Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้​น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเทพเกศาบันดาลรัก โปรดรับบรรณาการนี้ไปด้วยเถิด!!! (บรรณาการจานที่ 16)

Last posted

Total of 1000 posts

623 Nameless Fanboi Posted ID:ZMNU/O/Xv

เอ็นโจ side story เขียนไม่ทัน อ่านไอ้นี่ฆ่าเวลากันไปก่อน
ฟิคเวียนในตำนาน >>>/webnovel/3805/790-793/
--------------------

เผลอกระพริบตานิดเดียววันเวลาก็ผ่านไปแล้ว วันงานมาถึงอย่างรวดเร็ว ชุดของฉันที่สั่งตัดขึ้นมาเพื่อไปร่วมงานเลี้ยงก็เสร็จทันเวลาพอดี เป็นชุดเดรสสีขาวแบบเรียบๆยาวกรุยกรายกรอมเท้า พอติดปีกสีขาวเข้าไปก็กลายเป็นนางฟ้าได้ไม่ยาก

ฉันกับท่านไอระกรี๊ดกร๊าดกันเรื่องชุดที่จะไปงาน ส่งรูปถ่ายตอนลองชุดมาเทียบกันจนได้ชุดที่เราสองคนพึงพอใจ ท่านไอระยุให้ฉันเลือกชุดโชว์แผ่นหลังเกือบถึงสะโพกดูแล้วเซ็กซี่ไม่เบา นางฟ้าใส่ชุดที่ดูวาบหวิวขนาดนี้จะดีเหรอคะ ท่านพี่อาจจะไม่ชอบใจก็ได้นะ

“ก็เดี๋ยวเอาปีกมาปิดก็มองไม่เห็นแล้วนี่นา” ท่านไอระหัวเราะคิกคัก “ไม่มีใครรู้หรอกว่าเรย์กะจังใส่ชุดเปิดหลังน่ะ”

ฉันเลยยุให้ท่านไอระเลือกชุดแม่มดมินิสเกิร์ตหนังสีดำรัดรูปบ้าง พอใส่รองเท้าบู๊ทหนังส้นเข็มด้วยแล้วก็ดูเหมือนสาวพังค์ร็อคเลยแฮะ แต่คนสวยจะใส่อะไรก็สวยไปหมดนั่นล่ะน้า

ท่านแม่เรียกช่างเข้ามาแต่งหน้าและทำผมให้ฉันตั้งแต่บ่าย หมายมั่นจะให้ฉันเป็นคุณหนูผู้เฉิดฉายที่สุดในงานเลี้ยง แต่แต่งหน้าไปยังไงก็มีหน้ากากปิดทับอยู่ครึ่งหน้าอะนะ จะนับว่าเป็นการลงทุนที่เสียเปล่ารึเปล่าคะ

ท่านพี่เองก็ไม่ไปงานนี้ตามความคาดหมาย แต่บอกไว้ว่างานเลิกแล้วจะมารับทั้งฉันและท่านไอระกลับ อุตส่าห์คิดว่าท่านพี่จะมาด้วย จะได้แต่งเป็นเทวดากับนางฟ้าคู่กันในงานแท้ๆ

สถานที่จัดงานไม่ใช่ที่ที่เคยจัดงานปาร์ตี้ซัมเมอร์ของ Pivoine แต่เป็นอีกที่ที่งดงามหรูหราไม่แพ้กัน จัดที่โรงแรมห้าดาวอีกแห่งในเครือคาบุรากิ และได้มาดามคาบุรากิลงมาควบคุมดูแลงานด้วยตัวเอง งานเลี้ยงก็เลยดูยิ่งใหญ่อลังการ หรูหรา และน่าสะพรึงกลัวสมกับเป็นงานเลี้ยงของภูตผีปีศาจในวันฮาโลวีนเลยล่ะค่ะ

ฉันนัดท่านไอระไว้ก็เลยยังอยู่หน้างาน มองดูทุกคนทยอยเข้างานเลี้ยง ก็มีคนแต่งเป็นนางฟ้าเดินผ่านหน้าไปหลายคนจนอดรู้สึกแป้กๆไม่ได้

อุตส่าห์คิดไว้ว่าจะเป็นนางฟ้าเพียงหนึ่งเดียวในงานแล้วแท้ๆ ดันมีคนคิดแบบฉันอีกตั้งเยอะ แต่นี่มันก็เรื่องพื้นๆที่ใครจะคิดได้นี่นะ

