ว่าด้วยพล๊อตคลาสสิคในโชวโจมังกะ (เวอร์ชั่นกระท่องร้างในพายุหิมะ)
“คุณคิโชวอิน ถอดเถอะค่ะ”
ท่ามกลางเตาผิงที่ส่องสว่างแผ่ความอบอุ่นออกมาท่ามกลางความหนาวเย็นที่แทบจะทำให้เลือดจับตัวแข็งเป็นก้อน วาคาบะจังยืนตัวเปล่าเหลือแค่ชุดชั้นในมองฉันด้วยสีหน้าจริงจัง
“ม...ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่ห...หนาวเท่าไหร่”
ถึงแม้จะพูดแบบนั้น แต่ฟันก็กระทบกันกึก ๆ ไม่หยุด ฉันกอดเสื้อผ้าเปียกปอนที่ติดตัวเอาไว้ ส่ายหน้าดิก
สถานการณ์ในตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่เคาะออกมาจากการ์ตูนโชวโจสมัยตอนฉันยังเด็ก แบบที่พระเอกกับนางเอกมีอันที่ต้องหลงทางท่ามกลางพายุหิมะ แล้วเข้าไปหลบในกระท่อมร้าง จากนั้นทั้งสองคนก็เปลือยกายนอนกอดเพื่อแบ่งปันความอบอุ่น
“ถ้าไม่ถอดมีหวังได้ปอดบวมแน่เลยค่ะ คุณคิโชวอิน” วาคาบะจังทำหน้าจริงจังยิ่งขึ้นไปอีก “พวกเราเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ไม่เห็นต้องอายเลยค่ะ”
อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่เคยเปลือยกายต่อหน้าคนอื่นหรอกนะ ในชาติก่อนตอนไปบ่อน้ำพุร้อนหรือโรงอาบน้ำรวมก็เปลือยกายได้สบาย ๆ ในชาตินี้ถึงจะไม่เคยแช่บ่อน้ำพุร้อนแบบรวม แต่เวลาไปนวดตัวในคอร์สเอสเต้ก็ใส่แค่กางเกงในกระดาษตัวเดียวเหมือนกัน
แต่สถานการณ์แบบนั้น กับสถานการณ์ตอนนี้มันไม่เหมือนกันนี่!
ต่อหน้าวาคาบะจังที่ดูหน้าตาน่ารักแบบเรียบ ๆ แต่อันที่จริงพอถอดเสื้อผ้าก็หุ่นดีกว่าที่คิด ดูแขนเรียวยาวที่มีกล้ามนิด ๆ นั่น! ต้นขาก็เหมือนกับนักกีฬา เป็นเพราะปั่นจักรยานแล้วก็ทำงานพิเศษสินะ! หน้าท้องก็แบนราบเรียบไม่มีไขมันส่วนเกินเลยซักนิด ผิดกับฉันที่พอเข้าฤดูหนาวก็สะสมไขมันไปทั่วตัวเหมือนหมีจำศีล จะให้ถอดเสื้อผ้าต่อหน้าวาคาบะจังผู้มีหุ่นเหมือนสาวน้อยนักกีฬานี่เป็นการกระทืบอีโก้ตัวเองชัด ๆ
วาคาบะจังทำหน้ากลุ้มใจ ก่อนจะตรงเข้ามาแล้วจับบ่าฉันไว้ “ขอเสียมารยาทนะคะคุณคิโชวอิน” ก่อนจะพยายามแกะกระดุมฉัน ปล้ำกันไปปล้ำกันมาอยู่หลายนาที จนกระทั่งฉันตะโกนว่ายอมถอดชุดเองแล้วนั่นแหล่ะ วาคาบะจังถึงยอมถอยออกไป
ทั้ง ๆ ที่เป็นบ้านที่ไว้หลบพายุหิมะ แต่กลับมีเพียงฟืนและไฟแช็ก ไม่มีผ้าห่มหรือเสื้อผ้าแห้งสะอาดเลยแม้แต่ชุดเดียว ดังนั้นหลังจากที่ฉันถอดเสื้อผ้าจนกระทั่งไม่เหลือแม้กระทั่งกางเกงในติดตัว ก็นั่งกอดเข่าอยู่หน้าเตาผิงข้าง ๆ วาคาบะจัง
