเอ็นโจชอบหนัง The cabinet of dr.caligari แบบนี้ กูว่าฮีก็น่าจะชอบหนังของเดวิด ลินซ์ด้วย หนังลินซ์ก็ซับซ้อน ดูยาก เข้าใจยาก อย่างเรื่อง lost highway นี่ก็คล้ายๆด๊อกเตอร์คาลิการิเหมือนกัน คือเล่าเรื่องจากมุมมองพระเอก มีการสร้างความทรงจำปลอม เล่าเรื่องเข้าข้างตัวเอง โยนความผิดให้คนอื่นเพื่อหลีกหนีความผิดตัวเองด้วย
แล้วกูว่าถ้าฮีเล่นเกม ก็น่าจะชอบเล่นเกมแนวทริลเลอร์ เขย่าขวัญ จิตวิทยา เน้นความมืดหม่นในใจของตัวละคร บาปที่ทำแล้วต้องชดใช้แบบไซเลนฮิลแน่ๆ ถ้าฮีไปอยู่ในโลกไซเลนฮิล จะสะท้อนความวิปริตในใจฮีออกมาได้น่าขนลุกขนาดไหนวะ แค่รสนิยมดูหนังก็ยังมืดขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลย 5555555
ตอนต้นเรื่องพูดเรื่องทุกคนเวลาโดนจี้ใจดำแล้วก็โกรธด้วยกันทั้งนั้น ที่เอ็นโจพูดออกไปดูเหมือนจะโกรธปนประชดประชันด้วยแฮะ โดนเรย์กะจี้ใจดำ ก็จัดกันไปคนละดอกสองดอก แลกหมัดกันไปนะครัชชชช
แต่รสนิยมดูหนังของสามคนนี้ไปคนละทางเลยแฮะ คาบุชอบดูหนังรัก หนังสารคดี เรย์กะชอบหนังดราม่าชีวิตผู้คน แล้วมีตอนจบที่สวยงาม เอ็นโจชอบหนังวิปริ....เอ่อ หนังเชิงสัญลักษณ์ จิตวิทยา ต้องตีความซับซ้อน
มึ้งงงงงงงงงง ตอนนี้คืออยากตบเอ็นโจสั*ๆ หมั่นไส้ชิบหายเลยโว้ย ก่อนที่ท่านเรย์กะจะสาปกูนี่อยากจะด่าแต่ด่าไม่ออก อ้าปากพะงาบๆเลือกคำด่าไม่ถูกเลย อีเวงงงง
ไม่ใช่ว่าตอนจบของนิยายเรื่องนี้จะเปลี่ยนจากชีวิตประจำวันและทัวร์กินของท่านเรย์กะเป้นเซอไวเวิลจากความวิปริตของจอมมารนะ 555555555555
กูคือ >>577 เองนะ ถ้าเอาแบบฝรั่งเศสกูก็มีเรื่องกุหลาบแวร์ซายส์เป็นต้นแบบอยู่แถมชอบวาดเป็นส่วนตัวอยู่ละ ส่วนเมโสฯนี่หาแบบยาก กลัวจะเป็นเหมือนท่านราชาสักคน....(ใครหนอ) ส่วนแบบจีนนี่เอาชุดแบบไหนดีหนอ ชุดองค์หญิงดีไหมน้า ไม่ก็เอามาประยุกต์กับสมัยใหม่ไปเลย ใครมีไอเดียดีๆช่วยมาคิดกันหน่อย
คาบุรากิ-จักรพรรดิ
เอ็นโจ-ท่านอ๋อง
เรย์กะ-องค์หญิง
เอ้า! เนื้อเรื่องมา--------แค่กๆ!!
(....ไหงกลายเป็นมโนเข้าเรื่องฟิคไปได้....)
>>585 ก่อนหน้านั้นเห็นพูดถึงเรื่องเอมิลี่ด้วยง่ะ ก็หนังครอบครัว มีดราม่าเข้ามาปนด้วย แต่ไม่มาก แล้วก็ให้ความรู้สึกฟีลกู๊ด นางเอกเรื่องนี้เหมือนเรย์กะเลย เป็นแม่สื่อให้คนนั้นคนนี้ เข้มแข็ง ร่าเริง จบสวยด้วย แต่กูแอบขนลุกตรงปกหนังนี่ล่ะ นางเอกน่ากลัวสัสๆ เหมือนปกหนังสยองๆจิตวิทยามากกว่าหนังฟีลกู๊ดอีก
ว่าไปเอ็นโจกับคาบุรสนิยมก็ตรงกันข้ามแม่งทุกอย่างเลยนะ คาบุดูเข้มๆจริงจังๆน่าจะชอบอะไรแนวๆซีเรียส แต่ดันชอบหนังรักดราม่าฟันฝ่าอุปสรรค เอ็นโจดูอ่อนโยนนุ่มนวลละมุนละไมแต่เสือกชอบอะไรฮาร์ดคอร์ เนื้อหารุนแรง ไร้รักไร้เมตตา มีแต่เซ็กส์ จิต เลือด ความบ้าคลั่ง
เขาว่าคนเราจะเป็นเพื่อนกันได้มันก็ต้องมีอะไรคล้ายๆกันบ้างล่ะ คืออะไรวะ หล่อรวยงั้นเหรอ ที่คล้ายกันน่ะ 5555555555555555
เอ็นโจ ทำตัว น่าตบอีกละ
ทำตัวแบบนี้ ใครจะอยากเชียร์วะ กุว่าขึ้นคาน ยังดีกว่าเลย
หวงก้าง ทำมากันซีน ก่อนหน้านี้ก็โยนมาให้ไม่ใช่เหรอ ทีงี้ทำมา...
แล้วอะไร โผล่มาก็ตินั่นตินี่ พูดนั่นพูดนี่ เก่งมากนัก ทำไมไม่แนะนำเองแต่แรกวะ
อ่อเคยพูดประมาณนี้นี่หว่า " ก็มันยุ่งยากนี่นา"
เหี้ยยย น่าตบชิบหายยย
ปล. อย่าด่ากุ กุเรือเอ็นโจ แต่อยากย้ายมาก แต่รู้ว่าลำที่จะย้ายไปเป็นไปไม่ได้
แต่ตอนเอ็นโจวบอกว่าไม่เคยถูกทิ้งนี่กูหมั่นไส้
โดนเรย์กะเมินตลอดนั่นคือไม่เรียกว่าถูกทิ้งเหรอ
แถมคาบุก็มานั่งประชุมกับเรยNกะทุกวัน ตัวเองนั่งคนเดียวแรกๆส่งไปเองแต่หลังๆเหงาหงอย นั่นแหละที่เรียกว่าโดนทิ้ง
5555555
>>593 เออ กูก็เข้าใจอารมณ์มึงน่ะ บางตอนกูอ่านแล้วอยากเข้าไปกระโดดถีบขาคู่ใส่ด้วยซ้ำ เอ็นโจสำหรับกูนี่คือทั้งรักทั้งหมั่นไส้ไปพร้อมๆกัน เวลาทำตัวดีๆกูก็เฮ้ ดีใจ แต่เวลาทำตัวเชี่ยๆกูก็หงุดหงิดๆ อยากให้เรย์กะต่อยท้องสั่งสอนอีกหน จะได้ทำตัวดีๆเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้าง ว่าไปก็ไม่ได้ถูกตบเกรียนมานานมากแล้ว ไม่มีใครดัดนิสัยสินะ เรย์กะกับคาบุช่วยกันรุมกระทืบซักดอกสองดอกหน่อยซิ หมั่นไส้
ท่านเรย์กะร่ายคำสาปต้อนรับเปิดเทอมกูเลย....
ถ้าเรย์กะได้คบกับเอ็นโจจริงๆ กุสงสารเรย์กะขึ้นมาเลย คิดสภาพผู้ชายที่เข้าใกล้เรย์กะ เป็นข่าวตอนเช้าว่าหายตัวไปอย่างลึกลับ จอมมารนั่งจิบชาดูข่าวในยามเช้าพร้อมรอยยิ้มดำมืด....
กุยังเรือเอ็นโจตลอดศก ยังมองด้วยฟีลเตอร์หนา5กิโลเมตร555555555555555 ทุกสิ่งที่นายทำต้องมีเหตุผลสิน่า แม้ว่าเหตุผลนั่นจะดีหรือไม่ดี แต่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเกี่ยวกับเรย์กะไง ฮิ้ววววววว //ตอกตะปูซ่อมเรือต่อไป
>>605 กูก็คิดว่างั้นนะ คือที่บอกว่าไม่เคยออกปากชวนใครก็คงเรื่องจริงนั่นล่ะ อาจจะบอกเล่าแบบธรรมดาๆ ประสบการณ์เป็น 0 เพื่อบอกเรย์กะว่าผมไม่เคยชวนสาวไหนไปนะครับ แต่เสือกไปกระตุกต่อมหมั่นไส้คนฟัง เรย์กะเลยกวนตีนประชดประชันเข้าให้ แถมมาตอกย้ำเรื่องโดนทิ้ง ฮีเลยโกรธขึ้นมา ทำนองว่า อ้าวพูดด้วยดีๆแต่เสือกกวนตีนกูเหรอ งั้นตายซะ จัดไปหนึ่งดอก
ตอนนี้หมั่นไส้เอ็นโจสุดๆ อุส่าโดดกลับขึ้นเรือตอนซาโตมิคุง ตอนนี้มีกี่ยูกิโนะ กี่ซาโตมิก็ไม่ช่วยแล้วล่ะเอ็นโจเอ๋ย ขอสาปขอสาปขอสาป......
ตอนท้ายนี่กูแอบคิดว่าคาบุมันอยากไปร้านราเม็งกับโอโคโนมิยากินี่ไม่ได้ไปหาที่เดทแต่อยากลองกินเองรึเปล่าวะ 555555
กุยังปักหลักอยู่บนเรือนะ กำลังคิดจะตอกตะปูปิดตายไม่ให้ลูกเรือโดดหนี
จริงๆแล้ว วันนี้กูว่าจะลงฟิคเอ็นโจ side story วันนี้ แต่ฮีเสือกทำกูหงุดหงิด แถมตอนที่จะลงฮีก็เสือกมีความสุขอีก หมั่นไส้โว้ยยยยย ไม่ลงแม่งละ ไปหาเรื่องให้ฮีทุกข์ทรมานในฟิคเลี้ยงต้อยดีกว่า //ไม่ใช่ละ 555555555555555555555555555
ตอนนี้กูกาวว่าเอ็นโจผลักเรื่องของคาบุไปให้เรกะเพื่อเอาคืนที่เรกะขาย(ข่าว)ฮีเพื่อเบี่ยงประเด็นเลยโยนคาบุไปให้กะจะให้ไปฟังคาบุพร่ำเพ้อ
แต่กลายเป็นว่าคาบุดันได้ไปเดทกับเรกะ (ฟาตฟู้ดเอย แฟมิเรสเอย ซุปเปอร์เอย) ไหนจะข่าวว่าวิ่งไปหาที่ชมรมอีกเลยเกิดอาการที่ว่าไหงเป็นงี้วะ?! ผมยังต้องไปพร้อมกับยูกิโนะเลย ไหงมาซายะดันได้ไปกันสองต่อสอง?! ไม่ได้ละต้องแทรกๆ
แล้วดันไปพูดผิดหูแบบนั้นอีกเลยกลายเป็นโดนหมั่นไส้x2 5555
นี่ทีมเอ็นโจนะ แต่พออ่านตอนนี้ไปนี่เบะปากมองบนแรงไปหลายล้านรอบอะ จ้าาาาาา พ่อคนไม่เคยชวนใครเดท จ้าาาาา พ่อคนไม่เคยโดนเท ลงไปอยู่กับยุยโกะตลอดกาลไป๊!!!
สำหรับกูนะ อ่านจบปุ๊ปคือเหมือนพวกมึงทุกคน แบบ อีเหี้ยยย หมั่นไส้เอ็นโจโว้ยยย แต่แบบพอคิดไปซักพัก...เหย คือที่ฮีเกริ่นมาจริงๆคือหึงรึเปล่า
เริ่มจากเปิดประตูมา กวาดตาดูนิตยสารยังยิ้มๆแซวๆได้อยู่ใช่ปะ แต่พอเริ่มวางแผนจริงจัง ฮีก็แซะเลยจ้า อ้าวจะไปเดตกับคุณทาคามิจิก็ต้องเลือกตามที่คุณทาคามิจิชอบไม่ใช่หรอ (*ตรงนี้มโน*ไม่ใช่เลือกตามที่ท่านเรย์กะชอบ/แนะนำจากนิตยสาร ไม่ได้จะไป*เดตกับท่านเรย์กะ*ซะหน่อย )
พอคุยๆจดๆกันไป เป็นอย่างนี้มันค่อนข้างจะเหมือนเรย์กะกับคาบุรากิเป็นคู่รักมือใหม่จะเตรียมตัวไปสถานที่เดตกันมากกว่า
ท่านเอ็นโจผู้หวังดีก็เลยต้อง"เตือน"เพื่อนๆซะหน่อย
แถมก่อนหน้านั้น กูว่ายิ่งเอ็นโจยิ้ม ยิ่งน่ากลัว ตอนแรกที่ท่านเรย์กะคุยเรื่องหนังรักกับคาบุ ฮีที่ยิ้มผุดพรายมาซักพักก็จงใจพูดเรื่องน้ำเน่าจนคนอื่นแข็งค้าง พอท่านเรย์กะพยายามเคลียร์บรรยากาศ(ที่ในหัวกูมีเสียง กา กา กา คนอื่นพูดไม่ออกไม่รู้จะตอบยังไง) ฮีก็เปลี่ยนธีมหนังกลายเป็นเรื่องจิตๆซะอีก
หลังจากนั้นท่านเรย์กะโมโห ก็คาดว่าฮีน่าจะชอบน่าดู ยังคงยิ้มแย้มยั่วโมโหท่านเรย์กะต่อไปอย่างสนุกสนาน
ไม่รู้ว่าหมอนี่จริงๆแล้ว สายเอส ชอบแกล้งท่านเรย์กะ เห็นท่านเรย์กะโมโห/แสดงสีหน้าหลากหลายแล้วมีความสุข หรือว่า สายเอ็มแล้วติดใจรสหมัดตบเกรียนของท่านเรย์กะกันแน่
ไม่แน่นะ ในซอกมุมมืดหนึ่งของซุยรัน
"คุณคิโชวอิน...ผมจะทำให้คุณคิดถึงแต่ผมให้ได้"
.
.
แค่ก อะไรนะ ใส่ฟิลเตอร์กาวมากไปหรอ
หืม แต่เอาดีๆตอนนี้เป็นตอนที่กูเห็นว่าบรรยายว่าท่านเอ็นโจยิ้มบ่อยมากเมื่อเทียบกับบทอื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่าไม่นับไอ้ยิ้มขื่นๆซึ่ง... ชิ ตอนนั้นเรารึอุตส่าห์สงสาร ตอนนี้น่ะเหรอ สมน้ำหน้าค่ะ! ก็เป็นซะอย่างนี้นี่นา
น่าหมั่นไส้*จำนวนขอสาปของท่านเรย์กะ ไปเลยค่า
แต่จริงๆที่เอ็นโจพูดน่ะ จริงๆไม่เคยมีแฟน ไม่เคยเดต หรือ เคยเดตแต่ไม่เคยมีแฟน(ไม่มีแฟนก็ถูกทิ้งไม่ได้อยู่ล้าว) ก็พูดไอ้ทั้งหมดนั่นได้นะ555 อืม แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็ไม่งั้นคาบุน่าจะรู้? แต่เอ็นโจก็ไม่ได้ดูเป็นไทป์เล่าให้ฟังถ้าไม่ได้ถาม---เอ๊ะ ยกเว้นเรื่องวาคาบะจังกับคาบุตอนนั้นที่เสนอตัวเล่าเองเลย โอยยย ไม่รู้แล้ว ฟฟ
>>615 อืม กาวดี ขอเอาไปปรับใช้ใน side story ได้มั้ย //ขอกันหน้าด้านๆเลยโว้ย 55555555555555555555555555
กูว่าคงเป็นทั้ง S และ M แบบอิมาริว่ะ ยั่วให้สองพี่น้องคิโชวอินปรี๊ดแตกได้ แถมชอบเอามากๆด้วย ท่านพี่ทุบตีอิมาริบ่อยๆ เหลือแต่เรย์กะนี่ล่ะที่ยังไม่ตบเกรียนฮีอีกหนซักที
เออวะ มึงทำกุคิดงั้นเลย เกี่ยวไรกับเดทฟะ ในห้องประชุมเล็กไปๆมาๆก็ถกเรื่องน้ำซุปราเมนกับหน้าโอโคโนมิยากิอีก ตามเลยท่านเรย์กะแล้วนะนาย555555555555
เพิ่งเลิกงาน อ่านจบแล้วรู้สึกว่าเอ็นโจโคตรอ้อนตีน (ถ้าสิงคาบุได้คงโดดต่อยปากตั้งแต่มาแทรกครั้งที่สองแล้ว)
มองในมุมมองผู้ชายไอ้ลักษณะนี้เข้าข่ายหมาหวงก้าง
>>624 คือกับคาบุรากินี่สุดจะคาดเดาครับ มันเป็นตัวละครที่สุดแสนจะเหนือสามัญสำนึก ว่ากันตามตรงไม่เคยรู้จักผู้ชายที่ KY อย่างหมอนี่แม้แต่คนเดียว ไม่คิดว่าจะมีด้วย
เลยไม่กล้าฟันธง แต่ก็อย่างที่พิมพ์ไป ผู้ชายอ่านยังรู้สึกว่าเอ็นโจโคตรอ้อนเบื้องล่าง เลยบอกว่าถ้าสิงคาบุได้คงจัดแม่งไปแล้ว
อยากให้เรย์กะตบเกรียนให้เป็นผู้เป็นคนอีกหนรึไง?
แต่ก็ยังดีที่ประเด็นกอล์ฟมาร์คเกอร์ไม่เป็นอย่างที่คิดนะ
>>626 กอล์ฟมาร์กเกอร์ คิดว่าหนุ่มๆที่ได้ไปคงคิดว่าเรย์กะตั้งใจซื้อมาฝากมั้ง เลยไม่ได้อะไรมากเท่าไหร่ ลองให้รู้ดิว่าใครมันแนะนำมา น่าจะโดนลากไปปรับทัศนคติ เอ็นโจคนเดียวแม่งกวนตีนรอบวงไม่เกรงกลัวว่าจะได้ตีนมั่งเลย
แต่รู้สึกวันนี้ฮีดูร้อนรนแปลกๆนะ เรย์กะไปนั่นไปนี่กับคาบุก็หลายหนไม่เคยแทรก ทำตัวเป็นวอลเปเปอร์คอยเสริมอย่างเดียว แต่พออิมาริพูดจะเอาแหวนมาให้ รีบมาหาเขาทันที ร้อนใจอะดิ ยิ่งมาเจอเรย์กะกวนตีนใส่ยิ่งน็อตหลุด พาลไปทั่วเลย กูจะพูดอะไรกับฮีดี ขอตบทีได้มั้ย เรย์กะชกแม่งเลย กูเรือฮีนะ ไม่เคยคิดไปเรืออื่นด้วย แต่หมั่นไส้มาก ควรจะถูกจัดซักที ไม่โดนกระทืบมานานเลยเหลิงใช่มั้ย
สรุปจากตอนล่าสุดคือภาพลักษณ์เอ็นโจแม่งพังเพราะตัวเองแท้ๆ//มองด้วยสายตาเวทนา
ปล.ขอถามหน่อย ดูจากตอนนี่คือมันใกล้ดิบปัจจุบันมากแล้วใช่มั้ยวะ
ปล2. มีใครรู้บ้างว่าจากเหตุการณ์กอล์ฟมาร์คเกอร์/ตอนกวนตีนปัจจุบัน รีแอคกระทู้เม้าท์ฝั่งญี่ปุ่นเป็นไงบ้างอะ อยากรู้555555
>>626 อันนี้ก็สงสัยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าทางญี่ปุ่นไม่มีคำแสลงประเภทนี้ หรือท่านฮิโยโกะใส่มาแล้วเกรงคนอ่านจะไม่เก็ทเลยปล่อยผ่าน น่าเสียดายๆ
>>627 แอบคิดว่าเพราะทุกทีไม่เคยเห็นต่อหน้าหรือเปล่าหว่า ฟังคาบุเล่าฉอดๆ อย่างเดียว อาจจะฟังทิ้งฟังขว้างตามปรกติ นี่เข้ามาเห็นเขานั่งข้างๆ อ่านนิตยสารเล่มเดียวกัน มีหยอกเอินน่ารักน่าเอ็นดูเลยลมเพชรหึงกำเริบ กวนตีนรอบวงก็เป็นได้
อีเอ็นโจ๊~~~~~~~~ อีดร๊วกซ์~~~~~~~~ ให้แม่ยกมีโมเมนท์โดขิโดขิซักตอนจะตายรึยังไง
>>606 แต่มาคิดๆ ที่บอกแทบไม่เคยชวนใครก็คงจริงน่ะ คนที่ฮีอยากชวนก็คงไม่ยอมไปด้วยเลยไม่ได้ชวนซักที
แต่เรย์กะคงคิดว่าหนุ่มเนื้อหอมหล่อรวยอย่างหมอนี่เนี่ยนะจะเป็นไก่อ่อนไม่เคยชวนสาวเที่ยว คำพูดมันเลยโดนตีความไปในลักษณะ ผมน่ะมีแต่สาวๆวิ่งเข้าใส่ มาชวนเที่ยวไม่หวาดไม่ไหว ไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากชวนเอง อยากไปกับใครก็ชี้นิ้วเลือกเอา เรย์กะคงหมั่นไส้ในจุดนี้เลยกวนตีนไป มึงอะเป็นผู้ชายน่าเบื่อระวังโดนทิ้ง แล้วฮีคงฉุนเลยกวนตีนกลับมาจนหน้าไหม้เลย
>>629 กูว่าญี่ปุ่นมีแสลงประเภทนี้นะ ไม่งั้นอีตานี่มันคงไม่พูด "ของที่ให้ได้อย่างสบายใจ" หรอก คือเอ็งสบายใจคนเดียวอะดิ
>>630 เอ็นโจมันจะมีโมเมนต์เท่ๆดีๆตอนเรย์กะกับคาบุมีภัยว่ะ ไปออกหน้าปกป้องตลอด ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้องสองคนนี้ แต่ปกติแล้วนั้น...แม่งชอบระเบิดเรือตัวเองทิ้งอยู่เรื่อย กูนี่ปวดเศียรเวียนเฮดมาหลายหนกับฮีแล้ว เขียนฟิคก็ต้องมาเดาใจว่ามันคิดอะไรอยู่วะ ไอ้คนเข้าใจยากเอ้ยยย //ดึงเหนียงชูสุมอย ทำตัวดีๆหน่อยเซ่
>>615 ประมาณว่าคุณคิโชวอินครับ มาซายะก็ปลูกต้นรักต้นใหม่กับวาคาบะไปแล้ว อย่าสนใจมาซายะเลยนะ กูมโน 55555 กูว่าฮีคงรู้แหละว่าท่านเรย์กะยังไงก็ไม่สนใจคาบุรากิแต่ก็ยังอยากทำให้มันชัดเจนยิ่งขึ้น
เห็นมีคนบอกเอ็นโจหวงก้าง กูไม่แน่ใจว่าเคยเจอคนแบบเอ็นโจมั้ยในชีวิตจริงแต่กูเคยเจอคนมาหวงก้างอ่ะ ก็คล้ายๆเอ็นโจตอนนี้เลย ปกติก็ปล่อยให้คุยกันแต่ถ้ารู้สึกว่ามันมากไปก็จะหาเรื่องเข้ามาแทรกให้แยกออกจากกันแบบเนียนๆ ไม่ว่าจะเป็นเข้าร่วมวงมาคุยแล้วกันอีกฝ่ายออกจากบทสนทนาหรือไม่ก็พูดอะไรแทรกมากลางวงแบบ KY เลยอ่ะ
/คิดอีกแง่ เรื่องที่เอ็นโจปรี๊ดขาด ถึงสามหน่อนี่จะดูโตยังไงแต่เนื้อในก็ยังเด็กอายุ17-18นะ ควบคุมอารมณ์กันได้ขนาดนี้กูก็ว่าเก่งแล้ว 5555
แต่จริงๆเรย์กะก็เบื่อๆเอ็นโจอยู่เหมือนกันไม่ใช่เรอะ ยังจำตอนเอ็นโจพยายามคุยกับเรย์กะเรื่องไปซุปเปอร์กับบากะรากิแต่เจอนางเดินหนีไปคุยกับฟุยุโกะแทนเหตุผลเพราะเจ้าแม่บอกว่าคุยไปแล้วรู้สึก 'กร่อยๆ' ได้ดีอยู่เลย
เอ็นโจมันจะคุยกับเจ้าแม่นานๆได้แต่ละทีต้องมีน้องเป็นตัวหลอกล่อทุกที เจอเรย์กะพูดคำว่า 'น่าเบื่อ' ใส่หน้ามันก็ต้องมีปวดใจจี๊ดๆบ้างละ...แทงใจดำซะขนาดนั้น
กูว่านะเอ็นโจมันคงตงิดๆที่เห็นบากะรากิเริ่มพูดถึงเรย์กะตั้งแต่ตอนที่ทำตัวประหลาดๆแล้วอ่ะนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าพูดอะไรไปบ้างแต่คิดว่าปกติเวลาพูดทีไรน่าจะมีแต่เรื่องวาคาบะ(พูดถึงเรย์กะก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับวาคาบะ) แต่รอบนี้พูดถึงเรย์กะแบบเพียวๆแทรกมา(อาจจะพูดแทรกเยอะมากด้วย) ที่ผ่านมาที่ปล่อยให้เรย์กะเป็นที่ปรึกษาให้คาบุรากิน่าจะเพราะเอาคืน ที่ปล่อยให้อยู่กันตามลำพังก็เพราะไว้ใจเพื่อนอีกส่วนนึง(คงเห็นมาจากคราวที่ยังรักยูริเอะว่าเวลาเจ้านี่มันรักใคร ทั้งสายตาทั้งสมองของเจ้านี่อยู่ที่คนที่มันรักแค่คนเดียว) แต่พอคาบุรากิมันทำตัวไม่น่าไว้ใจก็เลยไม่อยากปล่อยให้อยู่ด้วยกันแค่สองคนอีก ยิ่งเห็นว่ามันปล่อยโอกาสให้สองคนนี้สนิทสนมกันขนาดนั้น( ชูสุเกะ : อะไรกันล่ะสนิทกันขนาดนั้นเลยเหรอ? ทำไมทีกับผมคุณคิโชวอินถึงต้องเดินหนีตลอดเวลาด้วยล่ะ!!! )มันก็เลยหึงจนพาลไปซะ
ไม่รู้ว่ากูเผลอติดฟิลเตอร์นักเรียนซุยรันไปด้วยรึเปล่า แต่ตอนที่เอ็นโจพูดถึงหนังเลิฟสตอรี่,เลิฟคอมเมดี้แล้วคาบุหน้าบูด กูว่าคาบุมันต้องรู้สึกอะไรบ้างล่ะว้า...แต่มันบ้าเกินไปเดาใจไม่ได้กูเลยช่างแม่งเหอะ เดาไปก็ผิดเปล่าๆ
ปล.กูเหยียบทุกเรือยกเว้นเรือคาน
ปล2.กูโม่งใหม่นะยินดีที่ได้รู้จัก กูตามโม่งมาเดือนกว่าละ กะว่าจะพิมพ์คุยด้วยหลายรอบอยู่เกมือนกันแต่ก็ไม่ได้พิมพ์ พอเจอดาเมจตอนนี้เข้าไปมือกูมันอยู่เฉยๆไม่ได้จริงๆ
งานนี้ไม่ออกฟิกคานซังก็ไปนู้น ฟิกบ้านพักคนชราล่ะ
โม่งใหม่ขอคุยด้วยคน ตอนนี้คุยกันเยอะมากกับการกระทำของเอ็นโจ
ถ้าไม่นับเรื่องที่เอ็นโจระเบิดตัวเองตอนท้ายตอนนี้ ถ้ามองเอ็นโจแบบจอมมารจริงๆ คือการที่เอ็นโจโยนหน้าที่ที่ปรึกษาด้านความรักของคาบุรากิมาให้ท่านเรย์กะเนี่ย ผมมองว่าเป็นการใช้คาบุรากิเป็นทัพหน้าเหมือนยูกิโนะในการบุกเค้ามาตีสนิทกับท่านเรย์กะ
เอ็นโจน่าจะมองออกว่าท่านเรย์กะพยายามหลีกเลี่ยงตัวเองกับคาบุรากิมาตลอด ที่ฮีหยอดๆถอยๆเหมือนหมาหยอกไก่ อาจจะคิดไว้แล้วก็ได้ว่าถ้าไปรุกใส่หนักๆโดยที่ท่านเรย์กะยังมีอคติอยู่ มีโอกาสแห้วสูง เลยส่งคาบุรากิเข้าไปตีสนิทกับท่านเรย์กะก่อน เพราะรู้ว่าคาบุรากิมีลูกบ้าลูกตื้อเยอะ ท่านเรย์กะไม่น่าจะหนีพ้น พออยู่ด้วยกันบ่อยๆด้วยนิสัยของ2คนนี้ก็น่าจะสนิทกันได้ไม่ยาก พอปล่อยให้2คนนี้สนิทกันระดับหนึ่งจนกำแพงน้ำแข็งที่ท่านเรย์กะตั้งไว้กันสองหน่อนี่บางลง โดยสังเกตจากที่คาบุรากิเล่าเรื่องไปซุปเปอร์กันอย่างสนิทสนมให้ฟัง เอ็นโจก็เริ่มยุทธการแทรกซึมเข้าไปใกล้ท่านเรย์กะโดยที่เจ้าตัวไม่ทันรู้ตัว อย่างตอนล่าสุดที่เอ็นโจเดินเข้ามาในห้องประชุมเล็ก ท่านเรย์กะก็ไม่ได้หาเรื่องหนีหน้าเอ็นโจแบบตอนก่อนๆ เพราะมัวแต่คิดแผนการเดตให้คาบุรากิอยู่ ปล่อยเอ็นโจอยู่ใกล้ๆเฉยเลย
>>644 มึงตบปากตัวเองบัดเดี๋ยวนี้! อัปมงคล อัปมงคล อัปมงคล//สาดเกลือ
>>643 ชิปหลายลำนี่ลำบากดีแท้*ตบบ่า* มา! เดี๋ยวกูช่วยมึงเอง *ส่งม้วนคาถาแยกร่างไปให้*
ปล.แต่กลัวท่านฮิโยโกะจบแบบปลายเปิดจริงๆ... เพราะอีเว้นต์ใหญ่ของท่านเรย์กะคือแค่เอาตัวรอดจากการล่มสลายของบ้านคิโชวอินให้ได้ ซึ่ง...ซึ่งแม่งไม่จำเป็นต้องจบเป็นคู่ไง แค่แบบว่าที่ท่านเรย์กะทำมามันค่อยๆคลายปมไม่ให้ล้มละลายยังไง สามคนนั่นก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไป เรื่องเลิฟๆนี่คงมีแค่ประเด็นคาบุกับวาคาบะที่ต้องมีบทสรุปแล้วแหล่ะตอนนั้นไม่ว่าจะคู่กันหรือไม่ได้คู่กัน ส่วนเอ็นโจกับยุยโกะก็...อาจจะจบปลายเปิดได้เหมือนกัน แต่เกริ่นความรอยยิ้มลอยๆของนางมาขนาดนี้แล้ว เราคงได้บทสรุปของคู่นี้เหมือนกันนั่นแหล่ะ
เพื่อนๆในโม่ง คิดว่าเรื่องมันจะไปจบที่ตรงไหนคะ ถ้าเกิดรอท่านเรย์กะมีฤดูใบไม้ผลิ เราน่าจะได้เห็นเนต้าของฟิคบ้านพักคนชร---
อ่าว ลืมตัว ที่แท้เราก็อยู่บนเรือคานซังด้วยหรือนี่//เอามือทาบอก ขุ่นพระ ช่างเป็นเรือขนาดใหญ่ที่มีผู้อยู่น้อยเหลือเกิน ขอเชิญชวนลงชื่อนะคะ ที่ว่างมีเพียบเลยข่ะ---
สรุปเรือๆ ทั้งหลายของท่านเรย์กะนี่เอา "ไม้คาน" มาสร้าง ใช่มั้ยย ??