ไม่เป็นไรหรอก ชุดนี้น่ะ มีความลับซ่อนอยู่หนึ่งอย่าง ฉันมั่นใจว่าไม่ซ้ำใครในงานนี้อย่างแน่นอน

“เรย์กะจัง” เสียงท่านไอระทักขึ้นจากด้านหลัง หันไปก็เห็นแม่มดสาวถือไม้กวาดเป็นพร็อพประกอบสมกับเป็นวันฮาโลวีน “คอยนานรึเปล่าเอ่ย”

“ไม่เลยค่ะ ทางนี้ก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน”

“น่ารักมากเลยจ้า” ท่านไอระหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “แต่งเป็นนางฟ้าระวังโดนภูตผีแถวนี้ลักพาตัวไปนะจ๊ะ”

“แหม” ฉันหัวเราะคลอไปด้วย ท่านไอระก็คุ้มครองฉันสิค้า

“จริงๆก็ชวนชูสุเกะมาด้วยล่ะ แต่เห็นว่างานยุ่งเลยอาจจะไม่ได้มา”

พวกผู้ชายนี่บ้างานกันจริงๆเลยนะคะ

เราเดินเข้างานไปทักทายท่านโยโกะที่เป็นโต้โผในการจัดงานครั้งนี้ด้วยกัน รวมทั้งทักทายคนอื่นๆที่รู้จัก จากนั้นก็ออกมายืนจิบค็อกเทล มองดูผีทั้งหลายเดินไปมาให้ขวั่กไขว่ ทั้งมนุษย์หมาป่า แฟรงเก้นสไตน์ แดรกคิวล่า มนุษย์ล่องหน ผีโครงกระดูก บางคนก็แต่งเป็นตัวละครฮีโร่ยอดนิยมในหนังฮอลลิวู้ด แต่บางคนก็จัดเต็ม แต่งมาซะน่ากลัวเชียว

อย่างเช่นนายคนที่ใส่หน้ากากผีที่ลูกตาปลอมหลุดออกมาจากเบ้าตา มันจะสยองเกินไปแล้วนะ....

ฉันคิดในใจว่าจะไม่เข้าใกล้คนพวกนั้นเด็ดขาด

นายหน้ากากผีคนนั้นหันขวับมา แล้วก็เดินมาทางฉันกับท่านไอระอย่างรวดเร็ว อึ๋ย!! น่ากลัวชะมัด ท่านไอระ ปกป้องฉันด้วยนะคะ

“คุณพี่เรย์กะ” เสียงใต้หน้ากากนี่มัน….ยูกิโนะคุงงั้นเหรอ อะ..เอาจริงดิ

“ยูกิโนะคุง”

“ครับ ผมเองครับ” ยูกิโนะคุงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ถอดหมวกโจรสลัดและหน้ากากผีเละๆนั่นออก แล้วก็หันไปทักทายท่านไอระ

พอถามว่ายูกิโนะคุงรู้ได้ยังไงว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้ ก็บอกว่าผมม้วนๆของฉันมันเป็นเอกลักษณ์ เลยเดินมาทักดูแล้วก็ใช่จริงๆด้วย

แหม...ควรจะดีใจดีรึเปล่าคะเนี่ยที่ถูกจำได้จากทรงผม

624 Nameless Fanboi Posted ID:ZMNU/O/Xv

มาโอะจังกับยูริคุงก็วิ่งมาหาฉัน วันนี้มาโอะจังเป็นหนูน้อยหมวกแดง ส่วนยูริคุงเป็นหมาป่า พอฉันชมไปว่าเข้าคู่กันน่ารักมาก สองคนนี้ก็ยิ้มเอียงอายให้กันและกัน แหม จะน่าอิจฉาเกินไปแล้วนะคะ เจ้าคู่รักหวานแหววตรงนี้

คุยกันอยู่อีกพักหนึ่ง อัศวินในชุดเกราะและเคาน์เตสกระโปรงสุ่มแบบโบราณก็ควงคู่เดินมาหาที่พวกเรา น้ำเสียงสดใสใต้หน้ากากคาร์นิวัลนั่น วาคาบะจังสินะคะ ส่วนอัศวิน...ก็คาบุรากิ ชุดเกราะเป็นเหล็กแบบนี้ไม่ร้อนรึยังไง