เรื่องของเรื่องมันเริ่มมาจากการที่คาบุรากิบอกว่าที่บ้านได้ตั๋วเครื่องบินฟรีมาหลายใบ เลยชวนวาคาบะจังไปเล่นสกีที่แคนนาดา วาคาบะจังคงคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว จะให้ไปต่างประเทศกับคาบุรากิแล้วก็เอ็นโจที่เป็นผู้ชายก็คงกระไรอยู่เลยปฏิเสธไป คาบุรากิเลยมากดดันฉันให้ไปด้วย พอวาคาบะจังรู้ว่าฉันไปด้วยเลยยอมตกลงในที่สุด
พอฉันไปขออนุญาตที่บ้าน ท่านพ่อกับท่านแม่ก็กระดี๊กระด๊าไฟเขียวเต็มที่ ส่วนท่านพี่ที่ยังไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวพอได้ยินก็บอกว่าจะขอไปด้วย เลยชวนท่านอิมาริไปด้วยกัน และเหมือนว่าท่านอิมาริจะชวนท่านยูริเอะกับท่านไอระไปด้วย ดังนั้นพวกเราเลยยกขโยงมายังแคนนาดา
ในระหว่างที่กำลังเล่นสกี จู่ ๆ ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นเหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง ฉันพลัดหลงมากับวาคาบะจัง แถมยังตกลงไปในบ่อน้ำอีกต่างหาก ยังดีที่ได้วาคาบะจังที่มีสกิลในการเอาตัวรอดเดินถอยไปยังน้ำแข็งส่วนที่หนา แล้วใช้ผ้าพันคอลากฉันขึ้นมาได้ แต่กว่าพวกเราจะขึ้นมาได้ก็เปียกปอนไม่เหลือชิ้นดี
โทรศัพท์ของฉันหล่นหายไปในบ่อน้ำ ส่วนโทรศัพท์ของวาคาบะจังไม่มีสัญญาณเลยแม้แต่นิดเดียว พวกเราเลยพยายามคลำทางกลับอย่างทุลักทุเล และในที่สุดก็ตัดสินใจว่าพวกเราควรจะหลบในกระท่อมที่พบดีกว่า เพราะถึงเดินต่อไปมีหวังหนาวตายอยู่ท่ามกลางพายุหิมะ
เพราะฉันตกน้ำชุดที่ใส่มาเลยเปียกจนถึงชั้นใน ส่วนเสื้อโค๊ต สเวตเตอร์ กับกางเกงของวาคาบะจังที่ช่วยฉันก็ชุ่มจนน้ำแข็งเกาะเหมือนกัน ดังนั้นวาคาบะจังเลยบอกว่าระหว่างที่รอให้เสื้อผ้าแห้ง เธอจะสละเสื้อให้ฉันใส่
ปัญหาใหญ่นอกจากการเปลือยกายแล้วคือ เสื้อผ้าส่วนที่แห้งของวาคาบะจังมีแค่ชุดชั้นในกับเสื้อเชิ้ตเท่านั้น ถ้าเป็นเสื้อยืดฉันที่อวบกว่าวาคาบะจังก็ยังพอใส่ได้ แต่พอเป็นเสื้อเชิ้ตก็เห็นได้ถึงความแตกต่างของขนาดร่างกายสุด ๆ ทั้ง ๆ ที่เป็นเสื้อแบบใส่สบาย ๆ แต่พอมาอยู่บนตัวฉันก็แคบถึงขนาดติดได้แค่กระดุมที่เอวส่วนได้เพียงเม็ดเดียว พอเห็นฉันทำหน้าสลดเศร้า วาคาบะจังก็ปลอบใหญ่ บอกว่าเพราะฉันรูปร่างเหมือนผู้หญิงมากกว่า พอใส่เสื้อทอมบอยของตัวเองเลยติดกระดุมที่หน้าอกไม่ได้
ขอบคุณนะวาคาบะจัง ที่ไม่พูดออกมาตรง ๆ ว่าที่พุงก็ติดกระดุมไม่ได้ด้วยเหมือนกัน ถ้าเป็นยัยริรินะป่านนี้คงบ่นว่าฉันอ้วนอืด แล้วตบพุงแปะ ๆ แหง