>>648 ไม่ได้ตามดิบนะครับ แต่ไคลแมกซ์สุดท้ายของเรื่อง อาจจะเป็นงานหมั้นของท่านเรย์กะกับคาบุรากิเหมือนในมังกะคิมิดอลต้นฉบับก็ได้ เพราะตอนนี้ตัวเลือกคู่หมั้นที่มาดามคาบุรากิเล็งไว้เนี่ย น่าจะมีแค่ท่านเรย์กะคนเดียว คนอื่นๆนี้รัศมีไม่ถึง แทบมาดามคาบุรากิก็ดูจะถูกใจท่านเรย์กะที่สุดด้วย
ประเด็นคือใครจะเป็นคนล้มงานหมั้นนี้
-คาบุรากิประกาศถอนหมั้นพร้อมประกาศเปิดตัววาคาบะจังตามเนื้อเรื่องดั้งเดิม หรือ
-ท่านเรย์กะเปิดเผยเรื่องคู่คาบุรากิ-วาคาบะเพื่อให้ทั้ง2ได้ครองคู่กัน ส่วนตัวเองอยู่บนคานต่อไป ออกเดินทางตระเวณชิมอาหารไปทั่วโลก
-เอ็นโจเตี้ยมกับบ้านคาบุรากิไว้ แล้วประกาศบอกรักท่านเรย์กะในงานพร้อมๆกับที่คาบุรากิเปิดเผยเรื่องวาคาบะ แล้วก็จัดงานหมั้นคู่กัน มัดมือชกโดยท่านเรย์กะไม่มีทางขัดขืน
พอแค่นี้ดีกว่า หมดกาวไปหลายถุงแล้ว
>>647 อันนี้ก็น่าคิดนะ แต่ว่าจากที่ไปอ่านดิบมาในตอนอันใกล้นี้ รู้สึกเหมือนทั้งคาบุทั้งยูกิโนะเองก็ไม่ได้ช่วยอะไรเอ็นโจมากเพราะท่านเรย์กะสนใจแต่เรื่องยูกิโนะเป็นส่วนใหญ่ จะใช้คาบุเป็นเครื่องมือท่านเรย์กะก็ฟังผ่านๆ(เค้ากำลังโม้นางคิดถึงของกิน...)ไม่ได้มีอะไรที่จะช่วยให้เอ็นโจทำให้เรย์กะลดป้อมได้เลยนอกจากตัวเอ็นโจที่จะพิสูจน์ตัวเองให้เรย์กะเห็น(เอ็นโจมันทำเรย์กะไว้แสบจริงๆ)...ในส่วนนี้กูก็ยังมองไม่เห็นลู่ทางเลยเหมือนกัน
(จากนี้ไประวังสปอยล์ด้วย!!)
.
.
.
.
.
.
.
เอ็นโจใช้ยูกิโนะมาชวนเรย์กะไปอควอเรียม ไปกันหลายคนมียูริคุงกับมาโอะจังด้วย โดยที่ไม่มีใครซักคนชวนคาบุไปด้วย แต่จู่ๆคาบุก็โผล่มาแล้วโวยวายใส่เรย์กะว่าทำไมไม่ชวนมาด้วย เอ็นโจบอกว่าเจอคาบุรากิก่อนมาอควาเรียมแล้วคาบุมันขอมาด้วย บทในตอนของจอมมารแทบไม่มีเลยโผล่มาแค่ตอนท้ายที่มาโอะบอกว่าเคยมากับเรย์กะ,ริรินะ,ท่านพี่ แล้วก็เจออิมาริด้วย เอ็นโจก็"...ท่านอิมาริหรอ" ว้ายยยยยย...เอ็นโจสไตรค์แบค!!!
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมถึงเป็นอควอเรียม....ก็เพราะท่านเรย์กะกับคาบุคุยกันว่าจะให้คาบุไปชวนวาคาบะเดทที่อควอเรียม แต่จอมมารมันร้ายค่ะชิงไอเดียแอบชวนเรย์กะไปก่อน...กูกร๊าวมากๆๆๆๆ
(จบสปอยล์)
.
.
.
.
ท่านอิมาริกำลังใบ้ให้รึเปล่าว่าเรื่องนี้จะจบตอนท่านเรย์กะอายุ19 แต่แหวนเงินจะได้จากใครค่อยว่ากันอีกที
อิมารินี่พ่อบ้านใจกล้าชัดๆ ประเด็นคือสนุกกับการที่เห็นท่านพี่รีแอคด้วยไง ท่าทางไม่ได้ตายดีจริงๆด้วย..
ณ ลานกอล์ฟ
เอ็นโจ: สวัสดีครับคุณโมโมโซโนะ
อิมาริ: ไง ชูสุเกะคุง
อจ: อะ กอล์ฟมาร์กเกอร์นั่น...
อมร: หืม นี่เหรอ อ๊ะ จริงสิ ซุยรันไปทัศนศึกษาที่ยุโรปกันนี่น้า อันนี้เรย์กะจังซื้อมาฝากผมน่ะ น่ารักจริงๆเลยน้า~ *อวดเต็มที่*
อจ: ใช่จริงๆด้วย ดีจังเลยนะครับที่ถูกใจน่ะ
อมร: หืม?
อจ: ผมกับคุณคิโชวอินไปเดินเลือกซื้อ"ด้วยกัน"ที่ปารีสน่ะครับ คุณคิโชวอินลำบากใจมากเลยว่าจะซื้อะไรฝากคุณโมโมโซโนะดี ผมก็เลยช่วยแนะนำกอล์ฟมาร์คเกอร์ให้น่ะครับ *ยิ้มกว้าง*
อมร: อะ อ้อ ชูสุเกะคุงแนะนำให้ซินะ....... แหม แต่เรย์กะจังถึงกับลำบากใจในการเลือกซื้อของฝากให้เลยหรือเนี่ย อยู่ต่างแดนก็ยังคิดคำนึงแก่กัน นี่เป็นความใส่ใจกันซิน้า เรย์กะจังนี่น่ารักดีจังเลยเนอะ ชูสุเกะคุง~
อจ:.......
อมร: อะ นอกจากกอล์ฟมาร์คเกอร์นี่แล้ว ก็ยังมีของฝากอย่างอื่นจากหลายๆที่ด้วยซิ นี่เรียกว่าคิดถึงกันตลอดเวลาเลยซินะเนี่ย
อจ:......
อมร: อะ จริงซิ ผมได้สัญญากับเรย์กะจังไว้ด้วยซิว่าจะซื้อของขวัญให้น่ะ เรย์กะจังก็ท่าทางเฝ้ารออย่างยินดีมากด้วยซิ การทำให้สาวน้อยน่ารักผิดหวังเนี่ยถือเป็นบาปมหันต์เลยนะ... คงจะได้โอกาสใช้บริการร้านในเครือเอ็นโจกรุ๊ปสักครั้งแล้วซิครับ
อจ:..... อะไรเหรอครับ?
อมร: แหม ก็ไม่ได้เรื่องใหญ่โตอะไรหรอกครับ แค่คิดว่าลองให้ช่างจากเอ็นโจจิวเวลรี่ช่วยออกแบบ "แหวน" ที่เหมาะกับเรย์กะจังให้น่ะครับ~ *ยิ้มกว้าง*
อจ:!!!!!!!
กูแค้อยากเห็นจอมมารโดนอิมาริบลัฟใส่ แต่เขียนคาร์อิมาริไม่ถูกว่ะ เข็นได้แค่นี้ ขอโทษที 5555555
>>667 โถ โถ โถ พ่ายแพ้หมดรูป เป็นแค่ลูกบ้านคาสโนว่าจะมาสู้ท่านผู้ใหญ่บ้านได้ไง ไปฝึกมาใหม่ไป
หรืออาจจะเป็นสาเหตุที่มาความวีนเหวี่ยงในตอนนี้ของฮีวะ ดูร้อนรนโกรธเกรี้ยวแปลกๆ ปกติใครแหย่ฮีไม่เคยสะเทือน แต่นี่เล่นปรี๊ดแตกได้คงอัดอั้นอะไรหลายๆอย่างสินะ 555555555555555555555555
>>667 แต้งกิ้วมึงงง กูก็อยากเห็นอีตาเอ็นโจโดนคนอื่นบลัฟเหมือนกัน นี่ถ้าไม่ติดว่ามีท่านพี่ป่านนี้กูว่าเรือท่านอิมาริแล่นไปพอๆกับคานซังแล้ว/เว่อร์ แต่แซงคาบุแอนด์เอ็นโจแน่นอน โมเม้นอิมาริกับเรย์กะนี่คือเยอะมากจริงๆ แต่ในความเป็นจริงท่านอิมาริน่าจะsubtle+เล่นใหญ่กว่านี้อีกนิดหน่อยไม่พูดออกไปตรงๆเลยแต่จงใจแฝงความหมายให้เอ็นโจคิด แอร้ยยย
>>671 เพิ่มด้วย
ยูกิโนะ : ผมก็ขอคัดค้านฮะ
เรย์กะ : ยูกิโนะคุง!!!
ยูกิโนะ : ท่านพี่เรย์กะ ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่โต แต่ว่าซักวันหนึ่ง ผมอยากให้ท่านพี่เรย์กะมาเป็นเจ้าสาวของผม แต่งงานกับผมนะฮะ //คุกเข่าสวมแหวนที่ทำจากดอกไม้
เรย์กะ : ตกลงจ๊ะ //ตอบแบบไม่เสียเวลาคิด โยนแหวนหมั้นราคาสามสิบล้านเยนของคาบุทิ้งแล้ววิ่งออกไปกับยูกิโนะคุง
กุว่านะ ติสแตกแบบฮิโยโกะซามะคงแต่วเรื่องนี้ตามอารมณจริงๆ คือชะตาของเรยกะ ก็คือชะตาของฮิโยโกะซามะนั่นแหล่ะ. หลายๆอย่างมันดู real ดูอินเหมือนเขียนออกมาจากความรู้สึกที่แท้จริง
สรุป กุว่า. ถ้าฮิโยโกะซามะมีแฟน. เรยกะก็อาจจะได้แฟนสมใจซะที 5555. ใครก็ได้ไปจีบฮิโยโกะซามะที
>>674 เคยไปอ่านบอร์ดญี่ปุ่นเรื่องนี้อยู่ช่วงนึงเหมือนกัน (ช่วงนั้นว่าง ส่วนตอนนี้งานเข้ารัวๆ หมดปัญญาตาม) ทางโน้นเดาตัวจริงท่านฮิโยโกะกันสนุกเชียว ที่เดาๆ กันคือไม่น่าจะใช่เด็กแล้ว เพราะแนวความคิดและกรอบความรู้กว้างมาก ของแต่ละอย่างที่ยกออกมานี่ค่อนข้างจะตลาดนีช ถ้าไม่ใช่ไฮโซตัวจริงก็น่าจะเป็นคนที่คลุกอยู่ในสังคมนั้น ดีไม่ดีอาจจะเป็นครูในโรงเรียนที่ไฮโซประมาณซุยรัน เพราะดูพยายามหลีกเลี่ยงไม่ไปแตะเรื่องครูในโรงเรียนค่อนข้างมาก แถมยังเดาต่อกันเลยเถิดประมาณว่าช่วงแรกๆ ที่มาลงอาจจะเป็นช่วงลาก่อนคลอด เพราะลงถี่ๆ ทุกวัน พอถึงตอน 226 ของซาโตมิคุงก็หายไปดื้อๆ เลยสามเดือนอย่างกับลาคลอด พอกลับมาก็ลงแบบสะเปะสะปะ มาบ้างหายบ้างเรื่อยๆ เหมือนยุ่งกับการเลี้ยงเด็ก ฮา ว่าไปนั่น
แต่ยังไงกูก็นับถือท่านฮิโยโกะมากๆ เลยว่ะ เอาจริงๆ กูออกจะมองบนใส่พวกนิยายเน็ทเล็กน้อย //กราบขออภัย ผิดไปแล้ว// แต่ท่านฮิโยโกะนี่ทำเอาติดเอาเป็นเอาตายได้เลย เขาเป็นนักเขียนที่ทำให้กูเข้าใจได้เลยนะว่าบทเรียนนักเขียนที่ว่า show, not tell คืออะไร คือทุกอย่างบอกผ่านการกระทำตัวละครหมดอ่ะ ไม่มีใครมาบอกว่าเรย์กะเป็นเด็กเด๋อเห็นแก่กิน แต่คนอ่านเข้าใจหมด สร้างตัวละครที่ไม่รู้ว่าใจมันคิดอะไรอยู่ก็ไม่ต้องคอยย้ำๆๆๆ ถึงความเป็นปริศนา แต่ใบ้ด้วยเหตุการณ์ทุกอย่าง แถมยังเว้นช่องว่างให้ตีความการกระทำของตัวละครได้เยอะมากด้วย รักนะคะท่านฮิโยโกะ มาต่อเร็วๆ นะคะ ; w ;
นั่นสิ ฝีไม้ลายมือฮิโยโกะซามะกุว่า สุดๆไปเลย. แต่ต้องเป็นคนชอบแนว slow life ด้วยนะ 555 แล้วญี่ปุ่นเค้าว่าไงกันที่ช่วงนี้แกหายหน้าหายตาไปอ่ะ. แกเคยหายไปนานขนาดนี้มะ
>>678 ตามที่ >>679 ว่า หายไปห้าเดือนก็เคย บอร์ดก็เพ้อๆ กันไป มายังหว่า มายังน้า บางทีก็มีโทรลล์มาปล่อยข่าวลวงว่ามาแล้ว! แล้วก็โดนคนด่ากันไป อยู่ว่างๆ ก็ทายหวยกันว่าท่านเรย์กะจะไปลงเอยกับใคร คาน 40% เอ็นโจ 20% คาบุ 10% ตัวสำรอง 10% คันตะ 10% ยูกิโนะ 10% อะไรประมาณนี้ อยู่ว่างๆ แต่ละเรือก็จะเอาไม้พายตีกันเอง ตีกันไปตีกันมาก็จะมีคนออกมาบอกว่า ยังไงซะ ที่แน่ๆ ตอนนี้ท่านเรย์กะยังไม่ได้รู้สึกรักชอบใครเลย พอทำท่าจะโดขิๆ นางก็แหกโค้งไปเรื่องของกินไม่ก็อะไรบ้าๆ บอๆ ตลอด ท่านเรย์กะนี่แหละอุปสรรคที่ใหญ่หลวงที่สุดของตัวเอง 55555
มาคิดๆดูแล้วเอ็นโจทำกระทู้พุ่งมาหลายรอบละนะ ก่อนนี้ก็ยุยโกะไม่นานมานี้ก็กอล์ฟมาร์คเกอร์ล่าสุดก็เจาะเรือตัวเอง
คือต้องให้เอ็นโจพลาดสินะกระทู้ถึงจะพุ่งด้วยความเผ็ดร้อน
น่าจะเพราะกองอวยเอ็นโจเยอะ แถมหมอนี่เป็นตัวละครลับที่โผล่มาทีไร มีเรื่องให้คนอ่านตีความทุกที ไม่เหมือนคาบุรากิที่ฮาตรงๆเลย
เป็นตัวละครที่คาดเดาไม่ออกด้วย แนวเดียวกะท่านพี่ มาทีเกร็งตัวขมิบตูดอ่านอย่างตั้งใจ
ยกเว้นมาแบบหนึ่งบรรทัดสามบรรทัดอ่ะนะ
นิยามคำด่าตัวละคร ในกรณีที่ด่าด้วยคำเดียวกันว่า "เลว"
ท่านพี่ - เช้ด!!!!! ท่านพี่ตบอิมาริเพราะป้อเรย์กะอีกแล้ว ท่านพี่โคตรเลว (เต็มเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมแม้จะปาส้อมแบบเล็งตา)
บากะรากิ - โอ๊ยบักคาบุฯ ไอ้บ้าเอ๊ย มาเป็นก้างท่านเรย์กะวาคาบะอีกละ ไอ้เลว 555+ (เจือด้วยความเอ็นดูแบบขำๆ)
เอ็นโจ - ไอ้เอ็นโจ ไอ้นก......แหมไม่เคยโดนทิ้ง ปากหมาไม่พอเลวสัสนะมรึง (ความหมายตามคำพูด)
นึกถึงปิดท้ายกระทู้ที่แล้วด้วยคำว่าคนเลว 2017 กระทู้นี้เลยได้เห็นคนเลว 2017 ของจริงเลย 5555555555555555555555
แต่ก็คิดอีกแง่คือ สามคนนี้สนิทกันแล้วไง ถึงได้เห็นด้านที่ไม่เคยเห็นน่ะ ที่ผ่านมาเราก็จะเห็นคาบุมาทักเรย์กะแบบบ้าๆบอๆอยู่เรื่อย อย่างเซอบิรุส หรือเก็บแต้มนักษัตร พอไปไหนมาไหนด้วยกันก็เห็นนิสัยอีกด้านมากขึ้น อย่างเจ้าระเบียบ ทุกอย่างต้องเพอร์เฟค เก่งงานฝีมือ ละเอียดลออ เป็นสุภาพบุรุษช่วยถือของกับจ่ายเงินให้ไรงี้
แล้วเอ็นโจ ที่ผ่านมาเราก็จะเห็นยิ้มๆ นุ่มนวลๆ ดูใจเย็นเป็นพ่อพระ ใจดีเป็นเทพบุตร เก็บอารมณ์เก่ง ดูเหมือนคนเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อคนอื่นเสมอ แต่พอมาใกล้ชิดกันก็ได้เห็นข้อเสียหลายอย่าง เช่นขี้เกียจยุ่งยากเลยโยนภาระให้บ้างล่ะ หมาหวงก้างบ้างล่ะ ถ้าพูดแทงใจดำก็ปรี๊ดแตกพ่นคำพูดร้ายๆออกมาได้ง่ายๆ ด้านมืดฮีก็น่ากลัวด้วยดิ
กูชอบเรื่องนี้ตรงนี้นะ ไม่มีใครเพอร์เฟค ไร้ที่ติ ไร้ข้อผิดพลาด ทุกคนมีข้อเสียในตัวด้วยกันทั้งนั้น แต่กูว่าสามคนนี้อยู่ด้วยกันแล้วสมดุลดี ช่วยเสริมกันและกัน แก้จุดผิดพลาดของกันและกัน คาบุรากิก็เป็นผู้นำ วิ่งนำไปข้างหน้า ฝ่าอุปสรรคกับอันตรายให้ก่อน เรย์กะอยู่ตรงกลาง คอยดึงๆปรามๆไว้ เอ็นโจปิดท้าย คอยระวังหลังและยื่นมือมาช่วยสองคนนี้เวลาล้มหรือผิดพลาด กูว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันน่ารักดี
กุเอ็นดูคาบุว่ะ. ชอบคนตรงๆแบบนี้อ่ะ. อันนี้รสนิยมส่วนตัวของกุนะ. คือคนที่คาบุชอบแม่งโคตรโชคดีเลย. แต่ถามว่าถ้ากุเป็นท่านเรยกะ กุก็ไม่ชอบคาบุว่ะ. คือเจ้าตัวประกาศโต้งๆว่าชอบสาวอีกคน. ส่วนเราแค่เป็นเบ๊อ่ะ. ส่วนเอ็นโจวกุไม่ชอบบุคลิกอีแอบเป็นการส่วนตัว. ท่านเรยกะก็ไม่น่าชอบนะ. เพราะเป็นสาวซื่อไง ชอบอะไรตรงไปตรงมา. ณ ตอนนี้ กุขอเชียรท่านอิมาริให้ท่านเรยกะ. ถึงแม้จะหมาหยอกไก่ ถึงแม้จะมีท่านพี่(ตัวจริง?) มาเป็นไม้กันหมา. แต่ท่านอิมาริทรีตท่านเรยกะดีสุดแล้ว. อาจจะรอท่านเรยกะโตก่อนค่อยลงมือจริงจัง. เชียรๆท่านอิมาริ (แม้ว่าจะริบหรี่เหอะ)
จริงๆ กูก็คิดนะว่าที่เอ็นโจทำตัวก้ำกึ่งระหว่างผลักไสเรย์กะไปให้คาบุ กับตัวเองทำตัวเป็นหมาหวงก้างซะเองมันน่าจะมีเหตุผล ประมาณว่าช่วงนี้ที่ตัวเองยังมีภาระติดหลังมาจีบเรย์กะจริงๆ จังๆ ไม่ได้ก็เต้าข่าวเรย์กะกับคาบุขึ้นมาไปพลางๆ ก่อน ประมาณฝากเรย์กะกับไว้กับคาบุนี่แหละปลอดภัยสุด คาบุมันก็รักมั่นซะขนาดนั้น ไม่หักหลังเพื่อนแน่นอน คนอื่นก็ไม่กล้ามาจีบ แต่หลังๆ มาอาจจะเริ่มรู้สึกว่าฝากผิดคน เลยร้อนรนจัดจนเม้งแตก คะแนนลดอีก 55555
>>690 กูก็ว่างั้นล่ะ 55555555555555555555
กูยังคิดเลยว่าถ้าคาบุมันหันมาจีบเรย์กะขึ้นมา เอ็นโจมันจะเอาอะไรไปสู้ เหตุการณ์อะไรดีๆเป็นใจก็ไม่มี ยุยโกะก็ยังสิงร่างอยู่ ลำดับความนิยมในใจเรย์กะเอ็นโจนี่ต่ำตมไม่หยุดจะทะลุไปถึงแกนโลกแล้ว แถมทำตัวให้ชวนเวียนหัว ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิต
บางทีก็รู้สึกว่ากูเชียร์ฮีก็เหมือนไปยืนถือเทียนกลางพายุฝนกระหน่ำ ต้องคอยประคองไว้ไม่ให้เทียนดับ ซึ่งแม่งยากลำบากมาก คือทุกคนมีอีเวนต์ดีๆ เรย์กะได้เห็นข้อดีด้านดี เอ็นโจแม่งไม่มีเลย มีแต่จะตกต่ำลงไปทุกวันๆ ซึ่งกูปวดใจ กูก็ทำได้แค่กวนกาวเขียน side story ช่วยฮีบ้าง แต่หลังๆโมเมนต์ชักขุดยากชิบหาย กูเดาใจลำบากมาก 5555555555555555555555
>>691 กูว่าฮีชอบเรย์กะมาตลอด แต่เรื่องทำตัววกวนกูก็ไม่รู้เหมือนกัน คงต้องรอพาร์ทเอ็นโจของอฟช.ออกมาแล้วล่ะ
แต่ตอนล่าสุดก็คิดว่าคุยกันแบบเพื่อนคุยกันจริงๆนะ มีแซว มีด่า มีพูดจาแย่ๆใส่ไม่เกรงใจกันแล้ว กูว่าเอ็นโจถ้าไม่สนิทก็ไม่เผยด้านมืดด้านเลวร้ายให้เห็นหรอกนั่นล่ะ พอๆกับคาบุที่ถ้าไม่สนิทก็ไม่เผยความง้องแง้งให้เห็นเหมือนกัน
กูเห็นด้วยกับมึง ถึงกูจะรู้สึกว่าพฤติกรรมบางอย่างของคาบุจะมากไปนิด(อาจจะตามประสานิสัยของพวกคุณชายรวยล้นฟ้าแถมยังเป็นลูกคนเดียว) แต่คือพอมีคนไปเตือน(แม้ว่าท่านเรย์กะจะพูดได้โหดร้ายมาก) คาบุรากิก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับวาคาบะได้มากขึ้น (ถึงจะปรับไปในทิศทางแปลกๆก็ตาม) แล้วจริงๆแม้ว่าท่านเรย์กะจะบรรยายาบุรากิว่าเป็นคนที่สุดโต่งแบบเว่อร์มากๆ แต่ก็ยังได้เห็นมุมแบบที่คุยกับคุณอาคิมิได้ หรือจริงๆการที่ไปหาวาคาบะจังแล้วยังไม่โดนหนีคือแปลว่าคงไม่ได้ดูสตอล์กเกอร์มากอย่างที่ท่านเรย์กะคิด แค่อาจจะเพราะว่าจริงๆแล้วท่านเรย์กะเป็นคนที่ระวังพฤติกรรมของตัวเองต่อคนรอบข้างมากเลยคิดในแง่ลบไปก่อนเลย แล้วอีกอย่างจริงๆเราก็ยังไม่เคยเห็นเวลาคาบุรากิอยู่กับวาคาบะจังอย่างจริงๆจังซักที(รึเปล่าหว่า) ถึงรู้ว่าไม่น่าเป็นไปได้ แต่อยากเห็นคาบุเวอร์ชั่นหนุ่มน้อยดอกไม้แบบเขินหน้าแดง555555 อายจนม้วน ไม่รู้จะกลายเป็นพวกแบบ "ระ รู้แล้วล่ะน่า! เธอรีบๆทำการบ้านต่อไปได้แล้ว" รึเปล่า//ไม่น่าใช่ฟร่ะ จินตนาการตามไม่ถูก มีตอนไหนที่หมอนี่อายอะไรจริงจังไหม หรือว่ามีแค่ตอนเด็กสมัยปิ๊งท่านยูริเอะ
ส่นเอ็นโจ แม้กูจะเชียร์เรือนี้ แต่ถ้าเป็นกู ผู้ชายแบบนี้แม่งน่ากลัวเกินไปละ ไม่น่าไปยุ่งด้วย เวลาถูกมองออกว่าคิดอะไร จะรู้สึกเหมือน เอ นี่โดนล้อเล่นกับความรู้สึกอยู่รึเปล่านะ แถมยังจะโยนเรื่องต่างๆมาให้ ที่ถึงจะยังพอกล้อมแกล้มไปได้ว่าจริงๆแล้วคงเห็นว่าเรย์กะเองก็แก้ปัญหานี้ได้ แต่จริงๆตัวเองก็ทำได้ไง