ที่จริงก็เป็นงานเลี้ยงของ Pivoine แต่โรงแรมนี้ก็เป็นของตระกูลคาบุรากิ ให้ภรรยาเจ้าของมาร่วมงานด้วยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อีกอย่างในงานก็ใส่หน้ากากกันเกือบหมด แทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นใคร

ฉันกับท่านไอระทักทายคาบุรากิและวาคาบะจัง คุยสัพเพเหระกันอยู่ครู่หนึ่ง ก็เห็นท่านโยโกะขึ้นเวทีไปกล่าวประกาศเปิดงานเลี้ยง ไฟในงานค่อยๆหรี่ลงเรื่อยๆ พอมองเห็นได้สลัวๆ มีแต่แสงเทียนไขให้ความสว่างสมกับเป็นงานของเหล่าภูตผี

และความลับในชุดของฉันก็ได้เผยออกมาต่อสายตาคนอื่น

ชุดที่ควรจะกลืนหายไปในความมืดแบบคนอื่นๆ ก็ส่องแสงทอประกายระยิบระยับ เหมือนนางฟ้าได้ใช้เวทมนต์วิเศษเสกชุดนี้ออกมาให้ ถักทอเป็นเส้นใย พร่างพราวเหมือนดวงดาวที่อยู่บนฟ้ายามราตรี

ได้ยินเสียงฮือฮาจากคนรอบข้างด้วยล่ะค่ะ

“เหมือนเจ้าหญิงในนิทานเลยล่ะค่ะ” มาโอะจังทำตาเป็นประกายใส่ฉัน ท่านไอระกับวาคาบะจังก็ชมว่าสวย กรี๊ดกร๊าดใส่ฉันด้วยความตื่นเต้น

“เหมือนเอาดาวมาถักทอเป็นชุดเลยล่ะ”

แหม ไม่ต้องเยินยอกันขนาดนั้นก็ได้ค่ะ ตัวจะลอยอยู่แล้วนะคะ

มีคนเข้ามาทักทายอีกหลายคน เอ่ยชมชุดของฉันกันไม่ขาดปาก ท่านฟุยุโกะที่แต่งเป็นยูกิอนนะใส่หน้ากากหญิงสาวในละครโนและท่านซาราระที่แต่งตัวสไตล์โกธิคก็เข้ามาแจมด้วยเหมือนกัน

กำลังพูดคุยกับเหล่าภูตผีทั้งหลายภายใต้หน้ากากอย่างออกรส แวมไพร์หนุ่มก็ตรงเข้ามาที่พวกฉัน

“เรย์กะจัง” ท่านอิมารินี่เอง ฉันกับท่านไอระทักทายตอบไป “งดงามมากเลยล่ะ นางฟ้าผู้ลงมาจากสวรรค์เอ๋ย ขอให้คนบาปเช่นข้าได้มีโอกาสสัมผัสหยาดโลหิตของเจ้าในค่ำคืนนี้ได้หรือไม่”

“แหม” ฉันหัวเราะคลอไปกับบทจีบของท่านอิมาริ แวมไพร์จะลิ้มรสเลือดของนางฟ้างั้นหรือคะ ว้าย!! นี่มันเรื่องต้องห้ามรึเปล่าเอ่ย

ฉันแนะนำท่านอิมาริให้กับยูกิโนะคุง วาคาบะจัง ท่านฟุยุโกะและท่านซาราระได้รู้จัก ทุกคนต่างก็เป็นนักเรียนซุยรัน และท่านอิมาริก็เป็นคู่สนทนาที่ดี หาเรื่องมาคุยได้ไม่รู้เบื่อ กลุ่มพวกฉันก็เลยครึกครื้นมากขึ้นทุกขณะ นี่งานเลี้ยงรุ่นชัดๆเลยนี่คะ

แหม สนุกจังเลยค่ะที่ได้มางานนี้

วงออเครสตร้าเริ่มบรรเลงเพลงที่มีท่วงทำนองอ่อนหวาน คาบุรากิก็จูงมือวาคาบะจังไปกลางฟลอร์ เริ่มเต้นรำ สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังคู่เปิดฟลอร์ในค่ำคืนนี้

ให้คาบุรากิเต้นกับวาคาบะจังไปได้ครู่หนึ่ง ฉันก็รุนหลังมาโอะจังกับยูริคุงให้ลงไปแจม ยูริคุงดูอายๆนิดหน่อยแต่ก็กุมมือของมาโอะจังไว้อย่างอ่อนโยน

