วาคาบะจังมองฉันด้วยสีหน้าเขิน ๆ ก่อนจะพยักหน้าโดยดี
“ขอบคุณมากนะคะคุณคิโชวอิน”
ฉันหัวเราะ “ฝั่งฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ ถ้าไม่ได้คุณทาคามิจิช่วยขึ้นมาจากสระน้ำต้องหนาวตายแน่ ๆ”
คุยกันอีกได้นิดหน่อย พวกเราก็หันหลังชนกันแล้วต่างคนต่างเข้านอน พอทุกอย่างเงียบลง ฉันก็รู้สึกกลัวขึ้นมา หิวก็หิว หนาวก็หนาว หวังว่าพรุ่งนี้ท่านพี่คงส่งคนมาตามหาพวกเรานะ
ดูเหมือนว่าเพราะท้องหิว ฉันก็เลยรู้สึกฟุ้งซ่าน นึกไปถึงหนังที่ดูตอนเด็ก ๆ อา...ถ้าโชคร้ายไม่มีใครมาเจอจะทำยังไง แล้วไม่รู้ว่าคนอื่น ๆ จะเป็นยังไงบ้าง พอนึกแล้วฉันก็รู้สึกตกใจ หวังว่าท่านพี่จะไม่ได้โดนพายุหิมะพัดจนกลิ้งตกเขาหลุน ๆ เหมือนฉันกับวาคาบะจังหรอกนะ!
พอนึกว่าท่านพี่อาจจะตายได้ฉันก็น้ำตารื้น ดูเหมือนเสียงสูดจมูกของฉันจะปลุกวาคาบะจังให้ตื่น วาคาบะจังขยับแล้วหันหน้ามาหาฉัน แล้วพูดอย่างเป็นกังวล
“คุณคิโชวอิน เจ็บตรงไหนรึเปล่าคะ?”
ฉันรีบหยุดหายใจกลั้นสะอื้น ก่อนส่ายหน้า วาคาบะจังเงียบไปซักพัก แล้วก็ขยับเข้ามาโอบฉันไว้จากด้านหลัง
“น่าจะมีแค่พวกเราเท่านั้นแหล่ะค่ะที่ตกลงมาเพราะอยู่ใกล้เนินมากที่สุด พรุ่งนี้เช้าคนอื่น ๆ ต้องออกตามหาแน่ โดยเฉพาะพี่ชายของคุณคิโชวอิน”
แม้จะรู้ว่าเป็นคำปลอบใจเฉย ๆ แต่ฉันก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา มิตรภาพของเพื่อนผู้หญิงนี่ดีจังเลยนะ ดีจริง ๆ ที่ได้เป็นเพื่อนกับวาคาบะจัง
“ตัวของคุณคิโชวอินอุ่นมากเลย ขอกอดอย่างงี้อีกซักพักนะคะ”
ลมหายใจอุ่น ๆ จั๊กจี๋ของวาคาบะจังเป่ารดไหล่ของฉัน ฉันพยักหน้าแล้วเบียดเข้าไปหาวาคาบะจัง แม้จะคลุมไว้ด้วยเสื้อกันหนาว แต่เสื้อของฉันก็ใหญ่แค่เพียงห่มท่อนบนของพวกเราเท่านั้น ส่วนท่อนล่างเหมือนจะกลายเป็นน้ำแข็ง แต่พอวาคาบะจังเกี่ยวขาของตัวเองเข้ามาก็รู้สึกอุ่นขึ้น มือที่กุมมือที่เย็นเฉียบของฉันไว้ทำให้รู้สึกสบาย เพราะงั้นฉันก็เลยหลับไปทั้งอย่างนั้น
.................
เสียงก๊อกแก๊กทำให้ฉันตื่นขึ้นมา ตัวรู้สึกเมื่อยล้า คอก็เมื่อยไปหมด แถมยังหนาวจนแทบจะแข็ง ฉันเลยกอดร่างอุ่น ๆ ข้างใต้เอาไว้ พอแสงสว่างแสบตาส่องเข้ามา ฉันก็หยีตาซักพัก
“เรย์กะ?!”
เสียงของท่านพี่ทำให้ฉันหายง่วงโดยฉับพลัน ฉันลุกขึ้นมาจากที่นอน “ท่านพี่!” แต่พอจะลุกวิ่งไปหาท่านพี่เบื้องนอก ประตูก็ปิดดังโครม แล้วท่านพี่ก็หายไปจากสายตา ทำเอาฉันช๊อกสนิท
“คุณคิโชวอิน แต่งตัวซักหน่อยจะดีกว่านะคะ” เสียงของวาคาบะจังดังขึ้น พอก้มลงไปก็พบว่าฉันนั่งอยู่บนเอวของวาคาบะจังที่ใส่แต่ชุดชั้นใน ส่วนสภาพตัวเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย เพราะเสื้อกันหิมะที่ห่มไว้เลื่อนลงไปอยู่ที่เท้า ดังนั้นฉันเลยมีแค่เสื้อเชิ้ตที่กระดุมไม่ได้ติดเลยซักเม็ดที่หลุดรุ่ยจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน กับกางเกงในลูกไม้เท่านั้น
อุกรี๊ดดด!!
ฉันรีบกระโดดออกจากตัววาคาบะจัง ยกมือจับสาปเสื้อ ทั้ง ๆ ที่น่าจะเป็นฉากแสนประทับใจของท่านพี่กับฉันแท้ ๆ แต่ท่านพี่กลับพบกับฉันในสภาพอุจาดจนทนมองไม่ได้ โฮ ๆ แต่วาคาบะจังแย่กว่าฉันอีก เพราะโดนพี่ชายเพื่อนเห็นตอนอยู่ในชุดชั้นใน
ฉันรีบลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้า วาคาบะจังก็ทำเหมือนกัน เพราะในบ้านร้างไม่มีกระจก ดังนั้นพอแต่งตัวเสร็จ ฉันเลยหันไปให้วาคาบะจังช่วยดู มือก็กำผมไว้แน่นเพราะกลัวผมกระเซิงจนเหมือนผีต่อหน้าท่านพี่
วาคาบะจังบอกให้ฉันหันหลังแล้วถักเปียหลวม ๆ ก่อนจะใช้หนังยางที่คล้องข้อมือผูกให้ “ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ยังดีกว่าออกไปข้างนอกในสภาพแบบนั้นนะคะ”
ฉันพยักหน้าแล้วขอบคุณอย่างซาบซึ้ง อนาถใจที่หัวตัวเองกระเซิงระดับที่วาคาบะจังยังต้องทำผมให้ พอฉันแต่งตัวเสร็จก็เช็คความเรียบร้อยกว่าวาคาบะจัง ใช้นิ้วมือช่วยสางผมที่กระดกจนสุดความสามารถแล้ว พวกเราก็ออกไปด้านนอก