แต่จริงๆฟิลเตอร์สีชมพูบอกกูว่า จริงๆแล้วมันเริ่มมาจากสมัยตอนประถมที่ท่านเรย์กะไปช่วยเรื่องท่านยูริเอะ ในตอนนั้นน่ะคนที่เริ่มถามท่านเรย์กะคือคาบุรากิ เนื่องมาจากความซวยหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ท่านเรย์กะไปนั่งอยู่ตรงนั้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าเรย์กะแอบมองพวกนั้น แต่ดันไม่รู้ตัวว่าไม่เนียน
(และในต่อมา เอ็นโจก็พูดทำนองว่าเห็นท่านเรย์กะคอยแอบมองตลอดๆ //บอกตรงๆว่าพอย้อนกลับไปอ่านอีกรอบ แทบจะเห็นเขากับหางสามเหลี่ยมงอกออกมาจากตัวเอ็นโจ คืออีเด็กนี่มันร้ายจริงๆค่ะ ท่านหัวหน้า เชิญทุกคนที่อ่านตอนล่าสุดของเมื่อวานย้อนกลับไปอ่านช่วงที่ท่านเรย์กะช่วยใหม่ ตอนนั้นคือรู้สึกเหมือนท่านเรย์กะโดนหยอกแบบกวนตีน+ข่มขู่แบล็คเมล์หน่อยๆ แต่ท่านเรย์กะดันไม่ได้คิดอะไรต่อ แค่สติแตกแล้วคิดว่าต้องทำตัวเนียนให้มากกว่านี้ )
คือตอนนั้น เชื่อว่าเอ็นโจไม่น่ามองท่านเรย์กะฉลาดอะไรมาก แถมยังน่าจะชอบมาซายะอีกต่างหาก แต่สุดท้ายท่านเรย์กะยังช่วยจากใจจริง+ทุ่มเท//ก็นางถึงขนาดนี้มีรายงานลิสต์เป็นข้อๆ...(นี่ขนาดถูกบังคับแบบไม่เต็มใจ) แล้วก็ในตอนนั้นเอ็นโจเสนอวิธีว่าให้รอ(ซึ่งท่านเรย์กะก็เห็นด้วย) แต่ท่านเรย์กะดันเสนอเรื่องเขียนจดหมายด้วยมือกับดอกไม้ช่อเล็กๆแทน(ซึ่งเอ็นโจคิดไม่ถึง) ตอนนั้นเอ็นโจก็เลยอาจจะแบบ เฮ้ย วิธีแก้ปัญหาอื่นก็มีนี่นา เลยอาจจะสนใจท่านเรย์กะเพิ่มขึ้นมานิดนึง(อันนี้แรงมโนกูเองล้วนๆ) ไม่นับว่าเวลาท่านเรย์กะเป็นกรรมการห้องพวกเด็กในห้องไม่กล้าหือกันเลย
คิดว่าเป็นเพราะแบบนั้นเอ็นโจก็เลยโยนเรื่องต่างๆมาให้เรื่อยๆละมั้ง
พิมไปพิมมาก็คืดว่า มิตรภาพระหว่างสามคนนี้มันควรจะเบ่งบานตั้งแต่สมัยช่วยคาบุกับท่านยูริเอะแล้วสินะ--- จริงๆตอนนั้นคาบุก็ขอเมลล์ติดต่อเรย์กะ แถมยังคิดจะลากเรย์กะไปช่วยซื้อกระดาษจดหมาย แต่ตอนนั้นท่านเรย์กะก็โกหกเฉไฉไปเรื่อย มาถึงม.ปลาย ข้ออ้างเรื่องไม่มีโทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้แล้ว แถมยังถูกลากไปซูปเปอร์มาร์เก็ต ร้านฟาสต์ฟู้ดอีกต่างหาก สรุปได้ว่า อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดสินะคะ ถึงตอนนั้นท่านเรย์กะหลีกเลี่ยงมาได้ แต่ตอนนี้ก็หนีไม่พ้นอยู๋ดี55555 ไม่รู้จะสงสารท่านเรย์กะดีรึเปล่า
ถ้าตอนเด็กท่านเรย์กะให้เบอร์ไปนี่ อาจจะได้กลายเป็นเบ๊คาบุรากิแทนก็ได้นะครับ
ตอนม.ปลายนี่คาบุรากิปรับปรุงตัวขึ้นหน่อย แต่ช่วงประถมกับม.ต้นนี่ถ้าท่านเรย์กะไปคบด้วยอาจจะได้หัวหงอกมาเพิ่มได้
Ky วันนี้หวยออกป่ะ กูรู้สึกคาใจที่มีคนคอมเมนต์ในแมวดุ้นว่าเจ้าแม่เรย์กะใบ้หวยออก 79 ไม่ก็ 238 จังว่ะ 555555
>>694 กูว่าคาบุรากิทรีตวาคาบะได้ดีอะ ให้ความสำคัญ ดูรู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ เหมือนตอนเรย์กะกับคันตะไปแอบมองคาบุมาคุยเรื่องจะหาตัวคนร้ายก็ยังคุยได้ลื่นไหลเป็นธรรมชาติเลย แถมตอนบอกว่าเพื่อนมาบ้าน คาบุก็ขอตัวกลับไปก่อนให้เขาใช้เวลากับเพื่อนไป ทั้งที่จริงร้อนใจเรื่องเพื่อนคนนั้นจะแย่ แต่ยังเก็บอารมณ์ไว้ได้ กับเรย์กะเอ็งก็หัดเกรงใจแบบนี้บ้างสิว้า จิกหัวใช้เรย์กะเป็นเบ๊อยู่นั่นล่ะ 5555555555
ส่วนเรื่องเอ็นโจแอบชอบเรย์กะตอนไหน กูมโนลงฟิคไปหมดแล้วเลยไม่รู้จะพูดอะไร 55555555555555555
แต่กูเดานะว่าฮีทึ่งที่เรย์กะเสนอวิธีที่มันเข้าท่าอะ ยัยผู้หญิงงี่เง่าที่แอบมองมาซายะก็เสนออะไรที่มันดูฉลาดๆเป็นนี่ แถมยังเอาเรื่องได้ใกล้ชิดกับมาซายะมาเป็นเหยื่อล่อด้วย เพราะคิดว่าเรย์กะแอบมองเพราะชอบมาซายะเลยเอาเรื่องนี้มาพูดเพราะคิดว่าอีกฝั่งต้องกระโดดตะครุบรับข้อเสนอแน่ๆ แต่ผิดคาด.....
เรื่องที่บอกให้รอคือแนวคิดการแก้ปัญหาแบบผู้ชายไง เอาเหตุผลมาเป็นที่ตั้ง อยู่เงียบๆให้เธออารมณ์เย็นลงแล้วค่อยคุยกัน แต่ฝั่งผู้หญิงอาจจะมองว่ามึงเงียบไปแบบนี้คือมึงไม่จริงใจจะง้อกูนี่หว่า วิธีการแก้ปัญหาของเรย์กะก็เป็นวิธีการแก้ปัญหาของผู้หญิง ที่ละเอียดอ่อนต่ออารมณ์กับความรู้สึก ส่งของน่ารักๆไปง้อดูมีความพยายามที่จะง้อ เห็นแล้วยกโทษให้ก็ได้ เอ็นโจนึกไม่ถึงวิธีนี้เพราะมันเป็นผู้ชาย แถมยังเด็กไม่เข้าใจผู้หญิงด้วย พอมันได้ผลเลยประทับใจที่มีวิธีนอกเหนือไปจากวิธีที่ฮีไตร่ตรองด้วยเหตุผลมาแล้วด้วย
แต่จากที่มึงพูดมานี่ กูสงสัยมากว่าบ้านเอ็นโจแม่งเลี้ยงกันมา สอนกันมายังไงวะ เอ็นโจดูมีความคิดจะหลอกใช้ หลอกหาผลประโยชน์จากคนอื่นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยเลย เช่นเรื่องเรย์กะที่ฮีโปรยเหยื่อไว้อ่ะ
>>697 กูไปเช็คมาเมื่อกี้ รางวัลที่ 1 กับเลขท้าย 2 ตัวยังไม่ออก แต่เลขอื่นๆไม่มี 238
นี่พวกมึงเอาเจ้าแม่เรย์กะมาบันดาลหวยเรอะ55555 เจ้าแม่ต้องบันดาลรักสิ อุตส่าห์เสียสละดวงความรักตัวเองให้ประชากรหมู่บ้านคานทองของตนเองมีรักทั้งที(?) แต่วันนี้กุก็วืดเหมือนกันว่ะ5555555555555
โธ่ กรุก็ลุ้นๆว่าวันนี้เจ้าแม่จะบันดาลโชคไหม 55555
นี่ถ้าท่านเรย์กะใบ้หวยได้จริงนี่นะ ถ้าเกิดลองนับมวยผมลอนแล้วจะถูกหวยไหมน้า......
กุว่ายังไม่มีผู้ชายที่โอเคกับเรย์กะโผล่มาเลยว่ะ กุว่าต้องแบบรุ่นพี่โทโมเอะ ไม่ก็คุณอิชิโนคุระอ่ะ โอเคหน่อย ท่านอิมาริก็ทรีตเรย์กะดีนะแต่เจ้าชู้เกิน ท่านเรย์กะตามไม่ทันหรอก คาบุก็เห็นเรย์กะเป็นคนใช้เลย เอนโจก็เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเดาไม่ถูก สรุปคนรักชัวนิรันดร์อย่างคานซังนี่ถูกจริตที่สุดล่ะ5555 นางก็เป็นนักชงนักชิมไป ชีวิตแฮปปี้
>>705 จริงๆกูว่าถ้ามองในมุมผู้ขายที่เหมาะ (ดูตามนิสัย) คันตะกับเรย์กะก็โอเคนะ เป็นคนตรง มีตรรกะคนปกติคอยเบรคเรย์กะตามสมควรได้
คันตะมองเรย์กะตามที่เรย์กะเป็นเรย์กะเลยไม่มีฟิลเตอร์บัง แถมทำอาหารเป็น ขนมได้ งานบ้านก็น่าจะได้ ดูเฮ้วๆแต่ก็รู้สึกว่าเป็นคนมีระเบียบระดับหนึ่งเลย น่าจะทรีตเรย์กะได้แต่ก็เบรคได้ด้วย แถมพอดุแล้วเรย์กะก็ยอมฟัง
เสียแต่อายุน้อยไปหน่อย แล้วก็เรื่องฐานะทางบ้าน แต่คันตะก็ดูขยันขันแข็งน่าจะโตไปเป็นผู้ชายที่ดีเลย
ถึงพูดงั้นแต่กูก็ยังมีความหวังกับเรือจอมมารอยู่นะ แม้พื้นเรือจะมีรอยรั่วนับล้านก็ตาม.......
>>709 วาเลนไทน์มันก็แค่เทศกาลที่บริษัทขนมเอาไว้หลอกขายของให้คู่รักน่ะมึง ส่วนคริสต์มาสก็แค่วันเกิดพระเยซูเท่านั้นเอง ท่องไว้แบบนี้ ชีวิตก็โอเคขึ้นแล้ว
เรือจอมมารกูโกรธอีกอย่างที่ฮีเป็นคนกดรีโมทระเบิดเรือทิ้งด้วยมือตัวเองอะดิ ระบบทำลายตัวเองด้วยความงี่เง่าของเจ้าตัว แต่ก็นะ แบบนี้ก็แปลว่าหึงจนหน้ามืดตามัวลืมเหตุผลอะไรไปหมดแล้ว ทั้งที่ปกติจะใจเย็นเป็นน้ำแท้ๆ
>>713 เฉพาะหน้าตาก็ยังได้อยู่นะ 55555 จริงๆ ท่านแม่ก็คงรู้ถึงความรั่วของลูกสาวตัวเองดี ตอนท่านเรย์กะจะทำกับข้าวไปบ้านเอ็นโจถึงได้เป็นห่วงขนาดนั้น ไม่แน่อาจจะรู้ตั้งแต่ลูกสาวนิสัยเปลี่ยนไปช่วงเข้าประถมแล้วมั้ง ท่านพี่ยังสังเกตเห็นเลยว่าน้องสาวเปลี่ยนไป จากหยิ่งๆ กลายเป็นเด็กโง่แต่น่ารักซะงั้น 55555
พึ่งอ่านตอนล่าสุด กูโคตรหงุดหงิดเอ็นโจ
>>716 มึงต้องรมกาวตัวเองหนักๆแล้วล่ะ กูก็เพลียฮีเหมือนกัน เหมือนฮีจะรู้ตัวว่าเป็นอันดับหนึ่งในcandidateอ่ะ ฮีเลยทั้งเจาะทั้งเผาทั้งระเบิดเรือตัวเองเป็นว่าเล่นเลย กูคงฝากความหวังให้ใครมาดึงเรย์กะออกจากคานซังไม่ได้แล้วใช่มั้ย? .....เอาเหอะถ้าเรย์กะอยู่บนคานแล้วมีท่านพี่คอยเลี้ยงดูกูก็ยังเบาใจ บอกตรงๆตอนนี้กูปลงมากเลย
มีแต่คนว่าเอ็นโจตอนล่าสุด แต่กูกลับชอบแฮะ 555555
กวนบาทดีเอาไปสิบแต้ม คาร์แรคเตอร์น่าสนใจกว่ามาดคุณชายยิ้มๆน่าเบื่อแบบปกติกว่าเยอะเลย 5555555
ขำเรือเอ็นโจว. เจ้าตัวระเบิดเรือแตก เกาะเศษไม้ลอยคอกันเป็นแถว
>>719 กูว่าเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ฮีแสดงอารมณ์ด้านลบออกมาให้เห็นอ่ะ ปกติอีตานี่มันจะควบคุมตัวเองได้ เจออะไรก็ยิ้ม ยิ้ม และยิ้ม ทำตัวเป็น Good Guy Greg(เป็น meme ที่หมายถึงคนดีศรีสังคม) แต่อันนี้แบบ....กูโกรธ กูหึงหวง ดูจากคำพูดคำจาที่ตีรวนชวนทะเลาะตลอดนี่ก็บ่งบอกว่ากำลังโกรธจัดๆใกล้แตะลิมิต พอเจอคำพูดสุดท้ายจากเรย์กะก็สติขาดผึงทันที
>>720 ไอ้เจ้าของเรือมันระเบิดเรือตัวเองซะด้วยสิ ลูกเรือเฟซปาล์มกันเป็นแถว
หลุดกว่านี้ ท่านเรย์กะคงได้น้ำตานองหน้า ขนคิ้วร่วงอีกแหง...
>>723 อือ ตอนอ่านกูยังยิ้มๆนะ คำพูดมึงดูเหวี่ยงๆจังเลยเอ็นโจ ปกติจะทำตัวเป็นวอลเปเปอร์คอยเสริมคอยฟังไม่ใช่เหรอ ครั้งที่ไปกินทีรามิสุในโรมยังแทรกแบบปกติ แล้วก็นั่งฟังไปยิ้มๆ แต่นี่เล่นแทรกตลอด คำพูดคำจาก็กวนตีน หึงอะดิ้ แต่พอเจอประโยคสุดท้ายของฮี จากยิ้มๆอยู่กูแทบจะชูนิ้วกลางให้ อีเอ็นโจ มึ้งงงงง อีชั่ว ตายซะบัดเดี๋ยวนั้นเลยเถอะ 55555555555555
>>725 โอ้ ท่านเทพมารผู้มีพระเนตรพระกรรณที่สอดส่องไปในทุกที่ จอมมารก็เหมือนอยู่บนฝ่ามือ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด
กูก็ชอบตอนล่าสุด ผู้ชายมันต้องมีมุมดาร์กๆหน่อยค่อยดูลึกลับ เร้าใจ 555 เช่นท่านพี่ก็เป็นคนชอบเล่นเพื่อดูปฏิกิริยาคนอื่น เอ็นโจมุมก็คล้ายๆกันอยู่ แต่สองคนนี้มีแนวโน้มยันเหมือนกันเลยน้า~
>>727 ต้องให้โม่งชายมาตอบแล้วว่ะ ว่าผู้ชายเขาคิดกันยังไงบ้างกับคำพูดพวกนี้ แต่กูมองว่าแม่งกำลังหาเรื่องอยู่ชัดๆอะน้า
กริยาในตอนนี้ครบสูตรอาการหึงหวงเลยนะ เริ่มเช็ค เริ่มจับผิด พูดดักคอ ประชดประชัน สุดท้ายก็พังไม่เป็นท่า ถ้าฮีได้สติคืนมาอาจจะกำลังเสียใจอยู่ก็ได้มั้ง มั้งนะ มั้ง
ตอนแปลล่าสุดเอนโจทำเอากูอยากย้ายไปนอนบนเรือคันตะชั่วคราวเลย ถ้าอนาคตคันตะมีบทเยอะๆกูจะดีใจมาก เยียวยากูทีคันตะ ฮือ
ขอ KY มีโม่งบนๆวิเคราะห์ว่าท่านเรย์กะอาจจะชอบเอ็นโจแต่ไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเอง
ตอนที่เลือกของฝาก อายาเมะมียิ้มประหลาดๆ อาจจะเพราะได้สร้างโอกาสให้สองคนนี้อยู่ด้วยกัน? เพราะเดาได้ว่าเรย์กะชอบ?
>>733 ไม่รู้สิ แต่กูว่ากลุ่มเรย์กะก็ยอมถอยไปห่างๆเวลาเอ็นโจหรือคาบุเข้ามาหาเรย์กะอยู่แล้วน่ะ
แต่กระทู้เก่าๆเคยคุยกันทำนองว่าอายาเมะเป็นสายให้เอ็นโจนะ เข้าร้านเดียวกันแบบบังเอิ้ญบังเอิญ ได้จังหวะพอดีด้วย ตอนเที่ยงที่ไปกินข้าวกันแล้วเรย์กะบอกจะซื้อของให้ผู้ชาย ถ้าอายาเมะเป็นสายให้ คงไปส่งข่าวตอนนั้นนั่นล่ะ
เราเป็นคนเรือคาบุ (ที่พร้อมกระโดดเข้าเรือเอ็นโจได้ทุกเมื่อ) นะ แต่ขนาดไม่ใช่เรือหลักเรา พออ่านตอนเมื่อวานก็ยังรู้สึกสลดหดหู่ กรี๊ดร้องตามท่านเรย์กะ อุตส่าห์มาอ่านโม่งต่อเพราะเชื่อมั่นในพลังมโนกาวของลูกเรือเอ็นโจจะทำให้เราใจชื่นขึ้น (เราไม่ใช่เรือเอ็นโจจริงๆนะ) ปรากฎทำไมเรือแตกพอๆกับช่วงว่าที่คู่หมั้นโผล่มาล่ะ... กำลังเขียนฟิคคาบุ แต่มันมีฉากต้องอวยเอ็นโจหน่อยๆ จังหวะนี้คือเขียนอะไรไม่ไหวจริงๆ ทำไมจอมมารไปพูดงั้นนนนนนน orz
>>735 กูว่ามันเป็นปกติของทุกแฟนด้อมนะ เวลาเมนทำตัวแย่ๆ น่าผิดหวัง เหล่าลูกเรือนี่ล่ะที่เป็นคนด่า ตบตีรุมกระทืบเมนตัวเอง เรื่องไหนดีก็ว่าดี เรื่องไหนเชี่ยก็ด่ากันไป ไอ้รักมันก็ยังรักอยู่นั่นล่ะ แต่ก็ด่าด้วย เมนเราก็ไม่ใช่สูงส่งแตะต้องไม่ได้ซักหน่อย ว่ากันไปตามเนื้อผ้า
ก็คิดซะว่าคนเรามันก็ต้องมีด้านดีและด้านเชี่ยอยู่ในตัวเองก็แล้วกัน ยังไงเอ็นโจก็เป็นมนุษย์คนนึง จะให้ดีหมดทุกสิ่งก็ไม่ได้ แปลไทยตอนล่าสุดก็คือหน้ากากเทพบุตรแตก เผยอารมณ์โกรธเกรี้ยว ไม่ใช่ใจเย็นเป็นพระอิฐพระปูนแบบเมื่อก่อน ตอนด่าริรินะกูว่าฮีไม่ได้โกรธนะ แค่มองแบบเย็นชาเฉยๆ แต่อันนี้ดูโกรธเต็มๆ ก็ถือว่าเป็นพัฒนาการของตัวละครไปแล้วกัน
จริงๆถึงกูจะด่าเอ็นโจไปเยอะมากกับความปากร้ายของฮีในตอนล่าสุด แต่เห็นด้วยกับโม่งข้างบนที่บอกว่าคาแรกเตอร์แบบนี้แม่งน่าสนใจกว่ามาดปกติที่เป็นเจ้าชายหน้ายิ้ม คำพูดติดปาก ยังไงกันนะ ของหมอนี่มากๆ ดูความตื่นตัวในโม่งเอาก็ได้ เป็นคาแรกเตอร์ที่เห็นแล้วอารมณ์มันถูก spiked ขึ้นมาแบบนี้
>>735 อืมมมมม ช่วงหลังๆนี่กูสังเกตนะว่ามันจะมีคำพูดที่เป็นคีย์เวิร์ดประจำตอนอยู่น่ะ ถือเป็นธีมของตอนเลยก็ว่าได้ อย่างใต้ต้นซากุระมีศพฝังอยู่ คุยๆเรื่องนี้กันอยู่ดีๆยุยโกะโผล่มาเกาะแขนด้วยท่าทางเหมือนศพใต้ต้นซากุระ เรย์กะนึกถึงเรื่องอดีตชาติที่เอาหนังสือผีไปอ่านแล้วคาบุเป็นผีคุณแมรี่โผล่มาที่ชมรม คอยที่จะได้ช๊อกโกแลตไปเรื่อยๆ ยิ่งคาดหวังยิ่งผิดหวัง ฯลฯ
แปลไทยล่าสุดก็พูดว่าเวลาถูกพูดแทงใจดำทุกคนก็โกรธด้วยกันทั้งนั้น การที่เอ็นโจปรี๊ดแตกด้วยคำว่าน่าเบื่อแล้วถูกทิ้งก็คงแทงใจฮีนั่นล่ะ ถึงได้พ่นคำร้ายๆออกมา เหมือนกำลังกลบเกลื่อนปกป้องตัวเองว่ากูไม่เคยโดนทิ้งโว้ย พวกมึงนั่นล่ะที่เป็นพวกโดนทิ้ง แปลว่าคำพูดเรย์กะมีอิทธิพลกับฮีมากอ่ะ อาจจะกังวล เก็บสะสมมาเรื่อยๆ คิดมากมาตลอดในเรื่องนี้เลยมั้ง พอสะกิดหน่อยก็แผลเปิดเลือดทะลักเลย
>>737 กูก็คิดแบบนั้นนะ คาแรคเตอร์ยิ้มๆเก็บอารมณ์เก่ง ทำเหมือนกูไม่เคยโกรธเคืองในเรื่องใดๆนี่ พอระเบิดแล้วอิมแพครุนแรงทั้งนั้นล่ะ
KY กูอยากรู้ว่าน้องชายท่านอิมาริ โผล่มาในดิบไหม หรือมีแค่ที่ท่านอิมาริพูดถึงตอนนั้นตอนเดียววะ
แปลไทยตอนใหม่มาแล้ววว ขอบคุณนะโม่งแปล
เห็นชื่อมหาลัยซุยรันแล้ว มีลางสังหรว่ามันจะมีภาคมหาลัย ถ้าเป็นงั้นกว่าจะจบกุคงหัวหงอกก่อน
อื้อหือ หลังปะทะคารมกันนี่สงสัยเอ็นโจจะปรี้ดแตกเซไปเหมือนกันแฮะ คะแนนถึงได้ตกลงแต่ก็อยู่ในลำดับต้นๆ(สมองพวกแกทำจากอะไรกันนะ.....) ส่วนเรย์กะนี่พยายามหนักแล้วก็น่าจะได้คะแนนดีอยู่แต่เอ.... ได้คะแนนเลขอัปมงคลแบบนั้นต้องมีเลข4อยู่เหมือนลำดับ4ของเอ็นโจแหงๆเลย แสดงว่าคู่นี้คงไม่แคล้วกันแล้วกระมัง เลขแห่งความโชคร้ายนั้นไม่รู้จะก่อเหตุหนักๆอะไรในปีนี้(ม.6)ก็ไม่รู้ ของเรย์กะน่าจะเป็นงานหมั้นที่ไม่รู้จะมีหรือเปล่า กับของเอ็นโจที่น่าจะเป็นเรื่องคุณคู่หมั้นตามหลอกหลอนนะ
เย้ เอ็นโจวมีหวั่นไหวแระ เรื่องไรก็ไม่รุ้. กาวว่าเป็นเรื่องเรยกะไปก่อน. กู้ซากเรือ ฮึบๆ
ขอบใจโม่งแปลน้า
>>742 เท่าที่เห็นมาจากหลายตอนช่วงนี้... กูว่าวิธีอ่านหนังสือสอบของท่านเรย์กะนี่โคตรจะไม่บังเกิดผลใดๆ เลยว่ะ ฟุ้งซ่านหนักมาก ตอนจะอ่านหนังสือก็ติดใจออยล์ของท่านอิมาริแล้วไปรดน้ำกุหลาบ คิดเรื่องปลูกสมุนไพร ทำการ์ดคำศัพท์ก็จะเอาแบบสวยๆ มีไฮไลท์ แถมตอนล่าสุดนี่ยังเพ้อไปยาวๆ เป็นชั่วโมงแล้วมาอดนอนอ่านล่กๆ จะไม่ติดอันดับก็ไม่แปลกอ่ะนะ
ส่วนเอ็นโจคงเป๋ จนไม่อยากอ่านหนังสือ หรืออ่านไม่เข้าหัว
แต่ที่แน่ๆ ท่านเรย์กะ เพ้อฝันแล้วนะคะท่าน...