ท่านอิมาริถูกคุณหนูทั้งหลายรุมล้อมมาขอเป็นคู่เต้นรำ ท่าทางแวมไพร์หนุ่มจะมีภูตพรายสาวเสนอตัวให้ดื่มเลือดเยอะแยะแล้ว ฉัน ท่านไอระและยูกิโนะคุงเลยถอยฉากออกมายืนจิบเครื่องดื่มกันเงียบๆสามคน ดูหนุ่มๆสาวๆเข้าไปเต้นรำในฟลอร์

“คุณพี่เรย์กะอยากเต้นรำมั้ยฮะ” ยูกิโนะคุงเอียงคอมองฉัน

เอ่อ...ไอ้อยากน่ะมันก็อยากอยู่หรอกนะคะ แต่จะให้ฉันเต้นกับยูกิโนะคุงที่ใส่หน้ากากผีเละๆแบบนี้มันก็นะ…

มะ ไม่ได้สิ เราต้องมองทะลุผ่านหน้ากากเข้าไปเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาต่างหากล่ะ

“ถ้ายูกิโนะคุงไม่รังเกียจล่ะก็…” พอพูดคำนี้ออกไป ใต้หน้ากากนั่น ฉันคิดว่ายูกิโนะคุงต้องยิ้มกว้างมากแน่นอนเลยล่ะค่ะ

ยูกิโนะคุงจูงมือฉันลงไปในฟลอร์ โค้งให้ฉันตามธรรมเนียมแล้วเอื้อมมือมาเกาะกุมมือฉันไว้

1...2...3 1...2...3

ฉันนับสเต็ปการเต้นรำในใจ ยูกิโนะคุงเป็นผู้นำการเต้นได้ยอดเยี่ยม รู้สึกว่าจะเต้นเก่งขึ้นจากที่เคยเต้นด้วยกันสมัยก่อนเลยนะคะ

“คุณพี่เรย์กะไม่สนุกเหรอครับ ดูเหม่อๆจังเลย”

“เอ่อ เปล่าจ๊ะ เปล่า” ฉันรีบยิ้มให้เทวดาน้อย ยังไงก็ไม่กล้าบอกว่าฉันไม่อยากมองหน้ากากผีที่ยูกิโนะคุงใส่อยู่เลย มันน่ากลัวอ่า

ต้องรีบหาทางเบี่ยงเบนความสนใจซะแล้วสิ

“พี่แค่มองพระจันทร์น่ะ” ฉันแหงนหน้ามองเพดานโดมกระจกใสที่อยู่เบื้องบนฟลอร์เต้นรำ พยากรณ์อากาศว่าไว้ว่าวันนี้อากาศแจ่มใส มองเห็นพระจันทร์เต็มดวงได้ไม่ต้องกลัวเมฆฝน แต่ดูยังไงพระจันทร์ก็เอาแต่หลบอยู่หลังเมฆไม่เผยโฉมออกมาให้เห็นสักที บรรยากาศเลยดูน่ากลัวสมเป็นวันฮาโลวีนชะมัด

ยูกิโนะคุงแหงนคอมองตามฉันแล้วก็จ้องหน้ากันตรงๆ อึ๋ย ถอดหน้ากากออกทีเถอะค่ะ

625 Nameless Fanboi Posted ID:ZMNU/O/Xv

“คุณพี่เรย์กะรู้มั้ยว่าพระจันทร์ในยุโรปคือสัญลักษณ์ของความบ้าคลั่งน่ะครับ” ยูกิโนะคุงหัวเราะเสียงสดใส “คำว่า Lunatic ที่แปลว่าบ้าคลั่งวิกลจริตก็มาจาก Luna ที่แปลว่าพระจันทร์น่ะครับ”

“เอ๋” ฉันกระพริบตาปริบๆ ไม่เข้าใจว่ายูกิโนะคุงพูดถึงเรื่องนี้ทำไม “ยูกิโนะคุงรู้ดีจังเลยนะจ๊ะ”

“เกมที่เล่นมีบอกไว้น่ะครับ” ยูกิโนะคุงพาฉันเต้นไปรอบๆฟลอร์ “แสงจันทร์สามารถดึงเอาความบ้าคลั่งในจิตใจคนให้แสดงตัวตนออกมา”

“ยะ อย่างนั้นเหรอจ๊ะ”

“ไม่แน่ว่าคืนนี้ ด้วยอิทธิพลของแสงจันทร์ อาจจะมีอะไรบ้าๆเกิดขึ้นก็ได้นะครับ”

จะเป็นอะไรที่น่ากลัวรึเปล่าคะนั่น ถ้าเป็นเรื่องสยองขวัญนี่ไม่เอาด้วยหรอกนะคะ!!!!

