“ท่านเอ็นโจ” พอฉันพูดออกไป เสียงหัวเราะนั่นที่เป็นเสียงของเอ็นโจไม่ผิดแน่
“ครับ” เอ็นโจรับคำเสียงระรื่น หนอย ให้ฉันเป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียวตั้งนาน
แล้วนี่เต้นแทงโก้เป็นด้วยเรอะ!! เฮอะ ความสามารถชักจะเยอะเกินไปแล้วนะยะ
“ไหนว่าจะไม่มายังไงล่ะคะ”
“นั่นยูกิโนะพูดเอง” เอ็นโจหัวเราะ “ผมไม่ได้บอกซักคำว่าจะไม่มา”
ก็จริงด้วยอะนะ เพราะนายนั่นล่ะที่ไม่ดี เอาแต่ยิ้ม ใครจะไปเดาออกยะว่าจะมาหรือไม่มา
เอ็นโจจับให้ฉันเอนตัวลงตามสเต็ปของแทงโก้ แต่ทำไมนายต้องก้มมาใกล้ๆขนาดนี้ด้วยยะ!? ถึงจะบอกว่าเป็นสเต็ปของแทงโก้เองก็เหอะ
อ้อมแขนนั้นกอดกระชับให้ร่างฉันแนบชิด รู้สึกถึงอุณหภูมิของฝ่ามือที่วางแนบอยู่กับแผ่นหลังของฉัน ที่จริงมันมีปีกนางฟ้าที่เป็นพร็อพสวมทับอยู่ไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไมมืออีตานี่ถึงมาสัมผัสกับหลังฉันโดยตรงได้ล่ะ!? ยูกิโนะคุงยังไม่จับถึงขนาดนี้เลยน้าาา!!!
อุแง้ ไม่น่าใส่ชุดเปิดหลังมาเลยค่ะ
แถมท่าปิดท้ายของแทงโก้ที่ฝ่ายหญิงต้องเอาขาเกี่ยวต้นขาคู่เต้น มันไม่อีโรติคเกินไปหน่อยเหรอคะ แต่ถ้าไม่ทำก็จะปิดสเต็ปไม่ได้ เพลงจะจบแล้วด้วยอ่ะ
ฉันตัดสินใจทำเพื่อให้มันจบๆไป ก็ไม่เลวร้ายอะไรนี่นา แถมได้รับเสียงปรบมือจากทุกคนดังสนั่นฟลอร์อีก ฉันเต้นใช้ได้ใช่มั้ย ไม่ทำขายหน้าต่อหน้าทุกคนใช่มั้ย
คราวหลังปรึกษาท่านพี่เรื่องจะหัดเรียนแทงโก้แบบจริงๆจังๆดีกว่า
พอผละตัวออก ฉันย่อเข่าลงเป็นการขอบคุณเอ็นโจ เตรียมจะถอนตัวออกจากฟลอร์เพื่อให้คู่อื่นก้าวมาเต้นบ้าง แต่เอ็นโจจับมือฉันไว้ ดึงให้เดินไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางที่ท่านไอระกับยูกิโนะคุงยืนอยู่
เอ๋!!!
เอ็นโจเปิดประตูทางออกอีกทาง พาลงบันไดเดินไกลออกมาจากงานเลี้ยง ตรงหน้าเป็นสวนที่เคยมาดูหิ่งห้อยตามที่มาดามคาบุรากิจัดขึ้น แต่ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูของหิ่งห้อย แถมไม่มีใครผ่านไปผ่านมา รอบข้างก็เลยมืดและเงียบสงัด บรรยากาศดูน่าสะพรึงกลัวเหมือนจะมีผีโผล่ออกมาจริงๆเลยล่ะ
“พอได้ออกมาข้างนอกก็ค่อยยังชั่วหน่อย ในงานคนเยอะจริงๆ” เอ็นโจพาฉันมานั่งที่ม้านั่งใกล้ๆกัน บริเวณนี้เป็นซุ้มดอกไม้ที่ปลูกไว้อย่างสวยงาม มีแสงจันทร์จากพระจันทร์เต็มดวงสาดส่องมาเพิ่มความโรแมนติคที่ฉันไม่ได้ต้องการซักกะนิด
“นะ...นั่นน่ะสิคะ”
“หน้ากากนี่ก็อึดอัดจัง คุณเรย์กะช่วยผมถอดหน่อยสิ” คำพูดสองแง่สองง่ามด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแบบนั้นมันอะไรกันห๊า!!!!
พอฉันถลึงตาใส่ เอ็นโจก็หัวเราะแล้วพยายามแกะออกเอง แต่ก็ดูทุลักทุเลจริงๆ เห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ ฉันเลยเอื้อมมือไปดึงพวกสายรั้งอะไรพวกนั้นให้ออกไปเป็นการช่วยอีกแรง
จะบอกว่าอึดอัดก็สมควรอยู่หรอกค่ะ หน้ากากใหญ่เทอะทะขนาดนี้ น้ำหนักเท่าไหร่ล่ะนั่น ไม่เมื่อยคอแย่เรอะ
พอหน้ากากหลุดออกไปก็เห็นเอ็นโจยิ้มกว้างทั้งที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง เฮอะ ยิ้มแบบนั้นมันไม่ได้ดูน่ารักขึ้นมาเลยซักนิด
“นึกยังไงถึงแต่งตัวแบบนี้กันล่ะคะ”
“ยูกิโนะ มาซายะ ไอระช่วยกันออกไอเดียน่ะ” เอ็นโจหัวเราะเบาๆ “ต้องนั่งเป็นหุ่นลองเสื้อให้สามคนนั้นตั้งนาน กว่าจะได้ที่ถูกใจที่ยากไม่ใช่เล่นเลยนะ”
“เอ๋!?” ไหนท่านไอระบอกว่าเอ็นโจงานยุ่งเลยไม่มายังไงล่ะ ไหงถึงไปเลือกชุดให้เอ็นโจใส่มางานด้วยได้ล่ะ
ไม่สิ ท่านไอระต้องถูกอีตาเจ้าเล่ห์เกลี้ยกล่อมให้โกหกแน่ๆ ส่วนคาบุรากิก็ร่วมมือกับเพื่อนมาหลอกฉัน หนอย เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะยะ
“คุณเรย์กะไม่ดีใจที่ผมมาเหรอ”
“แหม ก็…” ก็ตามนั้นล่ะค่ะ ใครจะไปดีใจยะ
“อื๋อ”
เอ๊ะ!! แล้วทำไมต้องเอาหน้ามาใกล้ๆกันขนาดนี้ด้วยล่ะคะ!!!
ฉันทำตัวไม่ถูกยิ่งกว่าตอนเห็นยูกิโนะคุงใส่หน้ากากผีหน้าเละๆในระยะประชิดตอนเต้นรำนี่อีกค่ะ