เป็นทนายนี่ต้องท่องหนังสือหนักมาก ไหวแน่นะคะ
ท่านเรย์กะเอาไอเดียบรรเจิดตอนทำอาหารมาคิดทำผลิตภัณฑ์ใหม่สินะ
ดูทรงแล้วคู่ชีวิตม่านเรย์กะต้องเป็นคนที่หยุดความคิดฟุ้งซ่านของท่านเรย์กะได้ ไม่งั้นออกทะเลหมด
จู่ๆก็รู้สึกว่าในบรรดาตัวเก็งพระเอก คนที่จะรับกับนิสัยชอบส่งเสียงแปลกๆของท่านเรย์กะและจัดการกับมันได้มีแค่เอ็นโจยังไงก็ไม่รู้แฮะ
>>745 ท่องไม่พอยังต้องเรียกใช้ตีความให้เข้าข้างตัวเองให้ได้อีกด้วย มาตราไหนพอจะเป็นประโยชน์นี่ยิ่งต้องจำให้ได้ทุกตัวอักษรด้วยซ้ำ อยู่หน้าบัลลังค์นี่อย่าหวังเลยว่าจะได้ไปเปิดหนังสือดู ท่านจะด่าเข้าให้
มันไม่ใช่อะไรที่คนซื่อ ๆ เอ๋อ ๆ อย่างท่านเรย์กะจะทำได้หรอกนะเจ้าคะ
- จากใจโม่งทนาย
ทำไมตั้งแต่ขึ้นมอปลายมากูรู้สึกว่านางมโนเพ้อกาวมากขึ้นกว่าเดิมอีกวะ หรือเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องตระกูลล่มสลายแล้ว? 555
เสียงหัวเราะโคตรเอกลักษณ์
อนิเมยากไปขอดราม่าซีดีก็ยังดี 5555
อยากอ่านมุมมองท่านพี่อีกจัง 5555
ท่านเรกะตอนกลางวันท่ามกลางเพื่อนฝูง : อุโฮะโฮะโฮะ
ท่านเรกะตอนกลางคืนอยู่ในห้องเพียงลำพัง : อุเฮี้ยวเฮี้ยวเฮี้ยวเฮี้ยว~
ท่านพี่ทาคาเทรุ : เรกะดึกแล้วนอนได้แล้ว//เคาะห้องแล้วจากไปคิดในใจ นี่มันหลอนนะยัยน้องสาว
อ้อ ลืม เห็นเอ็นโจอันดับร่วง แล้วคิดถึงฟิคกาลครั้งหนึ่งในฝันจังเลยค่ะโม่งฟิค.....
กุว่าที่เอ็นโจคะแนนตกนี่น่าจะเพราะยัยยุยโกะอ่ะ กลับบ้านไปก็ต้องเจอยัยนั่นตลอด ต้องคอยตามใจ เอาอกเอาใจไรงี้ เลยไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ไม่ก็เครียดเรื่องนี้ จนอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง รึป่าว??
โอ้ มีคะแนนตก หล่นไปอยู่ที่ 4 ด้วยวึ้ย ตัวเลขอัปมงคลนี่หว่า ที่พูดม้าๆใส่เขาไปคราวนั้นคงเป๋ไปเลยสิท่า
กูว่าไม่น่าจะใช่เรื่องยุยโกะนะ เพราะก่อนหน้านี้นางน่าจะเกาะติดหนึบกับชูมาพอสมควร ก็ยังเห็นฮีชิลๆ สอบได้ที่สองตลอด แต่พอทะเลาะกันกับเรย์กะก็ร่วงเลย แถมยิ้มฝืดๆด้วย มาขอโทษซร้าาาาา
ว่าแต่ท่านฟุยุโกะแม่ง...โดนลัทธิอะไรล้างสมองแบบนี้ถ้าไม่ได้ท่านเรย์กะ กูว่าต้องเอาเงินไปประเคนให้ลัทธิหมดแหงๆ
ที่ผ่านมาเอ็นโจตั้งใจให้อันดับตัวเองตํ่ากว่าคาบุรากิป่ะวะ อะไรจะที่ 2 รองคาบุตลอด นางอาจจะรำคาญความช่างตื๊อหรือครอบครัวนางสั่งมาไม่ให้เกินหน้าเกินตาคาบุ? กุว่านางจะทำให้ตัวเองได้ที่ 1 คงทำได้สบายๆ
เอ็นโจอาจจะคิดหนัก ตั้งใจจะทำให้กระต่ายเชื่อง เผลอพูดข่ม+ขู่ไปนิดเดียว ความไว้ใจลดระดับอีกแล้ว กลับบ้านไปก็คิดหนักว่าพลาดแล้ว ต้องหาแผนใหม่ ไม่เป็นอันสอบ5555555
แต่ตอนนี้กุหงุดหงิดท่านเรย์กะจริงจัง ความคิดเพ้อฝันนางหนักมาก กลัวจะเอาเงินเก็บตัวเองไปทิ้งเล่นเปล่า อยากหยิกเรียกสติ จับมาอบรมเหมือนคันตะ ฮึ่มมมม
(สปอยล์รึเปล่า?)
.
.
.
.
.
.
เอ้อ แต่คนเขียนคงตั้งใจให้เรย์กะคะแนนดิ่งแหละ เคยเห็นคนในโม่งป่อยว่าคาบุจะจับนางไปติวนส.ใช่ป่าวหว่า
.
.
.
.
.
>>748 ได้ๆๆๆ เห็นแบบนี้กูก็พออภัยให้ฮีได้มั่ง ปากไม่ดีเองแล้วก็มาเสียใจเองทีหลัง ทะเลาะกับเรย์กะจนเก็บไปคิดมากใช่มั้ย อันดับตกจากที่ไม่เคยแปลว่าเรื่องนี้รบกวนจิตใจมากเลยสินะ
ว่าแต่ผลิตภัณฑ์ของเรย์กะจะขายออกเหรอวะ กูอ่านแล้วได้กลิ่นคาวปลาลอยคลุ้งเลย รสนิยมพิลึกชิบหาย คนเราต้องไอเดียบรรเจิดขนาดไหนถึงจะเอาปลาสลิดมาทำครีมนวดน่ะ แล้วยังเชนเมลอีก ไม่ใช่อัศวินยุคกลางนะเหวย ที่จะใส่เชนเมลเดินไปเดินมาอะ
ลองหาดูในกูเกิ้ล เชนเมลเอามาทำเสื้อผ้าแฟชั่นมันก็มีนะ แต่ด้วยรสนิยมเรย์กะกูว่านางต้องคงความเป็นเชนเมลดั้งเดิมในยุคกลางไว้แน่ๆ
เปิดอ่านตอนล่าสุดเวลานั่งรอธนาคารเรียกคิวจ่ายบิล อ่านจบต้องเดินเข้าสเวนเซ่นเลย จำไว้เลยโม่งแปล ตอนอ่านไม่มีอาการใด ๆ แต่รูปท้ายตอนทำร้ายกูฉิบหาย
ทำไมพวกมึงชอบมองเอ็นโจเป็นนักวางแผน เห็นเอ็นโจวางกับดัก ล่อลวงท่านเรย์กะตลอด 5555
กูว่าเอ็นโจนี่ไก่อ่อนเลยนะ พวกมึงดูผลลัพธ์สิ อย่าประเมินฮีสูงไป แอบชอบสาวเจ้ามาตั้งนาน จะคุยกันดีๆยังไม่ได้เลย ไม่ทำเขาโกรธก็ทำเขากระอักกระอ่วนเดินหนีไปทุกที เรื่องความรักนี่สู้มาซายะยังไม่ได้ ไม่มีหน้าไปแนะนำเขาด้วยซ้ำเหอะ 55
เพราะสภาพแวดล้อมไม่ต้องดิ้นรนด้วย แต่ไหนแต่ไรมีแต่คนเข้าหา ถ้าคิดจะมีความรัก แค่เลือกมาสักคนแล้วตอบตกลงไปก็ได้แล้ว เคยต้องพยายามที่ไหน พอจะชอบใครสักที ดันไม่ง่ายเหมือนคนอื่นๆ ไม่ใช่ว่าเริ่มต้นที่ 0 นะ จากอาการหนีหน้ารังเกียจ นี่เรียกเริ่มที่ติดลบ เปิดมาก็ยากแล้ว คุณชายเอ็นโจเคยพบสภาวะมืดแปดด้านอย่างนี้ที่ไหนล่ะ ได้แต่จนใจทำอะไรไม่ได้
กูว่าเอ็นโจอิจฉาคาบุรากิ ที่บอกว่าไม่เคยชวนใครก่อน ไม่เคยถูกทิ้งเนี่ย ลึกๆเหมือนเวทนาตัวเองอยู่เหมือนกันนะ เพราะที่พูดเนี่ย แปลว่าไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะทำอะไรด้วยซ้ำ ได้แต่ค้างอยู่ตรงความกล้าๆกลัวๆ ห่วงพะวง ไม่กล้ามุ่งไปข้างหน้าโดยไม่หลือทางถอยไว้ให้ตัวเอง ทำอะไรก็พะวักพะวน คิดถึงผลกระทบ จุดนี้เทียบกับมาซายะแล้วยังห่างกันหลายชั้น! หมอนั่นน่ะน่าอิจฉา ชอบก็บอกว่าชอบ กล้าที่จะพุ่งไปข้างหน้า พุ่งเข้าไปทุ่มสุดตัว สุดท้ายแล้วไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมายังไงก็ได้รับรู้แล้ว
และเหตุผลสำคัญคือ เอ็นโจกลัวการถูกปฏิเสธ คนที่กล้าสารภาพทั้งๆที่มีความเสี่ยงน่ะมีแต่มาซายะเท่านั้นแหละ ถ้าถูกปฏิเสธล่ะก็สู้ไม่เคยพูดออกไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ? กูรู้สึกว่าฮีเป็นประเภทนี้ ประเภทมีสติ แต่สติเนี่ยในด้านความรักแล้วไม่ได้ให้ผลดีอะไร ถ้าไม่รู้สึกมั่นใจในผลตอบรับก็จะไม่พูดออกมา แต่สถานการณ์ของเอ็นโจไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางรับประกันผลสำเร็จได้เลย พอยิ่งไม่แน่ใจก็ยิ่งไม่กล้าเข้าหา ไม่ได้เข้าหาก็ยิ่งไม่มีอะไรคืบหน้า ติดอยู่ตรงนั้นแหละ
ที่มองเป็นลูกบ้านคาสโนว่านี่ก็ด้วย โถๆๆ ริเทียบท่านอิมาริยังห่างไกล ท่านอิมาริแพรวพราวหยอกล้อมีฝีมือกว่านี้เยอะ ไม่มีอาการทำอะไรไม่ถูก ไปต่อไม่ได้อย่างเอ็นโจหรอก ตานี่พออะไรหน่อยก็หลบหน้าไปทำใจพักใหญ่ ยอมแพ้เป็นพักๆ ใจไม่สู้เล้ยยย อย่าไปเชื่อหน้ายิ้มๆ เขา กูว่าเอ็นโจเหมือนติดรักษารอยยิ้มไว้บนใบหน้า จะเสียใจดีใจเฉยๆก็ยิ้มอยู่ตลอด บางครั้งข้างในก็เลือดโชกเหมือนกันนะ
//เอ้าซู๊ดดดดด แรงมโนทั้งหมดตั้งอยู่บนเงื่อนไขว่าหมอนี่ชอบท่านเรย์กะหรอกนะ ถ้าความจริงไม่ใช่แบบนี้ทั้งหมดก็ปิ๋ว 5555
ที่จริงกูเรือคาบุรากิ จำเป็นต้องมาช่วยพูดให้เอ็นโจขนาดนี้มั้ย โถววว แต่ตานี่น่าเอาใจช่วยอ่ะนะ ถึงหลายๆครั้งจะหมั่นไส้ก็เถอะ แต่ทางคาบุรากิไม่มีอะไรน่าลุ้นเท่าไหร่ ด้วยความรักปักใจ ยังไงคงไม่เบี่ยงศรง่ายๆ และถ้าเปลี่ยนเป้าหมายจริง ถ้างั้นใครก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมอนี่แล้ว ถ้าคาบุรากิชอบเรย์กะ กูให้โอกาสสำเร็จ 99% เลย
>>772 การตีความของมึงเมากาวดีมากกกกก กูชอบ สนใจจะย้ายเรือมั้ย 555555 จริงๆ กูก็คิดอย่างมึงเหมือนกันนะ อย่างเอ็นโจนี่เรียกมวยแย็บ หยอกๆ ตอดๆ แล้วชิ่งดูท่าทีเป็นคราวๆ ไป พอดีว่าอีกฝ่ายเป็นท่านเรย์กะซึ่งการ์ดหนักมากก็เลยไม่มีโอกาสเข้าคลุกวงในซักที ส่วนคาบุนี่เรียกมวยฮุคป่ะ ชอบใครแล้วกะพุ่งไป KO ลูกเดียว การ์ดตกตลอด พอเขาไม่ชอบกลับเลยเจ็บหนักตลอด ส่วนเอ็นโจนี่เพลย์เซฟ ไม่เจ็บหนัก แต่ปวดลึกๆ แบบหนองในตลอด 55555
>>772 ถ้ามองแบบนี้ก็พ่ออธิบายพฤติกรรมหมาหยอกไก่ของเอ็นโจได้อยู่นะ
คิดว่าตอนก่อนที่พูดแรงๆใส่ท่านเรย์กะเนี่ย ข้างในใจเอ็นโจก็น่าจะโดนดาเมจจนเจ็บหนักแล้วเหมือนกัน
>>773 คาบุนอกจากจะพุ่งเข้าไปคลุกวงในแล้ว ยังรัวหมัดต่อยโดยไม่สนการ์ดคู่ต่อสู้ด้วย ต่อยไปเรื่อยๆจนกว่าการ์ดจะแตก เผอิญไม่ค่อยมีใครกล้าโจมตีส่วนหมอนี่ไง พอโดนท่านเรย์กะปล่อยหมัดเคาเตอร์เข้าเป้าตรงๆเน้นๆทีถึงกับช็อคไปเลย
>>772 กูเคยพูดไว้บนๆอ่ะ ว่าถ้าคาบุมันหันมาจีบเรย์กะตรงๆ เอ็นโจมันจะเอาอะไรไปสู้ มองไม่เห็นทางชนะเลยนะ ภาพลักษณ์ต่ำเตี้ยชิบหาย จะเข้าหาเขาก็ไม่แล โนสนโนแคร์ ขนาดมีน้องเข้าช่วยยังเป็นได้แค่คนเคยเห็นหน้า โอ๊ย อนาถ 5555555555555
กูเห็นด้วยกับคำพูดมึงหมดเลย กูว่าอีตานี่มันเป็นพวกคิดมากด้วยนะ คือคงมโนอะไรไปเรื่อยอะ แล้วเรื่องที่มโนก็คงมีแต่เรื่องในแง่ร้ายบั่นทอนกำลังใจตัวเองไป สุดท้ายก็กลัวว่าตัวเองจะเจ็บปวดผิดหวัง แล้วก็หนีไปแบบขี้ขลาด ไม่กล้าสู้ ไม่กล้าทำอะไรซักอย่าง แล้วพอรวบรวมความกล้ามาได้เป็นพักๆ กลับโดนตีแตกกระเจิงยิ่งหมดอาลัยตายอยากไม่กล้าทำอะไร ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
>>772 อา ขอบอกว่าทุกวันนี้ที่ลงเรือเอ็นโจอยู่เพราะฮีเป็นคนเดียวที่มีท่าทีแสดงออกว่าชอบเรย์กะจริงๆ (แม้จะโคตรอมพะนำเลยก็เหอะ) คนอื่นๆ นี่ถึงเคมีจะดีขนาดไหนก็มองเห็นท่านเรย์กะกูเป็นเสธ. เป็นเพื่อนพี่สาว เหมือนหมาที่เลี้ยงไว้ ฯลฯ ส่วนท่านอิมาริถึงจะรุกแค่ไหนแต่ถือว่ามีท่านพี่เป็นตัวจริงอยู่แล้ว กูไม่นับ แต่ถ้าเกิดคดีพลิก คาบุมันเกิดเปลี่ยนใจจากวาคาบะมาจีบท่านเรย์กะ กูก็ไม่แน่ใจว่าจะทิ้งเรือจอมมารไก่อ่อนเหมือนกันนะ 555555 ขอโทษนะ เอ็นโจ แต่นายไม่รีบเคลียร์ตัวเองซะทีนี่นา
แต่กูนึกออกละ เหตุผลสำคัญที่กูยังเชียร์ฮีคือ กูเป็นพวกชอบเชียร์มวยรอง กูชอบเห็นตัวละครห่วยๆมีพัฒนาการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีได้ ซึ่งกูรออยู่ อย่าให้กูรอเก้อนะเอ็นโจ ขออะไรดีๆให้กูชื่นใจหน่อย
>>773 มึงอย่าล่อลวงกู 5555 เอ่อ... ถ้ายังไงฝากชิ้นส่วนไปไว้บนเรือสักชิ้น เอาขาขวากูไปนะ---
ถ้าเปรียบเป็นมวย คาบุรากิแพ้น็อค KO มาจากการไปท้าชิงท่านยูริเอะ เจ็บหนักนอนเตียงหยอดข้าวต้มพักใหญ่แล้วสวมนวมมาลุยท้าวาคาบะจังชกต่อ ฮุกรัวมาก อีกสักพักแพ้ชนะยังไงคงได้เห็นผล
ขณะเดียวกันเอ็นโจนี่แม่งวิ่งหนีลงมาจากเวที เกาะขอบชะเง้อชะแง้มองเล็งอยู่นาน ถึงขึ้นไปแย๊บสักหมัด เจอการ์ดหนักต่อยไม่เข้าแม่งวิ่งลงไปอีกละ ท่านเรย์กะกูไม่คิดว่าแม่งมาชกด้วยด้วยซ้ำ ไอ้สัด ชกไม่เป็นสังเวียน จีบแบบเขาไม่รู้ที่ไร้ค่ามากนะ เกาะเวทีต่อไป ท่านเรย์กะก็ยืนถอนหายใจเฮือกๆอยู่บนเวทีทองคำ บ่นว่าไม่มีใครมาชกด้วยเลยน้า~ อยากแพ้บ้างแล้วอ่ะ แต่เป็นเวทีทองคำเลยไม่มีใครอาจเอื้อมขึ้นมา ไอ้ที่ขึ้นมาได้คนนึงก็เกาะอยู่ข้างล่าง อีกคนก็ชกอยู่เวทีข้างๆ แถมมันยังมีหน้าหันมาตะโกนสั่งให้ช่วยแนะวิธีชกชนะวาคาบะให้มันอีกนะ
>>774 นี่กูช่วยต่อกาวให้โม่งฟิคโดยเฉพาะ เดี๋ยวไม่มีอะไรอ่าน เห็นหมดกำลังใจแต่งกัน 5555 บ้องนี้ดีสูดแล้วคุณชายแกน่าสงสารมากนะ ถถถถ
>>775 ใช่มั้ยยย กูว่าคาบุรากิเนี่ยสายที่เรย์กะแพ้ทาง! ถ้ามันจีบเจ้าแม่ ลองเจอทั้งลูกตื้อลูกอ้อน ทั้งปล่อยดาเมจเป็นพักๆ ท่านเรย์กะเป็นพวกใจอ่อน ไม่นานได้ยอมแพ้แหงๆ ขนาดไม่จีบบางทีเจอมันทำอะไรหล่อๆ ยังมีโดขิโดขิเลย แถมเป็นพวกโรแมนติกเว่อร์วัง ไปเจอความมโนเพ้อพกของท่านเรย์กะนี่โคตรเข้ากัน ไปกันได้ ที่จริงอย่างคาบุรากิ สไตล์การจีบจริงใจทุ่มเท จีบใครก็น่าจะติด ยกเว้นเจอสายแข็งจริงๆ ที่ไม่มีใจให้เลย ซึ่งท่านยูริเอะดันเป็นจำพวกนี้ 555 วาคาบะเองก็เป็นสายสตรองเช่นกัน แต่กูว่ารายนี้มีใจ ยังไงคงไม่นก
หันมามองเอ็นโจ พอวิเคราะห์แล้วสงสาร สู้เพื่อนไม่ได้จริงๆ คิดมาก ไม่กล้าทุ่ม มองโลกในแง่ร้าย ไม่กล้า ด้วยบุคลิกแบบนี้ นอกจากว่าผู้หญิงจะเป็นฝ่ายทอดสะพาน ไม่งั้นก็คว้าอะไรไว้ไม่ได้เลย
>>776 เดี๋ยวนะ มึงอย่าเพิ่งทิ้งเรือ 555 แต่จะว่าไปที่ว่าเอ็นโจชอบเรย์กะจริงๆเนี่ยมันก็กึ่งกาวอยู่เหมือนกันนะ ในเรื่องมีแต่เงาเลือนๆไม่ชัดเจน คนขี้ขลาด อย่างน้อยสถานะนายไม่น่าจะแย่ไปกว่านี้ได้แล้ว แสดงออกให้มันชัดเจนหน่อยสิ! ชอบไม่ชอบก็บอกมาาาา ฮีเก็บอารมณ์เก่งเกินไป ไม่มีอาการของคนแอบรักเลย เรานักอ่านเดาๆกันว่าน่าจะชอบ แต่ก็ได้แค่คาดเดา ที่จริงถ้าชัดเจนสักหน่อยกูคงย้ายร่างหลักไปขึ้นเรือแล้ว หรือมีวะ..? มองเขาอยู่ตลอดไรงี้ แต่หลายๆอย่างก็ดูไม่ใช่อ่ะ อย่างหายหัวตลอด ตอนที่เกิดเหตุการณ์สำคัญๆก็ไม่ยอมโผล่มา เอาแต่อยู่เบื้องหลัง กูว่าไม่เหมือนคนแอบรัก แม่งเหมือนนินจาที่แฝงตัวมาสนับสนุนเจ้านาย ที่จริงแล้วเป็นคนที่ทานุกิเพาะเลี้ยงไว้ช่วยเรย์ก----- พอๆ
เอาจริงๆนะ ต่อให้เป็นตัวประกอบแค่ไหน ใครช่วยมาหน้าแดงใส่ท่านเรย์กะสักครั้งเถอะ กูมั่นใจว่าแฟนอวยไม่น้อยพร้อมใจย้ายเรือทันที 555
>>779 เรื่องนี่ดำเนินเรื่องผ่านมุมมองท่านเรย์กะด้วยแหละ เอ็นโจถ้ารุกก็เอาแต่รุกเบาๆแล้วถอย พอเป็นการกระทำของเอ็นโจท่านเรย์กะจะตั้งการ์ดสูงกว่าคาบุรากิซะอีก เอ็นโจแย็บใส่ดาเมจ10 ติดการ์สูงท่านเรย์กะดาเมจเหลือแค่1 เจ้าตัวเลยไม่รู่ตัว
พอเป็นคนอื่น ท่านเรย์กะไม่ตั้งการ์ด เค้าตีมา10 ท่านเรย์กะโดนคริติคอลดาเมจทีเป็น100
>>780 กูได้แต่โทษการกระทำหลอกใช้เมื่อวัยเด็กใช้มั้ย TT ท่านเอ็นโจถึงเจอการ์ดสูงขนาดนี้ หนึ่งหมัดกลางพุงนั่นได้แค่ระบายแค้น แต่ทิ้งรอยระแวงไว้สิบปี หรือเพราะเหตุ้ปัจจุบันเขาเลยต้องคิดมากๆวะ แต่ล่าสุดกูว่าพลาดอีกแล้ว ท่านเรย์กะสาปในใจแล้วตัดบทไม่บรรยายต่อ แต่ในความเป็นจริงนี่มีชะงักกึกขมวดคิ้วชักสีหน้าใส่แน่เลย หลังจากนั้นก็เดดแอร์
เอ็นโจพลาดแล้ว กลับไปได้แต่ซึม คิดมากต่อ พูดอะไรไปเนี่ย นอกจากไม่ทำให้อะไรดีขึ้นแล้วยังอาจถูกเข้าใจผิดอีก เผลอๆจะถูกเกลียดรึเปล่าไม่รู้ จ๋อยไปอีก วันต่อมาทำข้อสอบฟอร์มตกเลย //ย่อหน้านี้กาว 55
>>780 ตอนเอ็นโจพยายามแย็บใส่ท่านเรย์กะ การ์ดท่านเรย์กะทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพเชียวนะมึง แต่พอไม่ได้โจมตีดันทะลุเกราะเฉยเลยมึง(ตอนใส่ชุดคาร์ดิแกนเดินนำ) กูนี่อยากให้ฮีทำตัวเท่ๆแล้วหุบปากโดยเฉพาะคำว่า'บุญคุณ'กับท่านเรย์กะจริงนะมึง ตอนช่วยเลือกของให้ท่านอิมารินี่ท่านเรย์กะเกือบจะให้คะแนนฮี500แล้วนะ แต่พอฮีพูดคำว่า'บุญคุณ'คะแนนติดลบ1000เลยมึง กูล่ะอยากเกิดเป็นยูกิโนะคอยตบกบาลฮีแล้วพูดว่า "ท่านพี่ท่านมันไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ดั่งใจเลยจริงๆ!!!"