เหลียวมองไปรอบๆ เห็นท่านไอระก็ลงมาเต้นรำกับเขาด้วยเหมือนกัน แต่คู่เต้นเป็นใครฉันก็ไม่ทราบเพราะมีหน้ากากหัวกระโหลกแพะปิดบังอยู่เกือบเต็มใบหน้า หมอนั่นใส่ชุดคลุมเหมือนพวกนักเวทย์โบราณๆ แล้วยังหน้ากากที่มีเขาโง้งนั่นอีก ลัทธิบูชาซาตานรึยังไงน่ะ

แหงนมองบนฟ้าอีกหน พระจันทร์เริ่มโผล่พ้นก้อนเมฆทีละน้อย และเราก็ได้จังหวะที่ต้องหมุนตัวพอดี ฉันผละมือออกจากยูกิโนะคุง หมุนไปตามสเต็ป และถูกดึงรั้งเข้าไปหาอ้อมแขนคู่เต้นตามรูปแบบการเต้นไม่มีจังหวะไหนผิดพลาด

แต่เอ๊ะ!!! ยูกิโนะคุงสูงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ

หมุนตัวกลับมายืนในท่าเริ่มต้น ก็พบว่าคู่เต้นของฉันเปลี่ยนไป จากยูกิโนะคุงกลายเป็นนายหน้ากากหัวกระโหลกแพะคู่เต้นของท่านไอระ กลายเป็นว่ายูกิโนะคุงได้ไปเต้นกับท่านไอระแทน และนายคู่เต้นใหม่ของฉันก็พาออกมาไกลจากสองคนนั้นเรื่อยๆ

ฉันมองคนตรงหน้าแบบงุนงงระคนสงสัย ได้เต้นกับสาวงามแบบท่านไอระก็ดีแล้วนี่ จะมาเต้นกับฉันที่ไม่รู้จักกันไปทำไมเนี่ย

นายหน้ากากหัวกระโหลกแพะเต้นรำเก่งเลยทีเดียว เขานำฉันไปได้พริ้วไหวไม่มีติดขัด แต่ก็โอบประคองฉันไว้อย่างทนุถนอมและนุ่มนวล แตะเบาๆแบบสุภาพตามมารยาทที่ดี

เหนือขึ้นไปยังโดมกระจก เมฆเลื่อนลอยหาย ได้เวลาเผยความงามของรัตติกาลออกมาด้วยแสงจันทร์กระจ่างฟ้า

แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาเบื้องล่างทำให้ความเป็นประกายระยิบระยับของชุดฉันหายไป เมื่อเจอแสงสว่าง ดวงดาวในชุดฉันก็ต้องหลบหาย

ก็เพ้อเจ้อไปอย่างนั้นเองล่ะค่ะ จริงๆแล้วชุดของฉันทำจากเส้นใยที่เรืองแสงได้ในที่มืด เวลาอยู่ในที่สว่างก็เหมือนเสื้อผ้าปกติทั่วไปนั่นล่ะ

ฉันเต้นรำเงียบๆกับคู่เต้นที่ไม่แม้จะเอ่ยคำพูดอะไรถึงฉันจะชวนคุยบ้าง พอได้มองตากันตรงๆก็ดูคุ้นเคยอย่างไรชอบกล

สายตาอ่อนโยนแบบนี้ ใครน่ะ??

เพลงเป็นจังหวะที่เร็วขึ้น ฟังดูเร้าใจมากยิ่งขึ้น เสียงไวโอลีนแหลมสูงคลอไปกับเปียโนและเชลโลให้ความรู้สึกเย้ายวน ปกติดนตรีที่เล่นในงานปาร์ตี้ซัมเมอร์มักจะเป็นเพลงหวานๆทำนองเบาๆ เหมาะแก่การเต้นวอลซ์ แต่เพราะเป็นงานฮาโลวีน โทนดนตรีที่เล่นเลยเปลี่ยนไปด้วยรึเปล่านะ

นายหน้ากากหัวกระโหลกแพะเริ่มก้าวเท้า ทำให้ฉันต้องก้าวตาม ท่าเต้นแบบนี้นี่มัน....แทงโก้นี่คะ

เหลียวมองไปรอบๆ คู่อื่นไปจากฟลอร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มีเพียงฉันกับนายคู่เต้นที่ไม่ทราบชื่อเต้นอยู่เพียงคู่เดียว หยั่งกับหนังเรื่อง Easy Virtue แน่ะ

อ้าว แบบนี้ก็เด่นมากเลยไม่ใช่เหรอคะ!!!