>>782 พออ่านฟิคที่เอ็นโจคิมิดอลกลับชาติมาเกิดเป็นยูกิโนะแล้วในทุกวันนี้หัวกูติดฟิลเตอร์ เห็นเอ็นโจเป็นโนบิตะ ยูกิโนะเป็นโดเรมอน พอกลับมาถึงบ้านเอ็นโจก็โผเข้าหา "ยูกิโนะ วันนี้คุณคิโชวอินก็เดินหนีผมอีกแล้วล่ะ ทำอะไรซักอย่างซี่~~~" ยูกิโนะถอนใจเบื่อๆ "ช่วยไม่ได้ แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะ" แล้ววันรุ่งขึ้นก็ไปยิ้มเทวดาใส่คุณพี่เรย์กะ อยากให้คุณพี่มาเที่ยวบ้านจังฮะ จบไปเป็นตอนๆ ถถถถถถถ
>>782 เห็นด้วย บางทีก็เบื่อนิสัยของเฮียแกที่ชอบอ้างบุญคุณเหมือนกัน อย่างตอนที่ไปช่วยเลือกของเงี้ยะ คือเรย์กะไม่ได้ขอให้ช่วยไง เสนอตัวช่วยเองแล้วดันมาพูดแบบนี้ เป็นกูกูก็ไม่อยากยุ่งนะกับคนประเภทนี้ แต่กูอยู่เรือเอ็นโจนะ หวังว่าเฮียแกคงจะมีพัฒนาการดีขึ้น จำความผิดพลาดครั้งนี้เป็นบทเรียนซะนะซูซุมอยคลุง
>>778 โครตขี้ขลาดเลยองค์ชายกู มีทุกอย่างแต่เสือกปอดแหกไม่กล้า ได้แต่ชะเง้อคอมอง พอรวบรวมความกล้าได้หน่อยดันโดนต่อยหน้าแหกกลับมาจนกลับไปปอดแหกอีกรอบ ตาย เกิด วนเวียนแบบนี้อยู่ร่ำไป จีบหญิงก็ไม่เป็น แถมทำตัวเองติดลบจนไม่รู้จะลบยังไงละ
กูไม่เคยคิดย้ายเรือนะ แม้ฮีจะอนาถแค่ไหน แต่กูจะเข็นไปให้สุดทางเอง ถ้าอฟช.ล่มเรือกูก็พร้อมจมไปด้วย กูเขียนๆฟิคให้เพราะกูรักเขานะเนี่ย รักมาก อยากให้ได้ดีมีสุขซักที ประมาณแม่อยากเห็นลูกเติบโตมีอนาคตสดใสอ่ะ 5555555555555555555
ท่านเรย์กะกูไม่ค่อยห่วงหรอก เพราะกูรู้ว่าตอนจบยังไงนางก็คงได้พบคนที่ใช่ แต่เอ็นโจนี่สิ เหลียวมามองกูล่ะอนาถใจชิบหาย เรื่องบุญคุณก็ช่วยหุบปากมั่งเหอะ รู้ว่าสาวเขาไม่ชอบก็เสือกย้ำจัง ไม่มีอะไรจะพูดรึไง คาบุยังเทคแคร์วาคาบะได้ดีเลย คิดหาแผนเดทไปนั่นไปนี่ให้เขาชอบ ชวนคุยเรื่องที่เขาสนใจ นัดเดทครั้งต่อไปด้วยตัวเองแบบไม่ต้องให้ใครมาบอกสอน แต่องค์ชายกู เฮ้อ ขอตบกบาลทีได้มั้ย เผื่อจะหายโง่ เรื่องอื่นล่ะฉลาดจัง เรื่องนี้เสือกคิดไม่ได้ งี่เง่าจริงๆชูสุมอย
ky เข้า pixiv เจอแฟนอาร์ตปกคิมิดอล https://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=64138285
นั่นมันอาริมะผู้ไร้บท จ แจ่มชะมัดเลยคร่ะ //กระอักเลือด
>>786 ปกโคตรสไตล์บงกช การ์ตูนสาวน้อยจริงๆ 555 แต่ลายเส้นยังไม่ใช่เว้ย ลายเส้นน่ะมันต้องอย่างนี้!
https://touch.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=60733934&ref=touch_manga_button
สำหรับกู ท่านเรย์กะเวลาชมคนอื่นก็ไม่ได้ตั้งการ์ดเท่าไหร่ อาจติดกาวปนไปด้วยซ้ำ(ท่านพี่ ท่านอิมาริ ท่านไอระ ท่านยูริเอะ ฯลฯ)
แต่พอตัวละครหลักอย่าง คาบุ เอ็นโจ ตัวสำรอง แต่คุณดิสเครดิตตั้งแต่เห็นเลยเถอะ เห้ออออ
งั้นกูว่าปล่อยให้วาคาบะเป็นคนดีต่อไปเหอะมึง อย่างน้อยๆเรื่องนี้จะได้มีอะไรให้กูรู้สึกอบอุ่นใจบ้าง
จริงวาคาบะนี้คนฮีลใจกูเลยนะ
>>801 อาจจะไปแอบป้อคันตะโดยไม่รู้ตัวตอนยังเด็กก็เป็นได้
ว่าแต่เพื่อนโม่ง กูเป็นสายโชเน็นอ่ะ อิมเมจสาวๆ ในเรื่องเลยแตกต่างจากพวกมึง(ค่อนข้างมาก)นิดหน่อย
เอาง่ายๆ ก็เรย์กะ, วาคาบะ, ยุยโกะกูตั้งใว้ประมาณนี้
ปล. ฟิกยุยโกะกะท่านพี่ยิ่งเขียนชียิ่งวิกลจริต.......ขอโละไปเป็นมุมมองท่านพี่แทนละกันนะ
http://imgur.com/2FRXpwg http://imgur.com/4LveaeD http://imgur.com/lnJCSMV
ฟิคน่ะ เขียนเสร็จแล้วก็ต้องลงสิจ๊ะ
เอ็นโจเลี้ยงต้อย >>>/webnovel/4018/345-347
---------------------------
หลังจากเก็บตัวอยู่ในห้องจนถึงบ่ายสาม ผมเดินโซเซลงมาข้างล่างเพื่อหาน้ำดื่ม มาซายะนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เตาผิงเหมือนเดิม เลิกคิ้วเมื่อเห็นผม
“เป็นหวัดเหรอ” เขาถาม “ไปหาหมออีกมั้ย”
“ไม่เป็นไรหรอก” ผมก้มมองหนังสือในมือมาซายะ “ดร.เจเคิลกับมิสเตอร์ไฮด์อีกแล้วเหรอ”
“เปล่า เรื่องนั้นอ่านจบแล้ว” มาซายะชูหนังสือให้ดู คราวนี้คือ Metamorphosis ของคาฟกา
เรื่องที่กล่าวถึงชายคนหนึ่งที่เป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัว วันหนึ่งตื่นมาก็พบว่าตนเองกลายเป็นแมลงน่ารังเกียจ ท่าทีของครอบครัวที่เคยรักเขานักหนาก็เปลี่ยนไปเพราะไม่สามารถทำประโยชน์ให้ได้อีกต่อไปแล้ว
มาซายะวางหนังสือลงแล้วล้วงเข้าไปในอกเสื้อ หยิบกระดาษแข็งๆออกมาสองแผ่น ยื่นให้ผม
“เมื่อคืนเห็นบอกว่าอยากดูละครเวที ฉันก็เลยให้คนไปจองตั๋วมาให้” เขาพ่นลมหายใจ “ทีหลังจะดูก็บอกกันก่อนล่วงหน้าสิ มันฉุกละหุกแบบนี้เกือบหาที่นั่งไม่ได้แล้วนะ”
“ขอโทษด้วยนะ” ผมรับตั๋วมาดู ชื่อของละครเวทีคือ ดร.เจเคิลกับมิสเตอร์ไฮด์
ชูสุเกะในโลกกระจก เขาคิดจะทำอะไร
เขาปรากฎตัวต่อหน้ามาซายะ แสดงละครเป็นผมได้แนบเนียนอย่างที่มาซายะก็ยังไม่รู้ถึงความแตกต่าง แล้วเรื่องที่คุยก็คือเรื่องนี้อีก
“ถ้ายังปวดหัวอยู่ เอาไว้มาคราวหน้าค่อยดูก็ได้” มาซายะแตะบ่าผมที่กำลังก้มมองรายละเอียดบนตั๋ว
“ไม่” ผมส่ายหน้า “ไปดูกันเถอะ”
มาซายะมองผมแบบเคลือบแคลง ผมก็ได้แต่ยิ้มตอบกลับไป ทั้งที่ในใจยังวิตกกังวลถึงจุดประสงค์ของชูสุเกะคนนั้น
ผมจะต้องไปดูให้รู้ ว่าเขาต้องการอะไร มีจุดประสงค์อะไร คิดจะทำอะไรต่อไปกันแน่
.
.
.
.
ละครเวทีเริ่มขึ้นตอนหนึ่งทุ่ม ผมกับมาซายะนั่งอยู่ที่ชั้นบ็อกซ์ นั่งชมการแสดงไปแบบเงียบๆ จนมาถึงฉากสำคัญของเรื่อง ฉากที่ดร.เจเคิลดื่มยาที่ปรุงเอง จนมิสเตอร์ไฮด์ออกมาได้ในที่สุด ไปจนถึงฉากการเผชิญหน้ากับมิสเตอร์ไฮด์ เป็นตัวตนที่เขาไม่ยอมรับ
นักแสดงชายร้องเพลงสลับบุคลิกได้อย่างน่าทึ่ง ฉากที่เขาคือดร.เจเคิล น้ำเสียงเขาไพเราะกังวานเหมือนทูตสวรรค์ แต่เสียงของมิสเตอร์ไฮด์กลับแหบห้าว เต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวเหมือนปีศาจจากนรกคอยหลอกหลอน
ดร.เจเคิลโต้ตอบกับไฮด์ หาว่าไฮด์คือปีศาจที่เกิดจากฝันร้าย แต่ไฮด์กลับหัวเราะใส่หน้า พูดว่าเขาก็คือตัวเจเคิลเองนั่นล่ะ
เจเคิลผู้มุ่งมั่นจะทำแต่ความดี สุดท้ายก็พ่ายแพ้กิเลสตัณหาอย่างไฮด์ ปลดปล่อยด้านมืดของเขาออกมาทำร้ายคนอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้แต่คนที่เขารักที่สุด และสุดท้ายก็จบลงด้วยโศกนาฏกรรม
อันที่จริง ละครเวทีเรื่องนี้ผมเคยดูแล้ว แต่ก็ยังนึกติดใจสงสัย
นี่คือสิ่งที่ชูสุเกะคนนั้นอยากให้ผมเห็นอย่างนั้นเหรอ
นักแสดงทุกคนและทีมงานออกมาโค้งคำนับให้ผู้ชมที่ปรบมือดังสนั่นฮอลล์ ผมกับมาซายะก็ปรบมือให้ด้วย เราสองคนออกจากโรงละคร ตรงกลับบ้านแบบไม่ได้แวะที่ไหนเลย นั่งเงียบกันไปตลอดทาง
ลองครุ่นคิดถึงเนื้อหาละครเวที ถ้าเป็นสิ่งที่เขาอยากให้ผมเห็น จะสื่อว่าผมเหมือนกับเจเคิลและเขาคือมิสเตอร์ไฮด์อย่างนั้นสินะ
ผมตัดสินใจได้ในที่สุด
“นี่ มาซายะ” ผมเรียกเขาตอนที่เรากำลังเดินเข้าบ้าน
“หือ”
“นายยังสามารถนัดด๊อกเตอร์คนนั้นได้อยู่รึเปล่า”
มาซายะเลิกคิ้วขึ้นแบบสงสัย แต่ก็พยักหน้า “ได้สิ”
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร เดินปลีกตัวไปที่มุมหนึ่งของบ้าน คุยอยู่ครู่หนึ่งก็เดินกลับมา
“พรุ่งนี้สิบโมงเช้า เข้าไปหาเขาที่เดิมได้เลย”
“ขอบคุณนะ”
เขาวางมือลงบนบ่าผม บีบเบาๆแบบให้กำลังใจแล้วเดินขึ้นบันไดไป
โทรศัพท์ของผมดังขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นสายจากเรย์กะที่โทรจากญี่ปุ่น พอกดรับก็ได้ยินเสียงสดใสดังมาจากปลายสาย เป็นเสียงที่ทำให้ชุ่มชื้นหัวใจทุกครั้งที่ได้ยิน
พอได้คุยกับเธอ ความทุกข์อะไรก็เหมือนถูกปัดเป่าออกไป เป็นเหมือนที่พักใจในโลกที่วุ่นวายทั้งหลาย
ถ้าเพื่อรักษาสิ่งนี้ไว้ล่ะก็ จะให้ทำอะไรผมก็ยอมทั้งนั้น
แม้ว่าสิ่งที่ต้องทำนั่นจะหมายถึงการกำจัดตัวเองอีกคนออกไปก็ตาม
มาซายะพาผมไปหาจิตแพทย์คนเดิมตามเวลานัดหมายแล้วก็นั่งรออยู่ข้างนอกเงียบๆ ให้ผมเข้ารับการรักษา
คราวนี้ผมเล่าอาการทั้งหมดให้หมอฟัง เล่าถึงอาการปวดหัว เล่าถึงชูสุเกะในโลกกระจก ปิดบังความจริงนิดหน่อยตรงที่วิญญาณของผมลอยละลิ่วมาสิงร่างตัวเองในอีกโลกเท่านั้นเอง เขารับฟังด้วยท่าทีสงบนิ่ง แต่ตั้งใจฟังผมทุกคำพูด ซักถามผมเล็กน้อยแล้วก็ปล่อยให้ผมพูดต่อไปเรื่อยๆ
นานแล้วที่ไม่ได้พูดอะไรที่อยู่ในใจออกไป พอได้พูดก็รู้สึกโล่งขึ้นมาไม่น้อย
เหลืออีกสองวันก็ต้องกลับกันแล้ว เวลาสั้นๆแค่นี้ไม่ทำให้วินิจฉัยอาการของผมได้ หมอเลยจะส่งต่ออาการของผมไปให้ลูกศิษย์ที่อยู่ญี่ปุ่น แล้วก็ให้ยามาอีกหลายขนาน อธิบายว่ายาเหล่านี้จะช่วยปรับสมดุลของสารเคมีในสมองให้กลับมาเป็นปกติ พร้อมบอกถึงผลข้างเคียงเมื่อทานยา แต่ถ้าอยากจะรักษาให้หายก็ต้องอดทน
มาซายะซักถามผมถึงเรื่องการรักษา ผมก็ได้แต่บอกเขาไปว่าเป็นเพราะความเครียด แล้วก็ต้องกลับไปหาจิตแพทย์ที่ญี่ปุ่นอีก เขาก็ทำหน้าแปลกๆแล้วชวนผมเดินเล่นริมแม่น้ำเทมส์เสียอย่างนั้น
เราเดินกันเงียบๆบนทางเดินของ The Queen’s walk ที่ทอดยาวเลียบแม่น้ำ มีคนเดินสวนมาบ้างเล็กน้อย แต่อากาศหนาวๆแถมหิมะกำลังตกแบบนี้คงไม่มีใครอยากออกมาเดินให้ลมตีหน้านอกบ้านแบบที่ผมกับมาซายะกำลังทำอยู่นี่หรอก
“มีอะไรงั้นเหรอ มาซายะ”
“เปล่านี่”
เมื่อผมจ้องหน้าเขา มาซายะถอนหายใจแล้วก็พูดออกมา
“ฉันไม่ใช่หมอ ไม่รู้จะรักษานายยังไง ก็แค่คิดว่าถ้าได้เดินกินลมชมวิว นายอาจจะหายเครียดได้บ้าง” เขายักไหล่ “แต่เรื่องที่นายกำลังเครียดอยู่ ช่วยบอกฉันหน่อยได้มั้ย”
เมื่อผมนิ่งเงียบ เขาหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าผม แววตาดูตัดพ้อเล็กน้อย
“เป็นอะไรที่หนักหนาจนบอกฉันไม่ได้เลยเหรอ”
“มาซายะ….”
“นายก็เป็นแบบนี้อยู่เรื่อย”
เขาหัวเราะออกมาอย่างฝืดเฝื่อน แล้วเดินนำหน้าผมไป
.
.
.
.
เราแวะทานข้าวที่ร้านอาหารใกล้ๆเป็นมื้อเที่ยง ต่างคนต่างทานไปแบบเงียบๆ พอทานเสร็จมาซายะก็เรียกรถมารับแต่ให้ผมกลับไปก่อน
“ฉันจะไปหายูริเอะ จะไปดูว่ากลับมารึยัง”
“งั้นผมไปด้วย”
“ไม่ต้อง ฉันจะไปคนเดียว”
“มาซายะ”
“นายไปก็ไม่มีประโย.….เออ ช่างเหอะ” เขาตอบห้วนๆแล้วจ้องผมเขม็ง “เป็นคนป่วยก็กลับไปพักผ่อน แล้วก็ทานยาให้มันครบๆด้วยล่ะ เดี๋ยวฉันจะกลับไปเช็คทีหลัง ถ้านายแอบเอายาไปทิ้งล่ะก็ ฉันฆ่านายแน่”
“มาซายะ”
“ไปได้แล้ว” มาซายะปิดประตูรถใส่หน้าผม เดินไปโบกแท็กซี่แล้วขึ้นรถไปจากที่ตรงนั้น
ช่วงเวลาที่มาซายะอกหักจากยูริเอะจะอยู่ราวๆนี้ ยังไงผมก็ปล่อยให้เขาไปคนเดียวไม่ได้ ยิ่งเหตุการณ์ไม่เหมือนกับโลกเดิมของผม ไม่รู้มาซายะจะเตลิดเปิดเปิงไปได้ขนาดไหน
แต่พอจะเปิดประตูวิ่งตามไป รถกลับล็อคเสียอย่างนั้น
ผมบอกคนขับรถให้ขับไปบ้านที่ยูริเอะพักอยู่ในอังกฤษหรือไม่ก็ปลดล็อคประตูให้ผมไปเอง แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง เขาก็ส่ายหน้าอย่างเดียว บอกว่าคุณมาซายะสั่งไว้ยังไงก็ต้องทำตาม และห้ามฟังคำสั่งผม
“กรุณากลับไปรอคุณมาซายะที่บ้านเถอะครับ” คนขับรถพูดกับผมด้วยเสียงอ่อนน้อม “คุณมาซายะเป็นห่วงสุขภาพคุณนะครับ ถึงได้ห้ามไว้”
“ตามมาซายะไปเถอะครับ นี่เรื่องสำคัญนะ” ผมชักจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว คนของตระกูลคาบุรากินี่จงรักภักดีกันเหลือเกินนะ
“คุณมาซายะสั่งไว้ ยังไงไม่ได้ครับ”
มาซายะทำเหมือนผมป่วยร้ายแรงใกล้ตายเดินไม่ได้ต้องคอยประคองไว้ตลอดเวลาอีกแล้วนะ น่าโมโหชะมัด
“ขับๆไปเหอะน่า” ผมตะโกนใส่คนของมาซายะด้วยความหงุดหงิด น้อยครั้งมากที่ผมจะใช้น้ำเสียงแบบนี้กับใคร “ถ้ามาซายะเป็นอะไรไปก็เป็นความผิดคุณนั่นล่ะ อยากให้มาซายะตายรึไง”
“คุณชูสุเกะ…”
“ถ้าไม่ทำตามที่ผมบอกภายในสิบวินาที ผมจะโทรหาตำรวจเดี๋ยวนี้ว่ากำลังถูกลักพาตัว อยากไปนอนซังเตเล่นซักสองสามวันมั้ยล่ะ”
“.......”
“คุณมีเวลา 1...2...3...4…” ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมกดเบอร์เรียกตำรวจ
นับไปถึงเก้า คนขับก็ยอมยกธงขาว ฟังที่ผมพูดในที่สุด
“เร็วๆเข้า ไม่มีเวลาแล้วนะ ป่านนี้มาซายะใกล้จะไปถึงบ้านยูริเอะแล้วแน่ๆ” ผมตบเบาะคนขับ “เดี๋ยวพอถึงแยกหน้าแล้วเลี้ยวขวาไปเลย นั่นทางลัด”
“แต่ว่า”
“เหอะน่า!!”
คนขับรถมีสีหน้าลำบากใจ แต่ก็ยอมขับรถตามไปที่บอก ใช้เวลาอีกพักใหญ่ๆกว่าจะไปถึงถนนหลักที่จะไปบ้านยูริเอะได้
ไม่รู้ป่านนี้มาซายะเป็นยังไงบ้างแล้ว
เข็มนาฬิกาเดินไป แต่ละนาทีที่ไหลผ่านนั้นทำให้รู้สึกกดดันพอสมควร นึกภาวนาในใจไม่ให้เขาคิดทำอะไรบ้าๆอย่างหนีไปฆ่าตัวตายแบบในโลกเดิมของผม
ผมโทรหาทั้งมาซายะ ไอระ ยูริเอะแต่ไม่มีใครรับสาย พอขับเข้ามาใกล้บ้านของยูริเอะก็ได้เห็นมาซายะยืนอยู่กับยูริเอะที่หน้าบ้าน ท่าทางเหมือนกำลังทะเลาะกันอยู่
การโต้เถียงจบลงด้วยยูริเอะวิ่งเข้าบ้าน ส่วนเขายืนก้มหน้าอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
“มาซายะ”
นานพอดูกว่าเขาจะรู้สึกตัวว่าผมยืนอยู่ข้างๆ มาซายะเงยหน้าขึ้นมาแล้วหันมาพยักหน้าให้แบบเนือยๆ มีรอยแดงรูปฝ่ามือประทับอยู่ที่แก้มซีกซ้าย
“ชูสุเกะ”
“อื้อ”
“มาทำอะไรที่นี่ ก็บอกให้ไปรอที่บ้านไม่ใช่รึไง”
“มารับนายกลับบ้าน”
“จุ้นไม่เข้าเรื่อง” มาซายะถอนหายใจ “เอ้า กลับก็กลับ รถอยู่ไหนล่ะ”
เขาเดินตามผมมาขึ้นรถแต่โดยดี แล้วก็เอาแต่นั่งเงียบมองออกไปนอกหน้าต่างไม่พูดไม่จา
รถขับข้าม Tower Bridge มาได้ ผมก็บอกให้คนขับจอดรถแล้วดึงแขนมาซายะออกไปที่ The Queen’s walk แบบที่มาซายะทำกับผมเมื่อตอนเที่ยง บอกคนขับว่าจะกลับกันเองแล้วปิดประตูใส่ มาซายะดูงงๆแต่ก็ยอมเดินตามมาด้วย
“มีอะไร”
“เปล่านี่” ผมยิ้มให้เขา “ก็แค่คิดว่ามาเดินเล่นอาจจะช่วยให้หายเครียดได้บ้าง”
“เฮอะ” มาซายะกลอกตาขึ้นมองท้องฟ้าที่มืดครึ้ม
เราเดินกันไปเรื่อยๆแล้วก็หยุดพักที่ใกล้ๆกับสะพานมิลเลนเนียม เกาะราวยืนมองวิวทิวทัศน์อะไรกันไปเรื่อยไม่มีใครพูดอะไร
ผมรอเวลาให้เขาพูดออกมาเอง ไม่กดดัน ไม่คาดคั้น แค่ยืนอยู่ข้างๆเงียบๆ
“ชูสุเกะ”
“ว่าไง”
“เมื่อกี้ ฉันไปหายูริเอะ”
“อือ”
“ฉันเจอผู้ชายคนหนึ่งยืนกอดยูริเอะอยู่หน้าบ้าน แล้วก็ทำเหมือนจะจูบ...” ผมเหลือบมองมาซายะ เขาจ้องไปข้างหน้าด้วยแววตาเลื่อนลอยไม่มีจุดหมาย “....ฉันเลยเข้าไปต่อยมัน”
ผมไม่ได้พูดอะไร แต่ปล่อยให้เขาพูดออกมาให้หมดเป็นการระบายความทุกข์
“แล้วยูริเอะก็ตบฉัน ไล่ฉันไปให้พ้นๆหน้า บอกว่าไม่เคยคิดอะไรกับฉันแม้แต่นิดเดียว เบื่อที่ฉันตามติดเธอแบบนี้ หนีมาอังกฤษก็ยังตามมา ฉันทำให้ทุกอย่างแย่ไปหมด”
มาซายะหลับตาลงช้าๆ สีหน้าดูเจ็บปวด
“ฉันรู้ รู้อยู่แล้วว่าเวลานี้ต้องมาถึง ฉันก็แค่หลอกตัวเองไปวันๆว่ายูริเอะคงพอจะมีใจให้ฉันบ้าง แต่ที่จริงเธอน่ะรำคาญฉันเต็มทีแล้ว โดนตบก็ดีเหมือนกัน จะได้หายโง่”
“มาซายะ”
“ฉันรู้ ฉันรู้” เขาหัวเราะ แต่น้ำเสียงฟังดูขมขื่น “ฉันรู้แต่ก็ยังหลอกตัวเอง ฉัน...”
คำพูดนั้นขาดหายไปเมื่อผมถอดพันผ้าพันคอตัวเอง เอาไปพันใส่หัวและหน้าเขาจนสุดความยาวของผ้า มาซายะแกะผ้าออกมาแบบทุลักทุเล พอแกะได้ก็ถลึงตาจ้องอย่างกราดเกรี้ยว
“ทำบ้าอะไรเนี่ย”
“เอาไว้ให้ซับน้ำตาไง”
“เฮอะ ใครจะไปร้องไห้กับเรื่องแค่นี้ฟะ บ้ารึเปล่า” มาซายะแยกเขี้ยวแล้วโยนผ้าพันคอคืนมา “ข้างนอกนี่หนาวชะมัด กลับกันได้แล้ว”
“อือ”
ผมเดินตามหลังเขา มาซายะก็หันมาจ้องแบบไม่พอใจ
“อย่ามาเดินตามหลัง ทำตัวเป็นผู้คุมประพฤติฉันจะได้มะ ฉันไม่ทำอะไรโง่ๆหรอกน่า”
“ก็ได้ๆ” ผมออกเดินนำหน้าเขาไป คอยฟังเสียงฝีเท้าที่ตามหลัง หันไปดูเป็นระยะๆว่าเขายังอยู่ ไม่ได้ไปทำอะไรโง่ๆอย่างปากว่า
หันไปมองอีกทีก็เห็นมาซายะหยุดเดิน ก้มหน้า ใช้หลังมือขยี้ตาตัวเองอยู่
เนี่ยนะที่บอกจะไม่ร้องไห้
พอผมเดินไปหา เขาก็รีบพูด
“ฉันไม่ได้ร้องไห้หรอกนะ ไม่ต้องมามอง” มาซายะพูดแบบนั้น ทั้งที่ยังก้มหน้าเช็ดน้ำตา “หิมะมันตกใส่ก็เลยต้องเช็ดออกเฉยๆ”
ผมแหงนมองท้องฟ้า หิมะหยุดตกไปตั้งแต่บ่ายแล้ว ทางเดินที่เดินมาเมื่อครู่นี้ก็ไม่มีหิมะซักนิด
“นั่นสินะ” ผมถอดผ้าพันคอออก กางคลุมหัวมาซายะ ชายผ้าปรกลงมาปิดหน้าปิดตาเขาจนหมด “ใช้ผ้านี่ก็แล้วกัน ผืนใหญ่น่าจะเช็ดหิมะออกได้หมด”
มาซายะยังยืนนิ่งอยู่ ผมเลยวางมือลงบนศีรษะเขาแล้วตบปุๆ
เสียงสะอึกสะอื้นดังขึ้นให้ได้ยินต่อจากนั้น
“ชูสุเกะ….”
“อือ”
“ฉันน่ะรักยูริเอะ รัก รักมาตลอด ตอนเธอตะโกนใส่ฉันด้วยถ้อยคำพวกนั้น เหมือนมีใครเอามีดมากรีดข้างใน” มาซายะกุมอกข้างซ้ายตัวเองไว้ “ฉันเจ็บมากๆเลย เจ็บไปหมด เจ็บตรงนี้ เจ็บจนนึกว่าตัวเองจะเป็นบ้าไปซะแล้ว”
ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่เข้าใจความเจ็บปวดนั้น ปล่อยให้มาซายะตะโกนระบายมันออกมาจะได้รู้สึกดีขึ้น ไม่ต้องเก็บไว้แบบผม
ในโลกเดิมที่ผมถูกคุณคิโชวอินทำร้ายจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า หัวใจผมก็เจ็บปวดจนกลายเป็นความชินชา แต่ก็ยังไม่เลิกหวังลมๆแล้งๆ ยังรอคอยเผื่อว่าเธอจะเห็นใจแล้วหันมามองผมบ้าง
คุณคิโชวอินก็เอาแต่หนี ไปเห็นใครต่อใครดีหมด ยกเว้นผม การรอคอยนั้นไม่เคยมีจุดสิ้นสุดจนแทบหมดหวัง ยังดีที่โลกนี้พอจะช่วยให้ได้ลิ้มรสชาติความสุขสมหวังกับเขาบ้าง
ผมกอดคอมาซายะให้เดินไปด้วยกัน ตบบ่าหรือไม่ก็โยกตัวปลอบไปตามเรื่องตามราว พอใกล้ๆถึงถนนที่สามารถเรียกแท็กซี่ได้ มาซายะก็หยุดยืนอีกหน เงยหน้าขึ้นมามองผมทั้งที่ขอบตายังแดงช้ำ
“ชูสุเกะ”
“หือ”
“ขอบคุณนะ”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“ไม่รู้สิ...” มาซายะยักไหล่ “ก็แค่อยากพูด”
ผมเลยวางมือลงบนหัวเขา คราวนี้ขยี้จนผมยุ่งเหยิงไปหมด มาซายะโวยวายนิดหน่อยแล้วพยายามหนีออกจากมือของผม ผมยักคิ้วให้เขาก็ถลึงตาใส่แล้วก็พ่นลมหายใจออกมาแบบเหนื่อยหน่าย
แท็กซี่มาพอดี ผมเลยโบกเรียก ตอนที่รถกำลังใกล้เข้ามา มาซายะก็วางมือบนไหล่ผม บีบเบาๆ และพูดด้วยเสียงที่ไม่ดังไปกว่าการกระซิบ
“ขอบคุณที่ยังอยู่กับฉันนะ”
-------------------------------------
ว้า ตอนนี้ก็ยังไม่ถึงคิวที่เอ็นโจจะโดนกระทืบแฮะ //ผิดหวังจัง
ดร.เจเคิลกับมิสเตอร์ไฮด์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ดร.เฮนรี่ เจเคิล หมอหนุ่มรูปหล่อผู้ตั้งมั่นจะทำแต่ความดี มีสิ่งยั่วยุก็ไม่หวั่นไหว วันหนึ่งอีตาดร.แกประดิษฐ์ยาที่สามารถแยกความดีความชั่วออกจากกันได้ แกก็ทดลองดื่มลงไปก่อน ผลปรากฎคือกำเนิดตัวตนของมิสเตอร์ไฮด์ออกมา ซึ่งมิสเตอร์ไฮด์คือด้านมืด คือความชั่วในตัวที่แกไม่ยอมรับว่าแกมีอยู่ ตอนจบก็แบดเอนด์จ้าาาาา
หนุ่มๆ เดินซับน้ำตาให้กันริมฝั่งแม่น้ำ อาหหห์... กร๊าวใจกูยิ่งนัก
>>801 มรึงทำให้กูนึกถึงการ์ตูนเรื่องนี้ สู้กันเพื่อข้าวกล่องลดราคาป้ายแดง!!
https://www.youtube.com/watch?v=_-t9__D98O0
เออ 800แล้วนี่ เสนอชื่อทู้หน้ากันด้วยย
>>772 เพิ่งมาย้อนอ่าน กูเรือเอ็นโจนะ แต่เห็นด้วยกับมึงหมดเลย 5555555555555555
กูว่าอีนี่มันเป็นพวกเพลย์เซฟว่ะ เหตุผลมาก่อนอารมณ์ จะทำอะไรก็ต้องมีทางถอย หาทางหนีทีไล่ไว้ก่อนด้วย เกิดพูดออกไป วิ่งเข้าใส่แล้วแม่งแป้กจะทำไงอะ ไอ้รักมันก็รักนั่นล่ะ แต่ก็ต้องเหลือทางให้ตัวเองด้วย ถึงแป้กจะได้ไม่เจ็บตัวมาก แล้วจากอุปนิสัยคือเป็นพวกคิดมาก รอบคอบ ประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าก่อนเป็นฉากๆเลยว่าทำแบบนั้นลงไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไตร่ตรองเรื่องผลดีผลเสียแล้วค่อยลงมือทำ ถ้าทำแล้วได้ผลเสียก็อย่าทำดีกว่า ซึ่งไอ้ตรรกะนี้มันใช้กับความรักด้วย เลยกลายเป็นคาราคาซัง จะรุกจีบก็ไม่ได้ แต่จะให้เลิกรักชอบเขายิ่งทำไม่ได้เข้าไปใหญ่ ถ้าไปชอบคนอื่นก็สบายกว่านี้แล้วแท้ๆ แค่ชายตามองหน่อยเดียวก็สมหวัง แต่พอเป็นเรย์กะอะไรมันก็ยากไปหมด
กูว่าหมอนี่เป็นคนหมู่บ้านคาสโนว่าไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่เคยจีบใคร ไม่เคยมีแฟน ถึงมีสาวๆรายล้อมแต่ลีลาการจีบเป็น 0 ยื่นใบสมัครก็ถูกเขี่ยทิ้งลงถังขยะแน่ๆ แค่เรื่องชมเรื่องปากหวานเอาใจหญิง ก็ทำได้แค่ชมแบบทื่อมะลื่อตรงๆ ไม่มีความแพรวพราวแบบท่านอิมาริเลยด้วย ท่านอิมารินี่แบบ...สวยเหมือนภูตกุหลาบมั่งล่ะ ชื่องดงามมากเลยขอสั่งเหล้าที่สมกับชื่อคุณให้มั่งล่ะ ปากหวานมากกกก หันมองเอ็นโจ....เหมาะมากเลย จบ..... มีอัพเกรดขึ้นมาหน่อยคือน่ารักเหมือนกระต่าย แต่ก็แค่นั้น ก็ติดๆขัดๆไปต่อไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูก กูจะมองว่าฮีจีบอยู่คนเดียวไร้ประสบการณ์ก็แล้วกัน ไม่เหมือนท่านอิมาริที่ผ่านมาทุกสมรภูมิจนโชกโชน สาวน้อยวัยใสไปยันสาวแก่แม่หม้าย รู้ว่าเอาใจผู้หญิงควรทำยังไง
แต่กูดีใจอยู่นะที่ฮีก็แสดงอารมณ์หึงหวงด้านลบออกมามั่งละ ปกติจะพูดทำนองกำกวมให้ไปคิดเองหรือไม่ก็ไม่ตอบอะไรเอาแต่ยิ้ม ทำเหมือนตัวเองเหนือกว่าตลอดเวลา แต่ในตอน 238 นี่คืออารมณ์ล้วนไม่มีเหตุผลเลย เอาความสะใจเข้าว่าแล้วก็มาเสียใจเองทีหลังจนคะแนนตก กูอยากให้ฮีลุกมาทำอะไรซักอย่างเหมือนกันนะ ถ้าคาบุมันได้กับเรย์กะจริงๆกูก็ไม่แปลกใจหรอก อยากชักช้าเองทำไม
>>824 สัมผัสที่เจ็บกันเลยทีเดียว ตอนนี้เอ็นโจโครตเหมาะกับเพลงนี้ชิบเผง 555555555555555555555
"คำว่ารักเพิ่งเข้าใจเมื่อพบเธอ
แต่คำว่าเจ็บ เพิ่งรู้เมื่อวันที่เธอนั้นทิ้งกันไป
คำว่ารักมีค่าเพราะเธอ และคำว่ารักเกือบฆ่าฉันตาย
ไม่คิดว่าวันนี้เจอสัมผัสที่เจ็บเหลือเกิน"
ขนาดทะเลาะกับเขานิดหน่อยยังเก็บมาคิดมากเครียดจนคะแนนตก ยิ้มเฝื่อนๆอีก ถ้ารวบรวมความกล้าไปบอกรักแล้วเรย์กะปฏิเสธสงสัยไปฆ่าตัวตายจริงๆชัวร์ ไม่ไปด้อมๆมองๆแถวริมผาแต่จะโดดลงไปเลยแน่ๆ
แต่กูก็สงสัยนะ คาบุมันอยู่ข้างๆยูริเอะ ก็ยังคิดจะทำนั่นทำนี่ให้ ดูหนังแล้วมีฉากเอาแหวนแฮนด์เมดไปขอแต่งงาน เลยไปทำมาให้ยูริเอะใส่มั่ง แต่เอ็นโจอยู่ข้างๆยุยโกะ ดันเอาใจผู้หญิงไม่เป็นเลยเหรอ หรือต้องรอรับคำสั่งจากยุยโกะลูกเดียวถึงไปทำ ไม่คิดจะทำอะไรให้เลยเทคแคร์เอาใจใครไม่เป็น พอจะปฏิบัติจริงก็ทึ่มทื่อเหลือเกิน
เดาว่าที่คาบุเทคแคร์ยูริเอะเพราะรักจริงหวังแต่ง
ส่วนเอ็นโจนี่น่าจะไม่ได้ชอบยุยโกะเลยไม่ได้เทคแคร์
เรื่องคาบุนี่มึงดูตัวอย่างเปรียบเทียบระหว่างท่านเรย์กะกับวาคาบะ ในขณะที่คาบุพาวาคาบะไปร้านหรูๆ ท่านเรย์กะน่ะหรือ...ซุปเปอร์เอย ร้านราเม็งเอยแล้วยังจะมีโอโคโนะมิยากิอีก นี่ขนาดท่านเรย์กะที่เป็น 'เพื่อนผู้หญิง(+เบ๊)' คนเดียวในชีวิตมันยังทำกันได้ลงคอ//ตบหน้าไซซายะ
ว่าแต่คาบุมันไม่มีเพื่อนจริงๆ หรือเปล่าวะ เห็นตอนก่อนโน้นนนนยังมีเฮฮาคุยเรื่องกีฬากับเพื่อนผู้ชายอยู่เลยไม่ใช่เลย มาตอนนี้กลายเป็นว่าโดนจี้ใจดำเรื่องไม่มีเพื่อนคบซะล่ะ ขนาดซาโตมิยังเรียกเอ็นโจว่าเอ็นโจคุงได้ แต่กับคาบุนี่เรียกว่าจักรพรรดิอย่างเดียวเลยนะ ถถถถถถถ
>>833 กูว่าเพื่อนผู้ชายคนอื่นก็คุยเรื่องทั่วไปได้ คบไว้เข้าสังคม แต่เพื่อนที่จะคุยปรึกษาปัญหานั่นนี่คงมีไม่เยอะ อาจจะมีแค่เอ็นโจคนเดียวด้วยซ้ำ ท่าทางภายนอกก็ดูเคร่งขรึมเข้าถึงยาก ดูแล้วอยู่เหนือกว่าไม่กล้าตีตัวเสมอ ส่วนเอ็นโจมันดูเฟรนด์ลี่ เหมือนพวกไม่ถือตัว คุยกับใครเขาได้ทั่ว ดูเข้าถึงได้ง่ายเป็นกันเองกว่า แต่เพื่อนคุยปรึกษาไว้ใจได้คงมีแค่คาบุคนเดียวเหมือนกัน......... นี่มันแก๊งค์ไม่มีใครคบนี่หว่า 555555555555555555555
เป็นฉายาจากจอมมารเป็น คุณชายไก่อ่อนมั้ย เอ็นโจวววว
โคตรเข้าคู่กับไก่โง่ 555
/me โดนลากหายไป ...
เปลี่ยน*
ลงฟิคในเวลาเด็กดี
เอ็นโจเลี้ยงต้อย >>>/webnovel/4099/811-814
----------------------------
หลังจากเหตุการณ์นั้น ผมโทรไปถามรายละเอียดกับไอระ ก็ได้คำตอบว่าคนที่มาซายะต่อยไปคือเพื่อนที่พายูริเอะกับไอระไปเที่ยวบาร์เซโลนา แค่มาส่งที่บ้านแล้วก็กอดลาทั่วๆไป ยูริเอะไม่ได้คบกับผู้ชายคนนั้น
เมื่อถามถึงอาการของคนที่มาซายะต่อยไป ไอระตอบมาว่า “ยูริเอะพาเขาไปโรงพยาบาล ตรวจเช็คร่างกายว่ากระทบกระเทือนตรงไหน”
“เดี๋ยวมาเก็บเงินที่ผมก็แล้วกัน”
“ไม่เป็นไรหรอก” ไอระพูดต่อ “ดีนะที่เขาไม่เอาเรื่อง แต่ฉันกับยูริเอะก็ต้องช่วยกันขอร้องแทบแย่แน่ะ”
“ขอบคุณมากนะ”
ถ้าผู้ชายคนนั้นเอาเรื่อง แจ้งความ อาจถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล ถึงเรื่องจิ๊บจ๊อยแค่นี้จะไม่สะเทือนตระกูลคาบุรากิ แต่ในต่างแดนเช่นนี้มันจะเป็นประวัติติดตัวมาซายะ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
ไอระเล่าต่อว่าเรื่องนี้ทำให้ยูริเอะโมโหมาก จากเดิมไม่ได้ตั้งใจจะพูดตัดขาดกับมาซายะ เหตุการณ์ก็กลับบานปลายยิ่งกว่าที่คิด
“แล้วมาซายะเป็นยังไง”
“ซึมไปเลย เอาแต่นั่งเหม่อไม่พูดกับใครนอกจากผม”
มาซายะเอาแต่นั่งเงียบ มองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างแบบไร้จุดหมาย จากที่เคยนั่งตัวตรงท่าทางผึ่งผายก็กลับปล่อยตัวไหลไปตามเก้าอี้ แก้มซูบตอบเหมือนคนไม่ได้ทานข้าว แววตาก็แห้งผากไม่โฟกัสสิ่งไหน เป็นอย่างนั้นมาตลอดตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน
พ่อกับแม่ของมาซายะถามผมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็ได้แต่ตอบไปตามตรงว่าเขาทะเลาะกับยูริเอะถึงขั้นแตกหัก คุณลุงคุณป้าก็พยักหน้าเข้าอกเข้าใจ ฝากฝังให้ผมช่วยดูแลด้วย อาการมาซายะเป็นเอามากขนาดนี้ คงกังวลว่าลูกชายคนเดียวจะคิดสั้น
ผมก็กังวลเหมือนกันนั่นล่ะ
ตอนนี้ผมทำได้แค่ตักขนมที่เขาชอบไปให้ นั่งข้างๆเป็นเพื่อน ไปรับไปส่งที่บ้านเพราะอาการยังน่าเป็นห่วง แต่ตัวติดกับมาซายะตลอดแบบนี้ผมไม่มีเวลาให้เรย์กะเลย
ผมบอกเธอแค่ว่ามาซายะทะเลาะกับยูริเอะ แต่ไม่ได้บอกว่าสองคนนั้นรุนแรงถึงขั้นแตกหักกันไปแล้ว และช่วงนี้อาจจะต้องดูแลมาซายะที่กำลังเสียใจมากหน่อย เรย์กะก็ดูเข้าอกเข้าใจ บอกให้ทำสิ่งที่ผมควรทำ ไม่ต้องห่วงเธอ
ท่าทางที่แตกต่างกันแบบนี้ทำให้อดนึกถึงคุณคิโชวอินขึ้นมาไม่ได้
ถ้าพูดเรื่องนี้กับคุณคิโชวอิน เธอคงแซวว่าผมเป็นโฮโม คู่เกย์กับมาซายะอะไรทำนองนั้นแล้ว
จะให้มาซายะมาตัวติดกับผมตลอดไปก็คงไม่ได้ ทางเดียวที่จะช่วยคือหาใครซักคนมาช่วยให้มาซายะออกมาจากโลกแห่งความทุกข์ของตัวเอง
ใครดีล่ะ จากบรรดานักเรียนทั้งหมดนี่
พวกนักเรียนดูจะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับมาซายะ แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาถาม และในบรรดาสายตาของนักเรียนและแฟนคลับของมาซายะที่มองมานั้น มีสายตาเป็นห่วงของคุณทาคามิจิรวมอยู่ด้วย
อา ไม่เห็นจะต้องถามว่าใครเลยนี่นะ
.
.
.
.
เลิกเรียน ผมไปดักรอพบคุณทาคามิจิ เมื่อเห็นว่าเธอต้องหอบสมุดการบ้านตั้งใหญ่ดูท่าทางจะหนักไปทางห้องพักครูก็จงใจเดินชนให้ของร่วง
“อ้าว ขอโทษนะ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันผิดเองที่ไม่ได้มองว่าท่านเอ็นโจเดินมา” คุณทาคามิจิก้มหัวปะหลกๆ แล้วก้มลงเก็บสมุดมาเรียงไว้เป็นตั้งๆ
“ผมช่วยนะ” เธออ้าปากค้างแล้วรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธเป็นพัลวันเมื่อผมก้มลงไปหยิบสมุดขึ้นมา “เอาน่า ช่วยกันสองคนจะได้เสร็จไวๆไง”
พอเก็บเสร็จคุณทาคามิจิก็เอากองสมุดตั้งใหญ่ขึ้นมาแบกไว้เหมือนเดิม แต่ผมฉวยไปจากมือเธอก่อน ให้ถือไว้แค่ไม่กี่เล่ม
“ท่านเอ็นโจคะ”
“วิชาฟิสิกส์สินะ” ผมมองชื่อวิชาที่เขียนไว้บนปกแล้วหันไปยิ้มให้ “ไปกันเถอะ เดี๋ยวอาจารย์จะรอนาน”
ผมก้าวเดินไปข้างหน้า ทำให้คุณทาคามิจิต้องเดินตามมาแบบเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างทางเจอมาซายะเดินสวนมาพอดี เขาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจที่เห็นผมเดินมากับคุณทาคามิจิ
“ผมเดินไปชนเธอน่ะ เลยต้องไถ่โทษช่วยถือของ”
“ขออภัยค่ะที่เพื่อนคนสำคัญของท่านคาบุรากิต้องมาเดือดร้อนเพราะฉัน” เธอก้มหัว ทำตัวเล็กๆลีบๆที่เห็นมาซายะ
“เธอนี่...พูดเป็นแต่คำนี้รึไง” มาซายะส่ายหน้าแล้วก็เดินจากไป
คุณทาคามิจิชะเง้อคอมองตาม ได้โอกาสพูดเรื่องนี้แล้ว
“เป็นห่วงเหรอ”
“อ๊ะ!! เอ๊ะ!!” คุณทาคามิจิสะดุ้งโหยง ทำท่าลุกลี้ลุกลน “คะ คือว่า...”
“กำลังสงสัยล่ะสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับมาซายะ” ผมหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้น “เล่าให้ฟังเอามั้ยล่ะ”
“มะ...ไม่เป็นไ….” เดินมาถึงห้องพักครูพอดี ผมเลยถือโอกาสทำหูทวนลมกับคำปฏิเสธนั้น เปิดประตูเข้าไปข้างใน วางกองการบ้านลงกับโต๊ะอาจารย์ รอให้คุณทาคามิจิออกมาแล้วเดินไปพร้อมกัน
“เมื่อกี้พูดถึงไหนแล้วนะ...อ๋อ ใช่ มาซายะอกหักน่ะ”
“เอ๋!!!!” เธออุทานเสียงดัง แล้วรีบเอามือตะครุบปากตัวเองไว้ มองซ้ายมองขวาเลิกลั่ก
“ตอนนี้มาซายะก็โสดแล้ว จีบได้นะ” ผมขยิบตาให้เธอ “วิธีก็ง่ายๆ เอาขนมไปล่อหน่อยก็ตกหลุมพรางแล้วล่ะ”
“ท่านเอ็นโจคะ!!” คุณทาคามิจิหน้าแดงก่ำ
“เรื่องที่เล่านี่ก็ช่วยปิดเป็นความลับด้วยนะ ไปล่ะ” ผมยิ้มแย้มโบกมือให้เธอ เดินไปที่ห้องสโมสร
มาซายะกลับไปแล้ว ผมเลยโทรเช็คกับทางบ้านของเขา แม่บ้านรายงานว่ามาซายะกลับไปถึงก็เอาแต่นั่งเล่นเปียโน ท่าทางค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว อย่างน้อยก็ไม่ดูซังกะตายไร้ชีวิตจิตใจแบบที่ผ่านมาอีก
ผมได้แต่ยิ้มออกมาอย่างยินดี
รู้สึกการเจอหน้าคุณทาคามิจิจะเป็นยารักษาที่ได้ผลนะ
.
.
.
.
สามวันต่อมา ผมเจอคุณทาคามิจิทำลับๆล่อๆอยู่แถวๆทางที่ไปลานจอดรถ
เธอชะเง้อมองไปทางออกของอาคารเรียนอยู่เรื่อย ดูกระตือรือร้นเมื่อได้ยินเสียงคนเดินผ่านมา แล้วก็กลับไปห่อเหี่ยวเมื่อเห็นว่าไม่ใช่คนที่กำลังมองหา
“ไง คุณทาคามิจิ” ผมเข้าไปทักเธอจากด้านหลัง
“วะ ว้าย ว้าย” คุณทาคามิจิสะดุ้งโหยงจนเกือบทำของในมือร่วง ค่อยๆหันมามองผมแบบกล้าๆกลัวๆ
“อ้าว ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ ขอโทษด้วยนะ”
“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ” เธอโบกไม้โบกมือ แต่สายตาชำเลืองมองไปด้านหลังผมราวกับจะรอให้มาซายะปรากฎตัวขึ้นมาในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง
“มองหามาซายะอยู่เหรอ”
“คะ คือว่า” คุณทาคามิจิหน้าแดง “ฉันเห็นท่านคาบุรากิไม่ค่อยร่าเริงก็เลยลองอบคุกกี้มาให้ ไม่รู้จะถูกปากรึเปล่า ถ้ายังไงรบกวนท่านเอ็นโจช่วยนำไปมอบให้ได้รึเปล่าคะ”
“เอ๋ ไม่เอาด้วยหรอก ผมไม่ใช่พนักงานส่งของซักหน่อย”
เธอหน้าเสียไปเลยที่ได้ยินคำปฏิเสธ
“ถ้าอยากมอบให้ก็เอาให้กับมือเจ้าตัวตรงๆเลยสิ”
“เอ๋”
“รอเดี๋ยวนะ”
ผมโทรหามาซายะ เรียกเขาให้ออกมาจากห้องสโมสร บอกให้มาที่ลานจอดรถได้แล้ว อีกสิบนาทีต่อมาก็เห็นมาซายะเดินดุ่มๆถือกระเป๋ามา ท่าทางหงุดหงิดได้ที่
“ก็บอกแล้วไงว่าอย่ามาทำตัวเป็นผู้คุมความประพฤติฉัน”
“เปล่าซักหน่อย มีคนอยากเจอต่างหาก”
มาซายะขมวดคิ้วราวกับจะพูดว่า ‘อะไรอีกล่ะ’ แล้วก็ดูอึ้งๆไปนิดหน่อยที่เห็นคุณทาคามิจิยืนแอบอยู่ข้างๆผม
“เอาเลย คุณทาคามิจิ”
ผมดันไหล่เธอให้ไปเผชิญหน้ากับมาซายะ คุณทาคามิจิดูลุกลี้ลุกลน หันมาทำสายตาถามผมว่าจะดีเหรอ ผมเลยพยักหน้าให้
“คะ คือว่า คือ….” เธออ้าปากพะงาบๆ หน้าแดงก่ำ แต่ก็ยื่นกล่องกระดาษสีน้ำตาลด้วยท่าทางก้มหัวลงชูมือขึ้นแบบถวายบรรณาการอีกแล้ว “นี่คุกกี้ที่ฉันอบเองค่ะ ถ้าท่านคาบุรากิไม่รังเกียจ”
“คุกกี้” มาซายะเลิกคิ้วขึ้น
“ไม่รู้ว่าท่านคาบุรากิชอบทานอะไรก็เลยลองอบมาหลายๆอย่าง มีช๊อกโกแลตชิพ แมคคาเดเมีย เนยสด อัลมอนด์แล้วก็ชินนามอนค่ะ”
“ว้าว โชคดีจัง มาซายะชอบหมดเลยล่ะ”
มาซายะหันมาถลึงตาใส่ผม แล้วรับบรรณาการไปจากมือคุณทาคามิจิ เธอมีสีหน้าที่ดูโล่งใจ แต่ก็เห็นว่าแอบอมยิ้มอย่างมีความสุขอยู่
“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“อ้าว เดี๋ยวก่อน” ผมเรียกเธอที่กำลังจะเผ่นหนีไป “นี่ก็เย็นแล้ว ให้มาซายะไปส่งสิ”
“หา!!” ทั้งมาซายะและคุณทาคามิจิประสานเสียงพร้อมกัน
“ตอบแทนเรื่องคุกกี้ไง” มาซายะขมวดคิ้วใส่ ผมก็ได้แต่ยิ้มให้ “จะให้เด็กผู้หญิงกลับบ้านค่ำๆมืดๆคนเดียวมันอันตรายนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร ฉันกลับเองดีกว่า ไม่กล้ารบกวนท่านคาบุรากิหรอกค่ะ….”
มาซายะเหลือบมองคุณทาคามิจิแล้วก็เดินลิ่วๆไป แต่เห็นเธอไม่เดินตามมาก็ตะโกนเรียก “เธอน่ะ มาได้แล้ว ชักช้าโอ้เอ้อยู่นั่น”
“เอ๋”
“ไปสิ” ผมดันหลังให้เธอเดินไปหามาซายะ โบกมือให้สองคนนั้นแบบยิ้มๆ
หมุนตัวกลับหลังหันไปก็เห็นเรย์กะยืนอยู่บนบันไดขั้นบนสุด จ้องมองลงมาด้วยใบหน้าเฉยชา ท่าทางเหมือนกำลังโกรธจัด แววตาน่าสะพรึงกลัวจนอดขนลุกไม่ได้
“เรย์กะ”
“คุณชูสุเกะ….” เธอค่อยๆเดินลงบันไดมา แย้มรอยยิ้มอ่อนหวาน แต่ดวงตายังคงจ้องเขม็ง “หมู่นี้ดูจะสนิทกับคุณทาคามิจิดีจังเลยนะ”
“เอ๋ เอ่อ...มันก็ไม่ใช่อย่างที่คิดนะ”
“นอกใจเหรอคะ”
“เปล่าครับ เปล่า” ผมยกมือขึ้นแบบยอมแพ้ “ไม่เคยคิดนอกใจคุณหนูคิโชวอินแม้แต่นิดเดียวเลยครับ”
“อ๋อ เหรอคะ” เธอสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น “เห็นไปแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงคนนั้นตั้งหลายทีเลยนี่”
“แค่ช่วยรุนหลังเฉยๆครับ ไม่มีเจตนาอะไรไม่ดีแม้แต่นิดเดียว”
“งั้นเหรอคะ”
“หึงเหรอ” ผมหัวเราะ เข้าไปกอดเธอจากด้านหลัง เห็นท่าทางโกรธเคืองแบบนั้นก็รู้สึกดีใจขึ้นมา
“ทำอะไรคะ นี่มันที่สาธารณะนะ”
“งั้นไปที่มิดชิดกันมั้ย”
“ไม่ไปค่ะ” เรย์กะถลึงตามอง สะบัดตัวหนีออกจากอ้อมกอดของผม เดินลิ่วๆไปที่ลานจอดรถ
ผมวิ่งตาม รั้งข้อมือเธอไว้ ทำหน้าหงอยๆให้ดูน่าสงสาร
“มันไม่มีอะไรจริงๆนะ ผมแค่ช่วยให้มาซายะอารมณ์ดีขึ้นก็เท่านั้นเอง”
“ท่านคาบุรากิเกี่ยวอะไรด้วยล่ะคะ”
“ก็มาซายะชอบขนม แล้วคุณทาคามิจิเขาก็ทำขนมเก่ง ถ้าได้คนคุยเรื่องขนมก็อาจจะทำให้กลับมาร่าเริงได้นี่นา”
เรย์กะขมวดคิ้วใส่ผม แต่ดูท่าทางจะเป็นเหตุผลที่พอรับได้ เธอก็พยักหน้าให้
“แล้ว...จะหายโกรธได้รึยังครับ”
“ยังค่ะ” เธอหันหน้าไปทางอื่น “ต้องพาไปชอปปิ้งก่อน ไม่อย่างงั้นก็จะโกรธไปเรื่อยๆ”
ผมหัวเราะแล้วดึงเธอเข้ามากอด เรย์กะทุบผมอีกสองสามทีแล้วก็อยู่นิ่งๆแต่โดยดี
“พรุ่งนี้เลยดีมั้ย ไปเดินเล่นที่อาโอยามะกัน”
“ไม่กระชั้นชิดไปหน่อยเหรอคะ”
“ก็อยากให้เรย์กะหายโกรธไวๆนี่นา”
เธอพยักหน้าแล้วก็บอกให้ผมปล่อยมือ ท่าทางเย็นชาห่างเหินกว่าครั้งไหนๆ เดินไปขึ้นรถบ้านคิโชวอินที่มาจอดรออยู่ตรงทางออก
.