ทำไมพวกคุณๆถึงไม่ลงมาเต้นเป็นเพื่อนฉันล่ะค้า ให้ฉันเด่นคนเดียวเกิดก้าวพลาดต่อหน้าคนเยอะๆ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะ

ฉันไม่ค่อยสันทัดการเต้นแทงโก้นัก ที่เคยเรียนก็แค่ขั้นพื้นฐาน ไม่สามารถวาดลวดลายแบบที่เคยดูในหนังได้ แต่หมอนี่เต้นนำไปได้ลื่นไหลมาก ไม่มีสะดุดเลย แถมยังโอบประคองฉันพาเดินไปในทิศทางต่างๆได้คล่องแคล่ว เต้นเก่งชะมัดเลยแฮะ

หรือว่าจะเป็น…

626 Nameless Fanboi Posted ID:ZMNU/O/Xv

“ท่านเอ็นโจ” พอฉันพูดออกไป เสียงหัวเราะนั่นที่เป็นเสียงของเอ็นโจไม่ผิดแน่

“ครับ” เอ็นโจรับคำเสียงระรื่น หนอย ให้ฉันเป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียวตั้งนาน

แล้วนี่เต้นแทงโก้เป็นด้วยเรอะ!! เฮอะ ความสามารถชักจะเยอะเกินไปแล้วนะยะ

“ไหนว่าจะไม่มายังไงล่ะคะ”

“นั่นยูกิโนะพูดเอง” เอ็นโจหัวเราะ “ผมไม่ได้บอกซักคำว่าจะไม่มา”

ก็จริงด้วยอะนะ เพราะนายนั่นล่ะที่ไม่ดี เอาแต่ยิ้ม ใครจะไปเดาออกยะว่าจะมาหรือไม่มา

เอ็นโจจับให้ฉันเอนตัวลงตามสเต็ปของแทงโก้ แต่ทำไมนายต้องก้มมาใกล้ๆขนาดนี้ด้วยยะ!? ถึงจะบอกว่าเป็นสเต็ปของแทงโก้เองก็เหอะ

อ้อมแขนนั้นกอดกระชับให้ร่างฉันแนบชิด รู้สึกถึงอุณหภูมิของฝ่ามือที่วางแนบอยู่กับแผ่นหลังของฉัน ที่จริงมันมีปีกนางฟ้าที่เป็นพร็อพสวมทับอยู่ไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไมมืออีตานี่ถึงมาสัมผัสกับหลังฉันโดยตรงได้ล่ะ!? ยูกิโนะคุงยังไม่จับถึงขนาดนี้เลยน้าาา!!!

อุแง้ ไม่น่าใส่ชุดเปิดหลังมาเลยค่ะ

แถมท่าปิดท้ายของแทงโก้ที่ฝ่ายหญิงต้องเอาขาเกี่ยวต้นขาคู่เต้น มันไม่อีโรติคเกินไปหน่อยเหรอคะ แต่ถ้าไม่ทำก็จะปิดสเต็ปไม่ได้ เพลงจะจบแล้วด้วยอ่ะ

ฉันตัดสินใจทำเพื่อให้มันจบๆไป ก็ไม่เลวร้ายอะไรนี่นา แถมได้รับเสียงปรบมือจากทุกคนดังสนั่นฟลอร์อีก ฉันเต้นใช้ได้ใช่มั้ย ไม่ทำขายหน้าต่อหน้าทุกคนใช่มั้ย

คราวหลังปรึกษาท่านพี่เรื่องจะหัดเรียนแทงโก้แบบจริงๆจังๆดีกว่า

พอผละตัวออก ฉันย่อเข่าลงเป็นการขอบคุณเอ็นโจ เตรียมจะถอนตัวออกจากฟลอร์เพื่อให้คู่อื่นก้าวมาเต้นบ้าง แต่เอ็นโจจับมือฉันไว้ ดึงให้เดินไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางที่ท่านไอระกับยูกิโนะคุงยืนอยู่

เอ๋!!!