.
.
.
คืนนั้น ผมนั่งวางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ทำลิสต์ไว้หลายที่ ขีดฆ่าไปก็เยอะ จนได้ที่ที่น่าจะโอเคที่สุด พอได้เวลานอนก็เข้านอนไปด้วยความสุข วาดฝันถึงเดทพรุ่งนี้ที่กำลังจะมาถึง
ผมตื่นก่อนเวลาปกติเล็กน้อย เลือกชุดที่จะใส่ ทบทวนลิสต์ที่จะไป ซักซ้อมไว้ในใจก่อน จะได้ไม่ต้องควักโพยขึ้นมาดูให้ขายหน้า
ในโลกเดิมของผม คุณคิโชวอินเคยพูดไว้ว่าผู้ชายที่ไม่วางแผนเที่ยวมันน่าเบื่อระวังถูกเขี่ยทิ้ง ด้วยความที่กลัวว่าตัวเองจะเสียหน้า ผมเลยตอกกลับคำพูดเธอไปอย่างเจ็บแสบ หวังให้เธอเจ็บเหมือนผมบ้าง ซึ่งมันได้ผล
แต่ค่าตอบแทนของความสะใจชั่วครู่ชั่วยามนั้นแพงเหลือเกิน สิ่งที่แลกคือความไว้วางใจของคุณคิโชวอินและความเสียใจของผมเอง ผมต้องไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก
ยืนกลัดกระดุมเสื้ออยู่ดีๆ อาการปวดหัวก็เกิดขึ้นมาอีกหน ผมทรุดลงไปกับพื้น กุมหัวตัวเองไว้แน่น ปวดจนน้ำตาไหลออกมา ปวดเหมือนคนเอามีดมาทิ่มแทงในศีรษะจนต้องครางออกมา
แม่งเอ้ย มาปวดอะไรเอาตอนนี้
ผมค่อยๆรวบรวมแรงเดินไปหยิบยาจากโต๊ะหัวเตียงมาทาน เทใส่มือสี่เม็ดแล้วกรอกปาก ทิ้งตัวลงนอนกับเตียงหลับตานิ่งๆ ยาก็ไม่ออกฤทธิ์สักทีทำให้ผมต้องทนกับอาการปวดเหมือนจะขาดใจอยู่ตรงนี้
ไม่ไหว วันนี้ไปไม่ไหวแน่ๆ ต้องโทรไปยกเลิกนัดก่อน
ผมควานมือไปข้างๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ข่มความรู้สึกอยากอาเจียน ตั้งสติก่อนชั่วคราวตอนกดโทรออกหาเรย์กะ แต่สายตาผมเริ่มพร่าเลือน มองเห็นทุกอย่างเป็นภาพซ้อนด้วยความปวดจนถึงขีดจำกัดแล้ว
“คุณชูสุเกะ”
เสียงของเธอดังขึ้น แต่เหมือนมาจากที่ไกลๆ อื้ออึงอยู่ในหู แยกไม่ออกว่าอะไรเป็นเสียงที่ผมคิดไปเองหรือโทรติดแล้วกันแน่
ผมกำลังจะอ้าปากตอบ แต่รู้สึกไม่มีแรงขยับเลยสักนิด
สติค่อยๆหลุดลอยหาย แม้ความเจ็บปวดที่เหมือนมีดนับล้านกำลังทิ่มแทงลงมาในหัวก็ไม่สามารถฉุดรั้งเอาไว้ได้ แสงสว่างค่อยๆหายไปจากดวงตา
ความมืดคืบคลานเข้ามาอีกหน
.
.
.
.
ไม่รู้ว่าผมหลับไปนานเท่าไหร่ แต่ห้องทั้งห้องมืดแบบนี้คงจะค่ำแล้ว
ผมลุกขึ้นมานั่ง อาการปวดหัวหายไปแล้วทำให้พอมีแรงจะไปทำอะไรได้บ้าง อย่างแรกที่ผมคิดคือต้องโทรหาเรย์กะ
ก่อนที่ผมจะหมดสติไป ไม่รู้ว่าผมโทรติดหรือหูแว่วไปเอง
แต่ยังไงก็ต้องโทรไปง้อก่อน ผมไม่ไปตามนัดแถมติดต่อไม่ได้แบบนี้ เธอต้องโกรธมากแน่ๆ
ผมควานมือไปที่โต๊ะหัวเตียงเพื่อหาโทรศัพท์ที่อาจจะตกอยู่แถวๆนั้น แต่ก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างที่เกิดกับตัวเอง
ทำไมผมถึงไม่ใส่เสื้อผ้า
จะว่าแม่บ้านมาเช็ดตัวให้แล้วถอดชุดออกก็ไม่น่าใช่ ถึงจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้จริงๆก็น่าจะใส่ชุดใหม่ให้สิ
ผมควานมือไปหาสวิตช์ไฟหัวเตียง พอได้แสงสว่างก็ยิ่งทำให้งุนงงหนักเข้าไปใหญ่
ไม่ใช่ห้องของผม แต่ก็ดูคุ้นๆอยู่ ที่ไหนกันนะ
ลองมองไปรอบๆ เสื้อผ้าที่จำได้ว่าใส่เมื่อเช้ากองอยู่บนพื้น ยิ่งไปกว่านั้นมีชุดเดรสและชุดชั้นในวางทับไว้อยู่ด้วย
ผมเพิ่งสังเกตว่าที่นอนข้างๆนั้นมีใครมานอนอยู่ ร่างนั้นนอนหันหลังให้ ผมม้วนลอนที่คุ้นเคยนั้นดูยุ่งเหยิงไปกว่าปกติ แผ่นหลังเปลือยเปล่าที่โผล่พ้นผ้าห่มมีรอยช้ำเป็นจ้ำๆ
เสียงครางน้อยๆที่ดังมาจากข้างๆตัวทำให้รู้สึกเหมือนโดนต่อยหน้า มึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก มีแต่คำถามว่านี่มันเรื่องอะไรกันอยู่ในหัวเต็มไปหมด
ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่จริง อย่าบอกนะว่า….
“อื้อ คุณชูสุเกะ ไม่เอาแล้วนะ เหนื่อยแล้ว”
เรย์กะ!!!!
.
.
.
.
.
.
.
.
“ไง ชูสุเกะ”
ฉันทักอย่างเคยเมื่อเปิดประตูเข้าไปข้างใน วางของลงบนโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆกันแล้วลากเก้าอี้ไปนั่งข้างๆ
“วันนี้ฉันกับคิโชวอินไปดูยูกิโนะวิ่งแข่งมา ได้ที่หนึ่งซะด้วย ยูกิโนะวิ่งเพื่อนายเต็มฝีเท้าเลย ฉันถ่ายวิดีโอไว้ให้ วางอยู่ตรงนี้นะ”
ฉันตบลงบนม้วนเทปที่เพิ่งวางกับโต๊ะข้างเตียงไป
“เดี๋ยวนี้ยูกิโนะสุขภาพแข็งแรงขึ้นแล้วนะ มาขอให้ฉันช่วยสอนวิธีออกกำลังกายแบบเบาๆให้ ถ้านายอยากเห็นก็อัดเทปไว้ด้วยนะ ให้คิโชวอินถ่าย แต่ฝีมือไม่ได้เรื่องเลย ภาพสั่นกับเบลอตั้งเยอะ”
ฉันหัวเราะ
“เออใช่ แล้วตอนเย็นฉันเลยพาสองคนนั้นไปเลี้ยงฉลอง ยูกิโนะเป็นคนเลือกร้านเอง แต่คิโชวอินทำหน้าแปลกๆตลอดเลย พอถามก็บอกว่าเคยมากับยูกิโนะแล้วก็นาย แอบหนีไปเที่ยวโดยไม่บอกฉันเหรอ”
ฉันกอดอก ทำท่าเคร่งขรึม เอนหลังพิงพนักเก้าอี้
“แล้วทีมฟุตบอลที่นายเชียร์ก็แพ้ทีมที่ฉันเชียร์ยับเลยนะ นายต้องเลี้ยงข้าวฉันแล้วล่ะ ร้านราเม็งแบบที่ต้องต่อคิวกินเป็นชั่วโมงก็ดีเหมือนกันนะ”
ฉันหยิบนิตยสารขึ้นมาพลิกหน้าที่คั่นไว้แล้วก็กางให้ดู
“วันนี้ฉันชวนคิโชวอินมาหานายด้วย แต่เธอไม่ยอมมาอีกแล้ว ผู้หญิงอะไรใจดำจริงๆ”
ฉันเก็บนิตยสารเข้ากระเป๋า
“แต่ไม่มาก็ดีแล้ว ฉันขี้เกียจปลอบ พอเห็นผู้หญิงร้องไห้ฉันก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน ยูกิโนะพอเห็นคิโชวอินร้องไห้ก็ร้องด้วย วุ่นน่าดูเลยล่ะ ขืนยัยนั่นมาอีกก็คงเอาแต่ร้องไห้แหงๆ”
ฉันถอนหายใจ รู้สึกเหนื่อยหน่ายเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น
“เธอคงกลัวนายน่ะ สภาพน่าเกลียดชะมัด มีแต่สายอะไรต่อมิอะไรก็ไม่รู้ เสียบทั้งปากทั้งจมูกทั้งแขน ฉันเห็นฉันยังกลัวเลย”
ฉันวางมือลงบนแขนชูสุเกะ มันเล็กลีบลงไปแบบเห็นได้ชัดมาก
“กำลังฝันดีอยู่เหรอ คงเป็นฝันที่สนุกมากเลยใช่มั้ย นายถึงไม่ยอมตื่นซักที”
เสียงจากเครื่องอะไรซักอย่างที่หมอบอกว่ามันช่วยพยุงอาการของชูสุเกะไว้ดังขึ้นเป็นจังหวะเหมือนกำลังตอบคำถามฉัน
“หมอบอกว่าคนที่อาการโคม่าไม่มีความฝัน แต่นายนอนนานขนาดนี้ ต้องฝันดีอยู่แน่ๆ ตื่นมาเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้มั้ย”
ขอบตาฉันเริ่มรู้สึกร้อนผ่าว ฉันใช้หลังมือขยี้ สูดลมหายใจลึกๆ
“ที่ขยี้ตาเพราะฝุ่นมันเข้าตาน่ะ ไม่ได้ร้องไห้หรอกนะ”
ฉันต้องเป็นที่พึ่งให้สองคนนั้น จะมาทำตัวอ่อนแออย่างนั่งร้องไห้น่ะไม่มีทาง แค่ฝุ่นในห้องปลอดเชื้อมันเข้าตาเฉยๆเท่านั้นเอง
“เดี๋ยวฉันจะมาหานายไม่ได้ซักอาทิตย์ นอนเล่นไปคนเดียวก่อน อย่าเพิ่งเหงาล่ะ”
ฉันมองนาฬิกาข้อมือแล้วพยักหน้า ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปที่ประตู
“ฉันไปก่อนนะ แล้วจะมาใหม่”
ฉันมองเข้าไปข้างในเป็นหนสุดท้ายก่อนกลับ
“ฝันดีนะ ชูสุเกะ”
-------------------------------------------------------
ฝันดีรึเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันเพิ่งเริ่มต้นนะจ๊ะ คุณชูสุเกะ
อ่านฟิคเอ็นโจเลี้ยงต้อยแล้วไปเทียบกับเอ็นโจในเนื้อเรื่องออฟฟิเชี่ยล
ความแตกต่างกันนี่มันระดับmaster classกับnovinceชัดๆ
ชื่อห้องใหม่ขอเสนอ "ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสาวน้อยพลังจิตฟุยุโกะ นัมเบอร์18"
>>844 สงสารคาบุว่ะ เพื่อนโคม่า ทำได้แค่นั่งมอง ตัวเองอยากร้องไห้แต่ทำไม่ได้ เพราะต้องเป็นที่พึ่งให้คิโชวอินกับยูกิโนะ ฟื้นขึ้นมาเร็วๆสิเอ็นโจ
เห็นฉากชูสุเกะในกระจกออกมาข้างนอก เอาร่างไปมีอย่างว่ากับเรย์กะคิมิสินะ แบบนี้เอ็นโจประสาทแดกชัวร์ จะสติแตกไปรึเปล่าวะ
ชอบวาคาบะ รู้สึกเป็นสิ่งเยียวยาเพียงอย่างเดียวในฟิคนี้เลย วาคาบะออกตอนไหนก็ดูสดใสตลอด แต่ตอนเรย์กะมองแบบโกรธๆ กูสังหรณ์ว่าไม่ได้หึงคุณชูสุเกะแน่ๆ
มึง กูลงฟิคหวานๆ ได้มะ กูอ่านเอ็นโจเลี้ยงต้อยละช้ำใจ ทั้งจากแปลไทยล่าสุดและฟิค กระซิกๆ แต่กูก็กลัวตัดอารมณ์ฟิคอ่ะ
*ฟิคโดยลูกเรือเอ็นโจที่เกาะกระโดงเรือแน่น* ฟิคคุณหนูเอ็นโจ
ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูลเอ็นโจ
และฉันเป็นคุณหนูที่ใครๆก็รัก ฉันมีพี่ชายสองคนที่อยู่ประถมปลายทั้งสองคน แต่ฉันยังอยู่ชั้นเตรียมอยู่เลยค่ะ ท่านพี่ใหญ่มักยิ้มและเรียกฉันว่าเด็กโง่ ท่านพี่รองจะชอบลูบผมของฉันและบอกว่าน้องสาววันนี้ทำอะไรบ้าง ท่านพ่อที่ไม่ค่อยกลับบ้านตรงเวลาก็จะจูบหน้าผากและยิ้มอย่างอ่อนโยนเรียกฉันว่าเจ้าหญิงน้อย ท่านอายูกิโนะจะชอบซื้อขนมมาฝากและโทรหาบ่อยๆ
แต่ปัญหาที่ฉันพบเจอก็คือการที่ท่านย่าและท่านยายมีความคิดเห็นเรื่องทรงผมของฉันไม่ตรงกัน ท่านย่านิยมทรงผมเหยียดตรงดุจสาวงามญี่ปุ่น แต่ท่านยายนิยมทรงผมบิดเกลียวเหมือนเจ้าหญิง ฉันยังตัดสินใจไม่ได้ ท่านแม่ก็บอกว่าทรงผมทำตามใจที่ชอบเลย
วันนี้ท่านย่าและท่านยายมาที่บ้านตอนเย็น ฉันที่ผมหยิกจากเปียทำให้ทั้งสองไม่พอใจ นั้นทำให้ฉันนอนไม่หลับเลยล่ะ
เสียงเปิดประตู แสงที่ลอดเข้ามาทำให้ฉันเงยหน้ามอง ท่านพ่อแสดงสีหน้าแปลกใจ ท่านพ่อมีใบหน้าที่หล่อเหลาอ่อนโยน รอยยิ้มของท่านพ่อใจดีมากๆ ท่านพ่อแสดงสีหน้าแปลกใจ
“เจ้าหญิงของพ่อ ยังไม่นอนหรือคะ”ท่านพ่อชอบแอบมาจูบหน้าผากของฉันเวลานอนหลับไปแล้ว บางครั้งฉันก็งัวเงียตื่นขึ้นมา จู่ๆฉันก็เกิดความคิดขึ้นมาได้
“คุณคะ”ท่านแม่ส่งเสียงเรียกอย่างสงสัยเมื่อเห็นท่านพ่อพูดคุย จึงชะเง้อมองเข้ามา ท่านแม่มีใบหน้าที่สวยงามเหมือนตุ๊กตา ตากลมโต ขนตางอนยาว แก้มป่องแดงเรื่อ มีลักยิ้มและริมฝีปากที่น่ารัก “ลูกรัก นี่ลูกยังไม่นอนหรอคะ”
“หนูฝันร้ายค่ะ ท่านแม่ หนูขอไปนอนกับท่านแม่ได้มั้ยคะ”ฉันมองท่านแม่ ท่านแม่ชะงักก่อนจะยิ้มอย่างร่าเริง เอ๋ ทำไมท่านพ่อมีสายตาจนใจแบบนั้นล่ะคะ
“แน่นอนสิจ๊ะ ไปกันเถอะ”ท่านแม่ยิ้มหวาน ก่อนจะจูงฉันไปที่ห้องนอน ฉันเคยได้ยินเพื่อนที่ซุยรันบอกว่า ท่านพ่อท่านแม่ของพวกเขาบางครั้งก็นอนแยกห้องเพราะเวลาไม่ตรงกัน แต่สำหรับห้องของท่านแม่คือห้องเก็บของและห้องแต่งตัวมากกว่า เมื่อฉันฝันร้ายฉันอุ้มน้องกระต่ายไปหาท่านแม่ แต่พอถึงห้องประตูปิดสนิท ฉันแนบหูได้ยินเสียงแปลกๆที่เบามากๆ ก็รู้สึกกลัวเลยไปที่ห้องท่านพี่แทน ท่านพี่บอกว่าท่านแม่คงลุกขึ้นมาละเมอแน่ๆ ท่านแม่เนี่ยละเมอบ่อยครั้งสินะคะ
“ลูกนอนตรงนี้นะ”ท่านพ่อให้ฉันชิดไปที่ด้านในเตียง
“เอ๋ ท่านพ่อคะลูกกลัวนี่นา”ฉันมองผนังที่ว่างเปล่า พออยู่ในห้องท่านพ่อท่านแม่ความกลัวก็มีเลยน้า
“...”ท่านพ่อเงียบไป
“งั้นลูกนอนกลางดีกว่า”ท่านแม่ยิ้มแย้มพูดเสียงอ่อนหวาน ก่อนจะปีนเข้าไปด้านในแทน ท่านพ่อมองท่านแม่ ท่านแม่หุบยิ้มและนอนลง “นอนกันเถอะเนอะ”
“ที่รัก ผมจะอาบน้ำ”ท่านพ่อยิ้มแย้มบอกท่านแม่
“เดี๋ยวฉันรอคุณตรงนี้กับลูกนะคะ ชุดนอนแขวนอยู่ที่ตู้เสื้อผ้านะคะ”ท่านแม่พูดเสียงหวาน ทำให้ฉันที่นอนลงเริ่มเคลิ้มๆ ท่านแม่ก็ลูบไหล่ฉันและเริ่มเล่านิทานให้ฟัง แต่ตาของท่านแม่หรี่ลงเหลือครึ่งหนึ่ง
“ท่านแม่คะ ท่านแม่เล่าว่าลูกหมูสร้างบ้านจากไม้สามรอบแล้วนะคะ”ฉันเตือนท่านแม่อย่างเป็นห่วง ท่านแม่ต้องสับสนแน่ๆ
“งั้นหรอจ๊ะ หมาป่าก็ใช้ลมหายใจที่รุนแรงสร้างพายุเป่าจนบ้านไม้ปลิว....”ท่านแม่ยิ้มและลุกขึ้นนั่ง ดวงตาแจ่มใสขึ้น ฉันเลยไม่อยากค้านว่าหมาป่ากระโดดกระแทกประตูต่างหาก ตาค่อยๆปิดตาลง ก่อนจะหลับไป แต่เสียงกระซิบของท่านพ่อทำให้ฉันกึ่งหลับกึ่งตื่นรู้สึกตัวเบาหวิว ฉันเปิดตาเห็นท่านพ่อท่านแม่จุมพิตกันครู่หนึ่งท่านแม่หอบหายใจก่อนจะบ่นงึมงำ มือของท่านพ่อลูบๆคลำๆท้องของท่านแม่ ฉันเห็นท่านพ่อจับมันทำยืดๆ เอ๋ ทำไมท้องท่านแม่ยืดเป็นชั้นๆได้คะ
“อย่ามาจับนะ นายหาว่าฉันอ้วนใช่ไหม”ท่านแม่ปัดมือท่านพ่ออยากพูดเสียงเขียวกึ่งงอน ก่อนจะนอนแล้วหันหลังให้ท่านพ่อเอื้อมมือมาลูบหัวฉันที่ตาเปิดนิดหน่อย
“หลับเถอะ เด็กดีของแม่”ท่านแม่เริ่มกล่อม ฉันหรี่ตาลงอย่างว่าง่าย
“เปล่า ผมคิดว่ามันนุ่มนิ่มน่ารักกำลังดี”ท่านพ่อหัวเราะเบาๆนอนลงตะแคงลูบท้องท่านแม่ “ถ้าเธอขี้เกียจออกกำลังกาย เดี๋ยวผมช่วยเผาผลาญให้นะ”ท่านพ่อพูดด้วยเสียงที่ลึกลับกรุ้มกริ่มประหลาด
“หยุดแล้วนอนได้แล้วทั้งพ่อลูกเลย พรุ่งนี้ฉันจะไม่ออกไปกินแล้วจะออกกำลังกาย!”ท่านแม่กระแทกเสียง ตีมือท่านพ่อและดึงฉันมากอด ทำไมท่านแม่บอกว่าอ้วนน้า แขนของท่านแม่ยังเท่าเดิมเลย อ้วนน่ะต้องตัวใหญ่ๆต่างหากล่ะ ท่านพ่อกอดเราสองคนอีกรอบ
“ผมชอบคุณนะเรย์กะ”ท่านพ่อพูดเสียงหวาน
“ฉันก็ชอบคุณน่า นอนได้แล้ว”ท่านแม่ตอบงึมงำ ฉันหาวและหลับตาลง
“หนูก็ชอบท่านพ่อ ท่านแม่นะคะ”ฉันตอบงึมงำทั้งที่หลับตา “ชอบท่านพี่ใหญ่ ชอบท่านพี่รอง...”ท่านพ่อท่านแม่หัวเราะและบอกว่าชอบฉันที่สุดในโลก
เมื่อฉันตื่นเช้าก็นึกขึ้นได้ ทุกครั้งที่มาที่บ้านท่านพี่คาบุรากิจะมอบดอกลิลลี่สีชมพูให้ฉัน จากนั้นเขาก็ไม่ได้มาที่บ้านอีกเลย อีกอย่างฉันไม่เข้าใจว่าทำไมท่านพ่อ ท่านพี่ไม่ยอมให้ฉันเรียกชื่อของท่านพี่คาบุรากิกันน้า ท่านพ่อท่านพี่และคนอื่นๆก็เรียกได้เลยนี่นา
“คุณหนูคะ กลับห้องเถอะค่ะ”สาวใช้เข้ามาตามฉัน ฉันมองนาฬิกา ท่านพ่อไปทำงานแต่เช้าอีกแล้ว ท่านแม่ไปส่งท่านพ่อและเผลอหลับที่โซฟาอีกแน่ๆเลย ฉันเดินไปที่ห้อง วันนี้ท่านพ่อท่านพี่และคนอื่นๆออกไปกันหมดแล้ว ท่านแม่ก็ลงไปที่ห้องฟิตเนต
“คุณหนูคะ คุณครูสอนเปียโนมาแล้วค่ะ”ฉันพยักหน้า วันนี้เป็นวันหยุดแต่ท่านพี่ก็ต้องไปเรียนพิเศษ พอเรียนเสร็จท่านพี่คาบุรากิก็ส่งช่อดอกกล้วยไม้มาให้ พร้อมการ์ดบอกให้ตั้งใจเรียน ฉันเบ้ปากน้อยๆ พวกพี่ๆชอบเรียนกันจังน้า ท่านแม่บอกว่าท่านพี่คาบุรากิดีว่าท่านพ่อของเขาเยอะ แต่ฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอก ฉันให้คนเอาช่อดอกไม้ไปประดับที่ห้องดนตรี อืม ท่านแม่ได้ขนมจากปารีสมาเมื่อไม่นาน ก็ส่งไปให้ท่านพี่คาบุรากิบ้าง เขาส่งดอกไม้มาให้ทั้งทีนี่นา
อ้อ ฉันมีความลับล่ะ
ถึงท่านพี่คาบุรากิจะขี้เก๊กไปหน่อย แต่นอกจากคนในครอบครัวแล้ว ฉันก็ชอบเขามากเหมือนกัน...
กูสุขนิยมมมมมมม 555
อ้าว มึงลงอยู่นี่หว่า กูแทรกรึเปล่าวะ
เออ กูใช้คำว่า ชั้นเตรียม คืออนุบาลอ่ะมึง ประมาณ 5 ขวบ กูไม่รู้จะใช้อะไรเพราะซุยรันเริ่มตอนประถมอ่ะ
อ่าห์ ดีงาม มีกาวให้เสพถึง2กระป๋องเชียวนะ
โอ๊ยพวกมึงกูขอแวะมากาวสักสองกระป๋อง อ่านถึงตอน 234 (ไม่สปอยนะ) แล้ว ดูๆไปตาคาบุรากินี่ก็เท่เหมือนกันนะ มันก็ดูมีเคมีกับเรย์กะเหมือนกัน แต่มือกูก็ยังกำกระป๋องกาวท่านเอ็นโจอยู่ สองใจมากตอนนี้ 555555
อยากอ่านฟิคคันตะเยียวยาใจบ้าง แปลไทยล่าสุดนี่คือเหมือนเรย์กะควรมีคันตะข้างกาย
ส่วนท่านอิมารินี่ก็เหมือนโฮสต์ที่จะล่อหลวงสู่ความล้มละลายเลยแฮะ
เริ่มอยากรู้ไซส์ของท่านเรย์กะนิดๆแฮะ แล้วแคลอรี่แต่ละอย่างนี่55555555
ตอนที่ 238 เอ็นโจพูดเกี่ยวกะหนังรัก นี่แอบแฝงอะไรไว้รึเปล่า ?
ว่า คาบุชอบหนังรักต้นตำหรับ ( คาบุ+วาคาบะ) มากกว่าเลิฟคอมเมดี้ (คาบุ+ท่านเรย์กะ)น่ะ
พวกมึง.. เอ็นโจอีกคนจะทำอะไรอะ กูกลัว แงงๆๆๆๆ ทำไมเอ็นโจอีกคนดูร้ายจังเลย เค้าพยายามทำอะไร อยู่ในโลกกระจกเหงาเหรอเลยหาเรื่องมาปั่นหัวคนอื่นเล่น
ฟิคหวานๆนี่มันเยียวยาจิตใจดีจริงๆ อ่านแล้วกูก็เขินประหนึ่งตัวเองเป็นเรย์กะ แอร๊ยย
ปกติกูไม่ใช่สายสุขนิยมนะ ค่อนข้างชอบ BE แต่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่กูชอบอ่านแบบสุขนิยมมากๆ แต่กูก็หยุดอ่านของ >>841 ไม่ได้ ฮือออ /ซื้อทิชชู่กล่องที่18
หลังจากอ่านตอนใหม่แล้วกูขอเสนอชื่อ ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับคดีเจ้าแม่คานทองจอมเฮี้ยน!!! (คดีที่ 18)
แปลตอนล่าสุดมาแล้ว
คาบุนี่ยิ่งมายิ่งน่ารักเว้ย ชอบความเป็นคนของวิทยาศาสตร์ของคาบุจัง ไอ้ที่รู้ขนาดนี้ไม่ใช่ว่าเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนแล้วไม่เชื่อ เลยไปหาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาจนแน่ใจอะไรแบบนั้นใช่ไหม
นึกภาพเด็กชายมาซายะทำอะไรแบบนั้นแล้วมาเล่าด้วยสีหน้าภาคภูมิใจตอนหาสาเหตุเจอให้เอ็นโจฟังออกเลย
แล้วเจ้าแม่ก็ได้เพื่อนมาอีกคน เก็บแต่พ้อยต์มิตรภาพนะเธอเนี่ย แบ่งไปเติมค่าความรักบ้างสิ
ขอบคุณโม่งแปล แต่ตอนนี้ช่างสั้นนัก รอตอนหน้า รับรองกระทู้พุ่งอีกแน่นอน //โบกธงเอ็นโจวไหวๆ
>>876 พุ่งนี่ พุ่งลงเหวรึเปล่าวะ ไม่เอาระบบทำลายตัวเองแล้วนะ ลูกเรือขี้เกียจลอยคอเกาะขอนไม้ 555555555
ตอนนี้ดูเป็นวิทยาศาสตร์จังวุ้ย ไขปริศนาผีๆด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ สรุปแล้วท่านฟุยุโกะก็โดนพวกนักต้มตุ๋นหลอกเพราะรวยสินะ ไม่รู้เอาเงินทองไปประเคนให้ลัทธิเท่าไหร่แล้ว ไม่ได้ท่านเรย์กะสงสัยหมดเนื้อหมดตัวแน่ๆ
เห็นเมนต์ที่แมวดุ้นว่าอารมณ์อ่านกระทู้ผีพันทิปแล้วมีชาวห้องหว้ากอโผล่มากลางเรื่องนี่ฮาชิบหาย คาบุมันประชากรห้องหว้ากอจริงๆ ว่ะ ส่วนท่านเรย์กะน่าจะประชากรห้องก้นครัว 555
>>881 เมนท์นั้นกูก็ลั่น เห็นภาพชิบหาย 555555555555555555555555555
อีแท็กเรื่องลึกลับในพันทิปมันไปอยู่ในห้องหว้ากออะดิ เวลามีคนมาเล่าอะไรทำนองนี้แม่งชอบไปโผล่ที่ห้องหว้ากออยู่เรื่อย ตบตีกับห้องศาสนาบ่อยมากจนหลายล็อกอินโดนห้องศาสนาสาปแช่ง
แต่ห้องหว้ากอเมื่อก่อนมีอีกชื่อเรียกกันเล่นๆว่าห้องหว้ากามนะมึ้งงงง 55555555555555555
>>882 แท็กเรื่องลึกลับนี่ยังติดอยู่กับห้องหว้ากออีกเหรอวะ เห็นแยกห้องโหราศาสตร์ดูดวงไปแล้ว ก็น่าจะยกไปทางโน้นเลยนะมึง เดี๋ยวนี้เห็นฮิตเล่าเรื่องผีๆ กัน คนตามอ่านเป็นพรวน แต่ห้องนิยายแท้ๆ รกร้างว่างเปล่า //บึนปาก ที่เป็นห้องหว้ากามก็ไม่น่าแปลกนะ เขาว่าเด็กเนิร์ดนี่หื่นกันไม่ใช่เหรอวะ 555555
จะว่าไป ถ้าเด็กซุยรันเล่นพันทิปกัน...
ท่านเรย์กะ : ก้นครัว ห้องงานฝีมือ
คาบุ : ห้องศุภฯ หว้่ากอ
ท่านฟุยุโกะ : ห้องโหราศาสตร์
พวกเซริกะ คิคุโนะ : ห้องสยามฯ โต๊ะเครื่องแป้ง Blueplanet ท่องเที่ยวต่างประเทศ
นายบ้าหมา : ห้องจตุจักร...
>>885 ยังอยู่ๆ อีห้องห่านี่เวลากระทู้มีสาระไม่ค่อยมีใครตอบเท่าไหร่ แต่กระทู้หื่นกามหรือกระทู้ไร้สาระตอบกันโครตไว มีช่วงนึงที่มีแต่กระทู้หื่นๆ หรือไม่ก็ตอบกันแบบออกทะเลไปไร้สาระ เป็นพี่น้องกับห้องสวนลุม ห้องนี้ก็หื่นไม่แพ้กัน แต่ห้องหว้ากอมันฮากว่าเพราะมันจับฉ่ายกว่า 55555555555
เอ็นโจมันน่าจะไปทุกห้อง ไม่แน่ว่างๆอาจจะแต่งนิยายลงพันทิปโดยอ้างว่าเป็นเรื่องจริง ดูคนมาดราม่าร้องไห้ฟูมฟายกับเรื่องที่เล่า ถถถถถถถถถ
ท่านเรย์กะอยู่ก้นครัวนี่นึกถึงคุณกินคนเดียว กับสไลเดอร์แมนเลย ไม่รู้ว่ากระทู้เจ้าแม่จะแนวไหนมากกว่ากัน
KY โม่งแปลอ่านQEDด้วยเหรอ!? เหมือนกุมีเพื่อนแล้ว(ถ้าอ่านนะ)5555555 เรื่องนี้สนุกนะพวกมึง อยากแนะนำ แต่ลายเส้นเก่าๆหน่อย
กุชอบเวลาคาบุแก้ปัญหาไสยศาสตร์อย่างใจเย็นอ่ะ แถมพอแก้แล้วก็ไม่คิดซ้ำเติมเรย์กะ ท่านฟุยุโกะว่า อย่าทำตัวงมงายนี้ บ้าบอ ไร้สาระ รู้สึกฮีมีความเป็นสุภาพบุรุษดี (แต่ไม่รวมที่จิกเรย?กะเรื่องงานถักนั่น5555)
แต่เอาจริงมันไม่ได้สุภาพบุรุษหรอกว่ะ ไม่ได้คิดอะไรมากกว่า555555454
อย่างน้อยๆคาบุรากิก็มีพัฒนาการ นึกถึงหัวอกคนอื่นบ้างแล้วล่ะครับ
ถ้าเป็นสมัยก่อนนี้คงลากท่านเรย์กะไปคุยทั้งๆที่ท่านเรย์กะยังทำธุระไม่เสร็จแล้ว คู่สนทนาท่านเรย์กะก็คงไม่กล้าขัด
นี่ยอมช่วยแก้ปัญหาที่ท่านเรย์กะยังติดพันอยู่ให้เสร็จก่อน แล้วถึงค่อยพาท่านเรย์กะไปคุย
อาจจะเพราะว่าเป็นฟุยุโกะด้วยรึเปล่านะ? แบบPivoine เหมือนกันต้องเกรงใจกันหน่อย?
เรื่องชื่อใหม่ ตอนนี้เห็นเสนออยู่แค่2ชื่อนะ
>>845 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสาวน้อยพลังจิตฟุยุโกะ นัมเบอร์18
>>873 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับคดีเจ้าแม่คานทองจอมเฮี้ยน!!! (คดีที่ 18)
ช่วยเสนออีก1ชื่อ "ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจักรพรรดิเจ้าหนูนักสืบ (ร้านอาหารที่ 18)"
ขอแสนออีก 1
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับของหวาน(หนักกาว)และ All around Q.E.D ที่ 18
ขอเสนอ ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับคลีลี้ลับที่อย่างนี้ต้องพิสูจน์!! (คดีสลายฝันครั้งที่ 18)
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือลำนั้นที่ระเบิดตัวเองได้!! (เกาะเศษไม้ลอยน้ำครั้งที่ 18)
เสนอมั่ง
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการไขปริศนาแห่งความรัก [คำถามที่ 18]
โดนใจหลายอัน เลือกไม่ถูกเลย
เสนอด้วยๆ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับไอเดียบรรเจิดเพ้อฝันของเจ้าแม่ [ขอปฏิเสธรอบที่ 18]
>>845 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสาวน้อยพลังจิตฟุยุโกะ นัมเบอร์18
>>873 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับคดีเจ้าแม่คานทองจอมเฮี้ยน!!! (คดีที่ 18)
>>903 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจักรพรรดิเจ้าหนูนักสืบ (ร้านอาหารที่ 18)
>>904 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับของหวาน(หนักกาว)และ All around Q.E.D ที่ 18
>>905 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับคลีลี้ลับที่อย่างนี้ต้องพิสูจน์!! (คดีสลายฝันครั้งที่ 18)
>>906 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือลำนั้นที่ระเบิดตัวเองได้!! (เกาะเศษไม้ลอยน้ำครั้งที่ 18)
>>907 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการไขปริศนาแห่งความรัก [คำถามที่ 18]
>>909 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับไอเดียบรรเจิดเพ้อฝันของเจ้าแม่ [ขอปฏิเสธรอบที่ 18]
ชอบ โหวต
โหวต 909
ถามไรหน่อยดิ ถ้าจะลงฟิคเป็น AU แนวสืบสวนสอบสวน จิตวิทยา ค้นหาความจริง แต่เนื้อหาค่อนข้างมืดหม่นกับจิตพอสมควร มีฉากรุนแรงทำร้ายจิตใจกันพอหอมปากหอมคอจะรับได้มั้ยวะ ไม่เน้นแพร์ริ่งมากแต่ตัวเอกคือเรย์กะและท่านพี่ เป็นฟิคที่กูบอกจะเขียนมาเซ่นท่านพี่น่ะ //ทำไมกูเขียนได้แต่อะไรพรรค์นี้วะ 5555555555555
โหวต 909 จ้า
โหวต 905 ด้วยคน
909ด้วยดรกว่า
กุชอบเกาะเศษไม้ลอยคอ โหวต
905 จ้ะ
โหวต906
วันนี้ว่างเลยไปลองหาหนังที่เอ็นโจชอบมานั่งดูมั่ง ไปๆมาๆติดเฉยเลยว่ะ สนุกดี 55555555555555555555555
905 อีกเสียง
905ค่ะ
https://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=medium&illust_id=64246158
ตอนแรกกูนึกว่าเอ็นโจ แต่ดูไปดูมาและดูดีๆ ท่านพี่นี่หว่า
>>951 ดูทั้งสามเรื่องเลยว่ะ แล้วก็นอนไม่หลับเพราะคิดเรื่องหนัง อีเอ็นโจ๊!!! รสนิยมมึงนี่.....
ทุกเรื่องคือคู่แข่งความรักพระเอกไม่ตายดีซักคน โดยเฉพาะเรื่องที่สาม พระเอกเป็นมาเฟียที่สถุลมาก นั่งๆกินข้าวอยู่ดีๆขยำนมเมียให้แขกดูเฉย.... ฉากเซ็กส์ระหว่างนางเอกกับชู้เร่าร้อนมาก แต่ฉากชู้รักนางเอกโดนกระทืบกับฉากแดกเนื้อศพก็โหดมาก 5555555
เรื่องที่สองคือ sex ทั้งเรื่อง แต่ไม่เห็นนม ไม่เห็นจุก แทบไม่มีฉากโป๊เปลือย ถึงเปลือยก็เอามือบังมั่ง เอามุมกล้องบังมั่ง แต่เห็นกิจกรรมเข้าจังหวะบ่อย (กูว่าตอนดู มึงต้องแอบจิ้นอะไรอยู่แน่ๆว่ะเอ็นโจ) กูว่ามันแรงเพราะเป็นเด็กจริงๆเล่นฉากอย่างว่าที่โจ๋งครึ่มขนาดนี้ ขนาดโลลิต้าที่เอาเด็กผู้หญิงมาเล่น ยังไม่แรงเท่าเรื่องนี้เลย อย่างน้อยก็ไม่มีฉากใช้ปากแบบเรื่องนี้ แค่แต่งตัวยั่วๆโชว์ลุงแก่ไปวันๆ
เรื่องแรก เสียงประกอบเข้ากับบรรยากาศดีมาก บิลด์อารมณ์น่ากลัว หลอนๆขึ้นมาเองแบบไม่ต้องพยายาม ขนลุกทุกครั้งที่เห็นอีดร.คาลิการี่กับอีซีซาร์เดินไปเดินมาในฉาก แต่กูงงตอนท้ายๆว่าตกลงพระเอกมันเป็นบ้าอยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่ต้นเรื่องที่ผ่านมาคือมโนล้วน หรือดร.ฆ่าแล้วโยนความผิดให้พระเอกโดยการจับยัดโรงบาลบ้ากันแน่ คิดไปคิดมาก็นอนไม่หลับ เลยเปิดบล็อควิจารณ์หนังเรื่องนี้อ่านเรื่อยๆ สัญลักษณ์ต้องตีความเยอะโครต
>>953 เรื่องที่สองกูเหวอตรงที่พระเอกมันขอมีอย่างว่ากับนางเอก นางก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง จับหัวพระเอกที่เป็นเด็กน้อยซุกจิมิ๊นางเลยจ้า กูอยากบอกนางว่านั่นเด็กนะเว้ย..... แถมพระเอกจับทั้งบนทั้งล่างเต็มไม้เต็มมือ แล้วต่อมานางก็ไปมีอย่างว่ากับพ่อพระเอก เป็นฉากอย่างว่าระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่เหมือนกัน แล้วก็มีหลายหนด้วย
ลืมบอกไปว่าถึงจะไม่เห็นนม แต่เห็นตูดเต็มๆ ทั้งชายทั้งหญิงเลยจ้า
แฟนคลับเอ็นโจขอโหวต 906
ว่าแต่ ปกติถ้ากุชอบหนังแบบนี้กุไม่กล้าบอกใครนะ เอ็นโจ. นายต้องการอะไรกันแน่เนี่ย
น่านสิ เจ๊แกรู้ได้ไงแว๊. ถ้าจะให้เนียนอย่างท่านเรยกะไม่ควรรู้จักนิ
>>958 ว่าเอ็นโจชอบดูแนวนี้ว่าพีคแล้ว แต่เรย์กะที่รู้จักหนังพวกนั้นด้วยนี่แหละพีคกว่า....
แต่อีตาเอ็นโจมันชอบแนวนี้ก็ไม่แปลกเพราะนิสัยฮีมันค่อนข้างจะยันเดเระไม่แสดงออก ถ้าเกิดกล้าลุยเข้าหาเรย์กะจริงจังขึ้นมา มีหวังที่สนิทๆด้วยคงจะหายไปทีละคนสองคนไม่ก็แว้บหายไปเลย... แต่เรย์กะที่รู้จักนี่เพราะชอบดูหนังอยู่แล้วเลยรู้ หรือว่ามีคนเปิดให้นางดู(ท่านพี่เปิด??)เนี่ย ฟฟฟ
>>955 ตัวหนังก็โดนหลายประเทศแบนน่ะ เพราะมีฉาก child porn
จริงๆมันเป็นหนังเสียดสีนาซี เสียดสีสงครามโลกครั้งที่สองนะ แต่เสนอออกมาในรูปแบบของ sex หนังที่เอ็นโจดูนี่แม่งมี sex กันแบบรุนแรงดิบเถื่อนโจ่งแจ้งไปสองเรื่องละ ไม่คิดจะเปลี่ยนไปดูอะไรโรแมนติคๆบ้างเรอะ 55555555
กุว่าเอ็นโจวแกล้งเล่นว่ะ. ไม่น่าชอบจริงหรอก
>>968 กูก็ว่าจงใจพูดนะ เพราะแต่ละเรื่องดูมีจุดร่วมคือผู้หญิงข้าใครอย่าแตะทั้งนั้น
ขอ KY หน่อย กูเพิ่งรู้ชื่อแบรนด์ guimauve ที่รุ่นพี่โทโมเอะเอาไปฝาก ดีใจจนร้อง ยูเรก้า!!! กันเลยทีเดียว 5555555555555555
ทีแรกกูนึกว่าเป็นแบรนด์ฝรั่งเศสหรือเบลเยี่ยมเข้าไปเปิดกิจการเว้ย แต่พอหาสินค้าในร้านดันไม่ตรงเงื่อนไข กูก็หารีวิวจากบล็อคคนั้นคนนี้ด้วยสกิลภาษาที่ต่ำเตี้ย แล้วก็ไปเจอคนรีวิว guimauve ยี่ห้อนี้พอดี รู้สึกดีที่ค้นพบอะไรบางอย่างได้ 55555555
ทำสารบัญอาหารมา กูหลอนเซมเบ้จิ้งจอกมาก เอาชื่อไปหา เหมือนมีลูกตาจ้องมองมาเต็มไปหมด แถมมีขนาดเท่าหน้ากากของจริงด้วยนะ เจอบล็อคนึงเอามารีวิว แดกให้ดูทีละส่วนแล้วเหลือส่วนที่เป็นดวงตาไว้ถ่ายรูป โครตหลอน กูไม่ชอบอะไรที่มันเป็นลูกกะตาจ้องได้แบบนี้เลย เหมือนแม่งมองตามเราตลอดเวลาอะ ทำไมเรย์กะถึงชมว่าน่ารักวะ.... ไม่เข้าใจรสนิยมจริงๆ
>>974 กูไม่ค่อยชอบอะไรที่มันเป็นลูกกะตาจ้องมาล่ะมั้ง เลยว่าหลอน
แต่อีเซมเบ้นี้ แมวก็ยังแดกได้อย่างสบายใจก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง 555555555555555555
http://imgur.com/Q6wyDzk
>>973 ตอนท่านเรย์กะชมว่าน่ารักกูนึกว่าจะเป็นจิ้งจองแบบมุ้งมิ้งๆ พอเห็นรูปแล้วกูก็อืม... แต่กูดูแล้วไม่หลอนนะ 55555
ที่จริงอันล่างๆที่ดูเวิร์กหน่อยก็มีอยู่นะ แต่เหมือนคนถ่ายรูปมาลงไม่เยอะเท่าแบบอันนี้แฮะ ไม่ฮิตเท่าหรอ อันที่ท่านเรย์กะบอกว่าน่ารักอาจจะเป็นแบบรูปล่างๆก็ได้นะ (ช่วยแก้ต่างให้แล้วนะคะท่านเรย์กะ)
>>973 กูก๊อปไปหาในกูเกิ้ลแล้วเจออันนี้ ไม่หลอนแต่ตลกดี กูชอบ 55555555
http://cdn-ak.f.st-hatena.com/images/fotolife/T/TEAM-L/20110429/20110429232008.jpg
เพื่อการเม้าอย่างต่อเนื่องในวันพรุ่งนี้ ก็ตั้งกระทู้ใหม่ซะ
เปิดวาร์ป >>>/webnovel/4218/
ท้ายตอนมีบอกสูตรน้ำจิ้มอีก ไว้จะไปลองนะโม่งแปล 55555555555
ไอไก่โง่นี่น่ารำคาญได้ใจจังวะ ตอนโผล่มาแรกๆยังเฉยๆหลังๆโผล่มาทีไรรู้สึกรำคาญไอ้นี่ชิบหาย
ตอนนี้โมเมนต์เอ็นโจดูมีอะไรขึ้นบ้าง จากที่คาบุรากิพูดมานี่แสดงว่าคงรู้อะไรอยู่บ้างแหละ(คงไม่พ้นเรื่องยุยโกะ) ฮีน่าจะเจออะไรหนักๆอยู่เหมือนกัน นอกจากมากันท่าเผื่อไว้แล้วยังเนียนมาหายาใจเพิ่มกำลังใจด้วยสินะเนี่ย โอ๋เอ๋ชูสุมอยผู้น่าสงสาร....
>>982 กูว่าที่ฮีโผล่มาตอนนี้ก็แสดงว่าที่สันนิษฐานกันไว้ตอนที่แล้วมีส่วนถูกนะ ประมาณว่าฟังคาบุเล่าทุกวันๆ ชักจะอยู่เฉยๆ ไม่ได้ต้องโผล่มาให้โดนด่า ที่ไม่ตามไปห้องสโมสรด้วยอาจจะเพราะรู้ตัวว่าถ้าไปแล้วจะโดนรังเกียจก็ได้ ต้องให้คาบุเป็นคนบังคับแล้วตัวเองขอติดสอยไปด้วย แต่ก็ยังโดนไก่โง่มาสกัดดาวรุ่ง ปล่อยให้เขาไปสร้างโมเมนต์กันสองคนอีก ถถถถถถถ
อีไก่โง่วววววววว มึ้ง มึงๆๆๆๆๆๆ มึงนะมึงงงงงง โผล่มาขัดจริงๆ แอบตามสตอล์กเอ็นโจอยู่แหงๆ แต่หายกันไปสองคนนานๆแบบนี้ไปทำอะไรวะนั่น "ปิดปาก" ไม่ให้ไปฟ้องยุยโกะเรอะ ส่วนท่านฟุยุโกะก็มีเรื่องเล่าหลายตำนานจัง แต่เรย์กะก็บ้าจี้ทำตามตั้งแต่มองออร่าแล้วนี่หว่า... กินน้ำตากทิ้งค้างคืนไว้ข้างนอกแบบนั้น ไม่ใช่ตอนหน้าท้องเสียอีกนะ
แต่วันนี้แวะฮาจิบังดีกว่าวุ้ย อยากกินราเม็งงงงงงงง
เออ แต่ไปยืนท่องมนต์ตรงระเบียงแบบนั้น ท่านพี่จะหลอนอีกมั้ยวะ หรือท่องแป๊บเดียว ไม่นานเท่าหัวเราะติดต่อกันเป็นชั่วโมงแบบคราวนั้น 5555555555
ไอ้การเป็นคนร่ำรวยความรักน่ะ อย่าหวังเลยค่ะท่านเรย์กะ มีท่านพ่อ ท่านพี่ก็เป็นปราการเหล็กกล้าแล้ว มีเหล่าสมุนเป็นปราการซีเมน มีคาบุและเอ็นโจยืนหน้าสลอนอยู่หน้าปราการเหล็กทำตัวเป็นผู้ท้าชิง แบบนี้ก็เตะผู้ชายออกไปหลายคนแล้วค่ะ!!
เริ่มอยากรู้ธุระของท่านเอ็นโจแล้วนะคะ ขอสาปแช่ง! ตาไก่โง่!!!
ท่านเรย์กะ ขอพรจากใครไม่ขอ ขออาร์เทมิสเนี่ยนะ อาร์เทมิสก็แห้งแล้งพอๆกับท่านเรย์กะเลยไม่ใช่เหรอคะ มีหนุ่มสนใจเยอะ แต่ก็เป็นไปแนวๆเพื่อนช่วยล่าสัตว์ แล้วก็ตั้งแกงค์สาวขึ้นคาน....เอ่อ สาวพรหมจรรย์มาเป็นลูกสมุนช่วยล่าสัตว์แบบเถื่อนๆ
บางตำนานก็บอกอาร์ทิมิสรักโอไรอ้อนจนจะผิดคำสาบานว่าจะครองพรหมจรรย์ อพอลโลผู้เป็นพี่ชายเลยมาสกัดดาวรุ่ง หลอกให้อาร์ทิมิสฆ่าโอไรอ้อนด้วยตัวเอง เป็นอันจบความรักครั้งแรกและครั้งเดียวของอาร์ทิมิสไป....
>>987 ไม่ครั้งแรกและครั้งเดียวดิ มีไปหลงรักเอนดิเมียนด้วยเหมือนกัน ซุสเลยยื่นข้อเสนอว่ามึงอยากหลับตลอดกาลหรืออยากตาย เอนดิเมียนเลือกหลับ อาร์เทมิสเลยทำได้แค่แอบไปหอมแก้มตอนนอนเท่านั้นเอง โถ ไม่น่าปากพล่อยสาบานว่าจะเป็นโสดตลอดกาลเลยอาร์เทมิส ดูอโพรไดท์สิ กินผู้ชายมานับไม่ถ้วนแล้วนะ
อาร์เทมิสกูจำได้ว่านอกจากจะแห้งเหี่ยวแล้ว เวลาเห็นใครมีรัก ได้ดีเกินหน้าเกินตานางในเรื่องความรัก นางก็ลงฑัณฑ์อย่างทารุนเลยนี่หว่า แต่ไม่เยอะเท่าพวกเฮร่าหรืออโฟรไดท์ มีไอ้หนุ่มคนนึงกำลังจะแต่งเมียเลยหมกมุ่นกับเรื่องนี้จนลืมถวายเครื่องเซ่นให้ นางก็สาปให้ห้องนอนไอ้หนุ่มคนนี้มีแต่งู อีกคนเป็นสาวสวยลูกกระจ๊อกในแก๊งค์ของนาง ซุสมาหลีโดยการปลอมตัวเป็นอาร์เทมิสมาคลอเคลีย(นี่มันยูริ) พออาร์เทมิสรู้ก็โกรธมากแต่ทำอะไรพ่อไม่ได้เลยยิงลูกกระจ๊อกคนนั้นตายคาที่ ขี้อิจฉาชิบหาย ตัวเองไม่มีก็อย่าไปสาปไปฆ่าเขาสิว้าาาา
โหยราเม็งมากตอนนี้ เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วไปซัดสักชามละกัน ฮืออออ หิววว
ราเม็งกับเกี๊ยวซ่ารวมกันกี่แคลวะ..
ชุดหน้าร้อนนะท่านเรย์กะ
ตอนนี้มีมองตามอย่างห่วงหา *ติดฟิลเตอร์* แต่คนที่หันมาดันเป็นอีไก่โง่ซะฉิบ ทำไมไม่รู้จังหวะเลยโว้ยยยย เอ็นโจ
แต่ตอนคุยกันว่าเดี๋ยวสาปนะ แล้วเอ็นโจยกมือกลัวแล้ว นึกภาพตามแล้วแม่งก๊าวใจจัง ฟกดดดก่าวว่สฟ มีหยอกล้อ
แต่ถ้าท่านเรย์กะไปยืนสาปข้างหมอนทุกคืน อาจจะฟินก็ได้นะท่านเอ็นโจจ
แต่คุณโดรี่นี่มันใครวะ เป็นพี่น้องกับคุณแมรี่เหรอ
อ่า ถึงฉันจะเกลียดแกนังไก่โง่
แต่รอบนี้ทำดีจริงๆ สมน้ำหน้าเอ็นโจววว อดไปเลย ฮ่าๆๆๆ
หมั่นไส้ เดเมจตอนที่แล้วยังไม่เคลียร์
ทำมาทำท่า ยิ้มๆสนุกสนาน แถมพูดจา ตอบทื่อๆบ้างล่ะ ยังกับท่องมาบ้างล่ะ
ตอนไก่โง่ว่า เรย์กะ ว่าร้ายกาจ ไม่คิด จะพูดอะไรหน่อยเหรอ
(จริงๆอันนี้ทั้งเอ็นโจและคาบุเลย) แต่รุ่นน้องเอ็นโจวเพราะงั้นเลยไม่พอใจตานี่มากกว่า
ไม่ได้สนิทรึเป็นเพื่อนมาพูดใส่ว่าร้ายกาจ เป็นเรื่องปกติเหรอวะ เพราะปกติถ้าตัวเองรึคนรอบตัวนี่คือ การหาเรื่องแล้วนะ
เรย์กะนี่ใจดีไม่คิดไรมากชิบเลย พอเห็นงี้
ดีละ ไม่ต้องไป สมหน้า!!! ไปไหนก็ไปไป๊!!
เห็นราเม็งแล้วหิว จัดแม่งมื้อเที่ยงเลยดีกว่า ไม่ต้องมื้อเย็นละ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.