เอ็นโจเปิดประตูทางออกอีกทาง พาลงบันไดเดินไกลออกมาจากงานเลี้ยง ตรงหน้าเป็นสวนที่เคยมาดูหิ่งห้อยตามที่มาดามคาบุรากิจัดขึ้น แต่ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูของหิ่งห้อย แถมไม่มีใครผ่านไปผ่านมา รอบข้างก็เลยมืดและเงียบสงัด บรรยากาศดูน่าสะพรึงกลัวเหมือนจะมีผีโผล่ออกมาจริงๆเลยล่ะ

“พอได้ออกมาข้างนอกก็ค่อยยังชั่วหน่อย ในงานคนเยอะจริงๆ” เอ็นโจพาฉันมานั่งที่ม้านั่งใกล้ๆกัน บริเวณนี้เป็นซุ้มดอกไม้ที่ปลูกไว้อย่างสวยงาม มีแสงจันทร์จากพระจันทร์เต็มดวงสาดส่องมาเพิ่มความโรแมนติคที่ฉันไม่ได้ต้องการซักกะนิด

“นะ...นั่นน่ะสิคะ”

“หน้ากากนี่ก็อึดอัดจัง คุณเรย์กะช่วยผมถอดหน่อยสิ” คำพูดสองแง่สองง่ามด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแบบนั้นมันอะไรกันห๊า!!!!

พอฉันถลึงตาใส่ เอ็นโจก็หัวเราะแล้วพยายามแกะออกเอง แต่ก็ดูทุลักทุเลจริงๆ เห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ ฉันเลยเอื้อมมือไปดึงพวกสายรั้งอะไรพวกนั้นให้ออกไปเป็นการช่วยอีกแรง

จะบอกว่าอึดอัดก็สมควรอยู่หรอกค่ะ หน้ากากใหญ่เทอะทะขนาดนี้ น้ำหนักเท่าไหร่ล่ะนั่น ไม่เมื่อยคอแย่เรอะ

พอหน้ากากหลุดออกไปก็เห็นเอ็นโจยิ้มกว้างทั้งที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง เฮอะ ยิ้มแบบนั้นมันไม่ได้ดูน่ารักขึ้นมาเลยซักนิด

“นึกยังไงถึงแต่งตัวแบบนี้กันล่ะคะ”

“ยูกิโนะ มาซายะ ไอระช่วยกันออกไอเดียน่ะ” เอ็นโจหัวเราะเบาๆ “ต้องนั่งเป็นหุ่นลองเสื้อให้สามคนนั้นตั้งนาน กว่าจะได้ที่ถูกใจที่ยากไม่ใช่เล่นเลยนะ”

“เอ๋!?” ไหนท่านไอระบอกว่าเอ็นโจงานยุ่งเลยไม่มายังไงล่ะ ไหงถึงไปเลือกชุดให้เอ็นโจใส่มางานด้วยได้ล่ะ

ไม่สิ ท่านไอระต้องถูกอีตาเจ้าเล่ห์เกลี้ยกล่อมให้โกหกแน่ๆ ส่วนคาบุรากิก็ร่วมมือกับเพื่อนมาหลอกฉัน หนอย เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะยะ

“คุณเรย์กะไม่ดีใจที่ผมมาเหรอ”

“แหม ก็…” ก็ตามนั้นล่ะค่ะ ใครจะไปดีใจยะ

“อื๋อ”

เอ๊ะ!! แล้วทำไมต้องเอาหน้ามาใกล้ๆกันขนาดนี้ด้วยล่ะคะ!!!

ฉันทำตัวไม่ถูกยิ่งกว่าตอนเห็นยูกิโนะคุงใส่หน้ากากผีหน้าเละๆในระยะประชิดตอนเต้นรำนี่อีกค่ะ

627 Nameless Fanboi Posted ID:ZMNU/O/Xv

“กะ ใกล้เกินไปแล้วนะคะ”

“ก็นานๆทีจะมีโอกาสได้เห็นนางฟ้านี่นา” เอ็นโจยิ้มกริ่ม “ก็อยากมองใกล้ๆไม่เห็นจะแปลกตรงไหน”

อุแว้กกกกกกก

อันตราย คนจากหมู่บ้านคาสโนว่าอันตรายเหลือเกินค่ะ แง้ ท่านพี่ขา ช่วยน้องด้วย

“พอมองแล้วก็อยากสัมผัส”

ปลายนิ้วเอ็นโจไล้ไปตามใบหน้าฉัน สายตาดูวิบวับไม่น่าไว้วางใจอย่างรุนแรง สัมผัสแผ่วเบานั่นก็พาให้รู้สึกแปลกๆ ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยเดินผ่านมาตรงนี้ที มาช่วยฉันจากปีศาจนี่ที

เพราะคืนนี้เป็นงานของภูตผี พระเจ้าเลยเมินคำขอของฉันงั้นเหรอคะ

ฉันยกมือขึ้นกันเอ็นโจออกไปอย่างเงอะงะ แต่นึกไม่ถึงว่าหมอนี่จะรวบข้อมือฉันไว้ทั้งสองข้าง กดจูบเบาๆแล้วเอามือฉันไปแนบแก้มตัวเอง ฉันจะดึงมือตัวเองออกก็ดันถูกจับไว้ไม่ปล่อยอีก บ้าเอ้ย!! หัวใจฉันจะมากระตุกอะไรตอนนี้เล่า!!!

“ทะ ท่านเอ็นโจ อย่าล้อกันเล่นแบบนี้สิคะ”

“อื๋อ คุณเรย์กะคิดว่าล้อเล่นเหรอ”

เอ็นโจมองตอนจูบฝ่ามือฉันอีกแล้ว สายตาแบบนั้นมันอะไรกันค้า!!!

“คุณเรย์กะรู้มั้ย จูบที่ฝ่ามือน่ะแปลว่าอะไร”

ไม่รู้ค่ะ ไม่ต้องการรู้ด้วยค่ะ

“แปลว่าผมกำลังอ้อนวอนคุณ”

อ้อนวอน อ้อนวอนอะไรกันค้า

เหมือนถูกอ่านใจได้ เพราะเอ็นโจหัวเราะ ค่อยๆก้มมาใกล้ๆหูฉัน กระซิบเสียงแผ่วเบาทั้งที่ไม่จำเป็นต้องกระซิบก็ได้

“ถ้าจะอ้อนวอนขอจูบ คุณเรย์กะจะยอมรึเปล่าล่ะครับ”

ความร้อนทุกส่วนในร่างกายฉันเหมือนมันไหลมารวมกันบนใบหน้า ฉันได้แต่อ้าปากพะงาบๆเพราะนึกคำพูดไม่ออก หน้าร้อนผ่าวๆเหมือนจะระเบิดออกมาได้อยู่แล้ว

พูดอะไรออกมาน่ะค้า!!!!! หน้าไม่อาย หน้าไม่อายที่สุดเลยค่า

“ว่ายังไงล่ะครับ” เอ็นโจไล้นิ้วโป้งไปตามริมฝีปากฉันเบาๆ “ที่เงียบไปนี่แปลว่าตกลงใช่มั้ยเอ่ย”

“ไม่ตกลงค่ะ” ฉันรีบถอยกรูดไปข้างหลัง เอามือตะครุบปากตัวเอง อย่ามาทึกทักคำพูดเอาเองนะยะ

“ไม่ได้จริงๆเหรอ” เอ็นโจยิ้ม อุ อย่ามาใช้รอยยิ้มเทวดาแบบยูกิโนะคุงนะ

“ไม่ได้ค่ะ”

“นะ”

อ๊ากกก!!!!! ทำไมหมอนี่ถึงหน้าไม่อายได้ขนาดนี้ล่ะค้าา!!!!!!!! บอกว่าไม่ได้ก็ยังจะตื๊ออีกแน่ะ แง้

-----------------------------
ส่งต่อว่ะ 5555555555555555555555555555
จะได้จูบหรือไม่ ก็ต้องแล้วแต่ความเมตตาของคนที่มาต่อด้วย

ปล.ใครอยากเห็นชุดเรืองแสงที่ว่า พิมพ์ claire danes met gala โลด กูจิ้นไว้แบบชุดนั้นนั่นล่ะ
ปล.อีก ฉากเต้นแทงโก้ในหนังเรื่อง Easy Virtue ที่ว่าคือฉากนี้
https://www.youtube.com/watch?v=4iaTVCCR45w

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.